แชร์

บทที่ 4 ทุบตีจนตาย

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-09 15:26:57

บทที่ 4 ทุบตีจนตาย

แม้หญิงชราออกปากตัดขาดสองพ่อลูกออกจากสกุลอัน แต่มันกลับเป็นเพียงแค่ลมปากเท่านั้น เพราะทุกวันนางจะมารอช่วงชิงของป่าที่หลานชายแสนชังหามาได้จากชายป่าทั้งที่ของป่าพวกนั้นเรือนสกุลอันมิเคยขาดแคลนมันเลยแม้แต่น้อย

วันนี้ก็เช่นเดียวกัน

“เอากระต่ายของข้ามานะ ท่านยายเหตุใดท่านจึงมิห้ามปรามหลางเกอขอรับ เขามาแย่งชิงกระต่ายของข้า” มือน้อยพยายามแย่งชิงกระต่ายผอมแห้งกลับคืนมาหลังจากตนเพิ่งจับมาได้อย่างยากลำบาก เด็กน้อยทวงความยุติธรรมแต่สิ่งตอบแทนกลับล้วนเป็นความเจ็บปวดที่ผู้เป็นยายนั้นตั้งใจมอบให้

“ท่านยายข้าอยากกินเนื้อกระต่ายย่างขอรับ” หลานชายอีกคนเป็นผู้แย่งชิงกระต่ายตัวน้อยมาจากเด็กน้อยผอมซูบ แล้วยังหันไปเอ่ยกับผู้เป็นยายว่าตนนั้นอยากกินสัตว์ป่าตัวนี้ทั้งที่มันมิใช่ของตน

 “เอาสิหลานรัก เดี๋ยวเย็นนี้ให้แม่ของเจ้าทำให้กินดีหรือไม่”

“แต่น้องชายไร้ค่าไม่ให้ข้าขอรับ”

“เพ้ย กับแค่กระต่ายตัวเดียวแค่นี้จะแบ่งให้พี่ชายเจ้ามิได้เชียวหรือ”

“แต่มันคืออาหารของบิดาและข้านะขอรับท่านยาย แล้วจะให้ข้าแบ่งปันให้หลางเกอได้อย่างไรกัน โอ้ย ฮึก ท่านยายข้าเจ็บ”

 “หลานอกตัญญูเจ้ากล้าขัดข้าอย่างนั้นหรือ มานี่ข้าจะตีเจ้าให้ตายเสียวันนี้ อาหลางเอาไม้มาให้ข้า”

เด็กน้อยถูกทุบตีโดยที่บิดาไม่เคยรู้ว่าบุตรชายตัวน้อยนั้นถูกทำอันใดไปบ้าง เพราะยามที่คนเรือนนั้นมามักจะลากเด็กน้อยออกมาให้ห่างจากเรือนหลังซอมซ่อเพื่อที่จะได้ทุบตีได้อย่างถนัดและไม่มีผู้ใดมาขัดขวาง

หากกล่าวว่าเมื่อหลายวันก่อนหญิงชราใจร้ายมากแล้ว

          สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้คงเรียกว่านางมีใจอำมหิตยิ่งกว่าปิศาจร้ายเสียอีก

“หลานเนรคุณ เอาผิงกั๋วมาให้ข้าเดี๋ยวนี้” เสียงก่นด่าพลางแกะมือน้อยออกจากผลผิงกั๋วที่หลานชายกำมันเอาไว้แน่นด้วยความโมโห เพราะอีกฝ่ายขัดขืนนางจึงลงมือผลักไหล่เจ้าตัวจนเด็กน้อยล้มลงไปบนพื้นดิน

          “ฮึก ท่านยายเอาคืนข้ามานะขอรับ นี่มันของท่านพ่อของข้านะ” หลานชังวัยแปดปีอย่าง ‘หยางเทียนหรง’ ไม่ยินยอมจึงเกิดการแย่งชิง แต่แรงอันน้อยนิดของเด็กน้อยมันจะสู้แรงของยายเฒ่าแสนอ้วนท้วมได้อย่างไรกัน

          พลัก ตุบ

          “โอ้ย ฮึก ฮือ คืนผิงกั๋วผลนั้นมาให้เถิดขอรับท่านยาย ฮือ” แม้จะล้มลงจนศีรษะกระแทกหินก้อนใหญ่จนโลหิตไหลลงเข้าดวงตา เด็กน้อยปาดมันออกแล้วพยายามลุกขึ้นเพื่อที่จะยื้อแย่งผิงกั๋วคืนกลับมา

          “เหตุใดข้าต้องคืนในเมื่อมันควรเป็นของอาหลางมิใช่หลานชายที่ข้าเกลียดชังเช่นเจ้า” หญิงชรามิได้ใส่ใจนักว่าหลานชายเสียโลหิตจวนจะสิ้นสติแล้ว นางสนแค่เพียงแย่งชิงของป่าที่อีกฝ่ายหามาได้เท่านั้น

          “แต่ผิงกั๋วผลนั้นข้าเก็บมันมาให้ท่านพ่อไม่ใช่ท่านยายนะขอรับ” เด็กน้อยยังคงไม่ยินยอม และพยายามลุกขึ้นอีกคราด้วยก่อนหน้าขาอ่อนแรงจนล้มลงไป ที่เด็กน้อยต้องการชิงมันคืนมาด้วยมันเป็นอาหารมื้อเย็นของบิดา เจ้าตัวน้อยไม่สามารถมอบมันให้บ้านใหญ่ได้อีกต่อไป

          “แล้วอย่างไร เจ้าอย่าลืมว่า ของป่าทุกอย่างที่พวกเจ้าสองพ่อลูกหามาได้ล้วนแต่เป็นของบ้านใหญ่ทั้งสิ้น อย่าได้คิดเอาเป็นของตนเองลืมไปแล้วหรือ”

“แต่เราแยกเรือนกันแล้วนะขอรับ”

“เพ้ย หลานเนรคุณ ต่อให้เจ้าแยกออกไปไกลแสนไกลเพียงใด ชีวิตของเจ้าสองคนต้องเป็นทาสของสกุลอันไปจนกว่าจะตายเท่านั้น อาหลางเอาไม้มาให้ยายของเจ้า วันนี้น้องชายของเจ้าดื้อรั้นนัก ยายต้องอบรมสักหน่อย” หญิงชราได้ยินหลานชายโต้เถียงกลับมาทุกคำจนทำให้เกิดโทสะขึ้นมา เลยสั่งให้หลานชายคนโปรดไปนำไม้มาเพื่อลงโทษดังที่เคยกระทำ

เพียงแต่ครานี้นางใส่โทสะที่มีมากไป

เลยทำให้เด็กน้อยถูกทุบตีเต็มแรงจนไร้โอกาสในการปัดป้อง 

          “ขอรับท่านยาย” อันซือหลางหลานชายอีกคนของสกุลอันหัวเราะด้วยความชอบใจ แล้ววิ่งไปเอาท่อนไม้ที่วางอยู่ไม่ไกลมาให้ผู้เป็นยายทันที  

          “หากทุบตีข้าแล้ว ท่านยายจะคืนผิงกั๋วมาให้ข้าใช่หรือไม่ขอรับ” เด็กน้อยยอมรับการทุบตีแต่แลกกับการที่ผู้เป็นยายต้องคืนผลผิงกั๋วลูกนั้นคืนกลับมาให้แก่ตนเอง

          “เหตุใดข้าต้องคืนให้เจ้า ในเมื่อผิงกั๋วผลนี้มันเป็นของข้าแล้ว ข้าจะเก็บไว้ให้อาหลางกิน”

            “ไม้มาแล้วขอรับท่านยาย” 

          โจวซือเหยียนรับไม้มาแล้วยื่นผลผิงกั๋วให้หลานชายคนโปรด จากนั้นจึงหันมาทุบตีหลานชังด้วยแรงโทสะทันที โดยไม่ได้ใส่ใจว่าเด็กน้อยจะเจ็บปวดมากเพียงใดกับการกระทำของผู้ที่เรียกตนว่ายาย

          ตุบ ตุบ ตุบ

          “ท่านยายใจร้าย โอ้ย ข้าเจ็บนะขอรับ ฮึก ท่านยาย อย่าทำข้า ฮือ ข้าเจ็บ”

          “ร้องเข้าไป ร้องให้ดังกว่านี้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ผู้ใดใช้ให้พวกเจ้าสองพ่อลูกพรากหลินเอ๋อร์ของข้าไปกัน เจ้ามันสมควรตายตามลูกสาวของข้าไปเจ้าเด็กอัปมงคล” หญิงชราทุบตีพลางก่นด่าไปถึงบิดาของหลานชายคนนี้ที่ทำให้ลูกสาวของตนตาย แต่ตัวมันเองกลับรอดมาได้ แม้จะสูญเสียดวงตาไปก็ตามแต่มันก็ทดแทนความเสียใจของนางไม่ได้

          “ข้าตายตามท่านแม่ไปไม่ได้นะขอรับ ข้าต้องดูแลท่านพ่อ ฮึก ท่านยายพอแล้ว”

          “โอ้ย ฮือ พอแล้วขอรับท่านยาย ข้าเจ็บ ฮึก”

“จงตายไปเสียเถอะ เจ้าเด็กโง่”  

            ยิ่งเด็กน้อยกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดมากเท่าใดหญิงชราก็ยิ่งลงมือหนักขึ้น จนกระทั่งเด็กน้อยแน่นิ่งไม่ไหวติงพร้อมเปล่งเสียงออกมาราวกับไม่ยินยอมต่อชะตาในครานี้

          “ไม่!

          ทันทีที่เด็กน้อยแน่นิ่งไปบุตรสาวคนโต’อันซีเหมย’จึงลองวางมือบริเวณจมูกจนพบว่าหลานชายไร้ลมหายใจเสียแล้ว

          “ท่านแม่อาหรงตายแล้วเจ้าค่ะ”

          “ว่าอย่างไรนะ แค่นี้ถึงกับทนไม่ได้เชียวหรือเจ้าเด็กไร้ค่า กล้าตายหนีข้าได้อย่างไร” หญิงชราทำท่าจะตีลงบนลำตัวอีกครั้งแต่ถูกห้ามเอาไว้ก่อนด้วยเกรงว่าชาวบ้านที่ชอบสอดรู้จะพากันแห่มาดู

           “พอแล้วเจ้าค่ะท่านแม่ ในเมื่ออาหรงตายจากไปแล้วเราต้องเร่งกำจัดร่างเสียก่อน มิเช่นนั้นเกิดมีคนรู้เราจะเดือดร้อนเอาได้นะเจ้าคะ”

          “อาหลางกลับเรือนไปก่อน เอาผิงกั๋วไปกินให้อิ่มหนำแล้วอย่าได้เอ่ยเรื่องนี้กับผู้ใดเข้าใจหรือไม่” หญิงชราให้หลานชากลับไปเสียก่อนด้วยไม่อยากหลานชายต้องมารับรู้เรื่องนี้แม้อีกฝ่ายจะเห็นนางทุบตีน้องชายตายต่อหน้าก็ตาม

          “ขอรับท่านยาย”  

          “เจ้าแน่ใจหรือว่าอาหรงตายแล้ว” หลังหลานชายหายลับตาไปแล้วหญิงชราจึงเอ่ยถามบุตรสาวคนโตอีกคราเพื่อความแน่ใจ

          “แน่ใจเจ้าค่ะ”

          “หึ น่าเสียดาย บิดาไร้ค่านั่นก็น่าจะตายตามไปด้วยเพื่อชดใช้ให้กับหลินเอ๋อร์ของข้า” ความรุ่งเรืองของสกุลอันได้ตายจากไปผู้ใดเล่าจะทำใจได้ ยิ่งเห็นพวกมันมีชีวิตรอดนางยิ่งชังจนอยากจะสังหารให้ตายหลาย ๆ คราจนกว่าจะสาแก่ใจ

          “ต้องเร่งมือแล้วเจ้าค่ะ ช้ากว่านี้มิได้แล้ว” แม้จะเสียใจที่มารดาเอาแต่พร่ำเพ้อหาน้องสาวที่ตายจาก แต่แล้วอย่างไรในเมื่ออีกฝ่ายตายจากไปแล้วก็เท่ากับยามนี้ตำแหน่งบุตรสาวคนโปรดย่อมตกเป็นของนางแต่เพียงคนเดียว

          ร่างของเด็กน้อยถูกโยนทิ้งกลางป่าลึกหลังพุ่มไม้ที่มีต้นไม้ใหญ่บังสายตาจากชาวบ้านหรือพรานป่าที่เข้ามาหาของป่า พวกนางคาดหวังให้สัตว์ป่ามากัดกินร่างของเด็กน้อยเสียจะได้ไร้หลักฐานสาวมาถึงตนได้ว่าตนนั้นทุบตีอีกฝ่ายจนตายมิใช่ถูกสัตว์ป่ากัดตาย

          “อย่าได้กังวลนักเลยหลานรักของข้า เดี๋ยวข้าจะส่งบิดาของเจ้าตามไปแน่นอน”

          “ไปกันเถอะเจ้าค่ะท่านแม่ เดี๋ยวมีผู้ใดมาเห็นเข้าแล้วเราจะเดือดร้อน”

          หลังทั้งสองเดินจากไปหยางเทียนหรงที่เข้ามาอยู่ในร่างตั้งแต่ถูกอุ้มมาแล้วจึงลืมตาขึ้นมาแต่ยังมิได้ลุกขึ้นแต่อย่างใดด้วยกำลังเจ็บปวดรวดร้าวจากการกระทำของสองคนนั้น

          หนอยยายแก่มหาปะลัยจิตใจอำมหิตมากเกินไปแล้วนะคอยดูเถอะสักวันฉันต้องเอาคืนให้หรงหรงให้ได้

          “โยนมาได้เจ็บนะโว้ย ยายแก่ อึก ปวดหัว”

          “เจ็บไปถึงกระดูกด้านในเลย ใจร้ายเกินไปแล้วนี่หลานชายแท้ ๆ นะ ทำไมถึงได้ทุบตีราวกับไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน”    

          เขาไม่คิดว่าเจ้าของร่างจะถูกทำร้ายหนักมากขนาดนี้

          ในชีวิตที่แล้วของเขานั้นแม้เป็นเพียงเด็กกำพร้าแต่ก็ไม่เคยถูกทำร้ายสารพัดดังเจ้าของร่าง อีกทั้งเขายังมีโอกาสได้เรียนรู้งานอาชีพที่สามารถนำไปใช้ทำมาหากินได้อย่างปลูกผักและทำอาหาร เพราะต้องดิ้นรนให้มีชีวิตรอดมันเลยทำให้เขานั้นมีจิตใจที่หยาบกระด้างเล็กน้อยเพราะต้องสร้างเกราะป้องกันตนเอง

          แต่สุดท้ายสิ่งที่ร่ำเรียนมาก็สูญเปล่าหลังได้รู้ว่าตนเองเป็นโรคร้ายที่จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน เขาจึงได้แต่นอนรับคีโมทุกวันจนสุดท้ายร่างกายรับไม่ไหวตายในที่สุด

          และตอนนี้เขาได้ชีวิตใหม่แล้ว แม้จะเป็นร่างคนอื่นก็ตามแต่ตอนนี้มันเป็นของเขาเพราะเด็กคนนั้นคงไปเกิดใหม่สักที่แล้วล่ะ

          นับว่าเรามีชะตาต้องกันดังนั้นชีวิตต่อจากนี้ฉันจะดูแลตัวเองและพ่อของเธอให้ดีเธอไม่ต้องห่วงเด็กน้อย

         

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทะลุมิติมาเลี้ยงดูบิดาตาบอด   บทที่ 5 แม่ไก่ยักษ์

    บทที่ 5 แม่ไก่ยักษ์ “ต้องขอบคุณเด็กคนนี้ที่เคยเข้าป่ากับพ่ออยู่บ้าง ไม่อย่างนั้นฉันต้องหลงป่าตายแทนที่จะได้เอาคืนยายแก่นั่น” หยางเทียนหรงพยายามยันตนเองขึ้นมาจากพื้นดินที่เต็มไปด้วยใบไม้แห้งกรอบ พลางปัดเศษใบไม้ที่ติดตามเสื้อผ้าจนเห็นว่าลักษณะของเสื้อที่สวมใส่อยู่นั้นสมกับเป็นจีนยุคโบราณเสียจริง “คนสมัยก่อนเขาไม่รู้สึกว่ามันโล่งเลยหรือไงกันถึงได้ใส่แค่เสื้อคลุมกับกางเกงยาวแบบนี้โดยไม่ใส่ชั้นใน” แม้จะเอ่ยถามเช่นนั้นแต่ก็ไม่มีใครให้คำตอบเขาได้อยู่ดี ดังนั้นหยางเทียนหรงจึงทำได้เพียงปลดปลงแล้วค่อย ๆ ก้าวเดินกลับไปตามเส้นทางที่มุ่งสู่บ้านหลังน้อยของตนที่อยู่ไม่ไกลเท่าไหร่นัก “ก่อนที่จะตายเด็กคนนี้ถูกแย่งผิงกั๋วไปนั่นหมายความว่าป่านนี้แล้วพ่อต้องยังไม่ได้กินอะไรแน่ เราต้องหาของป่ากลับไปกินด้วย อึก ซี่โครงหักหรือเปล่าเนี่ย ทำไมมันเจ็บแบบนี้นะ” เพราะถูกแย่งชิงผิงกั๋วไปหยางเทียนหรงจึงคิดไปเองว่าบิดาของเจ้าของร่างนั้นคงยังไม่ได้กินอะไรแน่นอน ดังนั้นตนจึงคิดเก็บของป่ากลับไปด้วย กะต๊าก กะต๊าก เสียงไก่นี่ อย่าบอกนะว่าไก่ที่ผู้คุมวิญญาณมอบให

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-09
  • ทะลุมิติมาเลี้ยงดูบิดาตาบอด   บทที่ 6 จากไปแล้ว

    บทที่ 6 จากไปแล้ว “ฮ่า ฮ่า ข้าจะบอกให้เจ้ารู้เอาไว้ ว่าบุตรชายที่เจ้ารักนักหนายามนี้ คงกลายเป็นอาหารสัตว์ป่าไปแล้ว อดีตบุตรเขยของข้าเอ๋ย”เท้าของหญิงชราเหยียบลงกลางอกของบุรุษที่มีรูปลักษณ์ซูบตอบอีกทั้งยังตาบอดจนช่วยตนเองแทบไม่ได้ ชาวบ้านหลายคนมามุงดูแต่ก็รีบกลับไปหลังเจอคำขู่จากภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านว่าจะไม่ให้กู้ยืมตำลึงหากมาช่วยอดีตลูกเขยไร้ค่าสาเหตุที่ชาวบ้านเพิกเฉยการช่วยเหลือสองพ่อลูกนั่นเป็นเพราะสกุลอันทำการปล่อยเงินกู้โดยใช้ที่นามาแลกเปลี่ยนและยังคิดดอกเบี้ยเจ็ดส่วนจากสิบส่วน แม้จะดูขูดเลือดไปแต่กลับไม่มีผู้ใดกล้าเอ่ยแย้งด้วยเกรงกลัวว่าตนเองจะไม่ได้เงิน “ยายแก่นี่เอาอีกแล้วนะ ไหนบอกแยกบ้านกันไปแล้วไง ทำไมถึงได้มาวุ่นวายกับสองพ่อลูกนี่อีก ตัวเองก็มีเงินมากกว่าแท้ ๆ” พลัก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
  • ทะลุมิติมาเลี้ยงดูบิดาตาบอด   บทที่ 7 อ่อนแอเกินไป

    บทที่ 7 อ่อนแอเกินไป การสูญเสียทุกอย่างที่รักไปมันทำให้คนคนหนึ่งตายทั้งเป็นได้เลย บิดาผู้นี้กำลังเป็นเช่นนั้น หยางเทียนหรงรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดที่อีกฝ่ายส่งออกมา ทั้งน้ำเสียงและท่าทางชวนให้คนมองรู้สึกสลดไปด้วย บุรุษที่เคยองอาจจนสามารถล่าสัตว์มาขายเลี้ยงครอบครัวภรรยาได้จนสามารถซื้อเกวียนม้าเทียมได้นับว่าเก่งกาจยิ่งนัก แต่แล้วต้องมาตกอยู่ในห้วงแห่งความมืดมิดแม้แต่จะเดินไปทางก็ยังต้องมีคนนำทางเช่นนี้ หากเขาเป็นเช่นนั้นลางทีตนอาจจะปลิดชีพตนเองไปแล้วก็เป็นได้ หยางเทียนหรงไม่อาจบอกให้บิดาปล่อยวางได้แต่ถ้าหากปล่อยอีกฝ่ายกล่าวโทษตนเองเช่นนี้คงไม่เป็นผลดีนัก  

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-11
  • ทะลุมิติมาเลี้ยงดูบิดาตาบอด   บทที่ 8 ก่อไฟครั้งแรก

    บทที่ 8 ก่อไฟครั้งแรก ในห้วงแห่งความทรงจำนั้นเด็กน้อยมิเคยได้เห็นขั้นตอนการก่อไฟทำอาหารของมารดาเลยแม้แต่ครั้งเดียว เพราะเอาแต่ตามบิดาเข้าไปล่าสัตว์และหาของป่าเท่านั้น ไม่เคยได้เข้าใกล้ฟืนไฟจนมาวันนี้ ฉะนั้นเขาต้องการผู้ช่วยโดยด่วนขืนยังยืนงงงวยเช่นนี้เห็นทีวันนี้คงไม่มีสิ่งใดตกถึงท้องแน่แท้หลังจากที่ยืนงงงวยอยู่ไม่นาน เด็กน้อยจึงเดินไปหาบิดาที่ยังคงนั่งรออยู่ที่ชานเรือนดังเดิม แล้วเอ่ยถามด้วยความเขินอาย “ท่านพ่อขอรับข้าก่อไฟไม่เป็น” “อ่า จริงสิ เจ้ายังไม่เคยถูกสอนเรื่องก่อไฟสินะ เช่นนั้นพาบิดาไปที่ครัวเดี๋ยวข้าจะบอกเจ้าเองว่าต้องทำอย่างไรบ้าง”บิดาคลำไปโดยรอบจนพบเข้ากับเสาจากนั้นจึงจับยึดเอาไว้แล้วพยุงตนเองให

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-12
  • ทะลุมิติมาเลี้ยงดูบิดาตาบอด   บทที่ 1 เด็กอัปมงคล

    บทที่ 1 เด็กอัปมงคล“เอาผิงกั๋วมาให้ข้าเดี๋ยวนี้ เจ้าเด็กสารเลว” เสียงก่นด่าพลางแกะมือน้อย ๆ ออกจากผลผิงกั๋วที่หลานชายกำมันเอาไว้แน่นด้วยความโมโห เพราะอีกฝ่ายขัดขืนนางจึงลงมือผลักไหล่เจ้าตัวจนเด็กน้อยล้มลงไปบนพื้นดิน “ท่านยายเอาคืนข้ามานะขอรับ นี่มันของท่านพ่อของข้านะ” หลานชังวัยแปดปีอย่าง ‘หยางเทียนหรง’ ไม่ยินยอมจึงเกิดการแย่งชิง แต่แรงอันน้อยนิดของเด็กน้อยมันจะสู้แรงของยายเฒ่าแสนอ้วนท้วมได้อย่างไรกัน พลัก ตุบ “โอ้ย ฮึก” “ให้ข้ามาตั้งแต่แรกก็สิ้นเรื่องแล้ว” ยายเฒ่าไม่ได้ใส่ใจเลยแม้แต่น้อยว่าหลานชายตรงหน้าจะเจ็บปวดที่ใดนางสนแค่เพียงผลไม้ลูกโตนี่เท่านั้น “แต่ผิงกั๋วผลนั้นข้าเก็บมันมาให้ท่านพ่อไม่ใช่ท่านยายนะขอรับ” เด็กน้อยยังคงไม่ยินยอม และพยายามลุกขึ้นเพื่อที่จะช่วงชิงกลับคืนมาด้วยมันเป็นอาหารมื้อเย็นของบิดา เจ้าตัวน้อยไม่สามารถมอบมันให้บ้านใหญ่ได้อีกต่อไป “เพ้ย เดี๋ยวนี้เจ้ากล้าปากเก่งกับข้าเรอะเจ้าเด็กสารเลว สงสัยอยากจะลองดี อาหลางไปเอาท่อนไม้มาให้ข้า วันนี้ข้าจะสั่งสอนเด็กเลวนี่ให้รู้สำนึกว่าควรนึกถึงผู้ใดเป็นคนแรก หากหาอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-09
  • ทะลุมิติมาเลี้ยงดูบิดาตาบอด   บทที่ 2 ชีวิตใหม่ของหยางเทียนหรง

    บทที่ 2 ชีวิตใหม่ของหยางเทียนหรง“ทำไมยายแก่นั่นถึงโหดร้ายมากขนาดนี้ นั่นหลานตัวเองไม่ใช่หรือไง ตีกันจนตายได้ยังไง” หยางเทียนหรงมองดูเด็กน้อยที่มีชื่อเหมือนกับตนเองแต่แต่งกายราวกับอยู่ในยุคโบราณ อีกทั้งยังมีใบหน้าคล้ายคลึงตนเองในตอนเด็กอีก ด้วยความสงสารตนจึงก่นด่าหญิงชราใจร้ายไม่หยุด เขาไม่คิดว่าการที่ตนเองหมดอายุขัยในโลกเดิมด้วยโรคร้ายอย่างมะเร็งปอดระยะสุดท้าย สิ่งที่คิดคือ ตนอาจจะต้องไปชดใช้กรรมในนรกสักแห่งหรือไม่ก็ไปเกิดใหม่เป็นสุนัขไม่ก็เดรัจฉานสักตัวในโลกใหม่ ไม่ใช่ถูกดึงวิญญาณมาโผล่ยุคโบราณแบบนี้ “แล้วคุณพาผมมาที่นี่ทำไมครับ ไม่ส่งไปเกิดใหม่หรือไงกัน” หยางเทียนหรงเอ่ยถามบุรุษข้างกายที่ยืนเงียบไม่พูดไม่จากับตนตั้งแต่พามาดูเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว “เจ้ามีนามว่าอะไรนะ” เสียงทุ้มเปล่งออกมาถามหลังก้มมองบันทึกการเกิดใหม่ในโลกจีนโบราณอีกครั้ง เพราะดวงวิญญาณที่ตนต้องนำมานั้นต้องมีนามว่า ‘หยางเทียนหลง’ วิญญาณชายหนุ่มผู้มีชะตาเป็นฮ่องเต้ไม่ใช่เด็กน้อยที่มีชะตาน่าอดสูเช่นนี้ มิน่าถึงได้มาโผล่ที่นี่แทนที่จะเป็นวังหลวง หรือเจ้าหนุ่มนี่มีชะตาผูกก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-09
  • ทะลุมิติมาเลี้ยงดูบิดาตาบอด   บทที่ 3 สูญเสีย

    บทที่ 3 สูญเสียหยางเทียนหรงในร่างเด็กน้อยยังคงนอนแผ่ที่พื้นดินใต้ต้นไม้ใหญ่อยู่เช่นนั้นเพราะยังคงระบมจากบาดแผลที่ถูกทุบตีจากหญิงชราที่เป็นยายของเจ้าของร่าง คนเป็นป้าก็ไม่คิดที่จะห้ามปรามแต่กลับเป็นผู้นำร่างมาทิ้งให้สัตว์ป่ากัดกินซากเพื่อทำลายหลักฐานสารเลวนักคนเหล่านี้ไม่ควรได้รับการอภัยไม่ว่าจะสำนึกหรือไม่ก็ตามยิ่งความทรงจำสุดแสนจะเจ็บปวดของเจ้าของร่างที่ตนเพียงแค่หลับตายมันก็ประดังประเดเข้ามายิ่งกว่าสายธารไหลเชี่ยว มันยิ่งทำให้ตนรู้ว่าเด็กน้อยตรงหน้าผ่านเหตุการณ์เลวร้ายมาได้อย่างยากลำบากซึ่งเกิดจากการกระทำของผู้เป็นยายในวันที่แสงจันทราถูกรัตติกาลกลืนกินจนมืดมิดไปทั่วทั้งหมู่บ้านซีเป่ย คนในหมู่บ้านต่างกำลังหลับใหลอยู่ในเรือนกันอย่างมีความสุขยกเว้นคนในเรือนสกุลหยางที่กำลังเตรียมตัวเดินทางออกจากหมู่บ้านเพื่อไปงานเลี้ยงของจวนขุนนางที่อยู่เมืองหลวง “เจ้ามัวแต่รีรออะไรอยู่เหมยเอ๋อร์ รถม้าของจวนใต้เท้าหลี่ออกมารอที่หน้าหมู่บ้านแล้วไปแต่งกายให้งดงามเร็วเข้า” โจวซือเหยียนเอ่ยเร่งเร้าบุตรสาวที่ยังคงอยู่ในอาภรณ์เปรอะเปื้อนไร้ความงดงามทั้งที่มันได้เวลาออกเดินทางแล้ว แต่อีกฝ่ายย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-09

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมาเลี้ยงดูบิดาตาบอด   บทที่ 8 ก่อไฟครั้งแรก

    บทที่ 8 ก่อไฟครั้งแรก ในห้วงแห่งความทรงจำนั้นเด็กน้อยมิเคยได้เห็นขั้นตอนการก่อไฟทำอาหารของมารดาเลยแม้แต่ครั้งเดียว เพราะเอาแต่ตามบิดาเข้าไปล่าสัตว์และหาของป่าเท่านั้น ไม่เคยได้เข้าใกล้ฟืนไฟจนมาวันนี้ ฉะนั้นเขาต้องการผู้ช่วยโดยด่วนขืนยังยืนงงงวยเช่นนี้เห็นทีวันนี้คงไม่มีสิ่งใดตกถึงท้องแน่แท้หลังจากที่ยืนงงงวยอยู่ไม่นาน เด็กน้อยจึงเดินไปหาบิดาที่ยังคงนั่งรออยู่ที่ชานเรือนดังเดิม แล้วเอ่ยถามด้วยความเขินอาย “ท่านพ่อขอรับข้าก่อไฟไม่เป็น” “อ่า จริงสิ เจ้ายังไม่เคยถูกสอนเรื่องก่อไฟสินะ เช่นนั้นพาบิดาไปที่ครัวเดี๋ยวข้าจะบอกเจ้าเองว่าต้องทำอย่างไรบ้าง”บิดาคลำไปโดยรอบจนพบเข้ากับเสาจากนั้นจึงจับยึดเอาไว้แล้วพยุงตนเองให

  • ทะลุมิติมาเลี้ยงดูบิดาตาบอด   บทที่ 7 อ่อนแอเกินไป

    บทที่ 7 อ่อนแอเกินไป การสูญเสียทุกอย่างที่รักไปมันทำให้คนคนหนึ่งตายทั้งเป็นได้เลย บิดาผู้นี้กำลังเป็นเช่นนั้น หยางเทียนหรงรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดที่อีกฝ่ายส่งออกมา ทั้งน้ำเสียงและท่าทางชวนให้คนมองรู้สึกสลดไปด้วย บุรุษที่เคยองอาจจนสามารถล่าสัตว์มาขายเลี้ยงครอบครัวภรรยาได้จนสามารถซื้อเกวียนม้าเทียมได้นับว่าเก่งกาจยิ่งนัก แต่แล้วต้องมาตกอยู่ในห้วงแห่งความมืดมิดแม้แต่จะเดินไปทางก็ยังต้องมีคนนำทางเช่นนี้ หากเขาเป็นเช่นนั้นลางทีตนอาจจะปลิดชีพตนเองไปแล้วก็เป็นได้ หยางเทียนหรงไม่อาจบอกให้บิดาปล่อยวางได้แต่ถ้าหากปล่อยอีกฝ่ายกล่าวโทษตนเองเช่นนี้คงไม่เป็นผลดีนัก  

  • ทะลุมิติมาเลี้ยงดูบิดาตาบอด   บทที่ 6 จากไปแล้ว

    บทที่ 6 จากไปแล้ว “ฮ่า ฮ่า ข้าจะบอกให้เจ้ารู้เอาไว้ ว่าบุตรชายที่เจ้ารักนักหนายามนี้ คงกลายเป็นอาหารสัตว์ป่าไปแล้ว อดีตบุตรเขยของข้าเอ๋ย”เท้าของหญิงชราเหยียบลงกลางอกของบุรุษที่มีรูปลักษณ์ซูบตอบอีกทั้งยังตาบอดจนช่วยตนเองแทบไม่ได้ ชาวบ้านหลายคนมามุงดูแต่ก็รีบกลับไปหลังเจอคำขู่จากภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านว่าจะไม่ให้กู้ยืมตำลึงหากมาช่วยอดีตลูกเขยไร้ค่าสาเหตุที่ชาวบ้านเพิกเฉยการช่วยเหลือสองพ่อลูกนั่นเป็นเพราะสกุลอันทำการปล่อยเงินกู้โดยใช้ที่นามาแลกเปลี่ยนและยังคิดดอกเบี้ยเจ็ดส่วนจากสิบส่วน แม้จะดูขูดเลือดไปแต่กลับไม่มีผู้ใดกล้าเอ่ยแย้งด้วยเกรงกลัวว่าตนเองจะไม่ได้เงิน “ยายแก่นี่เอาอีกแล้วนะ ไหนบอกแยกบ้านกันไปแล้วไง ทำไมถึงได้มาวุ่นวายกับสองพ่อลูกนี่อีก ตัวเองก็มีเงินมากกว่าแท้ ๆ” พลัก

  • ทะลุมิติมาเลี้ยงดูบิดาตาบอด   บทที่ 5 แม่ไก่ยักษ์

    บทที่ 5 แม่ไก่ยักษ์ “ต้องขอบคุณเด็กคนนี้ที่เคยเข้าป่ากับพ่ออยู่บ้าง ไม่อย่างนั้นฉันต้องหลงป่าตายแทนที่จะได้เอาคืนยายแก่นั่น” หยางเทียนหรงพยายามยันตนเองขึ้นมาจากพื้นดินที่เต็มไปด้วยใบไม้แห้งกรอบ พลางปัดเศษใบไม้ที่ติดตามเสื้อผ้าจนเห็นว่าลักษณะของเสื้อที่สวมใส่อยู่นั้นสมกับเป็นจีนยุคโบราณเสียจริง “คนสมัยก่อนเขาไม่รู้สึกว่ามันโล่งเลยหรือไงกันถึงได้ใส่แค่เสื้อคลุมกับกางเกงยาวแบบนี้โดยไม่ใส่ชั้นใน” แม้จะเอ่ยถามเช่นนั้นแต่ก็ไม่มีใครให้คำตอบเขาได้อยู่ดี ดังนั้นหยางเทียนหรงจึงทำได้เพียงปลดปลงแล้วค่อย ๆ ก้าวเดินกลับไปตามเส้นทางที่มุ่งสู่บ้านหลังน้อยของตนที่อยู่ไม่ไกลเท่าไหร่นัก “ก่อนที่จะตายเด็กคนนี้ถูกแย่งผิงกั๋วไปนั่นหมายความว่าป่านนี้แล้วพ่อต้องยังไม่ได้กินอะไรแน่ เราต้องหาของป่ากลับไปกินด้วย อึก ซี่โครงหักหรือเปล่าเนี่ย ทำไมมันเจ็บแบบนี้นะ” เพราะถูกแย่งชิงผิงกั๋วไปหยางเทียนหรงจึงคิดไปเองว่าบิดาของเจ้าของร่างนั้นคงยังไม่ได้กินอะไรแน่นอน ดังนั้นตนจึงคิดเก็บของป่ากลับไปด้วย กะต๊าก กะต๊าก เสียงไก่นี่ อย่าบอกนะว่าไก่ที่ผู้คุมวิญญาณมอบให

  • ทะลุมิติมาเลี้ยงดูบิดาตาบอด   บทที่ 4 ทุบตีจนตาย

    บทที่ 4 ทุบตีจนตายแม้หญิงชราออกปากตัดขาดสองพ่อลูกออกจากสกุลอัน แต่มันกลับเป็นเพียงแค่ลมปากเท่านั้น เพราะทุกวันนางจะมารอช่วงชิงของป่าที่หลานชายแสนชังหามาได้จากชายป่าทั้งที่ของป่าพวกนั้นเรือนสกุลอันมิเคยขาดแคลนมันเลยแม้แต่น้อยวันนี้ก็เช่นเดียวกัน“เอากระต่ายของข้ามานะ ท่านยายเหตุใดท่านจึงมิห้ามปรามหลางเกอขอรับ เขามาแย่งชิงกระต่ายของข้า” มือน้อยพยายามแย่งชิงกระต่ายผอมแห้งกลับคืนมาหลังจากตนเพิ่งจับมาได้อย่างยากลำบาก เด็กน้อยทวงความยุติธรรมแต่สิ่งตอบแทนกลับล้วนเป็นความเจ็บปวดที่ผู้เป็นยายนั้นตั้งใจมอบให้“ท่านยายข้าอยากกินเนื้อกระต่ายย่างขอรับ” หลานชายอีกคนเป็นผู้แย่งชิงกระต่ายตัวน้อยมาจากเด็กน้อยผอมซูบ แล้วยังหันไปเอ่ยกับผู้เป็นยายว่าตนนั้นอยากกินสัตว์ป่าตัวนี้ทั้งที่มันมิใช่ของตน “เอาสิหลานรัก เดี๋ยวเย็นนี้ให้แม่ของเจ้าทำให้กินดีหรือไม่”“แต่น้องชายไร้ค่าไม่ให้ข้าขอรับ”“เพ้ย กับแค่กระต่ายตัวเดียวแค่นี้จะแบ่งให้พี่ชายเจ้ามิได้เชียวหรือ”“แต่มันคืออาหารของบิดาและข้านะขอรับท่านยาย แล้วจะให้ข้าแบ่งปันให้หลางเกอได้อย่างไรกัน โอ้ย ฮึก ท่านยายข้าเจ็บ” “หลานอกตัญญูเจ้ากล้าขัดข้าอย่างนั้นหรื

  • ทะลุมิติมาเลี้ยงดูบิดาตาบอด   บทที่ 3 สูญเสีย

    บทที่ 3 สูญเสียหยางเทียนหรงในร่างเด็กน้อยยังคงนอนแผ่ที่พื้นดินใต้ต้นไม้ใหญ่อยู่เช่นนั้นเพราะยังคงระบมจากบาดแผลที่ถูกทุบตีจากหญิงชราที่เป็นยายของเจ้าของร่าง คนเป็นป้าก็ไม่คิดที่จะห้ามปรามแต่กลับเป็นผู้นำร่างมาทิ้งให้สัตว์ป่ากัดกินซากเพื่อทำลายหลักฐานสารเลวนักคนเหล่านี้ไม่ควรได้รับการอภัยไม่ว่าจะสำนึกหรือไม่ก็ตามยิ่งความทรงจำสุดแสนจะเจ็บปวดของเจ้าของร่างที่ตนเพียงแค่หลับตายมันก็ประดังประเดเข้ามายิ่งกว่าสายธารไหลเชี่ยว มันยิ่งทำให้ตนรู้ว่าเด็กน้อยตรงหน้าผ่านเหตุการณ์เลวร้ายมาได้อย่างยากลำบากซึ่งเกิดจากการกระทำของผู้เป็นยายในวันที่แสงจันทราถูกรัตติกาลกลืนกินจนมืดมิดไปทั่วทั้งหมู่บ้านซีเป่ย คนในหมู่บ้านต่างกำลังหลับใหลอยู่ในเรือนกันอย่างมีความสุขยกเว้นคนในเรือนสกุลหยางที่กำลังเตรียมตัวเดินทางออกจากหมู่บ้านเพื่อไปงานเลี้ยงของจวนขุนนางที่อยู่เมืองหลวง “เจ้ามัวแต่รีรออะไรอยู่เหมยเอ๋อร์ รถม้าของจวนใต้เท้าหลี่ออกมารอที่หน้าหมู่บ้านแล้วไปแต่งกายให้งดงามเร็วเข้า” โจวซือเหยียนเอ่ยเร่งเร้าบุตรสาวที่ยังคงอยู่ในอาภรณ์เปรอะเปื้อนไร้ความงดงามทั้งที่มันได้เวลาออกเดินทางแล้ว แต่อีกฝ่ายย

  • ทะลุมิติมาเลี้ยงดูบิดาตาบอด   บทที่ 2 ชีวิตใหม่ของหยางเทียนหรง

    บทที่ 2 ชีวิตใหม่ของหยางเทียนหรง“ทำไมยายแก่นั่นถึงโหดร้ายมากขนาดนี้ นั่นหลานตัวเองไม่ใช่หรือไง ตีกันจนตายได้ยังไง” หยางเทียนหรงมองดูเด็กน้อยที่มีชื่อเหมือนกับตนเองแต่แต่งกายราวกับอยู่ในยุคโบราณ อีกทั้งยังมีใบหน้าคล้ายคลึงตนเองในตอนเด็กอีก ด้วยความสงสารตนจึงก่นด่าหญิงชราใจร้ายไม่หยุด เขาไม่คิดว่าการที่ตนเองหมดอายุขัยในโลกเดิมด้วยโรคร้ายอย่างมะเร็งปอดระยะสุดท้าย สิ่งที่คิดคือ ตนอาจจะต้องไปชดใช้กรรมในนรกสักแห่งหรือไม่ก็ไปเกิดใหม่เป็นสุนัขไม่ก็เดรัจฉานสักตัวในโลกใหม่ ไม่ใช่ถูกดึงวิญญาณมาโผล่ยุคโบราณแบบนี้ “แล้วคุณพาผมมาที่นี่ทำไมครับ ไม่ส่งไปเกิดใหม่หรือไงกัน” หยางเทียนหรงเอ่ยถามบุรุษข้างกายที่ยืนเงียบไม่พูดไม่จากับตนตั้งแต่พามาดูเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว “เจ้ามีนามว่าอะไรนะ” เสียงทุ้มเปล่งออกมาถามหลังก้มมองบันทึกการเกิดใหม่ในโลกจีนโบราณอีกครั้ง เพราะดวงวิญญาณที่ตนต้องนำมานั้นต้องมีนามว่า ‘หยางเทียนหลง’ วิญญาณชายหนุ่มผู้มีชะตาเป็นฮ่องเต้ไม่ใช่เด็กน้อยที่มีชะตาน่าอดสูเช่นนี้ มิน่าถึงได้มาโผล่ที่นี่แทนที่จะเป็นวังหลวง หรือเจ้าหนุ่มนี่มีชะตาผูกก

  • ทะลุมิติมาเลี้ยงดูบิดาตาบอด   บทที่ 1 เด็กอัปมงคล

    บทที่ 1 เด็กอัปมงคล“เอาผิงกั๋วมาให้ข้าเดี๋ยวนี้ เจ้าเด็กสารเลว” เสียงก่นด่าพลางแกะมือน้อย ๆ ออกจากผลผิงกั๋วที่หลานชายกำมันเอาไว้แน่นด้วยความโมโห เพราะอีกฝ่ายขัดขืนนางจึงลงมือผลักไหล่เจ้าตัวจนเด็กน้อยล้มลงไปบนพื้นดิน “ท่านยายเอาคืนข้ามานะขอรับ นี่มันของท่านพ่อของข้านะ” หลานชังวัยแปดปีอย่าง ‘หยางเทียนหรง’ ไม่ยินยอมจึงเกิดการแย่งชิง แต่แรงอันน้อยนิดของเด็กน้อยมันจะสู้แรงของยายเฒ่าแสนอ้วนท้วมได้อย่างไรกัน พลัก ตุบ “โอ้ย ฮึก” “ให้ข้ามาตั้งแต่แรกก็สิ้นเรื่องแล้ว” ยายเฒ่าไม่ได้ใส่ใจเลยแม้แต่น้อยว่าหลานชายตรงหน้าจะเจ็บปวดที่ใดนางสนแค่เพียงผลไม้ลูกโตนี่เท่านั้น “แต่ผิงกั๋วผลนั้นข้าเก็บมันมาให้ท่านพ่อไม่ใช่ท่านยายนะขอรับ” เด็กน้อยยังคงไม่ยินยอม และพยายามลุกขึ้นเพื่อที่จะช่วงชิงกลับคืนมาด้วยมันเป็นอาหารมื้อเย็นของบิดา เจ้าตัวน้อยไม่สามารถมอบมันให้บ้านใหญ่ได้อีกต่อไป “เพ้ย เดี๋ยวนี้เจ้ากล้าปากเก่งกับข้าเรอะเจ้าเด็กสารเลว สงสัยอยากจะลองดี อาหลางไปเอาท่อนไม้มาให้ข้า วันนี้ข้าจะสั่งสอนเด็กเลวนี่ให้รู้สำนึกว่าควรนึกถึงผู้ใดเป็นคนแรก หากหาอ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status