Share

บทที่ 641

Author: จี้เวยเวย
ได้ยินคำพูดของลู่หมิ่นฮุ่ยแล้ว ทุกคนพลันเปลี่ยนสีหน้าไปโดยไม่รู้ตัว หรือว่าไม่ได้มีแค่คนที่ต้องการทำร้ายพระชายาเซียงอ๋องเท่านั้น แต่ยังคิดจะลงมือกับพระชายาอันหลานอีกด้วย?

“น้องหญิงหมิ่นฮุ่ย ยามนี้เจ้าตั้งครรภ์อยู่ มีคนคิดร้ายต่อเจ้าด้วยงั้นรึ?”

พระชายาเซียงอ๋องมีสีหน้ากังวลใจ หลายวันนี้นางผ่านมาอย่างลำบากยากเย็นเพียงไรมีเพียงตัวนางเองที่รู้ ถ้าเป็นคนที่ตั้งครรภ์อยู่จะต้องแบกรับไม่ไหวแน่นอน

สีหน้าทุกคนเปลี่ยนเป็นหนักอึ้ง เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นครั้งเดียวก็น่ากลัวมากพอแล้ว อย่าว่าแต่เกิดขึ้นหลายครั้งติดต่อกัน คนที่อยู่เบื้องหลังคงไม่ได้ร่วมมือกันหรอกนะ?

“พระชายาอันหลาน สถานการณ์ของท่านไม่เหมือนว่าจะเป็นฝีมือของผีน้อยนะเพคะ หากเป็นผีน้อย สิ่งที่ฝันเห็นไม่มีทางเรียบง่ายเช่นนี้” ซ่งรั่วเจินกล่าว

ลู่หมิ่นฮุ่ยอึ้งไปเล็กน้อยแล้วมองไปทางพระชายาเซียงอ๋องโดยไม่รู้ตัว สีหน้าของพระชายาเซียงอ๋องก็เปลี่ยนไปดังคาด หลายวันนี้ในฝันร้ายของนางเต็มไปด้วยผีสางต้องการมาเอาชีวิตนาง แต่หลบอย่างไรก็หลบไม่พ้น น่ากลัวยิ่งนัก

“แล้วข้าเป็นอะไรไปงั้นหรือ?” ลู่หมิ่นฮุ่ยอดถามไม่ได้

“พระชายา ท่านลองเล่าความฝันของท่
Locked Chapter
Patuloy ang Pagbabasa sa GoodNovel
I-scan ang code upang i-download ang App

Kaugnay na kabanata

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 642

    ลู่หมิ่นฮุ่ยเห็นคนทั้งสองจากไปแล้วก็ไม่มีแก่ใจมาสนทนากับพระชายาเซียงอ๋องต่ออีก หากแต่รีบสั่งความลงไปผ่านไปไม่นาน ข้ารับใช้ก็กลับมาแล้ว“พระชายา หลังตรวจสอบโดยละเอียดแล้วพบว่ามุมหนึ่งฝั่งตะวันตกมีน้ำรั่วซึมจริงๆ เป็นเส้นเล็กๆ ซ่อนอยู่ลับตายิ่งนัก”“หากไม่ใช่เพราะทุกคนตรวจหาโดยละเอียดแล้วละก็ คิดว่าคงหาไม่พบเลย”“มีจริงๆ อย่างนั้นรึ?”ลู่หมิ่นฮุ่ยเบิกตากว้าง รู้สึกเพียงว่าซ่งรั่วเจินร้ายกาจเกินไปแล้ว!นางหยิบยันตร์คุ้มภัยออกมาจากในอกเสื้อโดยไม่รู้ตัว ครั้นคิดถึงว่าก่อนหน้านี้ซ่งรั่วเจินบอกว่าลูกน้อยในครรภ์จะถือกำเนิดอย่างปลอดภัยแน่นอน รอยยิ้มบนใบหน้านางก็ยิ่งสดใสกว่าเดิม“ก่อนนี้ข้าไม่ควรฟังเสียงลือเสียงเล่าอ้างจนเข้าใจแม่นางซ่งผิดไปเลย ยามนี้ดูแล้วแม่นางผู้นี้ดีไม่ใช่ธรรมดาเลยนะ”“ไป ไปนำเครื่องประดับที่ข้าเก็บรักษาไว้อย่างดีออกมา ข้าจะต้องเลือกเครื่องประดับสักสองสามชุดส่งไปขอบคุณสักหน่อยแล้ว!”……เมื่อซ่งรั่วเจินกับฉู่จวินถิงมาถึงเรือนหลังเล็กของสกุลจาง อวิ๋นเนี่ยนชูกำลังมีสีหน้าหนักอึ้งนางเห็นซ่งรั่วเจินมาแล้ว ดวงตาก็พลันเป็นประกาย รีบรุดออกมา “รั่วเจิน ท่านอ๋อง พวกท่านมา

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1

    ราชวงศ์ฉู่โยว เมืองหลวงเกี้ยวเจ้าสาวสองหลังหยุดเรียงกันหน้าประตูจวนหลินโหว ตามมาด้วยเสียงประทัดฆ้องกลอง ครึกครื้นมากเป็นพิเศษแขกเหรื่อมาร่วมงานเห็นภาพนี้แล้วก็ตกตะลึง “เหตุใดมีเกี้ยวเจ้าสาวสองหลังกันเล่า?”“แม่นางห้าสกุลซ่ง—ซ่งรั่วเจิน รอหลินโหวมานานสองปี ดูแลงานทั้งจวนโหวแทนเขา บัดนี้หลินโหวคว้าชัยชนะกลับมา ตบแต่งแม่นางซ่งก็คือเรื่องดีของเมืองหลวง แต่เกี้ยวเจ้าสาวเข้าประตูพร้อมกัน มิใช่ว่ายังแต่งกับคนอื่นด้วยหรือ?”“คุณหนู ตอนนี้จะทำอย่างไรดีเจ้าคะ?”ซ่งรั่วเจินรู้สึกเพียงเสียงดังเอะอะอยู่ข้างหูพักหนึ่ง ขมวดคิ้วอย่างไม่รู้ตัว ลืมตาทั้งสองข้างก็มองเห็นชุดแต่งงานสีแดงเข้ม?เกิดเหตุอันใดขึ้น?ชุดแต่งงานซิ่วเหอและเกี้ยวเจ้าสาวสีแดงเข้ม นี่มิใช่ขบวนแต่งงานหรอกหรือ?“ท่านโหวทำเกินไปแล้ว ก่อนนี้เขาออกรบอยู่ภายนอก หากมิได้ท่านดูแลฮูหยินผู้เฒ่า ไฉนเลยเขาจะสามารถออกรบอย่างสบายใจได้? บัดนี้กลับมาอย่างยากลำบาก เขาถึงขั้นตบแต่งฉินซวงซวงเป็นภรรยาหลวงลำดับเดียวกันในวันแต่งงาน ไม่บอกกล่าวแม้คำเดียว เห็นได้ชัดว่ากำลังรังแกคุณหนู!”เฉินเซียงยิ่งพูดยิ่งโมโห บัดนี้เกี้ยวเจ้าสาวทั้งสองหลังหยุดอ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 2

    ซ่งรัวเจินถามไล่เรียงกระแทกลงไป กระแทกเสียจนสีหน้าหลินจือเยว่เผือดซีด หวุดหวิดจะเป็นลมหมดสติไปแล้วเหตุใดนางกล้าพูดเรื่องเหล่านี้ออกมาต่อหน้าคนมากมายเพียงนี้!“เรื่องนี้ก็ไม่ซื่อสัตย์จริงใจจริงนั่นล่ะ ได้ยินมาว่าหลินโหวและฉินซวงซวงมีใจปฏิพัทธ์ต่อกันมาตั้งแต่แรกแล้ว สองปีก่อนฉินซวงซวงไม่ยอมแต่งกับเขา นี่เขาถึงตกลงหมั้นหมายกับสกุลซ่ง ใครเคยคิดเล่าว่าทำความดีความชอบกลับมา ฉินซวงซวงกลับยอมแต่งกับเขาแล้ว ดังนั้นจึงคิดทำเช่นนี้ จุ๊ ๆ ...”“แม่นางสกุลซ่งไม่กลายเป็นตัวโง่งมไปแล้วหรือ?”ความทุ่มเทตลอดสองปีสูญเปล่าไปแล้ว เย็บชุดเจ้าสาวให้ผู้อื่นสวม ได้รับความทุกข์อย่างแสนสาหัสแต่ยังต้องกลั้นก้อนสะอื้น นี่ใครยังสามารถทนได้กันเล่า?“พี่หญิง อย่าโมโหไปเลย”ฉินซวงซวงก้าวเท้าฉับไวขึ้นมา มิอาจข่มความแปลกใจภายในใจเอาไว้ได้เห็นได้ชัดว่าซ่งรั่วเจินเป็นพลับอ่อนให้คนบดขยี้ แต่งเข้าบ้านพร้อมกันก็เป็นนางและจือเยว่ร่วมกันวางแผน แม้นางไม่ยอมแต่ก็ต้องกล้ำกลืนฝืนรับปาก ไม่โวยวายใหญ่โตอันใดใครคาดคิดนางถึงขั้นเปิดผ้าคลุมหน้าลงจากเกี้ยวเจ้าสาว โวยวายอยู่ที่หน้าประตูเช่นนี้?“ล้วนเป็นความผิดของซวงซวง ท่าน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 3

    “แม่นางฉิน ได้โปรดถอดออก เพียงมองดูก็จะทราบได้” เฉินเซียงเอ่ยเพียงฉินซวงซวงถอดออก เฉินเซียงก็หยิบกำไลหยกไปให้ทุกคนดูหนึ่งรอบ “ทุกท่านล้วนเห็นอย่างชัดเจนแล้ว ด้านบนแกะสลักชื่อเล่นของคุณหนูข้าเจินเอ๋อร์เอาไว้!”“ยังไม่ต้องพูดว่าท่านโหวและคุณหนูข้ายังไม่แต่งงานกัน ต่อให้แต่งงานแล้วจริง คนมีหน้ามีตาที่ใดยักยอกสินเดิมของฮูหยินตนเองด้วยหรือ?”นับแต่โบราณจนถึงตอนนี้ สินเดิมล้วนเป็นสิ่งของติดตัวฝ่ายหญิง แม้แต่บ้านสามีก็ไม่มีสิทธิ์แตะต้อง เว้นเสียแต่ตนเองยินยอม ทว่าหลินจือเยว่หยิบไปโดยตรงไม่บอกกล่าวเช่นนี้ เรียกว่าขโมยก็ไม่เกินจริงครั้นซ่งจืออวี้พี่ชายสามของซ่งรั่วเจินเร่งเดินทางมาถึงก็ได้ยินว่าหลินจือเยว่ยกกำไลหยกที่ท่านแม่มอบให้เจินเอ๋อร์เป็นสินเดิมให้กับฉินซวงซวง กำปั้นเจือความเกรี้ยวกราดกระแทกเข้าไปโดยตรงหนึ่งหมัด!“ไอ้สารเลว!”หลินจือเยว่ถูกกำปั้นกระแทกหน้าอย่างไม่ทันตั้งตัว ดวงหน้าหันไปอีกฝั่งหนึ่ง เลือดไหลออกจากมุมปากซ่งจืออวี้ไม่คิดยั้งมือเลยแม้แต่น้อย วันนี้เป็นวันมงคลยิ่งใหญ่ของน้องหญิง พวกเขาทั้งครอบครัวส่งนางออกจากจวนอย่างดีใจมีความสุข ใครคาดคิดมาถึงจวนหลินโหวจะถูกหมิ่นแคล

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 4

    “เรื่องนี้โทษท่านแม่ไม่ได้ พูดได้เพียงว่าหลินจือเยว่แสดงละครได้อย่างยอดเยี่ยม หน้าหนาไร้ยางอาย!”ซ่งรั่วเจินยิ่งพูดยิ่งรังเกียจ โชคดีช่วงเวลาที่นางทะลุมิติเข้ามาในหนังสือยังมิได้แต่งเข้าจวนสกุลหลิน หากแต่งเข้าไปแล้ว นั่นต่างหากถึงจบสิ้น!หลิ่วหรูเยียนเห็นลูกสาวผู้เพียบพร้อมของตนพูดถ้อยคำหล่านี้ออกมา ยิ่งมั่นใจว่านางกำลังเสียใจ น้ำตาคลอหน่วย “ลูกสาวชะตาอาภัพของข้า...”แต่น้ำตาที่หางตายังไม่ทันตกก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายจากด้านนอก ของทั้งใหญ่ทั้งเล็กถูกยกเข้ามา หยาดน้ำตาหยุดชะงักในทันใด“เจินเอ๋อร์ นี่ นี่คืออะไรกัน?”“อย่างไรเสียก็ไม่แต่งแล้ว สิ่งของย่อมต้องนำกลับมา ฉินซวงซวงคนนั้นพูดทุกคำว่ารักชอบท่านโหว ข้าอยากเห็นเหลือเกินว่านางจะยอมหักใจชดเชยจวนโหวโล่งโจ้งนั่นหรือไม่!”ซ่งรั่วเจินเคยอ่านต้นฉบับหนังสือมาก่อน ย่อมรู้ว่าฉินซวงซวงก็คือคนมีอุปนิสัยชมชอบความร่ำรวยคนหนึ่ง หาไม่แล้วเพียงนางเอ่ยปาก หลินจือเยว่ก็ต้องถอนหมั้นนางเป็นแน่!แต่นางกลับไม่ทำ ก็เพื่อเงินของจวนสกุลซ่งบัดนี้เงินตกอยู่ในมือนางแล้ว ฉินซวงซวงทางหนึ่งคิดจะหลับนอนกับบุรุษของเจ้าของร่างเดิม ทางหนึ่งใช้จ่ายเงินของเจ้า

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 5

    ซ่งรั่วเจินพูดอย่างจริงจัง อาการป่วยนี้สำหรับนางกลับรักษาไม่ยาก แต่ต้องใส่ใจมากก็เท่านั้นเดิมทีซ่งอี้อันคิดว่าน้องหญิงปลอบโยนตนเอง มิได้เก็บมาใส่ใจ ทว่าเห็นนางพูดอย่างตั้งใจมากเป็นพิเศษ ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเชื่อขึ้นมาหลายส่วน“น้องหญิงคนดี พี่รองเชื่อเจ้า”ซ่งจืออวี้เห็นซ่งอี้อันคล้ายถูกเกลี้ยกล่อมสำเร็จแล้ว เอ่ยถามอย่างอดไม่ได้ “พี่รอง ท่านเชื่อจริงหรือ? น้องหญิงห้าไม่เคยเรียนวิชาแพทย์มาก่อนนะ”“น้องหญิงห้าดีใจก็พอ ตอนนี้ข้าก็กลายเป็นเช่นนี้ไปแล้ว หมอทั้งเมืองหลวงล้วนมาดูแล้ว ยังมีอันใดให้กลัวอีกเล่า?”ซ่งอี้อันยกมุมปากยิ้มขมปร่า นับตั้งแต่วันที่ตาบอดอนาคตอันรุ่งโรจน์ของเขาก็สูญสลายกลายเป็นหมอกผ่านตา ถอนหมั้นก็คือเรื่องที่คาดการณ์ไว้แล้ว น้องหญิงไม่ยอมให้เขายอมแพ้ ก็เพราะหวังดีต่อเขาส่วนเป็นเรื่องจริงหรือไม่...สำคัญด้วยหรือ?ซ่งรั่วเจินมิได้ใส่ใจบทสนทนาของทั้งสองคน สายตานางเบือนไปทางด้านหลัง นับตั้งแต่เหยียบเท้าเข้าจวนสกุลซ่ง นางก็สังเกตุเห็นว่าเรือนด้านหลังถูกพลังชั่วร้ายปกคลุมอยู่เห็นได้ชัดเจนว่าเป็นวันแสงแดดจ้า ทว่าด้านหลังกลับอึมครึม ต้องมีบางสิ่งกำลังสร้างปัญหาอย่างแน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 6

    “เจ้าหมายถึงสร้อยข้อมือเส้นนี้หรือ?”ซ่งอี้อันถอดสร้อยข้อมือออกแล้วส่งมาให้ ก่อนหน้านี้ตัวสร้อยถูกแขนเสื้อปกคลุมเอาไว้ ซ่งรั่วเจินจึงมองไม่เห็น ครั้นเมื่อเห็นสร้อยข้อมือที่สะท้อนใต้แสงแดด ก็พบว่าของสิ่งนี้มีกระแสไอของความอัปมงคลที่หมุนวนขึ้นมา“เจ้าไม่พูดข้าก็เกือบลืมไปเสียสนิท สร้อยข้อมือเส้นนี้เป็นของที่หลินโหวส่งมาให้ ตอนนี้งานวิวาห์ยกเลิกไปแล้ว สร้อยข้อมือเส้นนี้ก็ไม่ควรเก็บไว้”ผู้เป็นพี่คิดเพียงว่าน้องสาวของเขาแค่ตั้งใจเตือนตนเอง เพราะอย่างไรเสีย ตอนนี้สองตระกูลไม่มีความเกี่ยวข้องกันแล้ว เก็บไว้ก็ไม่เหมาะสมจริง ๆ“ท่านบอกว่าสร้อยข้อมือเส้นนี้เป็นของที่หลินจือเยว่ส่งมาหรือ?”ของสิ่งนี้อาบชโลมด้วยโลหิตมนุษย์ ไออัปมงคลหลอมรวม เป็นของสกปรกขุ่นมัว หลินจือเยว่จงใจหาของแบบนี้มามอบให้ ช่างมีน้ำใจนัก!ซ่งอี้อันพยักหน้า “ครั้งก่อนที่หลินโหวมาเยี่ยมเจ้าที่จวน เขาก็ให้ข้ามา บอกว่ารู้ว่าข้าชื่นชอบ ใช้เงินไปไม่น้อยเพื่อซื้อมาให้โดยเฉพาะ”“หากพี่ชายรองชอบสร้อยข้อมือก็เอาเส้นที่เป็นของข้าไปก่อน ส่วน ‘ของล้ำค่า’ ชิ้นนี้ส่งคืนให้หลินจือเยว่เถิด”ซ่งรั่วเจินหยิบสร้อยข้อมืออีกเส้นส่งไปให้ หล

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 7

    จวนตระกูลซ่งหลิ่วหรูเยียนค่อย ๆ ตื่นขึ้นมา เมื่อเห็นซ่งรั่วเจินอยู่ตรงหน้าก็รีบเอ่ยถามว่า “เจินเอ๋อร์ จวนตระกูลจ้าวขอถอนหมั้นแล้วจริงหรือ?”ซ่งรั่วเจินพยักหน้า มองดูใบหน้าซีดเผือดของผู้เป็นมารดาด้วยแววตาที่ไม่อาจหักหาญใจ “ท่านแม่ ในเมื่อจวนตระกูลจ้าวเลือกที่จะเลิกหมั้นในช่วงเวลานี้ ก็เห็นได้ชัดว่านางมิใช่คู่ที่ดีของพี่ชาย เราไม่จำเป็นต้องสนใจเรื่องการหมั้นนี้”“เดิมทีจ้าวซูหว่านก็ไม่เหมาะสมกับพี่ชายรองอยู่แล้ว ข้าคิดว่าการถอนหมั้นเป็นเรื่องดี มิฉะนั้น การแต่งงานกับหญิงสาวเช่นนี้ เกรงว่าในอนาคตคงไร้ซึ้งความสุขสงบ”“แม่รู้ดีว่าจ้าวซูหว่านไม่เหมาะกับพี่ชายของเจ้า แม่เองก็ไม่เห็นด้วยกับการหมั้นหมายนี้ตั้งแต่แรก เพียงแต่พี่ชายของเจ้าไม่มีหญิงสาวที่หมายปองเสียที ในเมื่อทั้งสองคนรักกัน แม่ก็ไม่อยากจะขัดขวาง”“ตอนนี้พี่ชายของเจ้าตาบอด หมอจากทั่วเมืองมาตรวจดูแล้วล้วนบอกว่ารักษาไม่ได้ แม่ไม่อยากให้พี่ของเจ้าต้องเจ็บปวดซ้ำ ๆ …”“พ่อของเจ้าจนถึงบัดนี้ก็ยังไม่รู้ว่าอยู่ที่ใด ถ้าเขารู้ว่าในเวลาที่ตนไม่อยู่ ข้าไม่สามารถดูแลพวกเจ้าให้ดีได้…”หลิ่วหรูเยียนพูดพลางน้ำตาก็คลอเบ้า หมู่นี้ในจวนมีแต่

Pinakabagong kabanata

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 642

    ลู่หมิ่นฮุ่ยเห็นคนทั้งสองจากไปแล้วก็ไม่มีแก่ใจมาสนทนากับพระชายาเซียงอ๋องต่ออีก หากแต่รีบสั่งความลงไปผ่านไปไม่นาน ข้ารับใช้ก็กลับมาแล้ว“พระชายา หลังตรวจสอบโดยละเอียดแล้วพบว่ามุมหนึ่งฝั่งตะวันตกมีน้ำรั่วซึมจริงๆ เป็นเส้นเล็กๆ ซ่อนอยู่ลับตายิ่งนัก”“หากไม่ใช่เพราะทุกคนตรวจหาโดยละเอียดแล้วละก็ คิดว่าคงหาไม่พบเลย”“มีจริงๆ อย่างนั้นรึ?”ลู่หมิ่นฮุ่ยเบิกตากว้าง รู้สึกเพียงว่าซ่งรั่วเจินร้ายกาจเกินไปแล้ว!นางหยิบยันตร์คุ้มภัยออกมาจากในอกเสื้อโดยไม่รู้ตัว ครั้นคิดถึงว่าก่อนหน้านี้ซ่งรั่วเจินบอกว่าลูกน้อยในครรภ์จะถือกำเนิดอย่างปลอดภัยแน่นอน รอยยิ้มบนใบหน้านางก็ยิ่งสดใสกว่าเดิม“ก่อนนี้ข้าไม่ควรฟังเสียงลือเสียงเล่าอ้างจนเข้าใจแม่นางซ่งผิดไปเลย ยามนี้ดูแล้วแม่นางผู้นี้ดีไม่ใช่ธรรมดาเลยนะ”“ไป ไปนำเครื่องประดับที่ข้าเก็บรักษาไว้อย่างดีออกมา ข้าจะต้องเลือกเครื่องประดับสักสองสามชุดส่งไปขอบคุณสักหน่อยแล้ว!”……เมื่อซ่งรั่วเจินกับฉู่จวินถิงมาถึงเรือนหลังเล็กของสกุลจาง อวิ๋นเนี่ยนชูกำลังมีสีหน้าหนักอึ้งนางเห็นซ่งรั่วเจินมาแล้ว ดวงตาก็พลันเป็นประกาย รีบรุดออกมา “รั่วเจิน ท่านอ๋อง พวกท่านมา

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 641

    ได้ยินคำพูดของลู่หมิ่นฮุ่ยแล้ว ทุกคนพลันเปลี่ยนสีหน้าไปโดยไม่รู้ตัว หรือว่าไม่ได้มีแค่คนที่ต้องการทำร้ายพระชายาเซียงอ๋องเท่านั้น แต่ยังคิดจะลงมือกับพระชายาอันหลานอีกด้วย?“น้องหญิงหมิ่นฮุ่ย ยามนี้เจ้าตั้งครรภ์อยู่ มีคนคิดร้ายต่อเจ้าด้วยงั้นรึ?”พระชายาเซียงอ๋องมีสีหน้ากังวลใจ หลายวันนี้นางผ่านมาอย่างลำบากยากเย็นเพียงไรมีเพียงตัวนางเองที่รู้ ถ้าเป็นคนที่ตั้งครรภ์อยู่จะต้องแบกรับไม่ไหวแน่นอนสีหน้าทุกคนเปลี่ยนเป็นหนักอึ้ง เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นครั้งเดียวก็น่ากลัวมากพอแล้ว อย่าว่าแต่เกิดขึ้นหลายครั้งติดต่อกัน คนที่อยู่เบื้องหลังคงไม่ได้ร่วมมือกันหรอกนะ?“พระชายาอันหลาน สถานการณ์ของท่านไม่เหมือนว่าจะเป็นฝีมือของผีน้อยนะเพคะ หากเป็นผีน้อย สิ่งที่ฝันเห็นไม่มีทางเรียบง่ายเช่นนี้” ซ่งรั่วเจินกล่าวลู่หมิ่นฮุ่ยอึ้งไปเล็กน้อยแล้วมองไปทางพระชายาเซียงอ๋องโดยไม่รู้ตัว สีหน้าของพระชายาเซียงอ๋องก็เปลี่ยนไปดังคาด หลายวันนี้ในฝันร้ายของนางเต็มไปด้วยผีสางต้องการมาเอาชีวิตนาง แต่หลบอย่างไรก็หลบไม่พ้น น่ากลัวยิ่งนัก“แล้วข้าเป็นอะไรไปงั้นหรือ?” ลู่หมิ่นฮุ่ยอดถามไม่ได้“พระชายา ท่านลองเล่าความฝันของท่

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 640

    มีคนเลี้ยงผีน้อย ตั้งใจทำร้ายพระชายาเซียงอ๋อง วิธีการนี้อำมหิตยิ่งนักฝันร้ายเป็นเวลานาน ยังไม่ต้องพูดว่าพักผ่อนไม่ดีคนโทรมขึ้น ที่ตามมาคือฝันร้ายรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จิตใจคนเปลี่ยนไปกลายเป็นเสียสติเช่นนี้แล้ว ทุกคนก็รอเพียงพระชายาเซียงอ๋องเสียสติ เดิมทีก็ไม่มีคนสังเกตเห็นว่ามีคนมีเจตนาชั่วต้องการทำร้ายถ้อยคำนี้พูดออกมา สีหน้าพระชายาเซียงอ๋องเปลี่ยนไป สมองคิดทบทวนเป็นพันเป็นหมื่นรอบ ใคร่ครวญว่าใครต้องการทำร้ายนางกันแน่“ท่านแม่ เมื่อวานข้าได้ยินอวิ๋นฮูหยินพูดว่าระยะนี้ก็ฝันร้ายเฉกเดียวกัน สถานการณ์ไม่ต่างจากท่านนัก ข้าคิดว่าอาจเกี่ยวข้องกับวัดอวิ๋นฉานที่ท่านไปบ่อยๆ ในระยะนี้”“ท่านคิดดูอย่างละเอียดเถอะ มีปัญหาที่ใดหรือไม่?”ฉู่จิ่นหวยนึกถึงผลลัพธ์หลังได้สนทนากับอวิ๋นเนี่ยนชูเมื่อวาน ความเป็นไปได้มากที่สุดคือเกี่ยวข้องกับวัดอวิ๋นฉานมีคนลอบทำร้ายท่านแม่อยู่เบื้องหลัง หากไม่จับคนผู้นี้ออกมา ก็ยากจะกินอิ่มนอนหลับอย่างไร้กังวลได้!“วัดอวิ๋นฉาน?”รูม่านตาพระชายาเซียงอ๋องหดลง คล้ายนึกถึงบางอย่างขึ้นได้ แต่สีหน้ากลับมาสงบลงอย่างรวดเร็ว มิได้พูดมากความอีกซ่งรั่วเจินเห็นภาพนี้อยู่ใ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 639

    บัดนี้ลู่หมิ่นฮุ่ยเชื่อคำพูดของซ่งรั่วเจินมากเรื่องสกุลหลิ่วและสกุลกู้สลับตัวเด็กกัน ผ่านมานานหลายปีแล้วกลับไม่มีคนพบ ซ่งรั่วเจินสังเกตเห็นความผิดปกติก็ทำนายออกมาได้แล้ว มองออกว่านางยอดเยี่ยมมากเพียงใดคาดว่าฝันร้ายของพระชายาเซียงอ๋องจะต้องเกิดจากสิ่งชั่วร้ายมารบกวน นางจะต้องสืบออกมาได้แน่นับตั้งแต่ซ่งรั่วเจินเข้ามาก็สำรวจสถานการณ์ภายในเรือนแล้ว ชั่วขณะได้พบพระชายาเซียงอ๋อง ก็พบพลังงานมืดอ่อนๆ บนตัว เห็นได้ว่าการหยั่งเดาของนางเมื่อวานนี้ถูกต้องแล้ว“พระชายาเซียงอ๋องถูกสิ่งสกปรกแปดเปื้อนอยู่จริงๆ”ถ้อยคำนี้พูดออกมา สีหน้าคนภายในห้องล้วนเปลี่ยนไป ถึงขั้นเป็นเรื่องจริง!“แม่นางซ่ง เช่นนั้นยังมีวิธีแก้ไขหรือไม่?” ฉู่จิ่นหวยรีบเอ่ยถามจากนั้น ฉู่จวินถิงกลับดึงนางไปที่ฝั่งหนึ่ง สายตาล้ำลึกดุจมหาสมุทรสะท้อนแววกังวล “จะได้รับบาดเจ็บหรือไม่?”ซ่งรั่วเจินนึกถึงการแสดงสมจริงของตนก่อนหน้านี้ขึ้นมา ยามกระอักโลหิตออกมาครั้งนั้น ส่ายหน้าพูดว่า “วางใจเถอะ ก็แค่ผีน้อยสองสามตนเท่านั้น ทำอันใดหม่อมฉันไม่ได้”ฉู่จวินถิงเห็นท่าทางผ่อนคลายของฝ่ายหญิง นี่ถึงวางใจลงพระชายาเซียงอ๋องและลู่หมิ่นฮุ่ย

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 638

    ผ่านไปเพียงไม่นาน ลู่หมิ่นฮุ่ยก็มาถึงแล้วนับตั้งแต่เข้ามา สายตาของนางก็ตกลงบนตัวซ่งรั่วเจิน ดวงตาคู่นั้นเปล่งประกายซ่งรั่วเจินถูกสายตานี้มองเสียจนประหม่า เกิดความสงสัยภายในใจ ระยะนี้นางมิได้ล่วงเกินพระชายาอันหลาน คงมิใช่มาคิดบัญชีกับนางเพราะฮองเฮาหรอกกระมัง?ดวงตาดำดุจหมึกของฉู่จวินถิงสะท้อนความสงสัยสายหนึ่ง ขยับขึ้นมากำบังซ่งรั่วเจินไว้ข้างหลัง เอ่ยว่า “ท่านน้า วันนี้ท่านมาพบท่านป้าด้วยเหตุใด?”“ไม่ใช่” ลู่หมิ่นฮุ่ยโบกมือ “ข้าได้ยินว่าวันนี้เจ้าและแม่นางซ่งมา นี่จึงตั้งใจมาพบ”พูดไป มองเห็นลู่หมิ่นฮุ่ยสืบเท้าขึ้นมาหนึ่งก้าว ยิ้มกว้างจับมือซ่งรั่วเจิน ตบๆ อย่างสนิทสนม“แม่นางซ่ง ครั้งก่อนขอบคุณเจ้ามาก หากไม่ใช่เจ้าช่วยข้า ข้ายังไม่รู้จะสามารถตั้งครรภ์ได้ยามใด”“พระชายาไม่จำเป็นต้องเกรงใจถึงเพียงนี้ ต่อให้หม่อมฉันไม่พูด พระชายาก็จะมีข่าวดีอยู่แล้ว” ซ่งรั่วเจินเอ่ยฉู่จวินถิงเห็นท้องนูนขึ้นมาเล็กน้อยของลู่หมิ่นฮุ่ย นึกได้ว่าชาติก่อนท่านน้ามิได้ตั้งครรภ์ว่องไวถึงเพียงนี้หากไม่ใช่รั่วเจินกล่าวเตือน ยังต้องรออีกหนึ่งปี ครรภ์นี้ต้องขอบคุณรั่วเจินจริงๆ“ไม่ๆ ต้องขอบคุณเจ้า!”รอย

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 637

    เช้าวันต่อมา ฉู่จวินถิงมารับซ่งรั่วเจินแล้วซ่งจืออวี้เห็นว่าเพิ่งได้สนทนากับน้องสาวบ้านตนสองประโยค คนก็จากไปแล้ว สลดใจอย่างอดไม่ได้“เมื่อวานน้องหญิงห้าก็ออกไปกับฉู่อ๋องทั้งวันแล้วมิใช่หรือ? เหตุใดวันนี้ยังไปอีกเล่า? ฉู่อ๋องมาเยี่ยมเยียนบ่อยเกินไปแล้วกระมัง!”“นี่มีอะไรน่าแปลกกัน? ได้พบกับแม่นางที่ชมชอบย่อมต้องเร็วสักหน่อย หาไม่แล้วจะได้อุ้มหญิงงามกลับไปยามใดกันเล่า?”ซ่งจิ่งเซินเผยสีหน้าเข้าใจ ผินมองซ่งจืออวี้สายตารังเกียจแวบหนึ่ง “มิน่าเล่าท่านถึงยังไม่เปิดใจ!”“เจ้ากลับเปิดใจแล้ว ยังมิสู้ไม่เปิดใจ!” ซ่งจืออวี้เย้ยหยันกลับไป เย้ยหยันเขาด้านอื่นก็ช่างเถอะ บัดนี้ซ่งจิ่งเซินยังเย้ยหยันเขาด้านนี้ นั่นไม่มีโอกาสแม้แต่น้อย!“ได้ยินมาว่าสองวันนี้เคอหยวนจื่อปรากฎตัวภายในร้าน น่าจะตั้งใจมาหาเจ้ากระมัง? เมื่อวานยามข้าไปหยิบของที่ร้าน นางเกือบจำข้าเป็นเจ้าไปแล้ว”ซ่งจิ่งเซินหน้าดำทึบทึม “ข้ายอมรับ ก่อนนี้ข้าตาบอด พอใจแล้วกระมัง!”ซ่งจืออวี้หัวเราะอย่างอดไม่ได้ “ข้าเห็นว่าหลายวันนี้เจ้าพักผ่อนอยู่ที่บ้านเถอะ ปล่อยให้ผู้ดูแลมารายงานสถานการณ์กับเจ้าในจวนก็พอ หาไม่แล้วเคอหยวนจื่อและสหายน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 636

    ดวงตาฉู่จิ่นหวยทอประกาย “ใช่แล้ว ก็เป็นเช่นนี้! ข้าถามท่านแม่ว่าตกลงฝันถึงอะไร นางกลับไม่ยอมพูด พูดเพียงหลับไม่สนิท บอกให้ข้าไม่ต้องกังวล”“พูดเช่นนี้แล้ว สถานการณ์ของพวกเขาล้วนเหมือนกัน?” คนเงียบขรึมอย่างฉู่จวินถิงขมวดคิ้ว สังเกตเห็นปัญหาอย่างว่องไว “เกิดขึ้นตั้งแต่ยามใด?”“ท่านแม่ข้าบอกว่าเมื่อเจ็ดวันก่อน” ฉู่จิ่นหวยเอ่ยตอบอวิ๋นเนี่ยนชูกลับพูด “แม่ข้าเมื่อห้าวันก่อน”“ที่แท้ก็ฝันต่อเนื่องกันหลายวันนี่เอง พวกเราเองก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก แต่หลายวันนี้ไม่เพียงจิตใจว้าวุ่น แม้แต่คนก็เริ่มบ่นงึมงำ ข้ารู้สึกผิดปกติยิ่งนัก”ได้ยินดังนั้น ซ่งรั่วเจินคิดว่านี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เพียงแต่ท่านป้าและพระชายาเซียงอ๋องคล้ายไม่มีอะไร เหตุใดถึงฝันร้ายเช่นนี้เล่า?“ระยะอันใกล้นี้มีสิ่งของพิเศษอันใดเพิ่มขึ้นมา หรือมีที่ใดพิเศษบ้างหรือไม่?”ฉู่จิ่นหวยครุ่นคิด พูดว่า “วันปกติท่านแม่ซื้อของไม่น้อย ส่วนมีสิ่งใดเพิ่มขึ้นมานั้น ข้าเองก็ไม่แน่ใจ”“ระยะนี้ท่านน้ามิได้เพิ่มสิ่งใด เพียงแต่เมื่อห้าวันก่อนอนุอวิ๋นมาเที่ยวหนึ่ง อ้างว่าหวังดีต่อนางจึงนำของบางส่วนส่งมาให้ แต่ท่านน้าให้คนโยนทิ้งไปทั้งหมด”“ต่อม

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 635

    ในห้องรับรองส่วนตัว อวิ๋นเนี่ยนชูนั่งลงด้านข้างซ่งรั่วเจิน สายตามองไปมาระหว่างซื่อจื่อน้อยผู้มีใบหน้าเปื้อนยิ้มและฉู่อ๋องใบหน้าเย็นชาไม่หยุดนางอดไม่ได้ที่จะดึงมือของซ่งรั่วเจินและกระซิบว่า “เหตุใดข้าถึงรู้สึกว่าบรรยากาศที่นี่ค่อนข้างแปลกกัน?”ซ่งรั่วเจินลดเสียงลง “บางทีพวกเขาอาจจะเป็นลูกพี่ลูกน้องที่ไม่ค่อยสนิทกันนัก?”อวิ๋นเนี่ยนชูรู้สึกอึดอัด “เช่นนั้นจะทำอย่างไรดี?”ซ่งรั่วเจินเฝ้ามองอาหารเลิศรสที่ถูกนำมาทีละจาน จึงพูดสร้างบรรยากาศขึ้นมาว่า “ได้ยินมาว่าอาหารในหอสุราเลิศรสอย่างมาก ปกติแล้วจะต้องจองที่นั่งล่วงหน้า ทุกท่านมาลองชิมดูกันดูเถอะ?”ขณะพูด นางก็คีบกุ้งใส่ลงในชามของฉู่จวินถิง ใบหน้าสวยเต็มไปด้วยรอยยิ้มนับตั้งแต่เข้ามา ฉู่จวินถิงก็มีสีหน้าเย็นชา ต้องพูดเลยว่ายามเขาไม่ยิ้ม จะมีบรรยากาศกดดันอย่างยิ่งจนผู้อื่นไม่กล้าหายใจฉู่จวินถิงเหลือบมองกุ้งในชาม คิ้วคลายออกเล็กน้อย และยื่นมือไปคีบอาหารให้ซ่งรั่วเจิน “วันนี้เดินเล่นมานานมากแล้ว เจ้าก็คงหิวมากแล้ว กินเยอะๆ เล่า”ซ่งรั่วเจินพยักหน้า นางก็ไม่เกรงใจและเริ่มกินทันที ทั้งยังพูดกับอวิ๋นเนี่ยนชูและคนอื่นๆ ว่า “พวกท่านก็รีบก

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 634

    เมื่ออวิ๋นเฉิงเจ๋อเห็นซ่งรั่วเจินอยู่ที่นั่นก็รู้สึกประหลาดใจขึ้นมาทันที ทว่าก็เข้าใจในไม่ช้า “เนี่ยนชู เจ้าจะไปหาคุณหนูซ่งเพื่อพูดคุยเรื่องฝันร้ายของท่านน้าใช่หรือไม่?”ซ่งรั่วเจินชะงักไปชั่วครู่ ก่อนมองไปที่อวิ๋นเนี่ยนชูโดยไม่รู้ตัว “ท่านป้าก็ฝันร้ายเช่นกันหรือเจ้าคะ?”อวิ๋นเนี่ยนชูพยักหน้า “ช่วงนี้ท่านพ่อของข้ามักจะไปหาท่านแม่ตลอด ท่านตากับท่านน้าเองก็คอยไปกดดันท่านแม่ โดยหวังว่าท่านแม่จะเปลี่ยนใจทว่าท่านแม่ไม่ยอมเปลี่ยนใจ สถานการณ์จึงตึงเครียดไปหมด อนุอวิ๋นคนนั้นชอบสร้างเรื่อง ชอบพูดจาเสียดสีอยู่เรื่อย เพียงหวังว่าท่านแม่ของข้าจะไม่กลับไป นางจะได้มีโอกาสขึ้นเป็นอวิ๋นฮูหยินตอนแรกท่านแม่เพียงจิตใจเหนื่อยล้า ทว่าต่อมาจู่ๆ ก็เริ่มฝันร้ายจึงไปหาท่านหมอ ท่านหมอเพียงบอกว่านางวิตกกังวลมากเกินไปและความทุกข์รุมเร้า จึงจ่ายยาสงบใจให้จำนวนหนึ่งวันนี้ข้านัดพบกับท่านพี่ที่นี่ก็เพื่อคิดหาวิธีแก้ไขปัญหานี้”อย่างไรก็ตาม อวิ๋นเฉิงเจ๋อกลับพูดว่า “คุณหนูซ่ง ข้าคิดว่าสถานการณ์ของท่านน้าไม่ง่ายขนาดนั้น กลัวว่าจะเป็นการกระทำของวิญญาณร้าย”“เหตุใดคุณชายอวิ๋นจึงพูดเช่นนี้?”“แม้ว่าหลายปีมานี้ใน

I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status