“อืม ใช่ เราก็เลยเลือกที่จะทำงานที่นี่ที่เดียวน่ะ เราว่าจะทำไปสักพักนึง แล้วงานนี้เลิกประมาณเที่ยงคืนด้วย เลิกไวกว่าตอนเป็นพนักงานเสิร์ฟด้วย” เธอพูดไปก็ยิ้มไปตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเจอใครใจดีเท่าเจ้าของผับที่เธอทำงานอยู่มาก่อนเลย ทั้งๆที่เขาก็เป็นแค่เด็กหนุ่มที่อายุก็คงจะประมาณเท่าเธอแต่เขากลับบริหารกิจการงานเก่ง มีลูกค้ามากมายเข้ามาใช้บริการผับทุกวัน“แล้วร่างกายจะไหวมั้ย..” เชอรีนที่เป็นห่วงในตัวเพื่อนสาวรีบเอ่ยถามตัวเธอก็แค่นี้แล้วยังต้องทำงานจนดึกดื่นอีกแล้วแบบนี้โรคภัยไข้เจ็บจะไม่ถามหาเอาเหรอ“ต้องไหวสิเราทำได้อยู่แล้ว” วิเวียนยิ้มหวานมองตาเพื่อนรัก เรื่องนอนดึกแบบนี้เธอชินแล้ว ร่างกายรวมไปถึงสภาพจิตใจของเธอมันโอเคมากแต่ก็นะเธอรู้ว่าเพื่อนเป็นห่วง มือเล็กกอบกุมมือเชอรีนจะบอกเธออย่างไรดีว่าไม่ต้องเป็นห่วง“ไม่ต้องเป็นห่วงเรานะ ถ้าเราไม่ไหวเราค่อยลาออก โอเคมั้ย”“โอเค..งั้นสู้ๆแต่อย่าหักโหมจนเกินไปนะ” ได้ยินแบบนั้นเชอรีนก็ค่อยใจชื้นขึ้นมาหน่อย เธอกับไอรีนและเพียวจะคอยซัพพอร์ตวิเวียนอยู่ตรงนี้เสมอขอแค่มีอะไรเธอบอกกันเท่านั้นพวกเธอก็พร้อมที่จะช่วยเหลือเพื่อนคนนี้ทันที วิเวียนพยักหน้าส่งย
“น้องเขามาจีบแกเหรอ”“จะบ้าเหรอ! ไอ้เด็กไม่มีมารยาทแบบนั้นฉันไม่มีทางชอบมันแน่!!” ไอรีนรีบหันขวับมองจ้องหน้าเพื่อนสนิททันที เห็นหน้าเธอแบบนี้เธอก็เลือกนะแม้ว่าไอ้เด็กนั่นมันจะหล่อมากก็ตามแต่เธอก็ไม่คิดที่จะเอาผู้ชายแบบนั้นมาเป็นคนรักหรอกนะแล้วแถมตอนนี้เขาและเธอได้กลายมาเป็นพี่น้องกันด้วยมันไม่มีทางเป็นอย่างอื่นได้เลยและเธอยืนยันได้เลยว่าไม่เคยมีสักครั้งที่อยากจะเป็นพี่น้องกับผู้ชายแบบนั้น...“ว่าแต่น้องเขาอยู่โรงเรียนเดียวกันกับแกเหรอยัยเชอ” เพียวที่ได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะออกมาแล้วหันไปถามทางด้านเชอรีนบ้างเพราะเมื่อครู่เธอก็เห็นน้องคนนั้นพูดคุยกับเชอรีนอยู่เหมือนกัน“อืมใช่ รุ่นน้องที่โรงเรียนเก่าน่ะ”“แล้วสรุปคุยอะไรกัน จีบกันชัวร์ มีให้ของด้วยเนี่ย” เพียวเห็นของที่อยู่ในมือไอรีนเธอจึงถามย้ำอีกครั้งก็คนมันต้องการที่จะจับผิดเพื่อนให้ได้นี่เนอะ สายตาเจ้าเล่ห์ของเพียวทำเอาไอรีนมองออกทันทีเธอถอนหายใจออกแล้วเริ่มเล่าเรื่องครอบครัวตัวเองให้ฟังอีกครั้ง“จำที่ฉันเคยเล่าเรื่องครอบครัวได้มั้ย เนี่ยแหละลูกติดของแม่เลี้ยงฉันเอง เด็กนั่นอายุห่างกับฉัน 2 ปีแต่ว่ามันไม่เคยเรียกฉันว่าพี่เลยแม้แต่ครั
มือทั้งสองข้างยกขึ้นเพื่อเป็นเชิงว่าเขาจะไม่เข้าไปใกล้เธอมากไปกว่านี้ รอยยิ้มที่ดูจริงใจยิ้มขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เชอรีนมองไปยังรุ่นน้องคนนั้นเขารู้ได้อย่างไรว่าเธอกำลังกลัว กลัวในเรื่องนั้น กลัวว่าเขาอาจจะพูดอะไรที่ไม่ดีออกมา“น้องรู้เหรอว่าพี่กำลังคิดอะไรอยู่” เธอเอ่ยถามไปยังหนุ่มรุ่นน้องและยังไม่ทันที่เธอจะพูดอะไรต่อเสียงของผู้ชายก็ดังขึ้นจากทางด้านข้างของเธอ“เฮ้ยไอ้เร็นไปเร็ว!” เสียงทุ้มตะโกนส่งเสียงมาแต่ไกลเมื่อเห็นว่าเพื่อนรักของพวกเขากำลังพูดคุยอยู่กับหญิงสาวที่หน้าตาสะสวยแต่ทว่าตอนนี้มันไม่ใช่เวลาที่จะมายืนคุยไง ตอนนี้มันเป็นเวลาที่จะต้องรีบไปเข้าแถวรับน้องขืนไปสายมีหวังได้โดนทำโทษหมู่แน่ชายหนุ่มรุ่นน้องเปรยตามองเพื่อนเพียงนิดก่อนที่จะหันกลับมาพูดคุยกับพี่สาวคนสวยต่ออีกสักหน่อยความจริงอยากคุยให้นานมากกว่านี้แต่เจอเธอที่ไรก็เหมือนจะมีอุปสรรคจึงทำให้ยังไม่มีโอกาสได้พูดคุยกันอย่างเป็นทางการสักที“ผมรู้ครับ เรื่องวันนั้นผมลืมมันไปหมดแล้วพี่เชอรีนไว้ใจผมได้ มันจะไม่หลุดออกมาจากปากผมแน่นอนแล้วไว้ค่อยเจอกันใหม่นะครับ”เมื่อพูดบอกพี่สาวคนสวยเสร็จเขาก็สาวเท้าเดินเข้าไปหากลุ่มเพื่อนทั
ณ ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เด็กสาวหน้าตาน่ารักผิวพรรณสดใสเธออยู่ในชุดเครื่องแบบชั้นมัธยมปลายของโรงเรียนเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งข้างกายของเธอนั้นมีชายหนุ่มรูปร่างหน้าตาดีกำลังนั่งเตรียมพร้อมที่จะรับฟังคำพูดของเธอหลังจากที่เขาพึ่งจะพูดคำว่า ‘เลิก ’ออกไป “พี่เวหา~ นี่พี่คิดจะทิ้งพิงค์กี้ใช่มั้ยคะ” เด็กสาวชั้นมัธยมปลายพูดขึ้นด้วยสีหน้าที่อยากจะเอาเรื่องชายหนุ่ม มือเรียวเล็กยกขึ้นกอดอกแน่นซึ่งท่าทางรวมไปถึงน้ำเสียงเล็กแหลมของเธอทำให้ชายหนุ่มรีบเบือนหน้าหันเมินเธอทันที เวหานั่งนิ่งพลางหันมองไปทางอื่นแต่แล้วสายตาคมก็เหลือบไปเห็นเข้ากับหญิงสาวคนหนึ่งเข้าอย่างจัง เธอคนนี้สวยหวานใบหน้าสดใสน่ารัก รูปร่างกำลังดีมองไปมองมาก็เหมือนกับว่าเขาคุ้นๆและอาจจะรู้จักเธอ “พี่เวหามองอะไรของพี่!!” พิงค์กี้ที่มองไปตามสายตาของเวหาก็เห็นเข้ากับเธอคนนั้นผู้หญิงที่เวหากำลังจ้องมองอยู่ไม่รอช้าหญิงสาวเริ่มเกิดอาการหึงหวงจนเลือดลมในกายพลุ่งพล่าน มือเล็กจับเข้าที่ท่อนแขนกำยำพลางดึงรั้งให้ชายหนุ่มรุ่นพี่หันกลับมามองที่เธอ “อะไรของเธอวะ!!” หนุ่มมัธยมปลายที่โดนดึงรั้งร่างกายก็เริ่มระงับสติอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ไม่อ
“ฉันอยากให้เธอช่วยปลอมเป็นว่าที่คู่หมั้นให้ฉันหน่อย” เวหาพูดขึ้นในขณะที่พาร่างบางเดินเข้าไปหาพิงค์กี้ที่กำลังยืนกำหมัดแน่นอยู่ยังบริเวณที่เดิมและในขณะที่พวกเขากำลังพูดคุยถึงเรื่องสำคัญกันอยู่นั้น เพลงที่ใช้สำหรับโปรโมทร้านค้าก็ดังขึ้น จึงทำให้เชอรีนไม่ได้ยินคำพูดของเวหาเลยสักนิด“นายพูดว่าไงนะ!” เชอรีนเอียงคอถามชายหนุ่มอีกครั้งเพราะเธอไม่ได้ยินในสิ่งที่เขาพูดในก่อนหน้านั้นอีกทั้งในตอนนี้เสียงเพลงก็เปิดดังเป็นอย่างมาก เวหาที่ไม่มีเวลาได้อธิบายบอกเธออีกก็สาวเท้าพาเชอรีนมาหยุดยืนต่อหน้ารุ่นน้องสาว“นี่ไงว่าที่คู่หมั้นของพี่!” เวหาเริ่มแนะนำหญิงสาวข้างกายให้พิงค์กี้ได้รู้จักโดยการบอกออกไปว่าเธอคนนี้นี่แหละคือว่าที่คู่หมั้นของเขา ชายหนุ่มตัวร้ายพูดพร้อมกับมองใบหน้าสวยหวานของเธอข้างกายด้วยแววตาหวานซึ้งความรู้สึกแปลกๆเริ่มแทรกซึมเข้ามาอย่างบอกไม่ถูกเขายังคงรู้สึกใจเต้นแรงทุกครั้งที่ได้มองสบตาเธอคนนี้~“ห๊ะ ดะ เดี๋ยวนะ! ว่าที่คู่หมั้นอะไรของนาย” ร่างบางเบิกตากว้างด้วยความตกใจที่อยู่ดีๆเธอก็กลายเป็นว่าที่คู่หมั้นของใครก็ไม่รู้ นี่มันชักจะงงไปหมดแล้วนะหรือว่าผู้ชายคนนี้อาจจะจำเธอผิด เชอรีนไม่ร
เวหาปล่อยข้อมือบางให้เป็นอิสระพร้อมกับหยิบหมวกกันน็อคขึ้นมาสวมเข้าที่ศีรษะของตัวเขาเองแล้วขึ้นไปคร่อมบนรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์คันใหญ่สีดำของตัวเอง“เราเป็นเพื่อนกัน ขึ้นมาสิเดี๋ยวไปส่งที่บ้าน” ชายหนุ่มเอ่ยชวนหญิงสาวให้ขึ้นไปนั่งบนรถคู่ใจทำเอาเชอรีนรีบปฏิเสธเสียงแข็งมือไม้โบกสะบัดพัลวันเพราะเธอไม่เคยนั่งรถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่แบบนี้มาก่อนอีกทั้งเธอก็ไม่ได้สนิทถึงขั้นที่ไปไหนมาไหนด้วยกันได้“ไม่เป็นไรเรากลับเองได้” เชอรีนยิ้มแห้งอย่างไม่รู้จะพูดปฏิเสธเช่นไรเธอไม่สะดวกที่จะนั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์คันใหญ่แบบนี้อีกทั้งชุดกระโปรงนักเรียนที่เธอสวมใส่นั่นก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เธอไม่กล้าที่จะนั่งรถไปกับเขาร่างบางหลุบตามองลงไปยังกระโปรงนักเรียนของตัวเองแล้วจึงหันมองไปทางอื่นคิดๆๆว่าพูดปฏิเสธอย่างไรดี เวหาที่มองดูการกระทำของเธออยู่จึงได้เปิดกระจกหมวกกันน็อคขึ้น“ใส่กางเกงซับในหรือเปล่า” คำพูดของเขาทำเอาเชอรีนตะลึงดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นไม่คิดว่าเขาจะพูดอะไรแบบนี้ออกมา เชอรีนพยักหน้าด้วยท่าทางเลิ่กลั่กยกมือขึ้นเกาหัวอย่างเหนียมอาย“ห๊ะ! ก็ใส่”“งั้นก็ขึ้นมาเถอะน่า ถือว่าตอบแทนที่เธอช่วยฉัน” ชาย
เชอรีนขมวดคิ้วขึ้นพร้อมกับสาวเท้าก้าวถอยไปข้างหลัง ความรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เท้าเรียวเล็กถอยไปเรื่อยๆจนสุดท้ายมาหยุดยืนอยู่ตรงบริเวณโซฟาใจกลางห้องนั่งเล่น“อะ..” ร่างบางล้มตัวลงไปบนโซฟาโดยที่ทีมือหนาของเวหารองรับร่างกายของเธอเอาไว้หญิงสาวที่กลัวว่าตัวเองอาจจะได้รับอันตรายก็หลับตานิ่งอยู่แบบนั้นจนเมื่อเธอได้ยินเสียงรวมไปถึงกลิ่นกายของเขาจึงทำให้เธอเผลอลืมตาขึ้นมอง“หึ~ เชิญนั่งได้ตามสบาย ฉันไปอาบน้ำก่อน” เวหายิ้มมุมปากไปกับความน่ารักน่าเอ็นดูของหญิงสาวร่วมชั้นเรียนพลางปล่อยร่างกายเธอให้เป็นอิสระเตรียมพร้อมที่จะก้าวเท้าเดินออกไป“ดะ..เดี๋ยวสิ เราไม่นั่ง เราอยากออกไปจากห้องนาย” เชอรีนรีบตะโกนตามหลังเขาไปติดๆทำร่างแกร่งหันกลับมาแล้วโยนผ้าขนหนูของตัวเองใส่หัวเชอรีน“เอ้านี่! เอาไปเช็ดตัวให้แห้งหรือว่าอยากจะอาบน้ำที่นี่ด้วยมั้ย ชุดของฉันก็มีเยอะแยะเลือกใส่ได้ตามสบาย” เวหาพูดทิ้งท้ายก่อนที่จะเดินหายเข้าไปในห้องน้ำหรูของตัวเอง เสียงเล็กตะโกนตามหลังอย่างคนที่ดูจะหัวเสียเล็กน้อย ก็นะผ้าเช็ดตัวเลยนะที่เขาโยนมาใส่หัวเธอแล้วจะไม่ให้เธอหงุดหงิดได้อย่างไร“ฮึ่ย~ ขอบใจแต่ไม่เป
สำหรับเรื่องความรักและแฟนนั้นเธอไม่เคยมีความคิดนี้อยู่ในหัวเลย เธอยังคงอยากเที่ยวเล่นและใช้ชีวิตสนุกสนานไปกับเพื่อนและครอบครัว“อีกนาน พี่ยังไม่คิดเรื่องนี้หรอกขอตั้งใจเรียนก่อนจะดีกว่า เราน่ะ ไปนอนได้แล้ว ได้ข่าวจากพี่แชมเปญมาว่าวันพรุ่งนี้มีสอบเก็บคะแนนนี่ ได้อ่านหนังสือบ้างหรือยัง บอกมานะ” เชอรีนมองหน้าชะเอมอย่างจับผิดได้ข่าวมาจากไลน์กลุ่มของพวกเธอทั้งสามสาวว่าในวันพรุ่งนี้น้องสาวคนเล็กของพวกเขาจะมีสอบเก็บคะแนน“เอิ่มแบบเอิ่ม ก็..ยังเลยค่ะ ขอตัวกลับห้องไปอ่านหนังสือก่อนนะคะ” ชะเอมยิ้มแห้งก่อนที่จะเปิดประตูห้องของพี่สาวแล้วสาวเท้าเดินออกไปอย่างไวเช้าวันต่อมาหลังจากที่คนขับรถได้ไปส่งชะเอมยังโรงเรียนหญิงล้วนของเธอแล้ว เขาก็ได้ขับมาส่งเชอรีนที่ยังโรงเรียนของเธอและก่อนที่จะลงจากรถ เธอก็ไม่ลืมที่จะกล่าวคำขอบคุณไปยังคุณลุงคนขับรถของบ้านตัวเอง“ขอบคุณนะคะ” เธอส่งยิ้มที่ดูจริงใจให้กับคุณลุงคนขับแล้วเปิดประตูรถให้กว้าง สองเท้าเล็กลงจากรถเป็นที่เรียบร้อยพลางสาวเท้าเดินไปยังแถวของห้องตัวเองและเมื่อเข้าแถวหน้าเสาธงเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เด็กนักเรียนต่างก็พากันขึ้นยังห้องใครห้องมันห้อง ม.6
มือทั้งสองข้างยกขึ้นเพื่อเป็นเชิงว่าเขาจะไม่เข้าไปใกล้เธอมากไปกว่านี้ รอยยิ้มที่ดูจริงใจยิ้มขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เชอรีนมองไปยังรุ่นน้องคนนั้นเขารู้ได้อย่างไรว่าเธอกำลังกลัว กลัวในเรื่องนั้น กลัวว่าเขาอาจจะพูดอะไรที่ไม่ดีออกมา“น้องรู้เหรอว่าพี่กำลังคิดอะไรอยู่” เธอเอ่ยถามไปยังหนุ่มรุ่นน้องและยังไม่ทันที่เธอจะพูดอะไรต่อเสียงของผู้ชายก็ดังขึ้นจากทางด้านข้างของเธอ“เฮ้ยไอ้เร็นไปเร็ว!” เสียงทุ้มตะโกนส่งเสียงมาแต่ไกลเมื่อเห็นว่าเพื่อนรักของพวกเขากำลังพูดคุยอยู่กับหญิงสาวที่หน้าตาสะสวยแต่ทว่าตอนนี้มันไม่ใช่เวลาที่จะมายืนคุยไง ตอนนี้มันเป็นเวลาที่จะต้องรีบไปเข้าแถวรับน้องขืนไปสายมีหวังได้โดนทำโทษหมู่แน่ชายหนุ่มรุ่นน้องเปรยตามองเพื่อนเพียงนิดก่อนที่จะหันกลับมาพูดคุยกับพี่สาวคนสวยต่ออีกสักหน่อยความจริงอยากคุยให้นานมากกว่านี้แต่เจอเธอที่ไรก็เหมือนจะมีอุปสรรคจึงทำให้ยังไม่มีโอกาสได้พูดคุยกันอย่างเป็นทางการสักที“ผมรู้ครับ เรื่องวันนั้นผมลืมมันไปหมดแล้วพี่เชอรีนไว้ใจผมได้ มันจะไม่หลุดออกมาจากปากผมแน่นอนแล้วไว้ค่อยเจอกันใหม่นะครับ”เมื่อพูดบอกพี่สาวคนสวยเสร็จเขาก็สาวเท้าเดินเข้าไปหากลุ่มเพื่อนทั
“น้องเขามาจีบแกเหรอ”“จะบ้าเหรอ! ไอ้เด็กไม่มีมารยาทแบบนั้นฉันไม่มีทางชอบมันแน่!!” ไอรีนรีบหันขวับมองจ้องหน้าเพื่อนสนิททันที เห็นหน้าเธอแบบนี้เธอก็เลือกนะแม้ว่าไอ้เด็กนั่นมันจะหล่อมากก็ตามแต่เธอก็ไม่คิดที่จะเอาผู้ชายแบบนั้นมาเป็นคนรักหรอกนะแล้วแถมตอนนี้เขาและเธอได้กลายมาเป็นพี่น้องกันด้วยมันไม่มีทางเป็นอย่างอื่นได้เลยและเธอยืนยันได้เลยว่าไม่เคยมีสักครั้งที่อยากจะเป็นพี่น้องกับผู้ชายแบบนั้น...“ว่าแต่น้องเขาอยู่โรงเรียนเดียวกันกับแกเหรอยัยเชอ” เพียวที่ได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะออกมาแล้วหันไปถามทางด้านเชอรีนบ้างเพราะเมื่อครู่เธอก็เห็นน้องคนนั้นพูดคุยกับเชอรีนอยู่เหมือนกัน“อืมใช่ รุ่นน้องที่โรงเรียนเก่าน่ะ”“แล้วสรุปคุยอะไรกัน จีบกันชัวร์ มีให้ของด้วยเนี่ย” เพียวเห็นของที่อยู่ในมือไอรีนเธอจึงถามย้ำอีกครั้งก็คนมันต้องการที่จะจับผิดเพื่อนให้ได้นี่เนอะ สายตาเจ้าเล่ห์ของเพียวทำเอาไอรีนมองออกทันทีเธอถอนหายใจออกแล้วเริ่มเล่าเรื่องครอบครัวตัวเองให้ฟังอีกครั้ง“จำที่ฉันเคยเล่าเรื่องครอบครัวได้มั้ย เนี่ยแหละลูกติดของแม่เลี้ยงฉันเอง เด็กนั่นอายุห่างกับฉัน 2 ปีแต่ว่ามันไม่เคยเรียกฉันว่าพี่เลยแม้แต่ครั
“อืม ใช่ เราก็เลยเลือกที่จะทำงานที่นี่ที่เดียวน่ะ เราว่าจะทำไปสักพักนึง แล้วงานนี้เลิกประมาณเที่ยงคืนด้วย เลิกไวกว่าตอนเป็นพนักงานเสิร์ฟด้วย” เธอพูดไปก็ยิ้มไปตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเจอใครใจดีเท่าเจ้าของผับที่เธอทำงานอยู่มาก่อนเลย ทั้งๆที่เขาก็เป็นแค่เด็กหนุ่มที่อายุก็คงจะประมาณเท่าเธอแต่เขากลับบริหารกิจการงานเก่ง มีลูกค้ามากมายเข้ามาใช้บริการผับทุกวัน“แล้วร่างกายจะไหวมั้ย..” เชอรีนที่เป็นห่วงในตัวเพื่อนสาวรีบเอ่ยถามตัวเธอก็แค่นี้แล้วยังต้องทำงานจนดึกดื่นอีกแล้วแบบนี้โรคภัยไข้เจ็บจะไม่ถามหาเอาเหรอ“ต้องไหวสิเราทำได้อยู่แล้ว” วิเวียนยิ้มหวานมองตาเพื่อนรัก เรื่องนอนดึกแบบนี้เธอชินแล้ว ร่างกายรวมไปถึงสภาพจิตใจของเธอมันโอเคมากแต่ก็นะเธอรู้ว่าเพื่อนเป็นห่วง มือเล็กกอบกุมมือเชอรีนจะบอกเธออย่างไรดีว่าไม่ต้องเป็นห่วง“ไม่ต้องเป็นห่วงเรานะ ถ้าเราไม่ไหวเราค่อยลาออก โอเคมั้ย”“โอเค..งั้นสู้ๆแต่อย่าหักโหมจนเกินไปนะ” ได้ยินแบบนั้นเชอรีนก็ค่อยใจชื้นขึ้นมาหน่อย เธอกับไอรีนและเพียวจะคอยซัพพอร์ตวิเวียนอยู่ตรงนี้เสมอขอแค่มีอะไรเธอบอกกันเท่านั้นพวกเธอก็พร้อมที่จะช่วยเหลือเพื่อนคนนี้ทันที วิเวียนพยักหน้าส่งย
“อืม ได้สิ ว่าแต่บ้านเราอยู่แถวไหนเหรอ” แชมเปญยินดีเป็นอย่างมากที่จะไปส่งไอรีนถึงที่บ้าน“อยู่แถวลาดพร้าวค่ะ”“แถวเดียวกับเก้าเลยนี่ เก้าไปส่งไอรีนหน่อยได้มั้ย” แชมเปญชี้มือไปทางเก้าทันทีเพราะคอนโดของเขาก็อยู่แถวนั้นเหมือนกัน เธอร้องขอให้หนุ่มปีสามช่วยไปส่งเพื่อนน้องสาวของเธอซึ่งเขาก็พยักหน้ารับปากด้วยความเต็มใจและหันไปส่งยิ้มให้ไอรีน เรื่องไปส่งแค่นี้ถือว่าสบายมากไม่ได้ลำบากอะไรเลย“อืม ได้สิ ไอรีนเดี๋ยวกลับกับพี่นะ”“หา ตะ แต่ว่า..ค่ะ” ดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นทำไมสุดท้ายเธอถึงต้องให้พี่เก้าไปส่งเธอที่บ้านด้วย ทำไมเรื่องมันเป็นแบบนี้ไปได้ ไอรีนอ้าปากเตรียมที่จะปฏิเสธแต่พอเห็นสีหน้าและแววตาของพี่เก้าเข้าให้จึงทำให้เธอหลบสายตาเผลอตกปากรับคำเขาไปอย่างง่ายดายและเป็นจังหวะเดียวกันกลับที่พนักงานของร้านได้นำบิลมายื่นให้เก้า“ทั้งหมด 1,500 บาทค่ะ”“นี่ครับ” เก้าหยิบเงินในกระเป๋าขึ้นมาแล้วยื่นเงินจำนวนนั้นให้กับพนักงานของร้าน ทุกคนพากันลุกขึ้นจากเก้าอี้และสาวเท้าพากันเดินออกจากร้านอาหารญี่ปุ่น เพียวกับมาร์ชขอแยกตรงหน้าร้าน เชอรีนไปรถของพี่แชมเปญส่วนไอรีนจำต้องไปกับพี่เก้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“ยัยเชอพูดอะไรน่ะน่าตีจริง” แชมเปญรีบส่งเสียงเอ็ดน้องสาว เดี๋ยวนี้เธอร้ายถึงขั้นที่แนะนำเพื่อนให้ผู้ชายเชียวเหรอถึงแม้ว่าผู้ชายคนนั้นจะเป็นลูกพี่ลูกน้องของเธอก็เถอะ แชมเปญมองไปยังเพื่อนทั้งสองของเชอรีน คนนึงกำลังหัวเราะตลกขบขันเหมือนคนไม่คิดอะไรแต่อีกคนนี่น่ะสิชื่อว่าอะไรนะ ไอรีน อย่างนั้นใช่มั้ย ก้มหน้าก้มตาเชียวดูเหมือนจะเขินไปกับสิ่งที่น้องสาวเธอพูดอย่างนั้นสินะเก้าที่มองเห็นเหมือนกันว่าไอรีนเขินเขาจึงได้พูดอย่างไม่จริงจังมากนัก เขามองไปยังใบหน้าเรียวสวยของไอรีน เด็กสาวคนนี้สวยผิวขาวหน้าตาน่ารักน่ามองเหมือนกันนะซึ่งเขาเองที่ไม่ค่อยจะสนใจใครสักเท่าไหร่จึงทำให้ไม่ทันได้สังเกตเธอ“ดูสิ เพื่อนเราเขินพี่หมดแล้ว” เก้าชี้มือไปที่ไอรีนที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตา เขาหลุดยิ้มออกมาอย่างคนที่เอ็นดูเพื่อนของน้องสาว เชอรีนมองไปยังไอรีนก็พบว่าเธอเขินอายอย่างที่พี่ชายเธอได้บอก อย่าบอกนะว่าไอรีนชอบพี่เก้าน่ะงั้นจะรอช้าอยู่ทำไมก็รีบจับคู่ให้พวกเขาเลยสิครับ...“ก็เห็นพี่โสดเลยอยากแนะนำคนใกล้ตัวให้ช่วยดูแลพี่ชายไงคะ” เชอรีนไม่รีรอที่จะพูดต่อไปถ้าพวกเขาหัวใจตรงกันสักวันก็อาจจะได้เลื่อนขั้นพัฒนาเปลี่ยนสถานะ
เสียงหวานของวิเวียนพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าเชอรีนได้มายืนอยู่ตรงนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งหมดพยักหน้าพร้อมกันและพากันเดินออกจากห้องประชุมแห่งนี้และทันทีที่ออกมาข้างนอกแล้วเสียงของผู้ชายก็ดังขึ้นตามหลังพวกเธอ“เชอรีน..”หญิงสาวเจ้าของชื่อหันหลังกลับไปมองว่าใครคือคนที่เรียกชื่อของเธอและทันใดนั้นดวงตากลมโตก็ตาลุกวาวเจ้าของเสียงเรียกก็คือ พี่เก้า พี่ชายลูกพี่ลูกน้องของเธอนั่นเองแถมเขายังมาพร้อมกับพี่แชมเปญพี่สาวคนสวยของเธออีกด้วย“ดีใจด้วยนะน้องสาวของพี่ วันนี้เธอสวยมากแต่สวยน้อยกว่าพี่นิดนึง” แชมเปญเดินเข้ามาโอบกอดผู้เป็นน้องสาวเธอรู้สึกดีใจมากที่น้องของเธอได้รับตำแหน่งดาวคณะในปีนี้เก้า..หนุ่มหล่อคณะทันตะปีที่3 ยิ้มให้กับความน่ารักของสองพี่น้องนี่ถ้ามีเจ้าชะเอมน้องสาวคนเล็กมาด้วยอีกคนก็คงจะเป็นภาพที่อบอุ่นหัวใจอยู่ไม่น้อย“พี่ยินดีกับเราด้วยนะ” เสียงทุ้มระรื่นหูพูดขึ้นทำเอาสองพี่น้องต่างก็ผละร่างกายออกจากกัน เชอรีนหันไปส่งยิ้มหวานให้กับผู้เป็นลูกพี่ลูกน้องของตัวเองพลางเอ่ยคำขอบคุณจากใจจริง“ขอบคุณค่ะพี่เก้า~” เสียงใสของเธอทำเอาคนรอบข้างให้ความสนใจอีกครั้งผู้คนต่างก็มองดูเธอและกลุ่มเพื่อนรว
มาร์ชที่ฟังเวหาพูดเล่าถึงเหตุการณ์ในวันนั้นก็พูดขึ้นมาบ้าง“ไอ้เวมันเล่าว่าวันนั้นพี่ริสาเธอไม่ได้ขึ้นให้มันจริงๆหรอกเหมือนประมาณว่าเธอเตรียมแผนการมา แล้วพอได้ยินเสียงเชอรีนเดินเข้ามาในห้องเธอเลยทำทีเป็นขึ้นไปอยู่บนตัวของไอ้เวน่ะ ถ้าคนที่พึ่งเดินเข้าไปก็คงจะนึกว่าได้กันจริงๆ”“ถ้าเป็นฉันเดินเข้าไป แล้วเห็นผู้หญิงคนอื่นนั่งขย่มแล้วโป๊ไม่มีเสื้อผ้าอยู่บนตัวแฟนของเราแบบนั้น ก็คงทำใจไม่ได้เหมือนกัน ปากก็บอกว่าไม่ได้มีอะไรกันแต่ใครจะไปรู้ด้วยล่ะจริงมั้ย” ไอรีนแสดงความคิดเห็นส่วนตัวของเธอออกมา“แต่เวหาก็ง้อขอคืนดีอย่างเต็มที่เลยนะเพียงแต่ว่ายัยเชอรับไม่ได้น่ะ” เพียวหันไปบอกวิเวียนถึงสิ่งที่เธอเห็น เวหาพยายามเป็นอย่างมากที่จะง้อขอคืนดีเพียงแต่ว่าเพื่อนของพวกเรานั้นรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้นก็นะใครมันจะไปรับได้เห็นขย่มกันคาตาขนาดนั้น...วิเวียนที่ลองคิดตามก็พยักหน้าขึ้นลงลองคิดดูเล่นๆถ้าเธอเป็นเชอรีน เธอก็คง..เลือกที่จะถอยห่างออกมาเหมือนกัน“อืม ถ้าเป็นเราก็คงทำแบบเชอรีน คงต้องให้เวลาเธอหน่อย เวหาเพื่อนของนายคงต้องรอเชอรีนหน่อยนะ” วิเวียนหันไปบอกมาร์ชด้วยสีหน้าจริงจัง“ถ้ามันรักจริง มันต้อง
“ไม่ทราบว่ามีแฟนหรือยังครับ” กัสได้ทีเริ่มถามเข้าประเด็นแบบที่ไม่อ้อมค้อมเลยสักนิด เชอรีนกระพริบตาปริบๆด้วยความตกใจเธอไม่คิดว่ารุ่นพี่เขาจะถามตรงประเด็นอะไรขนาดนี้และยังไม่ทันที่เธอจะได้พูดออกไรออกไปเสียงของผู้ชายอีกคนที่ไม่ใช่เสียงของพี่กัสก็ดังขึ้น“มีแล้ว..”ทุกคนรวมถึงเชอรีนหันไปมองยังบุคคลต้นเสียงซึ่งก็คือ มาร์ช...เขาเดินเข้ามายืนอยู่ทางด้านหลังของเชอรีนพร้อมกับสบตามองไปยังรุ่นพี่คนนั้นอย่างไม่คิดที่จะเกรงกลัวสิ่งใดทำเอาเพียวและทุกๆคนต่างก็งงอย่างไม่เข้าใจ มาร์ชหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดโทรออกหาใครบางคนและเพียงไม่นานเขาคนนั้นก็รับว่าแต่เขากำลังคิดที่จะทำอะไรกันนะ...“ไอ้เวมีรุ่นพี่เข้ามาจีบแฟนมึง” มาร์ชพูดสื่อสารผ่านโทรศัพท์มือถือโดยที่เขาเลือกที่จะเปิดโหมดวิดีโอแต่เดี๋ยวนะ เขาเรียกชื่อของ เวหา อย่างนั้นเหรอ นะ นี่เขาโทรหานายนั่นทำไม กรี๊ด~(มึงว่าไงนะกูขอคุยกับไอ้คนที่มันกล้ามาจีบเชอรีนหน่อย) เสียงของเวหาดังขึ้นทำให้เชอรีนรีบก้มหน้าลงเธอไม่อยากได้ยินเสียงเขาเลยสักนิด ว่าแต่มาร์ชจะโทรหาเขาทำไมแล้วฟั
“พวกกูจะจำคำพูดของมึงไว้ครับไอ้วิน” สายฟ้าที่กำลังหยิบกุ้งจุ่มลงในหม้อพูดขึ้น เขาและเพื่อนจะจำคำพูดของไอ้วินเอาไว้และขอให้สิ่งที่ไอ้ออสตินพูดเกิดขึ้นจริงด้วยเถอะ อยากจะเห็นมันเป็นฝ่ายจับน้องเขา“ไม่รู้ไอ้มาร์ชเป็นไงบ้างเห็นว่ามหาลัยนั้นก็หนักหน่วงเหมือนกัน” เวหาพูดขึ้นอย่างลอยๆเมื่อเขาเริ่มคิดถึงใครบางคนไม่ว่าจะไปที่ไหนทำอะไรก็ล้วนแล้วแต่คิดถึงเธออยากจะรู้ทุกความเคลื่อนไหวของเธอเสียเหลือเกิน..ว่าแต่ป่านนี้จะทำอะไรอยู่นะ จะมีใครเข้ามาจีบเธอหรือเปล่า ขออย่าให้เธอชอบใครเลยนะเวหาพูดเสร็จก็ลอบถอนหายใจออกมา ความรู้สึกที่เวลาคิดถึงแล้วไม่ได้เจอนี่มันช่างทรมานเหลือเกิน“อยากรู้ของไอ้มาร์ชหรือคนอื่นกันแน่ อยากรู้ก็แค่ถาม” ออสตินที่นั่งข้างพูดขึ้นเขารู้เพื่อนทุกคนรู้ว่ามันไม่ได้หมายถึงไอ้มาร์ชเหมือนอย่างที่ปากพูดเพ้อออกมาหรอกแต่มันกำลังคิดถึงเชอรีน“เธอบล็อกกูไปแล้ว” เวหาพูดออกมาอีกครั้งด้วยเสียงที่แผ่วเบา เขาลองกดโทรออกหาเธอก็ไม่ติดโทรไลน์แชทไลน์ก็ไม่มีการตอบรับแต่อย่างใด ไอจีก็โดนบล็อก สีหน้าใน ณ ข