แชร์

บทที่ 635

ผู้เขียน: จี้เวยเวย
ในห้องรับรองส่วนตัว อวิ๋นเนี่ยนชูนั่งลงด้านข้างซ่งรั่วเจิน สายตามองไปมาระหว่างซื่อจื่อน้อยผู้มีใบหน้าเปื้อนยิ้มและฉู่อ๋องใบหน้าเย็นชาไม่หยุด

นางอดไม่ได้ที่จะดึงมือของซ่งรั่วเจินและกระซิบว่า “เหตุใดข้าถึงรู้สึกว่าบรรยากาศที่นี่ค่อนข้างแปลกกัน?”

ซ่งรั่วเจินลดเสียงลง “บางทีพวกเขาอาจจะเป็นลูกพี่ลูกน้องที่ไม่ค่อยสนิทกันนัก?”

อวิ๋นเนี่ยนชูรู้สึกอึดอัด “เช่นนั้นจะทำอย่างไรดี?”

ซ่งรั่วเจินเฝ้ามองอาหารเลิศรสที่ถูกนำมาทีละจาน จึงพูดสร้างบรรยากาศขึ้นมาว่า “ได้ยินมาว่าอาหารในหอสุราเลิศรสอย่างมาก ปกติแล้วจะต้องจองที่นั่งล่วงหน้า ทุกท่านมาลองชิมดูกันดูเถอะ?”

ขณะพูด นางก็คีบกุ้งใส่ลงในชามของฉู่จวินถิง ใบหน้าสวยเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

นับตั้งแต่เข้ามา ฉู่จวินถิงก็มีสีหน้าเย็นชา ต้องพูดเลยว่ายามเขาไม่ยิ้ม จะมีบรรยากาศกดดันอย่างยิ่งจนผู้อื่นไม่กล้าหายใจ

ฉู่จวินถิงเหลือบมองกุ้งในชาม คิ้วคลายออกเล็กน้อย และยื่นมือไปคีบอาหารให้ซ่งรั่วเจิน “วันนี้เดินเล่นมานานมากแล้ว เจ้าก็คงหิวมากแล้ว กินเยอะๆ เล่า”

ซ่งรั่วเจินพยักหน้า นางก็ไม่เกรงใจและเริ่มกินทันที ทั้งยังพูดกับอวิ๋นเนี่ยนชูและคนอื่นๆ ว่า “พวกท่านก็รีบก
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 636

    ดวงตาฉู่จิ่นหวยทอประกาย “ใช่แล้ว ก็เป็นเช่นนี้! ข้าถามท่านแม่ว่าตกลงฝันถึงอะไร นางกลับไม่ยอมพูด พูดเพียงหลับไม่สนิท บอกให้ข้าไม่ต้องกังวล”“พูดเช่นนี้แล้ว สถานการณ์ของพวกเขาล้วนเหมือนกัน?” คนเงียบขรึมอย่างฉู่จวินถิงขมวดคิ้ว สังเกตเห็นปัญหาอย่างว่องไว “เกิดขึ้นตั้งแต่ยามใด?”“ท่านแม่ข้าบอกว่าเมื่อเจ็ดวันก่อน” ฉู่จิ่นหวยเอ่ยตอบอวิ๋นเนี่ยนชูกลับพูด “แม่ข้าเมื่อห้าวันก่อน”“ที่แท้ก็ฝันต่อเนื่องกันหลายวันนี่เอง พวกเราเองก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก แต่หลายวันนี้ไม่เพียงจิตใจว้าวุ่น แม้แต่คนก็เริ่มบ่นงึมงำ ข้ารู้สึกผิดปกติยิ่งนัก”ได้ยินดังนั้น ซ่งรั่วเจินคิดว่านี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เพียงแต่ท่านป้าและพระชายาเซียงอ๋องคล้ายไม่มีอะไร เหตุใดถึงฝันร้ายเช่นนี้เล่า?“ระยะอันใกล้นี้มีสิ่งของพิเศษอันใดเพิ่มขึ้นมา หรือมีที่ใดพิเศษบ้างหรือไม่?”ฉู่จิ่นหวยครุ่นคิด พูดว่า “วันปกติท่านแม่ซื้อของไม่น้อย ส่วนมีสิ่งใดเพิ่มขึ้นมานั้น ข้าเองก็ไม่แน่ใจ”“ระยะนี้ท่านน้ามิได้เพิ่มสิ่งใด เพียงแต่เมื่อห้าวันก่อนอนุอวิ๋นมาเที่ยวหนึ่ง อ้างว่าหวังดีต่อนางจึงนำของบางส่วนส่งมาให้ แต่ท่านน้าให้คนโยนทิ้งไปทั้งหมด”“ต่อม

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 637

    เช้าวันต่อมา ฉู่จวินถิงมารับซ่งรั่วเจินแล้วซ่งจืออวี้เห็นว่าเพิ่งได้สนทนากับน้องสาวบ้านตนสองประโยค คนก็จากไปแล้ว สลดใจอย่างอดไม่ได้“เมื่อวานน้องหญิงห้าก็ออกไปกับฉู่อ๋องทั้งวันแล้วมิใช่หรือ? เหตุใดวันนี้ยังไปอีกเล่า? ฉู่อ๋องมาเยี่ยมเยียนบ่อยเกินไปแล้วกระมัง!”“นี่มีอะไรน่าแปลกกัน? ได้พบกับแม่นางที่ชมชอบย่อมต้องเร็วสักหน่อย หาไม่แล้วจะได้อุ้มหญิงงามกลับไปยามใดกันเล่า?”ซ่งจิ่งเซินเผยสีหน้าเข้าใจ ผินมองซ่งจืออวี้สายตารังเกียจแวบหนึ่ง “มิน่าเล่าท่านถึงยังไม่เปิดใจ!”“เจ้ากลับเปิดใจแล้ว ยังมิสู้ไม่เปิดใจ!” ซ่งจืออวี้เย้ยหยันกลับไป เย้ยหยันเขาด้านอื่นก็ช่างเถอะ บัดนี้ซ่งจิ่งเซินยังเย้ยหยันเขาด้านนี้ นั่นไม่มีโอกาสแม้แต่น้อย!“ได้ยินมาว่าสองวันนี้เคอหยวนจื่อปรากฎตัวภายในร้าน น่าจะตั้งใจมาหาเจ้ากระมัง? เมื่อวานยามข้าไปหยิบของที่ร้าน นางเกือบจำข้าเป็นเจ้าไปแล้ว”ซ่งจิ่งเซินหน้าดำทึบทึม “ข้ายอมรับ ก่อนนี้ข้าตาบอด พอใจแล้วกระมัง!”ซ่งจืออวี้หัวเราะอย่างอดไม่ได้ “ข้าเห็นว่าหลายวันนี้เจ้าพักผ่อนอยู่ที่บ้านเถอะ ปล่อยให้ผู้ดูแลมารายงานสถานการณ์กับเจ้าในจวนก็พอ หาไม่แล้วเคอหยวนจื่อและสหายน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 638

    ผ่านไปเพียงไม่นาน ลู่หมิ่นฮุ่ยก็มาถึงแล้วนับตั้งแต่เข้ามา สายตาของนางก็ตกลงบนตัวซ่งรั่วเจิน ดวงตาคู่นั้นเปล่งประกายซ่งรั่วเจินถูกสายตานี้มองเสียจนประหม่า เกิดความสงสัยภายในใจ ระยะนี้นางมิได้ล่วงเกินพระชายาอันหลาน คงมิใช่มาคิดบัญชีกับนางเพราะฮองเฮาหรอกกระมัง?ดวงตาดำดุจหมึกของฉู่จวินถิงสะท้อนความสงสัยสายหนึ่ง ขยับขึ้นมากำบังซ่งรั่วเจินไว้ข้างหลัง เอ่ยว่า “ท่านน้า วันนี้ท่านมาพบท่านป้าด้วยเหตุใด?”“ไม่ใช่” ลู่หมิ่นฮุ่ยโบกมือ “ข้าได้ยินว่าวันนี้เจ้าและแม่นางซ่งมา นี่จึงตั้งใจมาพบ”พูดไป มองเห็นลู่หมิ่นฮุ่ยสืบเท้าขึ้นมาหนึ่งก้าว ยิ้มกว้างจับมือซ่งรั่วเจิน ตบๆ อย่างสนิทสนม“แม่นางซ่ง ครั้งก่อนขอบคุณเจ้ามาก หากไม่ใช่เจ้าช่วยข้า ข้ายังไม่รู้จะสามารถตั้งครรภ์ได้ยามใด”“พระชายาไม่จำเป็นต้องเกรงใจถึงเพียงนี้ ต่อให้หม่อมฉันไม่พูด พระชายาก็จะมีข่าวดีอยู่แล้ว” ซ่งรั่วเจินเอ่ยฉู่จวินถิงเห็นท้องนูนขึ้นมาเล็กน้อยของลู่หมิ่นฮุ่ย นึกได้ว่าชาติก่อนท่านน้ามิได้ตั้งครรภ์ว่องไวถึงเพียงนี้หากไม่ใช่รั่วเจินกล่าวเตือน ยังต้องรออีกหนึ่งปี ครรภ์นี้ต้องขอบคุณรั่วเจินจริงๆ“ไม่ๆ ต้องขอบคุณเจ้า!”รอย

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 639

    บัดนี้ลู่หมิ่นฮุ่ยเชื่อคำพูดของซ่งรั่วเจินมากเรื่องสกุลหลิ่วและสกุลกู้สลับตัวเด็กกัน ผ่านมานานหลายปีแล้วกลับไม่มีคนพบ ซ่งรั่วเจินสังเกตเห็นความผิดปกติก็ทำนายออกมาได้แล้ว มองออกว่านางยอดเยี่ยมมากเพียงใดคาดว่าฝันร้ายของพระชายาเซียงอ๋องจะต้องเกิดจากสิ่งชั่วร้ายมารบกวน นางจะต้องสืบออกมาได้แน่นับตั้งแต่ซ่งรั่วเจินเข้ามาก็สำรวจสถานการณ์ภายในเรือนแล้ว ชั่วขณะได้พบพระชายาเซียงอ๋อง ก็พบพลังงานมืดอ่อนๆ บนตัว เห็นได้ว่าการหยั่งเดาของนางเมื่อวานนี้ถูกต้องแล้ว“พระชายาเซียงอ๋องถูกสิ่งสกปรกแปดเปื้อนอยู่จริงๆ”ถ้อยคำนี้พูดออกมา สีหน้าคนภายในห้องล้วนเปลี่ยนไป ถึงขั้นเป็นเรื่องจริง!“แม่นางซ่ง เช่นนั้นยังมีวิธีแก้ไขหรือไม่?” ฉู่จิ่นหวยรีบเอ่ยถามจากนั้น ฉู่จวินถิงกลับดึงนางไปที่ฝั่งหนึ่ง สายตาล้ำลึกดุจมหาสมุทรสะท้อนแววกังวล “จะได้รับบาดเจ็บหรือไม่?”ซ่งรั่วเจินนึกถึงการแสดงสมจริงของตนก่อนหน้านี้ขึ้นมา ยามกระอักโลหิตออกมาครั้งนั้น ส่ายหน้าพูดว่า “วางใจเถอะ ก็แค่ผีน้อยสองสามตนเท่านั้น ทำอันใดหม่อมฉันไม่ได้”ฉู่จวินถิงเห็นท่าทางผ่อนคลายของฝ่ายหญิง นี่ถึงวางใจลงพระชายาเซียงอ๋องและลู่หมิ่นฮุ่ย

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 640

    มีคนเลี้ยงผีน้อย ตั้งใจทำร้ายพระชายาเซียงอ๋อง วิธีการนี้อำมหิตยิ่งนักฝันร้ายเป็นเวลานาน ยังไม่ต้องพูดว่าพักผ่อนไม่ดีคนโทรมขึ้น ที่ตามมาคือฝันร้ายรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จิตใจคนเปลี่ยนไปกลายเป็นเสียสติเช่นนี้แล้ว ทุกคนก็รอเพียงพระชายาเซียงอ๋องเสียสติ เดิมทีก็ไม่มีคนสังเกตเห็นว่ามีคนมีเจตนาชั่วต้องการทำร้ายถ้อยคำนี้พูดออกมา สีหน้าพระชายาเซียงอ๋องเปลี่ยนไป สมองคิดทบทวนเป็นพันเป็นหมื่นรอบ ใคร่ครวญว่าใครต้องการทำร้ายนางกันแน่“ท่านแม่ เมื่อวานข้าได้ยินอวิ๋นฮูหยินพูดว่าระยะนี้ก็ฝันร้ายเฉกเดียวกัน สถานการณ์ไม่ต่างจากท่านนัก ข้าคิดว่าอาจเกี่ยวข้องกับวัดอวิ๋นฉานที่ท่านไปบ่อยๆ ในระยะนี้”“ท่านคิดดูอย่างละเอียดเถอะ มีปัญหาที่ใดหรือไม่?”ฉู่จิ่นหวยนึกถึงผลลัพธ์หลังได้สนทนากับอวิ๋นเนี่ยนชูเมื่อวาน ความเป็นไปได้มากที่สุดคือเกี่ยวข้องกับวัดอวิ๋นฉานมีคนลอบทำร้ายท่านแม่อยู่เบื้องหลัง หากไม่จับคนผู้นี้ออกมา ก็ยากจะกินอิ่มนอนหลับอย่างไร้กังวลได้!“วัดอวิ๋นฉาน?”รูม่านตาพระชายาเซียงอ๋องหดลง คล้ายนึกถึงบางอย่างขึ้นได้ แต่สีหน้ากลับมาสงบลงอย่างรวดเร็ว มิได้พูดมากความอีกซ่งรั่วเจินเห็นภาพนี้อยู่ใ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 641

    ได้ยินคำพูดของลู่หมิ่นฮุ่ยแล้ว ทุกคนพลันเปลี่ยนสีหน้าไปโดยไม่รู้ตัว หรือว่าไม่ได้มีแค่คนที่ต้องการทำร้ายพระชายาเซียงอ๋องเท่านั้น แต่ยังคิดจะลงมือกับพระชายาอันหลานอีกด้วย?“น้องหญิงหมิ่นฮุ่ย ยามนี้เจ้าตั้งครรภ์อยู่ มีคนคิดร้ายต่อเจ้าด้วยงั้นรึ?”พระชายาเซียงอ๋องมีสีหน้ากังวลใจ หลายวันนี้นางผ่านมาอย่างลำบากยากเย็นเพียงไรมีเพียงตัวนางเองที่รู้ ถ้าเป็นคนที่ตั้งครรภ์อยู่จะต้องแบกรับไม่ไหวแน่นอนสีหน้าทุกคนเปลี่ยนเป็นหนักอึ้ง เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นครั้งเดียวก็น่ากลัวมากพอแล้ว อย่าว่าแต่เกิดขึ้นหลายครั้งติดต่อกัน คนที่อยู่เบื้องหลังคงไม่ได้ร่วมมือกันหรอกนะ?“พระชายาอันหลาน สถานการณ์ของท่านไม่เหมือนว่าจะเป็นฝีมือของผีน้อยนะเพคะ หากเป็นผีน้อย สิ่งที่ฝันเห็นไม่มีทางเรียบง่ายเช่นนี้” ซ่งรั่วเจินกล่าวลู่หมิ่นฮุ่ยอึ้งไปเล็กน้อยแล้วมองไปทางพระชายาเซียงอ๋องโดยไม่รู้ตัว สีหน้าของพระชายาเซียงอ๋องก็เปลี่ยนไปดังคาด หลายวันนี้ในฝันร้ายของนางเต็มไปด้วยผีสางต้องการมาเอาชีวิตนาง แต่หลบอย่างไรก็หลบไม่พ้น น่ากลัวยิ่งนัก“แล้วข้าเป็นอะไรไปงั้นหรือ?” ลู่หมิ่นฮุ่ยอดถามไม่ได้“พระชายา ท่านลองเล่าความฝันของท่

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 642

    ลู่หมิ่นฮุ่ยเห็นคนทั้งสองจากไปแล้วก็ไม่มีแก่ใจมาสนทนากับพระชายาเซียงอ๋องต่ออีก หากแต่รีบสั่งความลงไปผ่านไปไม่นาน ข้ารับใช้ก็กลับมาแล้ว“พระชายา หลังตรวจสอบโดยละเอียดแล้วพบว่ามุมหนึ่งฝั่งตะวันตกมีน้ำรั่วซึมจริงๆ เป็นเส้นเล็กๆ ซ่อนอยู่ลับตายิ่งนัก”“หากไม่ใช่เพราะทุกคนตรวจหาโดยละเอียดแล้วละก็ คิดว่าคงหาไม่พบเลย”“มีจริงๆ อย่างนั้นรึ?”ลู่หมิ่นฮุ่ยเบิกตากว้าง รู้สึกเพียงว่าซ่งรั่วเจินร้ายกาจเกินไปแล้ว!นางหยิบยันตร์คุ้มภัยออกมาจากในอกเสื้อโดยไม่รู้ตัว ครั้นคิดถึงว่าก่อนหน้านี้ซ่งรั่วเจินบอกว่าลูกน้อยในครรภ์จะถือกำเนิดอย่างปลอดภัยแน่นอน รอยยิ้มบนใบหน้านางก็ยิ่งสดใสกว่าเดิม“ก่อนนี้ข้าไม่ควรฟังเสียงลือเสียงเล่าอ้างจนเข้าใจแม่นางซ่งผิดไปเลย ยามนี้ดูแล้วแม่นางผู้นี้ดีไม่ใช่ธรรมดาเลยนะ”“ไป ไปนำเครื่องประดับที่ข้าเก็บรักษาไว้อย่างดีออกมา ข้าจะต้องเลือกเครื่องประดับสักสองสามชุดส่งไปขอบคุณสักหน่อยแล้ว!”……เมื่อซ่งรั่วเจินกับฉู่จวินถิงมาถึงเรือนหลังเล็กของสกุลจาง อวิ๋นเนี่ยนชูกำลังมีสีหน้าหนักอึ้งนางเห็นซ่งรั่วเจินมาแล้ว ดวงตาก็พลันเป็นประกาย รีบรุดออกมา “รั่วเจิน ท่านอ๋อง พวกท่านมา

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 643

    ท่ามกลางแสงอาทิตย์ดุจเกล็ดทองคำ หญิงสาวสวมชุดกระโปรงสีสุภาพ คิ้วเรียวงาม ผิวพรรณขาวผ่องดุจหิมะ เอวบางอ้อนแอ้น ดวงตางามสะท้อนแววเชื่อมั่นภาคภูมิราวกับไม่ว่าปัญหายากเย็นอันใด เมื่ออยู่ต่อหน้านางแล้วล้วนเล็กจ้อย คลี่คลายได้อย่างง่ายดาย!ดวงตาลึกล้ำมีเสน่ห์ของฉู่จวินถิงปรากฏระลอกไหวระริก แววตาเร่าร้อนกว่าเดิม นี่จึงเป็นโฉมหน้าที่แท้จริงของซ่งรั่วเจินเห็นซ่งรั่วเจินร่ายอาคมในใจ สองมือประสานมุทราไปมาเบื้องหน้าสายตา ดวงตาที่ตาดำกับตาขาวตัดกันชัดเจนมีรัศมีสีทองเรื่อเรืองขึ้นมาชั้นหนึ่ง ผีร้ายรอบด้านล้วนไร้ที่ให้หลบซ่อนซ่งรั่วเจินบุกเข้าไปในเรือน พวกฉู่จวินถิงก็รีบรุดตามเข้าไปเช่นกันพวกเขาไม่เห็นว่าซ่งรั่วเจินเห็นอะไรกันแน่จึงได้แต่คาดเดาจากสีหน้าของนางว่านางคงค้นพบอะไรเข้าแล้ว“ฮิฮิ ใกล้ตายแล้ว”ผีน้อยที่ใบหน้าซีดขาวตนหนึ่งกำลังแอบหัวเราะอยู่บนขื่อจางเหวินที่อยู่เบื้องล่างมีสีหน้าซีดเผือด สองตาไร้แวว ทั้งที่คนนั่งอยู่ตรงนั้น ความคิดคำนึงกลับไม่รู้ว่าลอยไปถึงที่ใดเสียแล้วนางเหมือนถูกสะกดจิตอย่างไรอย่างนั้น ไม่สนใจสรรพสิ่งรอบตัวแม้แต่น้อย ขณะที่ริ้วความรู้สึกที่สว่างสดใสและเป็นสุข

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 782

    รูม่านตาหัวหน้าตระกูลเจียงหดลง ฉู่อ๋องถึงขั้นรู้!ต่อให้เป็นจ้าวชิงหยวน จนกระทั่งตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าตกลงสาเหตุคืออันใด ทว่าวันนี้ฉู่อ๋องเพิ่งมาถึงก็รู้เรื่องทั้งหมดแล้ว“ท่านอ๋อง กระหม่อม...”เจียงฮูหยินและลูกๆ ล้วนตกตะลึงพรึงเพริด ไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใดท่านอ๋องมาแล้วจึงต้องการชีวิตพวกเขาทั้งหมด!“นายท่าน ท่านรีบพูดสิ! หรืออยากให้พวกเราต้องตายทั้งตระกูลเจ้าคะ?” เจียงฮูหยินร้อนใจตอนนี้เอง ฉู่จวินถิงเดินมาหยุดข้างกายซ่งรั่วเจิน เอ่ยปากเสียงนุ่มนวล “เจ้าไปเดินเล่นก่อน อีกเดี๋ยวข้าจะไปหาเจ้า”ซ่งรั่วเจินชะงักเบาๆ สายตาเลื่อนตกลงบนตัวทุกคนในตระกูลเจียงก็เข้าใจขึ้นมาหลายส่วน คาดว่าภาพต่อจากนี้ไม่เหมาะให้นางเห็น พยักหน้าลงอย่างเชื่อฟัง“เพคะ”หลังฝ่ายหญิงจากไป ฉู่จวินถิงหันหน้ากลับมาอย่างเชื่องช้า ดวงตาดำดุจหมึกคู่นั้นเปี่ยมไออำมหิต เขายืนนิ่งๆ อยู่ที่เดิม คล้ายราชามารก็มิปานชวนให้คนอกสั่นขวัญแขวน“เดิมทีข้าก็ไม่มีความอดทนมากอยู่แล้ว” ฉู่จวินถิงเหล่มอง “อวิ๋นหยาง”อวิ๋นหยางดึงกระบี่ออก วางพาดบนชายคนหนึ่ง ก็คือคุณชายใหญ่สกุลเจียงไม่ฟังความคนนั้น“ฆ่า!”อวิ๋นหยางฟันลงไปอย่างไม่ลังเล

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 781

    “ตอนนี้มองดูแล้วที่นี่ไม่มีอันใดไม่เหมาะสม” ซ่งรั่วเจินเอ่ยขึ้น “ไม่มีไอมรณะ ยิ่งไปกว่านั้นก่อนหน้านี้สืบข่าวได้ว่าสกุลเจียงเองก็ไม่มีคนเจ็บป่วย”สายตาฉู่จวินถิงเย็นชา “อาจจะ...สมรู้ร่วมคิดกันตั้งแต่แรกแล้ว หรือไม่ก็ข่มขู่ธรรมดาก็เพียงพอให้พวกเขารับปากแล้ว”หัวหน้าตระกูลเจียงเร่งเดินทางออกมาอย่างว่องไว “คารวะฉู่อ๋อง!”ฉู่อ๋องมองหัวหน้าตระกูลเจียงแวบหนึ่ง เห็นข้างกายเขาไม่มีผู้อื่นอยู่ด้วย สายตาเจือแววนึกสนุก “หัวหน้าตระกูลเจียงอายุปูนนี้แล้ว คงไม่ใช่ยังไม่แต่งงานหรอกกระมัง?”“เรียนท่านอ๋อง บังเอิญยิ่งนัก ภรรยากระหม่อมพาลูกไปเยี่ยมญาติที่คูเมืองอื่นแล้ว บัดนี้ยังไม่กลับมาพ่ะย่ะค่ะ” หัวหน้าตระกูลเจียงยิ้มประสบเอาใจพลางอธิบาย“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้” ฉู่จวินถิงยกมุมปากเบาๆ “วันนี้ภรรยาและลูกของหัวหน้าตระกูลเจียงออกจากเมืองไปเยี่ยมญาติ บังเอิญตอนข้ามาถึง ได้เชิญพวกเขากลับมาพร้อมกันแล้ว”“คาดว่าหัวหน้าตระกูลเจียงคงไม่ถือสากระมัง?”เสียงฉู่จวินถิงเพิ่งจบลง หัวหน้าตระกูลเจียงพลันใจสั่น ได้เห็นฉู่จวินถิงส่งสัญญาณผ่านทางสายตาทีหนึ่ง อวิ๋นหยางพาคนเข้ามาแล้ว“นายท่าน!”“ท่านพ่อ!”สีหน้าเจี

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 780

    หัวหน้าตระกูลเจียงขมวดคิ้วแน่น พวกเขารู้ชื่อเสียงของฉู่อ๋องดีมาก นั่นคือเทพสังหารในสนามรบเชียวนะ!พวกเขาที่นี่อยู่ใกล้เมืองผิงหยาง ย่อมรู้จักบารมีของฉู่อ๋องดีที่สุด“พูดไปแล้วเรื่องนี้ยังต้องโทษท่าน เดิมทีฉู่อ๋องต้องการไปเมืองผิงหยาง ก็แค่แวะเติมเสบียงที่ท่าเรือเท่านั้น แต่พวกเจ้ากลับสร้างเรื่องที่ท่าเรือ ทำให้พวกเขาต้องอยู่ต่อ”สีหน้าหัวหน้าตระกูลหลี่ไม่สบอารมณ์ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้พวกเขาวางแผนไว้แล้ว ต่อให้ราชสำนักส่งคนมา นั่นจะต้องไปที่เมืองผิงหยางก่อน ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีวันมาที่เมืองไห่เทียนก่อนทันทีที่ได้รับข่าว พวกเขาก็สามารถหาทางป้องกันตนเองได้ มีเวลามากเพียงพอใครคาดคิดเล่าว่าจะเกิดสถานการณ์ที่ทำให้พวกเขารับมือไม่ทันเช่นนี้ ไม่มีโอกาสหนีตั้งแต่แรก“เรื่องนี้ไม่สามารถโทษข้าได้ ไฉนเลยข้าจะรู้ว่าเรื่องจะบังเอิญถึงเพียงนี้?”หัวหน้าตระกูลเจียงอึดอัดใจอย่างอดไม่ได้ หากเขารู้ตั้งแต่แรก ก็ไม่มีวันปล่อยให้เรื่องพรรค์นี้เกิดขึ้น น่าเสียดายบนโลกนี้ไม่มียารักษาโรคเสียใจภายหลัง“บัดนี้โทษใครก็ไม่สำคัญ รีบคิดเถอะว่าจะทำเช่นไร ข้าส่งคนไปสืบข่าวแล้ว ฉู่อ๋องไปที่อำเภอนั้น น่ากลัวว่าอ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 779

    อิงตามที่ซ่งเยี่ยนโจวพูด สถานการณ์ในตอนนั้นอันตรายมากอย่างแท้จริง หากไม่ใช่คนสกุลหลิงนำทหารเร่งเดินทางมาถึง เขาก็คงไม่มีชีวิตอยู่แล้วหลินจือเยว่กลับมีผลงานเพราะส่งข่าว หากไม่ได้เขาส่งข่าว สกุลหลิงไปไม่ทันเวลา น่ากลัวว่าจะต้องเสียชายแดนไปแล้วแน่ ไม่มีวันเอาชนะศึกในครั้งนี้ได้!แม้พูดว่าพวกเขาไม่มีหลักฐานพิสูจน์ทั้งหมดนี้ แต่เพียงเรื่องที่บิดายังไม่ตาย กลับไม่ส่งข่าวมาโดยตลอด ก็สามารถตั้งข้อสันนิษฐานได้มากแล้วภายในนี้จะต้องมีเงื่อนงำซ่อนอยู่แน่ทั้งหมด...ยังชี้ไปที่สกุลหลิงอีกด้วย!ยามฉู่จวินถิงมาถึงก็ได้เห็นพวกซ่งรั่วเจินสามพี่น้องกำลังนั่งรวมตัวกัน บรรยากาศตึงเครียดอย่างเห็นได้ชัด“ทำนายผลออกมาไม่ดีกระนั้นหรือ?” ภายในสายตาฉู่จวินถิงสะท้อนความกังวลซ่งรั่วเจินส่ายหน้า “เปล่าเพคะ ก็แค่คิดบางเรื่อง ท่านและท่านตาเข้าใจสถานการณ์แล้วหรือ?”“อยากรู้เรื่องผู้อยู่เบื้องหลัง ยังต้องไปสกุลเจียงสักเที่ยวหนึ่ง จะได้พบหัวหน้าตระกูลเจียง” ฉู่จวินถิงเผยสีหน้าเคร่งขรึม “ง้างปากของเขา สามารถลดปัญหาลงได้มาก”ซ่งรั่วเจินเข้าใจ “หม่อมฉันไปเป็นเพื่อนท่านดีหรือไม่?”ในเมื่อทางฝั่งจ้าวชิงหยวนพบไอม

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 778

    ดูท่าแล้ว ท่านพ่อสังเกตเห็นความอันตราย มิหนำซ้ำยังพบสถานที่ปลอดภัย “บางที...พวกเราไม่จำเป็นต้องไปหาท่านพ่อ ท่านพ่อก็จะมาหาพวกเราเอง”ถ้อยคำนี้พูดออกมาแล้ว พวกซ่งจืออวี้ทั้งสองคนเผยสีหน้าตกตะลึง “นี่หมายความว่าอะไร? หรือท่านพ่อสามารถรู้ได้ว่าพวกเรามากระนั้น?”“ท่านพ่อย่อมไม่รู้ หากข้าเดาไม่ผิด เป็นไปได้มากว่าท่านพ่อกำลังสืบเรื่องอุทกภัยจึงเข้ามาใกล้”ซ่งรั่วเจินใคร่ครวญพลางเอ่ยปาก “บัดนี้ตำแหน่งของท่านพ่อไม่ใช่ชายแดน ยิ่งไปกว่านั้นยังใกล้กับที่พวกเราอยู่ ข้าคิดว่าไม่ใช่เรื่องบังเอิญ”“พูดเช่นนี้แล้ว อาการบาดเจ็บของท่านพ่อหายดีแล้วกระนั้น?” ซ่งจืออวี้แปลกใจ หากเป็นเช่นนี้จริง นั่นก็คือข่าวดีซ่งจิ่งเซินกลับไม่ดีใจมากนัก “ใช่หรือไม่ว่าถูกไล่ต้อนให้จากไป? ครั้งนี้ท่านพ่อเกือบต้องทิ้งชีวิตในสนามรบ ข้าคิดว่าจะต้องถูกคนทำร้ายแน่!”“คนที่ทำร้ายเขารู้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่ จึงตามหาเขาทั่วสารทิศ”ซ่งรั่วเจินเองก็คิดว่าข้อสันนิษฐานนี้เป็นไปได้มากทีเดียว นึกอยากตามหาคน ทันใดนั้นความคิดหนึ่งแล่นผ่านสมองนางอย่างกะทันหัน จะใช่คุณชายใหญ่สกุลหลิงหรือไม่?นับตั้งแต่คำรบแรกที่นางได้พบหลิงเชี่ยนเอ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 777

    “เจ้ารู้เกี่ยวกับสถานการณ์เหล่านี้มากน้อยเพียงใด? นอกจากเมืองไห่เทียนแล้ว ใช่หรือไม่ว่าคูเมืองใกล้เคียงเองก็กำลังตกอยู่ในสถานการณ์เช่นเดียวกัน?”“พูดสิ่งที่เจ้ารู้ทั้งหมดออกมา พวกเราค่อยตัดสินใจว่าจะจัดการเยี่ยงไร”สีหน้าฉู่จวินถิงเคร่งขรึม ก่อนเดินทางมาคิดว่ามีขุนนางคดโกงลอบหาผลประโยชน์ส่วนตนตอนบรรเทาภัยพิบัติ ไม่คาดคิดเลยว่าหลังมาแล้วจึงได้รู้ว่าสถานการณ์ร้ายแรงกว่าที่คิดมากนักพ่อค้าผู้มั่งคั่งเหล่านี้ทำเรื่องชั่วทุกอย่างเพื่อเงิน ข่มขู่เพื่อผลประโยชน์ นอกจากรับปากคำขอของพวกเขา หาไม่แล้วแม้แต่ชีวิตก็ไม่อาจรักษาไว้ได้ครอบครัวของจ้าวชิงหยวนก็คือตัวอย่างบัดนี้จ้าวชิงหยวนไม่มีเรื่องให้ต้องกังวลอีก ทันใดนั้นพูดสิ่งที่รู้ทั้งหมดออกมา“อิงตามที่กระหม่อมรู้ ไม่เพียงแค่เมืองไห่เทียน คูเมืองละแวกใกล้เคียงอีกสองสามแห่งก็เป็นเช่นนี้ ทว่ามีบางคูเมืองที่ขุนนางและพ่อค้าสมรู้ร่วมคิดกัน สถานการณ์น่าจะไม่เหมือนกับกระหม่อมพ่ะย่ะค่ะ”จากนั้นจ้าวชิงหยวนก็จับพู่กันเขียนรายชื่อคนออกมา ฉู่จวินถิงและกู้หวยซวี่มองดู ตัดสินใจภายในใจ“กระหม่อมเคยพบนายอำเภอเมืองหวยหยางมาก่อน เขาเป็นขุนนางที่ดีมีใจรักร

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 776

    จ้าวชิงหยวนเบิกตากว้าง นี่ถึงรับรู้ว่าสิ่งที่ลูกชายตนเองได้บอกกล่าวในช่วงหลายวันมานี้ไม่ใช่ภาพหลอน แต่เป็นความจริง แม่นางเบื้องหน้าท่านนี้ถึงขั้นสามารถมองเห็นได้“แม่นาง เจ้าสามารถบอกข้าได้หรือไม่ว่าตกลงเกิดเรื่องใดขึ้นกันแน่?”บัดนี้ซ่งรั่วเจินได้รู้เรื่องทั้งหมดผ่านปากฉู่จวินถิงแล้ว หลังนางเล่าสาเหตุออกมา จ้าวชิงหยวนโมโหตัวสั่น“พวกเขา เหตุใดพวกเขาต่ำช้าได้ถึงเพียงนี้! เพื่อหาเงินอย่างไร้จริยธรรม ก็ต้องการชีวิตคนมากถึงเพียงนี้!”เดิมทีจ้าวชิงหยวนอยากไปเชิญหมอมาเพื่อรักษาอาการจ้าวเฮ่าเจี๋ย แม้พูดว่าไอมรณะถูกกำจัดไปแล้ว แต่เขากลับมองดูแล้วอ่อนแอมากเกินไป กังวลว่าจะทนไม่ไหวอย่างแท้จริงทว่า ซ่งรั่วเจินบอกเขาไม่จำเป็นต้องกังวล ตนเองจะลงมือช่วยเหลือเองบัดนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือจัดการปัญหาเมืองไห่เทียน อย่างไรเสียก็ยังมีราษฎรกำลังตกทุกข์ได้ยากมากถึงเพียงนั้น จัดการเร็วขึ้น ก็สามารถช่วยได้มากขึ้นอีกสองคน“พี่หญิง อาการของข้าสามารถดีขึ้นได้จริงหรือขอรับ?” จ้าวเฮ่าเจี๋ยเอ่ยถามอย่างอดไม่ได้ซ่งรั่วเจินพยักหน้า “แน่นอน เดิมทีร่างกายเจ้าก็แข็งแรงอยู่แล้ว หากไม่ถูกไอมรณะรุมเร้า ก็ไม่มีวันก

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 775    

    ซ่งรั่วเจินมองกลุ่มไอมรณะที่อยู่ภายในห้อง ดวงตาแข็งกร้าว คนสารเลวรกโลกพวกนี้ เรียนวิชาศาสตร์ลี้ลับมาใช้ทำร้ายผู้คน!    ไอมรณะที่รุนแรงเช่นนี้ ไม่ว่าใครที่อยู่ภายใต้สภาพแวดล้อมเช่นนี้ พลังชีวิตก็ย่อมจะถูกกัดกร่อนทีละน้อย จนมีสภาพย่ำแย่ลงเรื่อย ๆ    เพราะจ้าวเฮ่าเจี๋ยเป็นชายหนุ่ม อีกทั้งยังอยู่ในวัยสิบเจ็ดปี ซึ่งเป็นช่วงวัยที่พลังหยางเพิ่งจะแข็งแกร่งถึงที่สุด หากเปลี่ยนเป็นหญิงสาวหรือผู้อาวุโส คงทนรับไม่ไหวและสิ้นใจไปนานแล้ว    “พวกเจ้ากำลังทำอะไรอยู่หรือ?”    จ้าวชิงหยวนรีบรุดเข้ามาอย่างร้อนรน ทันทีที่ก้าวเข้าห้องก็พุ่งตรงไปอยู่ข้างกายจ้าวเฮ่าเจี๋ยทันที ดวงตาเต็มไปด้วยความห่วงใย    “เฮ่าเจี๋ย มีอะไรหรือ? เจ้าเป็นอะไรหรือไม่?”    จ้าวเฮ่าเจี๋ยส่ายหน้า พลางมองไปยังหญิงสาวตรงหน้า ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงมีความรู้สึกปลอดภัยเกิดขึ้น    ตลอดหลายวันที่ผ่านมา เขารู้สึกเสมอว่าภายในห้องราวกับมีพลังงานมืดกลุ่มหนึ่งปกคลุมอยู่ แต่เมื่อเขาถามผู้อื่น ทุกคนต่างบอกว่าไม่มีอะไรแบบนั้น และถึงขั้นคิดว่าเขาป่วยหนักจนเสียสติไปแล้ว    แต่เขาเห็นมันได้จริงๆ!    ไม่เพียงแต่จะมองเห็น เขาถึงขั้นรู้สึ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 774    

    เขาไม่อาจทนมองดูญาติคนสุดท้ายจากไปต่อหน้าต่อตาเพราะเหตุผลนี้ได้จริง ๆ จึงจำต้องยอมตกลง และแล้วอาการของบุตรชายก็ค่อย ๆ ดีขึ้น    เขาจนปัญญาที่จะเปลี่ยนแปลงเรื่องทุกอย่าง แต่ก็ไม่เต็มใจที่จะสมคบคิดกับพวกคนชั่ว เพราะเหตุนี้จึงกลายเป็นดั่งเช่นในวันนี้ เขารู้สึกละอายต่อประชาชนทั้งเมือง    หลังจากนั้น เขาเองก็เคยลองพยายามอีกครั้ง แต่กลับพบว่าไม่มีประโยชน์แม้แต่นิดเดียว แม้จะส่งบุตรชายไปยังเมืองอื่น แต่ก็ยังคงป่วยหนักเช่นเดิม    เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไร้หนทาง เขาจึงทำได้เพียงปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไป สิ่งเดียวที่เขาสามารถทำได้ก็คือนำทรัพย์สินที่สามารถบริจาคได้ทั้งหมดออกไปบริจาค…    ฉู่จวินถิงและราชครูกู้ต่างตกอยู่ในความเงียบหลังจากได้ฟังเรื่องทั้งหมด พวกเขาเดาไว้ว่าจ้าวชิงหยวนต้องมีเรื่องลำบากใจ แต่กลับไม่คิดเลยว่าเรื่องลำบากใจของเขาจะเจ็บปวดถึงเพียงนี้    เมื่อชะตาชีวิตของครอบครัวต้องถูกนำมาแขวนไว้กับชีวิตของผู้คนทั้งเมือง กลับกัน ไม่ว่าใครก็คงจะเลือกได้ยาก ยิ่งไปกว่านั้น บุตรสาวของเขายังต้องสังเวยชีวิตไปแล้วเพราะเรื่องนี้    ผู้ที่วางแผนเรื่องทั้งหมดนี้ ช่างโหดเหี้ยมอำมหิตเกินไป

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status