บทที่ 25 รับนางเข้ามาเป็นอนุ"แม่ทัพ เจ้าอยู่ที่นี่หรือไม่" เสียงของฟางเหนียงดังขึ้นอยู่นอกประตู หลี่มี่กับไป๋ลู่ได้หันไปมองพลางเอ่ยถาม"มีเรื่องอะไรอีกมั้ยนะ ทำไมฮูหยินผู้เฒ่าถึงมาที่นี่แต่เช้า" ไป๋ลู่เอ่ยออกมาเสียงเบา"ข้าคิดว่านางต้องมาตามท่านแม่ทัพเป็นแน่ เจ้าไปเปิดประตูให้ท่านแม่เถิด เดี๋ยวข้าจะรับหน้าเอง ""เจ้าค่ะฮูหยิน " ไป๋ลู่เดินไปเปิดประตูเมื่อเห็นสีหน้าของฮูหยินผู้เฒ่านางรีบหลบสายตาทันที"ท่านแม่มาที่ห้องของข้าแต่เช้าตรู่เช่นนี้มีเรื่องด่วนอันใดหรือไม่เจ้าคะ" ฟางเหนียงเดินตรงเข้าไปในห้องโดยไม่สนใจหลี่มี่แม้แต่น้อย"แม่ทัพเจ้าอยู่ที่นี่หรือไม่? ""ท่านแม่มาหาท่านแม่ทัพมีเรื่องอันใดหรือเจ้าคะ เหตุใดถึงรีบร้อนเช่นนี้" หลี่มี่เดินตามหลังและเดินมาขวางไม่ให้ฟางเหนียงได้เดินตามหาเทียนหลันเซ่อ"เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเจ้า ""จะไม่เกี่ยวได้อย่างไรเจ้าคะ ในเมื่อท่านแม่ทัพเป็นสามีของข้า ""เฮ้อ!! ข้าจะบอกเจ้าก็ได้ถือว่าเอาบุญ งานเลี้ยงมื้อคืนนี้แม่ทัพได้ร่วมหลับนอนกับหลิวอี้เฟ่ยอย่างไรล่ะ ข้าจึงมาตามตัวแม่ทัพไปรับผิดชอบที่ล่วงเกินนาง ตอนนี้เจ้าเข้าใจแล้วก็เลิกขว้างข้าสักที ข้าบอกกับเจ้
บทที่ 26 อย่ามาเข้าใกล้หลี่มี่เดินออกมาด้านนอกอย่างอารมณ์เสียโดยมีไป๋ลู่เดินตามหลังมาติด ๆ"ทำไมต้องยอมรับด้วยนะทั้ง ๆ ที่ตัวเองไม่ได้นอนกับนางแท้ ๆ เหอะแต่ก็ช่างเถอะข้าไม่สนใจแล้วจะรับใครหน้าไหนเข้ามาอีกก็แล้วแต่เลย ชิ!! " หลี่มี่บ่นพึมพำเดินมานั่งที่ศาลารับลม "นั้นสิเจ้าคะ ข้าเองไม่เข้าใจท่านแม่ทัพเลยหรือว่าท่านแม่ทัพทำเช่นนี้เพราะอยากจบเรื่องทุกอย่าง ฮูหยินอย่าลืมสิเจ้าคะว่าท่านใต้เท้าหลิวมีอำนาจมากมาย หากแม่ทัพไม่ยอมรับยังยืนกรานว่าตนไม่ได้ร่วมหลับนอนกับคุณหนูหลิวอี้เฟ่ยข้าว่าน่าจะเกิดเรื่องวุ่นวายตามมาอีกมากมาย ข้าว่าทำเช่นนี้ก็ดีเช่นกันเจ้าค่ะ " ไป๋ลู่ได้เอ่ยความคิดของตนเองออกมาทำให้หลี่มี่คิดตาม หากเป็นเช่นนั้นก็นับว่าเป็นเรื่องดีเพราะถ้าหากมีเรื่องกับท่านใต้เท้าหลิวจริง ๆ ชีวิตสงบสุขคงไม่สงบอีกต่อไป ไม่แน่เขาอาจจะใช้อำนาจที่ตนเองมีคอยกลั่นแกล้งและปองร้ายตระกูลของเทียนหลันเซ่อแน่ ๆ "ช่างเถอะ จากนี้ข้าจะไม่ขอยุ่งกับผู้ใดหากไม่มีผู้ใดมายุ่งวุ่นวายกับข้าก่อน ขอใช้ชีวิตสงบสุขอยู่ในเรือนแห่งนี้จะดีกว่า " หลี่มี่เอ่ยไปเช่นนั้นแต่ทว่าในใจกลับร้อนรุ่ม หลายวันผ่านมา หลี่มี่นั่งอยู
บทที่ 27 ท่านแม่ทัพอยู่ปลอบใจข้า "อ้ายเยว่เจ้าไม่ได้รับบาดเจ็บตรงไหนใช่หรือไม่? หากข้ามาไม่ทันไม่คิดเลยว่าจะเกิดอันใดขึ้นกับเจ้า ข้าเตือนเจ้าแล้วใช่มั้ยอย่าได้เข้าใกล้นางอีก"ฟางเหนียงตัวของอ้ายเยว่ให้หันไปมาเพื่อดูความปลอดภัยปากก็พร่ำสอนอ้ายเยว่"ข้าไม่ได้รับบาดเจ็บอันใดขอรับท่านย่าไม่ต้องเป็นกังวล ""ดีแล้ว...แม่นมข้าให้เจ้าดูแลคุณชายให้ดีเหตุใดเจ้าถึงปล่อยให้สาวใช้อย่างไป๋ลู่มาต่อว่าคุณชายได้ "นางเบาใจก่อนจะหันไปตำหนิแม่นมของอ้ายเยว่"ฮูหยินผู้เฒ่าเจ้าคะ แต่ว่าเรื่องนี้ข้าคิดว่าคุณชายทำเกินไปจริง ๆ นะเจ้าคะ ฮูหยินเพียงนำขนมมาให้เท่านั้นแต่คุณชายกลับปัดขนมทำให้จานไปโดนใบหน้าของฮูหยิน เช่นนี้คุณชายต้องขอโทษถูกแล้วนะเจ้าคะ""นี่เจ้า!!! เจ้าเข้าข้างฮูหยินอย่างนั้นหรือ ? หรือว่าเจ้าเองอยากถูกทำข้าลงโทษอีกคน จำไว้ไม่ว่านางนำอันใดมาให้อย่าไปรับอีก นางไม่ได้หวังดีต่อคุณชาย อ้ายเยว่เจ้าจงจำไว้ในเรือนแห่งนี้มีเพียงข้าที่เป็นย่าเจ้า ท่านพ่อของเจ้าและหลิวอี้เฟ่ยสตรีผู้นี้ที่เจ้าจะไว้ใจได้เข้าใจหรือไม่? " อ้ายเยว่มองใบหน้าของหลิวอี้เฟ่ยอย่างไม่ถูกชะตาแม้ท่านย่าบอกว่านางเป็นคนที่ไว้ใจได้แต่เ
บทที่ 28 อ้ายเยว่รู้สำนึกไป๋ลู่เล่าเรื่องที่นางถูกฮูหยินผู้เฒ่าสั่งตั้งแต่วันแรกที่นางมาดูแลฮูหยิน เรื่องวางยาปลุกกำหนัดหรือแม้กระทั่งเรื่องในวันนี้ที่หลี่มี่ถูกกระทำให้เทียนหลันเซ่อได้รับรู้เมื่อเขาได้ยินแทบไม่อยากจะเชื่อหูตนเองแม้ในครั้งที่แล้วเขารู้มาว่าทั้งมารดาทั้งหลิวอี้เฟ่ยจะร้ายแต่ไม่คิดเลยว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดจะเป็นแผนของมารดาของตนเอง อีกอย่างตอนนี้ท่านแม่ได้เป่าหูให้อ้ายเยว่เกลียดเยิ่นเม่ยเม่ย"เรื่องทั้งหมดเป็นเช่นนี้หรือ เจ้าจงแสร้งทำตามทำแม่ของข้าสั่งต่อไปและไม่ต้องให้เยิ่นเม่ยเม่ยได้รับรู้ว่าข้ารู้เรื่องวันนี้ เรื่องทั้งหมดข้าจะจัดการเอง ""เจ้าค่ะท่านแม่ทัพ" ไป๋ลู่เดินไปทำงานของตนเองส่วนเทียนหลันเซ่อก็ได้ออกไปหาอ้ายเยว่ที่เรือน"แม่นมอ้ายเยว่อยู่หรือไม่? ""ท่านแม่ทัพตอนนี้คุณชายกำลังอ่านตำราอยู่ที่ห้องตำราเจ้าค่ะ ""เช่นนั้นหรือ ..ว่าแต่วันนี้ข้าได้ยินมาว่าอ้ายเยว่ทำตัวไม่ดีเรื่องจริงหรือไม่? ""เจ้าค่ะ คุณชายถูกฮูหยินผู้เฒ่าสั่งไม่ให้เข้าใกล้ฮูหยินอีก เมื่อเช้านี้ฮูหยินนำขนมมาให้แต่คุณชายกลับปัดจานขนมนั้นทิ้งแถมจานยังถูกใบหน้าของฮูหยินด้วยเจ้าค่ะ ข้าตักเตือนคุณ
บทที่ 29 เมาจนไม่ได้สติไป๋ลู่ร้อนใจมองดูท้องฟ้าครั้งแล้วครั้งเล่าฮูหยินยังไม่กลับเรือนเสียที นางจึงตัดสินใจไปหาท่านแม่ทัพที่ห้องเพื่อแจ้งให้ทราบ"ท่านแม่ทัพเจ้าคะ ข้าไป๋ลู่เจ้าค่ะ" เทียนหลันเซ่ออาบน้ำล้างกายเสร็จกำลังแต่งกายได้ยินเสียงสาวใช้ของเยิ่นเม่ยเม่ยจึงรีบออกมาหานางทันที"มีเรื่องอันใด""ฮูหยินเจ้าค่ะ ปานนี้นางยังไม่กลับมาที่ห้องเลยข้าเป็นห่วงฮูหยินเหลือเกินเจ้าค่ะ ""จนปานนี้นางยังไม่กลับอย่างนั้นหรือ เหตุใดเจ้าพึ่งมาแจ้งข้านางไปที่ใดเจ้ารู้หรือไม่?""ข้าถามก่อนที่ฮูหยินจะออกไปเห็นนางบอกว่าจะไปที่ตลาดเจ้าค่ะ ข้าไม่น่าปล่อยให้ฮูหยินออกไปเพียงลำพังเลยหากเกิดเรื่องอันใดขึ้นกับฮูหยินล้วนเป็นความผิดของข้าเอง" ไป๋ลู่กระวนกระวายใจกลัวเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น เทียนหลันเซ่อเดินเข้าห้องนำเสื้อคุมด้านนอกของตนมาสวมใส่พลางเดินออกจากห้อง"เจ้าไปรอที่ห้องข้าจะตามนางกลับมาเอง" "เจ้าค่ะท่านแม่ทัพ"เทียนหลันเซ่อเองกระวนกระวายใจไม่ต่างจากไป๋ลู่เท่าไหร่นัก เขาเป็นห่วงไม่รู้ว่าปานนี้นางจะทำอันใดอยู่ตะวันตกดินเช่นนี้พวกชายฉกรรจ์มักจะออกมาดื่มสุราหากฉุดนางจะทำเช่นใด เมื่อคิดดังนั้นเทียนหลันเซ่อรีบเร่งเ
บทที่ 30 เป็นข้าได้หรือไม่เทียนหลันเซ่อเริ่มถอดเสื้อของหลี่มี่ออกเพื่อเช็ดตัวให้นางเมื่อผ้าที่เย็นเปียกชุ่มด้วยน้ำแตะลงผิวกายทำให้หลี่มี่ที่มึนเมาอยู่ถึงกับสะดุ้ง"อื้อ... ข้าหนาว""ทนหน่อยนะข้าเพียงแค่เช็ดตัวให้เจ้านอนสบายเท่านั้น " เทียนหลันเซ่อเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบาเพราะตอนนี้ร่างกายของเขาเริ่มตื่นตัวเมื่อเห็นเนื้อเนียนที่โผล่พ้นเสื้อตู้โตวออกมาด้านนอก ไม่คิดเลยว่าร่างกายบางเล็กจะซ่อนรูปได้ขนาดนี้แต่เขาจะมามีอารมณ์กับอีกคนที่เมาสุราเช่นนี้ได้อย่างไร เทียนหลันเซ่อรีบเช็ดตัวของหลี่มี่อย่างเร่งรีบแต่แล้วเขากลับถูกหลี่มี่คว้ามือของเขาเอาไว้ สายตาของนางที่จ้องมองเขาตอนนี้เริ่มเปลี่ยนไป "ทำไมต้องสั่นด้วยเจ้าคะ ""เจ้าปล่อยมือจากข้าแล้วนอนเถิดฮูหยิน " หลี่มี่มองใบหน้าของเทียนหลันเซ่อจู่ ๆ นางก็อยากจะสัมผัสริมฝีปากนั้นอีกครั้ง นางยังติดใจในรสจูบของเทียนหลันเซ่อไม่จางหายตอนนี้ร่างกายของนางถูกสุราครอบงำจึงใช้มืออีกข้างลูบไล้ที่ริมฝีปากของเทียนหลันเซ่อย่างแผ่วเบา "ทำไมเจ้าคะ.. ข้าไม่มีสิทธิ์จับอย่างนั้นหรือ ทุกสิ่งทุกอย่างบนตัวท่านเป็นของหลิวอี้เฟ่ยเพียงผู้เดียวอย่างนั้นหรือ? " เทียนหลันเซ
บทที่ 31 ค่ำคืนที่แสนอบอุ่นเทียนหลันเซ่อถอนริมฝีปากออกมาจากกลีบกุหลาบมองร่างบางที่นอนบิดเร้าหายใจโรยรินยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ"เจ้าเหนื่อยแล้วอย่างนั้นหรือ ? อย่าพึ่งหมดแรงหนีข้าสิเพราะนี้มิใช่ของแท้เสียหน่อยต่อจากนี้ข้าจะมอบความรักของข้าให้เจ้าเอง" เทียนหลันเซ่อลุกขึ้นถอดเสื้อผ้าของตนอย่างเร่งรีบ แท่งร้อนของเขาผงาดตั้งชูชันหลี่มี่มองมาพอดีถึงกับใบหน้าถอดสี "ท่านแม่ทัพเราหยุดแค่นี้ได้หรือไม่เจ้าคะข้าไม่ไหวแล้ว!! " เพียงแค่เห็นแท่งร้อนหลี่มี่อยากหยุดทันที"จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไรเล่า เจ้าปลุกมังกรของข้าให้ผงาดแล้วจะหนีอย่างนั้นหรือ...ครั้งนี้เจ้าหนีข้าไม่ได้หรอกนะ ฮูหยินดูสิว่ามันร้อนเพียงใด" เทียนหลันเซ่อขึ้นเตียงคลานเข้ามานั่งต่อหน้านางพลางจับขาทั้งสองข้างของนางให้ตั้งชันขึ้นเผยให้เห็นกลีบกุหลาบได้อย่างชัดเจน หลี่มี่ตื่นจากอาการเมาทันทีเมื่อเห็นแท่งร้อนของเทียนหลันเซ่อ มันใหญ่โตมโหฬารจริง ๆ หากนางถูกของสิ่งนี้เข้าร่างกายของนางจะไม่บุบสลายอย่างนั้นหรือ เทียนหลันเซ่อจับมือของหลี่มี่มาจับที่แท่งร้อนของตน พร้อมเอ่ยกับนางอย่างนุ่มนวล"ฮูหยินตอนนี้มังกรน้อยของข้าพร้อมแล้วต่อจากนี้มันจะเป
บทที่ 32 อย่าทำให้ข้ารังเกียจเจ้าไปมากว่านี้เลยหลายวันต่อมา“ตั้งแต่วันที่ฮูหยินไปเดินเล่นที่ตลาดกลับมาดูเหมือนจะอารมณ์ดีขึ้นมากเลยนะเจ้าคะ เพียงจ้องมองดอกไม้รอยยิ้มก็ปรากฎบนใบหน้าแล้ว” ไป๋ลู่เอ่ยได้พูดขึ้นเมื่อเห็นนายหญิงของตนเองอารมณ์ดีมากๆ ในช่วงหลายวันมานี้“ข้าอารมณ์ดีจนเจ้ามองออกเลยอย่างนั้นหรือ?”“เจ้าค่ะ”“เจ้าได้รายงายฮูหยินผู้เฒ่าหรือไม่เรื่องที่ข้าออกไปด้านนอก” หลี่มี่หันมาถามไป๋ลู่ที่ยืนอยู่ด้านหลัง“ต้องบอกด้วยหรือเจ้าคะ? ”“เจ้าอย่าลืมสิว่าเจ้าต้องเป็นนกสองหัว ช่วงนี้หลิวอี้เฟ่ยเองก็เงียบไปข้าคิดว่านางต้องมีแผนอันใดอีกเป็นแน่ เจ้าจงนำเรื่องที่ข้าออกไปด้านนอกแถมยังกลับมาอย่างไร้สตินี้ไปแจ้งฮูหยินผู้เฒ่าซะแต่อย่าลืมที่จะบอกว่าท่านแม่ทัพเฝ้าดูแลข้าทั้งคืนด้วยล่ะ เจ้าเห็นหรือไม่วันนั้นสีหน้าของหลิวอี้เฟ่ยเย้ยข้าเพียงใดที่ได้เข้ามาเป็นอนุของท่านแม่ทัพ ข้าเองก็อยากให้นางรู้บ้างว่านางเป็นเพียงอนุเท่านั้น มิใช่ฮูหยิน”“เจ้าค่ะ เช่นนั้นฮูหยินจะอยู่ที่สวนแห่งนี้เพียงผู้เดียวหรือเจ้าคะหากให้ข้าไปในตอนนี้”“ไปเถิดแล้วเจ้าอย่าลืมสืบมาด้วยว่าตอนนี้ทั้งสองมีแผนอันใดอีก”“เจ้าค่ะ ข้าจะ
บทที่ 4 เขาคือคนที่ฉันคิดถึงมาตลอดไม่นานนักเซ่อเหลียนได้กลับมาพร้อมยาที่เขาตั้งใจไปซื้อมาให้เธอเขาเดินเข้ามาในห้องของหลี่มี่ได้ยินเสียงน้ำที่หยดลงพื้น เขาจึงเดินไปที่ห้องครัวของเธอเปิดตู้เย็นเพื่อดูของจะทำอาหารให้เธอได้กินเช้านี่แต่กลับไม่เห็นอาหารที่มีประโยชน์เลยมีเพียงอาหารสำเร็จรูปเท่านั้น"เธอใช้ชีวิตอย่างไรเนี้ยะ! ทำไมไม่มีอะไรกินเลย” เขาบ่นพึมพำอยู่หน้าตู้ก่อนจะคว้าอาหารสำเร็จรูปมาต้มให้เธอได้กินก่อนจะกินยาหลี่มี่อาบน้ำเสร็จเธอเดินออกมาจากห้องน้ำผมยังไม่แห้งดีกลิ่นสบู่อ่อน ๆ ออกมาจากเธอทำให้เขาหันไปมองเพราะตอนนี้เธอมายืนดูเขาอยู่“ทำอะไรเหรอ”“หาอะไรทำให้คุณกินนะสิ ทำไมไม่มีอะไรเลยนอกจากอาหารสำเร็จรูปแบบนี้”“เฮ้อ! นายไม่ต้องสนใจการอยู่การกินของฉันหรอกนะ มานี่ฉันมีเรื่องจะพูดกับนายมากมายเรื่องกินเอาไว้ก่อน” เธอดึงมือของเขาออกจากห้องครัวไปนั่งที่โซฟาเพื่อตกลงเรื่องที่เกิดขึ้น“เรื่องที่จะพูดคงไม่คิดผลักไสไล่ส่งผมหรอกนะ รู้มั้ยว่าคุณคือคนที่พรากความบริสุทธิ์ของผมไป” เซ่อเหลียนกลัวว่าเธอจะไม่ให้เขาได้เจอเธออีกเลยเอ่ยออกมาแบบนี้“เฮ้อ! ฉันไม่เข้าใจนายเลย เอาอย่างนี้หากเรื่องที่เก
บทที่ 3 ฉันจะรับผิดชอบเองเมื่อพาเธอเข้านอนเขาได้จัดแจงนำกระเป๋าของเธอวางไว้บนโต๊ะหัวเตียง สายตาของเขาจ้องมองรอบ ๆ ห้องของหลี่มี่เห็นรูปที่เธอสั่งวาดช่างเหมือนเขาเหลือเกิน ยิ่งทำให้เขาดีใจที่เธอไม่เคยลืมเขาแม้แต่น้อย“ดีใจจังเลยที่เธอไม่เคยลืมฉัน ...คงเสียใจมากสินะที่กลับมาทั้งอย่างนี้ เธอเป็นคนเปลี่ยนแปลงทุกอย่างในชีวิตของฉัน ขอบคุณนะหลี่มี่” เขาหันมามองเธอที่หลับอยู่บนเตียงอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว ก่อนที่เขาจะกลับบ้านของตัวเองได้เข้าไปนั่งข้างเธอยื่นมือไปลูบหน้าของเธอย่างอ่อนโยน“ดูสิไม่ว่าตอนนั้นหรือตอนนี้เธอยังคงงดงามเช่นเดิม” เขาลูบหน้าของเธอก่อนจะลุกเพื่อกลับบ้านแต่แล้วหลี่มี่กลับจับมือของเขาเอาไว้แน่นละเมอออกมาเสียงแผ่วเบา“อย่าไปนะ อย่าจากฉันไป อึก อึก ฉันเหงาเหงามากเหลือเกิน” แม้ว่าเธอจะไม่ลืมตาแต่น้ำตาของเธอไหลรินออกมาอย่างช้า ๆ“เธอใช้ชีวิตโดยที่ไม่มีใครมาตลอดอย่างนั้นเหรอ แล้วอย่างนี้ฉันจะหักห้ามใจตัวเองไม่ให้อยากโอบกอดเธอได้อย่างไร” เซ่อเหลียนใช้มืออีกข้างเช็ดหยาดน้ำตาให้หลี่มี่ส่วนมืออีกข้างของเขาตอนนี้ถูกเธอกอดเอาไว้แน่น เขาพยายามแกะมือของเธอออกอย่างแผ่วเบากลัวว่าเธอจะตื
บทที่ 2 เจอกันอีกครั้งหลังจากที่เขาได้ขึ้นชื่อว่าเป็นนักเขียนจึงได้รู้ว่าอีกไม่กี่วันจะมีการรับรางวัลมีรายชื่อของนักเขียนหลี่มี่ที่เขาต้องการพบ เซ่อเหลียนจึงตั้งใจจะไปพบเธอให้ได้ เขาเฝ้ารอการพบเจอจนกระทั่งได้เห็นเธอขึ้นไปบนเวทีรับรางวัล ใบหน้าของเธอช่างเหมือนเยิ่นเม่ยเม่ยอย่างไรอย่างนั้น ตอนที่เธอพูดถึงหนังสือเรื่องนี้ที่ทำให้เธอได้รับรางวัลในครั้งนี้ เขายิ่งมั่นใจว่าเธอคือคนที่เขาตามหา"นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ฉันรักมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวละครทุกเหตุการณ์ที่ฉันบรรจงแต่งออกมาแต่ละบทความฉันใช้ความรู้สึกของฉันเขียนไปด้วย เมื่อตัวละครมีความสุขฉันก็มีความสุขหากเมื่อไหร่ที่ตัวละครฉันเสียใจฉันเองก็เสียใจไม่น้อยร้องไห้จนไม่เป็นอันทำอะไร ฉันไม่คิดเลยว่านิยายของฉันเรื่องนี้จะเป็นที่ยอมรับของทุกคน ขอบคุณนะคะสำหรับรางวัลนี้และขอบคุณที่ให้โอกาสนักเขียนตัวน้อยได้มาโลดแล่นในวงการนี้ฉันขอสัญญาจะตั้งใจเขียนนิยายออกมาให้ดีที่สุด ขอบคุณค่ะ" รอยยิ้มแววตาที่เขาคุ้นเคยแม้กระทั่งน้ำเสียงของเธอเขาจดจำได้ทุกอย่าง น้ำตาแห่งความดีใจได้หลั่งไหลออกมา เขาที่นั่งอยู่ด้านหลังสุดรีบเช็ดน้ำตาหัวใจของเขาเต้นแรงตึกตั
บทที่ 1 ทะลุมิติ"เฮือก!!! " ชายนอนอยู่บนเตียงลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างงงวย มองซ้ายมองขวาต้องตกใจเข้าไปใหญ่ สถานที่ที่ไม่คุ้นเคยช่างแปลกตายิ่งนัก แม้แต่เตียงที่นอนอยู่ก็มิใช่เตียงที่เขานอนในทุกวัน"ที่นี่ที่ใดกัน!! หรือว่าข้าถูกศัตรูลักพาตัวมา ไม่ได้การแล้วข้าต้องรีบหาทางออกไปจากที่นี่ต้องหาผู้บงการในครั้งนี้เพื่อจัดการให้สิ้นซาก" เทียนหลันเซ่อลุกขึ้นจากเตียงมองพนังสีขาวเป็นห้องสี่เหลี่ยมเดินสำรวจก่อนจะเปิดประตูค่อย ๆ ย่องเพื่อหลบหนีเขาเดินออกมาต้องตกใจมากกว่าเดิม ด้านนอกมีสิ่งแปลกประหลาดมากกมาย เขามองซ้ายมองขวาไม่พบเจอผู้คนเขามองเห็นโต๊ะที่ไม่เคยเห็นจึงนั่งลงเพื่อครุ่นคิดแต่แล้วเขากลับนั่งทับรีโมททำให้ทวีต่อหน้าได้เปิดขึ้นเสียงดัง ทีวีได้ฉายข่าวเทียนหลันเซ่อไม่เคยเห็นเขาตะโกนออกมาเสียงดังด้วยความตกใจ"นั่นใครกัน!! ออกมามาเดี๋ยวนี้นะ เจ้าเป็นใคร" เขาชี้นิวไปด้านหน้าทีวีพลางกระโดดขึ้นโซฟา จู่ ๆ มีหญิงชราเดินเข้ามาในมือถือทัพทีใบหน้าคิ้วขมวด"อะไรของแกกันห่ะ!!! ตื่นมาโวยวายเช่นนี้ได้อย่างไร เวรกกรรมอะไรของฉันมีลูกโตขนาดนี้แล้วแต่ยังต้องคอยหาเลี้ยงอีก " เทียนหลันเซ่อคิ้วขมวดอย่างสงสัยสตรีด้าน
บทที่ 55 นักเขียนหน้าใหม่หลี่มี่ได้ถูกรับเชิญให้ไปรับรางวัลนักเขียนหน้าใหม่ที่ประสบความสำเร็จในงานเลี้ยงฉลองนักเขียนดัง ๆ ระดับแถวหน้าของประเทศ เธอแต่งหน้าอยู่ที่กระจกแม้เวลาผ่านไปหนึ่งปีแต่เธอยังคงคิดถึงเทียนหลันเซ่อพระเอกนิยายตัวเองไม่จางหายเขาไม่เคยหายไปจากใจของเธอเลย แม้กระทั่งน้ำเสียงหรือใบหน้าเธอยังคงจำได้ดีแต่ทว่าตอนนี้เธอไม่ได้ร้องไห้เหมือนที่ผ่านมาเธอกลับยิ้มออกมาอย่างสุขใจ "เทียนหลันเซ่อปานนี้ท่านจะเป็นอย่างไรนะ รู้หรือไม่ว่าฉันคิดถึง วันนี้เป็นวันที่ฉันประสบความสำเร็จถ้ามีท่านอยู่เคียงข้างคงจะดี เอ๊ะ! แต่เดี๋ยวสิยังไงทุกวันนี้ฉันก็มีเทียนหลันเซ่ออยู่ข้างกายอยู่แล้ว วันนี้เราไปรับรางวัลด้วยกันนะ" หลี่มี่หยิบหนังสือของตัวเองพร้อมถือออกจากห้องไปพร้อม ๆ กัน ฝั่งด้านเทียนหลันเซ่อหลังจากที่เขากลับมาจากทะเลวันนั้น เยิ่นเม่ยเม่ยดูอ่อนโยนมากกว่าเดิมวาจานิสัยไม่เหมือนเดิมแถมยังเหมือนสตรีที่สูงส่งแต่ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดีแต่เหตุใดความรู้สึกของเขาเสมือนว่ามีบางสิ่งบางอย่างขาดหายไป วันนี้เขามายืนจ้องมองดวงจันทร์ที่ลอยอยู่บนฟากฟ้าลมเย็นกระทบกาย จู่ ๆ รอยยิ้มใบหน้าที่เขาคิดถึงก็ปรากฎข
บทที่ 54 ลาจากด้วยความรักเทียนหลันเซ่อจ้องมองสตรีตรงหน้าอย่างสุขใจ ขอบคุณสวรรค์ที่ส่งเขาย้อนเวลามาอีกครั้ง หากเป็นเช่นดั่งอดีตเขาก็คงไม่มีทางรู้ว่ามีสตรีที่เขารักและรักเขามาเพียงใด นางเข้ามาเติมเต็มทุกอย่างในชีวิตของเขาจริง ๆ หลี่มี่วางมือของเทียนหลันเซ่อพร้อมหันหลังไปมองพลุที่ยังคงถูกจุดอีกหลายดอกบนท้องฟ้า น้ำทะเลไหลมาสัมผัสที่เท้าจนหลี่มี่ต้องก้มมองดูแต่แล้วหัวใจของนางต้องหล่นวูบเมื่อบัดนี้ไม่ใช่แค่เท้าหรือขาของนางที่เลือนรางตอนนี้บนตัวของนางก็เริ่มเลือนรางขึ้นมาเรื่อย ๆ นางไม่เข้าใจทำไมคนอื่นไม่เห็นเหมือนนางหรือมีเพียงแค่นางผู้เดียวที่เห็นความเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ นางไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นแค่คิดนางก็ใจหายรีบหันไปมองหน้าของเทียนหลันเซ่ออย่างลึกซึ้งอีกครั้ง "ท่านพี่เจ้าคะ วันนี้ข้าอยากให้ท่านสัมผัสตัวข้าช่วยมอบจูบที่ลึกซึ้งให้ข้าได้หรือไม่เจ้าคะ""ได้สิทำไมข้าจะให้เจ้าไม่ได้แค่เพียงจูบ" พูดจบเทียนหลันเซ่อโอบกอดหลี่มี่ก้มลงประทับจูบที่นุ่มนวลหอมหวานแต่ทว่านางกลับรู้สึกเสียใจ เพราะหากเป็นอย่างที่นางคิดนี่จะเป็นจูบสุดท้ายที่นางจะได้รับจากเขา ทั้งสองจูบกันท่ามกลางแสงพลุที่ส่องประ
บทที่ 53 น้ำตาแห่งความตื้นตันสาย ๆ ของวันหลี่มี่ได้ไปหาอ้ายเยว่ที่ห้องของเขาเพราะไม่รู้อะไรใจของนางถึงอยากไปหาอ้ายเยว่ในวันนี้นัก "คุณชายฮูหยินมาเจ้าค่ะ " แม่นมได้เอ่ยบอกคุณชายเมื่อเห็นฮูหยินเดินเข้ามาใกล้ ๆ อ้ายเยว่ยิ้มกว้างรีบวิ่งเข้ามาหาหลี่มี่อย่างดีใจ"ท่านแม่วันนี้ข้าว่าจะไปหาท่านที่ห้องนะขอรับไม่คิดเลยว่าท่านแม่จะมาหาข้าที่นี่ ข้ามีนิทานเรื่องใหม่จะเล่าให้น้องฟังขอรับ"เด็กชายรีบบอกหลี่มี่อย่างกระตือรือร้น นางลูบหัวของอ้ายเยว่ก่อนจะจับมือของเขาไปนั่งที่เก้าอี้หน้าเรือนที่ถูกจัดวางไว้เพื่อนั่งเล่น"อย่างนั้นหรือ ? ช่างเป็นพี่ชายที่ดีจริง ๆ เพราะข้าคิดถึงเสียงของเจ้าล่ะมั่งเลยมาหาเจ้า" หลี่มี่ยิ้มบางจ้องมองเด็กชายด้วยความเอ็นดู "ท่านแม่รอข้าอยู่ที่นี่ก่อนนะขอรับ ข้าจะเข้าไปเอาของมาให้ท่านแม่นะขอรับ" หลี่มี่พยักหน้าให้อ้ายเยว่เข้ารีบเดินเข้าไปในห้องเพื่อเอาอะไรบางอย่างมาให้หลี่มี่ หลังจากวันที่ถูกจับตัวไปกลับมาอ้ายเยว่มีท่าทีเปลี่ยนไปแถมยังเรียกหลี่มี่ว่ามารดาอย่างเต็มปากเต็มคำ ความรู้สึกรักและผูกพันมากขึ้นทุกวัน ไม่นานเด็กชายได้เดินออกมาพร้อมกับตุ๊กตาปั้นที่เขาตั้งใจทำมาให้แก่ห
บทที่ 52 ความสุขหลายวันผ่านไป ช่วงนี้อากาศเริ่มอุ่นขึ้นเพราะใกล้หมดฤดูหนาว ฟางเหนียงได้เดินทางไปที่วัดตามที่นางเอ่ยไว้แม่ทัพฮูหยินพร้อมอ้ายเยว่ได้เดินทางไปส่ง และขอให้นางกลับมาที่เรือนในช่วงเวลาที่เยิ่นเม่ยเม่ยท้องแก่นางจึงสัญญาว่าจะกลับก่อนที่เยิ่นเม่ยเม่ยจะคลอด เพราะนางเองก็อยากเห็นหลานของตนเองเช่นกัน ช่วงนี้หลี่มี่มีความสุขมากจริง ๆ ทุกวันอยู่กับไป๋ลู่และมีอ้ายเยว่ที่มักจะมาอ่านตำราให้น้องในท้องได้ฟัง แถมตอนนี้มีลูกแมวแสนน่ารักหลงมาอยู่กับอ้ายเยว่หนึ่งตัวขนของมันหรือแม้แต่ใบหน้าเหมือนมูมูยิ่งนัก จึงคิดว่านี่คือน้องของมูมูที่หลงเข้ามาอยู่ด้วย อ้ายเยว่มีความสุขมาก ๆ ที่ทุกคนมอบความรักให้เขา ตอนนี้ท้องของหลี่มี่เริ่มโตขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดท่านแม่ทัพก็กลับมานอนกับนางในทุกค่ำคืน "ฮูหยินตอนนี้ท้องเริ่มใหญ่แล้วคุณหนูในท้องดิ้นหรือยังเจ้าคะ" หลี่มี่ยืนอยู่กลางสวนยืนมองเหล่าผีเสือบินไปมาเมื่อได้ยินไป๋ลู่เอ่ยถามเช่นนั้นจึงมองที่ท้องของตนพลางใช้มือลูบเบา ๆ "ไป๋ลู่ตอนนี้ข้าพึ่งท้องได้ไม่เท่าไหร่เองอีกนานกว่าลูกของข้าจะดิ้น ว่าแต่ตอนนี้ท่านแม่ของเจ้าสบายดีแล้วหรือน้องชายของเจ้าไปเรียนหรือไ
บทที่ 51 บทลงโทษของหลิวอี้เฟ่ย"ฝ่าบาทกระหม่อมขอประทานอภัยในครั้งนี้ขอให้ฝ่าบาทไตร่ตรองด้วยความยุติธรรม บุตรสาวของกระหม่อมเป็นสตรีที่นอบน้อมแม้แต่แมลงตัวน้อย ๆ ยังไม่กล้าเหยียบแล้วเรื่องนี้นางจะกล้าทำได้อย่างไรขอรับ กระหม่อมว่าเรื่องนี้ต้องมีผู้ที่หวังร้ายกับบุตรสาวของกระหม่อมพ่ะย่ะค่ะ ท่านแม่ทัพมีฮูหยินใหญ่ที่เป็นบุตรสาวของท่านรองแม่ทัพผู้ก่อน นางชิงชังบุตรสาวของกระหม่อมที่เข้าไปเป็นอนุของท่านแม่ทัพ กระหม่อมคิดว่าเรื่องนี้อาจจะเป็นแผนของนางขอรับ "ฝ่าบาทครุ่นคิดตามที่ใต้เท้าหลิวเอ่ย จนเทียนหลันเซ่อต้องคุกเข่าลงมือประสานกันพร้อมทูลฝ่าบาทความจริงทั้งหมด "ทูลฝ่าบาทกระหม่อมมีฮูหยินเป็นบุตรสาวของรองแม่ทัพนั้นเป็นเรื่องจริง แต่เรื่องนี้นางไม่ได้รู้เรื่องเลยพ่ะย่ะค่ะ บุตรสาวของท่านใต้เท้าต่างหากที่เป็นสตรีร้ายกาจนางหลอกลวงกระหม่อมหวังเป็นอนุ ในคืนงานเลี้ยงนางใส่ยาปลุกกำหนัดให้กระหม่อมดื่ม แต่คืนนั้นกระหม่อมรู้ทันจึงไม่ได้ร่วมหลับนอนกับนางแต่เมื่อตื่นเช้ามานางกลับหลอกลวงทุกคนว่ากระหม่อมนั้นเป็นผู้ล่วงเกินนางทั้ง ๆ ที่กระหม่อมไม่ได้แตะตัวนางแม้แต่น้อยเรื่องนี้ฝ่าบาทโปรดให้ความเป็นธรรมกับกระห