แชร์

บทที่ 38

ผู้เขียน: จี้เวยเวย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-09-03 19:17:36
ซ่งจืออวี้เห็นน้องสาวตัวเองตอบโต้จนหลินจือเยว่พูดอะไรไม่ออก ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าก่อนหน้านี้มารดากำชับเสียเปล่าแล้ว น้องหญิงห้าในตอนนี้ไม่ได้มีนิสัยยอมคนเลยสักนิด ยังร้ายกาจกว่าเขาเสียอีก!

“น้องหญิงห้า เรื่องนี้ยกให้ข้าจัดการก็พอ พี่สามจะต้องนำเงินกลับมาให้ได้! ถ้าไม่คืน ข้าก็จะไปตีกลองร้องทุกข์ นำความไปทูลเบื้องพระพักตร์!”

หลินจือเยว่พลันนึกขึ้นมาได้ว่าซ่งจืออวี้เป็นคนที่ไม่สนใจกฎเกณฑ์คนหนึ่ง เรื่องแบบนี้หากเป็นคนอื่นไม่แน่ว่าจะทำได้ แต่ซ่งจืออวี้ทำได้แน่นอน

เงินแปดล้านตำลึง กะทันหันแบบนี้เขาจะไปหามาจากไหน? หากไม่คืน เกรงว่าตระกูลซ่งคงจะอาละวาดจนไม่อาจจัดการได้...

“ท่านฉลาดมากไม่ใช่หรือ? เหตุใดจึงไปชอบคนพรรค์นี้ได้?” ต่งเป๋ยอวี่อดรังเกียจไม่ได้ “ท่านแม่ข้าบอกว่าสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับลูกผู้ชายคือความรับผิดชอบ พึงปฏิบัติกับสตรีอย่างสุภาพมีมารยาท คนผู้นี้ดูแล้วไม่เห็นจะเป็นเช่นนั้น”

“แม่เจ้าสอนเรื่องพวกนี้ให้เจ้าด้วย?”

“แน่นอน ท่านแม่ก็แค่ขี้บ่นเกินไป แต่ข้าคิดว่าที่พูดมาก็มีเหตุผล”

ซ่งรั่วเจินยิ้มบาง “ถือเสียว่าก่อนหน้านี้เจ้ากับข้าตาบอดไป ยามคนเรามีชีวิตอยู่มักจะมีช่วงเวลาที่ตามืด
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 39

    “ฮูหยิน คุณชายต่งไม่เคยโทษท่าน เขาไหว้วานให้ข้านำของสิ่งนี้มาให้ท่านเจ้าค่ะ” ซ่งรั่วเจินเดินเข้าไปหาแล้วยื่นกล่องไม้ขนาดเล็กแสนประณีตในมือออกไปหลินอิ๋งเฉียวอึ้งไป มองแม่นางแปลกหน้าตรงหน้าอย่างงงงวย “เจ้า...เจ้ารู้จักเป๋ยอวี่หรือ?”“เคยพบเจ้าค่ะ”หลินอิ๋งเฉียวเปิดกล่องไม้ออกก็เห็นว่าในนั้นมีกระดาษแผ่นหนึ่ง เมื่อกางออกดูก็พบว่าเป็นภาพวาดครอบครัวของตนเอง ข้าง ๆ ยังมีข้อความที่ต่งเป๋ยอวี่เขียนไว้‘ก็ได้ ท่านแม่ อย่างมากข้ากลับไปแล้วค่อยตั้งใจเรียนกับพี่ใหญ่ก็ได้ จะได้ไม่ทำให้ท่านผิดหวัง ท่านรับภาพแล้วห้ามโกรธข้าเชียวนะ’นี่คือภาพที่ต่งเป๋ยอวี่วาดหลังไปเยี่ยมญาติได้สองวันแล้วคิดถึงครอบครัวขึ้นมา กลัวว่ากลับมาแล้วมารดาจะไม่สนใจตนเองจึงวาดภาพนี้ เทียนสุ่ยนำภาพนี้มาด้วยตอนที่พาต่งเป๋ยอวี่กลับมาพริบตาที่จดจำลายมือได้ หลินอิ๋งเฉียวก็พลันน้ำตาไหลอาบหน้า “เป็นลายมือเป๋ยอวี่ นี่เป็นลายมือเป๋ยอวี่! แม่นาง เจ้าไปเจอเป๋ยอวี่ที่ใดหรือ? เจ้าโปรดบอกข้าด้วยเถิด ต้องการสิ่งใดเป็นการตอบแทน ข้าล้วนรับปากทั้งสิ้น”หลินอิ๋งเฉียวว่าแล้วก็ทำท่าจะคุกเข่าสวี่ชิงเหมยได้ยินความเคลื่อนไหวฝั่งนี้จึงรีบเดินเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-03
  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 40

    มิน่าเล่า พี่สามถึงได้เปลี่ยนท่าทีกะทันหันเช่นนั้น!ที่แท้แม่นางซ่งก็มีรูปโฉมงดงามปานนี้ หลินโหวคงตาบอดไปแล้วกระมัง มิฉะนั้นจะทอดทิ้งนางได้อย่างไร?“แม่นางซ่ง ข้าเคารพแม่ทัพซ่งว่าเป็นวีรบุรุษ ครั้งนี้จะไม่ถือสาหาความเจ้า คราวหน้าโปรดอย่าทำเรื่องเหลวไหลเช่นนี้อีก”ซ่งรั่วเจินไม่สนใจความคิดของคนอื่น เพียงมองไปที่หลินอิ๋งเฉียว “ฮูหยิน พวกเราไปคุยกันต่อที่อื่นเถิดเจ้าค่ะ”ลู่หมิ่นฮุ่ยขมวดคิ้ว แม่นางผู้นี้ไม่สนใจคำพูดของนางเลยหรือนี่? “แม่นางซ่ง เจ้าอย่าเหลวไหลเช่นนี้...”“ท่านน้า แม่นางซ่งเป็นคนมีความสามารถ ข้าได้ประจักษ์ความสามารถของนางมาแล้ว ลองดูก่อนค่อยว่ากันก็ไม่เสียหาย” ฉู่จวินถิงเอ่ยขึ้นอย่างสุขุม น้ำเสียงสงบเยือกเย็นประหนึ่งสายลมในพงไพร อบอุ่นอ่อนโยน ช่วยคลี่คลายบรรยากาศที่กำลังตึงเครียด“ฉู่อ๋อง?” ลู่หมิ่นฮุ่ยเห็นฉู่จวินถิงแล้วก็แย้มยิ้มอ่อนโยน “ในที่สุดเจ้าก็มาได้เสียทีนะ วันนี้หากยังไม่มาอีก น้าอย่างข้าจะโกรธแล้ว”ซ่งรั่วเจินมองไปทางลู่หมิ่นฮุ่ย นางดูแล้วอายุมากกว่าฉู่จวินถิงไม่กี่ปี แต่ลำดับอาวุโสกลับสูงมาก“ท่านน้าเชื้อเชิญทั้งที ข้าย่อมต้องมาอยู่แล้ว”สายตาฉู่จวินถ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-03
  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 41

    “เสด็จพี่สาม ท่านว่าแม่นางซ่งทำนายแม่นหรือไม่? หากเป็นเรื่องจริง ท่านน้าจะต้องดีใจมากแน่ๆ” ฉู่อวิ๋นกุยประหลาดใจเสร็จก็อดจะคาดหวังไม่ได้ แม้ท่านน้าจะอาวุโสกว่าพวกเขารุ่นหนึ่ง แต่อายุกลับมากกว่าพวกเขาแค่ไม่กี่ปีกล่าวได้ว่าเติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เล็ก พวกเขารับรู้ความทุกข์ใจของผู้เป็นน้า ทั้งยังหวังให้นางมีลูกโดยเร็วเช่นกันฉู่จวินถิงนิ่งเงียบไม่เอ่ยคำ เขาจำได้ว่าชาติก่อนอีกหนึ่งปีหลังจากนี้ท่านน้าถึงจะตั้งครรภ์ อย่างไรก็ไม่มีทางเป็นช่วงเวลานี้“เรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้นแบบนี้จะตัดสินว่าจริงหรือเท็จได้อย่างไร?” สวี่ชิงเหมยมองไปทางหลินอิ๋งเฉียวด้วยความเป็นห่วง “พี่สะใภ้ ท่านต้องระวังหน่อยนะเจ้าคะ”“ฮูหยิน วันนี้ที่ข้ามาก็เพราะได้รับการไหว้วานจากเป๋ยอวี่ หากท่านไม่เชื่อ...”เดิมนั้นซ่งรั่วเจินต้องการหาสถานที่พูดคุยกับหลินอิ๋งเฉียวตามลำพัง แต่จนใจที่ซุนเยียนเอ๋อร์กับซุนฮั่นเฟยกระโดดเข้ามาก่อกวน ประกอบกับมีอุปสรรคมากเกินไปจึงหมดความอดทนแล้วแต่เมื่อเห็นท่าทางขอบตาแดงเรื่ออย่างน่าสงสารของต่งเป๋ยอวี่ ในใจก็รู้สึกเวทนา “ให้ข้าหนึ่งหมื่นตำลึง”“อะ...อะไรนะ?”“ให้เงินข้าหนึ่งหมื่นตำลึง ข้าจะช

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-03
  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 42

    ทุกคนเห็นซ่งรั่วเจินพูดอะไรไม่รู้กับหลินอิ๋งเฉียว ฝ่ายหลังกล่าวคำขอบคุณครั้งแล้วครั้งเล่าแล้วก็จากไป ในใจจึงอดสงสัยไม่ได้“เมื่อวานข้าเห็นแม่นางซ่งเปิดโปงนักต้มตุ๋นกับตาตัวเอง ยังช่วยสวีฮูหยินตามหาลูกสาวแท้ ๆ จนเจอ เป็นคนที่มีความสามารถโดยแท้จริง ไม่ได้พูดจาเหลวไหล ได้รับความช่วยเหลือจากนาง ไม่แน่ว่าต่งฮูหยินอาจตามหาลูกชายคนเล็กที่หายตัวไปเจอก็เป็นได้”ในกลุ่มคนบริเวณนั้นย่อมมีคนที่เห็นเหตุการณ์เมื่อวานนี้ ต่างช่วยกันพูดแทนซ่งรั่วเจินเรื่องที่ตระกูลสวีตามหาลูกสาวเจอเมื่อวานนี้ลือกันไปทั่ว แต่สรุปว่าหาเจอได้อย่างไร คนส่วนใหญ่กลับไม่รู้แน่ชัดสวี่ชิงเหมยหน้าเปลี่ยนสี มองประเมินซ่งรั่วเจินอย่างสงสัย สตรีผู้นี้คงไม่ได้มีความสามารถจริง ๆ หรอกนะ?ลู่หมิ่นฮุ่ยมองไปทางฉู่จวินถิง ลดเสียงถามว่า “เจ้าบอกว่าแม่นางผู้นี้มีความสามารถ เป็นเรื่องจริงหรือ?”ฉู่จวินถิง “...”สองตาของลู่หมิ่นฮุ่ยเป็นประกาย สองปีนี้กินเจสวดมนต์ ไปขอพรจากไต้ซือมาจำนวนไม่น้อย ทุกคนล้วนบอกว่าย่อมจะมีไม่เร็วก็ช้า แต่นางรอมาสองปีแล้วยังคงไร้วี่แวว มีเพียงซ่งรั่วเจินที่บอกว่าในไม่ช้าจะได้สมหวังดังปรารถนาแม้จิตใต้สำนึก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-03
  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 43

    “น้องหญิงห้า เรื่องที่เจ้าพูดวันนี้เป็นเรื่องจริงหรือ? ไปล่วงเกินรองเจ้ากรมพิธีการไม่ดีหรอกนะ”ซ่งจืออวี้กังวลอยู่บ้าง ตอนนี้น้องสาวราวกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน หากเป็นเมื่อก่อนคงไม่กล้าทำเรื่องแบบนี้ เขาคิดว่าไม่เข้าที แต่ก็รู้สึกว่าน้องสาวไม่น่าพูดจาส่งเดชซ่งรั่วเจินก็สัมผัสได้เช่นกัน ทั้งที่ซ่งจืออวี้กังวลใจมากแท้ ๆ แต่กลับปล่อยให้นางทำไปโดยไม่ขัดขวางเพราะเขาเชื่อใจน้องสาวของตัวเอง“พี่สาม ท่านวางใจได้ นอกจากพวกเราจะไม่ล่วงเกินรองเจ้ากรมพิธีการแล้ว ยังจะได้รับมิตรไมตรีกลับมาด้วย”เมื่อซ่งรั่วเจินไปจากงานเลี้ยงชมดอกอิงฮวา ลู่หมิ่นฮุ่ยก็เลือกแม่นางที่ไม่เลวหลายคนมาแนะนำให้ฉู่จวินถิงหลังจากนั้นตูม!“ใครก็ได้มาทางนี้ที! ฉู่อ๋องตกน้ำ!”เสียงกรีดร้องด้วยความตกใจดังระงม ฉู่จวินถิงว่ายน้ำไม่เป็น ทำได้เพียงตีแขนปัดป่ายไปมาอยู่ในทะเลสาบองครักษ์ที่รุดมาช่วยเหลือรีบไปช่วยคน แต่กลับพบว่าไม่สามารถพาคนขึ้นมาได้ จนกระทั่งมีหลายคนลงไปตรวจสอบจึงพบว่าขาของฉู่จวินถิงถูกพืชน้ำพันไว้เมื่อช่วยขึ้นมาได้แล้ว สีหน้าของฉู่จวินถิงซีดขาวราวกระดาษ คำพูดที่ซ่งรั่วเจินกล่าวไว้เมื่อวานนี้ดังขึ้นในหัว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-03
  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 44

    “เรียนฮูหยินรอง นั่นคือธูปหอมสงบใจเจ้าค่ะ แม่นางซ่งบอกว่าฮูหยินไม่ได้นอนหลับพักผ่อนดี ๆ มานานแล้ว ธูปหอมสงบใจสามารถระงับความฟุ้งซ่าน ช่วยให้จิตใจสงบ มีสรรพคุณช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายเจ้าค่ะ”สวี่ชิงเหมยเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง สีหน้าของหลินอิ๋งเฉียวกับซ่งรั่วเจินในตอนนั้นไม่เหมือนว่าจะพูดเรื่องเรียบง่ายเช่นนี้ แต่จนใจที่ทั้งสองเดินไปไกลเกินไป นางจึงไม่ได้ยินสักนิด ความรู้สึกกระสับกระส่ายไม่สบายใจกลับรุนแรงมากขึ้นทุกที สังหรณ์ใจเหมือนจะมีเรื่องเกิดขึ้นฮูหยินผู้เฒ่าต่งเข้าใจแล้ว “ดูเจ้าสิ ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ไปได้ ช่วงนี้อิ๋งเฉียวเหน็ดเหนื่อยเกินไป ได้นอนหลับดี ๆ สักตื่นก็ดีเหมือนกัน”“ท่านแม่ ข้าคิดว่าเรื่องราวไม่น่าเรียบง่ายถึงเพียงนั้น ธูปหอมสงบใจก้านเดียวกลับเรียกเงินตั้งหนึ่งหมื่นตำลึง แม่นางซ่งจะโลภเกินไปหรือไม่? พี่สะใภ้เป็นคนฉลาดมาแต่ไหนแต่ไร แล้วจะถูกหลอกลวงง่าย ๆ ได้อย่างไรเจ้าคะ?”“หนึ่งหมื่นตำลึง?” ฮูหยินผู้เฒ่าต่งขมวดคิ้ว เงินมากมายถึงเพียงนี้บอกจะให้ก็ให้ ออกจะมักง่ายเกินไปจริง ๆ นั่นล่ะ แต่เมื่อคิดถึงว่าหลานชายหายตัวไป ตนเองก็ผิดต่อสะใภ้ใหญ่ผู้นี้ ยังจะไปตำหนินาง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-03
  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 45

    นายท่านรองต่งจู๋ซูเห็นภรรยาของตนเองถูกพี่สะใภ้บีบคอก็พูดว่า “พี่สะใภ้ พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน ชิงเหมยจิตใจดีงามอ่อนโยน เรื่องในฝันจะยึดถือเป็นจริงเป็นจังได้อย่างไร?”ในหมู่ทุกคนมีเพียงสวี่ชิงเหมยที่ใจหายวาบ ในที่สุดก็เข้าใจสาเหตุที่กระสับกระส่ายไม่สบายใจเสียทีเจ้าเด็กต่งเป๋ยอวี่นั่นมาเข้าฝันได้จริง ๆ งั้นหรือ? หรือว่าทุกอย่างนี้ล้วนเกี่ยวข้องกับซ่งรั่วเจิน?“นี่ไม่ใช่ความฝัน แต่เป็นความจริง!”หลินอิ๋งเฉียวหาได้สนใจ จับจ้องต่งหานโจวด้วยแววตาเจิดจ้า น้ำเสียงรวดร้าว สีหน้าหนักแน่น “ท่านพี่ หากท่านยังเห็นแก่ความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยาของพวกเรา คืนนี้ท่านต้องไปเมืองซีอวิ๋นกับข้า”ต่งหานโจวคิดไม่ถึงว่าหลินอิ๋งเฉียวจะยืนกรานหนักแน่นเช่นนี้ แต่ความสัมพันธ์ของเขากับภรรยารักใคร่กลมเกลียวกันมาโดยตลอด ลูกชายคนเล็กหายตัวไป พวกเขาโศกเศร้าไม่คลาย ถึงหลายวันก่อนจะไปตามหาที่เมืองซีอวิ๋นแล้วกลับมามือเปล่า แต่ตอนนี้ก็ยังคงพยักหน้ารับปาก“ได้ ข้าจะไปเป็นเพื่อนเจ้า”หลินอิ๋งเฉียวถอนหายใจ ใบหน้างามสง่านั้นสะท้อนความจริงจังอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จากนั้นจึงคุกเข่าลงตรงหน้าฮูหยินผู้เฒ่าต่ง“อิ๋งเฉีย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-03
  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 46

    ฮูหยินผู้เฒ่าต่งสุดจะทนดูต่อไปไหวจึงพูดว่า “ชิงเหมย เจ้าวางใจได้ เรื่องนี้จะไม่แพร่งพรายออกไปแม้แต่น้อย เจ้าก็ทนลำบากสักหน่อย ถึงตอนนั้นทุกคนจะชดเชยให้เจ้าเอง”อันที่จริงทุกคนบริเวณนั้นล้วนคิดว่าหลินอิ๋งเฉียวคงจะคิดถึงลูกชายจนเสียสติไปแล้วไม่มากก็น้อย แต่ในฐานะมารดา ปฏิกิริยาเช่นนี้ก็เป็นสิ่งที่สามารถเข้าใจได้ ช่างเป็นคนที่น่าเวทนาคนหนึ่งทว่าธูปหอมที่ยังไม่มอดดับนั้นยังคงเผาไหม้ต่อไป ควันธูปลอยเข้าจมูกทุกคนอย่างเงียบเชียบ...ต่งหานโจวกับหลินอิ๋งเฉียวนั่งรถม้าจากไปในคืนนั้นหลินอิ๋งเฉียวนั่งร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ในรถม้า ในหัวเอาแต่คิดถึงภาพที่ได้เห็นเป๋ยอวี่ เป๋ยอวี่บอกว่าในบ่อน้ำที่แห้งขอดนั้นทั้งเหน็บหนาวและมืดมิด ยังมีหนอนกัดแทะเขา นางได้ยินแล้วก็รู้สึกราวกับว่าหัวใจถูกเชือดเฉือนลูกชายที่รักของนาง ไหนเลยจะทนรับความทุกข์ทรมานเช่นนั้นได้?ต่งเป๋ยอวี่มองดูมารดาของตนเองด้วยความปวดใจ เขาไม่เคยเห็นท่าทางราวคนเสียสติของมารดาแบบเมื่อครู่นี้มาก่อนเลย ตั้งแต่เขายังเล็ก มารดามักมีภาพลักษณ์ของบุตรีตระกูลใหญ่ที่รอบรู้จัดเจนธรรมเนียมมารยาทเสมอมา สตรีก้าวร้าวดุร้ายเช่นนี้มารดาดูแคลนเป็นที่ส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-03

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 472

    ตั้งแต่ซ่งจิ่งเซินกลับมา เขาก็ได้รับรู้ว่าหลินจือเยว่ทอดทิ้งน้องสาวของตนไปเพราะฉินซวงซวง ในใจก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าขุ่นเคืองเพียงใดเดิมทีคิดจะหาโอกาสสั่งสอนหลินจือเยว่เสียบ้าง ต่อมาได้รู้ว่าพวกน้องสามได้จัดการกันไปแล้ว จนบัดนี้แม้แต่ที่ให้ซุกหัวนอนก็ยังไม่มีจะอยู่หากเป็นคนทั่วไปแล้วเล่าก็ ใครยังจะมีแก่ใจมาพลอดรักกันอวดผู้คนให้อับอายขายขี้หน้าเช่นนี้ โชคยังดีที่น้องหญิงห้ายังไม่ทันได้แต่งออกไปกับคนเช่นนั้น!“หน้าของฉินซวงซวงนี่ก็ช่างหนายากจะหาผู้ใดเทียมเทียบจริงเชียว!”เมิ่งชิ่นหรี่เดินตาหยีด้วยแขยงสายตามาอยู่ข้างกายซ่งรั่วเจิน “ตั้งแต่นางมาวันนี้ก็ทำเอาผู้คนไม่น้อยเกิดไม่พอใจ แต่ดูเหมือนนางจะไม่ใส่ใจสักนิด ซ้ำยังจะมีหน้ามาทำระรื่นอยู่ได้”“ข้าว่าหลินจือเยว่ยิ้มได้มิน่าดูเสียยิ่งกว่าร้องไห้อีก แต่นางราวกับมองไม่เห็นอย่างไรอย่างนั้น ข้าว่าอย่างไรพวกเขาคงไปกันได้ไม่นานนักหรอก”ซ่งรั่วเจินมองเมิ่งชิ่นที่ยู่ตรงหน้าพลางยิ้มบาง “ยันต์คุ้มกายที่ข้าให้ไปใช้ได้ผลดีหรือไม่?”“ได้ผลดียิ่งเลยล่ะ!” เมิ่งชิ่นจับมือซ่งรั่วเจินความตื้นเต้นในใจ หน่วยดวงตาเต็มด้วยความตื้นต้น “หากมิใช่เพราะเจ้า ต

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 471

    แม้จะกล่าวได้ว่าชื่อเสียงป่นปี้ไปแล้ว แต่ผู้คนต่างรู้ดีว่าอย่างไรนางก็เป็นเหยื่อ ไม่ได้ถึงขั้นที่ต้องถูกรังเกียจเดียดฉันท์ราวหนูโสโครกบนท้องถนนเฉกเช่นทุกวันนี้หลินจือเยว่เมื่อได้เห็นว่าซ่งจืออวี้เจ้าคนกำยำล่ำหนาผู้นั้นได้เป็นถึงราชองครักษ์หน้าพระที่นั่งขั้นสาม ก็อดพาลอิจฉาขึ้นมาไม่ได้อยากจะเป็นราชองครักษ์หน้าพระที่นั่งนั้นไม่ได้ง่ายดาย และแม้จะได้เป็นจริงแล้วก็ต้องเริ่มจากการเป็นราชองครักษ์หลานหลิง ทว่าซ่งจืออวี้กลับข้ามขั้นขึ้นมาเป็นราชองครักษ์หน้าพระที่นั่งขั้นสามโดยตรงเลยเสียนี่ยิ่งไปกว่านั้น ในวันนี้เขาก็ยังมีความดีความชอบจากการช่วยชีพองค์ชายเอาไว้ องค์ชายใหญ่และองค์ชายรองเห็นในส่วนนี้ย่อมพิจารณาเลื่อนขั้นให้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงความใส่ใจที่ฉู่จวินถิงมีต่อสกุลซ่งเขาแทบจะมั่นใจได้เลยว่า หนทางของซ่งจืออวี้ย่อมจะต้องราบรื่นไร้อุปสรรคขวากหนามใดขวางกั้น ทว่าวาสนาทั้งหมดทั้งมวลนี้เดิมทีควรจะเป็นของเขาต่างหากเล่า!“จือเยว่ ซ่งรั่วเจินแย่งชิงวาสนาของเราไปเช่นนี้แล้ว ท่านก็ควรจะรู้ได้แล้วว่านางเป็นคนเช่นไร!” ฉินซวงซวงกล่าวหลินจือเยว่ปรายตามองฉินซวงซวง ทั้งที่ครั้งหนึ่งเขาเคยชอบพอนาง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 470

    “ที่เจ้าพูดมาเป็นความจริงหรือ? พี่น้องตระกูลซ่งไม่เพียงช่วยเหลือองค์ชายรอง แต่ยังช่วยองค์ชายใหญ่ไว้ด้วย?”ฉินซวงซวงจับมือเหอเซียงหนิงไว้ด้วยสีหน้าร้อนใจ ดวงตาฉายแววเหลือเชื่อ นี่จะเป็นไปได้อย่างไร?ชาติที่แล้วคนถูกลอบสังหารคือองค์ชายรองชัดๆ นอกจากนี้ ข้อมูลที่สืบพบในตอนท้ายยังเผยว่าทุกอย่างล้วนเป็นฝีมือองค์ชายใหญ่ เหตุใดชาตินี้จึงไม่เหมือนเดิมเล่า?ถ้าองค์ชายใหญ่ก็ถูกลอบโจมตีด้วย เช่นนั้นแล้วตัวการเบื้องหลังคือใครกันแน่?“ไม่ผิดแน่นอน ครู่ก่อนข้าเห็นกับตาว่าพี่น้องตระกูลซ่งพาองค์ชายใหญ่กับองค์ชายรองกลับมา ซ่งรั่วเจินกับฉู่อ๋องก็กลับมาพร้อมกัน”“หมอหลวงเข้าไปถวายการรักษาในทันที ต่อมายังมีข่าวออกมาว่า องค์ชายทั้งสองถูกลอบโจมตีในเขตล่าสัตว์ของเชื้อพระวงศ์ โชคดีที่ได้รับความช่วยเหลือจากพี่น้องตระกูลซ่งจึงรักษาชีวิตไว้ได้”เหอเซียงหนิงมีสีหน้าย่ำแย่จนถึงที่สุด เดิมตั้งใจว่าจะใช้โอกาสวันนี้ทำให้ซ่งรั่วเจินพ่ายแพ้เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกคนทั้งเมืองหลวงชิงชังรังเกียจเหมือนหนูข้างถนน ทำร้ายนางจนตกอยู่ในสภาพนี้ ซ่งรั่วเจินมีสิทธิ์อะไรถึงยังมีชีวิตดีๆ อยู่ได้?แต่...ยามนี้ตระกูลซ่งสร้างคว

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 469

    เห็นได้ชัดว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลามาคิดบัญชี รออีกสักหน่อยค่อยไปพูดกับซ่งรั่วเจินให้รู้เรื่องก็ยังไม่สาย“อี้ชวน อาการบาดเจ็บของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?” เกากุ้ยเฟยถามอย่างเป็นห่วงฉู่อี้ชวนแสดงคารวะก่อนกล่าวว่า “แม้ลูกจะได้รับบาดเจ็บบ้าง แต่ไม่มีอันตรายถึงชีวิต เสด็จแม่ไม่ต้องเป็นห่วง”“เช่นนั้นก็ดี” เกากุ้ยเฟยถอนหายใจโล่งอก “เจ้ารีบไปพักผ่อนดีกว่า”ฮ่องเต้รับทราบอาการบาดเจ็บของฉู่อี้ชวนจากปากหมอหลวงแล้ว แม้ไม่ได้สาหัสเท่าฉู่เทียนเช่อ แต่ก็ได้รับบาดเจ็บหลายแห่ง ยามนี้ยังมีสีหน้าซีดขาว แต่กลับไม่ได้เน้นย้ำเรื่องนี้ต่อหน้าทุกคน เด็กคนนี้เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด“นั่งลงพักก่อนเถอะ”“ขอบพระทัยเสด็จพ่อ”หลังจากฉู่อี้ชวนมาแล้ว มีเขาบอกเล่ารายละเอียดของเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ด้วยตัวเอง บวกกับคำบอกเล่าของฉู่จวินถิงก็เป็นการยืนยันความดีความชอบของพี่น้องตระกูลซ่งในที่สุด“ครั้งนี้พวกเจ้าสี่พี่น้องช่วยเหลือองค์ชายทั้งสองเอาไว้ สร้างความดีความชอบครั้งใหญ่ อยากได้รางวัลแบบไหนก็บอกมาได้เลย!”ฮ่องเต้พอพระทัยสี่พี่น้องตระกูลซ่งยิ่งนัก ซ่งหลินข่าวคราวเงียบหาย ทุกคนล้วนยอมรับกันอย่างเงียบๆ ว่าเขาคงไม่

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 468

    “พวกเจ้าสี่คนบังเอิญผ่านไปบริเวณนั้นพอดี?”ฮ่องเต้กวาดสายตาผ่านพวกซ่งเยี่ยนโจวสี่พี่น้อง ดูเหมือนถามคำถามทั่วไป แต่กลับทำให้คนรู้สึกกดดันอย่างมากซ่งเยี่ยนโจวกับซ่งอี้อันล้วนเคยเข้าเฝ้าฮ่องเต้มาก่อน แม้จะรู้สึกกดดันไม่น้อย แต่ก็ไม่ถึงกับแตกตื่น ซ่งจืออวี้กับซ่งจิ่งเซินกลับรู้สึกว่าสายพระเนตรของฮ่องเต้มีแรงกดดันใหญ่หลวง ทำให้พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง“พวกกระหม่อมสี่คนกำลังล่าสัตว์อยู่แถวนั้นพอดี น้องสามของกระหม่อมไปพบเข้าก่อน พวกกระหม่อมได้ยินเสียงน้องสามจึงรีบตามไปพ่ะย่ะค่ะ” ซ่งเยี่ยนโจวตอบอย่างไม่เย่อหยิ่งและไม่ต่ำต้อยฮ่องเต้ได้ยินดังนั้นก็ทอดพระเนตรซ่งจืออวี้กับซ่งจิ่งเซินพี่น้องฝาแฝดคู่นี้ หน้าตาเหมือนกันทุกกระเบียด แต่กลับมีลักษณะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงถึงจะไม่เคยเจอกันมาก่อน แต่ก็เคยได้ยินเกี่ยวกับพี่น้องฝาแฝดตระกูลซ่งคู่นี้ว่านิสัยต่างกันสุดขั้ว ด้วยเหตุนี้จึงสามารถระบุตัวซ่งจืออวี้ได้อย่างง่ายดาย“เราได้ยินว่ามีมือสังหารถึงแปดคน แต่เจ้าตัวคนเดียวก็กล้าบุกเข้าไป?”ซ่งจืออวี้ตอบด้วยท่าทางกริ่งเกรง “ฝ่าบาท ตอนนั้นกระหม่อมเห็นองค์ชายทั้งสองตกอยู่ในอันตรายจึงกระโจนเข้าไปโด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 467

    “ฝ่าบาท เจ้าโจรชั่วนี้ช่างขวัญกล้าเทียมฟ้ายิ่งนัก ถึงกับกล้าลอบสังหารเช่ออ๋องในเขตล่าสัตว์ของเชื้อพระวงศ์ ดีที่อี้ชวนบังเอิญไปเจอเข้าพอดี หาไม่แล้วเกรงว่า...”ฮ่องเต้พยักหน้า “อี้ชวนเป็นเด็กจิตใจดี เรารู้มาตลอด”พวกซ่งรั่วเจินรออยู่นอกกระโจม สามารถได้ยินบทสนทนาที่ดังมาจากข้างในได้อย่างชัดเจน เหล่าพี่น้องสบตากัน อดนึกทอดถอนใจไม่ได้ อยู่ในราชวงศ์หากไม่มีสมองสักหน่อยคงจะไม่ได้จริงๆเกากุ้ยเฟยเอ่ยวาจาประโยคเดียวโดยไม่กระโตกกระตากก็เหมารวมความดีความชอบให้องค์ชายใหญ่ได้แล้ว ทั้งยังทำให้ฮ่องเต้จดจำความดีขององค์ชายใหญ่ไว้ได้ซ่งรั่วเจินเห็นอย่างนั้นก็รู้ว่าองค์ชายใหญ่รอดพ้นคราเคราะห์ครั้งนี้ไปได้แล้ว อย่างไรเสียตนเองก็ได้รับบาดเจ็บ ถึงสุดท้ายหลักฐานจะชี้ไปที่เขาก็ไม่มีน้ำหนัก แต่กลับทำให้คนมองว่ามีใครจงใจวางแผนใส่ร้ายเขามากกว่าส่วนฉู่จวินถิง นางกลับไม่กังวลใจเลยชายผู้นี้เก่งกาจมาแต่ไหนแต่ไร บัดนี้ทราบแผนการของนางแล้วก็คงเตรียมแผนรับมือไว้เป็นอย่างดีไม่ว่าอย่างไร สุดท้ายเรื่องนี้ก็ไม่มีทางพัวพันไปถึงเขา“จวินถิง เรื่องนี้ยกให้เจ้าไปสืบสวน จะต้องสืบสวนหาความจริงออกมาให้ได้!” ฮ่องเต้สั

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 466

    “ข้าไม่เห็นนางวางอุบายเจ้า เจ้าต่างหากที่หาเรื่องนางไปเสียทุกทาง!”ชั่วขณะนี้หลินจือเยว่ฟังไม่เข้าหูเลยสักนิด เรื่องที่ผ่านมาคอยวนเวียนอยู่ในหัวเขาไม่หยุด“ตอนแรกก็เป็นเจ้าที่หาเรื่องนางตลอด นางไม่เคยหาเรื่องเจ้าก่อนสักครั้ง หากไม่ใช่เพราะเจ้าคอยหาเรื่องนางครั้งแล้วครั้งเล่า ตอนนี้ก็คงไม่เป็นแบบนี้!”ช่วงเวลาที่ผ่านมา เขามีลางสังหรณ์เหมือนว่าทุกอย่างไม่ควรเป็นเช่นนี้ตอนนี้เขาควรมีชีวิตที่ยอดเยี่ยม ได้รับคำยกย่องสรรเสริญในเมืองหลวง ทั้งยังร่ำรวยทรัพย์สิน จะสิ้นเนื้อประดาตัวเหมือนตอนนี้ได้อย่างไร?ทุกอย่างล้วนไม่ถูกต้อง!ฉินซวงซวงเป็นคนทำลายชีวิตอันดีงามของเขา!ฉินซวงซวงมองหลินจือเยว่ที่ราวกับเสียสติไปแล้ว ตอนแรกยังประหวั่นลนลาน หากต่อมาก็อดจะขุ่นเคืองไม่ได้“ท่านพูดแบบนี้หมายความว่าอย่างไรกัน? ตอนแรกท่านพร่ำบอกว่าชอบข้าอยากแต่งงานกับข้า ข้าถึงได้ทิ้งทุกอย่างในครอบครัวมาหาท่าน”“ท่านบอกว่าจะยกตำแหน่งภรรยาเอกให้ข้า ไม่ปล่อยให้ข้าได้รับความน้อยเนื้อต่ำใจ ดีชั่วอย่างไรข้าก็เป็นคุณหนูตระกูลฉิน ยังจะให้ข้าเป็นอนุภรรยาของท่านอย่างนั้นหรือ?”“ข้าจริงใจต่อท่าน ท่านเล่าคู่ควรกับข้างั้น

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 465

    เมื่อซ่งเยี่ยนโจวกับซ่งจืออวี้ลงมือโดยมีซ่งอี้อันกับซ่งจิ่งเซินคอยช่วยเหลืออยู่ข้างๆ ในไม่ช้าก็สังหารไปได้หลายคน ขณะเดียวกันก็เหลือผู้รอดชีวิตไว้สองคน มีสองคนที่หนีไปได้ฉู่เทียนเช่อถูกแทงที่อกหนึ่งกระบี่ เลือดไหลย้อมอาภรณ์ สุดท้ายก็ทนไม่ไหวหมดสติล้มลงไปอาการของฉู่อี้ชวนดีกว่าบ้าง แต่ก็ได้แผลน้อยใหญ่มาไม่น้อย สีหน้าเผือดขาวในเวลาเดียวกันนั้น ซ่งรั่วเจินกับฉู่จวินถิงก็มาถึงบริเวณใกล้เคียงแล้วเมื่อมาเห็นภาพนี้ ทั้งคู่ก็ ‘ประหลาดใจ’ อย่างมากฉู่จวินถิงตามไปจับสองคนที่หนีไปได้อย่างรวดเร็ว ซ่งรั่วเจินส่งเชือกให้อย่างเอาใจใส่“ต้องเก็บคนเป็นๆ เอาไว้ กลับไปเค้นหาตัวการเบื้องหลัง”“เจ้าพูดถูก” ฉู่จวินถิงพยักหน้าอย่างเห็นพ้องคนทั้งสองคุมตัวมือสังหารเดินมาทางนี้ก็เห็นฉู่เทียนเช่อหมดสติ ฉู่อี้ชวนก็แลดูอ่อนแออย่างมาก“องค์ชายใหญ่ ท่านไม่เป็นไรกระมัง? พวกกระหม่อมจะส่งท่านกลับไปเดี๋ยวนี้” ซ่งเยี่ยนโจวกล่าวด้วยสีหน้าเป็นกังวลฉู่อี้ชวนมองสีหน้าเป็นห่วงเป็นใยตรงหน้าก็ไม่รู้เลยว่าควรพูดอย่างไรดี แค้นใจนักที่ไม่สามารถจัดการพวกคนตรงหน้าหนักๆ สักยก!แล้วมองซ่งรั่วเจินกับน้องสามของตนเอง ทันใ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 464

    เหล่ามือสังหารอึ้งไปชั่วเวลาสั้นๆ ก็ตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว“รนหาที่ตายอีกคน งั้นก็จัดการไปด้วยกันนี่แหละ!”อาชาพันธุ์ดีถูกแทงบาดเจ็บจึงส่งเสียงร้องแหลมวิ่งเตลิดหนี ส่วนฉู่อี้ชวนก็ถูกบังคับให้ต้องกระโดดลงมาจากม้า ตกอยู่ในวงล้อมมือสังหารด้วยกันกับฉู่เทียนเช่อ“น้องรอง นี่มันเรื่องอะไรกันแน่?” ฉู่อี้ชวนขมวดคิ้วมุ่น สายตาสำรวจไปรอบด้านไม่หยุด คิดว่าต้องทำอย่างไรจึงจะสามารถออกไปจากที่นี่จะว่าไปก็ประหลาดนัก ทั่วเขตล่าสัตว์หลวงมีคนไม่น้อย แต่ระหว่างทางมาเขากลับพบว่าบริเวณนี้มีคนน้อยยิ่งนักยามนี้เกิดความวุ่นวายใหญ่โตแบบนี้ รอบด้านกลับไม่มีคนปรากฏตัว หากจะรอให้มีคนมาช่วยเหลือพวกเขา ความเป็นไปได้คงมีน้อยมากความสับสนวาบผ่านแววตาฉู่เทียนเช่อ สีหน้ายังคงตื่นตระหนกลนลานดุจเดิม“ข้าล่าสัตว์มาแถวนี้พอดีจึงถูกพวกเขาทำร้ายบาดเจ็บ เสด็จพี่ ท่านรีบหนีไปเถอะ ครั้งนี้เป้าหมายของพวกเขาคือข้า!”ฉู่อี้ชวนนึกทอดถอนใจ สถานการณ์ตอนนี้เขาไม่อยากหนีเสียที่ไหน แต่เป็นเพราะหนีไม่พ้นต่างหากเล่า!“ยันไว้ได้เท่าไรก็เท่านั้น รอจนสบโอกาสค่อยหาทางหนีออกไป”“เคร้ง ๆ ๆ!”เสียงโลหะกระทบกันดังขึ้น เหล่ามือสังหารล

DMCA.com Protection Status