Share

บทที่ 653

Penulis: จี้เวยเวย
“ท่านอ๋อง กระหม่อมไปสอบถามมาแล้ว ไต้ซือเทียนจีพำนักอยู่ที่เรือนด้านหลังนี้พ่ะย่ะค่ะ”

“ว่ากันว่าเขาจะพบผู้ที่มาสักการะเพียงสามคนต่อวันเท่านั้น หากมิใช่ผู้ที่ถูกชะตาก็จะมิยอมพบ เงื่อนไขเข้มงวดยิ่ง แต่ก็เพราะยากที่จะได้เข้าพบ ทุกวันจึงได้มีผู้มาสักการะขึ้นมายังที่แห่งนี้ไม่น้อย”

“และแน่นอนว่าจำนวนผู้ที่มาสักการะที่วัดอวิ๋นฉานจึงได้มากขึ้นตามไปด้วย”

อวิ๋นหยางนำข่าวที่สืบทราบมารายงานไปตามความจริง

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง ออกเดินทางจากเมืองหลวงมาก็เป็นเวลาบ่ายแล้ว เส้นทางขึ้นเขานี้ เมื่อถึงที่หมายท้องฟ้าทั้งผืนก็กลายเป็นภาพอาทิตย์อัสดงเสียแล้ว

“ถึงแม้จะพบเพียงสามคนต่อวัน ก็เพียงพอให้เขากอบโกยได้เป็นกอบเป็นกำแล้ว”

ดวงตาของซ่งรั่วเจินที่คล้ายหมอกควันแฝงไว้ด้วยความเย้ยหยันเบาๆ ตั้งแต่โบราณมา เรื่องไม่ดีที่ไม่อาจเปิดเผยต่อผู้คนก็ทำเงินได้ดีที่สุดแล้ว

ไม่ว่าจะเป็นอนุอวิ๋นหรือผู้ที่ลงมือกับพระชายาเซียงอ๋อง ก็จะต้องทุ่มเงินมหาศาลเพื่ออัญเชิญผีน้อย การโก่งราคาสูงลิบก็ยิ่งกลายเป็นเรื่องปกติ

อย่างไรเสีย เดิมทีก็เป็นเรื่องทำลายคุณธรรม หากเงินไม่ถึงก็ย่อมไม่มีผู้ใดยอมทำให้

“ตอนนี้ผู้มาสักการะก็กลับ
Bab Terkunci
Lanjutkan Membaca di GoodNovel
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 654

    ในเมื่อยามนี้ฝ่ายตรงข้ามหนีไปแล้ว เพียงรอให้จวนฉู่อ๋องจับตัวกลับมาก็พอ ส่วนเรื่องที่เหลือ คาดว่าคงไม่ต้องหนักใจอีกต่อไป ทางการสามารถจัดการเองได้เสียงโลหะกระทบกันด้านหลังยิ่งทวีความรุนแรงขึ่น ฉู่จวินถิงมองซ่งรั่วเจินอย่างลึกซึ้งอยู่ขณะหนึ่ง ก่อนชักกริชเล่มหนึ่งส่งให้นาง“เช่นนั้นเจ้าก็ระวังตัวด้วย”“วางใจเถิดเพคะ”เมื่อฉู่จวินถิงออกไปแล้ว ซ่งรั่วเจินก็ไม่ได้รั้งรอ นางและเฉินเซียงรีบมุ่งออกไปด้านนอก ระหว่างเดินไปนางอดครุ่นคิดขึ้นมาไม่ได้ ว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังของไต้ซือเทียนจีผู้นี้ช่างไม่ธรรมดาเลย ฉู่จวินถิงวิทยายุทธแก่กล้า บนสนามรบเรียกได้ว่ากำจัดศัตรูราบคาบ ส่วนองครักษ์เกือบทั้งหมดล้วนเคยผ่านศึกมา วิทยายุทธทิ้งห่างจากองครักษ์ประจำจวนทั่วๆ ไปเป็นอย่างมากเมื่อครู่พวกเขามากันถึงสิบกว่าชีวิต เวลานี้กลับถูกจัดการจนหมด มิหนำซ้ำยังตกอยู่ในอันตราย เห็นได้ว่ากลอุบายของฝ่ายตรงข้ามแยบยลนัก อย่างไรก็ดี เพิ่งจะก้าวขาออกจากเรือนได้ไม่กี่ก้าว สีหน้าของซ่งรั่วเจินก็พลันเปลี่ยน“คุณหนู เกิดอะไรขึ้นหรือเจ้าคะ?”เฉินเซียงเห็นใบหน้าของคุณหนูตนพลันเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม ดวงตาก็ฉายแววเป็นกังวล

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 655

    “คุณหนู รีบหนีไปเจ้าค่ะ!”สองตาของเฉินเซียงแดงก่ำ น้ำเสียงสั่นเครือ รีบผลักไสซ่งรั่วเจินให้หนีไปซ่งรั่วเจินหันกลับมา เห็นสาวใช้ที่ตั้งมั่นคอยติดตามนางในยามนี้สีหน้าเต็มด้วยความเด็ดเดี่ยว ดวงตากลับแน่วแน่ยิ่งกว่า เห็นได้ชัดว่านางเตรียมพร้อมที่จะสละชีพแล้วหัวใจของนางราวถูกค้อนทุบกระแทกอย่างแรง กล่าว “พวกมันมากมายเพียงนี้ หญิงสาวตัวคนเดียวเช่นเจ้าจะขัดขวางอะไรได้?”“ขัดขวางได้เพียงชั่วขณะก็ชั่วขณะเจ้าค่ะ”ในดวงตาของเฉินเซียงเปี่ยมด้วยความเสียใจ “ล้วนเป็นที่ข้าไร้ประโยชน์ ปกป้องคุณหนูไม่ได้ ท่านอ๋องอยู่ไม่ไกลจากที่นี่นัก ขอเพียงถ่วงเวลาไว้ได้สักหน่อย จะต้องตามมาทันแน่!”“ยังไม่ถึงคราวต้องตาย อย่ากลัวไปเลย”ซ่งรั่วเจินหยิบกระดาษเขียนยันต์ออกมาแผ่นหนึ่ง เพียงนางชูมือขึ้นก็เกิดไฟลุกวาบผ่าน เพียงชั่วพริบตากระดาษยันต์ก็เผาไหม้ ตามติดมาด้วยเปลวเพลิงลุกโชนขึ้นด้านหลังของพวกนางในพริบตาพร้อมกันนั้น นางหยิบยันต์อีกสองแผ่นติดลงบนกายของตนเองและเฉินเซียง“ยันต์เร่งความเร็ว รีบไป!”เฉินเซียงยังไม่ทันเข้าใจคำพูดของคุณหนูตนดี ก็รู้สึกถึงสองเท้าของตนที่มีลมพัดผ่าน ห้วงพลังที่ไม่เคยมีมาก่อนแผ่

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 656

    “คนมีชีวิตบนโลก ก็แค่เพื่อสิ่งที่ตนปรารถนา ส่วนวิธีการ เป็นความสามารถส่วนตน”“แม่นางซ่ง เจ้าเป็นคนของสำนักเต๋า น่าจะมองเรื่องราวออกอย่างกระจ่างชัดสักหน่อย”“ต่อให้เจ้ากับข้าไม่ยื่นมือเข้าไป หรือพวกคนมีเจตนาทำร้ายคนเหล่านั้นจะไม่มีวิธีการอย่างอื่นแล้ว?”ไต้ซือเทียนจีเผยสีหน้ามีเหตุผลคล้ายสมควรเป็นหลักการนี้อยู่แล้ว “ข้าได้ยินมาว่าหลายปีมานี้แม่นางซ่งได้รับความทุกข์ไม่น้อย ถูกคนตาบอดหลินจือเยว่นั่นถอนหมั้น มิหนำซ้ำยังถูกภรรยาหลวงที่มีศักดิ์เทียมกันที่มิอาจนำมาออกหน้าออกตาได้คนนั้นบีบคั้นจนศักดิ์ศรีของเจ้าต้องหมดไปในวันแต่งงาน”“แท้จริงแล้ว วิธีการของเจ้าเดิมทีก็ไม่จำเป็นต้องเสียแรงถึงเพียงนี้ แต่สามารถเอาชีวิตพวกเขาเลยได้”“ตราบใดที่เจ้าอยู่กับพวกเรา ภายภาคหน้าเมืองหลวงแห่งนี้ก็ไม่มีใครกล้าล่วงเกินเจ้า เป็นอย่างไร?”“พูดมาเช่นนี้แล้ว ความสามารถของพวกเจ้าไม่ธรรมดาจริงๆ ข้าเห็นถังเสวี่ยหนิงแล้วไม่สบอารมณ์ พวกเจ้าก็สามารถทำให้นางตายได้กระนั้นหรือ?”ซ่งรั่วเจินแสร้งสนใจฟังคำพูดของอีกฝ่าย ภายในใจกลับประมาณการว่าพวกฉู่จวินถิงใกล้จะมาถึงแล้วกระมัง?ล่อเสือออกจากถ้ำ สำหรับฉู่จวินถิงแล้ว

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 657

    ยามฉู่จวินถิงเร่งเดินทางมาถึงก็มองเห็นใบหน้าเปื้อนโลหิตของซ่งรั่วเจิน ภาพถูกแทงตายโลหิตสาดกระเซ็นปรากฎตรงหน้า หัวใจถูกเตะขึ้นมาถึงคอ ดวงตาดำดุจหมึกลุ่มลึกเจือไอเย็นในทันใด“บัดซบ!”ได้เห็นเรือนร่างสง่างามปราดเปรียวของฉู่จวินถิง เคลื่อนไหวคล่องแคล่วว่องไวดุจไฟแล่นผ่าน ยกมือขึ้นแรงโจมตีสายหนึ่งพลันพลุ่งพล่านออกมา ชายที่คิดสังหารซ่งรั่วเจินถูกกระแทกใส่ในทันใด ทั้งตัวคนบินออกไปแล้วปัง!ฝ่ายชายกระแทกลงบนพื้นแรงๆ กระอักโลหิตออกมาเขาดิ้นอยู่สองครั้ง หมดแรงล้มลงไป ตายไปแล้ว“รั่วเจิน เจ้าไม่เป็นไรกระมัง?”ฉู่จวินถิงถลันเข้ามาหยุดข้างกายซ่งรั่วเจิน ดวงตาดำดุจหินอัคนีทมิฬเต็มไปด้วยความวิตกกังวล ลูกกระเดือกกลิ้งเบาๆ แม้แต่เสียงยังสั่นอย่างมิอาจควบคุมได้“บาดเจ็บที่ใดหรือไม่?”มือของเขาวางบนใบหน้าซ่งรั่วเจิน บนนั้นเปื้อนคราบโลหิต สายตามองสำรวจไม่หยุด ไม่รู้ตกลงได้รับบาดเจ็บที่ใดชั่วขณะซ่งรั่วเจินได้เห็นว่าฉู่จวินถิงมาแล้วก็ลอบถอนหายใจโล่งอก ยังไม่รอให้นางเปิดปาก ก็สบเข้ากับสายตาเป็นกังวลของฉู่จวินถิงแล้วนางเพิ่งได้เห็นฉู่จวินถิงร้อนใจถึงเพียงนี้เป็นครั้งแรก ไม่ผ่อนคลายเหมือนที่ผ่านม

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 658

    “ท่านอ๋อง เกรงว่าคนเหล่านี้ของวัดอวิ๋นฉานไม่รู้เรื่องจริงๆ พ่ะย่ะค่ะ”สีหน้าอวิ๋นหยางไม่สบอารมณ์ พวกเขาจับมือสังหารไว้สองสามคน ไต้ซือเทียนจีหนีรอดไปได้แล้วสายตาฉู่จวินถิงหม่นลง พูดว่า “ค้นหาเส้นทางลับของที่นี่ ตามสืบต่อไป”“พ่ะย่ะค่ะ!”......ยามถึงเวลาลงเขา ซ่งรั่วเจินมองขาของตนอย่างเอือมระอา นางไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรจริงๆ ก็แค่หนีโดยไม่ทันระวังจึงข้อเท้าพลิกหลังตนทะลุมิติเข้ามาในนิยายแล้ว บ่าของคุณหนูสูงศักดิ์นางนี้ไม่อาจแหกหาม แขนยกไม่ขึ้น บัดนี้นับว่าพัฒนาขึ้นไม่น้อยแล้ว หากเปลี่ยนเป็นที่ผ่านมา นั่นคืออ่อนแอมิอาจต้องลม“ข้อเท้าพลิกหรือ?”ฉู่จวินถิงสังเกตเห็นท่าทางการเดินของซ่งรั่วเจินผิดปกติไป เสียงทุ้มต่ำสะท้อนความห่วงใย“หม่อมฉันเดินแล้วรู้สึกเจ็บอยู่บ้าง แต่ลงเขาต้องเดินไกลถึงเพียงนั้น มิสู้...หาเสลี่ยงไม้ไผ่สองคนหามแบกหม่อมฉันลงเขาดีหรือไม่?”ซ่งรั่วเจินพยักหน้า ใบหน้าเล็กขนาดเท่าฝ่ามือบิดเบี้ยว เจือความจนใจหากระยะทางไม่ไกล นางทนสักครู่ก็ช่างเถอะ ทว่าวัดอวิ๋นฉานอยู่บนเขา หากเดินลงเขาเช่นนี้ต่อไป น่ากลัวว่ากลับไปแล้ว ขาจะต้องพิการแน่สายตาของนางกวาดมองพวกอวิ๋นหยาง ค

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 659

    บนรถม้าซ่งรั่วเจินมองข้อเท้าที่แพลงไปของตน ถอนหายใจอย่างสุดระงับ เป็นคุณหนูสูงศักดิ์นานมากแล้ว ใช้ยันต์เร่งความเร็วถึงขั้นยังสามารถข้อเท้าแพลงได้ไม่ใช่น่าขายหน้าธรรมดา!เดิมทีอยากใช้เข็มเงินรักษาตนเองดูสักรอบ จู่ๆ ก็คิดได้ว่าเข็มเงินล้วนถูกโยนทิ้งไปแล้วดูท่าแล้ว ภายภาคหน้าต้องพกเข็มเงินสองสามชุดติดตัวไว้ เตรียมไว้ใช้ยามจำเป็น“เจ็บมากหรือไม่?”ฉู่จวินถิงเห็นซ่งรั่วเจินก้มหน้ามองขาของตน คิ้วดุจกิ่งหลิวขมวดน้อยๆ มองสีหน้านางได้ไม่ชัดนัก กลับได้ยินเสียงถอนหายใจนั้นลูกกระเดือกเขากลิ้งขึ้น อ้าปากแต่ก็หุบลง ครู่ต่อมาขยับเข้าใกล้เล็กน้อย ภายในสายตาดำลุ่มลึกเปี่ยมความห่วงใยภายในสมองปรากฏภาพนางถูกมือสังหารล้อมไว้ไม่หยุด โลหิตสีแดงบนใบหน้าขาวนวล ชุดกระโปรงสีพื้นของนางทำให้มองดูแล้วอ่อนแออย่างมาก หัวใจของเขาคล้ายถูกมือที่มองไม่เห็นข้างหนึ่งบีบไว้โชคดีเหลือเกินที่นางยังปลอดภัยนางยังนั่งอยู่ข้างกายเขาครู่ต่อมาซ่งรั่วเจินเงยหน้าขึ้น ไม่ทันสังเกตว่าฝ่ายชายเข้าใกล้ตนเองถึงเพียงนี้ตั้งแต่ยามใด เพียงเงยหน้าขึ้น ระยะห่างของทั้งคู่ก็ใกล้แค่เอื้อมแล้วดวงตาชุ่มชื้นคล้ายกวางน้อยสบเข้ากับ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 660

    อิงตามการหยั่งเดา ก็เหมือนงมเข็มในมหาสมุทรสายตาฉู่จวินถิงเคร่งขรึม “เจ้าวางใจเถอะ ข้าจะต้องสืบเรื่องนี้ให้กระจ่าง”......สกุลซ่ง“ป่านนี้แล้วเจินเอ๋อร์ก็ยังไม่กลับมาอีกหรือ?”หลิ่วหรูเยียนเห็นซ่งรั่วเจินยังไม่กลับมา กังวลใจอย่างอดไม่ได้“ท่านแม่ วันนี้ฉู่อ๋องรับน้องหญิงห้าไป ข้าเองก็ไม่ได้ยินข่าวว่านางเข้าวัง น่าจะไม่เกิดเรื่องอันใดขึ้นหรอกกระมัง?” ซ่งจืออวี้เอ่ยขึ้นซ่งจิ่งเซินขมวดคิ้ว “แต่ไหนแต่ไรมาฉู่อ๋องรู้ขอบเขตยิ่งนัก อิงตามหลักการแล้ว ไม่น่าพาน้องหญิงห้ากลับมาส่งดึกดื่นถึงเพียงนี้”“ข้าได้ยินผู้ดูแลแจกจ่ายโจ๊กกลับมาก็รายงานว่าวันนี้น้องหญิงห้าออกจากเมือง ตอนอยู่นอกเมืองยังได้พบกับถังเสวี่ยหนิงอีกด้วย จึงให้คนแจกจ่ายโจ๊กทางเมืองเฉิงหนานเก็บแผง”“เกิดเรื่องอันใดขึ้น?” หลิ่วหรูเยียนแปลกใจ“เรื่องเก็บแผงนี้น้องหญิงทำถูกแล้ว แม่นางสกุลถังคนนั้นน่ากลัวว่าสมองมีปัญหา ปกติได้พบผู้ลี้ภัย แต่ไหนแต่ไรมาพวกเราล้วนแจกจ่ายโจ๊ก”“ประการแรกป้องกันมิให้ราษฎร์แอบอ้างรับของ ประการที่สองแม้ว่าไม่ดีมากมายอันใด แต่ก็ไม่ทำให้ราษฎร์อดตาย ทว่าถังเสวี่ยหนิงคนนั้นถึงขั้นซื้อซาลาเปาเนื้อจำนวนห

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 661

    เมื่อได้ยินว่าข้อเท้าแพลง หลิ่วหรูเยียนถอนหายใจโล่งอกเฮือกหนึ่ง มองทางฉู่จวินถิงด้วยแววตาอ่อนโยนเป็นพิเศษ“ท่านอ๋อง ก็แค่ข้อเท้าแพลงเพราะไม่ทันระวัง นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เจินเอ๋อร์พักผ่อนสองวันก็ดีขึ้นแล้ว ท่านอ๋องไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้”สี่พี่น้องสกุลซ่งล้วนพยักหน้า เห็นฉู่จวินถิงเอ่ยขอโทษอย่างจริงใจถึงเพียงนี้ พวกเขายังคิดว่าเกิดเรื่องใหญ่อันใดเสียอีก บัดนี้ได้รู้ว่าบาดเจ็บข้อเท้าแพลง นี่จึงวางใจลงแล้วทว่าท่านอ๋องให้ความสำคัญต่อรั่วเจินไม่ธรรมดา หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น ยังไม่ต้องพูดว่าข้อเท้าแพลงเลย ต่อให้ตายตรงหน้าท่านอ๋องก็ไม่ชายตาแลเลยสักครั้ง“ท่านอ๋อง หม่อมฉันกลับมาอย่างปลอดภัยแล้ว ท่านเองก็รีบกลับไปพักผ่อนเถิดเพคะ” ซ่งรั่วเจินพูดยิ้มๆฉู่จวินถิงพยักหน้า “เช่นนั้นข้ากลับก่อน ขอลา”“ท่านอ๋องกลับดีๆ นะเพคะ”คนสกุลซ่งยืนอยู่ที่เดิมส่งรถม้าจากไป จากนั้นจึงได้เห็นเฉินเซียงที่ยืนอยู่ข้างหลังรถม้าตอนพวกเขาได้เห็นเลือดบนตัวเฉินเซียง แต่ละคนล้วนเบิกตากว้าง “นี่...นี่คือเลือดหรือ?”เฉินเซียงเดินเข้ามาท่ามกลางสายตาของทุกคน มองคุณหนูบ้านตนอย่างเอือมระอา หากนางพูดว่าไม่ใช่ น่าจะไม

Bab terbaru

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 674

    ฉู่อวิ๋นกุยกวาดสายตามองไปโดยจิตใต้สำนึก แม้ปกติฉู่จวินถิงสวมชุดไหนก็ดูดีมากอยู่แล้ว แต่การตัดเย็บของอาภรณ์ชุดนี้แตกต่างออกไปเป็นพิเศษ ขับเน้นให้รูปร่างเขาดูสูงเพรียวกว่าเดิม ทำให้ดวงตาเขาพลันสว่างวาบ“ข้านึกแล้วเชียวว่าเหตุใดวันนี้จึงรู้สึกว่าท่านดูหล่อเหลากว่าปกติ การตัดเย็บของอาภรณ์ชุดนี้ทำได้ไม่เลวจริงๆ กองภูษาทำงานได้ดูดีเพียงนี้ตั้งแต่เมื่อใด?”ฉู่อวิ๋นกุยมีสีหน้าสงสัย เมื่อขยับเข้าไปพินิจดูโดยละเอียดก็ต้องประหลาดใจอีกครั้ง “แต่ทักษะการเย็บปักดูเหมือนจะอ่อนด้อยไปหน่อยนะ”ฉู่จวินถิงปัดมือฉู่อวิ๋นกุยออก “อย่าแตะ เดี๋ยวทำเลอะ”ฉู่อวิ๋นกุย “???”หร่วนอวี้เฉิงได้ยินบทสนทนาของคนทั้งสองจึงขยับเข้ามาร่วมวงด้วยเช่นกัน สังเกตสีหน้าของฉู่จวินถิงรวมถึงระดับความเอาใจใส่ที่มีต่ออาภรณ์ชุดนี้แล้วก็ดูเหมือนจะเข้าใจอะไรขึ้นมา“จวินถิง อาภรณ์ชุดนี้ของเจ้าคงไม่ใช่แม่นางซ่งให้มากระมัง?”เมื่อวาจานั้นดังขึ้น มุมปากของฉู่จวินถิงก็โค้งขึ้นมาอีกครั้งจนดูเหมือนจะหุบไม่ลงเลยทีเดียว เขามองหร่วนอวี้เฉิงเป็นเชิงชมเชย “ตาแหลม!”ฉู่อวิ๋นกุย “!!!”“มิน่าเล่าถึงได้ทะนุถนอมอาภรณ์ชุดนี้เสียขนาดนั้น!” ฉู่อวิ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 673

    ชั่วพริบตาเดียวก็มาถึงวันเกิดของฉู่มู่เหยา ซ่งรั่วเจินแต่งตัวอย่างพิถีพิถันแล้วจึงตามพี่ชายทั้งสามคนไปเข้าวังพร้อมกันงานเลี้ยงวันเกิดขององค์หญิงหกคราวนี้จัดอย่างยิ่งใหญ่ นอกจากคนที่นางเชิญมาด้วยตนเองแล้ว บุตรชายหญิงที่ยังไร้พันธะหมั้นหมายของขุนนางขั้นสี่ขึ้นไปก็มาร่วมงานเช่นกันได้ยินว่าตอนแรกไม่ได้วางแผนไว้เช่นนี้ ภายหลังไม่ทราบว่าเพราะเหตุใดจึงเปลี่ยนแปลงเสียอย่างนั้น ทุกคนคาดเดากันว่าคงทำเช่นนี้เพื่อคัดเลือกคู่ครองให้กับบรรดาองค์ชายองค์หญิง ด้วยเหตุนี้ คุณชายและคุณหนูทุกคนที่มาร่วมงานจึงเตรียมตัวมาอย่างดี“น้องหญิงห้า ชุดที่เจ้าทำให้ข้าชุดนี้พอดีตัวดีจริงๆ นอกจากใส่สบายแล้วยังดูดีอีกด้วย!”ซ่งจืออวี้สวมชุดที่ซ่งรั่วเจินมอบให้เขามา ในใจรู้สึกยินดียิ่งนัก มิน่าเล่ากิจการร้านลั่วเสินจึงรุ่งเรืองปานนั้น ชุดที่น้องหญิงห้าออกแบบช่างไม่เหมือนใครเลยจริงๆเขารู้สึกว่าไม่เคยมีชุดไหนที่ดูดีเท่าชุดนี้มาก่อนเลย!ซ่งจิ่งเซินกับซ่งอี้อันก็สวมชุดที่ซ่งรั่วเจินให้พวกเขามาอย่างพร้อมใจยิ่ง วันที่พวกเขาได้รับชุด ทุกคนมีความสุขมากวันนี้ประสบโอกาสเหมาะพอดีก็ย่อมต้องนำออกมาสวม“น้องหญิงห้า ข้า

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 672

    “หลายปีมานี้เขาไม่เคยชอบพอแม่นางคนไหนมาก่อน ยามนี้ยากนักกว่าจะมีแม่นางที่ชอบ ไยท่านต้องคัดค้านความสัมพันธ์ของพวกเขาด้วย แบบนี้มิเท่ากับทำลายความสัมพันธ์ระหว่างพวกท่านแม่ลูกหรือเพคะ?”“นอกจากนี้...ยามนี้เกรงว่าคนที่ชอบพอแม่นางซ่งจะไม่ได้มีแค่ฉู่อ๋องเพียงคนเดียว”“อันที่จริงหลังพิธีล่าสัตว์ครั้งนั้น ข้าก็รู้แล้วว่าถังเสวี่ยหนิงไม่เหมาะสมจริงๆ แต่ถังฮูหยินจงใจเข้าวังมาขอร้อง ข้าจึงอดทนรอดูต่อไป ตอนนี้กลายเป็นเช่นนี้เสียแล้วก็ยิ่งไม่เหมาะสมกับฉู่อ๋อง”ฮองเฮาเอ่ยขึ้นช้าๆ สาเหตุที่วันนี้โมโหเช่นนี้ก็เพราะรู้สึกว่ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น เหล่าสนมในวังหลายคนล้วนแต่เยาะเย้ยเสียดสีนาง ทำให้นางเสียหน้า“แต่เจ้ารู้หรือไม่ว่าหลิงไท่ซือจะกลับเมืองหลวงแล้ว? หลานสาวของเขาหลิงเชี่ยนเอ๋อร์เอ๋อร์คุ้นเคยกับฉู่อ๋องมาตั้งแต่เล็ก ข้าไม่รู้เหมือนกันว่าในใจจวินถิงคิดอย่างไรกันแน่”ลู่หมิ่นฮุ่ยอึ้งไป “ข้าจำได้ว่าแม่นางคนนั้นหน้าตางดงามมาตั้งแต่เล็ก ชอบตามหลังฉู่อ๋องอยู่ทั้งวัน ยามนั้นยังเคยพูดเย้าว่าวันหน้าจะให้ทั้งคู่แต่งงานกัน”“แต่ภายหลังหลิงไท่ซือย้ายไปจากเมืองหลวง ตอนนี้จะกลับมาแล้วงั้นหรือ?”……ณ จ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 671

    ลู่หมิ่นฮุ่ยได้ยินดังนั้นก็รู้สึกยินดียิ่งนัก “พี่หญิง ท่านดูออกก็ดีแล้วเพคะ ถังเสวี่ยหนิงผู้นี้ไม่ใช่คู่ครองที่เหมาะสมจริงๆ”“เรื่องระหว่างพิธีล่าสัตว์คราวก่อนก็ทำความผิดใหญ่หลวงไปแล้ว ถ้าบอกว่านางบริสุทธิ์จริงๆ ถูกหลอกลวงมา ข้ากลับเชื่อไม่ลง”ฮองเฮาได้ยินแล้วก็เงียบไป เรื่องคราวก่อนคนมีวิจารณญาณล้วนมองพิรุธออก แม้สุดท้ายจะยืนยันแล้วว่าไม่เกี่ยวข้องกับถังเสวี่ยหนิง แต่นั่นก็เป็นเพราะนางไม่ฉลาดเองถึงได้ถูกคนวางหลุมพรางเอาเช่นนั้นหลังเกิดเรื่องนี้ นางก็กระจ่างแล้วว่าถังเสวี่ยหนิงเป็นพวกไม่มีสมองจริงๆคงเป็นเพราะครอบครัวให้ท้ายมาจนชิน เข้าใจว่าทุกเรื่องจะเป็นไปตามที่นางต้องการ นิสัยเช่นนี้ หากได้เป็นชายาฉู่อ๋องจริงๆ นอกจากจะช่วยอะไรไม่ได้แล้ว ยังจะกลายเป็นตัวถ่วงเสียอีก“พี่หญิง ความจริงข้ารู้สึกว่าแม่นางซ่งผู้นั้นก็ดีมากนะเพคะ ท่านดูจากเรื่องแจกโจ๊กคราวนี้สิ เห็นได้ชัดว่าถังเสวี่ยหนิงจงใจหาเรื่องนาง”“แต่ท่านดูสิว่าแม่นางซ่งทำอย่างไร? นางไม่ชิงดีชิงเด่น ยอมแบกรับคำครหาอยู่หลายวัน นางยังไม่ใส่ใจแม้แต่น้อย”“ด้วยฐานะของพวกเรา จำเป็นต้องเข้าใจความสำคัญของภาพรวม ไม่อาจทำลายเรื่องสำค

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 670

    กู้ชิงเหยี่ยนพยักหน้า “ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีคนพูดว่าจวนอัครมหาเสนาบดีร่ำรวยถึงเพียงนี้ ใช่หรือไม่ว่าท่านอัครมหาเสนาบดีรับสินบน”“เช้าวันนี้ ฝ่าบาทตำหนิอัครมหาเสนาบดีถังอย่างแรงที่ห้องทรงพระอักษร เสียงด่าดังมากจนภายนอกได้ยิน”ราชครูกู้พูดเนิบนาบอย่างไม่ใส่ใจ ภายในเสียงกลับเผยกลิ่นอายที่ได้รับชมละครฉากสนุกหลายส่วนเรื่องถังเสวี่ยหนิงทำร้ายรั่วเจินในพิธีล่าสัตว์ เขาย่อมรู้ ยิ่งไม่ต้องพูดเรื่องสกุลซ่งแจกจ่ายโจ๊ก ถังเสวี่ยหนิงเองก็แจกจ่ายโจ๊ก แต่ยังต้องการแจกจ่ายซาลาเปาเนื้อ สองคนได้พบกันที่ประตูเมืองทิศประจิม เขาได้ยินเรื่องรั่วเจินสั่งให้คนเก็บแผงไปทั้งหมดนี้แล้ว จะต้องเป็นเพราะหลานสาวถูกรังแก กลับอดกลั้นไว้ มิได้บอกผู้อาวุโสอย่างพวกเขาเหล่านี้บัดนี้ถังเสวี่ยหนิงก่อเรื่องโง่งมเหล่านี้ออกมา ก็สมควรแล้ว!พี่น้องสกุลซ่งสบตากันแวบหนึ่ง ล้วนรู้สึกมีความสุขในคราวเคราะห์ของผู้อื่นคิดใช้วิธีการเช่นนี้มารังแกน้องหญิงห้า ยกหินใส่เท้าตน บัดนี้อัครมหาเสนาบดีถังจะต้องปวดหัวแน่“ฮองเฮาอยากให้ถังเสวี่ยหนิงเป็นลูกสะใภ้มาโดยตลอด ก็ไม่รู้บัดนี้นึกเสียใจภายหลังไปแล้วหรือไม่?”ซ่งอี้อันหรี่ตาลง ด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 669

    กู้ฮวนเอ๋อร์เผยสีหน้าโศกเศร้า “ข้าไม่ทันระวังจริงๆ...”ซ่งรั่วเจิน “...”นางเข้าใจอวิ๋นอ๋องแล้ว คนรักหน้าตาอย่างเขาคนหนึ่ง น่ากลัวว่าไม่เคยขายหน้าเช่นนี้มาก่อนความรักครั้งนี้ของกู้ฮวนเอ๋อร์...ลำบากโดยแท้!“ญาติผู้พี่ ท่านมีวิธีอันใดหรือไม่? ข้าชอบอวิ๋นอ๋องด้วยใจจริง ได้ยินมาว่าเขาชอบฟังบทเพลงผีผา ข้ายังเตรียมหาอาจารย์ไว้เรียนเป็นพิเศษอีกด้วย”“ครั้งก่อนฮองเฮาเรียกข้าเข้าวัง เดิมทีก็ตั้งใจให้ข้าและอวิ๋นอ๋องได้รู้จักกัน แต่เพียงเขาได้ยินชื่อของข้า คนก็ไม่มาแล้ว!”กู้ฮวนเอ๋อร์ก้มหน้า ใบหน้าเรียวเล็กปกปิดความผิดหวัง “เดิมทีข้าเพียงแอบชอบ กลับไม่มีความยึดมั่น อย่างไรเสียเขาก็มีฐานะสูงศักดิ์ ใช่ว่าข้าจะคู่ควรกับเขา ทว่าบัดนี้โอกาสอยู่ตรงหน้าแล้ว ข้าจึงอยากลองดู”ซ่งรั่วเจินเข้าใจแล้ว กู้ฮวนเอ๋อร์เข้าตาฮองเฮา อวิ๋นอ๋องเองก็เป็นคนในหัวใจนาง หากอวิ๋นอ๋องยินดีอยู่ร่วมกันกับนาง นั่นก็คือคู่สร้างคู่สมเรื่องแต่งงานของสตรี ส่วนใหญ่ล้วนฟังคำสั่งฟ้าบัญชาสวรรค์ บัดนี้โอกาสอยู่ตรงหน้า ขอเพียงพยายามก็สามารถแต่งงานกับคนที่ชอบได้ ย่อมต้องสู้สุดจิตสุดใจดูสักครั้ง“ญาติผู้น้องฮวนเอ๋อร์ ข้าไม่เคยได

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 668

    มือสองข้างของนางประสานกัน ท่าทีสับสน “คือ...ข้า...”“ไม่ขอปิดบัง แท้จริงแล้วข้าชอบอวิ๋นอ๋อง” กู้ฮวนเอ๋อร์สารภาพออกมา“แค่กๆๆ” สายตาซ่งรั่วเจินเผยแววตกตะลึง “อวิ๋นอ๋อง?”กู้ฮวนเอ๋อร์รีบปิดปากซ่งรั่วเจิน พูดว่า “ญาติผู้พี่ ท่านเบาลงเสียงหน่อย อย่าให้คนอื่นได้ยินเจ้าค่ะ”ซ่งรั่วเจินเองก็สนใจขึ้นมาแล้ว “เล่าให้ข้าฟังหน่อยสิ?”กู้ฮวนเอ๋อร์เล่าเหตุการณ์ที่นางได้พบอวิ๋นอ๋องเป็นครั้งแรกวันนั้นนางตั้งใจแต่งตัวไปเข้าร่วมงานเลี้ยงชมดอกบัว ไม่คาดคิดเลยว่าจะถูกแม่นางที่ปกติมีความสัมพันธ์ไม่ดีขัดขาเข้า คนมิอาจควบคุมตนเองได้จึงล้มหงายหลังข้างหลังก็คือสระบัว หากตกลงไป น่ากลัวว่าต้องกลายเป็นตัวตลกของทั้งเมืองหลวงแน่โชคดีตอนนี้เองอวิ๋นอ๋องบังเอิญผ่านมา ประคองนางไว้ นี่ถึงทำให้นางรอดพ้นจากความอับอายนี้ไปได้ซ่งรั่วเจินได้ยินเรื่องวีรบุรุษช่วยสาวงามแล้ว เนตรขนงเจือรอยยิ้มแม้ว่าเรื่องทำนองนี้จำเจอย่างมาก แต่ไม่พูดไม่ได้ว่าสำหรับสตรีแล้ว นี่ก็คือช่วงเวลาทำให้ใจคนหวั่นไหวได้อย่างง่ายดายที่สุด“นับตั้งแต่นั้นมา ข้าก็มักอยากลอบไปดูอวิ๋นอ๋องอยู่ตลอด แต่ข้าไม่กล้าเป็นฝ่ายเข้าไปพูดกับอวิ๋นอ๋องก่อน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 667

    วันนี้ซ่งรั่วเจินถูกเรียกมาตั้งแต่เช้า ติดตามมารดาและพวกพี่ชายไปสกุลกู้“ก่อนหน้านี้นับญาติกันอย่างกะทันหันเกินไป วันนี้ทุกคนล้วนอยู่ที่นี่ พวกเจ้าเองก็ถือโอกาสนี้รู้จักเหล่าญาติพี่น้องเถอะ”บนรถม้า กู้หรูเยียนยิ้มกว้างเล่าสถานการณ์ของลูกหลานสกุลกู้ ส่วนซ่งรั่วเจินเองก็ได้รู้ว่าสกุลกู้มีคนมากมายจากการแนะนำนี้ท่านลุงใหญ่กู้ชิงเหยี่ยนและท่านป้าสะใภ้สวี่ซื่อคลอดลูกสาวสองคนลูกชายสองคน แบ่งออกเป็นลูกชายคนโตกู้จิ่งหลิน ลูกชายคนรองกู้ชิงฉือ ลูกสาวคนที่สามกู้หนานเวย และลูกสาวคนสุดท้องกู้เจาหยวนท่านลุงรองกู้ชิงซิวและป้าสะใภ้หลิงซื่อมีลูกชายสามคนลูกสาวหนึ่งคน ลูกชายคนโตกู้มู่เฉิน ลูกชายคนรองกู้หลินเซียว ลูกชายคนที่สามกู้สือเหย่และลูกสาวคนเล็กกู้ฮวนเอ๋อร์ภายในนั้น นอกจากกู้เจาหยวน กู้สือเหย่และกู้ฮวนเอ๋อร์ที่ยังไม่แต่งงาน คนอื่นล้วนแต่งงานแล้วส่วนท่านลุงสามกู้ชิงเจ๋อ ทุกคนมิได้เอ่ยถึงอย่างรู้ใจกัน เพราะเรื่องของกู้อวิ๋นเวย กู้ชิงเจ๋อยังมิอาจแยกแยะถูกผิดได้ บัดนี้มิได้อาศัยในสกุลกู้“หรูเยียน ในที่สุดพวกเจ้าก็มาแล้ว หลายวันนี้เจ้าลิงซุกซนเหล่านี้ล้วนบ่นว่าอยากพบญาติผู้พี่ผู้น้องอยู่ตลอด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 666

    ผู้ดูแลเผยสีหน้าเอือมระอา ทุกวันเพียงแค่เงินแจกจ่ายโจ๊กก็ใช้จ่ายไปไม่น้อย ครั้นเปลี่ยนเป็นแจกจ่ายซาลาเปาเนื้อราคาก็ชวนให้คนตกตะลึง อีกเดี๋ยวจะต้องไปคลังขอเบิกเงินอีกแล้ว...ซ่งจิ่งเซินและซ่งจืออวี้มองบรรยากาศครึกครื้นที่ประตูเมืองทิศทักษิณแห่งนั้น เอ่ยออกมาอย่างสลดใจ “ความยิ่งใหญ่เช่นนี้ ที่ผ่านมาไม่เคยเห็นมาก่อน สกุลถังเงินหนาไม่ผิดไปดังคาด!”“น้องสี่ อัครมหาเสนาบดียอดเยี่ยมถึงเพียงนี้ เหตุใดกับเรื่องนี้ถึงได้โง่งมนัก ปล่อยให้ถังเสวี่ยหนิงทำเรื่องเหลวไหลเช่นนี้?”ซ่งจืออวี้เผยสีหน้าสงสัย คนไม่เคยสัมผัสมาก่อนอาจไม่เข้าใจ แต่อัครมหาเสนาบดีไม่มีทางไม่รู้ผลลัพธ์ที่ตามมาของการกระทำนี้ซ่งจิ่งเซินหัวเราะเบาๆ “ได้ยินมาว่าเมื่อคืนดื่มสุราจนเมามาย น่ากลัวว่าจะยังไม่รู้เรื่องนี้”“หากรู้เข้า จะต้องไม่ปล่อยให้นางทำเรื่องเหลวไหลแน่ แต่เรื่องนี้ชุลมุนวุ่นวายใหญ่โตถึงเพียงนี้ ต่อให้หลังผ่านวันนี้ไปจะห้ามเอาไว้ น่ากลัวว่าไม่ทันการณ์แล้ว”“ฉวยโอกาสในครั้งนี้ พวกเราเองก็หาเงินได้มาก อย่างไรเสียจวนถังก็ไม่ขาดเงินอยู่แล้ว”“สกุลถังแจกจ่ายโจ๊ก พวกเราหาเงินได้อย่างไร?” ซ่งจืออวี้ตกตะลึงซ่งจิ่งเซิ

Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status