แชร์

บทที่ 654

ผู้เขียน: จี้เวยเวย
ในเมื่อยามนี้ฝ่ายตรงข้ามหนีไปแล้ว เพียงรอให้จวนฉู่อ๋องจับตัวกลับมาก็พอ ส่วนเรื่องที่เหลือ คาดว่าคงไม่ต้องหนักใจอีกต่อไป ทางการสามารถจัดการเองได้

เสียงโลหะกระทบกันด้านหลังยิ่งทวีความรุนแรงขึ่น ฉู่จวินถิงมองซ่งรั่วเจินอย่างลึกซึ้งอยู่ขณะหนึ่ง ก่อนชักกริชเล่มหนึ่งส่งให้นาง

“เช่นนั้นเจ้าก็ระวังตัวด้วย”

“วางใจเถิดเพคะ”

เมื่อฉู่จวินถิงออกไปแล้ว ซ่งรั่วเจินก็ไม่ได้รั้งรอ นางและเฉินเซียงรีบมุ่งออกไปด้านนอก

ระหว่างเดินไปนางอดครุ่นคิดขึ้นมาไม่ได้ ว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังของไต้ซือเทียนจีผู้นี้ช่างไม่ธรรมดาเลย

ฉู่จวินถิงวิทยายุทธแก่กล้า บนสนามรบเรียกได้ว่ากำจัดศัตรูราบคาบ ส่วนองครักษ์เกือบทั้งหมดล้วนเคยผ่านศึกมา วิทยายุทธทิ้งห่างจากองครักษ์ประจำจวนทั่วๆ ไปเป็นอย่างมาก

เมื่อครู่พวกเขามากันถึงสิบกว่าชีวิต เวลานี้กลับถูกจัดการจนหมด มิหนำซ้ำยังตกอยู่ในอันตราย เห็นได้ว่ากลอุบายของฝ่ายตรงข้ามแยบยลนัก

อย่างไรก็ดี เพิ่งจะก้าวขาออกจากเรือนได้ไม่กี่ก้าว สีหน้าของซ่งรั่วเจินก็พลันเปลี่ยน

“คุณหนู เกิดอะไรขึ้นหรือเจ้าคะ?”

เฉินเซียงเห็นใบหน้าของคุณหนูตนพลันเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม ดวงตาก็ฉายแววเป็นกังวล
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 655

    “คุณหนู รีบหนีไปเจ้าค่ะ!”สองตาของเฉินเซียงแดงก่ำ น้ำเสียงสั่นเครือ รีบผลักไสซ่งรั่วเจินให้หนีไปซ่งรั่วเจินหันกลับมา เห็นสาวใช้ที่ตั้งมั่นคอยติดตามนางในยามนี้สีหน้าเต็มด้วยความเด็ดเดี่ยว ดวงตากลับแน่วแน่ยิ่งกว่า เห็นได้ชัดว่านางเตรียมพร้อมที่จะสละชีพแล้วหัวใจของนางราวถูกค้อนทุบกระแทกอย่างแรง กล่าว “พวกมันมากมายเพียงนี้ หญิงสาวตัวคนเดียวเช่นเจ้าจะขัดขวางอะไรได้?”“ขัดขวางได้เพียงชั่วขณะก็ชั่วขณะเจ้าค่ะ”ในดวงตาของเฉินเซียงเปี่ยมด้วยความเสียใจ “ล้วนเป็นที่ข้าไร้ประโยชน์ ปกป้องคุณหนูไม่ได้ ท่านอ๋องอยู่ไม่ไกลจากที่นี่นัก ขอเพียงถ่วงเวลาไว้ได้สักหน่อย จะต้องตามมาทันแน่!”“ยังไม่ถึงคราวต้องตาย อย่ากลัวไปเลย”ซ่งรั่วเจินหยิบกระดาษเขียนยันต์ออกมาแผ่นหนึ่ง เพียงนางชูมือขึ้นก็เกิดไฟลุกวาบผ่าน เพียงชั่วพริบตากระดาษยันต์ก็เผาไหม้ ตามติดมาด้วยเปลวเพลิงลุกโชนขึ้นด้านหลังของพวกนางในพริบตาพร้อมกันนั้น นางหยิบยันต์อีกสองแผ่นติดลงบนกายของตนเองและเฉินเซียง“ยันต์เร่งความเร็ว รีบไป!”เฉินเซียงยังไม่ทันเข้าใจคำพูดของคุณหนูตนดี ก็รู้สึกถึงสองเท้าของตนที่มีลมพัดผ่าน ห้วงพลังที่ไม่เคยมีมาก่อนแผ่

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 656

    “คนมีชีวิตบนโลก ก็แค่เพื่อสิ่งที่ตนปรารถนา ส่วนวิธีการ เป็นความสามารถส่วนตน”“แม่นางซ่ง เจ้าเป็นคนของสำนักเต๋า น่าจะมองเรื่องราวออกอย่างกระจ่างชัดสักหน่อย”“ต่อให้เจ้ากับข้าไม่ยื่นมือเข้าไป หรือพวกคนมีเจตนาทำร้ายคนเหล่านั้นจะไม่มีวิธีการอย่างอื่นแล้ว?”ไต้ซือเทียนจีเผยสีหน้ามีเหตุผลคล้ายสมควรเป็นหลักการนี้อยู่แล้ว “ข้าได้ยินมาว่าหลายปีมานี้แม่นางซ่งได้รับความทุกข์ไม่น้อย ถูกคนตาบอดหลินจือเยว่นั่นถอนหมั้น มิหนำซ้ำยังถูกภรรยาหลวงที่มีศักดิ์เทียมกันที่มิอาจนำมาออกหน้าออกตาได้คนนั้นบีบคั้นจนศักดิ์ศรีของเจ้าต้องหมดไปในวันแต่งงาน”“แท้จริงแล้ว วิธีการของเจ้าเดิมทีก็ไม่จำเป็นต้องเสียแรงถึงเพียงนี้ แต่สามารถเอาชีวิตพวกเขาเลยได้”“ตราบใดที่เจ้าอยู่กับพวกเรา ภายภาคหน้าเมืองหลวงแห่งนี้ก็ไม่มีใครกล้าล่วงเกินเจ้า เป็นอย่างไร?”“พูดมาเช่นนี้แล้ว ความสามารถของพวกเจ้าไม่ธรรมดาจริงๆ ข้าเห็นถังเสวี่ยหนิงแล้วไม่สบอารมณ์ พวกเจ้าก็สามารถทำให้นางตายได้กระนั้นหรือ?”ซ่งรั่วเจินแสร้งสนใจฟังคำพูดของอีกฝ่าย ภายในใจกลับประมาณการว่าพวกฉู่จวินถิงใกล้จะมาถึงแล้วกระมัง?ล่อเสือออกจากถ้ำ สำหรับฉู่จวินถิงแล้ว

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 657

    ยามฉู่จวินถิงเร่งเดินทางมาถึงก็มองเห็นใบหน้าเปื้อนโลหิตของซ่งรั่วเจิน ภาพถูกแทงตายโลหิตสาดกระเซ็นปรากฎตรงหน้า หัวใจถูกเตะขึ้นมาถึงคอ ดวงตาดำดุจหมึกลุ่มลึกเจือไอเย็นในทันใด“บัดซบ!”ได้เห็นเรือนร่างสง่างามปราดเปรียวของฉู่จวินถิง เคลื่อนไหวคล่องแคล่วว่องไวดุจไฟแล่นผ่าน ยกมือขึ้นแรงโจมตีสายหนึ่งพลันพลุ่งพล่านออกมา ชายที่คิดสังหารซ่งรั่วเจินถูกกระแทกใส่ในทันใด ทั้งตัวคนบินออกไปแล้วปัง!ฝ่ายชายกระแทกลงบนพื้นแรงๆ กระอักโลหิตออกมาเขาดิ้นอยู่สองครั้ง หมดแรงล้มลงไป ตายไปแล้ว“รั่วเจิน เจ้าไม่เป็นไรกระมัง?”ฉู่จวินถิงถลันเข้ามาหยุดข้างกายซ่งรั่วเจิน ดวงตาดำดุจหินอัคนีทมิฬเต็มไปด้วยความวิตกกังวล ลูกกระเดือกกลิ้งเบาๆ แม้แต่เสียงยังสั่นอย่างมิอาจควบคุมได้“บาดเจ็บที่ใดหรือไม่?”มือของเขาวางบนใบหน้าซ่งรั่วเจิน บนนั้นเปื้อนคราบโลหิต สายตามองสำรวจไม่หยุด ไม่รู้ตกลงได้รับบาดเจ็บที่ใดชั่วขณะซ่งรั่วเจินได้เห็นว่าฉู่จวินถิงมาแล้วก็ลอบถอนหายใจโล่งอก ยังไม่รอให้นางเปิดปาก ก็สบเข้ากับสายตาเป็นกังวลของฉู่จวินถิงแล้วนางเพิ่งได้เห็นฉู่จวินถิงร้อนใจถึงเพียงนี้เป็นครั้งแรก ไม่ผ่อนคลายเหมือนที่ผ่านม

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 658

    “ท่านอ๋อง เกรงว่าคนเหล่านี้ของวัดอวิ๋นฉานไม่รู้เรื่องจริงๆ พ่ะย่ะค่ะ”สีหน้าอวิ๋นหยางไม่สบอารมณ์ พวกเขาจับมือสังหารไว้สองสามคน ไต้ซือเทียนจีหนีรอดไปได้แล้วสายตาฉู่จวินถิงหม่นลง พูดว่า “ค้นหาเส้นทางลับของที่นี่ ตามสืบต่อไป”“พ่ะย่ะค่ะ!”......ยามถึงเวลาลงเขา ซ่งรั่วเจินมองขาของตนอย่างเอือมระอา นางไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรจริงๆ ก็แค่หนีโดยไม่ทันระวังจึงข้อเท้าพลิกหลังตนทะลุมิติเข้ามาในนิยายแล้ว บ่าของคุณหนูสูงศักดิ์นางนี้ไม่อาจแหกหาม แขนยกไม่ขึ้น บัดนี้นับว่าพัฒนาขึ้นไม่น้อยแล้ว หากเปลี่ยนเป็นที่ผ่านมา นั่นคืออ่อนแอมิอาจต้องลม“ข้อเท้าพลิกหรือ?”ฉู่จวินถิงสังเกตเห็นท่าทางการเดินของซ่งรั่วเจินผิดปกติไป เสียงทุ้มต่ำสะท้อนความห่วงใย“หม่อมฉันเดินแล้วรู้สึกเจ็บอยู่บ้าง แต่ลงเขาต้องเดินไกลถึงเพียงนั้น มิสู้...หาเสลี่ยงไม้ไผ่สองคนหามแบกหม่อมฉันลงเขาดีหรือไม่?”ซ่งรั่วเจินพยักหน้า ใบหน้าเล็กขนาดเท่าฝ่ามือบิดเบี้ยว เจือความจนใจหากระยะทางไม่ไกล นางทนสักครู่ก็ช่างเถอะ ทว่าวัดอวิ๋นฉานอยู่บนเขา หากเดินลงเขาเช่นนี้ต่อไป น่ากลัวว่ากลับไปแล้ว ขาจะต้องพิการแน่สายตาของนางกวาดมองพวกอวิ๋นหยาง ค

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 659

    บนรถม้าซ่งรั่วเจินมองข้อเท้าที่แพลงไปของตน ถอนหายใจอย่างสุดระงับ เป็นคุณหนูสูงศักดิ์นานมากแล้ว ใช้ยันต์เร่งความเร็วถึงขั้นยังสามารถข้อเท้าแพลงได้ไม่ใช่น่าขายหน้าธรรมดา!เดิมทีอยากใช้เข็มเงินรักษาตนเองดูสักรอบ จู่ๆ ก็คิดได้ว่าเข็มเงินล้วนถูกโยนทิ้งไปแล้วดูท่าแล้ว ภายภาคหน้าต้องพกเข็มเงินสองสามชุดติดตัวไว้ เตรียมไว้ใช้ยามจำเป็น“เจ็บมากหรือไม่?”ฉู่จวินถิงเห็นซ่งรั่วเจินก้มหน้ามองขาของตน คิ้วดุจกิ่งหลิวขมวดน้อยๆ มองสีหน้านางได้ไม่ชัดนัก กลับได้ยินเสียงถอนหายใจนั้นลูกกระเดือกเขากลิ้งขึ้น อ้าปากแต่ก็หุบลง ครู่ต่อมาขยับเข้าใกล้เล็กน้อย ภายในสายตาดำลุ่มลึกเปี่ยมความห่วงใยภายในสมองปรากฏภาพนางถูกมือสังหารล้อมไว้ไม่หยุด โลหิตสีแดงบนใบหน้าขาวนวล ชุดกระโปรงสีพื้นของนางทำให้มองดูแล้วอ่อนแออย่างมาก หัวใจของเขาคล้ายถูกมือที่มองไม่เห็นข้างหนึ่งบีบไว้โชคดีเหลือเกินที่นางยังปลอดภัยนางยังนั่งอยู่ข้างกายเขาครู่ต่อมาซ่งรั่วเจินเงยหน้าขึ้น ไม่ทันสังเกตว่าฝ่ายชายเข้าใกล้ตนเองถึงเพียงนี้ตั้งแต่ยามใด เพียงเงยหน้าขึ้น ระยะห่างของทั้งคู่ก็ใกล้แค่เอื้อมแล้วดวงตาชุ่มชื้นคล้ายกวางน้อยสบเข้ากับ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 660

    อิงตามการหยั่งเดา ก็เหมือนงมเข็มในมหาสมุทรสายตาฉู่จวินถิงเคร่งขรึม “เจ้าวางใจเถอะ ข้าจะต้องสืบเรื่องนี้ให้กระจ่าง”......สกุลซ่ง“ป่านนี้แล้วเจินเอ๋อร์ก็ยังไม่กลับมาอีกหรือ?”หลิ่วหรูเยียนเห็นซ่งรั่วเจินยังไม่กลับมา กังวลใจอย่างอดไม่ได้“ท่านแม่ วันนี้ฉู่อ๋องรับน้องหญิงห้าไป ข้าเองก็ไม่ได้ยินข่าวว่านางเข้าวัง น่าจะไม่เกิดเรื่องอันใดขึ้นหรอกกระมัง?” ซ่งจืออวี้เอ่ยขึ้นซ่งจิ่งเซินขมวดคิ้ว “แต่ไหนแต่ไรมาฉู่อ๋องรู้ขอบเขตยิ่งนัก อิงตามหลักการแล้ว ไม่น่าพาน้องหญิงห้ากลับมาส่งดึกดื่นถึงเพียงนี้”“ข้าได้ยินผู้ดูแลแจกจ่ายโจ๊กกลับมาก็รายงานว่าวันนี้น้องหญิงห้าออกจากเมือง ตอนอยู่นอกเมืองยังได้พบกับถังเสวี่ยหนิงอีกด้วย จึงให้คนแจกจ่ายโจ๊กทางเมืองเฉิงหนานเก็บแผง”“เกิดเรื่องอันใดขึ้น?” หลิ่วหรูเยียนแปลกใจ“เรื่องเก็บแผงนี้น้องหญิงทำถูกแล้ว แม่นางสกุลถังคนนั้นน่ากลัวว่าสมองมีปัญหา ปกติได้พบผู้ลี้ภัย แต่ไหนแต่ไรมาพวกเราล้วนแจกจ่ายโจ๊ก”“ประการแรกป้องกันมิให้ราษฎร์แอบอ้างรับของ ประการที่สองแม้ว่าไม่ดีมากมายอันใด แต่ก็ไม่ทำให้ราษฎร์อดตาย ทว่าถังเสวี่ยหนิงคนนั้นถึงขั้นซื้อซาลาเปาเนื้อจำนวนห

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 661

    เมื่อได้ยินว่าข้อเท้าแพลง หลิ่วหรูเยียนถอนหายใจโล่งอกเฮือกหนึ่ง มองทางฉู่จวินถิงด้วยแววตาอ่อนโยนเป็นพิเศษ“ท่านอ๋อง ก็แค่ข้อเท้าแพลงเพราะไม่ทันระวัง นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เจินเอ๋อร์พักผ่อนสองวันก็ดีขึ้นแล้ว ท่านอ๋องไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้”สี่พี่น้องสกุลซ่งล้วนพยักหน้า เห็นฉู่จวินถิงเอ่ยขอโทษอย่างจริงใจถึงเพียงนี้ พวกเขายังคิดว่าเกิดเรื่องใหญ่อันใดเสียอีก บัดนี้ได้รู้ว่าบาดเจ็บข้อเท้าแพลง นี่จึงวางใจลงแล้วทว่าท่านอ๋องให้ความสำคัญต่อรั่วเจินไม่ธรรมดา หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น ยังไม่ต้องพูดว่าข้อเท้าแพลงเลย ต่อให้ตายตรงหน้าท่านอ๋องก็ไม่ชายตาแลเลยสักครั้ง“ท่านอ๋อง หม่อมฉันกลับมาอย่างปลอดภัยแล้ว ท่านเองก็รีบกลับไปพักผ่อนเถิดเพคะ” ซ่งรั่วเจินพูดยิ้มๆฉู่จวินถิงพยักหน้า “เช่นนั้นข้ากลับก่อน ขอลา”“ท่านอ๋องกลับดีๆ นะเพคะ”คนสกุลซ่งยืนอยู่ที่เดิมส่งรถม้าจากไป จากนั้นจึงได้เห็นเฉินเซียงที่ยืนอยู่ข้างหลังรถม้าตอนพวกเขาได้เห็นเลือดบนตัวเฉินเซียง แต่ละคนล้วนเบิกตากว้าง “นี่...นี่คือเลือดหรือ?”เฉินเซียงเดินเข้ามาท่ามกลางสายตาของทุกคน มองคุณหนูบ้านตนอย่างเอือมระอา หากนางพูดว่าไม่ใช่ น่าจะไม

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 662

    “เฉินเซียง เมื่อคืนมิใช่บอกให้เจ้าพักผ่อนดีๆ หรือ เหตุใดมาเช้าถึงเพียงนี้เล่า?” ซ่งรั่วเจินเอ่ยถามอย่างกังวลนางไม่ใช่คนไม่เคยเห็นเลือดมาก่อน สถานการณ์เมื่อวานกลับไม่ส่งผลกระทบต่อนาง แต่สำหรับเฉินเซียงแล้ว ได้รับความตกใจไม่น้อย“คุณหนู บ่าวไม่เป็นไรเจ้าค่ะ เมื่อวานท่านยอดเยี่ยมยิ่งนัก หากไม่ใช่คุณหนู บ่าวก็คงไม่มีชีวิตรอดแล้ว” ดวงตาเฉินเซียงทอประกายระยับ ใบหน้าเปี่ยมความเลื่อมใสซ่งรั่วเจินหัวเราะเบาๆ “เจ้าไม่เป็นไรก็ดีแล้ว”“คุณหนู วันนี้เช้าท่านอ๋องก็มาแล้ว ยังตั้งใจนำมื้อเช้าที่ท่านชอบมาอีกด้วยเจ้าค่ะ”ซ่งรั่วเจินเพิ่งดื่มน้ำก็ได้ยิน เกือบพ่นน้ำชาในปากออกมา “เขามาตั้งแต่เช้าทำอันใด?”“ท่านอ๋องอาจไม่วางใจอาการบาดเจ็บของคุณหนู ตั้งใจนำยาทารักษาอาการข้อเท้าแพลงมาเป็นพิเศษ บ่าววางไว้ที่ข้างเตียงเจ้าค่ะ” เฉินเซียงพูดซ่งรั่วเจินหันมองทางที่เฉินเซียงชี้ ได้เห็นขวดกระเบื้องเคลือบสีขาวงดงามประณีตขวดหนึ่งไม่ผิดไปดังคาด ดวงตาทอประกายหลายส่วน เอ่ยถาม “เช่นนั้นตอนนี้เขากำลังทำอันใด?”“ตอนนี้คุณชายใหญ่และคุณชายรองกำลังดื่มชากับท่านอ๋องเจ้าค่ะ ในเมื่อคุณหนูตื่นแล้ว บ่าวปรนนิบัติคุณหนูอาบน

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 670

    กู้ชิงเหยี่ยนพยักหน้า “ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีคนพูดว่าจวนอัครมหาเสนาบดีร่ำรวยถึงเพียงนี้ ใช่หรือไม่ว่าท่านอัครมหาเสนาบดีรับสินบน”“เช้าวันนี้ ฝ่าบาทตำหนิอัครมหาเสนาบดีถังอย่างแรงที่ห้องทรงพระอักษร เสียงด่าดังมากจนภายนอกได้ยิน”ราชครูกู้พูดเนิบนาบอย่างไม่ใส่ใจ ภายในเสียงกลับเผยกลิ่นอายที่ได้รับชมละครฉากสนุกหลายส่วนเรื่องถังเสวี่ยหนิงทำร้ายรั่วเจินในพิธีล่าสัตว์ เขาย่อมรู้ ยิ่งไม่ต้องพูดเรื่องสกุลซ่งแจกจ่ายโจ๊ก ถังเสวี่ยหนิงเองก็แจกจ่ายโจ๊ก แต่ยังต้องการแจกจ่ายซาลาเปาเนื้อ สองคนได้พบกันที่ประตูเมืองทิศประจิม เขาได้ยินเรื่องรั่วเจินสั่งให้คนเก็บแผงไปทั้งหมดนี้แล้ว จะต้องเป็นเพราะหลานสาวถูกรังแก กลับอดกลั้นไว้ มิได้บอกผู้อาวุโสอย่างพวกเขาเหล่านี้บัดนี้ถังเสวี่ยหนิงก่อเรื่องโง่งมเหล่านี้ออกมา ก็สมควรแล้ว!พี่น้องสกุลซ่งสบตากันแวบหนึ่ง ล้วนรู้สึกมีความสุขในคราวเคราะห์ของผู้อื่นคิดใช้วิธีการเช่นนี้มารังแกน้องหญิงห้า ยกหินใส่เท้าตน บัดนี้อัครมหาเสนาบดีถังจะต้องปวดหัวแน่“ฮองเฮาอยากให้ถังเสวี่ยหนิงเป็นลูกสะใภ้มาโดยตลอด ก็ไม่รู้บัดนี้นึกเสียใจภายหลังไปแล้วหรือไม่?”ซ่งอี้อันหรี่ตาลง ด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 669

    กู้ฮวนเอ๋อร์เผยสีหน้าโศกเศร้า “ข้าไม่ทันระวังจริงๆ...”ซ่งรั่วเจิน “...”นางเข้าใจอวิ๋นอ๋องแล้ว คนรักหน้าตาอย่างเขาคนหนึ่ง น่ากลัวว่าไม่เคยขายหน้าเช่นนี้มาก่อนความรักครั้งนี้ของกู้ฮวนเอ๋อร์...ลำบากโดยแท้!“ญาติผู้พี่ ท่านมีวิธีอันใดหรือไม่? ข้าชอบอวิ๋นอ๋องด้วยใจจริง ได้ยินมาว่าเขาชอบฟังบทเพลงผีผา ข้ายังเตรียมหาอาจารย์ไว้เรียนเป็นพิเศษอีกด้วย”“ครั้งก่อนฮองเฮาเรียกข้าเข้าวัง เดิมทีก็ตั้งใจให้ข้าและอวิ๋นอ๋องได้รู้จักกัน แต่เพียงเขาได้ยินชื่อของข้า คนก็ไม่มาแล้ว!”กู้ฮวนเอ๋อร์ก้มหน้า ใบหน้าเรียวเล็กปกปิดความผิดหวัง “เดิมทีข้าเพียงแอบชอบ กลับไม่มีความยึดมั่น อย่างไรเสียเขาก็มีฐานะสูงศักดิ์ ใช่ว่าข้าจะคู่ควรกับเขา ทว่าบัดนี้โอกาสอยู่ตรงหน้าแล้ว ข้าจึงอยากลองดู”ซ่งรั่วเจินเข้าใจแล้ว กู้ฮวนเอ๋อร์เข้าตาฮองเฮา อวิ๋นอ๋องเองก็เป็นคนในหัวใจนาง หากอวิ๋นอ๋องยินดีอยู่ร่วมกันกับนาง นั่นก็คือคู่สร้างคู่สมเรื่องแต่งงานของสตรี ส่วนใหญ่ล้วนฟังคำสั่งฟ้าบัญชาสวรรค์ บัดนี้โอกาสอยู่ตรงหน้า ขอเพียงพยายามก็สามารถแต่งงานกับคนที่ชอบได้ ย่อมต้องสู้สุดจิตสุดใจดูสักครั้ง“ญาติผู้น้องฮวนเอ๋อร์ ข้าไม่เคยได

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 668

    มือสองข้างของนางประสานกัน ท่าทีสับสน “คือ...ข้า...”“ไม่ขอปิดบัง แท้จริงแล้วข้าชอบอวิ๋นอ๋อง” กู้ฮวนเอ๋อร์สารภาพออกมา“แค่กๆๆ” สายตาซ่งรั่วเจินเผยแววตกตะลึง “อวิ๋นอ๋อง?”กู้ฮวนเอ๋อร์รีบปิดปากซ่งรั่วเจิน พูดว่า “ญาติผู้พี่ ท่านเบาลงเสียงหน่อย อย่าให้คนอื่นได้ยินเจ้าค่ะ”ซ่งรั่วเจินเองก็สนใจขึ้นมาแล้ว “เล่าให้ข้าฟังหน่อยสิ?”กู้ฮวนเอ๋อร์เล่าเหตุการณ์ที่นางได้พบอวิ๋นอ๋องเป็นครั้งแรกวันนั้นนางตั้งใจแต่งตัวไปเข้าร่วมงานเลี้ยงชมดอกบัว ไม่คาดคิดเลยว่าจะถูกแม่นางที่ปกติมีความสัมพันธ์ไม่ดีขัดขาเข้า คนมิอาจควบคุมตนเองได้จึงล้มหงายหลังข้างหลังก็คือสระบัว หากตกลงไป น่ากลัวว่าต้องกลายเป็นตัวตลกของทั้งเมืองหลวงแน่โชคดีตอนนี้เองอวิ๋นอ๋องบังเอิญผ่านมา ประคองนางไว้ นี่ถึงทำให้นางรอดพ้นจากความอับอายนี้ไปได้ซ่งรั่วเจินได้ยินเรื่องวีรบุรุษช่วยสาวงามแล้ว เนตรขนงเจือรอยยิ้มแม้ว่าเรื่องทำนองนี้จำเจอย่างมาก แต่ไม่พูดไม่ได้ว่าสำหรับสตรีแล้ว นี่ก็คือช่วงเวลาทำให้ใจคนหวั่นไหวได้อย่างง่ายดายที่สุด“นับตั้งแต่นั้นมา ข้าก็มักอยากลอบไปดูอวิ๋นอ๋องอยู่ตลอด แต่ข้าไม่กล้าเป็นฝ่ายเข้าไปพูดกับอวิ๋นอ๋องก่อน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 667

    วันนี้ซ่งรั่วเจินถูกเรียกมาตั้งแต่เช้า ติดตามมารดาและพวกพี่ชายไปสกุลกู้“ก่อนหน้านี้นับญาติกันอย่างกะทันหันเกินไป วันนี้ทุกคนล้วนอยู่ที่นี่ พวกเจ้าเองก็ถือโอกาสนี้รู้จักเหล่าญาติพี่น้องเถอะ”บนรถม้า กู้หรูเยียนยิ้มกว้างเล่าสถานการณ์ของลูกหลานสกุลกู้ ส่วนซ่งรั่วเจินเองก็ได้รู้ว่าสกุลกู้มีคนมากมายจากการแนะนำนี้ท่านลุงใหญ่กู้ชิงเหยี่ยนและท่านป้าสะใภ้สวี่ซื่อคลอดลูกสาวสองคนลูกชายสองคน แบ่งออกเป็นลูกชายคนโตกู้จิ่งหลิน ลูกชายคนรองกู้ชิงฉือ ลูกสาวคนที่สามกู้หนานเวย และลูกสาวคนสุดท้องกู้เจาหยวนท่านลุงรองกู้ชิงซิวและป้าสะใภ้หลิงซื่อมีลูกชายสามคนลูกสาวหนึ่งคน ลูกชายคนโตกู้มู่เฉิน ลูกชายคนรองกู้หลินเซียว ลูกชายคนที่สามกู้สือเหย่และลูกสาวคนเล็กกู้ฮวนเอ๋อร์ภายในนั้น นอกจากกู้เจาหยวน กู้สือเหย่และกู้ฮวนเอ๋อร์ที่ยังไม่แต่งงาน คนอื่นล้วนแต่งงานแล้วส่วนท่านลุงสามกู้ชิงเจ๋อ ทุกคนมิได้เอ่ยถึงอย่างรู้ใจกัน เพราะเรื่องของกู้อวิ๋นเวย กู้ชิงเจ๋อยังมิอาจแยกแยะถูกผิดได้ บัดนี้มิได้อาศัยในสกุลกู้“หรูเยียน ในที่สุดพวกเจ้าก็มาแล้ว หลายวันนี้เจ้าลิงซุกซนเหล่านี้ล้วนบ่นว่าอยากพบญาติผู้พี่ผู้น้องอยู่ตลอด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 666

    ผู้ดูแลเผยสีหน้าเอือมระอา ทุกวันเพียงแค่เงินแจกจ่ายโจ๊กก็ใช้จ่ายไปไม่น้อย ครั้นเปลี่ยนเป็นแจกจ่ายซาลาเปาเนื้อราคาก็ชวนให้คนตกตะลึง อีกเดี๋ยวจะต้องไปคลังขอเบิกเงินอีกแล้ว...ซ่งจิ่งเซินและซ่งจืออวี้มองบรรยากาศครึกครื้นที่ประตูเมืองทิศทักษิณแห่งนั้น เอ่ยออกมาอย่างสลดใจ “ความยิ่งใหญ่เช่นนี้ ที่ผ่านมาไม่เคยเห็นมาก่อน สกุลถังเงินหนาไม่ผิดไปดังคาด!”“น้องสี่ อัครมหาเสนาบดียอดเยี่ยมถึงเพียงนี้ เหตุใดกับเรื่องนี้ถึงได้โง่งมนัก ปล่อยให้ถังเสวี่ยหนิงทำเรื่องเหลวไหลเช่นนี้?”ซ่งจืออวี้เผยสีหน้าสงสัย คนไม่เคยสัมผัสมาก่อนอาจไม่เข้าใจ แต่อัครมหาเสนาบดีไม่มีทางไม่รู้ผลลัพธ์ที่ตามมาของการกระทำนี้ซ่งจิ่งเซินหัวเราะเบาๆ “ได้ยินมาว่าเมื่อคืนดื่มสุราจนเมามาย น่ากลัวว่าจะยังไม่รู้เรื่องนี้”“หากรู้เข้า จะต้องไม่ปล่อยให้นางทำเรื่องเหลวไหลแน่ แต่เรื่องนี้ชุลมุนวุ่นวายใหญ่โตถึงเพียงนี้ ต่อให้หลังผ่านวันนี้ไปจะห้ามเอาไว้ น่ากลัวว่าไม่ทันการณ์แล้ว”“ฉวยโอกาสในครั้งนี้ พวกเราเองก็หาเงินได้มาก อย่างไรเสียจวนถังก็ไม่ขาดเงินอยู่แล้ว”“สกุลถังแจกจ่ายโจ๊ก พวกเราหาเงินได้อย่างไร?” ซ่งจืออวี้ตกตะลึงซ่งจิ่งเซิ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 665

    ฉู่จวินถิงมองเสื้อผ้าในมือตน นัยน์ตาดำขลับเผยแววตกตะลึงดีใจ ดุจพลุสว่างไสวบนท้องฟ้ายามราตรี แม้แต่เส้นเสียงก็สูงขึ้นโดยไม่รู้ตัว“นี่มอบให้ข้าหรือ?”ซ่งรั่วเจินสบมองสายตาเร่าร้อนของฝ่ายชาย พยักหน้าลงอย่างประหม่าสวรรค์โปรด!สายตาเช่นนั้นใครจะทนไหวบ้างเล่า?“หม่อมฉันเตรียมไว้ให้องค์หญิงอีกหนึ่งชุดด้วย ย่อมมิอาจลำเอียงเลือกที่รักมักที่ชังได้หรอกกระมัง!”ฉู่จวินถิงได้ยินถ้อยคำของฝ่ายหญิง เขาหัวเราะเบาๆ ลูกกระเดือกกลิ้งขึ้นลง มุมปากยกน้อยๆ ดวงตาทั้งดำทั้งลุ่มลึกคล้ายประดับดวงดาวนับไม่ถ้วนเขาเข้าใจ เสื้อผ้าชุดนี้ไม่เหมือนคนอื่นนี่เป็นนางเย็บด้วยมือตนเอง“ฝีมือเย็บปักของหม่อมฉันมิอาจเทียบช่างเย็บปักได้ ทำรูปแบบซับซ้อนมากเกินไปไม่เป็น ดังนั้นจึงค่อนข้างเรียบง่าย...”ซ่งรั่วเจินพูดอธิบายหนึ่งประโยค อันที่จริงทางด้านนี้นางก็นับว่ามีพรสวรรค์ เย็บปักธรรมดาไม่มีปัญหาอะไร แต่พูดถึงระดับการเย็บปักของช่างเย็บปักของเมืองหลวงไปจนถึงช่างเย็บปักของวังหลวง นั่นยังห่างชั้นกันมากจากนั้น นางยังพูดไม่จบก็ถูกฉู่จวินถิงเอ่ยขัดแล้ว“ไม่หรอก”“ข้าชอบมาก”ฉู่จวินถิงมองเสื้อผ้าในมือ คล้ายกำลังมองสม

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 664

    “เมื่อวานคุณหนูตกอยู่ในอันตราย ข้าไม่สามารถช่วยได้ก็ช่างเถอะ ยังต้องให้คุณหนูปกป้องข้าอีกด้วย หากข้าเองก็เป็นวิชายุทธ ภายภาคหน้าก็สามารถปกป้องคุณหนูดีๆ ได้แล้ว”“ท่านอ๋องมิใช่เลือกสาวใช้เป็นวิชายุทธสองคนมอบให้คุณหนูซ่งแล้วหรือ?”“ไป๋จื่อและชิงเถิงวิชายุทธแข็งแกร่งอย่างมาก เป็นท่านอ๋องคัดเลือกด้วยตนเองอย่างใส่ใจ เหตุใดเจ้าต้องเรียนวิชายุทธด้วยเล่า?”อวิ๋นหยางมองเฉินเซียงแวบหนึ่ง พูดว่า “เรียนวิชายุทธต้องเริ่มตั้งแต่เล็ก ตอนนี้เจ้าเพิ่งเริ่ม น่ากลัวว่าช้าไปบ้าง ไม่ง่ายถึงเพียงนั้น”เฉินเซียงที่กำลังตกอยู่ในห้วงภวังค์แห่งความเสียใจได้ยินถ้อยคำนี้ก็ชะงักไป จากนั้นเบิกตากว้างอย่างตกตะลึงระคนดีใจ “เจ้าพูดว่าสาวใช้สองคนนั้นเป็นท่านอ๋องส่งมาหรือ?”“ใช่แล้ว” อวิ๋นหยางพยักหน้า“ข้าไม่เป็นไรแล้ว” เฉินเซียงหัวเราะตบหน้าอก ถอนหายใจเฮือกหนึ่ง ใบหน้าเรียวเล็กเบิกบานขึ้นมา “ท่านอ๋องดีต่อคุณหนูเหลือเกิน!”อวิ๋นหยาง “???”ซ่งรั่วเจินมองมื้อเช้าตรงหน้า ทั้งหมดล้วนเป็นรสชาติที่นางชอบ ลอบตกตะลึงภายในใจ ฉู่จวินถิงรู้ความชอบของนางถึงเพียงนี้เชียว!“เป็นอันใด? ไม่ถูกปากหรือ?” ฉู่จวินถิงเห็นซ่งรั่วเจิ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 663

    เมื่อมองใบหน้าเรียวเล็กงดงามมีเสน่ห์ของสตรีตรงหน้า ฉู่จวินถิงยกมุมปากขึ้นโดยไม่รู้ตัว เอ่ยถาม “ข้างกายเจ้ามีสาวใช้คอยปรนนิบัติเพียงคนเดียวหรือ?”“เดิมทีมีสองคน แต่หนึ่งในนั้น ตอนนั้นท่านเองก็เห็นแล้วมิใช่หรือ?”คิ้วเรียวยาวดุจกิ่งหลิวของซ่งรั่วเจินยกขึ้นน้อยๆ นึกถึงเมื่อแรกที่ได้รู้จักกับฉู่จวินถิงเป็นครั้งแรก ก็คือตอนไปคิดบัญชีสกุลหลิ่วฉู่จวินถิงจึงนึกขึ้นได้ “ที่ถูกฉินซวงซวงซื้อตัวไปคนนั้นน่ะหรือ?”ซ่งรั่วเจินพยักหน้า รู้สึกแปลกอยู่บ้าง “เหตุใดวันนี้ท่านสนใจสาวใช้ของหม่อมฉันนัก?”“เมื่อวานพวกเขาทำไม่สำเร็จ เชื่อว่าไม่มีวันยอมเลิกรา ข้าเองก็ไม่สามารถอยู่เป็นเพื่อนเจ้าทุกเวลาได้”“หลายวันนี้ยังต้องไปจัดการอุทกภัย ไม่วางใจเจ้า ดังนั้นจึงเลือกสาวใช้ฝีมือไม่เลวสองคนมามอบให้เจ้า เจ้าดูว่าเป็นเช่นไร?” ฉู่จวินถิงพูดเห็นฝ่ายชายพูดว่าไม่วางใจนางอย่างตรงไปตรงมาเช่นนี้ ดวงตาซ่งรั่วเจินกลิ้งกลอก กลับดีใจอยู่บ้างภายในใจ“จวนฉู่อ๋องยังมีสาวใช้เชี่ยวชาญวิชายุทธด้วยหรือ?”“ส่วนมากเป็นชาย แต่ก็มีองครักษ์หญิงบางส่วน อิงตามฐานะของเจ้า พวกนางย่อมเหมาะสมมาก”“ปกติปลอมตัวเป็นสาวใช้ ยามตกอยู่ในอ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 662

    “เฉินเซียง เมื่อคืนมิใช่บอกให้เจ้าพักผ่อนดีๆ หรือ เหตุใดมาเช้าถึงเพียงนี้เล่า?” ซ่งรั่วเจินเอ่ยถามอย่างกังวลนางไม่ใช่คนไม่เคยเห็นเลือดมาก่อน สถานการณ์เมื่อวานกลับไม่ส่งผลกระทบต่อนาง แต่สำหรับเฉินเซียงแล้ว ได้รับความตกใจไม่น้อย“คุณหนู บ่าวไม่เป็นไรเจ้าค่ะ เมื่อวานท่านยอดเยี่ยมยิ่งนัก หากไม่ใช่คุณหนู บ่าวก็คงไม่มีชีวิตรอดแล้ว” ดวงตาเฉินเซียงทอประกายระยับ ใบหน้าเปี่ยมความเลื่อมใสซ่งรั่วเจินหัวเราะเบาๆ “เจ้าไม่เป็นไรก็ดีแล้ว”“คุณหนู วันนี้เช้าท่านอ๋องก็มาแล้ว ยังตั้งใจนำมื้อเช้าที่ท่านชอบมาอีกด้วยเจ้าค่ะ”ซ่งรั่วเจินเพิ่งดื่มน้ำก็ได้ยิน เกือบพ่นน้ำชาในปากออกมา “เขามาตั้งแต่เช้าทำอันใด?”“ท่านอ๋องอาจไม่วางใจอาการบาดเจ็บของคุณหนู ตั้งใจนำยาทารักษาอาการข้อเท้าแพลงมาเป็นพิเศษ บ่าววางไว้ที่ข้างเตียงเจ้าค่ะ” เฉินเซียงพูดซ่งรั่วเจินหันมองทางที่เฉินเซียงชี้ ได้เห็นขวดกระเบื้องเคลือบสีขาวงดงามประณีตขวดหนึ่งไม่ผิดไปดังคาด ดวงตาทอประกายหลายส่วน เอ่ยถาม “เช่นนั้นตอนนี้เขากำลังทำอันใด?”“ตอนนี้คุณชายใหญ่และคุณชายรองกำลังดื่มชากับท่านอ๋องเจ้าค่ะ ในเมื่อคุณหนูตื่นแล้ว บ่าวปรนนิบัติคุณหนูอาบน

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status