ตอน 11 ขายซากแมงป่องทะเล
สมาคมนักผจญภัยเป็นแหล่งพิทักษ์ภัยให้กับประชาชน และเป็นแหล่งสร้างรายได้ให้กับนักล่า สร้างความแข็งแกร่งให้กับประเทศ
วัตถุดิบจากซากสัตว์ประหลาดที่เหล่านักล่านำมาขายจะถูกนำไปชำแหละและบริหารจัดการโดยสมาคมแต่ละเเห่ง พวกเขาจะคัดเลือกและคัดกรองวัตถุดิบส่งไปยังรัฐหรือหน่วยงานต่างๆ เพื่อนำมันไปสร้างประโยชน์ต่อไป นี่เป็นข้อมูลคร่าวๆที่ผู้จัดการเล่าให้ผมฟัง เขาชี้ให้ดูอาวุธและชุดเกราะของเหล่านักล่าที่สวมใส่กัน
"เกราะที่ดีจะมีน้ำหนักเบาและกันกระสุนได้ด้วย ราคาก็สูงตามคุณภาพ" ผู้จัดการนิวกล่าว ผมก็เข้าใจแบบเขา เกราะที่ดีจะมีน้ำหนักเบาและกันกระสุน แต่เท่าที่ดูพวกนักล่าสวมใส่ ผมว่ายังไม่ผ่านมาตรฐานด้วยซ้ำ ก็พอรู้บ้างว่าพวกมันทำมาจากซากสัตว์ประหลาดบางประเภท บางชุดก็ผสมผสานระหว่าวัตถุดิบของมนุษย์กับของสัตว์ประหลาด แต่มันจะกันกระสุนได้จริงๆเหรอนั่น
"ดูขุดของคนนั้นสิ นั่นทำมาจากเกล็ดของจระเข้ยักษ์ที่ผ่านการยกระดับคุณภาพด้วยเทคโนโลยีของประเทศ มันทนทานและกันกระสุนได้เยี่ยมเลยล่ะ เวลาพวกเขาออกล่า เกราะนั่นจะช่วยรับการโจมตีที่รุนเเรงของสัตว์ประหลาดได้" ผู้จัดการเริ่มขายเห็ดลม
"มันจะกันกระสุนได้จริงๆเหรอครับ ผมว่ากระดองแมงป่องทะเลมันมีประสิทธิภาพมากกว่าเกล็ดจระเข้ยักษ์นะ" ผมแสดงความเห็น ผู้จัดการนิวพยักหน้าเห็นด้วย
"นั่นก็ใช่ครับ แต่แมงป่องทะเลมันเก็บซากยาก ชายหาดที่ใกล้สมาคมของเราก็มีพวกมันด้วยนะ มีสิบตัวนี่เเหละครับ แต่ก่อนรัฐบาลกับนักล่าแนวหน้าได้มาล่าพวกมัน และได้ซากไปหนึ่งตัว เขารายงานผมว่าแมงป่องทะเลที่นี่มีสิบสองตัว พวกมันเป็นประเภทรักเพื่อน ถ้าเราโจมตีมัน เหล่าเพื่อนก็จะมาร่วมวงทุกตัว ทำให้การล่าเป็นไปได้ยาก นอกจากนี้มันยังโจมตีเร็ว แถมหางก็มีพิษถึงตาย พวกรัฐจัดการได้เพียงสองตัว แต่นำซากออกมาได้เพียงตัวเดียว พวกเขาสูญเสียพลรบไปหลาสิบคน และสูญเสียนักล่าแนวหน้าไปถึง 4 คน หลังจากล่าถอยได้สำเร็จ พวกเขาก็ปล่อยให้พวกมันกลับไปใต้ทรายเพื่อจะได้ไปเก็บซากอีกตัวพร้อมกับเก็บศพเพื่อนรบ แต่ปรากฏว่าแมงป่องทะเลมันลากทุกอย่างไปด้วย" ผู้จัดการกล่าว ผมเพียงพยักหน้า
"แล้วพวกเขาก็ไม่มาที่นี่อีกเลย แต่ก็ใช่ว่าจะไม่หยุดล่าแมงป่องทะเลนะ แต่พวกรัฐเลือกที่จะโจมตีพื้นที่ที่มีแมงป่องไม่เกินห้าตัว และจากข้อมูลที่ผมได้รับ แมงป่องทะเลมีราคาที่สูง เพราะทุกส่วนของมันนำไปใช้ประโยชน์ได้หมด กระดองของมันก็นำไปทำอุปกรณ์ชั้นเลิศได้ พิษของมันยิ่งไม่ต้องถามถึง มันสามารถนำไปต่อยอดได้ไม่สิ้นสุด" ผู้จัดการนิวพูดแล้วหยุดกลืนน้ำลาย
"ผมว่าชายหาดที่คุณพูดถึงมันไม่ได้มีแมงป่องแค่สิบตัวนะครับ ข้อมูลนี้คุณนิวได้มาเมื่อไหร่เหรอครับ"
"สองปีก่อนน่ะครับ ก็หลังจากนั้นไม่มีใครย่างกรายไปที่นั่นอีกเลยนี่ครับ พวกเขาต่างพูดเสียงเดียวว่าขนาดรัฐที่มีกำลังพลและนักล่าแนวหน้ายังพ่ายเเพ้ แล้วนักล่าปลายเเถวเล่นพวกเขาคงได้แต่เอาชีวิตไปทิ้ง พวกเขาก็เลยเลือกไปล่าที่อื่นแล้วมาส่งภารกิจที่นี่ แต่ตอนนี้แทบไม่เหลือแล้ว ไม่สิ สองสามวันมานี้ที่สมาคมกลับมาครึกครื้นขึ้น มันเป็นเพราะคุณโต๋เลยนะครับ แต่นั่นก็ไม่มีใครกล้าไปล่าอยู่ดี" ผู้จัดการนิวเอ่ยชมผม
"ห่ะ ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะครับ" ผมว่าผู้จัดการมัวนิ่มแน่เลย สองสามวันมานี้ผมไม่ได้ไปโปรโมทอะไรให้สมาคมเลยนี่
"แหม คลิปวีดีโอเกี่ยวกับคุณออกจะโด่งดังและเป็นกระเเสอันดับหนึ่งในนครนิวมอร์กของเรา ทั้งเรื่องความแข็งแกร่ง เรื่องภัตราคารฮอตสตาร์ก็ด้วย คุณรู้ไหมว่าตอนนี้ภัตราคารฮอตสตาร์เริ่มซบเซาหลังทำเรื่องห้ามคุณไปใช้บริการ ผมนี่โคตรสะใจเลยครับ" ผู้จัดการนิวเอ่ย
"เรื่องภัตราคารนั่นก็พอเข้าใจ แต่ผมแทบไม่ได้ทำอะไรเลยนะ แค่นั่งให้เขาด่าเอง" ผมพูด ผู้จัดการนิวหัวเราะร่า ผมไม่อยากต่อบทสนทนาที่น่าอายจึงกวาดมองสายตาไปรอบๆ วันนี้พนักงานบริการร่าเริงกว่าทุกครั้ง พวกเขาสวมชุดใหม่กันด้วยเเฮะ
"บรรยากาศเปลี่ยนไปเยอะเลยนะครับ"
"นี่ก็ต้องขอบคุณคุณโต๋อีกเช่นกันครับ" ผู้จัดการนิวพูด
"ผมไปทำอะไรให้อีกนั่น" ผมถามในสิ่งที่ผมสงสัย
"ก็ซากจระเข้ยักษ์ที่คุณขายให้สมาคมของผมไงครับ เมื่อเราส่งไปยังรัฐ เขาจะคำนวณคุณภาพอีกรอบและให้ค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมถึงโบนัสมายังทางสมาคม พนักงานก็พลอยได้รับประโยชน์ไปด้วย เเละถ้าพวกเรามีวัตถุดิบส่งต่อเนื่องทางรัฐจะดำเนินการอัพเกรดสมาคมให้ด้วยครับ" ผู้จัดการนิวพูดด้วยท่าทีตื่นเต้น
"อ้อ แบบนี้นี่เอง เข้าใจเเล้วครับ ว่าแต่ทางสมาคมจะรับซากของแมงป่องทะเลไหมครับ เมื่อวานผมได้มันมาจำนวนหนึ่ง" ผมพูด ถ้าไม่เข้าประเด็นขายของวันนี้ผมคงไม่ได้ไปไหนแน่ ผู้จัดการได้ฟังก็ชะงัก
"คุณโต๋คงไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหมครับ"
"ผมเคยล้อเล่นด้วยเหรอครับ"
"จะ จริงเหรอครับ คุณมีซากแมงป่องทะเลจริงเหรอครับ ว้าว ราคามันแพงมากเลยนะครับ ไปๆๆ ไปทำเรื่องซื้อขายกันเถอะครับ" เขาไม่พูดเปล่า แต่ลากผมไปด้วย
ด้านนักล่า หลังจากผมถูกผู้จัดการลากไป
"มึงได้ยินเมื่อกี้ไหม"
"เออ เต็มสองรูหูกูเลย เราลองไปดูที่ชายหาดไหม ถ้าเป็นอย่างที่พูดจริงก็น่าจะมีอะไรให้เราเก็บติดไม้ติดมือมาบ้าง"
"ไปๆๆ"
"ไปด้วยๆ"
"วันนี้จะไม่ไปทำภารกิจที่อื่นเเล้ว ตูจะไปดูชายหาดคูป้าบริส"
ผู้จัดการนิวยืนมองซากเบื้องหน้าอ้าปากค้าง เหล่าพนักงานชำแหละต่างพูดอะไรไม่ออกเพราะสิ่งที่เห็นคือซากแมงป่องตัวละ 500,000 เครดิต ถ้าตีเป็นเงินประเทศหลักก็ราว 20 ล้านบาท
ที่ราคามันสูงขนาดนี้ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะหางพิษที่สามารถนำไปสกัดยาปฏิชีวนะรักษาโรคที่หายยากได้ แต่ถ้าส่วนหางไม่ครบคู่ราคาก็จะลดลงไปอย่างมาก เรียกง่ายๆว่าแค่หางของมันหางเดียวก็ราคาเเพงกว่าจระเข้ยักษ์ทั้งตัว ไม่ต้องคิดว่าตัวหนึ่งมีสองหางจะได้ราคาเท่าไหร่
การชำเเหละแมงป่องนั้นไม่ได้ยากเลย แค่ใช้มีดเล็กแหลมล้วงเข้าไปในช่องว่างเล็กๆของเปลือกแล้วกรีดเปิดทางเป็นส่วนๆ แต่การจัดการฆ่ามันนี่สินับว่าเป็นเรื่องยาก แม้คุณจะรู้จุดอ่อนของมันแต่คุณก็คงไม่สามารถเข้าไปใกล้เเล้วจ้วงมีดแทงปล้องมันเพื่อแยกส่วนเหมื่อนการชำแหละ แต่อย่าลืมว่าคุณต้องเร็วกว่าหางหรือขาของมันที่พุ่งเข้าโจมตีอย่างคาดเดาทิศทางไม่ได้
พนักงานคำนวณราคาด้วยมือที่สั่นเครือ ฝ่ายนับก็พยายามหาชิ้นส่วนของมันมาเรียงให้ครบเป็นตัวๆ คิดว่าคงอีกนานพอสมควรจึงจะเสร็จ
ทำไมผมถึงคิดแบบนั้นเหรอ ก็เพราะแมงป่องมันมีร้อยกว่าตัวไงล่ะ ผมคงไม่รอที่สมาคมจนกว่าพวกเขาจะนับเสร็จหรอก จึงตัดสินใจขอตัวกลับโรงเเรมไปพักผ่อน
พรุ่งนี้ผมกะว่าจะส่งวัตถุดิบจากทะเลให้ภัตราคารของคุณมิวแล้วค่อยไปรับเงินที่สมาคม จากนั้นก็คิดว่าอยากจะล่าฉลามดู ครั้งนี้ผมจะใส่เกราะไปด้วยเผื่อเจอแมงป่องรุมกระทืบอีก
เรื่องหนี้สินก็ไม่ต้องห่วงเเล้ว แต่สิ่งที่ห่วงคือแม่จะมีฟีดแบ็คยังไงเมื่อรู้ว่าผมเป็นนักล่า และหาเงินใช้หนี้ได้ในเวลาไม่ถึงเดือน แม้ว่าหนี้สินพวกนั้นจะไม่ใช่ของตัวเองก็เถอะ เฮ้อ เพราะผมโง่แท้ๆ เลยต้องลำบากหาเงินจ่ายค่าของให้คนอื่น ส่วนพ่อผมก็อาจจะเป็นเพราะไว้ใจคนรู้จักก็เลยลงเอยอย่างที่เห็น ผมอยากรู้จริงๆ ว่าถ้าเราหาเงินจ่ายให้เขา แล้วเราควรมีสิทธิ์ครอบครองกรรมสิทธิ์เหล่านั้นด้วยไหม
โลกก่อนของผมก็มีการค้ำประกันเหมือนกัน แต่จะมีกฏหมายบังคับว่าถ้าเจ้าของหนี้ไม่จ่ายหรือเบี้ยวจนเป็นเหตุให้คนค้ำต้องจ่ายแทน กรรมสิทธิ์จะเป็นของคนค้ำตามเปอร์เซ็นต์ที่จ่ายไป เช่นเจ้าของหนี้ซื้อบ้าน เราค้ำบ้านให้ แรกๆก็จ่ายไปจนเหลือหนี้ครึ่งหนึ่ง แล้วเขาเสือกเบี้ยวจนเราต้องไปจ่ายแทนมันในครึ่งหลัง เราก็จะมีกรรมสิทธิ์ในบ้านหลังนั้นครึ่งหนึ่ง ถ้าหากเจ้าของหนี้ไม่เอาเงินมาจ่ายคืนเรา ทางหน่วยงานจะดำเนินการจัดสรรแบ่งส่วนตามกฏหมายทันทีโดยที่เจ้าของหนี้ไม่มีสิทธิแย้ง
ถ้าเป็นที่ดินเราจ่ายให้เจ้าของหนี้แค่ไหนเราก็จะได้ตามสัดส่วนนั้นๆ แต่หากเป็นสิ่งของชิ้นเดียวที่ไม่สามารถแบ่งได้ก็จะถูกนำไปขายทอดตลาดแล้วแบ่งเงินตามสัดส่วน ซึ่งกรณีที่เป็นสิ่งของเราอาจขาดทุน เมื่อเทียบกับเงินที่จ่ายไปเพราะราคามันตกแต่ก็ดีกว่าไม่ได้ห่าอะไรคืนมาเลย
แล้วโลกพระจันทร์สองดวงไม่เป็นแบบนั้นนี่สิ มันกลายเป็นคนค้ำจ่ายส่วนคนซื้อได้ของไป ถ้าตกลงกันได้ก็ดีไป แต่ถ้าตกลงไม่ได้เราก็จะไม่มีสิทธ์ห่าเหวตะเหลวแหมดอะไรเลย เหมือนโดนบังคับให้เอาเงินที่หามาลำบากไปโยนทิ้ง
คิดแล้วก็ปวดใจจึงไปอาบน้ำแต่งตัว ผมเลือกกนมช็อกโกแลตกับขนมปังโกโก้ในมิติมากินให้ท้องอิ่ม ที่จริงในมิติมีอาหารทุกประเภทนะ แต่ผมอยากกินนมช็อกโกแลต หลังจากกินเสร็จก็ล้มตัวลงนอนทันที พรุ่งนี้ค่อยว่ากันต่อ
เช้าวันถัดมา
ผมเดินทางมาที่ภัตราคารคุณมิว ครั้งนี้พนักงานทุกคนรู้จักหน้าตาของผมแล้ว แม้แต่คนที่ผมไม่คุ้นหน้าเขายังรู้จักผมว่าซ่าน ผมถูกเชิญให้ไปห้องวีวีไอพีที่มีอาหารทะเลเต็มโต๊ะ
"นี่เป็นบริการพิเศษสำหรับคุณโต๋ คุณสามารถสั่งเพิ่มเติมได้ หากต้องการสิ่งใดเรียกพวกเราได้ตลอดค่ะ" พนักงานเอ่ย ผมมองอาหารที่โต๊ะที่กินสิบคนก็ไม่หมด แล้วจะให้ผมสั่งเพิ่มอีกทำไมเล่าคุณพี่คร้าบ
ขณะที่คิดว่าจะได้กินคนเดียว คุณมิวกับผู้จัดการนิวก็เข้ามา เอ่อ แล้วคุณผู้นำตระกูลก็มาด้วยเเฮะ แต่งตัวโคตรเนี๊ยบ มาดทรงเจ้าพ่อมาเฟียใหญ่เลยนะนั่น
"สวัสดียามเช้าครับคุณโต๋" ผู้นำอะกูลเอ่ย เขาดูไม่เหมือนคนป่วยติดเตียงเเล้ว จะว่าไปก็ไม่แปลกเท่าไหร่ถ้าได้รับยาวิวัฒนาการระดับทหารเข้าไป
"สวัสดียามเช้าเช่นกันครับ"
"ยานั่นทำให้ผมรู้สึกเหมือนเกิดใหม่เลย เหมือนว่าร่างกายจะแข็งแรงกว่าตอนหนุ่มๆเสียอีก นี่ผมไม่ได้พูดเกินจริงนะครับ" ผู้นำตระกูลเอ่ย เขาเชิญผมนั่งเก้าอี้ ผมก็ทำตามมารยาท ผู้นำเลือกกนั่งเก้าอี้ข้างผม คุณผู้จัดการนิวก็นั่งอีกข้าง ส่วนคุณมิวนั่งถัดออกไป
"นี่เป็นสัญญาครับ หุ้น 25% ในเครือตระกูลของผมทั้งหมด และข้อกำหนดในการรับวัตถุดิบ ราคาวัตถุดิบก็จะอ้างอิงให้สูงกว่าราคาตลาด แล้วก็เรื่องอื่นๆ" ผู้นำตระกูลไม่พูดเปล่าเขาเปิดเอกสารให้ผมดูพร้อมอธิบายทีละเเผ่น
"ไม่ใช่หุ้น 20% เหรอครับ"
"ผมเพิ่มให้ครับ เรื่องนี้ผ่านการคิดมาอย่างรอบคอบเเล้ว อีกอย่างตอนนี้ผมไม่ได้หมดสภาพเหมือนแต่ก่อน จึงสมารถกลับมาบริหารบริษัทเครือตระกูลได้เต็มที่ หุ้น 25% ถือว่าน้อยไปด้วยซ้ำ ในอนาคตผมจะเพิ่มให้อีกครับ" ผู้นำตระกูลอธิบาย ผมส่ายหน้า
"ไม่ต้องเพิ่มก็ได้ครับ ผมไม่ได้ต้องการมากขนาดนั้น ยังไงผมก็แทบไม่ได้ลงทุนอะไรกับพวกคุณเลย ก็แค่คนขายวัตถุดิบขี้โลภคนหนึ่งก็เท่านั้น" ผมกล่าว
"คุณไม่เป็นแบบนั้นหรอกครับ ที่พวกเรามีตอนนี้ได้เพราะคุณ จะบอกว่าคุณมีส่วนช่วยตระกูลของเรามากกว่าเงินลงทุนอีกนะครับ" ผู้นำตระกูลพูด ผมไม่ขัดเพราะสีหน้าพี่แกจริงจังมาก จึงอ่านสัญญาอีกรอบ เมื่อไม่มีอะไรผิดปกติก็เซ็นเอกสาร
"เรื่องส่งวัตถุดิบ ผมจะมาส่งที่นี่นะครับ เดือนละครั้งน่าจะพออยู่ สำหรับ 120 ภัตราคาร"
"คุณโต๋ยังไม่ต้องส่งเยอะขนาดนั้นก็ได้ครับ ในสัญญาไม่ได้ระบุว่าต้องส่งมากแค่ไหน แค่คุณส่งสำหรับ 10 ภัตราคารก็เพียงพอแล้วครับ ส่วนในอนาคตคุณโต๋จะเพิ่มก็ทำได้เต็มที่ครับ ผมบอกตามตรงว่าตอนนี้เราเปิดภัตราคารได้สูงสุดแค่ 10 แห่งเท่านั้น แต่อีกไม่นานน่าจะขยับจำนวนขึ้นครับ" ผู้นำตระกูลเอ่ย จากนั้นพวกเราก็พูดคุยระหว่างรับประทานอาหารไปด้วย ผมกินจนอิ่มแปล้เลย เงินค่าอาหารก็ไม่เสียสักเหรียญด้วย
วัตถุดิบจากทะเลที่ผมมาขายครั้งแรกนั้นไม่รับเงิน เพราะถือเป็นค่าลงทุน แต่วัตถุดิบวันนี้นั้นแตกต่างกัน มันไม่ได้มาจากทะเลแต่มาจากมิติ
พวกเราไปยังห้องคัดแยกวัตถุดิบ ตอนนี้มีบ่อพลาสติก 10 ตารางเมตรจำนวน 20 บ่อ ผมว่ามันมีน้อยเกินไป
"มีบ่อรองรับแค่นี้เหรอครับ" นี่เป็นคำถามของผม ผู้นำตระกูลพยักหน้า
"สำหรับตอนนี้ขอจำกัดปริมาณแค่ 20 บ่อก่อนครับ แต่ถ้าคุณโต๋อยากจะขายมากกว่านี้ก็ได้ครับ เดี๋ยวผมจะเก็บในมิติผมเอง" ผู้นำตระกูลกล่าว ผมมองเขา
"มิติของผมเก็บสิ่งมีชีวิตได้ มันเป็นบาเรียโล่งๆที่กว้างมาก เเต่เวลามันผ่านช้ามาก จึงไม่สามารถเพาะเลี้ยงสิ่งมีชีวิตได้ อีกอย่างมิติผมมันมีข้อจำกัดคือผมสามารถอยู่ในนั้นได้วันละหนึ่งชั่วโมง แต่ก่อนก็เคยทดลองเอาคนเข้าไปด้วยหลายสิบคน พอหมดเวลาผมก็เด้งออกมาคนเดียว แต่เมื่อเข้าไปอีกครั้งในวันถัดไป คนที่อยู่ข้างในยังมีชีวิตอยู่ พวกเขาบอกว่าผมหายไปและเดินเข้าช่องมิติมาอีกครั้งในเสี้ยววิ จากนั้นก็ทดลองอีกโดยปล่อยคนอยู่ในนั้นหนึ่งเดือน โดยที่ผมไม่เรียกใช้มิติเลย พอเข้าไปอีกครั้ง คนข้างในก็พูดว่าผมหายไปแล้วเปิดช่องมิติเข้ามาในเสี้ยววิเช่นกัน อาหารเครื่องดื่มที่เตรียมให้ยังไม่ทันได้แตะแม้เเต่นิด ด้วยเหตุนี้จึงไม่สามารถเพาะเลี้ยงสัตว์ได้เลยครับ" ผู้นำตระกูลสาธยายยาวเหยียด เอาจริงๆแค่พูดว่ามีมิติที่เก็บสิ่งมีชีวิตได้ก็จบแล้วเปล่านั่น แต่ดูจากสีหน้าเขาคงอัดอั้นตันใจที่มีมิติแล้วดันเลี้ยงสิ่งมีชีวิตไม่ได้ ผมก็ไม่รู้ว่าเป็นข้อดีหรือข้อเสีย แต่สำหรับนักธุรกิจร้านอาหาร ไม่ใช่สิ ภัตราคารอาหารที่ต้องใช้วัตถุดิบจำนวนมากเเล้วคงเป็นข้อเสียมั้งนะ
"แบบนั้นคงไม่ต้องห่วงว่าสัตว์ทะเลจะตายสินะครับ งั้นเดี๋ยวผมเอากุ้งออกมาก่อนแล้วกันนะครับ" ผมคิดจุดที่มีบ่อกุ้งหลากชนิดในมิติ มันก็ปรากฏออกมาให้เห็น ผมลากบ่อออกมาแต่มันดันเป็นช่องสีแดงคือไม่สามารถวางได้เพราะพื้นที่ไม่พอ
อะไรเนี่ยผมไม่เข้าใจ ห้องนี้มันโคตรกว้างเลยนะแล้วพื้นที่จะไม่พอได้ยังไง แค่บ่อในมิติบ่อเดียวเองนะ
"คุณผู้นำตระกูล ผมว่าลองใช้พื้นที่มิติคุณเลยไหม ผมอยากลองเอาไปไว้ในนั้น" ฟังดูอาจเป็นคำขอเห็นแก้ตัว แต่ผู้นำตระกูลไม่ได้ปฏิเสธ เขาเปิดช่องมิติให้พวกเราเข้าไป พื้นที่มิติของผู้นำตระกูลกว้างมาก ในนี้มีของหลายอย่างที่เขาเก็บสะสมไว้ ผู้นำตระกูลพาไปพื้นที่โล่งๆ ผมก็ลากบ่อกุ้งออกมา ปรากฏว่ามันลึกกว่าสามสิบเมตร บ่ออะไรกว้างแค่ไม่กี่เมตรแต่ลึกสามสิบเมตรเนี่ยนะ ถ้าคนตักตกลงไปไม่ดำดิ่งสิ้นชีพมลายสูญเลยเหรอ แต่จะว่าไปในห้างมีเอไอติดตามตลอดเวลา เหมือนผมจะเคยเห็นคนตกบ่อกุ้ง เหล่าหุ่นยนต์เอไอก็จะพุ่งเข้ามาช่วยอย่างรวดเร็ว คงไม่อันตรายมั้ง
แล้วนี่ก็เป็นมิติชั้นแรกเลยด้วย ผมว่าที่มันติดแดงเป็นเพราะความสูงของห้องคัดแยกวัตถุดิบภัตราคารสูงไม่พอแน่เลย แต่ในมิติของผู้นำตระกูลทำได้ เพราะความสูงของมิติเท่าท้องฟ้าเลย บ่อกุ้งปรากฏออกมาให้ทุกคนได้เห็น
ซูม!
"โอ้มายโครนอส" ผู้นำตระกูล
"โอชิท" คุณผู้จัดการ
"เห้ย เชี่ยไรวะ" ผมอุทานลั่น ไม่ใช่ตกใจที่บ่อลึก ไม่สิเมื่อเอามาวางในมิติผู้นำตระกูลมันกลายเป็นสูงจนต้องเเหงนดูเเทน
แต่มาเข้าเรื่องที่ผมตกใจก่อน แทนที่เมื่อนำบ่อออกมาแล้วมันจะต้องออกมาทั้งบ่อสิ แต่นี่มันออกมาแต่กุ้ง แล้วพวกเราก็ระเนระนาดล้มกลิ้งกันกลางดงกุ้ง และที่ผมตกใจอีกคือเเทนที่บ่อในมิติของผมตรงจุดที่ผมลากออกมาจะว่างเปล่า แต่นี่อะไรจู่ๆก็มีกุ้งชุดใหม่ค่อยๆว่ายขึ้นมาจากด้านล่างมาเเทนชุดเดิมที่หายไป
"เห้ย ทีนมซ็อกโกแลตไม่เห็นจะมีกล่องใหม่มาแทนที่เลย นั่นของโปรดเราเลยนะ" ผมอุทานเองระหว่างปัดกุ้งออก แต่คิดอีกทีก็ไม่ติดใจเรื่องนมช็อกโกแลตดีกว่า เพราะต่อให้ผมกินทั้งชาติมันก็ไม่หมดชั้นอยู่แล้ว
"ผมว่าเราจะไปเปลี่ยนชุดหรือเอาวัตถุดิบออกมาต่อดีครับ" ผมเอ่ยความเห็นให้เลือก
...........
ตอนที่ 1 ทะลุมิติ วันที่ทราบข่าวว่าปืนรุ่นใหม่ออกวางจำหน่ายที่ห้างสรรพสินค้าอันดับหนึ่งของโลก ห้างที่มีขายทุกอย่างต้องแต่ดินก้อนเล็กไปจนถึงยานรบสงคราม สถานที่ตั้งอยู่ติดทะเลตัวห้างกินพื้นที่หลายกิโลเมตร ในแต่ละวันมีผู้คนเข้าไปจับจ่ายซื้อของนับแสนคน ตั้งเเต่ประชาชนคนธรรมดาไปจนถึงผู้นำประเทศ หากเป็นชั้นขายสินค้าธรรมดาทั่วไปทุกคนสามารถเข้าถึงได้ แต่หากเป็นสินค้าที่มีคุณภาพสูงตั้งแต่อุปกรณ์การทดลอง อาวุธสงคราม หรือสินค้าที่อาจก่อให้เกิดหายนะ ผู้ซื้อจะต้องมีระดับใบอนุญาตเฉพาะที่จะเข้าชั้นนั้น ๆ ได้ ซึ่งผมก็มีมันอยู่พอสมควร แม้จะไม่สามารถซื้อยานบินรบแบบผู้นำประเทศได้แต่ก็ยังสามารถซื้ออาวุธสงครามที่ระดับรองลงมาอย่างเช่นปืนรุ่นใหม่ที่วางอยู่บนชั้นคริสตัลเบื้องหน้า ก่อนที่ผมจะหยิบปืนตัวอย่างมาทดสอบดู จู่ ๆ เบื้องหน้าก็ปรากฏจุดแสงสีรุ้งขึ้น ด้วยความสงสัยจึงเอื้อมมือไปหยิบ แสงนั้นพุ่งเข้าร่างกายผม ตอนนั้นเองภาพทุกอย่างเบื้องหน้าก็มืดดับลง.......ณ สถานที่อันห่างไกล "ไอ้โต๋ ตื่นๆๆ ถึงที่หมายเเล้วโว้ย" เสียงของเนสเรียกผมให้ตื่นจากการหลับใหลบนรถยนต์มือสองของเขา "ของีบอี
ตอนที่ 2 ระบบอำนวยความสะดวกติ้ง! เสียงบางอย่างดังขึ้นในหัวของผมพร้อมกับปรากฏหน้าจอโฮโลแกรมขึ้นเบื้องหน้า /ใช้เสียงหรือพิมพ์ในสิ่งที่ต้องการค้นหา/ ผมมองไปยังจอโปร่งใสกลางอากาศ สิ่งนี้ปรากฏโดยไม่ผ่านแว่นหรืออุปกรณ์เชื่อมภาพเสมือน มันดูแปลกประหลาดเกินไป แต่ถึงเป็นเช่นนั้นผมก็ป้อนข้อมูลผ่านคีย์บอร์ดที่ปรากฏอักษรแป้นพิมพ์กลางอากาศ /สิ่งที่ต้องการค้นหาคือเครื่องจักรปรับหน้าดิน กรุณากดยืนยันอีกครั้ง/ ผมกดยืนยันอีกครั้งไม่นานภาพเบื้องหน้าก็ปรากฏเครื่องจักรปรับหน้าดินในมิติที่ซ้อนทับกับโลกจริง /กดลากสิ่งที่ต้องการซ้อนทับพื้นที่ปัจจุบัน/ เมื่อเสียงเเจ้งดังขึ้นผมลองเลือกรถไถปรับหน้าดินพลังงานไฟฟ้าคันหนึ่ง กดตรงตัวรถแล้วลากออกมา ภาพที่เห็นจะเป็นภาพเสมือนของรถ เมื่อเอามาซ้อนทับพื้นที่ปัจจุบันจะปรากฏตารางให้เห็น สีเขียวคือสามารถวางได้เลย แต่ถ้าเป็นสีเเดงหมายถึงวางไม่ได้ ต้องหาตำเเหน่งใหม่ เมื่อตารางเป็นสีเขียวผมก็ปล่อยมือทันที /กดยืนยันหรือพูดคำว่ายืนยัน/ "ยืนยัน" ครั้งนี้ผมเลือกพูดออกมาครืน! เครื่องจักรปรับหน้าดินปรากฏทันที ด้วยน้ำหนักของมันทำให้
ตอนที่ 3 แหล่งทำเงิน สิ่งที่ผมเห็นคือปลาหลากหลายชนิด แม้กระทั่งกุ้ง กั้ง หมู่หมึกก็แหวกว่ายไปทั่ว บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของที่นี่อย่างยิ่ง ถ้าไม่ติดตรงที่มีจระเข้ตัวเขื่องเฝ้าอยู่ไม่ยอมห่างไปไหน "แสดงว่าชาวประมงที่นี่คงเก่งมากที่สามารถรอดชีวิตจากสัตว์ประหลาดนี้ได้ แล้วยังหาสัตว์ทะเลไปขายทำเงินได้อีก" ผมเอ่ยพลางมองไปยังฝูงสัตว์ทะเลที่มีจระเข้ยักษ์เฝ้าอยู่ ดูแล้วไม่น่าเข้าใกล้เลยแม้แต่นิด ของอันตรายอยู่ตรงหน้า ถ้าจะให้ผมเอาเรือลงทะเลหาปูหาปลาคงเป็นไปได้ยาก แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีวิธีการ ผมคิดว่าจะลองตกปลาด้วยเบ็ดดู ถ้าทดลองแล้วได้ผลดีก็จะใช้วิธีนี้ มันอาจหาได้ไม่เยอะเท่าลงเรือ แต่ก็น่าจะปลอดภัยกว่า อีกอย่างผมไม่ได้ต้องการพวกมันจำนวนมากเสียหน่อย ตกเอาเเค่ตัวที่มีชีวิตสักสองสามตัวให้มันดิ้นไปมาพอเป็นพิธี เพื่อยืนยันให้เหล่าคนรับซื้อเข้าใจว่าผมได้จับจากทะเลจริง คิดได้ดังนั้นก็หาทำเลเป็นเเถวโขดหิน ผมค้นหาเบ็ดครู่หนึ่ง เลือกคันที่เหมาะมือ นอกจากนี้ผมได้เลือกเหยื่อปลากับเหยื่อกุ้งมาด้วย เหวี่ยงคันเบ็ด รอปลากินเหยื่อ ครู่เดียวก็ได้มาแล้วหนึ่งตัว เป็นปลากะพงขาวน้ำห
ตอนที่ 4 วันสอบ การขายครั้งที่สองเป็นอย่างราบรื่น แม้หน้าของลุงแผนกต้อนรับจะไม่ค่อยชื่นมื่นเท่าไหร่ แกคงจะเครียดเรื่องงานไม่ก็ทางบ้าน ผมคิดแบบนั้น เมื่อขายกุ้งเสร็จผมก็ได้เงินมา 48,000 บาทถ้วน ผมไปซื้อข้าวแกงข้างทางกินหมดเงินไปหกสิบบาท รสชาติเค็มอีกต่างหาก หลังจากกินข้าวเสร็จก็กลับบ้านทันที เพราะผมยังคงต้องอ่านหนังสือสอบ ที่จริงก็ไม่อยากจะอ่านสักเท่าไหร่ เนื่องจากผมไม่ได้อยากเป็นครูหรือข้าราชการ เพราะมันไม่เหมาะกับผม ในโลกก่อนเองผมก็ไม่ได้เลือกเส้นทางสายการสอน แต่ชอบสายการสู้มากกว่า พูดถึงการสู้รบปรบมือ โลกก่อนเราไม่ค่อยมีสงครามระหว่างมนุษย์ด้วยกันเองแต่จะทำสงครามกับสิ่งมีชีวิตนอกโลกที่มารุกรานฆ่าฟันมนุษย์เราอย่างเหี้ยมโหดเสียมากกว่า จะว่าไปผมยังไม่ได้วิวัฒนาการร่างกายเลย ด้วยความอ่อนเเอในตอนนี้เกรงว่าแค่วิ่งร้อยเมตรก็หอบขึ้นคอแล้ว เมื่อผมกลับถึงบ้านผมค้นหนังสือในกระเป๋า มันเป็นหนังสือเพียงเล่มเดียวที่เพื่อนเนสยัดใส่กระเป๋าผม นอกเหนือจากนั้นก็เป็นเสื้อผ้ากับเอกสารสำคัญ ผมหยิบหนังสือมาเปิดอ่าน ผ่านไปครู่หนึ่งก็รู้สึกงุนงงกับการเตรียมพร้อมเนื้อหาสอบ "กฎหมาย
ตอนที่ 5 วิวัฒนาการ อาหารภัตตาคารนั้นราคาแพง แต่รสชาติอร่อย เบื้องหน้าผมเป็นชุดเซตอาหารทะเล มีปลาทอดราดซอส กุ้งมังกรอบเนย ผัดปลาหมึกทะเล และรายการอื่นๆที่ผมไม่รู้จัก โต๊ะทั้งโต๊ะมีผมนั่งคนเดียว เหลียวเเลไปที่ไหนไม่เห็นใครเพราะเป็นห้องส่วนตัว ผมจึงลงมือรับประทานอย่างสบายใจจนท้องอิ่ม เมื่อพนักงานบริการเห็นว่าผมกินเสร็จแล้วเขาก็เชิญไปยังสถานที่อีกแห่ง มันคือห้องพัก ในห้องมีชุดนอนและเสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยนเตรียมให้พร้อมสรรพ มีกาน้ำร้อน ชุดชากาแฟสองชุด อุปกรณ์ตกแต่งห้องครบครัน ผมไม่รอช้าอาบน้ำอาบท่า เเต่งตัวเปลี่ยนเสื้อผ้า เปิดเครื่องปรับอากาศแล้วล้มตัวลงนอน ตื่นอีกทีคือตอนเช้าตรู่ ผมเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัวเปลี่ยนชุดเป็นชุดเดิมของผมเมื่อวาน จากนั้นก็มุ่งหน้าไปยังแผนกรับซื้อ ลุงเขาได้นำใบรายการมาให้ผม มันระบุชนิดสัตว์ทะเล ขนาด และราคารับซื้อกุ้งมังกรเจ็ดสี มี 4 ไซส์ คือ เล็ก กลาง ใหญ่ และใหญ่พิเศษ ไซส์เล็ก 160 กิโล รับซื้อกิโลละ 4000 รวมได้ 640,000 บาทไซส์กลาง 60 รับซื้อกิโลละ 5000 รวม 300,000 บาท ไซส์ใหญ่ได้เงิน 78,000 ส่วนใหญ่พิเศษได้ราคา 80,000 บาท นอกจ
ตอนที่ 6 บรรจุ เสียงเครื่องจักรไฟฟ้าดังขึ้นต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ผมกำลังขุดพื้นลึก 1 เมตร ในพื้นที่กว้าง 10 ตารางเมตร จากนั้นทำการตอกเสาเข็มยี่สิบต้น ตามด้วยการเทปูนผสมลงไป เมื่อเทปูเสร็จก็นำหุ่นยนต์เอไอออกมา เป็นหุ่นยนต์สำหรับจัดการเกลี่ยพื้นให้ราบเรียบโดยเฉพาะ ผมเข้าบ้านไปอาบน้ำแต่งตัวนอนปล่อยให้หุ่นทำหน้าที่ของมันไป เมื่อทำเสร็จมันจะปิดการทำงานอัตโนมัติ ตื่นเช้ามาผมจัดการเตรียมเอกสารไปสัมภาษณ์ ก็มีเเค่บัตรประจำตัวประชาชน บัตรผู้สมัครสอบ แล้วก็เครื่องเขียนจำเป็น เมื่อตรวจสอบแล้วไม่มีอะไรผิดพลาดก็ไปอาบน้ำเเต่งตัวชุดสุภาพ โทรหาพี่คนขับรถบริการ อุดหนุนน้ำในมิติของเขาสองขวดพี่เขาก็ไปส่งถึงข้างในสถานที่สอบ วันนี้มีคนมาสอบสัมภาษณ์จำนวนมาก แต่ละคนต่างเตรียมข้าวของรกรุงรัง บางคนเตรียมเเฟ้มสะสมผลงาน เตรียมแผ่นพับนำเสนอตัวเอง ทั้งนี้ผมยังเห็นหลายคนกำลังตรวจสอบโปรแกรมนำเสนอในเครื่องอุปกรณ์คอมพิวเตอร์พกพาด้วย สีหน้าทุกคนจริงจัง สายตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น หลายคนมองผมด้วยสายตาแปลกๆ ก็เป็นธรรมดาที่ถูกมองแบบนี้ เพราะผมไม่ได้เตรียมตัวห่าเหวอะไรมาเลย ในใจผมยังคิดอยาก
ตอนที่ 7 มีเรื่อง เสียงทักทายของนักล่าในพื้นที่ตะโกนมาทางผม ชายผู้เป็นเจ้าของเสียงเดินกร่างเข้ามาหวังหาเรื่อง "ตี้นี้ไม่รับใครเพิ่ม ไปหาที่อื่นเลยชิ่วๆ ไอ้พวกชอบเกาะคนเก่ง" จากคำพูดเหมือนชายคนนันจะคิดไปเอง ผมจึงไม่สนใจเขา สายตาของผมมองไปที่จระเข้ยักษ์ที่กำลังขึ้นจากน้ำต่างหาก แต่เมื่อชายคนนั้นเห็นผมเมิน มันกลายเป็นว่าไปสะกิดต่อมโกรธของเขา ชายคนนั้นคว้าหมับเข้าที่ลำคอของผมแล้วออกแรงบีบ อันที่จริงผมสามารถหลบได้ไม่ยาก แต่ผมไม่อยากหลบ "เฮ้โทมัส อย่าแกล้งเด็กใหม่น่า ดูสิ เกราะก็ไม่ใส่ อาวุธก็ไม่มี ยังไงหมอนี่ก็สู้แรงค์ E กิฟต์พละกำลังอย่างนายไม่ได้หรอก" เสียงหญิงสาวคนหนึ่งเอ่ยด้วยท่าทีดูถูกดูแคลน "หึ ก็ไอ้หน้าอ่อนนี่มันกวนฉันนี่หว่า" "ผมกวนคุณยังไง" เสียงเรียบนิ่งของผมเอ่ย ชายชื่อโทมัสชะงักไปครู่หนึ่ง "ฮึ่ม ไอ้เด็กไม่รู้จักมารยาท ขอสั่งสอนให้มันหลาบจำสักหน่อย จะได้รู้ว่าไม่ควรหยามกับโทมัส" เสียงของโทมัสเอ่ยด้วยท่าทีเกรี้ยวกราด เขาทำให้ผมเป็นเป้าสายตาของนักล่าหลายคน แรงบีบของโทมัสเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล เส้นเลือดที่เเขนของเขาเด่นชัดมากขึ้นบ่งบ
ตอนที่ 8 สมาคมนักล่าสาขาคูป้าบริสเพี๊ยะ!"พี่ตบหน้าผมทำไม""แกยังไม่รู้ตัวอีกไอ้น้องเวร" เสียงของรองผู้จัดการสมาคมตะคอกใส่โทมัสอย่างเกรี้ยวโกรธ เขาโยนโทรศัพท์ที่มีคลิปวิดีโอคลิปหนึ่งให้โทมัสเมื่อโทมัสได้ดูจนจบสีหน้าก็เปลี่ยนไปซีดเผือด"นี่มันไม่จริง คลิปนี้เป็นของปลอมแน่ๆ" เสียงของโทมัสปฏิเสธไม่ยอมรับ "แกคิดว่าฉันโง่เหรอไง คลิปนี่ไม่ได้อัพโหลดโดยนักล่าเพียงคนเดียว แต่มันมากถึงสิบคน ถ้าแกดูคลิปต่อๆไป แกก็จะรู้เองว่านักล่าที่เเกบอกให้ฉันเล่นงานมันใจดีแค่ไหนที่ต่อยแกเพียงกรามหัก" เสียงของรองผู้จัดการเอ่ย โทมัสเลื่อนดูคลิปอื่นๆที่เกี่ยวข้อง สีหน้าของเขาซีดมากกว่าเดิม จัดการจระเข้ยักษ์ได้อย่างง่ายดายต่อยจระเข้ยักษ์มันจนเซล้มกระโดดข้ามจระเข้ยักษ์ครอบครองอาวุธที่มีอำนาจเจาะทะลุสูงสู้กับจระเข้ยักษ์เป็นฝูงโทมัสยิ่งเห็นความคิดเห็นของเหล่านักล่าที่วิพากษ์วิจารณ์ และหัวข้อใหญ่อีกประเด็นหนึ่งที่มีผู้เข้าชมเเสดงความคิดเห็นมากไม่เเพ้กัน/สมาคมสาขาxxxไร้ความเป็นธรรม/หัวข้อนี้มีคลิปการสนทนาของโต๋กับพนักงานเคาน์เตอร์ บทสนทนาพูดชื่อของรองผู้จัดการ/รองผู้จัดการทำไม่ถูก นี่เขาใช้อำนาจกลั่นแก
ตอน 11 ขายซากแมงป่องทะเลสมาคมนักผจญภัยเป็นแหล่งพิทักษ์ภัยให้กับประชาชน และเป็นแหล่งสร้างรายได้ให้กับนักล่า สร้างความแข็งแกร่งให้กับประเทศวัตถุดิบจากซากสัตว์ประหลาดที่เหล่านักล่านำมาขายจะถูกนำไปชำแหละและบริหารจัดการโดยสมาคมแต่ละเเห่ง พวกเขาจะคัดเลือกและคัดกรองวัตถุดิบส่งไปยังรัฐหรือหน่วยงานต่างๆ เพื่อนำมันไปสร้างประโยชน์ต่อไป นี่เป็นข้อมูลคร่าวๆที่ผู้จัดการเล่าให้ผมฟัง เขาชี้ให้ดูอาวุธและชุดเกราะของเหล่านักล่าที่สวมใส่กัน"เกราะที่ดีจะมีน้ำหนักเบาและกันกระสุนได้ด้วย ราคาก็สูงตามคุณภาพ" ผู้จัดการนิวกล่าว ผมก็เข้าใจแบบเขา เกราะที่ดีจะมีน้ำหนักเบาและกันกระสุน แต่เท่าที่ดูพวกนักล่าสวมใส่ ผมว่ายังไม่ผ่านมาตรฐานด้วยซ้ำ ก็พอรู้บ้างว่าพวกมันทำมาจากซากสัตว์ประหลาดบางประเภท บางชุดก็ผสมผสานระหว่าวัตถุดิบของมนุษย์กับของสัตว์ประหลาด แต่มันจะกันกระสุนได้จริงๆเหรอนั่น"ดูขุดของคนนั้นสิ นั่นทำมาจากเกล็ดของจระเข้ยักษ์ที่ผ่านการยกระดับคุณภาพด้วยเทคโนโล
ตอนที่ 10 พบปะตระกูลบลูซี่ คนเราถ้าฝืนร่างกายจนเหนื่อยล้า ย่อมต้องหาเวลาพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เช่นนั้นประสิทธิภาพในการทำงานจะลดลง ตัวผมที่เดินทางมาถึงโรงเเรมก็รีบอาบน้ำแต่งตัวเข้านอนทันที การนอนหลับเป็นการพักผ่อนที่ดีที่สุด เมื่อใดที่เราหลับเต็มอิ่ม ร่างกายและจิตใจของเราจะรู้สึกสดชื่น ผมตื่นในเช้าของอีกวันพอดี ตื่นมาพร้อมกับความหิวจึงนำขนมปังซ็อกโกแลตกับนมฆ่าเชื้อออกมากินรองท้องก่อน จากนั้นก็เข้าห้องน้ำอาบน้ำแต่งตัวเสร็จสรรพ ผมออกจากโรงเเรม มุ่งหน้าไปยังสมาคมนักล่าสาขาคูบป้าบริส ผมเดินเข้าไปในอาคาร วันนี้รู้สึกว่ามีนักล่ามาคับคั่ง ทั้งที่ปกติมีแทบนับนิ้วได้ "สวัสดียามเช้าค่ะคุณโต๋" พนักงานต้อนรับเอ่ยทักทายผม "อ้อ สวัสดีครับ" "ขอรบกวนเวลาสักครู่ได้ไหมคะ ตอนนี้ผู้จัดการอยากพบคุณส่วนตัวค่ะ" พนักงานเอ่ย ผมพยักหน้า พบกับผู้จัดการก็ดี ผมจะได้ถามเรื่องแมงป่องทะเลด้วย อยากรู้ว่าทำไมมันถึงมีจำนวนมากมายมหาศาลขนาดนั้น มันเกือบทำให้ผมต้องเอาชีวิตไปทิ้งเลยนะ เอ่อ แม้ว่าจะเป็นเพราะผมประมาทเ
ตอนที่ 9 ทำภารกิจเช้านี้ผมตื่นมาด้วยความสดชื่นแจ่มใส หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จก็ออกไปรับประทานอาหารข้างนอก ผมเล็งภัตตาคารฮอตสตาร์ไว้ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว วันนี้เองจะได้ลองลิ้มรสอาหารทะเลที่นั่นบ้างถนนมีรถเเล่นมากมายหลายคัน ตรงทางเดินเท้ามีคนสัญจรว้าวุ่นอลม่านทั้งเหล่าหนุ่มสาววัยทำงานไฟแรง ทั้งเหล่านักล่าที่เเต่งตัวโดดเด่นกว่าคนอื่น ผมรู้สึกว่าวันนี้มีนักล่าเยอะกว่าเมื่อวานมากหลายเท่า พวกเขาอาจจะกำลังกลับมาจากการทำภารกิจล่าประจำวันของตนผมเรียกใช้บริการรถรับส่งแทนที่จะขี่จักรยานยนต์ เมื่อไปถึงภัตราคารฮอตสตาร์ก็ไม่รอช้าเดินเข้าไปด้านในพนักงานบริการเข้ามาต้อนรับ สอบถามว่าได้จองโต๊ะไว้ไหม เมื่อผมบอกว่าไม่ได้จองเขาก็พาไปยังโซนโต๊ะว่าง ผมกวาดสายตามองไปรอบๆที่นี่ตกแต่งสวยหรูอลังการมาก เมื่อพนักงานเอาเมนูอาหารมาให้ผมก็เลือกเมนูทะเลมาสามเมนู และเมนูเนื้อผัดซอสอีกหนึ่ง ขณะนั้นเองผมเห็นผู้คนทยอยเข้ามาอย่างคับคั่ง ครู่เดียวชั้นที่ผมนั่งก็ไม่มีโต๊ะว่าง บ่งบอกถึงความนิยมชมชอบ แตกต่างจากภัตราการคุณมิวที่อยู่ตรงข้ามราวฟ้ากับเหว"กุ้งมังกรราดซอส ปลาหมึกย่างสูตรพิเศษ ตุ๋นปลาทะเล และเน้ือผัดซอส" พน
ตอนที่ 8 สมาคมนักล่าสาขาคูป้าบริสเพี๊ยะ!"พี่ตบหน้าผมทำไม""แกยังไม่รู้ตัวอีกไอ้น้องเวร" เสียงของรองผู้จัดการสมาคมตะคอกใส่โทมัสอย่างเกรี้ยวโกรธ เขาโยนโทรศัพท์ที่มีคลิปวิดีโอคลิปหนึ่งให้โทมัสเมื่อโทมัสได้ดูจนจบสีหน้าก็เปลี่ยนไปซีดเผือด"นี่มันไม่จริง คลิปนี้เป็นของปลอมแน่ๆ" เสียงของโทมัสปฏิเสธไม่ยอมรับ "แกคิดว่าฉันโง่เหรอไง คลิปนี่ไม่ได้อัพโหลดโดยนักล่าเพียงคนเดียว แต่มันมากถึงสิบคน ถ้าแกดูคลิปต่อๆไป แกก็จะรู้เองว่านักล่าที่เเกบอกให้ฉันเล่นงานมันใจดีแค่ไหนที่ต่อยแกเพียงกรามหัก" เสียงของรองผู้จัดการเอ่ย โทมัสเลื่อนดูคลิปอื่นๆที่เกี่ยวข้อง สีหน้าของเขาซีดมากกว่าเดิม จัดการจระเข้ยักษ์ได้อย่างง่ายดายต่อยจระเข้ยักษ์มันจนเซล้มกระโดดข้ามจระเข้ยักษ์ครอบครองอาวุธที่มีอำนาจเจาะทะลุสูงสู้กับจระเข้ยักษ์เป็นฝูงโทมัสยิ่งเห็นความคิดเห็นของเหล่านักล่าที่วิพากษ์วิจารณ์ และหัวข้อใหญ่อีกประเด็นหนึ่งที่มีผู้เข้าชมเเสดงความคิดเห็นมากไม่เเพ้กัน/สมาคมสาขาxxxไร้ความเป็นธรรม/หัวข้อนี้มีคลิปการสนทนาของโต๋กับพนักงานเคาน์เตอร์ บทสนทนาพูดชื่อของรองผู้จัดการ/รองผู้จัดการทำไม่ถูก นี่เขาใช้อำนาจกลั่นแก
ตอนที่ 7 มีเรื่อง เสียงทักทายของนักล่าในพื้นที่ตะโกนมาทางผม ชายผู้เป็นเจ้าของเสียงเดินกร่างเข้ามาหวังหาเรื่อง "ตี้นี้ไม่รับใครเพิ่ม ไปหาที่อื่นเลยชิ่วๆ ไอ้พวกชอบเกาะคนเก่ง" จากคำพูดเหมือนชายคนนันจะคิดไปเอง ผมจึงไม่สนใจเขา สายตาของผมมองไปที่จระเข้ยักษ์ที่กำลังขึ้นจากน้ำต่างหาก แต่เมื่อชายคนนั้นเห็นผมเมิน มันกลายเป็นว่าไปสะกิดต่อมโกรธของเขา ชายคนนั้นคว้าหมับเข้าที่ลำคอของผมแล้วออกแรงบีบ อันที่จริงผมสามารถหลบได้ไม่ยาก แต่ผมไม่อยากหลบ "เฮ้โทมัส อย่าแกล้งเด็กใหม่น่า ดูสิ เกราะก็ไม่ใส่ อาวุธก็ไม่มี ยังไงหมอนี่ก็สู้แรงค์ E กิฟต์พละกำลังอย่างนายไม่ได้หรอก" เสียงหญิงสาวคนหนึ่งเอ่ยด้วยท่าทีดูถูกดูแคลน "หึ ก็ไอ้หน้าอ่อนนี่มันกวนฉันนี่หว่า" "ผมกวนคุณยังไง" เสียงเรียบนิ่งของผมเอ่ย ชายชื่อโทมัสชะงักไปครู่หนึ่ง "ฮึ่ม ไอ้เด็กไม่รู้จักมารยาท ขอสั่งสอนให้มันหลาบจำสักหน่อย จะได้รู้ว่าไม่ควรหยามกับโทมัส" เสียงของโทมัสเอ่ยด้วยท่าทีเกรี้ยวกราด เขาทำให้ผมเป็นเป้าสายตาของนักล่าหลายคน แรงบีบของโทมัสเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล เส้นเลือดที่เเขนของเขาเด่นชัดมากขึ้นบ่งบ
ตอนที่ 6 บรรจุ เสียงเครื่องจักรไฟฟ้าดังขึ้นต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ผมกำลังขุดพื้นลึก 1 เมตร ในพื้นที่กว้าง 10 ตารางเมตร จากนั้นทำการตอกเสาเข็มยี่สิบต้น ตามด้วยการเทปูนผสมลงไป เมื่อเทปูเสร็จก็นำหุ่นยนต์เอไอออกมา เป็นหุ่นยนต์สำหรับจัดการเกลี่ยพื้นให้ราบเรียบโดยเฉพาะ ผมเข้าบ้านไปอาบน้ำแต่งตัวนอนปล่อยให้หุ่นทำหน้าที่ของมันไป เมื่อทำเสร็จมันจะปิดการทำงานอัตโนมัติ ตื่นเช้ามาผมจัดการเตรียมเอกสารไปสัมภาษณ์ ก็มีเเค่บัตรประจำตัวประชาชน บัตรผู้สมัครสอบ แล้วก็เครื่องเขียนจำเป็น เมื่อตรวจสอบแล้วไม่มีอะไรผิดพลาดก็ไปอาบน้ำเเต่งตัวชุดสุภาพ โทรหาพี่คนขับรถบริการ อุดหนุนน้ำในมิติของเขาสองขวดพี่เขาก็ไปส่งถึงข้างในสถานที่สอบ วันนี้มีคนมาสอบสัมภาษณ์จำนวนมาก แต่ละคนต่างเตรียมข้าวของรกรุงรัง บางคนเตรียมเเฟ้มสะสมผลงาน เตรียมแผ่นพับนำเสนอตัวเอง ทั้งนี้ผมยังเห็นหลายคนกำลังตรวจสอบโปรแกรมนำเสนอในเครื่องอุปกรณ์คอมพิวเตอร์พกพาด้วย สีหน้าทุกคนจริงจัง สายตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น หลายคนมองผมด้วยสายตาแปลกๆ ก็เป็นธรรมดาที่ถูกมองแบบนี้ เพราะผมไม่ได้เตรียมตัวห่าเหวอะไรมาเลย ในใจผมยังคิดอยาก
ตอนที่ 5 วิวัฒนาการ อาหารภัตตาคารนั้นราคาแพง แต่รสชาติอร่อย เบื้องหน้าผมเป็นชุดเซตอาหารทะเล มีปลาทอดราดซอส กุ้งมังกรอบเนย ผัดปลาหมึกทะเล และรายการอื่นๆที่ผมไม่รู้จัก โต๊ะทั้งโต๊ะมีผมนั่งคนเดียว เหลียวเเลไปที่ไหนไม่เห็นใครเพราะเป็นห้องส่วนตัว ผมจึงลงมือรับประทานอย่างสบายใจจนท้องอิ่ม เมื่อพนักงานบริการเห็นว่าผมกินเสร็จแล้วเขาก็เชิญไปยังสถานที่อีกแห่ง มันคือห้องพัก ในห้องมีชุดนอนและเสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยนเตรียมให้พร้อมสรรพ มีกาน้ำร้อน ชุดชากาแฟสองชุด อุปกรณ์ตกแต่งห้องครบครัน ผมไม่รอช้าอาบน้ำอาบท่า เเต่งตัวเปลี่ยนเสื้อผ้า เปิดเครื่องปรับอากาศแล้วล้มตัวลงนอน ตื่นอีกทีคือตอนเช้าตรู่ ผมเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัวเปลี่ยนชุดเป็นชุดเดิมของผมเมื่อวาน จากนั้นก็มุ่งหน้าไปยังแผนกรับซื้อ ลุงเขาได้นำใบรายการมาให้ผม มันระบุชนิดสัตว์ทะเล ขนาด และราคารับซื้อกุ้งมังกรเจ็ดสี มี 4 ไซส์ คือ เล็ก กลาง ใหญ่ และใหญ่พิเศษ ไซส์เล็ก 160 กิโล รับซื้อกิโลละ 4000 รวมได้ 640,000 บาทไซส์กลาง 60 รับซื้อกิโลละ 5000 รวม 300,000 บาท ไซส์ใหญ่ได้เงิน 78,000 ส่วนใหญ่พิเศษได้ราคา 80,000 บาท นอกจ
ตอนที่ 4 วันสอบ การขายครั้งที่สองเป็นอย่างราบรื่น แม้หน้าของลุงแผนกต้อนรับจะไม่ค่อยชื่นมื่นเท่าไหร่ แกคงจะเครียดเรื่องงานไม่ก็ทางบ้าน ผมคิดแบบนั้น เมื่อขายกุ้งเสร็จผมก็ได้เงินมา 48,000 บาทถ้วน ผมไปซื้อข้าวแกงข้างทางกินหมดเงินไปหกสิบบาท รสชาติเค็มอีกต่างหาก หลังจากกินข้าวเสร็จก็กลับบ้านทันที เพราะผมยังคงต้องอ่านหนังสือสอบ ที่จริงก็ไม่อยากจะอ่านสักเท่าไหร่ เนื่องจากผมไม่ได้อยากเป็นครูหรือข้าราชการ เพราะมันไม่เหมาะกับผม ในโลกก่อนเองผมก็ไม่ได้เลือกเส้นทางสายการสอน แต่ชอบสายการสู้มากกว่า พูดถึงการสู้รบปรบมือ โลกก่อนเราไม่ค่อยมีสงครามระหว่างมนุษย์ด้วยกันเองแต่จะทำสงครามกับสิ่งมีชีวิตนอกโลกที่มารุกรานฆ่าฟันมนุษย์เราอย่างเหี้ยมโหดเสียมากกว่า จะว่าไปผมยังไม่ได้วิวัฒนาการร่างกายเลย ด้วยความอ่อนเเอในตอนนี้เกรงว่าแค่วิ่งร้อยเมตรก็หอบขึ้นคอแล้ว เมื่อผมกลับถึงบ้านผมค้นหนังสือในกระเป๋า มันเป็นหนังสือเพียงเล่มเดียวที่เพื่อนเนสยัดใส่กระเป๋าผม นอกเหนือจากนั้นก็เป็นเสื้อผ้ากับเอกสารสำคัญ ผมหยิบหนังสือมาเปิดอ่าน ผ่านไปครู่หนึ่งก็รู้สึกงุนงงกับการเตรียมพร้อมเนื้อหาสอบ "กฎหมาย
ตอนที่ 3 แหล่งทำเงิน สิ่งที่ผมเห็นคือปลาหลากหลายชนิด แม้กระทั่งกุ้ง กั้ง หมู่หมึกก็แหวกว่ายไปทั่ว บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของที่นี่อย่างยิ่ง ถ้าไม่ติดตรงที่มีจระเข้ตัวเขื่องเฝ้าอยู่ไม่ยอมห่างไปไหน "แสดงว่าชาวประมงที่นี่คงเก่งมากที่สามารถรอดชีวิตจากสัตว์ประหลาดนี้ได้ แล้วยังหาสัตว์ทะเลไปขายทำเงินได้อีก" ผมเอ่ยพลางมองไปยังฝูงสัตว์ทะเลที่มีจระเข้ยักษ์เฝ้าอยู่ ดูแล้วไม่น่าเข้าใกล้เลยแม้แต่นิด ของอันตรายอยู่ตรงหน้า ถ้าจะให้ผมเอาเรือลงทะเลหาปูหาปลาคงเป็นไปได้ยาก แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีวิธีการ ผมคิดว่าจะลองตกปลาด้วยเบ็ดดู ถ้าทดลองแล้วได้ผลดีก็จะใช้วิธีนี้ มันอาจหาได้ไม่เยอะเท่าลงเรือ แต่ก็น่าจะปลอดภัยกว่า อีกอย่างผมไม่ได้ต้องการพวกมันจำนวนมากเสียหน่อย ตกเอาเเค่ตัวที่มีชีวิตสักสองสามตัวให้มันดิ้นไปมาพอเป็นพิธี เพื่อยืนยันให้เหล่าคนรับซื้อเข้าใจว่าผมได้จับจากทะเลจริง คิดได้ดังนั้นก็หาทำเลเป็นเเถวโขดหิน ผมค้นหาเบ็ดครู่หนึ่ง เลือกคันที่เหมาะมือ นอกจากนี้ผมได้เลือกเหยื่อปลากับเหยื่อกุ้งมาด้วย เหวี่ยงคันเบ็ด รอปลากินเหยื่อ ครู่เดียวก็ได้มาแล้วหนึ่งตัว เป็นปลากะพงขาวน้ำห