บทที่ 14 เกิดเรื่องใหญ่
ตะวันเริ่มคล้อยต่ำลงเครื่องจักยังคงทำงานอย่างต่อเนื่องอ้ายเยว่ตื่นขึ้นมามองดูอากาศรอบ ๆ อย่างตื่นตาเช่นเคย
"ดูอ้ายเยว่สักครู่นะเดี๋ยวฉันกลับมา ลูกอยู่กับแม่ก่อนนะพ่อขอตัวไปเข้าห้องน้ำสักครู่"
"พ่อครับผมเองก็อยากเข้าห้องน้ำขอไปด้วยได้มั้ย "
"อย่างนั้นมาเถอะพ่อจะจับมือลูกไปเอง อยู่ได้ใช่มั้ย? " เขาจับมือของอ้ายเยว่ก่อนจะหันมาถามซูเม่ยที่ต้องนั่งคอยอยู่เพียงลำพัง
"ไม่ต้องห่วงฉันดูแลตัวเองได้" เฉาจื่อพาอ้ายเยว่ไปเข้าห้องน้ำระหว่างนั้นซูเม่ยทอดสายตามองไปนอกหน้าต่างดูดวงอาทิตย์กำลังเคลื่อนต่ำลง
"สาวสวยอย่างนี้เดินทางคนเดียวคงเหงามากเลยสินะให้พวกฉันนั่งเป็นเพื่อนมั้ยรับรองว่าจะลืมความเหงาจนกว่ารถไฟจะหยุดที่สถานีเลย" เสียงของชายฉกรรจ์ดังขึ้นซูเม่ยหันขวับมามองใจเต้นแรงระรัว จ้องมองชายที่เดินเข้ามานั่งกับเธอถึงสามคนใบหน้าของแต่ละคนค่อนข้างน่ากลัวแถมร่างกายยังสักลายเต็มตัวอีกด้วย ความหวาดกลัวเริ่มก่อเกิดในใจยิ่งยุคนี้แล้วทุกคนช่างน่ากลัวจริง ๆ
"ออกไปนะ ฉันไม่ได้มาคนเดียวสักหน่อยไม่ต้องการให้คนไม่รู้จักมานั่งเป็นเพื่อนด้วย”
“แหมน้องสาวอย่าเล่นตัวนักเลยให้เรานั่งเป็นเพื่อนกว่าจะถึงสถานีเถอะนะรับรองจะมีแต่เรื่องสนุก ๆ เกิดขึ้นต่อจากนี้” สายตาของชายคนที่พูดออกมาจ้องมองด้วยสายตาหื่นกระจายใจของเธอสั่นไหวไปหมด
“ฉันต้องการนั่งเงียบ ๆ อีกอย่างฉันมากับสามีและลูกชายเขาไปเข้าห้องน้ำอีกไม่นานก็คงกลับมาแล้ว”
“นี่อย่าหลอกพวกพี่เลยคิดว่าพูดแค่นี้แล้วจะปล่อยไปง่าย ๆ หรือนาน ๆ จะได้เห็นคนสวยมาคนนี้อย่างนี้วันนี้เป็นวันที่ดีจริง ๆ " อีกคนหนึ่งได้พูดขึ้นมาไม่ว่าซูเม่ยจะพูดอย่างไรคนพวกนี้ไม่ยอมฟังเธอสักนิด พวกเขานั่งลงข้างๆ ซูเม่ยเริ่มเข้ามาลวนลามจับไม้จับมือเธอพยายามปัดป่ายไม่ให้พวกเขาแตะต้อง
“ออกไปนะ ฉันบอกให้ออกไป”
“อย่าเล่นตัวนักเลยมาเล่นสนุกกับพวกเราดีกว่าผิวขาวเนียนดีเหลือเกินกลิ่นตัวก็หอม ๆ ฮื้มม…ชื่นใจจัง” ชายคนที่นั่งติดกับเธอจับปลายผมของซูเม่ยไปดมทำท่าน่าเกลียดจนเธอตัวสั่นเทาไปหมด ขยะแขยงคนพวกนี้จนไม่สามารถอยู่เฉยๆ ได้เธอกรี๊ดร้องออกมาเสียงดัง
“กรี๊ด!!! ปล่อยฉันนะ” ครั้นนั้นเฉาจื่อกับอ้ายเยว่กลับจากห้องน้ำได้ยินเสียงกรี๊ดร้องของผู้หญิงแว่ว ๆ ในใจภาวนาไม่ให้เกิดเรื่องขึ้นกับซูเม่ยแต่เมื่อทั้งสองเดินมาใกล้ ๆ เห็นเธอกำลังถูกลวนลามจิตใจของเขาร้อนรุ่มดวงตาแข็งกร้าวกัดฟันกรามจนเส้นเลือดปูดบวม
“คุณพ่อนั่นคุณแม่ไม่ใช่หรือครับ?คุณแม่กำลังโดนแกล้งผมจะไปช่วยแม่เอง”
“ลูกไม่ต้อง..ยืนคอยพ่ออยู่ตรงนี้พ่อจะจัดการเอง”
“ครับ” อ้ายเยว่ยืนคอยอยู่ห่าง ๆ มองดูคุณพ่อเข้าไปจัดการกับคนพวกนั้น
“ไม่รู้อะไรซ่ะแล้วพ่อของฉันคือนายพลใหญ่คนพวกนี้ต้องถูกคุณพ่อจัดการจนร้องขอชีวิตแน่ ๆ ” อ้ายเยว่ยืนกอดอกจ้องมองแผ่นหลังของพ่ออย่างภูมิใจ
ตอนนั้นชายทั้งสามคนกำลังลวนลามใช้มือลูบไล้ใบหน้าของเธอ ร่างเล็กสั่นระริกด้วยความกลัว
"เอามือสกปรกของพวกแกออกจากภรรยาของฉันเดี๋ยวนี้" เสียงเข้มขรึมของเฉาจื่อทำให้คนพวกนั้นชะงักหันไปมองเป็นตาเดียวกัน จิตใจของซูเม่ยเริ่มมีหวังเมื่อเห็นกลับมาทันเวลาพอดี
"ฮ่า ฮ่า นี่คิดว่าจะเชื่อหรือไงว่าเป็นสามีของผู้หญิงคนนี้ ทำเป็นอวดเก่งพวกฉันมีตั้งสามคนแกคนเดียวจะสู้ไหวหรือ? "
"ฉันขอเตือนพวกแกถ้ายังไม่ออกห่างจากเธออย่าหาว่าฉันไม่เตือน " เฉาจื่อจ้องเขม็งดวงตาโกรธเกรี้ยวคล้ายจะฆ่าคนพวกนั้นด้วยสายตา
"ฮ่า ฮ่า ดูไอ้หน้าอ่อนนี่สิวะทำเป็นอวดดีอยากให้สาวประทับใจหรือไง ไม่รู้จักพวกฉันสินะพวกฉันคือแก๊งมังกรดำคนแถวนี้ต่างไม่กล้ายุ่งหากอยากอยู่อย่างสงบสุข แกไปนั่งที่ของแกเถอะถ้าไม่อยากเดือดร้อนถึงตระกูล" ชายคนหนึ่งได้พูดข่มขู่ในอำนาจของแก๊งตัวเองแต่มีหรือที่เฉาจื่อจะกลัว เขาได้ยินชื่อเสียงของแก๊งมังกรดำมานานแต่ไม่เคยข้องเกี่ยว เขาจ้องมองคนทั้งสามคงเป็นลูกกระจ๊อกของแก๊งนี่มากกว่าหากเกิดการต่อสู้เขาคงเอาชนะได้
"มังกรดำแล้วอย่างไรในเมื่อพวกแกกำลังลวนลามภรรยาของฉันอยู่" เขาพูดจบพุ่งตัวเข้าไปชกเข้าที่ใบหน้าของผู้ชายปากดีที่พูดอยู่เมื่อครู่
พลั่ก ...!!!
“โอ๊ยยย!!” ร่างใหญ่ล้มลงกับพื้นชายที่มาด้วยทั้งสองคนรีบเข้าไปจับกายของเขาลุกขึ้นมาก่อนจะต่อว่าเฉาจื่อ
"เฮ้ย!! นี่แกกล้าลงมือกับพี่ใหญ่ของเราหรืออย่าอยู่เลยวันนี้จะต้องสั่งสอนให้รู้สำนึก "
ย๊ากกก” ชายคนหนึ่งวิ่งปรี่เข้าไปใกล้ง้างมือหวังต่อยเข้าที่ใบหน้าของเฉาจื่อเขาหลบได้อย่างฉับไวพร้อมสวนหมัดของตัวเองใส่ที่ใบหน้าของชายคนนั้นจนล้มลงอีกคน ลูกน้องที่เหลืออีกคนเห็นเพื่อนที่มาด้วยกันทั้งสองถูกทำรายเขาเองก็ปรี่เข้ามาต่อสู้กับเฉาจื่อแต่ทว่าเขาไม่ทันได้มาถึงตัวต้องถูกเฉาจื่อใช้เท้าถีบกระเด็นไปเสียก่อน
“อ๊ากก! อย่าเข้ามานะ อั่ก” เฉาจื่อนั่งคร่อมร่างกระชากคอเสื้อของเขาชกเข้าที่ใบหน้าครั้งแล้วครั้งด้วยความโมโห
ซูเม่ยตื่นตระหนกเธอเคยเห็นแต่ในละครที่มีฉากต่อสู้ไม่คิดว่าจะได้เห็นของจริงซึ่ง ๆ หน้าอย่างนี้ เธอรีบมองหาอ้ายเยว่เห็นห่วงเด็กชายขึ้นมาทันที แต่ทว่าสายของเธอกลับมองไปเห็นว่าชายคนแรกที่เฉาจื่อต่อยนั้นกำลังดึงมีดเล็กออกมาจากประเป๋ากางเกงเธอรีบตะโกนบอกเขาด้วยความเป็นห่วง
“คุณระวังชายพวกนี้มีอาวุธ” แต่ไม่ทันที่เธอจะได้พูดจบชายคนนั้นวิ่งเข้าไปหาเฉาจื่อ เขากำลังต่อยอีกคนอยู่ได้ยินเสียงของซูเม่ยรีบหันขวับกลับมาดูตกใจเล็กน้อยแต่เขาก็ทันได้หลบปลายมีดนั้นได้และโดนบาดเข้าที่แขนเล็กน้อย
“ฉันบอกแกแล้วว่าอย่ามายุ่งกับคนของแก๊งมังกรดำวันนี้จะเป็นวันตายของแก แค่คนคนเดียวจัดการโยนทิ้งข้างทางก็สิ้นเรื่องย๊าก” ยิ่งเห็นเลือดของเฉาจื่อชายคนนั้นคึกคะนองคิดว่าตนเองจะมีทางชนะแต่ใครจะไปรู้ว่าตอนนี้เขาได้ปลุกเสื้อร้ายในตัวของเฉาจื่อจนเสร็จสมบูรณ์
“คำนั้นเป็นฉันเสียมากกว่าที่จะเป็นคนพูดในเมื่อเตือนไม่ฟังฉันจะทำให้เห็นว่าแก๊งมังกรดำของพวกแกก็เป็นได้แค่ไส้เดือนดินเท่านั้น” เฉาจื่อลุกขึ้นยืนตั้งท่ารับมือฝีมือเท่านี้ทหารในค่ายของเขายังเก่งกว่านี้มากมาย
“ดูถูกกันเกินไปแล้ว” เขาวิ่งพุ่งเข้ามาหาเฉาจื่อแต่ตอนนั้นเฉาจื่อไม่ได้หวั่นกลัวสักนิดตาจ้องมองท่วงท่าที่ปรี่เข้ามาหาตัวเอง จับทิศทางเมื่อร่างใหญ่ใกล้เข้ามาขาหลบไปทางซ้ายก่อนจะคว้ามือไปจับมือขวาของเขาให้หักมือปลายมีดเปลี่ยนทิศทางปลายแหลมคมเข้าคอของเขา เฉาจื่อดันมีดเข้าไปครั้นนั้นเลือดสีแดงฉานพุ่งกระจาย เสียงกรี๊ดร้องของคนบนรถไฟตื่นตระหนกตกใจกันดังลั่น ซูเม่ยรีบวิ่งไปกอดอ้ายเยว่ไม่อยากให้เขาเห็นเหตุการณ์โหดร้ายนี้แม้ตนเองยังตกใจกลัวขวัญเสียแต่เธอก็ไม่อยากให้วันที่สดใสของลูกชายสลดหดหู่อย่างนี้
“อ๊าก คร่อก” เสียงร้องเจ็บปวดของชายคนนั้นร้องโหยหวนไม่ทันไรร่างใหญ่ได้ล้มลงกับพื้นอีกสองคนที่เห็นต่างพากันสั่นกลัวขนาดลูกพี่ของเขายังตายง่าย ๆ แล้วเขาทั้งสองจะเหลือหรือ?รีบคุกเข่าก้มลงกับพื้นอ้อนวอนขอชีวิตจากเฉาจื่อ
“ไว้ชีวิตฉันเถอะนะ ฉันผิดไปแล้วอย่าฆ่าฉันเลย”
“ใช่ ๆ พวกเราแค่ทำตามคำสั่งของลูกพี่เท่านั้นอย่าฆ่าพวกเราเลยนะ พวกเรากลัวแล้ว” เฉาจื่อเช็ดเลือดที่เปื้อนมือหันมามองทั้งสองนั่งอยู่ตรงหน้าร่างกายสั่นกลัว ไม่นานตำรวจรถไฟเดินเข้ามาดูเหตุการณ์
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นขอให้ทุกคนอยู่ในนี้ด้วยความสงบ”
“คุณเป็นตำรวจรถไฟสินะ ฉันคิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นครั้งนี้อาจจะไม่ใช่ครั้งแรก คุณปล่อยให้คนพวกนี้มาทำมิดีมิร้ายผู้หญิงบนรถไฟได้อย่างไรกัน” เฉาจื่อเอ่ยปสกถามทันทีที่ตำรวจรถไฟเดินเข้ามาใกล้
“ใช่ฉันเป็นตำรวจรถไฟแล้วคุณเป็นใครถึงกล้ามากล่าวหากันอย่างนี้”
“ตำรวจผู้ชายคนนี้เป็นคนลงมือฆ่าลูกพี่พวกเราช่วยเราด้วยเราโดนทำร้าย” ชายทั้งสองคนรีบขยับกายเข้าไปขอความช่วยเหลือแถมยังใส่ร้ายเฉาจื่ออีกด้วย
“นี่คุณตำรวจอย่าไปเชื่อพวกมัน ฉันต่างหากที่โดนลวนลามหากสามีของฉันกลับมาไม่ทันไม่เป็นฉันหรือที่จะตกเป็นผู้โดนกระทำ” ซูเม่ยอุ้มอ้ายเยว่เข้ามาเพื่ออธิบายความจริงให้ตำรวจรถไฟรับรู้
บทที่ 15 เฉาจื่อโดนจับตำรวจรถไฟมองใบหน้าของชายสองคนอย่างสับสน ราวกับว่าเขารับส่วยจากคนพวกนี้ เฉาจื่อสังเกตเห็นสายตามี่จ้องมองก็พอเข้าใจ นี่อาจจะไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้นบนรถไฟแน่นอนเรื่องนี้เขาจะไม่ปล่อยผ่านให้คนชั่วช้าพวกนี้ไปทำเรื่องสกปรกกับผู้หญิงคนอื่นอีกต่อไป“เรื่องที่คุณถูกลวนลามนั้นคนพวกนี้อาจจะทำผิดแต่ว่าสามีคุณลงมือฆ่าคนนี่คือเรื่องใหญ่ ฉันต้องใส่กุญแจมือเอาไว้ก่อนเมื่อรถไฟถึงสถานีทุกคนต้องไปสถานีตำรวจ”“เอาสิฉันเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเรื่องนี้จะจบอย่างไร ที่ฉันทำไปทั้งหมดเพราะป้องกันตัวเองทุกคนบนรถไฟเองก็เห็นว่าชายคนนี้ตั้งใจหันปลายมีดมาหาฉัน หรือว่าจะหลับหูหลับตาไม่ยอมพูดความจริงกันเพราะกลัวอำนาจแก๊งมังกรดำ ถ้าหากฉันไม่ป้องกันตัวเองคนที่นอนตายอยู่ตรงนี้ก็คงเป็นฉันหรือจะเป็นผู้หญิงที่ถูกย่ำยี เมื่อสมใจหวังก็โดนศพทิ้งระหว่างทางทำราวกับไม่เคยเกิดขึ้นสินะ ฉันเคยได้ยินคร่าว ๆ ว่าปี1986เกิดเหตุการณ์หญิงสาวตกรถไฟตาย หรือว่านั้นจะไม่ใช่อุบัติเหตุแต่เป็นเหตุการณ์แบบนี้กัน” จู่ ๆ เฉาจื่อก็คิดถึงเรื่องที่เขาพอได้ยินมาจากหทารที่พากันพูดถึงเหตุการณ์นี้แต่ว่าแม่ของหญิงสาวเป็นเพียงหญ
บทที่ 16 อ้ายเยว่ฝันดีเวลาผ่านไปเพียงชั่วอึดใจผู้กองผู้ที่เป็นตำรวจใหญ่ที่สุดในย่านนี้ที่นี่เป็นสถานีไม่ได้ใหญ่นัก ใหญ่สุดก็คือผู้กองเท่านั้น ได้เดินทางมาถึงสีหน้าท่าทางรำคาญและโมโหที่ต้องถูกเรียกนอกเวลางาน"ไหน ๆ ไอ้ตัวต้นเรื่องอยู่ไหนทำให้ฉันต้องออกมาตอนที่ฉันกำลังกินข้าวเย็นกับครอบครัว ""ต้องขอโทษด้วยนะครับท่านพอดีชายคนนี้ยืนยันอยากเจอท่านอย่างเดียว เขาอยู่ทางนั้นครับ" ตำรวจเวรรีบผายมือไปทางด้านของเฉาจื่อ"แถมเขายังบอกอีกด้วยว่าตัวเองเป็นถึงท่านนายพลแต่ผมว่าน่าจะเป็นคนบ้ามากกว่าครับ "แต่ทว่าเมื่อสายตาของผู้กองจับจ้องไปยังเฉาจื่อใบหน้าของเขาซีดเผือกทันทีรีบเดินหาสั่งการให้ตำรวจเวรปลดกุญแจมือทันที"งานเข้าแล้วรีบไปปลดกุญแจมือเดี๋ยวนี้ แกนี่โง่จริง ๆ เลยหาเรื่องใหญ่มาให้ปวดหัวอีกแล้ว" เขากระซิบข้างหูของตำรวจเวร ยามนี้เขาเองต้องคิ้วขมวดกันอย่างสงสัยก่อนที่ดวงตาจะเบิกโพลงโต ใบหน้าซีดเซียวไปอีกคนหรือว่าชายคนนี้จะเป็นท่านนายพลอย่างที่พูดจริง ๆ"ท่านนายพลจิ่นเฉาจื่อ ผมต้องขอโทษแทนลูกน้องด้วยนะครับที่ทำเรื่องใหญ่วุ่นวายอย่างนี้ แฮะ ๆ ท่านเป็นคนใหญ่คนโตไม่มีใครที่ไม่รู้จัก อีกอย่างนายตำรวจ
บทที่ 17 หยุดเถอะครับบนเตียงนอนที่ไม่ได้ใหญ่มากสามคนนอนเบียดกันแน่นแต่ทว่าไม่ได้รู้สึกอึดอัดอ้ายเยว่หลับปุ๋ยในอ้อมกอดทั้งสองคน ก่อนที่เขาจะนอนหลับได้จับมือของซูเม่ยกับเฉาจื่อให้กอดตัวเองสองมือประกบกันอยู่บนตัวของเด็กชาย เมื่อเห็นว่าอ้ายเยว่หลับสนิทเฉาจื่อรีบดึงมือออกมาจากตัวของอ้ายเยว่โดยเร็วและค่อย ๆ ลุกจากเตียงนอน ซูเม่ยเองเธอเคยเข้าฉากอย่างนี้มามากเพียงเท่านี้เธอไม่ได้คิดอะไรเลยสักนิดเพราะคิดอย่างเดียวว่าทำเพื่ออ้ายเยว่แต่ใครจะไปคิดว่าเธอนอนไปเรื่อย ๆ จนเผลอหลับไปพร้อมอ้ายเยว่“ฟู่!!! ทำไมวันนี้อากาศถึงได้ร้อนขนาดนี้นะ ฉันคงนอนที่นี่ไม่ได้หรอก” เขาพูดพลางมองไปยังเตียงนอนเห็นซูเม่ยกับลูกชายนอนกอดกันแน่นหัวใจของเขาดังโครมครามมากกว่าเดิม“ทำไมถึงกล้าหลับทั้งที่ฉันอยู่ในห้องนี่ด้วยนะ แต่วันนี้เธอเองก็คงตกใจเหนื่อยมาทั้งวัน” เฉาจื่อห่มผ้าให้ทั้งสองพร้อมปิดไฟก่อนจะเดินออกไปจากห้องนี้ด้วยหัวใจที่ร้อนรุ่มเช้าวันต่อมาซูเม่ยลืมตาขึ้นมาไม่เห็นเงาของเขาแล้วมีเพียงอ้ายเยว่ที่นอนขดตัวอยู่ในอ้อมกอด“นี่ฉันเผลอหลับไปหรือเนี่ย.. แล้วฉันไว้ใจเขาได้ยังไงกันนะ!!แม้เขาจะปกป้องและทำดีกับฉันก็เถอะ แต่
บทที่ 18 ตลบหลังตอนเย็นมาถึงวันนี้ชิงเถาลงมือทำอาหารด้วยตัวเอง จนถึงเวลากินอาหารให้สาวใช้ไปตาทุกคนมาที่โต๊ะอาหาร เมื่อทุกคนมานั่งประจำที่สาวใช้กำลังตักข้าวใส่จานเสียงรถยนต์ได้ขับเคลื่อนเข้ามาที่หน้าบ้าน ทุกคนต่างพากันสงสัยว่าใครมาเยือน“เย็นขนาดนี้ใครมากันนะ!” ชิงเถาพูดขึ้นอย่างสงสัย“คุณแม่นั่งกินเถอะครับเดี๋ยวผมจะออกไปดูเองว่าใครมา” เฉาจื่อลุกขึ้นเดินออกไปต้อนรับแขกที่มาเยือน ซูเม่ยแอบยิ้มมุมปาก‘มาถูกเวลาจริง ๆ ’วันนี้ยูร์เหยาดีใจมาก ๆ ที่จะได้พบกับเฉาจื่ออีกเธอจะทำทุกวิถีทางมัดใจของเขาให้ได้“พี่เฉาจื่อออกมารับฉันด้วย หรือว่าเขาจะรู้สึกเสียใจที่เมื่อวานทำตัวเหินห่างฉันกันนะ!! ดีเลยวันนี้ฉันจะใช้มารยาที่ฉันมีทั้งหมดใช้กับเขาเอง”เฉาจื่อเห็นคนที่เดินลงมาจากรถคิ้วของเขาขมวดเข้าหากันทันที เธอมาที่นี่อีกทำไมกันนะ!! หรือว่าคุณแม่จะเป็นคนเรียกเธอมาให้มากินข้าวด้วยกัน แต่เมื่อเขานึกย้อนไปเมื่อครู่คุณแม่เองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะมีคนมา หรือว่าจะเป็นซูเม่ยเพราะช่วงเช้าเขาเห็นเธออยู่ใกล้ ๆ โทรศัพท์แถมยังยิ้มเล็กยิ้มน้อย เมื่อครู่เขาเหลือบไปเห็นรอยยิ้มที่มุมปากของเธอ หรือว่าเธอมีแผนการอะไรบางอ
บทที่ 19 ผิดแผนไม่นานซูเม่ยได้กลับมาพร้อมถังและผ้าเธอคิดว่าเฉาจื่อจะดื่มแล้วเสียอีกแต่ทว่าเขายังอยู่ท่าเดิมส่วนยูร์เหยาดวงตาเริ่มเคลิ้มแล้ว เธอจึงรีบเก็บกวาดตอนนั้นสาวใช้ลงพาจากด้านบนพอดีจึงเป็นคนจัดการต่อ"ทำไมคุณไม่ดื่มละคะ ยูร์เหยาเอาอีกมั้ยฉันจะรินให้""ได้ค่ะ แต่ฉันขออีกแก้วก็พอนะคะฉันดื่มไม่ค่อยเก่งแถมตอนนี้รู้สึกง่วงนอนอย่างไรก็ไม่รู้" แค่ได้ยินอย่างนั้นซูเม่ยตื่นเต้นเหลือเกินแค่เพียงเฉาจื่อดื่มหมดแก้วเรื่องทุกอย่างจะได้จบสิ้นลง"ได้สิ" ซูเม่ยลุกขึ้นไปรินให้ยูร์เหยาอีกแก้วเธอกลับมานั่งที่เก้าอี้ยกแก้วขึ้นอีกครั้ง"มาดื่มพร้อม ๆ กันเถอะค่ะ พรุ่งนี้คุณก็กลับแล้ววันนี้ปลดปล่อยตัวเองหน่อยสิคะ" เฉาจื่อหยิบแก้วไวน์ขึ้นมายิ้มกว้างให้ซูเม่ย"เอาสิแก้วนี้ฉันขอดื่มให้เธอแล้วกัน" เขาดื่มจนหมดไม่เหลือสักหยดซูเม่ยดีใจมาก ๆ จึงยกไวน์ในมือดื่มจนหมดเหมือนกัน ไม่นานนักยูร์เหยาได้สลบลงซูเม่ยรียเข้าไปประคองทันนี"ไม่คิดเลยว่าเธอจะคออ่อนอย่างนี้ฉันจะพาไปนอนตรงโต๊ะด้านนู้นนะ สาวใช้กลับมาจะให้ไปตามคนขับรถมาพาเธอกลับบ้าน ถ้ารู้อย่างนี้ฉันไม่ให้เธอมาดื่มด้วยหรอกเป็นความผิดของฉันแท้ ๆ "เมื่อเห็นอย่างน
บทที่ 20 หลงรักภรรยาฝั่งด้านเฉาจื่อเขาตื่นเช้าขึ้นมาอย่างอารมณ์ดี วันนี้เขาเลือกที่จะเข้าไปที่สวนหลังบ้านพื้นที่ที่คุณแม่ใช้ปลูกผักมากมาย นานเท่าไหร่แล้วที่เขาไม่ได้เข้ามาที่นี่ เขาจึงจัดการซ่อมแซมไม้ที่รกและของที่ผุพัง จนกระทั่งถึงตอนบ่ายเขากำลังนั่งพักก่อนที่จะทำต่อเนื่องจากแดดเริ่มร้อนระอุ จึงเอนกายนอนลงที่นั่งพักของสวนพักหูของเขาแว่วได้ยินเสียงเท้าที่เร่งรีบเดินมาใกล้ เขาคงไม่ต้องเดาก็รู้ได้ในทันทีว่าคงเป็นซูเม่ย เขาจึงแกล้งหลับตาอยากรู้เหมือนกันว่าเธอมาหาเขาทำไม“นี่!! ไม่ต้องทำมาเป็นนอนหลับเลยนะ ลืมตาลุกขึ้นมาคุยกับฉันเดี๋ยวนี้เรื่องเมื่อคืนนี้ฉันรู้นะว่าคุณไม่ได้ทำอะไรฉัน ที่คุณพาฉันไปที่ห้องคุณและแกล้งทำเป็นว่าเรานอนด้วยกัน เพราะคุณรู้แผนการณ์ของฉันใช่มั้ย เฮอะ! รู้แล้วทำไมต้องแกล้งทำเป็นไม่รู้ด้วย เมื่อก่อนไม่เห็นจะสนใจฉันจะเป็นจะตายตอนนี้ทำไมถึงไม่อยากหย่าขึ้นมาล่ะ คงไม่ได้พึ่งจะมารู้สึกกับฉันตอนนี้หรอกนะ นี่คุณได้ยินมั้ยตื่นเดี๋ยวนี้เลยนะ!!!” ซูเม่ยพยายามปลุกเขาที่หลับปุ๋ยอยู่ จู่ ๆ เมื่อเธอพูดจบถูกเขากระชากแขนดึงร่างกายของเธอเข้าไปหาจนตอนนี้เธอนอนอยู่บนตัวของเขาและถูกเขาโ
บทที่ 21 ไปเยี่ยมแม่ของซูเม่ยหลังจากที่เตรียมตัวเสร็จซูเม่ยเดินลงมาด้านล่างต้องแปลกใจเมื่อเห็นชิงเถาเตรียมตัวเสมือนจะออกไปกับเธอด้วย“มาแล้วหรือรีบออกเดินทางกันเถอะต้องแวะตลาดซื้อของฝากอีก”“ไม่คิดเลยนะคะว่าคุณแม่จะไปบ้านของฉันด้วย หรือว่าจะเกิดฝนตกน้ำท่วมหรือจะแล้งกัน” ซูเม่ยอดไม่ได้ที่จะเหน็บแนมแม่สามี เพราะจู่ ๆ เธอทำตัวเปลี่ยนไปจนน่าตกใจ“นี่ซูเม่ยคุณแม่แค่อยากไปเยี่ยมแม่ของเธอเช่นกัน ทำไมต้องพูดจารุนแรงกับคุณแม่ด้วยมาแล้วก็ไปกันเถอะ” เฉาจื่อไม่อยากให้ทั้งสองมีปากเสียงกันไปมากกว่ารีบมาจับมือของซูเม่ยให้เดินตามตนเองไปที่รถ แม่ของเขาเดินตามมาทีหลังพร้อมอ้ายเยว่“นี่ปล่อยฉันนะ ทำไมต้องพาคุณแม่คุณไปด้วยแค่รังแกฉันคนเดียวไม่พอหรือไงนี่จะให้แม่ของคุณไปพูดจาเหยียดหยามดูถูกแม่ของฉันอีกคน เรื่องนี้ฉันขอรับรู้เพียงคนเดียวหากแม่ของฉันรู้ว่าฉันมาอยู่ที่บ้านของคุณแล้วเจออะไรบ้าง ความรู้สึกของแม่ของฉันจะเป็นอย่างไร หากเป็นอย่างนี้อย่าไปเลยดีกว่า” คำพูดของซูเม่ยดังจนทำให้ชิงเถาที่เดินตามมาทีหลังได้ยินจนหมด ในความเป็นแม่เธอเองก็เข้าใจดี หากเห็นลูกของตัวเองถูกรังแกและถูกกลั่นแกล้งสารพัด จนเจ็บไข้
บทที่ 22 นอนเตียงเดียวกันท้ายที่สุดอ้ายเยว่ได้ไปนอนกับคุณยายจริง ๆ ส่วนเฉาจื่อได้นอนห้องนอนของซูเม่ยที่เธอเคยอยู่ตั้งแต่เด็ก ๆ ในห้องของเธอยังสะอาดเอี่ยมเพราะแม่ของเธอเข้ามาทำความสะอาดอยู่บ่อย ๆ ของใช้ที่เธอเคยใช้ยังคงเก็บไว้ที่เดิม แม้แต่รูปถ่ายของเธอตอนที่เรียนได้ถ่ายเอาไว้แม่ได้ใส่กรอบตั้งโต๊ะให้เธอได้เห็น น้ำตาของเธอไหลอีกครั้งเมื่อเข้ามาด้านในเฉาจื่อเดินตามเข้ามาซูเม่ยรีบปาดน้ำตาไม่อยากให้เขาได้เห็น"แม่ของเธอคงคิดถึงเธอมากแน่ ๆ ในห้องยังสภาพเหมือนมีคนเข้ามาอยู่ทุกวัน เป็นเพราะฉันถ้าฉันไม่ทำเธอท้องตอนนี้คงอยู่ที่นี่ดูแลคุณแม่ เฮ้อ! ฉันขอโทษนะแถมยังไม่เคยสนใจเรื่องราวของเธออีกด้วย ต่อจากวันนี้หากเธออยากกลับมานอนกับแม่มาเยี่ยมแม่มาได้เสมอ""มาพูดอะไรตอนนี้ ในเมื่อต้องนอนด้วยกันอย่างนั้นคืนนี้คุณนอนด้านล่างฉันไม่มีทางให้คุณนอนบนเตียงกับฉันเด็ดขาด คุณเป็นทหารนี่น่าเคยออกรบนอนที่พื้นคงไม่ยากลำบากอะไร นี่ผ้าห่มนี่หมอน" ซูเม่ยเดินไปใกล้เตียงจับผ้าห่มและหมอนยื่นให้เขา แต่ทว่าตอนนั้นเฉาจื่อไวกว่าซูเม่ย เขาทำท่าจะคว้าผ้าห่มแต่เขาจับแขนของเธอดึงไปที่เตียงนอนและนอนนาบลงบนเตียงโดยกอดเธอเอาไ
บทที่ 35 ความสุข1 ปีผ่านมา“อ้ายเยว่ไปโรงเรียนได้แล้ว คุณพ่อรอลูกอยู่ด้านล่างเดี๋ยวจะสายเอาได้นะ” ซูเม่ยเดินเข้ามาในห้องหลังจากอาบน้ำเสร็จเห็นอ้ายเยว่นั่งอยู่บนเตียงนอน“คุณแม่ครับอ้ายเยว่ไม่อยากไปโรงเรียนวันนี้ขออยู่กับเยว่ผิงได้มั้ยครับ ดูสิน้องยิ้มให้อ้ายเยว่ด้วยคงอยากให้อยู่เล่นด้วย” เด็กชายจับมือน้อย ๆ หยอกล้อไปมาพร้อมรอยยิ้มที่บริสุทธิ์“ไม่ได้หลานจะขาดเรียนสองวันติดต่อกันไม่ได้นะ เยว่ผิงไม่หนีไปไหนหรอกนะตอนเย็นกลับมาก็ได้มาเล่นกับน้องหากหลานอยากเป็นพี่ชายที่ดีจะต้องทำตัวดีให้น้องได้เห็น เย่วผิงจะได้ภาคภูมิใจที่มีพี่ชายที่ดีและรักเธอมากขนาดไหน ”“ก็ได้ครับคุณย่า อย่างนั้นพี่ไปเรียนก่อนนะเยว่ผิง พี่จะรีบกลับมาเล่าเรื่องที่เรียนมาวันนี้ให้ฟัง” อ้ายเยว่ก้มลงหอมแก้มเล็ก ๆ อวบขาวคล้ายซาลาเปาไม่แปลกใจเลยที่เขาตัวติดน้องไม่อยากห่างไปไหนหลังจากวันนั้นที่เฉาจื่อกับซูเม่ยเข้านอนด้วยกันเธอได้ตั้งท้องลูกคนที่สองของเขา อ้ายเยว่ดีใจมากที่จะมีน้องสาวชิงเถาดูแลเอาอกเอาใจซูเม่ยเป็นอย่างดีไม่ว่าอะไรที่เขาว่าดีต่อคนท้องก็หามาหาเธอกินทุกอย่าง ซูเม่ยมีความสุขมาก ๆ หลังจากเหตุการณ์ที่เลวร้ายจบลง เธ
บทที่ 34 เฉาจื่อบาดเจ็บการต่อสู้ด้วยหมัดได้เริ่มขึ้นและแล้วลูกน้องของเหวินฉิงได้พ่ายแพ้ต่อเฉาจื่อที่เป็นนายพลร่างกายของเขาฝึกอยู่ทุกวันต่างจากลูกน้องของเหวินฉิงเพียงแค่ไม่กี่นาทีเขาทำให้ทั้งสองล้มลงที่พื้นได้ เมื่อเหวินฉิงเห็นว่าตัวเองจะพ่ายแพ้จึงล้วงปืนขึ้นมายิงเข้าที่ขาของเฉาจื่อปัง!“นี่แก แกมันเล่นตุกติกแกมันไม่มีสัจจะ” “ฮ่า ฮ่า ไม่เคยได้ยินคำนี้หรือไงไม่มีสัจจะในหมู่โจร” เหวินฉิงสะใจที่เห็นร่างกายแข็งแกร่งของเฉาจื่อล้มลงต่อหน้า เลือดที่ขาเริ่มไหลรินออกมาจนขากางเกงเปียกไปด้วยเลือด สีหน้าของเราเริ่มซีดเผือกความเจ็บปวดแล่นเข้าสู่ร่างกาย“คนอย่างแกไม่สมควรที่จะปกครองคนมากมาย เพราะแกมันเลวยิ่งเลวเสียอีก”“พูดไปเถอะก่อนจะไม่ได้พูด ยังไงการฆ่านายพลจิ่นเฉาจื่อเป็นความต้องการแต่แรกของฉันอยู่แล้ววันนี้ฉันจะทำให้มันเป็นจริง ฉันจะแก้แค้นแทนน้องรักของฉันเขาจะได้ตายตาหลับ เมื่อจัดการแกได้ก็ไม่มีใครในมณฑลนี้กล้าท้าทายต่ออำนาจของแก๊งมังกรดำอีกต่อไป ” ปลายปืนชี้ตรงมาที่หัวของเฉาจื่อหวังยิงครั้งเดียวให้ตายคาที แต่ทว่าเรื่องราวไม่คาดคิดได้เกิดขึ้นเพราะเขาไม่ทันได้เหนี่ยวไกรปืน ถูกลอบยิงจากด้านหล
บทที่ 33 ต่อสู้“คุณย่าครับคุณแม่จะเป็นอะไรมั้ยครับ? อ้ายเยว่กลัวจังเลย” เด็กน้อยตัวสั่นเทาจ้องมองไปหาซูเม่ย ชิงเถาจับตัวอ้ายเยว่มากอดแน่นพร้อมกระซิบข้างหู“อ้ายเยว่แม่ของลูกต้องไม่เป็นอะไรย่าเชื่อว่าเราต้องรอด หากหลานกลัวหลับตาเอาไว้นะ ” อ้ายเยว่พยักหน้าหลับตาปี๊“น่าเสียดายหากจะฆ่าทิ้งไป เรือนร่างน่ามองใบหน้างดงามหรือว่าเราจะมาเล่นสนุกกับภรรยาของนายพลก่อนดี ฮ่า ฮ่า ดูสิผิวขาวเนียนเชียว ได้ข่าวว่าตลอดห้าปีที่ผ่านมานายพลไม่เคยกลับบ้านเลยด้วยซ้ำปล่อยสาวสวยอย่างนี้ได้ยังไงกันนะ ก่อนฆ่าทิ้งเรามามีความสุขกันก่อนมั้ยคนสวย”“อย่าแตะต้องเธอนะ” เสียงเข้มขรึมของเฉาจื่อดังขึ้นเมื่อมือของเหวินฉิงกำลังแตะลงที่ใบหน้าของซูเม่ย เธอหวาดกลัวยืนตัวแข็งทื่อไม่ขยับ“โอ๊ะ! นี่ท่านนายพลหวงภรรยาก็เป็นหรือนี่ เอาน่าให้ฉันได้ลิ้มลองบ้างว่าภรรยาของท่านนายพลจะเด็ดขนาดไหน” เหวินฉิงดึงกายของซูเม่ยเข้ามาใกล้ตนยามนั้นนั่นเองเสียงปืนดังสนั่นแขนของเหวินเทียนถูกใครสักคนยิงหวังให้เขาเจ็บปัง!!! ทุกคนแตกตื่นยกอาวุธเข้าไปป้องกันเหวินฉิง“โอ๊ย!! ใครกันมันกล้าลงมือในที่ของฉันแบบนี้เหยียบจมูกกันเกินไปแล้วหรือว่าจะเป็นแกนายพ
บทที่ 32 ค่าตอบแทน"พี่เหวินฉิงอยู่ไหน " ยูร์เหยาออกมาจากห้องรีบถามหาเหวินฉิงเพื่อถามเขาให้รู้เรื่อง"ตอนนี้ลูกพี่อยู่ที่ห้องส่วนตัวครับ เชิญทางนี้" ลูกน้องนำทางพายูร์เหยาไปหาเหวินฉิงที่ห้อง เมื่อถึงห้องเธอได้เดินเข้าไปประตูก็ปิดทันที เหวินฉิงดื่มเหล้าด้วยท่าทางสบายใจและอารมณ์ดี เห็นยูร์เหยาเข้ามาหาเขาวางแก้วเหล้าไว้ก่อนจะนั่งลงที่โซฟา"เป็นยังไงบ้าง ตัดสินใจได้หรือยังว่าจะให้พี่จัดการยังไง""พี่เหวินฉิง พี่ไม่ได้ทำตามที่ฉันขอไว้เลย ทำไมต้องจับตัวคุณป้ากับลูกชายของพี่เฉาจื่อมาด้วยฉันบอกให้พี่จับมาแค่นางซูเม่ยไม่ใช่หรือไง แล้วเรื่องที่พี่เฉาจื่อจะมาที่นี่มันหมายความว่ายังไงกัน" เสียงเล็กแหลมเอ่ยถามไม่หยุดย่อน เธอตวาดเสียงใส่เขาอย่างไม่พอใจ เหวินฉิงแสยะยิ้มมุมปากยกแก้วเหล้ากระดกจนหมดแล้วลุกขึ้นเดินเข้ามาใกล้ยูร์เหยาใช้มือจับที่ไหล่ของเธอให้นั่งลงที่โซฟา"ใจเย็น ๆ ก่อนสิทำไมถึงได้โมโหง่ายอย่างนี้ล่ะใบหน้าสวย ๆ จะเกิดริ้วรอยเอาได้นะ ""เฮ้อ!!อย่างนั้นพี่ก็รีบบอกมาสิว่าพี่ทำอย่างนี้ทำไมมันเกินที่ฉันขอร้องแล้วนะ"เขานั่งลงข้าง ๆ เธอมือของเขาไม่อยู่นิ่งจับปลายผมของยูร์เหยาม้วนไปมาก่อนจะตอบคำ
บทที่ 31 เป็นฝีมือเธอสินะสายตาที่จ้องมองซูเม่ยทำให้เธอขนลุกซู่ แต่เมื่อเธอได้ยินคำพูดของชายคนนี้ต้องสงสัย ใครกันคือที่รักของเขาแล้วเธอไปทำอะไรให้ ตั้งแต่ทะลุมิติมาที่นี่เธอไม่เคยไปก่อเรื่องหรือมีเรื่องกับใครสักคน จะมีแต่ยูร์เหยา!!!‘อะไรน่ะ คนที่ชายคนนี้เรียกที่รักคือยูร์เหยาหรอกเหรอ?เฮอะน่าตลกชะมัดเรื่องเล็กน้อยแค่นี้เธอถึงกับสั่งให้แก๊งมังกรดำจับตัวของมา’ ซูเม่ยคิดในใจพรางมองไปที่ใบหน้าของชายคนนั้น ครั้นนั้นเธอคิดสงสัยในความสัมพันธ์ของทั้งสองมากกว่า ยูร์เหยาเป็นลูกของนายอำเภอมายุ่งเกี่ยวกับคนนิสัยไม่ดีทำไมกัน หรือว่าเรื่องรับส่วยไม่ใช่แค่นายตำรวจเล็ก แม้แต่นายอำเภอยังเป็นคนของพวกแก๊งมังกรดำหรือเนี่ย!!!“ใช่ฉันเป็นภรรยาของเฉาจื่อ แต่ฉันไม่เคยไปทำอะไรให้ใครหากคนที่คิดแค้นฉันคนเดียวก็ให้คนนั้นมาจัดการฉันสิ จับคุณแม่กับลูกชายของฉันมาทำไมกัน ““ว๊าววว ปากดีจริง ๆ อีกไม่นานที่รักของฉันคงเดินทางมาถึงดูสิว่าที่รักของฉันกับนายพลจิ่นเฉาจื่อใครจะมาถึงก่อนกัน เตรียมตัวเตรียมใจไว้ล่ะ เพราะวันนี้อาจจะเป็นวันสุดท้ายของตระกูลนายพลหน้าโง่ ที่ไม่เกรงกลัวอำนาจของแก๊งมังกรดำ ถ้าอยู่เงียบ ๆ นิ่ง ๆ หลับ
บทที่ 30 ไล่ล่าตงฉวนพยายามขับรถยนต์เข้ามาตามซอยเล็ก ๆ เพื่อหลบหนีคนของแก๊งมังกรดำแต่ทำยังไงคนพวกนั้นก็ตามมาติด ๆ จนกระทั่งสิ้นสุดหนทาง เขาไม่อาจจะพาคุณนายทั้งสองและอ้ายเยว่หนีได้อีกต่อไปเมื่อขับรถด้วยความเร็วไปด้านหน้าแต่ทว่ากลับเป็นทางตัน“ตงฉวนนั้นมันทางตัน” เสียงของซูเม่ยร้องออกมาด้วยความตกใจเพราะรถยนต์เคลื่อนมาด้วยความเร็ว ตงฉวนเหยีบนเบรกทันทีทำให้รถที่มาด้วยความเร็วล้อท้ายปัดรถสะบัดหมุนไปชนกำแพงปูนที่เป็นทางตันเอี๊ยด...!! โคร้ม!!!กรี๊ดดดด.....เสียงร้องกรีดของชิงเถาดังสนั่นแม้เธอจะกลัวแต่แขนของเธอยังคงโอบกอดอ้ายเยว่ไม่ให้ได้รับบาดเจ็บ ส่วนซูเม่ยกับตงฉวนหัวของทั้งสองได้กระแทกเข้าด้านหน้าทำให้ได้รับบาดเจ็บที่หัว ซูเม่ยรู้สึกเจ็บทีหัวมึนไปชั่วขณะก่อนจะตั้งสติหันไปมองอ้ายเยว่ด้วยความเป็นห่วง“คุณแม่อ้ายเยว่เป็นอย่างไรบ้างคะ ได้รับบาดเจ็บหรือไม่”“คุณแม่อ้ายเยว่ไม่เจ็บแต่ว่าที่หัวของคุณแม่มีเลือดด้วย อึก อึก คุณแม่เจ็บมั้ยครับ” เด็กน้อยเห็นแม่ของตัวเองเริ่มสั่นเทาร้องไห้สะอึกสะอื้น“นั่นสิเธอคงเจ็บมากใช่มั้ย ฉันกับอ้ายเยว่ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรแค่เจ็บร่างกายเล็กน้อย”“เจ็บแค่นี้ไม่เท่
บทที่ 29 นวดหลังเฉาจื่อใจเต้นแรงแทบจะกระโดดออกมาเต้นอยู่ข้างนอก ร่างกายของเขาตื่นตัวร้อนผ่าวไปหมด อาบน้ำพรางคิดเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ท่อนเอ็นของเขาตั้งผงาดขึ้นมา“อะไรกันแค่คิดยังไม่ได้ทำเสียหน่อยทำไมถึงได้มีอารมณ์อย่างนี้นะ!! อย่าเป็นอย่างนี้สิเธอจะคิดว่าฉันเป็นคนยังไง แกนอนเดี๋ยวนี้เลยนะเดี๋ยว” เขาบ่นพึมพำจับน้องชายของตัวเองกดหัวลงให้หลับใหล แต่เมื่อเขาพูดออกมาอย่างนั้นน้องชายของเขากลับแข็งตั้งผงาดสู้มือเขามากกว่าเดิม เมื่อจู่ ๆ ใบหน้าของซูเม่ยลอยเข้ามาเนินอกที่อวบอิ่มขาวเนียน ขาเรียวน่าสัมผัสเขาไม่อาจจะทนได้อตี่กอไปค่อย ๆ ใช้มือสาวอย่างช้า ๆ อารมณ์ของเขาพุ่งพล่านสองมือค่อย ๆ เพิ่มแรงสาวให้เร็วมากกว่าเดิม ครั้นนั้นเขาเผลอเห็นเรือนร่างเปลือยเปล่าของซูเม่ยในความคิด สองชักแท่งร้อนขึ้นสุดลงสุดจนกระทั่งถึงความรู้สึกเสียวซ่านได้ปะทุออกมา น้ำขาวขุ่นพุ่งกระจายเต็มห้องเสียงหอบเหนื่อยของเขาเคล้าไปด้วยเสียงน้ำรินไหล“แฮ่ก แฮ่ก ฉันต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ ทำไมต้องตื่นเต้นจนต้องช่วยตัว เฮ้อ!!สงบแล้วสินะอย่างนี้ฉันค่อยกล้าออกไปหาเธอหน่อย” เขาจัดการล้างเนื้อล้างตัวให้สะอาดเมื่อแท่นร้อนสงบลงด
บทที่ 28 เริ่มเคลื่อนไหวหลังจากนั้นทั้งสองอยู่ในงานสักพักและขอตัวกลับบ้าน ภายในรถมีเพียงความเงียบปกคลุมตงฉวนมองกระจกหลังเห็นใบหน้าทั้งสองที่หันไปคนละทางคิดเขาเกิดความสงสัย เพราะเขาไม่ได้เข้าไปร่วมในงานเลี้ยงคอยดูแลความปลอดภัยอยู่ข้างนอก หากจะเอ่ยถามคงไม่ใช่เรื่องของตัวเอง จึงได้พูดเรื่องที่เขาได้รับรู้มาบอกแก่เฉาจื่อให้ได้รู้“ท่านนายพลครับ สายสืบเรามีเรื่องมารายงานตอนนี้ที่ท่านเข้าไปในงานเลี้ยงเป็นเรื่องสำคัญแต่ว่าจะให้ผมพูดตอนนี้เลยมั้ยครับ” เฉาจื่อจ้องมองไปยังซูเม่ยก่อนจะตอบตงฉวนให้เขาพูดอกมาได้“พูดมาเถอะ”“สายของเราแจ้งมาว่าเรื่องที่ท่านนายพลย้ายมาประจำการที่นี่เป็นการขัดขาของแก๊งมังกรดำ ครั้งที่แล้วที่ท่านนายพลจัดการคนของแก๊งมังกรดำทำให้เหวินฉิงหัวหน้าแก๊งโกรธมาก ผมคิดว่าเรื่องที่ท่านย้ายมาที่นี่แก๊งนั้นคงไม่ยอมอยู่เฉยแน่ ๆ สายของเราบอกว่าตอนนี้เหมือนคนพวกนั้นกำลังซุ่ทำอะไรบ้างอย่าง ”“อื้ม ...เรื่องนั้นฉันคิดไว้แล้วและที่ฉันย้ายมานี่ไม่ได้จะมาอยู่ใกล้ครอบครัวเท่านั้น ฉันจะมาจัดการกับแก๊งมังกรดำให้สิ้นซาก ชาวบ้านจะได้อยู่อย่างสบายใจไม่ว่าใครที่ร่วมจับมือกับแก๊งมังกรดำฉันจะไม่ปล
บทที่ 27 ธาตุแท้มาถึงงานเขาทำอย่างที่เขาบอกจริง ๆ ไม่ว่าจะเดินไปทางใดเขาโอบเอวเธอตลอดทำให้ซูเม่ยเขินอายคนทั้งงานไม่คิดว่าเขาจะทำอย่างที่พูด จนกระทั่งเขาพาเธอเดินทักทายแขกในงานและได้พบกับนายอำเภอตงหนานที่เดินเคียงคู่มากับภรรยาของเขาและยูร์เหยาที่เดินตามมาข้างหลัง วันนี้เธอตั้งใจแต่งตัวเต็มที่แต่ทว่าคนในงานกลับพากันพูดถึงแต่เรื่องของซูเม่ยเอ่ยชมไม่ขาดปากทำให้เธอไม่พอใจมากกว่าเดิม ยิ่งเห็นเธอเดินเคียงข้างมากับเฉาจื่อเธอยิ่งเจ็บใจไม่น้อย ที่เขาโอบกอดเธอตลอดเวลาจนเผลอคิดหากวันนี้คนที่เคียงข้างเขาเป็นเธอจะเป็นอย่างไร“ยินดีด้วยนะครับท่านนายพลที่ได้ย้ายมาประจำการที่นี่”“ครับ วันนี้รู้สึกเป็นเกียรติมากที่นายอำเภอตงหนานมาร่วมยินดีของผม ดื่มกินให้เต็มที่นะครับ” "จะไม่มาต้อนรับได้อย่างไรครับ นายพลเป็นคนที่ลูกสาวของผมพูดถึงทุกวันต้องมาให้ได้อยู่แล้ว คนที่เคียงคู่มาในวันนี้คงเป็นคุณนายเล็กสินะครับ งดงามมากจริง ๆ ถึงว่าแต่งงานตั้งนานไม่พามาออกงานเพราะอยากเก็บความสวยไว้ดูคนเดียวนี่เอง"ซูเม่ยยืนยิ้มให้นายอำเภอตงหนานก่อนจะหันไปเห็นสายตาที่จ้องมองเธออยู่ด้านหลังผู้เป็นพ่อ"ตอนแรกคิดว่ามาที่นี่จะอึดอ