Home / โรแมนติก / ติวรักติวใจนายเจ้าเล่ห์ / บทที่ 4 (2/2) : ยังคงวนเวียนอยู่ในความคิด (2)

Share

บทที่ 4 (2/2) : ยังคงวนเวียนอยู่ในความคิด (2)

last update Last Updated: 2025-02-14 18:15:03

     ธารดาราเงยหน้าขึ้นมาจ้องเตชินท์ หลังจากได้ยินคำถามของอีกฝ่าย 

     “ผมขอโทษครับ พอดีผมมีแต่เพื่อนผู้ชาย ผมก็เลยไม่รู้ว่าเรื่องแบบนี้...ผมสามารถถามกับพี่น้ำหวานได้หรือเปล่า?”

     พอได้เห็นสีหน้าราวกับลูกหมากำลังจะถูกทิ้งของเตชินท์อีกครั้ง ธารดาราจึงได้ถอนหายใจออกมา ก่อนที่เธอจะตอบกลับอีกฝ่ายไปว่า

     “พี่เคยจูบค่ะ แต่...” พูดยังไม่ทันจบ เตชินท์ก็ถามแทรกขึ้นมาเสียก่อน

     “จูบตอนไหน? แล้วมันเป็นใครครับ!”

     “เออ...ผมขอโทษ พอดีผมฟังแล้วรู้สึกตื่นเต้นมากเกินไปหน่อยน่ะครับ คือผมยังไม่เคยไปจูบกับใครเลย แต่พี่...พี่เคยไปจูบกับคนอื่นมาแล้ว! พอได้รู้มันก็เลย...”

     “พี่ว่า...เรากลับมาสนใจเรื่องเรียนกันต่อดีกว่าค่ะ?”

     “ตอนที่พี่จูบกับ...ตอนที่พี่จูบกับแฟน! พี่รู้สึกอย่างไรบ้างหรือครับ?”

     “เตคะ คำตอบในแบบทดสอบสามข้อสุดท้าย พี่ว่าเตเอากลับไป...” 

     “พี่ครับ! ตอนที่พี่จูบกับแฟนที่เคยคบหากัน ตอนนั้นพี่รู้สึกอย่างไรบ้างหรือครับ?” 

     ด้วยสีหน้าและท่าทางของเตชินท์ในตอนนี้ หากธารดาราไม่ตอบ...เจ้าตัวก็คงจะไม่หยุดถามเธอเป็นแน่ ธารดาราจึงตัดสินใจตอบคำถามของเตชินท์ให้มันจบ ๆ ไป

     “พี่จำไม่ได้หรอกค่ะ เพราะพี่ก็เพิ่งเคยโดนจูบเพียงแค่ครั้งเดียว แล้วในเมื่อเตกล้าเล่าเรื่องส่วนตัวให้พี่ฟัง พี่ก็จะขอเล่าเรื่องส่วนตัวของพี่ให้เตฟังบ้างนะคะ แต่เมื่อฟังจบแล้ว...เตต้องสัญญาด้วยว่าจะไม่นำไปเล่าต่อ และก็ห้ามหัวเราะพี่ด้วย เข้าใจไหมคะ?” 

     แล้วเมื่อเห็นเตชินท์พยักหน้าตอบกลับมา ธารดาราจึงเริ่มเล่าเรื่องน่าอับอายที่มีเพียงแค่เพื่อนสนิททั้งสามคนของเธอเท่านั้นที่รู้...ให้อีกฝ่ายฟัง

     “คือ...ตั้งแต่เกิดมาจนถึงทุกวันนี้ พี่มีแฟนมาทั้งหมดเพียงแค่หนึ่งคนถ้วนค่ะ เพราะพ่อกับแม่ของพี่ได้ขอคำสัญญาจากพี่เอาไว้ว่าจะต้องไม่มีเรื่องรักใคร่ในวัยเรียน

     ซึ่งเหตุผลที่พี่ตัดสินใจตอบตกลงคบหาเป็นแฟนกับผู้ชายคนนั้น ก็อาจจะเป็นเพราะผู้ชายคนนั้นเป็นเพื่อนกับพี่ชายของเพื่อนสนิทพี่ และเจ้าตัวก็เข้ามาจีบในช่วงที่พี่เรียนจบพอดี แล้วที่สำคัญลักษณะภายนอกของผู้ชายคนนั้นก็ดูมีความเป็นผู้ใหญ่และดูเหมือนจะนิสัยดี

     แต่สิ่งที่เห็นว่าเหมือนจะดี...มันกลับไม่เป็นอย่างที่พี่คิด เพราะในวันที่พวกพี่นัดกันไปกินเลี้ยงวันเกิดของเพื่อนสนิทในกลุ่ม ในวันนั้นขณะที่ทุกคนกำลังเมา...ผู้ชายคนนั้นที่พี่เพิ่งจะตอบตกลงคบหาดูใจกับมันได้ไม่ถึงสองเดือน มันก็ฉวยโอกาสดึงพี่เข้าไปจูบ แล้วด้วยความที่พี่ตกใจ พี่ก็เลย...ต่อยหน้าผู้ชายคนนั้นไปหนึ่งหมัดค่ะ”

     “แล้วหลังจากนั้นล่ะครับ?”

     “พี่ก็เลิกกับผู้ชายคนนั้นเลยค่ะ”

     “ฮึ... ฮา ฮ่า ฮ่า พี่สุดยอดมากเลยครับ”

     ‘หึ! อุตส่าห์ยอมเล่าให้ฟัง ก่อนเล่าก็บอกเอาแล้วว่าห้ามหัวเราะ!!’ ธารดารานึกโมโหในใจ ก่อนจะกล่าวว่า 

     “กล้าหัวเราะจูบแรกของพี่ ทั้งที่ตัวเองก็ยังไม่เคยจูบ”

     “นั่นสินะครับ อย่างนั้น...พี่น้ำหวานช่วยสอนผมจูบได้ไหมครับ?”

     “เออ...นี่ก็หกโมงเย็นแล้ว เตเก็บแบบทดสอบเอาไว้ก่อนนะคะ อาทิตย์หน้าพี่จะกลับมาตรวจให้อีกทีค่ะ วันนี้พี่ขอตัวกลับก่อนนะคะ” พูดจบ ธารดาราก็เก็บของแล้วรีบพาตัวเองออกมาจากห้องนอนของเตชินท์ทันที

     “สอนวันนี้เป็นอย่างไรบ้างลูก? เอ๊ะ! ทำไมวันนี้หน้าของผึ้งถึงดูแดง ๆ ไม่สบายหรือเปล่าลูก?” สายธารเอ่ยถามบุตรสาวที่เดินเข้ามาในบ้านด้วยใบหน้าและใบหูที่มีสีแดงระเรื่อ

     “ผึ้งสบายดีค่ะแม่ แต่วันนี้อากาศด้านนอกค่อนข้างร้อน หน้าผึ้งมันก็เลยแดงมั้งคะแม่”  

     ‘แดงจริงด้วยแฮะ!’ธารดารามองเงาของตนเองในกระจก หลังจากเดินเลี่ยงสายธารเข้ามาล้างหน้าในห้องน้ำ คงเพราะในระหว่างขับรถกลับบ้าน คำขอแปลก ๆ ของเตชินท์มันยังคงวนเวียนอยู่ในความคิดของเธอ ถึงแม้ว่าธารดาราจะพยายามสลัดมันทิ้งเท่าไหร่ แต่สุดท้ายเธอก็วนกลับไปคิดถึงมันอยู่ดี

     ธันวาหันไปมองธารดารา วันนี้เขารู้สึกว่าบุตรสาวดูจะตั้งใจกับการทานข้าวในจานเป็นอย่างมาก ‘หรือว่า...วันนี้จะสอนหนักจนไม่มีเวลากินข้าว’

     “ผึ้งสอนวันนี้เป็นอย่างไรบ้างลูก?” 

     “ก็เหมือนเดิมค่ะพ่อ เตตั้งใจเรียนดีเหมือนเดิม”

     “แล้วผึ้งบอกความจริงป้าหมิวกับเตหรือยัง?” สายธารเอ่ยถาม

     “ยังค่ะ แต่อาทิตย์หน้าผึ้งตั้งใจจะไปสารภาพกับป้าหมิวก่อนค่ะ” 

     “ดีแล้วลูก โกหกผู้ใหญ่นาน ๆ ไม่ดี ว่าแต่...ทำไมไม่บอกเตไปพร้อมกันเลยล่ะ?”

     “สำหรับเต...ไว้ผึ้งค่อยบอกตอนเข้าไปสอนพิเศษวันสุดท้ายค่ะ” 

     หลังจากได้ยินคำตอบของบุตรสาว ธันวาที่รู้สึกสงสัยจึงถามต่อจากผู้เป็นภรรยาทันทีว่า

     “ทำไมทำอย่างนั้นล่ะลูก?” 

     “ก็ใครบอกให้เตจำผึ้งไม่ได้เองล่ะคะ” 

     “เรานี่!” ธันวาที่รู้สึกระอาจึงส่ายหน้าให้กับความคิดของบุตรสาว

     จากนั้นสายธารก็เริ่มหันไปถามเรื่องงานของธันวาบ้าง ธารดาราจึงกลับมาสนใจข้าวในจานของตนเองต่อ แล้วหลังจากที่ทุกคนทานข้าวเย็นร่วมกันเสร็จ แต่ละคนก็แยกย้ายกันขึ้นไปยังห้องนอนของตัวเอง 

     ซึ่งหลังจากที่ธารดาราจัดการดูแลร่างกายของตัวเองเสร็จ เธอก็เดินถือผ้าขนหนูผืนเล็กออกมานั่งเช็ดผมที่โต๊ะเครื่องแป้ง แล้วในขณะนั้นเธอก็เผลอนึกไปถึงคำขอของเตชินท์ขึ้นมาอีกครั้ง 

     ‘นั่นสินะครับ อย่างนั้น...พี่น้ำหวานช่วยสอนผมจูบได้ไหมครับ?’

     จะว่าไปตอนเด็ก ๆ เตชินท์ก็มักจะเป็นแบบนี้ อีกฝ่ายชอบมาอ้อนให้ธารดาราช่วยสอนหนังสือ สอนทำการบ้าน สอนเล่นซน หรือไม่ก็ให้ช่วยสอนทำนู่นทำนี่ เรียกได้ว่า...ทุกวันเตชินท์จะต้องมีเรื่องมาอ้อนให้เธอช่วยสอน 

     แต่เรื่องที่เตชินท์มาขอให้ธารดาราช่วยสอนในวันนี้ มัน....

     ‘ไอ้เด็กบ้า! มีใครหน้าไหนเขาช่วยสอนเรื่องจูบกันบ้าง!!’

                                           .......................................................................

     ผู้เขียนขอขอบคุณทุกยอดวิว ยอดกดหัวใจ ยอดกดติดตาม และทุกข้อความของผู้อ่านทุกท่านมาก ๆ นะคะ ทุกยอดคือกำลังใจที่ดีมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆของผู้เขียนเลยค่ะ 

Related chapters

  • ติวรักติวใจนายเจ้าเล่ห์   บทที่ 5 (1/2) : เธอคือคนที่ล้ำเส้น (1)

    ธารดาราก้าวขาออกจากรถยนต์คู่ใจ แล้วมาหยุดยืนอยู่ที่หน้าประตูรั้วซี่เหล็กบานใหญ่หน้าบ้านของเตชินท์เพื่อเตรียมที่จะกดกริ่ง แต่ผ่านมาได้สักพักเธอก็ยังไม่ยกมือขึ้นไปกด เพราะตอนนี้ในใจของธารดารามันคิดแค่เพียงว่า... ‘ทำไมวันเสาร์มันจึงได้เวียนมาถึงเร็วนักนะ!’ นั่นก็เพราะในอาทิตย์ที่ผ่านมาคำขอแปลก ๆ ของเตชินท์มันยังคงวนเวียนเข้ามาในความคิดของธารดาราอยู่บ่อยครั้ง แล้วยิ่งเด็กหนุ่มได้แอบไปเพิ่มเพื่อนในโปรแกรมส่งข้อความกับเธอ แต่ก็ยังดีที่อีกฝ่ายไม่เคยส่งสติ๊กเกอร์หรือส่งข้อความอะไรเข้ามาพูดคุยกับธารดาราเลยสักครั้ง แล้วก็โชคดีที่เตชินท์แอบไปเพิ่มเพื่อนกับบัญชีที่มีชื่อว่า...น้องยิ้ม! เนื่องจากธารดารามีบัญชีในโปรแกรมส่งข้อความอยู่สองบัญชี นั่นก็คือบัญชีที่มีชื่อว่าน้ำผึ้งหวาน...โดยบัญชีนี้มีข้อมูลตัวตนที่แท้จริงของเธออยู่ กับบัญ

    Last Updated : 2025-02-15
  • ติวรักติวใจนายเจ้าเล่ห์   บทที่ 5 (2/2) : เธอคือคนที่ล้ำเส้น (2)

    “นี่เรียกว่าจูบหรือครับ? แบบนี้มันเหมือนกับที่ผมเคยเห็นเด็กอนุบาลจุ๊บกันที่หน้าโรงเรียนเลยครับพี่ เออ...จริงด้วย ผมก็ลืมไปเลยว่าพี่น้ำหวานเสียจูบแรกตอนเมา แต่ผมว่าจูบครั้งนั้น...พี่อย่านับมันเลยดีกว่าครับ พี่น้ำหวานมาดูนี่สิครับ...วันนั้นเพราะพี่ไม่ยอมตอบ ผมก็เลยลองไปศึกษาวิธีการจูบแบบคนรักกันมา คลิปนี้เห็นวิธีการจูบแบบชัดมากเลยครับพี่” แม้จะรู้สึกโกรธแต่ธารดาราก็ยอมขยับเข้าไปดูคลิปวีดีโอในโทรศัพท์มือถือของเตชินท์ ซึ่งภาพเคลื่อนไหวที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอก็คือชายหญิงคู่หนึ่งกำลังยืนจูบกันแบบดูดดื่มท่ามกลางวิวทะเลยามค่ำคืน โดยความยาวของคลิปวีดีโอนั้นกินเวลาไปถึงห้านาที ซึ่งตลอดทั้งห้านาทีคนทั้งสองในคลิปก็เรียกได้ว่า...แทบจะกลืนกินปากกันเลยก็ว่าได้ หลังจากที่คลิปวีดีโอนั้นจบลงเตชินท์ก็เก็บโทรศัพท์มือถือ ก่อนที่เจ้าตัวจะเอ่ยประโยคระคายหูของธารดาราขึ้นมาอีกครั้งว่า &

    Last Updated : 2025-02-15
  • ติวรักติวใจนายเจ้าเล่ห์   บทที่ 6 (1/2) : ในเมื่อผมเสียจูบแรกให้กับพี่ไปแล้ว (1)

    ‘สดชื่นมากม๊ากก...เลยวันนี้!’ ธารดาราคิดในใจ ก่อนจะเดินตามจ๋าเข้าไปในตัวบ้านของเตชินท์ เพราะว่าเมื่อคืนหลังจากที่เธอตัดสินใจพยายามข่มตาหลับ แต่สุดท้าย...จนถึงหกโมงเช้า ธารดาราก็ยังไม่ได้หลับเลยแม้แต่วินาทีเดียว “จ๋าคะ เช้านี้เครื่องดื่มในของว่าง น้ำหวานรบกวนขอเป็นกาแฟแบบเข็ม ๆ เลยนะคะ” “ได้ค่ะ หรือว่าคุณน้ำหวานจะให้จ๋าชงขึ้นไปให้พร้อมกับของคุณเตตอนนี้เลยดีคะ?” หลังจากได้ยินคำถามของจ๋า ธารดาราคงเผลอแสดงความสงสัยทางสีหน้า เพราะยังไม่ทันที่เธอจะได้พูดอะไรออกมา อีกฝ่ายก็บอกสิ่งที่เธอกำลังจะถามออกมาแล้ว “พอดีเมื่อครู่คุณเตก็เพิ่งลงมาบอกกับจ๋าให้ช่วยชงกาแฟแบบเข้ม ๆ ขึ้นไปให้เหมือนกันน่ะค่ะ” “อย่างนั้นก็เอาขึ้นไปพร้อมกันตอนนี้เลยก็ได้ค่ะ ขอบคุ

    Last Updated : 2025-02-16
  • ติวรักติวใจนายเจ้าเล่ห์   บทที่ 6 (2/2) ในเมื่อผมเสียจูบแรกให้กับพี่ไปแล้ว (2)

    ธารดาราพยายามรวบรวมสติแล้วนึกไปถึงสัมผัสที่เธอได้รับมาจากเตชินท์เมื่อวาน จากนั้นเธอก็ขยับริมฝีปากของตัวเองทาบทับลงไปที่ริมฝีปากของเด็กหนุ่มตรงหน้า แล้วหลับตาของเธอลง... หลังจากนั้นธารดาราก็ค่อย ๆ ขบเม้มริมฝีปากของเตชินท์สลับทั้งบนและล่างเบา ๆ ก่อนที่เธอจะส่งลิ้นเล็กออกไปไล่เลียริมฝีปากล่างของเด็กหนุ่ม แล้วในขณะที่เธอยังไม่ทันจะได้ตั้งตัว เตชินท์ก็ดูดลิ้นของเธอเข้าไปในปากของเจ้าตัวแล้ว โดยหลังจากนั้นเด็กหนุ่มก็ขึ้นมาเป็นผู้คุมเกมส์การสอนจูบในครั้งนี้ทันที จนเวลาผ่านล่วงเลยไปได้สักพัก... “อือ...อื้อ!!” ธารดาราใช้มือของตัวเองทุบลงไปที่ไหล่ของเตชินท์ซ้ำ ๆ เนื่องจากตอนนี้เธอกำลังจะขาดอากาศหายใจ แล้วเมื่อเด็กหนุ่มผละริมฝีปากของเจ้าตัวออก เธอก็รีบโกยเอาอากาศเข้าปอดพร้อมกับจ้องมองอีกฝ่ายด้วยความรู้สึกโมโห “เต พี่ว่า...”

    Last Updated : 2025-02-16
  • ติวรักติวใจนายเจ้าเล่ห์   บทที่ 7 (1/2) : ตัดสินใจจะบอกความรู้สึก (1)

    ธารดาราเมื่อเดินมาถึงหน้าประตูห้องนอนของเตชินท์ เธอก็ยืนทำใจอยู่ตรงนั้นสักพัก เพราะถ้าหากว่าเธอก้าวเท้าเข้าไปภายในห้อง นั่นก็หมายถึงการเผชิญหน้ากับเรื่องที่เธอได้ทำผิดพลาดลงไปในเรื่องที่สอง เนื่องจากการใช้ชีวิตที่ผ่านมา ธารดารามักจะลำดับและแบ่งแยกทุกความสัมพันธ์ของผู้คนที่อยู่รายล้อมรอบกายเธออย่างชัดเจน แต่ก็อาจจะเป็นเพราะเตชินท์ที่เริ่มเข้ามาในชีวิตของเธอด้วยสถานะของคำว่า‘น้องชายข้างบ้าน’ แล้วต่อมาสถานะของอีกฝ่ายก็เปลี่ยนมาใช้คำว่า‘ลูกศิษย์’ และก็ด้วยเพราะสถานะนี้ รวมไปถึงการกระทำล่าสุดของเธอกับเตชินท์ มันได้ส่งผลกระทบไปถึงกฎระเบียบข้อบังคับในสถาบันสอนภาษายิ้มรับที่ว่า... ‘คนเป็นครูห้ามคิดเกินเลยกับลูกศิษย์ของตัวเอง และก็ห้ามมีความสัมพันธ์ในรูปแบบอื่นนอกจากคำว่า‘ครู’ กับคำว่า‘ลูกศิษย์’ ซึ่งถ้าหากฝ่าฝืนแล้วถูกจับได้ โทษสถานเดียวที่จะได้รับก็คือ...การถูกไล่ออก’

    Last Updated : 2025-02-17
  • ติวรักติวใจนายเจ้าเล่ห์   บทที่ 7 (2/2) : ตัดสินใจจะบอกความรู้สึก (2)

    ธารดาราดึงมือของตัวเองกลับมา ก่อนที่เธอจะหันหน้ากลับไปมองเด็กหนุ่มเจ้าของห้องด้วยความรู้สึกตกใจ “พี่ผึ้ง...พี่คิดว่าผมจะกล้าไปจูบกับคนที่เพิ่งเจอและเพิ่งจะรู้จักกันได้ไม่ถึงสองเดือนจริง ๆ หรือครับ? ทั้ง ๆ ที่ผมก็เคยบอกกับพี่เอาไว้แล้วว่า จูบแรกของผม...ผมจะเก็บมันเอาไว้ให้กับผู้หญิงที่ผมรักเท่านั้น!” “เต...คือพี่” ธารดาราที่ยังคงตกใจจึงไม่รู้ว่าเวลานี้ตนเองควรจะพูดอะไรออกมาดี เธอจึงทำแค่เพียงยืนมองเตชินท์ที่ค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน จากนั้นเจ้าตัวก็เดินเข้ามาหาเธอทีละก้าวอย่างช้า ๆ ด้วยสีหน้าและท่าทางที่คล้ายกับกำลังรู้สึกเจ็บปวดใจเป็นอย่างมาก แล้วเพียงไม่นานเด็กหนุ่มก็เดินมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเธอ หลังจากนั้นเตชินท์ก็ใช้มือข้างขวาดึงธารดาราเข้าไปไว้ในอ้อมกอด ส่วนมือข้างซ้ายของเจ้าตัวก็เอื้อมไปกดล็อคที่ลูกบิดประตู ก่อนที่เด็กหนุ่มจะใช้แขนทั้งสองข้างโอบกอดร่างกายของเธอเอาไว้จ

    Last Updated : 2025-02-17
  • ติวรักติวใจนายเจ้าเล่ห์   บทที่ 8 (1/2) : ล้วนเกิดจากความตั้งใจ (1)

    ธารดาราเมื่อขับรถออกมาจากบ้านของเตชินท์ได้สักพัก เธอก็ค่อย ๆ ชะลอรถ ก่อนที่เธอจะขับเข้าไปจอดยังบริเวณข้างทาง เพื่อปรับอารมณ์และรวบรวมสติของตัวเองก่อน “นี่เราทำบ้าอะไรลงไปเนี่ย!” ธารดารายิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกแย่กับการกระทำของตัวเอง ทำไมเมื่อครู่เธอถึงปล่อยตัวปล่อยใจไปกับเตชินท์ได้ถึงขนาดนั้น เพราะถึงแม้ว่า...หลังจากนี้เธอกับเด็กหนุ่มจะไม่ได้อยู่ในสถานะของคำว่า‘ครู’ และ‘ลูกศิษย์’ กันอีกต่อไป แต่ทว่า...เธอกับเตชินท์ก็อายุที่ห่างกันเกือบหกปี แล้วไหนจะเรื่องสเปคที่ธารดาราต้องการคู่ชีวิตที่มีนิสัยเหมือนกับพ่อของเธอ นั้นก็คือจะต้องดูเป็นผู้ใหญ่และใจเย็น และที่สำคัญในสายตาของธารดาราเตชินท์ก็อยู่ในสถานะของคำว่า‘น้องชาย’ แต่ถ้าเธอมองอีกฝ่ายเป็นเพียงแค่น้องชาย ทำไมเธอถึงกล้า...  

    Last Updated : 2025-02-18
  • ติวรักติวใจนายเจ้าเล่ห์   บทที่ 8 (2/2) : ล้วนเกิดจากความตั้งใจ (2)

    ธารดาราเมื่อขับรถกลับมาถึงบ้าน เธอก็พยายามทำทุกอย่างให้มันไม่ต่างไปทุกวันที่ผ่านมา พอเห็นว่าสายธารกับธันวาทานข้าวเย็นกันจนอิ่มแล้ว เธอจึงเริ่มเกริ่นขึ้นมาว่า...เมื่อคืนวิวรดาได้โทรเข้ามาปรึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรมของนักเรียนกลุ่มใหม่ที่เพิ่งเข้ามาเรียนในช่วงต้นเดือน โดยนักเรียนกลุ่มนี้มีปัญหาเรื่องการปิดกั้นตัวเองจากครูผู้สอน ซึ่งเหตุผลก็คือนักเรียนกลุ่มนี้เริ่มชินกับการเรียนการสอนแบบออนไลน์ ในวันพรุ่งนี้ธารดารากับกลุ่มเพื่อนจึงนัดกันเข้าไปพูดคุยเพื่อหาทางออก ก่อนที่พวกเธอจะเรียกครูทั้งหมดในสถาบันสอนภาษาเข้ามาประชุม เพื่อปรับแผนการเรียนการสอนใหม่อีกครั้ง ดังนั้นหลังจากนี้เรื่องการสอนพิเศษให้กับเตชินท์ที่บ้าน ธารดาราคงต้องส่งครูในสถาบันสอนภาษายิ้มรับเข้าไปสอนแทนเธอก่อน หลังจากรับฟังปัญหาเรื่องงานของธารดาราจบ ธันวากับสายธารก็ช่วยกันคิดหาทางออกเรื่องงานให้กับบุตรสาว ซึ่งคนทั้งคู่ก็ไม่ได้ว่าอะไรเรื่องที่ธารดาราจะส่งคนอื่นไปสอนพิเศษให

    Last Updated : 2025-02-18

Latest chapter

  • ติวรักติวใจนายเจ้าเล่ห์   บทที่ 13 (2/2) : ห้ามยอมแพ้เด็ดขาด (2)

    “น้ำผึ้งปวดแผลหรือลูก?” ธารดาราหลุดออกมาจากภวังค์ความคิดหลังจากได้ยินคำถามของผู้เป็นแม่ แล้วเมื่อเงยหน้ากลับขึ้นมาเธอก็ได้เห็นสายตาที่แสดงออกถึงความเป็นห่วงจากธันวาและสายธาร เธอจึงรีบตอบกลับไปว่า “ผึ้งไม่ได้ปวดแผลค่ะแม่ คือ...เมื่อครู่ผึ้งเผลอคิดอะไรนิดหน่อยเท่านั้นเองค่ะ ผึ้งขอโทษที่ทำให้พ่อกับแม่ต้องเป็นห่วงนะคะ” “ไม่เป็นไรเลยลูก แต่ถ้าหนูรู้สึกไม่ดี ปวดแผลหรือรู้สึกเจ็บตรงไหนขึ้นมา น้ำผึ้งต้องรีบบอกพ่อกับแม่เลยนะลูก” “ได้ค่ะพ่อ” เพียงไม่นานพวกเธอก็มาถึงหน้าห้องฉุกเฉิน แล้วที่หน้าประตูห้อง...เวลานี้ก็มีแค่ภัสสรที่นั่งเฝ้ารออยู่ที่หน้าห้องนั้นคนเดียว “ป้าหมิวคะ” “น้ำผึ้ง! ทำ

  • ติวรักติวใจนายเจ้าเล่ห์   บทที่ 13 (1/2) : ห้ามยอมแพ้เด็ดขาด (1)

    “น้ำผึ้ง น้ำผึ้ง นี่แม่เองนะลูก เงยหน้าขึ้นมามองแม่ก่อนเร็วลูก แม่อยู่ตรงนี้แล้ว...น้ำผึ้ง คุณคะ...ลูกของเรา ฮึก! ฮือออ...” “น้ำผึ้งลูก น้ำผึ้ง! น้ำผึ้งเงยหน้าขึ้นมามองพ่อแล้วปล่อยตัวเตชินท์ก่อนลูก” หลังจากได้ยินเสียงเรียกที่คุ้นหูและรับรู้ได้ถึงแรงเขย่าเบา ๆ ซึ่งมันไม่ใช่แรงดึง แรงตบหรือแรงกระชากเหมือนกับที่ผ่านมาเมื่อครู่ ธารดาราจึงเงยหน้ากลับขึ้นมามอง... “พ่อ แม่ พ่อคะ แม่คะช่วยเตด้วยค่ะ ช่วยเตชินท์ด้วยค่ะพ่อ ฮึก...ฮือออ” “ได้ลูก...ได้เดี๋ยวพ่อช่วยเตให้เอง แต่ตอนนี้น้ำผึ้งต้องใจเย็น ๆ แล้วปล่อยตัวเตชินท์ออกมาก่อน เวลานี้รถพยาบาลมาถึงแล้วลูก” ธารดารายอมปล่อยตัวเตชินท์ออกมาจากอ้อมแขน จากนั้นบุรุษพยาบาลก็รีบเข้ามาดูแลบาดแผลตามร่างกายของเธอกับเตชินท์ โดยมีธันวากับสายธารคอย

  • ติวรักติวใจนายเจ้าเล่ห์   บทที่ 12 (2/2) : ความกลัวกำลังกัดกินหัวใจ (2)

    ซึ่งหลังจากที่ธารดาราตะโกน ผู้ชายที่น่าจะเป็นหัวหน้ากลุ่มโจรก็วิ่งเข้ามาแล้วหมายจะใช้มือปิดปากของเธอ ธารดาราจึงรีบก้มตัวหลบพร้อมกับสะบัดแขน จนเธอเป็นอิสระจากมือของผู้ชายร่างใหญ่ จากนั้นธารดาราก็หันมาเตะตัดขา แล้วต่อยเข้าไปที่ใบหน้าของผู้ชายที่น่าจะเป็นหัวหน้ากลุ่มโจร แต่ด้วยความที่เรี่ยวแรงของเธอมีน้อยกว่าอีกฝ่ายมาก รวมไปถึงความชำนาญในเรื่องของการชกต่อยข้างถนนที่ผู้ชายคนนั้นมีอยู่ ทำให้ในจังหวะที่ธารดาราออกหมัด...ผู้ชายคนนั้นก็ได้ยกมือข้างซ้ายขึ้นมารับหมัดของเธอเอาไว้ จากนั้นอีกฝ่ายก็ใช้มือข้างขวาพุ่งเข้ามาบีบที่ต้นคอของธารดาราพร้อมกับออกแรงผลัก จนทั้งศีรษะและตัวของเธอกระแทกลงไปฟาดกับพื้นอย่างแรง หลังจากนั้นอีกฝ่ายก็พลิกกลับขึ้นมานั่งคร่อมอยู่บนตัวของธารดาราทันที “ถุย! ฤทธิ์เยอะนักนะมึง” อั๊ก!

  • ติวรักติวใจนายเจ้าเล่ห์   บทที่ 12 (1/2) : ความกลัวกำลังกัดกินหัวใจ (1)

    ธารดารารีบเด้งตัวออกมา แล้ววิ่งลงไปที่ไหล่ถนนห่างจากจุดที่เธอจอดรถพอสมควร จากนั้นเธอก็หันกลับไปเผชิญหน้ากับผู้ชายที่เธอก้าวถอยหลังไปชนเมื่อครู่ แต่ในระหว่างนั้นสายตาของธารดาราก็เหลือบไปเห็นผู้ชายร่างเล็กคนหนึ่งกำลังพยายามปลดล็อคประตูรถยนต์ของเธออยู่... “เฮ้ย! นั่นแก...” ธารดาราที่กำลังจะตะโกนต่อ ต้องหยุดชะงักทันที เพราะเธอสัมผัสได้ถึงความเย็นจากเหล็กแหลมที่จี้เข้ามาตรงบริเวณช่วงเอวข้างขวาของเธอ จากนั้นธารดาราก็ได้ยินเสียงของผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้นมาที่ข้างหูซ้ายว่า “หากยังไม่อยากตายอยู่ตรงนี้ น้องสาวคนสวยก็รีบหุบปากของตัวเองลงไปซะ” ธารดารารีบหุบปากของตัวเองลงทันที หลังจากนั้นเธอก็พยายามมองรอบกาย เวลานี้ไม่มีใครอยู่ใกล้ตัวเธอเลยสักคนนอกจากโจรสามคนนี้ แล้วก็คงจะด้วยเพราะตอนนี้มันได้เลยเวลาเที่ยงคืนมามากแล้ว คน รถยนต์ หรือแม้แต่รถจักรยานยนต์ที่มักจะขับผ่านเข้ามายังเส้นทางนี้จ

  • ติวรักติวใจนายเจ้าเล่ห์   บทที่ 11 (2/2) : จะต้องรออีกนานแค่ไหน? (2)

    “ครับ พี่ส่งข้อความมาบอกว่า ‘พี่ขอเวลา’ แต่เวลาที่พี่ขอมันกี่วัน กี่เดือน หรือกี่ปีกันล่ะครับ ก็พี่ไม่ยอมบอกว่า...พี่จะขอเวลาจากผมนานเท่าไหร่? ผมก็เลยไม่รู้ว่าตนเองจะต้องรอพี่อีกนานแค่ไหน?” เตชินท์พยายามสงบใจของตัวเองลง ก่อนจะพูดต่อ “พี่ผึ้งครับ ผมรู้ว่าที่ผ่านมา...ผมทำผิดต่อพี่ ผมขอโทษพี่จริง ๆ นะครับ แต่พี่...พี่อย่าเฉยชากับผมแบบนี้ได้ไหมครับ? แล้วพี่ก็อย่าหายไปจากชีวิตของผมแบบนี้อีกเลย! ผมโทรเข้าไปหาพี่กี่ครั้ง พี่ก็ไม่เคยรับ ผมส่งข้อความไปหาพี่หลังจากวันนั้น พี่ก็ไม่เคยเข้าไปเปิดอ่านข้อความของผมอีกเลย ผมพยายามใช้ช่องทางอื่นติดต่อเข้าไปหาพี่ แต่พี่ก็ไม่เคยสนใจ ถึงผมจะรอวันที่พี่ให้อภัยและให้คำตอบกับผมได้ แต่ผมก็...” “อย่างนั้นก็ไม่ต้องรอ” “พี่ผึ้ง!”&

  • ติวรักติวใจนายเจ้าเล่ห์   บทที่ 11 (1/2) : จะต้องรออีกนานแค่ไหน? (1)

    ธารดารารู้ว่าตอนนี้เพื่อนสนิททั้งสามคนกำลังรู้สึกเป็นห่วงเธอ ซึ่งที่ผ่านมาไม่ว่าจะเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัวพวกเธอไม่เคยมีเรื่องอะไรปิดบังกัน แล้วก็ด้วยเพราะเวลานี้พวกเธออยู่ในห้องทำงานของผู้บริหาร ซึ่งก็มีเพียงแค่พวกเธอสี่คนเท่านั้นที่สามารถเข้าออกห้องนี้ได้ ธารดาราจึงตัดสินใจเล่าเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นระหว่างเธอกับเตชินท์ให้คนทั้งสามฟัง... แล้วหลังจากที่ธารดาราเล่าจบ ซูซี่ก็ออกความเห็นขึ้นมาทันทีว่า “โอ้ย! แก...เด็กแกน่ารักอ่ะ ออกแนวใส ๆ ผึ้งแกมีรูปของน้องเตชินท์แบบที่อัปเดตแล้วให้ดูไหม?” เนื่องจากพวกซูซี่เคยเห็นแต่รูปในวัยเด็กของเตชินท์ที่ถ่ายคู่กับธารดาราเท่านั้น “มี” ธารดาราเปิดรูปโปรไฟล์ของเตชินท์ในโปรแกรมส่งข้อความ ก่อนจะยื่นโทรศัพท์มือถือไปทางซูซี่ “แต่ฉันว่าเด็กคนนี้ออกแนวเจ้าเล่ห์มากกว่าใสซื่อนะ” วิวรดาพูดพร้อมกับยื่น

  • ติวรักติวใจนายเจ้าเล่ห์   บทที่ 10 (2/2) : มีเรื่องให้ต้องคิด (2)

    “แล้วกูจะรู้ไหมเนี่ยว่าบ้านพี่ผึ้งของมึงอยู่ที่ไหน?” อัศวินก้มมองเตชินท์ ตั้งแต่ทำความรู้จักจนคบหาเป็นเพื่อนสนิทกับมันมา เขาก็เพิ่งเคยเห็นมันอยู่ในสภาพนี้เป็นครั้งแรก “ไม่รู้ก็ปล่อยกูไว้ที่นี่ กูจะกินเหล้าต่อ...พวกมึงจะไปที่ไหนก็ไป!” “ไอ้เต กูถามจริง ๆ ทำไมมึงถึงรักคนที่... เออ...กูขอพูดตรง ๆ นะ พี่ผึ้งของมึงเขาก็ยังไม่ได้รักมึงตอบเลยด้วยซ้ำ แล้วไม่แน่ว่า...ที่ผ่านมาเขาก็อาจจะมองมึงเป็นเพียงแค่อดีตน้องชายข้างบ้านเท่านั้นเอง” “กูก็ไม่รู้ แต่ที่กูรู้ก็คือ...ตลอดเจ็ดปีที่ผ่านมาไม่มีวันไหนเลยที่กูไม่คิดถึงพี่ผึ้ง และไม่ว่าจะสุขหรือจะทุกข์ คนที่กูมักจะคิดถึงเป็นคนแรกก็คือพี่ผึ้ง แล้วที่สำคัญพี่ผึ้งคือแรงบันดาลใจของกู เพราะมีพี่ผึ้งอยู่...กูถึงได้พยายามทำตัวเองให้ดีขึ้นกว่าเดิมในทุก ๆ วัน” “แล้วจากนี้มึงจะทำยังไงต่อ?”

  • ติวรักติวใจนายเจ้าเล่ห์   บทที่ 10 (1/2) : มีเรื่องให้ต้องคิด (1)

    ในระหว่างที่เตชินท์ทำแบบทดสอบที่ได้รับมาจากธารดารา เขาก็คิดขึ้นได้ว่าตอนนี้ตัวเองต้องการเวลาและความใกล้ชิด เพื่อที่เขาจะได้กลับไปสนิทกับหญิงสาวให้ได้เหมือนเดิมก่อน เตชินท์จึงตัดสินใจทำแบบทดสอบให้มันผิดพลาดมากที่สุด เพื่อเรียกคะแนนสงสารจากธารดารา จนอีกฝ่ายยินยอมเพิ่มระยะเวลาในการเข้ามาสอน จากนั้นเขาจึงรีบเสนอให้ใช้ห้องนอนของตัวเองเป็นห้องเรียนแทนห้องรับแขก แล้วเมื่อธารดาราตอบตกลง หลังจากวันนั้นเป็นต้นมา...เตชินท์จึงเริ่มทำตามแผนการที่เขาแอบคิดไว้ต่อทันที โดยในช่วงแรก ๆ เตชินท์ก็แอบเป็นกังวล เพราะธารดาราเลือกเดินกลับเข้ามาในชีวิตของเขาด้วยการเป็นคนอื่น ซึ่งมันอาจจะกระทบกับแผนที่เขาได้เตรียมการเอาไว้ แต่เมื่อเตชินท์ลองปรับเปลี่ยนแผน...แล้วเริ่มเดินเกมส์รุก หลังจากนั้นความสัมพันธ์ระหว่างเขากับธารดารา มันก็เริ่มกลับมาใกล้ชิด และเริ่มสนิทกันยิ่งกว่าที่เขาคิดเอาไว้ด้วยซ้ำ คงด้วยเพราะในตอนแรกเตชิน

  • ติวรักติวใจนายเจ้าเล่ห์   บทที่ 9 (2/2) : เหตุการณ์ในวันนั้น... (2)

    ซึ่งก็ไม่รู้ว่าด้วยเพราะฤทธิ์ของสุราที่ยังคงเหลืออยู่ในร่างกายหรือด้วยเพราะอะไร หลังจากนั้นเตชินท์ถึงได้กล้าเล่าเรื่องระหว่างเขากับธารดารา ตั้งแต่ในวัยเด็ก...มาจนถึงสถานการณ์ล่าสุดของพวกเขาให้อัศวินฟัง แล้วเมื่ออีกฝ่ายฟังจบ เจ้าตัวก็หันกลับมาถามว่า “แล้วมึง...จะมานั่งดักรอเจอพี่ผึ้งของมึงแบบนี้ไปเรื่อย ๆ เลยหรือ?” “กูไม่ได้มาดักเจอ กูก็แค่มาแอบมอง แต่...ถ้าได้เข้าไปทักทายหรือพูดคุยกันบ้างก็คงดี” พูดจบ เตชินท์ก็ถอนหายใจออกมาอย่างแรงหนึ่งครั้ง คงเพราะสามปีกว่า ๆ ที่ผ่านมาเขาเอาแต่เฝ้ามองธารดาราอยู่ห่าง ๆ มาโดยตลอด แล้วการที่วันนี้เขาบังเอิญได้เข้าไปอยู่ในสายตา และได้สบตากับคนที่เขาแอบรัก มันจึงทำให้เขาเกือบเผลอเดินตามเธอไปเสียอย่างนั้น จนผ่านไปได้สักพักเตชินท์กับอัศวินก็กลับเข้าไปหาเพื่อน ๆ ที่รออยู่ในห้องร้องคาราโอเกะ จากนั้นพวกเขาก็แยกย้ายกันกลับบ้าน

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status