“ขอประทานอภัยกระหม่อมมารายงานว่าตอนนี้พระชายาทรงไม่สบายหมอหลวงทรงให้ยาและพ่ะย่ะค่ะ” ซิ่วอิงมารายงานชินอ๋อง แต่เห็นแววตาของหยางเพ่ยตงนิ่งสงบไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“พระชายาทรงไปทำอะไรมา”
“องค์หญิงเผยอิ่งพระชายาทรงถูก เอ่อ ทรงถูกท่านอ๋องสั่งไปทำงานที่ห้องครัวมาพ่ะย่ะค่ะ”
“เสด็จพี่! พระชายาตัวเล็กนิดเดียวนะเพคะ” หยางเผยอิ่งตกใจเช่นกันว่าเกิดอะไรขึ้นห้องครัวทั้งร้อนและกลิ่นฉุนด้วยเครื่องเทศพระชายาจะทนได้อย่างไร
“เจ้าออกไปก่อน พี่แค่อยากสั่งสอนนาง”
“เรื่องที่นางไปเที่ยวหอคณิกาหรือเพคะ” หยางเผยอิ่งเห็นใจจ้าวหม่านฟางไม่น้อย นางมิได้ทำอันใดเลย
“น้องรู้ได้อย่างไร”
“น้องก็ ก็อยู่ที่นั่นเพคะแต่พระชายาไม่ได้นัดพบคนรักเก่าน้องก็เห็น” นางเคยรู้มาก่อนว่าบุรุษผู้นั้นคือคนรักเก่าของจ้าวหม่านฟางแต่พระเชษฐาจะไร้เหตุผลและลงโทษนางตามอำเภอใจมิได้
“น้องพูดจริงหรือ”
“เสด็จพี่ทำโทษนางเพราะหวงนางหรือเพคะ เอ๊ะ เสด็จพี่”
หยางเผยอิ่งเรียกตามหลังพระเชษฐาที่เดินออกไปจากตำหนักโดยที่นางยังพูดไม่จบ ใจร้อนเหมือนกันทั้งฝ่าบาทและชินอ๋อง
“ตอนที่นางเป็นลมใครอุ้มนางกลับตำหนัก” หยางเพ่ยตงหันมาถามองครักษ์ที่เดินตามหลังมา เขากำลังไม่พอใจที่มีบุรุษมาแตะต้องตัวพระชายา
“กระหม่อมเองพ่ะย่ะค่ะ”
ผลัก!
หยางเพ่ยตงผลักองครักษ์จนทหารบริเวณต้องหันหน้าหนีไม่มีใครกล้าเข้าไปวุ่นวาย ซิ่วอิงน้อมรับผิดเพราะแตะต้องตัวพระชายาโดยพลการ
“เจ้ากล้าดียังไงถึงมาแตะต้องตัวนาง!” หยางเพ่ยตงสีหน้าและแววตาแดงก่ำเพราะความโกรธตั้งแต่เขาแต่งงานกับพระชายามาแม้แต่อุ้มนางเขาก็ยังไม่มีโอกาสแต่องครักษ์ของเขากล้าอุ้มนาง
“กระหม่อมขออภัยพ่ะย่ะค่ะแต่บริเวณทั้งร้อนและ...”
“ทหาร! นำองครักษ์ซิ่วอิงไปโบยสิบครั้ง”
“พ่ะย่ะค่ะ” ซิ่วอิงน้อมรับบทลงโทษและเดินตามทหารไปสิ่งที่เขาคิดก็เป็นจริง อาการที่แสดงออกมาคงหวงพระชายา
หยางเพ่ยตงเดินไปหยุดอยู่ที่หน้าบรรทมของจ้าวหม่านฟางด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึมจนบ่าวรับใช้ต่างพากันออกไปจากห้องบรรทม เขาเดินนั่งข้างกายของนางและยื่นมือไปปัดเส้นผมนำมาหัดที่หูไว้
มือของจ้าวหม่านฟางทั้งสองข้างมีรอยแดงและแผลที่เกิดจากการยกของหนักมือของนางทั้งเล็กและนุ่ม ไม่รู้ว่าแบกน้ำไปใส่โอ่งได้อย่างไรใบหน้าของเขาโน้มลงไปใกล้ ๆ พระชายา
หยางเพ่ยตงจุมพิตที่หน้าผากมนและโน้มตัวขึ้นมานั่งมองใบหน้าของจ้าวหม่านฟางด้วยหัวใจที่เต้นแรงอย่างผิดปกติ เมื่อกำลังจะจุมพิตอีกรอบแต่บ่าวรับใช้ก็เดินเข้ามาเสียก่อน
“ท่านอ๋องบ่าวเอายาที่ต้มแล้วมาให้เพคะ หากพระชายาฟื้นแล้วรบกวนท่านอ๋องป้อนพระชายาด้วยเพคะ”
“เจ้าออกไปได้แล้ว” บ่าวรับใช้นำยามาวางไว้ใกล้ตัวของชินอ๋องและรีบออกไปจากห้องบรรทม
จ้าวหม่านฟางลืมตาขึ้นมาเปลือกตาหนักอึ้งไปหมด นางเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวไปหมดบวกกับความหิวจนท้องร้องออกมา โดยที่ยังไม่มองรอบกายจึงตะโกนเรียกเข่อซิงเสียก่อน
“เข่อซิงเขาหิวเหลือเกินนำสำหรับมาให้ข้าหน่อย”
“ดื่มยาเสียก่อน” สิ้นเสียงห้วน ๆ จ้าวหม่านจึงลืมตาขึ้นมาและเห็นทรราชเต็มสองตาหยางเพ่ยตงมาทำอะไรที่ห้องบรรทมของนาง หรือจะมาใช้งานนางอีก
“เข่อซิง อือ...อึก” นางตกใจที่หยางเพ่ยยงยกถ้วยยาของนางขึ้นดื่มและโน้มตัวลงมาใช้ปากของเขาป้อนยาให้แก่นาง จ้าวหม่านต้องจำใจกลืนยาอันแสนขมลงไปในลำคอ
“แค่กๆๆ เจ้า!”
“ดื่มยาแล้วก็ไปกินข้าว”
ตอนนี้ทั้งสองนั่งอยู่ตรงหน้ามีสำรับมากมายที่เขาสั่งให้พ่อครัวเตรียมไว้ให้นาง บ่าวรับใช้บอกว่านางชอบกินอะไรหยางเพ่ยตงจึงให้นำมาทุกอย่าง
“เจ้ามองอันใด”
“เจ้าก็กลับไปได้แล้วข้าหายดีแล้ว” จ้าวหม่านฟางเอ่ยปากไล่เขาออกไปไม่รู้จะนั่งจ้องนางทำไมกัน
“มือเจ้าเจ็บข้าจะป้อนเอง” หยางเพ่ยตงหยิบตะเกียบขึ้นมาและคว้าถ้วยข้าวมาวางตรงหน้า จนนางเองก็ตกใจที่ท่านอ๋องนิสัยเปลี่ยนไป
“เจ้า ไม่สบายหรืออย่างไร”
“ข้าสบายดีมิเป็นอันใด” จ้าวหม่านฟางต้องกินข้าวโดยมีชินอ๋องคอยนั่งป้อนข้าวอยู่ไม่ห่างจนคนที่มาใหม่เห็นภาพนั้นจึงอิจฉาขึ้นมา ชินอ๋องมิเคยทำเช่นนี้กับนาง
“ท่านอ๋องเพคะ พระชายาทรงหายแล้วดีแล้วหรือหม่อมฉันทราบข่าวจึงรีบมาเพคะ” ฮุ่ยหลิงทรงทำท่าทีเป็นห่วงใยแต่ภายในหัวใจกำลังร้อนรุ่มท่านอ๋องทำตัวอ่อนโยนต่อพระชายา
“ข้าอิ่มแล้วพวกท่านก็คุยกันเถิด”
“ฟางฟาง”
จ้าวหม่านฟางยืนนิ่งที่มีคนเรียกนางด้วยชื่อนี้นอกจากคนสนิทก็ไม่มีใครเรียกนาง นางหันไปสบตากับท่านอ๋องแต่ยังมีความกรุ่นโกรธจึงเดินออกมา
“ท่านอ๋องจะไปไหนหรือเพคะ”
“ข้าจะไปธุระเจ้าก็กลับจวนไปเถิด” หยางเพ่ยตงรีบเดินออกมาตามพระชายา แต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาจึงแกล้งถามเหล่าทหารบริเวณนั้น
จ้าวหม่านฟางเดินไปที่จวนของซิ่วอิงเมื่อได้รับข่าวจากบ่าวรับใช่ว่าองครักษ์ถูกโบยต้านเหตุมาจากนาง จ้าวหม่านฟางจึงมาดูด้วยตาตัวเอง
“พระชายาเพคะหากท่านอ๋องรู้เข้า...”
“ข้ามาเยี่ยมองครักษ์ด้วยใจที่บริสุทธิ์” จ้าวหม่านฟางเดินเข้ามาเห็นบ่าวกำลังทายาที่แผ่นหลังให้ซิ่วอิง
“ซิ่วอิง”
“พระชายาทรงมีอะไรให้กระหม่อมรับใช้พ่ะย่ะค่ะ”
“เจ้านอนลงเถิดข้ามาเยี่ยมท่าน” จ้าวหม่านฟางจึงนำยามาบด เพื่อเป็นการขอบคุณที่ซิ่วอิงอุ้มนางกลับตำหนัก แต่ต้องมาถูกโบยเพราะคนไร้หัวใจอย่างชินอ๋อง
“เจ้าหายป่วยก็รีบวิ่งแจ้นมาหาบุรุษเลยหรือแพศยา” หยางเพ่ยตรงเห็นจ้าวหม่านฟางกำลังยิ้มหัวเราะจึงรู้สึกไม่ชอบใจ เขาอุตส่าห์มาดูแลนางแต่นางกลับวิ่งแจ้นมาหาบุรุษอื่น
“ท่านอ๋อง”
“ข้าน่าจะสั่งโบยเจ้าสักร้อยที”
“หยางเพ่ยตงไยท่านถึงอำมหิตขนาดนี้ ซิ่วอิงเป็นคนช่วยข้าท่านกับไร้เหตุผลใช้อำนาจในทางที่ผิด” จ้าวหม่านฟางลุกขึ้นมาเผชิญหน้ากัน กริยาท่าทางทำให้หย่างเผยตงไม่พอใจ
“เจ้ากล้าปกป้องคนอื่นหักดูสภาพตัวเองเสียก่อนข้าจะทำอไรก็ได้โดยเฉพาะสตรีอย่างเจ้า วัน ๆ คงแต่จะคิดเข้าหาบุรุษ...”
เพี้ยะ!
“เจ้ามันใจดำที่สุด”
ทหารและบ่าวรับใช้บริเวณต้องหันหน้าที่ไม่กล้าแม้แต่จะมองรวมถึงซิ่วอิ่งไม่คิดว่าพระชายาจะกล้าถึงขนาดนี้
“เจ้า! อยากตายหรือไง!” หยางเพ่ยตงรู้สึกเสียหน้าที่ถูกสตรีตบหน้า ตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยถูกใครกระทำเช่นนี้มาก่อน นางกล้าอวดดีกลับเขา
“กรี๊ด!”
“กรี๊ด!” จ้าวหม่านฟางกรีดร้องออกมาเมื่อถูกหยางเพ่ยตงอุ้มพาดบ่าและเดินออกไปจากจวนขององครักษ์ นางโวยวายและด่าทอชินอ๋องมาตลอดทาง “เจ้ากล้าที่จะตบข้า!” หยางเพ่ยตงวางนางลงในตำหนักของเขาเรียกว่าแทบจะโยนนางเลยดีกว่า จ้าวหม่านฟางกำลังคิดหาทางหนีและก็ไม่พ้นน้ำมือของชินอ๋อง “เจ้าจะทำอะไร ปะ ปล่อย” “ข้าจะฆ่าเจ้า” หยางเพ่ยตรงบีบคอนางด้วยความโกรธแต่พอได้สติว่าทำเกินไปเขาจึงปล่อยนาง แข้งขาอ่อนแรงจนจ้าวหม่านฟางล้มไปกองอยู่ที่พื้น “ทหาร!” “พ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง” “ในเมื่อเจ้ารู้สึกผิดนั้นก็ถูกโบยเช่นเดียวกับองครักษ์ของข้า” หยางเพ่ยตงให้ทหารนำพระชายาออกไปและสั่งโบยสิบครั้ง ข้าวของเครื่องใช้จึงถูกหยางเพ่ยตงกวาดลงมากองที่พื้นด้วยความโมโหและสับสนต่อความรู้สึกของตัวเอง เขาไม่รอช้าที่จะเดินตามจ้าวหม่านฟางไป เฟียบ! เสียงแซ่ฟาดลงที่กลางแผนหลังของนาง จ้าวหม่านฟางไม่แม้แต่จะกรีดร้องออกมาน้ำตาไหลพรากไม่ใช่เพราะความเจ็บแต่เป็นความเสียใจที่ถูกกระทำเช่นนี้ นางผิดที่เผลอควบคัมสติไม่อยู่ลงไม้ลงมือกับชินอ๋อง “ฮึก
“อืม อ่าส์” เสียงครางดังออกมาใกล้ๆ กับใบหูของจ้าวหม่านฟางนางจึงลืมตาขึ้นมาอย่างงัวเงีย และกำลังเพ่งมองไปยังต้นตอของเสียงเงาตะคุ่มดำๆ กำลังคร่อมรางของนางอยู่“อื้อ อ่าส์”แต่เสียงครางยิ่งดังขึ้นมาเรื่อยๆ จนจ้าวหม่านฟางต้องขยี้ตาอีกรอบ แต่ทำไมร่างกายของนางเหมือนกำลังโดนล่วงล้ำเข้ามาจนนางได้ยินเสียงเนื้อกระทบกันอย่างชัดเจน และแรงกระแทกทำให้นางรู้กำลังร่วมรักกันอยู่“กรี๊ดดดด ออกไป” จ้าวหม่านฟางกรีดร้องออกมาตอนนี้นางกำลังร่วมรักกับหยางเพ่ยตงหรือที่ใครต่างพากันรู้จักดีเขาคือชินอ๋องผู้ที่โหดเหี้ยมฆ่าคนได้เหมือนผักเหมือนปลาและได้รับฉายาว่าอ๋องทรราช“อยู่นิ่งๆ อ่าส์” หยางเพ่ยตงจับตัวนางไว้แน่นตอนนี้ทั้งสองกำลังเชื่อมประสานกันอยู่จะให้ดึงออกมาตอนนี้ เขาขอยอมตายดีกว่า“ออกไปจากตัวข้า”“เจ้าเป็นพระชายาจงทำหน้าที่เสีย” หยางเพ่ยตงไม่ฟังเสียงห้ามของนางเขาอัดกระแทกแท่งหยกเข้ามาจนใบหน้าของนางเปื้อนด้วยน้ำตาที่ไหลออกมาจากหางตาเหมือนร่างกายจะปริแต่ถึงแม้ในความเป็นจริงจ้าวหม่านฟางจะเคยใช้ชีวิตในโลกปัจจุบันแต่ก็ไม่เคยมีคนรักหรือเคยหลับนอนกับชายคนไหนมาก่อนจนหญิงสาวทะลุมิติเข้ามาอยู่ในร่างของคุณหนูสามจ้า
จ้าวหม่านฟาง หรือ ฟางฟาง นักศึกษาวัยยี่สิบเอ็ดปีภาควิชาวิศวกรรมโยธาและผังเมืองตอนนี้สาขากำลังพามาดูงานที่ต่างเมืองเป็นเวลาสองวันหนึ่งคืน “เมื่อคืนฉันฝันไม่ดีเลย” “เธอฝันว่าอะไร” มีมี่กำลังก้มหน้าก้มตามองไปที่จอโน๊ตบุ๊คที่กำลังเขียนรายงานอยู่สองสาวเป็นเพื่อนสนิทกันมานานตั้งแต่เรียนมัธยมด้วยกัน “ฝันว่าฉันจมน้ำตาย” จ้าวหม่านฟางกำลังคิดหนักกับสิ่งที่ตัวเองฝันเพราะเหมือนความจริงมาก ความรู้สึกที่ตอนเธอกำลังจะขาดอากาศหายใจช่างทรมานเหลือเกิน “ฟางฟางแกนอนน้อยไปหรือเปล่า” “ฉันอาจจะคิดมากไปเอง” จ้าวหม่านฟางหญิงสาวที่สู้ชีวิตถีบตัวเองจนได้เข้ามหาลัยดีๆ แต่ก็ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อหาเงินมาจ่ายค่าเทอมที่แพง ที่บ้านพ่อของเธอแต่งงานใหม่และมีลูกติดแม่เลี้ยงมาหนึ่งคน แม่เลี้ยงต่อหน้าพ่อก็ทำดีกับเธอพอหลับหลังก็ด่าทอเธอสารพัดพร้อมกับลูกเลี้ยงที่จองหองกล้าใช้เธอราวกับคนใช้คนหนึ่ง จนมีเรื่องแตกหักที่ทำให้เธอถูกพ่อไล่ออกจากบ้าน “เห้อออ” จ้าวหม่านฟางถอนหายใจออกมาเมื่อคิดถึงเรื่องที่ผ่านมาพ่อไม่รักเธอแล้วตั้งแต
“ออกไปให้หมด!”ชินอ๋องมองนางด้วยแววตาที่โหดเหี้ยม เขาก็เกลียดนางไม่แพ้กันราชโองการคงขัดไม่ได้แต่เขาสามารถฆ่านางได้“อย่ามายุ่งกับหม่อมฉัน”“พวกเจ้าสมควรตายทั้งจวนกล้ามาหลอกข้า” จ้าวเสียหยุนแอบคบกับบุรุษคนอื่นโดยที่เขาปล่อยให้เขาเป็นคนโง่ จนสุดท้ายก็ได้แต่งงานกับจ้าวหม่านฟาง“จะทำอะไรเพคะ ฮึก” ถึงแม้จะไม่กลัวตายแต่ดาบที่แหลมคมก็มาจ่อที่ต้นคอขาวชาติก่อนนางก็ตายเพราะอุบัติเหตุศพไม่สวยมาชาตินี้ยังจะต้องโดนบาดคออีกหรือ“อย่ามาสร้างปัญหาให้ข้าครบหนึ่งปีเซ็นใบหย่าให้ข้าแต่ข้ามีวิธีที่ดีกว่านั้น ตัดคอเจ้าเสีย”“กรี้ดดดด”“จ้าวหม่านฟาง!” หยางเพ่ยตงทรงตกใจที่นางหมดสติไปจึงเรียกบ่าวรับใช้เข้ามาดูและตามหมอหลวง สตรีอ่อนแอไม่คู่ควรกับเขา“ทูลชินอ๋องร่างกายของพระชายายังไม่แข็งแรงนักโปรดท่านอ๋องทรงเมตตา”“กลับตำหนัก”เขาอยู่สู้หน้าบ่าวรับใช้ไม่ได้ตอนที่ทหารมารายงานว่าจ้าวหม่านฟางกระโดดน้ำในตอนที่จะเข้าห้องหอ ชินอ๋องโกรธมากคราแรกจะปล่อยให้นางตายไปเสียแต่ทำไมนางจึงฟื้นขึ้นมา“ทูลชินอ๋องเพคะ” ฮุ่ยหลิงมารอท่านอ๋องอยู่นานสองนานเมื่อรู้จากบ่าวรับใช้ว่าเขาไปที่ตำหนักของพระชายา นางมาก่อนจ้าวหม่านฟางไยนางจึงไ
ยามเหม่าจ้าวหม่านฟางแต่งตัววันนี้นางกำลังอารมณ์ดีคิดหาทางออกไปเที่ยวนอกเมือง นางจึงรีบตื่นขึ้นมาแต่งตัวจนบ่าวรับใช้แปลกใจ “พระชายาเพคะ” “ข้าเคยบอกเจ้าอย่างไรเรียกข้าเหมือนเดิมตอนที่เราอยู่ตามลำพัง” “เจ้าค่ะคุณหนูสาม” เข่อซิงทำตามที่คุณหนูสามต้องการและยกสำหรับเข้ามา อาหารมื้อแรกหน้าตาก็น่าทานไปหมดจ้าวหม่านฟางไม่รอช้าทันที “คุณหนาสามอยากไปที่ใดหรือเจ้าคะ” “ข้าไปได้ใช่หรือไม่” จ้าวหม่านฟางถามเพื่อความแน่ใจ “ได้เจ้าค่ะ” เข่อซิงคิดว่าคุณหนูสามคงอยากกลับไปเยี่ยมบ้านแต่คำตอบที่ได้ยิน บ่าวรับใช้ก็หน้าเสียและส่ายหน้าปฏิเสธทันควัน “ไปมิได้เจ้าค่ะคุณหนู” “ทำไม? ข้าอยากไปหอคณิกาหากเจ้าไม่พาไปข้า ข้าจะกระโดดน้ำอีกรอบ” จ้าวหม่านฟางขู่บ่าวรับใช้จนนางต้องพาออกมานอกเมืองมุ่งหน้าไปที่หอคณิกาโดยมีองครักษ์ของหยางเพ่ยตงแอบตามจ้าวหม่านฟางมา “ทูลท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ” “ว่ามา” หยางเพ่ยตงนั่งอ่านหนังสือราชการอยู่ในห้องทำงานสายตาไม่มองมาที่องครักษ์ จนเห็นความลำบากในการที่จะพูดออกมา “ว่ามา!” “พระช
“กรี๊ด!” จ้าวหม่านฟางกรีดร้องออกมาเมื่อถูกหยางเพ่ยตงอุ้มพาดบ่าและเดินออกไปจากจวนขององครักษ์ นางโวยวายและด่าทอชินอ๋องมาตลอดทาง “เจ้ากล้าที่จะตบข้า!” หยางเพ่ยตงวางนางลงในตำหนักของเขาเรียกว่าแทบจะโยนนางเลยดีกว่า จ้าวหม่านฟางกำลังคิดหาทางหนีและก็ไม่พ้นน้ำมือของชินอ๋อง “เจ้าจะทำอะไร ปะ ปล่อย” “ข้าจะฆ่าเจ้า” หยางเพ่ยตรงบีบคอนางด้วยความโกรธแต่พอได้สติว่าทำเกินไปเขาจึงปล่อยนาง แข้งขาอ่อนแรงจนจ้าวหม่านฟางล้มไปกองอยู่ที่พื้น “ทหาร!” “พ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง” “ในเมื่อเจ้ารู้สึกผิดนั้นก็ถูกโบยเช่นเดียวกับองครักษ์ของข้า” หยางเพ่ยตงให้ทหารนำพระชายาออกไปและสั่งโบยสิบครั้ง ข้าวของเครื่องใช้จึงถูกหยางเพ่ยตงกวาดลงมากองที่พื้นด้วยความโมโหและสับสนต่อความรู้สึกของตัวเอง เขาไม่รอช้าที่จะเดินตามจ้าวหม่านฟางไป เฟียบ! เสียงแซ่ฟาดลงที่กลางแผนหลังของนาง จ้าวหม่านฟางไม่แม้แต่จะกรีดร้องออกมาน้ำตาไหลพรากไม่ใช่เพราะความเจ็บแต่เป็นความเสียใจที่ถูกกระทำเช่นนี้ นางผิดที่เผลอควบคัมสติไม่อยู่ลงไม้ลงมือกับชินอ๋อง “ฮึก
“ขอประทานอภัยกระหม่อมมารายงานว่าตอนนี้พระชายาทรงไม่สบายหมอหลวงทรงให้ยาและพ่ะย่ะค่ะ” ซิ่วอิงมารายงานชินอ๋อง แต่เห็นแววตาของหยางเพ่ยตงนิ่งสงบไม่มีอะไรเกิดขึ้น “พระชายาทรงไปทำอะไรมา” “องค์หญิงเผยอิ่งพระชายาทรงถูก เอ่อ ทรงถูกท่านอ๋องสั่งไปทำงานที่ห้องครัวมาพ่ะย่ะค่ะ” “เสด็จพี่! พระชายาตัวเล็กนิดเดียวนะเพคะ” หยางเผยอิ่งตกใจเช่นกันว่าเกิดอะไรขึ้นห้องครัวทั้งร้อนและกลิ่นฉุนด้วยเครื่องเทศพระชายาจะทนได้อย่างไร “เจ้าออกไปก่อน พี่แค่อยากสั่งสอนนาง” “เรื่องที่นางไปเที่ยวหอคณิกาหรือเพคะ” หยางเผยอิ่งเห็นใจจ้าวหม่านฟางไม่น้อย นางมิได้ทำอันใดเลย “น้องรู้ได้อย่างไร” “น้องก็ ก็อยู่ที่นั่นเพคะแต่พระชายาไม่ได้นัดพบคนรักเก่าน้องก็เห็น” นางเคยรู้มาก่อนว่าบุรุษผู้นั้นคือคนรักเก่าของจ้าวหม่านฟางแต่พระเชษฐาจะไร้เหตุผลและลงโทษนางตามอำเภอใจมิได้ “น้องพูดจริงหรือ” “เสด็จพี่ทำโทษนางเพราะหวงนางหรือเพคะ เอ๊ะ เสด็จพี่” หยางเผยอิ่งเรียกตามหลังพระเชษฐาที่เดินออกไปจากตำหนักโดยที่นางยังพูดไม่จบ ใจร้อนเหมือนกันท
ยามเหม่าจ้าวหม่านฟางแต่งตัววันนี้นางกำลังอารมณ์ดีคิดหาทางออกไปเที่ยวนอกเมือง นางจึงรีบตื่นขึ้นมาแต่งตัวจนบ่าวรับใช้แปลกใจ “พระชายาเพคะ” “ข้าเคยบอกเจ้าอย่างไรเรียกข้าเหมือนเดิมตอนที่เราอยู่ตามลำพัง” “เจ้าค่ะคุณหนูสาม” เข่อซิงทำตามที่คุณหนูสามต้องการและยกสำหรับเข้ามา อาหารมื้อแรกหน้าตาก็น่าทานไปหมดจ้าวหม่านฟางไม่รอช้าทันที “คุณหนาสามอยากไปที่ใดหรือเจ้าคะ” “ข้าไปได้ใช่หรือไม่” จ้าวหม่านฟางถามเพื่อความแน่ใจ “ได้เจ้าค่ะ” เข่อซิงคิดว่าคุณหนูสามคงอยากกลับไปเยี่ยมบ้านแต่คำตอบที่ได้ยิน บ่าวรับใช้ก็หน้าเสียและส่ายหน้าปฏิเสธทันควัน “ไปมิได้เจ้าค่ะคุณหนู” “ทำไม? ข้าอยากไปหอคณิกาหากเจ้าไม่พาไปข้า ข้าจะกระโดดน้ำอีกรอบ” จ้าวหม่านฟางขู่บ่าวรับใช้จนนางต้องพาออกมานอกเมืองมุ่งหน้าไปที่หอคณิกาโดยมีองครักษ์ของหยางเพ่ยตงแอบตามจ้าวหม่านฟางมา “ทูลท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ” “ว่ามา” หยางเพ่ยตงนั่งอ่านหนังสือราชการอยู่ในห้องทำงานสายตาไม่มองมาที่องครักษ์ จนเห็นความลำบากในการที่จะพูดออกมา “ว่ามา!” “พระช
“ออกไปให้หมด!”ชินอ๋องมองนางด้วยแววตาที่โหดเหี้ยม เขาก็เกลียดนางไม่แพ้กันราชโองการคงขัดไม่ได้แต่เขาสามารถฆ่านางได้“อย่ามายุ่งกับหม่อมฉัน”“พวกเจ้าสมควรตายทั้งจวนกล้ามาหลอกข้า” จ้าวเสียหยุนแอบคบกับบุรุษคนอื่นโดยที่เขาปล่อยให้เขาเป็นคนโง่ จนสุดท้ายก็ได้แต่งงานกับจ้าวหม่านฟาง“จะทำอะไรเพคะ ฮึก” ถึงแม้จะไม่กลัวตายแต่ดาบที่แหลมคมก็มาจ่อที่ต้นคอขาวชาติก่อนนางก็ตายเพราะอุบัติเหตุศพไม่สวยมาชาตินี้ยังจะต้องโดนบาดคออีกหรือ“อย่ามาสร้างปัญหาให้ข้าครบหนึ่งปีเซ็นใบหย่าให้ข้าแต่ข้ามีวิธีที่ดีกว่านั้น ตัดคอเจ้าเสีย”“กรี้ดดดด”“จ้าวหม่านฟาง!” หยางเพ่ยตงทรงตกใจที่นางหมดสติไปจึงเรียกบ่าวรับใช้เข้ามาดูและตามหมอหลวง สตรีอ่อนแอไม่คู่ควรกับเขา“ทูลชินอ๋องร่างกายของพระชายายังไม่แข็งแรงนักโปรดท่านอ๋องทรงเมตตา”“กลับตำหนัก”เขาอยู่สู้หน้าบ่าวรับใช้ไม่ได้ตอนที่ทหารมารายงานว่าจ้าวหม่านฟางกระโดดน้ำในตอนที่จะเข้าห้องหอ ชินอ๋องโกรธมากคราแรกจะปล่อยให้นางตายไปเสียแต่ทำไมนางจึงฟื้นขึ้นมา“ทูลชินอ๋องเพคะ” ฮุ่ยหลิงมารอท่านอ๋องอยู่นานสองนานเมื่อรู้จากบ่าวรับใช้ว่าเขาไปที่ตำหนักของพระชายา นางมาก่อนจ้าวหม่านฟางไยนางจึงไ
จ้าวหม่านฟาง หรือ ฟางฟาง นักศึกษาวัยยี่สิบเอ็ดปีภาควิชาวิศวกรรมโยธาและผังเมืองตอนนี้สาขากำลังพามาดูงานที่ต่างเมืองเป็นเวลาสองวันหนึ่งคืน “เมื่อคืนฉันฝันไม่ดีเลย” “เธอฝันว่าอะไร” มีมี่กำลังก้มหน้าก้มตามองไปที่จอโน๊ตบุ๊คที่กำลังเขียนรายงานอยู่สองสาวเป็นเพื่อนสนิทกันมานานตั้งแต่เรียนมัธยมด้วยกัน “ฝันว่าฉันจมน้ำตาย” จ้าวหม่านฟางกำลังคิดหนักกับสิ่งที่ตัวเองฝันเพราะเหมือนความจริงมาก ความรู้สึกที่ตอนเธอกำลังจะขาดอากาศหายใจช่างทรมานเหลือเกิน “ฟางฟางแกนอนน้อยไปหรือเปล่า” “ฉันอาจจะคิดมากไปเอง” จ้าวหม่านฟางหญิงสาวที่สู้ชีวิตถีบตัวเองจนได้เข้ามหาลัยดีๆ แต่ก็ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อหาเงินมาจ่ายค่าเทอมที่แพง ที่บ้านพ่อของเธอแต่งงานใหม่และมีลูกติดแม่เลี้ยงมาหนึ่งคน แม่เลี้ยงต่อหน้าพ่อก็ทำดีกับเธอพอหลับหลังก็ด่าทอเธอสารพัดพร้อมกับลูกเลี้ยงที่จองหองกล้าใช้เธอราวกับคนใช้คนหนึ่ง จนมีเรื่องแตกหักที่ทำให้เธอถูกพ่อไล่ออกจากบ้าน “เห้อออ” จ้าวหม่านฟางถอนหายใจออกมาเมื่อคิดถึงเรื่องที่ผ่านมาพ่อไม่รักเธอแล้วตั้งแต
“อืม อ่าส์” เสียงครางดังออกมาใกล้ๆ กับใบหูของจ้าวหม่านฟางนางจึงลืมตาขึ้นมาอย่างงัวเงีย และกำลังเพ่งมองไปยังต้นตอของเสียงเงาตะคุ่มดำๆ กำลังคร่อมรางของนางอยู่“อื้อ อ่าส์”แต่เสียงครางยิ่งดังขึ้นมาเรื่อยๆ จนจ้าวหม่านฟางต้องขยี้ตาอีกรอบ แต่ทำไมร่างกายของนางเหมือนกำลังโดนล่วงล้ำเข้ามาจนนางได้ยินเสียงเนื้อกระทบกันอย่างชัดเจน และแรงกระแทกทำให้นางรู้กำลังร่วมรักกันอยู่“กรี๊ดดดด ออกไป” จ้าวหม่านฟางกรีดร้องออกมาตอนนี้นางกำลังร่วมรักกับหยางเพ่ยตงหรือที่ใครต่างพากันรู้จักดีเขาคือชินอ๋องผู้ที่โหดเหี้ยมฆ่าคนได้เหมือนผักเหมือนปลาและได้รับฉายาว่าอ๋องทรราช“อยู่นิ่งๆ อ่าส์” หยางเพ่ยตงจับตัวนางไว้แน่นตอนนี้ทั้งสองกำลังเชื่อมประสานกันอยู่จะให้ดึงออกมาตอนนี้ เขาขอยอมตายดีกว่า“ออกไปจากตัวข้า”“เจ้าเป็นพระชายาจงทำหน้าที่เสีย” หยางเพ่ยตงไม่ฟังเสียงห้ามของนางเขาอัดกระแทกแท่งหยกเข้ามาจนใบหน้าของนางเปื้อนด้วยน้ำตาที่ไหลออกมาจากหางตาเหมือนร่างกายจะปริแต่ถึงแม้ในความเป็นจริงจ้าวหม่านฟางจะเคยใช้ชีวิตในโลกปัจจุบันแต่ก็ไม่เคยมีคนรักหรือเคยหลับนอนกับชายคนไหนมาก่อนจนหญิงสาวทะลุมิติเข้ามาอยู่ในร่างของคุณหนูสามจ้า