Share

บทที่ 2

Author: เจี๋ยเยี่ยน
“เมื่อวานหลิงหานโจวผู้เป็นสามีเพิ่งจากไป นางปีศาจคนนี้ก็รีบเข้าตำบลไปหาคนรักคนนั้นของนางอย่างทนรอแทบไม่ไหว ดูท่าทางแล้วคงจะค้างอ้างแรมที่นั่นกระมัง”

“พวกเจ้าพูดเถอะ นี่แต่งงานมาหลายปีแล้ว เหตุใดยังไม่สำรวมตนเช่นนี้?”

“สำรวมตน? เจ้าดูนาง แต่งตัวงดงามสะดุดตาทุกวัน มองปราดเดียวก็รู้ว่าไม่มีวันสำรวมตนได้ หากสำรวมตนได้ ปีนั้นก็คงไม่หนีตามผู้ชายไปหรอก!”

“เฮ้อ ก็แค่สงสารเด็กสองคน หลิงหานโจวผู้เป็นสามีไม่อยู่ เด็กสองคนต้องได้รับความทุกข์อีกแล้ว”

“ฮึ! นางไปขลุกอยู่กับชายอื่นตลอดทั้งคืน หลิงหานโจวผู้เป็นสามีกลับมาแล้ว จะต้องเฉือนหนังของนางแน่!”

ฝูอวิ๋น “...”

หากจะให้นางพูด นี่คือเรื่องน่าเศร้าของเจ้าของร่างเดิม!

ต่อมา เจ้าของร่างเดิมแต่งงานกับสามีนายพราน มีลูกมีเต้าด้วยกันแล้ว นางกลับยังไม่ลืมเซียวหราน

นางถึงขั้นคิดว่าคลอดลูกของคนอื่น ก็คือการทำผิดต่อเซียวหราน สาเหตุที่เซียวหรานไม่สนใจนางจะต้องเป็นเพราะเรื่องนี้แน่นอน

เพียงนางได้เห็นลูกและสามีนายพรานหลิงหานโจว ก็คล้ายมองเห็นศัตรูตัวฉกาจมิปาน

ขอเพียงพูดไม่เข้าหูหนึ่งประโยค ก็สามารถโวยวายพลิกฟ้าพลิกดินได้ โทษหลิงหานโจวแทรกกลางเข้ามาทำลายความสุขของนาง

เกลียดเขาเข้ากระดูก

ทั้งตัวคนเริ่มเสียสติไปอย่างช้าๆ

หลิงหานโจวเมินเฉยต่อนาง และมักจะไม่ค่อยอยากเสียเวลาทะเลาะด้วย จิตใจบิดเบี้ยวไม่สามารถถูกเติมเต็มผ่านการทะเลาะกันได้ นางจึงเสียสติมากยิ่งขึ้น

ทว่ายังหนักแน่นในความรัก หลายปีมานี้สนใจเพียงเรื่องเดียว...ยามหลิงหานโจวอยู่ที่บ้านก็ด่าว่าสาปแช่งเขา ยามหลิงหานโจวไม่อยู่บ้านก็ทารุณกรรมลูกทั้งสอง

หากพูดว่าภายในสายตาหลิงหานโจวไม่มีนาง ไม่รักไม่ผูกพัน เพราะเหตุใดยังมีลูกกับนางกันเล่า?

นี่ก็เป็นอดีตที่หลิงหานโจวพูดออกมาได้ยากที่สุดในชีวิตนี้

ครั้งแรกเป็นวันแต่งงานของเซียวหราน

เจ้าของร่างเดิมวางยาหลิงหานโจว ใช้เขาเป็นตัวแทนแล้วหลับนอนด้วย ต่อมามีลูกชายนามว่าหลิงจิ่ง

ครั้งที่สองเป็นวันที่เซียวหรานรับอนุภรรยา

บิดาของหลิงหานโจวจากไปด้วยอุบัติเหตุ เขาดื่มจนเมามาย เจ้าของร่างเดิมจึงปีนขึ้นเตียงกลางดึก คิดว่าทำเช่นนี้จะสามารถล้างแค้นเซียวหรานได้ ต่อมามีลูกสาวนามว่าหลิงเสวี่ย

สรุปคือเจ้าของร่างเดิมเป็นคนบ้าอย่างแท้จริง!

จะต้องทะเลาะโวยวายสามวันสองหน ถ้อยคำที่มักพูดติดปากคือ ‘ข้าไม่มีความสุข ใครก็อย่าคิดจะมีความสุข!’

หลิงหานโจวโมโหจัดก็จะลงไม้ลงมือ นางตีสู้เขาไม่ได้ก็ปีนขึ้นหลังคาทุบกระเบื้อง ใส่ยาถ่ายลงในโอ่งน้ำ ปาอึลงบนโต๊ะอาหาร!

เพียงนึกถึงการกระทำโหดร้ายนี้ ฝูอวิ๋นก็ขนลุกชันขึ้นมาระลอกหนึ่งอย่างสุดระงับ

หญิงสาวดีๆ คนหนึ่ง กลับกลายเป็นคนบ้าเพื่อความรักที่มองไม่เห็นแตะต้องไม่ได้ นี่จำเป็นด้วยหรือ?

เช่นนั้นช่วงเวลาก่อนจะสิ้นใจเมื่อครู่ เหตุใดนางคิดถึงลูกเล่า?

ทีแรกฝูอวิ๋นยังคิดว่านางเป็นมารดาดีที่น่าสงสารคนหนึ่ง ทว่าความทรงจำกลับไม่เป็นเช่นนั้น

หรือว่าค้นพบมโนธรรม?

ทว่าคนเช่นนี้จะค้นพบมโนธรรมได้หรือ? ช่างชวนให้คนเข้าใจยากจริงๆ

เดินมาหยุดอยู่ที่หน้าลานบ้านล้อมด้วยกำแพงหินแห่งหนึ่ง ฝูอวิ๋นขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างอดไม่ได้

ด้วยอุปนิสัยของเจ้าของร่างเดิมและสถานการณ์ยากลำบากมากนี้...

หรือว่าจะหนีไปเลยดีนะ?

ทว่านางไม่คุ้นที่คุ้นทาง ไม่มีค่าเดินทางติดตัว จะสามารถหนีไปที่ใดได้?

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อวานหลิงหานโจวคล้ายพูดเอาไว้ การขึ้นภูเขาครั้งนี้ หากนานคือครึ่งเดือน เร็วคือเจ็ดถึงแปดวัน

เช่นนั้นเด็กทั้งสองคนที่บ้านก็น่าสงสาร มิต้องกลายเป็นเด็กกำพร้าหรือ?

อย่างไรเสียนางก็ไม่มีที่ไป แม้แต่บัตรประชาชนก็ไม่มี

อาศัยอยู่ที่นี่ได้โดยไม่ต้องจ่ายเงินก็นับว่าไม่เลว

ยกมือผลักประตู หินหลายก้อนก็ลอยเข้ามาต้อนรับแล้วปะทะตัวนางอย่างไม่ไว้หน้า

“ไสหัวออกไป! พวกเราไม่ต้องการท่าน!”

ภายในลานบ้าน เด็กชายตัวน้อยคนหนึ่งจับจ้องฝูอวิ๋นอย่างไม่เป็นมิตร

ฝูอวิ๋นจำได้ นี่คือหลิงจิ่งลูกชายอายุหกขวบของหลิงหานโจวและเจ้าของร่างเดิม

คนที่กำลังยืนตัวสั่นหลบด้านหลังเขาก็คือหลิงเสวี่ยลูกสาวอายุสี่ขวบ

หลิงจิ่งน้อยคนนี้ อุปนิสัยคล้อยไปทางบิดาของเขา

ปกติถูกมารดาทารุณกรรม เขาไม่เพียงไม่แสดงความอ่อนแอ ตรงข้ามกันยังกล้าหาญมากยิ่งขึ้น

ฝูอวิ๋นกลับชอบอุปนิสัยเช่นนี้ของเขามาก แน่นอน ชอบใบหน้าเล็กแก้มยุ้ยน่ารักนั้นมากยิ่งกว่า

ฝูอวิ๋นหัวเราะ พยายามทำให้ตนเองมองดูแล้วใจดีแล้วเดินเข้าไปหาเด็ก

หลิงจิ่งรีบปกป้องน้องสาวก้าวเท้าถอยหลัง ใบหน้าแดงก่ำ จับจ้องหญิงตรงหน้าอย่างหวาดระแวง

พวกหญิงออกเรือนแล้วที่ตามหลังฝูอวิ๋นมาเหล่านั้น ก็มาถึงหน้าประตูบ้านสกุลหลิงแล้ว

เห็นฝูอวิ๋นจับจ้องเด็ก ล้วนคิดว่านางจะลงมือ

ภายในนั้น หญิงออกเรือนแล้วหน้ายาวคนหนึ่งยืนออกมาแล้วร้องตะโกน “หลี่ชุ่ยฮวา! เจ้ายังกล้าตีเด็กอีกหรือ ไม่กลัวถูกสามีจับหย่าหรืออย่างไร?”

มือของฝูอวิ๋นชะงักค้าง รู้สึกผิดหวังต่อชื่อนี้อย่างมาก

ทว่าเชยสะบัดเยี่ยงไรก็ยังมีความไพเราะในแบบของมัน ชุ่ยฮวาก็ชุ่ยฮวาเถอะ

หลิงหานโจวไม่สามารถหย่านางได้ หากสามารถทำได้ น่ากลัวว่าคงหย่าไปหนึ่งร้อยครั้งแล้ว

ฝูอวิ๋นหันหลัง ปิดประตูใหญ่ของลานบ้านเงียบๆ

พวกหญิงออกเรือนแล้วที่ชอบสอดรู้สอดเห็นเหล่านั้นถูกกันไว้ที่หน้าประตูบ้าน คอยืดคอยาวมองผ่านบนกำแพงเข้ามาและรับชมต่อ
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ทะลุมิติไปเป็นนางร้าย พาลูกทำไร่สุดหรรษา   บทที่ 3

    “หิวแล้วกระมัง? ข้าจะทำอาหารให้พวกเจ้ากิน” ฝูอวิ๋นคลี่ยิ้มบางๆ ลูบศีรษะเล็กของหลิงจิ่ง เดินไปทางห้องครัวหญิงออกเรือนแล้วที่มุงอยู่นอกกำแพงต่างหันหน้ามองกันหลี่ชุ่ยฮวาคนนี้ ทุกครั้งไปหาคนแซ่เซียวกลับมาล้วนเอาโทสะมาลงบนตัวเด็ก ไม่ตีสักรอบย่อมไม่อาจคลายโทสะลงได้วันนี้ถูกผีเข้าสิงหรือไง?ถึงขั้นพูดว่าจะทำอาหารให้ลูกกิน!“จิ๊ เห็นผีกลางวันแสกๆ แล้ว! หลี่ชุ่ยฮวาสนใจว่าเด็กหิวหรือไม่ด้วยหรือ?” หญิงออกเรือนแล้วหน้ายาวเผยสีหน้าเหลือจะเชื่อ“ข้าเดาว่า ต้องเป็นเพราะครั้งนี้ไปหาคนแซ่เซียวและได้รับคำยืนยันที่แน่นอนแล้ว จึงอยากกลับมาวางยาพิษลูกให้ตาย จากนั้นค่อยหนีตามไปกับคนแซ่เซียว!”“เรื่องไร้ยางอายพรรค์นี้ นางก็ทำออกมาได้ พวกเจ้าว่านางคิดวางยาพิษฆ่าลูกให้ตาย พวกเราสมควรจัดการหรือไม่?”“ชู่ว์ ชู่ว์!” หญิงด้านข้างยกมือสะกิดผู้ที่กำลังพูดคนนั้น เป็นสัญญาณให้นางรีบหุบปากเห็นเพียงชายร่างสูงใหญ่สีหน้าเยียบเย็นคนหนึ่งกำลังยืนอยู่ข้างประตูใหญ่ของเรือนสกุลหลิง ดวงตาเรียวยาวคู่นั้นดุจเหยี่ยวก็มิปาน หันมองทางกำแพงสายตาเย็นชาศีรษะที่โผล่เหนือกำแพงหายวับไปในทันใด!“ให้ตายเถอะ สายตานั้นน่ากลัวช

  • ทะลุมิติไปเป็นนางร้าย พาลูกทำไร่สุดหรรษา   บทที่ 4

    ฝูอวิ๋นขมวดคิ้ว มองมือใหญ่ทรงพลังคู่นั้น แล้วคลี่ยิ้มขึ้นทันใด“พี่ชาย เหตุใดต้องดุข้าด้วยเล่า พวกเขาดีชั่วอย่างไรก็เป็นลูกของข้า ข้าไม่มีวันทำอันใดพวกเขา ท่านวางใจเถอะ”นางกะพริบตาไม่หยุด หว่างคิ้วมีความ...เลศนัยที่ไม่สามารถอธิบายได้เพิ่มขึ้นมาหลิงหานโจวสะดุ้ง สะบัดนางออกอย่างจงชัง ถูมือข้างที่สัมผัสนางบนเสื้อผ้า รังเกียจได้มากเพียงใดก็รังเกียจมากเพียงนั้น!“ทางที่ดีที่สุดเจ้าอย่าได้เล่นลูกไม้เป็นอันขาด หากข้ากลับมาได้ยินอันใดไม่ดี เจ้าตายแน่!” สุ้มเสียงหลิงหานโจวคล้ายกำลังควบคุมตนเองอีกครั้ง“ไม่หรอกๆ ท่านพี่ ท่านรีบไปรีบกลับ” รอยยิ้มของฝูอวิ๋นลึกมากยิ่งขึ้นบัดนี้ยังไม่มีที่ไป นางยังต้องทำหน้าหนาไร้ยางอายอยู่ที่นี่ต่อชั่วคราวเดิมทียังกังวลว่าชายคนนี้อยู่บ้าน นางจะรู้สึกประหม่าอยู่บ้างได้ยินว่าเขาจะออกจากบ้านก็อยากจะซื้อประทัดจุดฉลองสักสองชุดเหลือเกินหลิงหานโจวเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน จับจ้องนางตาเขม็งอยู่ครู่หนึ่ง เปล่งเสียงในลำคอสองพยางค์ “คลื่นไส้!”ฝูอวิ๋น “...”ไอ้เวรเอ๊ย!หลิงหานโจวหันหลังออกจากห้องครัว พาลูกทั้งสองคนเข้าบ้าน พูดกำชับ “อาจิ่ง หลายวันนี้พ่อไม่อยู่ เจ้

  • ทะลุมิติไปเป็นนางร้าย พาลูกทำไร่สุดหรรษา   บทที่ 5

    ผู้มาคือหลี่หรูเยียนญาติผู้น้องหญิงของหลี่ชุ่ยฮวา ครู่ต่อมาฝูอวิ๋นเลิกคิ้วขึ้นหลังเจ้าของร่างแต่งงานก็ยังไม่ยอมตัดใจจากเซียวหรานซึ่งเป็นคนในดวงใจมาตลอด ผลงานส่วนหนึ่งก็ต้องยกให้หลี่หรูเยียนตรงหน้าคนนี้นี่แหละ“เขาไม่อยู่ มีเรื่องใด?” ฝูอวิ๋นเดินออกจากห้องครัว“ชุ่ยฮวา หลิงจิ่งต่อยตีกับคนอื่นแล้ว! ท่านรีบไปดูเร็วเข้า!” หลี่หรูเยียนถลันขึ้นมาลากฝูอวิ๋นออกไปภายนอกฝูอวิ๋นไม่ชอบที่นางเข้าใกล้ตามจิตใต้สำนึก จึงดึงมือของตนกลับ “หรูเยียน เจ้าเป็นน้าของเด็ก เหตุใดเด็กทะเลาะกันเจ้าไม่ห้ามกันเล่า? กลับวิ่งมาตามข้า?”หลี่หรูเยียนชะงักเล็กน้อยแล้วพูดว่า “เด็กสองคนนั้นคล้ายวัวก็มิปาน ข้าเองก็ห้ามไว้ไม่ได้!”ยิ่งไปกว่านั้น เหตุใดนางต้องห้าม?เด็กทะเลาะกันได้รับบาดเจ็บล้วนเป็นความผิดของนางหลี่ชุ่ยฮวาไม่ว่าพี่ใหญ่หลิงอยู่บ้านหรือไม่ ความผิดล้วนตกอยู่ที่นางริมแม่น้ำสายเล็กหลิงจิ่งถูกเจ้าอ้วนหลี่เสี่ยวหู่ที่โตกว่าเขาสามปีคร่อมตัวไว้ ข้างกายยังมีเด็กอีกสองคนจับเขาเอาไว้ ทำให้เขาขยับไม่ได้หลี่เสี่ยวหู่บีบคอหลิงจิ่งแรงๆ ด้วยมือข้างหนึ่ง อีกข้างหนึ่งจับจับปลาหนักราวหนึ่งชั่งตัวหนึ่งเอาไว้“

  • ทะลุมิติไปเป็นนางร้าย พาลูกทำไร่สุดหรรษา   บทที่ 6

    ฝูอวิ๋นไม่โผล่ศีรษะขึ้นมา หลิงจิ่งหมอบอยู่ริมตลิ่ง ริมฝีปากสั่นระริก “ท่านแม่...ท่านแม่!”ฝูอวิ๋นที่อยู่ภายในน้ำยกมุมปากขึ้นนับตั้งแต่พูดได้เด็กคนนี้ก็ไม่เคยเรียกหลี่ชุ่ยฮวาว่าแม่มาก่อนเลย พอนางมาแทนที่ก็เรียกนางแล้วเสียงเรียก “ท่านแม่” นี้ คล้ายทำให้หัวใจตายด้านมาเนิ่นนานดวงนั้นของนางกลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้งผ่านไปอีกราวครึ่งนาที ฝูอวิ๋นถึง “ซ่า” โผล่ออกจากน้ำ โบกมือให้หลิงจิ่ง “ข้าไม่เป็นไร ไม่ต้องห่วง”เห็นว่านางไม่เป็นไร ใบหน้าของหลิงจิ่งแดงแล้วเมื่อครู่เกิดอันใดขึ้น?เหตุใดเขาต้องห่วงใยนาง?หญิงพรรค์นี้ ตายเร็วหน่อยก็ยิ่งดี!เขายังเรียกนางว่า...พริบตาต่อมาใบหน้าหลิงจิ่งจากแดงกลายเป็นเขียวฝูอวิ๋นอุ้มปลาใหญ่ขึ้นริมตลิ่ง มองเห็นหลิงจิ่งย่อตัวลงจะแบกหลิงเสวี่ยขึ้นหลังหลี่หรูเยียนทางด้านข้างพูดว่า “อาจิ่ง น้าเล็กจะอุ้มน้องสาวของเจ้าเอง เจ้าเดินนำไปเถอะ”หลิงจิ่งมองหลี่หรูเยียนแวบหนึ่งแล้วพยักหน้า“ช้าก่อน” ฝูอวิ๋นเดินเข้ามาทางนี้ “ตัวเสี่ยวเสวี่ยเปียกโชก ไม่สามารถรบกวนน้าเล็กของพวกเจ้าได้ ประเดี๋ยวเสื้อผ้างดงามของนางจะเปื้อน”หลิงเสวี่ยมองหลี่หรูเยียน จากนั้นหันมอ

  • ทะลุมิติไปเป็นนางร้าย พาลูกทำไร่สุดหรรษา   บทที่ 7

    เอี๊ยดอ๊าด...ฝูอวิ๋นเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว ปล่อยเส้นผมเปียกชื้นลงขณะเดินออกจากห้องร่างกายหลิงจิ่งแข็งทื่อ มือค่อยๆ วางที่หลังเอว จับจ้องฝูอวิ๋นตรงหน้าฝูอวิ๋นย่อมมองเห็นการกระทำเล็กๆ ของเขา ฝีเท้าหยุดลงในทันใด คลี่ยิ้มให้เขาพลางพูด “อาจิ่ง เสื้อผ้าน้องสาวของเจ้าวางไว้ที่ใด?”หลิงจิ่งชะงักไป นางไม่ใช่มาสั่งสอนตน?“หากเจ้าไม่บอกข้าล่ะก็ ข้าทำได้เพียงค้นหาส่งเดชแล้วนะ” ฝูอวิ๋นเดินผ่านตัวหลิงจิ่งไป มาถึงอีกห้องหนึ่งหลิงหานโจวนอนห้องเดียวกับเด็กทั้งสองคน เสื้อผ้าย่อมอยู่ภายในห้องนี้หลี่ชุ่ยฮวาไม่เคยสนใจใยดีความเป็นอยู่ของเด็กทั้งสองมาก่อน ย่อมไม่รู้ว่าเสื้อผ้าอยู่ที่ใดนางทำได้เพียงค้นหาส่งเดชภายในตู้“คือว่า...อยู่ที่ชั้นล่างสุด” เสียงแผ่วเบาของหลิงจิ่งดังออมา“ขอบคุณ ข้าเห็นแล้ว”ฝูอวิ๋นบังเอิญเห็นเสื้อผ้าตัวน้อยสีชมพูเข้าพอดี เลือกค่อนข้างหนาออกมาหนึ่งชุดก่อนจากไป ยังลูบศีรษะเล็กของหลิงจิ่งอีกด้วยหลิงจิ่งเกือบเหวี่ยงเคียวออกไป!“มือของเจ้าไม่เป็นไรกระมัง? ต้องใส่ยาหรือไม่?” ฝูอวิ๋นยิ้มน้อยๆหลิงจิ่งชะงักเล็กน้อย มือกำเคียวแน่น ก้าวถอยหลังอย่างอดไม่ได้ อีกทั้งย

  • ทะลุมิติไปเป็นนางร้าย พาลูกทำไร่สุดหรรษา   บทที่ 8

    หลิงจิ่งมองน้องสาว ลังเลไม่อาจตัดสินใจได้ สุดท้ายกัดฟันและเปิดประตู จูงน้องสาวออกจากห้องฝูอวิ๋นเองก็พูดโดยไม่เงยหน้า “เด็กดี รีบมาเถอะ กินอิ่มถึงจะมีแรงสู้ หากเจ้าสู้เจ้าอ้วนคนนั้นไม่ได้ จะต้องให้ข้าช่วย หากข้าช่วยเจ้า น่ากลัวว่าภายภาคหน้าทุกคนจะดูเบาเจ้า”“ข้าสู้ได้ ไม่ต้องให้ท่านช่วย!”หลิงจิ่งไม่สบตาฝูอวิ๋นเลยสักครั้ง จูงหลิงเสวี่ยนั่งลง ยกชามขึ้นแล้วตักข้าวเข้าปากข้าวคลุกน้ำมันหมู อร่อยเหลือเกิน!ฝูอวิ๋นเติมมันบดให้หลิงจิ่งหนึ่งช้อน ตัวเขาแข็งทื่อ แสร้งเขี่ยมันบดออกฝูอวิ๋นยิ้มอย่างระอา “วางใจได้ ข้าก็กินแล้ว หากมีพิษข้าก็ตายก่อน”ได้ยินถ้อยคำนี้ของนาง หลิงจิ่งสับสนอยู่บ้าง มองนางนิ่งๆ แวบหนึ่งแล้วก้มหน้ากินข้าวอีกครั้ง ผ่านไปครู่หนึ่ง แม้แต่น้ำแกงข้าวรสหวานก็กินไปจนเกลี้ยงฝูอวิ๋นลุกขึ้นต้องการเก็บชาม ก็ถูกหลิงจิ่งแย่งไปก่อนแล้วนางถึงนึกขึ้นได้ แม้ว่าหลี่ชุ่ยฮวาทำอาหารให้เด็กกิน แต่อย่าหวังว่านางจะล้างชามตั้งแต่หลิงจิ่งสี่ขวบก็เป็นคนล้างจานภายในบ้านมีคนล้างจาน ฝูอวิ๋นเองก็ไม่อยู่เฉย นางต้องไปหาสมุนไพรขับไล่ความเย็นเพื่อต้มให้เด็กกินหาไม่แล้ว หากเป็นหวัดขึ้นมา คนท

  • ทะลุมิติไปเป็นนางร้าย พาลูกทำไร่สุดหรรษา   บทที่ 9

    “หลิงหานโจวก็คือไอ้คนไม่เอาไหนคนหนึ่ง! ยอมถูกนอกใจโดยไม่คิดตอบโต้ ทั้งยังไม่ยอมหย่าหลี่ชุ่ยฮวานางแพศยาคนนี้!”“ดูท่าแล้วนางแพศยาฝึกฝนทักษะจากภายนอกได้ยอดเยี่ยมยิ่งนัก กลับมาแล้วก็ปรนนิบัติไอ้คนไม่เอาไหนจนผ่อนคลายสบายตัว ไม่อาจหักใจหย่าร้างได้กระมัง!”แม่ม่ายหลิวยิ่งด่า อารมณ์ก็ยิ่งพลุ่งพล่าน คำพูดหยาบคายไม่ระรื่นหู!จู่ๆ ประตูใหญ่ก็เปิดออก!นางลุกขึ้นอย่างลำพองใจ “หลี่ชุ่ยฮวา! เจ้านับว่า...”เพียงเงยหน้า กลับได้เห็นหลิงจิ่งถือเคียวไว้ในมือ ถลึงตาโตอย่างโกรธขึ้ง “พ่อข้าไม่ใช่คนไม่เอาไหน!”“ถุย! พ่อเจ้าไม่ใช่คนไม่เอาไหน เจ้าเล่า? เจ้าก็คือไอ้คนไม่เอาไหนตัวน้อยที่ถูกคนทุบตีแล้วยังต้องให้ผู้หญิงออกหน้าแทน!”แม่ม่ายหลิวพูดจบก็หัวเราะฮ่าๆ ออกมา แต่ไม่มีคนหัวเราะตามนางบรรยากาศชวนอึดอัดหลายวินาทีหลิงจิ่งเพลิงโทสะสูงสามจั้ง หลับตายกเคียวแล้วปรี่เข้าหาแม่ม่ายหลิวรอบข้างเต็มไปด้วยเสียงสูดลมหายใจเย็นเฉียบเด็กสกุลหลิงคนนี้ อารมณ์รุนแรงจริงๆ!อายุเพียงหกขวบตัวเล็กแค่นี้ถึงขั้นขวัญกล้าถือเคียวฟันแม่ม่ายหลิว!ปาไข่กระทบหิน!ทันใดนั้นมีคนลุกขึ้นอยากห้ามเขา ทว่าแม่ม่ายหลิวลงมือว่องไวยิ

  • ทะลุมิติไปเป็นนางร้าย พาลูกทำไร่สุดหรรษา   บทที่ 10

    “หลี่ชุ่ยฮวา! ปล่อยข้านะ เจ้าคิดจะขบถหรือ?” แม่ม่ายหลิวคล้ายวัวก็มิปาน ออกแรงบิดตัวไม่หยุด“บิดาคนนี้ก็ขบถอยู่ทุกวัน บ้าขึ้นมาแม้แต่ตัวเองก็ยังตี เจ้าน่าจะชินแล้วถึงจะถูก!”ขณะเดียวกันจู่ๆ ฝูอวิ๋นก็รู้สึกโชคดีที่ตนเองมีฉายา “คนบ้า” ไม่ว่าทำอันใดก็สามารถหาข้ออ้างที่ชอบธรรมได้เกิดเรื่องขึ้นก็ใช้ “เป็นบ้า” มาอธิบาย“ลูกชายของเจ้าเกือบบีบคอหลิงจิ่งตาย ทั้งยังผลักหลิงเสวี่ยตกแม่น้ำจนเกือบจนน้ำตาย สองชีวิต เจ้าพูดเถอะจะคิดบัญชีอย่างไร?” เสียงฝูอวิ๋นไม่ดังนัก กลับทำให้คนรู้สึกเย็นเยือกภายในใจอย่างอดไม่ได้“เจ้า เจ้าผายลม! เห็นชัดว่าลูกชายเจ้าแย่งปลาของลูกชายข้า ทั้งสองคนถึงต่อยตีกัน เด็กทะเลาะกัน เจ้ากลับเป็นผู้ใหญ่รังแกเด็ก ตบหน้าลูกชายข้าจนบวม เจ้านั่นแหละที่ทำผิดก่อน!”ฝูอวิ๋นดุดันโหดเหี้ยม แม่ม่ายหลิวเองก็ไม่อ่อนแอ“ข้าเป็นผู้ใหญ่รังแกเด็ก? เช่นนั้นเหตุใดเจ้าฉวยโอกาสตอนข้าไม่อยู่ วิ่งมาเป็นผู้ใหญ่รังแกเด็กที่บ้านข้ากันเล่า?”“ข้า ข้า...ข้ามาคิดบัญชีกับเจ้า! เป็นลูกชายของเจ้าถือมีดฟันข้า ข้าถึงลงมือ!” สมองแม่ม่ายหลิวทำงานเร็วรี่ผู้ใหญ่ลงมือตีเด็ก มากน้อยอย่างไรก็เสียเปรียบด้านเ

Latest chapter

  • ทะลุมิติไปเป็นนางร้าย พาลูกทำไร่สุดหรรษา   บทที่ 40

    ฝูอวิ๋นสัมผัสได้ถึงสายตาอันแรงกล้าที่จ้องตัวเองอยู่ก็ขมวดเล็กน้อยจนแทบมองไม่เห็น จากนั้นหันตัวไป ได้พบกับเซียวหรานผู้เป็นตำนานมิน่าเล่า หลี่ชุ่ยฮวาจึงจำไม่ลืมเลือน เป็นความจริงที่เขารูปหล่อมาก มีกลิ่นอายของบัณฑิตผู้สุภาพและให้ความรู้สึกเหมือนคุณชายผู้สง่างามเซียวหรานขมวดคิ้วด้วยความรังเกียจเมื่อเห็นฝูอวิ๋นมองมา “หลี่ชุ่ยฮวา วันก่อนข้าก็พูดกับเจ้าอย่างชัดเจนแล้วนะว่าข้ามีภรรยาแล้ว ส่วนเจ้าก็แต่งงานแล้วเช่นกัน อย่าตามตื๊อข้าอีก”จู่ๆ ฝูอวิ๋นก็หัวเราะออกมา ดวงตาเย็นชาถึงขีดสุด“คุณชายเซียวพูดอันใด? ข้าเพียงนำของมาจำนำเท่านั้น ท่านก็รีบเดินเข้ามาพูดคุยกับข้าแล้ว หากไม่รู้มาก่อนคงคิดว่าท่านยังหลงเหลือความรู้สึกต่อข้า”ฝูอวิ๋นลูบใบหน้าตัวเองพูดอย่างน่าสงสาร “แต่ท่านจะลืมข้าไม่ได้ก็ไม่แปลก ผู้ใดใช้ให้ข้ามีใบหน้าที่งดงามจนสรรพชีวิตต้องเกลียดชังกันล่ะ?”“ขนาดสามีของข้าก็ยังมองข้าด้วยความหลงใหลเหมือนท่านตอนนี้ในทุกๆ วัน”ภายในถ้อยคำของฝูอวิ๋น นอกจากประโยคที่ว่าสามีชอบมากนางแล้ว เรื่องอื่นล้วนแต่เป็นความจริงสกุลหลิงหาเลี้ยงชีพด้วยการล่าสัตว์ ไม่ได้ทำการเกษตร ประกอบกับเดิมทีหลี่ชุ่ยฮว

  • ทะลุมิติไปเป็นนางร้าย พาลูกทำไร่สุดหรรษา   บทที่ 39

    จากหมู่บ้านสกุลหลี่มาถึงตำบลผิงไม่ถือว่าไกล หากใช้เส้นทางที่ตัดผ่านป่าจะมีระยะทางไม่ถึงสิบห้าลี้ ด้วยฝีเท้าของฝูอวิ๋นแล้ว เดินเพียงครึ่งชั่วยามก็ถึงตำบลผิงตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกลและค่อนข้างล้าหลัง มีตลาดนัดแค่เดือนละสามครั้ง แบ่งเป็นวันที่ห้า วันที่สิบห้า และวันที่ยี่สิบห้า หรือก็คือทุกครั้งที่ในวันมีเลขห้านั่นเองวันนี้เป็นวันที่สิบห้า ตรงกับวันที่มีตลาดนัดพอดีเวลานี้บนถนนมีผู้คนขวักไขว่ไปมาคับคั่ง เสียงเชิญชวนให้ซื้อสินค้า เสียงพูด และเสียงโต้เถียงดังผสมปนเปกัน บรรยากาศคึกคักมีชีวิตชีวามากฝูอวิ๋นเดินไปทางโรงรับจำนำโดยอาศัยจากความทรงจำ ทำการจำนำเครื่องประดับทั้งสองชิ้นแต่นางเพิ่งจะก้าวเข้าไปยังโรงรับจำนำก็คือหญิงสาวหน้าตาหยาดเยิ้มนางหนึ่งยกมือขวางไว้“หืม นี่มันนังบ้าหลี่ชุ่ยฮวาผู้มีชื่อเสียงโด่งดังมิใช่หรือ? เซียวหรานของข้าเพิ่งจะก้าวเข้ามาที่นี่ เจ้าก็ตามเข้ามาทันที จมูกสุนัขดีไม่เลวเลยนี่”หญิงสาวนางนี้คืออนุของเซียวหราน มีนามว่าเจี่ยอิ๋งอิ๋ง ทั้งที่รูปโฉมงดงาม ทว่าเอ่ยปากพูดแล้วกลับมีแต่ความเหน็บแนมประชดประชัน ทำให้อดที่จะรู้สึกรังเกียจไม่ได้“หลีกไป” ฝูอวิ๋นเม้มริมฝี

  • ทะลุมิติไปเป็นนางร้าย พาลูกทำไร่สุดหรรษา   บทที่ 38

    หลิงจิ่งยกน้ำหนึ่งชามมาให้อย่างรวดเร็ว ฝูอวิ๋นเงยหน้าดื่มหมดในอึกเดียวนางลูบศีรษะน้อยๆ ของหลิงจิ่ง “เมื่อก่อนข้าทำแบบนั้นกับเจ้า ไม่เกลียดข้าหรือ?”ความจริงแล้วนางอยากจะสลัดตัวเองทิ้งและถามหลี่ชุ่ยฮวาเพียงผู้เดียวหลิงจิ่งเม้มปากแน่น ดวงตาคู่กลมส่องประกายระยิบระยับภายใต้แสงตะเกียงขนาดเท่าเม็ดถั่วฝูอวิ๋นยิ้มแล้วถามอีกครั้ง “เจ้าทำดีกับข้าเช่นนี้ คงไม่ได้กำลังวางแผนทำข้าตายกระมัง?”“ข้า…” หลิงจิ่งมองฝูอวิ๋น รู้ว่าค่ำคืนนี้นางแปลกประหลาดมาก“ช่างเถอะ นอนดีกว่า พรุ่งนี้ข้าจะปูเตียงแล้วให้พวกเจ้ากลับไปนอนที่เดิม มิเช่นนั้นข้ากลัวว่าเจ้าจะลอบฆ่าในยามที่ข้าหลับ”ดวงตาของทอประกายเหมือนคนที่ผ่านโลกมาโชกโชน ค่ำคืนนี้ นางรู้สึกซึมเศร้าหลิงจิ่งขมวดคิ้ว เนิ่นนานก่อนจะพูดขึ้นว่า “ท่านตกใจจนเสียขวัญไปแล้วหรือ?”“ก็คงใช่กระมัง” ฝูอวิ๋นใช้นิ้วสางผมไปไว้ด้านหลัง เผยให้เห็นใบหน้าขาวซีดจู่ๆ หลิงจิ่งก็เข้ามากอดเอวนางฝูอวิ๋นตกใจผงะ นางยิ้มขมขื่นว่า “ข้าทำให้เจ้ากลัวหรือ?”“ท่านกลับไปทุบตีพวกข้าเหมือนเดิมเถิด” หลิงจิ่งพูดแบบนี้ออกมาโดยไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยเขาเองก็ไม่รู้เช่นกันว่าเหตุใดจึงพูดเ

  • ทะลุมิติไปเป็นนางร้าย พาลูกทำไร่สุดหรรษา   บทที่ 37

    หลิงจิ่งชอบตบหมอนก่อนเข้านอน เนื่องจากหมอนที่พวกเขาใช้แข็งทื่อมาก ทำจากฝ้ายคุณภาพต่ำจึงมักจะราบเรียบไม่เสมอกัน ตบแล้วจะช่วยให้หนอนหนุนสบายยิ่งขึ้นคืนนี้เขาลืมตัวจึงเผลอยกหมอนขึ้นมาตบ เมื่อยกหมอนขึ้นมาแล้วก็ได้พบกับปิ่นเงิน กำไลหยก และเงินทองแดงอีกสิบกว่าเหรียญที่อยู่ใต้หมอนเขาตกใจผงะเขาไม่ได้รู้สึกแปลกตากับของสองชิ้นนี้กำไลหยกนั่นเป็นของน้าเล็ก น้าเล็กสวมไว้ที่ข้อมืออยู่ตลอด ส่วนปิ่นเงินนั่น ได้ยินมาว่าเป็นของแทนใจที่ชายชู้มอบให้หลี่ชุ่ยฮวานางเก็บไว้ใต้หมอนเช่นนี้เพื่อไว้คะนึงหาเวลาเห็นของอย่างนั้นหรือ?สีหน้าของหลิงจิ่งหมองหม่นลงเล็กน้อยหลิงเสวี่ยเห็นเขาแน่นิ่งก็หันมามอง เมื่อเห็นของสองสิ่งที่อยู่ใต้หมอนก็ร้องออกมาว่า “เอ๋” จากนั้นหยิบกำไลหยกขึ้นมา “นี่มันกำไลของน้าเล็กมิใช่หรือ? เหตุใดจึงมาอยู่ที่นี่ได้?”ฝูอวิ๋นถอดชุดตัวนอกไปพาดไว้ที่เก้าอี้ ครั้นได้ยินถ้อยคำของหลิงเสวี่ยถึงค่อยนึกขึ้นได้ว่านี่เป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายที่เหลืออยู่นางตอบว่า “นี่เป็นของที่ข้าเคยให้น้าเล็กของพวกเจ้ายืมไปใส่ เมื่อวานนางนำมาคืน ตอนนี้จึงเป็นของข้าแล้ว”“อ้อ คืนให้ท่าน” หลิงเสวี่ยยื่นกำไลหยกใ

  • ทะลุมิติไปเป็นนางร้าย พาลูกทำไร่สุดหรรษา   บทที่ 36

    ฝูอวิ๋นเห็นสีหน้าหวาดกลัวลนลานของแม่ม่ายหลิวก็เกิดความคิดชั่วร้ายบางอย่าง ใช้ปลายเท้าเตะก้อนหินให้กระเด็นไปที่น่องของอีกฝ่าย“โอ๊ย! ผู้ใดกัน!”ความเจ็บปวดที่ขาทำให้แม่ม่ายหลิวกรีดร้องเสียงดังทว่ารอบข้างกลับไม่มีผู้ใด ส่วนพวกฝูอวิ๋นก็เดินห่างออกไปค่อนข้างไกลแล้วแม่ม่ายหลิวตัวแข็งทื่อ ใบหน้าซีดเผือด ริมฝีปากเขียวซีด พูดพึมพำไม่หยุด “อมิตตาพุทธ พระ พระโพธิสัตว์โปรดคุ้มครอง…”“บะ บะ บาปมีผู้ก่อ นะ นะ หนี้มีเจ้าหนี้ ข้าเป็นคนดี ข้าเป็นคนดี…ข้าเป็นคนดีจริงๆ นะ…”หลิงจิ่งกุมท้องหัวเราะลั่นเมื่อเห็นแม่ม่ายหลิววิ่งกรีดร้องกลับบ้านไปหลิงเสวี่ยไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น “ท่านพี่ ท่านหัวเราะอะไรหรือ?”“ฮ่าๆๆ…แม่ของเสี่ยวหู่ตกใจฉี่ราดกางเกงแล้ว!” หลิงจิ่งพูดเสียงดังอย่างไม่เกรงกลัวแม่ม่ายหลิวที่เพิ่งจะวิ่งไปได้ไม่ไกลสะดุดล้มหน้าคะมำ นางรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งต่อโดยไม่หันกลับไปมองสายลมช่างเป็นอะไรที่อัศจรรย์ยิ่ง ทั้งที่ตอนนี้รอบข้างไม่มีผู้ใด ทว่าถ้อยคำของหลิงจิ่งกลับถูกผู้ใดก็ไม่รู้ได้ยินเข้าโดยปกติแล้วชาวหมู่บ้านสกุลหลี่ก็เป็นคนใจดี กระตือรือร้น และชอบใส่ใจผู้อื่นไม่ช้า คนทั้งหมู่บ้านก

  • ทะลุมิติไปเป็นนางร้าย พาลูกทำไร่สุดหรรษา   บทที่ 35

    ไม่ต้องหันไปมอง ฟังจากแค่น้ำเสียงที่ไม่เป็นมิตรนี้ ฝูอวิ๋นก็รู้ว่าแม่ม่ายหลิวมาหาเรื่องอีกแล้ว จะด่านางก็ตามสบาย แต่การที่ใช้ถ้อยคำเช่นนั้นกับเด็กๆ นี่มัน…น่าโมโหเกินไป!ฝูอวิ๋นโยนเสื้อผ้าที่บิดเสร็จแล้วลงในถัง ยืดเอวที่ปวดร้าวลุกขึ้นพูดว่า “เจ้าคนโสโครกด่าใคร?”“ยังจะว่าผู้ใดได้อีก ก็ต้องสองคนนี้…” เสียงของแม่ม่ายหลิวขาดหายอย่างฉับพลัน ใบหน้ากลายเป็นสีดำทะมึน “หลี่ชุ่ยฮวา อยู่ดีๆ ก็มาด่ากันมันหมายความว่าอย่างไร?”หา!ฝูอวิ๋นแทบจะกระอักเลือดผู้ใดกันแน่ที่อยู่ดีๆ ก็มาด่า?นางกัดฟันกรอดพร้อมกับยิ้มบางๆ “เจ้าหมายความว่าอย่างไร ข้าก็หมายความตามนั้นแหละ”“หมายความว่าอยากมีเรื่องสินะ?” แม่ม่ายหลิววางท่าทันที “ปล่อยม้ามาเลย[1]อย่าคิดว่าข้าจะกลัวเจ้า!”“ขออภัย เมื่อวานนี้ม้าของข้ากลายเป็นหมูไปแล้ว และตอนนี้ก็กำลังอยู่เบื้องหน้าข้า”แม่ม่ายหลิวมองซ้ายแลขวาด้วยความสงสัยแต่ก็ไม่เห็นหมูสักตัว ครั้นเห็นฝูอวิ๋นหัวเราะคิกคักถึงค่อยเข้าใจว่าตัวเองกำลังถูกด่า!“หลี่ชุ่ยฮวา เจ้า เจ้า เจ้า!” แม่ม่ายหลิวชี้หน้าฝูอวิ๋น อึกอักอยู่นานแต่กลับด่าอะไรไม่ออกฝูอวิ๋นยิ้มหวาน “ท่าทีที่เจ้า เจ้า เจ้า

  • ทะลุมิติไปเป็นนางร้าย พาลูกทำไร่สุดหรรษา   บทที่ 34

    “งานวันนี้ต้องเสร็จวันนี้ ไปเถิด พวกเราไปซักผ้าที่ริมแม่น้ำ พรุ่งนี้ยังต้องทำอย่างอื่นอีก” ฝูอวิ๋นถือถังไว้ในมือข้างหนึ่ง อีกข้างหนึ่งจูงมือหลิงเสวี่ย ร้องเรียกหลิงจิ่งแล้วเดินออกไปด้านนอก“พรุ่งนี้ต้องทำอะไรหรือ?” หลิงจิ่งถาม“มีเรื่องต้องทำมากมาย”เรื่องที่เร่งด่วนที่สุดก็คือซื้อเสบียงอาหารเสบียงอาหารอันน้อยนิดที่บ้านเพียงพอแค่สำหรับคืนนี้เท่านั้นพรุ่งนี้ก็จะไม่มีอาหารกินแล้วลองนับวันดูแล้ว นับตั้งแต่ที่หลิงหานโจวออกจากบ้านเป็นครั้งแรก จนถึงตอนนี้ก็ผ่านมาสี่วันแล้วตอนนั้นเขาบอกว่าครั้งจะใช้เวลาอย่างน้อยเจ็ดวัน มากสุดก็ครึ่งเดือน…จากไปนานขนาดนั้นแต่กลับทิ้งเสบียงไว้แค่นี้ กำลังคิดอะไรอยู่กันแน่?ตอนนี้เป็นเวลาหลังเที่ยง หลายคนในหมู่บ้านสกุลหลี่จะซักผ้าตั้งแต่ช่วงสาย เวลานี้ริมแม่น้ำจึงไม่มีผู้ใด ฝูอวิ๋นหาตำแหน่งที่พื้นค่อนข้างเรียบมานั่งลงแล้วเริ่มทำงานนางตักน้ำจากในแม่น้ำมาหนึ่งกะละมัง ใส่จ้าวเจี่ยวลงไปและบดให้ละเอียด ยิ่งละเอียดมากเท่าใดก็ยิ่งดี ตามด้วยขยี้เบาๆ ให้เกิดฟอง เท่านี้ก็เป็นอันใช้ได้แล้วนางเรียนรู้วิธีนี้จากความทรงจำของหลี่ชุ่ยฮวา ฝูอวิ๋นไม่เคยใช้เจ้าสิ่

  • ทะลุมิติไปเป็นนางร้าย พาลูกทำไร่สุดหรรษา   บทที่ 33

    หลิงจิ่งเข้าห้องมาพบกับความว่างเปล่าก็ตกใจดวงตาแทบถลน จะอ้าปากร้องเรียกนางแต่ก็ไม่รู้ว่าควรเรียกอย่างไรฝูอวิ๋นเปิดหน้าต่างและปัดฝุ่นออกกวาดหยากไย่ใต้เตียงให้สะอาดและกวาดฝุ่นผงจำนวนมากออกมาหลิงจิ่งลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้นว่า “คือว่า…ท่านเผาฟางเช่นนี้ คืนนี้ข้ากับน้องหญิงจะนอนอย่างไร…”“ไม่ต้องถามมาก ตอนนี้ข้ารู้สึกว่าห้องนี้มีแต่เหา อุตส่าห์อาบน้ำพวกเจ้าจนสะอาดทั้งที ย่อมนอนเตียงที่มีเหาไม่ได้อีก”ฝูอวิ๋นมองไปที่ขอบเตียง เอาแต่รู้สึกว่าปกคลุมไปด้วยเหาเช่นกันเมื่อหลับตาลงก็ราวกับเห็นเหาที่คลานยั้วเยี้ยเต็มเตียง นางรู้สึกขนลุกซู่ รีบตักน้ำมาเช็ดให้ทั่ว แม้แต่โต๊ะหนังสือก็ไม่เว้นบนพื้นเป็นดินเปลือยเปล่า ไม่อาจเช็ดทำความสะอาด ทำได้เพียงกวาดให้ทั่วกว่าจะทำทุกอย่างเสร็จก็เลยเวลาเที่ยงไปโดยไม่รู้ตัวฝูอวิ๋นปวดเอวปวดหลังไปหมด เพิ่งจะนั่งพักหายใจก็ถามตัวเองว่าเหตุใดทำงานแค่เล็กน้อยก็หมดแรงแล้ว?จู่ๆ ก็นึกขึ้นได้ว่าเมื่อเช้าตัวเองกินไข่ไก่แค่สองฟองและอยู่มาจนถึงตอนนี้นางเดินไปทำอาหารที่ห้องครัวโดยพลันเนื่องจากตอนนี้ทั้งเหนื่อยทั้งหิว นางจึงไม่มีเวลามาทำอาหารที่ซับซ้อนเก

  • ทะลุมิติไปเป็นนางร้าย พาลูกทำไร่สุดหรรษา   บทที่ 32

    หลังจากอาบน้ำให้หลิงเสวี่ยเสร็จเรียบร้อย ฝูอวิ๋นก็ทำการเช็ดผมให้กับนาง ครั้นตรวจสอบจนแน่ใจแล้วว่าไม่มีเหาอีกก็ใช้ผ้าเช็ดหน้าห่อผมขึ้นมานางห่อตัวเด็กหญิงด้วยผ้าฝ้ายที่เตรียมไว้ก่อนแล้ว อุ้มนางกลับไปที่ห้องตัวเอง นำเสื้อผ้าที่เตรียมไว้ออกมาให้ใส่“หนาวเหลือเกิน หนาวเหลือเกิน…” หลิงเสวี่ยสั่นเทิ้มไปทั้งตัว“เจ้ารู้หรือไม่ว่าเหตุใดจึงรู้สึกหนาวหลังจากอาบน้ำ?” ฝูอวิ๋นสวมเสื้อผ้าให้นางไปพลาง ถามไปพลาง“เพราะเหตุใดหรือ?”“เพราะว่า…ในอากาศมีปีศาจที่ชอบดูดน้ำ เมื่อมีหยาดน้ำเกาะบนร่างกาย เจ้าปีศาจก็จะเป่าน้ำบนตัวเรา แบบนี้...”ฝูอวิ๋นเป่าไอเย็นไปที่คอของเด็กหญิง เย็นจนอีกฝ่ายต้องหดคอ“น่ากลัวเหลือเกิน!”“เร็วเข้า รีบเข้าไปใต้ผ้าห่ม เช่นนั้นเจ้าปีศาจก็จะเป่าเจ้าไม่ได้แล้ว”“คิกๆๆ…”“นังหนู ตอนนี้ยังกลัวการอาบน้ำอีกหรือไม่?”“ไม่กลัวแล้ว การอาบน้ำของท่านแม่สบายตัว ไม่เจ็บเหมือนท่านพ่อ” เด็กหญิงยิ้มตาหยี ส่วนนี้เหมือนฝูอวิ๋นมาก“เจ้าเรียกข้าว่าอะไรนะ?” ฝูอวิ๋นถามด้วยความประหลาดใจเ“เปล่า…” เด็กหญิงเม้มปากแล้วมุดตัวเข้าผ้าห่มอย่างเขินอายฝูอวิ๋นส่ายหน้าด้วยความจนใจ เด็กคนนี้เปลี่ยนหน้

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status