แชร์

บทที่ 406

ผู้เขียน: จี้เวยเวย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-06 18:00:00
ซ่งรั่วเจินคิดไม่ถึงเลยว่าอารมณ์ที่ตนเองเผลอแสดงออกมาอย่างไม่ทันระวังในตอนนั้นจะถูกฉู่จวินถิงจับสังเกตได้จึงรู้สึกประหลาดใจอย่างไม่อาจเลี่ยง

แต่ตอนนั้นพอนางได้รู้ว่าซ่งจิ่งเซินเป็นพวกคลั่งรักก็รู้สึกยุ่งยากใจจริงๆ ทั้งไม่อยากจะไปสนใจด้วย

แม้ว่าเดิมทีตระกูลซ่งก็เต็มไปด้วยปัญหาอยู่แล้ว แต่สองขาของพี่ใหญ่พิการเพราะได้รับบาดเจ็บระหว่างการรบ ส่วนพี่รองก็ถูกหลอกลวง แต่สติยังแจ่มใสดี

มีเพียงซ่งจิ่งเซินที่กระโจนลงไปด้วยความยินยอมพร้อมใจ โชคดีที่จุดพลิกผันนี้ทำให้คนรู้สึกโล่งใจมากพอดี

ลั่วชิงอินเห็นซ่งรั่วเจินกับฉู่จวินถิงพูดคุยกันอย่างเพลิดเพลิน ดวงตาฉายแววประหลาดใจ ลดเสียงลงถามว่า

“เยี่ยนโจว คิดไม่ถึงว่าน้องรั่วเจินจะสนิทสนมกับฉู่อ๋องขนาดนี้ หรือว่า...”

เมื่อครู่พอนางเห็นท่าทางเคร่งขรึมเย็นชาของฉู่อ๋องก็รู้สึกใจสั่นสะท้าน ไม่กล้าเข้าใกล้เลยสักนิด ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการพูดคุยอย่างสงบเยือกเย็นเหมือนซ่งรั่วเจินที่ดูจะไม่ได้รับผลกระทบโดยสิ้นเชิงแบบนั้น

ซ่งเยี่ยนโจวมองไปทางน้องสาวของตนเองโดยสัญชาตญาณ “ตอนนี้เจินเอ๋อร์ใจกล้ายิ่งนัก อย่าว่าแต่เป็นฉู่อ๋อง แม้แต่เข้าวังไปเข้าเฝ้าไทเฮากับฝ่าบาท นา
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 407

    สีหน้าซ่งรั่วเจินกับลั่วชิงอินเผยความสลดใจออกมา พวกตนอยู่เมืองหลวงยังดีอยู่ แต่สำหรับชาวบ้าน นั่นคือฟ้าได้ถล่มลงมาแล้วจริงๆ……วันนี้เมิ่งชิ่นออกมาไหว้พระขอพรที่วัดกับมารดาและญาติลูกพี่ลูกน้องตั้งแต่เช้าตรู่นางมองยันต์คุ้มกายในมือ คิดถึงคำกำชับของซ่งรั่วเจินเมื่อวานนี้จึงพกติดตัวไว้ตลอดเวลา เก็บไว้กับตัวอย่างดีแต่ในใจนางอดสงสัยไม่ได้ วันนี้ไปไหว้พระขอพรที่วัด ระหว่างทางก็มีองครักษ์ติดตาม จะประสบอันตรายได้อย่างนั้นหรือ?เมื่อคนตระกูลเมิ่งเดินทางขึ้นเขา ระหว่างทางก็พบว่ามีคนจำนวนมากมาขอทานอยู่ที่นั่น ทุกคนล้วนหน้าเหลืองตัวซูบผอมดูแล้วน่าสงสารยิ่งนัก“ได้ยินว่าทางใต้เกิดภัยน้ำท่วม ชาวบ้านพลัดที่นาคาที่อยู่จึงมีผู้อพยพกลุ่มหนึ่งปรากฏตัวขึ้นนอกเมืองหลวง ในเมื่อวันนี้ได้มาเจอแล้วก็ทำทานให้สักหน่อยเถอะ”มารดาของเมิ่งชิ่นเห็นภาพนั้นแล้วก็บังเกิดจิตเวทนาจึงหยิบเงินจำนวนหนึ่งยื่นไปให้แต่พอผู้อพยพเหล่านั้นเห็นอย่างนั้นก็ราวกับเสียสติ กรูเข้ามายื้อแย่งกันจนทำให้เมิ่งฮูหยินสะดุ้งตกใจ องครักษ์จวนสกุลเมิ่งรีบเข้ามาคุ้มครองเมิ่งฮูหยินและเมิ่งชิ่น“ฮูหยินระวังด้วย ผู้อพยพเหล่านี้แต่ละคนขัดส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-07
  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 408

    แต่เด็กหญิงคนนั้นเหมือนจะตกใจจนเสียขวัญ เอาแต่ร้องไห้ร่ำร้องเสียงดังว่า “ข้าไม่ไปจากท่านแม่! ข้าไม่ไปจากท่านแม่!”เมิ่งชิ่นสีหน้าเย็นชา คิดไม่ถึงว่าความหวังดีของนางกลับได้มาเจอกับคนไม่รู้คุณคนเช่นนี้!ข้างล่างนั่นเต็มไปด้วยเศษหินและกิ่งไม้ ถ้าตกลงไปเกรงว่าคงไม่รอดต่อให้โชคดีรักษาครึ่งชีวิตไว้ได้ เกรงว่าก็คงจะเสียโฉมไปจนถึงขั้นพิการ แค่คิดนางก็ยังหวาดหวั่นไม่หาย“สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองจริงๆ จะต้องเป็นเพราะปกติทำบุญสั่งสมกุศลไว้มากเป็นแน่ ไม่อย่างนั้นถ้าเป็นคนอื่นตกลงไป ผลลัพธ์คงเลวร้ายสุดคาดคิด”เมิ่งฮูหยินดึงมือเมิ่งชิ่นมาตรวจดูอย่างละเอียดรอบหนึ่ง จิตใจสั่นสะท้าน แม้แต่ไหว้พระก็ไม่มีอารมณ์ไปแล้วจึงคิดจะลงจากเขาเมิ่งชิ่นได้ยินอย่างนั้นก็ล้วงยันต์คุ้มกายในอกเสื้อของตัวเองออกมาโดยสัญชาตญาณ แล้วก็พบว่ายันต์คุ้มกายที่เดิมทียังสมบูรณ์ดี ยามนี้กลับเป็นสีดำเหมือนถูกเผามากระนั้น...นางตกตะลึง เป็นรั่วเจินช่วยนางไว้!มิน่าเล่าเมื่อวานนางถึงกำชับให้ตนเองพกยันต์คุ้มกายติดตัวเอาไว้ คงทำนายไว้แล้วว่าวันนี้ตนเองจะประสบอันตราย ยันต์นี้...จะร้ายกาจเกินไปแล้ว!“ชิ่นเอ๋อร์ เจ้าเป็นอะไรไป?”

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-07
  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 409

    “หนึ่งในนั้นมีร้านค้าค่อนข้างใหญ่ ข้าใช้เปิดร้านขายผ้า บางกิจการยังดำเนินการอยู่ แต่มีอยู่สองร้านที่ไม่ได้ดำเนินกิจการชั่วคราว ข้าตั้งใจว่าจะเปิดร้านขายของว่าง”“ร้านค้าบนถนนฝานหรงเป็นของพวกเราหมดแล้ว?”ซ่งจิ่งเซินเบิกตากว้าง จากไปแค่พักเดียว ทำไมกิจการของครอบครัวตนเองที่เมืองหลวงจึงดีวันดีคืนขนาดนี้?“เรื่องนี้จะว่าไปแล้วก็ต้องขอบคุณพี่รอง” ซ่งรั่วเจินชี้ไปที่ซ่งอี้อัน “เป็นค่าชดเชยที่ได้รับมาเพราะพี่รองได้รับความเจ็บช้ำใจใหญ่หลวงยังไงล่ะ”ซ่งอี้อัน “...”ซ่งจิ่งเซินพลันเข้าใจแล้ว ตบบ่าซ่งอี้อันเบาๆ “พี่รอง อย่าเศร้าไปเลย คนทั่วไปไม่ได้รับค่าชดเชยเหมือนท่านหรอกนะ”ซ่งอี้อันปรายตามองเขา “ก็จริง อย่างไรก็คงไม่ถึงขั้นล้างผลาญ”ซ่งจิ่งเซิน “...”ซ่งรั่วเจินเห็นซ่งจิ่งเซินวางหลุมพรางดักตัวเองอีกแล้วก็แอบทำตัวลีบอย่างเงียบๆ เจ้าของร่างเดิมต่างหากที่เป็นพวกล้างผลาญที่สุดแล้ว!พอหันหน้ามาก็ได้ยินเฉินเซียงเอ่ยว่า “คุณหนู แม่นางอวิ๋นมาหาท่านเจ้าค่ะ”“ไป พวกเราไปดูกันเถอะ”ซ่งรั่วเจินไปหาอวิ๋นเนี่ยนชูด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม คิดว่าช่วงนี้ยุ่งเกินไป เรื่องในจวนเกิดต่อเนื่องเรื่องแล้วเรื่องเล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-07
  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 410

    ซ่งรั่วเจินสังเกตเห็นรอยตบบนใบหน้าอวิ๋นเนี่ยนชูก็รู้สึกโกรธแค้นแทนสหายสนิทใต้เท้าอวิ๋นลำเอียงรักพวกอวิ๋นซีหว่านสองแม่ลูกมาโดยตลอด แม้ว่าอวิ๋นเนี่ยนชูจะเป็นบุตรีภรรยาเอก แต่กลับไม่ได้รับความรักใคร่เอ็นดูเท่าอวิ๋นซีหว่านบัดนี้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น พวกอวิ๋นซีหว่านหมายมั่นปั้นมือให้อวิ๋นเฉิงเจ๋อแต่งงานกับนางเดิมนั้นความสัมพันธ์ระหว่างอวิ๋นเฉินเจ๋อกับอวิ๋นเนี่ยนชูก็มีข้อจำกัดมากมายอยู่แล้ว ยามนี้มาเกิดเรื่องเช่นนี้อีกก็ยิ่งตึงมือกว่าชาติที่แล้วมากนัก“รั่วเจิน เจ้าว่าข้าควรทำอย่างไรดี?” อวิ๋นเนี่ยนชูดวงตาแดงเรื่อ “ในใจท่านพ่อไม่มีลูกสาวอย่างข้าอยู่ด้วยซ้ำ ในสายตาท่านพ่อ ข้า ญาติผู้พี่รวมถึงท่านแม่เทียบกับพวกนั้นไม่ได้เลยสักนิด!”“ญาติผู้พี่ของเจ้ารู้เรื่องนี้หรือไม่? เขามีท่าทีอย่างไร?”“ท่านพ่อเพิ่งมาพูดเรื่องนี้กับท่านแม่วันนี้ ญาติผู้พี่ออกไปข้างนอกยังไม่กลับมา คิดว่าคงยังไม่รู้”“ญาติผู้พี่กตัญญูมาโดยตลอด เขาคิดมาตลอดว่าถ้าไม่ได้ท่านพ่อท่านแม่รับเลี้ยงเขา แค่เขามีชีวิตก็ลำบากแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการเรียนหนังสือหรือรับราชการ ข้ากลัวว่า...”อวิ๋นเนี่ยนชูลดสายตาลง นางพลันนึกเสี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-07
  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 411

    “ข้ามิได้ใส่ใจเรื่องพวกนี้นักหรอก คนเหล่านั้นต่างพากันตัดสินข้าว่าไม่ดีเพียงเพราะเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ หากแต่งเข้าไปแล้วก็คงมิวายมีแต่จะเจ็บช้ำน้ำใจ ทว่าระยะนี้มารดาของข้าเอาแต่ทุกข์ใจกับเรื่องนี้อยู่ไม่คลาย”อวิ๋นเนี่ยนชูถอนหายใจ ใบหน้าเต็มด้วยความหมองหม่น “พวกเราก็ช่างโชคร้ายกันเสียจริงๆ เหตุใดอวิ๋นซีหว่านจึงต้องเป็นน้องสาวสายรองของข้าด้วย”“วันนี้เมื่อยามที่ข้าออกมายังได้ยินสาวใช้ของนางบอกมาว่าคืนนี้จะตระเตรียมมื้อพิเศษเอาไว้มากหน่อย ด้วยจะเชิญชวนญาติผู้พี่ของข้าไปพูดคุย เจ้าคิดว่าข้าจะนิ่งดูดายอยู่เพียงในห้องโดยมิทำสิ่งใดได้หรือ?”ซ่งรั่วเจินรู้ดีว่าเนี่ยนชูหาใช่ผู้ที่จะสะกดกลั้นระงับอารมณ์ของตนเอาไว้ได้ จึงกล่าว “เช่นนั้นมิสู้ไปถามญาติผู้พี่ของเจ้าโดยตรงเลยเล่า”“ให้ข้าน่ะหรือไปถามเขาโดยตรง?” อวิ๋นเนี่ยนชูชะงักงัน “แล้วข้าควรจะพูดว่าอย่างไรเล่า?”“เจ้าก็เพียงพูดออกไปอย่างที่ใจคิด บัดนี้สถานการณ์ก็มาถึงขั้นนี้เสียแล้ว หาได้มีสิ่งใดจำเป็นต้องปิดบังอีก”ซ่งรั่วเจินยักไหล่ “อวิ๋นซีหว่านเป็นน้องสาวสายรองของเจ้า นางก็ยังมีทาบทามหมั้นหมายบ้างแล้ว ทางบ้านของเจ้าเองคงตระเตรียมคู่ครอง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-08
  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 412

    ครู่ก่อนนี้อวิ๋นเฉิงเจ๋อเพิ่งจะกลับไปได้ไม่นานก็พบท่านน้าเข้าเสียก่อน ท่านน้าจึงให้เขามารับญาติผู้น้องยังสกุลซ่งเขาเห็นสีหน้าอ่อนล้าของท่านน้า และยิ่งเมื่อได้รู้ว่าญาติผู้น้องถูกตบตีเข้าให้ ก็รู้ได้ในทันทีว่าเกิดเรื่องขึ้นแล้วหลังได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดจากปากเด็กรับใช้แล้ว เขาก็แทบไม่อยากจะเชื่อว่าเมื่ออวิ๋นซีหว่านไม่อาจหาคู่ครองได้แล้วจะเกิดอุตริหันเหหาเขาขึ้นมาได้ทั้งที่ปกติแล้วอนุอวิ๋นมีแต่จะดูถูกดูแคลนเขา ครั้งเขายังเยาว์วัยก็ยังเคยเยาะเย้ยท่านน้าที่ไม่อาจให้กำเนิดบุตรชายได้จึงคิดอยากรับอุปการะเขาเป็นบุตรชายขึ้นมาจนท้ายที่สุดแล้วก็ไม่สำเร็จไม่ใช่หรือ?ยามนี้ชื่อเสียงย่อยยับลงแล้วจึงหวนนึกถึงเขาขึ้นมาหรืออย่างไร น่าขันสิ้นดี!ท่านน้าบอกเอาไว้ว่าไม่ว่าอย่างไรก็ไม่อาจให้เขาแต่งกับอวิ๋นซีหว่านได้ เขาเองก็เข้าใจดีว่าท่านน้าหวังดีต่อตนมากเพียงใด ทว่าเมื่อคิดอยากจะบอกปัดปฏิเสธกลับไม่ใช่เรื่องง่ายเลย สุดท้ายแล้ว...เหตุผลที่ท่านอาเขยรับอุปการะเขาไว้ก็เพราะเห็นแก่ท่านน้า บัดนี้เขาสามารถช่วยกู้สถานการณ์น่าคับข้องให้กับท่านอาเขยได้พอดิบพอดี ฝ่ายนั้นย่อมจะต้องคิดหาวิถีทางให้ตัวเขายอมตกป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-08
  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 413

    อวิ๋นเนี่ยนชูยักไหล่ “สกุลซ่งเองก็มีรถม้า อีกทั้งแม้วันนี้ข้าจะพักอยู่ที่จวนสกุลซ่งมิได้กลับบ้าน ก็หาได้มีปัญหาใดไม่” นางสนิทสนมกับซ่งรั่วเจินตั้งแต่เยาวว์วัย ก่อนนี้ก็เคยพักค้างคืนที่จวนสกุลส่งอยู่บ้าง เพียงแต่ครั้นมีญาติผู้พี่มา นางก็คิดแต่จะหาโอกาสได้พบเจอเขาให้มากหน่อย โอกาสได้พักค้างคืนที่จวนสกุลซ่งจึงน้อยตามลงไป“เจ้าอยากให้คุณชายสามสกุลซ่งส่งเจ้ากลับไปอย่างนั้นหรือ?” อวิ๋นเฉิงเจ๋อเอ่ยถามเสียงเรียบ สิ่งที่อวิ๋นเนี่ยนชูคิดอยู่ตอนนี้มีเพียงถ้อยคำของซ่งรั่วเจินที่บอกเมื่อนางกลับไปแล้วให้เปิดอกเผยความในใจของตนต่อญาติผู้พี่ ทว่าก่อนนี้นางก็เคยรวบรวมความกล้าพูดบอกญาติผู้พี่ออกไปแล้วเช่นกัน ทว่าผลลัพธ์ก็คือการถูกปฏิเสธตอนนั้นเขาว่าอย่างไรแล้วนะ?ญาติผู้พี่ว่านางยังเยาว์อยู่นัก ยังไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริงของการชอบพอใครสักคนบัดนี้นางมิใช่เด็กน้อยไร้เดียงสาอีกต่อไปแล้ว แม้นางจะพยายามติดสอยห้อยตาม ลองใจเขาไม่รู้กี่หลายต่อหลายครั้ง ทว่าสิ่งที่ได้รับก็มีแต่ท่าทีเย็นชาเป็นคำตอบกลัวก็แต่เพียงแม้คืนนี้จะพูดออกไปแล้ว ผลลัพธ์ก็ยังคงเหมือนเดิมอวิ๋นเฉิงเจ๋อเห็นทีอวิ๋นเนี่ยนชูคล้ายจะ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-08
  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 414

    “ท่านพี่ เรื่องมิได้ง่ายดายเช่นนั้น วันนี้ข้าเพียงแค่พูดขึ้นมาก็ถูกท่านแม่บอกปัดเสียแล้ว ท่านพ่อเองก็โกรธมากยิ่งนัก”“ท่านเองก็ใช่ว่าจะมิรู้ว่าอวิ๋นซีหว่านและมารดาของนางเจ้าแผนการมากเพียงใด บัดนี้นางยังมิอาจแต่งออกไปมิได้ ย่อมจะต้องทำทุกวิถีทางให้ได้พึ่งใบบุญจากท่าน หากถึงเวลานั้นแล้ว...” สายตาของอวิ๋นเฉิงเจ๋อจรดลงบนใบหน้าของอวิ๋นเนี่ยนชู แม้เมื่อเวลาผ่านไปจะทำให้อาการบวมช้ำลดน้อยลงแล้ว ทว่าก็ยังคงปรากฏร่องรอยให้เห็นอยู่จางๆ “ใบหน้าของเจ้ายังเจ็บอยู่หรือไม่?”อวิ๋นเนี่ยนชูชะงักไปเล้กน้อย ก่อนมือจะเผลอยกขึ้นแตะจับใบหน้าของตนโดยไม่รู้ตัว ก่อนแววตาจะหมองหม่นลง“ข้ามิเป็นไร รั่วเจินทายาให้ข้าแล้ว พรุ่งนี้คงจะหายดีแล้วเจ้าค่ะ” ดวงตาของอวิ๋นเฉิงเจ๋อเข้มข้นด้วยอารมณ์ ทว่าน้ำเสียงกลับนุ่มนวลอ่อนโยนเป็นยิ่ง “ต่อไปเจ้ามิจำเป็นต้องออกหน้ารับแทน เจ็บตัวมามิคุ้มกันหรอก”“ท่านพี่ ท่านไม่อยากให้ข้าไปยุ่งเรื่องของท่านหรือ?” อวิ๋นเนี่ยนชูโพล่งถามอวิ๋นเฉิงเจ๋อหัวเราะเบาๆ “แม่นางเช่นเจ้าบาดเจ็บบนใบหน้ามิใช่นับเป็นเรื่องใหญ่หลวงหรอกหรือ? เรื่องเช่นนี้หากจะต้องพูดก็ต้องให้ข้าเป็นฝ่ายไปพูด บุรุ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-08

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 476

    “หากเรื่องนี้มีเงื่อนงำอยู่จริง เหอเซียงหนิงเองก็น่าสงสารเกินไปแล้วกระมัง!”“นี่คือบีบคั้นคนให้ตาย จะต้องได้รับความทุกข์ใจอย่างหนักเป็นแน่ ซ่งรั่วเจินโหดเหี้ยมเกินไปแล้ว!”กลุ่มคนต่างชี้หน้าบริภาษขึ้นมาระลอกหนึ่ง ฉินซวงซวงลอบลำพองใจภายในใจ เพื่อทำให้ชื่อเสียงซ่งรั่วเจินเสื่อมเสีย นางวางแผนทั้งหมดไว้อย่างดีแล้ว!ฉู่จวินถิงเหลียวมองคนที่เป็นผู้นำของกลุ่มคน ออกคำสั่งผู้อยู่ใต้อาณัติ “จับตามองคนเหล่านั้นอย่างใกล้ชิด ห้ามมิให้หลุดรอดไปได้แม้คนเดียว”“พ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง”“ไม่ต้องกังวล คนเหล่านี้น่าจะถูกซื้อตัวไว้แล้ว จงใจพูดเช่นนี้ อีกเดี๋ยวสอบสวนอย่างละเอียดก็จะรู้ผล”สุ้มเสียงฉู่จวินถิงมั่นใจมาก สอบสวนคนเหล่านี้ เดิมทีก็ไม่ต้องใช้วิธีการมากมายอะไร เพียงถามอย่างไม่ตั้งใจก็สามารถรู้ได้ซ่งรั่วเจินเอ่ยถามอย่างอดไม่ได้ “ท่านอ๋องไม่สงสัยหม่อมฉันเลยหรือ?”“เหตุใดข้าต้องสงสัยเจ้าด้วย?” ฉู่จวินถิงสุขุมสงบนิ่ง “ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อแรกเหอเซียงหนิงทำกับเจ้าเยี่ยงไร ข้าเข้าใจทั้งหมดแล้ว”“ยิ่งไม่ต้องพูดว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ฝีมือเจ้า ต่อให้เป็นฝีมือเจ้า ก็ไม่มีอะไรไม่เหมาะสม”ภายในสายตาของฉู่จวิน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 475

    “เจ้าว่ามาเถิด” ฮองเฮาเอ่ยเรือนคิ้วฉู่จวินถิงขมวดขึ้นเล็กน้อย สายตาที่เขาใช้มองไปยังถังเสวี่ยหนิงแกมแฝงด้วยความเยียบเย็นหญิงผู้นี้ยังไม่คิดจะลดราวาศอกอีก!“อย่ากลัวไปเลย มีข้าอยู่”ฉู่จวินถิงหันมองซ่งรั่วเจิน แสดงท่าทีให้นางมั่นใจว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาก็จะอยู่ข้างกายนางเสมอซ่งรั่วเจินย่อมไม่หวั่นเกรงต่อเล่ห์กลของถังเสวี่ยหนิงและพรรคพวกอยู่แล้ว ทว่าเมื่อได้ยินถ้อยคำนี้ของฉู่จวินถิง ในใจก็ยังคงอดรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาไม่ได้อยู่ดีถังเสวี่ยหนิงกลับเกรงกลัวฉู่จวินถิงเสียจนแทบไม่กล้าสบสายตาเสียด้วยซ้ำ แต่เมื่อหันมองไปยังซ่งรั่วเจิน ท่าทีก็ยังคงกระด้างกระเดื่องเช่นเดิม“คุณหนูซ่ง ข้าได้ยินเรื่องเช่นนี้แล้วก็ตกใจมากจริงๆ มิอยากจะเชื่อเลยว่าในเมืองหลวงจะยังมีผู้ใดอาจหาญกล้าทำเรื่องเช่นนี้ลงได้ ช่างลบหลู่กฎเกณฑ์ราชสำนักเกินไปแล้ว!”“ดังนั้นข้าจึงอยากใช้โอกาสนี้ถามไถ่ให้ชัดแจ้ง หวังว่าเจ้าจะเข้าใจ”ถ้อยคำหลายต่อหลายคำของถังเสวี่ยหนิง ทำเอาสีหน้าของผู้คนโดยรอบเปลี่ยนไปโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว ต่างพากันสงสัยว่าเป็นเรื่องร้ายแรงประการใดกัน?“รั่วเจิน พวกถังเสวี่ยหนิงดูท่าคงมิได้มีเจตนาดีเป

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 474

    อวิ๋นเนี่ยนชูเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ปิดไม่มิดถึงความอิจฉา “โชคดีนักที่หลินจือเยว่มิได้แต่งกับนาง หาไม่แล้วคงคลาดกันกับคนดีเช่นฉู่อ๋องไปแล้วกระมัง?”“ฉู่อ๋องไม่เพียงมีรูปโฉมงดงาม วรยุทธเลิศล้ำ อีกทั้งฐานะยังมิธรรมดา สำคัญที่สุดก็คือผู้คนต่างรู้กันดีว่าฉู่อ๋องอารมณ์ร้ายเพียงใด แต่กลับดีต่อนางอยู่เพียงผู้เดียว เรื่องนี้น่าอิจฉาที่สุดแล้ว”อวิ๋นเฉิงเจ๋อเหลือบมองคนที่ยืนอยู่ข้างกาย นำเอาภาพใบหน้าฉายแววอิจฉานั้นเก็บเอาไว้จนสุดสายตา ไม่รู้ว่าในใจคิดอ่านถึงสิ่งใดอยู่ทว่าถ้อยคำนี้กลับลอยไปเข้าหูหลินจือเยว่เข้าพอดิบพอดี สีหน้าที่หมองหม่นอยู่ก่อนแล้วจึงได้ย่ำแย่เสียยิ่งกว่าเก่าก่อนนี้เขาคิดเพียงว่าฉู่อ๋องคงหูตามืดบอด ตอนนี้เขาเห็นแจ้งแล้วว่าตนเองต่างหากที่หูตามัวหมองไปเลือกคนผิดมาแต่งงานด้วยจนชีวิตพังพินาศ แต่จะทำกระไรได้อีกเล่า?ฉินซวงซวงยืนจ้องมองคนที่ในชาติที่แล้วนางคอยตามตื๊ออยู่นานอย่างฉู่อ๋อง กระทั่งเคยยอมทอดทิ้งศักดิ์ศรีมาแล้วก็ยังไม่อาจแลกเปลี่ยนเป็นการแลเหลียวจากเขาได้แม้แต่สักครั้ง แต่เขากลับปฏิบัติต่อซ่งรั่วเจินดีเช่นนั้น ทำเอานางริษยาเสียจนแทบบ้าอยู่แล้ว!มีสิทธิ์อะไรกัน?ซ่งรั่ว

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 473

    เมื่อถือเวลาประกาศผลสุดท้าย ก็พลันระเบิดเสียงฮือฮาดังขึ้นมากลางหมู่ฝูงชน“อันดับหนึ่งได้แก่ฉู่อ๋อง!”สิ้นเสียงประกาศ ผู้คนก็ต่างพากันเอ่ยชื่นชมไม่ขาดปาก ทว่าก็หาได้มีผู้ใดแปลกใจแม้แต่น้อย“ฝีมือการขี่ม้าและยิงธนูของฉู่อ๋องตลอดมาก็ล้วนเหนือผู้ใด วันนี้ไม่เพียงแต่ช่วยชีวิตองค์ชายทั้งสองพระองค์ไว้ได้ อีกทั้งยังคว้าชัยได้อันดับหนึ่งมาครอบครอง สมกับที่ชื่อเสียงเลื่องลือเสียจริงๆ!”“ได้ยินมาว่าสองคนที่หนีรอดไปได้ก็ฉู่อ๋องนั่นล่ะที่จับตัวเอาไว้ได้ เก่งกาจยิ่งนัก!”โดยปกติแล้วฉู่จวินถิงไม่ได้ใส่ใจกับความสำเร็จในลักษณะนี้แม้แต่น้อย ทว่าขณะนั้นเอง สายตาของเขาพลันหันมองไปยังซ่งรั่วเจินซ่งรั่วเจินเองก็หันไปมองฉู่อ๋องทันทีที่ได้ยินคำประกาศ เห็นแต่เพียงใบหน้าหล่อเหลาไม่เป็นสองรองใครของเขากำลังคลี่ยิ้มออกมาเจิดจ้าราวแสงอาทิตย์ชั่วขณะนั้น เขาก็ดูคล้ายจะเปล่งประกายเสียยิ่งกว่าแสงอาทิตย์เสียอีก รอยยิ้มอบอุ่นของเขาแกมแฝงด้วยความไม่แยแสยี่หระ ยิ่งกว่านั้นยังเปี่ยมอิสระเสรีไม่ยึดติดอันเป็นเอกลักษณ์ของคนหนุ่มทำเอาจังหวะเต้นของหัวใจใครหลายคนต่างสะดุดไปตามๆ กันในฐานะอันดับหนึ่ง รางวัลที่ได้ก็ย่อม

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 472

    ตั้งแต่ซ่งจิ่งเซินกลับมา เขาก็ได้รับรู้ว่าหลินจือเยว่ทอดทิ้งน้องสาวของตนไปเพราะฉินซวงซวง ในใจก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าขุ่นเคืองเพียงใดเดิมทีคิดจะหาโอกาสสั่งสอนหลินจือเยว่เสียบ้าง ต่อมาได้รู้ว่าพวกน้องสามได้จัดการกันไปแล้ว จนบัดนี้แม้แต่ที่ให้ซุกหัวนอนก็ยังไม่มีจะอยู่หากเป็นคนทั่วไปแล้วเล่าก็ ใครยังจะมีแก่ใจมาพลอดรักกันอวดผู้คนให้อับอายขายขี้หน้าเช่นนี้ โชคยังดีที่น้องหญิงห้ายังไม่ทันได้แต่งออกไปกับคนเช่นนั้น!“หน้าของฉินซวงซวงนี่ก็ช่างหนายากจะหาผู้ใดเทียมเทียบจริงเชียว!”เมิ่งชิ่นหรี่เดินตาหยีด้วยแขยงสายตามาอยู่ข้างกายซ่งรั่วเจิน “ตั้งแต่นางมาวันนี้ก็ทำเอาผู้คนไม่น้อยเกิดไม่พอใจ แต่ดูเหมือนนางจะไม่ใส่ใจสักนิด ซ้ำยังจะมีหน้ามาทำระรื่นอยู่ได้”“ข้าว่าหลินจือเยว่ยิ้มได้มิน่าดูเสียยิ่งกว่าร้องไห้อีก แต่นางราวกับมองไม่เห็นอย่างไรอย่างนั้น ข้าว่าอย่างไรพวกเขาคงไปกันได้ไม่นานนักหรอก”ซ่งรั่วเจินมองเมิ่งชิ่นที่ยู่ตรงหน้าพลางยิ้มบาง “ยันต์คุ้มกายที่ข้าให้ไปใช้ได้ผลดีหรือไม่?”“ได้ผลดียิ่งเลยล่ะ!” เมิ่งชิ่นจับมือซ่งรั่วเจินความตื้นเต้นในใจ หน่วยดวงตาเต็มด้วยความตื้นต้น “หากมิใช่เพราะเจ้า ต

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 471

    แม้จะกล่าวได้ว่าชื่อเสียงป่นปี้ไปแล้ว แต่ผู้คนต่างรู้ดีว่าอย่างไรนางก็เป็นเหยื่อ ไม่ได้ถึงขั้นที่ต้องถูกรังเกียจเดียดฉันท์ราวหนูโสโครกบนท้องถนนเฉกเช่นทุกวันนี้หลินจือเยว่เมื่อได้เห็นว่าซ่งจืออวี้เจ้าคนกำยำล่ำหนาผู้นั้นได้เป็นถึงราชองครักษ์หน้าพระที่นั่งขั้นสาม ก็อดพาลอิจฉาขึ้นมาไม่ได้อยากจะเป็นราชองครักษ์หน้าพระที่นั่งนั้นไม่ได้ง่ายดาย และแม้จะได้เป็นจริงแล้วก็ต้องเริ่มจากการเป็นราชองครักษ์หลานหลิง ทว่าซ่งจืออวี้กลับข้ามขั้นขึ้นมาเป็นราชองครักษ์หน้าพระที่นั่งขั้นสามโดยตรงเลยเสียนี่ยิ่งไปกว่านั้น ในวันนี้เขาก็ยังมีความดีความชอบจากการช่วยชีพองค์ชายเอาไว้ องค์ชายใหญ่และองค์ชายรองเห็นในส่วนนี้ย่อมพิจารณาเลื่อนขั้นให้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงความใส่ใจที่ฉู่จวินถิงมีต่อสกุลซ่งเขาแทบจะมั่นใจได้เลยว่า หนทางของซ่งจืออวี้ย่อมจะต้องราบรื่นไร้อุปสรรคขวากหนามใดขวางกั้น ทว่าวาสนาทั้งหมดทั้งมวลนี้เดิมทีควรจะเป็นของเขาต่างหากเล่า!“จือเยว่ ซ่งรั่วเจินแย่งชิงวาสนาของเราไปเช่นนี้แล้ว ท่านก็ควรจะรู้ได้แล้วว่านางเป็นคนเช่นไร!” ฉินซวงซวงกล่าวหลินจือเยว่ปรายตามองฉินซวงซวง ทั้งที่ครั้งหนึ่งเขาเคยชอบพอนาง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 470

    “ที่เจ้าพูดมาเป็นความจริงหรือ? พี่น้องตระกูลซ่งไม่เพียงช่วยเหลือองค์ชายรอง แต่ยังช่วยองค์ชายใหญ่ไว้ด้วย?”ฉินซวงซวงจับมือเหอเซียงหนิงไว้ด้วยสีหน้าร้อนใจ ดวงตาฉายแววเหลือเชื่อ นี่จะเป็นไปได้อย่างไร?ชาติที่แล้วคนถูกลอบสังหารคือองค์ชายรองชัดๆ นอกจากนี้ ข้อมูลที่สืบพบในตอนท้ายยังเผยว่าทุกอย่างล้วนเป็นฝีมือองค์ชายใหญ่ เหตุใดชาตินี้จึงไม่เหมือนเดิมเล่า?ถ้าองค์ชายใหญ่ก็ถูกลอบโจมตีด้วย เช่นนั้นแล้วตัวการเบื้องหลังคือใครกันแน่?“ไม่ผิดแน่นอน ครู่ก่อนข้าเห็นกับตาว่าพี่น้องตระกูลซ่งพาองค์ชายใหญ่กับองค์ชายรองกลับมา ซ่งรั่วเจินกับฉู่อ๋องก็กลับมาพร้อมกัน”“หมอหลวงเข้าไปถวายการรักษาในทันที ต่อมายังมีข่าวออกมาว่า องค์ชายทั้งสองถูกลอบโจมตีในเขตล่าสัตว์ของเชื้อพระวงศ์ โชคดีที่ได้รับความช่วยเหลือจากพี่น้องตระกูลซ่งจึงรักษาชีวิตไว้ได้”เหอเซียงหนิงมีสีหน้าย่ำแย่จนถึงที่สุด เดิมตั้งใจว่าจะใช้โอกาสวันนี้ทำให้ซ่งรั่วเจินพ่ายแพ้เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกคนทั้งเมืองหลวงชิงชังรังเกียจเหมือนหนูข้างถนน ทำร้ายนางจนตกอยู่ในสภาพนี้ ซ่งรั่วเจินมีสิทธิ์อะไรถึงยังมีชีวิตดีๆ อยู่ได้?แต่...ยามนี้ตระกูลซ่งสร้างคว

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 469

    เห็นได้ชัดว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลามาคิดบัญชี รออีกสักหน่อยค่อยไปพูดกับซ่งรั่วเจินให้รู้เรื่องก็ยังไม่สาย“อี้ชวน อาการบาดเจ็บของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?” เกากุ้ยเฟยถามอย่างเป็นห่วงฉู่อี้ชวนแสดงคารวะก่อนกล่าวว่า “แม้ลูกจะได้รับบาดเจ็บบ้าง แต่ไม่มีอันตรายถึงชีวิต เสด็จแม่ไม่ต้องเป็นห่วง”“เช่นนั้นก็ดี” เกากุ้ยเฟยถอนหายใจโล่งอก “เจ้ารีบไปพักผ่อนดีกว่า”ฮ่องเต้รับทราบอาการบาดเจ็บของฉู่อี้ชวนจากปากหมอหลวงแล้ว แม้ไม่ได้สาหัสเท่าฉู่เทียนเช่อ แต่ก็ได้รับบาดเจ็บหลายแห่ง ยามนี้ยังมีสีหน้าซีดขาว แต่กลับไม่ได้เน้นย้ำเรื่องนี้ต่อหน้าทุกคน เด็กคนนี้เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด“นั่งลงพักก่อนเถอะ”“ขอบพระทัยเสด็จพ่อ”หลังจากฉู่อี้ชวนมาแล้ว มีเขาบอกเล่ารายละเอียดของเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ด้วยตัวเอง บวกกับคำบอกเล่าของฉู่จวินถิงก็เป็นการยืนยันความดีความชอบของพี่น้องตระกูลซ่งในที่สุด“ครั้งนี้พวกเจ้าสี่พี่น้องช่วยเหลือองค์ชายทั้งสองเอาไว้ สร้างความดีความชอบครั้งใหญ่ อยากได้รางวัลแบบไหนก็บอกมาได้เลย!”ฮ่องเต้พอพระทัยสี่พี่น้องตระกูลซ่งยิ่งนัก ซ่งหลินข่าวคราวเงียบหาย ทุกคนล้วนยอมรับกันอย่างเงียบๆ ว่าเขาคงไม่

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 468

    “พวกเจ้าสี่คนบังเอิญผ่านไปบริเวณนั้นพอดี?”ฮ่องเต้กวาดสายตาผ่านพวกซ่งเยี่ยนโจวสี่พี่น้อง ดูเหมือนถามคำถามทั่วไป แต่กลับทำให้คนรู้สึกกดดันอย่างมากซ่งเยี่ยนโจวกับซ่งอี้อันล้วนเคยเข้าเฝ้าฮ่องเต้มาก่อน แม้จะรู้สึกกดดันไม่น้อย แต่ก็ไม่ถึงกับแตกตื่น ซ่งจืออวี้กับซ่งจิ่งเซินกลับรู้สึกว่าสายพระเนตรของฮ่องเต้มีแรงกดดันใหญ่หลวง ทำให้พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง“พวกกระหม่อมสี่คนกำลังล่าสัตว์อยู่แถวนั้นพอดี น้องสามของกระหม่อมไปพบเข้าก่อน พวกกระหม่อมได้ยินเสียงน้องสามจึงรีบตามไปพ่ะย่ะค่ะ” ซ่งเยี่ยนโจวตอบอย่างไม่เย่อหยิ่งและไม่ต่ำต้อยฮ่องเต้ได้ยินดังนั้นก็ทอดพระเนตรซ่งจืออวี้กับซ่งจิ่งเซินพี่น้องฝาแฝดคู่นี้ หน้าตาเหมือนกันทุกกระเบียด แต่กลับมีลักษณะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงถึงจะไม่เคยเจอกันมาก่อน แต่ก็เคยได้ยินเกี่ยวกับพี่น้องฝาแฝดตระกูลซ่งคู่นี้ว่านิสัยต่างกันสุดขั้ว ด้วยเหตุนี้จึงสามารถระบุตัวซ่งจืออวี้ได้อย่างง่ายดาย“เราได้ยินว่ามีมือสังหารถึงแปดคน แต่เจ้าตัวคนเดียวก็กล้าบุกเข้าไป?”ซ่งจืออวี้ตอบด้วยท่าทางกริ่งเกรง “ฝ่าบาท ตอนนั้นกระหม่อมเห็นองค์ชายทั้งสองตกอยู่ในอันตรายจึงกระโจนเข้าไปโด

DMCA.com Protection Status