Share

ตงฟางผู้เกาะติด

Author: l3oonm@
last update Last Updated: 2025-01-21 00:39:27

เมื่อเสร็จเรื่องของนาง จือหลินนางก็พามารดากลับที่พัก แต่ตงฟางกับงอแงจะขอติดตามไปนอนกับทั้งคู่ด้วย ลี่อินหันไปส่งสายตาขอความช่วยเหลือจากป๋อฉิว เขาที่เห็นเช่นนั้นภายในอกก็อดที่จะสะท้านไม่ได้

“ฟางเออร์ พี่หญิงของเจ้าเปิดห้องพักเพียงห้องเดียว เจ้าจะไปนอนกับนางได้อย่างไร” ป๋อฉิวเอ่ยดุตงฟาง

“ข้า ข้า ข้าไม่เคยได้นอนกับมารดาเลยสักครั้งขอรับ” ตงฟางก้มหน้าลงอย่างเศร้าใจ

จือหลินอดสะท้านในคำพูดของเขาไม่ได้ ตงฟางก็คงเหมือนนางที่ไม่เคยได้รู้ว่าอ้อมกอดของมารดาเป็นเช่นใด จนเมื่อนางได้มาเจอลี่อินท่านแม่ในตอนนี้

“ท่านแม่ ท่านนอนกับฟางเออร์ที่นี่ก็ได้เจ้าค่ะ” จือหลินเอ่ยขึ้น

“แล้วเจ้าเล่า” ป๋อฉิวเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง

“ข้าดูแลตนเองได้เจ้าค่ะ” นางไม่ได้นอนกับมารดาอยู่แล้ว ให้มารดามานอนกับตงฟางก็ไม่เป็นไร

“พี่หญิงท่านดีที่สุดเลยขอรับ” ตงฟางพุ่งเข้ากอดเอวจือหลินไว้แน่น พร้อมทั้งเงยหน้ามองนางด้วยดวงตากลมโตราวกับเจ้ากวางน้อย

“เหอะ คืนเดียวเท่านั้น” จือหลินเชิดหน้าขึ้น เพื่อกลบอารมณ์แปลกประหลาดที่เกิดกับนางในตอนนี้

จือหลินเดินไปส่งมารดาที่ห้องของตงฟาง ก่อนที่นางจะกลับห้องพักของนางไป

ภายในมิติจือหลินนางนั่งสมาธิ
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   รถม้าของพี่หญิง

    ก่อนจะถึงเมืองหลวงต้องผ่านหัวเมืองฝูซาง หากเดินทางต่อก็คงไปไม่ทันประตูเมืองที่ใกล้จะปิด ทั้งขบวนจำต้องหยุดพักอีกคืนก่อนจะเข้าเมืองหลวงตอนที่รับมื้อเย็น ตงฟางก็นั่งไม่นิ่งจนหลายคนสังเกต ทุกคนจึงได้เอ่ยถามอย่างเป็นห่วง แต่จือหลินนางรู้ดีว่าตงฟางเป็นอันใดเขาอยากจะพูดอวดสิ่งของที่อยู่ในรถม้าของนางใจแทบขาด แต่เพราะกลัวนางตัดลิ้นจึงไม่กล้าพูด“เจ้าพูดกับท่านย่าได้” เสียงพูดของจือหลินเหมือนเสียงสวรรค์สำหรับตงฟางเขายิ้มกว้างออกมาอย่างยินดี ก่อนที่จะรีบกินข้าวในชามจนหมดในเวลาเร็ว เพื่อพาท่านย่าไปที่ห้องของเขา เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในรถม้าให้นางฟัง“พ่อรู้ด้วยมิได้หรือ” ป๋อฉิวเอ่ยถามจือหลินนางเลิกคิ้วขึ้นมองเขา เพราะได้ยินคำแทนตนที่เปลี่ยนไป“ท่านแม่ข้ายอมรับท่านแล้วหรือเจ้าคะ” จือหลินเอ่ยถามอย่างยียวนป๋อฉิวมิได้ตอบแต่เขาแสร้งปั้นหน้าเศร้าแทน“ท่านจะแสดงให้ผู้ใดดูเจ้าค่ะ” จือหลินเอ่ยถามอย่างรู้ทัน เมื่อเห็นป๋อฉิวหันไปมองที่มารดาของนางเพื่อขอความเห็นใจลี่อินนางมิได้ตอบ เอาแต่ก้มหน้าลงอย่างเขินอาย จือหลินได้แต่กลอกตากับท่าทางของมารดา มารดาของนางไม่คิดจะเล่นตัวสักหน่อยหรือ นางอยากจะตะโกนถามเส

    Last Updated : 2025-01-22
  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   จวนตระกูลถาน

    จือหลินนางดึงมีดสั้นที่อยู่ที่ขาอ่อนของนางทั้งสองข้างออกมาถืออยู่ในมือ แล้วพุ่งเข้าหาบุรุษทั้งสองทันทีบุรุษทั้งสองมัวแต่คิดจะสังหารป๋อฉิวเลยไม่ได้ระวังเด็กสาวที่อยู่ด้านหน้าของเขา มีดสั้นในมือของจือหลินแทงเข้าที่ท้องของชายคนที่อยู่ด้านหน้าสุดนางดึงออกอย่างรวดเร็วแล้วแทงซ้ำของไปที่ขาของเขา ก่อนจะเปลี่ยนทิศหันไปจัดการกับบุรุษอีกครั้งที่มัวแต่ตกตะลึงที่เห็นเด็กสาวเช่นนางลงมืออย่างรวดเร็วเช่นนี้ป๋อฉิวได้ยินเสียง เมื่อหันมาก็เห็นชายคนแรกล้มลงไปแล้ว เขารีบพาลี่อิน ตงฟางและมารดาเข้าไปหลบอยู่ในรถม้า ก่อนจะเข้ามาช่วยจือหลินจัดการองครักษ์ของตระกูลถานจะวิ่งเข้ามาช่วยนายของตนอย่างรวดเร็ว แต่ความเร็วของทุกคนก็ยังสู้ความเร็วของจือหลินที่นางลงมือไปก่อนแล้วไม่ได้เมื่อเห็นว่าชายทั้งคู่ไม่อาจลุกขึ้นมาจัดการพวกตนได้อีก จือหลินนางก็สะบัดเลือดที่ติดอยู่กับมีดสั้นออก ก่อนจะเก็บเข้าที่เดิมของมัน“หลินเออร์ เจ้าเป็นอันใดหรือไม่” ป๋อฉิวรีบเข้ามาดูจือหลินว่านางได้รับบาดเจ็บที่ใดหรือไม่ อย่างเป็นห่วง“ไม่เจ้าค่ะ ท่านพาตัวพวกมันไปสอบสวนเสียก่อนเถิด” จือหลินนางส่งเรื่องให้ป๋อฉิวจัดการ แล้วนางก็ขึ้นไปบนรถม้า

    Last Updated : 2025-01-22
  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   ไม่ใช่โรคชราอย่างแน่นอน

    เมื่อทั้งหมดเข้ามาในห้องโถง พ่อบ้านก็รายงานเรื่องที่ผ่านมาภายในจวนเมื่อฮูหยินผู้เฒ่าไม่อยู่ที่จวน ว่ามีเรื่องใดเกิดขึ้นบ้าง“นางเป็นผู้ใดพี่ใหญ่ ถึงได้อยู่ฟังเรื่องในเรือนได้ขอรับ” ถานเฟิง น้องชายต่างมารดาของป๋อฉิวก็เอ่ยถามอย่างแปลกใจ“ภรรยากับบุตรสาวของข้า เช่นนี้เรื่องภายในจวนทั้งสองรับรู้ได้หรือยัง” ป๋อฉิวจ้องน้องชายต่างมารดาอย่างดุดัน“แล้วท่านรู้ได้อย่างไรว่านางเป็นบุตรสาวของท่านจริง มิใช่ลูกกับชายอื่นหรอกรึ” ลั่วอิ๋นเอ่ยขึ้นอย่างไม่ยอมรับป๋อฉิวกับจือหลินหันไปมองทางนางพร้อมกัน แววตาของทั้งคู่เหมือนกันราวกับคนเดียวกัน จ้องมองนางเหมือนพยัคฆ์ที่พร้อมจะขย้ำเหยื่อสวีลั่วอิ๋วก้มหน้าลงอย่างหวาดกลัว นางคิดไม่ถึงว่าเด็กสาวจะมีรังสีสังหารยามที่มองนางเช่นนี้พ่อบ้านเมื่อเห็นว่าไม่มีผู้ใดเอ่ยพูดอีกแล้ว ก็รายงานเรื่องทั้งหมด เมื่อพ่อบ้านพูดจบฮูหยินผู้เฒ่าก็มองไปทางลูกสะใภ้รองของนางทันทีลั่วอิ๋นใช้โอกาสที่นางและบุตรชายไม่อยู่ที่เรือนจัดการเลี้ยงน้ำชาสองครั้ง เงินที่ใช้ในงานก็หมดไปหลายร้อยตำลึงทอง เสื้อผ้าเครื่องประดับของสองแม่ลูกอีก“พวกเจ้าทำเช่นนี้ข้าจึงคิดเรื่องหนึ่งออกมาได้ ข้าจะพูดเรื่

    Last Updated : 2025-01-23
  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   พิษในตัวผู้เฒ่าถาน

    จือหลินเมื่อเข้ามาในมิตินางก็เริ่มทดสอบพิษทันที เพราะเรื่องพิษนางทดลองและทำขึ้นมาเพื่อไว้ใช้หลายชนิด นางจึงต้องทำยาถอนพิษที่ครอบจักรวาลไว้ด้วย เผื่อวันใดเกิดนางถูกพิษขนาดทดลองจะได้แก้ไขได้ทันนางสามารถนำยาถอนพิษของนางออกไปรักษาได้เลย แต่นางอยากจะรู้ว่าเป็นพิษชนิดใด เพื่อที่จะได้ตามหาคนร้ายได้ถูกต้องเพียงไม่นานผลทดสอบก็ออกมา ยังดีที่เพียงนำเลือดของผู้ถูกพิษเข้าเครื่องตรวจของนาง ก็สามารถปรากฏผลได้เลยว่าผู้ป่วยเป็นโรคอันใดหรือถูกพิษชนิดใด‘พิษฟู่จื่อ’ โหราเดือยไก่ เป็นสมุนไพรที่ต้องทำลายพิษเสียถึงจะนำมาใช้ได้ และส่วนมากใช้ภายนอก เพื่อไม่ให้ผู้ที่ใช้ยาใช้ไม่ถูกวิธีจนกลายเป็นยาพิษได้อีกชนิดคือ ‘เจี๋ยจู๋เถา’ หรือยี่โถ ชาวบ้านมักนำลำต้นกิ่งก้านมาตากแดดแล้วนำไปวางไว้ตามมุมเรือนเพื่อไล่หนูหรือแมลง แต่คนร้ายคงนำยางสีขาวของมันมาผสมลงในกำยานที่ใช้จุดภายในห้องของผู้เฒ่าถานจึงทำให้เขาหมดสติเช่นนี้จือหลินเมื่อรู้ว่าเป็นพิษชนิดใดแล้วถูกนำเข้าร่างกายของผู้เฒ่าถานเช่นไร นางก็ออกมาด้านนอกทันที ซูเว่ยมองตามหลังนางแล้วส่ายหัว เพราะนางเข้าห้องอย่างเร่งรีบโดยไม่ทักทายอาจารย์สักคำเมื่อจือหลินกลับเข้ามาอย

    Last Updated : 2025-01-23
  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   เลื่อนระดับ

    เมื่อพูดคุยเรื่องต่างๆ อีกไม่กี่ประโยคทั้งหมดก็กลับเรือนเพื่อไปพักผ่อน ป๋อฉิวก็เดินนำสองแม่ลูกเพื่อพาไปส่งที่เรือน พร้อมทั้งตงฟางที่จับมือของลี่อินไม่ยอมห่างบ่าวไพร่ ลงมือเก็บกวาดได้อย่างเรียบร้อย เรือนของลี่อินกับจือหลินอยู่ติดกับเรือนของป๋อฉิว ตงฟางก็เข้ามาจับจองห้องพักภายในเรือนด้วย โดยเขาสั่งบ่าวของตนให้ไปเก็บของมาไว้ที่เรือนของลี่อินทันทีจือหลินแทบอยากจะบ้า นางสลัดเด็กนี่ไม่หลุดเสียที แล้วยังจะเข้ามานอนในห้องของมารดานางอีก ในเมื่อลี่อินเอ่ยอนุญาตนางจึงเดินเข้าไปดูห้องของตนเองภายในห้องของนางพ่อบ้านถานตกแต่งอย่างงดงาม ราวกับห้องของคุณหนูผู้อ่อนหวาน จือหลินได้แต่ส่ายหัวเมื่อเห็นผ้าม่าน มุ้งเป็นสีชมพูหวานมันขัดกับนางเสียจริงจือหลินนางนำที่นอนเข้ามาเปลี่ยนแทนอันที่จัดเตรียมไว้ให้ หมอน ผ้าห่มล้วนแต่เอาในมิติออกมาทั้งสิ้น ส่วนผ้าม่าน นางคิดว่าเมื่อมีเวลาค่อยไปเดินดูที่ร้านเพื่อซื้อมาเปลี่ยนใหม่ป่อฉิวเมื่อเห็นว่าที่พักของสองแม่ลูกถูกจัดเตรียมอย่างดีแล้ว เขาก็ไปจัดการเรื่องคนร้ายที่วางยาบิดาต่อทันทีโดยไม่หยุดพักจือหลินนางจึงได้เข้าไปในมิติ เพื่อฝึกวิชากับท่านอาจารย์ต่อนางเล่าเรื่อง

    Last Updated : 2025-01-24
  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   จะมีงานมงคลหรือ

    จือหลินเมื่อพูดคุยกับอาจารย์ซูเรื่องที่นางต้องอยู่ฝึกวรยุทธ์ในมิติหลายวัน ให้นางไปแจ้งเรื่องนี้ให้มารดารับรู้จะได้ไม่เป็นห่วง จือหลินนางก็ออกจากมิติเพื่อไปหามารดาเมื่อนางออกมาด้านนอกก็ตกตะลึง เพราะทุกคนอยู่ภายในเรือนนางอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา“พวกท่านมีเรื่องอะไรหรือไม่เจ้าคะ” จือหลินเอ่ยถามอย่างแปลกใจ“หลินเออร์ เหตุใดเจ้าถึงเปลี่ยนไปเช่นนี้” ทุกคนมองนางอย่างตกตะลึงนางบอกเรื่องที่นางเป็นผู้ฝึกตนเช่นเดียวกับอาจารย์ซู และตอนนี้นางก็กำลังอยู่ในช่วงการฝึก อย่างที่ทุกคนได้เห็นความเปลี่ยนแปลง เพราะนางเพิ่งจะเลื่อนระดับมาแต่นางไม่ได้บอกว่าในตอนนี้นางอยู่ในระดับที่เท่าไหร่ ถึงบอกไปพวกเขาก็ไม่รู้เมื่อทุกคนหายสงสัยแล้ว นางจึงบอกเรื่องที่นางจะเก็บตัวอีกหลายวันเพื่อฝึกวรยุทธ์ พวกเขาก็เข้าใจ สายตาของป๋อฉิวกับตงฟางที่มองมาทางนางอย่างเป็นประกาย นางก็รู้แล้วว่าพวกเขาคิดเช่นใด“ให้ข้าฝึกสำเร็จแล้วจะสอนให้ท่านเจ้าค่ะ เจ้าด้วย” จือหลินนางบอกป๋อฉิวและตงฟางทั้งคู่ยิ้มกว้างอย่างยินดี ก่อนที่ทั้งหมดจะแยกย้ายไปจัดการเรื่องของตน คงมีแต่ตงฟางที่ไม่รู้จะทำอันใดก็เดินตามจือหลินทั้งวันจนนางต้องหลบเข้าไปอยู่ใน

    Last Updated : 2025-01-24
  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   เจ้ายอมรับพ่อแล้วใช่หรือไม่

    จือหลินหยุดมองใบหน้าของป๋อฉิว นางเลิกคิ้วขึ้นเพื่อขอฟังคำตอบจากปากของเขา“พ่อไม่คิดจะมีผู้ใดอีกแล้ว หากอยากจะรับอนุคงไม่รอมาจนถึงบัดนี้” ป๋อฉิวที่เงียบไปนานไม่ใช่เขาไม่รู้จะตอบคำถามของจือหลินอย่างไรแต่เป็นเพราะตกตะลึงกับคำเรียกของนาง ที่เรียกเขาว่าท่านพ่ออย่างเต็มใจ“หลินเออร์ เจ้ายอมรับพ่อแล้วใช่หรือไม่” จือหลินนางก็เหมือนได้สติว่าเมื่อครู่นางเรียกป๋อฉิวว่าท่านพ่อ“ก็พวกท่านจะแต่งกันอยู่แล้ว หรือจะให้ข้าเรียกท่านว่า นายท่านถานเช่นเดิมเล่าเจ้าคะ” จือหลินเอ่ยตอบอย่างตะกุกตะกัก“ไม่ ไม่ เช่นนี้ดีแล้ว” ป๋อฉิวไม่รู้ว่าเขาดีใจมากเพียงใด เมื่อถูกจือหลินนางยอมรับรู้เพียงว่าภายในอกของเขา ราวกับมีนกกำลังโบยบินอย่างมีความสุข เขายิ้มกว้างออกมาจนสุดอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้น ภายในดวงตายังมีน้ำตาที่เออคลออยู่ด้วยฮูหยินผู้เฒ่าถานก็หัวเราะอย่างยินดี การที่ได้เห็นจือหลินนางยอมรับป๋อฉิวเป็นบิดาย่อมดีสำหรับทุกคนเรื่องเมื่อสามเดือนที่แล้วที่จือหลินนางเข้าไปในมิติแล้วไม่ได้รับรู้ก็ถูกทุกคนบอกเล่าอย่างออกรสชาติตงฟางขอเป็นผู้เล่าเอง วันที่ถานเฟิงถูกผู้เฒ่าถานส่งตัวไปอยู่ที่เรือนตระกูลถานที่นอกเมืองกับมารด

    Last Updated : 2025-01-25
  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   สินเดิมที่น่าตกตะลึง

    จือหลินนางเสียใจจนพอแล้วก็ออกจากมิติ เพื่อหาหีบใส่ท้องทั้งสิบก้อนที่นางทำขึ้น ก่อนจะขอให้ป๋อฉิวให้คนนำไปแลกเปลี่ยนเป็นทองที่ใช้ในปัจจุบันให้นางป๋อฉิวมิได้ถามว่านางได้มาจากไหนหรือจะเปลี่ยนเป็นทองก้อนเพื่อใช้เรื่องใด เขาเรียกพ่อบ้านให้นำทองของจือหลินไปที่ร้านรับฝากเงินทันทีพ่อบ้านหายไปเพียงหนึ่งชั่วยามก็กลับมาพร้อมทองก้อนที่แลกมาได้ถึงสิบหีบ นางเปิดออกดูอย่างพอใจ ก่อนจะส่งทองให้พ่อบ้านหนึ่งก้อน และคนอื่นที่ช่วยยกมาอีกคนละก้อนอย่างใจกว้างบ่าวคนอื่นที่เห็นเช่นนี้ก็อดจะอิจฉาไม่ได้ หากเปลี่ยนเป็นพวกตนไปยกมาแทนจะคงได้เช่นกันพ่อบ้านกับบ่าวที่ได้ทองก้อนไปไม่อยากจะเชื่อว่าคุณหนูจะใจกว้างกับพวกเขาเช่นนี้ทองคำหนึ่งก้อนที่ให้ไปมีค่าเท่ากับสิบตำลึงทอง เพราะทองแต่ละก้อนหนักหนึ่งจิน (1จิน=500กรัม) เงินมากเช่นนี้ บ่าวบางคนสามารถไถ่ถอนตัวออกไปได้เลยจือหลินนางไม่ได้คิดมากเช่นนั้น เพราะทองทั้งสิบหีบที่ได้มานางล้วนได้มาอย่างง่ายดาย หรือจะเรียกว่าไม่ง่าย เพราะต้องแลกกับลมปราณที่นางฝึกมาทั้งหมดไปก่อนจะถึงวันงานจือหลินนางกลับเข้าไปในมิติ เพื่อนั่งสมาธิรวบรวมลมปราณอีกครั้งสองวันต่อมาเมื่อนางออกมาจากใน

    Last Updated : 2025-01-25

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   บิดาข้าอยู่ที่ใด

    จือหลินเดินลมปราณโดยไร้สิ่งรบกวน นางนั่งจนลืมวันลืมคืนเช่นเดิม ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเพียงใด สิ่งที่จือหลินรับรู้ได้ครั้งนี้ ร่างกายของนางเลื่อนระดับได้เร็วขึ้นเพราะทนความเจ็บปวดจากลมปราณทั้งห้าที่ขยายใหญ่ขึ้นได้ ตัวนางจึงนั่งต่อไปเรื่อยๆ“หลินเออร์ บิดาเจ้าตกอยู่ในอันตราย” เสียงของชิงชางที่ออกมาจากหยกสื่อสารทำให้จือหลินนางหลุดออกจากการเลื่อนระดับดวงตาของนางเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำราวกับสัตว์ร้าย“บิดาข้าอยู่ที่ใด” น้ำเสียงของจือหลินที่สื่อสารกลับไปเต็มไปด้วยไอสังหาร จนชิงชางที่ถือหยกสื่อสารในมืออดสั่นสะท้านไม่ได้แรงโทสะของจือหลินเมื่อรู้ว่าบิดาของนางกำลังได้รับอันตราย ทำให้ค่ายกลที่ววางไว้ระเบิดออก เรือนของนางเสียหายไปกว่าครึ่ง ค่ายกลทั้งหมดถูกทำลายลงคนภายในจวนตระกูลถานรับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือน ต่างพากันวิ่งมาที่เรือนของจือหลิน“คะ คุณหนู ท่านได้รับบาดเจ็บหรือไม่ขอรับ” พ่อบ้านถานคือคนแรกที่เขามาถามนางอย่างใจกล้า เพราะไม่มีบ่าวคนใดกล้าเดินเข้ามาใกล้นางในยามนี้นอกจากแววตาที่ลุกโชนไปด้วยโทสะของนางแล้ว ร่างกายของนางยังมีเปลวไฟแผดเผาไปทุกย่างก้าวที่นางเดิน“หลินเออร์/พี่หญิง” ลี่อินกับตงฟางเ

  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   อักขระสื่อสาร

    แต่ผู้ใดในจวนตระกูลถานจะคิด ว่าวันต่อมาดอกไม้มากมายก็ถูกส่งมาที่จวนตระกูลถาน พร้อมทั้งผู้ส่งขอไม่รับเป็นเงิน ขอแลกกับน้ำหอมเพียงหนึ่งขวดเท่านั้นผู้อาวุโสต่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออกมาเพียงจือหลินที่หัวเราะร่วนอย่างชอบใจ มีคนนำของมาให้เช่นนี้นางจะไม่รับไว้ได้อย่างไร แล้วก็แรกกับน้ำหอมเพียงขวดเดียวเท่านั้นจือหลินนางก็แสนจะฉลาด นำน้ำหอมจากภพของนางบรรจุลงในขวดกระเบื้องธรรมดาที่นางนำไปวางขาย มอบให้ผู้ที่ส่งดอกไม้มาให้ที่จวนกลายเป็นที่เลื่องลือไปทั่วเมืองหลวง เพราะน้ำหอมที่เขาได้ ไม่มีวางขายในเมืองหลวงตอนนี้วันต่อๆ มา ดอกไม้หาอยากที่มีกลิ่นหอมก็ถูกส่งมาที่จวนตระกูลถานมากมาย จนบ่าวในจวนไม่มีเวลาได้พักหายใจ เพราะถูกคุณหนูใช้ให้ทั้งเด็ด ล้าง ตาก ดอกไม้ทั้งหมดที่ได้มาจือหลินนางก็ไม่ได้ใช้เปล่าๆ นางมอบสินน้ำใจให้อย่างเต็มที่ บ่าวในเรือนแม้จะเหนื่อยเพิ่มแต่ก็ยินยอมทำอย่างไม่ปริปากบ่นถึงแม้นางจะมีดอกไม้ไว้ทำน้ำหอมจำนวนมากแล้ว แต่น้ำหอมที่นำออกวางขายก็ยังมีเท่าเดิม ยิ่งทำให้สินค้าของนางกลายเป็นที่พูดถึง จนพ่อค้าจากต่างแคว้นและหัวเมืองอื่นๆ เดินทางเข้าเมืองหลวงเพื่อมาทำการค้ากับนางแต่ราคาที่จือหล

  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   การค้าของจือหลิน

    สวีฮองเฮา รีบให้นางกำนัลทำตามที่จือหลินบอก เป็นดังที่นางว่า ร่างกายของสวีฮองเฮาถูกรมไปด้วยกลิ่นหอมของดอกไม้ ทั่วทั้งศาลาริมน้ำล้วนได้กลิ่นที่ออกมาจากตัวของพระองค์“เจ้าซื้อมาจากที่ใด” นางเอ่ยถามอย่างรวดเร็ว“เป็นของที่หม่อมฉันทำขึ้น อีกไม่นานจะถูกวางขายในร้านเครื่องหอมของตระกูลถานเจ้าคะ”สิ้นเสียงของจือหลิน สตรีในศาลาต่างจับจ้องตาเป็นมัน เช่นนั้นพวกนางก็ล้วนแต่มีโอกาสที่จะได้ครอบครองเช่นกันสวีฮองเฮาก็คิดไม่ต่างคนอื่น หากร้านเปิดเมื่อใดนางจะส่งนางกำนัลไปกว้านซื้อมาใช้เองเสียให้หมด นางสนมคนอื่นจะได้ไม่มีใช้เช่นนาง“แต่ของก็ล้วนทำออกมาได้ยากนักเพคะ” จือหลินแสร้งถอนหายใจ“เช่นนั้นหรือ” เหมือนเป็นการกระตุ้นความอยากในใจของทุกคนได้เป็นอย่างดีทุกคนหันมาสนใจน้ำหอมที่อยู่ตรงหน้าของฮองเฮาจนลืมเรื่องที่เหตุใดจือหลินนางจึงใช้ผ้าปิดหน้าไปเลยจนเมื่อคุณหนูสวีหลานสาวของฮองเฮาอดที่จะอยากรู้ไม่ได้ จึงได้กลับมาเป็นหัวข้อสนทนาอีกครั้ง“พูดไปก็จะเป็นที่ขบขันของทุกท่าน ใบหน้าของหม่อมแพ้เกสรจากดอกไม้ที่หม่อมฉันนำมาทำน้ำหอมเพคะ”น้ำเสียงของจือหลินทำให้ทุกคนอดจะเห็นใจนางไม่ได้“แต่หากพวกท่านอยากจะเห็น หม่อ

  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   จือหลินเข้าวัง

    แต่เหมือนเรื่องที่เขานึกกลัว ก็ถูกสวรรค์กลั่นแกล้ง เมื่อป๋อฉิวเข้าวังหลวงเพื่อรายงานเรื่องงานตามปกติ“ท่านผู้ตรวจการถาน บุตรีของท่านอยู่เมืองหลวงหลายปีแล้วไม่คิดจะพาออกงานบางรึ” รองเสนาบดีสวี บุตรชายของเสนาบดีสวีก็เอ่ยถามขึ้นป๋อฉิวมองไปทางสวีหั่วอย่างเย็นชา เหตุใดเขาจะไม่รู้ว่าตระกูลสวีต้องการให้เขาส่งบุตรสาวเข้าวังเพื่อเป็นตัวประกันว่าเขาจะไม่เข้าร่วมฝ่ายเดียวกับหลีจิ้งเพราะเรื่องที่หลีจิ้งองค์ชายใหญ่พระองค์เดียวของกงฮองเฮายังมีพระชนม์ชีพอยู่ ทำให้ขุนนางในวังหลวงแบ่งออกเป็นสองฝ่ายฮ่องเต้องค์ปัจจุบันเห็นท่าไม่ดีก็กำลังต้องการจะหาขุนนางมาเข้าพวกกันตนเพิ่ม และตอนนี้เขาก็อยากได้ป๋อฉิวที่เป็นสหายของหลีจิ้งมาเป็นคนของเขา“ท่านพูดอันใด บุตรสาวของข้านางไม่ชอบความวุ่นวาย อีกอย่างนางก็เพียงสิบสี่หนาวเท่านั้น ยังไม่ประสาเรื่องใด หากพาออกงานข้ากลัวจะเป็นที่ขบขันเสียมากกว่า” “ผู้ใดจะกล้าขบขันบุตรสาวผู้ตรวจการใหญ่เช่นท่านได้เล่า” สวีหั่วยังไม่ยอมปล่อยป๋อฉิวไปง่ายๆ“เช่นนั้นอีกสองวันจะมีงานเลี้ยงน้ำชาของฮองเฮา เจ้าก็ให้ฮูหยินของเจ้าพาบุตรสาวมาร่วมงานถิด” ฮ่องเต้เอ่ยตัดบทไม่ให้ป๋อฉิวหาทางปฏิเสธไ

  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   ปรมาจารย์

    จือหลินนอนอยู่บนที่นอนภายในมิติของนาง ความร้อนที่เกิดขึ้นในร่างกายทำให้นางคิดว่าตนกำลังจะเป็นไข้ จึงได้ลุกไปหายาแก้ไข้ที่ห้องยากินแต่อาการของนางก็ไม่ได้ทุเลาลงมีแต่จะเพิ่มขึ้น เหงื่อที่ไหลออกจากร่างกายราวกับนางเพิ่งขึ้นมาจากน้ำ จือหลินไม่อาจทนนอนต่อไปได้อีกนางไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวของนางเป็นอันใด แม้แต่ยาลดไข้ที่แรงที่สุดก็ยังไม่อาจทำให้ไข้ของนางลดลงได้จือหลินนึกถึงคำที่อาจารย์ซูได้บอกไว้ หากร่างกายของนางถึงขีดจำกัดที่ต้องเลื่อนขั้นแล้วจะเกิดอาการเช่นนี้ นางจึงลากสังขารออกไปนั่งที่ด้านนอกของเรือนพร้อมทั้งวางค่ายกลเพื่อกันเสียงรบกวนรุ่งเช้าแม้แต่พวกองครักษ์และบิดาของนางมาถึงแล้ว เมื่อเข้ามาถึงด้านหลังเรือนที่นางใช้ฝึกก็ไม่อาจรบกวนนางที่เดินลมปราณอยู่ด้านในค่ายกลได้ป๋อฉิวเมื่อเห็นว่าจือหลินนางเลื่อนขั้นก่อนเวลาที่นางบอกก็อดแปลกใจไม่ได้ แต่เขาก็ไม่คิดจะรบกวนบุตรสาวเพราะกลัวว่าธาตุไฟจะเข้าแทรกนางได้สิ่งที่เกิดขึ้นกับร่างกายของจือหลินทำให้ทั้งหมดไม่มีสมาธิที่จะฝึกวรยุทธ์ เพราะร่างของนางถูกปกคลุมไปด้วยเปลวไฟ ต้นไม้ที่อยู่ภายในค่ายกลถูกเผาจนไม่เหลือร่องรอยแต่ตัวนางก็ไม่ได้รับบาดเจ็บจนพวกเข

  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   ข้าเตือนท่านแล้ว

    อวี่ซีเมื่อมีสหายเล่นด้วยอย่างตงหยางจากที่เคยคิดถึงบิดากับพี่ชายก็เริ่มจะคลายความคิดถึงไปเสียแล้ว ยังมีจือหลินที่นางมักจะนำของเล่นแปลกๆ มาให้ทั้งสองได้เล่นเสมออีกด้วยแต่พี่สาวที่ชอบมาหาเขาก็มักจะหายหน้าไปหลายวันแล้วกลับมาอีกครั้งพร้อมของเล่นใหม่ๆ จึงทำให้ทั้งสองมักชะเง้อคอคอยพี่สาวอย่างจือหลินเกือบทุกวัน ท่าทางของพวกเขาก็ช่วยให้ผู้อาวุโสอดที่จะขบขันไม่ได้จือหลินเมื่อรู้ว่าท่านปู่ท่านย่าไม่อาจจะเป็นผู้ฝึกตนได้ นางจึงทำยาย้อนเยาว์ตามตำราของอาจารย์ซูให้ทุกคนแทนยังดีที่นางตรวจสอบแล้ว สมุนไพรที่ใช้ทั้งหมดไม่มีชนิดใดที่เป็นพิษ ไม่เช่นนั้นนางก็ไม่กล้าให้ทุกคนใช้เช่นกันเพราะครั้งที่เขาที่นางทำยายื้อชีวิตของภพที่แล้วจนทำให้ชายชราที่นางทดลองกลายเป็นซอมบี้ภาพนั้นยังติดตานางอยู่เลยจดหมายของชิงชางที่ฝากมากับอี้หนิง จือหลินนางได้อ่านก็ทำหน้าเบ้ออกมา อายุเพียงเท่ากับสัญญาว่าจะดูแลนาง ยังไม่รู้เลยว่าใครจะดูแลใครกันแน่จือหลินนางจะอายุสิบสี่หนาวในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า แต่เพราะเหตุการณ์ที่ไม่ค่อยสู้ดีในเมืองหลวงทำให้นางไม่อาจทิ้งคนในเรือนเพื่อเข้าเลื่อนขั้นไปเป็นปรมาจารย์ได้แม้ในตอนนี้ระดับจอมยุ

  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   ป๋อฉิวพาอนุเข้าจวน

    ป๋อฉิวจึงให้ทั้งคู่กินยาเปลี่ยนถ่ายไขกระดูกเสียก่อน แต่ก่อนที่จะให้ทั้งคู่ได้กิน ป๋อฉิวบอกเรื่องความทรมานที่แสนสาหัสจากยาที่จะกินเข้าไปเพื่อให้ทั้งคู่ได้เตรียมใจไว้ก่อนอ่างน้ำถูกเตรียมขึ้นอย่างรวดเร็วสองอ่าง พร้อมทั้งบอกอี้หนิงไว้เพื่อไม่ได้นางตกใจกับสิ่งร้องทรมานของสองพ่อลูกด้วยแม้จะเตรียมใจไว้แล้ว แต่ความเจ็บปวดที่เหมือนถูกแล่เนื้อเลาะกระดูก ก็ทำให้สองพ่อลูกที่พยายามอดกลั้นไม่ส่งเสียงร้องออกมา กลับร้องเสียงดังราวกับกำลังจะขาดใจอี้หนิงที่อยู่ในห้องกอดตัวบุตรชายคนเล็กไว้แน่น เพื่อไม่ให้เขาตกใจกับสิ่งที่ได้ยินองครักษ์ของป๋อฉิวยืนมองตัวสั่นสะท้านอยากไม่อยากเชื่อ ไม่รู้ว่ายาอันใดที่ทำให้คนเจ็บปวดได้มากถึงเพียงนี้ป๋อฉิวร้องเรียกทั้งสองไว้ตลอด เพื่อไม่ให้พวกเขาหมดสติไปเสียก่อน ไม่เช่นนั้นสิ่งที่ทำมาทั้งหมดคงจะสูญเปล่าแล้วเกือบสองชั่วยามกว่าทั้งสองจะคลายความเจ็บปวด น้ำสีดำส่งกลิ่นเหม็นจนองครักษ์ทั้งสองที่ต้องแบกไปทิ้งทนไม่ไหว อาเจียนออกมาเสียหลายรอบในยามนี้ทั้งคู่รู้ไม่ต่างกัน ความเบาสบายของตัวกับประสาทสัมผัสที่ได้ยินเสียงต่างๆ รอบข้างอย่างชัดเจน แม้แต่ในความมืดเขาก็เห็นแมลงต่างๆ ที่

  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   นางช่างมีวาสนานัก

    กงหลีจิ้ง เมื่อเปิดประตูเรือนออกไปแล้วพบป๋อฉิว ทั้งคู่ต่างจ้องมองกันอย่างตกตะลึง“อาฉิว เจ้ามาได้อย่างไร” “เข้าไปพูดกันในเรือนเถิดพ่ะย่ะค่ะ” ป๋อฉิวเอ่ยพูดเสียงเบา เพื่อมาให้ชาวบ้านที่อยู่ด้านนอกได้ยินเมื่อชาวบ้านเห็นว่าบุรุษที่มาเป็นสหายของพรานกงจริงดังว่า ต่างก็แยกตัวไปจัดการเรื่องของตนเองต่อ“เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าอยู่ที่นี่” เมื่อเข้ามาในเรือน กงหลีจิ้งก็เอ่ยถามสหายของตนทันทีป๋อฉิวเล่าเรื่องที่เขาพบหยกพกแทนพระองค์ที่ตัวบุตรสาวของเขา เมื่อสอบถามจึงได้ความว่าทั้งสามพระองค์อยู่ที่หมู่บ้านไห่เหอ“บุตรีของเจ้า หลินเออร์นะหรือ” กงหลีจิ้งมองสหายอย่างไม่อยากเชื่อ ยิ่งได้ฟังเรื่องที่เกิดขึ้นครั้งที่ป๋อฉิวมาตรวจสอบท่านเจ้าเมืองกว่างซีคนเดิมจนทำให้ลี่อินเสื่อมเสีย กงหลีจิ้งก็ถอนหายใจออกมา“สองแม่ลูกนั้นมีชีวิตลำบากนัก ข้าคิดไม่ถึงว่าเรื่องมันจะบังเอิญถึงเพียงนี้” ป๋อฉิวยิ่งได้ฟังเรื่องของลี่อินกับจือหลิน ความรู้สึกผิดในใจก็กลับมาอีกครั้ง“กระหม่อมแต่งนางเข้าจวนเรียบร้อยแล้วพ่ะย่ะค่ะ ต่อจากนี้จะไม่ให้พวกนางสองแม่ลูกต้องเจ็บช้ำน้ำใจอีก” “ดียิ่ง ครั้งแรกที่ข้าพบหลินเออร์ ก็คิดว่าดวงตาของ

  • ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย   หยกพกของผู้ใด

    นับจากนั้นมา ป๋อฉิวก็เริ่มฝึกลมหายใจเพื่อเดินลมปราณอย่างหนักทุกวัน ท่านผู้เฒ่าถานกับฮูหยินผู้เฒ่ากลับมานั่งทบทวนว่าตนสมควรจะเป็นผู้ฝึกตนหรือไม่ เพียงแค่บุตรชายยังยากถึงเพียงนี้ตงฟางก็ไม่เคยเกียจคร้านเลยสักวัน ในตอนเช้าเขาจะมาร่วมฝึกวรยุทธ์กับพี่หญิง หลังจากทานมื้อเย็นเขาก็มาฝึกเดินลมปราณและฝึกการหายใจร่วมกับบิดาจือหลินนางก็ให้คำแนะนำกับพวกเขาอย่างไม่หวงแหน พร้อมทั้งช่วยปรุงยาเพื่อให้บิดาของนางผ่านในช่วงแรกเริ่มไปได้เร็วขึ้นแต่ถึงจะใช้ยามากเพียงใด ป๋อฉิวก็ไม่อาจล้ำหน้าไปได้ไวเท่ากับจือหลิน นางจำต้องให้ร่างกายของบิดาปรับตัวไปได้เอง“นี่หยกพกของผู้ใดขอรับ” ตงฟางน้อยที่กำลังนั่งกินของว่างอยู่ในเรือนของจือหลินหยิบขึ้นมาดูอย่างสงสัย“สหายให้ข้ามา” จือหลินเอ่ยตอบอย่างไม่ใส่ใจ นางปล่อยให้ตงฟางหยิบเล่นดูได้อย่างเต็มที่ป๋อฉิวที่เพิ่งมาจากเรือนของตน ก็เดินเข้ามาหาบุตรทั้งสองที่อยู่ในห้องโถง เขามองไปที่หยกพกในมือของตงฟางอย่างสงสัย“เจ้าเอาหยกพกมาจากที่ใด” เขาเอ่ยถามเมื่อเห็นอักษรฉีในหยกพก“ของพี่หญิงขอรับ” ตงฟางส่งหยกพกให้บิดาดู เมื่อบิดายื่นมือมาตรงหน้าของเขาป๋อฉิวตื่นตระหนกเกือบจะทำหยกพกใน

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status