“บัดนี้สถานการณ์ของสกุลซ่งไม่ดี ทว่าหากได้ลั่วกั๋วกงช่วยเหลือ สกุลซ่งก็อาจกลับมารุ่งเรืองได้อีกครั้ง ซ่งเยี่ยนโจว สามารถอาศัยกำลังช่วยเหลือจากลั่วกั๋วกงก้าวขึ้นไปอีกหนึ่งชั้นได้!”สายตาเหยาจิ่นเฉิงเปี่ยมความมิอาจหักใจ อันที่จริงเขาไม่รู้สึกอะไรต่อลั่วชิงอิน เพียงคิดว่าสามารถหลับนอนกับสตรีที่ซ่งเยี่ยนโจวชมชอบได้ มากน้อยอย่างไรก็มีความสุขแน่นอน สำคัญที่สุดยังเป็นฐานะของลั่วกั๋วกงหากเปลี่ยนเป็นอดีต ลั่วชิงอินอายุยังน้อย ด้วยฐานะของพวกเขาสกุลเหยา เดิมทีก็ไม่สามารถเอื้อมถึงกุลลั่วสองปีมานี้ ตัวเขาเองก็พยายาม แต่อยากแหวกว่ายในราชสำนักดุจมัจฉาในวารีนี้ยากเพียงใด?หากมีที่พึ่งพาอาศัยเฉกเช่นลั่วกั๋วกง นั่นก็ไม่เหมือนกันแล้ว นี่ก็คือสาเหตุที่เขาเกิดความสนใจต่อลั่วชิงอินในตอนแรกบัดนี้ต้องประกบมือหลีกทางให้คนอื่น รู้สึกปวดแปลบไม่สบอารมณ์ภายในใจอย่างมิอาจหลีกเลี่ยง“เรื่องนี้แม่เองก็รู้ แต่สตรีที่ไม่สามารถคลอดลูกได้แม้คนเดียว เจ้าแต่งกลับมาก็คือภาระ!”“เจ้าดูร่างกายผอมบางเพียงลมพัดก็ปลิวของลั่วชิงอินคนนั้น เจ้ายังเป็นคนชอบทรมานคนอีกด้วย น่ากลัวว่าอยู่ได้ไม่นานก็ตายแล้ว” สวี่ซืออี้กังวลอ
สกุลซ่งทำให้พวกเขาขาดทุนหนักเพียงนี้ จะปล่อยไปอย่างง่ายดายได้เยี่ยงไร?ไม่มีวัน!“ดังนั้นสองวันนี้นางจะไปจัดการร้านขายสมุนไพรช่วงกลางคืนกระนั้นหรือ?”“ใช่ขอรับ”สายตาเหยาจิ่นเฉิงเผยแววนึกสนุก ซ่งเยี่ยนโจวขวัญกล้าส่งคนมาตีเขา กำเริบเสิบสานไม่กริ่งเกรงเพียงนี้ เขาจะทำให้ซ่งเยี่ยนโจวได้เสียเปรียบ! ก็ไม่รู้หลังได้รู้ว่าน้องสาวของตนถูกเขาทำลาย เขาจะยังสามารถหัวเราะออกมาได้อีกหรือไม่?......สีท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง ซ่งรั่วเจินยังตรวจนับบัญชีอยู่ภายในร้านขายสมุนไพรดังเดิมบัดนี้ร้านขายสมุนไพรของตระกูลเหยาอยู่ในมือของพวกเขา แต่ต้องการรับไว้ทั้งหมดโดยไร้ข้อสงสัยก็ยังมีเรื่องอีกมากต้องจัดการ พอดีจะได้รวมเข้ากับร้านขายสมุนไพรของตระกูลตนสมุนไพรส่วนหนึ่ง ก่อนนี้ช่องทางการซื้อของพวกเขามิอาจเทียบสกุลเหยาได้ บัดนี้ย่อมต้องใช้โอกาสนี้รับช่วงต่อด้วยกันเสียเลยเจ้าของร่างเดิมเชี่ยวชาญด้านการค้ามาก บังเอิญนางก็ไม่แย่ในด้านนี้ กอปรกับวิธีทำการค้ารูปแบบใหม่บางส่วน จึงจัดการเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี“คุณหนู ทั้งหมดล้วนทำตามคำสั่งของท่านแล้ว วางใจได้ พวกเราจะดูแลอย่างเป็นระเบียบขอรับ”ใบหน้าผู้จัดการ
เฉินเซียงเห็นคุณหนูถูกสะกดรอยตาม ถึงขั้นไม่ว้าวุ่นเลยสักนิด ชนิดที่ว่ายังดีใจอีกด้วย สายตาเปี่ยมความรู้สึกเหลือเชื่อ“คุณหนู ท่านฟังบ่าวนะเจ้าคะ ไม่รู้ว่าคนเหล่านี้ต้องการวางแผนทำอะไร ท่านยังรีบจากไปเร็วหน่อย บ่าวจะขวางพวกเขาไว้เอง!”ซ่งรัวเจินมองเฉินเซียงอย่างเอือมระอา เด็กคนนี้เอวบางร่างน้อย พวกเขาเข้ามาจับแค่คนเดียวก็แบกไปได้แล้ว กระนั้นสามารถมีน้ำใจเช่นนี้ได้ เทียบกับพวกชอบซุบซิบนินทาก็ดีกว่ามากนัก“อีกเดี๋ยวเดินถึงตรอกเล็กสายนั้น เจ้าก็หลบไปก่อน อย่าถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บเล่า”เฉินเซียงตกตะลึง รู้สึกเสียใจอย่างสุดระงับ หากรู้ตั้งแต่แรก ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ขอเดินกลับด้วยตนเองกับคุณหนู ก็ไม่รู้ว่าโหย่วฝูคนนั้นถูกคนซื้อไว้แล้วหรือไม่!คนสะกดรอยตามสองสามคนเห็นว่าซ่งรั่วเจินเข้าตรอกเล็กไปแล้ว ภายในใจนั่นเรียกว่าตื่นเต้น“โอกาสมาแล้ว เตรียมลงมือ!”ฝ่ายชายโบกมือ คนอื่นสองสามคนรีบถลันขึ้นไป ภายในสายตาเปี่ยมความตื่นเต้นอีกสักครู่ พวกเขาก็สามารถเพลิดเพลินได้ดีๆ หนึ่งรอบแล้วจากนั้น ชั่วขณะทุกคนเข้าตรอกเล็ก ไม้หนึ่งท่อนก็ฟาดลงบนศีรษะ ตีคนจนหมดสติไปทั้งอย่างนี้เลย“เจ้าสี่!”ทั้งส
“สี่คนนั้น พวกเราจะแจ้งทางการหรือไม่เจ้าคะ?”เฉินเซียงมองคนทั้งสี่ที่กำลังหมดสติ เอ่ยถามอย่างอดไม่ได้ “คุณหน มิสู้ให้บ่าวไปแจ้งทางการเถิด คนเหล่านี้ล้วนเป็นคนชั่ว บ่าวกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของคุณหนู”ซ่งรั่วเจินยิ้มน้อยๆ “ไม่จำเป็น อันธพาลสองสามคนนี้ต่อให้แจ้งทางการไปก็ไร้ประโยชน์ จับคนลงแรงอยู่ข้างหลังต่างหากสำคัญที่สุด”“คนลงแรงอยู่ข้างหลัง? พวกเขามิใช่เห็นหญิงงามจึงคิดชั่วขึ้นมาหรอกหรือ?” เฉินเซียงเบิกตาโต“เจ้าดูเสื้อผ้าที่พวกเขาสวม ก็แค่สามัญชนธรรมดาเท่านั้น ต่อให้ต้องการลงมือจริงก็จะเลือกแม่นางธรรมดา ขวัญกล้าลักพาตัวคุณหนูตระกูลชนชั้นสูง นี่มิใช่กำลังรนหาที่ตายหรอกหรือ?”เฉินเซียงเข้าใจแล้ว ทันใดนั้นค้นตัวทั้งสี่คน พบเชือกและยานอนหลับอย่างว่องไว“คุณหนู บนตัวพวกเขามีสิ่งเหล่านี้เจ้าค่ะ”ซ่งรั่วเจินพยักหน้า ใช้เชือกมัดคนทั้งสี่ไว้ จากนั้นเอ่ยว่า “เฉินเซียง เจ้ากลับไปแจ้งพี่สาม บอกเขาว่าข้ารอเขาอยู่ละแวกใกล้เคียงนี้”“แต่ท่านคนเดียว...” ครู่ต่อมาเฉินเซียงเปิดปาก แต่คิดถึงฝีมือยอดเยี่ยมของคุณหนูแล้ว พูดว่า “บ่าวจะรีบไปหาคนที่ร้านเจ้าค่ะ”อาศัยช่วงเวลาเฉินเซียงจากไ
“พี่สาม ข้าไม่เป็นไรเจ้าค่ะ แต่คนเหล่านี้ต้องให้ท่านช่วยจัดการแล้ว”ซ่งรั่วเจินยิ้มน้อยๆ สำคัญคือคนมีมาก นางเพียงคนเดียวจัดการได้ไม่สะดวกนักสองสามคนได้ยินว่าซ่งรั่วเจินต้องการจัดการตน ทันใดนั้นก็ตกตะลึง สายตาเปี่ยมความกลัว จะฆ่าคนปิดปากจริงหรือ?“อือๆ...”สองสามคนตกใจจนอยากเปิดปาก จนใจที่ถูกอุดเอาไว้ เปล่งออกมาไม่ได้แม้ครึ่งคำซ่งจืออวี้ยกกำปั้นขึ้น พูดอย่างดุดัน “ล้วนปิดปากให้สนิท!”คนเหล่านั้นตกตะลึง คิดเพียงว่าคนตรงหน้าคล้ายโหดร้ายมากยิ่งกว่าพวกเขาเสียอีก ตกใจใกล้ร้องไห้ออกมาแล้วต่อมา ซ่งจืออวี้ยิ้มตาหยีมองน้องหญิงของตน “น้องหญิงห้า รถม้าใกล้มาแล้ว เจ้าจะจัดการคนทั้งห้านี้เยี่ยงไร?”“ส่งพวกเขาไปที่ตรอกหย่งอัน...”ซ่งรั่วเจินบอกตำแหน่งที่ตั้งคร่าวๆ ให้ซ่งจืออวี้รู้ อีกทั้งยังกระซิบเสียงค่อยห้ามมิให้คนอื่นล่วงรู้ ดีที่สุดขับรถม้าไปด้วยตนเอง อย่าทิ้งจุดอ่อนใดเอาไว้ซ่งจืออวี้ตบอกรับประกันว่าไม่มีปัญหา “น้องหญิงห้า ยกพวกเขาเหล่านี้ให้ข้าเถอะ ข้ารับประกันจะส่งไปตามที่เจ้าพูด แต่เจ้าจะไปที่ใดเล่า?”ซ่งรั่วเจินยกมุมปาก “ข้ายังมีธุระอื่นต้องจัดการ พี่สาม ท่านต้องทำอย่างลึกลับสั
“เหตุใดนานเพียงนี้ก็ยังไม่มา? คงไม่ได้เกิดเหตุไม่คาดฝันจริงกระมัง?”เหอเซียงหนิงร้อนใจขึ้นมาอย่างสุดระงับ เพื่อให้ได้เห็นฉากพลอดรักของซ่งรั่วเจิน นางยังตั้งใจเตรียมยาแรงเป็นพิเศษอีกด้วยนึกถึงชายภายในกลุ่มนั้น หากซ่งรั่วเจินไม่ตกหลุมพราง นั่นไม่น่าเสียดายหรือ?พลั่ก!ซ่งรั่วเจินเดินเข้าไปข้างหลังเหอเซียงหนิง ใช้มือเดียวสับคนจนหมดสติไป“เหตุใดมีเพียงคนเดียวเล่า?”เมื่อครู่นางตรวจสอบรอบกายดูแล้วหนึ่งรอบ เว้นเสียแต่เหอเซียงหนิงก็ไม่เห็นเงาของฉินซวงซวง กลับรู้สึกเสียดายอยู่บ้างนางค้นพบห่อยาบนตัวเหอเซียงหนิงอย่างว่องไว เพียงเปิดออกก็พบว่ามิใช่ยานอนหลับ แต่เป็นยาปลุกกำหนัดฤทธิ์แรง“ก็คือหญิงใจคอโหดเหี้ยมไม่ผิดไปดังคาด!”ซ่งรั่วเจินบ่นอย่างเสียดาย จากนั้นมองเห็นพี่สามบ้านตนโยนคนทั้งสี่ที่กำลังหมดสติเข้าไปในเรือนหลังหนึ่ง ต่อมาจากไปเงียบๆ“พี่สามจัดการเรื่องพรรค์นี้ได้อย่างไร้ร่องรอย ต้องตกรางวัล!”เดิมทีเรื่องนี้ก็ไม่เหมาะให้คนรู้มากเกินไป ยิ่งไปกว่านั้นตรอกหย่งอันมีหูตามากมาย เป็นจุดศูนย์รวมของสามัญชน สามลัทธิเก้ากระแสล้วนรวมอยู่ที่นี่พวกฉินซวงซวงสองคนเพื่อทำร้ายนาง นับว่าใส่ใจ
ยามซ่งรั่วเจินกลับมาถึงจวนซ่งก็พบว่าไฟยังจุดสว่าง ทั้งๆ ที่สมควรเป็นเวลาพักผ่อนแล้ว ทุกคนยังนั่งอยู่ในโถงหลัก แปลกใจอย่างอดไม่ได้ คงมิใช่ถูกคนในครอบครัวพบแล้วกระมัง?ทั้งๆ ที่นางกำชับพี่สามและเฉินเซียงแล้ว ห้ามมิให้บอกคนอื่น คงมิใช่ถูกจับได้ว่องไวเพียงนี้หรอกกระมัง?อย่างไรเสียทำเรื่องชั่ว คนรู้ยิ่งน้อยก็ยิ่งดี ยิ่งไม่ต้องพูดว่าหลังมารดารู้เรื่องแล้ว จะต้องเก้อกระดากอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงจากนั้น นางเพิ่งเข้าไปโถงหลักก็ได้ยินเสียงเปี่ยมโทสะของพี่สาม “เหตุใดคนสกุลเหยาถึงไร้ยางอายเพียงนี้?”ซ่งรั่วเจินเลิกคิ้ว มองดูแล้วมิใช่เรื่องของนาง แต่มีบางอย่างเกิดขึ้นกับสกุลเหยา?“ท่านแม่ นี่เกิดเรื่องอันใดขึ้น?”นางเพิ่งเดินเข้าไปก็เห็นสีหน้าไม่สบอารมณ์ผิดปกติของหลิ่วหรูเยียน ซ่งเยี่ยนโจวใบหน้าแข็งทื่อดุจเหล็ก เห็นได้ชัดว่าอารมณ์ไม่ดีมาก“เจินเอ๋อร์ เจ้ากลับมาเสียที”หลิ่วหรูเยียนมองเห็นซ่งรั่วเจิน ความไม่พอใจกลายเป็นกังวล “ข้าได้ยินว่าพี่สามไปรับเจ้ามิใช่หรือ? แต่เห็นว่าพี่สามเจ้ากลับมาแล้ว กลับไม่เห็นเจ้า เจ้าไปที่ใดมา?”“ระหว่างทางเกิดเรื่องทำให้เสียเวลาเล็กน้อย จึงให้พี่สามกลับมาก่อนเ
แม้ว่าไม่มีหลักฐาน แต่คนบนโลกคว้าลมจับเงาได้เชี่ยวชาญที่สุด ขอเพียงสร้างเรื่องสักหน่อย ความรักความแค้นต่อศัตรูหัวใจก็ปรากฏขึ้นต่อสายตาของทุกคนแล้วทว่าคนยกหินใส่เท้าตนเองบนโลกนี้มีมากนัก วันนี้ข่าวลือยิ่งไม่น่าฟัง ละครวันพรุ่งนี้ก็ยิ่งสนุกเห็นซ่งรั่วเจินมั่นใจทุกคนจึงวางใจ พูดว่าพรุ่งนี้จะมีละครสนุกให้ดู ทำให้รู้สึกสงสัยอย่างอดไม่ได้“น้องหญิงห้า นี่คือเจ้าคำนวณออกมาหรือ?”บัดนี้ซ่งเยี่ยนโจวรู้ความสามารถของน้องหญิงห้าแล้ว เรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ ต้องรู้ว่ามีความเป็นไปได้สองประการประการแรกคือเดิมทีทั้งหมดก็คือการจัดแจงของน้องหญิง ประการที่สองคือคำนวณออกมาแล้วซ่งรั่วเจินพยักหน้า สายตาเผยแววเย็นชา “ในเมื่อเหยาจิ่นเฉิงกัดพี่ใหญ่ไม่ยอมปล่อย ไม่ยอมเป็นคนดี เช่นนั้นมิสู้ทำลายไปเสียเลย!”ทันใดนั้น คนภายในห้องล้วนสัมผัสได้ถึงไอเย็นในน้ำเสียงของซ่งรั่วเจิน รู้สึกสันหลังเย็นวาบล่วงเกินน้องหญิงบ้านตน ช่างไม่รู้ความเอาเสียเลย“ท่านแม่ พี่ใหญ่ พวกท่านพักผ่อนอย่างสบายใจเถิด รอเช้าวันพรุ่งนี้ พวกเราไปรับชมความครึกครื้นด้วยกัน”......ฉินซวงซวงแย้มยิ้มขึ้นรถม้าไป ภายในใจเปี่
ฉู่อวิ๋นกุยและสี่พี่น้องสกุลซ่งสังเกตเห็นความไม่ชอบมาพากล แต่ไหนแต่ไรมาฉู่อ๋องไม่ใช่คนปากไม่มีหูรูด ยิ่งไม่มีวันโจมตีองค์ชายสี่ร่างกายอ่อนแอโดยไร้สาเหตุในเมื่อเขาทำถึงเพียงนี้ ก็หมายความว่าเขาไม่ชอบเหลียงอ๋องเพราะเหตุนี้ ซ่งรั่วเจินจึงสังเกตเห็นว่าไม่ว่าอวิ๋นอ๋องหรือพี่ชายของตนก็ล้วนมีท่าทีเปลี่ยนไปในเวลาเพียงชั่วพริบตาฉู่เทียนเช่อเกิดความสงสัย หรือว่าฉู่อ๋องและเหลียงอ๋องมีความขัดแย้งใดที่เขาไม่รู้?“น้องสี่ ก่อนหน้านี้ข้ารู้เพียงว่าไม่ว่าโยนลูกศรลงไหหรือโยนห่วงเจ้าก็ล้วนแม่นยำทั้งสิ้น ในเมื่อวันนี้มาแล้ว ไม่สู้ให้พวกเราได้ประจักษ์ต่อสายตาสักหน่อย”ฉู่เทียนเช่อยังแย้มยิ้มดังเดิม หยิบห่วงทางด้านข้างวางไว้ในมือฉู่ซิ่นเหลียงเขาไม่สนใจหรอกว่าระหว่างทั้งสองคนมีความขัดแย้งกันหรือไม่ หากว่ามี นั่นก็ดีอย่างไม่ต้องสงสัย!“เช่นนั้นข้าจะลองดู”ฉู่ซิ่นเหลียงพยักหน้ายิ้มๆ สายตาสะท้อนแสงเย็นชาวูบหนึ่ง ครุ่นคิดภายในใจตกลงเขาปกปิดที่ใดไม่ดีถึงถูกฉู่อ๋องสังเกตเห็น?ทุกคนเห็นเหลียงอ๋องผู้อ่อนแอยกห่วงขึ้น มองแจกันดอกไม้ที่อยู่ไกลๆ วัดระยะครู่หนึ่งแล้วโยนออกไปได้เห็นห่วงนั้นสั่นไหวเล็กน้อยบ
ชั่วขณะฉู่จวินถิงได้เห็นเหลียงอ๋อง นัยน์ตาไร้คลื่นอารมณ์สะท้อนแสงเย็นวูบหนึ่งซ่งรั่วเจินสังเกตเห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปของฉู่จวินถิง ลอบตกตะลึงภายในใจ ใช่หรือไม่ว่าเขาพบอะไรเข้าแล้ว?ภายในหนังสือ ทีแรกไม่มีใครสังเกตเห็นความเจ้าเล่ห์ทะเยอทะยานของเหลียงอ๋อง เขาลอบวางอุบายอยู่เบื้องหลังมาโดยตลอด รับชมองค์ชายท่านอื่นกัดกันเหมือนสุนัขด้วยสายตาเย็นชาอยู่วงนอกและได้รับผลปะโยชน์ไปในตอนสุดท้ายกอปรกับเดิมทีหลินจือเยว่และฉินซวงซวงก็มีรัศมีของพระเอกนางเอก เพียงสองคนลงมือก็ไม่มีเรื่องใดไม่สามารถจัดการได้ทว่า บัดนี้หลินจือเยว่และฉินซวงซวงไร้ประโยชน์ไปแล้ว คาดว่าเหลียงอ๋องต้องการทำถึงขั้นนี้ก็น่าจะเป็นเรื่องยากกระมัง“ขอบคุณน้องหกมากที่ห่วงใย ระยะนี้ร่างกายข้าดีขึ้นบ้างแล้ว” เหลียงอ๋องผลิยิ้ม กลับไอออกมาสองทีโดยไม่รู้ตัว“เสด็จพี่ แม้ว่าระยะนี้อากาศอุ่นแล้ว แต่ท่านจะต้องรักษาสุขภาพให้ดี อย่าต้องความเย็นเป็นอันขาด ช่วงต้นวสันต์อากาศเย็นมากนัก เป็นหวัดได้ง่ายที่สุด” ฉู่มู่เหยาพูดอย่างห่วงใยฉู่เทียนเช่อมองสถานการณ์ของโยนลูกศรลงไหและพูดว่า “น้องสาม หากวันนี้เจ้าต้องการคว้าชัยชนะ น่ากลัวว่าไม่ง่ายถ
บัดนี้ได้เห็นท่าทางเช่นนี้ของนาง ก็อยากจะมอบสิ่งที่นางชอบทั้งหมดมาวางไว้ต่อหน้านาง“เสด็จพี่ มองเห็นแจกันดอกไม้อยู่ไกลที่สุดทางด้านหน้านั้นหรือไม่? ขอเพียงโยนลงเจ้านั่น ก็จะสามารถคว้าชัยชนะการแข่งขันโยนห่วงได้!”ฉู่อวิ๋นกุยชี้แจกันดอกไม้ที่อยู่ไกลที่สุด รอบข้างแจกันดอกไม้ล้วนเต็มไปด้วยห่วงที่คล้องเพียงความว่างเปล่า ตอนนี้ยังไม่มีคนโยนลงซ่งรั่วเจินเพ่งพินิจเล็กน้อย พบว่าแจกันดอกไม้ไม่เพียงแต่สูง ขนาดของปากแจกันยังแตกต่างจากห่วงไม่มากอีกด้วย คิดจะโยนให้ลงนั้นยากเสียยิ่งกว่ายาก!“งานเทศกาลโคมไฟของทุกปี การโยนห่วงนี้ยากที่สุด ข้าแทบจะไม่เคยเห็นคนโยนลงมาก่อน” ฉู่อวิ๋นกุยพูดอย่างเสียดายลั่วชิงอินเห็นแจกันดอกไม้ใหญ่ถึงเพียงนั้น ถอนหายใจออกมาอย่างอดไม่ได้ “เยี่ยนโจว การโยนห่วงนี้ยากเกินไปแล้วกระมัง มีคนโยนลงจริงหรือ?”“ยากจริงนั่นล่ะ แทบจะไม่มีใครสามารถโยนลงได้ จะต้องแม่นยำมากถึงจะใช้ได้ ต่อให้เป็นข้าก็ยากจะทำได้”ซ่งเยี่ยนโจวพยักหน้า แต่ไหนแต่ไรมาล้วนมีคนชื่นชมวิชายุทธ์ของเขา แต่บัดนี้ได้เห็นแจกันดอกไม้ขนาดเท่าห่วง รู้สึกเพียงว่าความยากนั้นมากเกินไป ดูท่าแล้วไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีคนส
ฉู่มู่เหยาเบิกตากว้าง เผยสีหน้าตกตะลึง นางคิดว่าซ่งจิงเซินได้สติแล้ว กลับคิดไม่ถึงว่าจะสูญเสียความทรงจำไป?“ข้ายังไม่แต่งงานเพราะคิดถึงเจ้า?” ซ่งจิ่งเซินถูกประโยคนี้ทำให้โมโหจนหัวเราะออกมาแล้ว “เจ้าวางใจได้ ข้าจะต้องแต่งงานแน่ เพียงแต่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีวันแต่งกับเจ้า”“เจ้าและชวีคั่วสมควรเป็นคู่รักสวรรค์สร้าง ข้าชี้แนะเจ้าให้รีบแต่งงาน ประเดี๋ยวจะทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน”เคอหยวนจื่อโมโหแทบแย่ “ท่านยังไม่ยอมรับ!”ฉู่มู่เหยาปิดปากหัวเราะ ลดเสียงให้เบาลง “คุณชายสี่ซ่ง เหตุใดเจ้ายังไม่ยอมแต่งงานเล่า? คงไม่ใช่ว่ากำลังรอเคอหยวนจื่อจริงๆ หรอกกระมัง?”ซ่งจิ่งเซินผินมองนางแวบหนึ่ง “องค์หญิง ท่านสนใจเรื่องงานแต่งของกระหม่อมทั้งวี่ทั้งวันเช่นนี้ไปทำไม? คงไม่ใช่...”ฉู่มู่เหยาเห็นสีหน้าหยอกเย้าของฝ่ายชาย สีหน้าแข็งทื่อไป “อะไรกันเล่า? ข้าไม่ได้สนใจงานแต่งของเจ้าเสียหน่อย”“ไม่ใช่ก็ดี” ซ่งจิ่งเซินถอนหายใจโล่งอกเฮือกหนึ่ง “หาไม่แล้วองค์หญิงดีๆ คนหนึ่งคิดอยากเป็นแม่สื่อ นั่นจะดีได้อย่างไร?”ฉู่มู่เหยา “???”“พี่สะใภ้ ข้าทนไม่ไหวแล้ว เขาถึงขั้นพูดว่าข้าอยากเป็นแม่สื่อ เจ้ารีบหาทางอุดปากเขาเถอ
ตอนนั้นเกิดเรื่องวุ่นวายใหญ่โตในพิธีล่าสัตว์ ต่อให้ผ่านไปนานแล้ว ทุกคนก็ยังจำได้ดังเดิม“ซ่งจิ่งเซิน แม่นางเคอท่านนั้นของเจ้าถูกตีน่าสารยิ่งนัก เจ้าไม่ไปช่วยหรือ?”ฉู่มู่เหยากะพริบตามองซ่งจิ่งเซิน ใบหน้าเผยรอยยิ้ม ระยะนี้ซ่งจิ่งเซินมักได้เห็นเรื่องตลกของนาง วันนี้นับว่าถึงตานางหยอกล้อซ่งจิ่งเซินแล้วซ่งจิ่งเซินเหล่มองนาง “พูดเช่นนี้แล้ว วันนี้คุณชายเสิ่นท่านนั้นของท่านเองก็อาจจะมาเช่นกัน มิสู้ลองหาดู?”ฉู่มู่เหยา “...หุบปากเจ้าเสีย”ซ่งจิ่งเซินเห็นรอยยิ้มฉู่มู่เหยาหายวับไปในทันใด หัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ “ก็แค่หนังหน้านี้ของท่าน ยังคิดล้อกระหม่อมเล่นอีกหรือ? กลับไปฝึกดีๆ เถอะ”ฉู่มู่เหยา “! ! !”กู้ฮวนเอ๋อร์และซ่งรั่วเจินเห็นท่าทางทะเลาะกันของสองคนนี้ สบตากันแวบหนึ่ง จู่ๆ ก็รู้สึกว่าสองคนนี้อยู่ด้วยกันช่างครึกครื้นเสียจริง“ที่นี่เอะอะเกินไปแล้ว พวกเราไปโยนห่วงทางนั้นเถอะ!” ฉู่อวิ๋นกุยเอ่ยปาก หันมองทางกู้ฮวนเอ๋อร์อีกครั้ง “อีกเดี๋ยวเจ้าชอบสิ่งใดก็บอกข้า ข้าจะช่วยเอามาให้เจ้า!”กู้ฮวนเอ๋อร์พยักหน้าลงด้วยความดีใจ จนกระทั่งตอนนี้ นางถึงเชื่อว่าอวิ๋นอ๋องชอบนางจริงๆ และยอมคบหากับน
ถังเสวี่ยหนิงย่อมไม่ยอมแพ้ เคอหยวนจื่อคนนี้มีดีอะไร ไม่ว่ามองอย่างไรซ่งจิ่งเซินก็ดีกว่านางมากนักไม่รู้จริงๆ ว่าเหตุใดถึงตาบอด ไปชอบผู้หญิงคนนี้ได้!ต้องรู้ว่าเมื่อแรกเคอหยวนจื่อร่ำรวยยิ่งกว่าบุตรีจวนอัครมหาเสนาบดีอย่างนางเสียอีก บัดนี้เห็นนางตกต่ำถึงขั้นนี้ นางกลับรู้สึกมีความสุขภายในใจ“มิน่าเล่าพวกเจ้าสองคนถึงสามารถเป็นสหายกันได้ ได้ยินมาว่าเสิ่นหวยอันทำได้กระทั่งทำลายชื่อเสียงขององค์หญิงเพื่อให้ได้เป็นราชบุตรเขย”“พวกเจ้ามีเวลาพูดไร้สาระอยู่ที่นี่ มิสู้ดูให้ดี องค์หญิงมู่เหยาและซ่งจิ่งเซินอยู่ด้วยกันแล้วเหมาะสมกันมากเพียงใด!”ต่อจากคำพูดของถังเสวี่ยหนิงที่เพิ่งจบลง สายตาของพวกเคอหยวนจื่อสองคนก็หันมองไปอย่างอดไม่ได้ มองเห็นฉู่มู่เหยาและซ่งจิ่งเซินกำลังพูดคุยหัวเราะให้กัน สนิทสนมกันไม่ธรรมดา“พวกเขาสนิทสนมกันถึงเพียงนี้ตั้งแต่ยามใด?”เคอหยวนจื่อโง่งมแล้ว มองทางซ่งปี้อวิ๋นอย่างอดไม่ได้ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ซ่งปี้อวิ๋นพูดว่าองค์หญิงและเสิ่นหวยอันมีความสัมพันธ์ไม่ธรรมดา เพราะเหตุนี้ซ่งปี้อวิ๋นจึงอารมณ์ไม่ดีนี่มันเรื่องอะไรกัน?ซ่งปี้อวิ๋นเองก็ตกใจอย่างสุดระงับ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้า
“ทว่าผ่านไปนานถึงเพียงนี้แล้ว เจ้าเคยได้ยินข่าวหมั้นหมายของทั้งสองคนหรือไม่?” ถังเสวี่ยหนิงถามกลับเถียนเจียวเจียวนี่ถึงวางใจลง “เช่นนั้นก็ดีแล้ว เสื้อผ้าหนึ่งชุดไม่นับเป็นอะไร ตอนนั้นซ่งจิ่งเซินนำของดีมากมายมามอบให้เคอหยวนจื่อ แต่สุดท้ายเจ้าดูเถอะ ยังไม่ใช่พูดว่าไม่เอาก็ไม่เอาแล้วหรอกหรือ?”ถังเสวี่ยหนิงหัวเราะเบาๆ พวกเขาย่อมได้ยินสถานการณ์ของเคอหยวนจื่อมาก่อน“พวกเจ้ากำลังว่าข้าหรือ?”เคอหยวนจื่อและซ่งปี้อวิ๋นยืนอยู่ด้วยกัน วันนี้ครึกครื้นอย่างมาก ทั้งสองคนย่อมไม่พลาดไป กอปรกับฉู่อ๋องโยนลูกศรลงไห ไม่รู้ว่าเรียกความสนใจของคนมากี่มากน้อย ดังนั้นพวกนางสองคนก็มารับชมความครึกครื้นเฉกเดียวกันคิดไม่ถึงเลยว่ายังไม่ทันได้เห็นสถานการณ์อย่างชัดเจน ก็ได้ยินสองคนนี้นินทาตนเอง สีหน้าเคอหยวนจื่อเปลี่ยนเป็นไม่สบอารมณ์ถังเสวี่ยหนิงและเถียนเจียวเจียวเองก็คิดไม่ถึงเลยว่าขณะกำลังนินทาคนก็จะบังเอิญได้พบเจ้าตัว ใบหน้าเผยแววเก้อกระดาก แต่กลับมาเป็นปกติอย่างว่องไวชาติกำเนิดของเคอหยวนจื่อยังไม่เพียงพอให้พวกนางชายตาแล!“ว่าเจ้าแล้วจะทำไมเล่า? หรือว่าไม่ใช่ความจริง?” เถียนเจียวเจียวเผยสีหน้าเย้ยหยัน
ซ่งรั่วเจินเห็นฉู่จวินถิงท่ามกลางกลุ่มคน เขาคล้ายเกิดมาเป็นตัวเอก รัศมีเปล่งประกายเหนือผู้อื่น ท่วงท่าสง่างามดุจหยก ทำให้คนยากจะเมินข้ามได้เทียบกับท่าทางเย็นชาในอดีต เขาในวันนี้มีรัศมีของชายหนุ่มมากหลายส่วนมองเห็นเขาคว้าชัยชนะครั้งแรกไปได้ ชั่วขณะหันใบหน้าประดับยิ้มมามองนาง หัวใจของนางเองก็ถูกทำให้หวั่นไหวโดยไม่รู้ตัว หัวใจเต้นเร็วยิ่งขึ้น“องค์ชาย นี่คือรางวัลคว้าชัยชนะโยนลูกศรลงไหของท่าน”ฝ่ายชายยื่นพู่สีแดงหนึ่งพวงมาให้อย่างเคารพนบนอบฉู่จวินถิงรับพู่ไป เดินมาหยุดต่อหน้าซ่งรั่วเจินด้วยท่วงท่าสง่างาม ใบหน้าหล่อเหลาสง่างามยามสบมองนางอ่อนโยนเป็นพิเศษ“เก็บไว้ให้ดี ข้าจะไปคว้าชัยชนะกลับมาให้มากๆ”ซ่งรั่วเจินมองพู่แดงในมือของตน แม้ว่าเป็นเพียงของรางวัลของผู้ชนะ กลับทำได้งดงามประณีตมาก ถักหัวใจสีแดงอย่างซับซ้อนห้อยเหรียญเอาไว้ ต่อให้นำมาเป็นเครื่องประดับก็งดงามไม่น้อยสำคัญที่สุดคือ...เสียงเปี่ยมความมั่นใจ คล้ายสามีไปหาเงินกลับมาได้และมอบให้ฮูหยินจัดการแม่นางรอบข้างได้เห็นภาพนี้ ภายในสายตาเปี่ยมความอิจฉา ใครสามารถคิดออกเล่าว่าฉู่อ๋องผู้สูงส่งและเย็นชาจะมีวันที่อ่อนโยนต่อแม่นาง
ฉู่จวินถิงมองซ่งรั่วเจินทางด้านข้าง ลดเสียงให้เบาลง “ข้าจะคว้าชัยชนะกลับมาให้เจ้าให้ได้”ทุกคนล้วนเห็นว่าฉู่อ๋องคิดจะโยนลูกศรลงไหจริง ภายในสายตาเปี่ยมความตกตะลึงพรึงเพริด นี่ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกหรือ!ภายในกลุ่มคน ถังเสวี่ยหนิงเองก็สังเกตเห็นการเคลื่อนไหวทางฝั่งนี้แล้ว มองเห็นฉู่อ๋องพาซ่งรั่วเจินออกมาเปิดเผยในฐานะคนรัก ภายในสายตาเปี่ยมความแค้นเคือง“ข้าดูแล้วฉู่อ๋องไม่ได้ชอบแม่นางซ่งลึกซึ้งมากมายอะไร หากชอบถึงเพียงนั้น ป่านนี้คงแต่งงานรับคนกลับไปนานแล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่มีความเคลื่อนไหวไม่ใช่หรือ?”เถียนเจียวเจียวเผยสีหน้าเย้ยหยัน นางเองก็ริษยาซ่งรั่วเจิน ถือสิทธิ์อะไรสตรีคนนี้วาสนาดีถึงเพียงนี้!ทว่าเห็นฉู่อ๋องกลับมาแล้ว ทั้งสองคนยังไม่แต่งงานกัน นางรู้สึกมีความสุขไม่น้อยภายในใจบัดนี้เห็นซ่งอี้อันแสดงความสามารถในราชสำนักได้ดีมากขึ้นเรื่อยๆ บิดาของนางชื่นชมเป็นครั้งคราว มารดาเองก็เสียดายที่นางไม่สามารถแต่งกับซ่งอี้อันได้ หาไม่แล้วบัดนี้จะต้องกลายเป็นที่อิจฉาของทุกคนแน่ทั้งหมดนี้ล้วนต้องโทษซ่งรั่วเจิน!“ไม่มีความเคลื่อนไหวจริงนั่นแหละ แต่ข้าได้ยินว่าฉู่อ๋องคล้ายมีเจตนาสู่ข