แชร์

บทที่ 194

ผู้เขียน: จี้เวยเวย
“ข้าจะไปตามจ้าวหงมาเอง!”

ลั่วหวยหลี่รีบเอ่ยขึ้นแล้วเรียกบ่าวรับใช้ไปตามหาคนโดยไม่ลังเล

ตอนนี้เขาดูออกแล้วว่าตระกูลฝานไร้ยางอายอย่างถึงที่สุด ตนเองทำเรื่องน่าละอายแล้วยังมาใส่ร้ายตระกูลซ่ง ทั้งยังคิดจะลากพี่หญิงรองของเขาลงน้ำไปด้วย ไม่มีวันเสียหรอก!

ผ่านไปไม่นาน จ้าวหงก็ถูกคนลากตัวมาโดยไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ ผู้ที่มาพร้อมกันยังมีเหยาจิ่นเฉิงอีกคน

เห็นว่าตรงหน้ามีผู้คนมากมาย จ้าวหงมีสีหน้าประหลาดใจ “พวกเจ้าจับข้ามาทำไม?”

“ค้นตัว!” ซ่งเยี่ยนโจวเอ่ยเสียงเย็นชา

ซ่งจืออวี้ลงมือทันที จ้าวหงเกร็งคอแผดเสียงลั่น “พวกเจ้ามีสิทธิ์อะไรมาค้นตัวข้า? ข้าเป็นแขกของตระกูลต่ง หนึ่งไม่ได้ลักขโมย สองไม่ได้ปล้นชิงสิ่งใด พวกเจ้าจะมาทำแบบนี้ไม่ได้!”

ทว่าความเร็วของซ่งจืออวี้ไวกว่า ค้นผ้าเช็ดหน้าสีชมพูออกมาจากอกเสื้อจ้าวหงได้ในทันที

“มีผ้าเช็ดหน้าจริงๆ ด้วย!” ทุกคนร่ำร้องฮือฮา

จ้าวหงมองผ้าเช็ดหน้าจากในอกเสื้อของตนด้วยความงุนงง ไม่เข้าใจว่าแค่ผ้าเช็ดหน้าผืนเดียวจะมีอะไรนักหนา ไม่แน่ว่าอาจเป็นแม่นางคนไหนแอบยัดไว้ก็เป็นได้

แต่เมื่อเห็นสีหน้าซีดเผือดของฝานซืออิ๋ง เขาก็พลันตระหนักถึงอะไรบางอย่าง ยิ่งเมื่อสบกับ
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 195

    “ข้า ข้าเปล่านะ”จ้าวหงส่ายหน้าไปมา ตอนนั้นหลังเกิดเรื่อง เขารู้สึกหวาดกลัวจึงเอาแต่หลบซ่อนตัวไม่ยอมออกไปไหนถึงจะเป็นตอนนี้ เขาก็พยายามหลบหน้าซ่งเยี่ยนโจวอย่างเต็มที่ คิดไม่ถึงว่าวันนี้จะถูกคนจับตัวมา!“วางยาอะไรกัน?” ลั่วหวยหลี่ตระหนักได้ถึงเลศนัยที่ซ่อนอยู่จึงรีบถามทันที “ตกลงปีนั้นเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”ความอึดอัดใจวาบผ่านใบหน้าของซ่งเยี่ยนโจว เขามองไปทางลั่วชิงอินโดยไม่รู้ตัว แต่กลับเห็นแววตาอ่อนโยนของนาง ราวกับให้กำลังใจให้เขาพูดต่อไป“ปีนั้นข้าถูกวางยาจนสลบไป พอตื่นขึ้นมาอีกครั้งในวันรุ่งขึ้น ฝานซืออิ๋งก็ปรากฏตัวขึ้นในห้องของข้า”ความจริงในปีนั้นถูกเปิดเผยในชั่วขณะนี้เอง!ทุกคนเบิกตากว้าง ก่อนหน้านี้ไม่เข้าใจมาตลอด ว่าเหตุใดคุณชายใหญ่ตระกูลซ่งจึงทอดทิ้งคู่หมายที่รู้จักกันตั้งแต่เด็ก มาสู่ขอฝานซืออิ๋งราวตัดสินใจอย่างแน่วแน่แล้วทุกคนล้วนคาดเดากันว่าคนทั้งสองคงเข้ากันไม่ได้จึงเกิดเป็นช่องว่างขึ้นมา มิฉะนั้นก็เป็นซ่งเยี่ยนโจวที่ไปสู่ขอคนอื่นเพราะความโมโหชั่วแล่น ถึงขั้นมีคนเดาว่าลั่วชิงอินร่างกายอ่อนแอเกินไป อาจมีลูกยากแต่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าซ่งเยี่ยนโจวถูกวางแผนร้าย!เ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 196

    “เป็นจริงแล้ว!”ทุกคนชมดูฉากนั้นด้วยความตกตะลึงพรึงเพริด ดวงตาสะท้อนความแตกตื่น รู้สึกเหลือเชื่อยิ่งนัก!คำสาบานที่เป็นจริงนั้นใช่ว่าจะไม่เคยมี แต่เห็นผลรวดเร็วปานนี้ต้องยกให้ครั้งนี้เป็นครั้งแรก!ซ่งเยี่ยนโจวกับซ่งจืออวี้มองไปทางซ่งรั่วเจินโดยไม่รู้ตัว คนอื่นไม่รู้ แต่พวกเขารู้ความสามารถของน้องสาวของพวกตนดีกล้าลั่นคำสาบานพล่อยๆ ต่อหน้าซ่งรั่วเจิน นี่มิเท่ากับรนหาที่ตายหรอกรึ?“เห็นผลทันตาขนาดนี้ แสดงว่าจ้าวหงโกหกน่ะสิ?”“จ้าวหงยืนกรานไม่ยอมรับ เห็นได้ชัดว่ามีอะไรในกอไผ่กับฝานซืออิ๋ง ทั้งยังช่วยนางวางยาซ่งเยี่ยนโจว เกรงว่าทรัพย์สมบัติที่ฝานซืออิ๋งหลอกลวงไปจากตระกูลซ่งในช่วงหลายปีนี้คงมีส่วนที่แบ่งไปให้เขาด้วยกระมัง?”ทุกคนยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าเป็นไปได้ สองคนนี้ร่วมมือกันทำชั่วชัดๆ เป็นพวกตะเภาเดียวกันน่าเสียดายก็แต่ซ่งเยี่ยนโจวกับลั่วชิงอินที่ต้องแยกจากกันเพราะเรื่องนี้ คนหนึ่งแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รัก อีกคนต้องเจ็บช้ำใจมานานหลายปี“เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร? เจ้าทำอะไรข้า?”จ้าวหงลนลานเสียแล้ว คำโกหกทำนองเดียวกันเขาพูดมามากกว่าหนึ่งครั้ง คำสาบานยิ่งไม่เคยสำแดงผลออกมาสักครั้ง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 197

    “วันถัดมา พวกข้าก็ส่งคนไปจับคู่หนุ่มสาวที่ลักลอบได้เสียกัน ทุกอย่างก็สำเร็จลุล่วงไปโดยปริยาย ซ่งเยี่ยนโจวไม่อาจไม่สู่ขอนาง”สิ้นเสียงจ้าวหง ความจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ในปีนั้นก็ถูกเปิดโปงออกมาจนหมดสิ้นตั้งแต่ต้นจนจบล้วนเป็นฝานซืออิ๋งที่วางแผนและสวมบทบาทด้วยตนเอง“เป็นการแต่งงานที่หลอกลวงมาแต่แรก นางยังมีหน้ามาหลงลำพองใจ กระทั่งไปพูดจาเยาะเย้ยต่างๆ นานาต่อหน้าแม่นางลั่วไม่ใช่แค่ครั้งเดียว คิดไม่ถึงว่าจะใช้วิธีการต่ำช้าเช่นนี้!”“ไม่อยากเชื่อเลยจริงๆ ว่าผู้หญิงคนหนึ่งจะมากเล่ห์เพทุบายเช่นนี้ คนพรรค์นี้แค่ปลดยังเป็นการไว้หน้านางด้วยซ้ำ ควรส่งตัวให้ทางการเลยต่างหาก!”แววตารังเกียจเหยียดหยามจับจ้องมาที่ฝานซืออิ๋ง พอได้ยินหนึ่งประโยค ใบหน้าฝานซืออิ๋งก็จะซีดลงหนึ่งส่วน แทบอยากจะขุดหลุมมุดแผ่นดินหนีเสียให้ได้“จ้าวหง ทำไมท่านถึงใส่ร้ายข้า!”ฝานซืออิ๋งพุ่งตัวไปถึงตรงหน้าจ้าวหงราวคนเสียสติ มือหนึ่งกระชากผมเขาพลางตบเพียะๆ สองฉาด“ข้าไปทำอะไรให้ท่าน ท่านถึงมาปรักปรำข้าแบบนี้!”เฉียนชิวเซียงก็ตระหนักว่าไม่อาจยอมรับความผิดนี้เป็นอันขาดจึงตวาดเสียงเกรี้ยว “ตระกูลซ่งให้ผลประโยชน์เจ้าไปมากเท่า

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 198

    “ปีนั้นฝานซืออิ๋งจ้างวานพวกข้า ให้พวกข้าเปิดประตูห้องนั้นในวันรุ่งขึ้น จะได้จับได้ว่าพวกเขาอยู่ด้วยกันอย่างคาหนังคาเขา”“นางยังบอกให้พวกข้าพาคนไปด้วยหลายคน ยิ่งเยอะยิ่งดี ถึงตอนนั้นคุณชายใหญ่ตระกูลซ่งก็ต้องแต่งงานกับนางเท่านั้น”“ตอนนั้นพวกข้าหวาดกลัวอยู่บ้าง ไม่กล้าให้คนรู้เรื่องมากเกินไป ดัง...ดังนั้นจึงพาคนไปแค่ไม่กี่คน...”หลังจากสองคนนั้นค่อยๆ บอกกล่าวเรื่องราวออกมา จ้าวหงก็พูดขึ้นทันที “ใช่แล้ว ตอนนั้นก็เป็นพวกเขาสองคนนี่แหละ พวกเขาเป็นญาติห่างๆ ของตระกูลฝาน ข้าเป็นพยานได้!”ฝานซืออิ๋งโมโหจ้าวหงจนแทบลมจับไปเลยทีเดียว!ผ้ากันอายทั้งหมดถูกกระชากออกไปแล้ว โฉมหน้าที่แสนอัปลักษณ์และเจ้าแผนการของนางถูกเปิดโปงออกมาต่อหน้าทุกคน“พวกเจ้าต้องบีบให้ข้าตายถึงจะพอใจงั้นรึ!”นางกรีดร้องออกมาสุดเสียง คาดคั้นซ่งเยี่ยนโจวเสียงแหลม “ดีชั่วอย่างไรข้าก็เป็นภรรยาท่าน ถึงระหว่างข้ากับท่านจะไม่มีความรู้สึกอยู่เลย แต่ข้าก็อยู่ในตระกูลซ่งมาสองปีเชียวนะ!”“ถึงไม่มีความชอบก็มีความเหนื่อยยาก ตอนนี้ท่านกลับมาทำลายข้าเพื่อลั่วชิงอิน!”“คนเราย่อมไม่อาจรอดพ้นจากกรรมที่ตนก่อ คนที่บีบคั้นทุกย่างก้าวคือเจ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 199

    ชิงอินรู้เรื่องมาโดยตลอดหรือ?นางรู้ทุกอย่างจึงเฝ้ารอเขามาโดยตลอด?ครั้นคิดถึงความเป็นไปได้ข้อนี้ หัวใจของซ่งเยี่ยนโจวก็พลันสั่นสะท้าน ความละอายที่เก็บงำไว้ในใจแตะถึงจุดสูงสุดในชั่วขณะนี้เองเขาเข้าใจมาตลอดว่านางโกรธเขา เกลียดเขา เขาจึงไม่มีหน้าไปเจอนาง ทั้งไม่มีความกล้าไปเจอนางด้วยเช่นกันสองปีมานี้ เรื่องเดียวที่เขาสามารถปลอบใจตัวเองได้ก็คือไม่ได้ทำให้ชิงอินเสียเวลา แม้ว่านางจะเกลียดเขาก็ตามทีนางควรเกลียดเขาสิแต่ทั้งที่นางรู้เรื่องราวทั้งหมดก็ยังทำเหมือนเชื่อคำพูดของเขา มองดูเขาแต่งงาน ส่งเขาไปสนามรบ กระทั่ง...ไม่ยอมออกเรือนเพื่อเขาสตรีที่อ่อนโยนเช่นนางต้องแบกรับความลำบากและความเจ็บปวดไว้มากมายเท่าไรกัน?น้ำตาร่วงเผาะลงมาจากหางตาของลั่วชิงอิน นางมองเงาร่างตรงหน้า ในดวงตามีเพียงความปวดใจนางเข้าใจ นางเข้าใจทุกอย่างนางเข้าใจความทุกข์และความอับจนปัญญาของซ่งเยี่ยนโจว ระหว่างตระกูลซ่งกับนาง เขาเลือกคนในครอบครัวถ้าเป็นนาง นางก็คงจะเลือกแบบเดียวกัน ไม่อาจทำให้ครอบครัวเดือดร้อนเพราะความรู้สึกส่วนตัวของตนเองหากเขาทำแบบนั้นก็คงไม่ใช่พี่ใหญ่ซ่งที่นางนับถือมาตลอดแล้วดังนั้นตอ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 200

    “เขาไม่ใช่คนไร้ประโยชน์!”ลั่วชิงอินแย้งกลับด้วยน้ำเสียงจริงจัง ดวงหน้าเล็กๆ ที่ขาวผ่องอ่อนโยนนั้นฉายแววโกรธกรุ่น“ข้ากับคุณชายเหยาไม่เหมาะสมกัน ส่วนว่าหลังจากนี้ข้าจะแต่งงานกับใคร มีบทสรุปเช่นไรก็ไม่เกี่ยวอันใดกับท่าน”“เหยาจิ่นเฉิง ท่านมันชั่วจริงๆ!”ลั่วหวยหลี่ตวัดสายตามองเหยาจิ่นเฉิงอย่างรังเกียจ ในใจกลับลอบยินดี โชคดีที่พี่หญิงรองไม่ต้องออกเรือนให้เจ้าหมอนี่!เขาตงิดใจมาตลอดว่าคนคนนี้ไม่ใช่คนดีอะไร ภรรยาคนก่อนเสียชีวิตเพราะคลอดยากก็ดูมีอะไรไม่ชอบมาพากล น่าเสียดายที่สืบไม่พบข้อมูลอันใดซ่งจืออวี้เข็นพี่ใหญ่ของตนตามหลังไป เหยาจิ่นเฉิงกลับมาขวางตรงหน้าซ่งเยี่ยนโจว แววตาขุ่นขวาง“ซ่งเยี่ยนโจว ไม่เจอกันสองปี เจ้าหน้าไม่อายกว่าเดิมอีกนะ!”“จงใจส่งคนมาชนจนรถม้าของข้าพังเพื่อจะได้เจอกับลั่วชิงอิน เจ้าก็ไม่คิดบ้างว่าตอนนี้เจ้ามันก็แค่คนพิการคนหนึ่ง คู่ควรกับนางงั้นรึ?”ซ่งเยี่ยนโจวมองเหยาจิ่นเฉิงที่แสดงความเกรี้ยวกราดตรงหน้าด้วยแววตาเย็นชา “คนพิการถึงอย่างไรก็ยังเป็นคน ดีกว่าสุนัขมากนัก”“เจ้ากล้าด่าว่าข้าเป็นสุนัข!” เหยาจิ่นเฉิงเดือดดาลสุดระงับ ทำท่าจะลงมือ ซ่งจืออวี้ก็เข้ามาขวา

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 201

    เซียวอี้เจ๋อยิ้มระรื่นมองไปยังซ่งรั่วเจิน ดวงตาของเขาสะท้อนฉายแววต้องการเอาชนะก่อนนี้เขาไม่รู้เลยว่าคุณหนูสกุลซ่งผู้นี้จะเป็นหญิงงามเลิศถึงเพียงนี้!ทั้งผิวพรรณ ทั้งรูปร่าง รสชาติย่อมต้องไม่ธรรมดาเป็นแน่! หลินจือเยว่ก็ช่างตาบอดเสียนี่กระไร ถึงได้ทิ้งขว้างของชั้นดีแบบนี้ไปได้?“ไม่ว่าง”ซ่งรั่วเจินปรากฏความรังเกียจฉายวาบในดวงตา เจ้าหมอนี่ช่างไม่เข้าใจภาษาคนเสียจริง ก่อนนี้ปฏิเสธไปแล้วแท้ๆ ยังกล้าเข้ามาตอแยอยู่อีก“แม่นางซ่งจะรีบปฏิเสธไปไย? ข้าเป็นถึงเซียวอี้เจ๋อแห่งสกุลเซียว เรื่องที่เจ้าถอนหมั้นข้าก็ได้ยินมานานแล้ว และก็รู้ว่าเจ้ากำลังกลุ้มใจเรื่องแต่งงาน”“ในความเห็นข้า ในเมืองหลวงนี้คนที่คู่ควรกับเจ้ามีน้อยนัก ไยไม่มาเป็นอนุภรรยาของข้าเล่า ทุกสิ่งที่สกุลซ่งต้องการ ข้าจะช่วยเหลือเต็มที่ เจ้าคิดว่าอย่างไร?”เซียวอี้เจ๋อมั่นใจเต็มเปี่ยม สกุลซ่งเมื่อไม่มีซ่งหลิน ก็เริ่มเสื่อมถอยด้อยอำนาจลงเรื่อย ๆลูกชายสี่คน คนหนึ่งพิการ คนหนึ่งตาบอด อีกคนมุทะลุชอบใช้กำลัง ไหนจะยังมีพ่อค้าที่ไม่รู้ความอะไรนอกจากการค้าขายอยู่อีกคน หากไม่รีบหาที่พึ่ง สกุลซ่งย่อมรักษาสถานภาพเอาไว้ไม่ได้เป็นแน่แต

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 202

    “ฉู่อ๋องเพคะ วันนี้หม่อมฉันได้พบคุณชายเซียวเป็นครั้งแรก แต่เขากลับดันทุรังจะให้หม่อมฉันเป็นอนุภรรยา พอปฏิเสธก็มาข่มขู่ ขอท่านอ๋องคืนความยุติธรรมแก่หม่อมฉันด้วยเพคะ!”ซ่งรั่วเจินจ้องมองไปยังฉู่จวินถิงด้วยดวงตาใสกระจ่างแม้การพบปะกับฉู่จวินถิงจะไม่บ่อยครั้งนัก แต่นางก็พอจะเข้าใจอุปนิสัยของเขาอยู่บ้างอย่างน้อย ฉู่อ๋องผู้ทรงเกียรติก็ไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อย แม้ว่าครั้งก่อนจะจากไปอย่างไม่ค่อยพอใจนัก แต่วันนี้เขาก็ยอมช่วยนางสั่งสอนคน เห็นได้ชัดว่าใจกว้างเพียงใด อีกทั้งยังช่วยนางเรียกร้องความเป็นธรรมเซียวอี้เจ๋อไม่คาดคิดว่าซ่งรั่วเจินจะใจกล้าบ้าบิ่นเช่นนี้ ใครๆ ต่างก็รู้ว่าฉู่อ๋องเย็นชา ไม่ควรไปหาเรื่องเพียงใด นางกลับกล้าร้องขอให้ฉู่อ๋องช่วยนางงั้นหรือ?นางคงคิดว่าตนงดงาม ฉู่อ๋องจะต้องถูกตาต้องใจนางกระมัง?ฉู่อ๋องเพียงไม่พอใจที่เขาแทะโลมหญิงสาว แต่หากบอกว่าสั่งสอนเขาเพราะซ่งรั่วเจินแล้วล่ะก็ ก็แค่ความฝันโง่งมหรอก!“ซ่งรั่วเจิน เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใคร? ถึงกล้าขอให้ฉู่อ๋องช่วยเจ้า เจ้าไม่ดูตัวเองเสียบ้างว่าคู่ควรหรือไม่!”“หากข้าเป็นเจ้า ข้าคงรีบคุกเข่าลงโขกศีรษะเสียเดี๋ยวนี้แล้ว...”

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 970

    ฉู่อวิ๋นกุยและสี่พี่น้องสกุลซ่งสังเกตเห็นความไม่ชอบมาพากล แต่ไหนแต่ไรมาฉู่อ๋องไม่ใช่คนปากไม่มีหูรูด ยิ่งไม่มีวันโจมตีองค์ชายสี่ร่างกายอ่อนแอโดยไร้สาเหตุในเมื่อเขาทำถึงเพียงนี้ ก็หมายความว่าเขาไม่ชอบเหลียงอ๋องเพราะเหตุนี้ ซ่งรั่วเจินจึงสังเกตเห็นว่าไม่ว่าอวิ๋นอ๋องหรือพี่ชายของตนก็ล้วนมีท่าทีเปลี่ยนไปในเวลาเพียงชั่วพริบตาฉู่เทียนเช่อเกิดความสงสัย หรือว่าฉู่อ๋องและเหลียงอ๋องมีความขัดแย้งใดที่เขาไม่รู้?“น้องสี่ ก่อนหน้านี้ข้ารู้เพียงว่าไม่ว่าโยนลูกศรลงไหหรือโยนห่วงเจ้าก็ล้วนแม่นยำทั้งสิ้น ในเมื่อวันนี้มาแล้ว ไม่สู้ให้พวกเราได้ประจักษ์ต่อสายตาสักหน่อย”ฉู่เทียนเช่อยังแย้มยิ้มดังเดิม หยิบห่วงทางด้านข้างวางไว้ในมือฉู่ซิ่นเหลียงเขาไม่สนใจหรอกว่าระหว่างทั้งสองคนมีความขัดแย้งกันหรือไม่ หากว่ามี นั่นก็ดีอย่างไม่ต้องสงสัย!“เช่นนั้นข้าจะลองดู”ฉู่ซิ่นเหลียงพยักหน้ายิ้มๆ สายตาสะท้อนแสงเย็นชาวูบหนึ่ง ครุ่นคิดภายในใจตกลงเขาปกปิดที่ใดไม่ดีถึงถูกฉู่อ๋องสังเกตเห็น?ทุกคนเห็นเหลียงอ๋องผู้อ่อนแอยกห่วงขึ้น มองแจกันดอกไม้ที่อยู่ไกลๆ วัดระยะครู่หนึ่งแล้วโยนออกไปได้เห็นห่วงนั้นสั่นไหวเล็กน้อยบ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 969

    ชั่วขณะฉู่จวินถิงได้เห็นเหลียงอ๋อง นัยน์ตาไร้คลื่นอารมณ์สะท้อนแสงเย็นวูบหนึ่งซ่งรั่วเจินสังเกตเห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปของฉู่จวินถิง ลอบตกตะลึงภายในใจ ใช่หรือไม่ว่าเขาพบอะไรเข้าแล้ว?ภายในหนังสือ ทีแรกไม่มีใครสังเกตเห็นความเจ้าเล่ห์ทะเยอทะยานของเหลียงอ๋อง เขาลอบวางอุบายอยู่เบื้องหลังมาโดยตลอด รับชมองค์ชายท่านอื่นกัดกันเหมือนสุนัขด้วยสายตาเย็นชาอยู่วงนอกและได้รับผลปะโยชน์ไปในตอนสุดท้ายกอปรกับเดิมทีหลินจือเยว่และฉินซวงซวงก็มีรัศมีของพระเอกนางเอก เพียงสองคนลงมือก็ไม่มีเรื่องใดไม่สามารถจัดการได้ทว่า บัดนี้หลินจือเยว่และฉินซวงซวงไร้ประโยชน์ไปแล้ว คาดว่าเหลียงอ๋องต้องการทำถึงขั้นนี้ก็น่าจะเป็นเรื่องยากกระมัง“ขอบคุณน้องหกมากที่ห่วงใย ระยะนี้ร่างกายข้าดีขึ้นบ้างแล้ว” เหลียงอ๋องผลิยิ้ม กลับไอออกมาสองทีโดยไม่รู้ตัว“เสด็จพี่ แม้ว่าระยะนี้อากาศอุ่นแล้ว แต่ท่านจะต้องรักษาสุขภาพให้ดี อย่าต้องความเย็นเป็นอันขาด ช่วงต้นวสันต์อากาศเย็นมากนัก เป็นหวัดได้ง่ายที่สุด” ฉู่มู่เหยาพูดอย่างห่วงใยฉู่เทียนเช่อมองสถานการณ์ของโยนลูกศรลงไหและพูดว่า “น้องสาม หากวันนี้เจ้าต้องการคว้าชัยชนะ น่ากลัวว่าไม่ง่ายถ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 968

    บัดนี้ได้เห็นท่าทางเช่นนี้ของนาง ก็อยากจะมอบสิ่งที่นางชอบทั้งหมดมาวางไว้ต่อหน้านาง“เสด็จพี่ มองเห็นแจกันดอกไม้อยู่ไกลที่สุดทางด้านหน้านั้นหรือไม่? ขอเพียงโยนลงเจ้านั่น ก็จะสามารถคว้าชัยชนะการแข่งขันโยนห่วงได้!”ฉู่อวิ๋นกุยชี้แจกันดอกไม้ที่อยู่ไกลที่สุด รอบข้างแจกันดอกไม้ล้วนเต็มไปด้วยห่วงที่คล้องเพียงความว่างเปล่า ตอนนี้ยังไม่มีคนโยนลงซ่งรั่วเจินเพ่งพินิจเล็กน้อย พบว่าแจกันดอกไม้ไม่เพียงแต่สูง ขนาดของปากแจกันยังแตกต่างจากห่วงไม่มากอีกด้วย คิดจะโยนให้ลงนั้นยากเสียยิ่งกว่ายาก!“งานเทศกาลโคมไฟของทุกปี การโยนห่วงนี้ยากที่สุด ข้าแทบจะไม่เคยเห็นคนโยนลงมาก่อน” ฉู่อวิ๋นกุยพูดอย่างเสียดายลั่วชิงอินเห็นแจกันดอกไม้ใหญ่ถึงเพียงนั้น ถอนหายใจออกมาอย่างอดไม่ได้ “เยี่ยนโจว การโยนห่วงนี้ยากเกินไปแล้วกระมัง มีคนโยนลงจริงหรือ?”“ยากจริงนั่นล่ะ แทบจะไม่มีใครสามารถโยนลงได้ จะต้องแม่นยำมากถึงจะใช้ได้ ต่อให้เป็นข้าก็ยากจะทำได้”ซ่งเยี่ยนโจวพยักหน้า แต่ไหนแต่ไรมาล้วนมีคนชื่นชมวิชายุทธ์ของเขา แต่บัดนี้ได้เห็นแจกันดอกไม้ขนาดเท่าห่วง รู้สึกเพียงว่าความยากนั้นมากเกินไป ดูท่าแล้วไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีคนส

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 967

    ฉู่มู่เหยาเบิกตากว้าง เผยสีหน้าตกตะลึง นางคิดว่าซ่งจิงเซินได้สติแล้ว กลับคิดไม่ถึงว่าจะสูญเสียความทรงจำไป?“ข้ายังไม่แต่งงานเพราะคิดถึงเจ้า?” ซ่งจิ่งเซินถูกประโยคนี้ทำให้โมโหจนหัวเราะออกมาแล้ว “เจ้าวางใจได้ ข้าจะต้องแต่งงานแน่ เพียงแต่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีวันแต่งกับเจ้า”“เจ้าและชวีคั่วสมควรเป็นคู่รักสวรรค์สร้าง ข้าชี้แนะเจ้าให้รีบแต่งงาน ประเดี๋ยวจะทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน”เคอหยวนจื่อโมโหแทบแย่ “ท่านยังไม่ยอมรับ!”ฉู่มู่เหยาปิดปากหัวเราะ ลดเสียงให้เบาลง “คุณชายสี่ซ่ง เหตุใดเจ้ายังไม่ยอมแต่งงานเล่า? คงไม่ใช่ว่ากำลังรอเคอหยวนจื่อจริงๆ หรอกกระมัง?”ซ่งจิ่งเซินผินมองนางแวบหนึ่ง “องค์หญิง ท่านสนใจเรื่องงานแต่งของกระหม่อมทั้งวี่ทั้งวันเช่นนี้ไปทำไม? คงไม่ใช่...”ฉู่มู่เหยาเห็นสีหน้าหยอกเย้าของฝ่ายชาย สีหน้าแข็งทื่อไป “อะไรกันเล่า? ข้าไม่ได้สนใจงานแต่งของเจ้าเสียหน่อย”“ไม่ใช่ก็ดี” ซ่งจิ่งเซินถอนหายใจโล่งอกเฮือกหนึ่ง “หาไม่แล้วองค์หญิงดีๆ คนหนึ่งคิดอยากเป็นแม่สื่อ นั่นจะดีได้อย่างไร?”ฉู่มู่เหยา “???”“พี่สะใภ้ ข้าทนไม่ไหวแล้ว เขาถึงขั้นพูดว่าข้าอยากเป็นแม่สื่อ เจ้ารีบหาทางอุดปากเขาเถอ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 966

    ตอนนั้นเกิดเรื่องวุ่นวายใหญ่โตในพิธีล่าสัตว์ ต่อให้ผ่านไปนานแล้ว ทุกคนก็ยังจำได้ดังเดิม“ซ่งจิ่งเซิน แม่นางเคอท่านนั้นของเจ้าถูกตีน่าสารยิ่งนัก เจ้าไม่ไปช่วยหรือ?”ฉู่มู่เหยากะพริบตามองซ่งจิ่งเซิน ใบหน้าเผยรอยยิ้ม ระยะนี้ซ่งจิ่งเซินมักได้เห็นเรื่องตลกของนาง วันนี้นับว่าถึงตานางหยอกล้อซ่งจิ่งเซินแล้วซ่งจิ่งเซินเหล่มองนาง “พูดเช่นนี้แล้ว วันนี้คุณชายเสิ่นท่านนั้นของท่านเองก็อาจจะมาเช่นกัน มิสู้ลองหาดู?”ฉู่มู่เหยา “...หุบปากเจ้าเสีย”ซ่งจิ่งเซินเห็นรอยยิ้มฉู่มู่เหยาหายวับไปในทันใด หัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ “ก็แค่หนังหน้านี้ของท่าน ยังคิดล้อกระหม่อมเล่นอีกหรือ? กลับไปฝึกดีๆ เถอะ”ฉู่มู่เหยา “! ! !”กู้ฮวนเอ๋อร์และซ่งรั่วเจินเห็นท่าทางทะเลาะกันของสองคนนี้ สบตากันแวบหนึ่ง จู่ๆ ก็รู้สึกว่าสองคนนี้อยู่ด้วยกันช่างครึกครื้นเสียจริง“ที่นี่เอะอะเกินไปแล้ว พวกเราไปโยนห่วงทางนั้นเถอะ!” ฉู่อวิ๋นกุยเอ่ยปาก หันมองทางกู้ฮวนเอ๋อร์อีกครั้ง “อีกเดี๋ยวเจ้าชอบสิ่งใดก็บอกข้า ข้าจะช่วยเอามาให้เจ้า!”กู้ฮวนเอ๋อร์พยักหน้าลงด้วยความดีใจ จนกระทั่งตอนนี้ นางถึงเชื่อว่าอวิ๋นอ๋องชอบนางจริงๆ และยอมคบหากับน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 965

    ถังเสวี่ยหนิงย่อมไม่ยอมแพ้ เคอหยวนจื่อคนนี้มีดีอะไร ไม่ว่ามองอย่างไรซ่งจิ่งเซินก็ดีกว่านางมากนักไม่รู้จริงๆ ว่าเหตุใดถึงตาบอด ไปชอบผู้หญิงคนนี้ได้!ต้องรู้ว่าเมื่อแรกเคอหยวนจื่อร่ำรวยยิ่งกว่าบุตรีจวนอัครมหาเสนาบดีอย่างนางเสียอีก บัดนี้เห็นนางตกต่ำถึงขั้นนี้ นางกลับรู้สึกมีความสุขภายในใจ“มิน่าเล่าพวกเจ้าสองคนถึงสามารถเป็นสหายกันได้ ได้ยินมาว่าเสิ่นหวยอันทำได้กระทั่งทำลายชื่อเสียงขององค์หญิงเพื่อให้ได้เป็นราชบุตรเขย”“พวกเจ้ามีเวลาพูดไร้สาระอยู่ที่นี่ มิสู้ดูให้ดี องค์หญิงมู่เหยาและซ่งจิ่งเซินอยู่ด้วยกันแล้วเหมาะสมกันมากเพียงใด!”ต่อจากคำพูดของถังเสวี่ยหนิงที่เพิ่งจบลง สายตาของพวกเคอหยวนจื่อสองคนก็หันมองไปอย่างอดไม่ได้ มองเห็นฉู่มู่เหยาและซ่งจิ่งเซินกำลังพูดคุยหัวเราะให้กัน สนิทสนมกันไม่ธรรมดา“พวกเขาสนิทสนมกันถึงเพียงนี้ตั้งแต่ยามใด?”เคอหยวนจื่อโง่งมแล้ว มองทางซ่งปี้อวิ๋นอย่างอดไม่ได้ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ซ่งปี้อวิ๋นพูดว่าองค์หญิงและเสิ่นหวยอันมีความสัมพันธ์ไม่ธรรมดา เพราะเหตุนี้ซ่งปี้อวิ๋นจึงอารมณ์ไม่ดีนี่มันเรื่องอะไรกัน?ซ่งปี้อวิ๋นเองก็ตกใจอย่างสุดระงับ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้า

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 964

    “ทว่าผ่านไปนานถึงเพียงนี้แล้ว เจ้าเคยได้ยินข่าวหมั้นหมายของทั้งสองคนหรือไม่?” ถังเสวี่ยหนิงถามกลับเถียนเจียวเจียวนี่ถึงวางใจลง “เช่นนั้นก็ดีแล้ว เสื้อผ้าหนึ่งชุดไม่นับเป็นอะไร ตอนนั้นซ่งจิ่งเซินนำของดีมากมายมามอบให้เคอหยวนจื่อ แต่สุดท้ายเจ้าดูเถอะ ยังไม่ใช่พูดว่าไม่เอาก็ไม่เอาแล้วหรอกหรือ?”ถังเสวี่ยหนิงหัวเราะเบาๆ พวกเขาย่อมได้ยินสถานการณ์ของเคอหยวนจื่อมาก่อน“พวกเจ้ากำลังว่าข้าหรือ?”เคอหยวนจื่อและซ่งปี้อวิ๋นยืนอยู่ด้วยกัน วันนี้ครึกครื้นอย่างมาก ทั้งสองคนย่อมไม่พลาดไป กอปรกับฉู่อ๋องโยนลูกศรลงไห ไม่รู้ว่าเรียกความสนใจของคนมากี่มากน้อย ดังนั้นพวกนางสองคนก็มารับชมความครึกครื้นเฉกเดียวกันคิดไม่ถึงเลยว่ายังไม่ทันได้เห็นสถานการณ์อย่างชัดเจน ก็ได้ยินสองคนนี้นินทาตนเอง สีหน้าเคอหยวนจื่อเปลี่ยนเป็นไม่สบอารมณ์ถังเสวี่ยหนิงและเถียนเจียวเจียวเองก็คิดไม่ถึงเลยว่าขณะกำลังนินทาคนก็จะบังเอิญได้พบเจ้าตัว ใบหน้าเผยแววเก้อกระดาก แต่กลับมาเป็นปกติอย่างว่องไวชาติกำเนิดของเคอหยวนจื่อยังไม่เพียงพอให้พวกนางชายตาแล!“ว่าเจ้าแล้วจะทำไมเล่า? หรือว่าไม่ใช่ความจริง?” เถียนเจียวเจียวเผยสีหน้าเย้ยหยัน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 963

    ซ่งรั่วเจินเห็นฉู่จวินถิงท่ามกลางกลุ่มคน เขาคล้ายเกิดมาเป็นตัวเอก รัศมีเปล่งประกายเหนือผู้อื่น ท่วงท่าสง่างามดุจหยก ทำให้คนยากจะเมินข้ามได้เทียบกับท่าทางเย็นชาในอดีต เขาในวันนี้มีรัศมีของชายหนุ่มมากหลายส่วนมองเห็นเขาคว้าชัยชนะครั้งแรกไปได้ ชั่วขณะหันใบหน้าประดับยิ้มมามองนาง หัวใจของนางเองก็ถูกทำให้หวั่นไหวโดยไม่รู้ตัว หัวใจเต้นเร็วยิ่งขึ้น“องค์ชาย นี่คือรางวัลคว้าชัยชนะโยนลูกศรลงไหของท่าน”ฝ่ายชายยื่นพู่สีแดงหนึ่งพวงมาให้อย่างเคารพนบนอบฉู่จวินถิงรับพู่ไป เดินมาหยุดต่อหน้าซ่งรั่วเจินด้วยท่วงท่าสง่างาม ใบหน้าหล่อเหลาสง่างามยามสบมองนางอ่อนโยนเป็นพิเศษ“เก็บไว้ให้ดี ข้าจะไปคว้าชัยชนะกลับมาให้มากๆ”ซ่งรั่วเจินมองพู่แดงในมือของตน แม้ว่าเป็นเพียงของรางวัลของผู้ชนะ กลับทำได้งดงามประณีตมาก ถักหัวใจสีแดงอย่างซับซ้อนห้อยเหรียญเอาไว้ ต่อให้นำมาเป็นเครื่องประดับก็งดงามไม่น้อยสำคัญที่สุดคือ...เสียงเปี่ยมความมั่นใจ คล้ายสามีไปหาเงินกลับมาได้และมอบให้ฮูหยินจัดการแม่นางรอบข้างได้เห็นภาพนี้ ภายในสายตาเปี่ยมความอิจฉา ใครสามารถคิดออกเล่าว่าฉู่อ๋องผู้สูงส่งและเย็นชาจะมีวันที่อ่อนโยนต่อแม่นาง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 962

    ฉู่จวินถิงมองซ่งรั่วเจินทางด้านข้าง ลดเสียงให้เบาลง “ข้าจะคว้าชัยชนะกลับมาให้เจ้าให้ได้”ทุกคนล้วนเห็นว่าฉู่อ๋องคิดจะโยนลูกศรลงไหจริง ภายในสายตาเปี่ยมความตกตะลึงพรึงเพริด นี่ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกหรือ!ภายในกลุ่มคน ถังเสวี่ยหนิงเองก็สังเกตเห็นการเคลื่อนไหวทางฝั่งนี้แล้ว มองเห็นฉู่อ๋องพาซ่งรั่วเจินออกมาเปิดเผยในฐานะคนรัก ภายในสายตาเปี่ยมความแค้นเคือง“ข้าดูแล้วฉู่อ๋องไม่ได้ชอบแม่นางซ่งลึกซึ้งมากมายอะไร หากชอบถึงเพียงนั้น ป่านนี้คงแต่งงานรับคนกลับไปนานแล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่มีความเคลื่อนไหวไม่ใช่หรือ?”เถียนเจียวเจียวเผยสีหน้าเย้ยหยัน นางเองก็ริษยาซ่งรั่วเจิน ถือสิทธิ์อะไรสตรีคนนี้วาสนาดีถึงเพียงนี้!ทว่าเห็นฉู่อ๋องกลับมาแล้ว ทั้งสองคนยังไม่แต่งงานกัน นางรู้สึกมีความสุขไม่น้อยภายในใจบัดนี้เห็นซ่งอี้อันแสดงความสามารถในราชสำนักได้ดีมากขึ้นเรื่อยๆ บิดาของนางชื่นชมเป็นครั้งคราว มารดาเองก็เสียดายที่นางไม่สามารถแต่งกับซ่งอี้อันได้ หาไม่แล้วบัดนี้จะต้องกลายเป็นที่อิจฉาของทุกคนแน่ทั้งหมดนี้ล้วนต้องโทษซ่งรั่วเจิน!“ไม่มีความเคลื่อนไหวจริงนั่นแหละ แต่ข้าได้ยินว่าฉู่อ๋องคล้ายมีเจตนาสู่ข

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status