แชร์

ตอนที่ 10 ขายตรง

ผู้เขียน: Jiraiyajung
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-11 13:51:59

กลายเป็นว่า เพราะนางตื่นสายทำให้ทำงานเสร็จช้า ฝ่าบาทจึงหารือกับขุนนางช้า พอไทเฮามาถึงจึงไม่สามารถเข้าพบได้ หลานเสวี่ยรู้สึกผิดอยู่บ้างแต่ ต้นเหตุคือหลี่ผิน ที่วางอำนาจบาตรใหญ่ เพราะมีไทเฮาถือท้ายให้จึงไม่กลัวใคร

จะว่าไปนั่นก็เป็นแม่สามีของหลานเสวี่ยเหมือนกันถ้าหากลูกชายของนางไม่เป็นคนใจดำอำมหิตเช่นนั้นนะ 

ยืนเหม่ออยู่ตั้งนานนางก็ถูกหัวหน้านางกำนัลเรียกตัวให้ไปทำงาน แต่ก่อนจะไปนางได้มอบขวดน้ำจากมิติขวดเล็กให้กับหัวหน้า

“ใช้ทาที่ใบหนาของท่าน มันจะหายในไม่ช้า ไม่ต้องกลัวหรอกมันไม่อันตรายอย่างที่คิด” 

“ข้าจะรับไว้ เจ้ารีบไปเถอะ อย่าสร้างเรื่องอะไรอีกล่ะ”

“เจ้าคะ” 

เมื่อนางรับไว้เท่านี้ก็พอแล้ว หลานเสวี่ยเข้ามารับใช้ที่ห้องหนังสือเช่นเดิม พอเข้ามาก็เห็นฝ่าบาทนั่งอ่านฎีกาด้วยท่าทางสง่า พอมองดูดี ๆ ในหนังที่นางเคยดูกับตอนนี้ดูแตกต่างมาก 

ฮ่องเต้ในตอนนี้ดูน่าเกรงขามราวกับมีพลังวิเศษบางอย่าง หรือเป็นเพราะที่แห่งนี้เป็นโลกเวทมนตร์กันนะ นางเอกก็ไม่เข้าใจ แต่ชายผู้นี้ไม่ใช่คนปกติทั่วไป หรือเขาเป็นเทพเซียน อย่างตำนานของฮ่องเต้ที่บอกว่า เป็นสายเลือดของเทพ หลานเสวี่ยคิดไปเรื่อยเปื่อย

“ยืนเหม่ออันใดอยู่ตรงนั้น มารินชาให้ข้า”

“เพคะ” 

หลานเสวี่ยสะดุ้งจากความคิดเรื่อยเปื่อยรีบเดินเข้าไปยกกาน้ำชารินให้ ทว่าสายตาของนางดันไปสะดุดกับตัวหนังสือบนม้วนไม้ไผ่ แน่นอนว่าเธออ่านออกเพราะอยู่ในความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม

“อ่านออกด้วยหรือ” 

“เพคะ หม่อมฉันรู้ไม่กี่ตัวอักษร คงไม่คู่ควรให้กล่าวว่าอ่านได้” 

นางรีบถอยร่นออกไปข้าง ๆ ทันทีเมื่อรู้ว่าตัวเองทำตัวไม่เหมาะสม จนตกเป็นเป้าสายตาของฝ่าบาท เขามองเธอด้วยความสงสัย

“เจ้าคิดอย่างไรกับเรื่อง ภัยแล้งที่ส่งผลให้ราษฎรอดอยาก ไหนลองบอกความคิดของเจ้าสักหน่อยสิ” 

“หม่อมฉันมิกล้า เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่หลวง หม่อมฉันเป็นเพียงบ่าวไพร่เกรงว่าจะพูดจาไม่เหมาะสม”

หลานเสวี่ยพยายามบ่ายเบี่ยง นางไม่กล้าพูดอะไรออกไปโดยไม่คิด เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นชีวิตของนางคงตกอยู่ในอันตราย แต่เขาได้ฟังเธอพูดกลับยิ้มออกมา 

“พูดมาเถิด ข้าไม่ถือสาเจ้าหรอก การที่จะปกครองคนก็ควรรับฟังความเห็นของผู้อื่น”

“ถ้าเช่นนั้นฝ่าบาทมอบตรา ไว้ชีวิตให้หม่อมฉันได้หรือไม่ เผื่อพูดอะไรผิดอย่างน้อยก็รักษาชีวิตไว้ได้” ยิ้มแห้งให้

“ได้สิ ฉ่างกงกงเอาตราไว้ชีวิตมาให้เรา” 

ใครจะคิดว่าเขาจะบ้าทำอะไรแบบนี้ แต่ก็ดีแล้วถ้าได้ตรานั้นมาอย่างน้อยก็มีประโยชน์เยอะเลย อีกอย่างนางจะได้เริ่มแผนที่คิดขึ้นมาเมื่อกี้

“นี้คือตราไว้ชีวิตพ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท” 

ฉ่างกงกง เดินก้มหน้ามามอบตราให้ ก่อนจะหันมองไปทางหลานเสวี่ยด้วยความประหลาดใจ ตั้งแต่รับใช้ฝ่าบาทมาเกือบสามสิบปีตั้งแต่พระองค์ยังเป็นเจ้าชายองค์น้อยจนถึงขึ้นครองราชย์ เขายังไม่เคยเห็นฝ่าบาทจะมองสตรีนางไหนด้วยสายตาเช่นนี้มาก่อนเลย

“กระหม่อมขอทูลลา” 

“ไปเถอะ เอาล่ะคงไม่มีสิ่งใดแล้วกระมังพูดได้หรือยัง"

“เพคะ ฝ่าบาท” 

หลานเสวี่ยรีบเอาตราไว้ชีวิตเอาไปเก็บในช่องมิติ ก่อนจะหายใจโล่งขึ้นมา 

“จากความเห็นของหม่อมฉัน คิดว่าเรื่องนี้ไม่ได้ร้ายแรงมากเท่าไหร่ ก่อนอื่นต้องดูว่าขุนนางที่รับผิดชอบเรื่องนี้ โปร่งใสหรือไม่ และค่อยใช้เงินซื้อเสบียงจากที่อื่น จากที่หม่อมฉันได้ฟังจากคนในวังพูดกันว่า มีแค่หกเมืองที่กำลังพบกับความหิวโหยขั้นรุนแรง คิดว่าคงมีเงินพอที่จะซื้อเสบียงแจกจ่ายนะเพคะ” 

สีหน้าท่าทางที่เธอพูดดึงดูดความสนใจของเขายิ่งนัก ราวกับว่า เธอมีหัวคิดที่ลึกซึ้งยิ่งกว่าผู้ใด ความมั่นใจกับน้ำเสียงหนักแน่นทำให้น่าฟังขึ้นไปอีก

“ถ้าตรวจสอบแล้วว่าขุนนางเชื่อถือได้ แต่ไม่มีคนชายเสบียงให้จะทำอย่างไร เพราะหลายที่ก็ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน” 

“จะว่าไปมันก็มีวิธีอยู่ ฝ่าบาทรู้จักดินแดนเซียนหรือไม่เพคะ” 

“ข้าพอรู้อยู่บ้าง” 

“หม่อมฉันเคยรู้จักคนผู้หนึ่ง ที่เคยไปมาหาสู่กับดินแดนเซียน กับดินแดนมนุษย์ หากฝ่าบาทต้องการหม่อมฉันสามารถติดต่อกับสหายเก่าผู้นี้เพื่อถามไถ่ได้อยู่เพคะ” 

“ข้าก็พึ่งรู้ว่ามีคนแบบนี้อยู่ ถ้าเช่นนั้นก็จัดการเถิด เรื่องราคาข้าไม่ต่อ แต่ก็ไม่ควรแพงเกินไป ถ้าทำสำเร็จเจ้าจะได้ความดีความชอบ และจะได้รับรางวัลด้วย” 

ขอรางวัลเป็นใบหย่าได้หรือไม่ หลานเสวี่ยคิดในใจ ก็อยากขอแลกเสบียงกับใบหย่าอยู่หรอก แต่พอคิดดี ๆ ถ้าเขาได้ของแล้วจะปล่อยเธอไปเหรอ อีกอย่างเมื่อรู้ว่าเธอมีความสามารถก็ยิ่งจะบังคับให้เธอทำงานให้อย่างกับเครื่องผลิตอาหาร ลำพังชีวิตเธอคนเดียวมันก็ง่ายมากที่จะออกไป แต่สองชีวิตของหยางกับเหมย คงรอดยาก

ด้วยเหตุนี้เธอจึงขอรับเงินแทนดีกว่า จากนั้นค่อยติดสินบนทหารยามแล้วหนีออกไป 

“คิดอันใดอยู่ ทำไมยิ้มกว้างเช่นนี้” 

“หม่อมฉันคิดถึงรางวัลเพคะ" ก้มหน้าเก็บความคิดไว้ก่อน

หลานเสวี่ยขอตัวไปเขียนจดหมาย จึงได้ออกมา พอไม่มีคนอยู่แล้วนางจึงออกจากตำหนักอันกง เดินตรงไปที่สวนหลวง ป่านนี้สองคนนั้นคงไม่กระวนกระวายใจจนกินไม่ได้นอนไม่หลับแล้วมั้ง

เมื่อมุดผ่านรูเข้ามาก็เห็นสองคนนั่งรอที่หน้าทางเข้า ทำเอาหลานเสวี่ยซาบซึ้งใจยิ่งนัก 

“ข้ากลับมาแล้ว" 

ทันทีที่เสียงของนางดังขึ้นทั้งสองคนก็รีบวิ่งมาหาด้วยความเป็นห่วง พลางตรวจดูว่านางบาดเจ็บหรือเปล่า ทั้งสองคนน้ำตาเอ่อล้นด้วยความดีใจ 

“ข้าไม่เป็นไร ยังอยู่ครบทุกสัดส่วน” 

“แล้วคุณหนูสวมชุดอะไรอยู่หรือ" 

เหมยรีบถาม พร้อมมองดูรอบ ๆ ตัว ก่อนที่หยางจะรีบตอบ “ชุดของนางกำนัลตำหนักอันกง คุณหนูเหตุใดท่านถึงไปที่อันตรายเช่นนั้น แถมยังเป็นนางกำนัล แบบนี้มันหยามเกียรติคุณหนูเกินไปแล้ว” 

“พวกเขาทำกับท่านเข่นนี้ได้อย่างไร ท่านเป็นถึงพระชายา ทำไมถึงกล้าทำเช่นนี้” 

“หยุดก่อน เดี๋ยวข้าเล่าให้ฟังเอง” 

หลานเสวี่ยเล่าทุกอย่างให้ทั้งสองคนฟัง จึงทำให้พวกนางสงบลงบ้าง 

“ถ้าหากซื้อขายสำเร็จ พวกเราจะได้ออกไปแล้วใช่ไหม ดีจังเลยเจ้าค่ะ”

“พี่หยางเราเตรียมเก็บข้าวของรอเลย”

“อย่าพึงดีใจไป ต้องรอให้เรื่องสำเร็จจริง ๆ ถึงจะเตรียมตัวได้ เพราะข้าเองยังรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี เหมือนจะมีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้น” 

หลานเสวี่ยเข้าไปสำรวจในมิติ  หลังจากเพิ่มพื้นที่เพาะปลูก นางยังเพิ่มพื้นที่เก็บของด้วย ตอนนี้สามารถเก็บผลผลิตได้ถึง 100 ตัน ส่วนคะแนนเหลือ 105 กลับมายากจนอีกครั้ง แต่ถ้าขายมันฝรั่งพวกนี้จะได้เงินมากพอจะใช้ชีวิตสุขสบายไปตลอดชาติแน่

ในที่เก็บของมีมันฝรั่งเกือบสี่สิบตัน ถ้าเอาไปขายข้างนอกคงตกเป็นเป้าสายตาแน่ ๆ โชคยังดีที่ได้ขายตรงให้กับฮ่องเต้ คอยดูเถอะจะรีดเงินให้หนักเลย

เมื่อเสร็จธุระที่ตำหนักเย็นนางจึงออกไปเพราะต้อง แกล้งทำเป็นได้รับจดหมายสื่อสารแล้ว ค่อยตกลงราคากันอีกครั้ง ครั้งนี้นางเอามันฝรั่งทำไปด้วย จะได้ทำให้พวกเขารู้ว่าสิ่งนี้มีวิธีปรุงยังไง

นางมาถึงตำหนักอีนกงก็ต้องแปลกใจ เพราะมีข้ารับใช้ของหลี่ผิน ยืนรอด้านนอก นางปีศาจคงมาอีกแล้ว 

“เจ้าไปพักเถอะ เดี๋ยวไปก่อเรื่องจะไม่ดี” 

“เจ้าคะ ใบหน้าท่านหายดีแล้ว แถมยังสวยขึ้นอีก” 

“เจ้าก็ด้วยเหรอ คนอื่น ๆ ชอบพูดเหมือนกัน จนพวกนางขอยานั้นกับข้า แต่ข้าใช้หมดแล้วเลยไม่มีให้” 

“แบบนี้เอง ข้าน้อยขอตัวก่อนนะ” 

“ไปเถอะ”

หลานเสวี่ยยิ้มร่าเมื่อหัวหน้านางกำนัลไม่ทำหน้าบึ้งตึงใส่ตนแล้ว อีกอย่างก็ทำให้เข้าใจมากขึ้นว่า น้ำพุทำให้หน้าใส่จริง ๆ แม่จะไม่เท่ากับตัวเธอที่ไปอาบทุกวัน ทำให้ผิวดูสวยมีออร่าเปล่งปลั่ง แถมยังเนียนนุ่มน่าสัมผัสอีกด้วย 

ส่วนใบหน้าของคนที่เอาน้ำพุไปทา จะได้รับความใสสว่างไร้รอยสิว ถ้าบรรจุขวดไปขายเธอต้องรวยแน่ ๆ รอก่อนเถิด มัวแต่คิดเพลินจนเดินมาถึงที่พัก ก็ดีแล้วจะได้นอนกลางวันบ้าง

“น้องเสี่ยวหลง มานี้สิ” 

“ไปไหน ..” 

หลานเสวี่ยถูกจูงมือมาห้องอาหารของนางกำนัล ก่อนจะพบอาหารน่าอร่อยมากมายบนโต๊ะ พร้อมนางกำนัลคนอื่นอีกหลายคน

“มีอะไรหรือเปล่า ทำไมพาข้ามาที่นี่” 

“ไม่มีอะไรหรอก ข้าแค่อยากเลี้ยงอาหารเพื่อขอโทษเจ้าที่กล่าวหาว่าเจ้าเป็นต้นเหตุที่ทำให้หัวหน้าต้องถูกลงโทษ พวกเราขอโทษจากใจจริง” 

นางควรเชื่อดีไหม ดูสายตาแต่ละคนมีเป้าหมายชัดเจนมาก ราวกับเห็นหลานเสวี่ยเป็นผู้วิเศษ คงเป็นเพราะเรื่องของยาที่ทาแล้วหน้าใสไร้สิว ทำให้พวกนางทำดีด้วย

แต่ช่างเรื่องพวกนั้นก่อนตอนนี้หิวอีกแล้ว หลานเสวี่ยกัดน่องไก่คำโต แม้จะไม่อร่อยเท่าของจากระบบ แต่ก็พอกินได้ 

“กินด้วยกันสิ ข้ากินไม่หมดหรอก” 

“ได้สิ” 

พอกินเสร็จก็ไม่พ้นเรื่องของน้ำยาวิเศษที่พวกนางเรียก หลานเสวี่ยจึงใช้วิธีนี้เพื่อโปรโมทสินค้าใหม่ นั้นคือน้ำยาวิเศษ นางให้นางกำนัลพวกนี้เป็นคนลองใช้ ถ้าหากคนอื่นเห็นผลลัพธ์ต้องมาขอซื้อจากนางแน่ ๆ 

แบบนี้ก็ไม่เสียหายอะไร จึงให้ไปคนละขวด แล้วค่อยไปเดินย่อยที่สวน เพราะไม่มีอะไรทำ เป็นนางกำนัลที่ว่างมากจริง งานของเธอคนอื่นก็แย่งกันทำไปหมดแล้ว

“เสี่ยวหลง พระสนมหลี่ผินเรียกให้ไปพบ” 

“ข้าเหรอ มีเรื่องอะไรกันนะ” 

“ไม่รู้ แต่ท่าทางโกรธกริ้วมาก ระวังตัวไว้ด้วยนะ" 

หลานเสวี่ยไม่เข้าใจว่าสนมคนนี้ ทำไมถึงเรียกเธอไป คงไม่ใช่เพราะอยากได้น้ำยาวิเศษแน่ ถ้าเป็นแบบนั้นยังดีเสียกว่า เดินตามมาไม่นานก็เห็นหลี่ผินนั่งดื่มชาที่ศาลาริมน้ำในตำหนักอันกง 

“หม่อมฉันจางเสี่ยวหลง คารวะพระสนม” 

“เจ้าเองสินะนางจิ้งจอกคนนั้น คงจะใช้ใบหน้าสวย ๆ ของเจ้าใช่ไหมล่อลวงให้ฝ่าบาทเรียกใช้ทั้งวัน” 

หลี่ผินไม่พูดเปล่าใช้มีของตนบีบแก้มของหลานเสวี่ยเอาไว้ ตอนนี้จะต่อต้านก็ไม่ได้ เพราะอยู่ในสถานะนางกำนัล จึงได้แต่ยอมไปก่อน

“ถ้าเจ้ายังกล้าล่อลวงฝ่าบาทอีก ครั้งหน้าเจ้าจะไม่มีหน้าสวย ๆ แบบนี้ให้เชยชมอีก จำไว้” 

“เพคะ หม่อมฉันจะจำไว้” 

ใบหน้าของนางถูกบีบจนเป็นรอยแดง ก่อนจะถูกสะบัดจนหันไปตามแรง จากนั้นพวกเขาก็ค่อยเดินออกไป พร้อมกับยิ้มเยาะราวกับผู้ชนะ

“บ้าผู้ชายจริง ๆ ใครจะอยากได้ผัวหล่อนกัน อยากได้ก็เอาไปเลยยกให้” 

หลานเสวี่ยพูดตามหลัง แม้จะไม่รู้สึกเจ็บที่ใบหน้าเลย เพราะร่างกายของเธอแข็งแรงกว่าคนทั่วไปแล้ว แต่เจ็บใจที่ทำอะไรไม่ได้ หรือเธอจะทวงบัลลังก์เมียเอกแล้วสั่งลงโทษพวกนั้นให้เข็ดหลาบเลยดีไหม โมโหจริง ๆ

บทที่เกี่ยวข้อง

  • พระชายาตำหนักเย็น   ตอนที่ 11 เคลือบแคลงใจ

    หลานเสวี่ยเดินออกมาจากสวนด้วยความโมโห คุณหนูจางเสี่ยวหลงในชาติก่อน มีชีวิตสุขสบาย ใครจะกล้ารังแกเธอ ดูตอนนี้เป็นแค่พระชายาที่ผัวไม่รัก แถมยังถูกเมียน้อยรังแกอีก จะสงสารหลานเสวี่ย หรือสงสารตัวเองดีนะ“มาแล้วหรือ นางกำนัลจาง เข้าไปเถอะฝ่าบาทกับเหล่าขุนนางรอเจ้าอยู่ข้างใน” “รอข้าหรือ ไม่ใช่ว่ามีแต่ฝ่าบาทหรอกหรือ” “ฝ่าบาททรงอยากให้ขุนนางรู้ข้อมูล จะได้จัดเตรียมความพร้อมให้เหมาะสม ท่านก็รีบไปเถอะ” “เจ้าคะ ฉ่างกงกง”นางรีบเดินเข้ามาในห้องหนังสือ ก็พบขุนนางสองคนนั่งรอตรงที่นั่งต่ำกว่าฮ่องเต้ ในความทรงจำของหลานเสวี่ย ทำให้รู้ว่าสองท่านนี้คือ เจ้ากรมพระคลัง กับเจ้ากรมโยธา ที่รับหน้าที่สำคัญในการรับมือกับภัยแล้งพอหลานเสวี่ยมาถึงทั้งสองคนก็มองไม่ละสายตา สีหน้าบ่งบอกถึงความสงสัย และไม่มั่นใจว่าแค่นางกำนัลตัวเล็ก ไปจะสามารถทำเรื่องใหญ่โตเข่นนี้ได้สำเร็จ แม้แต่ผู้มีความรู้อันดับหนึ่ง และผู้มีชื่อเสียงยังใช้เวลาเป็นร้อยปีกว่าจะติดต่อหาคนจากแดนเซียน เพื่อมาสั่งสอนคนในราชวงศ์ แค่ปีละครั้งเท่านั้นเองแต่นี้นางถึงกับติดต่อซื้อขายโดยตรง ทำให้ชายชราสองคนไม่เชื่อ และรวมถึงฮ่องเต้ก็เช่นกัน เขาไม่เชื่อเลย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-11
  • พระชายาตำหนักเย็น   ตอนที่ 12 มากด้วยเล่ห์

    ฮ่องเต้หนุ่มหยิบตะเกียบทองขึ้นมา คีบเอาแท่งมันฝรั่งทอดเข้าปาก ก่อนจะเคี้ยวเบา ๆ ตามแบบของผู้ดี แต่สีหน้ายังคงนิ่งเฉยมาก แล้วเปลี่ยนเป็นมันฝรั่งเผาที่ยังมีอายร้อนลอยออกมาอยู่ คำเล็กถูกเอาเข้าปากหนาแต่สีหน้ายังเป็นเช่นเดิม สุดท้ายมันฝรั่งบด ก็ยังเป็นเช่นเดิม“เป็นเช่นไรบ้างเพคะ” “ก็ดี นับว่ารสชาติใช้ได้เลย อีกอย่างคุณค่าทางอาหารที่เจ้าบอกก็คงไม่เกินจริง เพราะข้าชิมเท่านี้ยังรู้สึกอิ่ม และมีเรี่ยวแรงขึ้นมาทันที” “เช่นนั้นหม่อมฉันก็โล่งใจ” หลานเสวี่ยหายใจได้เต็มปอด แม้เขาจะไม่แสดงท่าทางออกมาแต่ก็คงอร่อยอยู่แล้ว “พวกท่านก็ลองชิมดู อีกประเดี๋ยวค่อยมาหาลือกันต่อ ข้าจะคุยเรื่องสำคัญกับนางกำนัลจางเสียหน่อย” “ขอบพระทัยฝ่าบาท” ทั้งสองคนรีบยกอาหารออกไปข้างนอก เหลือแต่หลานเสวี่ยกับฮ่องเต้ ทำให้บรรยากาศแตกต่างจากเมื่อก่อนมากเลย นางรู้สึกกลัวยังไงไม่รู้เมื่ออยู่กับเขาสองคน“ว่ามาเถอะ เรื่องเสบียงติดต่อได้เมื่อไหร่” น้ำเสียงนิ่ง ทำให้คนฟังรู้สึกถึงอารมณ์ และความรู้สึกของเขาได้อย่างดี“หม่อมฉันได้รับการตอบกลับแล้วเพคะ ท่านเซียนผู้นั้นส่งจดหมายด้วยผีเสื้อวิญญาณ หม่อมฉันจึงได้รับมาแล้ว” “รวดเร็วยิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-11
  • พระชายาตำหนักเย็น   ตอนที่ 13 รวยแล้ว

    หลานเสวี่ยเดินตามเจ้ากรมทั้งสองมาจนถึงกรมคลัง ตรงหน้าเป็นตำหนักขนาดใหญ่แต่ไม่เท่าตำหนักอันกง ในนั้นมีขุนนางน้อยใหญ่ที่ยังทำหน้าที่ของตน เมื่อเห็นเจ้ากรมก็รีบเดินมาหาทันที“คารวะ ท่านเจ้ากรมกวน ท่านเจ้ากรมหยาง มิทราบว่ามีธุระอันใดให้ผู้น้อยรับใช้หรือไม่” “ข้ามีธุระสำคัญมาก เจ้ารีบไปทำหนังสือเบิกเงินค่าเสบียง แล้วให้คนไปเตรียมคลังเก็บของจำนวน 6000 ชั่งให้เร็วหน่อย นี้ก็ใกล้มืดแล้ว”เจ้ากรมกวนสั่งลูกน้อง ก่อนจะพาหลานเสวี่ย และเจ้ากรมหยางไปที่ห้องรับรอง“เชิญนั่งตามสบายเถิดแม่นางจาง”“เจ้าค่ะ” นางรู้สึกปวดเมื่อยไปหมด ตั้งแต่เช้าก็ได้แต่ยืน และเดินจากตำหนักอันกงมาถึงนี้เกือบสองกิโลเมตร ตอนนี้เธอนั่งดื่มชาโดยไม่สนใจเจ้ากรมสองคนที่นั่งคุยกันอยู่ พวกเขากำลังเถียงกันเรื่องเตรียมรถม้าไปรับของ เมื่อมาถึงหูของนางก็นึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้บอกว่า มันฝรั่งทั้งหมดอยู่ในถุงมิติเล็ก ๆ นี้“ข้าว่าเสบียงเยอะเช่นนี้ควรเอาทหารไปเยอะ ๆ หรือจะให้ท่านแม่ทัพเฉินเป็นคนคุ้มกันก็ยิ่งดี” “แต่ข้าว่าให้คนของข้าไปด้วยน่าจะดีกว่า เพราะคุ้นเคยเส้นทางดี อีกอย่างเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น คนของข้าก็มีประโยชน์กว่า” “ช้าก่อน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-11
  • พระชายาตำหนักเย็น   ตอนที่ 14 เงินที่ไร้ค่า

    “นี้คือสิ่งใด ได้รับเป็นของรางวัลหรือ” “เหมือนพระราชโองการเลย” หัวหน้านางกำนัลมาพอดี ทุกคนหันไปมองเพื่อหาคำตอบจากนาง“ใช่แล้ว นี้คือพระราชโองการจากฝ่าบาท”“ถ้าพวกเจ้าอยากรู้เดี๋ยวข้าอ่านให้ฟัง.... เป็นอย่างไรบ้าง” หลานเสวี่ยอ่านให้ทุกคนฟัง ทำเอานางกำนัลน้อยใหญ่ต่างรีบแสดงความยินดี แถมยังบอกอีกว่าอิจฉานางที่ได้อยู่ใกล้ฮ่องเต้ ใครล่ะอยากจะอยู่ใกล้ “ข้าบอกแล้วว่านางเป็นคนโปรดของฝ่าบาท ไม่แน่นะพี่จางของเราอาจได้เป็นพระสนมกับเขาก็ได้” “ข้าก็คิดว่าเป็นเช่นนั้น ถึงขั้นดึงตัวมาจากตำหนักอื่นก็มีแต่พีจางเท่านั้นแหละที่จะได้รับความโปรดปราน”“ได้ดีแล้วอย่าลืมพวกเรานะ”นางกำนัลพวกนี้พูดกันสนุกปากเลย ชอบแต่งเรื่องกันจริง ๆ “ไม่ใช่หรอก ฝ่าบาทคงไม่คิดแบบนั้นหรอก คงเห็นว่าข้าทำงานได้ดีจึงตกรางวัลให้” “ในเมื่อท่านได้เลื่อนขั้นเทียบเท่าหัวหน้านางกำนัลแล้ว ก็ต้องให้ของขวัญเล็กน้อยให้พวกเราบ้างสิเจ้าคะ” จูหยิน นางกำนัลที่พูดเก่งที่สุดในนี้รีบเอ่ยปาก สายตาหวานมองมาที่หลานเสวี่ย ดูเหมือนคนอื่นจะทำตามด้วย“พวกเจ้าก็อย่าไปขอนางเลย ห้าสิบตำลึงทองที่ได้ไปยังไม่พออีเหรอ รีบไปทำงานได้แล้ว” “ไม่เป็นไรหรอก ว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-11
  • พระชายาตำหนักเย็น   ตอนที่ 15 เป็นนางกำนัลส่วนพระองค์ไม่ง่าย

    หลานเสวี่ยต้องตื่นแต่เช้ามืด เพื่อรับใช้ฮ่องเต้ หลังจากเมื่อคืนที่นางกลับตำหนักเย็น และกลับมาตำหนักอันกงในตอนหลัง ดีที่นางได้ห้องส่วนตัวทำให้พวกตัวยุ่งอย่าง จูหยิน ที่ชอบบอกคนอื่นว่าเธอเป็นคนโปรดของฮ่องเต้ ถ้าเห็นกลับดึกคงบอกว่านางไปพบใครแน่นอนตำหนักอันกงยามนี้เงียบงัน มีเพียงฉ่างกงกงยื่นรอที่หน้าห้อง หลานเสวี่ยแอบคิดว่า กงกงผู้นี้ได้นอนบ้างหรือเปล่า ทำไมมาเมื่อไหร่ก็เจอแต่เขาตลอดเวลา แต่นางไม่กล้าถาม“คารวะ ฉ่างกงกง”“เข้าไปเถอะ ฝ่าบาทมีประชุมตอนเช้า”“เจ้าคะ” นางเปิดประตูเข้ามาในห้องบรรทมของฮ่องเต้ ก่อนจะเดินไปที่เตียงนอน บนเตียงของเขามีชายหนุ่มใบหน้านิ่ง ริมฝีปากหยักได้รูป ถ้าเขาเป็นคนในยุคปัจจุบันคงเป็นดาราชายที่โด่งดังไปแล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่นางรู้สึกทึ่งมากคือท่านอนของเขาดูเป็นระเบียบ อย่างกับไม่ขยับเลยแม้แต่นิดเดียว แตกต่างจากหลานเสวี่ยที่นอนดิ้นนิดหน่อย“มาถึงแล้วก็ควรปลุกข้าสิ ไม่ใช่เอาแต่จ้องหน้าแล้วยิ้มเช่นนี้” “ขอประทานอภัยฝ่าบาท หม่อมฉันกลัวว่าพระองค์จะทรงบรรทมหลับไม่เพียงพอ จึงยังไม่ปลุกเพคะ”หลานเสวี่ยสะดุ้งโหยงในตอนที่เขาพูด สายตาคมของเขายามที่มองเธอแทบจะหายใจไม่ออก รู

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-11
  • พระชายาตำหนักเย็น   ตอนที่ 16 ข้าเป็นนางกำนัลผู้บอบบาง

    เมื่อคนพวกนั้นเข้ามาใกล้หลานเสวี่ยไม่มีทางเลือกนอกจากต้องตัดไพ่ใบสำคัญออกมาสู้ อันที่จริงรอเวลานี้มานานแล้วเช่นกัน นางยกป้ายที่กงกงให้ไว้ เขาบอกว่ามันจะช่วยเธอได้“ช้าก่อน ผู้ใดเห็นตราสัญลักษณ์นี้แล้วยังกล้าเข้ามาอีก จะถือว่าผู้นั้นต่อต้านพระบัญชาของฝ่าบาท มีโทษเช่นไรหม่อมฉันไม่พูดทุกคนก็คงทราบดี”“เนื่องจากยามนี้ฝ่าบาทบรรทมหลับอยู่ หม่อมฉันไม่อาจให้เข้าพบได้ แต่ถ้าพระองค์ตื่นจากบรรทมหม่อมฉันจะนำทางไปทันทีเพคะไทเฮา”หลานเสวี่ยพูดต่อเมื่อไม่มีใครกล้าเข้ามา ตอนแรกเห็นทำหน้าใหญ่โต พร้อมจะบดขยี้เธอ ดูสีหน้าของหลี่ผินตอนนี้ ไม่ต่างจากตัวตลก“ดีเหลือเกินนะ เป็นแค่นางกำนัลแต่กล้าทำถึงขนาดนี้ ไทเฮาจะเข้าเฝ้าฝ่าบาทยังต้องทรงขอนางกำนัลเช่นเจ้า ใครไม่รู้คงคิดว่าเจ้าเป็นใหญ่ในวังหลังแล้วกระมัง” “หามิได้ หม่อมฉันทำตามพระประสงค์ของฝ่าบาทเพคะ” “ช่างเถอะ รอไปก่อนเดี๋ยวฝ่าบาทคงตื่นบรรทมเอง” ไทเฮาไม่อยากทำให้เป็นเรื่องใหญ่ เพราะจะทำให้บ้านเมืองวุ่นวายได้ถ้ายังดันทุรัง จึงยอมให้หลานเสวี่ยหลานเสวี่ยเชิดหน้ายิ้ม มองหลี่ผินที่เดือดดาลอย่างมีความสุข ก่อนจะจัดแจงให้ทุกอย่างเข้าที่ เพราะตอนนี้เหล่านางสนมค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-11
  • พระชายาตำหนักเย็น   ตอนที่ 17 แม่ค้าเต็มตัว

    หลานเสวี่ยทำหน้าที่ของตนอย่างทุกวัน ในยามเช้าแบบนี้ฮ่องเต้ต้องเข้าประชุม จึงต้องตื่นมาล้างหน้าบ้วนปาก ก่อนจะสวมอาภรณ์ที่นางเตรียมให้ ระหว่างนั้นเองที่เขากำลังจะขัดฟันนางจึงถามอย่างสงสัย”ฝ่าบาทใช้สิ่งนั้นขัดฟันหรือเพคะ?” “เหตุใดถึงถามเช่นนี้ หรือเจ้าไม่เคยใช้” หันมามองใบหน้าสวยของนาง“หม่อมฉันไม่เคยเลย” “เช่นนั้นข้าจะให้คนเอามาให้ แต่เจ้าขาดเงินขนาดนั้นเลยหรือ รางวัลคราวก่อนก็ไม่ใช่น้อย” แม้จะไม่เข้าใจใจว่านางใช้เงินไปกับอะไร แต่ในวังข้าวของแพงกว่าข้างนอกนัก ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ทำไมแค่ของไม้ขัดฟันราคาไม่เท่าไหร่นางจึงซื้อไม่ได้ หรือนางอาจจะมีภาระมากมายในครอบครัวหรือเปล่า? หลงเยี่ยนยืนคิดในใจ“ไม่ใช่เช่นนั้นเพคะ หม่อมฉันแค่จะบอกว่าใช้อันที่ดีกว่าอยู่” “มีอันที่ดีกว่านี้อีกหรือ ฉ่างกงกงไม่เห็นซื้อมาเปลี่ยน หรือเขาแอบอู้งาน” เมื่อมองสีหน้าท่าทางของนาง เขาก็พอเดาได้ว่ามีอะไรบางอย่าง เหมือนตอนที่นางเสนอขายเสบียง เรื่องนี้เขาเองไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญเท่าไหร่“เจ้าคงไม่ได้จะบอกข้าว่า ขอสิ่งนั้นมาจากแดนเซียนหรอกนะ”“เกือบถูกเพคะ ของสิ่งนี้มาจากแดนไกล แต่ไม่ใช่แดนเซียน เพราะที่นั่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-11
  • พระชายาตำหนักเย็น   ตอนที่ 18 พิธีบวงสรวง

    ในที่สุดพิธีบวงสรวงก็มาถึง ในตำหนักจึงค่อนข้างยุ่ง เพราะนางกำนัล และคนจากกรมพิธีการเข้ามาจัดเตรียมพิธีตั้งแต่เช้าตรู่ พร้อมกับส่งชุดสำหรับทำพิธีมาให้ แม้ลวดลายจะไม่แตกต่าง แต่สีสันค่อนข้างสดใสกว่า พออยู่บนไม่แขนชั้นดีอย่างหลงเยี่ยน ก็ทำให้มันดูดีมากกว่าเดิม“เสร็จเรียบร้อยแล้วเพคะ” “อืม ขอบใจเจ้ามาก” “หม่อมฉันจะไปยกน้ำชามาให้เพคะ” นางหิวน้ำหรอกเลยจะออกไปดื่ม วันนี้ตั้งแต่เช้ามืดยันเกือบเที่ยงยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย“ไปเถอะ” หลานเสวี่ยออกมาที่ห้องครัวของตำหนัก ที่นี่เก็บสิ่งของจำเป็นสำหรับแต่ละวันเอาไว้เช่นชา และของว่างอย่างขนมเป็นต้น ไม่รอช้านางรีบดื่มชาที่ถูกอุ่นด้วยเตาตลอดเวลา ยิ่งอากาศหนาวแบบนี้บอกเลยหอมหวานมาก และที่ขาดไม่ได้คือขนม อร่อยจริง ๆ พอดื่มกินจนอิ่มนางก็ยกถาดชา และของว่างมาที่ห้องนั่งเล่น ตอนนี้หลงเยี่ยนกำลังคุยเรื่องสำคัญกับฉ่างกงกงพอดี“ฉ่างจื่อ เจ้าคิดว่าวันนี้ฝนจะตกหรือไม่” กงกงเงยหน้ามองออกไปนอกหน้าต่าง แม้อากาศจะหนาว แต่แดดสว่างจ้าอย่างกับช่วงฤดูร้อน ยังมีลมฤดูหนาวพัดมาอีก กงกงส่ายหน้าไปมาก่อนจะตอบ“ถ้าถามตอนนี้คงยากที่จะตกพ่ะย่ะค่ะ แต่ถ้าเป็นตอนที่พระองค์ทรงท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-11

บทล่าสุด

  • พระชายาตำหนักเย็น   ตอนที่ 48 ปากแข็งยิ่งนัก

    หลังจากเดินทางมายาวนานก็มาถึงเมืองหลวง หลานเสวี่ยที่ไม่มีอะไรทำมาหลายวันก็ตรงไปที่หอการค้าร้านสะดวกซื้อทันที ทว่าเมื่อนางมาถึงก็ทำให้ผู้คนตามสองข้างทางมองตามไม่กะพริบตา สตรีที่งดงามเช่นนี้มีในเมืองหลวงด้วยหรือ ทุกสายตาต่างสงสัยผู้คนรายล้อมมองดู ต่างก็ไม่รู้ว่านางเป็นคนตระกูลไหน การมาถึงของหลานเสวี่ยทำให้พ่อสื่อแม่สื่อมีงานล้นมือเป็นแน่ เพราะเหล่าชายโสดต่างติดต่อถามไถ่ถึงนางกันทั่วหน้า หลานเสวี่ยเดินไปไม่สนสายตาของผู้คน เหล่าชายหนุ่มตระกูลสูงศักดิ์หรือสามัญชนคนธรรมดาก็ไม่อยู่ในสายตา เพียงแค่นางก้าวเดินคนก็พร้อมจะเปิดทางให้อย่างเต็มใจ จนมาถึงหอการค้าของตน คนคุ้มกันก็ยืนทำหน้าที่อย่างทุกวันแต่วันนี้คนคุ้มกันตกตะลึงจนหันไปมองตาม แค่นางเข้ามาในร้านยิ่งดูโดดเด่น เสี่ยวเอ้อร์ในร้านต่างก็มาให้การบริหารอย่างเต็มใจ ใบหน้ายิ้มแย้ม พวกเขาถามกันไปมาว่าแม่นางผู้นี้เป็นคุณหนูบ้านไหนกัน เพราะไม่เคยเห็นมาก่อนเลย“แม่นางต้องการสิ่งใดบอกข้าน้อยได้เลยขอรับ” หลานเสวี่ยยิ้มอย่างเบาบางแต่ไม่ตอบอะไร เพราะเป็นหน้าที่ของหยางในการเปิดเผยเรื่องนี้ “ทุกคนมารวมตัวกันตรงนี้ ข้ามีเรื่องจะแจ้ง” หยางได้ส่งจดหมายใ

  • พระชายาตำหนักเย็น   ตอนที่ 47 ผู้อยู่เบื้องหลัง

    ในสายตาของผู้ฝึกเซียนขั้นสี่ พวกนางจะทำอะไรได้ ส่วนคนคุ้มกันก็แค่พอถ่วงเวลา งานนี้ไม่ยากเย็นนัก มือสังหารเดินเข้ามาตรง ๆ เมื่อเป็นเช่นนั้นผู้คุ้มกันไม่รอช้ารีบตรงเข้าไปขวาง แต่หลานเสวี่ยห้ามเอาไว้ก่อน“ก็แค่มดปลวก ข้าจัดการเอง พวกเจ้าถอยไปก่อน” นางพูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจ และหนักแน่น แววตาคู่สวยแสดงออกถึงความจริงจัง ทำให้หยางกับเหมยถอยออกมา รวมถึงผู้คุ้มกันที่กำลังตัวสั่นเพราะความกลัว “ถ้าเช่นนั้นก็ฝากแม่นางด้วย” เขาโค้งศีรษะอย่างนอบน้อม แม้จะมองไม่ออกว่าหลานเสวี่ยจะใช้อะไรเอาชนะผู้ฝึกเซียนระดับนี้ แต่เขาก็สัมผัสได้ถึงพลังบางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้ เขาจึงเลือกที่จะเชื่อนาง และขอให้นางสามารถจัดการได้ เขายังไม่อยากทิ้งครอบครัวให้ลำบาก“แค่มดปลวกหรือ ปากดีเสียจริงนะ คำพูดนี้เป็นข้าทีต้องพูดออกมา ลนหาที่ตายนัก ได้...ข้าจะส่งเสริมเจ้าให้ตายเร็วขึ้นเอง” “อย่าเอาแต่พูดเลย อยากเข้ามาก็มาได้ตลอด ข้ารอเจ้าอยู่ เจ้ามาสิ” หลานเสวี่ยยืนกอดอกมองเขาด้วยสายตาเยือกเย็น ทำเอาผู้ฝึกเซียนถึงกับเหงื่อซึม เมื่อสัมผัสพลังบางอย่างจากตัวนาง เขาไม่มั่นใจนักว่ามันคือสิ่งใด แต่สัญชาตญาณของเขาบอกให้ถอย เมื่อยั

  • พระชายาตำหนักเย็น   ตอนที่ 46 นิราศชางเฟิง

    ตลอดหลายวันที่ผ่านมานางต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำ เพราะเรื่องต่าง ๆ มากมายให้จัดการ เร่งด่วนจนไม่มีเวลาพัก หลายวันนี้แม้แต่ระบบยังห้ามไม่ให้นางใช้น้ำวิเศษเพราะจะทำให้เกิดผลเสียมากกว่าดี เหตุก็เพราะว่านางดื่มน้ำเกือบห้าสิบครั้ง แต่ละครั้งคือร่างกายนางเหนื่อยล้าเต็มที่ โดยเฉพาะยามกลางคืน ที่หลานเสวี่ยจะยังอยู่หอการค้า เพราะรออนุมัติ ไม่ก็รอตอบจดหมายเร่งด่วน ขอความเห็นจากสาขาอื่นที่ส่งออกไป เป็นเรื่องที่แม้ว่าคนอื่นจะรอได้ แต่นางไม่สามารถรอได้ร่างเพรียวบางนอนราบบนเตียงนุ่ม อ่อนล้าไปทั้งตัว ขอบตามีรอยดำคล้ำเล็กน้อย กับความรู้สึกปวดร้าวทั้งร่างกาย ใบหน้าของนางซีดเชียว และซูบผอมลง เพราะไม่ได้หลับเต็มอิ่มมาเกือบอาทิตย์ “ลูกแม่ ทำไมถึงทำงานหนักเช่นนี้ เงินทองใช่ว่าจะสำคัญทุกอย่าง ตอนนี้เราไม่ได้ขาดเงิน เจ้าจะรีบร้อนทำไมหรือ” ผู้เป็นแม่เข้ามาบีบนวดให้นางทุกวัน ทำให้หลานเสวี่ยรู้สึกดีขึ้นมาก ๆ ฝีมือของท่านแม่ดีจริง ๆ ช่วยให้ฟื้นตัวได้เร็วกว่าเดิม นางได้แต่ยิ้มให้หลานฮูหยิน“ลูกไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ผอมลงนิดเดียว อีกอย่างไม่ได้แต่งงานกับบุตรชายเสนาบดี เท่านี้ก็พอใจแล้วเจ้าค่ะ” นางพูดด้วยความร่าเริง เม

  • พระชายาตำหนักเย็น   ตอนที่ 45 หนึ่งเดือนก่อนจาก เป็นหรือตายขึ้นอยู่กับตัวนาง

    หลานเสวี่ยกำลังยุ่งอยู่กับระบบ เพราะตั้งแต่ที่เปิดร้าน ทำให้คะแนนเพิ่มขึ้นมาหลายส่วน คะแนนรวมของนางคือหก แสนคะแนนจากระบบ และ แสนห้าหมื่นคะแนนความดีที่เพิ่มขึ้น เมื่อก่อนนางมีคะแนนจากระบบเจ็ดแสน แต่เพราะอัปเดตระบบเป็นเวอร์ชันสุดท้าย ใช้ไป 1 แสนคะแนน ทำเอาหลานเสวี่ยแอบสงสัยว่าทำไมถึงใช้เยอะแบบนี้ แต่นางก็ยอมเพราะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะอัปเดต“ระบบ ทำไมถึงใช้คะแนนเยอะมากกว่าทุกครั้งละ หรือว่ามีของรางวัลดี ๆ”(เป็นเพราะว่านี้คือระบบเวอร์ชันสุดท้าย ที่สำคัญจำเป็นต่อผู้ใช้เช่นกัน....)“เดี๋ยวก่อน ทำไมเงียบไปละ” ระบบไร้เสียงตอบ ทำเอาหลานเสวี่ยตกใจไม่น้อย แต่ก็จัดการ ส่งคำสั่งเพาะปลูกได้เป็นปกติ ถึงมิติก็ยังใช้ได้ จึงคิดว่าระบบคงขัดข้องชั่วคราว แต่นางแอบสังเกตนิดหน่อยเพราะช่วงนี้ระบบแปลกไปจากเดิมมาก อย่างเช่น น้ำในลำธารของระบบลดลงจนสังเกตได้ และแสงสว่างในนี้ก็ลดลงเช่นกัน อยากจะถามระบบแต่ก็มาหายตัวไป สงสัยคงกำลังอัพเดทชุดใหญ่ นางจึงไม่สนใจระบบ แล้วไปทำอย่างอื่นต่อ แต่ละวันนางจะใช้คะแนนแลกของขายดี อย่างเช่นเครองสำอาง ที่สตรีร่ำรวย และขุนนางใช้กัน นี้เป็นรายรับสามส่วนของนางก็ว่าได้ ช่วยให้จัดกา

  • พระชายาตำหนักเย็น   ตอนที่ 44 มื้ออาหารกับครอบครัว

    หลานเสวี่ยกลับมาที่จวนในตอนสาย พอมาถึงสายตาของบิดามารดาก็มองนางด้วยความสงสัย บุตรสาวของตนไปค้างที่ใดมา แม้จะมีคำถามมากมายอยู่ในอกของทั้วสอง แต่พักนี้รู้สึกว่านางดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น แถมยังเฉลียวฉลาดมากกว่าเดิม ท่าทางก็เปลี่ยนไป ทำให้ทั้งสองไม่กล้าที่จะถามตรง ๆ หลานฮูหยินรีบออกมารับบุตรสาวด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ส่วนใต้เท้าหลานเดินตามหลังมาด้วย“กลับมาแล้วหรือ หิวไหมแม่จะไปทำกับข้าวให้เจ้า” “ลูกินอิ่มแล้วเจ้าค่ะ ตอนขากลับแวะซื้อของอร่อยตามทางมาด้วย นี้เจ้าต่ะ” หลานเสวี่ยยกสิ่งของรุงรังในมือขึ้นมา รวมถึงบ่าวทั้งสองคนก็แทบจะแขนลาก เพราะเป็นคนถือของให้นาง ดีที่แข็งแรงหน่อย“ทำไม่ซื้อมามากมายเช่นนี้ จะกินหมดหรือ ดูสิผิวพรรณ.. เนียนสวยเสียจริง ดูแล้วลูกแม่สวยขึ้นเป็นกองเชียวนะ” มารดาของนางเมื่อสำรวจดี ๆ จึงรู้ว่านางดูเปร่งประกายราวกับถูกเคลือบด้วยออร่า แม้เมื่อก่อนนางจะงดงามเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่วันนี้ยิ่งแตกต่าง ผิวพรรณผุดผ่อง สัมผัสนุ่มนวล ไหนจะกลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่โดดเด่น ทำให้หญิงวัยย่างเข้าสี่สิบสนอกสนใจกว่าเดิม ดวงตาคู่นั้นก็มองด้วยความสงสัย เพราะมีเรื่องแปลกประหลาดมากมายอย่างเช่น เมื่อวานท

  • พระชายาตำหนักเย็น   ตอนที่ 43 คืนฝนพรำ

    หลานเสวี่ยถูกอุ้มเข้าไปในห้องนอน มือเรียวยังคงปิดหูตัวเองเอาไว้แน่น เพราะกลัวเสียงฟ้าร้อง ทันทีที่เข้ามาข้างในเสียงต่าง ๆ ก็เงียบไปอย่างมหัศจรรย์ หญิงสาวลืมตาขึ้นด้วยความประหลาดใจ และพบว่าตนเองอยู่ในอ้อมแขนของเขา ใบหน้าของหลานเสวี่ยแดงระเรื่อ เธอหลุบตาลงต่ำด้วยความเขินอายเมื่อสบสายตาคมคายที่มองตรงมา ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตัวเองถูกอุ้มเข้ามาในห้องเสียแล้ว“เจ้าไม่ต้องกลัวหรอก ที่นี่ไม่มีเสียงฟ้าร้องเหมือนด้านนอก เพราะข้าใช้สมบัติวิเศษป้องกันเอาไว้” น้ำเสียงทุ้ม พูดพลางวางเธอลงบนเตียงนุ่ม ๆ พร้อมกับห่มผ้าให้ และลงไปนอนรวบตัวนางเอาไว้แน่น“เจ้าค่ะ...แต่” หลานเสวี่ยเอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ท่านแม่ทัพจะกอดข้าน้อยแบบนี้ทั้งคืนหรือ ชายหญิง...”ปากน้อย ๆ ของนางกำลังจะพูดเรื่องยาว แต่ถูกมือใหญ่ปิดเอาไว้อย่างรู้ทัน เขาไม่ปล่อยโอกาสอันดีให้เสียเปล่า เป็นวัวเป็นม้าให้นางแล้ว ต้องได้รางวัลเสียหน่อยถึงจะถูก“สามีภรรยาอยู่ด้วยกันจะเป็นไรไป หากเจ้ายังดื้อดึงอีก ข้าจะไม่หักห้ามใจแล้วนะ” พูดเสียงสั่นเครือ เพราะกำลังหักห้ามใจตัวเองหลานเสวี่ยรู้สึกถึงหัวใจของตนเต้นแรงจนแทบหลุดออกจากอก จึงก้มหน้ามองแผ่นอกกว

  • พระชายาตำหนักเย็น   ตอนที่ 42 ฟ้าฝนเป็นใจ

    รอจดหมายจากพระองค์เกือบสองถ้วยชา แต่นางยังไม่เห็นจะมีวี่แววจะออกมาเลย เขียนร้อยฉบับหรืออย่างไรกันแน่ ร่างเล็กเดินไปมาอยู่ในห้องรับรอง ก่อนจะเดินออกมามองดูนอกหน้าต่าง ตอนนี้ท้องฟ้ามืดครึ้มคล้ายฝนจะตก นางยิ่งร้อนใจ ขาเรียวไม่รอช้าอีกต่อไป เดินออกจากห้องรับรองไปที่ห้องทำงานของท่านแม่ทัพโดยตรง ก่อนจะเห็นท่านแม่ทัพเดินมาจากข้างนอก ทำเอานางรู้สึกงุนงงอย่างมาก “ท่านแม่ทัพเจ้าคะ! ท่านคงไม่ลืมจดหมายของข้าหรอกนะ” น้ำเสียงเรียบนิ่งแฝงไปด้วยความไม่พอใจ แม่นางจะพยายามเก็บความรู้สึกหงุดหงิดเอาไว้“ข้าจะลืมได้อย่างไร เมื่อครู่ข้ามีธุระด่วนไม่คิดว่าเจ้าจะรีบร้อนอย่างนี้” ยืนตัวตรง มองนางด้วยสายตามีเลศนัย“หาใช่แบบนั้นเจ้าค่ะ ข้าน้อยจะกล้าเร่งรัดท่านแม่ทัพได้อย่างไร” “เช่นนั้นก็มาฝนหมึกให้ขาเถิด” หลงเยี่ยนเดินนำไปก่อน ทิ้งให้หลานเสวี่ยมองตามแผ่นหลังกว้างด้วยความไม่พอใจเล็ก ๆหลานเสวี่ยเดินตามไปพร้อมกับบ่นพึมพำในใจ ทำไมแค่จดหมายฉบับเดียวต้องดึงเวลาให้ยุ่งยากแบบนี้ด้วยนะ แต่นางจะทำอันใดได้ ยามนี้ได้แต่ก้มหน้าก้มตาฝนหมึกให้ได้เยอะ พระองค์จะได้เร่งเขียนให้เสร็จ ทว่าไม่นานเสียง “กร๊อก" ดังขึ้นใบหน้าสวย

  • พระชายาตำหนักเย็น   ตอนที่ 41 ไม่อ้อมค้อม

    ทหารหนุ่มวิ่งหน้าตั้งออกมาจากกำแพงใหญ่ แล้วสั่งให้รถม้าของหลานเสวี่ยเข้าไปได้ ทำเอาเหล่าคุณหนูที่มารอตั้งนานแทบจะตาลุกเป็นไฟด้วยความริษยา แม้จะรู้ว่านางถูกปลดแล้ว แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้หญิงของฝ่าบาทย่อมสูงส่งกว่าสตรีทั่วไป “พวกเจ้าก็รอต่อไปเถิด เห็นทีคงต้องรอจนหัวหงอกกระมัง” หลานเสวี่ยพูดทิ้งท้ายก่อนจะให้คนขับรถม้าขับออกไป ทำเอาบ่าวสองคนยิ้มอย่างสะใจที่ได้เอาคืนพวกนั้นเมื่อมาถึงขาวในจวนนางเดินตามทหารยามเข้าไปในจวน ที่นี่ไม่ได้หรูหราเหมือนจวนแม่ทัพที่เมืองหลวง เพราะเป็นที่พักชั่วคราวใช้ยามจำเป็น แต่ก็เรียบง่ายดี สีสันไม่โดดเด่น ส่วนมากจะเป็นข้าวของที่ทำจากไม้ สวยอยู่ไม่น้อย“รอก่อนนะขอรับข้าน้อยจะไปแจ้งท่านแม่ทัพให้” ทหารหนุ่มสีหน้าซีดเซียว แม้จะรู้ว่าตราไว้ชีวิตมีไว้ทำอันใด แต่เขาเกรงว่าครั้งนี้จะตัดสินใจพลาดจนถูกแม่ทัพลงโทษ หรือถ้าหากเกิดเขาปล่อยแขกของท่านแม่ทัพไป เกรงว่าจะยิ่งถูกลงโทษหนัก สถานการณ์เช่นนี้เลือกทางไหนก็ไม่รอด นอกจากท่านแม่ทัพจะให้ความสำคัญกับแขกคนนี้ทหารหนุ่มยืนอยู่ต่อหน้าประตูห้องทำงานส่วนตัว เมื่อเช้าเขาได้รับคำสั่งว่าไม่ให้ผู้ใดมารบกวน แต่ตอนนี้เขาลังเลว่าจะรอดต

  • พระชายาตำหนักเย็น   ตอนที่ 40 พบท่านแม่ทัพช่างยากเย็น

    มือเรียวยกกาน้ำชาขึ้นมารินให้บิดาอย่างเรียบร้อย จึงเลื่อนไปรินให้มารดาที่นั่งยิ้มให้กับนาง ทั้งสองคนดีใจจนยิ้มไม่หุบ ที่บุตรีสุดที่รักกลับมาให้เอ็นดูอีกครั้ง นับตั้งแต่พี่สาวของนางออกเรือน จวนตระกูลหลานก็เงียบเกินไป จะดีแค่ไหนหากพวกนางสองคนมีหลานให้พวกเขาทั้งสอง แม้ว่าหลานเสวี่ยจะไม่มีโอกาสแล้วก็ตาม เรื่องนี้ทั้งสองรู้ดี แต่พี่สาวนางกำลังจะได้รับข่าวดี จวนจะได้ครึกครื้นไม่เงียบเหงาอีก “กลับมาไม่นาน ลูกปรับตัวได้หรือยัง ที่นี่ค่อนข้างห่างไกลเมืองหลวงไม่ค่อยมีอันใดให้เพลินตานัก” มารดาเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม“ลูกปรับตัวได้เจ้าค่ะ อีกอย่างที่เมืองหลวงไม่ค่อยมีอันใดให้ลูกดูมากนัก ที่นี่น่าดูมากกว่า” “ถ้าเช่นนั้นพ่อจะสั่งคนทำห้องให้เจ้าใหม่ จะได้อยู่สบายขึ้น รออีกสักสามเดือนพี่สาวเจ้าก็จะมาเยี่ยมแล้ว ตอนนี้ลูกคงไม่รู้ว่าพี่สาวของเจ้าตั้งครรภ์แล้วนะ” ใต้เท้าหลานพูดด้วยน้ำเสียงปีติ แสดงออกมาชัดเจน“จริงหรือ เป็นเรื่องดีแท้ ๆ ท่านทั้งสองจะได้ไม่เหงามาก ลูกเองก็จะมาเยี่ยมบ่อย ๆ เจ้าค่ะ” เมื่อได้ยินเช่นนั้นสองสามีภรรยาก็มองหน้ากันอย่างสงสัย ทั้งที่คิดไว้ว่านางจะมาอยู่ด้วยกันที่นี่“ลูกไม่มาอยู่ที่

DMCA.com Protection Status