แชร์

บทที่ 1 (2/2) : รีบเสนอตัวเอง (2)

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-12 08:25:35

     โดยในระหว่างที่เตชินท์ก้มลงไปทำแบบทดสอบที่เธอให้ ธารดาราก็ทำเป็นหยิบหนังสือสอนภาษาในกระเป๋าขึ้นมาเปิดอ่าน แต่ความจริงแล้วเธอกำลังแอบใช้ดวงตากลมโตของตนเองลอบมองไปที่เด็กหนุ่มฝั่งตรงข้าม

     ‘เตชินท์เป็นคนหน้าตาดี ผิวขาว รูปร่างสมส่วนแบบชายไทย แต่ติดตรงที่ใบหน้าของเจ้าตัวออกไปทางหวานมากเกิน ซึ่งก็อาจจะเป็นเพราะริมฝีปากที่มันออกสีชมพูระเรื่อ หรือไม่...ก็อาจจะเป็นเพราะขนตา ก็ขนตาของเตมันทั้งงอนทั้งยาวเลยหนิ!’ ธารดาราแอบคิดในใจ แล้วก็นึกไปถึงเหตุการณ์ที่เกิดในร้านคาราโอเกะเมื่อสามวันก่อน...

     วันนั้นหลังจากเลิกงานธารดารากับกลุ่มเพื่อนพากันไปกินเลี้ยงที่ร้านคาราโอเกะ เนื่องในโอกาสที่สถาบันสอนภาษายิ้มรับของพวกเธอเริ่มได้รับผลกำไรตอบกลับมาบ้างแล้ว ซึ่งกว่าจะมีวันนี้พวกเธอทั้งสี่คนก็ผ่านความยากลำบากมาไม่น้อยเลย 

     แล้วในระหว่างที่ธารดาราเดินออกมาจากห้องร้องคาราโอเกะเพื่อไปเข้าห้องน้ำ เธอก็เจอเข้ากับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ซึ่งมันเกิดขึ้นกับคนที่เธอเคยสนิทแต่ก็ไม่เจอกันมานานหลายปี

     “ปล่อย! กูบอกให้ปล่อย!!” เตชินท์ตวาดใส่คิมหันต์ เนื่องจากตอนนี้อีกฝ่ายจับเท้าขวาของเขาเอาไว้ 

     “ทำไม? มึงอายหรือวะ สามปีที่ผ่านมามึงไม่รู้จริง ๆ หรือว่ากูชอบมึง!” พูดจบ คิมหันต์ก็ปล่อยมือจากเท้าข้างที่เตชินท์ใช้ถีบตนจนตกลงมาจากเก้าอี้เมื่อครู่ แล้วรีบลุกขึ้นยืน ก่อนจะพุ่งตัวเข้าไปกอดคนที่อยู่ตรงหน้าอีกครั้ง

     ผลัวะ!! 

     “กูเห็นมึงเป็นแค่เพื่อน! กูไม่ได้ชอบมึงไอ้คิม!!” เตชินท์จ้องคนที่ล้มลงไปกองกับพื้นอีกครั้งอย่างเอาเรื่อง 

     “แต่ที่ผ่านมากูก็ยังไม่เคยเห็นมึงมองผู้หญิงหรือผู้ชายคนไหนเลยสักคน ใครมาสารภาพรักกับมึง มึงก็ปฏิเสธเขาไปหมด แฟนสักคนมึงก็ยังไม่เคยมีเลยด้วยซ้ำ วัน ๆ กูเห็นมึงอยู่แต่กับเกมส์หรือไม่ก็อยู่กับพวกกู จนกูคิดว่ามึงอาจจะชอบ...กู”

     “มึงคิดไปเอง” เตชินท์เริ่มหนักใจเพราะถีบก็แล้ว ต่อยก็แล้ว แต่ก็ดูเหมือนว่าคิมหันต์จะยังพูดไม่รู้เรื่อง สงสัยก่อนที่เขาจะเดินทางมาถึงร้าน อีกฝ่ายน่าจะดื่มเข้าไปไม่น้อยแล้วเป็นแน่ 

     เตชินท์จึงแอบคิดเอาไว้ว่าหากคิมหันต์พุ่งตัวเข้ามาหาเขาอีกครั้ง เขาก็คงต้องใช้มวยไทยที่เคยไปเรียนมาจัดการจนกว่าอีกฝ่ายจะสลบ เผื่อว่าหลังจากฟื้นเจ้าตัวอาจจะมีสติขึ้นมาบ้าง แต่...เมื่อยืนมองคิมหันต์ต่อไปอีกสักพัก อีกฝ่ายกลับร้องไห้ออกมาอย่างหมดรูป เขาจึงหันหลังเพราะคิดจะไปตามเพื่อนในห้องร้องคาราโอเกะออกมาช่วยลากคิมหันต์กลับบ้าน

     “เดี๋ยว! ไอ้เต...หรือว่ามึงชอบไอ้วิน? แต่ไอ้วินมันมีแฟนแล้วนะโว้ย!”

     เตชินท์ถอนหายใจออกมาอย่างแรงหนึ่งครั้ง ก่อนจะหันกลับไปตวาดว่า

     “กู...”

     “ผึ้ง แกแอบมองใครอยู่น่ะ?” 

     หลังจากได้ยินเสียงทักของวิวรดา ธารดาราก็รีบพุ่งตัวเข้าไปปิดปากของอีกฝ่าย ก่อนจะลากเจ้าตัวกลับห้องร้องคาราโอเกะทันที

     แล้วก็ด้วยเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้น วันถัดมาธารดาราจึงคิดจะแอบถามเรื่องราวต่าง ๆ เกี่ยวกับเตชินท์จากคนเป็นแม่ แต่ยังไม่ทันจะได้เอ่ยปาก...สายธารแม่ของเธอก็เล่าเรื่องที่ภัสสรกำลังหาครูสอนพิเศษภาษาอังกฤษให้กับเตชินท์ ซึ่งภัสสรสนใจอยากจะจ้างครูจากสถาบันสอนภาษายิ้มรับของเธอ เมื่อได้ยินเช่นนั้นธารดาราจึงรีบเสนอตัวเองทันที

     แต่ก็ด้วยความที่ธารดาราไม่ได้เจอกับภัสสรและเตชินท์มาเกือบเจ็ดปี แล้วในวัยเด็กเธอก็มักจะชวนเตชินท์ออกไปเล่นซน ซึ่งในบางครั้งก็มีไปทะเลาะวิวาทกับเด็กแถวบ้าน แล้วก็บ่อยครั้งที่ความซนและความไม่ค่อยยอมคนของเธอ ทำให้เตชินท์ต้องเจ็บตัวและได้แผลกลับไปอวดคนที่บ้าน พอมาถึงตอนนี้ที่เธอคิดอยากจะเข้าไปสังเกตการณ์ เพราะอยากรู้ว่า...อดีตน้องชายข้างบ้านได้เปลี่ยนความชอบไปแล้วจริงหรือเปล่า? เธอจึงตัดสินใจเลือกกลับไปเจอคนทั้งสองอีกครั้งในฐานะของติวเตอร์น้ำหวานแทน!

     ซึ่งเอาเข้าจริงธารดาราก็ยังหาคำตอบให้กับตนเองไม่ได้เลยว่าทำไมเธอถึงได้อยากรู้ว่าเตชินท์เปลี่ยนความชอบไปแล้วจริงหรือเปล่า? เพราะถ้าหากว่าเตชินท์เปลี่ยนไปชอบผู้ชายแล้วจริง ๆ ธารดาราก็ใช่ว่าจะรับไม่ได้ เนื่องจากตัวเธอเองก็มีทั้งเพื่อนเกย์และเพื่อนสาวเทียมอยู่รอบตัวไม่น้อยเลย แล้วอีกอย่างคู่รักแบบชายชายหรือคู่รักแบบหญิงหญิงในสายตาของเธอก็ไม่ต่างอะไรเลยกับคู่รักแบบหญิงชาย

     ยิ่งในตอนนี้แม้แต่ตัวธารดาราเองก็แทบจะกลายเป็นสาววายไปแล้วครึ่งตัว เพราะตั้งแต่วันที่เธอเผลอกดเข้าไปดูซีรีส์วายเรื่องหนึ่งตามคำชักชวนของเพื่อนสาวตัวดี ซึ่งมาจนถึงทุกวันนี้ธารดาราก็ยังหาทางออกจากซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

     แต่เรื่องที่ธารดารากำลังสงสัยเกี่ยวกับเรื่องความชอบของเตชินท์ก็มีเพียงแค่เพื่อนสาวทั้งสามคนของเธอเท่านั้นที่รู้ ซึ่งซูซี่หรือมนตรีเพื่อนสาวเทียมในกลุ่มก็ได้บอกวิธีสังเกตพฤติกรรมที่จะใช้วัดเรื่องนี้กับเธอมาบ้างแล้วด้วย

     แล้วถึงแม้ตอนนี้ธารดาราจะยังไม่รู้ว่าตนเองจะอยากรู้เรื่องความชอบของเตชินท์ไปทำไม แต่เธอก็ตั้งใจเอาไว้ว่า...หลังจากนี้เธอจะคอยสังเกตพฤติกรรมของเด็กหนุ่มอย่างเงียบ ๆ 

     “พี่น้ำหวาน...พี่น้ำหวานครับ ผมทำแบบทดสอบเสร็จแล้วครับ” 

     ธารดาราหลุดออกจากภวังค์ความคิดเมื่อได้ยินเสียงเรียกของเตชินท์ แล้วเมื่อสติกลับมาเธอก็ต้องรีบขยับตัวถอยหลัง เนื่องจากเด็กหนุ่มที่เคยนั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม ตอนนี้เจ้าตัวได้ย้ายมายืนอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว ซึ่งอีกฝ่ายกำลังก้มลงมาจ้องหน้าเธอ โดยระยะห่างระหว่างใบหน้าของเตชินท์กับใบหน้าของเธอ มันก็ช่าง...

     “เออ...เสร็จแล้วหรือคะ อย่างนั้นเตช่วยไปหยิบแบบทดสอบที่ทำเสร็จแล้วมาให้พี่ตรวจได้ไหมคะ?”

     “ได้ครับ”

     ธารดาราแอบผ่อนลมหายใจของตนเองออกมา เมื่อเห็นว่าเตชินท์ยอมขยับตัวถอยออกไปแล้ว

                                          .......................................................................

     ผู้เขียนขอขอบคุณทุกยอดวิว ยอดกดหัวใจ ยอดกดติดตาม และทุกข้อความของผู้อ่านทุกท่านมาก ๆ นะคะ ทุกยอดคือกำลังใจที่ดีมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆของผู้เขียนเลยค่ะ 

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ติวรักติวใจนายเจ้าเล่ห์   บทที่ 2 (1/2) : ไม่ได้แกล้งจริง ๆ (1)

    ธารดาราหลังจากตรวจคำตอบในแบบทดสอบข้อสุดท้ายเสร็จ เธอก็นั่งไล่นับคะแนนไปพร้อมกับไล่ตรวจทานคำตอบในแบบทดสอบฉบับนั้นอีกครั้ง ‘แปลกแฮะ! ตอนเรียนอยู่ชั้นประถมเตชินท์เป็นเด็กที่เรียนเก่งมากคนหนึ่งเลยไม่ใช่หรือ? ถ้าจำไม่ผิดผลสอบออกมาแต่ละครั้งหากเตไม่ได้ลำดับที่หนึ่งก็ไม่เคยตกลงมาเกินลำดับสามของห้อง แล้วทำไมตอนนี้ถึง...’ “ผมทำคะแนนได้เท่าไหร่หรือครับ...สามสิบแปดส่วนหนึ่งร้อย!” ธารดารามองเตชินท์ที่เงยหน้าขึ้นมาสบตากับเธอ แล้วเมื่อได้เห็นสายตาและสีหน้าราวกับลูกหมากำลังจะถูกทิ้งของอีกฝ่าย เธอจึงกล่าวว่า “คะแนนเท่านี้มันก็ไม่ได้ถือว่าแย่มากนะ” “แต่ผม...อีกไม่กี่เดือนผมก็อาจจะต้องเดินทางไปหาที่เรียนต่อในประเทศอังกฤษแล้วนะครับ แต่ถ้าหากว่าภาษาของผมยังใช้การไม่ได้ แล้วผมจะไปติดต่อสื่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-12
  • ติวรักติวใจนายเจ้าเล่ห์   บทที่ 2 (2/2) : ไม่ได้แกล้งจริง ๆ (2)

    “น้ำผึ้ง! ทำไมวันนี้...หนูถึงแต่งตัวแบบนี้ล่ะลูก?” ธันวามองบุตรสาวคนเดียวของเขาที่กำลังเดินเข้ามานั่งยังโต๊ะกินข้าว เนื่องจากวันนี้อีกฝ่ายสวมแว่นตาหนาเตอะ ทั้ง ๆ ที่เจ้าตัวก็ไม่ใช่คนสายตาสั้น แล้วไหนจะชุดสูทกระโปรงยาวสีน้ำตาลกับทรงผมแสกกลางที่มัดเป็นหางม้าเอาไว้ต่ำ ๆ ตรงกลางหลังนั่นอีก “ตอนบ่ายฉันก็ตกใจแบบคุณเลยค่ะ นึกว่ามนุษย์ป้าที่ไหนแอบเข้ามาเดินอยู่ในบ้านของเรา” “แม่อะ...นี่ผึ้งเอง น้ำผึ้งลูกสาวคนสวยของแม่ไงคะ” “แล้วเป็นอย่างไรบ้างล่ะวันนี้ โดนสองคนนั้นจับได้ไหม?” สายธารเอ่ยถามพร้อมกับตักเต้าหู้ไข่ในแกงจืดไปวางลงบนจานข้าวของสามีและบุตรสาวคนละชิ้น “ไม่ค่ะ ป้าหมิวกับเตไม่มีใครจำผึ้งได้เลยสักคน” &nbs

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-12
  • ติวรักติวใจนายเจ้าเล่ห์   บทที่ 1 (1/2) : รีบเสนอตัวเอง (1)

    น้ำผึ้งหรือธารดารา รัตนัน ยืนกดกริ่งประตูหน้าบ้านขนาดใหญ่หลังหนึ่ง ซึ่งเพียงไม่นานก็มีหญิงวัยกลางคนคนหนึ่งเดินออกมามองเธอผ่านช่องว่างของซี่รั้วเหล็ก ก่อนจะถามเธอว่า “คุณมาหาใครหรือคะ?” “สวัสดีค่ะ ดิฉันชื่อน้ำหวานค่ะ คุณภัสสรนัดให้ดิฉันเข้ามาพบที่นี่ค่ะ” “คุณคือติวเตอร์น้ำหวานใช่ไหมคะ?” “ใช่ค่ะ” “งั้นรอสักครู่นะคะ” พูดจบ หญิงวัยกลางคนก็ขยับเข้าไปเปิดประตูรั้วเหล็ก เมื่อเห็นดังนั้นธารดาราจึงเดินกลับขึ้นไปนั่งในรถยนต์คู่ใจ ก่อนจะขับเข้าไปจอดที่ลานจอดรถภายในบริเวณบ้านหลังนั้น แล้วในขณะที่เธอกำลังก้มลงไปหยิบกระเป๋าสะพายและกระเป๋าใส่เอกส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-12

บทล่าสุด

  • ติวรักติวใจนายเจ้าเล่ห์   บทที่ 2 (2/2) : ไม่ได้แกล้งจริง ๆ (2)

    “น้ำผึ้ง! ทำไมวันนี้...หนูถึงแต่งตัวแบบนี้ล่ะลูก?” ธันวามองบุตรสาวคนเดียวของเขาที่กำลังเดินเข้ามานั่งยังโต๊ะกินข้าว เนื่องจากวันนี้อีกฝ่ายสวมแว่นตาหนาเตอะ ทั้ง ๆ ที่เจ้าตัวก็ไม่ใช่คนสายตาสั้น แล้วไหนจะชุดสูทกระโปรงยาวสีน้ำตาลกับทรงผมแสกกลางที่มัดเป็นหางม้าเอาไว้ต่ำ ๆ ตรงกลางหลังนั่นอีก “ตอนบ่ายฉันก็ตกใจแบบคุณเลยค่ะ นึกว่ามนุษย์ป้าที่ไหนแอบเข้ามาเดินอยู่ในบ้านของเรา” “แม่อะ...นี่ผึ้งเอง น้ำผึ้งลูกสาวคนสวยของแม่ไงคะ” “แล้วเป็นอย่างไรบ้างล่ะวันนี้ โดนสองคนนั้นจับได้ไหม?” สายธารเอ่ยถามพร้อมกับตักเต้าหู้ไข่ในแกงจืดไปวางลงบนจานข้าวของสามีและบุตรสาวคนละชิ้น “ไม่ค่ะ ป้าหมิวกับเตไม่มีใครจำผึ้งได้เลยสักคน” &nbs

  • ติวรักติวใจนายเจ้าเล่ห์   บทที่ 2 (1/2) : ไม่ได้แกล้งจริง ๆ (1)

    ธารดาราหลังจากตรวจคำตอบในแบบทดสอบข้อสุดท้ายเสร็จ เธอก็นั่งไล่นับคะแนนไปพร้อมกับไล่ตรวจทานคำตอบในแบบทดสอบฉบับนั้นอีกครั้ง ‘แปลกแฮะ! ตอนเรียนอยู่ชั้นประถมเตชินท์เป็นเด็กที่เรียนเก่งมากคนหนึ่งเลยไม่ใช่หรือ? ถ้าจำไม่ผิดผลสอบออกมาแต่ละครั้งหากเตไม่ได้ลำดับที่หนึ่งก็ไม่เคยตกลงมาเกินลำดับสามของห้อง แล้วทำไมตอนนี้ถึง...’ “ผมทำคะแนนได้เท่าไหร่หรือครับ...สามสิบแปดส่วนหนึ่งร้อย!” ธารดารามองเตชินท์ที่เงยหน้าขึ้นมาสบตากับเธอ แล้วเมื่อได้เห็นสายตาและสีหน้าราวกับลูกหมากำลังจะถูกทิ้งของอีกฝ่าย เธอจึงกล่าวว่า “คะแนนเท่านี้มันก็ไม่ได้ถือว่าแย่มากนะ” “แต่ผม...อีกไม่กี่เดือนผมก็อาจจะต้องเดินทางไปหาที่เรียนต่อในประเทศอังกฤษแล้วนะครับ แต่ถ้าหากว่าภาษาของผมยังใช้การไม่ได้ แล้วผมจะไปติดต่อสื่

  • ติวรักติวใจนายเจ้าเล่ห์   บทที่ 1 (2/2) : รีบเสนอตัวเอง (2)

    โดยในระหว่างที่เตชินท์ก้มลงไปทำแบบทดสอบที่เธอให้ ธารดาราก็ทำเป็นหยิบหนังสือสอนภาษาในกระเป๋าขึ้นมาเปิดอ่าน แต่ความจริงแล้วเธอกำลังแอบใช้ดวงตากลมโตของตนเองลอบมองไปที่เด็กหนุ่มฝั่งตรงข้าม ‘เตชินท์เป็นคนหน้าตาดี ผิวขาว รูปร่างสมส่วนแบบชายไทย แต่ติดตรงที่ใบหน้าของเจ้าตัวออกไปทางหวานมากเกิน ซึ่งก็อาจจะเป็นเพราะริมฝีปากที่มันออกสีชมพูระเรื่อ หรือไม่...ก็อาจจะเป็นเพราะขนตา ก็ขนตาของเตมันทั้งงอนทั้งยาวเลยหนิ!’ธารดาราแอบคิดในใจ แล้วก็นึกไปถึงเหตุการณ์ที่เกิดในร้านคาราโอเกะเมื่อสามวันก่อน... วันนั้นหลังจากเลิกงานธารดารากับกลุ่มเพื่อนพากันไปกินเลี้ยงที่ร้านคาราโอเกะ เนื่องในโอกาสที่สถาบันสอนภาษายิ้มรับของพวกเธอเริ่มได้รับผลกำไรตอบกลับมาบ้างแล้ว ซึ่งกว่าจะมีวันนี้พวกเธอทั้งสี่คนก็ผ่านความยากลำบากมาไม่น้อยเลย แล้วในระหว่างที่ธารดาราเดินออกมาจากห้องร้องคาราโอเกะเพื่อไปเข้าห้องน้ำ เธอ

  • ติวรักติวใจนายเจ้าเล่ห์   บทที่ 1 (1/2) : รีบเสนอตัวเอง (1)

    น้ำผึ้งหรือธารดารา รัตนัน ยืนกดกริ่งประตูหน้าบ้านขนาดใหญ่หลังหนึ่ง ซึ่งเพียงไม่นานก็มีหญิงวัยกลางคนคนหนึ่งเดินออกมามองเธอผ่านช่องว่างของซี่รั้วเหล็ก ก่อนจะถามเธอว่า “คุณมาหาใครหรือคะ?” “สวัสดีค่ะ ดิฉันชื่อน้ำหวานค่ะ คุณภัสสรนัดให้ดิฉันเข้ามาพบที่นี่ค่ะ” “คุณคือติวเตอร์น้ำหวานใช่ไหมคะ?” “ใช่ค่ะ” “งั้นรอสักครู่นะคะ” พูดจบ หญิงวัยกลางคนก็ขยับเข้าไปเปิดประตูรั้วเหล็ก เมื่อเห็นดังนั้นธารดาราจึงเดินกลับขึ้นไปนั่งในรถยนต์คู่ใจ ก่อนจะขับเข้าไปจอดที่ลานจอดรถภายในบริเวณบ้านหลังนั้น แล้วในขณะที่เธอกำลังก้มลงไปหยิบกระเป๋าสะพายและกระเป๋าใส่เอกส

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status