แชร์

บทที่ 88

ผู้เขียน: จี้เวยเวย
“ท่านหมอ นี่เป็นพิษอะไรกันแน่?” ซ่งอี้อันถามด้วยเสียงเคร่งขรึม

“นี่คือพิษหมื่นบุปผา”

ทันทีที่ทุกคนได้ยินชื่อพิษนี้ สีหน้าของผู้คนในห้องต่างก็เปลี่ยนไปทันใด

พิษหมื่นบุปผานั้นเป็นพิษร้ายแรง ทุกคนล้วนเคยได้ยินชื่อของมัน แต่ไม่คาดฝันว่าจะมีวันหนึ่งที่มันจะปรากฏขึ้นในจวนของพวกเขา

“พิษนี้จะเข้าสู่ร่างกายทางปาก จากอาการของคุณชายใหญ่ที่แสดงให้เห็นในตอนนี้ คาดว่าน่าจะได้รับพิษในช่วงเที่ยงวัน”

ซ่งรั่วเจินฟังคำวิเคราะห์ของท่านหมอหยาง ซึ่งสอดคล้องกับการประเมินของนางทุกประการ ทำให้นางเห็นว่าท่านหมอหยางเป็นผู้ที่เชื่อถือได้ และฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่เลวเลยทีเดียว

“รีบไปสืบหาเดี๋ยวนี้ว่าใครมันบังอาจวางยาพิษเยี่ยนโจว!”

ใบหน้าของหลิ่วหรูเยียนเปลี่ยนเป็นเขียวคล้ำ นางมั่นใจว่าจะต้องมีคนซื้อตัวบ่าวไพร่ให้ลงมือวางยาพิษเป็นแน่

หากมิอาจหาตัวคนร้ายออกมาได้ เกรงว่าคงไม่ใช่เพียงเยี่ยนโจวผู้เดียวที่ตกอยู่ในอันตราย แต่ทุกคนในจวนก็คงต้องเผชิญกับชะตากรรมเดียวกัน

ซ่งจืออวี้ได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยทั้งหมดไว้ล่วงหน้าแล้ว ขณะที่ซ่งอี้อันกับหลิ่วหรูเยียนร่วมกันสอบสวนอย่างละเอียด พวกเขาจะต้องจับตัวคนร้ายให้สำเร็จ

บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 89

    “เจินเอ๋อร์ อาการของพี่ใหญ่เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?” หลิ่วหรูเยียนถาม“ท่านแม่วางใจเถิดเจ้าค่ะ พี่ใหญ่จะฟื้นในวันพรุ่ง แต่เรายังจับตัวคนร้ายไม่ได้ อีกฝ่ายอยู่ในเงามืด ขณะที่เราอยู่ในที่แจ้ง”“ข้าคิดว่าควรจะทำเรื่องอาการของพี่ใหญ่ให้ดูร้ายแรงกว่านี้ บอกว่าพี่ใหญ่ยังคงไม่ฟื้นและไม่รู้ว่าเมื่อใดจึงจะฟื้น แบบนี้น่าจะปลอดภัยยิ่งขึ้น”หลิ่วหรูเยียนถอนหายใจอย่างโล่งอก “เจ้าพูดถูกแล้ว ทำตามที่เจ้าว่ามาเถิด”“พี่รอง สืบเรื่องไปถึงไหนแล้วเจ้าคะ?”“พี่ใหญ่ของเราในช่วงนี้ก็อยู่แต่ในเรือน ไม่เคยออกไปไหนเลย และมีเพียงคนรับใช้ไม่กี่คนที่ดูแลอยู่ในเรือนนี้”“ทว่าอาหารที่ส่งมาจากครัวนั้น จำต้องตรวจสอบให้ถี่ถ้วนว่าระหว่างทางมีผู้ใดลอบแตะต้องหรือไม่”“มีคนฆ่าตัวตาย!”ทันใดนั้นก็มีเสียงหวีดร้องดังมาจากด้านนอกซ่งรั่วเจินและคนอื่น ๆ มองหน้ากัน เกรงว่าคนร้ายน่าจะโดนฆ่าปิดปากแล้ว“นี่คือชิงซง เป็นคนจากห้องครัว เขาเป็นคนที่นำอาหารมาให้พี่ใหญ่ ดังนั้นผู้ที่วางยาพิษก็น่าจะเป็นเขา”ซ่งอี้อันหน้าถมึงทึง เมื่อครู่เขาให้คนตรวจสอบ พบว่ามีคนหายไปหนึ่งคน และเมื่อส่งคนออกไปตามหาก็พบว่าคนผู้นั้นได้ผูกคอตายไปเสียแ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 90

    ซ่งเยี่ยนโจวงีบไปครู่หนึ่ง เมื่อเขาลืมตาขึ้นก็เห็นน้องชายคนรองเดินเข้ามาด้วยท่าทีห่วงใย“พี่ใหญ่ ตอนนี้ท่านรู้สึกดีขึ้นบ้างหรือยัง?”ซ่งเยี่ยนโจวบีบตัวเองเบา ๆ เมื่อไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวด ใบหน้าหล่อเหลาของเขาก็เผยให้เห็นความประหลาดใจ“น้องรอง ดวงตาของเจ้ามองเห็นแล้วจริงหรือ?”“ใช่แล้ว” ซ่งอี้อันพูดด้วยความสงสัย “ก่อนหน้านี้ข้าก็บอกแล้วมิใช่หรือ? เพราะน้องหญิงห้ามีฝีมือการแพทย์สูงส่ง ข้าจึงหายได้”“พี่ใหญ่ ท่านอย่าเพิ่งหมดหวังเพราะอาการที่ขาเลย น้องหญิงห้าบอกว่าท่านยังสามารถยืนขึ้นได้อีกครั้ง”ซ่งเยี่ยนโจวจ้องมองซ่งอี้อันอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะอดถามไม่ได้ว่า “น้องรอง หรือว่าข้าจะสับสนไปเพราะบาดเจ็บ น้องหญิงห้าเรียนรู้วิชาแพทย์ตั้งแต่เมื่อใด?”ซ่งอี้อันนึกขึ้นได้ “มิน่าเล่าพี่ใหญ่จึงมีปฏิกิริยาเช่นนี้ ตอนข้าได้ยินว่าน้องหญิงห้าจะรักษาอาการป่วยของข้า ข้าก็คิดว่านางพูดไปเพื่อปลอบใจข้าเท่านั้น”“เมื่อไม่นานมานี้น้องหญิงห้าเพิ่งเข้าพิธีมงคล แต่หลินจือเยว่กลับรับภรรยาเอกอีกคนเข้ามาพร้อมกัน แล้วยังทำให้นางต้องอับอายที่หน้าประตูจวนสกุลหลิน น้องหญิงห้าจึงโกรธจนเป็นลมไป”“หลังจากนั้นนางก็พ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 91

    “พี่ใหญ่ ท่านอย่าได้กังวลไปเลย น้องหญิงห้าของเรามีฝีมือการแพทย์ล้ำเลิศ ในเมื่อนางรักษาดวงตาข้าได้ ก็ย่อมสามารถทำให้ท่านกลับมายืนได้อีกครั้ง”ซ่งอี้อันเบนสายตาไปด้านข้าง เขารู้ว่าพี่ใหญ่มีปมนี้อยู่ในใจมากที่สุดเมื่อได้ยินดังนั้น ดวงตาที่ดำขลับดุจหยกดำของซ่งเยี่ยนโจวก็ฉายแววแห่งความหวังขึ้นมา แต่ยังคงเจือด้วยความกังวลอยู่บ้างเขาผ่านความผิดหวังมามากเกินไป จนไม่กล้าคาดหวังต่อสิ่งใดอีกแล้ว“พี่ใหญ่ เมื่อวานตอนที่ท่านหมดสติไป ข้าได้ตรวจดูขาท่านแล้ว ขาของท่านสามารถรักษาให้หายได้”ซ่งรั่วเจินยืนยันคำตอบอย่างมั่นใจ แววตาของซ่งเยี่ยนโจวฉายแววไม่เชื่อ “จริงหรือ?”“พี่ใหญ่ ข้าไม่มีทางหลอกท่านแน่นอนเจ้าค่ะ”ซ่งรั่วเจินยิ้มเบา ๆ “แต่ว่าพี่ใหญ่ สถานการณ์ของท่านร้ายแรงกว่าพี่รอง พี่รองสูญเสียการมองเห็นเพราะถูกกระแทกที่ศีรษะ ทำให้เกิดก้อนเลือดในสมอง”“เมื่อข้าฝังเข็มละลายก้อนเลือดในสมองแล้ว สายตาของพี่รองก็กลับมามองเห็นได้”“ส่วนขาของท่านได้รับบาดเจ็บสาหัสในสนามรบ กระดูกหัวเข่าบางส่วนแตกละเอียด ดังนั้นการรักษาจำเป็นต้องใช้เวลา ไม่อาจใจร้อนได้”ซ่งเยี่ยนโจวรู้ถึงสภาพขาของตนเองดี เพราะหมอเก

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 92

    “พวกเขามาหาข้าหรือ?” ซ่งอี้อันรู้สึกประหลาดใจ ก่อนจะหันไปมองซ่งรั่วเจิน หรือว่านี่จะเป็น...การมาเยี่ยมที่แฝงด้วยเจตนาอื่น?เขารู้จักกับสวีเฮ่ออันก็จริง แต่เป็นเพราะสวีเฮ่ออันก็เป็นคนที่อาจารย์ให้ความสำคัญมาก ก่อนหน้านี้อาจารย์ถึงกับแนะนำให้พวกเขารู้จักกันเป็นการพิเศษเขาเคยอ่านเรียงความของสวีเฮ่ออันและชื่นชมในความสามารถของอีกฝ่าย หลังจากที่สวีเฮ่ออันสอบได้อันดับสูง เขายังส่งตำรามาให้หลายเล่ม นับว่าเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันแต่เพราะบิดาของเขาและท่านราชครูสวี คนหนึ่งเป็นฝ่ายบู๊ อีกคนหนึ่งเป็นฝ่ายบุ๋น ความสัมพันธ์ในราชสำนักจึงไม่ค่อยแน่นแฟ้น ทำให้พวกเขาไม่ค่อยมีการติดต่อกันบ่อยนักครั้งก่อนน้องหญิงห้าของเขาช่วยตามหาบุตรสาวที่หายตัวไปของสกุลสวี นั่นจึงเป็นเหตุให้ทั้งสองตระกูลได้ไปมาหาสู่กัน แต่เหตุใดจู่ ๆ สวีเฮ่ออันถึงมาหาเขา?เขามองดูน้องสาวผู้มีรูปโฉมงดงามน่าหลงใหล ก่อนหน้านี้นางแทบไม่ออกไปพบปะผู้ใดเลย มิเช่นนั้นประตูจวนคงถูกคุณชายในเมืองหลวงย่ำผ่านจนพังไปแล้ว...“รั่วเจิน เจ้าจะไปด้วยกันไหม?” ซ่งอี้อันถามเมื่อเปรียบเทียบกับหลินจือเยว่จอมเสแสร้ง สวีเฮ่ออันนั้นเป็นสุภา

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 93

    “แน่นอน” ก่อนมาอวิ๋นเฉิงเจ๋อได้ให้คนคัดลอกเรียงความนั้นไว้แล้ว เขาจึงอ่านมันต่อหน้าซ่งอี้อันทันที“คุณชาย นี่คือเรียงความที่ท่านเขียนไว้ก่อนหน้านี้มิใช่หรือขอรับ?” มั่วอวี่อุทานด้วยความตกใจซ่งอี้อันก็ตกใจไม่แพ้กัน เขาถามด้วยสีหน้าฉงน “แต่เรียงความนี้ข้าให้เจ้าเก็บเอาไว้แล้วนี่ ฉินเซี่ยงเหิงได้มันไปได้อย่างไร?”มั่วอวี่พยายามนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้แล้วกล่าวว่า “ตั้งแต่ดวงตาของคุณชายสูญเสียการมองเห็น ก็ไม่ได้ไปที่ห้องหนังสืออีกเลย นอกจากเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา คุณหนูจ้าวบอกว่าลืมของไว้ในห้องหนังสือจึงเข้าไปเอา จากนั้นก็ไม่มีใครเข้าไปอีกเลยขอรับ” “คุณชายฉินเองก็ไม่ได้มาที่นี่ เขาไม่น่าจะมีบทความของคุณชายได้!”“เจ้าไปดูทีว่าเรียงความของข้ายังอยู่หรือไม่” ซ่งอี้อันสั่ง“ขอรับ คุณชาย”สวีเฮ่ออันกับอวิ๋นเฉิงเจ๋อฟังคำพูดเหล่านี้ก็เข้าใจเรื่องราวโดยสังเขปเรื่องการถอนหมั้นของจ้าวซูหว่านเป็นที่รู้กันทั่วในเมืองหลวง แต่ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา พวกเขาได้เห็นจ้าวซูหว่านอยู่ใกล้ฉินเซี่ยงเหิงหลายครั้งหากเรียงความนี้เป็นสิ่งที่จ้าวซูหว่านขโมยไปให้ฉินเซี่ยงเหิง นั่นย่อมหมายความว่าความสัม

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 94

    หลังจากส่งสวีเฮ่ออันกับอวิ๋นเฉิงเจ๋อกลับไปแล้ว ซ่งอี้อันก็นำขนมดอกกุ้ยฮวาที่สวีเฮ่ออันฝากมาขอโทษไปให้น้องสาวของเขา“นี่เป็นขนมที่สหายสวีฝากมาขอโทษเจ้า บอกว่าเสียใจที่ผิดนัดคราวก่อน และได้เชิญพวกเราไปเที่ยวชมทะเลสาบในวันพรุ่งนี้ด้วย ข้าตอบรับไปแล้ว แต่ไม่ได้ตัดสินใจแทนเจ้า”“หากเจ้าไม่อยากไปก็ไม่ต้องฝืน แน่นอนว่าคุณหนูอวิ๋นก็จะไปด้วย”ซ่งอี้อันยิ้มพร้อมกับยื่นขนมดอกกุ้ยฮวาให้ เขารู้จักสวีเฮ่ออันมานานแล้ว แต่เป็นครั้งแรกที่เห็นอีกฝ่ายกระวนกระวายเช่นนี้ โดยเฉพาะตอนที่เชิญชวน คงเกรงว่าจะถูกปฏิเสธ ซ่งอี้อันก็พอเข้าใจได้ในทันทีเขารู้ว่าสวีเฮ่ออันชอบน้องสาวของเขาเป็นแน่ซ่งรั่วเจินดีดนิ้วคำนวณดูแล้วพบว่าพรุ่งนี้เป็นวันที่เหมาะกับการเที่ยวชมทะเลสาบ ไม่เพียงแต่ได้ชมทะเลสาบเท่านั้น ยังจะมีเรื่องสนุกให้ชมอีกด้วย“นาน ๆ ทีพี่รองจะมีอารมณ์ดีเช่นนี้ ข้าย่อมต้องไปด้วยเจ้าค่ะ”ซ่งอี้อันยิ้มกว้างขึ้น “ดี”……ฉินซวงซวงอาเจียนเป็นเลือดออกมาอย่างหนักในคุก ดูท่าทางเหมือนจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานเมื่อเจ้าเมืองประจำศาลาว่าการซุ่นเทียนทราบเรื่องนี้ เกรงว่านางอาจจะตายอยู่ในคุก จึงยอมให้หลินจือเยว่พ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 95

    แม้ฉินซวงซวงจะถูกฮูหยินผู้เฒ่าหลินด่าทอจนสีหน้าย่ำแย่ แต่นางก็เข้าใจสถานการณ์ในปัจจุบันดีในชาติก่อน นางเข้ามาในจวนหลังจากเวลาผ่านไปหนึ่งปี ซึ่งในเวลานั้นจวนโหวรุ่งเรืองมาก รั่วเจินก็ดูแลที่ดินและร้านค้าของจวนอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยนางเข้ามาในจวนโดยไม่ต้องกังวลเรื่องเงิน เพียงแค่ลอบซื้อใจคนที่อยู่ใกล้ซ่งรั่วเจิน เมื่อซ่งรั่วเจินสิ้นใจ ทุกอย่างก็จะตกมาเป็นของนางไปโดยปริยายแต่สิ่งเดียวที่นางไม่พอใจคือสถานะอนุภรรยาของตนเองการเลื่อนสถานะจากอนุภรรยาเป็นภรรยาหลวงทำให้นางถูกผู้คนเยาะเย้ย บางคนถึงกับยุยงให้หลินจือเยว่แต่งภรรยาหลวงใหม่ เพราะถึงอย่างไรอนุก็ยังเป็นอนุอยู่วันยันค่ำดังนั้นเมื่อได้เกิดใหม่ นางจึงวางแผนที่จะเข้าสู่จวนก่อนเวลา เพื่อให้ได้รับสถานะเทียบเท่าภรรยาหลวง และเมื่อซ่งรั่วเจินตายไป ก็จะไม่มีผู้ใดกล้าวิจารณ์นางอีกแต่ใครจะคิดว่าการตัดสินใจผิดพลาดเพียงก้าวเดียวจะทำให้เรื่องราวลงเอยเช่นนี้เล่า?นางเกิดใหม่ทั้งที จะปล่อยให้ซ่งรั่วเจินรังแกได้อย่างไร? ครั้งนี้เป็นเพียงเพราะนางประมาทไปชั่วคราวเท่านั้น!“จือเยว่ ข้ารู้ว่าเรื่องทั้งหมดนี้เป็นความผิดของข้า ท่านอย่ากังวลไปเ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 96

    ณ พระราชวัง ห้องทรงพระอักษร“การสอบประจำฤดูใบไม้ผลิใกล้เข้ามาแล้ว เราได้ยินว่ามีผู้สอบจำนวนมากมายังเมืองหลวง ทำให้บรรยากาศคึกคักขึ้นมาก ท่านอัครเสนาบดีกับท่านอาจารย์พอจะมีผู้ใดที่เห็นว่ามีพรสวรรค์บ้างหรือไม่?” ฮ่องเต้ตรัสถามด้วยรอยยิ้ม“ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา กระหม่อมได้อ่านเรียงความที่ยอดเยี่ยมหลายบท เรียงความเหล่านี้เขียนโดยผู้มีพรสวรรค์ กระหม่อมจึงให้คนคัดลอกไว้ ฝ่าบาทโปรดทอดพระเนตร” อัครเสนาบดีส่งเรียงความที่เตรียมไว้ล่วงหน้าให้กับขันทีใหญ่ และขันทีใหญ่ก็นำไปถวายฮ่องเต้“เป็นเรียงความที่ดีจริง ๆ เต็มไปด้วยพรสวรรค์ ควรมีชื่อของเขาในการสอบประจำฤดูใบไม้ผลิครั้งนี้” ฮ่องเต้ตรัสถามด้วยความพอพระทัยว่า “ผู้สอบผู้นี้มีนามว่าอะไร?”“ทูลฝ่าบาท เขาคือฉินเซี่ยงเหิงจากสำนักศึกษาหลวง กระหม่อมเชื่อว่าท่านอาจารย์เว่ยก็น่าจะรู้จักดี” เสนาบดีถังตอบด้วยรอยยิ้มอาจารย์เว่ยขมวดคิ้วเมื่อได้ยินชื่อของฉินเซี่ยงเหิง เขารู้ว่าฉินเซี่ยงเหิงมีความสามารถ แต่หากถึงขั้นที่คนทั้งเมืองหลวงพูดถึง แม้แต่อัครเสนาบดีและฮ่องเต้ก็ยังชมเชย เขาไม่เชื่อว่าจะเป็นเช่นนั้น“ฝ่าบาท กระหม่อมขอดูเรียงความนั้นได้หรือไ

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 726

    “ชิ้ง!”กู้ชิงฉือสัมผัสได้ว่ากระบี่คมสายหนึ่งผ่านข้างกายตนไป ไรผมช่อหนึ่งถูกตัด ตกตะลึงพรึงเพริดภายในใจ“นี่ให้เจ้า”ฉู่จวินถิงลังเลไปครู่หนึ่ง ยัดยันต์คุ้มภัยใส่มือกู้ชิงฉือ“เก็บไว้ให้ดีแทนข้าด้วย!”ครู่ต่อมา กู้ชิงฉือก็มองเห็นคู่ต่อสู้เบื้องหน้า ภายในสายตาสั่นสะท้าน ก้มหน้ามองดู นี่คือกระดาษยันต์สีเหลืองหนึ่งใบ“ท่านอ๋อง ท่านยกให้ข้า เช่นนั้นท่านจะทำเยี่ยงไร!”ไต้ซือเทียนจีเห็นฉู่จวินถิงมอบยันต์ให้กู้ชิงฉือ ภายในสายตาสะท้อนแววตกตะลึง ฉู่อ๋องอยู่ภายนอกได้ชื่อว่าโหดเหี้ยมอำมหิต ฆ่าคนไม่กะพริบตา ถึงขั้นมอบของป้องกันชีวิตให้ผู้อื่น?คนผู้นี้...มีภูมิหลังเช่นไร?“ไม่ต้องห่วงข้า”ฉู่จวินถิงหลับตาลง ได้ยินเสียงฝ่าอากาศรอบด้าน แยกแยะตำแหน่ง“ชิ้ง ชิ้ง ชิ้ง!”พลังอันแข็งแกร่งปะทุออกมา ฉู่จวินถิงเคลื่อนไหวอย่างว่องไว ราวกับมังกรเคลื่อนไหวก็มิปาน หลบหลีกการโจมตีที่พุ่งเข้ามาครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนที่ดาบในมือจะพุ่งแทงออกไปอย่างฉับพลัน“อ๊าก!”เสียงแผดร้องสายหนึ่งดังขึ้น ศพร่างหนึ่งปรากฏต่อหน้าทุกคน“ไอ้พวกชั่ว!”ภายในสายตาฉู่จวินถิงสะท้อนความอำมหิต คนผ่านเข้าไปกลางตรอกเล็ก ทั้งๆ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 725

    ซ่งรั่วเจินติดตามซ่งเยี่ยนโจวเดินทางมาถึงพื้นที่ที่ถูกปิดล้อมไว้ บัดนี้ถูกขวางไว้ ไม่อนุญาตให้ผู้ใดผ่านทางซ่งเยี่ยนโจวหยิบป้าย ทั้งสองคนผ่านเข้าไปอย่างราบรื่น“ภายนอกเป็นทหารของทางการรับผิดชอบค้นหา ส่วนภายในและภายนอกเมือง ฉู่อ๋องคล้ายพบความผิดปกติ ดังนั้นจึงพาคนไปค้นหาก่อน”ซ่งเยี่ยนโจวพาซ่งรั่วเจินขี่ม้าไป ว่องไวอย่างมากจากนั้นระยะทางใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ ซ่งรั่วเจินมองผ่านการสัมผัสของผีทวงชีวิตที่เริ่มชัดเจนมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ รู้สึกตกตะลึงภายในใจ เวลาสั้นถึงเพียงนี้ ฉู่อ๋องถึงขั้นพบที่ซ่อนตัวของไต้ซือเทียนจีแล้ว?“บัดนี้สถานการณ์เป็นเช่นไร?” ซ่งเยี่ยนโจวเอ่ยถาม“ท่านหัวหน้าราชองครักษ์ ท่านมาแล้ว” จ้าวเจียงแม่ทัพที่เป็นหัวหน้าได้พบซ่งเยี่ยนโจวรีบตอบ “มีหนึ่งหน่วยหายไประหว่างค้นหาขอรับ ตอนนี้ท่านอ๋องกำลังพาคนออกค้นหา”“เรื่องวันนี้พูดไปแล้วก็แปลกมาก คนกลุ่มหนึ่งอยู่ดีๆ ก็หายไป ท่านว่าแปลกหรือไม่?”เพียงซ่งรั่วเจินได้ยิน พูดเสียงเครียด “อยู่ที่ใด?”จ้าวเจียงเห็นซ่งเยี่ยนโจวถึงขั้นพาแม่นางท่านหนึ่งมาด้วย ตกตะลึงอย่างอดไม่ได้ แต่มองอย่างละเอียดแล้วก็จำฐานะของอีกฝ่ายได้ ท่าทีเคารพน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 724

    ซ่งรั่วเจินพยักหน้าเบาๆ รีบตามหลังไปฉู่จวินถิงพากลุ่มคนฝีมือดีเริ่มออกค้นหาในบริเวณที่เลือกไว้ ตั้งใจเอ่ยเตือนไม่ให้ปล่อยเบาะแสใดหนึ่งหน่วยภายในนั้นกำลังค้นหาตรอกเบื้องหน้า เดินไปๆ กลับๆ พบว่าตรอกนี้ยาวมาก ถึงขั้นเกิดความรู้สึกเดินไปไม่สุดทางทีแรกทุกคนยังไม่พบอะไร จนกระทั่งเดินเป็นรอบที่สาม นี่ถึงพบว่าเคยมาสถานที่เบื้องหน้ามาก่อน เหมือนกับสถานที่ที่เคยมาก่อนหน้านี้ทุกกระเบียดนิ้ว“ผิดปกติ เมื่อครู่พวกเราค้นหาที่นี่แล้วมิใช่หรือ เหตุใดรู้สึกว่ากลับว่าอีกครั้งแล้วเล่า?”“ใช่แล้ว เมื่อครู่ข้ามาที่นี่ ประตูใหญ่เหมือนเดิมทุกกระเบียดนิ้ว ข้ายังยกหินก้อนนี้ไว้ที่อีกฝั่งด้วย ต่อให้บ้านเรือนละแวกนี้คล้ายกัน แต่ก็ไม่มีวันเหมือนกันทุกกระเบียดนิ้วเช่นนี้!”คนเป็นหัวหน้าขมวดคิ้วแน่น “เร็ว พวกเราออกจากตรอกนี้ไป!”“ขอรับ” ทุกคนไม่ใส่ใจการค้นหาอีก เร่งฝีเท้าว่องไวยิ่งขึ้นออกจากตรอกเล็กนี้จากนั้นทุกคนเพิ่งถึงหน้าตรอก ก็พบว่าพวกเขากลับมาอยู่ภายในตรอกเล็กอีกครั้ง สีหน้าแต่ละคนเปลี่ยนไป“นี่โดนของกลางวันแสกๆ เลยหรือ?”ทุกคนต่างหันหน้ามองกัน เรื่องโดนของแบบนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งคราว ถ้ามีแค่ค

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 723

    “เช่นนั้นก็ค่อยๆ ค้นหา ค้นหาทุกครัวเรือน ห้ามมิให้ปล่อยที่ใดไปเป็นอันขาด โดยเฉพาะห้องใต้หลังคา ห้องใต้ดิน ไปจนถึงคอกวัวแกะหมู ต้องหาทั้งหมดให้ละเอียด!” ฉู่จวินถิงเอ่ยออกมา“พ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง!”บัดนี้ทุกคนจำภาพวาดไว้ในสมองแล้ว ท่านอ๋องพูดว่าขอเพียงจับคนได้ จะตกรางวัลให้อย่างงาม!กององครักษ์หลวงเริ่มค้นหาอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ไม่พลาดที่ใดไป อีกทั้งยังไม่ปล่อยโอกาสให้คนหลุดรอดไปได้ไต้ซือเทียนจีได้รับข่าวอย่างรวดเร็ว ยามได้รู้ว่าฉู่อ๋องนำทหารออกค้นหา ก็รู้ว่ากำลังค้นหาตนเอง สีหน้าเปลี่ยนเป็นไม่สบอารมณ์มากผิดปติ“ในเมื่อสามารถทำนายมาถึงข้าได้ ซ่งรั่วเจินคนนี้รับมือยากไม่ผิดไปดังคาด!”หลายวันก่อนเขาหลบซ่อน วางอุบายวางค่ายกล เดิมทีคนทั่วไปไม่สามารถตามหาตำแหน่งของเขาพบ นี่ทำให้เขากล้าอยู่ที่เมืองหลวงต่อใครคาดคิดเล่าว่าภายในมือซ่งรั่วเจินไม่รู้ลมหายใจของเขา ถึงขั้นสามารถทำนายตำแหน่งที่เขาอยู่ได้ ฝีมือไม่ธรรมดาจริงๆ!“ไต้ซือ ตอนนี้พวกเราจะทำเช่นไร? กององครักษ์หลวงมีความสามารถไม่น้อย ฉู่อ๋องเองก็วิชายุทธสูง หากถูกเขาจับได้ พวกเราจะต้องหนีไม่พ้นแน่!”ทุกคนร้อนใจขึ้นมาอย่างสุดระงับ หลายว

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 722

    “เจ้าคงมิใช่หลอกคนหรอกกระมัง?” อวิ๋นหงหล่างเผยสีหน้าสงสัยซ่งจืออวี้กลอกตาขาว “ตาแก่ไร้ยางอายคนนี้ คิดสงสัยใครที่นี่? ช่วยท่านแล้วไม่พูดขอบคุณ ยังสงสัยน้องหญิงของข้าอีกกระนั้นรึ?”“ไปๆ ๆ รีบพาหญิงแก่แพศยาชาเขียวคนนี้ไสหัวไปได้แล้ว เห็นแล้วขยะแขยง!”“อีกเดี๋ยวส่งเงินมาให้ข้า หากภายในหนึ่งชั่วยามยังมาไม่ถึง ข้าจะไปแจ้งทางการ!”“พวกเจ้าเลิกยื่นเหม่อได้แล้ว ให้พวกเจ้าส่งแขก หากยังไม่ยอมไป ก็ใช้ไม้พองไล่ออกไป!”บ่าวรับใช้ทางด้านข้างดึงสติกลับมาได้ ต่างพากันถลันขึ้นไป เตรียมไล่คนอวิ๋นหงหล่างเองก็ไม่มีหน้าอยู่ที่นี่ต่อ ทำได้เพียงพาอนุอวิ๋นจากไปด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ปวดใจไม่หยุด นั่นคือเงินสามแสนตำลึงเชียวนะ!หันมองอนุอวิ๋นข้างกาย เขาเกิดโทสะขึ้นมาสายหนึ่ง หากไม่ใช่นางหาเรื่อง เรื่องราวก็คงไม่ต้องกลายเป็นเช่นนี้!จนกระทั่งทั้งสองคนจากไป ซ่งจืออวี้ก็พบว่าสายตาทุกคนล้วนตกลงบนตัวของตน เอ่ยออกมาอย่างอดไม่ได้ “พวกเจ้ามองข้าทำอันใด?”“พี่สาม ชาเขียวที่ท่านพูดหมายความว่าอะไร?” ซ่งจิ่งเซินแปลกใจอยู่บ้างซ่งจืออวี้ผายมือ “ข้าเองก็ไม่รู้ เรียนมาจากน้องหญิงห้า”ซ่งรั่วเจินเห็นทุกคนมองตนสีหน้าแป

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 721

    นางจำรายการสินเดิมในปีนั้นได้อย่างชัดเจน รวมไปถึงกำไรของร้านค้าที่เป็นสินเดิมเพราะหลายปีมานี้ผิดหวังกับอวิ๋นหงหล่างมาก นางจึงหันไปสนใจการค้านางและกู้หรูเยียนเป็นสหายที่ดีต่อกัน การค้าของสกุลซ่งดีมากถึงเพียงนี้ ย่อมชี้แนะนางเป็นอย่างดี ดังนั้นเงินที่หาได้ย่อมมีไม่น้อย ภายในนั้นเขียนไว้ในบัญชีรวมมากมายทว่านางเก็บรักษาบัญชีของร้านไว้อย่างดี แม้แต่ภายในจวนเบิกเงินของนางไปมากน้อยเพียงใด นางก็จำได้ทั้งหมดบัดนี้...จะเอาคืนกลับมาให้หมด!“พี่หญิง คืนของให้ท่านย่อมเป็นเรื่องที่สมควรทำ แต่ท่านเองก็ต้องการมากเกินไปแล้ว”อนุอวิ๋นเอ่ยปากอย่างอดไม่ได้ หันมองอวิ๋นหงหล่างอย่างกังวล กลัวเขาโมโหลงนามลงไปอวิ๋นหงหล่างย่อมไม่ยอมให้เกิดปัญหาตามมาอย่างต่อเนื่อง แม้ปวดใจ แต่ยังลงนามประทับลายนิ้วมือลงไป“ตอนนี้ใช้ได้แล้ว พวกเจ้าสามารถช่วยคนได้แล้วกระมัง!”เห็นจางเหวินเก็บหนังสือหย่าไป ซ่งรั่วเจินเอ่ยปากเสียงเรียบ “ให้ข้าลงมือช่วยอนุอวิ๋นก็ย่อมได้ สามแสนตำลึง!”ถ้อยคำนี้พูดออกมา อวิ๋นหงหล่างก็โง่งมแล้ว “เจ้าพูดว่าอะไรนะ?”“ซ่งรั่วเจิน เจ้าอย่าทำเลยเถิดเกินไปนัก ทั้งๆ ที่เจ้าพูดว่าขอเพียงลงนามในหน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 720

    “ข้าคิดไว้ดีตั้งแต่แรกแล้ว นับตั้งแต่วันที่ติดตามท่านแม่ออกจากสกุลอวิ๋น ข้าก็ไม่คิดกลับไปอีก”พูดไป อวิ๋นเนี่ยนชูก็เหลือบมองอวิ๋นเฉิงเจ๋อแวบหนึ่ง พูดว่า “ภายภาคหน้าไม่ว่าข้าแต่งกับใคร ต่อให้เป็นเพียงสามัญชนคนหนึ่ง ข้าก็ยินดี”อย่างไรเสีย ชาตินี้หากไม่สามารถแต่งงานกับคนที่รักได้ ไม่ว่าแต่งกับใครก็ล้วนเหมือนกันเมื่อแรกท่านแม่แต่งงานกับท่านพ่อ ทุกคนล้วนพูดว่าแต่งได้ดี แต่สุดท้ายได้รับอะไรเล่า?อวิ๋นเฉิงเจ๋อได้ยินว่าอวิ๋นเนี่ยนชูจะแต่งงานกับสามัญชน ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว นิ้วมือภายในแขนเสื้อกำแน่น ภายในก้นบึ้งของสายตาซับซ้อน“เจ้า ดีนักนะ!” อวิ๋นหงหล่างโมโหจนหัวเราะออกมา “ถึงตอนนั้นเจ้าหาทางออกไปได้ อย่ามาขอข้าให้ช่วยเจ้าก็แล้วกัน!”“ข้าไม่มีวันทำเช่นนั้น ตรงข้ามกันภายในหัวใจท่านพ่อ ซีหว่านล้วนสำคัญที่สุดมาโดยตลอด”“นางทำผิดมากเพียงใดล้วนไม่เป็นไร ข้าเพียงทำผิดเล็กน้อยก็ถูกลงโทษ หากข้าตามท่านกลับไป ภายภาคหน้าบ้านหลังนี้มีอนุอวิ๋นดูแล ข้ายังจะมีชีวิตที่ดีอีกหรือ?”อวิ๋นเนี่ยนชูคิดตกแล้ว เดิมทีอนุอวิ๋นก็โหดเหี้ยมอำมหิต พวกเขาล้วนมองออก มีเพียงบิดาที่มองไม่ออกบางที...บิดาอาจไม่ยอมมอง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 719

    “ยังมีเจ้า!” หลิ่วหรูเยียนชี้อนุอวิ๋น “ตอนยังเป็นสาวร้องไห้สะอึกสะอื้นก็ช่างเถอะ บัดนี้แก่จนหน้าเหลืองแล้วกลับยังไม่แก้ไข หากชอบร้องไห้ถึงเพียงนั้น ตอนจัดงานศพก็ไปร้องที่นั่นสิ วิ่งมาสร้างความอัปมงคลที่จวนซ่งของพวกเราทำอันใด!”คนสกุลซ่งหันมองมารดาอย่างแปลกใจ ที่ผ่านมามารดาอ่อนโยนนุ่มนวล ไม่เคยพูดจาเช่นนี้มาก่อน คำพูดวันนี้ช่าง...สาแก่ใจจริงๆ!จางเหวินที่เดิมทีโมโหแทบแย่กลับถูกคำพูดของหลิ่วหรูเยียนทำให้ขำจนหัวเราะออกมานางหวนนึกถึงเมื่อครั้นยังอยู่ในวัยแรกรุ่น กู้หรูเยียนมีอุปนิสัยอ่อนโยนรังแกง่าย เพราะได้รับความทุกข์จากสกุลหลิ่ว ครอบครัวลำเอียง นางอธิบายไปแล้วก็ไม่มีใครฟัง หนำซ้ำยังถูกลงโทษ ดังนั้นกู้หรูเยียนจึงชินชากับการไม่อธิบายจนกระทั่งมีคนพูดว่าร้ายนาง นางได้เห็นคนอ่อนโยนนุ่มนวลเสมอมาอย่างกู้หรูเยียนออกมาตอบโต้คน ถึงขั้นด่ากลับไปความสะเทือนใจในตอนนั้นก็คล้ายตอนนี้ ฉากตรงหน้าแทบจะซ้อนทับกัน“หลายปีมานี้เจ้าไม่บอกข้ามาโดยตลอด หากข้ารู้ตั้งแต่แรกว่าเจ้าได้รับความทุกข์เช่นนี้ จะต้องช่วยเจ้าด่าชายโฉดหญิงชั่วไร้ยางอายคู่นี้ดีๆ แน่!”จางเหวินจับมือกู้หรูเยียนไว้ ขอบตาแดงเรื่อ “ห

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 718

    “ข้าไม่ช่วย เดิมทีก็ถูกต้องตามหลักการ หาไม่แล้วคนชั่วในใต้หล้านี้ล้วนมาขอให้ข้าช่วยแก้ผลกรรมให้ นั่นยังไม่กลายเป็นโลกของคนชั่วอีกหรือ?”ซ่งรั่วเจินหัวเราะออกมา “ใต้เท้าอวิ๋น ท่านเป็นขุนนางในราชสสำนักมาหลายสิบปี ถึงขั้นไม่มีหลักคุณธรรมขั้นพื้นฐานกระนั้นหรือ?”“หากท่านคิดว่าท่านพูดมีเหตุผล ก็สามารถพูดเรื่องทั้งหมดออกมาได้ พอดีจะได้ถามคนทั่วหล้าว่าคิดเห็นเหมือนท่านหรือไม่!”เพียงอนุอวิ๋นได้ยินก็รีบพูด “ข้ามิได้เชิญผีน้อยมาทำร้ายพี่หญิง ข้าเพียงหวังให้นางและนายท่านกลับมาคืนดีกัน ข้าเองก็ถูกคนชั่วนั่นหลอก”“หากข้ารู้ตั้งแต่แรกก็ไม่มีวันทำเช่นนี้”“อ้อ งั้นหรือ?” ซ่งรั่วเจินเอ่ยปากเสียงเรียบ เนตรขนงเจือรอยยิ้ม “บัดนี้มีคนทำผิดเหมือนท่านไม่น้อย ราชสำนักมีบัญชีรายชื่ออยู่ในมือแล้ว”“ไม่สู้ไปถามคนเหล่านั้นดู ตกลงพวกเขารู้หรือไม่ว่าที่เชิญผีน้อยมาก็เพื่อทำร้ายคน?”“ถ้อยคำนี้ ท่านหลอกตนเองก็ช่างเถอะ คิดว่าคนทั่วหล้าโง่เขลาเหมือนท่านหรือ?”สายตาซ่งรั่วเจินคมกริบ “ทำร้ายคนและช่วยคน ทำร้ายคนต้องชดใช้มากยิ่งกว่า หากท่านทำเพราะอยากให้ทั้งสองคนคืนดีกันจริง สิ่งที่ท่านเชิญกลับไป สมควรเป็นพระพุทธ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status