หน้าหลัก / รักโบราณ / ทะลุมิติมาเลี้ยงดูบิดาตาบอด / บทที่ 2 ชีวิตใหม่ของหยางเทียนหรง

แชร์

บทที่ 2 ชีวิตใหม่ของหยางเทียนหรง

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-09 15:26:37

บทที่ 2 ชีวิตใหม่ของหยางเทียนหรง

         

“ทำไมยายแก่นั่นถึงโหดร้ายมากขนาดนี้ นั่นหลานตัวเองไม่ใช่หรือไง ตีกันจนตายได้ยังไง” หยางเทียนหรงมองดูเด็กน้อยที่มีชื่อเหมือนกับตนเองแต่แต่งกายราวกับอยู่ในยุคโบราณ อีกทั้งยังมีใบหน้าคล้ายคลึงตนเองในตอนเด็กอีก ด้วยความสงสารตนจึงก่นด่าหญิงชราใจร้ายไม่หยุด

          เขาไม่คิดว่าการที่ตนเองหมดอายุขัยในโลกเดิมด้วยโรคร้ายอย่างมะเร็งปอดระยะสุดท้าย สิ่งที่คิดคือ ตนอาจจะต้องไปชดใช้กรรมในนรกสักแห่งหรือไม่ก็ไปเกิดใหม่เป็นสุนัขไม่ก็เดรัจฉานสักตัวในโลกใหม่ ไม่ใช่ถูกดึงวิญญาณมาโผล่ยุคโบราณแบบนี้

          “แล้วคุณพาผมมาที่นี่ทำไมครับ ไม่ส่งไปเกิดใหม่หรือไงกัน” หยางเทียนหรงเอ่ยถามบุรุษข้างกายที่ยืนเงียบไม่พูดไม่จากับตนตั้งแต่พามาดูเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว

          “เจ้ามีนามว่าอะไรนะ” เสียงทุ้มเปล่งออกมาถามหลังก้มมองบันทึกการเกิดใหม่ในโลกจีนโบราณอีกครั้ง เพราะดวงวิญญาณที่ตนต้องนำมานั้นต้องมีนามว่า ‘หยางเทียนหลง’ วิญญาณชายหนุ่มผู้มีชะตาเป็นฮ่องเต้ไม่ใช่เด็กน้อยที่มีชะตาน่าอดสูเช่นนี้

          มิน่าถึงได้มาโผล่ที่นี่แทนที่จะเป็นวังหลวง

          หรือเจ้าหนุ่มนี่มีชะตาผูกกันกับเด็กคนนั้นกัน

          แต่ดวงวิญญาณของเด็กคนนั้นแตกสลายไปแล้วน่ะสิ แล้วทำไมกายหยาบถึงได้บอกว่าเจ้าของร่างมีอายุขัยนับร้อยปีกันทั้งที่ดวงวิญญาณไม่อยู่แล้ว

          “ผมหรือครับ หยางเทียนหรง น่ะสิ แล้วคุณจะให้ผมไปเกิดใหม่ได้หรือยัง ไม่เอาบ้านของยายแก่นั่นนะ ไม่อย่างนั้นผมคงได้วางมวยแน่”

          ผิดไปตัวอักษรเดียวงั้นหรือ

          แล้วเขาจะส่งอีกฝ่ายกลับไปได้อย่างไรในเมื่อโลกแห่งดวงวิญญาณได้ปิดลงไปแล้ว หากรั้งรอดวงวิญญาณของเจ้าหนุ่มได้แตกสลายตามเด็กน้อยชะตาอาภัพผู้นั้นเป็นแน่

          “เจ้าไม่ตกใจหรือที่ข้าพามายังสถานที่แห่งนี้” ผู้คุมดวงวิญญาณเอ่ยถามด้วยความสงสัย บุรุษผู้นี้ไม่มีท่าทีตื่นตระหนกหรือหวาดกลัวหน่อยหรือ

          “ผมจะตกใจทำไมครับในเมื่อผมตายแล้ว อีกอย่างผมอยากเกิดใหม่จะแย่แล้วอยู่ในร่างคนป่วยมานานก็อยากจะได้ร่างใหม่ที่ไร้โรคภัย สุขภาพแข็งแรง แล้วก็มีเงินเยอะจนใช้แทบไม่หมดบ้างก็เท่านั้น”

นี่ไม่ใช่การตัดพ้อให้อีกฝ่ายเห็นใจแต่อย่างใด ไม่ใช่เลยจริง ๆ แม้ตนไม่ใช่คนดีมากนักแต่ก็ไม่อยากเกิดใหม่ในร่างสุนัขจรจัดหรอกนะ

          “ไม่เอาเกิดเป็นหมาจรได้ไหมครับ ขอเป็นหมาคนรวยแทนนะ”  

          “เจ้าพูดอะไรของเจ้า ข้ากำลังคิดอยู่ว่าจะทำอย่างไรกับเจ้าดี”

          “ทำไมครับ หรือผมต้องเกิดเป็นหมาจริง ๆ”

          “ความจริงแล้วข้าพาวิญญาณมาผิดดวงน่ะ จริง ๆ แล้วเจ้าต้องไปชดใช้กรรมหนึ่งร้อยปีก่อนจะได้ไปเกิดใหม่ในโลกที่เจ้าเคยจากมาดังเดิม แต่วิญญาณที่ข้าต้องการนั้นเขาต้องมาเกิดเป็นฮ่องเต้ของแคว้นอี้หลางซึ่งมีชะตาเป็นมังกร แต่เจ้าไม่ใช่”

          “อ่าว แล้วผมต้องทำยังไงครับ นี่มันเป็นความผิดของคุณเลยนะ คุณต้องรับผิดชอบ” ให้ตายเถอะแม้แต่ผู้คุมดวงวิญญาณก็มีความผิดพลาดหรือนี่ เขาไม่อยากจะเชื่อเลย

          “ถ้าเช่นนั้น เจ้ายอมไปอยู่ในร่างของเด็กคนนั้นแทนได้หรือไม่เล่า” ผู้คุมดวงวิญญาณเสนอทางเลือกเดียวที่มีให้แก่ชายหนุ่ม

          “หลานของยายแก่มหาปะลัยนั่นน่ะหรือ ไม่เอาหรอกครับ” หยางเทียนหรงส่ายหน้า เขาไม่อยากไปวางมวยกับหญิงชราจนอีกฝ่ายความดันขึ้นหรอกนะ

          “หากเจ้าปฏิเสธ ดวงวิญญาณของเจ้าจะแตกดับไปร้อยปี จากนั้นจึงได้ไปเกิดใหม่อีกครั้ง แต่จะได้เกิดเป็นสุนัขจรจัด หลังเจ้าตายอีกครั้งจึงจะได้เกิดเป็นมนุษย์อีกครั้ง”

          “มันจะเกินไปแล้วนะครับ คุณเอาวิญญาณผมมาผิดแล้วยังคิดที่จะลอยแพกันอีกแบบนี้มันใช้ได้ที่ไหน ผมพึ่งตายนะ ดวงวิญญาณไร้ญาติ ตอนมีชีวิตก็ป่วยกระเสาะกระแสะจนตาย แล้วยังมาถูกใครก็ไม่รู้ที่บกพร่องในหน้าที่ทำร้ายอีก โฮ ผมจะร้องเรียนเจ้านายของคุณ ว่าคุณทำงานห่วยแตกมาก” ชายหนุ่มคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวดรวดร้าวพลางเหล่สายตาไปยังผู้คุมวิญญาณตรงหน้าเล็กน้อยว่าอีกฝ่ายจะหลงกลความการละครของตนหรือไม่

          พาเขามาผิดที่แล้วจะไม่รับชอบกันมันใช้ได้ที่ไหน

          เขาไม่ยอมหรอกนะ

          “เอาล่ะ ข้าผิดเองที่นำพาดวงวิญญาณของเจ้ามาผิดที่ ดังนั้นข้าจะรับผิดชอบด้วยการมอบไก่วิเศษให้เจ้าหนึ่งตัว ไก่ตัวนี้มันจะให้ผลผลิตแก่เจ้าไปตลอดทั้งชีวิตจนกว่าตัวเจ้าจะตายจากโลกแห่งนี้ไป อ้อ แล้วต้องเป็นไก่ที่เจ้าสัมผัสเป็นตัวแรกหลังจากเข้าร่างเด็กคนนี้”

            “ให้แค่ไก่หนึ่งตัวทั้งที่คุณพาดวงวิญญาณผมมาผิดดวงเนี่ยนะ ให้น้อยเกินไปไหม เห็นคนอื่นเขาได้มิติเก็บของเอย น้ำพุวิเศษเอาไว้ปลูกผัก หรือแม้แต่มิติห้างสรรพสินค้าอะไรนั่นน่ะ มีประโยชน์กว่าไก่ตัวเดียวอีก ให้อย่างอื่นไม่ได้หรือไงกัน”

            แล้วทำไมต้องเป็นไก่ด้วย เขาไม่เข้าใจ

          “สำหรับเจ้าที่ควรจะได้เกิดเป็นสุนัขจรจัด ของแค่นี้ก็นับว่าดีเกินไป เพราะฉะนั้นหลังจากที่ฟื้นขึ้นจงใช้สติเลือกให้ดี ข้าต้องไปแล้ว”

            เอาจริงดิให้แค่ไก่ตัวเดียวเนี่ยนะ ไอ้ผู้คุมวิญญาณเฮงซวย!

“อ้าว เดี๋ยวสิคุณ เหวอ”

          ให้ตายสิ ไม่น่าเลย หากจับได้ไก่ตัวผู้จะทำอย่างไรดี หยางเทียนหรงยืนตีอกชกลมได้ไม่นานก็ถูกดึงดวงวิญญาณให้กลับไปเข้าร่างของเด็กหรงหรงอย่างไม่ตั้งตัว 

          อึก

          “ร่างกายนี้มันจะเจ็บปวดเกินไปแล้ว ยายแก่นั่นใจร้ายจริง ๆ ทุบตีไม่ยั้งมือกับเด็กตัวแค่นี้” หยางเทียนหรงเปิดเปลือกตาขึ้นมาอย่างเชื่องช้า ความรู้สึกแรกหลังจากที่รู้สึกตัวคือความเจ็บปวดตามร่างกายโดยเฉพาะบริเวณศีรษะที่คาดว่าน่าจะบวมช้ำไม่น้อย ต่อมาคือความทรงจำของเจ้าของร่างตั้งแต่ยังจำความได้มาจนถึงปัจจุบัน

          สารเลวนัก

          คนแซ่อันทั้งหลายอย่าให้ตนได้แข็งแรงบิดาจะสั่งสอนให้รู้สำนึก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทะลุมิติมาเลี้ยงดูบิดาตาบอด   บทที่ 3 สูญเสีย

    บทที่ 3 สูญเสียหยางเทียนหรงในร่างเด็กน้อยยังคงนอนแผ่ที่พื้นดินใต้ต้นไม้ใหญ่อยู่เช่นนั้นเพราะยังคงระบมจากบาดแผลที่ถูกทุบตีจากหญิงชราที่เป็นยายของเจ้าของร่าง คนเป็นป้าก็ไม่คิดที่จะห้ามปรามแต่กลับเป็นผู้นำร่างมาทิ้งให้สัตว์ป่ากัดกินซากเพื่อทำลายหลักฐานสารเลวนักคนเหล่านี้ไม่ควรได้รับการอภัยไม่ว่าจะสำนึกหรือไม่ก็ตามยิ่งความทรงจำสุดแสนจะเจ็บปวดของเจ้าของร่างที่ตนเพียงแค่หลับตายมันก็ประดังประเดเข้ามายิ่งกว่าสายธารไหลเชี่ยว มันยิ่งทำให้ตนรู้ว่าเด็กน้อยตรงหน้าผ่านเหตุการณ์เลวร้ายมาได้อย่างยากลำบากซึ่งเกิดจากการกระทำของผู้เป็นยายในวันที่แสงจันทราถูกรัตติกาลกลืนกินจนมืดมิดไปทั่วทั้งหมู่บ้านซีเป่ย คนในหมู่บ้านต่างกำลังหลับใหลอยู่ในเรือนกันอย่างมีความสุขยกเว้นคนในเรือนสกุลหยางที่กำลังเตรียมตัวเดินทางออกจากหมู่บ้านเพื่อไปงานเลี้ยงของจวนขุนนางที่อยู่เมืองหลวง “เจ้ามัวแต่รีรออะไรอยู่เหมยเอ๋อร์ รถม้าของจวนใต้เท้าหลี่ออกมารอที่หน้าหมู่บ้านแล้วไปแต่งกายให้งดงามเร็วเข้า” โจวซือเหยียนเอ่ยเร่งเร้าบุตรสาวที่ยังคงอยู่ในอาภรณ์เปรอะเปื้อนไร้ความงดงามทั้งที่มันได้เวลาออกเดินทางแล้ว แต่อีกฝ่ายย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-09
  • ทะลุมิติมาเลี้ยงดูบิดาตาบอด   บทที่ 4 ทุบตีจนตาย

    บทที่ 4 ทุบตีจนตายแม้หญิงชราออกปากตัดขาดสองพ่อลูกออกจากสกุลอัน แต่มันกลับเป็นเพียงแค่ลมปากเท่านั้น เพราะทุกวันนางจะมารอช่วงชิงของป่าที่หลานชายแสนชังหามาได้จากชายป่าทั้งที่ของป่าพวกนั้นเรือนสกุลอันมิเคยขาดแคลนมันเลยแม้แต่น้อยวันนี้ก็เช่นเดียวกัน“เอากระต่ายของข้ามานะ ท่านยายเหตุใดท่านจึงมิห้ามปรามหลางเกอขอรับ เขามาแย่งชิงกระต่ายของข้า” มือน้อยพยายามแย่งชิงกระต่ายผอมแห้งกลับคืนมาหลังจากตนเพิ่งจับมาได้อย่างยากลำบาก เด็กน้อยทวงความยุติธรรมแต่สิ่งตอบแทนกลับล้วนเป็นความเจ็บปวดที่ผู้เป็นยายนั้นตั้งใจมอบให้“ท่านยายข้าอยากกินเนื้อกระต่ายย่างขอรับ” หลานชายอีกคนเป็นผู้แย่งชิงกระต่ายตัวน้อยมาจากเด็กน้อยผอมซูบ แล้วยังหันไปเอ่ยกับผู้เป็นยายว่าตนนั้นอยากกินสัตว์ป่าตัวนี้ทั้งที่มันมิใช่ของตน “เอาสิหลานรัก เดี๋ยวเย็นนี้ให้แม่ของเจ้าทำให้กินดีหรือไม่”“แต่น้องชายไร้ค่าไม่ให้ข้าขอรับ”“เพ้ย กับแค่กระต่ายตัวเดียวแค่นี้จะแบ่งให้พี่ชายเจ้ามิได้เชียวหรือ”“แต่มันคืออาหารของบิดาและข้านะขอรับท่านยาย แล้วจะให้ข้าแบ่งปันให้หลางเกอได้อย่างไรกัน โอ้ย ฮึก ท่านยายข้าเจ็บ” “หลานอกตัญญูเจ้ากล้าขัดข้าอย่างนั้นหรื

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-09
  • ทะลุมิติมาเลี้ยงดูบิดาตาบอด   บทที่ 5 แม่ไก่ยักษ์

    บทที่ 5 แม่ไก่ยักษ์ “ต้องขอบคุณเด็กคนนี้ที่เคยเข้าป่ากับพ่ออยู่บ้าง ไม่อย่างนั้นฉันต้องหลงป่าตายแทนที่จะได้เอาคืนยายแก่นั่น” หยางเทียนหรงพยายามยันตนเองขึ้นมาจากพื้นดินที่เต็มไปด้วยใบไม้แห้งกรอบ พลางปัดเศษใบไม้ที่ติดตามเสื้อผ้าจนเห็นว่าลักษณะของเสื้อที่สวมใส่อยู่นั้นสมกับเป็นจีนยุคโบราณเสียจริง “คนสมัยก่อนเขาไม่รู้สึกว่ามันโล่งเลยหรือไงกันถึงได้ใส่แค่เสื้อคลุมกับกางเกงยาวแบบนี้โดยไม่ใส่ชั้นใน” แม้จะเอ่ยถามเช่นนั้นแต่ก็ไม่มีใครให้คำตอบเขาได้อยู่ดี ดังนั้นหยางเทียนหรงจึงทำได้เพียงปลดปลงแล้วค่อย ๆ ก้าวเดินกลับไปตามเส้นทางที่มุ่งสู่บ้านหลังน้อยของตนที่อยู่ไม่ไกลเท่าไหร่นัก “ก่อนที่จะตายเด็กคนนี้ถูกแย่งผิงกั๋วไปนั่นหมายความว่าป่านนี้แล้วพ่อต้องยังไม่ได้กินอะไรแน่ เราต้องหาของป่ากลับไปกินด้วย อึก ซี่โครงหักหรือเปล่าเนี่ย ทำไมมันเจ็บแบบนี้นะ” เพราะถูกแย่งชิงผิงกั๋วไปหยางเทียนหรงจึงคิดไปเองว่าบิดาของเจ้าของร่างนั้นคงยังไม่ได้กินอะไรแน่นอน ดังนั้นตนจึงคิดเก็บของป่ากลับไปด้วย กะต๊าก กะต๊าก เสียงไก่นี่ อย่าบอกนะว่าไก่ที่ผู้คุมวิญญาณมอบให

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-09
  • ทะลุมิติมาเลี้ยงดูบิดาตาบอด   บทที่ 6 จากไปแล้ว

    บทที่ 6 จากไปแล้ว “ฮ่า ฮ่า ข้าจะบอกให้เจ้ารู้เอาไว้ ว่าบุตรชายที่เจ้ารักนักหนายามนี้ คงกลายเป็นอาหารสัตว์ป่าไปแล้ว อดีตบุตรเขยของข้าเอ๋ย”เท้าของหญิงชราเหยียบลงกลางอกของบุรุษที่มีรูปลักษณ์ซูบตอบอีกทั้งยังตาบอดจนช่วยตนเองแทบไม่ได้ ชาวบ้านหลายคนมามุงดูแต่ก็รีบกลับไปหลังเจอคำขู่จากภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านว่าจะไม่ให้กู้ยืมตำลึงหากมาช่วยอดีตลูกเขยไร้ค่าสาเหตุที่ชาวบ้านเพิกเฉยการช่วยเหลือสองพ่อลูกนั่นเป็นเพราะสกุลอันทำการปล่อยเงินกู้โดยใช้ที่นามาแลกเปลี่ยนและยังคิดดอกเบี้ยเจ็ดส่วนจากสิบส่วน แม้จะดูขูดเลือดไปแต่กลับไม่มีผู้ใดกล้าเอ่ยแย้งด้วยเกรงกลัวว่าตนเองจะไม่ได้เงิน “ยายแก่นี่เอาอีกแล้วนะ ไหนบอกแยกบ้านกันไปแล้วไง ทำไมถึงได้มาวุ่นวายกับสองพ่อลูกนี่อีก ตัวเองก็มีเงินมากกว่าแท้ ๆ” พลัก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
  • ทะลุมิติมาเลี้ยงดูบิดาตาบอด   บทที่ 7 อ่อนแอเกินไป

    บทที่ 7 อ่อนแอเกินไป การสูญเสียทุกอย่างที่รักไปมันทำให้คนคนหนึ่งตายทั้งเป็นได้เลย บิดาผู้นี้กำลังเป็นเช่นนั้น หยางเทียนหรงรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดที่อีกฝ่ายส่งออกมา ทั้งน้ำเสียงและท่าทางชวนให้คนมองรู้สึกสลดไปด้วย บุรุษที่เคยองอาจจนสามารถล่าสัตว์มาขายเลี้ยงครอบครัวภรรยาได้จนสามารถซื้อเกวียนม้าเทียมได้นับว่าเก่งกาจยิ่งนัก แต่แล้วต้องมาตกอยู่ในห้วงแห่งความมืดมิดแม้แต่จะเดินไปทางก็ยังต้องมีคนนำทางเช่นนี้ หากเขาเป็นเช่นนั้นลางทีตนอาจจะปลิดชีพตนเองไปแล้วก็เป็นได้ หยางเทียนหรงไม่อาจบอกให้บิดาปล่อยวางได้แต่ถ้าหากปล่อยอีกฝ่ายกล่าวโทษตนเองเช่นนี้คงไม่เป็นผลดีนัก  

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-11
  • ทะลุมิติมาเลี้ยงดูบิดาตาบอด   บทที่ 8 ก่อไฟครั้งแรก

    บทที่ 8 ก่อไฟครั้งแรก ในห้วงแห่งความทรงจำนั้นเด็กน้อยมิเคยได้เห็นขั้นตอนการก่อไฟทำอาหารของมารดาเลยแม้แต่ครั้งเดียว เพราะเอาแต่ตามบิดาเข้าไปล่าสัตว์และหาของป่าเท่านั้น ไม่เคยได้เข้าใกล้ฟืนไฟจนมาวันนี้ ฉะนั้นเขาต้องการผู้ช่วยโดยด่วนขืนยังยืนงงงวยเช่นนี้เห็นทีวันนี้คงไม่มีสิ่งใดตกถึงท้องแน่แท้หลังจากที่ยืนงงงวยอยู่ไม่นาน เด็กน้อยจึงเดินไปหาบิดาที่ยังคงนั่งรออยู่ที่ชานเรือนดังเดิม แล้วเอ่ยถามด้วยความเขินอาย “ท่านพ่อขอรับข้าก่อไฟไม่เป็น” “อ่า จริงสิ เจ้ายังไม่เคยถูกสอนเรื่องก่อไฟสินะ เช่นนั้นพาบิดาไปที่ครัวเดี๋ยวข้าจะบอกเจ้าเองว่าต้องทำอย่างไรบ้าง”บิดาคลำไปโดยรอบจนพบเข้ากับเสาจากนั้นจึงจับยึดเอาไว้แล้วพยุงตนเองให

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-12
  • ทะลุมิติมาเลี้ยงดูบิดาตาบอด   บทที่ 1 เด็กอัปมงคล

    บทที่ 1 เด็กอัปมงคล“เอาผิงกั๋วมาให้ข้าเดี๋ยวนี้ เจ้าเด็กสารเลว” เสียงก่นด่าพลางแกะมือน้อย ๆ ออกจากผลผิงกั๋วที่หลานชายกำมันเอาไว้แน่นด้วยความโมโห เพราะอีกฝ่ายขัดขืนนางจึงลงมือผลักไหล่เจ้าตัวจนเด็กน้อยล้มลงไปบนพื้นดิน “ท่านยายเอาคืนข้ามานะขอรับ นี่มันของท่านพ่อของข้านะ” หลานชังวัยแปดปีอย่าง ‘หยางเทียนหรง’ ไม่ยินยอมจึงเกิดการแย่งชิง แต่แรงอันน้อยนิดของเด็กน้อยมันจะสู้แรงของยายเฒ่าแสนอ้วนท้วมได้อย่างไรกัน พลัก ตุบ “โอ้ย ฮึก” “ให้ข้ามาตั้งแต่แรกก็สิ้นเรื่องแล้ว” ยายเฒ่าไม่ได้ใส่ใจเลยแม้แต่น้อยว่าหลานชายตรงหน้าจะเจ็บปวดที่ใดนางสนแค่เพียงผลไม้ลูกโตนี่เท่านั้น “แต่ผิงกั๋วผลนั้นข้าเก็บมันมาให้ท่านพ่อไม่ใช่ท่านยายนะขอรับ” เด็กน้อยยังคงไม่ยินยอม และพยายามลุกขึ้นเพื่อที่จะช่วงชิงกลับคืนมาด้วยมันเป็นอาหารมื้อเย็นของบิดา เจ้าตัวน้อยไม่สามารถมอบมันให้บ้านใหญ่ได้อีกต่อไป “เพ้ย เดี๋ยวนี้เจ้ากล้าปากเก่งกับข้าเรอะเจ้าเด็กสารเลว สงสัยอยากจะลองดี อาหลางไปเอาท่อนไม้มาให้ข้า วันนี้ข้าจะสั่งสอนเด็กเลวนี่ให้รู้สำนึกว่าควรนึกถึงผู้ใดเป็นคนแรก หากหาอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-09

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมาเลี้ยงดูบิดาตาบอด   บทที่ 8 ก่อไฟครั้งแรก

    บทที่ 8 ก่อไฟครั้งแรก ในห้วงแห่งความทรงจำนั้นเด็กน้อยมิเคยได้เห็นขั้นตอนการก่อไฟทำอาหารของมารดาเลยแม้แต่ครั้งเดียว เพราะเอาแต่ตามบิดาเข้าไปล่าสัตว์และหาของป่าเท่านั้น ไม่เคยได้เข้าใกล้ฟืนไฟจนมาวันนี้ ฉะนั้นเขาต้องการผู้ช่วยโดยด่วนขืนยังยืนงงงวยเช่นนี้เห็นทีวันนี้คงไม่มีสิ่งใดตกถึงท้องแน่แท้หลังจากที่ยืนงงงวยอยู่ไม่นาน เด็กน้อยจึงเดินไปหาบิดาที่ยังคงนั่งรออยู่ที่ชานเรือนดังเดิม แล้วเอ่ยถามด้วยความเขินอาย “ท่านพ่อขอรับข้าก่อไฟไม่เป็น” “อ่า จริงสิ เจ้ายังไม่เคยถูกสอนเรื่องก่อไฟสินะ เช่นนั้นพาบิดาไปที่ครัวเดี๋ยวข้าจะบอกเจ้าเองว่าต้องทำอย่างไรบ้าง”บิดาคลำไปโดยรอบจนพบเข้ากับเสาจากนั้นจึงจับยึดเอาไว้แล้วพยุงตนเองให

  • ทะลุมิติมาเลี้ยงดูบิดาตาบอด   บทที่ 7 อ่อนแอเกินไป

    บทที่ 7 อ่อนแอเกินไป การสูญเสียทุกอย่างที่รักไปมันทำให้คนคนหนึ่งตายทั้งเป็นได้เลย บิดาผู้นี้กำลังเป็นเช่นนั้น หยางเทียนหรงรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดที่อีกฝ่ายส่งออกมา ทั้งน้ำเสียงและท่าทางชวนให้คนมองรู้สึกสลดไปด้วย บุรุษที่เคยองอาจจนสามารถล่าสัตว์มาขายเลี้ยงครอบครัวภรรยาได้จนสามารถซื้อเกวียนม้าเทียมได้นับว่าเก่งกาจยิ่งนัก แต่แล้วต้องมาตกอยู่ในห้วงแห่งความมืดมิดแม้แต่จะเดินไปทางก็ยังต้องมีคนนำทางเช่นนี้ หากเขาเป็นเช่นนั้นลางทีตนอาจจะปลิดชีพตนเองไปแล้วก็เป็นได้ หยางเทียนหรงไม่อาจบอกให้บิดาปล่อยวางได้แต่ถ้าหากปล่อยอีกฝ่ายกล่าวโทษตนเองเช่นนี้คงไม่เป็นผลดีนัก  

  • ทะลุมิติมาเลี้ยงดูบิดาตาบอด   บทที่ 6 จากไปแล้ว

    บทที่ 6 จากไปแล้ว “ฮ่า ฮ่า ข้าจะบอกให้เจ้ารู้เอาไว้ ว่าบุตรชายที่เจ้ารักนักหนายามนี้ คงกลายเป็นอาหารสัตว์ป่าไปแล้ว อดีตบุตรเขยของข้าเอ๋ย”เท้าของหญิงชราเหยียบลงกลางอกของบุรุษที่มีรูปลักษณ์ซูบตอบอีกทั้งยังตาบอดจนช่วยตนเองแทบไม่ได้ ชาวบ้านหลายคนมามุงดูแต่ก็รีบกลับไปหลังเจอคำขู่จากภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านว่าจะไม่ให้กู้ยืมตำลึงหากมาช่วยอดีตลูกเขยไร้ค่าสาเหตุที่ชาวบ้านเพิกเฉยการช่วยเหลือสองพ่อลูกนั่นเป็นเพราะสกุลอันทำการปล่อยเงินกู้โดยใช้ที่นามาแลกเปลี่ยนและยังคิดดอกเบี้ยเจ็ดส่วนจากสิบส่วน แม้จะดูขูดเลือดไปแต่กลับไม่มีผู้ใดกล้าเอ่ยแย้งด้วยเกรงกลัวว่าตนเองจะไม่ได้เงิน “ยายแก่นี่เอาอีกแล้วนะ ไหนบอกแยกบ้านกันไปแล้วไง ทำไมถึงได้มาวุ่นวายกับสองพ่อลูกนี่อีก ตัวเองก็มีเงินมากกว่าแท้ ๆ” พลัก

  • ทะลุมิติมาเลี้ยงดูบิดาตาบอด   บทที่ 5 แม่ไก่ยักษ์

    บทที่ 5 แม่ไก่ยักษ์ “ต้องขอบคุณเด็กคนนี้ที่เคยเข้าป่ากับพ่ออยู่บ้าง ไม่อย่างนั้นฉันต้องหลงป่าตายแทนที่จะได้เอาคืนยายแก่นั่น” หยางเทียนหรงพยายามยันตนเองขึ้นมาจากพื้นดินที่เต็มไปด้วยใบไม้แห้งกรอบ พลางปัดเศษใบไม้ที่ติดตามเสื้อผ้าจนเห็นว่าลักษณะของเสื้อที่สวมใส่อยู่นั้นสมกับเป็นจีนยุคโบราณเสียจริง “คนสมัยก่อนเขาไม่รู้สึกว่ามันโล่งเลยหรือไงกันถึงได้ใส่แค่เสื้อคลุมกับกางเกงยาวแบบนี้โดยไม่ใส่ชั้นใน” แม้จะเอ่ยถามเช่นนั้นแต่ก็ไม่มีใครให้คำตอบเขาได้อยู่ดี ดังนั้นหยางเทียนหรงจึงทำได้เพียงปลดปลงแล้วค่อย ๆ ก้าวเดินกลับไปตามเส้นทางที่มุ่งสู่บ้านหลังน้อยของตนที่อยู่ไม่ไกลเท่าไหร่นัก “ก่อนที่จะตายเด็กคนนี้ถูกแย่งผิงกั๋วไปนั่นหมายความว่าป่านนี้แล้วพ่อต้องยังไม่ได้กินอะไรแน่ เราต้องหาของป่ากลับไปกินด้วย อึก ซี่โครงหักหรือเปล่าเนี่ย ทำไมมันเจ็บแบบนี้นะ” เพราะถูกแย่งชิงผิงกั๋วไปหยางเทียนหรงจึงคิดไปเองว่าบิดาของเจ้าของร่างนั้นคงยังไม่ได้กินอะไรแน่นอน ดังนั้นตนจึงคิดเก็บของป่ากลับไปด้วย กะต๊าก กะต๊าก เสียงไก่นี่ อย่าบอกนะว่าไก่ที่ผู้คุมวิญญาณมอบให

  • ทะลุมิติมาเลี้ยงดูบิดาตาบอด   บทที่ 4 ทุบตีจนตาย

    บทที่ 4 ทุบตีจนตายแม้หญิงชราออกปากตัดขาดสองพ่อลูกออกจากสกุลอัน แต่มันกลับเป็นเพียงแค่ลมปากเท่านั้น เพราะทุกวันนางจะมารอช่วงชิงของป่าที่หลานชายแสนชังหามาได้จากชายป่าทั้งที่ของป่าพวกนั้นเรือนสกุลอันมิเคยขาดแคลนมันเลยแม้แต่น้อยวันนี้ก็เช่นเดียวกัน“เอากระต่ายของข้ามานะ ท่านยายเหตุใดท่านจึงมิห้ามปรามหลางเกอขอรับ เขามาแย่งชิงกระต่ายของข้า” มือน้อยพยายามแย่งชิงกระต่ายผอมแห้งกลับคืนมาหลังจากตนเพิ่งจับมาได้อย่างยากลำบาก เด็กน้อยทวงความยุติธรรมแต่สิ่งตอบแทนกลับล้วนเป็นความเจ็บปวดที่ผู้เป็นยายนั้นตั้งใจมอบให้“ท่านยายข้าอยากกินเนื้อกระต่ายย่างขอรับ” หลานชายอีกคนเป็นผู้แย่งชิงกระต่ายตัวน้อยมาจากเด็กน้อยผอมซูบ แล้วยังหันไปเอ่ยกับผู้เป็นยายว่าตนนั้นอยากกินสัตว์ป่าตัวนี้ทั้งที่มันมิใช่ของตน “เอาสิหลานรัก เดี๋ยวเย็นนี้ให้แม่ของเจ้าทำให้กินดีหรือไม่”“แต่น้องชายไร้ค่าไม่ให้ข้าขอรับ”“เพ้ย กับแค่กระต่ายตัวเดียวแค่นี้จะแบ่งให้พี่ชายเจ้ามิได้เชียวหรือ”“แต่มันคืออาหารของบิดาและข้านะขอรับท่านยาย แล้วจะให้ข้าแบ่งปันให้หลางเกอได้อย่างไรกัน โอ้ย ฮึก ท่านยายข้าเจ็บ” “หลานอกตัญญูเจ้ากล้าขัดข้าอย่างนั้นหรื

  • ทะลุมิติมาเลี้ยงดูบิดาตาบอด   บทที่ 3 สูญเสีย

    บทที่ 3 สูญเสียหยางเทียนหรงในร่างเด็กน้อยยังคงนอนแผ่ที่พื้นดินใต้ต้นไม้ใหญ่อยู่เช่นนั้นเพราะยังคงระบมจากบาดแผลที่ถูกทุบตีจากหญิงชราที่เป็นยายของเจ้าของร่าง คนเป็นป้าก็ไม่คิดที่จะห้ามปรามแต่กลับเป็นผู้นำร่างมาทิ้งให้สัตว์ป่ากัดกินซากเพื่อทำลายหลักฐานสารเลวนักคนเหล่านี้ไม่ควรได้รับการอภัยไม่ว่าจะสำนึกหรือไม่ก็ตามยิ่งความทรงจำสุดแสนจะเจ็บปวดของเจ้าของร่างที่ตนเพียงแค่หลับตายมันก็ประดังประเดเข้ามายิ่งกว่าสายธารไหลเชี่ยว มันยิ่งทำให้ตนรู้ว่าเด็กน้อยตรงหน้าผ่านเหตุการณ์เลวร้ายมาได้อย่างยากลำบากซึ่งเกิดจากการกระทำของผู้เป็นยายในวันที่แสงจันทราถูกรัตติกาลกลืนกินจนมืดมิดไปทั่วทั้งหมู่บ้านซีเป่ย คนในหมู่บ้านต่างกำลังหลับใหลอยู่ในเรือนกันอย่างมีความสุขยกเว้นคนในเรือนสกุลหยางที่กำลังเตรียมตัวเดินทางออกจากหมู่บ้านเพื่อไปงานเลี้ยงของจวนขุนนางที่อยู่เมืองหลวง “เจ้ามัวแต่รีรออะไรอยู่เหมยเอ๋อร์ รถม้าของจวนใต้เท้าหลี่ออกมารอที่หน้าหมู่บ้านแล้วไปแต่งกายให้งดงามเร็วเข้า” โจวซือเหยียนเอ่ยเร่งเร้าบุตรสาวที่ยังคงอยู่ในอาภรณ์เปรอะเปื้อนไร้ความงดงามทั้งที่มันได้เวลาออกเดินทางแล้ว แต่อีกฝ่ายย

  • ทะลุมิติมาเลี้ยงดูบิดาตาบอด   บทที่ 2 ชีวิตใหม่ของหยางเทียนหรง

    บทที่ 2 ชีวิตใหม่ของหยางเทียนหรง“ทำไมยายแก่นั่นถึงโหดร้ายมากขนาดนี้ นั่นหลานตัวเองไม่ใช่หรือไง ตีกันจนตายได้ยังไง” หยางเทียนหรงมองดูเด็กน้อยที่มีชื่อเหมือนกับตนเองแต่แต่งกายราวกับอยู่ในยุคโบราณ อีกทั้งยังมีใบหน้าคล้ายคลึงตนเองในตอนเด็กอีก ด้วยความสงสารตนจึงก่นด่าหญิงชราใจร้ายไม่หยุด เขาไม่คิดว่าการที่ตนเองหมดอายุขัยในโลกเดิมด้วยโรคร้ายอย่างมะเร็งปอดระยะสุดท้าย สิ่งที่คิดคือ ตนอาจจะต้องไปชดใช้กรรมในนรกสักแห่งหรือไม่ก็ไปเกิดใหม่เป็นสุนัขไม่ก็เดรัจฉานสักตัวในโลกใหม่ ไม่ใช่ถูกดึงวิญญาณมาโผล่ยุคโบราณแบบนี้ “แล้วคุณพาผมมาที่นี่ทำไมครับ ไม่ส่งไปเกิดใหม่หรือไงกัน” หยางเทียนหรงเอ่ยถามบุรุษข้างกายที่ยืนเงียบไม่พูดไม่จากับตนตั้งแต่พามาดูเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว “เจ้ามีนามว่าอะไรนะ” เสียงทุ้มเปล่งออกมาถามหลังก้มมองบันทึกการเกิดใหม่ในโลกจีนโบราณอีกครั้ง เพราะดวงวิญญาณที่ตนต้องนำมานั้นต้องมีนามว่า ‘หยางเทียนหลง’ วิญญาณชายหนุ่มผู้มีชะตาเป็นฮ่องเต้ไม่ใช่เด็กน้อยที่มีชะตาน่าอดสูเช่นนี้ มิน่าถึงได้มาโผล่ที่นี่แทนที่จะเป็นวังหลวง หรือเจ้าหนุ่มนี่มีชะตาผูกก

  • ทะลุมิติมาเลี้ยงดูบิดาตาบอด   บทที่ 1 เด็กอัปมงคล

    บทที่ 1 เด็กอัปมงคล“เอาผิงกั๋วมาให้ข้าเดี๋ยวนี้ เจ้าเด็กสารเลว” เสียงก่นด่าพลางแกะมือน้อย ๆ ออกจากผลผิงกั๋วที่หลานชายกำมันเอาไว้แน่นด้วยความโมโห เพราะอีกฝ่ายขัดขืนนางจึงลงมือผลักไหล่เจ้าตัวจนเด็กน้อยล้มลงไปบนพื้นดิน “ท่านยายเอาคืนข้ามานะขอรับ นี่มันของท่านพ่อของข้านะ” หลานชังวัยแปดปีอย่าง ‘หยางเทียนหรง’ ไม่ยินยอมจึงเกิดการแย่งชิง แต่แรงอันน้อยนิดของเด็กน้อยมันจะสู้แรงของยายเฒ่าแสนอ้วนท้วมได้อย่างไรกัน พลัก ตุบ “โอ้ย ฮึก” “ให้ข้ามาตั้งแต่แรกก็สิ้นเรื่องแล้ว” ยายเฒ่าไม่ได้ใส่ใจเลยแม้แต่น้อยว่าหลานชายตรงหน้าจะเจ็บปวดที่ใดนางสนแค่เพียงผลไม้ลูกโตนี่เท่านั้น “แต่ผิงกั๋วผลนั้นข้าเก็บมันมาให้ท่านพ่อไม่ใช่ท่านยายนะขอรับ” เด็กน้อยยังคงไม่ยินยอม และพยายามลุกขึ้นเพื่อที่จะช่วงชิงกลับคืนมาด้วยมันเป็นอาหารมื้อเย็นของบิดา เจ้าตัวน้อยไม่สามารถมอบมันให้บ้านใหญ่ได้อีกต่อไป “เพ้ย เดี๋ยวนี้เจ้ากล้าปากเก่งกับข้าเรอะเจ้าเด็กสารเลว สงสัยอยากจะลองดี อาหลางไปเอาท่อนไม้มาให้ข้า วันนี้ข้าจะสั่งสอนเด็กเลวนี่ให้รู้สำนึกว่าควรนึกถึงผู้ใดเป็นคนแรก หากหาอ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status