Share

บทที่ 4 ทุบตีจนตาย

last update Последнее обновление: 2025-02-09 15:26:57

บทที่ 4 ทุบตีจนตาย

แม้หญิงชราออกปากตัดขาดสองพ่อลูกออกจากสกุลอัน แต่มันกลับเป็นเพียงแค่ลมปากเท่านั้น เพราะทุกวันนางจะมารอช่วงชิงของป่าที่หลานชายแสนชังหามาได้จากชายป่าทั้งที่ของป่าพวกนั้นเรือนสกุลอันมิเคยขาดแคลนมันเลยแม้แต่น้อย

วันนี้ก็เช่นเดียวกัน

“เอากระต่ายของข้ามานะ ท่านยายเหตุใดท่านจึงมิห้ามปรามหลางเกอขอรับ เขามาแย่งชิงกระต่ายของข้า” มือน้อยพยายามแย่งชิงกระต่ายผอมแห้งกลับคืนมาหลังจากตนเพิ่งจับมาได้อย่างยากลำบาก เด็กน้อยทวงความยุติธรรมแต่สิ่งตอบแทนกลับล้วนเป็นความเจ็บปวดที่ผู้เป็นยายนั้นตั้งใจมอบให้

“ท่านยายข้าอยากกินเนื้อกระต่ายย่างขอรับ” หลานชายอีกคนเป็นผู้แย่งชิงกระต่ายตัวน้อยมาจากเด็กน้อยผอมซูบ แล้วยังหันไปเอ่ยกับผู้เป็นยายว่าตนนั้นอยากกินสัตว์ป่าตัวนี้ทั้งที่มันมิใช่ของตน

 “เอาสิหลานรัก เดี๋ยวเย็นนี้ให้แม่ของเจ้าทำให้กินดีหรือไม่”

“แต่น้องชายไร้ค่าไม่ให้ข้าขอรับ”

“เพ้ย กับแค่กระต่ายตัวเดียวแค่นี้จะแบ่งให้พี่ชายเจ้ามิได้เชียวหรือ”

“แต่มันคืออาหารของบิดาและข้านะขอรับท่านยาย แล้วจะให้ข้าแบ่งปันให้หลางเกอได้อย่างไรกัน โอ้ย ฮึก ท่านยายข้าเจ็บ”

 “หลานอกตัญญูเจ้ากล้าขัดข้าอย่างนั้นหรือ มานี่ข้าจะตีเจ้าให้ตายเสียวันนี้ อาหลางเอาไม้มาให้ข้า”

เด็กน้อยถูกทุบตีโดยที่บิดาไม่เคยรู้ว่าบุตรชายตัวน้อยนั้นถูกทำอันใดไปบ้าง เพราะยามที่คนเรือนนั้นมามักจะลากเด็กน้อยออกมาให้ห่างจากเรือนหลังซอมซ่อเพื่อที่จะได้ทุบตีได้อย่างถนัดและไม่มีผู้ใดมาขัดขวาง

หากกล่าวว่าเมื่อหลายวันก่อนหญิงชราใจร้ายมากแล้ว

          สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้คงเรียกว่านางมีใจอำมหิตยิ่งกว่าปิศาจร้ายเสียอีก

“หลานเนรคุณ เอาผิงกั๋วมาให้ข้าเดี๋ยวนี้” เสียงก่นด่าพลางแกะมือน้อยออกจากผลผิงกั๋วที่หลานชายกำมันเอาไว้แน่นด้วยความโมโห เพราะอีกฝ่ายขัดขืนนางจึงลงมือผลักไหล่เจ้าตัวจนเด็กน้อยล้มลงไปบนพื้นดิน

          “ฮึก ท่านยายเอาคืนข้ามานะขอรับ นี่มันของท่านพ่อของข้านะ” หลานชังวัยแปดปีอย่าง ‘หยางเทียนหรง’ ไม่ยินยอมจึงเกิดการแย่งชิง แต่แรงอันน้อยนิดของเด็กน้อยมันจะสู้แรงของยายเฒ่าแสนอ้วนท้วมได้อย่างไรกัน

          พลัก ตุบ

          “โอ้ย ฮึก ฮือ คืนผิงกั๋วผลนั้นมาให้เถิดขอรับท่านยาย ฮือ” แม้จะล้มลงจนศีรษะกระแทกหินก้อนใหญ่จนโลหิตไหลลงเข้าดวงตา เด็กน้อยปาดมันออกแล้วพยายามลุกขึ้นเพื่อที่จะยื้อแย่งผิงกั๋วคืนกลับมา

          “เหตุใดข้าต้องคืนในเมื่อมันควรเป็นของอาหลางมิใช่หลานชายที่ข้าเกลียดชังเช่นเจ้า” หญิงชรามิได้ใส่ใจนักว่าหลานชายเสียโลหิตจวนจะสิ้นสติแล้ว นางสนแค่เพียงแย่งชิงของป่าที่อีกฝ่ายหามาได้เท่านั้น

          “แต่ผิงกั๋วผลนั้นข้าเก็บมันมาให้ท่านพ่อไม่ใช่ท่านยายนะขอรับ” เด็กน้อยยังคงไม่ยินยอม และพยายามลุกขึ้นอีกคราด้วยก่อนหน้าขาอ่อนแรงจนล้มลงไป ที่เด็กน้อยต้องการชิงมันคืนมาด้วยมันเป็นอาหารมื้อเย็นของบิดา เจ้าตัวน้อยไม่สามารถมอบมันให้บ้านใหญ่ได้อีกต่อไป

          “แล้วอย่างไร เจ้าอย่าลืมว่า ของป่าทุกอย่างที่พวกเจ้าสองพ่อลูกหามาได้ล้วนแต่เป็นของบ้านใหญ่ทั้งสิ้น อย่าได้คิดเอาเป็นของตนเองลืมไปแล้วหรือ”

“แต่เราแยกเรือนกันแล้วนะขอรับ”

“เพ้ย หลานเนรคุณ ต่อให้เจ้าแยกออกไปไกลแสนไกลเพียงใด ชีวิตของเจ้าสองคนต้องเป็นทาสของสกุลอันไปจนกว่าจะตายเท่านั้น อาหลางเอาไม้มาให้ยายของเจ้า วันนี้น้องชายของเจ้าดื้อรั้นนัก ยายต้องอบรมสักหน่อย” หญิงชราได้ยินหลานชายโต้เถียงกลับมาทุกคำจนทำให้เกิดโทสะขึ้นมา เลยสั่งให้หลานชายคนโปรดไปนำไม้มาเพื่อลงโทษดังที่เคยกระทำ

เพียงแต่ครานี้นางใส่โทสะที่มีมากไป

เลยทำให้เด็กน้อยถูกทุบตีเต็มแรงจนไร้โอกาสในการปัดป้อง 

          “ขอรับท่านยาย” อันซือหลางหลานชายอีกคนของสกุลอันหัวเราะด้วยความชอบใจ แล้ววิ่งไปเอาท่อนไม้ที่วางอยู่ไม่ไกลมาให้ผู้เป็นยายทันที  

          “หากทุบตีข้าแล้ว ท่านยายจะคืนผิงกั๋วมาให้ข้าใช่หรือไม่ขอรับ” เด็กน้อยยอมรับการทุบตีแต่แลกกับการที่ผู้เป็นยายต้องคืนผลผิงกั๋วลูกนั้นคืนกลับมาให้แก่ตนเอง

          “เหตุใดข้าต้องคืนให้เจ้า ในเมื่อผิงกั๋วผลนี้มันเป็นของข้าแล้ว ข้าจะเก็บไว้ให้อาหลางกิน”

            “ไม้มาแล้วขอรับท่านยาย” 

          โจวซือเหยียนรับไม้มาแล้วยื่นผลผิงกั๋วให้หลานชายคนโปรด จากนั้นจึงหันมาทุบตีหลานชังด้วยแรงโทสะทันที โดยไม่ได้ใส่ใจว่าเด็กน้อยจะเจ็บปวดมากเพียงใดกับการกระทำของผู้ที่เรียกตนว่ายาย

          ตุบ ตุบ ตุบ

          “ท่านยายใจร้าย โอ้ย ข้าเจ็บนะขอรับ ฮึก ท่านยาย อย่าทำข้า ฮือ ข้าเจ็บ”

          “ร้องเข้าไป ร้องให้ดังกว่านี้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ผู้ใดใช้ให้พวกเจ้าสองพ่อลูกพรากหลินเอ๋อร์ของข้าไปกัน เจ้ามันสมควรตายตามลูกสาวของข้าไปเจ้าเด็กอัปมงคล” หญิงชราทุบตีพลางก่นด่าไปถึงบิดาของหลานชายคนนี้ที่ทำให้ลูกสาวของตนตาย แต่ตัวมันเองกลับรอดมาได้ แม้จะสูญเสียดวงตาไปก็ตามแต่มันก็ทดแทนความเสียใจของนางไม่ได้

          “ข้าตายตามท่านแม่ไปไม่ได้นะขอรับ ข้าต้องดูแลท่านพ่อ ฮึก ท่านยายพอแล้ว”

          “โอ้ย ฮือ พอแล้วขอรับท่านยาย ข้าเจ็บ ฮึก”

“จงตายไปเสียเถอะ เจ้าเด็กโง่”  

            ยิ่งเด็กน้อยกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดมากเท่าใดหญิงชราก็ยิ่งลงมือหนักขึ้น จนกระทั่งเด็กน้อยแน่นิ่งไม่ไหวติงพร้อมเปล่งเสียงออกมาราวกับไม่ยินยอมต่อชะตาในครานี้

          “ไม่!

          ทันทีที่เด็กน้อยแน่นิ่งไปบุตรสาวคนโต’อันซีเหมย’จึงลองวางมือบริเวณจมูกจนพบว่าหลานชายไร้ลมหายใจเสียแล้ว

          “ท่านแม่อาหรงตายแล้วเจ้าค่ะ”

          “ว่าอย่างไรนะ แค่นี้ถึงกับทนไม่ได้เชียวหรือเจ้าเด็กไร้ค่า กล้าตายหนีข้าได้อย่างไร” หญิงชราทำท่าจะตีลงบนลำตัวอีกครั้งแต่ถูกห้ามเอาไว้ก่อนด้วยเกรงว่าชาวบ้านที่ชอบสอดรู้จะพากันแห่มาดู

           “พอแล้วเจ้าค่ะท่านแม่ ในเมื่ออาหรงตายจากไปแล้วเราต้องเร่งกำจัดร่างเสียก่อน มิเช่นนั้นเกิดมีคนรู้เราจะเดือดร้อนเอาได้นะเจ้าคะ”

          “อาหลางกลับเรือนไปก่อน เอาผิงกั๋วไปกินให้อิ่มหนำแล้วอย่าได้เอ่ยเรื่องนี้กับผู้ใดเข้าใจหรือไม่” หญิงชราให้หลานชากลับไปเสียก่อนด้วยไม่อยากหลานชายต้องมารับรู้เรื่องนี้แม้อีกฝ่ายจะเห็นนางทุบตีน้องชายตายต่อหน้าก็ตาม

          “ขอรับท่านยาย”  

          “เจ้าแน่ใจหรือว่าอาหรงตายแล้ว” หลังหลานชายหายลับตาไปแล้วหญิงชราจึงเอ่ยถามบุตรสาวคนโตอีกคราเพื่อความแน่ใจ

          “แน่ใจเจ้าค่ะ”

          “หึ น่าเสียดาย บิดาไร้ค่านั่นก็น่าจะตายตามไปด้วยเพื่อชดใช้ให้กับหลินเอ๋อร์ของข้า” ความรุ่งเรืองของสกุลอันได้ตายจากไปผู้ใดเล่าจะทำใจได้ ยิ่งเห็นพวกมันมีชีวิตรอดนางยิ่งชังจนอยากจะสังหารให้ตายหลาย ๆ คราจนกว่าจะสาแก่ใจ

          “ต้องเร่งมือแล้วเจ้าค่ะ ช้ากว่านี้มิได้แล้ว” แม้จะเสียใจที่มารดาเอาแต่พร่ำเพ้อหาน้องสาวที่ตายจาก แต่แล้วอย่างไรในเมื่ออีกฝ่ายตายจากไปแล้วก็เท่ากับยามนี้ตำแหน่งบุตรสาวคนโปรดย่อมตกเป็นของนางแต่เพียงคนเดียว

          ร่างของเด็กน้อยถูกโยนทิ้งกลางป่าลึกหลังพุ่มไม้ที่มีต้นไม้ใหญ่บังสายตาจากชาวบ้านหรือพรานป่าที่เข้ามาหาของป่า พวกนางคาดหวังให้สัตว์ป่ามากัดกินร่างของเด็กน้อยเสียจะได้ไร้หลักฐานสาวมาถึงตนได้ว่าตนนั้นทุบตีอีกฝ่ายจนตายมิใช่ถูกสัตว์ป่ากัดตาย

          “อย่าได้กังวลนักเลยหลานรักของข้า เดี๋ยวข้าจะส่งบิดาของเจ้าตามไปแน่นอน”

          “ไปกันเถอะเจ้าค่ะท่านแม่ เดี๋ยวมีผู้ใดมาเห็นเข้าแล้วเราจะเดือดร้อน”

          หลังทั้งสองเดินจากไปหยางเทียนหรงที่เข้ามาอยู่ในร่างตั้งแต่ถูกอุ้มมาแล้วจึงลืมตาขึ้นมาแต่ยังมิได้ลุกขึ้นแต่อย่างใดด้วยกำลังเจ็บปวดรวดร้าวจากการกระทำของสองคนนั้น

          หนอยยายแก่มหาปะลัยจิตใจอำมหิตมากเกินไปแล้วนะคอยดูเถอะสักวันฉันต้องเอาคืนให้หรงหรงให้ได้

          “โยนมาได้เจ็บนะโว้ย ยายแก่ อึก ปวดหัว”

          “เจ็บไปถึงกระดูกด้านในเลย ใจร้ายเกินไปแล้วนี่หลานชายแท้ ๆ นะ ทำไมถึงได้ทุบตีราวกับไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน”    

          เขาไม่คิดว่าเจ้าของร่างจะถูกทำร้ายหนักมากขนาดนี้

          ในชีวิตที่แล้วของเขานั้นแม้เป็นเพียงเด็กกำพร้าแต่ก็ไม่เคยถูกทำร้ายสารพัดดังเจ้าของร่าง อีกทั้งเขายังมีโอกาสได้เรียนรู้งานอาชีพที่สามารถนำไปใช้ทำมาหากินได้อย่างปลูกผักและทำอาหาร เพราะต้องดิ้นรนให้มีชีวิตรอดมันเลยทำให้เขานั้นมีจิตใจที่หยาบกระด้างเล็กน้อยเพราะต้องสร้างเกราะป้องกันตนเอง

          แต่สุดท้ายสิ่งที่ร่ำเรียนมาก็สูญเปล่าหลังได้รู้ว่าตนเองเป็นโรคร้ายที่จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน เขาจึงได้แต่นอนรับคีโมทุกวันจนสุดท้ายร่างกายรับไม่ไหวตายในที่สุด

          และตอนนี้เขาได้ชีวิตใหม่แล้ว แม้จะเป็นร่างคนอื่นก็ตามแต่ตอนนี้มันเป็นของเขาเพราะเด็กคนนั้นคงไปเกิดใหม่สักที่แล้วล่ะ

          นับว่าเรามีชะตาต้องกันดังนั้นชีวิตต่อจากนี้ฉันจะดูแลตัวเองและพ่อของเธอให้ดีเธอไม่ต้องห่วงเด็กน้อย

         

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapter

  • ทะลุมิติมาเลี้ยงดูบิดาตาบอด   บทที่ 5 แม่ไก่ยักษ์

    บทที่ 5 แม่ไก่ยักษ์ “ต้องขอบคุณเด็กคนนี้ที่เคยเข้าป่ากับพ่ออยู่บ้าง ไม่อย่างนั้นฉันต้องหลงป่าตายแทนที่จะได้เอาคืนยายแก่นั่น” หยางเทียนหรงพยายามยันตนเองขึ้นมาจากพื้นดินที่เต็มไปด้วยใบไม้แห้งกรอบ พลางปัดเศษใบไม้ที่ติดตามเสื้อผ้าจนเห็นว่าลักษณะของเสื้อที่สวมใส่อยู่นั้นสมกับเป็นจีนยุคโบราณเสียจริง “คนสมัยก่อนเขาไม่รู้สึกว่ามันโล่งเลยหรือไงกันถึงได้ใส่แค่เสื้อคลุมกับกางเกงยาวแบบนี้โดยไม่ใส่ชั้นใน” แม้จะเอ่ยถามเช่นนั้นแต่ก็ไม่มีใครให้คำตอบเขาได้อยู่ดี ดังนั้นหยางเทียนหรงจึงทำได้เพียงปลดปลงแล้วค่อย ๆ ก้าวเดินกลับไปตามเส้นทางที่มุ่งสู่บ้านหลังน้อยของตนที่อยู่ไม่ไกลเท่าไหร่นัก “ก่อนที่จะตายเด็กคนนี้ถูกแย่งผิงกั๋วไปนั่นหมายความว่าป่านนี้แล้วพ่อต้องยังไม่ได้กินอะไรแน่ เราต้องหาของป่ากลับไปกินด้วย อึก ซี่โครงหักหรือเปล่าเนี่ย ทำไมมันเจ็บแบบนี้นะ” เพราะถูกแย่งชิงผิงกั๋วไปหยางเทียนหรงจึงคิดไปเองว่าบิดาของเจ้าของร่างนั้นคงยังไม่ได้กินอะไรแน่นอน ดังนั้นตนจึงคิดเก็บของป่ากลับไปด้วย กะต๊าก กะต๊าก เสียงไก่นี่ อย่าบอกนะว่าไก่ที่ผู้คุมวิญญาณมอบให

    Последнее обновление : 2025-02-09
  • ทะลุมิติมาเลี้ยงดูบิดาตาบอด   บทที่ 6 จากไปแล้ว

    บทที่ 6 จากไปแล้ว “ฮ่า ฮ่า ข้าจะบอกให้เจ้ารู้เอาไว้ ว่าบุตรชายที่เจ้ารักนักหนายามนี้ คงกลายเป็นอาหารสัตว์ป่าไปแล้ว อดีตบุตรเขยของข้าเอ๋ย”เท้าของหญิงชราเหยียบลงกลางอกของบุรุษที่มีรูปลักษณ์ซูบตอบอีกทั้งยังตาบอดจนช่วยตนเองแทบไม่ได้ ชาวบ้านหลายคนมามุงดูแต่ก็รีบกลับไปหลังเจอคำขู่จากภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านว่าจะไม่ให้กู้ยืมตำลึงหากมาช่วยอดีตลูกเขยไร้ค่าสาเหตุที่ชาวบ้านเพิกเฉยการช่วยเหลือสองพ่อลูกนั่นเป็นเพราะสกุลอันทำการปล่อยเงินกู้โดยใช้ที่นามาแลกเปลี่ยนและยังคิดดอกเบี้ยเจ็ดส่วนจากสิบส่วน แม้จะดูขูดเลือดไปแต่กลับไม่มีผู้ใดกล้าเอ่ยแย้งด้วยเกรงกลัวว่าตนเองจะไม่ได้เงิน “ยายแก่นี่เอาอีกแล้วนะ ไหนบอกแยกบ้านกันไปแล้วไง ทำไมถึงได้มาวุ่นวายกับสองพ่อลูกนี่อีก ตัวเองก็มีเงินมากกว่าแท้ ๆ” พลัก

    Последнее обновление : 2025-02-10
  • ทะลุมิติมาเลี้ยงดูบิดาตาบอด   บทที่ 7 อ่อนแอเกินไป

    บทที่ 7 อ่อนแอเกินไป การสูญเสียทุกอย่างที่รักไปมันทำให้คนคนหนึ่งตายทั้งเป็นได้เลย บิดาผู้นี้กำลังเป็นเช่นนั้น หยางเทียนหรงรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดที่อีกฝ่ายส่งออกมา ทั้งน้ำเสียงและท่าทางชวนให้คนมองรู้สึกสลดไปด้วย บุรุษที่เคยองอาจจนสามารถล่าสัตว์มาขายเลี้ยงครอบครัวภรรยาได้จนสามารถซื้อเกวียนม้าเทียมได้นับว่าเก่งกาจยิ่งนัก แต่แล้วต้องมาตกอยู่ในห้วงแห่งความมืดมิดแม้แต่จะเดินไปทางก็ยังต้องมีคนนำทางเช่นนี้ หากเขาเป็นเช่นนั้นลางทีตนอาจจะปลิดชีพตนเองไปแล้วก็เป็นได้ หยางเทียนหรงไม่อาจบอกให้บิดาปล่อยวางได้แต่ถ้าหากปล่อยอีกฝ่ายกล่าวโทษตนเองเช่นนี้คงไม่เป็นผลดีนัก  

    Последнее обновление : 2025-02-11
  • ทะลุมิติมาเลี้ยงดูบิดาตาบอด   บทที่ 8 ก่อไฟครั้งแรก

    บทที่ 8 ก่อไฟครั้งแรก ในห้วงแห่งความทรงจำนั้นเด็กน้อยมิเคยได้เห็นขั้นตอนการก่อไฟทำอาหารของมารดาเลยแม้แต่ครั้งเดียว เพราะเอาแต่ตามบิดาเข้าไปล่าสัตว์และหาของป่าเท่านั้น ไม่เคยได้เข้าใกล้ฟืนไฟจนมาวันนี้ ฉะนั้นเขาต้องการผู้ช่วยโดยด่วนขืนยังยืนงงงวยเช่นนี้เห็นทีวันนี้คงไม่มีสิ่งใดตกถึงท้องแน่แท้หลังจากที่ยืนงงงวยอยู่ไม่นาน เด็กน้อยจึงเดินไปหาบิดาที่ยังคงนั่งรออยู่ที่ชานเรือนดังเดิม แล้วเอ่ยถามด้วยความเขินอาย “ท่านพ่อขอรับข้าก่อไฟไม่เป็น” “อ่า จริงสิ เจ้ายังไม่เคยถูกสอนเรื่องก่อไฟสินะ เช่นนั้นพาบิดาไปที่ครัวเดี๋ยวข้าจะบอกเจ้าเองว่าต้องทำอย่างไรบ้าง”บิดาคลำไปโดยรอบจนพบเข้ากับเสาจากนั้นจึงจับยึดเอาไว้แล้วพยุงตนเองให

    Последнее обновление : 2025-02-12
  • ทะลุมิติมาเลี้ยงดูบิดาตาบอด   บทที่ 9 ข้าวต้มไข่

    บทที่ 9 ข้าวต้มไข่ “ไก่ของเจ้าได้มันมาอย่างไรอาหรง” บิดาเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ ด้วยตลอดเวลาตนขึ้นเขาล่าสัตว์มาหลายปีมิเคยเห็นไก่ป่าเชื่องกับคนมากเพียงนี้ หากไม่นำมาเลี้ยงตั้งแต่ยังเป็นลูกไก่ เพราะสัตว์ป่าแถบนี้ล้วนแต่ดุร้ายและรักความอิสระทั้งนั้น ก่อนหน้าที่เขาจะตาบอดเขาเคยไปล่าไก่ป่ามาเพื่อที่จะเลี้ยงเอาไข่ แต่กลายเป็นว่ามันสู้สุดชีวิตจนตายทำให้เขาไม่ได้ไก่ป่ามาเพื่อเลี้ยงแต่ได้มาย่างกินแทน แล้วบุตรชายตัวน้อยของตนไปทำอย่างไรมันถึงยอมมาอยู่ด้วยเช่นนี้ บิดาจะถามเรื่องนี้เองหรือ เด็กน้อยพรู่ลมหายใจด้วยความโล่งใจก่อนจะเอ่ยตอบตามความจริงเพียงกึ่งหนึ่ง “ข้าไปหาของป่ามาขอรับ แต่บังเอิญเจอมันถูกลูกหมาป่าทำร้ายอยู่จนปีกหัก ข้าเลยช่วยมันเอาไว้ มันก็เลยเดินตามข้ากล

    Последнее обновление : 2025-02-13
  • ทะลุมิติมาเลี้ยงดูบิดาตาบอด   บทที่ 10 ไม่จำเป็น

    บทที่ 10 ไม่จำเป็น เมื่อคืนลมหนาวพัดมาเกือบค่อนคืนทำให้สองพ่อลูกนอนกอดกันกลมจนเช้าตรู่ หยางเทียนหรงแทบจะแข็งตายด้วยลืมสวมใส่อาภรณ์ชั้นนอก มันจึงทำให้เด็กน้อยตัวเย็นเหยียบจนแทบไม่อยากออกจากอ้อมกอดของบิดาเอาเสียเลย กะต๊าก กะต๊าก แต่ก็ทำเช่นนั้นไม่ได้เพราะเสียงปลุกจากแม่ไก่ดังสนั่นจนเขาสะดุ้งตัวโยน เพราะมันร้องก้องอยู่ข้างหูของเด็กน้อยจนต้องลืมตาตื่นขึ้นเสียมิได้“หิวหรือเจินเจิน เหตุใดจึงส่งเสียงร้องจนข้าตื่นเช่นนี้กัน” หยางเทียนหรงเอ่ยถามแม่ไก่ตัวอ้วนด้วยความงัวเงีย แต่แม่ไก่กลับยังคงกู่ร้องอยู่เช่นเดิม และยังคงเดินวนเวียนและกางปีกด้วยอาการกระสับกระส่ายอยู่อ

    Последнее обновление : 2025-02-14
  • ทะลุมิติมาเลี้ยงดูบิดาตาบอด   บทที่ 11 เจ้าเติบโตมากทีเดียว

    บทที่ 11 เจ้าเติบโตมากทีเดียว “หรงหรง เจ้าอยู่ที่ใด ข้าได้ยินเสียงท่านแม่ นางเข้ามาทุบตีเจ้าอีกแล้วหรือ” บิดาตื่นหลังได้ยินเสียงเอะอะเสียงดังทั้งคนทั้งแม่ไก่ อีกทั้งยังเป็นเสียงคุ้นเคยยิ่งกว่าสิ่งใด อดีตมารดาของภรรยาตามมารังแกบุตรชายของเขาอีกแล้ว “ท่านพ่อตื่นแล้วหรือขอรับ ข้าไม่เป็นอะไรขอรับ ท่านยายไม่ทันได้ทุบตีข้า เจ้าเจินเจินก็โผบินเข้ามาช่วยเหลือข้าก่อนแล้ว” เด็กน้อยไม่บอกว่าตนได้กระทำสิ่งใดกับหญิงชราไปบ้างเพราะความคิดของบิดายังคงมีความกตัญญูต่ออีกฝ่ายมากนัก “เรื่องอาหาร หากมันสามารถแบ่งปันให้ยายของเจ้าได้ก็แบ่งเสียเถิด ข้าไม่อยากให้เจ้าเจ็บตัวอีก” อาหารเป็นสิ่งนอกนอกกาย มันยังสามารถหาใหม่ได้ แต่ชีวิตของบุตรชายไม่สามารถหาได้จากที่ใดอีกแล้ว

    Последнее обновление : 2025-02-15
  • ทะลุมิติมาเลี้ยงดูบิดาตาบอด   บทที่ 12 เข้าป่า

    บทที่ 12 เข้าป่า กะต๊าก กะต๊าก “ไม่ต้องตามข้ามาเจินเจิน เจ้าอยู่เรือนดูแลท่านพ่อให้ข้า” หยางเทียนหรงเอ่ยกับแม่ไก่หลังมันทำท่าจะเดินตามออกมา กะต๊าก กะต๊าก มันส่ายหัวไม่ยินยอมเพราะต้องการตามติดผู้เป็นนายไปไม่อยากแยกจาก แต่เมื่อได้ยินเหตุผลมันจึงยอมไปกกไข่ใกล้กับบิดาของผู้เป็นนายของมันและยังแอบเหล่ไปทางประตูเรือนด้วยความระแวดระวัง “ข้ากลัวท่านยายบุกเข้ามาทำร้ายท่านพ่อของข้าอีก เจ้าช่วยดูแลท่านพ่อให้ข้าได้หรือไม่” ตัวเขานั้นสามารถวิ่งหนีได้หากเกิดภัยอันตราย แต่บิดานั้นไม่สามารถกระทำได้ ดังนั้นการทิ้งแม่ไก่ตัวอ้วน

    Последнее обновление : 2025-02-16

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาเลี้ยงดูบิดาตาบอด   บทที่ 34 ขยายเรือนอีกครั้ง

    บทที่ 34 ขยายเรือนอีกครั้ง วันนี้ก็เป็นอีกวันที่มีไข่ไก่เหลืออยู่นับยี่สิบฟองซึ่งมากกว่าทุกวัน นั่นยิ่งตอกย้ำไปอีกว่ากิจการขายไข่ไก่เริ่มสั่นคลอนเล็กน้อย ยิ่งยามนี้แม่ไก่สาวเริ่มเติบโตเต็มที่ไข่ไก่ที่ออกมาล้วนแต่ขนาดที่ใหญ่จนต้องขึ้นราคามาเป็นฟองละห้าอีแปะ ทำให้สูญเสียลูกค้าไปบ้างแต่ก็ส่วนน้อยเนื่องจากขนาดของมันนั้นใหญ่มากกว่าร้านที่ขายในราคาเดียวกันเสียอีก “คุณชายกลับกันเถิดขอรับ หากรอไปมากกว่านี้เห็นทีจะถึงเรือนหลังตะวันตกดิน มันไม่เป็นผลดีแน่ขอรับ” การเดินทางไปยังหมู่บ้านซีเป่ยหลังตะวันตกดินนั้นมิใช่เรื่องที่ดีเลยแม้แต่น้อย ยิ่งไม่มีเพื่อนร่วมทางแล้วด้วยมันจะกลายเป็นเป้าโจมตีของพวกโจรป่าที่ชอบดักปล้นชิงคนที่เดินทางเพียงลำพังยามค่ำคืน ฉะนั้นกันไว้ดีกว่า

  • ทะลุมิติมาเลี้ยงดูบิดาตาบอด   บทที่ 33 พ่อบ้านสกุลหยาง

    บทที่ 33 พ่อบ้านสกุลหยาง อาการของทาสที่หยางเทียนหรงไถ่ตัวออกมานั้นนับว่าสาหัสพอสมควร เพราะบาดแผลมิได้มีเพียงแค่รอยจากแส้เท่านั้น มันยังมีรอยจากการถูกคมดาบเฉือนเนื้อมากมายนับไม่ถ้วน จนไม่คาดคิดเลยว่าทาสผู้นี้จะมีชีวิตรอดได้นานมากเพียงนี้ “ข้าจัดการบาดแผลภายนอกจนหมดแล้ว เหลือเพียงแค่ให้บุรุษผู้นั้นตื่นขึ้นมาดื่มโอสถแก้บอบช้ำภายในเท่านั้น” “ขอบคุณท่านหมอที่ช่วยเหลือท่านลุงผู้นี้เอาไว้นะขอรับ” “ลุงของเจ้าหรือ” “มิใช่ขอรับ เขาเป็นทาสที่ข้าได้ช่วยเหลือเอาไว้เพราะไม่อยากให้คนผู้นี้ถูกพ่อค้าทาสทุบตีจนตาย&

  • ทะลุมิติมาเลี้ยงดูบิดาตาบอด   บทที่ 32 ช่วยเหลือทาส

    บทที่ 32 ช่วยเหลือทาส “อ้าก” เสียงกรีดร้องของทาสตรงหน้าทำให้เด็กน้อยถึงกับชายอาภรณ์ของบิดาเอาไว้แน่นก่อนจะกระตุกสองคราเพื่อเรียกให้บิดาสนใจตนเอง “หึ ร้องออกมาทาสผู้โง่เขลา คิดว่าข้าทาสไร้ราคาเช่นเจ้าข้าจะมิกล้าทุบตีให้ตายหรือ” เสียงทุบตีทาสดังขึ้นเรียกความสนใจจากบรรดาชาวบ้านหรือแม้แต่นักเดินทางให้หันมามุงดูคนถูกทำร้ายโดยที่ไม่มีผู้ใดกล้ายื่นมือเข้าไปช่วยเหลือแม้แต่คนเดียว แม้แต่ทหารที่ยืนอยู่หน้าประตูก็ไม่ใส่ใจอีกฝ่ายเมินเฉยราวกับว่านี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นประจำจนเคยชิน เกินไปแล้ว ค

  • ทะลุมิติมาเลี้ยงดูบิดาตาบอด   บทที่ 31 ปรับราคาไข่ไก่

    บทที่ 31 ปรับราคาไข่ไก่ เกวียนม้าเทียมกำลังจะเดินทางออกจากเรือนสกุลหยางแต่ไม่ทันได้ออกตัวกลับถูกสตรีนางหนึ่งเดินมาขวางทางเอาไว้เสียก่อน พร้อมเอ่ยเสียงดังด้วยน้ำเสียงเชิงข่มขู่แกมบังคับจนทำให้ชาวบ้านที่กำลังเดินขวักไขว่ไปมาอยู่นั้นหยุดเดินแทบจะทันทีแล้วจับกลุ่มแอบสนทนากันอย่างออกรสว่าวันนี้สตรีนางนี้จะก่อเรื่องอันใดอีก “ป้าซุนจะไปขายของในเมืองหรือขอรับ” “ก็ใช่น่ะสิ ข้าอุตส่าห์เตรียมของรอพวกเจ้าตั้งแต่ยามเหม่า เหตุใดพวกเจ้าสองพ่อลูกจึงออกจากเรือนเชื่องช้านักปล่อยให้ข้ารอตั้งหนึ่งชั่วยาม บ้าไปแล้วหรือ!” หลี่อี้ซุนตวาดออกมาด้วยความฉุนเฉียวที่วันนี้นางต้องออกเดินทางไปขายเนื้อไก่ช้ากว่าที่เคยจนมารดาของสามีเอ่ยถากถางหาว่านางเริ่มทำตัวเกียจคร้าน&

  • ทะลุมิติมาเลี้ยงดูบิดาตาบอด   บทที่ 30 มีชีวิตอย่างเข้มแข็ง

    บทที่ 30 มีชีวิตอย่างเข้มแข็ง ฤดูหนาวของหมู่บ้านที่อยู่ติดเขาเหลียนซานนับว่าเลวร้ายกว่าที่อื่นมากนัก ด้วยเขาแห่งนี้เมื่อเข้าสู่เหมันต์ฤดูภูเขาทั้งลูกจะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวโพลน บรรดาพืชพันธุ์และสัตว์ป่าล้วนเข้าสู่ฤดูการจำศีล หมู่บ้านซีเป่ยก็เช่นเดียวกันยามนี้ทั่วทั้งหมู่บ้านล้วนมีแต่หิมะสูงเทียมเอวของบุรุษร่างสูงใหญ่การเดินฝ่าหิมะออกมาเพื่อที่จะเดินทางไปยังเมืองท่าซือหลินนั้นมิใช่เรื่องง่ายและมันไม่คุ้มค่าพอที่จะเสี่ยงด้วย เพราะอาจทำให้สูญเสียม้าที่เป็นตัวลากเกวียนได้ ฉะนั้น ชาวบ้านส่วนใหญ่จึงใช้ชีวิตอยู่ในเรือนของตนเองเหมือนดัง หยางเทียนหรงและบิดาที่ยามนี้กำลังนั่งกินอาหารรสชาติเผ็ดร้อนเพื่อคลายความหนาวเหน็บที่กำลังเผชิญอยู่ด้วยการกินหม้อไฟหมาล่าที่เคยทำไปคราก่อน มาวันนี้ได้ท

  • ทะลุมิติมาเลี้ยงดูบิดาตาบอด   บทที่ 29 หมูป่าตัวเขื่อง

    บทที่ 29 หมูป่าตัวเขื่อง หลังจากผ่านเหตุการณ์คนบ้านใหญ่บุกเข้ามาทำร้ายสองพ่อลูกถึงในเรือนแต่ได้นายช่างโม่ช่วยเหลือเอาไว้ได้ แต่คนกลับไม่ได้ใส่ใจเรื่องนั้นหลายคนพุ่งเป้ามาที่สิ่งของที่ทั้งสองได้กลับมาหลังเข้าเมืองไปต่างหาก โดยเฉพาะเรื่องที่เด็กน้อยนั้นเก็บสมุนไพรราคาแพงได้จนสามารถซื้อเกวียนพร้อมม้าได้ถึงสองตัว อีกทั้งยังมือเติบสร้างเรือนให้ไก่หลังโตจนหลายคนต่างเอ่ยเป็นเสียงเดียวกันว่า หลานชายของยายเฒ่าโจวช่างโง่งมยิ่งนัก มีอย่างที่ไหนเสียเงินมากมายเพื่อไก่แค่สองตัว แล้วเรื่องก็ลือไปจนถึงหูของยายเฒ่าที่ยามนี้เริ่มขยับกายได้บ้างแล้ว นางได้ยินถึงกับอยากกระอักโลหิตออกมาพ่นใส่ใบหน้าของหลานชังผู้นั้นนัก ก

  • ทะลุมิติมาเลี้ยงดูบิดาตาบอด   บทที่ 28 เรือนหลังน้อยของเจินเจินและเจาเจา

    บทที่ 28 เรือนหลังน้อยของเจินเจินและเจาเจา โม่หรงและคนงานจัดการซ่อมแซมเรือนสกุลหยางจนกลับมาดูดีเช่นเดิมจนเสร็จสิ้นภายในสองวัน จนเข้าวันที่สามที่เด็กน้อยร้องขอเพิ่มอีกว่าต้องการโรงเรือนสำหรับเลี้ยงไก่สองตัว คราแรกช่างไม้เข้าใจไปว่าผู้จ้างงานอยากได้เพียงแค่เล้าไก่เล็ก ๆเท่านั้น เพราะเห็นเพียงไก่อวบอ้วนเพียงสองตัว แต่กลายเป็นว่าเจ้าหนูเทียนหรงอยากได้เรือนหลังน้อยเอาไว้ให้ไก่ทั้งสองตัวเสียนี่ “เจ้าหนู แน่ใจแล้วหรือที่จะสร้างเรือนให้ไก่ของเจ้าน่ะ มันใช้ตำลึงไม่น้อยนะเจ้ายอมจ่ายเพื่อไก่สองตัวนี้เชียวหรือ” โม่หรงเอ่ยถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ เขาไม่อยากให้เด็กน้อยใช้ตำลึงไปโดยเปล่าประโยชน์ &ldq

  • ทะลุมิติมาเลี้ยงดูบิดาตาบอด   บทที่ 27 ก่อนเหมันต์มาเยือน

    บทที่ 27 ก่อนเหมันต์มาเยือนหลังจากที่บิดาหลับไปแล้วมันจึงเป็นเวลาของเด็กน้อยที่จะได้ใช้มันว่าวันนี้จะได้สิ่งใดกลับเรือนไปบ้างหยางเทียนหรงจึงไปเดินเลือกซื้อถ้วยใบใหม่เสียหลายใบ กระทะสองใบ และหม้อสำหรับหุงข้าวสารกับหม้อต้มอีกสามใบ เหมือนเขาจะเห็นหม้อนึ่งซาลาเปาจึงหยิบมันมาด้วย“เท่าไหร่หรือขอรับเถ้าแก่”เถ้าแก่ร้านขายเครื่องครัวเดินปรี่เข้ามาลูกค้าตัวน้อยที่ตั้งแต่เดินเข้าในร้านก็หยิบมันแบบไม่คิดถามราคาแต่อย่างใด อีกทั้งยังเลือกจำนวนมากกว่าหนึ่งชิ้น ทำเอาเถ้าแก่อย่างตนหน้าบานชื่นมื่น“คุณชายเครื่องครัวทั้งหมดนี้ราคาเจ็ดสิบอีแปะขอรับ อ้อ ข้าแถมซึ้งนึ่งให้คุณชายด้วยสองอัน”ไม่แพงเท่าใดนักเขาจึงควักตำลึงจ่ายไปโดยไม่ลังเล“เถ้าแก่ให้คนไปส่งที่โรงหมอเสิ่นหยางได้หรือไม่ขอรับ พอดีว่าเกวียนม้าของข้าจอดอยู่ที่นั่น”“ได้ ได้ คุณชายไม่ต้องกังวลข้าน้อยจะให้เด็กรับใช้นำไปส่งให้ถึงเกวียนเลยขอรับ”“ขอบคุณเถ้าแก่”“อย่าลืมแวะมาเลือกซื้ออีกนะคุณชาย”นอกจากนี้เขายังเข้าร้านขายวัตถุดิบอีกครั้งเพื่อไปเลือกซื้อแป้งสำหรับลองทำบะหมี่ดูเผื่อจำศีลในช่วงฤดูหนาวเขาจะทำให้บิดากิน แต่ความรู้ในด้านนี้น้อยเหลือเกิน

  • ทะลุมิติมาเลี้ยงดูบิดาตาบอด   บทที่ 26 บิดาหายดี

    บทที่ 26 บิดาหายดี หลังจากที่ลุงเฉินกลับออกไปแล้วเด็กน้อยทำการผสมรำข้าวกับเม็ดข้าวโพดที่นั่งแกะมันออกเข้าด้วยกันแล้วหว่านลงใกล้กลับบริเวณที่เคยปล่อยไส้เดือนเอาไว้ก่อนหน้า เพื่อให้แม่ไก่ทั้งสองตัว? ได้กินอาหารที่ดีและบำรุงตัวมันเองด้วย จากนั้นจึงเดินไปดูลังไม้ที่ทำเอาไว้ให้เจินเจินและเจาเจานอนเพื่อออกไข่กลับพบว่าสีเปลือกไข่ต่างจากที่เคยเก็บมาโดยตลอด อีกทั้งลังไม้ของเจาเจาไม่มีไข่เลยแม้แต่ฟองเดียว หรือแท้จริงแล้วเจาเจามันจะเป็นตัวผู้กัน แต่มันตัวอวบอ้วนไม่ต่างจากเจินเจินเลยแม้แต่น้อยมันจะใช่ตัวผู้แน่หรือ “เจินเจินเหตุใดไข่ของเจ้าใบใหญ่ขึ้นกว่าเดิมนัก มันเน่าหรือ” เด็กน้อยตะโกนถามแม่ไก่ตัวอ้วนด้วยความสงสัยหลังเห็นไข่ไก่นับสิบฟองเป็นเหมือนกันทั้งหมด กุ๊ก กุ๊ก มันเดินมาแล้วส่ายหน้า “แล้วมันเป็นอะไร สีก็แปลกตากว่าที่ข้าเคยเห็นอีก” กุ๊ก กุ๊ก นอกจากจะไม่ได้คำตอบแล้ว เจาเจาก็เดินขึ้นไปกกไข่หลังจากกินจนอิ่มหนำ ส่วนเจินเจินก็เดินมาส่ายหน้าให้กับตนแล้วขึ้นนั่งกกไข่เบียดกันสองตัวจนแทบไม่มีที่ว่าง

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status