หน้าหลัก / โรแมนติก / ทวงแค้นข้ามกาลเวลา / ตอนที่ 5 ข้าไม่ต้องการใช้ดาบของผู้อื่น

แชร์

ตอนที่ 5 ข้าไม่ต้องการใช้ดาบของผู้อื่น

ผู้เขียน: ชาไทยเย็น
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-29 12:00:04

 

“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับท่าน”

“เหตุใดเจ้าถึงเย็นชาเช่นนี้ แม้ว่าเจ้าจะชำนาญทั้งหมดนั่นและยังมีวิชาแพทย์ติดตัวแต่ก็น่าจะทำตัวเป็นมิตรมากกว่านี้หน่อยก็ได้กระมัง ข้าก็มิใช่ศัตรูของเจ้าเสียเมื่อไหร่กันจริงหรือไม่”

เขามองไปที่มือของนางที่ถือเพียงกิ่งไม้ที่เอาไว้ใช้แทนดาบเท่านั้น เขามองไปยังใบหน้าที่หันหลบเขาไปอีกทางหนึ่งเพราะคำพูดนั้น

 ไป๋ซูเม่ยในยามนี้ไม่อาจไว้ใจผู้ใดได้เพราะในชาติที่แล้วของนางตอนที่ยังเป็นอิ่นหลงนางถูกคนที่นางรักจนแทบจะถวายชีวิตให้เขาได้...ทรยศนางอย่างเลือดเย็น

“รับนี่ไปสิ”

“ท่านหมายความว่าอย่างไร”

นางมองไปยังมือที่ยื่นดาบมาให้ตรงหน้า ดาบที่มีตราสัญลักษณ์ของเขาและสกุลเว่ยอยู่

“ดาบของข้า มอบให้เจ้า”

“ข้าไม่ต้องการใช้ดาบของผู้อื่น”

“เจ้าเข้าใจข้าผิด ข้ามอบให้เจ้าเพียงเพื่อฝึกในเวลานี้เท่านั้น แต่ข้าจะสั่งทำดาบให้เจ้าใหม่แต่ในเมื่อตอนนี้เจ้าใช้เจ้านั่น…แทนการใช้ดาบเจ้าไม่มีทางรู้ได้เลยว่าวิชาที่แท้จริงจะต้องกำหนดปราณและใช้แรงเท่าใด เจ้าลองดูก่อนก็ได้”

สายตาที่แน่วนิ่งของเขาทำให้ไป๋ซูเม่ยรู้สึกว่าเขาแตกต่างกับเสวียนอวี่ เขาดูไม่มีพิษไม่มีภัยแต่เพราะนางก็คิดเช่นนี้กับองค์ชายเสวียนอวี่นางจึงถูกเขาทรยศเพียงเพราะคิดว่านางจะไปทำร้ายว่าที่คู่หมั้นของเขาเท่านั้น

“ข้าไม่ชอบใช้ดาบของผู้อื่น”

“เฮ้อ…แต่หากว่าเจ้าพบศัตรูเข้าจริง ๆ หรืออยากจะฆ่าคน เพียงแค่กิ่งไม้นั่น…ใช้แทนดาบไม่ได้หรอกนะหากว่าเจ้าอยากจะสำเร็จเร็วขึ้น เจ้าต้องใช้มัน”

เขาพูดทำให้นางคิดได้ จริงด้วย หากว่านางอยากจะแก้แค้นและลงโทษผู้ที่เคยฆ่านาง สิ่งที่นางต้องมีตอนนี้คืออาวุธที่แข็งแกร่งและตัวเองที่เข้มแข็งมากกว่านี้ นางมองดาบในมือของซื่อจื่อที่ยื่นมาให้นางด้วยไมตรี เขาน่าจะมีอายุมากกว่าไป๋ซูเม่ยราว ๆ สี่ถึงห้าปีได้

“เช่นนั้นข้าก็ขอรบกวนแล้ว”

“ข้า…เจ้าจะว่าอะไรหรือไม่หากว่าข้าจะขอนั่งชมเงียบ ๆ จะไม่รบกวนเจ้า”

“ตามใจท่าน ข้ามิได้เป็นเจ้าของที่นี่ ท่านอยากทำสิ่งใดก็ทำเถอะ”

“ตรงดีเหลือเกิน ตรงจนใจเจ็บ”

เขาเลือกจะนั่งที่โขดหินใกล้ ๆ เพื่อเห็นท่วงท่าและวรยุทธ์ของนางเมื่อนางเริ่มใช้ดาบของเขาที่มีน้ำหนักมากกว่าไม้ ไป๋ซูเม่ยเข้าใจที่เขาพูดกับนางในตอนนี้เอง เมื่อนางเปลี่ยนมาใช้ดาบแล้ว น้ำหนักมือและแรงที่ต้องใช้แตกต่างกันมากจริง ๆ

“นึกไม่ถึงว่าจะเป็นเช่นนี้…”

“นั่นเพราะเจ้า…ฝึกกับกิ่งไม้จนชิน เจ้าลองกำหนดปราณใหม่แล้วค่อย ๆ ขยับมือ และคิดว่าดาบในมือของเจ้าเป็นนกที่มีอิสระและจะไม่ทำร้ายเจ้าของ เพียงแค่เจ้าเป็นเจ้านายของมันและให้มันทำตามคำสั่งของเจ้า อย่าลืมว่าต้องสั่งมันให้ได้ ดาบก็เหมือนคน คนก็ไม่ต่างจากดาบ ลองดูใหม่”

“ดาบไม่ต่างกับคน คนไม่ต่างกับดาบ”

“ใช่แล้ว หากเจ้าใช้เป็นดาบจะเชื่อฟังเจ้าและกำจัดศัตรูแทนเจ้าได้ลองดูใหม่อีกที เจ้าตั้งสมาธิก่อนและเพ่งลมปราณผสานกับดาบในมือ ผ่อนลมหายใจและเป็นหนึ่งเดียวกับดาบ เอาใหม่อีกครั้ง”

นึกไม่ถึงว่าเพียงแค่นางจิตสงบนิ่งและทำตามที่เขาพูด นางกลับออกท่วงท่าและใช้วิชาดาบที่เคยฝึกมาได้ยอดเยี่ยมมากกว่าเดิม ที่สำคัญคือนางรู้สึกว่าตัวเบาและพลังที่ส่งออกไปรุนแรงมากกว่าตอนใช้ไม้เสียด้วยซ้ำ

“ยอดเยี่ยมมาก เจ้าเข้าใจได้รวดเร็วมาก ๆ”

“ขอบคุณซื่อจื่อ ข้าเข้าใจแล้วขอบคุณที่ให้ความช่วยเหลือเจ้าค่ะ”

นางยิ้มด้วยความดีใจและหันมาขอบคุณเขาอย่างจริงใจ รอยยิ้มนั้นทำให้หัวใจเขากระตุกเล็กน้อยและรู้สึกราวกับภาพรอบ ๆ นั้นหยุดนิ่งไปพักหนึ่ง

“อ้อ…เจ้าก็ต้อง…หมั่นฝึกฝน เอาล่ะดาบนี่ข้าให้เจ้ายืมก่อนหากว่าเจ้าอยากฝึกเพิ่ม”

“ขอบคุณคุณชายแต่ตอนนี้ดึกแล้วข้าคิดว่าเราควรจะกลับลงไปได้แล้ว”

“อ้อ…งั้นหรือ เช่นนั้นก็…ไปกันเถอะ”

สองคืนหลังจากนั้นเขาก็ไปเป็นเพื่อนนางเพื่อฝึกฝนและเริ่มสอนนางบางกระบวนท่าที่เขาร่ำเรียนมาจากสำนักอื่นแลกเปลี่ยนกับนางด้วยเช่นกัน

 แม้ว่าในเวลาปกตินางจะไม่ค่อยพูด แต่หากว่าเป็นตอนนี้ที่นางฝึกวรยุทธ์ นางมักจะมีคำถามมากมายเพื่อให้เขาพูดและนางเองก็จะตั้งใจฟัง

“เช่นนี้นี่เอง หยินและหยางสัมพันธ์กันพลังของดาบที่ส่งออกไปกับปราณจะยิ่งเพิ่มพูนความรุนแรง”

“ใช่แล้ว แต่ดาบก็ต้องเหมาะกับเจ้าของด้วยเช่นกัน นี่ซูเม่ยเจ้าอยากร่ำเรียนวรยุทธ์เพื่อจะปกป้องตัวเองหรืออยากจะแก้แค้นล่ะ”

“ข้า….ท่านถามทำไม”

“ก็แค่ถามดู เจ้าบอกเองว่าหลังจากนี้ข้าลงเขาไปเราก็เป็นคนแปลกหน้าแต่ข้าคิดว่ามันไม่ควรเป็นเช่นนั้น ว่าแต่เจ้าเถอะ เจ้าจะทำสิ่งใดต่อไปจะกลับสกุลไป๋หรือไม่”

“ไม่ ข้าจะเดินทางไปเมืองหลวง”

“ไปเมืองหลวงงั้นหรือ เจ้าจะไปที่นั่นทำไม”

“ข้า….ไปหาคนรู้จัก”

“น่าจะไม่ใช่รู้จักกันด้วยดีสินะ สีหน้าเจ้าราวกับอยากจะฆ่าคน”

“ท่าน…เหตุใดจึงได้…”

“เจ้าอาจจะไม่รู้แต่เจ้ามักจะไม่ค่อยพูดมากแต่ทุกอย่างมันส่งผ่านออกมาทางแววตาเจ้าจนข้าเคยชินน่ะ สีหน้าเช่นนี้มิใช่แววตาที่อยากไปหามิตร แต่จะไปเพื่อฆ่าศัตรูต่างหาก ข้าเดาถูกใช่หรือไม่”

“คุณชาย บางครั้งข้าก็รู้สึกว่าท่านสมกับเป็นซื่อจื่อของหยางโจวยิ่งนัก แต่บางครั้ง….”

“บางครั้งทำไมหรือ….”

“บางครั้งข้าก็คิดว่าท่าน เหมือนกับพวกแม่ค้าที่กินแตงและนั่งนินทาชาวบ้านไปวัน ๆ น่ะสิ”

“นี่เจ้า…หน็อย เจ้ากล้าล้อข้างั้นหรือไป๋ซูเม่ย!!”

“ฮ่า ๆ ข้าเปล่านะเจ้าคะคุณชาย”

“เอาล่ะ ไหน ๆ เจ้าก็ยืมดาบข้าใช้มาหลายคืนแล้ว ขอทดสอบวิชาเจ้าสักหน่อยสิ”

“ให้ข้า…”

“ใช่ ข้าจะใช้ดาบไม้ของเจ้าสู้กับเจ้า หากแพ้…ข้าจะให้เจ้าขอข้าได้หนึ่งอย่าง แต่หากว่าข้าชนะ…ข้าจะขอเจ้าหนึ่งอย่าง”

“คำไหนคำนั้น”

“ได้ ไป๋ซูเม่ย คำไหนคำนั้น เข้ามาเลย”

ท่ามกลางแสงจันทร์เต็มดวงในคืนวันเพ็ญ พวกเขาประลองยุทธ์กันบนลานที่เริ่มโล่งเตียนเพราะนางใช้เวลาฝึกที่นี่มาเกือบสองเดือนก่อนที่เขาจะบาดเจ็บและมาพักที่นี่ และอีกหนึ่งเดือนที่เว่ยเฟิงหรงอยู่กับนางที่นี่ ความสนิทสนมของพวกเขาจึงเริ่มก่อตัวขึ้นทีละนิด

“ยอดเยี่ยมมาก เจ้ารวดเร็วจนจะตามข้าทันแล้ว…แต่ว่า ยังไม่มากพอนะไป๋ซูเม่ย”

“คุณชายเว่ยท่านอย่ามัวแต่พูดมาก ข้าจะโจมตีท่านอีกครั้งแล้วนะ”

“เจ้าคิดว่าข้ากลัวงั้นหรือ มาเลย”

เว่ยเฟิงหรงนั้นมีวรยุทธ์สูงกว่านางมาก แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยอมผ่อนให้นางเพื่อที่นางจะได้ค่อย ๆ ฝึกฝนและเรียนรู้จากการเคลื่อนไหวของเขา

อีกสองวันเขาจะลงจากเขาแล้วเพราะตามกำหนดการที่วางไว้ เขาเองก็ต้องไปแล้วเช่นกันแม้ว่าจะอยากอยู่ที่นี่นานกว่านี้อีกหน่อยก็ตาม

“คุณชายเว่ย ล่วงเกินท่านแล้ว”

ดาบของเขาถูกพาดมาแต่เว่ยเฟิงหรงถอยจนพ้นและตีลังกากลับเพื่อหนีนางได้อีกครั้งและใช้ไม้ในมือพาดมาที่ไหล่ด้านหลังของไป๋ซูเม่ย นางต้องยอมรับว่าแพ้ความเร็วของเขาแล้วจริง ๆ 

“ดูเหมือนว่าข้าจะชนะเจ้าแล้วนะซูเม่ย”

นางยิ้มและหันไปคำนับเขาอีกครั้งและยอมรับแต่โดยดี

“ข้าแพ้แล้วคุณชายเว่ย ขอบคุณที่ออมมือ”

“ดังนั้น..ข้าทำตามข้อตกลงได้แล้วใช่หรือไม่”

“ใช่ ว่าแต่ท่านจะขอสิ่งใดเจ้าคะ”

“เจ้าหลับตาก่อนสิ”

“เหตุใดต้อง….”

“ชู่วว….คนแพ้ไม่มีสิทธิ์ถามนะ”

นางหลับตาลงตามข้อตกลง แม้จะไม่เข้าใจว่าเขาจะทำสิ่งใดก็ตาม ไม่นานนางก็รู้สึกถึงบางอย่างที่มาสัมผัสที่แก้มของนางตามด้วยเสียงกระซิบที่แผ่วเบาของผู้ที่กำลังสูดลมหายใจจากแก้มของนางเข้าไปจนสุด

“ข้าเพียงแค่…ขอค่าสอนเพลงดาบเท่านั้นเอง”

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทวงแค้นข้ามกาลเวลา    ตอนที่ 6 นี่ข้า…..เป็นอะไรไป

    นางรู้สึกวาบหวิวทั้งที่ใบหูและใบหน้าที่เริ่มร้อนผ่าวขึ้นในทุก ๆ ช่วงเวลาที่เขาพูด“เคล้ง!!”ดาบในมือนางร่วงลงกับพื้นเมื่อเขาพูดจนจบ นางตกใจและรีบลืมตาขึ้นแต่กลับพบเพียงความว่างเปล่า เว่ยเฟิงหรงเดินกลับไปแล้วเมื่อเขาแอบหอมแก้มนางนางค่อย ๆ ใช้มือยกขึ้นมาลูบที่พวงแก้มของตนเองที่ถูกเขาฝังจมูกลงไปเมื่อครู่นี้ สัมผัสนี้แตกต่างกับตอนที่ถูกเสวียนอวี่จับเมื่อชาติที่แล้วมันทั้งวาบหวามและ….อบอุ่นอย่างน่าประหลาด“นี่ข้า…..เป็นอะไรไป”นางกำลังหวั่นไหวให้บุรุษอีกครั้งหนึ่งซึ่งนางได้เคยปฏิญาณตนเอาไว้แล้วว่าเกิดในชาตินี้นางจะไม่มีทางหวั่นไหวให้กับบุรุษอีก แต่ว่า…..เว่ยเฟิงหรงผู้นี้ช่างแตกต่างกับองค์ชายเสวียนอวี่ที่ทั้งบ้าคลั่งและก้าวร้าวผู้นั้นชาติก่อนของอิ่นหลง“ร้องดังกว่านี้สิอิ่นหลง เจ้าไม่มีความสุขงั้นหรือ”“อ๊าา องค์ชาย อย่ากัดเพคะ”“อ๊าา เสียวมากหรือไม่เหตุใดเจ้า…อาา อิ่นหลง”“องค์ชายเพคะ อ่อนโยนหน่อย”เสวียนอวี่ที่ดูดดึงยอดปทุมของนางจนช้ำคาปากและอีกข้างกำลังมีเลือดไหลออกมาจากการกัดของเขา ไหล่ของนางเต็มไปด้วยรอยฟันที่ถูกเขากัดเม้ม แรงกระแทกที่ราวกับโกรธผู้ใดมายังคงไม่ลดลง แม้ว่านางจะรู้สึกดี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-29
  • ทวงแค้นข้ามกาลเวลา    ตอนที่ 7 หากว่ามีวาสนา....

    เขาและนางยืนสบตากันครู่หนึ่ง แม้ว่าเขาจะแอบเห็นสายตาที่อ่อนโยนลงจากนางแต่ก็เพียงแค่แวบเดียวเท่านั้นและก็กลับไปเป็นนิ่งเรียบและเย็นชาเช่นเดิม“เช่นนั้นขอบใจเจ้ามากสำหรับการดูแลข้าตลอดเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ขอให้เจ้า…โชคดี”“ท่านเองก็เช่นกัน ลาก่อน”เว่ยเฟิงหรงเดินลงจากเนินเขาที่ใช้ฝึกวิชาและมาลาอาหยงและเดินทางลงจากเขาลั่วซางทันทีโดยที่ไป๋ซูเม่ยมิได้ตามลงมาส่ง นางยังคงยืนอยู่ที่ลานฝึกและมองพวกเขาเดินลงจากเขาไปอย่างเงียบ ๆ“คุณชายเว่ย ท่านเป็นผู้ที่ไม่ควรเข้ามายุ่งเกี่ยวกับความแค้นนี้ ตัวข้ามิอาจไว้ใจผู้ใดได้เหมือนครั้งที่ผ่าน ๆ มาอีกต่อไปแล้ว”เว่ยเฟิงหรงหันหลังมามองนางที่ยืนนิ่งอยู่บนเชิงเขา นางเองก็ยังคงมองมาที่เขาเช่นกัน สองคนที่สบตากันแม้ว่าจะไกลแต่เขาคิดไม่ผิด เขาเห็นว่านางกำลังยิ้มให้เขาอยู่เป็นแน่ “หากว่ามีวาสนาคงได้พบกันอีกในวันข้างหน้า ถ้าได้พบเจ้าอีกครั้งข้าจะไม่ยอมปล่อยเจ้าไปเหมือนดังเช่นวันนี้เป็นแน่”“คุณชาย…”ต้าหมินเรียกเขาอีกครั้งเมื่อเห็นว่าท่านชายเว่ยยังคงยืนอยู่ที่เดิมเขาจึงหันมาบอกต้าหมินก่อนจะเดินนำไปก่อน“รีบไปเถอะ”ระยะทางที่ไป๋ซูเม่ยเคยบอกต้าหมินเอาไว้ทำให้พวกเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-29
  • ทวงแค้นข้ามกาลเวลา    ตอนที่ 8 ประตูเมืองหลวง

    ต้าหมินที่รอตรวจป้ายเพื่อจะเข้าเมืองหลวงเห็นนางเข้าก่อนเพราะเขาจำเสียงของนางได้จึงเดินลงมาจากรถม้าและมาทักทายนาง เมื่ออาหยงเห็นเขาก็นึกดีใจ “แล้วรถม้าของพวกเจ้าอยู่ที่ใดล่ะ ไปกับคุณชายก็ได้อย่างไรพวกเจ้าก็มาจากที่เดียวกับคุณชาย”“เอ่อ…คุณชายท่านนี้”“อ้อ ท่านผู้ตรวจการ ข้าเป็นองครักษ์ของซื่อจื่อ ท่านชายเว่ยแห่งหยางโจว”“อ้อ ที่แท้ก็คนของซื่อจื่อเหตุใดเจ้าไม่บอกข้าก่อนเล่าแม่นางเช่นนั้นก็….”“ไม่เป็นไรท่านผู้ตรวจการ พวกเราไม่รีบ”“คุณหนู”“คุณหนูไป๋”ไป๋ซูเม่ยหันไปยิ้มให้กับต้าหมินที่ก้มลงคำนับนาง “อย่าทำให้ท่านผู้ตรวจการลำบากใจกลับไปที่รถม้าได้แล้ว”“คุณหนูขอรับแต่ว่าท่านชายกับท่าน…”“ข้ามิได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับซื่อจื่อ ต้าหมินขอบคุณท่านมากที่หวังดีแต่ว่า….หากว่าข้าทำเช่นนี้แล้วชาวบ้านคนอื่น ที่ต้องรอเช่นข้าเล่า แล้วไหนจะเสียงวิจารณ์การทำงานของท่านผู้ตรวจการที่ยอมปล่อยให้พวกเราเข้าไปอีก อีกทั้งสายตาที่มองพวกเราอีก พวกเราเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดา พวกท่านเชิญก่อนเถอะพวกเรารอที่นี่ได้”“คุณหนู….ข้าขอโทษเจ้าค่ะข้าไม่ทันคิดเรื่องนี้”“อาหยงเจ้ากลับไปที่รถม้า แล้วเลิกก่อความวุ่นวายได้แล้ว”“

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-29
  • ทวงแค้นข้ามกาลเวลา    ตอนที่ 9 คนโง่เท่านั้นที่มองไม่ออก

    “เข้าใจผิดงั้นหรือ เจ้าหมายความว่าอย่างไรกัน”“ช่างเถอะ ๆ บางทีข้าอาจจะคิดมากไปก็ได้ เอาล่ะ ข้ายินดีต้อนรับท่านหากว่าท่านจะแวะเวียนไปเยี่ยมที่จวน”“จริงหรือ เจ้าไม่ไล่ข้าแล้วใช่หรือไม่”ซูเม่ยหันไปมองรอยยิ้มของคนข้าง ๆ ก็นึกสบายใจเมื่อได้พูดคุยกับเขาได้อีกครั้งโดยที่ไร้ความกดดันใด ๆ อาจจะเป็นนางที่คิดมากและกลัวเกินไปกับประสบการณ์ที่เจอกับเสวียนอวี่โดยลืมนึกไปว่าเขามิใช่เสวียนอวี่แต่เป็นบุรุษหนุ่มที่พยายามจะเป็นเพียงคนธรรมดาหนึ่งคนเท่านั้น“งั้นหรือ ข้าก็ผ่านมาทางนั้นเช่นกันทำไมถึงไม่พบเจ้า แต่ก็มาถึงเกือบพร้อม ๆ กันกับเจ้า ช่างน่าแปลกยิ่งนัก”“ท่านคงตามมาห่าง ๆ ก็เลยไม่ทันได้สังเกต”“คุณชายเจ้าคะ”ลู่หลินเดินมาอีกครั้ง ซูเม่ยลอบยิ้มอย่างรู้ทันนางจึงหันไปมองเว่ยเฟิงหรง นางมีประสบการณ์เรื่องเช่นนี้มาก่อนจึงเข้าใจความรู้สึกของลู่หลินได้ดี“คุณชายเว่ยเอาไว้พบกันใหม่ข้าขอตัวก่อน”“เอ่อ…ซูเม่ย ไปดื่มชาด้วยกันเถอะข้ายังคุยกับเจ้าไม่จบเลย มาเถอะมาเล่าต่อว่าหลังจากนั้นเจ้า….”“คุณ…ชาย…เอ่อ…”ลู่หลินเห็นเว่ยเฟิงหรงดึงแขนของซูเม่ยเดินไปที่รถม้าก็เริ่มโกรธและไม่พอใจมากขึ้นจนเดินหนีพวกเขาไปอีกทาง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-29
  • ทวงแค้นข้ามกาลเวลา    ตอนที่ 1 หวนคืนอีกครา....

    “หากข้ามีโอกาสหวนคืนอีกครั้ง ข้าจะไม่มีวันให้อภัยท่าน!!”เขาลั่วซาง นอกเมืองหยางโจว“เฮือก….แคก แคก….ที่นี่….คือที่ใด”“คุณหนู!! ท่านอยู่ที่นี่เองหรือเจ้าคะ ตายจริง!! ท่านถูกงูกัดหรือเจ้าคะ”“งูกัด? คุณหนูงั้นหรือ เจ้าเป็นผู้ใดกัน”“คุณหนูเจ้าคะ นี่ข้าเองอาหยงอย่างไรเจ้าคะ คุณหนูท่านช่างใจแข็งนัก แม้ว่าท่านจะมีปากเสียงกับนายท่านแต่ก็ไม่ควรใจร้อนหนีมาอยู่ในป่านี้เพียงลำพังนะเจ้าคะ ข้าแอบหนีตามท่านออกมาเจ้าค่ะ นึกไม่ถึงว่าท่านจะมีสภาพเป็นเช่นนี้ นี่พึ่งจะสิบวันเองที่ท่าน….”“โอ๊ย!! อย่าพึ่งพูด พยุงข้าก่อนแล้วค่อย ๆ เล่า”“ไป๋ซูเม่ย” รู้สึกว่าขานางได้รับบาดเจ็บแต่ในตอนนี้เริ่มดีขึ้นมาแล้ว แม้ว่าจะยังจับต้นสายปลายเหตุไม่ได้ แต่ดูจากสิ่งที่อยู่ตรงหน้าในยามนี้ …..นางทำสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้“อิ่นหลง ยอมแพ้เสียเถอะเจ้าไม่มีทางรอดแล้ว”“พวกเจ้าเคยเป็นคนของข้า!!….เหตุใด…..”“ขออภัย เงินผู้ใดให้มาข้าก็รับใช้คนผู้นั้น “อิ่นหลง” ต้องโทษที่เจ้ารักคนที่ไม่ควรรักจึงทำให้เกิดเรื่อง หากว่าเจ้ายังอยู่ องค์ชายสี่ไม่มีทางมีความสุข”“แต่ข้า!! ข้าเป็นคนช่วยชีวิตเขา เป็นองครักษ์ข้างกายที่ซื่อสัตย์ของเขามาโด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-29
  • ทวงแค้นข้ามกาลเวลา    ตอนที่ 2 ชาตินี้ก็ฝากด้วยนะ

    ไป๋ซูเม่ยเดินออกมาจากกระท่อม สายลมแผ่วเบาที่พัดมายังร่างของสตรีที่นางพึ่งจะมาสวมร่างของนางให้ความรู้สึกราวกับไม่ใช่ตัวเอง เมื่อเดินไปถึงขอบเนินเขาและเริ่มหลับตาลง ค่อย ๆ กำหนดลมหายใจและเรียกพลังปราณออกมาและปล่อยออกมา“เฮ้อ…คงต้องเร่งฟื้นฟูสินะ ร่างนี้แม้ว่าจะมีความรู้มากมายเกี่ยวกับยาแต่ไร้ซึ่งวรยุทธ์ ยังไม่ต้องนับไปถึงการแก้แค้นเลย แค่เดินทางไปเมืองหลวงก็คงเกือบตายแล้ว”ไป๋ซูเม่ยเริ่มนั่งกำหนดลมปราณและฝึกวิชาทบทวนวรยุทธ์อยู่ราว ๆ เกือบสองชั่วยามจนเริ่มปรับสภาพร่างกายเข้ากับร่างใหม่ได้มากขึ้น นางสามารถระเบิดหินที่อยู่ใกล้ ๆ ได้และเริ่มใช้กิ่งไม้มาฝึกวิชาดาบจนสำเร็จกระบวนท่าไม้ตายที่นางเคยฝึกมาก่อน“ตูม!!!”ก้อนหินตรงหน้าและกิ่งไผ่ที่ถูกตัดขาดด้วยกิ่งไม้ในมือนางหลังจากที่นางใช้วิชาขั้นสุดท้ายกระเด็นไปทุกทิศทุกทาง “พลังปราณและวิชายุทธ์ข้ากลับคืนมาหมดแล้ว แต่ก็ยังเหนื่อยง่ายอยู่ สตรีผู้นี้อ่อนแอถึงเพียงนี้เชียวหรือเหตุใดจึงได้เหนื่อยง่ายถึงเพียงนี้กันนะ”นางเดินกลับไปยังลำธารใกล้ ๆ เมื่อก้มหน้าลงไปส่องดูเงาที่สะท้อนในน้ำจึงได้เห็นชัด ๆ ใบหน้าของไป๋ซูเม่ยงดงามไม่มีที่ติ แต่ทว่า….“แผลเป็

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-29
  • ทวงแค้นข้ามกาลเวลา    ตอนที่ 3  บุรุษแปลกหน้า

    อาหยงเมื่อรู้ว่ามิใช่สัตว์ร้ายก็กล้าที่จะวิ่งเข้าไปหาคุณหนูตามคำสั่ง พวกนางพบว่าเป็นเพียงบุรุษหนุ่มคนหนึ่งที่ราวกับวิ่งหนีจากการถูกตามล่ามาร่างกายบาดเจ็บสะบักสะบอมจนแทบจะจำหน้าเดิมไม่ได้ ผมเผ้ารุงรังแต่หากดูจากการแต่งตัวและเครื่องประดับ มองดูก็พอจะรู้ว่าฐานะเขาคงไม่ธรรมดา“เหตุใดคนผู้นี้….ว๊าย!! คุณหนูเขาจะทำร้ายท่าน”ร่างหนาล้มลงที่อกไป๋ซูเม่ยทันทีเมื่อนางดึงปลายลูกธนูออกมาจากอกของเขา “เขาไม่มีแรงทำร้ายผู้ใดหรอก ดูท่าคงจะพยายามดึงลูกธนูนี้ออกด้วยตัวเองแต่คงหมดแรงเสียก่อน เจ้ามานี่มาช่วยข้าพาเขากลับไปที่กระท่อม”“คุณหนู…แต่ว่า…”“เร็วเข้าช่วยคนสำคัญกว่า”“เจ้าค่ะ”พวกนางพาเขากลับไปอย่างลำบากด้วยเพราะบุรุษผู้นี้ทั้งตัวใหญ่และชุดที่สวมก็ดูมีราคาที่แพง เมื่อมาถึงกระท่อมแล้วไป๋ซูเม่ยไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหาชุดเปลี่ยนให้เขา นางจึงให้อาหยงลงเขาไปซื้อชุดบุรุษมาเปลี่ยนให้ ระหว่างนี้นางก็พยายามทำแผลให้เขา เช็ดตัวและห่มผ้าเอาไว้“ผ่านมาสองวันแล้วยังไม่ฟื้น คุณหนูเราคงจะไม่เสียเงินซื้อของไปเปล่า ๆ หรอกกระมังเจ้าคะ”“ไม่หรอก ลมหายใจเขานิ่งและคงที่ เป็นคนมีวิชายุทธ์สูง คงแค่พลาดท่าเท่านั้น ไม่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-29
  • ทวงแค้นข้ามกาลเวลา    ตอนที่ 4  ข้าไม่ใจร้ายกับคนป่วยหรอก

    พวกเขาเดินออกมาจากนั้นไม่นาน องครักษ์คนหนึ่งของบุรุษหนุ่มที่นางได้ช่วยเหลือเดินมาเชิญนางไปที่ห้อง“แม่นาง คุณชายขอเชิญท่านไปที่ห้องขอรับ”“อืม ได้สิ”“คุณหนูเจ้าคะ พวกเขา….”“ไม่มีอะไรพวกเขามิใช่ศัตรูหรอกไม่ต้องห่วง”“เจ้าค่ะ”ไป๋ซูเม่ยเดินตามองครักษ์หนุ่มไปทันที เมื่อเข้าไปในห้องที่เขานั่งอยู่และมีองครักษ์อีกคนที่คอยทำแผลให้เขาอยู่“แม่นาง คุณชายมีเรื่องจะคุยกับท่านขอรับ”“เขาพักอยู่ที่นี่ได้จนกว่าจะหาย พวกท่านไม่ต้องห่วงเขาหรอกเพียงแต่ช่วงที่พวกท่านมาพบเขาที่นี่อย่านำพาเรื่องเดือดร้อนมาให้พวกข้าก็พอแล้ว”“ท่านรู้!! ว่าพวกเรา…”“คุณชายของเจ้าบาดเจ็บเคลื่อนไหวยังไม่ได้ ไม่ต้องพูดถึงลงจากเขาเลย แม้แต่เดินลงจากเตียงก็ยังไม่มีแรงมากพอหรอก เจ้าคงไม่คิดว่าจะแบกเขาลงเขาไปได้หรอกกระมัง”“คุณหนู ท่านเข้าใจถูกต้องแล้วขอรับข้าน้อยจึงอยากขอร้องท่าน....”“ได้สิไม่มีปัญหา ข้าไม่ใจร้ายกับคนป่วยหรอก”“ส่วนเรื่องค่ารักษา…”“คุณหนูข้ามิได้เดือดร้อนเรื่องเงิน นางเป็นถึงบุตรสาวของหมอหลวงไป๋เหลียน ไม่ได้ต้องการเงินมากขนาดนั้นพวกท่านทำตามที่นางพูดก็พอ”“อาหยง…”บุรุษหนุ่มมองหน้านางในทันทีเมื่อทราบว่านางคื

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-29

บทล่าสุด

  • ทวงแค้นข้ามกาลเวลา    ตอนที่ 9 คนโง่เท่านั้นที่มองไม่ออก

    “เข้าใจผิดงั้นหรือ เจ้าหมายความว่าอย่างไรกัน”“ช่างเถอะ ๆ บางทีข้าอาจจะคิดมากไปก็ได้ เอาล่ะ ข้ายินดีต้อนรับท่านหากว่าท่านจะแวะเวียนไปเยี่ยมที่จวน”“จริงหรือ เจ้าไม่ไล่ข้าแล้วใช่หรือไม่”ซูเม่ยหันไปมองรอยยิ้มของคนข้าง ๆ ก็นึกสบายใจเมื่อได้พูดคุยกับเขาได้อีกครั้งโดยที่ไร้ความกดดันใด ๆ อาจจะเป็นนางที่คิดมากและกลัวเกินไปกับประสบการณ์ที่เจอกับเสวียนอวี่โดยลืมนึกไปว่าเขามิใช่เสวียนอวี่แต่เป็นบุรุษหนุ่มที่พยายามจะเป็นเพียงคนธรรมดาหนึ่งคนเท่านั้น“งั้นหรือ ข้าก็ผ่านมาทางนั้นเช่นกันทำไมถึงไม่พบเจ้า แต่ก็มาถึงเกือบพร้อม ๆ กันกับเจ้า ช่างน่าแปลกยิ่งนัก”“ท่านคงตามมาห่าง ๆ ก็เลยไม่ทันได้สังเกต”“คุณชายเจ้าคะ”ลู่หลินเดินมาอีกครั้ง ซูเม่ยลอบยิ้มอย่างรู้ทันนางจึงหันไปมองเว่ยเฟิงหรง นางมีประสบการณ์เรื่องเช่นนี้มาก่อนจึงเข้าใจความรู้สึกของลู่หลินได้ดี“คุณชายเว่ยเอาไว้พบกันใหม่ข้าขอตัวก่อน”“เอ่อ…ซูเม่ย ไปดื่มชาด้วยกันเถอะข้ายังคุยกับเจ้าไม่จบเลย มาเถอะมาเล่าต่อว่าหลังจากนั้นเจ้า….”“คุณ…ชาย…เอ่อ…”ลู่หลินเห็นเว่ยเฟิงหรงดึงแขนของซูเม่ยเดินไปที่รถม้าก็เริ่มโกรธและไม่พอใจมากขึ้นจนเดินหนีพวกเขาไปอีกทาง

  • ทวงแค้นข้ามกาลเวลา    ตอนที่ 8 ประตูเมืองหลวง

    ต้าหมินที่รอตรวจป้ายเพื่อจะเข้าเมืองหลวงเห็นนางเข้าก่อนเพราะเขาจำเสียงของนางได้จึงเดินลงมาจากรถม้าและมาทักทายนาง เมื่ออาหยงเห็นเขาก็นึกดีใจ “แล้วรถม้าของพวกเจ้าอยู่ที่ใดล่ะ ไปกับคุณชายก็ได้อย่างไรพวกเจ้าก็มาจากที่เดียวกับคุณชาย”“เอ่อ…คุณชายท่านนี้”“อ้อ ท่านผู้ตรวจการ ข้าเป็นองครักษ์ของซื่อจื่อ ท่านชายเว่ยแห่งหยางโจว”“อ้อ ที่แท้ก็คนของซื่อจื่อเหตุใดเจ้าไม่บอกข้าก่อนเล่าแม่นางเช่นนั้นก็….”“ไม่เป็นไรท่านผู้ตรวจการ พวกเราไม่รีบ”“คุณหนู”“คุณหนูไป๋”ไป๋ซูเม่ยหันไปยิ้มให้กับต้าหมินที่ก้มลงคำนับนาง “อย่าทำให้ท่านผู้ตรวจการลำบากใจกลับไปที่รถม้าได้แล้ว”“คุณหนูขอรับแต่ว่าท่านชายกับท่าน…”“ข้ามิได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับซื่อจื่อ ต้าหมินขอบคุณท่านมากที่หวังดีแต่ว่า….หากว่าข้าทำเช่นนี้แล้วชาวบ้านคนอื่น ที่ต้องรอเช่นข้าเล่า แล้วไหนจะเสียงวิจารณ์การทำงานของท่านผู้ตรวจการที่ยอมปล่อยให้พวกเราเข้าไปอีก อีกทั้งสายตาที่มองพวกเราอีก พวกเราเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดา พวกท่านเชิญก่อนเถอะพวกเรารอที่นี่ได้”“คุณหนู….ข้าขอโทษเจ้าค่ะข้าไม่ทันคิดเรื่องนี้”“อาหยงเจ้ากลับไปที่รถม้า แล้วเลิกก่อความวุ่นวายได้แล้ว”“

  • ทวงแค้นข้ามกาลเวลา    ตอนที่ 7 หากว่ามีวาสนา....

    เขาและนางยืนสบตากันครู่หนึ่ง แม้ว่าเขาจะแอบเห็นสายตาที่อ่อนโยนลงจากนางแต่ก็เพียงแค่แวบเดียวเท่านั้นและก็กลับไปเป็นนิ่งเรียบและเย็นชาเช่นเดิม“เช่นนั้นขอบใจเจ้ามากสำหรับการดูแลข้าตลอดเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ขอให้เจ้า…โชคดี”“ท่านเองก็เช่นกัน ลาก่อน”เว่ยเฟิงหรงเดินลงจากเนินเขาที่ใช้ฝึกวิชาและมาลาอาหยงและเดินทางลงจากเขาลั่วซางทันทีโดยที่ไป๋ซูเม่ยมิได้ตามลงมาส่ง นางยังคงยืนอยู่ที่ลานฝึกและมองพวกเขาเดินลงจากเขาไปอย่างเงียบ ๆ“คุณชายเว่ย ท่านเป็นผู้ที่ไม่ควรเข้ามายุ่งเกี่ยวกับความแค้นนี้ ตัวข้ามิอาจไว้ใจผู้ใดได้เหมือนครั้งที่ผ่าน ๆ มาอีกต่อไปแล้ว”เว่ยเฟิงหรงหันหลังมามองนางที่ยืนนิ่งอยู่บนเชิงเขา นางเองก็ยังคงมองมาที่เขาเช่นกัน สองคนที่สบตากันแม้ว่าจะไกลแต่เขาคิดไม่ผิด เขาเห็นว่านางกำลังยิ้มให้เขาอยู่เป็นแน่ “หากว่ามีวาสนาคงได้พบกันอีกในวันข้างหน้า ถ้าได้พบเจ้าอีกครั้งข้าจะไม่ยอมปล่อยเจ้าไปเหมือนดังเช่นวันนี้เป็นแน่”“คุณชาย…”ต้าหมินเรียกเขาอีกครั้งเมื่อเห็นว่าท่านชายเว่ยยังคงยืนอยู่ที่เดิมเขาจึงหันมาบอกต้าหมินก่อนจะเดินนำไปก่อน“รีบไปเถอะ”ระยะทางที่ไป๋ซูเม่ยเคยบอกต้าหมินเอาไว้ทำให้พวกเ

  • ทวงแค้นข้ามกาลเวลา    ตอนที่ 6 นี่ข้า…..เป็นอะไรไป

    นางรู้สึกวาบหวิวทั้งที่ใบหูและใบหน้าที่เริ่มร้อนผ่าวขึ้นในทุก ๆ ช่วงเวลาที่เขาพูด“เคล้ง!!”ดาบในมือนางร่วงลงกับพื้นเมื่อเขาพูดจนจบ นางตกใจและรีบลืมตาขึ้นแต่กลับพบเพียงความว่างเปล่า เว่ยเฟิงหรงเดินกลับไปแล้วเมื่อเขาแอบหอมแก้มนางนางค่อย ๆ ใช้มือยกขึ้นมาลูบที่พวงแก้มของตนเองที่ถูกเขาฝังจมูกลงไปเมื่อครู่นี้ สัมผัสนี้แตกต่างกับตอนที่ถูกเสวียนอวี่จับเมื่อชาติที่แล้วมันทั้งวาบหวามและ….อบอุ่นอย่างน่าประหลาด“นี่ข้า…..เป็นอะไรไป”นางกำลังหวั่นไหวให้บุรุษอีกครั้งหนึ่งซึ่งนางได้เคยปฏิญาณตนเอาไว้แล้วว่าเกิดในชาตินี้นางจะไม่มีทางหวั่นไหวให้กับบุรุษอีก แต่ว่า…..เว่ยเฟิงหรงผู้นี้ช่างแตกต่างกับองค์ชายเสวียนอวี่ที่ทั้งบ้าคลั่งและก้าวร้าวผู้นั้นชาติก่อนของอิ่นหลง“ร้องดังกว่านี้สิอิ่นหลง เจ้าไม่มีความสุขงั้นหรือ”“อ๊าา องค์ชาย อย่ากัดเพคะ”“อ๊าา เสียวมากหรือไม่เหตุใดเจ้า…อาา อิ่นหลง”“องค์ชายเพคะ อ่อนโยนหน่อย”เสวียนอวี่ที่ดูดดึงยอดปทุมของนางจนช้ำคาปากและอีกข้างกำลังมีเลือดไหลออกมาจากการกัดของเขา ไหล่ของนางเต็มไปด้วยรอยฟันที่ถูกเขากัดเม้ม แรงกระแทกที่ราวกับโกรธผู้ใดมายังคงไม่ลดลง แม้ว่านางจะรู้สึกดี

  • ทวงแค้นข้ามกาลเวลา    ตอนที่ 5 ข้าไม่ต้องการใช้ดาบของผู้อื่น

    “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับท่าน”“เหตุใดเจ้าถึงเย็นชาเช่นนี้ แม้ว่าเจ้าจะชำนาญทั้งหมดนั่นและยังมีวิชาแพทย์ติดตัวแต่ก็น่าจะทำตัวเป็นมิตรมากกว่านี้หน่อยก็ได้กระมัง ข้าก็มิใช่ศัตรูของเจ้าเสียเมื่อไหร่กันจริงหรือไม่”เขามองไปที่มือของนางที่ถือเพียงกิ่งไม้ที่เอาไว้ใช้แทนดาบเท่านั้น เขามองไปยังใบหน้าที่หันหลบเขาไปอีกทางหนึ่งเพราะคำพูดนั้น ไป๋ซูเม่ยในยามนี้ไม่อาจไว้ใจผู้ใดได้เพราะในชาติที่แล้วของนางตอนที่ยังเป็นอิ่นหลงนางถูกคนที่นางรักจนแทบจะถวายชีวิตให้เขาได้...ทรยศนางอย่างเลือดเย็น“รับนี่ไปสิ”“ท่านหมายความว่าอย่างไร”นางมองไปยังมือที่ยื่นดาบมาให้ตรงหน้า ดาบที่มีตราสัญลักษณ์ของเขาและสกุลเว่ยอยู่“ดาบของข้า มอบให้เจ้า”“ข้าไม่ต้องการใช้ดาบของผู้อื่น”“เจ้าเข้าใจข้าผิด ข้ามอบให้เจ้าเพียงเพื่อฝึกในเวลานี้เท่านั้น แต่ข้าจะสั่งทำดาบให้เจ้าใหม่แต่ในเมื่อตอนนี้เจ้าใช้เจ้านั่น…แทนการใช้ดาบเจ้าไม่มีทางรู้ได้เลยว่าวิชาที่แท้จริงจะต้องกำหนดปราณและใช้แรงเท่าใด เจ้าลองดูก่อนก็ได้”สายตาที่แน่วนิ่งของเขาทำให้ไป๋ซูเม่ยรู้สึกว่าเขาแตกต่างกับเสวียนอวี่ เขาดูไม่มีพิษไม่มีภัยแต่เพราะนางก็คิดเช่นนี้กับองค์ชายเสว

  • ทวงแค้นข้ามกาลเวลา    ตอนที่ 4  ข้าไม่ใจร้ายกับคนป่วยหรอก

    พวกเขาเดินออกมาจากนั้นไม่นาน องครักษ์คนหนึ่งของบุรุษหนุ่มที่นางได้ช่วยเหลือเดินมาเชิญนางไปที่ห้อง“แม่นาง คุณชายขอเชิญท่านไปที่ห้องขอรับ”“อืม ได้สิ”“คุณหนูเจ้าคะ พวกเขา….”“ไม่มีอะไรพวกเขามิใช่ศัตรูหรอกไม่ต้องห่วง”“เจ้าค่ะ”ไป๋ซูเม่ยเดินตามองครักษ์หนุ่มไปทันที เมื่อเข้าไปในห้องที่เขานั่งอยู่และมีองครักษ์อีกคนที่คอยทำแผลให้เขาอยู่“แม่นาง คุณชายมีเรื่องจะคุยกับท่านขอรับ”“เขาพักอยู่ที่นี่ได้จนกว่าจะหาย พวกท่านไม่ต้องห่วงเขาหรอกเพียงแต่ช่วงที่พวกท่านมาพบเขาที่นี่อย่านำพาเรื่องเดือดร้อนมาให้พวกข้าก็พอแล้ว”“ท่านรู้!! ว่าพวกเรา…”“คุณชายของเจ้าบาดเจ็บเคลื่อนไหวยังไม่ได้ ไม่ต้องพูดถึงลงจากเขาเลย แม้แต่เดินลงจากเตียงก็ยังไม่มีแรงมากพอหรอก เจ้าคงไม่คิดว่าจะแบกเขาลงเขาไปได้หรอกกระมัง”“คุณหนู ท่านเข้าใจถูกต้องแล้วขอรับข้าน้อยจึงอยากขอร้องท่าน....”“ได้สิไม่มีปัญหา ข้าไม่ใจร้ายกับคนป่วยหรอก”“ส่วนเรื่องค่ารักษา…”“คุณหนูข้ามิได้เดือดร้อนเรื่องเงิน นางเป็นถึงบุตรสาวของหมอหลวงไป๋เหลียน ไม่ได้ต้องการเงินมากขนาดนั้นพวกท่านทำตามที่นางพูดก็พอ”“อาหยง…”บุรุษหนุ่มมองหน้านางในทันทีเมื่อทราบว่านางคื

  • ทวงแค้นข้ามกาลเวลา    ตอนที่ 3  บุรุษแปลกหน้า

    อาหยงเมื่อรู้ว่ามิใช่สัตว์ร้ายก็กล้าที่จะวิ่งเข้าไปหาคุณหนูตามคำสั่ง พวกนางพบว่าเป็นเพียงบุรุษหนุ่มคนหนึ่งที่ราวกับวิ่งหนีจากการถูกตามล่ามาร่างกายบาดเจ็บสะบักสะบอมจนแทบจะจำหน้าเดิมไม่ได้ ผมเผ้ารุงรังแต่หากดูจากการแต่งตัวและเครื่องประดับ มองดูก็พอจะรู้ว่าฐานะเขาคงไม่ธรรมดา“เหตุใดคนผู้นี้….ว๊าย!! คุณหนูเขาจะทำร้ายท่าน”ร่างหนาล้มลงที่อกไป๋ซูเม่ยทันทีเมื่อนางดึงปลายลูกธนูออกมาจากอกของเขา “เขาไม่มีแรงทำร้ายผู้ใดหรอก ดูท่าคงจะพยายามดึงลูกธนูนี้ออกด้วยตัวเองแต่คงหมดแรงเสียก่อน เจ้ามานี่มาช่วยข้าพาเขากลับไปที่กระท่อม”“คุณหนู…แต่ว่า…”“เร็วเข้าช่วยคนสำคัญกว่า”“เจ้าค่ะ”พวกนางพาเขากลับไปอย่างลำบากด้วยเพราะบุรุษผู้นี้ทั้งตัวใหญ่และชุดที่สวมก็ดูมีราคาที่แพง เมื่อมาถึงกระท่อมแล้วไป๋ซูเม่ยไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหาชุดเปลี่ยนให้เขา นางจึงให้อาหยงลงเขาไปซื้อชุดบุรุษมาเปลี่ยนให้ ระหว่างนี้นางก็พยายามทำแผลให้เขา เช็ดตัวและห่มผ้าเอาไว้“ผ่านมาสองวันแล้วยังไม่ฟื้น คุณหนูเราคงจะไม่เสียเงินซื้อของไปเปล่า ๆ หรอกกระมังเจ้าคะ”“ไม่หรอก ลมหายใจเขานิ่งและคงที่ เป็นคนมีวิชายุทธ์สูง คงแค่พลาดท่าเท่านั้น ไม่

  • ทวงแค้นข้ามกาลเวลา    ตอนที่ 2 ชาตินี้ก็ฝากด้วยนะ

    ไป๋ซูเม่ยเดินออกมาจากกระท่อม สายลมแผ่วเบาที่พัดมายังร่างของสตรีที่นางพึ่งจะมาสวมร่างของนางให้ความรู้สึกราวกับไม่ใช่ตัวเอง เมื่อเดินไปถึงขอบเนินเขาและเริ่มหลับตาลง ค่อย ๆ กำหนดลมหายใจและเรียกพลังปราณออกมาและปล่อยออกมา“เฮ้อ…คงต้องเร่งฟื้นฟูสินะ ร่างนี้แม้ว่าจะมีความรู้มากมายเกี่ยวกับยาแต่ไร้ซึ่งวรยุทธ์ ยังไม่ต้องนับไปถึงการแก้แค้นเลย แค่เดินทางไปเมืองหลวงก็คงเกือบตายแล้ว”ไป๋ซูเม่ยเริ่มนั่งกำหนดลมปราณและฝึกวิชาทบทวนวรยุทธ์อยู่ราว ๆ เกือบสองชั่วยามจนเริ่มปรับสภาพร่างกายเข้ากับร่างใหม่ได้มากขึ้น นางสามารถระเบิดหินที่อยู่ใกล้ ๆ ได้และเริ่มใช้กิ่งไม้มาฝึกวิชาดาบจนสำเร็จกระบวนท่าไม้ตายที่นางเคยฝึกมาก่อน“ตูม!!!”ก้อนหินตรงหน้าและกิ่งไผ่ที่ถูกตัดขาดด้วยกิ่งไม้ในมือนางหลังจากที่นางใช้วิชาขั้นสุดท้ายกระเด็นไปทุกทิศทุกทาง “พลังปราณและวิชายุทธ์ข้ากลับคืนมาหมดแล้ว แต่ก็ยังเหนื่อยง่ายอยู่ สตรีผู้นี้อ่อนแอถึงเพียงนี้เชียวหรือเหตุใดจึงได้เหนื่อยง่ายถึงเพียงนี้กันนะ”นางเดินกลับไปยังลำธารใกล้ ๆ เมื่อก้มหน้าลงไปส่องดูเงาที่สะท้อนในน้ำจึงได้เห็นชัด ๆ ใบหน้าของไป๋ซูเม่ยงดงามไม่มีที่ติ แต่ทว่า….“แผลเป็

  • ทวงแค้นข้ามกาลเวลา    ตอนที่ 1 หวนคืนอีกครา....

    “หากข้ามีโอกาสหวนคืนอีกครั้ง ข้าจะไม่มีวันให้อภัยท่าน!!”เขาลั่วซาง นอกเมืองหยางโจว“เฮือก….แคก แคก….ที่นี่….คือที่ใด”“คุณหนู!! ท่านอยู่ที่นี่เองหรือเจ้าคะ ตายจริง!! ท่านถูกงูกัดหรือเจ้าคะ”“งูกัด? คุณหนูงั้นหรือ เจ้าเป็นผู้ใดกัน”“คุณหนูเจ้าคะ นี่ข้าเองอาหยงอย่างไรเจ้าคะ คุณหนูท่านช่างใจแข็งนัก แม้ว่าท่านจะมีปากเสียงกับนายท่านแต่ก็ไม่ควรใจร้อนหนีมาอยู่ในป่านี้เพียงลำพังนะเจ้าคะ ข้าแอบหนีตามท่านออกมาเจ้าค่ะ นึกไม่ถึงว่าท่านจะมีสภาพเป็นเช่นนี้ นี่พึ่งจะสิบวันเองที่ท่าน….”“โอ๊ย!! อย่าพึ่งพูด พยุงข้าก่อนแล้วค่อย ๆ เล่า”“ไป๋ซูเม่ย” รู้สึกว่าขานางได้รับบาดเจ็บแต่ในตอนนี้เริ่มดีขึ้นมาแล้ว แม้ว่าจะยังจับต้นสายปลายเหตุไม่ได้ แต่ดูจากสิ่งที่อยู่ตรงหน้าในยามนี้ …..นางทำสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้“อิ่นหลง ยอมแพ้เสียเถอะเจ้าไม่มีทางรอดแล้ว”“พวกเจ้าเคยเป็นคนของข้า!!….เหตุใด…..”“ขออภัย เงินผู้ใดให้มาข้าก็รับใช้คนผู้นั้น “อิ่นหลง” ต้องโทษที่เจ้ารักคนที่ไม่ควรรักจึงทำให้เกิดเรื่อง หากว่าเจ้ายังอยู่ องค์ชายสี่ไม่มีทางมีความสุข”“แต่ข้า!! ข้าเป็นคนช่วยชีวิตเขา เป็นองครักษ์ข้างกายที่ซื่อสัตย์ของเขามาโด

DMCA.com Protection Status