บทที่ 11 แขกของคุณแม่
แต่ทว่าสายตาของเฉาจื่อที่จ้องมองไปยังยูร์เหยากลับเย็นชาแถมคิ้วยังขมวดเข้าหากันอีกด้วย
"คนนี้เป็นแขกของคุณแม่หรือครับ อย่างนั้นผมขอพาอ้ายเยว่ไปกินข้าวเช้าก่อนนะครับวันนี้จะพาอ้ายเยว่ออกไปเที่ยวข้างนอก "สีหน้าของยูร์เหยาซีดเซียวเมื่ออีกคนจำตนเองไม่ได้ ชิงเถาเห็นอย่างนั้นรีบเข้ามาตีเข้าที่แขนของเฉาจื่อ
“ทำไมถึงขี้ลืมอย่างนี้หนูยูร์เหยาอย่าน้อยใจไปเลยนะ เฉาจื่อคงทำแต่งานคงเลอะ ๆ เลือน ๆ ใครจะไปลืมหนูยูร์เหยาได้ใช่มั้ยล่ะ หนูเองยังไม่ได้กินข้าวเช้ามาสินะไปนั่งกินข้าวด้วยกัน เฉาจื่อน้องนำของมาให้รีบรับไว้สิ” ซูเม่ยยืนอยู่หัวเราะคิกคักรู้สึกสะใจเล็กน้อยที่เห็นว่าเฉาจื่อจำคนที่แม่อยากได้เป็นลูกสะใภ้ไม่ได้ ชิงเถาเห็นรีบเดินเข้าไปใกล้ดันกายของซูเม่ยออกเพื่อให้ยูร์เหยาเดินเคียงข้างไปกับลูกชายของตนเอง
เฉาจื่อรับของเล่นของอ้ายเยว่ก่อนจะเดินไปที่โต๊ะอาหารสายตาของเขาจ้องมองมายังซูเม่ย เขาคิดว่าเธอจะไม่ลงมาตามที่สั่งเสียอีก วันนี้เขาตั้งใจจะพาเธอกับอ้านเยว่ออกไปเที่ยวเล่นด้านนอก ชดใช้เวลาที่ผ่านมาให้แก่เธอแต่ทว่าเมื่อเขาลงมาได้เห็นหญิงสาวที่เขาเองแทบจำไม่ได้ด้วยซ้ำมาว่าเป็นใคร ดูเหมือนคุณแม่จะชอบเธอมากเสียด้วย
"มานั่งข้าง ๆ ฉัน" เมื่อถึงโต๊ะอาหารวางอ้ายเยว่ให้นั่งลงข้าง ๆ ตัวเองก่อนจะหันไปบอกกับซูเม่ยให้เธอมานั่งข้าง ๆ เขา
"เฉาจื่อแม่ว่าวันนี้หนูยูร์เหยามาหาลูกต้องต้อนรับน้องสิ ส่วนเธอมานั่งข้าง ๆ ฉันช่วยตักอาหารให้แม่สามีทำหน้าที่ลูกสะใภ้จะดีกว่า " ชิงเถาจับกายของยูร์เหยาให้นั่งลงเก้าอี้ตัวติดกับเฉาจื่อและดึงแขนของซูเม่ยให้มานั่งใกล้ตัวเอง
'ฮึ! คงอยากเปิดโอกาสให้ทั้งสองคนใกล้ชิดกันสินะ แม่สามีฉันรู้หมดแล้วว่าต้องการอะไร ฉันจะช่วยคุณเองเพราะฉันก็ไม่อยากจะอยู่ที่นี่นักหรอก '
"ได้ค่ะคุณแม่ฉันจะดูแลตักอาหารป้อนคุณแม่เอง อ้ายเยว่ลูกก็ตั้งใจกินนะกินเยอะๆ เข้าใจมั้ย" ซูเม่ยนั่งลงที่เก้าอี้ตัวจับตะเกียบคีบอาหารให้อ้ายเยว่ก่อนจะคีบอาหารให้ชิงเถา
"แม่สามีต้องกินผักเยอะ ๆ นะคะรู้มั้ยว่าอายุมากขึ้นทุกวันกินเนื้อมากไม่ดี ต้องกินผักให้มากขึ้นจะได้ย่อยง่าย ๆ " ซูเม่ยตั้งใจจะแกล้งแม่สามีแต่เธอทำได้เพียงยิ้มรับการกระทำของซูเม่ยเท่านั้นเพราะตอนนี้ลูกชายของเธอก็อยู่ไหนจะหนูยูร์เหยาอีกด้วย
"พี่เฉาจื่อฉันคีบเนื้อให้นะคะ พี่อยู่ที่กรมทหารคงไม่ค่อยได้กินอาหารดี ๆ วันนี้กินให้เยอะ ๆ นะ" ยูร์เหยาคีบเนื้อให้แก่เฉาจื่อด้วยท่าทางเขินอาย แต่เขากลับตอบกลับเธอทำให้เธอหน้าชาไปหมด
"ฉันอยู่ที่กรมไม่ได้ทุกข์ยากอะไร มีอาหารดี ๆ ให้กินอยู่ตลอดฉันไม่ใช่ทหารยศน้อยแต่เป็นนายพล เนื้อฉันกินบ่อยแล้วเธอกินเองเถอะดูร่างกายของเธอที่ผอมเพรียวอย่างนี้คงไม่ค่อยได้กินเนื้อสินะ" เขาพูดจบหันไปคีบผักมาใส่ชามตัวเองก่อนจะกินมันอย่างอร่อย ไม่สนใจยูร์เหยาที่หน้าซีดอยู่ข้าง ๆ สักนิด ส่วนซูเม่ยเธอหัวเราะในลำคอเพราะไม่คิดว่าเขาจะเป็นคนที่เย็นชากับทุกคนได้ขนาดนี้ เธอคิดว่าเขาจะเย็นชากับเธอเพียงคนเดียวเสียอีก ทำให้ชิงเถาได้ยินเสียงหัวเราะของซูเม่ย
"นี่เฉาจื่อลูกก็พูดเกินไป สมัยนี้สาว ๆ ก็มักจะรักษาหุ่นเพื่อให้สวมใส่เสื้อผ้าได้อย่างสวยงาม ส่วนเนื้อบ้านของหนูยูร์เหยาเองก็ไม่ได้อดอยาก เป็นถึงลูกสาวคนเดียวของนายอำเภอจะอดอยากได้ยังไงนี่หนูยูร์เหยากินสิ" เธอเห็นสีหน้าไม่ดีของยูร์เหยาเลยรีบพูดเพื่อถนอมน้ำใจ
ทุกคนตั้งใจกินข้าวอ้ายเยว่กินจนอิ่มเขาวางตะเกียบลงก่อนจะหันไปถามคุณพ่อ
"วันนี้คุณพ่อจะพาอ้ายเยว่ไปที่ไหนเหรอครับ"
"วันนี้พ่อจะพาอ้ายเยว่ไปสวนสาธารณะเราไปนั่งกินอาหารกลางวันเสร็จแล้วจะพานั่งรถไฟรอบมณฑล กลับมากินอาหารเย็นที่ร้านอาหารแล้วกลับบ้านกัน"
"ว๊าวว... รถไฟหรือครับอ้ายเยว่ไม่รู้จักขอแค่มีคุณพ่อกับคุณแม่อ้ายเยว่ไปได้ทั้งนั้น" เด็กชายดวงตาเป็นประกายแม้ไม่รู้ว่ารถไฟคืออะไรแต่เขาก็ดีใจมาก ๆ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาจะได้ไปเที่ยวอย่างครอบครัวสมบูรณ์แบบ
"รถไฟก็เหมือนรถยนต์ใช้ในการเดินทางขับเคลื่อนไปในที่ต่าง ๆ ข้างทางมีวิวทิวทัศน์สวยงามเห็นแม่น้ำทุ่งหญ้าแม้กระทั่งสัตว์ที่ชาวบ้านตามชนบทเลี้ยงไว้ "
"ตอนนี้อ้ายเยว่อิ่มแล้วเราไปกันเลยมั้ยครับ " เด็กน้อยตื่นเต้นรีบเช็ดปากทันที
"อะไรกันจะไปเที่ยวไม่เห็นบอกแม่สักคำ อย่างนี้แม่จะเตรียมตัวทันหรือไหนจะหนูยูร์เหยาที่มาหาวันนี้อีกด้วย อ้ายเยว่เอาไว้ครั้งหน้ารอคุณพ่อของหลานกลับมาเมื่อมีหยุดยาวอีกครั้งเราค่อยไปกันเถอะนะ" ชิงเถาเธออุตส่าห์คิดแผนการให้ยูร์เหยามีเวลาร่วมกันเฉาจื่อแต่ไม่คิดเลยว่าลูกชายของเธอจะไปเที่ยวข้างนอกอย่างนี้ อ้ายเยว่หุบยิ้มทันทีก้มหน้าลงต่ำอย่างเสียดาย
"ไม่ครับผมตั้งใจแล้วอีกอย่างยูร์เหยาเป็นแขกของคุณแม่ คุณแม่ก็ต้องอยู่ต้อนรับสิเพราะผมไม่ได้จะให้คุณแม่เดินทางไปกับพวกเราตั้งแต่แรกแล้ว ผมอยากพาครอบครัวออกไปเที่ยวอ้ายเยว่ไปเตรียมของกันเถอะ" เขาพูดจบจับมืออ้ายเยว่เดินไปชั้นบน
"ฮึ ฮึ " ส่วนซูเม่ยยังคงนั่งกินอาหารอย่างสบายใจ เธอคิดว่าเขาจะทำตามใจแม่ของเขาเสียอีก สมแล้วที่เป็นนายพลเผด็จการ
"นี่หัวเราะอะไรย่ะ! "
"เปล่านี่คะ " ซูเม่ยรีบตอบก่อนจะคีบเนื้อย่างเข้าปากตัวเองแต่ไม่ทันได้เข้าไปถึงปาก มือหนามาคว้ามือของเธอก่อนจะออกคำสั่ง
"ลุกขึ้นเลิกกินได้แล้วเดี๋ยวจะไม่ทันรถไฟรอบบ่าย ไปเตรียมตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าเดี๋ยวนี้" ซูเม่ยเงยหน้ามองคนตรงหน้าอย่างตกใจเธอไม่คิดจะเดินทางไปด้วยสักหน่อย "
"ไม่เอาฉันไม่อยากไป"
"คุณแม่ไม่อยากไปกับอ้ายเยว่เหรอครับ อ้ายเยว่ต้องมีความสุขมากแน่ ๆ หากคุณแม่ไปด้วย" เด็กน้อยพูดออกมาน้ำเสียงสั่นเครือมีหรือที่ซูเม่ยจะไม่ใจอ่อน
"โธ่! อ้ายเยว่หากนี่เป็นความสุขของลูกทำไมแม่จะทำให้ไม่ได้ละจ้ะ อย่างนั้นขอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะ"
เด็กชายยิ้มร่าอย่างสดใสทั้งสามเดินขึ้นไปชั้นบนเพื่อเก็บของแต่ทว่าคนที่ยังนั่งที่โต๊ะอาหารกลับร้อนรุ่มหัวใจไปหมด
"หนูยูร์เหยาป้าต้องขอโทษด้วยนะจ้ะป้าเองก็ไม่รู้ว่าเฉาจื่อจะพาอ้ายเยว่ออกไปเที่ยว "
"ไม่เป็นอะไรค่ะคุณป้าอย่างไรยูร์เหยาก็เป็นแค่คนนอกไร้ความหมายกับพี่เฉาจื่ออยู่แล้ว "
"หนูอย่าพูดอย่างนั้นสิจ้ะ รู้มั้ยว่าป้ามองหนูเสมือนลูกสาวคนหนึ่ง หนูก็รู้นี่น่าว่าป้าไม่ชอบลูกสะใภ้คนนี้เธอเข้ามาที่นี่เพราะหวังความสุขสบาย ป้าจะหาวิถีทางกำจัดให้เธอออกไปจากที่นี่ให้ได้เมื่อวานป้าได้ยินทั้งสองมีปากเสียงกัน ก่อนกลับมาจากเที่ยวครั้งนี้ไม่แน่อาจจะพากันไปหย่าที่อำเภอก็ได้ เมื่อถึงเวลานั้นป้าจะพาหนูเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ในฐานะลูกสะใภ้ ภรรยาคนใหม่ของนายพลจิ่นเฉาจื่อเอง" ยูร์เหยาคลายมือที่กำกันแน่นออกเมื่อรู้สึกสบายใจอย่างน้อยยังมีป้าชิงเถาที่ยังเข้าข้างเธอ เธอจะไม่ยอมให้ผู้หญิงคนอื่นมาเคียงข้างพี่เฉาจื่อของเธอ เพราะคนที่จะเดินเคียงข้างออกงานจะมีเพียงเธอเท่านั้นที่คู่ควร
บทที่ 12 ขนมอร่อยหลังจากที่ซูเม่ยเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเธอเดินลงมาด้านล่างเห็นชิงเถากับยูร์เหยามานั่งเล่นที่ห้องนั่งเล่นทั้งสองจ้องมองเธอด้วยสายตาไม่พอใจอย่างมากก่อนที่แม่สามีจะลุกเดินมาหาเธอ“แหม แหมแต่งตัวอย่างนี้คิดจะยั่วยวนให้เฉาจื่อลูกชายของฉันไม่ยอมหย่ากับเธอใช่ไหม ไหนปากบอกว่าจะหย่ากับลูกชายของฉันเมื่อเขากลับมาอย่างไรล่ะ”"ฉันเองก็อยากจะหย่ามาก ๆ ค่ะ แต่ไม่ว่าจะพูดอย่างไรลูกชายของคุณแม่ไม่ยอมหย่าสักที คุณแม่ไม่ลองพูดเรื่องนี้กับลูกชายเองละคะ ส่วนเรื่องเสื้อผ้าไม่ว่าจะแต่งแบบไหนถ้าเขาไม่สนใจก็ไม่สามารถดึงดูดเขาได้หรอกคะ " ซูเม่ยพูดก่อนจะเดินออกไปรอด้านนอกเห็นท่าทางของชิงเถาที่อยากขับไล่เธออกจากบ้านเต็มทน จนเธอไม่อยากจะมีปากเสียงด้วยไม่นานเฉาจื่อได้เดินลงมาด้านล่างพร้อมอ้ายเยว่เด็กน้อยเห็นคุณย่ารีบวิ่งไปหาเธอทั้งรอยยิ้ม"คุณย่าครับวันนี้คุณย่ามีแขกเลยไม่ได้ไปเที่ยวกับอ้ายเยว่แต่คุณย่าไม่ต้องเสียใจไปนะครับเดี๋ยวผมจะซื้อขนมอร่อย ๆ มาฝากเอง " ชิงเถาที่ยืนอารมณ์เสียอยู่เมื่อได้ยินคำพูดของหลานชายเธอใบหน้ายิ้มแย้มทันที"โธ่ ๆ หลานชายของย่าทำไมถึงจิตใจดีอย่างนี้นะเที่ยวให้สนุกนะ " เธอล
บทที่ 13 เริ่มวางแผน'คิดอะไรของเขากันนะ ไหนที่ในบันทึกว่าเขาเกลียดซูเม่ยไม่ใช่หรือไง ทำไมตอนนี้สายตาของเขาถึงได้เปลี่ยนไปอย่างนี้ หรือว่าเขาเพียงแค่แสดงต่อหน้าอ้ายเยว่กันใช่ต้องเป็นอย่างนี้แน่นอน เฮอะ! คิดว่าฉันไม่รู้หรือไงฉันเป็นนักแสดงนะย่ะ ' ซูเม่ยไม่ได้ใจเต้นแรงเพียงแค่คำพูดและการกระทำของเขาหรอกนะ เธอนะเป็นนักแสดงหากจะให้เล่นเป็นครอบครัวอบอุ่นเรื่องแค่นี้ง่ายมากสำหรับเธอ"พ่อครับที่นี่มันไม่ไกลจากบ้านเราเท่าไหร่นัก หากวันหน้าอ้ายเยว่อยากมาจะมาได้มั้ยครับ ""ได้สิหากจะมาลูกก็บอกให้แม่พามาสิ""อ้ายเยว่กลัวคุณย่าไม่ให้คุณแม่พามานะสิครับ วัน ๆ คุณแม่แทบไม่ได้ออกไปไหนเลยด้วยซ้ำคุณพ่อช่วยพูดเรื่องนี้กับคุณย่าให้หน่อยได้มั้ยครับ""ได้สิก่อนกลับพ่อจะจัดการเรื่องในบ้านให้เรียบร้อยลูกวางใจเถอะนะจะไม่เกิดเรื่องขึ้นอีก" เฉาจื่อลูบหัวอ้ายเยว่อย่างเอ็นดูและนึกสงสารลูกชาย"ไม่ยากหรอกหากอยากจัดการให้ถูกต้อง คุณเพียงแค่ไปอำเภอกับฉันและหย่าให้เรื่องเท่านี้ก็จะไม่เกิดขึ้นอีก ต่อให้คุณบอกว่าคุณจะจัดการให้แต่เมื่อคุณกลับไปคิดหรือว่าจะไม่เกิดเรื่องอย่างที่เคยเกิดขึ้นมาก่อน "จู่ ๆ เธอก็ได้พูดออกอย่างลื
บทที่ 14 เกิดเรื่องใหญ่ตะวันเริ่มคล้อยต่ำลงเครื่องจักยังคงทำงานอย่างต่อเนื่องอ้ายเยว่ตื่นขึ้นมามองดูอากาศรอบ ๆ อย่างตื่นตาเช่นเคย"ดูอ้ายเยว่สักครู่นะเดี๋ยวฉันกลับมา ลูกอยู่กับแม่ก่อนนะพ่อขอตัวไปเข้าห้องน้ำสักครู่""พ่อครับผมเองก็อยากเข้าห้องน้ำขอไปด้วยได้มั้ย ""อย่างนั้นมาเถอะพ่อจะจับมือลูกไปเอง อยู่ได้ใช่มั้ย? " เขาจับมือของอ้ายเยว่ก่อนจะหันมาถามซูเม่ยที่ต้องนั่งคอยอยู่เพียงลำพัง"ไม่ต้องห่วงฉันดูแลตัวเองได้" เฉาจื่อพาอ้ายเยว่ไปเข้าห้องน้ำระหว่างนั้นซูเม่ยทอดสายตามองไปนอกหน้าต่างดูดวงอาทิตย์กำลังเคลื่อนต่ำลง"สาวสวยอย่างนี้เดินทางคนเดียวคงเหงามากเลยสินะให้พวกฉันนั่งเป็นเพื่อนมั้ยรับรองว่าจะลืมความเหงาจนกว่ารถไฟจะหยุดที่สถานีเลย" เสียงของชายฉกรรจ์ดังขึ้นซูเม่ยหันขวับมามองใจเต้นแรงระรัว จ้องมองชายที่เดินเข้ามานั่งกับเธอถึงสามคนใบหน้าของแต่ละคนค่อนข้างน่ากลัวแถมร่างกายยังสักลายเต็มตัวอีกด้วย ความหวาดกลัวเริ่มก่อเกิดในใจยิ่งยุคนี้แล้วทุกคนช่างน่ากลัวจริง ๆ"ออกไปนะ ฉันไม่ได้มาคนเดียวสักหน่อยไม่ต้องการให้คนไม่รู้จักมานั่งเป็นเพื่อนด้วย”“แหมน้องสาวอย่าเล่นตัวนักเลยให้เรานั่งเป็นเพื่อนก
บทที่ 15 เฉาจื่อโดนจับตำรวจรถไฟมองใบหน้าของชายสองคนอย่างสับสน ราวกับว่าเขารับส่วยจากคนพวกนี้ เฉาจื่อสังเกตเห็นสายตามี่จ้องมองก็พอเข้าใจ นี่อาจจะไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้นบนรถไฟแน่นอนเรื่องนี้เขาจะไม่ปล่อยผ่านให้คนชั่วช้าพวกนี้ไปทำเรื่องสกปรกกับผู้หญิงคนอื่นอีกต่อไป“เรื่องที่คุณถูกลวนลามนั้นคนพวกนี้อาจจะทำผิดแต่ว่าสามีคุณลงมือฆ่าคนนี่คือเรื่องใหญ่ ฉันต้องใส่กุญแจมือเอาไว้ก่อนเมื่อรถไฟถึงสถานีทุกคนต้องไปสถานีตำรวจ”“เอาสิฉันเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเรื่องนี้จะจบอย่างไร ที่ฉันทำไปทั้งหมดเพราะป้องกันตัวเองทุกคนบนรถไฟเองก็เห็นว่าชายคนนี้ตั้งใจหันปลายมีดมาหาฉัน หรือว่าจะหลับหูหลับตาไม่ยอมพูดความจริงกันเพราะกลัวอำนาจแก๊งมังกรดำ ถ้าหากฉันไม่ป้องกันตัวเองคนที่นอนตายอยู่ตรงนี้ก็คงเป็นฉันหรือจะเป็นผู้หญิงที่ถูกย่ำยี เมื่อสมใจหวังก็โดนศพทิ้งระหว่างทางทำราวกับไม่เคยเกิดขึ้นสินะ ฉันเคยได้ยินคร่าว ๆ ว่าปี1986เกิดเหตุการณ์หญิงสาวตกรถไฟตาย หรือว่านั้นจะไม่ใช่อุบัติเหตุแต่เป็นเหตุการณ์แบบนี้กัน” จู่ ๆ เฉาจื่อก็คิดถึงเรื่องที่เขาพอได้ยินมาจากหทารที่พากันพูดถึงเหตุการณ์นี้แต่ว่าแม่ของหญิงสาวเป็นเพียงหญ
บทที่ 16 อ้ายเยว่ฝันดีเวลาผ่านไปเพียงชั่วอึดใจผู้กองผู้ที่เป็นตำรวจใหญ่ที่สุดในย่านนี้ที่นี่เป็นสถานีไม่ได้ใหญ่นัก ใหญ่สุดก็คือผู้กองเท่านั้น ได้เดินทางมาถึงสีหน้าท่าทางรำคาญและโมโหที่ต้องถูกเรียกนอกเวลางาน"ไหน ๆ ไอ้ตัวต้นเรื่องอยู่ไหนทำให้ฉันต้องออกมาตอนที่ฉันกำลังกินข้าวเย็นกับครอบครัว ""ต้องขอโทษด้วยนะครับท่านพอดีชายคนนี้ยืนยันอยากเจอท่านอย่างเดียว เขาอยู่ทางนั้นครับ" ตำรวจเวรรีบผายมือไปทางด้านของเฉาจื่อ"แถมเขายังบอกอีกด้วยว่าตัวเองเป็นถึงท่านนายพลแต่ผมว่าน่าจะเป็นคนบ้ามากกว่าครับ "แต่ทว่าเมื่อสายตาของผู้กองจับจ้องไปยังเฉาจื่อใบหน้าของเขาซีดเผือกทันทีรีบเดินหาสั่งการให้ตำรวจเวรปลดกุญแจมือทันที"งานเข้าแล้วรีบไปปลดกุญแจมือเดี๋ยวนี้ แกนี่โง่จริง ๆ เลยหาเรื่องใหญ่มาให้ปวดหัวอีกแล้ว" เขากระซิบข้างหูของตำรวจเวร ยามนี้เขาเองต้องคิ้วขมวดกันอย่างสงสัยก่อนที่ดวงตาจะเบิกโพลงโต ใบหน้าซีดเซียวไปอีกคนหรือว่าชายคนนี้จะเป็นท่านนายพลอย่างที่พูดจริง ๆ"ท่านนายพลจิ่นเฉาจื่อ ผมต้องขอโทษแทนลูกน้องด้วยนะครับที่ทำเรื่องใหญ่วุ่นวายอย่างนี้ แฮะ ๆ ท่านเป็นคนใหญ่คนโตไม่มีใครที่ไม่รู้จัก อีกอย่างนายตำรวจ
บทที่ 17 หยุดเถอะครับบนเตียงนอนที่ไม่ได้ใหญ่มากสามคนนอนเบียดกันแน่นแต่ทว่าไม่ได้รู้สึกอึดอัดอ้ายเยว่หลับปุ๋ยในอ้อมกอดทั้งสองคน ก่อนที่เขาจะนอนหลับได้จับมือของซูเม่ยกับเฉาจื่อให้กอดตัวเองสองมือประกบกันอยู่บนตัวของเด็กชาย เมื่อเห็นว่าอ้ายเยว่หลับสนิทเฉาจื่อรีบดึงมือออกมาจากตัวของอ้ายเยว่โดยเร็วและค่อย ๆ ลุกจากเตียงนอน ซูเม่ยเองเธอเคยเข้าฉากอย่างนี้มามากเพียงเท่านี้เธอไม่ได้คิดอะไรเลยสักนิดเพราะคิดอย่างเดียวว่าทำเพื่ออ้ายเยว่แต่ใครจะไปคิดว่าเธอนอนไปเรื่อย ๆ จนเผลอหลับไปพร้อมอ้ายเยว่“ฟู่!!! ทำไมวันนี้อากาศถึงได้ร้อนขนาดนี้นะ ฉันคงนอนที่นี่ไม่ได้หรอก” เขาพูดพลางมองไปยังเตียงนอนเห็นซูเม่ยกับลูกชายนอนกอดกันแน่นหัวใจของเขาดังโครมครามมากกว่าเดิม“ทำไมถึงกล้าหลับทั้งที่ฉันอยู่ในห้องนี่ด้วยนะ แต่วันนี้เธอเองก็คงตกใจเหนื่อยมาทั้งวัน” เฉาจื่อห่มผ้าให้ทั้งสองพร้อมปิดไฟก่อนจะเดินออกไปจากห้องนี้ด้วยหัวใจที่ร้อนรุ่มเช้าวันต่อมาซูเม่ยลืมตาขึ้นมาไม่เห็นเงาของเขาแล้วมีเพียงอ้ายเยว่ที่นอนขดตัวอยู่ในอ้อมกอด“นี่ฉันเผลอหลับไปหรือเนี่ย.. แล้วฉันไว้ใจเขาได้ยังไงกันนะ!!แม้เขาจะปกป้องและทำดีกับฉันก็เถอะ แต่
บทที่ 18 ตลบหลังตอนเย็นมาถึงวันนี้ชิงเถาลงมือทำอาหารด้วยตัวเอง จนถึงเวลากินอาหารให้สาวใช้ไปตาทุกคนมาที่โต๊ะอาหาร เมื่อทุกคนมานั่งประจำที่สาวใช้กำลังตักข้าวใส่จานเสียงรถยนต์ได้ขับเคลื่อนเข้ามาที่หน้าบ้าน ทุกคนต่างพากันสงสัยว่าใครมาเยือน“เย็นขนาดนี้ใครมากันนะ!” ชิงเถาพูดขึ้นอย่างสงสัย“คุณแม่นั่งกินเถอะครับเดี๋ยวผมจะออกไปดูเองว่าใครมา” เฉาจื่อลุกขึ้นเดินออกไปต้อนรับแขกที่มาเยือน ซูเม่ยแอบยิ้มมุมปาก‘มาถูกเวลาจริง ๆ ’วันนี้ยูร์เหยาดีใจมาก ๆ ที่จะได้พบกับเฉาจื่ออีกเธอจะทำทุกวิถีทางมัดใจของเขาให้ได้“พี่เฉาจื่อออกมารับฉันด้วย หรือว่าเขาจะรู้สึกเสียใจที่เมื่อวานทำตัวเหินห่างฉันกันนะ!! ดีเลยวันนี้ฉันจะใช้มารยาที่ฉันมีทั้งหมดใช้กับเขาเอง”เฉาจื่อเห็นคนที่เดินลงมาจากรถคิ้วของเขาขมวดเข้าหากันทันที เธอมาที่นี่อีกทำไมกันนะ!! หรือว่าคุณแม่จะเป็นคนเรียกเธอมาให้มากินข้าวด้วยกัน แต่เมื่อเขานึกย้อนไปเมื่อครู่คุณแม่เองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะมีคนมา หรือว่าจะเป็นซูเม่ยเพราะช่วงเช้าเขาเห็นเธออยู่ใกล้ ๆ โทรศัพท์แถมยังยิ้มเล็กยิ้มน้อย เมื่อครู่เขาเหลือบไปเห็นรอยยิ้มที่มุมปากของเธอ หรือว่าเธอมีแผนการอะไรบางอ
บทที่ 19 ผิดแผนไม่นานซูเม่ยได้กลับมาพร้อมถังและผ้าเธอคิดว่าเฉาจื่อจะดื่มแล้วเสียอีกแต่ทว่าเขายังอยู่ท่าเดิมส่วนยูร์เหยาดวงตาเริ่มเคลิ้มแล้ว เธอจึงรีบเก็บกวาดตอนนั้นสาวใช้ลงพาจากด้านบนพอดีจึงเป็นคนจัดการต่อ"ทำไมคุณไม่ดื่มละคะ ยูร์เหยาเอาอีกมั้ยฉันจะรินให้""ได้ค่ะ แต่ฉันขออีกแก้วก็พอนะคะฉันดื่มไม่ค่อยเก่งแถมตอนนี้รู้สึกง่วงนอนอย่างไรก็ไม่รู้" แค่ได้ยินอย่างนั้นซูเม่ยตื่นเต้นเหลือเกินแค่เพียงเฉาจื่อดื่มหมดแก้วเรื่องทุกอย่างจะได้จบสิ้นลง"ได้สิ" ซูเม่ยลุกขึ้นไปรินให้ยูร์เหยาอีกแก้วเธอกลับมานั่งที่เก้าอี้ยกแก้วขึ้นอีกครั้ง"มาดื่มพร้อม ๆ กันเถอะค่ะ พรุ่งนี้คุณก็กลับแล้ววันนี้ปลดปล่อยตัวเองหน่อยสิคะ" เฉาจื่อหยิบแก้วไวน์ขึ้นมายิ้มกว้างให้ซูเม่ย"เอาสิแก้วนี้ฉันขอดื่มให้เธอแล้วกัน" เขาดื่มจนหมดไม่เหลือสักหยดซูเม่ยดีใจมาก ๆ จึงยกไวน์ในมือดื่มจนหมดเหมือนกัน ไม่นานนักยูร์เหยาได้สลบลงซูเม่ยรียเข้าไปประคองทันนี"ไม่คิดเลยว่าเธอจะคออ่อนอย่างนี้ฉันจะพาไปนอนตรงโต๊ะด้านนู้นนะ สาวใช้กลับมาจะให้ไปตามคนขับรถมาพาเธอกลับบ้าน ถ้ารู้อย่างนี้ฉันไม่ให้เธอมาดื่มด้วยหรอกเป็นความผิดของฉันแท้ ๆ "เมื่อเห็นอย่างน
บทที่ 25 กอดชิงเถาจัดเตรียมโต๊ะอาหารส่วนซูเม่ยยืนคอยทั้งสองที่หน้าห้องกินข้าวทันทีที่เธอเห็นใบหน้าของเขาหัวใจของเธอเต้นแรงตึกตัก....หวนคิดถึงยามที่เธอต้องนอนเตียงเดียวกับเขาใบหน้าของเธอยิ่งแดงระเรื่อมากกว่าเดิม“ฉันคิดอะไรกัน!! หรือเพราะถูกคุณแม่พูดเรื่องลูกทั้งวันในหัวสมองของฉันมีแต่เรื่องบนเตียงโอ๊ย!! ออกไปจากหัวของฉันนะ” ซูเม่ยคิดในใจอย่างเหม่อลอยเฉาจื่อวางอ้ายเยว่ลงจากแขน ก่อนที่จะเดินมากระซิบข้างหูของเธอด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา“คิดถึงจัง” ซูเม่ยสะดุ้งตกใจเล็กน้อยขยับกายหนีทันที“เข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”“ตั้งแต่เธอยืนเหม่อลอยหรือว่าเธอเองก็คิดถึงฉันเหมือนกัน ฉันกลับบ้านครั้งนี้ต่อจากนี้เธอจะต้องไปนอนที่ห้องของฉัน และต่อจากนี้เรามาทำหน้าที่พ่อแม่ที่ดีของอ้ายเยว่กันเถอะ” เขาเดินเข้ามาสวมกอดเธอแนบแน่นอ้ายเยว่รีบวิ่งเข้ามากอดทั้งสองด้วยเช่นกัน“ว๊าวว^^ วันนี้คุณพ่อกับคุณแม่รักกันแล้ว อ้ายเยว่ดีใจที่สุดเลยครับ” ซูเม่ยใบหน้าร้อนผ่าวที่ถูกเขาโอบกอดอย่างนี้เธอรีบปัดมือเขาออกและดึงอ้ายเยว่มากอดไว้“อ้ายเยว่มีความสุขแม่เองก็ดีใจอย่างนั้นเราไปกินข้าวกันเถอะคุณย่าเตรียมอาหารไว้มากมาย ไม่รีบเ
บทที่ 24 ย้ายประจำการเหวินฉิงจำชื่อนี้ขึ้นใจนายพลจิ่นเฉาจื่อคือคนที่จัดการน้องรักของเขาบนรถไฟแถมยังเข้ามาขัดขวางเขาหลายอย่าง เขาไม่มีทางปล่อยให้จิ่นเฉาจื่ออยู่อย่างสงบสุขแน่ ทุกคนในพื้นที่ต้องยอมและกลัวอิทธิพลของแก๊งมังกรดำ แต่เขากลับไม่เกรงกลัวแม้แต่น้อย มียศเป็นนายพลแล้วอย่างไรเขาจะทำให้ทุกคนในตระกูลของจิ่นเฉาจื่อต้องเจอเรื่องทุกข์ยากที่กล้าเข้ามาขัดขวางการทำงานของแก๊งมังกรดำ ยิ่งถ้าเขารู้ความเคลื่อนไหวในบ้านของนายพลยิ่งเป็นเรื่องง่ายต่อการจัดการ เขาตอบรับคำขอของยูร์เหยาไม่ใช่ว่าเพราะเขาทำเพราะชอบเธอเท่านั้นแต่เขาแค้นใจอยากแก้แค้นด้วย ต่างหากจึงใช้โอกาสนี้หลอกใช้เธออีกทีหลายวันต่อมาที่บ้านของชิงเถาตั้งแต่เฉาจื่อกลับที่กรมทหารไม่เคยมีวันไหนที่เขาจะไม่โทรเลขมาเลยสักวันและวันที่เขาโทมามักจะถามหาแต่ซูเม่ยขอคุยกับเธอแทบทุกวันจนซูเม่ยไม่อยากจะพูดกับเขาแล้ว"นี่คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับฉันทุกวันรู้มั้ยว่าฉันเบื่อและไม่มีเรื่องจะคุยกับฉันแล้ว คุยกับคุณแม่ของคุณเถอะนะวันนี้ฉันจะพาอ้ายเยว่ออกไปข้างนอก ""ทำไมล่ะฉันมีเรื่องสำคัญจะบอกและเป็นเรื่องใหญ่ด้วยจะพาอ้ายเย่วไปเที่ยวหรือไงกัน""เรื่อง
บทที่ 23 ยูร์เหยาไม่ยอมหลังจากกินข้าวเช้าเสร็จทั้งสี่คนได้ร่ำลากันจนกระทั่งถึงเวลาออกรถ เฉาจื่อจึงให้ทุกคนไปรอที่รถก่อนเขาบอกทุกคนว่าลืมของแต่แท้ที่จริงแล้วเขาได้เข้ามาหาแม่ของซูเม่ยก่อนจะล้วงเอาเงินจำนวนหนึ่งยื่นให้เธอเอาไว้ใช้ เขาเองก็รู้สึกผิดที่ผ่านมาไม่เคยให้ซูเม่ยมาดูแล เธอทั้งทำงานบ้านที่บ้านของเขาสารพัดไม่ต่างจากสาวใช้ เงินคุณแม่ก็ไม่เคยให้เธอได้จับจ่ายใช้ช้อยเธอคงไม่มีเงินที่จะส่งมาให้แม่ของเธอได้ใช้"คุณแม่เก็บเอาไว้ใช้นะครับ ที่ผ่านมาเป็นเพราะผมดูแลซูเม่ยไม่ดีเอง ทำให้เธอไม่ได้กลับมาเยี่ยมเยือนคุณแม่ต่อจากนี้ผมจะให้เธอมาบ่อย ๆ แม้เงินจำนวนนี้ไม่มากเท่าไหร่ คุณแม่ช่วยรับไว้ด้วยนะครับ""ไม่เห็นจะต้องเอาให้เลย อยู่ที่นี่ไม่ค่อยได้ใช้จ่ายอะไรเก็บเอาไว้ให้อ้ายเยว่ซื้อเสื้อผ้าเถอะ""รับไว้เถอะนะครับ ส่วนของอ้ายเยว่ผมจัดเตรียมไว้ให้แล้ว ผมลานะครับ" เขายัดเงินใส่มือของเธอก่อนจะก้มโค้งลาและเดินไปขับรถยนต์ออกจากที่หมู่บ้านแห่งนี้ระหว่างทางขากลับซูเม่ยรับรู้ได้ว่าบรรยากาศในรถเปลี่ยนไปไม่เหมือนตอนมาเลยสักนิด ทุกคนต่างเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นตอนอยู่บ้านคุณยายอย่างสนุกสนาน ชิงเถาจะขอมา
บทที่ 22 นอนเตียงเดียวกันท้ายที่สุดอ้ายเยว่ได้ไปนอนกับคุณยายจริง ๆ ส่วนเฉาจื่อได้นอนห้องนอนของซูเม่ยที่เธอเคยอยู่ตั้งแต่เด็ก ๆ ในห้องของเธอยังสะอาดเอี่ยมเพราะแม่ของเธอเข้ามาทำความสะอาดอยู่บ่อย ๆ ของใช้ที่เธอเคยใช้ยังคงเก็บไว้ที่เดิม แม้แต่รูปถ่ายของเธอตอนที่เรียนได้ถ่ายเอาไว้แม่ได้ใส่กรอบตั้งโต๊ะให้เธอได้เห็น น้ำตาของเธอไหลอีกครั้งเมื่อเข้ามาด้านในเฉาจื่อเดินตามเข้ามาซูเม่ยรีบปาดน้ำตาไม่อยากให้เขาได้เห็น"แม่ของเธอคงคิดถึงเธอมากแน่ ๆ ในห้องยังสภาพเหมือนมีคนเข้ามาอยู่ทุกวัน เป็นเพราะฉันถ้าฉันไม่ทำเธอท้องตอนนี้คงอยู่ที่นี่ดูแลคุณแม่ เฮ้อ! ฉันขอโทษนะแถมยังไม่เคยสนใจเรื่องราวของเธออีกด้วย ต่อจากวันนี้หากเธออยากกลับมานอนกับแม่มาเยี่ยมแม่มาได้เสมอ""มาพูดอะไรตอนนี้ ในเมื่อต้องนอนด้วยกันอย่างนั้นคืนนี้คุณนอนด้านล่างฉันไม่มีทางให้คุณนอนบนเตียงกับฉันเด็ดขาด คุณเป็นทหารนี่น่าเคยออกรบนอนที่พื้นคงไม่ยากลำบากอะไร นี่ผ้าห่มนี่หมอน" ซูเม่ยเดินไปใกล้เตียงจับผ้าห่มและหมอนยื่นให้เขา แต่ทว่าตอนนั้นเฉาจื่อไวกว่าซูเม่ย เขาทำท่าจะคว้าผ้าห่มแต่เขาจับแขนของเธอดึงไปที่เตียงนอนและนอนนาบลงบนเตียงโดยกอดเธอเอาไ
บทที่ 21 ไปเยี่ยมแม่ของซูเม่ยหลังจากที่เตรียมตัวเสร็จซูเม่ยเดินลงมาด้านล่างต้องแปลกใจเมื่อเห็นชิงเถาเตรียมตัวเสมือนจะออกไปกับเธอด้วย“มาแล้วหรือรีบออกเดินทางกันเถอะต้องแวะตลาดซื้อของฝากอีก”“ไม่คิดเลยนะคะว่าคุณแม่จะไปบ้านของฉันด้วย หรือว่าจะเกิดฝนตกน้ำท่วมหรือจะแล้งกัน” ซูเม่ยอดไม่ได้ที่จะเหน็บแนมแม่สามี เพราะจู่ ๆ เธอทำตัวเปลี่ยนไปจนน่าตกใจ“นี่ซูเม่ยคุณแม่แค่อยากไปเยี่ยมแม่ของเธอเช่นกัน ทำไมต้องพูดจารุนแรงกับคุณแม่ด้วยมาแล้วก็ไปกันเถอะ” เฉาจื่อไม่อยากให้ทั้งสองมีปากเสียงกันไปมากกว่ารีบมาจับมือของซูเม่ยให้เดินตามตนเองไปที่รถ แม่ของเขาเดินตามมาทีหลังพร้อมอ้ายเยว่“นี่ปล่อยฉันนะ ทำไมต้องพาคุณแม่คุณไปด้วยแค่รังแกฉันคนเดียวไม่พอหรือไงนี่จะให้แม่ของคุณไปพูดจาเหยียดหยามดูถูกแม่ของฉันอีกคน เรื่องนี้ฉันขอรับรู้เพียงคนเดียวหากแม่ของฉันรู้ว่าฉันมาอยู่ที่บ้านของคุณแล้วเจออะไรบ้าง ความรู้สึกของแม่ของฉันจะเป็นอย่างไร หากเป็นอย่างนี้อย่าไปเลยดีกว่า” คำพูดของซูเม่ยดังจนทำให้ชิงเถาที่เดินตามมาทีหลังได้ยินจนหมด ในความเป็นแม่เธอเองก็เข้าใจดี หากเห็นลูกของตัวเองถูกรังแกและถูกกลั่นแกล้งสารพัด จนเจ็บไข้
บทที่ 20 หลงรักภรรยาฝั่งด้านเฉาจื่อเขาตื่นเช้าขึ้นมาอย่างอารมณ์ดี วันนี้เขาเลือกที่จะเข้าไปที่สวนหลังบ้านพื้นที่ที่คุณแม่ใช้ปลูกผักมากมาย นานเท่าไหร่แล้วที่เขาไม่ได้เข้ามาที่นี่ เขาจึงจัดการซ่อมแซมไม้ที่รกและของที่ผุพัง จนกระทั่งถึงตอนบ่ายเขากำลังนั่งพักก่อนที่จะทำต่อเนื่องจากแดดเริ่มร้อนระอุ จึงเอนกายนอนลงที่นั่งพักของสวนพักหูของเขาแว่วได้ยินเสียงเท้าที่เร่งรีบเดินมาใกล้ เขาคงไม่ต้องเดาก็รู้ได้ในทันทีว่าคงเป็นซูเม่ย เขาจึงแกล้งหลับตาอยากรู้เหมือนกันว่าเธอมาหาเขาทำไม“นี่!! ไม่ต้องทำมาเป็นนอนหลับเลยนะ ลืมตาลุกขึ้นมาคุยกับฉันเดี๋ยวนี้เรื่องเมื่อคืนนี้ฉันรู้นะว่าคุณไม่ได้ทำอะไรฉัน ที่คุณพาฉันไปที่ห้องคุณและแกล้งทำเป็นว่าเรานอนด้วยกัน เพราะคุณรู้แผนการณ์ของฉันใช่มั้ย เฮอะ! รู้แล้วทำไมต้องแกล้งทำเป็นไม่รู้ด้วย เมื่อก่อนไม่เห็นจะสนใจฉันจะเป็นจะตายตอนนี้ทำไมถึงไม่อยากหย่าขึ้นมาล่ะ คงไม่ได้พึ่งจะมารู้สึกกับฉันตอนนี้หรอกนะ นี่คุณได้ยินมั้ยตื่นเดี๋ยวนี้เลยนะ!!!” ซูเม่ยพยายามปลุกเขาที่หลับปุ๋ยอยู่ จู่ ๆ เมื่อเธอพูดจบถูกเขากระชากแขนดึงร่างกายของเธอเข้าไปหาจนตอนนี้เธอนอนอยู่บนตัวของเขาและถูกเขาโ
บทที่ 19 ผิดแผนไม่นานซูเม่ยได้กลับมาพร้อมถังและผ้าเธอคิดว่าเฉาจื่อจะดื่มแล้วเสียอีกแต่ทว่าเขายังอยู่ท่าเดิมส่วนยูร์เหยาดวงตาเริ่มเคลิ้มแล้ว เธอจึงรีบเก็บกวาดตอนนั้นสาวใช้ลงพาจากด้านบนพอดีจึงเป็นคนจัดการต่อ"ทำไมคุณไม่ดื่มละคะ ยูร์เหยาเอาอีกมั้ยฉันจะรินให้""ได้ค่ะ แต่ฉันขออีกแก้วก็พอนะคะฉันดื่มไม่ค่อยเก่งแถมตอนนี้รู้สึกง่วงนอนอย่างไรก็ไม่รู้" แค่ได้ยินอย่างนั้นซูเม่ยตื่นเต้นเหลือเกินแค่เพียงเฉาจื่อดื่มหมดแก้วเรื่องทุกอย่างจะได้จบสิ้นลง"ได้สิ" ซูเม่ยลุกขึ้นไปรินให้ยูร์เหยาอีกแก้วเธอกลับมานั่งที่เก้าอี้ยกแก้วขึ้นอีกครั้ง"มาดื่มพร้อม ๆ กันเถอะค่ะ พรุ่งนี้คุณก็กลับแล้ววันนี้ปลดปล่อยตัวเองหน่อยสิคะ" เฉาจื่อหยิบแก้วไวน์ขึ้นมายิ้มกว้างให้ซูเม่ย"เอาสิแก้วนี้ฉันขอดื่มให้เธอแล้วกัน" เขาดื่มจนหมดไม่เหลือสักหยดซูเม่ยดีใจมาก ๆ จึงยกไวน์ในมือดื่มจนหมดเหมือนกัน ไม่นานนักยูร์เหยาได้สลบลงซูเม่ยรียเข้าไปประคองทันนี"ไม่คิดเลยว่าเธอจะคออ่อนอย่างนี้ฉันจะพาไปนอนตรงโต๊ะด้านนู้นนะ สาวใช้กลับมาจะให้ไปตามคนขับรถมาพาเธอกลับบ้าน ถ้ารู้อย่างนี้ฉันไม่ให้เธอมาดื่มด้วยหรอกเป็นความผิดของฉันแท้ ๆ "เมื่อเห็นอย่างน
บทที่ 18 ตลบหลังตอนเย็นมาถึงวันนี้ชิงเถาลงมือทำอาหารด้วยตัวเอง จนถึงเวลากินอาหารให้สาวใช้ไปตาทุกคนมาที่โต๊ะอาหาร เมื่อทุกคนมานั่งประจำที่สาวใช้กำลังตักข้าวใส่จานเสียงรถยนต์ได้ขับเคลื่อนเข้ามาที่หน้าบ้าน ทุกคนต่างพากันสงสัยว่าใครมาเยือน“เย็นขนาดนี้ใครมากันนะ!” ชิงเถาพูดขึ้นอย่างสงสัย“คุณแม่นั่งกินเถอะครับเดี๋ยวผมจะออกไปดูเองว่าใครมา” เฉาจื่อลุกขึ้นเดินออกไปต้อนรับแขกที่มาเยือน ซูเม่ยแอบยิ้มมุมปาก‘มาถูกเวลาจริง ๆ ’วันนี้ยูร์เหยาดีใจมาก ๆ ที่จะได้พบกับเฉาจื่ออีกเธอจะทำทุกวิถีทางมัดใจของเขาให้ได้“พี่เฉาจื่อออกมารับฉันด้วย หรือว่าเขาจะรู้สึกเสียใจที่เมื่อวานทำตัวเหินห่างฉันกันนะ!! ดีเลยวันนี้ฉันจะใช้มารยาที่ฉันมีทั้งหมดใช้กับเขาเอง”เฉาจื่อเห็นคนที่เดินลงมาจากรถคิ้วของเขาขมวดเข้าหากันทันที เธอมาที่นี่อีกทำไมกันนะ!! หรือว่าคุณแม่จะเป็นคนเรียกเธอมาให้มากินข้าวด้วยกัน แต่เมื่อเขานึกย้อนไปเมื่อครู่คุณแม่เองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะมีคนมา หรือว่าจะเป็นซูเม่ยเพราะช่วงเช้าเขาเห็นเธออยู่ใกล้ ๆ โทรศัพท์แถมยังยิ้มเล็กยิ้มน้อย เมื่อครู่เขาเหลือบไปเห็นรอยยิ้มที่มุมปากของเธอ หรือว่าเธอมีแผนการอะไรบางอ
บทที่ 17 หยุดเถอะครับบนเตียงนอนที่ไม่ได้ใหญ่มากสามคนนอนเบียดกันแน่นแต่ทว่าไม่ได้รู้สึกอึดอัดอ้ายเยว่หลับปุ๋ยในอ้อมกอดทั้งสองคน ก่อนที่เขาจะนอนหลับได้จับมือของซูเม่ยกับเฉาจื่อให้กอดตัวเองสองมือประกบกันอยู่บนตัวของเด็กชาย เมื่อเห็นว่าอ้ายเยว่หลับสนิทเฉาจื่อรีบดึงมือออกมาจากตัวของอ้ายเยว่โดยเร็วและค่อย ๆ ลุกจากเตียงนอน ซูเม่ยเองเธอเคยเข้าฉากอย่างนี้มามากเพียงเท่านี้เธอไม่ได้คิดอะไรเลยสักนิดเพราะคิดอย่างเดียวว่าทำเพื่ออ้ายเยว่แต่ใครจะไปคิดว่าเธอนอนไปเรื่อย ๆ จนเผลอหลับไปพร้อมอ้ายเยว่“ฟู่!!! ทำไมวันนี้อากาศถึงได้ร้อนขนาดนี้นะ ฉันคงนอนที่นี่ไม่ได้หรอก” เขาพูดพลางมองไปยังเตียงนอนเห็นซูเม่ยกับลูกชายนอนกอดกันแน่นหัวใจของเขาดังโครมครามมากกว่าเดิม“ทำไมถึงกล้าหลับทั้งที่ฉันอยู่ในห้องนี่ด้วยนะ แต่วันนี้เธอเองก็คงตกใจเหนื่อยมาทั้งวัน” เฉาจื่อห่มผ้าให้ทั้งสองพร้อมปิดไฟก่อนจะเดินออกไปจากห้องนี้ด้วยหัวใจที่ร้อนรุ่มเช้าวันต่อมาซูเม่ยลืมตาขึ้นมาไม่เห็นเงาของเขาแล้วมีเพียงอ้ายเยว่ที่นอนขดตัวอยู่ในอ้อมกอด“นี่ฉันเผลอหลับไปหรือเนี่ย.. แล้วฉันไว้ใจเขาได้ยังไงกันนะ!!แม้เขาจะปกป้องและทำดีกับฉันก็เถอะ แต่