ตอนที่ 10 พบปะตระกูลบลูซี่
คนเราถ้าฝืนร่างกายจนเหนื่อยล้า ย่อมต้องหาเวลาพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เช่นนั้นประสิทธิภาพในการทำงานจะลดลง ตัวผมที่เดินทางมาถึงโรงเเรมก็รีบอาบน้ำแต่งตัวเข้านอนทันที
การนอนหลับเป็นการพักผ่อนที่ดีที่สุด เมื่อใดที่เราหลับเต็มอิ่ม ร่างกายและจิตใจของเราจะรู้สึกสดชื่น
ผมตื่นในเช้าของอีกวันพอดี ตื่นมาพร้อมกับความหิวจึงนำขนมปังซ็อกโกแลตกับนมฆ่าเชื้อออกมากินรองท้องก่อน จากนั้นก็เข้าห้องน้ำอาบน้ำแต่งตัวเสร็จสรรพ ผมออกจากโรงเเรม มุ่งหน้าไปยังสมาคมนักล่าสาขาคูบป้าบริส
ผมเดินเข้าไปในอาคาร วันนี้รู้สึกว่ามีนักล่ามาคับคั่ง ทั้งที่ปกติมีแทบนับนิ้วได้
"สวัสดียามเช้าค่ะคุณโต๋" พนักงานต้อนรับเอ่ยทักทายผม
"อ้อ สวัสดีครับ"
"ขอรบกวนเวลาสักครู่ได้ไหมคะ ตอนนี้ผู้จัดการอยากพบคุณส่วนตัวค่ะ" พนักงานเอ่ย ผมพยักหน้า พบกับผู้จัดการก็ดี ผมจะได้ถามเรื่องแมงป่องทะเลด้วย อยากรู้ว่าทำไมมันถึงมีจำนวนมากมายมหาศาลขนาดนั้น มันเกือบทำให้ผมต้องเอาชีวิตไปทิ้งเลยนะ เอ่อ แม้ว่าจะเป็นเพราะผมประมาทเลินเล่อก็เถอะ
พนักงานนำผมไปยังห้องผู้จัดการ ผมเจอกับเขาที่กำลังนั่งจ้องโทรศัพท์ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด แต่เมื่อเห็นผมก็เปลี่ยนเป็นยินดีปรีดา
"คุณโต๋มาแล้ว" ผู้จัดการเอ่ย เขารีบเชิญผมไปนั่งที่โต๊ะรับรอง แล้วพุ่งเข้าประเด็นโดยไม่มีอ้อมค้อม
"คุณโต๋ครับ ผมมีภารกิจพิเศษที่จะขอร้องให้คุณทำ มันอาจจะดูน่าสมเพชที่ผมขอเรื่องบ้าๆนี้กับคุณ แต่ผมไม่มีทางเลือกจริงๆครับ" ผู้จัดการเอ่ย
"ภารกิจอะไรเหรอครับ" ผมถามไป หรือว่าจะเป็นภารกิจกำจัดแมงม่องทะเลหว่า
"ผมอยากให้คุณหาวัตถุดิบจากทะเลครับ เหมือนตอนที่คุณขายให้กับภัตรคารน้องสาวของผม แต่ผมไม่ได้ขอเปล่านะครับ ผมมีคะแนนให้ ซึ่งคะแนนนั้นเป็นคะแนนในส่วนผู้อำนวยการของผมที่จะใช้เลื่อนระดับ ผมจะยกให้คุณทั้งหมดเลยครับ" ผู้จัดการเอ่ย ผมก็นึกว่าเรื่องแมงป่อง แต่นี่กลับเป็นเรื่องวัตถุดิบจากทะเล
ถ้าเอาข้อมูลที่ผมได้ยินมาสรุปคร่าวๆ ภัตราคารตระกูลของผู้จัดการคงจะถูกยึดในอีกไม่กี่เดือนนี้ พวกเขาย่อมรักในสิ่งที่ลงทุนลงแรงสร้างมากับมือและผูกพันกับมันจึงไม่อยากสูญเสียไป ก็พอเข้าใจหรอก
"มันก็ไม่ใช่ปัญหานะ แล้วคุณผู้จัดการต้องการเท่าไหร่ล่ะ" ผมเอ่ย สีหน้าของผู้จัดการดีขึ้นทันที
"คุณโต๋เรียกผมว่านิวก็ได้ครับ เรื่องวัตถุดิบทะเลผมรับไม่จำกัดครับ และจะให้ราคาดีกว่าที่อื่นเเน่นอน
"ราคาตามท้องตลาดทั่วไปก็ได้ ผมไม่ได้ซีเรียสขนาดนั้น ผมขอถามเกินขอบเขตหน่อย คุณนิวต้องการกู้คืนภัตราคารใช่ไหมครับ" ในที่สุดผมก็ถามเรื่องส่วนตัวของเขาจนได้ สีหน้าคุณนิวไม่ค่อยสู้ดีนัก
"ไม่ต้องตอบก็ได้นะครับ"
"ไม่เป็นไรครับ ยังไงผมก็จะบอกคุณโต๋อยู่แล้วครับ ก็เป็นแบบที่คุณโต๋ถามเลยครับ ตอนนี้ภัตราคารของครอบครัวผมกำลังอยู่ในภาวะวิกฤติ ถ้าไม่ได้ความช่วยเหลือจากคุณโต๋ในเรื่องวัตถุดิบ กับเรื่องคลิปวีดีโอเชิญชวนให้คนมาทานอาหารที่ภัตราคาร ผมคงปลงกับการสูญเสียสิ่งสำคัญของตระกูลแล้วครับ แต่นี่ไม่ได้เป็นเช่นนั้นอีกแล้ว ตอนนี้นักล่าและผู้คนจำนวนมากต่างเข้ามารับประทานอาหารเมนูทะเลอย่างเนืองแน่น อดีตลูกค้าเก้าที่ห้างหายไปนานก็กลับมาอีกครั้งเมื่อรู้ว่าเรามีวัตถุดิบจากทะเลแล้ว ผมต้องพึ่งคุณโต๋จริงๆครับ นี่ถือว่าเป็นการดิ้นรนครั้งสุดท้ายของตระกูลผมแล้ว" คุณนิวเอ่ยอย่างไม่ปิดปัง แต่เอ คลิปวิดีโออะไรนั่นผมไม่เห็นจะเข้าใจว่าผมไปเชิญชวนเมื่อไหร่ ผมยังไม่เคยอัปโหลดอะไรเลยนะ
"ภัตราคารของคุณมีกี่สาขาครับ"
"ทั้งหมด 120 สาขาครับ แต่เปิดจริงมีแค่ 10 สาขา ถ้าวัตถุดิบมีมากก็จะทยอยเปิดเพิ่มครับ"
"แล้ววัตถุดิบที่ผมให้ไปตอนนั้นสามารถพยุง 10 สาขาได้กี่เดือนครับ" ผมถามออกไป
"เอาตามตรงตอนนี้คงไม่ถึงเดือนครับ แต่ก่อนพวกเราสามารถซื้อวัตถุดิบจากชาวประมงและซื้อจากฟาร์มได้แต่พอคุณพ่อล้มป่วยพวกเครือฮอตสตาร์ก็ปิดช่องทางการซื้อทั้งหมด พวกเราต้องไปซื้อจากตลาดสดแทน แต่ก็ต้องลุ้นเองว่าจะได้มากน้อยแค่ไหน บางวันก็ไม่ได้เลย บางวันก็ได้มากสุดไม่เกิน 5 กิโล มันคงมีแค่เรื่องวัตถุดิบจากทะเลนี่เเหละครับที่เป็นปัญหาใหญ่ เรื่องวัตถุดิบอื่นๆแม้จะโดนปิดช่องทางใหญ่แต่ก็หาได้ไม่ยากเย็นอะไร" คุณนิวสาธยายให้ฟัง
"คุณคงต้องใช้งบเยอะเลยใช่ไหมครับ วัตถุดิบก็ด้วย"
"ใช่ครับ เรื่องงบเรายังพอแก้ปัญหาได้ แต่เรื่องวัตถุดิบนี่เราแก้ไม่ได้จริงๆครับ" คุณนิวไม่ได้ปิดบังจุดอ่อนของตระกูลตัวเองเลย และผมก็ได้ช่องทางเคลียร์ของในมิติด้วย
"คุณนิวเคยพูดใช่ไหมครับ ว่าเครือฮอตสตาร์มีนักล่าที่มีมิติพิเศษสามารถเลี้ยงสัตว์ทำสวนในครอบครองถึงสองคน ผมก็จะพูดตามตรงเลยเหมือนกันว่าก็อดกิฟต์มิติของผมมันก็คล้าย ๆ กัน ตอนนี้ผมมีวัตถุดิบจากทะเลจำนวนมาก ถ้าหากคุณต้องการซื้อก็จะขายมากเท่าที่คุณต้องการ แต่ผมไม่ขอผูกขาด และอีกสิ่งที่ผมต้องการคือผมอยากเป็นหุ้นส่วนกับภัตราคารตระกูลของคุณ ข้อเสนอนี้คุณเอาไปปรึกษาทางตระกูลก่อนก็ได้นะครับ" ผมเอ่ยในเรื่องที่ผมต้องการเสนอ หากพวกเขาตกลง ผมก็จะมีรายได้หลั่งไหลเข้ามาไม่หยุดหย่อน เรื่องหนี้สินหรือ ผมว่ามันไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป
"เรื่องนี้ไม่ต้องห่วงครับ ตระกูลเราคุยกันแล้ว คุณพ่อเองก็จะให้หุ้นกับคุณโต๋หากตกลงเรื่องจัดหาวัตถุดิบทั้ง 10 สาขาของเราครับ" คุณนิวเอ่ย แต่ผมไม่ต้องการแค่นั้นสิ
"คุณนิวครับ ที่ผมต้องการสื่อคือไม่ใช่แค่ 10 สาขา แต่เป็น 120 สาขาต่างหากครับ" ผมกล่าวย้ำอีกครั้ง
"อ้อครับ 120 สาขานะครับ นั่นก็ไม่ใช่ปัญ.. ห๊ะ! อะไรนะครับ 120 สาขาเลยเหรอครับ" คุณนิวอุทานลั่น
"ใช่ครับ" ผมตอบสั้นๆ มือเท้าคุณนิวสั่นเพราะกำลังตื่นเต้น
ผู้จัดการนิวขอตัวไปพูดคุยโทรศัพท์ ไม่นานก็วิ่งเข้ามาหาผมด้วยท่าทีตื่นเต้น
"คุณโต๋ครับ ตอนนี้พ่อของผมต้องการพูดคุยกับคุณครับ คุณสามารถไปที่บ้านหลักตระกูลผมทันทีเลยได้ไหมครับ" เสียงของผู้จัดการนิวเอ่ย สีหน้าเขาไม่ปกปิดความยินดีปรีดาเลยแม้เเต่น้อย เมื่อผู้นำเอ่ยเชิญชวน ผมก็ไม่ปฏิเสธ
คุณนิวพาผมขึ้นรถส่วนตัวขับไปยังตระกูลทันที เมื่อไปถึงก็มีบอดี้การ์ดเข้ามาตรวจสอบและเชิญเข้าไปพบผู้นำตระกูล
ผมอยากบอกว่าบ้านของพวกเขาโคตรกว้าง มีอาคารหลายหลัง ปลูกต้นไม้ร่มรื่น มีสวนผลไม้ มีทุ่งดอกไม้ยังกับคฤหาสน์ของขุนนางสมัยก่อน
กว่าจะไปถึงจุดที่ผู้นำตระกูลอยู่ก็ใช้เวลาเดินทางเกือบชั่วโมง เนื่องจากต้องผ่านชั้นความปลอดภัยหลายขั้นตอน
เมื่อผมได้เห็นผู้นำตระกูล ผมเเอบผิดหวังเล็กน้อยเพราะสภาพเขาไม่ค่อยสู้ดีนัก ร่างกายอ่อนแอต้องนอนเตียงตลอดเวลา แขนขาก็เริ่มสูญเสียศักยภาพไปเรื่อยๆ ถ้าปล่อยแบบนี้ ไม่นานคงไปเฝ้ายมบาล ผมไม่ได้เเช่งเขานะ แต่ว่าเห็นสภาพแล้วอดคิดไม่ได้
"ต้องขออภัยด้วยที่ทำให้คุณโต๋ต้องมาเห็นสภาพนี้ของผม" ผู้นำตระกูลเอ่ยเสียงแหบพร่า
"ไม่เป็นไรครับ สภาพแบบนี้เเค่ฉีดสารวิวัฒนาการก็หายแล้วครับ" ผมพูดแบบไม่ใส่ใจแต่จงใจสร้างประเด็นขึ้น ทั้งห้องมองผมด้วยสายตาที่ไม่เข้าใจ
"หน้าผมมีอะไรติดเหรอครับ" ผมถามออกไป ทุกคนในห้องชะงักและเปลี่ยนท่าที ผมยังไม่รู้เลยว่าตกใจหรืออี้งอะไรกัน
"อะ เอ่อ เรามาเข้าเรื่องกันดีกว่าครับคุณโต๋ ก่อนหน้านี้ลูกชายผมอธิบายให้ฟังบ้างแล้วเกี่ยวกับเรื่องที่คุณโต๋จะขายวัตถุดิบจากทะเลให้ภัตราคารของเราในปริมาณของ 120 สาขา คุณคงไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหมครับ" ผู้นำตระกูลเอ่ยเข้าเรื่อง
"ไม่ล้อเล่นแน่นอนครับ และเงื่อนไขที่ผมเสนอก็คือไม่ผูกขาดและขอเป็นหุ้นส่วน" ผมกล่าวตรงไปตรงมา ทางผู้นำตระกูลไออะแคกๆ ครู่หนึ่งแล้วตอบผม
"ทางผมยินดีรับข้อเสนอของคุณ ผมจะให้คุณเป็นหุ้นส่วน 20% ของเครือตระกูลทั้งหมด เพราะถ้าไม่ได้รับการช่วยเหลือจากคุณ ทางผมคงไม่เหลืออะไรเเล้วจริงๆ" ผู้นำตระกูลเอ่ย สีหน้าเขาดูหมองลงอย่างเห็นได้ชัด
"พ่อครับ ถ้าพ่อไม่ล้มป่วย ไอ้พวกฮอตสตาร์มันคงทำอะไรเราไม่ได้" เสียงผู้จัดการเอ่ยแทรก ผมหันไปมองผู้จัดการ
"ป่วยเหรอ แบบนี้ไม่เรียกว่าป่วยนะครับ แต่เป็นอาการของคนที่ฝืนทำงานหนักจนร่างกายหมดสภาพ แค่ฉีดยาวิวัฒนาการขวดแรกก็หายแล้วไม่ใช่เหรอครับ อ้าว พวกคุณมองผมแปลกๆอีกแล้ว ผมพูดอะไรผิดเหรอครับ" ผมกล่าว แม้ในใจจะคาดเดากับสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วก็ตาม
"คือคุณโต๋ครับ ยาวิวัฒนาการคืออะไรเหรอครับ" เป็นเสียงของผู้จัดการที่เอ่ยถามผม
"ก็ยาที่จะยกระดับร่างกายไปอีกขั้นไงครับ สภาพแบบพ่อของคุณก็น่าจะใช้เซ็ตระดับทหารได้อยู่นะ" ผมเอ่ยอธิบาย แสีหน้าพวกเขาถึงกับงุนงงมองสลับกันไปมา
"มันจะช่วยผมได้จริงๆ เหรอครับ" คราวนี้เป็นผู้นำตระกูลถาม เขาสงสัยผมชัวร์ น้ำเสียงแบบนี้ ผมทำท่าทีว่าตนเองหน้าแตก
"ได้สิครับ เอาเป็นว่าเราไม่ต้องพูดเรื่องนี้กันดีกว่า มันคงไม่มีสาระเท่าไหร่" ผมกล่าวและกำลังจะเปลี่ยนเรื่อง
"คุณพอจะมีช่องทางหายานั้นมาได้ไหมครับ" ผู้นำตระกูลเอ่ย ผมยิ้มในใจ เขาคาดหวังแต่ก็สงสัย มันก็คงไม่แปลกหรอก ใครเล่าจะไม่สงสัย มันก็เหมือนกับมีคนมาบอกว่าเขามียาวิเศษรักษาโรคที่กำลังจะทำให้เราตายห่าในเร็วๆ นี้ได้ ก็เราเองไปรักษามาแล้วทุกที่ก็ไม่หาย จู่ๆก็มีใครไม่รู้มาบอกว่าช่วยได้ เขื่อไหมว่าร้อยทั้งร้อยแทบไม่เชื่อกันอยู่แล้ว
ผมนึกตอนที่ผมเลือกดูยาวิวัฒนาการระดับทหารในมิติ มันก็ปลากฏเป็นชั้นเซ็ตยาให้เห็น
ระดับทหารจะขายเป็นขวด ขวดปรับปรุงฐานซึ่งเป็นขวดแรกที่ต้องฉีดจะมีราคาอยู่ที่ 5 หมื่นเครดิต หรือก็คือ 5 ล้านบาท ถ้าเทียบเป็นเงินดอลล่าร์ก็ 1 แสนสองหมื่นกว่าดอลล่าร์
ผมหยิบขวดเริ่มแรกออกมาขวดหนึ่ง
ทุกคนในห้องจะเห็นว่าผมเปิดมิติ เมื่อเห็นขวดยาที่ตกไม่เเตกง่ายๆก็รู้สึกสงสัยว่าผมเอายาห่าอะไรออกมา
"นี่เป็นยาที่ว่า" ผมพูดพร้อมยื่นให้ผู้นำตระกูล
"คุณจะเอาไปวิจัยก็ได้นะ สูตรโมเลกุลมันไม่ค่อยซับซ้อนเท่าไหร่ น่าจะรู้ผลไม้นาน แต่ยานี่จะฉีดเข้าร่งกายด้วยวิธีธรรมดาไม่ได้นะครับ มันจะส่งผลไม่ค่อยมีประสิทธิภาพเท่าไหร่ มันต้องใช้เครื่องครอบฉีดยาวิวัฒนาการที่มีเอไอควบคุมถึงจะได้ผลสูงสุด" ผมไม่พูดเปล่านำเครื่องออกมาแม่มเลย
"จะใช้ก็กดตรงนี้ เเล้วเอาขวดยาใส่ตรงนี้ จากนั้นคุณก็เข้าไปนอนและวกดปุ่มเริ่มตรงนี้ ขวดระดับทหารขวดเเรกแค่ฉีดเฉยๆก็พอ อ้อ ถ้ากระบวนการเสร็จแล้วให้กดตรงนี้เพื่อเปิดฝาครอบนะครับ ถ้าคุณสงสัยก็ส่งไปแลปวิจัยก่อน" ผมพูด ผู้นำตระกูลรับยาไปด้วยมือที่สั่นเพราะร่างกายเขาไม่ค่อยมีแรง ดีแค่ไหนที่ยาไม่ตก
"เอาล่ะ ไปเรื่องอื่นเถอะครับ เรื่องวัตถุดิบจากทะเลพวกคุณจะให้ผมเริ่มส่งตั้งแต่เมื่อไหร่ ส่วนราคาขออย่าต่ำกว่าราคาตลาดนะครับ" ผมพูดเปลี่ยนประเด็นเสียเลย
"เริ่มตั้งแต่พรุ่งนี้เลยครับ เดี๋ยวผมจะร่างสัญญาให้คุณดูตอนคุณส่งวัตถุดิบเลยนะครับ" ผู้นำตระกูลเอ่ย แต่เหมือนเขาจะสนใจยามากกว่าธุรกิจอีกนะ
"ได้ครับ แล้วจะให้ผมส่งที่ไหนครับ"
"ที่ภัตราคารเลยครับ" ผู้นำตระกูลเอ่ย ผมพยักหน้า
"โอเคครับ อ้อ ลืมบอกไป ยานั่นขวดละ 130,000 ดอลล่าร์นะครับ" ผมกล่าวก่อนจะออกไปจากห้อง ผู้จัดการก็ออกไปส่งผมที่สมาคมนักล่า
หลังจากที่ผมออกไป
"นายท่านครับ จะให้ส่งยานั่นไปวิจัยไหมครับ" ชายที่ยืนอยู่ข้างกานผู้นำตระกูลเอ่ย
"ไม่ต้องหรอกบันท์ ฉันรู้เวลาตัวเองดี ฉันจะฉีดมันตอนนี้" ผู้นำตระกูลเอ่ย
"แต่นายท่าน ยานี่น่าสงสัยนะครับ" บันท์เอ่ยด้วยความเป็นห่วง
"ใช่ มันน่าสงสัย แต่นายรู้ไหม ว่าเมื่อฉันได้เห็นเครื่องนี่ จากความสงสัยมันกลายเป็นความอยากรู้อยากเห็น ฉันเองก็กำลังจะตายเเล้ว ถ้าจะตายเพราะสนองความอยากรู้ตนเอง ใครจะว่าโง่ก็ช่างปะไร" ผู้นำตระกูลเอ่ย เขาให้บันท์พยุงไปกดปุ่มเปิดเครื่อง นำขวดยาวิวัฒนาการใส่ในช่อง
"ช่วยเอาฉันเข้าไปในนั้นที" ผู้นำตระกูลเอ่ย
"เฮ้อ นายท่านจะทำจริงๆใช่ไหมครับ"
"ใช่ ถ้าฉันตายก็ไม่ต้องโทษคุณโต๋นะ สัญญาหุ้นก็เอาตามที่เขาเสนอได้เลย ฉันผ่านเล่ห์เหลี่ยมคนมามาก แต่กลับไม่เห็นเจตนาไม่ดีจากเขาเลยสักนิด ฉันขอเสี่ยงเพื่อคลายข้อสงสัยของตัวเองเลยแล้วกัน แม้มันจะจบด้วยความตายก็ตาม" ผู้นำตระกูลพูดอีกครั้ง เขากดปุ่มเริ่ม ฝาครอบค่อยๆปิดตัว เข็มฉีดยาจำนวนมากทิ่มแทงเข้าร่างของเขา
บันท์มองด้วยความเป็นห่วง เขาไม่ขัดขวางไม่ต่อต้านเพราะยึดปฏิบัติตามคำพูดของผู้นำตระกูล
.................
ตอน 11 ขายซากแมงป่องทะเลสมาคมนักผจญภัยเป็นแหล่งพิทักษ์ภัยให้กับประชาชน และเป็นแหล่งสร้างรายได้ให้กับนักล่า สร้างความแข็งแกร่งให้กับประเทศวัตถุดิบจากซากสัตว์ประหลาดที่เหล่านักล่านำมาขายจะถูกนำไปชำแหละและบริหารจัดการโดยสมาคมแต่ละเเห่ง พวกเขาจะคัดเลือกและคัดกรองวัตถุดิบส่งไปยังรัฐหรือหน่วยงานต่างๆ เพื่อนำมันไปสร้างประโยชน์ต่อไป นี่เป็นข้อมูลคร่าวๆที่ผู้จัดการเล่าให้ผมฟัง เขาชี้ให้ดูอาวุธและชุดเกราะของเหล่านักล่าที่สวมใส่กัน"เกราะที่ดีจะมีน้ำหนักเบาและกันกระสุนได้ด้วย ราคาก็สูงตามคุณภาพ" ผู้จัดการนิวกล่าว ผมก็เข้าใจแบบเขา เกราะที่ดีจะมีน้ำหนักเบาและกันกระสุน แต่เท่าที่ดูพวกนักล่าสวมใส่ ผมว่ายังไม่ผ่านมาตรฐานด้วยซ้ำ ก็พอรู้บ้างว่าพวกมันทำมาจากซากสัตว์ประหลาดบางประเภท บางชุดก็ผสมผสานระหว่าวัตถุดิบของมนุษย์กับของสัตว์ประหลาด แต่มันจะกันกระสุนได้จริงๆเหรอนั่น"ดูขุดของคนนั้นสิ นั่นทำมาจากเกล็ดของจระเข้ยักษ์ที่ผ่านการยกระดับคุณภาพด้วยเทคโนโล
ตอนที่ 1 ทะลุมิติ วันที่ทราบข่าวว่าปืนรุ่นใหม่ออกวางจำหน่ายที่ห้างสรรพสินค้าอันดับหนึ่งของโลก ห้างที่มีขายทุกอย่างต้องแต่ดินก้อนเล็กไปจนถึงยานรบสงคราม สถานที่ตั้งอยู่ติดทะเลตัวห้างกินพื้นที่หลายกิโลเมตร ในแต่ละวันมีผู้คนเข้าไปจับจ่ายซื้อของนับแสนคน ตั้งเเต่ประชาชนคนธรรมดาไปจนถึงผู้นำประเทศ หากเป็นชั้นขายสินค้าธรรมดาทั่วไปทุกคนสามารถเข้าถึงได้ แต่หากเป็นสินค้าที่มีคุณภาพสูงตั้งแต่อุปกรณ์การทดลอง อาวุธสงคราม หรือสินค้าที่อาจก่อให้เกิดหายนะ ผู้ซื้อจะต้องมีระดับใบอนุญาตเฉพาะที่จะเข้าชั้นนั้น ๆ ได้ ซึ่งผมก็มีมันอยู่พอสมควร แม้จะไม่สามารถซื้อยานบินรบแบบผู้นำประเทศได้แต่ก็ยังสามารถซื้ออาวุธสงครามที่ระดับรองลงมาอย่างเช่นปืนรุ่นใหม่ที่วางอยู่บนชั้นคริสตัลเบื้องหน้า ก่อนที่ผมจะหยิบปืนตัวอย่างมาทดสอบดู จู่ ๆ เบื้องหน้าก็ปรากฏจุดแสงสีรุ้งขึ้น ด้วยความสงสัยจึงเอื้อมมือไปหยิบ แสงนั้นพุ่งเข้าร่างกายผม ตอนนั้นเองภาพทุกอย่างเบื้องหน้าก็มืดดับลง.......ณ สถานที่อันห่างไกล "ไอ้โต๋ ตื่นๆๆ ถึงที่หมายเเล้วโว้ย" เสียงของเนสเรียกผมให้ตื่นจากการหลับใหลบนรถยนต์มือสองของเขา "ของีบอี
ตอนที่ 2 ระบบอำนวยความสะดวกติ้ง! เสียงบางอย่างดังขึ้นในหัวของผมพร้อมกับปรากฏหน้าจอโฮโลแกรมขึ้นเบื้องหน้า /ใช้เสียงหรือพิมพ์ในสิ่งที่ต้องการค้นหา/ ผมมองไปยังจอโปร่งใสกลางอากาศ สิ่งนี้ปรากฏโดยไม่ผ่านแว่นหรืออุปกรณ์เชื่อมภาพเสมือน มันดูแปลกประหลาดเกินไป แต่ถึงเป็นเช่นนั้นผมก็ป้อนข้อมูลผ่านคีย์บอร์ดที่ปรากฏอักษรแป้นพิมพ์กลางอากาศ /สิ่งที่ต้องการค้นหาคือเครื่องจักรปรับหน้าดิน กรุณากดยืนยันอีกครั้ง/ ผมกดยืนยันอีกครั้งไม่นานภาพเบื้องหน้าก็ปรากฏเครื่องจักรปรับหน้าดินในมิติที่ซ้อนทับกับโลกจริง /กดลากสิ่งที่ต้องการซ้อนทับพื้นที่ปัจจุบัน/ เมื่อเสียงเเจ้งดังขึ้นผมลองเลือกรถไถปรับหน้าดินพลังงานไฟฟ้าคันหนึ่ง กดตรงตัวรถแล้วลากออกมา ภาพที่เห็นจะเป็นภาพเสมือนของรถ เมื่อเอามาซ้อนทับพื้นที่ปัจจุบันจะปรากฏตารางให้เห็น สีเขียวคือสามารถวางได้เลย แต่ถ้าเป็นสีเเดงหมายถึงวางไม่ได้ ต้องหาตำเเหน่งใหม่ เมื่อตารางเป็นสีเขียวผมก็ปล่อยมือทันที /กดยืนยันหรือพูดคำว่ายืนยัน/ "ยืนยัน" ครั้งนี้ผมเลือกพูดออกมาครืน! เครื่องจักรปรับหน้าดินปรากฏทันที ด้วยน้ำหนักของมันทำให้
ตอนที่ 3 แหล่งทำเงิน สิ่งที่ผมเห็นคือปลาหลากหลายชนิด แม้กระทั่งกุ้ง กั้ง หมู่หมึกก็แหวกว่ายไปทั่ว บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของที่นี่อย่างยิ่ง ถ้าไม่ติดตรงที่มีจระเข้ตัวเขื่องเฝ้าอยู่ไม่ยอมห่างไปไหน "แสดงว่าชาวประมงที่นี่คงเก่งมากที่สามารถรอดชีวิตจากสัตว์ประหลาดนี้ได้ แล้วยังหาสัตว์ทะเลไปขายทำเงินได้อีก" ผมเอ่ยพลางมองไปยังฝูงสัตว์ทะเลที่มีจระเข้ยักษ์เฝ้าอยู่ ดูแล้วไม่น่าเข้าใกล้เลยแม้แต่นิด ของอันตรายอยู่ตรงหน้า ถ้าจะให้ผมเอาเรือลงทะเลหาปูหาปลาคงเป็นไปได้ยาก แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีวิธีการ ผมคิดว่าจะลองตกปลาด้วยเบ็ดดู ถ้าทดลองแล้วได้ผลดีก็จะใช้วิธีนี้ มันอาจหาได้ไม่เยอะเท่าลงเรือ แต่ก็น่าจะปลอดภัยกว่า อีกอย่างผมไม่ได้ต้องการพวกมันจำนวนมากเสียหน่อย ตกเอาเเค่ตัวที่มีชีวิตสักสองสามตัวให้มันดิ้นไปมาพอเป็นพิธี เพื่อยืนยันให้เหล่าคนรับซื้อเข้าใจว่าผมได้จับจากทะเลจริง คิดได้ดังนั้นก็หาทำเลเป็นเเถวโขดหิน ผมค้นหาเบ็ดครู่หนึ่ง เลือกคันที่เหมาะมือ นอกจากนี้ผมได้เลือกเหยื่อปลากับเหยื่อกุ้งมาด้วย เหวี่ยงคันเบ็ด รอปลากินเหยื่อ ครู่เดียวก็ได้มาแล้วหนึ่งตัว เป็นปลากะพงขาวน้ำห
ตอนที่ 4 วันสอบ การขายครั้งที่สองเป็นอย่างราบรื่น แม้หน้าของลุงแผนกต้อนรับจะไม่ค่อยชื่นมื่นเท่าไหร่ แกคงจะเครียดเรื่องงานไม่ก็ทางบ้าน ผมคิดแบบนั้น เมื่อขายกุ้งเสร็จผมก็ได้เงินมา 48,000 บาทถ้วน ผมไปซื้อข้าวแกงข้างทางกินหมดเงินไปหกสิบบาท รสชาติเค็มอีกต่างหาก หลังจากกินข้าวเสร็จก็กลับบ้านทันที เพราะผมยังคงต้องอ่านหนังสือสอบ ที่จริงก็ไม่อยากจะอ่านสักเท่าไหร่ เนื่องจากผมไม่ได้อยากเป็นครูหรือข้าราชการ เพราะมันไม่เหมาะกับผม ในโลกก่อนเองผมก็ไม่ได้เลือกเส้นทางสายการสอน แต่ชอบสายการสู้มากกว่า พูดถึงการสู้รบปรบมือ โลกก่อนเราไม่ค่อยมีสงครามระหว่างมนุษย์ด้วยกันเองแต่จะทำสงครามกับสิ่งมีชีวิตนอกโลกที่มารุกรานฆ่าฟันมนุษย์เราอย่างเหี้ยมโหดเสียมากกว่า จะว่าไปผมยังไม่ได้วิวัฒนาการร่างกายเลย ด้วยความอ่อนเเอในตอนนี้เกรงว่าแค่วิ่งร้อยเมตรก็หอบขึ้นคอแล้ว เมื่อผมกลับถึงบ้านผมค้นหนังสือในกระเป๋า มันเป็นหนังสือเพียงเล่มเดียวที่เพื่อนเนสยัดใส่กระเป๋าผม นอกเหนือจากนั้นก็เป็นเสื้อผ้ากับเอกสารสำคัญ ผมหยิบหนังสือมาเปิดอ่าน ผ่านไปครู่หนึ่งก็รู้สึกงุนงงกับการเตรียมพร้อมเนื้อหาสอบ "กฎหมาย
ตอนที่ 5 วิวัฒนาการ อาหารภัตตาคารนั้นราคาแพง แต่รสชาติอร่อย เบื้องหน้าผมเป็นชุดเซตอาหารทะเล มีปลาทอดราดซอส กุ้งมังกรอบเนย ผัดปลาหมึกทะเล และรายการอื่นๆที่ผมไม่รู้จัก โต๊ะทั้งโต๊ะมีผมนั่งคนเดียว เหลียวเเลไปที่ไหนไม่เห็นใครเพราะเป็นห้องส่วนตัว ผมจึงลงมือรับประทานอย่างสบายใจจนท้องอิ่ม เมื่อพนักงานบริการเห็นว่าผมกินเสร็จแล้วเขาก็เชิญไปยังสถานที่อีกแห่ง มันคือห้องพัก ในห้องมีชุดนอนและเสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยนเตรียมให้พร้อมสรรพ มีกาน้ำร้อน ชุดชากาแฟสองชุด อุปกรณ์ตกแต่งห้องครบครัน ผมไม่รอช้าอาบน้ำอาบท่า เเต่งตัวเปลี่ยนเสื้อผ้า เปิดเครื่องปรับอากาศแล้วล้มตัวลงนอน ตื่นอีกทีคือตอนเช้าตรู่ ผมเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัวเปลี่ยนชุดเป็นชุดเดิมของผมเมื่อวาน จากนั้นก็มุ่งหน้าไปยังแผนกรับซื้อ ลุงเขาได้นำใบรายการมาให้ผม มันระบุชนิดสัตว์ทะเล ขนาด และราคารับซื้อกุ้งมังกรเจ็ดสี มี 4 ไซส์ คือ เล็ก กลาง ใหญ่ และใหญ่พิเศษ ไซส์เล็ก 160 กิโล รับซื้อกิโลละ 4000 รวมได้ 640,000 บาทไซส์กลาง 60 รับซื้อกิโลละ 5000 รวม 300,000 บาท ไซส์ใหญ่ได้เงิน 78,000 ส่วนใหญ่พิเศษได้ราคา 80,000 บาท นอกจ
ตอนที่ 6 บรรจุ เสียงเครื่องจักรไฟฟ้าดังขึ้นต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ผมกำลังขุดพื้นลึก 1 เมตร ในพื้นที่กว้าง 10 ตารางเมตร จากนั้นทำการตอกเสาเข็มยี่สิบต้น ตามด้วยการเทปูนผสมลงไป เมื่อเทปูเสร็จก็นำหุ่นยนต์เอไอออกมา เป็นหุ่นยนต์สำหรับจัดการเกลี่ยพื้นให้ราบเรียบโดยเฉพาะ ผมเข้าบ้านไปอาบน้ำแต่งตัวนอนปล่อยให้หุ่นทำหน้าที่ของมันไป เมื่อทำเสร็จมันจะปิดการทำงานอัตโนมัติ ตื่นเช้ามาผมจัดการเตรียมเอกสารไปสัมภาษณ์ ก็มีเเค่บัตรประจำตัวประชาชน บัตรผู้สมัครสอบ แล้วก็เครื่องเขียนจำเป็น เมื่อตรวจสอบแล้วไม่มีอะไรผิดพลาดก็ไปอาบน้ำเเต่งตัวชุดสุภาพ โทรหาพี่คนขับรถบริการ อุดหนุนน้ำในมิติของเขาสองขวดพี่เขาก็ไปส่งถึงข้างในสถานที่สอบ วันนี้มีคนมาสอบสัมภาษณ์จำนวนมาก แต่ละคนต่างเตรียมข้าวของรกรุงรัง บางคนเตรียมเเฟ้มสะสมผลงาน เตรียมแผ่นพับนำเสนอตัวเอง ทั้งนี้ผมยังเห็นหลายคนกำลังตรวจสอบโปรแกรมนำเสนอในเครื่องอุปกรณ์คอมพิวเตอร์พกพาด้วย สีหน้าทุกคนจริงจัง สายตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น หลายคนมองผมด้วยสายตาแปลกๆ ก็เป็นธรรมดาที่ถูกมองแบบนี้ เพราะผมไม่ได้เตรียมตัวห่าเหวอะไรมาเลย ในใจผมยังคิดอยาก
ตอนที่ 7 มีเรื่อง เสียงทักทายของนักล่าในพื้นที่ตะโกนมาทางผม ชายผู้เป็นเจ้าของเสียงเดินกร่างเข้ามาหวังหาเรื่อง "ตี้นี้ไม่รับใครเพิ่ม ไปหาที่อื่นเลยชิ่วๆ ไอ้พวกชอบเกาะคนเก่ง" จากคำพูดเหมือนชายคนนันจะคิดไปเอง ผมจึงไม่สนใจเขา สายตาของผมมองไปที่จระเข้ยักษ์ที่กำลังขึ้นจากน้ำต่างหาก แต่เมื่อชายคนนั้นเห็นผมเมิน มันกลายเป็นว่าไปสะกิดต่อมโกรธของเขา ชายคนนั้นคว้าหมับเข้าที่ลำคอของผมแล้วออกแรงบีบ อันที่จริงผมสามารถหลบได้ไม่ยาก แต่ผมไม่อยากหลบ "เฮ้โทมัส อย่าแกล้งเด็กใหม่น่า ดูสิ เกราะก็ไม่ใส่ อาวุธก็ไม่มี ยังไงหมอนี่ก็สู้แรงค์ E กิฟต์พละกำลังอย่างนายไม่ได้หรอก" เสียงหญิงสาวคนหนึ่งเอ่ยด้วยท่าทีดูถูกดูแคลน "หึ ก็ไอ้หน้าอ่อนนี่มันกวนฉันนี่หว่า" "ผมกวนคุณยังไง" เสียงเรียบนิ่งของผมเอ่ย ชายชื่อโทมัสชะงักไปครู่หนึ่ง "ฮึ่ม ไอ้เด็กไม่รู้จักมารยาท ขอสั่งสอนให้มันหลาบจำสักหน่อย จะได้รู้ว่าไม่ควรหยามกับโทมัส" เสียงของโทมัสเอ่ยด้วยท่าทีเกรี้ยวกราด เขาทำให้ผมเป็นเป้าสายตาของนักล่าหลายคน แรงบีบของโทมัสเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล เส้นเลือดที่เเขนของเขาเด่นชัดมากขึ้นบ่งบ
ตอน 11 ขายซากแมงป่องทะเลสมาคมนักผจญภัยเป็นแหล่งพิทักษ์ภัยให้กับประชาชน และเป็นแหล่งสร้างรายได้ให้กับนักล่า สร้างความแข็งแกร่งให้กับประเทศวัตถุดิบจากซากสัตว์ประหลาดที่เหล่านักล่านำมาขายจะถูกนำไปชำแหละและบริหารจัดการโดยสมาคมแต่ละเเห่ง พวกเขาจะคัดเลือกและคัดกรองวัตถุดิบส่งไปยังรัฐหรือหน่วยงานต่างๆ เพื่อนำมันไปสร้างประโยชน์ต่อไป นี่เป็นข้อมูลคร่าวๆที่ผู้จัดการเล่าให้ผมฟัง เขาชี้ให้ดูอาวุธและชุดเกราะของเหล่านักล่าที่สวมใส่กัน"เกราะที่ดีจะมีน้ำหนักเบาและกันกระสุนได้ด้วย ราคาก็สูงตามคุณภาพ" ผู้จัดการนิวกล่าว ผมก็เข้าใจแบบเขา เกราะที่ดีจะมีน้ำหนักเบาและกันกระสุน แต่เท่าที่ดูพวกนักล่าสวมใส่ ผมว่ายังไม่ผ่านมาตรฐานด้วยซ้ำ ก็พอรู้บ้างว่าพวกมันทำมาจากซากสัตว์ประหลาดบางประเภท บางชุดก็ผสมผสานระหว่าวัตถุดิบของมนุษย์กับของสัตว์ประหลาด แต่มันจะกันกระสุนได้จริงๆเหรอนั่น"ดูขุดของคนนั้นสิ นั่นทำมาจากเกล็ดของจระเข้ยักษ์ที่ผ่านการยกระดับคุณภาพด้วยเทคโนโล
ตอนที่ 10 พบปะตระกูลบลูซี่ คนเราถ้าฝืนร่างกายจนเหนื่อยล้า ย่อมต้องหาเวลาพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เช่นนั้นประสิทธิภาพในการทำงานจะลดลง ตัวผมที่เดินทางมาถึงโรงเเรมก็รีบอาบน้ำแต่งตัวเข้านอนทันที การนอนหลับเป็นการพักผ่อนที่ดีที่สุด เมื่อใดที่เราหลับเต็มอิ่ม ร่างกายและจิตใจของเราจะรู้สึกสดชื่น ผมตื่นในเช้าของอีกวันพอดี ตื่นมาพร้อมกับความหิวจึงนำขนมปังซ็อกโกแลตกับนมฆ่าเชื้อออกมากินรองท้องก่อน จากนั้นก็เข้าห้องน้ำอาบน้ำแต่งตัวเสร็จสรรพ ผมออกจากโรงเเรม มุ่งหน้าไปยังสมาคมนักล่าสาขาคูบป้าบริส ผมเดินเข้าไปในอาคาร วันนี้รู้สึกว่ามีนักล่ามาคับคั่ง ทั้งที่ปกติมีแทบนับนิ้วได้ "สวัสดียามเช้าค่ะคุณโต๋" พนักงานต้อนรับเอ่ยทักทายผม "อ้อ สวัสดีครับ" "ขอรบกวนเวลาสักครู่ได้ไหมคะ ตอนนี้ผู้จัดการอยากพบคุณส่วนตัวค่ะ" พนักงานเอ่ย ผมพยักหน้า พบกับผู้จัดการก็ดี ผมจะได้ถามเรื่องแมงป่องทะเลด้วย อยากรู้ว่าทำไมมันถึงมีจำนวนมากมายมหาศาลขนาดนั้น มันเกือบทำให้ผมต้องเอาชีวิตไปทิ้งเลยนะ เอ่อ แม้ว่าจะเป็นเพราะผมประมาทเ
ตอนที่ 9 ทำภารกิจเช้านี้ผมตื่นมาด้วยความสดชื่นแจ่มใส หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จก็ออกไปรับประทานอาหารข้างนอก ผมเล็งภัตตาคารฮอตสตาร์ไว้ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว วันนี้เองจะได้ลองลิ้มรสอาหารทะเลที่นั่นบ้างถนนมีรถเเล่นมากมายหลายคัน ตรงทางเดินเท้ามีคนสัญจรว้าวุ่นอลม่านทั้งเหล่าหนุ่มสาววัยทำงานไฟแรง ทั้งเหล่านักล่าที่เเต่งตัวโดดเด่นกว่าคนอื่น ผมรู้สึกว่าวันนี้มีนักล่าเยอะกว่าเมื่อวานมากหลายเท่า พวกเขาอาจจะกำลังกลับมาจากการทำภารกิจล่าประจำวันของตนผมเรียกใช้บริการรถรับส่งแทนที่จะขี่จักรยานยนต์ เมื่อไปถึงภัตราคารฮอตสตาร์ก็ไม่รอช้าเดินเข้าไปด้านในพนักงานบริการเข้ามาต้อนรับ สอบถามว่าได้จองโต๊ะไว้ไหม เมื่อผมบอกว่าไม่ได้จองเขาก็พาไปยังโซนโต๊ะว่าง ผมกวาดสายตามองไปรอบๆที่นี่ตกแต่งสวยหรูอลังการมาก เมื่อพนักงานเอาเมนูอาหารมาให้ผมก็เลือกเมนูทะเลมาสามเมนู และเมนูเนื้อผัดซอสอีกหนึ่ง ขณะนั้นเองผมเห็นผู้คนทยอยเข้ามาอย่างคับคั่ง ครู่เดียวชั้นที่ผมนั่งก็ไม่มีโต๊ะว่าง บ่งบอกถึงความนิยมชมชอบ แตกต่างจากภัตราการคุณมิวที่อยู่ตรงข้ามราวฟ้ากับเหว"กุ้งมังกรราดซอส ปลาหมึกย่างสูตรพิเศษ ตุ๋นปลาทะเล และเน้ือผัดซอส" พน
ตอนที่ 8 สมาคมนักล่าสาขาคูป้าบริสเพี๊ยะ!"พี่ตบหน้าผมทำไม""แกยังไม่รู้ตัวอีกไอ้น้องเวร" เสียงของรองผู้จัดการสมาคมตะคอกใส่โทมัสอย่างเกรี้ยวโกรธ เขาโยนโทรศัพท์ที่มีคลิปวิดีโอคลิปหนึ่งให้โทมัสเมื่อโทมัสได้ดูจนจบสีหน้าก็เปลี่ยนไปซีดเผือด"นี่มันไม่จริง คลิปนี้เป็นของปลอมแน่ๆ" เสียงของโทมัสปฏิเสธไม่ยอมรับ "แกคิดว่าฉันโง่เหรอไง คลิปนี่ไม่ได้อัพโหลดโดยนักล่าเพียงคนเดียว แต่มันมากถึงสิบคน ถ้าแกดูคลิปต่อๆไป แกก็จะรู้เองว่านักล่าที่เเกบอกให้ฉันเล่นงานมันใจดีแค่ไหนที่ต่อยแกเพียงกรามหัก" เสียงของรองผู้จัดการเอ่ย โทมัสเลื่อนดูคลิปอื่นๆที่เกี่ยวข้อง สีหน้าของเขาซีดมากกว่าเดิม จัดการจระเข้ยักษ์ได้อย่างง่ายดายต่อยจระเข้ยักษ์มันจนเซล้มกระโดดข้ามจระเข้ยักษ์ครอบครองอาวุธที่มีอำนาจเจาะทะลุสูงสู้กับจระเข้ยักษ์เป็นฝูงโทมัสยิ่งเห็นความคิดเห็นของเหล่านักล่าที่วิพากษ์วิจารณ์ และหัวข้อใหญ่อีกประเด็นหนึ่งที่มีผู้เข้าชมเเสดงความคิดเห็นมากไม่เเพ้กัน/สมาคมสาขาxxxไร้ความเป็นธรรม/หัวข้อนี้มีคลิปการสนทนาของโต๋กับพนักงานเคาน์เตอร์ บทสนทนาพูดชื่อของรองผู้จัดการ/รองผู้จัดการทำไม่ถูก นี่เขาใช้อำนาจกลั่นแก
ตอนที่ 7 มีเรื่อง เสียงทักทายของนักล่าในพื้นที่ตะโกนมาทางผม ชายผู้เป็นเจ้าของเสียงเดินกร่างเข้ามาหวังหาเรื่อง "ตี้นี้ไม่รับใครเพิ่ม ไปหาที่อื่นเลยชิ่วๆ ไอ้พวกชอบเกาะคนเก่ง" จากคำพูดเหมือนชายคนนันจะคิดไปเอง ผมจึงไม่สนใจเขา สายตาของผมมองไปที่จระเข้ยักษ์ที่กำลังขึ้นจากน้ำต่างหาก แต่เมื่อชายคนนั้นเห็นผมเมิน มันกลายเป็นว่าไปสะกิดต่อมโกรธของเขา ชายคนนั้นคว้าหมับเข้าที่ลำคอของผมแล้วออกแรงบีบ อันที่จริงผมสามารถหลบได้ไม่ยาก แต่ผมไม่อยากหลบ "เฮ้โทมัส อย่าแกล้งเด็กใหม่น่า ดูสิ เกราะก็ไม่ใส่ อาวุธก็ไม่มี ยังไงหมอนี่ก็สู้แรงค์ E กิฟต์พละกำลังอย่างนายไม่ได้หรอก" เสียงหญิงสาวคนหนึ่งเอ่ยด้วยท่าทีดูถูกดูแคลน "หึ ก็ไอ้หน้าอ่อนนี่มันกวนฉันนี่หว่า" "ผมกวนคุณยังไง" เสียงเรียบนิ่งของผมเอ่ย ชายชื่อโทมัสชะงักไปครู่หนึ่ง "ฮึ่ม ไอ้เด็กไม่รู้จักมารยาท ขอสั่งสอนให้มันหลาบจำสักหน่อย จะได้รู้ว่าไม่ควรหยามกับโทมัส" เสียงของโทมัสเอ่ยด้วยท่าทีเกรี้ยวกราด เขาทำให้ผมเป็นเป้าสายตาของนักล่าหลายคน แรงบีบของโทมัสเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล เส้นเลือดที่เเขนของเขาเด่นชัดมากขึ้นบ่งบ
ตอนที่ 6 บรรจุ เสียงเครื่องจักรไฟฟ้าดังขึ้นต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ผมกำลังขุดพื้นลึก 1 เมตร ในพื้นที่กว้าง 10 ตารางเมตร จากนั้นทำการตอกเสาเข็มยี่สิบต้น ตามด้วยการเทปูนผสมลงไป เมื่อเทปูเสร็จก็นำหุ่นยนต์เอไอออกมา เป็นหุ่นยนต์สำหรับจัดการเกลี่ยพื้นให้ราบเรียบโดยเฉพาะ ผมเข้าบ้านไปอาบน้ำแต่งตัวนอนปล่อยให้หุ่นทำหน้าที่ของมันไป เมื่อทำเสร็จมันจะปิดการทำงานอัตโนมัติ ตื่นเช้ามาผมจัดการเตรียมเอกสารไปสัมภาษณ์ ก็มีเเค่บัตรประจำตัวประชาชน บัตรผู้สมัครสอบ แล้วก็เครื่องเขียนจำเป็น เมื่อตรวจสอบแล้วไม่มีอะไรผิดพลาดก็ไปอาบน้ำเเต่งตัวชุดสุภาพ โทรหาพี่คนขับรถบริการ อุดหนุนน้ำในมิติของเขาสองขวดพี่เขาก็ไปส่งถึงข้างในสถานที่สอบ วันนี้มีคนมาสอบสัมภาษณ์จำนวนมาก แต่ละคนต่างเตรียมข้าวของรกรุงรัง บางคนเตรียมเเฟ้มสะสมผลงาน เตรียมแผ่นพับนำเสนอตัวเอง ทั้งนี้ผมยังเห็นหลายคนกำลังตรวจสอบโปรแกรมนำเสนอในเครื่องอุปกรณ์คอมพิวเตอร์พกพาด้วย สีหน้าทุกคนจริงจัง สายตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น หลายคนมองผมด้วยสายตาแปลกๆ ก็เป็นธรรมดาที่ถูกมองแบบนี้ เพราะผมไม่ได้เตรียมตัวห่าเหวอะไรมาเลย ในใจผมยังคิดอยาก
ตอนที่ 5 วิวัฒนาการ อาหารภัตตาคารนั้นราคาแพง แต่รสชาติอร่อย เบื้องหน้าผมเป็นชุดเซตอาหารทะเล มีปลาทอดราดซอส กุ้งมังกรอบเนย ผัดปลาหมึกทะเล และรายการอื่นๆที่ผมไม่รู้จัก โต๊ะทั้งโต๊ะมีผมนั่งคนเดียว เหลียวเเลไปที่ไหนไม่เห็นใครเพราะเป็นห้องส่วนตัว ผมจึงลงมือรับประทานอย่างสบายใจจนท้องอิ่ม เมื่อพนักงานบริการเห็นว่าผมกินเสร็จแล้วเขาก็เชิญไปยังสถานที่อีกแห่ง มันคือห้องพัก ในห้องมีชุดนอนและเสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยนเตรียมให้พร้อมสรรพ มีกาน้ำร้อน ชุดชากาแฟสองชุด อุปกรณ์ตกแต่งห้องครบครัน ผมไม่รอช้าอาบน้ำอาบท่า เเต่งตัวเปลี่ยนเสื้อผ้า เปิดเครื่องปรับอากาศแล้วล้มตัวลงนอน ตื่นอีกทีคือตอนเช้าตรู่ ผมเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัวเปลี่ยนชุดเป็นชุดเดิมของผมเมื่อวาน จากนั้นก็มุ่งหน้าไปยังแผนกรับซื้อ ลุงเขาได้นำใบรายการมาให้ผม มันระบุชนิดสัตว์ทะเล ขนาด และราคารับซื้อกุ้งมังกรเจ็ดสี มี 4 ไซส์ คือ เล็ก กลาง ใหญ่ และใหญ่พิเศษ ไซส์เล็ก 160 กิโล รับซื้อกิโลละ 4000 รวมได้ 640,000 บาทไซส์กลาง 60 รับซื้อกิโลละ 5000 รวม 300,000 บาท ไซส์ใหญ่ได้เงิน 78,000 ส่วนใหญ่พิเศษได้ราคา 80,000 บาท นอกจ
ตอนที่ 4 วันสอบ การขายครั้งที่สองเป็นอย่างราบรื่น แม้หน้าของลุงแผนกต้อนรับจะไม่ค่อยชื่นมื่นเท่าไหร่ แกคงจะเครียดเรื่องงานไม่ก็ทางบ้าน ผมคิดแบบนั้น เมื่อขายกุ้งเสร็จผมก็ได้เงินมา 48,000 บาทถ้วน ผมไปซื้อข้าวแกงข้างทางกินหมดเงินไปหกสิบบาท รสชาติเค็มอีกต่างหาก หลังจากกินข้าวเสร็จก็กลับบ้านทันที เพราะผมยังคงต้องอ่านหนังสือสอบ ที่จริงก็ไม่อยากจะอ่านสักเท่าไหร่ เนื่องจากผมไม่ได้อยากเป็นครูหรือข้าราชการ เพราะมันไม่เหมาะกับผม ในโลกก่อนเองผมก็ไม่ได้เลือกเส้นทางสายการสอน แต่ชอบสายการสู้มากกว่า พูดถึงการสู้รบปรบมือ โลกก่อนเราไม่ค่อยมีสงครามระหว่างมนุษย์ด้วยกันเองแต่จะทำสงครามกับสิ่งมีชีวิตนอกโลกที่มารุกรานฆ่าฟันมนุษย์เราอย่างเหี้ยมโหดเสียมากกว่า จะว่าไปผมยังไม่ได้วิวัฒนาการร่างกายเลย ด้วยความอ่อนเเอในตอนนี้เกรงว่าแค่วิ่งร้อยเมตรก็หอบขึ้นคอแล้ว เมื่อผมกลับถึงบ้านผมค้นหนังสือในกระเป๋า มันเป็นหนังสือเพียงเล่มเดียวที่เพื่อนเนสยัดใส่กระเป๋าผม นอกเหนือจากนั้นก็เป็นเสื้อผ้ากับเอกสารสำคัญ ผมหยิบหนังสือมาเปิดอ่าน ผ่านไปครู่หนึ่งก็รู้สึกงุนงงกับการเตรียมพร้อมเนื้อหาสอบ "กฎหมาย
ตอนที่ 3 แหล่งทำเงิน สิ่งที่ผมเห็นคือปลาหลากหลายชนิด แม้กระทั่งกุ้ง กั้ง หมู่หมึกก็แหวกว่ายไปทั่ว บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของที่นี่อย่างยิ่ง ถ้าไม่ติดตรงที่มีจระเข้ตัวเขื่องเฝ้าอยู่ไม่ยอมห่างไปไหน "แสดงว่าชาวประมงที่นี่คงเก่งมากที่สามารถรอดชีวิตจากสัตว์ประหลาดนี้ได้ แล้วยังหาสัตว์ทะเลไปขายทำเงินได้อีก" ผมเอ่ยพลางมองไปยังฝูงสัตว์ทะเลที่มีจระเข้ยักษ์เฝ้าอยู่ ดูแล้วไม่น่าเข้าใกล้เลยแม้แต่นิด ของอันตรายอยู่ตรงหน้า ถ้าจะให้ผมเอาเรือลงทะเลหาปูหาปลาคงเป็นไปได้ยาก แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีวิธีการ ผมคิดว่าจะลองตกปลาด้วยเบ็ดดู ถ้าทดลองแล้วได้ผลดีก็จะใช้วิธีนี้ มันอาจหาได้ไม่เยอะเท่าลงเรือ แต่ก็น่าจะปลอดภัยกว่า อีกอย่างผมไม่ได้ต้องการพวกมันจำนวนมากเสียหน่อย ตกเอาเเค่ตัวที่มีชีวิตสักสองสามตัวให้มันดิ้นไปมาพอเป็นพิธี เพื่อยืนยันให้เหล่าคนรับซื้อเข้าใจว่าผมได้จับจากทะเลจริง คิดได้ดังนั้นก็หาทำเลเป็นเเถวโขดหิน ผมค้นหาเบ็ดครู่หนึ่ง เลือกคันที่เหมาะมือ นอกจากนี้ผมได้เลือกเหยื่อปลากับเหยื่อกุ้งมาด้วย เหวี่ยงคันเบ็ด รอปลากินเหยื่อ ครู่เดียวก็ได้มาแล้วหนึ่งตัว เป็นปลากะพงขาวน้ำห