บทที่3.หน้าที่ใหม่ที่ทำให้ใจแกว่ง
ฟรองซัวร์เดินหน้าตึงออกมาจากห้องสมุด บัตเลอร์วัยชราเดินผ่านเข้ามาในสายตาพอดี ชายหนุ่มจึงเรียกไว้ พร้อมกับสั่งงานบาง เมื่อความปรารถนาตี้ขึ้นมาจนจุกอก
เขาต้องการปลดปล่อยความร้อนในกายที่กำลังแผดเผาตนเองจนปวดร้าวไปตลอดทั้งหน้าขา
“ตามเมรีให้ฉันหน่อย ฉันจะขึ้นไปรอบนห้อง” ฟรองซัวร์เดินขึ้นไปรอบนห้องนอน บัตเลอร์วัยชราถอนใจดังเฮือก!! เขามองตามเจ้านายหนุ่มด้วยความหนักใจ หนุ่มวัยฉกรรจ์กับสาวไร้เดียงสา เหมือนน้ำมันกับไฟที่พร้อมจะลุกไหม้โดยไม่สนใจผลลัพธ์
บัตเลอร์ผู้เฒ่ารีบไปทำหน้าที่ของตัวเอง ทั้งที่กำลังหนักใจ กับอนาคตของผู้เป็นเจ้านาย เขาใคร่ครวยอย่างหนักในที่สุดบัตเลอร์ผู้ภักดีก็ตัดสินใจขัดคำสั่งเจ้านายหนุ่ม เขาเดินขึ้นไปชั้นบน โดยไร้เงาของเมรีอย่างที่ฟรองซัวร์ต้องการ
ก็อกๆ
เสียงเคาะประตูดังแผ่วๆ ฟรองซัวร์ที่กำลังรอกระเด้งตัวลุกขึ้นยืน แต่...เมื่อบัตเลอร์วัยชราเปิดประตูเข้า ชายหนุ่มตาลุกวาบ!! สีหน้าเดือดดาลแบบเห็นได้ชัด ชายสูงวัยก้มหน้าหลบเขาถอนใจแรงๆ ตอนที่ตัดสินใจพูดเตือนสติเจ้านาย
“กระผมคิดว่ามันไม่สมควร ที่นายท่านจะพาใครขึ้นมานอนบนนี้ นายท่านควรจะพาคนที่นายท่านต้องการ ไปยังที่ๆ นายท่านเคยใช้ประจำกระผมไม่อยากให้มีคำครหาเกิดขึ้นที่นี่ มันอาจทำให้เสื่อมเสียถึงมาร์เซย์ขอรับ”
ฟรองซัวร์นิ่งอึ้ง เมื่อฉุกคิดตามคำพูดบัตเลอร์คนสนิท เขายกมือขึ้นลูบหน้า ก่อนจะถอนใจเสียงดัง อารมณ์แรงโลดหดหายไป แต่ก็ยังมีความต้องการในตัวเมรีเหมือนเดิม กลิ่นหอมอ่อนๆ ของเธอยังติดอยู่ที่ปลายจมูก กับความหวานฉ่ำของริมฝีปากอิ่ม ทำให้ฟรองซัวร์ฮึดฮัดอยู่เป็นนานกว่าจะสงบใจลงได้
“ออกไปเถอะ ฉันอยากอยู่คนเดียว” ฟรองซัวร์ตัดบทเสียงแผ่วๆ เขาอยากอยู่ตามลำพังเพื่อสงบสติอารมณ์ บัตเลอร์วัยชราผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอก เขาหมุนตัวเดินออกไปจากห้องนอน ปล่อยให้เจ้านายคิดทบทวนในสิ่งที่กำลังตั้งใจทำเสียใหม่
“ฉันจะรอก่อนก็ได้ เมื่อถึงเวลาของฉัน เธอจะไม่มีทางดิ้นหนีทางไหน” ฟรองซัวร์กระซิบบอกตัวเองเสียงแผ่วๆ ในสิ่งที่ตัวเองตั้งใจ
เช้าวันใหม่...
“ใครอยู่ข้างนอกตามบัตเลอร์ของฉันมาให้หน่อยสิ” ฟรองซัวร์เปิดประตูห้อง สั่งความบางอย่าง ก่อนจะผลุบกลับเข้าไปเหมือนเดิม
ในเมื่อทุกคนกีดกันเขากับเมรีดีนัก ย้ำเหลือเกินกับความไม่สมควร
วันนี้เมรีเป็นแค่คนอาศัย เธอติดหนี้บุญคุณคนมาร์เซย์ หากเขาจะไหว้วานหล่อน ทำงานบางอย่างก็คงไม่น่าเกลีดนัก
บัตเลอร์ผู้เฒ่าเดินเข้ามาในห้องนอนของเจ้านายหนุ่มด้วยความนอบน้อม สองมือกุมอยู่ด้านหน้ารอรับคำสั่งฟรองซัวร์ด้วยความสงบ
“ให้เมรีเป็นคนทำความสะอาดห้องนอนฉันนะ ห้ามคนอื่นเข้ามายุ่มย่ามในห้องฉัน ยกเว้นเมรี” ฟรองซัวร์สั่ง เขากดยิ้มมุมปาก จ้องหน้าบัตเลอร์ส่วนตัวด้วยแววตาดำมืด ชายชราถอนใจแรงๆ เขาอ่อนใจกับความดื้อดึงของประมุขหนุ่ม เรื่องมันจะไปกันใหญ่หากเจ้านายยังไม่หยุดข้องแวะกับหญิงสาวผู้นั้น
“คือ…” เขาพยายามจะท้วง
แต่ดูเหมือนฟรองซัวร์จะไม่ฟัง ชายหนุ่มเจ้าของห้องนอนถลึงตาใส่
“อย่าห้ามฉันเลย ฉันรู้ตัวดีน่ะว่ากำลังทำอะไรอยู่ ไม่ต้องเป็นห่วงนักหรอก”
“กระผมจะจัดให้อย่างที่นายท่านต้องการครับ” บัตเลอร์วัยชรารับคำ ก่อนจะถอยหลังออกไปจากห้อง เพื่อไปจัดการสิ่งที่ฟรองซัวร์ต้องการ
“ดี...นั่นคือสิ่งที่ฉันต้องการที่สุด”
“ครับ...”
“อย่าให้นานนักล่ะ ก็น่าจะรู้นะว่าฉันเป็นคนใจร้อน อย่าให้ฉันต้องลงมือเอง ไม่อย่างนั้นมันอาจจะเกินเลยไปกว่าที่ทุกคิดเอาไว้” ฟรองซัวร์ยิ้มหยัน ทุกการเคลื่อนไหวของเขามีหลายคนกำลังจับตามอง...แต่คนอย่างฟรองซัวร์หรือจะแคร์
“ครับ” บัตเลอร์ผู้เฒ่าถอยหลังออกไป รู้สึกหนักอึ้งไปทั้งบ่า
ฟรองซัวร์ปล่อยใจไปกับความคิดเลอะเลือน เขาคิดถึงความเย้ายวนของหญิงต้องห้ามผู้นั้น ใครต่อใครพยายามเหลือเกินที่จะขัดขวาง มันกลับเป็นสิ่งยั่วยุที่ทำให้เขาอยากจะกระโจนใส่เมรีให้เร็วที่สุด ชายหนุ่มคิดหาวิธีเพื่อจะได้ครอบครองเมรีเร็วๆ ไม่สนใจว่ามันจะกระทบกับใครบ้าง และไม่สนใจผลลัพธ์ที่จะตามมาด้วย
บัตเลอร์ผู้เฒ่าถอนหายใจเฮือกๆ เหตุการณ์มันชักจะไปกันใหญ่ เมื่อฟรองซัวร์หลุดความควบคุมตัวเองครั้งแรก เขาจนไม่สนใจคนรอบตัวเลย แม้แต่มารดาตัวเอง ความสุขุมหายไป กลายเป็นหนุ่มใจร้อนขึ้นมาแทน
“เด็กคนนั้นไปเรียนหรือยัง ใครก็ไปตามเมรีให้ฉันหน่อยสิ ฉันจะรอที่ห้องโถง” ชายชราไหว้วานสาวใช้คนหนึ่งที่โผล่หน้ามาให้
บัตเลอร์วัยชราทรุดนั่งบนเก้าอี้เหล็กที่สวนหย่อมด้านข้าง วัยที่มากขึ้นทำให้เขามองทุกอย่างได้ลึกซึ้งมากหว่า จึงแอบหวั่นใจแทนประมุขของบ้านมาร์เซย์ไม่ได้ แต่ละคนที่หยิ่งในศักดิ์ศรี และเกียรติของตัวเองยิ่งนัก ความใกล้ชิดอาจจะนำพาความผูกพันมาอย่างไม่รู้ตัว บวกกับความจงรักภักดีของเมรี เขาเกรงว่าเจ้านายจะหวั่นไหว จนไม่สามารถสลัดเมรีทิ้งได้อย่างที่ใจคิด ยามที่เขาหมดความต้องการหล่อนแล้ว
เมรีทำความเคารพบัตเลอร์ผู้เฒ่าอย่างนอบน้อม เธอแต่งชุดนักศึกษากำลังจะออกไปเรียนตามเวลาปกติ เธอรีบเดินมาพบบัตเลอร์ผู้เฒ่าเสียก่อน ชายสูงวัยมองเมรีอย่างพิจารณา หญิงตรงหน้าไร้เดียงสาและกำลังเบ่งบาน ผิวพรรณสะอาดสะอ้าน จึงไม่แปลกใจนักถ้าฟรองซัวร์จะนึกปรารถนาหล่อน
“เมรี”
“คะ คุณบัตเลอร์ให้คนไปตามเมรี มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ?”
“ฉันอยากให้เธอเป็นคนดูแลห้องนอนของนายท่านน่ะ”
เมรีอยากจะท้วง แต่เธอหรือจะกล้า “มันจะดีเหรอคะ?”
“เป็นคำสั่งของนายท่าน มาดามคงไม่ว่าอะไร” คนพูดเองยังรู้สึกหนักใจ
“ได้ค่ะ” เมรีรับคำ แม้อยากจะปฏิเสธมากกว่า
“กลับจากเรียนก็เข้าไปทำความสะอาดห้องให้คุณท่านเสียหน่อย นายท่านเป็นคนระเบียบจัด ห้องไม่ค่อยสกปรกเหมือนห้องคนอื่นหรอก ห้ามโยกย้ายสิ่งของในห้องโดยพลการ นายท่านหาไม่เจอจะโดนเอ็ดเอาได้”
“ค่ะ เมรีไปแล้วนะคะเดี๋ยวจะสาย” เมรีบอกลาเพื่อไปเรียน เธอแอบหวั่นใจเล็กๆ เธอกลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบครั้งก่อน เธอรีบสลัดหน้าไล่ความคิดฟุ้งซ่าน เหตุการณ์อบบนั้นคงไม่มีทางเกิดขึ้นอีก ครั้งนั้นน่าจะเป็นเพราะความเวทนาของชายหนุ่ม เขาเลยเผลอตัวเพราะความสงสาร
มันก็เลยเถิดไปจากที่ตั้งใจไว้แค่นั้นเอง หนุ่มหล่อเจ้าเสน่ห์แบบ ฟรองซัวร์ หรือจะมาสนใจเด็กสาวแบบเธอ นางแบบในคอลเลกชันเขาสวยกว่าเธอนับสิบเท่า ไหนจะสาวสวยชั้นสูง ที่ร่ำรวยสูงส่งจนไม่ต้องมาเสียเวลากับผู้หญิงด้อยค่าอย่างตนเอง
บ่ายคล้อยณ. คฤหาสน์มาร์เซย์...
ฟรองซัวร์กลับจากที่ทำงานก่อนเวลา เขาอยากมีเวลาส่วนตัวกับเมรี โดยที่ไม่มีใครขัดขวาง จึงแอบกลับมา และย่งเงียบกลับห้องพัก ช่วงบ่ายของทุกวัน คนงานส่วนใหญ่จะพักผ่อนอยู่ด้านหลังคฤหาสน์ เหลือแค่เบียและสาวใช้สองสามคนที่ต้องคอยดูแลมารดาของเขา
เมรีกำลังตั้งใจทำงาน เธอรีบกลับมาคฤหาสน์มาร์เซย์เพื่อทำหน้าที่ที่รับปากไว้ เธอขะมักเขม้นเก็บผ้าห่มบนที่นอน ลากลงมาสะบัดแรงๆ เพื่อนไล่ฝุ่น และพับเก็บจนเรียบร้อย ตบหมอนจนนุ่มฟู ก่อนจัดเรียงให้เป็นระเบียบ ออกแรงดึงชายผ้าปูที่นอนจนตึง เธอถอยหลังออกมาชื่นชมฝีมือตัวเอง
“เธอเก่งเหมือนกันนะเมรี แต่ห้องคุณฟรองซัวร์นี่สวยจนน่าตกใจ เหมือนห้องเจ้าชายในฝันเลย” เมรีหมุนตัวมองไปรอบๆ ห้องด้วยแววตาชื่นชม เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นล้วนแต่มีราคาแพงจนคนจนแบบเมรีไม่กล้าแตะ ผ้าผืนน้อยในมือเช็ดไปตามหลังโต๊ะ ตู้ จนสะอาดเอี่ยม ก่อนจะฉวยถังน้ำเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ เพื่อทำความสะอาดเป็นที่สุดท้าย
ห้องน้ำเย็นเฉียบกว้างกว่าห้องนอนของเธอเสียอีก อุปกรณ์ใช้งานถูกจัดเก็บเป็นระเบียบ เมรีเปิดน้ำใส่ถัง เริ่มต้นทำงานอย่างตั้งใจ เธอเพลินขนาดไม่ได้ยินเสียงเปิดประตูห้อง โดยคนที่เมรีแอบคิดถึง ฟรองซัวร์ถอดเสื้อสูทออกจากตัว แขวนไว้ที่หน้าตู้ตามความเคยชิน เขาเดินไปรอบๆ ห้องเพื่อมองหาคนที่ทำให้ใจตนเองไม่สงบ เตียงนอนตึงเปลี๊ยะ คงมีใครสักทำความสะอาดแล้ว เขาถอนใจอย่างเสียดาย และทรุดนั่งบนโซฟาปลายเตียง
เสียงกุกกักในห้องน้ำกับเสียงเปิดน้ำดังแววเข้ามาในรูหู ฟรองซัวร์กระตุกยิ้มด้วยความพอใจ เมรีคงกำลังทำความสะอาดห้องน้ำอยู่ เขานึกอะไรสนุกๆ ขึ้นมาได้ จึงลุกขึ้นยืน ถอดเสื้อผ้าตัวเองจนเหลือแค่ชุดชั้นใน หยิบชุดคลุมอาบน้ำมาสวมไว้ ผูกเอวไว้หลวม ๆ ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำกว้างหน้าตาเฉย
เมรีเห็นปลายรองเท้าที่ใช้เดินภายในบ้านอยู่ตรงหน้า เธอไล่สายตาขึ้นมอง ดวงตาเบิกกว้างเมื่อเห็นฟรองซัวร์ยืนอยู่กลางบานประตู เขาอยู่ในชุดคลุมเพื่ออาบน้ำ หญิงสาวเผลอกลืนน้ำลายลงคอฝืดๆ รอยแยกของสาบเสื้อ ทำให้เธอเห็นบางอย่าง ผิวขาวผ่องของคนเมืองหนาวโผล่พ้นผิวผ้า แต่แผงอกหนาหนั่นอุดมไปด้วยกล้ามเนื้อ เธอลดสายตามองตามรอยแยกของสาบเสื้อ และพยายามหยุดอยู่แค่ลอหน้าท้องของเขาแค่นั้น
ฟรองซัวร์ยืนเฉย เขาปล่อยให้หญิงตรงหน้าชื่นชมรูปกายของตนเอง ชายหนุ่มแสร้งกระแอมดังๆ จนเมรีสะดุ้ง หล่อนเสหลบตาเขาเป็นพัลวัน
“ผสมน้ำให้หน่อยสิฉันจะอาบน้ำ เหนียวตัวเหลือเกิน” ฟรองซัวร์เปรยเสียงนิ่ง ทั้งที่ร่างกายร้อนเหมือนถูกเปลวไฟแผดเผา เขาโน้มตัวลงใกล้ๆ เมรี หญิงสาวผงะหลบด้วยความตกใจ ทันได้ยินเสียงหัวเราะแผ่วๆ จากคนตรงหน้า เมรีรีบทำตามที่เขาสั่ง บรรยากาศรอบตัวเริ่มร้อนระอุขึ้น
บทที่4.กลิ่นหอมที่ติดอยู่ที่ปลายจมูก กลิ่นสบู่ระเหยขึ้นมาจนหอมฟุ้ง เมรีเดินเลี่ยงชายร่างใหญ่ที่ยืนกอดขวางทางออกของเธอ แววตาเขาแปลกๆ จนเธอแอบผวา เมรีกำลังจะเดินผ่านเขา แต่ต้องชะงักเพราะฟรองซัวร์รั้งแขนเธอไว้ “ถูหลังให้หน่อยฉันเอื้อมไม่ถึง” เมรีกะพริบเปลือกตาปริบๆ เธอขัดคำสั่งคนตรงหน้าได้ด้วยหรือไง เธอพยักรับ แม้จะรู้สึกอึดอัด ชายหนุ่มสลัดชุดคลุมอย่างรวดเร็ว เขาหย่อนกายลงนั่งในอ่างน้ำอุ่นท่ามกลางสายตาตื่นตะลึงของสาวตัวเล็ก ผิวขาวเรียบลื่นเปียกน้ำเป็นมันวาว เมรีมือสั่นฟองน้ำนุ่มๆ ในมือหนักอึ้ง เธอพยายามไม่มองผิวกายตึงแน่นตอนที่ลากฟองน้ำไปทั่วแผ่นหลังของเขา กลิ่นหอมอ่อนๆ ของเมรีโชยมาเข้าจมูก ฟรองซัวร์หลับตาพลิ้ม เขามีความสุขแทบล้นอก เมรีทำงานด้วยความตั้งใจ ปลายจมูกของเธอมีเม็ดเหงื่อเกาะพราว พราะความรุ่มร้อนในกาย บวกกับไอระเหยของน้ำอุ่นในอ่างใบใหญ่ ฟรองซัวร์ชำเลืองมองเมรีด้วยหางตา เขาถอนใจแรงๆ นึกเซ็งในใจ กายใหญ่โตขยายใหญ่มันทะลึงตื่นทั้งที่ยังไม่ถึงเวลา จนฟรองซัวร์นึกโกรธตัวเอง เขากำลังทำร้ายตัวเองชัดๆ เมรีผู้ไม่รู้เรื่องรู้ราว เธอตั้งใจถูผิวกายขาวผ
บทนำรักต้องห้ามที่ไม่อาจเกิดขึ้นได้ แม้ไม่ได้ครองแต่จะขอภักดีตลอดกาลฟรองซัวร์ ลูฟว์ มาร์เซย์มหาเศรษฐีหนุ่มเจ้าของเสื้อผ้าแบรนด์ ‘มาร์เซย์’ หนุ่มหล่อฟีโรโมนล้นเหลือ เป็นผู้กุมอำนาจสูงสุดของมาร์เซย์ เขามีดวงตาสีมรกต ดูลึกลับและน่าค้นหา ทายาทเพียงคนเดียวของ มาร์เซย์ผู้หยิ่งยโส โสดสนิทไร้คู่ ทำตัวเป็นเพลย์บอยควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า ทรัพย์สมบัติติดตัวมามหาศาลจนผู้หญิงไม่กลัวที่จะกลายเป็นแมลงเม่าล้อเล่นกับไฟ ได้เป็นแค่คู่นอนชั่วคราวก็หาได้แคร์ เมื่อผลตอบแทนที่รับมากมายเหลือเชื่อ ไม่ว่าจะชื่อเสียงหรือเงินตราเมรี ประภาเกียรติกุล เด็กสาวจากดินแดนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เธอกับมารดาไปเผชิญโชคในต่างแดน ตกอยู่ใต้อุ้งมือจอมมารเพราะคำว่า ‘ตอบแทนพระคุณ’ ฟรองซัวร์มอบตำแหน่งที่ เมรีไม่อยากยอมรับเลยซักนิดให้ แต่ก็จนใจเมื่อบุญคุณค้ำคอ ‘เมียเก็บ’ คือหน้าที่ที่ชายหนุ่มยัดเหยียดให้ เมรีหลงอยู่ในวังวนเสน่หา เธอหลงอยู่กับภาพลวงตามานาน จนวันหนึ่งที่รู้ตัวว่าหลงใหลไปกับสิ่งจอมปลอม หัวใจก็แทบแหลกสลายบทที่1.เมรี ประภาเกียรติกุล ท่ามกลางอากาศหนาวเย็นของประเทศฝรั่งเศส เมรี เดินเหม่ออยู่บริเวณด้านหน้าหอไอเ
“เช็ดซะ ฉันไม่ชอบน้ำตาผู้หญิง เธออยู่ที่นี่ต่อจนกว่าจะเรียนจบก็ได้ ฉันจะออกค่าใช้จ่ายที่เหลือให้เอง ถือว่าตอบแทนซาร่า ที่คอยดูแลฉันอย่างดีมาตลอด” เมรีเงยหน้ามองชายสูงศักดิ์ตรงหน้าด้วยความซาบซึ้ง ชื่นชม“ขอบคุณค่ะ ขอบคุณมากๆ ค่ะ” เมรียกมือไหว้ปรกๆ เอ่ยขอบคุณเสียงพร่า ยกผ้าเช็ดหน้าหอมอ่อนๆ เช็ดคราบน้ำตาบนใบหน้าอย่างยินดี เธอฝืนยิ้มให้เจ้านายของแม่ ทั้งที่ริมฝีปากอิ่มยังสั่นระริกเพราะกลั้นเสียงสะอื้นไว้ มันเป็นน้ำตาแห่งความยินดี ยังมีคนใจดีเมตตาตนเอง“ฉันหมดธุระกับเธอแล้วล่ะ เธอกลับไปเถอะ ไว้เธอเรียนจบเมื่อไหร่เราค่อยมาคุยกันถึงเรื่องนี้อีกที” ฟรองซัวร์อนุญาตให้เมรีกลับไปพัก เขาหลุบเปลือกตาลงปิดบังประกายตาร้อนแรงเมรีทรงตัวลุกขึ้นยืน เธอไม่ได้ตัวเล็กอย่างที่เขาคิด คงเป็นชาติกำเนิดและเชื้อพันธุ์ชีวิต เธอเลยดูตัวเล็กบอบบาง เมื่อเทียบกับผู้หญิงในฝั่งยุโรป เรือนกายอรชรทูกใจฟรองซัวร์ เขาแอบสูดกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่รวยรินออกมาจากคนตรงหน้า เมื่อเมรีขยับตัวเบาๆ เขาชอบกลิ่นแบบนี้มากกว่ากลิ่นน้ำหอมชั้นนำที่มีเกลื่อนเมือง และสาวๆ นิยมใช้เมรีเดินออกไปจากห้อง ฟรองซัวร์มองตามเขาถอนใจแรงๆ แปลกใจนิดๆ กับควา
บทที่2.คำสัญญา เมรีเดินเข้าไปในห้องสมุดด้วยกริยาสำรวม โซเฟียจิบน้ำชาระหว่างรอ “นั่งสิ ฉันมีเรื่องที่ต้องตกลงกับเธอ” โซเฟียกล่าวเสียงเคร่ง เมรี จึงทรุดนั่งบนพื้น เธอก้มหน้าลงเพื่อหลบสายตาดุดันของโซเฟีย “เธอมีคู่รักหรือยัง?” โซเฟียถามใจความสำคัญที่นางต้องการรู้ เมรีเงยหน้ามองสบตาโซเฟีย “เมรีไม่มีคู่รักค่ะ” ภาพฟรองซัวร์ผุดขึ้นมาในใจผิวแก้มร้อนวูบ ก่อนจะสลดลง เมื่อตระหนักถึงความเป็นจริง เธอทำได้แค่แอบมองฟรองซัวร์อยู่ห่างๆ มันเป็นความเพ้อฝันที่ไม่มีทางเป็นจริง “ลูกชายฉันเป็นหนุ่มเนื้อหอม เขามีสาวๆ ไม่เคยขาด ฉันไม่ต้องการให้เชื้อสายของมาร์เซย์ไปเกิดในเชื้อสายต่ำต้อย จนทำให้เสื่อมเสียมาถึงฉัน ถ้าแค่เป็นของขบเคี้ยวเล่นๆ ยามว่างน่ะไม่เป็นไร ที่สำคัญเธออย่าได้เผยอ หรือบังอาจ อย่าได้คิดว่าฉันจะยอมรับเธอ อย่าคิดกอบโกยอะไรจากมาร์เซย์เลย จงรับไว้เท่าที่ฉันให้ได้เถอะ ที่สำคัญเธอควรอยู่ห่างๆ ฟรองซัวร์ไว้” โซเฟียกำชับ นางมองหญิงตรงหน้าด้วยแววตาดูแคลน “หรือถ้าลูกชายของฉันต้องการเธอขึ้นมาจริงๆ อย่าได้คิดจับเขาเป็นอันขาด ฉันได้แต่หวังว่าข้า
บทที่4.กลิ่นหอมที่ติดอยู่ที่ปลายจมูก กลิ่นสบู่ระเหยขึ้นมาจนหอมฟุ้ง เมรีเดินเลี่ยงชายร่างใหญ่ที่ยืนกอดขวางทางออกของเธอ แววตาเขาแปลกๆ จนเธอแอบผวา เมรีกำลังจะเดินผ่านเขา แต่ต้องชะงักเพราะฟรองซัวร์รั้งแขนเธอไว้ “ถูหลังให้หน่อยฉันเอื้อมไม่ถึง” เมรีกะพริบเปลือกตาปริบๆ เธอขัดคำสั่งคนตรงหน้าได้ด้วยหรือไง เธอพยักรับ แม้จะรู้สึกอึดอัด ชายหนุ่มสลัดชุดคลุมอย่างรวดเร็ว เขาหย่อนกายลงนั่งในอ่างน้ำอุ่นท่ามกลางสายตาตื่นตะลึงของสาวตัวเล็ก ผิวขาวเรียบลื่นเปียกน้ำเป็นมันวาว เมรีมือสั่นฟองน้ำนุ่มๆ ในมือหนักอึ้ง เธอพยายามไม่มองผิวกายตึงแน่นตอนที่ลากฟองน้ำไปทั่วแผ่นหลังของเขา กลิ่นหอมอ่อนๆ ของเมรีโชยมาเข้าจมูก ฟรองซัวร์หลับตาพลิ้ม เขามีความสุขแทบล้นอก เมรีทำงานด้วยความตั้งใจ ปลายจมูกของเธอมีเม็ดเหงื่อเกาะพราว พราะความรุ่มร้อนในกาย บวกกับไอระเหยของน้ำอุ่นในอ่างใบใหญ่ ฟรองซัวร์ชำเลืองมองเมรีด้วยหางตา เขาถอนใจแรงๆ นึกเซ็งในใจ กายใหญ่โตขยายใหญ่มันทะลึงตื่นทั้งที่ยังไม่ถึงเวลา จนฟรองซัวร์นึกโกรธตัวเอง เขากำลังทำร้ายตัวเองชัดๆ เมรีผู้ไม่รู้เรื่องรู้ราว เธอตั้งใจถูผิวกายขาวผ
บทที่3.หน้าที่ใหม่ที่ทำให้ใจแกว่ง ฟรองซัวร์เดินหน้าตึงออกมาจากห้องสมุด บัตเลอร์วัยชราเดินผ่านเข้ามาในสายตาพอดี ชายหนุ่มจึงเรียกไว้ พร้อมกับสั่งงานบาง เมื่อความปรารถนาตี้ขึ้นมาจนจุกอกเขาต้องการปลดปล่อยความร้อนในกายที่กำลังแผดเผาตนเองจนปวดร้าวไปตลอดทั้งหน้าขา “ตามเมรีให้ฉันหน่อย ฉันจะขึ้นไปรอบนห้อง” ฟรองซัวร์เดินขึ้นไปรอบนห้องนอน บัตเลอร์วัยชราถอนใจดังเฮือก!! เขามองตามเจ้านายหนุ่มด้วยความหนักใจ หนุ่มวัยฉกรรจ์กับสาวไร้เดียงสา เหมือนน้ำมันกับไฟที่พร้อมจะลุกไหม้โดยไม่สนใจผลลัพธ์ บัตเลอร์ผู้เฒ่ารีบไปทำหน้าที่ของตัวเอง ทั้งที่กำลังหนักใจ กับอนาคตของผู้เป็นเจ้านาย เขาใคร่ครวยอย่างหนักในที่สุดบัตเลอร์ผู้ภักดีก็ตัดสินใจขัดคำสั่งเจ้านายหนุ่ม เขาเดินขึ้นไปชั้นบน โดยไร้เงาของเมรีอย่างที่ฟรองซัวร์ต้องการ ก็อกๆเสียงเคาะประตูดังแผ่วๆ ฟรองซัวร์ที่กำลังรอกระเด้งตัวลุกขึ้นยืน แต่...เมื่อบัตเลอร์วัยชราเปิดประตูเข้า ชายหนุ่มตาลุกวาบ!! สีหน้าเดือดดาลแบบเห็นได้ชัด ชายสูงวัยก้มหน้าหลบเขาถอนใจแรงๆ ตอนที่ตัดสินใจพูดเตือนสติเจ้านาย “กระผมคิดว่ามันไม่สมควร ที่นายท่านจะพ
บทที่2.คำสัญญา เมรีเดินเข้าไปในห้องสมุดด้วยกริยาสำรวม โซเฟียจิบน้ำชาระหว่างรอ “นั่งสิ ฉันมีเรื่องที่ต้องตกลงกับเธอ” โซเฟียกล่าวเสียงเคร่ง เมรี จึงทรุดนั่งบนพื้น เธอก้มหน้าลงเพื่อหลบสายตาดุดันของโซเฟีย “เธอมีคู่รักหรือยัง?” โซเฟียถามใจความสำคัญที่นางต้องการรู้ เมรีเงยหน้ามองสบตาโซเฟีย “เมรีไม่มีคู่รักค่ะ” ภาพฟรองซัวร์ผุดขึ้นมาในใจผิวแก้มร้อนวูบ ก่อนจะสลดลง เมื่อตระหนักถึงความเป็นจริง เธอทำได้แค่แอบมองฟรองซัวร์อยู่ห่างๆ มันเป็นความเพ้อฝันที่ไม่มีทางเป็นจริง “ลูกชายฉันเป็นหนุ่มเนื้อหอม เขามีสาวๆ ไม่เคยขาด ฉันไม่ต้องการให้เชื้อสายของมาร์เซย์ไปเกิดในเชื้อสายต่ำต้อย จนทำให้เสื่อมเสียมาถึงฉัน ถ้าแค่เป็นของขบเคี้ยวเล่นๆ ยามว่างน่ะไม่เป็นไร ที่สำคัญเธออย่าได้เผยอ หรือบังอาจ อย่าได้คิดว่าฉันจะยอมรับเธอ อย่าคิดกอบโกยอะไรจากมาร์เซย์เลย จงรับไว้เท่าที่ฉันให้ได้เถอะ ที่สำคัญเธอควรอยู่ห่างๆ ฟรองซัวร์ไว้” โซเฟียกำชับ นางมองหญิงตรงหน้าด้วยแววตาดูแคลน “หรือถ้าลูกชายของฉันต้องการเธอขึ้นมาจริงๆ อย่าได้คิดจับเขาเป็นอันขาด ฉันได้แต่หวังว่าข้า
“เช็ดซะ ฉันไม่ชอบน้ำตาผู้หญิง เธออยู่ที่นี่ต่อจนกว่าจะเรียนจบก็ได้ ฉันจะออกค่าใช้จ่ายที่เหลือให้เอง ถือว่าตอบแทนซาร่า ที่คอยดูแลฉันอย่างดีมาตลอด” เมรีเงยหน้ามองชายสูงศักดิ์ตรงหน้าด้วยความซาบซึ้ง ชื่นชม“ขอบคุณค่ะ ขอบคุณมากๆ ค่ะ” เมรียกมือไหว้ปรกๆ เอ่ยขอบคุณเสียงพร่า ยกผ้าเช็ดหน้าหอมอ่อนๆ เช็ดคราบน้ำตาบนใบหน้าอย่างยินดี เธอฝืนยิ้มให้เจ้านายของแม่ ทั้งที่ริมฝีปากอิ่มยังสั่นระริกเพราะกลั้นเสียงสะอื้นไว้ มันเป็นน้ำตาแห่งความยินดี ยังมีคนใจดีเมตตาตนเอง“ฉันหมดธุระกับเธอแล้วล่ะ เธอกลับไปเถอะ ไว้เธอเรียนจบเมื่อไหร่เราค่อยมาคุยกันถึงเรื่องนี้อีกที” ฟรองซัวร์อนุญาตให้เมรีกลับไปพัก เขาหลุบเปลือกตาลงปิดบังประกายตาร้อนแรงเมรีทรงตัวลุกขึ้นยืน เธอไม่ได้ตัวเล็กอย่างที่เขาคิด คงเป็นชาติกำเนิดและเชื้อพันธุ์ชีวิต เธอเลยดูตัวเล็กบอบบาง เมื่อเทียบกับผู้หญิงในฝั่งยุโรป เรือนกายอรชรทูกใจฟรองซัวร์ เขาแอบสูดกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่รวยรินออกมาจากคนตรงหน้า เมื่อเมรีขยับตัวเบาๆ เขาชอบกลิ่นแบบนี้มากกว่ากลิ่นน้ำหอมชั้นนำที่มีเกลื่อนเมือง และสาวๆ นิยมใช้เมรีเดินออกไปจากห้อง ฟรองซัวร์มองตามเขาถอนใจแรงๆ แปลกใจนิดๆ กับควา
บทนำรักต้องห้ามที่ไม่อาจเกิดขึ้นได้ แม้ไม่ได้ครองแต่จะขอภักดีตลอดกาลฟรองซัวร์ ลูฟว์ มาร์เซย์มหาเศรษฐีหนุ่มเจ้าของเสื้อผ้าแบรนด์ ‘มาร์เซย์’ หนุ่มหล่อฟีโรโมนล้นเหลือ เป็นผู้กุมอำนาจสูงสุดของมาร์เซย์ เขามีดวงตาสีมรกต ดูลึกลับและน่าค้นหา ทายาทเพียงคนเดียวของ มาร์เซย์ผู้หยิ่งยโส โสดสนิทไร้คู่ ทำตัวเป็นเพลย์บอยควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า ทรัพย์สมบัติติดตัวมามหาศาลจนผู้หญิงไม่กลัวที่จะกลายเป็นแมลงเม่าล้อเล่นกับไฟ ได้เป็นแค่คู่นอนชั่วคราวก็หาได้แคร์ เมื่อผลตอบแทนที่รับมากมายเหลือเชื่อ ไม่ว่าจะชื่อเสียงหรือเงินตราเมรี ประภาเกียรติกุล เด็กสาวจากดินแดนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เธอกับมารดาไปเผชิญโชคในต่างแดน ตกอยู่ใต้อุ้งมือจอมมารเพราะคำว่า ‘ตอบแทนพระคุณ’ ฟรองซัวร์มอบตำแหน่งที่ เมรีไม่อยากยอมรับเลยซักนิดให้ แต่ก็จนใจเมื่อบุญคุณค้ำคอ ‘เมียเก็บ’ คือหน้าที่ที่ชายหนุ่มยัดเหยียดให้ เมรีหลงอยู่ในวังวนเสน่หา เธอหลงอยู่กับภาพลวงตามานาน จนวันหนึ่งที่รู้ตัวว่าหลงใหลไปกับสิ่งจอมปลอม หัวใจก็แทบแหลกสลายบทที่1.เมรี ประภาเกียรติกุล ท่ามกลางอากาศหนาวเย็นของประเทศฝรั่งเศส เมรี เดินเหม่ออยู่บริเวณด้านหน้าหอไอเ