Share

บทที่ 57 ระวัง

last update Last Updated: 2025-03-06 22:12:50

"ครับ ผมเอง" ลุงสามบอกเสียงเรียบ

สถานการณ์ที่ไม่ปกติ ย่าเฉินจึงให้ลูกสะใภ้พาหลานชายคนเล็กเข้าไปในบ้านพร้อมเฉินจางและเฉินเหม่ยเย่ ส่วนคนที่เหลือกำลังยืนเผชิญหน้ากับคนตระกูลหมิง เพื่อนของลุงสามอยู่รออยู่ด้านหลังเหมือนรู้ว่าเป็นเรื่องภายในครอบครัว แต่ทุกคนตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา หากเกิดอะไรขึ้นก็พร้อมจัดการ

"นี่เป็นเรื่องของบ้านอี้กับบ้านเฉิน ตระกูลหมิงไม่ได้เกี่ยวข้องแต่กลับโดนลากไปด้วย"

"อี้เหม่ยเฟิ่งยอมเปิดปากแล้ว มีอะไรจะพูดไหมหมิงหลานฮุ่ย" ลุงสามไม่ได้สนใจพ่อของหมิงหลานฮุ่ย เขาหันไปถามหมิงหลานฮุ่ยที่ยืนอยู่

"เป็นไปไม่ได้!"

"เรื่องอะไร ผมยังไม่ได้พูดเลย" คิ้วถูกเลิกขึ้นด้วยความยียวน

เฉินเฟิ่นอี้หลุดขำออกมาท่ามกลางสถานการณ์ที่ตึงเครียด คนตระกูลหมิงตวัดสายตามองเธอด้วยความไม่พอใจ แต่เฉินเฟิ่นอี้ไม่ได้สนใจพวกเขาสักนิด สิ่งที่ทำให้เธอสนใจก็คือกระดาษแผ่นบางที่ลุงสามนำออกมาจากกระเป๋ากางเกง เขาใช้นิ้วคีบมันไปมาบนอากาศก่อนเปิดปากพูด

"คำสารภาพของอี้เหม่ยเฟิ่ง ตอนนี้หล่อนถูกฝากขังอยู่ รอผู้มีส่วนร่วมรู้ร่วมคิดอีกคน ไม่สิ ต้องบอกว่ารออีกหลายคนมากกว่า" ลุงสามยิ้มแต่รอยยิ้มกลับไปไม่ถึงดวงตาทั้งยังพูดเ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 58 เห็นแก่ตัว

    “นี่มันเรื่องอะไรกันคะ”หลินมี่หรือย่าเฉินในวัยยี่สิบปลาย ๆ มองเอกสารในมือของสามีด้วยความไม่เข้าใจ เดือนนี้สามีของหล่อนกลับมาบ้านดึก ๆ ทุกวัน พ่อและแม่สามีก็บ่นหล่อนอยู่ตลอดเวลาที่ไม่ช่วยงานสามีทั้ง ๆ ที่ต้องดูแลลูกชายตั้งสี่คน ส่วนน้องสะใภ้สองคนที่มีลูกคนเดียวและสามีเลี้ยงให้นอนเล่นอยู่บ้านกลับไม่บ่นอะไร“ลายมือถูกเปลี่ยน” เฉินจงอี้ผู้เป็นสามีกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียดตระกูลเฉินมีกิจการค้าขาย ร้านอาหารและทำการเกษตร เฉินจงอี้รับหน้าที่ดูแลกิจการค้าขายของตระกูล น้องชายคนรองดูแลร้านอาหาร ส่วนน้องชายคนสุดท้องรับหน้าที่ดูแลการเกษตร เฉินจงอี้รับหน้าที่นี้ตั้งแต่เรียนจบอายุสิบแปดปี จนกระทั่งตอนนี้รวม ๆ แล้วก็สิบกว่าปีแม้จะรู้ว่าครอบครัวลำเอียงรักน้องชายทั้งสองมากกว่าตนเอง แต่เฉินจงอี้ก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะรู้ดีว่าตอนที่เขาเกิดครอบครัวไม่ได้มีเงินมากขนาดนั้น ตระกูลเฉินเพิ่งรุ่งเรืองมาได้ไม่กี่ปี และกิจการที่ช่วยตระกูลเฉินได้มากที่สุดก็คือในส่วนที่เขารับผิดชอบ ที่ผ่านมาเขาคิดว่าพ่อกับแม่จะรักเขามากขึ้นเพราะการหาเงินแต่เขาคิดผิดเอกสารนี้เขาจำได้ขึ้นใจ เมื่อต้นปีที่ผ่านมาแม่ให้เขาเซ็นเอกสารโ

    Last Updated : 2025-03-07
  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 59 ห่วง

    วันนี้เป็นเช้าที่ไม่สดใส บ้านเฉินถูกผู้ใหญ่บ้านส่งคนมาบอกตั้งแต่เช้าให้หยุดงานในแปลงนาเพราะเรื่องเมื่อคืน ที่ว่าในอดีตปู่เฉินโกงสหายที่ทำงานด้วยกันมาแล้วพวกเขาจับได้จึงเป็นเศรษฐีตกอับ ทั้งที่ความจริงมันไม่ใช่แบบนั้นในปีที่ปู่เฉินหอบภรรยาและลูกชายมาที่หมู่บ้านเฟิ่นหลิน คนในหมู่บ้านต่างรู้กันว่าครอบครัวนี้มีปัญหาจึงมาพึ่งพาครอบครัวเฉินในหมู่บ้านที่ไม่มีลูกหลาน มันจึงทำให้พวกเขาอยู่อย่างสงบมาตลอดเฉินเฟิ่นอี้เดินเข้ามาในครัวที่มีกับข้าวอยู่บนเตา บรรยากาศวันนี้มันทำให้เธอรู้สึกแปลกอย่างบอกไม่ถูก ปกติตอนเช้าที่บ้านจะวุ่นวายเพราะต้องไปทำงาน ซึ่งตอนนี้มันเงียบมาก ทุกคนเลือกที่จะเก็บตัวอยู่ในห้องนอน เป็นเธอที่หิวข้าวจึงออกมาทำอาหารทิ้งไว้ และนี่ก็ใกล้จะถึงมื้อกลางวันแล้ว เด็ก ๆ ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย"เฟิ่นอี้"“แม่"เป็นแม่ของเธอที่อุ้มเฉินชิงชิงเข้ามา สงสัยจะหิวแล้ว เฉินเฟิ่นอี้เปิดตู้กับข้าวเพื่อเอาอาหารที่เตรียมไว้ให้เฉินชิงชิงออกมา ถึงแม่เธอไม่ออกมาตอนนี้ ดูกับข้าวเสร็จเฉินเฟิ่นอี้ก็จะนำอาหารไปให้น้องชายอยู่ดี เขายังเด็กและไม่สามารถอดอาหารได้เหมือนคนอื่น"แม่มาหาข้าวให้น้องเหรอคะ ฉันเ

    Last Updated : 2025-03-08
  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 60 ผู้หญิงบ้านนอก

    ตระกูลหมิงปฏิเสธทุกข้อหาที่บ้านอี้กล่าวอ้าง และมีพยานว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ขณะเดียวกันกับทางผู้อำนวยการโรงเรียนก็บอกว่าถูกตระกูลหมิงบีบ บังคับไม่อย่างนั้นเขาจะถูกสั่งย้าย ทั้งสองฝั่งยังไม่มีใครได้เจอกันจึงเล่าเป็นหนังคนละม้วน แน่นอนว่าคำพูดของผู้อำนวยการโรงเรียนอำเภอมีน้ำหนักมากกว่าเพราะเขาไม่ได้พลิกลิ้น แต่ไม่มีพยานมันจึงปัดตกได้เลยสิ่งที่น่ากังวลที่สุดก็คือคนบ้านอี้่ที่ไม่รู้เรื่องราวอะไรกับคนอื่น และพวกเขาถูกนำมาฝากขังก่อนคนอื่นทำให้มีสภาพที่อ่อนแรง อี้เหม่ยเฟิ่งได้รับการดูแลที่ดีกว่าคนอื่นหน่อยเพราะหล่อนตั้งครรภ์ ซึ่งในส่วนนี้พลตำรวจจางชิวหลงไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงงานตำรวจท่านอื่นได้ หากต้องการความสงบก็ต้องอยู่อย่างเงียบ ๆเฉินเฟิ่นอี้มองคนตระกูลหมิงที่ถูกนำตัวออกมาสอบปากคำเพิ่มเติม ในตอนนี้ข้อกล่าวหามันเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งทำร้ายร่างกาย พยายามฆ่า ติดสินบน ลอบติดตามคนอื่นและช่วยเหลือคนร้าย ถือว่าเป็นคดีที่ใหญ่คดีหนึ่ง ปู่หมิงกับลูกชายและญาติ ๆ อาจรอดตัวไป หมิงหลานฮุ่ยกับแม่มีพยานที่ว่ารู้เห็นกับอี้เหม่ยเฟิ่ง รวมถึงการติดสินบนผู้อำนวยการโรงเรียน"นั่นโม่เหลียนใช่ไหมคะ" เฉินเฟิ่นอ

    Last Updated : 2025-03-08
  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 61 ปล่อยตัว

    บทสรุปยังไม่แน่ชัด เฉินเฟิ่นอี้เดินออกมาที่รถก่อนเพราะรู้สึกไม่สบายตัว ไม่นานเธอก็เห็นเด็กบ้านอี้เดินออกมา ยกเว้นอี้เหม่ยเฟิ่งที่ต่อให้ทุกคนรอดหล่อนก็ไม่รอด ข้างหลังมีลุงสามเดินตามมาด้วย พวกเขาหยุดคุยกันครู่หนึ่งก็เดินมาหาเฉินเฟิ่นอี้"เด็กบ้านอี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องจึงถูกปล่อยตัวออกมาก่อน แต่หลังจากนี้ถ้าทำอะไรผิดก็จับกุมได้เลย ส่วนคนบ้านอี้ลุงจางจะจัดการให้หลานเอง อย่างน้อยพวกผู้ใหญ่ก็ไม่สามารถสร้างความรำคาญให้พวกเราได้อย่างน้อยสองปี ส่วนเด็กคนนั้นมีส่วนรู้เห็นหลายเรื่อง" และเฉินหมิงไม่ยอมความ อาจถูกขังหลายปีหน่อย ตอนนั้นหลานสาวของเขาคงแต่งงานมีลูกแล้ว"ตระกูลหมิงล่ะคะ""ปู่หมิงโยนทุกเรื่องให้ลูกสะใภ้อาจรอดตัวไปได้ แต่หลานไม่ต้องห่วง ตอนนี้ลุงกำลังสืบ ๆ เรื่องเบื้องหลัง มันน่าจะเกี่ยวกับบ้านเฉินแน่นอน" หนีไปได้หลายปีในที่สุดก็ต้องเผชิญหน้า แต่ก่อนเขายังมีความกลัวแต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้ว ทุกคนเข้มแข็งและพร้อมเผชิญหน้า"หมิงหลานฮุ่ยคงไม่รอดตัวนะคะ""ไม่หรอก เขามีความผิดพอ ๆ กับอี้เหม่ยเฟิ่ง ไม่สิมากกว่าด้วยซ้ำ"ถ้าเรื่องอยู่ในมณฑลใหญ่หรือเป็นลูกหลานของตระกูลใหญ่ ไม่แน่ว่าอี้เหม่ยเฟิ่งจะถ

    Last Updated : 2025-03-11
  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 62 อุปสรรค

    ผ่านมาเป็นสัปดาห์ สมาชิกบ้านเฉินก็ยังไม่ได้ลงแปลงนา ทั้งที่ีไปสอบถามก็ไม่ได้รับคำตอบ สร้างความไม่สบายให้กับหลายคน โดยเฉพาะเหล่าสะใภ้ที่กลัวว่าเงินของบ้านจะหมด สะใภ้แต่ละคนล้วนถูกเลี้ยงมาด้วยการทำงาน ไม่ทำงานก็คือไม่มีเงิน และไม่มีเงินก็ไม่มีอาหารให้ประทังชีวิต แม้ลูกชายคนที่สามของบ้านและหลานชายคนโตจะทำงานมีเงินเดือนก็ตามเฉินจงถึงวัยที่ควรแต่งงานแล้ว แต่เขากลับเจริญรอยตามลุงสามไปพร้อมกับการขอหาภรรยาเอง ซึ่งปู่เฉินกับย่าเฉินไม่บังคับหลาน ต่อให้ปีนี้อายุจะเข้าเลขสอง เด็กที่เหลือก็ยังเรียนอยู่ จำเป็นต้องใช้เงินมากมาย ผักในสวนหลังบ้านที่เคยนำไปขายก็ถูกเฉินเฟิ่นอี้ห้ามไว้ ไข่ไก่ก็เก็บไว้กินขายไม่ได้ ทำให้บ้านเฉินไม่มีรายได้เข้ามาตลอดสัปดาห์แต่เฉินเฟิ่นอี้ไม่มีอะไรให้เดือดร้อนเพราะเธอนำเงินไปให้ย่าเฉินใช้จ่ายแล้ว แถมเวลาไปซื้อของเข้าบ้านก็ไม่ได้ไปสหกรณ์ตำบล เป็นเฉินเฟิ่นอี้กับลุงสามที่ไปซื้อของเข้าบ้าน และก็เป็นของในระบบทั้งนั้นที่เธอหยิบออกมาใช้ที่ีสำคัญเพราะผู้ชายบ้านเฉินไม่ได้ทำงานในแปลงนา เฉินเฟิ้่นอี้จึงสั่งให้ทำของให้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นกระดานไม้ โต๊ะ เก้าอี้ กล่อง และของอื่น ๆ ไม

    Last Updated : 2025-03-11
  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 63 มารผจญ

    ต้นฤดูใบไม้ร่วงปี 1970 เป็นวันเปิดภาคเรียนที่สองของเด็ก ๆ บ้านเฉิน พวกเขาทั้งห้าคน ไม่สิต้องบอกว่าหกคนรวมพี่สาวรองกลับมานอนพักในบ้านเช่าเป็นวันที่สาม ลุงสามก็กลับไปประจำการที่ทำงานเดิมได้ห้าวันแล้ว ส่วนบ้านเฉินหลังจากมีการพูดคุยครั้งนั้นก็ได้กลับไปทำงานเหมือนเดิมเฉินเฟิ่นอี้นำจักรยานออกมาใช้เพิ่มสามคันเพราะมันมีความจำเป็น พี่สาวรองบังเอิญรู้เรื่องระบบก่อนที่เฉินเฟิ่นอี้จะบอก การที่นำจักรยานออกมาใช้จึงไม่ใช่ปัญหา วันนี้พี่สาวรองที่หัดปั่นจักรยานได้สองวันก็ปั่นไปทำงานที่สหกรณ์ เฉินไห่หลิวปั่นจักรยานไปโรงเรียนโดยที่มีเฉินจางนั่งซ้อน เฉินตงนั่งคนเดียว ส่วนเฉินเฟิ่นอี้ปั่นไปเองโดยมีน้องสาวนั่งซ้อนเช้าวันนี้เป็นวันที่สดใสสำหรับเฉินเฟิ่นอี้ เพราะทางโรงเรียนประกาศการจัดระดับชั้นใหม่ รวมถึงเปลี่ยนผู้อำนวยการโรงเรียนคนใหม่เพราะคนเก่ารับสินบน สมาคมผู้ปกครองต่างยื่นเรื่องไม่ยอมให้เขายังทำงานอยู่ในโรงเรียนจักรยานทั้งสามคันถูกจูงมาจอดที่โรงรถพร้อมโซ่และล็อกด้วยกุญแจ จักรยานในยุคนี้มันมีค่ามาก ถ้าจำไม่ผิดสองร้อยกว่าหยวนเลย แถมมีตั้งสามคัน ถ้าหายไปพวกเธอแย่แน่แม้ไม่ได้ใช้เงินซื้อมาเดินส่งเฉินเหม่

    Last Updated : 2025-03-11
  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 64 ย้ายห้อง

    นักเรียนมัธยมปลายชั้นปีที่หนึ่งห้องเรียนอันดับสามย้ายออกไปยี่สิบคน ผู้ชายย้ายไปห้องเรียนอันดับต้นสิบคน ส่วนผู้หญิงก็ย้ายออกไปสิบเอ็ดคน เฉินเฟิ่นอี้เข้าใจพวกหล่อนดี ลูกหลานผู้หญิงกดดันกว่าลูกหลานผู้ชายมาก ที่สำคัญไม่มีใครได้ย้ายมาห้องเรียนอันดับสามสักคน ตามข้อตกลงที่เฉินเฟิ่นอี้ไปตกลงกับทางโรงเรียนหลายวันก่อนแต่ของเธอมันอยู่บนความถูกต้องที่ว่าหากนักเรียนคนที่ีไม่ผ่านการสอบหรือไม่มีสิทธิ์เลือกห้องให้อยู่ห้องอันดับสอง ส่วนใครอยากย้ายออกห้องอันดับสามหรือย้ายเข้าก็แล้วแต่เธอไม่สามารถห้ามได้ ทำให้ห้องเรียนของเธอเหลือเพียงยี่สิบเจ็ดคน แบ่งเป็นผู้ชายยี่สิบคนผู้หญิงเจ็ดคน ซึ่งส่วนมากจะเป็นกลุ่มที่สนิทกันสุด ๆถ้าถามว่าทำไมเฉินเฟิ่นอี้ถึงไม่ยอมย้ายไปห้องเรียนอันดับต้นหรือห้องเรียนอันดับสอง เพราะเธอไม่ต้องการความวุ่นวาย ตอนสอบเลือกห้องทั้งที่เฉินเฟิ่นอี้ตั้งใจตอบผิดกลับได้คะแนนเต็ม มันก็เป็นที่จับตาของคณะครู แถมวันนั้นผู้อำนวยการโรงเรียนคนใหม่ยังมองเธอด้วยสายตาแปลก ๆ อีกเฉินเฟิ่นอี้กับกลุ่มเพื่อนผู้หญิงนั่งมองผู้ชายในห้องที่กำลังจัดโต๊ะที่นั่งใหม่ ด้วยจำนวนที่น้อยลงและนำโต๊ะไปให้ห้องที่ไม่พอใช

    Last Updated : 2025-03-11
  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 65 พี่หยางจิง

    "ขอบคุณค่ะ"เฉินเฟิ่นอี้รับแก้วน้ำจากโอวหยางจิงที่ไปซื้อมาให้ สุดท้ายเธอก็ยอมมาดูหนังกับเขาท่ามกลางการเอาใจช่วยของคนอื่น ยกเว้นเฉินไห่หลิวที่อยากจะปฏิเสธแต่ยังปากหนักอยู่ เฉินเฟิ่นอี้ตามใจเขา เมื่อไหร่อยากคุยก็คุย ก็แล้วกัน"เธออยากไปเดินเล่นก่อนไหม น่าจะต้องรออีกครึ่งชั่วโมง"เพราะคำนวณเวลาผิดพลาดทำให้ต้องรอรอบฉายที่จะมาถึง โอวหยางจิงจึงพาเด็กสาวมานั่งรอใต้ต้นไม้ที่ไม่มีแดด รอบข้างก็มีคนมานั่งรอรอบฉาย ซึ่งยังดีที่อากาศไม่ได้ร้อนถึงกับนั่งไม่ได้ แต่โอวหยางจิงก็รีบไปซื้อน้ำมาให้เด็กสาวระหว่างนั่งรอพร้อมขนม"ฉันไม่มีที่อยากไปเลยค่ะ" เฉินเฟิ่นอี้ปฏิเสธ"อ้อ แล้วชอบดูหนังไหม เห็นน้องชายของเธอชอบนักแสดงเฉินหาน” ระหว่างนั่งรอเขาก็ชวนเด็กสาวคุยไปด้วยเพื่อทำลายความเงียบ"ฉันไม่ค่อยดูหนังหรอกค่ะรุ่นพี่โอวหยาง ส่วนมากจะพาน้องชายน้องสาวมาดูมากกว่า" เฉินเฟิ่นอี้ไม่ได้พูดเล่นส่วนมากจะพาน้องชายน้องสาวมาดูมากกว่า ส่วนเธอมีหน้าที่ดูแลน้อง ๆ อีกที อย่างเช่นการแกะเปลือกเม็ดแตงโมให้ทั้งสี่คน"น่าเสียดายนะ ไว้วันหลังพวกเราค่อยมาใหม่อีกก็ได้""ค่ะ"เฉินเฟิ่นอี้ยิ้มเล็กน้อยมองโอวหยางจิงที่ชวนพูดคุยทั้งที่เ

    Last Updated : 2025-03-11

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 80 รู้ทุกอย่าง

    ที่นี่คือที่ไหน นี่คือความรู้สึกแรกของแป้งร่ำที่ลืมตาตื่นขึ้นมาท่ามกลางความมืด มันไม่ใช่บ้านเฉินแน่นอนเพราะเธอสัมผัสได้ถึงความเย็นจากเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดหนึ่งที่ไม่ใช่อากาศธรรมชาติอย่างที่ควรจะเป็น เสียงที่ควรจะมีในตอนเช้าก็ไม่มี ความทรงจำล่าสุดที่จำได้ก็คือเธอนอนในตอนฟ้าใกล้สางแล้วแป้งร่ำลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงอย่างคุ้นชินเพื่อปรับสายตาให้มองเห็น ก่อนที่เธอชะงักรีบคลำหาโคมไฟใกล้เตียงที่จำได้ โทนห้องที่คุ้นตาและเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นมันทำให้ตื่นตระหนกเกิดอะไรขึ้น? มันคือความฝันหรือที่ผ่านมามันก็คือความฝันกันแน่ร่างของสาวใหญ่อดีตเลขาท่านประธานบริษัทใหญ่ย้ายตัวมานั่งหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง มือไม้อ่อนลงชั่วขณะ ร่างนี้คือแป้งร่ำไม่ใช่เฉินเฟิ่นอี้อย่างควรที่จะเป็น มือทั้งสองข้างถูกยกขึ้นลูบไล้ใบหน้าเพื่อยืนยันว่าตอนนี้คือความจริง แป้งร่ำหันมองรอบ ๆ ตัว ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม เวลาเจ็ดโมงเช้าที่เคยตื่นนาฬิกาก็ยังอยู่ที่เจ็ดโมงเช้า เธอรีบเดินไปที่โต๊ะทำงานเพื่อพิสูจน์ความจริงหลาย ๆ อย่างวันที่ 12 เดือนมิถุนายน 2565 เป็นตัวเลขที่ทำให้แป้งร่ำต้องใช้มือลูบใบหน้าของตนเองอีกรอบ วันที่เธอหลับไปคือวันที่

  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 79 ปี 1971

    ในที่สุดก็ถึงวันที่ 31 ธันวาคม เป็นวันสิ้นปีที่ทุกคนจะเฉลิมฉลอง หิมะหยุดตกมาสองวันแล้ว เด็กบ้านเฉินเตรียมตัวกลับบ้านเช่าเพราะอีกไม่กี่วันก็จะเปิดเรียน แต่เพราะจะขึ้นปีใหม่ผู้ใหญ่บ้านเฉินให้อยู่ฉลองด้วยกันก่อน พวกเฉินเฟิ่นอี้ไม่มีปัญหาในเรื่องนี้ อีกทั้งยังเหลือตั้งสามวันถึงจะเปิดเรียนบริเวณบ้านถูกทำความสะอาดไว้ตั้งแต่แรก เมื่อวานก็ทำความสะอาดอีก วันนี้จึงไม่มีความสกปรกหลงเหลืออยู่ อากาศก็เย็นสบายดี เสียงหัวเราะดังขึ้นในบ้านเฉินและบ้านรอบข้างทุกบ้าน เชื่อกันว่าวันนี้จะเป็นวันที่สิ้นสุดความโชคร้าย ผ่านพ้นปีนี้ไปย่อมมีแต่ความสุขฟืนที่เคยหามาเก็บไว้เริ่มหร่อยหรอเต็มที หากใช้ทำอาหารก็ใช้ได้แค่หนึ่งสัปดาห์ ยังดีที่หิมะหยุดตกแล้ว ไม่อย่างนั้นคงหนาวมากแน่ รอบบ้านทำความสะอาดแล้วในบ้านหรือในครัวก็ทำความสะอาดเหมือนกัน จากที่ไม่ได้ทำมาเกือบหนึ่งเดือนเต็ม ๆเฉินเฟิ่นอี้ยกชามใส่น้ำเข้ามาตั้งในครัวก่อนนำไปต้มให้เดือด บ้านเฉินจะดื่มฉลองตั้งแต่วันนี้เลย เฉินเฟิ่นอี้จึงจะทำกับแกล้มให้ เมื่อเช้านี้เฉินตงทำทีไปซื้อของในตำบลเพื่อให้เฉินเฟิ่นอี้มีเนื้อทำอาหาร โชคดีตอนที่เข้าครัวมีเพียงเฉินเฟิ่นอี้อยู่จึง

  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 78 พี่ใหญ่เฉิน

    ตลอดเดือนธันวาคมที่หิมะตกหนัก โรงเรียนประกาศปิดเรียนจนกว่าจะเข้าเดือนมกราคม เพราะอย่างนั้นเฉินเฟิ่นอี้จึงพาน้อง ๆ และพี่สาวรองกลับบ้านเฉินในวันต้นเดือน พร้อมของกินอีกหลายอย่างที่จะทำให้ไม่ลำบากออกไปหาซื้อหรือหาอะไรมาประทังชีวิตเฉินเฟิ่นอี้ถูมือไปมาระหว่างเดินเข้าหมู่บ้าน ช่วงนี้ไม่มีรถรับจ้างขับผ่านทำให้ต้องเดินอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และของที่จะนำกลับบ้านเฉินเฟิ่นอี้ก็เพิ่งนำออกมาตอนที่ใกล้ถึงหมู่บ้านแล้ว เธอไม่ทรมานตัวเองขนมาตั้งแต่อำเภอ อีกทั้งหิมะยังตกปรอย ๆแต่ละคนล้วนใส่เสื้อแขนยาวที่ยัดฝ้ายลงไปเพิ่มความอบอุ่น เป็นเสื้อแขนยาวที่พี่สาวรองกับเฉินเหม่ยเย่จัดการเย็บให้ทุกคน ส่วนเฉินเฟิ่นอี้มีหน้าที่นำอุปกรณ์มาให้ทั้งสองจัดการ นอกจากของเด็กบ้านเฉินแล้วยังมีของพวกผู้ใหญ่ที่เฉินเฟิ่นอี้ให้เฉินไห่หลิวกับเฉินตงนำมาส่งที่บ้านก่อนหน้านี้ ไม่ก็เป็นลุงใหญ่ ลุงรอง หรือพ่อของเธอที่เข้าอำเภอไปเป็นคนเอาเสื้อกลับภายในหมู่บ้านมีชาวบ้านออกมากวาดหิมะออกจากหลังคาบ้านและรอบ ๆ บ้าน หลังจากการเก็บเกี่ยวรอบนี้ทุกบ้านได้ส่วนแบ่งรอบสุดท้าย และหิมะตกไม่อาจทำงานในแปลงนาได้ นั่นหมายความว่าทุกคนต้องรัดเข็มขัดจ

  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 77 ฝึกซ้อมอย่างหนัก

    การฝึกซ้อมเป็นไปอย่างยากลำบากเมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว หิมะเริ่มตกเมื่อเข้าเดือนธันวาคม โรงเรียนประกาศหยุดเรียน หากมีภารกิจที่ต้องทำสามารถมาที่โรงเรียนได้ ตัวอย่างเช่นพวกเฉินเฟิ่นอี้ที่ต้องฝึกซ้อมภาษาต่างประเทศ เธอและกลุ่มตัวแทนฝึกซ้อมกันอย่างหนักตัวแทนสำรองแข่งขันวิชาการภาษาต่างประเทศถูกเปลี่ยนตัวกระทันหัน รักษาการเซียวต้องทำเรื่องให้อย่างยากลำบากในการเปลี่ยนตัว เปลี่ยนเยวี่เซียงที่ไม่มาซ้อมออกและนำมี่หยางเพื่อนกลุ่มเดียวกับเฉินเหม่ยเย่มาแทน ที่สำคัญหล่อนยังกลมกลืนไปกับกลุ่มทำให้เข้ากันได้ดีเฉินเฟิ่นอี้ยืนพิงกรอบประตูหน้าบ้านมองออกข้างนอกที่หิมะเริ่มละลายแล้ว คาดว่าช่วงบ่าย ๆ มันถึงจะเริ่มตกอีกครั้งแต่ก็เป็นเรื่องที่ดี วันนี้เธอมีนัดฝึกซ้อมภาษาต่างประเทศที่โรงเรียนหลังจากที่หิมะตกมาตลอดหนึ่งสัปดาห์ พวกเธอไม่สามารถออกมาจากบ้านได้เลย เฉินเฟิ่นอี้ไม่กล้าเสี่ยงให้ทุกคนต้องไปตากหิมะ จะมีเพียงพี่สาวรองที่ต้องออกไปทำงานที่สหกรณ์อำเภอแม้หิมะจะตกแต่ยังมีคนออกไปซื้อของจึงไม่สามารถลาหยุดได้ เฉินเฟิ่นอี้เสนอพี่สาวเรื่องลาออกจากที่ทำงานมาช่วยทำอาหารขายแม้หล่อนจะช่วยทำอยู่แล้วก็ตาม เธอสงสารพี่ีสาวที่

  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 76 สงบสุขชั่วคราว

    โรงเรียนอำเภอประกาศเปลี่ยนผู้อำนวยการเป็นคนที่สองในรอบปีสร้างความงงงวยให้แก่สมาคมผู้ปกครอง แต่เมื่อรู้ถึงสาเหตุต่างคิดว่ามันสมควรกันทั้งหมด ผู้อำนวยการสร้างความเสื่อมเสียให้แก่โรงเรียน นักเรียนหรือแม้แต่คนในอำเภอต่างมีชื่อเสียงเสียหายวันนี้เป็นวันแรกที่ผู้อำนวยการคนใหม่จะมาที่นี่ ทางโรงเรียนและเฉินเฟิ่นอี้ก็เพิ่งรู้ว่าผู้อำนวยการที่เพิ่งออกไปเป็นเพียงผู้อำนวยการชั่วคราวที่ต้องทำงานก่อนถึงจะประเมินว่าสามารถเป็นผู้อำนวยการได้หรือไม่ โชคดีที่ไม่ใช่ผู้อำนวยการมาประจำการไม่อย่างนั้นจะวุ่นวายมากกว่านี้ แต่ก็ยังหาผู้อำนวยการได้ไม่ทันอยู่ดี คนที่จะมาใหม่เป็นเพียงรักษาการณ์เท่านั้น"ครูเซียว"ทุกคนยืนอยู่กลางสนามท่ามกลางเมฆที่อึมครึม เฉินเฟิ่นอี้มองอย่างฉงนเมื่อมีแขกมาที่โรงเรียน ทั้งเป็นคนที่หลายคนคุ้นหน้า หรือมาตรวจดูบุคลากรภายใน แต่ก็เป็นไปไม่ได้ เป็นกรรมการจากกองการแข่งขันหรือก็คือครูเซียวเดินมาที่หน้าเสาธงพร้อมผู้ติดตาม"สวัสดีครับนักเรียนทุกคน หลายคนอาจจะรู้จักผมแล้ว แต่ยังมีหลายคนที่ไม่รู้จัก ผมครูเซียวหรือรักษาการเซียวจะมาทำหน้าที่แทนผู้อำนวยการชั่วคราวในระหว่างนี้..."เสียงอื้ออึงดัง

  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 75 เตรียมพร้อม

    เรื่องผู้อำนวยการยังไม่ทันได้ตัดสิน เฉินเฟิ่นอี้ก็พาน้อง ๆ ชนะการแข่งขันวิชาการหมวดภาษาต่างประเทศทุกการแข่งขัน ไม่ว่าจะเดี่ยว คู่ ทีม หรือระดับชั้น โรงเรียนอำเภอจวี่คะแนนนำลิ่ว ไม่ต่างจากการแข่งขันของน้องชายทั้งสามและซ่งเวยหลานที่เอาชนะมาได้ หลังจากนี้จะมีการแข่งขันที่จัดขึ้นในปักกิ่ง พวกเธอต้องไปแข่งต่อ ซึ่งยังไม่กำหนดวันที่ชัดเจน แต่ก่อนนักเรียนมัธยมปลายชั้นปีสุดท้ายจบแน่นอนเมื่อคืนตัวแทนโรงเรียนอำเภอจวี่นอนกลางลาน โชคดีที่อากาศไม่ได้เย็นจนเกินไป ทั้งมีกองไฟให้ความอบอุ่นอยู่ข้างที่นอน ทำให้ทุกคนหลับสบายกันมาก แต่เห็นว่าพวกผู้ชายสลับกันนั่งเฝ้าทุกคนรวมถึงครูจูด้วย ทำให้ตอนแข่งขันเพื่อคว้าชัยชนะไม่มีครูจูอยู่ด้วย เขาหลบไปนอนพักตั้งแต่ทุกคนตื่นตัวแทนแต่ละโรงเรียนยืนต่อแถวกันอย่างเป็นระเบียบเมื่อการแข่งขันจบลง คนน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะโรงเรียนของเฉินเฟิ่นอี้ที่เหลือไม่กี่คน ทั้งตอนนี้เหลือแค่ครูจูที่ยืนดูเด็ก ๆ ในแถว ครูคนอื่นกลับไปหมดแล้ว ยกเว้นครูที่ปรึกษาหนี่เหอกับผู้อำนวยการที่เฉินเฟิ่นอี้ได้ยินว่าจะมีการตัดสินตอนที่กลับโรงเรียนแล้วเฉินเฟิ่นอี้ยืนอยู่หัวแถวที่มีน้องสาวยืนด

  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 74 ผู้อำนวยการคนใหม่ (อีกแล้ว)

    ความวุ่นวายยังไม่จบลงง่าย ๆ เมื่อคนอย่างผู้อำนวยการของโรงเรียนมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับบุคลากรของโรงเรียน หากทั้งสองคนไม่มีพันธะ เรื่องแบบนี้ก็ยังไม่ควรเกิดขึ้นอยู่ดี แต่ที่ทำให้หลายคนยอมรับไม่ได้ก็คือผู้อำนวยการมีภรรยาและลูกแล้วยังทำตัวแบบนี้"โธ่เว้ย!"ผู้อำนวยการโรงเรียนเดินไปมาในห้องที่ถูกเชิญมาระหว่างรอครูเซียวทำเรื่องอื่นอยู่ เขาร้องขึ้นอย่างโมโห ข้างกันมีครูที่ปรึกษาเหอหนี่นั่งร้องไห้อยู่ ที่จริงหล่อนเคยแต่งงานแล้ว เพียงแต่สามีเสียชีวิตจึงกล้าทำเรื่องแบบนี้ แต่ไม่คิดว่าจะถูกจับได้เร็วขนาดนี้ ทั้งที่ความสัมพันธ์เพิ่งจะเริ่มไปได้ไม่กี่เดือน"ฮือ ๆ ผู้อำนวยการต้องช่วยฉันนะคะ ดูสิคุณผู้หญิงตีฉันเจ็บไปหมด" แค่ยายแก่คนหนึ่ง หากไม่ใช่ว่าอยู่ต่อหน้าผู้คนหล่อนคงจะสวนกลับไปแล้ว"ช่วย? เธอโง่หรือเปล่าถึงเก็บมันไว้" เขากัดฟันอย่างโมโห มันเป็นข้อตกลงที่เคยทำก่อนเริ่มความสัมพันธ์ขึ้น แม้ไม่มีชื่อเขาแต่ภรรยากลับจำลายมือเขาได้อีกอย่าง ตอนนี้ทำได้เพียงหาข้อแก้ตัว แต่จะได้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับร้านเสื้อผ้าที่เขาไปซื้อผ้าพันคอมา ตอนที่พนักงานแจ้งว่าเป็นผ้าพันคอของผู้หญิงที่มีสามีแล้วเขายังซื้อมา

  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 73 ชู้

    "เฉินเฟิ่นอี้!"น้ำเสียงตวาดทำให้หลายคนสะดุ้งตกใจอย่างไม่คิดว่าครูจะทำเช่นนี้ต่อหน้าคนนับร้อย เฉินเฟิ่นอี้ก็สะดุ้งไม่ต่างกัน แต่ยังมีสติดีเพราะรู้ว่าครูจะทำแบบนี้ เธอถอนหายใจ น่าเสียดายที่ทางโรงเรียนต้องหาผู้อำนวยการและครูมาเพิ่มอีกแล้ว'ผ้าพันคอ'เฉินเฟิ่นอี้เหลือบมองผ้าพันคอที่ว่าบนคอของคุณครูสาว ช่วงนี้อากาศเริ่มหนาวจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีคนใช้ผ้าพันคอ เธอได้สอบถามระบบมาหลายอย่าง มันสามารถช่วยเธอได้ เพียงแต่ต้องหาทางจัดการเอง มันจะบอกข้อมูลเท่านั้น เฉินเฟิ่นอี้ยอมรับข้อตกลงเพื่อต้องการข้อมูล"ผ้าพันคอสวยดีนะคะ" ทั้งที่ก่อนหน้านี้ครูที่ปรึกษาวิชาการไม่ได้ใช้ผ้าพันคอรวมถึงหลาย ๆ คน ไม่ใช่เรื่องแปลกก็จริง แต่มันเพียงเริ่มต้นไม่ใช่ฤดูหนาวครูที่ปรึกษาเหอหนี่จับผ้าพันคอไว้อย่างหวาดระแวง กลัวว่าคนจะสงสัย แต่ยิ่งเพิ่มความน่าสงสัยเข้าไปอีก อย่างครูที่ยืนข้าง ๆ ยังงงว่าเพื่อนร่วมงานนำผ้าพันคอมาจากไหน ถ้าจะบอกว่านำมาจากบ้านด้วยก็ไม่ใช่แน่นอน ทั้งของในกระเป๋าก็ไม่มีผ้าพันคอผืนนี้"เอ๋ มันสวยดีนะคะ ครูเหอหนี่ซื้อมาจากไหน""ฉัน ฉันจำไม่ได้ค่ะ มีคนซื้อมาฝาก"ได้ยินเพียงเสียงกระซิบจากน้องสาวว่

  • ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70   บทที่ 72 ผิดหวัง

    เหตุการณ์กลับมาเป็นปกติ ตัวแทนของโรงเรียนในมณฑลถูกตัดสิทธิ์การแข่งขัน และครูที่ปรึกษาของโรงเรียนอำเภอจวี่ไม่สามารถเข้าห้องแข่งขันวิชาการได้ตามคำเรียกร้องของเฉินเฟิ่นอี้ ต้องบอกว่าการแข่งขันที่เฉินเฟิ่นอี้เป็นกังวลตอนนี้เธอโล่งอกเป็นอย่างมาก เพราะมันไม่ได้ยากอย่างที่คิด ทั้งบางส่วนยังอยู่ในข้อมูลที่ซ้อม ๆ กันมา และที่สำคัญคะแนนของโรงเรียนนำโด่งเต็มหนึ่งร้อยคะแนนเฉินเฟิ่นอี้ที่แข่งเสร็จก็ขอแยกตัวจากคนอื่นเพื่อไปรับประทานอาหารกลางวันโดยมีเฉินเหม่ยเย่ โอวหยางจิง และจินหม่าซินตามติด ตัวสำรองไม่ได้เข้าร่วมการแข่งขัน มีเพียงการจัดเตรียมอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้เท่านั้น และคาดว่าคงไม่ได้เข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้แน่"เกิดอะไรขึ้นครับ เห็นว่าโรงเรียนมณฑลถูกตัดสิทธิ์การแข่งขันวิชาการหมวดภาษาต่างประเทศ" เฉินตงถามด้วยความสนใจ เมื่อครู่เขาเพิ่งซื้อของกินกลับมาที่ห้องพักและได้ยินคนอื่นพูด"พี่สาวสามทำเอกสารคู่มือขาดค่ะ ตัวแทนของที่นี่เลยเอาของตัวเองมาให้ แล้วพี่สาวสามหิวน้ำเลยให้พี่ลู่เสียนเอาน้ำมาให้ดื่ม แต่เป็นช่วงที่ครูตัดสินมาถึงที่ห้องพอดีโรงเรียนเราจึงถูกหักคะแนน..." เฉินเหม่ยเย่เล่าตั้งแต่เริ่มให้ท

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status