แชร์

บทที่ 410

ผู้เขียน: จี้เวยเวย
ซ่งรั่วเจินสังเกตเห็นรอยตบบนใบหน้าอวิ๋นเนี่ยนชูก็รู้สึกโกรธแค้นแทนสหายสนิท

ใต้เท้าอวิ๋นลำเอียงรักพวกอวิ๋นซีหว่านสองแม่ลูกมาโดยตลอด แม้ว่าอวิ๋นเนี่ยนชูจะเป็นบุตรีภรรยาเอก แต่กลับไม่ได้รับความรักใคร่เอ็นดูเท่าอวิ๋นซีหว่าน

บัดนี้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น พวกอวิ๋นซีหว่านหมายมั่นปั้นมือให้อวิ๋นเฉิงเจ๋อแต่งงานกับนาง

เดิมนั้นความสัมพันธ์ระหว่างอวิ๋นเฉินเจ๋อกับอวิ๋นเนี่ยนชูก็มีข้อจำกัดมากมายอยู่แล้ว ยามนี้มาเกิดเรื่องเช่นนี้อีกก็ยิ่งตึงมือกว่าชาติที่แล้วมากนัก

“รั่วเจิน เจ้าว่าข้าควรทำอย่างไรดี?” อวิ๋นเนี่ยนชูดวงตาแดงเรื่อ “ในใจท่านพ่อไม่มีลูกสาวอย่างข้าอยู่ด้วยซ้ำ ในสายตาท่านพ่อ ข้า ญาติผู้พี่รวมถึงท่านแม่เทียบกับพวกนั้นไม่ได้เลยสักนิด!”

“ญาติผู้พี่ของเจ้ารู้เรื่องนี้หรือไม่? เขามีท่าทีอย่างไร?”

“ท่านพ่อเพิ่งมาพูดเรื่องนี้กับท่านแม่วันนี้ ญาติผู้พี่ออกไปข้างนอกยังไม่กลับมา คิดว่าคงยังไม่รู้”

“ญาติผู้พี่กตัญญูมาโดยตลอด เขาคิดมาตลอดว่าถ้าไม่ได้ท่านพ่อท่านแม่รับเลี้ยงเขา แค่เขามีชีวิตก็ลำบากแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการเรียนหนังสือหรือรับราชการ ข้ากลัวว่า...”

อวิ๋นเนี่ยนชูลดสายตาลง นางพลันนึกเสี
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 411

    “ข้ามิได้ใส่ใจเรื่องพวกนี้นักหรอก คนเหล่านั้นต่างพากันตัดสินข้าว่าไม่ดีเพียงเพราะเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ หากแต่งเข้าไปแล้วก็คงมิวายมีแต่จะเจ็บช้ำน้ำใจ ทว่าระยะนี้มารดาของข้าเอาแต่ทุกข์ใจกับเรื่องนี้อยู่ไม่คลาย”อวิ๋นเนี่ยนชูถอนหายใจ ใบหน้าเต็มด้วยความหมองหม่น “พวกเราก็ช่างโชคร้ายกันเสียจริงๆ เหตุใดอวิ๋นซีหว่านจึงต้องเป็นน้องสาวสายรองของข้าด้วย”“วันนี้เมื่อยามที่ข้าออกมายังได้ยินสาวใช้ของนางบอกมาว่าคืนนี้จะตระเตรียมมื้อพิเศษเอาไว้มากหน่อย ด้วยจะเชิญชวนญาติผู้พี่ของข้าไปพูดคุย เจ้าคิดว่าข้าจะนิ่งดูดายอยู่เพียงในห้องโดยมิทำสิ่งใดได้หรือ?”ซ่งรั่วเจินรู้ดีว่าเนี่ยนชูหาใช่ผู้ที่จะสะกดกลั้นระงับอารมณ์ของตนเอาไว้ได้ จึงกล่าว “เช่นนั้นมิสู้ไปถามญาติผู้พี่ของเจ้าโดยตรงเลยเล่า”“ให้ข้าน่ะหรือไปถามเขาโดยตรง?” อวิ๋นเนี่ยนชูชะงักงัน “แล้วข้าควรจะพูดว่าอย่างไรเล่า?”“เจ้าก็เพียงพูดออกไปอย่างที่ใจคิด บัดนี้สถานการณ์ก็มาถึงขั้นนี้เสียแล้ว หาได้มีสิ่งใดจำเป็นต้องปิดบังอีก”ซ่งรั่วเจินยักไหล่ “อวิ๋นซีหว่านเป็นน้องสาวสายรองของเจ้า นางก็ยังมีทาบทามหมั้นหมายบ้างแล้ว ทางบ้านของเจ้าเองคงตระเตรียมคู่ครอง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 412

    ครู่ก่อนนี้อวิ๋นเฉิงเจ๋อเพิ่งจะกลับไปได้ไม่นานก็พบท่านน้าเข้าเสียก่อน ท่านน้าจึงให้เขามารับญาติผู้น้องยังสกุลซ่งเขาเห็นสีหน้าอ่อนล้าของท่านน้า และยิ่งเมื่อได้รู้ว่าญาติผู้น้องถูกตบตีเข้าให้ ก็รู้ได้ในทันทีว่าเกิดเรื่องขึ้นแล้วหลังได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดจากปากเด็กรับใช้แล้ว เขาก็แทบไม่อยากจะเชื่อว่าเมื่ออวิ๋นซีหว่านไม่อาจหาคู่ครองได้แล้วจะเกิดอุตริหันเหหาเขาขึ้นมาได้ทั้งที่ปกติแล้วอนุอวิ๋นมีแต่จะดูถูกดูแคลนเขา ครั้งเขายังเยาว์วัยก็ยังเคยเยาะเย้ยท่านน้าที่ไม่อาจให้กำเนิดบุตรชายได้จึงคิดอยากรับอุปการะเขาเป็นบุตรชายขึ้นมาจนท้ายที่สุดแล้วก็ไม่สำเร็จไม่ใช่หรือ?ยามนี้ชื่อเสียงย่อยยับลงแล้วจึงหวนนึกถึงเขาขึ้นมาหรืออย่างไร น่าขันสิ้นดี!ท่านน้าบอกเอาไว้ว่าไม่ว่าอย่างไรก็ไม่อาจให้เขาแต่งกับอวิ๋นซีหว่านได้ เขาเองก็เข้าใจดีว่าท่านน้าหวังดีต่อตนมากเพียงใด ทว่าเมื่อคิดอยากจะบอกปัดปฏิเสธกลับไม่ใช่เรื่องง่ายเลย สุดท้ายแล้ว...เหตุผลที่ท่านอาเขยรับอุปการะเขาไว้ก็เพราะเห็นแก่ท่านน้า บัดนี้เขาสามารถช่วยกู้สถานการณ์น่าคับข้องให้กับท่านอาเขยได้พอดิบพอดี ฝ่ายนั้นย่อมจะต้องคิดหาวิถีทางให้ตัวเขายอมตกป

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 413

    อวิ๋นเนี่ยนชูยักไหล่ “สกุลซ่งเองก็มีรถม้า อีกทั้งแม้วันนี้ข้าจะพักอยู่ที่จวนสกุลซ่งมิได้กลับบ้าน ก็หาได้มีปัญหาใดไม่” นางสนิทสนมกับซ่งรั่วเจินตั้งแต่เยาวว์วัย ก่อนนี้ก็เคยพักค้างคืนที่จวนสกุลส่งอยู่บ้าง เพียงแต่ครั้นมีญาติผู้พี่มา นางก็คิดแต่จะหาโอกาสได้พบเจอเขาให้มากหน่อย โอกาสได้พักค้างคืนที่จวนสกุลซ่งจึงน้อยตามลงไป“เจ้าอยากให้คุณชายสามสกุลซ่งส่งเจ้ากลับไปอย่างนั้นหรือ?” อวิ๋นเฉิงเจ๋อเอ่ยถามเสียงเรียบ สิ่งที่อวิ๋นเนี่ยนชูคิดอยู่ตอนนี้มีเพียงถ้อยคำของซ่งรั่วเจินที่บอกเมื่อนางกลับไปแล้วให้เปิดอกเผยความในใจของตนต่อญาติผู้พี่ ทว่าก่อนนี้นางก็เคยรวบรวมความกล้าพูดบอกญาติผู้พี่ออกไปแล้วเช่นกัน ทว่าผลลัพธ์ก็คือการถูกปฏิเสธตอนนั้นเขาว่าอย่างไรแล้วนะ?ญาติผู้พี่ว่านางยังเยาว์อยู่นัก ยังไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริงของการชอบพอใครสักคนบัดนี้นางมิใช่เด็กน้อยไร้เดียงสาอีกต่อไปแล้ว แม้นางจะพยายามติดสอยห้อยตาม ลองใจเขาไม่รู้กี่หลายต่อหลายครั้ง ทว่าสิ่งที่ได้รับก็มีแต่ท่าทีเย็นชาเป็นคำตอบกลัวก็แต่เพียงแม้คืนนี้จะพูดออกไปแล้ว ผลลัพธ์ก็ยังคงเหมือนเดิมอวิ๋นเฉิงเจ๋อเห็นทีอวิ๋นเนี่ยนชูคล้ายจะ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 414

    “ท่านพี่ เรื่องมิได้ง่ายดายเช่นนั้น วันนี้ข้าเพียงแค่พูดขึ้นมาก็ถูกท่านแม่บอกปัดเสียแล้ว ท่านพ่อเองก็โกรธมากยิ่งนัก”“ท่านเองก็ใช่ว่าจะมิรู้ว่าอวิ๋นซีหว่านและมารดาของนางเจ้าแผนการมากเพียงใด บัดนี้นางยังมิอาจแต่งออกไปมิได้ ย่อมจะต้องทำทุกวิถีทางให้ได้พึ่งใบบุญจากท่าน หากถึงเวลานั้นแล้ว...” สายตาของอวิ๋นเฉิงเจ๋อจรดลงบนใบหน้าของอวิ๋นเนี่ยนชู แม้เมื่อเวลาผ่านไปจะทำให้อาการบวมช้ำลดน้อยลงแล้ว ทว่าก็ยังคงปรากฏร่องรอยให้เห็นอยู่จางๆ “ใบหน้าของเจ้ายังเจ็บอยู่หรือไม่?”อวิ๋นเนี่ยนชูชะงักไปเล้กน้อย ก่อนมือจะเผลอยกขึ้นแตะจับใบหน้าของตนโดยไม่รู้ตัว ก่อนแววตาจะหมองหม่นลง“ข้ามิเป็นไร รั่วเจินทายาให้ข้าแล้ว พรุ่งนี้คงจะหายดีแล้วเจ้าค่ะ” ดวงตาของอวิ๋นเฉิงเจ๋อเข้มข้นด้วยอารมณ์ ทว่าน้ำเสียงกลับนุ่มนวลอ่อนโยนเป็นยิ่ง “ต่อไปเจ้ามิจำเป็นต้องออกหน้ารับแทน เจ็บตัวมามิคุ้มกันหรอก”“ท่านพี่ ท่านไม่อยากให้ข้าไปยุ่งเรื่องของท่านหรือ?” อวิ๋นเนี่ยนชูโพล่งถามอวิ๋นเฉิงเจ๋อหัวเราะเบาๆ “แม่นางเช่นเจ้าบาดเจ็บบนใบหน้ามิใช่นับเป็นเรื่องใหญ่หลวงหรอกหรือ? เรื่องเช่นนี้หากจะต้องพูดก็ต้องให้ข้าเป็นฝ่ายไปพูด บุรุ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 415

    “ซื้อให้ข้าหรือ?” กัวเยว่หลินเปิดตลับชาดออกดูด้วยความสงสัย “ไยจึงคล้ายถูกเปิดใช้แล้วเสียมากกว่า”“ชาดทาแก้มนี้ข้าตั้งใจซื้อให้กับเจ้า ข้าเกิดอยากรู้ขึ้นมาจึงได้แตะต้องไปบ้างแล้ว มือเปรอะเปื้อนไปด้วยเลยทีเดียว” ฉินจื้อหย่วนยิ้มเสียจนหน้าบาน ก่อนหยิบเอากล่องผ้าไหมจากลิ้นชักข้างเคียงส่งให้ไป “นี่ก็เป็นของขวัญที่ข้าตั้งใจซื้อให้เจ้าเช่นกัน เจ้าลองดูสิว่าถูกใจหรือไม่?”กัวเยว่หลินรับกล่องผ้าไหมมาเปิดออกดู เมื่อเปิดออกแล้วก็พบปิ่นทองใหม่เอี่ยมด้ามหนึ่ง ใบนหน้าของนางก็พลันผุดพรายรอยยิ้มออกมา “ก็นับว่าท่านยังพอมีสำนึกดีอยู่บ้าง!”ขณะที่ฉินจื้อหย่วนและน้องชายต่างกำลังยินดีกับการกลับมาของภรรยาตน ก็พลันได้ยินข่าวว่าทั้งครอบครัวฉินซวงซวงจะมาเยือน ใบหน้าก็เปลี่ยนสีแทบจะทันที“ว่ากระไรนะ?”“มิใช่เพียงคุณหนูเท่านั้นขอรับที่กลับมา กระทั่งเหล่าพี่ป้าน้าอาและหลินฮูหยินก็ยังมาด้วยแล้ว”“บ่าวไปสอบถามมาบ้างแล้ว ได้ยินว่าคุณหนูสกุลซ่งไปทวงหนี้สินยังจวนตระกูลหลิน เมื่อเห็นว่าสกุลหลินมิอาจคืนเงินให้ได้ก็ยึดบ้านของพวกเขาไปขอรับ”ทันทีที่คำพูดนี้หลุดออกมา ฉินเจิงและกู้อวิ๋นเวยก็รู้สึกเหมือนโลกทั้งใบมื

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 416

    “พี่สาม ขอเพียงพรุ่งนี้ท่านส่งภาพนี้ออกไป ใต้เท้าเซียวจะต้องดีใจมากแน่ ท่านจะต้องอาศัยโอกาสนี้สานสัมพันธ์ใกล้ชิดกับใต้เท้าเซียวให้ได้!” ฉินซวงซวงพูดกำชับฉินเซี่ยงเหิงโบกมือ “วางใจเถอะ ข้ารู้ต้องทำเยี่ยงไร”จากนั้น ฮูหยินผู้เฒ่าหลินได้ยินข่าวนี้สีหน้ากลับเปลี่ยนเป็นไม่สบอารมณ์ “จือเยว่ ใช่หรือไม่ว่าภรรยาของเจ้าคนนี้มีใจเป็นอื่น? โอกาสได้ผูกสัมพันธ์อันดีเพียงนี้ นางไม่ให้สามีอย่างเจ้าไปทำ ตรงข้ามกันปล่อยให้พี่ชายของนางไปทำ?”“นี่คือคิดให้บ้านมารดาดียิ่งขึ้นไป ก็ไม่รู้ว่าจะถีบเจ้าให้พ้นทางยามใด!”สีหน้าหลินจือเยว่เองก็ไม่สบอารมณ์ ก่อนหน้านี้เคยได้ยินมาว่าใต้เท้าเซียวตามหาภาพวาดหนึ่งอยู่ตลอด น่าเสียดายยังหาไม่พบเขาคิดไม่ถึงเลยว่าภายในฝันบอกเหตุของฉินซวงซวงถึงขั้นมีเบาะแสของภาพวาดนี้อยู่ มิหนำซ้ำยังปล่อยให้ฉินเซี่ยงเหิงนำไปถือไว้ในมือแล้ว!“ซวงซวงรักเพียงข้าผู้เดียว นางไม่มีวันทำเรื่องพรรค์นั้น” หลินจือเยว่พูดอย่างลังเล“เพียงผู้เดียว? หากนางรักเจ้าเพียงผู้เดียวจริงก็คงไม่นอกใจ ต่อให้นางไม่ชมชอบเหยาจิ่นเฉิง แต่ก็ชมชอบฉู่อ๋อง!”“ตกลงนางคิดอะไรอยู่ ข้าจะยังไม่รู้อีกหรือ?”“เมื่อแรก

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 417

    ณ สกุลซุน“ตกลงพี่สาวของเจ้าเป็นอะไรไป? มิใช่พูดว่าช่วยพวกเราไปขอความเมตตาที่จวนเซียงอ๋องหรือ? เหตุใดฮั่นเฟยยังอยู่ในคุกอีกเล่า?”ซุนกังเจิ้งถามด้วยน้ำเสียงเจือความสงสัย ไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด“ท่านพี่ พี่สาวของข้าจะต้องพูดไปแล้วแน่ ทว่าแต่ไหนแต่ไรมาเซียงอ๋องก็อารมณ์รุนแรง พระชายาเซียงอ๋องเองก็เห็นซื่อจือเป็นสมบัติล้ำค่า ใช่หรือไม่ว่าขอความเมตตาไปก็ไร้ประโยชน์?”สีหน้าหลิ่วเฟยเยี่ยนไม่สบอารมณ์ พวกเขาคิดหาหนทางทั้งหมดแล้ว ลงท้ายทำได้เพียงฝากความหวังไว้ที่หลิ่วหรูเยียน“หึ...” ซุนกังเจิ้งแค่นหัวเราะเสียงเย็นทีหนึ่ง “ข้าถามมาก่อนแล้ว เจ้ารู้หรือไม่ว่าเพราะเหตุใดเซียงอ๋องจึงเชิญบ้านของพี่สาวเจ้าไป?”“เพราะเหตุใด?”“เพราะซ่งรั่วเจินมีบุญคุณช่วยชีวิตซื่อจื่ออย่างไรเล่า ตอนนั้นซื่อจื่อเป็นขอทานเกือบหิวตายไป เป็นซ่งรั่วเจินมอบเงินให้เขาหนึ่งก้อน นี่ถึงทำให้เขามีชีวิตรอดปลอดภัยอยู่ได้”“เจ้าพูดเถอะ บุญคุณยิ่งใหญ่ถึงเพียงนี้ ขอเพียงนางเอ่ยปาก หรือว่าจวนเซียงอ๋องจะยังไม่รับปากอีก?”“เห็นได้อย่างชัดเจนว่าพวกเขาไม่คิดช่วย! ในงานเลี้ยงคืนนั้นไม่ทำแม้แต่เอ่ยถึง!”ซุนกังเจิ้งยิ่งพูดก็ยิ่งโมโ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 418

    “คุณหนู คุณชายอวิ๋นจะมีวิธีแก้ปัญหาจริงหรือ?” เฉินเซียงเองก็แปลกใจอย่างอดไม่ได้“ไม่ว่าเรื่องใดก็ล้วนมีวิธีแก้ปัญหา สาเหตุที่เนี่ยนชูคลี่คลายไม่ได้ เพราะนางกังวลมากเกินไป”“ก่อนหน้านี้อวิ๋นซีหว่านทำเพื่อฉินเซี่ยงเหิง คิดเพียงตัดเส้นทางสู่การสอบขุนนางของอวิ๋นเฉิงเจ๋อ นางเองก็ไม่คิดดู อวิ๋นเฉิงเจ๋อไม่มีโทสะเลยแม้แต่น้อยจริงหรือ ปล่อยให้นางวางอุบายเขาโดยไม่ใส่ใจเลยแม้แต่น้อยหรือ?”สีหน้าซ่งรั่วเจินเย็นชา เรื่องนี้ไม่ว่าเป็นใครก็ไม่สามารถอดทนได้ อวิ๋นเฉิงเจ๋อเพียงแต่เห็นแก่สกุลอวิ๋นที่รับเลี้ยงดูเขาจึงไม่พูดเท่านั้นบัดนี้อนุอวิ๋นและอวิ๋นซีหว่านเห็นเขาเป็นก้อนแป้งบีบคลึงรังแกง่าย นั่นคือมองคนผิดไปแล้ว“บ่าวเองก็คิดว่าก่อนหน้านี้อวิ๋นซีหว่านทำเลยเถิดเกินไปจริงๆ บัดนี้ยังคิดจะแต่งงานกับคุณชายอวิ๋น ไฉนเลยจะมีเรื่องดีให้เอาเปรียบถึงเพียงนี้ได้? ระยะก่อน บ่าวยังได้ยินมาว่าภายในเมืองหลวงมีแม่นางมากมายชมชอบคุณชายอวิ๋นนะเจ้าคะ!”ซ่งรั่วเจินหัวเราะเบาๆ “รอก่อนเถอะ น่าจะมีข่าวดีเร็วๆ นี้แล้ว”ขณะกำลังสนทนากันอยู่นั้น อวิ๋นเนี่ยนชูก็มาถึงเพียงได้พบซ่งรั่วเจิน อวิ๋นเนี่ยนชูก็พูดขึ้นอย่างดีใจ

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 734

    พี่ใหญ่ถูกลอบโจมตีจนเกือบไม่รอดชีวิตกลับมา หลังกลับมาแล้วขาทั้งสองข้างยังพิการ ท่านพ่อก็ไม่ได้กลับมาอีกเลยถ้ามีคนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้...“ส่วนจิ่งเซิน เขาได้ทำการค้าบ่อยๆ เชี่ยวชาญการติดต่อสัมพันธ์กับผู้คน พวกเจ้าเดินไปทางไปด้วยกันสามารถปลอมเป็นกลุ่มพ่อค้าที่ไปค้าขาย ผู้คนจะได้ไม่สงสัยโดยง่าย” ซ่งเยี่ยนโจวกล่าวซ่งจิ่งเซินพยักหน้ารัวๆ “ใช่แล้ว มีข้าอยู่ด้วย สามารถตัดความยุ่งยากไปได้มากที่สุดแล้ว!”ทุกคนล้วนเข้าใจเรื่องนี้ดี ยามออกไปข้างนอก การมีไหวพริบในการจัดการเรื่องราวเฉพาะหน้าสามารถลดปัญหาได้ นอกจากนี้ ซ่งจิ่งเซินก็ยังมีประสบการณ์ พวกเขาไม่จำเป็นต้องแสดงละครด้วยซ้ำ แค่นำกลุ่มพ่อค้าออกเดินทางก็สามารถตบตาผู้คนได้อย่างง่ายดายกู้หรูเยียนได้ยินดังนั้นก็รู้สึกว่าปลอดภัยขึ้นมากจึงกล่าวว่า “เจินเอ๋อร์ ทำตามที่พี่ใหญ่เจ้าพูดเถอะนะ? เช่นนี้พวกข้าจะได้คลายใจ”ซ่งรั่วเจินเหลือบมองพวกซ่งจืออวี้สองฝาแฝดก็เห็นพวกเขาพยักหน้าเป็นบ้าเป็นหลังเหมือนลูกไก่จิกข้าวสารกระนั้น นางกล่าวยิ้มๆ ว่า “เจ้าค่ะ งั้นประเดี๋ยวค่อยมาดูกันว่าต้องเตรียมสิ่งใดไปบ้าง”“น้องหญิงห้า เรื่องนี้เจ้ายกให้เป็นหน้าที

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 733

    ซ่งรั่วเจินตัดสินใจไปรับบิดากลับมา ก่อนออกเดินทางย่อมต้องเตรียมสิ่งของมากมาย แต่ก่อนหน้านั้นยังต้องบอกคนในครอบครัวเสียก่อนหลังนางบอกเรื่องที่จะเดินทางไปชายแดน คนในจวนล้วนอึ้งตกใจกันหมด“เจินเอ๋อร์ เจ้าว่าอะไรนะ? เจ้าจะไปชายแดนด้วยตัวเอง?” กู้หรูเยียนมีสีหน้าตกตะลึง “ก่อนนี้ไม่เคยได้ยินเจ้าพูดถึงมาก่อนเลย”“น้องหญิงห้า ถ้าเจ้าเป็นห่วงความปลอดภัยของท่านพ่อก็ให้พี่ชายอย่างพวกข้าไปดีกว่า ผู้หญิงแบบเจ้าไปสถานที่ห่างไกลปานนั้นจะอันตรายเกินไปแล้ว” ซ่งจืออวี้เอ่ยอย่างร้อนใจซ่งจิ่งเซินพยักหน้า “ใช่แล้ว พวกเขารับราชการอาจไม่สะดวก ข้ามีประสบการณ์เดินทางโชกโชน ให้ข้าไปดีกว่า!”“ความจริงสาเหตุที่ข้าจะเดินทางไปเป็นเพราะข้าทำนายดวงชะตาให้ท่านพ่อ”เมื่อซ่งรั่วเจินเอ่ยวาจาประโยคนี้ออกมา สีหน้าทุกคนในห้องล้วนเคร่งเครียดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด หรือว่าจะเกิดปัญหาอันใด?“ก่อนนี้ข้าก็เคยทำนายเหมือนกัน ดวงชะตาของท่านพ่อปลอดภัยไร้อันตราย สามารถกลับมาได้อย่างราบรื่น แต่ช่วงนี้เกิดเหตุเปลี่ยนแปลงขึ้น น่าจะเป็นเพราะได้รับอิทธิพลจากปัจจัยภายนอก”“ถ้าไม่ไป ข้ากังวลว่าอาจมีอันตราย ดังนั้นจึงคิดว่าจะไปด้วยตั

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 732

    “ฝ่ายตรงข้ามไม่ทันได้ค้นตัวไต้ซือเทียนจีใช่หรือไม่?” ซ่งรั่วเจินถามซ่งเยี่ยนโจวพยักหน้า “ก่อนหน้านี้คนผู้นั้นรีบร้อนเกินไป พวกข้าไม่เปิดโอกาสให้เขา แต่ว่ากันตามปกติแล้ว ของที่มีค่ามากมักจะไม่พกติดตัวไว้”“สิ่งสำคัญที่สุดมักไม่พกติดตัวก็จริง แต่คนในวงการพวกข้า โดยเฉพาะคนชั่วร้ายอย่างเขา จะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อเก็บจุดอ่อนของฝ่ายตรงข้ามเอาไว้ข่มขู่อย่างแน่นอน”คิ้วบางของซ่งรั่วเจินเลิกขึ้นน้อยๆ ต่อให้เคยเจอไต้ซือเทียนจีเพียงครั้งเดียว แต่ก็ทราบว่าเป็นจิ้งจอกเฒ่าผู้หนึ่งกระทำเรื่องชั่วช้ามาหลายปีขนาดนี้แต่ก็ยังอยู่รอดปลอดภัย แล้วจะไม่มีวิธีปกป้องตัวเองเลยได้อย่างไร?กู้ชิงฉือได้ยินเช่นนั้นก็รีบวิ่งไปข้างกายไต้ซือเทียนจีแล้วเริ่มค้นหาอย่างละเอียด การค้นตัวครั้งนี้พบว่านอกจากยันต์ที่อ่านไม่ออกพวกนั้นแล้วยังมียาลูกกลอนอีกสองเม็ด“ไม่มีของอย่างอื่น แต่มีหินก้อนหนึ่ง นี่คือหยิบติดตัวมาด้วยงั้นรึ?”กู้ชิงฉือมองก้อนหินในมือ หินก้อนนี้แม้พอจะนับได้ว่ามนเกลี้ยง แต่ก็ดูแตกต่างจากก้อนหินที่พบเห็นได้ทั่วไปบริเวณริมแม่น้ำมากเกินไป“ข้าขอดูหน่อย”ซ่งรั่วเจินก้าวเร็วๆ เข้ามาหา มองก้อนหินในมือแ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 731

    เมื่อซ่งเยี่ยนโจวเอ่ยปากสอบถาม สายตาทุกคนก็ต่างจับจ้องมายังซ่งรั่วเจิน พวกเขาในตอนนี้ไม่กล้าบุ่มบ่ามรบกวนแล้วฉู่จวินถิงก็เป็นห่วงดุจเดียวกัน เขารู้ว่าวิชาแพทย์ของรั่วเจินนั้นไม่ธรรมดา เก่งกาจกว่าหมอหลวงในวังหลวงมากนัก ถ้านางบอกว่าช่วยไม่ได้ก็แสดงว่าหมดหนทางแล้วจริงๆ“ยังช่วยได้”ซ่งรั่วเจินพูดโดยที่มือยังเคลื่อนไหวไม่หยุด นางลังเลไปชั่วครู่ก็หยิบยาลูกกลอนเม็ดหนึ่งออกมายัดเข้าไปในปากของชายผู้นั้นซ่งเยี่ยนโจว “...” อีกแล้ว?ซ่งรั่วเจินรู้ว่าตนเองนำสิ่งของมากมายติดตัวมาเช่นนี้จะทำให้คนสงสัย แต่ช่วยชีวิตคนสำคัญกว่า อย่างไรเสียแค่พูดจาส่งเดชไม่กี่ประโยคก็สามารถกลบเกลื่อนเรื่องนี้ได้แล้วตั้งแต่นางทะลุมิติมาก็มีมิติขนาดเล็กเป็นของตัวเอง ยาเอย ยันต์เอย ยามปกติล้วนเก็บไว้ในนั้น นับว่าสะดวกมากทีเดียวหลังจากชายหนุ่มที่มีท่าทางอ่อนแอสุดขีดกลืนยาเม็ดนั้นลงไปก็รู้สึกว่าความเจ็บปวดแต่เดิมบรรเทาลงบ้าง การหายใจก็ไม่ได้ยากลำบากถึงเพียงนั้นอีกแล้ว“ส่งคนไปหารถม้าหรือยัง?” ฉู่จวินถิงถามจ้าวเจียงพยักหน้า “เรียนท่านอ๋อง ส่งคนไปจัดการแล้วพ่ะย่ะค่ะ”“เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ให้ข้าฟัง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 730

    “หม่อมฉันได้ยินมาว่าบนบัญชีรายชื่อมีอยู่สิบกว่าคน ไม่รู้อาการของคนอื่นร้ายแรงหรือไม่?” ซ่งรั่วเจินเอ่ยถาม“ในหมู่คนเหล่านั้นมีลูกสะใภ้ไม่เคารพแม่สามี คนแก่อายุมากแล้ว คนจึงตายไป แต่มากที่สุดยังเป็นความขัดแย้งของอนุภรรยาและภรรยาเอก”“คนส่วนใหญ่ล้วนคล้ายพระชายาเซียงอ๋อง ตกอยู่ในฝันร้าย ยังป่วยหนักอีกด้วย อนุอวิ๋นนับว่าลงทุนลงแรงมากทีเดียว” ฉู่จวินถิงพูด“อนุอวิ๋นเป็นคนโหดเหี้ยมไม่ผิดไปดังคาด แต่ยังเสแสร้งใจดีมีเมตตา ปรากฎว่ามีเพียงใต้เท้าอวิ๋นตัวโง่งมคนนี้ถึงจะหลงเชื่อ”ซ่งรั่วเจินไม่แปลกใจ ความยากในการเลี้ยงดูผีทวงชีวิตนั้นมากกว่าผีน้อยตนอื่นมาก แม้ว่าไต้ซือเทียนจีมีความสามารถอยู่บ้าง กลับไม่สามารถเลี้ยงผีทวงชีวิตหลายตนได้ตนนี้เป็นเขาใส่ใจเลี้ยงดู ดังนั้นความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่จึงสนิทสนมกันมากจากนั้นยามทั้งคู่เดินผ่านอุโมงค์ไปจนถึงฝั่งหนึ่ง กลิ่นคาวเลือดเข้มข้นสายหนึ่งชำแรกจมูกพวกซ่งเยี่ยนโจวยืนอยู่ข้างหน้า สีหน้าไม่สบอารมณ์อย่างมาก ส่วนซ่งรั่วเจินเองก็สังเกตเห็นศพแต่ละร่างใต้พื้น หนึ่งในนั้นมีนักพรตเต๋าคนหนึ่ง เห็นชัดว่าคือไต้ซือเทียนจี“นี่คือ...ตายทั้งหมดแล้ว?”“เดิมที

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 729

    “ไปเส้นทางใต้ดิน”ไต้ซือเทียนจีไม่คิดมากนัก พาทุกคนไปยังเส้นทางใต้ดิน“ไต้ซือ เส้นทางไต้ดินนี้ไม่สามารถเดินทางตามสะดวกได้!”ทุกคนมองเส้นทางใต้ดิน ใบหน้าเผยความลังเล ก่อนหน้านี้เคยพูดมาก่อนหากไม่แจ้ง จะไม่สามารถใช้เส้นทางใต้ดินนี้ได้เด็ดขาด ยิ่งไปกว่านั้นจะปล่อยให้ถูกคนพบไม่ได้!“บัดนี้หมดหนทางแล้ว ฉู่อ๋องเป็นคนเช่นไร? ในเมื่อเขาแน่ใจว่าพวกเราอยู่ในพื้นที่นี้ จะต้องแจ้งคนอื่นให้เข้ามาปิดล้อมแน่”“หากพวกเราไม่หนี ก็มีเพียงต้องตายเท่านั้น!”สีหน้าไต้ซือเทียนจีเคร่งขรึม เขาย่อมรู้ว่าเส้นทางใต้ดินนี้หมายความว่าอะไร แต่ตอนนี้นอกจากตัวเลือกนี้แล้ว ก็ไม่มีตัวเลือกอื่นอีก!ทุกคนลังเลอยู่ครู่หนึ่งก็ตัดสินใจ ไปอาจไม่ตาย แต่ไม่ไปจะต้องตายแน่!“ไป!”ครู่ต่อมา พวกซ่งเยี่ยนโจวมองเห็นกิ่งไม้หยุดหน้าห้องหนึ่ง จากนั้นเสียงประตูใหญ่ถูกเปิดออกดัง “แอ๊ด” ภายในสายตาเปี่ยมความตกตะลึงพรึงเพริด“กิ่งไม้นี้ถึงขั้นสามารถเปิดประตูได้?”จ้าวเจียงอ้าปากกว้าง คิดเพียงว่าหลังจากวันนี้ผ่านพ้นไปไม่ว่าคนอื่นพูดเรื่องเหลือจะเชื่อมากเพียงใดเขาก็ไม่รู้สึกแปลกใจอีกแล้ว!เพราะเรื่องแปลกประหลาดที่สุดถูกเขาพบแล้ว!

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 728

    นางหยิบกิ่งไม้หนึ่งกิ่งขึ้นมาจากพื้น จากนั้นทุกคนได้เห็นกิ่งไม้นั้นลอยขึ้นกลางอากาศ ยิ่งไปกว่านั้นยังหันไปที่ทิศทางหนึ่ง ทันใดนั้นเบิกตากว้าง“เยี่ยนโจว พวกเราดีชั่วอย่างไรก็รู้จักกันมานานหลายปีถึงเพียงนี้ ที่ผ่านมาไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าน้องสาวของท่านยอดเยี่ยมถึงเพียงนี้!”จ้าวเจียงเผยสีหน้าตกตะลึง ก่อนหน้านี้ได้ยินก็คิดว่าเร้นลับเหลือเกิน จนกระทั่งได้เห็นเองกับตาวันนี้ กลับรู้สึกตกตะลึงพรึงเพริดฝีมือนี้ช่างมหัศจรรย์โดยแท้!ซ่งเยี่ยนโจว “...” จะให้พูดได้อย่างไรว่าแท้จริงแล้วเขาก็เคยเห็นเป็นครั้งแรก?ที่ผ่านมาใช่ว่าไม่เคยเห็นน้องหญิงห้าแสดงฝีมือมาก่อน แต่นั่นก็แค่เขียนยันต์ไม่กี่ใบเท่านั้น ยามได้เห็นน้องหญิงห้าช่วยอนุอวิ๋นกำจัดความชั่วร้าย ก็เห็นเพียงเผายันต์หนึ่งใบ!ได้เห็นฉากนี้ รู้ว่าแตกต่างจากที่เคยได้เห็นก่อนหน้านี้นี่...นับเป็นการเคลื่อนที่กลางอากาศหรือไม่?“ไล่ตามไป!”กิ่งไม้ขยับไปข้างหน้าไม่นับว่าช้า ฉู่จวินถิงรีบเอ่ยเตือนทุกคนให้ไล่ตามพวกซ่งเยี่ยนโจวไม่กล้ารอช้า ใช้ความเร็วที่สุดไล่ตามไป การไล่ตามไปครั้งนี้กลับพบความมหัศจรรย์ กิ่งไม้นั้นคล้ายมีตา ยิ่งไปกว่านั้นยังหน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 727

    ฉู่จวินถิงเลื่อนสายตาไปอย่างแปลกใจ ก็ได้เห็นดวงตาทอประกายระยับของแม่นางคนนี้ที่กำลังเดินมาหยุดต่อหน้าตน ภายในไม่มีความกลัวหรือรังเกียจเลยสักเศษเสี้ยว มีเพียงความตกตะลึงระคนเลื่อมใส“ท่านอ๋อง วิชาตัวเบาของท่านยอดเยี่ยมมาก ภายภาคหน้าสามารถสอนหม่อมฉันได้หรือไม่?”ฉู่จวินถิงหลุดหัวเราะออกมา ภายในสายตากลับเปล่งประกาย “ได้”บรรยากาศตึงเครียดรอบกายเปลี่ยนไปตามคำพูดของซ่งรั่วเจิน ทุกคนหัวเราะเบาๆ อย่างอดไม่ได้ แม่นางคนนี้น่าสนใจมาก กล้าหาญไม่ธรรมดาหากได้อยู่กับท่านอ๋อง นี่จะต้องเหมาะสมไม่ธรรมดาแน่!“คนหนีไปหมดแล้ว”ซ่งเยี่ยนโจวขมวดคิ้วแน่น อีกฝ่ายเห็นว่าพวกเขามาแล้วก็หนีไปในทันที เมื่อครู่ไม่ทันได้ไล่ตาม บัดนี้ต้องตามรอยเบาะแสใหม่อีกครั้งแล้ว“วันนี้ไต้ซือเทียนจีหนีไม่รอดหรอกเจ้าค่ะ!”ใบหน้าซ่งรั่วเจินเผยแววมั่นใจในตนเอง นางหยิบยันต์ออกมาหนึ่งปึกมอบให้ฉู่จวินถิง “ท่านอ๋อง ท่านให้ทุกคนพกยันต์ไว้ให้ดี จะได้ไม่ถูกวิชาพรางตาหลอกอีก”ซ่งเยี่ยนโจวเห็นเวลาเพียงชั่วพริบตาน้องสาวก็นำยันต์ออกมามากถึงเพียงนี้ ใบหน้าหล่อเหลาเปี่ยมความสงสัย ตกลงนางใส่ของเหล่านี้ไว้ที่ใด?เพียงออกจากบ้านก็นำของมา

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 726

    “ชิ้ง!”กู้ชิงฉือสัมผัสได้ว่ากระบี่คมสายหนึ่งผ่านข้างกายตนไป ไรผมช่อหนึ่งถูกตัด ตกตะลึงพรึงเพริดภายในใจ“นี่ให้เจ้า”ฉู่จวินถิงลังเลไปครู่หนึ่ง ยัดยันต์คุ้มภัยใส่มือกู้ชิงฉือ“เก็บไว้ให้ดีแทนข้าด้วย!”ครู่ต่อมา กู้ชิงฉือก็มองเห็นคู่ต่อสู้เบื้องหน้า ภายในสายตาสั่นสะท้าน ก้มหน้ามองดู นี่คือกระดาษยันต์สีเหลืองหนึ่งใบ“ท่านอ๋อง ท่านยกให้ข้า เช่นนั้นท่านจะทำเยี่ยงไร!”ไต้ซือเทียนจีเห็นฉู่จวินถิงมอบยันต์ให้กู้ชิงฉือ ภายในสายตาสะท้อนแววตกตะลึง ฉู่อ๋องอยู่ภายนอกได้ชื่อว่าโหดเหี้ยมอำมหิต ฆ่าคนไม่กะพริบตา ถึงขั้นมอบของป้องกันชีวิตให้ผู้อื่น?คนผู้นี้...มีภูมิหลังเช่นไร?“ไม่ต้องห่วงข้า”ฉู่จวินถิงหลับตาลง ได้ยินเสียงฝ่าอากาศรอบด้าน แยกแยะตำแหน่ง“ชิ้ง ชิ้ง ชิ้ง!”พลังอันแข็งแกร่งปะทุออกมา ฉู่จวินถิงเคลื่อนไหวอย่างว่องไว ราวกับมังกรเคลื่อนไหวก็มิปาน หลบหลีกการโจมตีที่พุ่งเข้ามาครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนที่ดาบในมือจะพุ่งแทงออกไปอย่างฉับพลัน“อ๊าก!”เสียงแผดร้องสายหนึ่งดังขึ้น ศพร่างหนึ่งปรากฏต่อหน้าทุกคน“ไอ้พวกชั่ว!”ภายในสายตาฉู่จวินถิงสะท้อนความอำมหิต คนผ่านเข้าไปกลางตรอกเล็ก ทั้งๆ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status