“จะบ้าเหรอ ใครจะแต่งกับนาย”
“ไม่แต่งก็ได้จ้ะ ยังไงก็เป็นเมียอยู่แล้ว”
ใบหน้าคมเข้มก้มลงมาพูดจนชิดแก้มทำให้เธอต้องเอียงหนี แม้คำพูดจะดูหวาน ทว่ากลับเต็มไปด้วยความกดดัน นิชาดาโมโหคนปั้นเรื่องเก่งจนต้องทุบไหล่หนา
“ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับนายทั้งนั้น”
“นี่หมายความว่าเราจะแต่งงานกับแม่นี่เหรอ”
เหมือนหญิงสูงวัยจะไม่สนใจเธอเลยแม้แต่น้อย เธอทันเห็นว่าดวงตาคู่คมเข้มกลอกไปมาเพราะเขาก้มลงหาเธอ ราวตัดสินใจเพียงเสี้ยวอึดใจก่อนหน้าเงยหน้าขึ้นตอบ
“ครับ ก็ยายอยากให้ผมแต่งไม่ใช่เหรอ”
“ยายหมายถึงแต่งกับ...”
ผู้เป็นยายเหลือบไปทางผู้ช่วยตน และเห็นชัดว่าคนที่ยืนเงียบมีหน้าที่ฟังตั้งแต่มาถึงกำลังเม้มปาก แต่ก็เผยยิ้มบางเมื่อนายตนเอื้อมมือมาจับอย่างเห็นใจราวปลอบใจไปด้วย
“คนที่ยายเห็นว่าเหมาะสม”
“ผมมีหมอกอยู่แล้ว”
เหมือนชายหนุ่มต้องการตัดบท
“แล้วก็จะแต่งกันเร็วๆ นี้ ยายจะได้สบายใจว่าผมไม่ได้พาผู้หญิงมากกในไร่ให้น่าเกลียด แต่ผมกกเมียผม”
“ตาดนย์”
“ฉะ...”
“จุ๊บ”
คำพูดของเธอหยุดลงเพราะปากได้รูปที่หนวดเครารกครึ้มกดลงมาหนักๆ อย่างรวดเร็ว
“ฮึ่ย! หลานคนนี้ อยากทำอะไรก็ตามใจ อยากให้ตบแต่งกับคนดีๆ ก็ไม่ฟัง ยายไม่ยุ่งด้วยแล้ว”
หญิงสูงวัยสะบัดหน้าหันหนีแล้วหมุนตัวเดินออกจากบ้านไปอย่างหงุดหงิด ตามด้วยหญิงสาวที่มองชายหนุ่มด้วยแววตาตัดพ้อก่อนจะตามนายตนไป
“ปล่อยได้แล้ว”
นิชาดาพูดพร้อมกระแทกศอกเข้าที่หน้าท้องแกร่ง รู้ว่าอีกฝ่ายคงไม่เจ็บเท่าไรแต่ก็อยากทำอะไรบ้าง เพราะนับแต่ก้าวมาเหยียบไร่ชาดิฐวัฒน์เธอก็ถูกผู้ชายคนนี้ทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจอยู่ฝ่ายเดียว
“อย่าพยศให้มากนัก”
แรงเท่ามดไม่ได้ทำให้ธีรดนย์รู้สึกอะไร แต่เขาไม่ชอบที่อีกฝ่ายแข็งขืนต่อต้าน มือหนาจับไหล่บางสองข้างบีบให้รู้ว่าคนที่มีอำนาจมากกว่าก็คือเขา
“อย่าลืมว่าเธอมาที่นี่เพราะอะไร ลูกหนี้ต้องเชื่อฟังเจ้าหนี้ ฉันจะไม่แต่งกับเธอก็ยังได้ รู้เอาไว้ด้วย เพราะฉะนั้นถ้าอยากพยศก็ทำบนเตียง เพราะฉันชอบปราบม้าสาวพยศ ชอบควบแบบบ้าคลั่ง จำไว้”
บอกแล้วก็ผลักร่างอรชรลงบนโซฟา ก่อนจะชี้นิ้วสั่ง
“รออยู่นี่ อย่าคิดหนี เพราะเธอรู้ดีว่าคนที่จะมีปัญหาไม่ใช่เธอคนเดียว”
จากนั้นร่างสูงใหญ่ก็เข้าไปในห้องหนึ่งที่น่าจะเป็นห้องนอน
‘อย่าร้องนะหมอก’
นิชาดาได้แต่เตือนตัวเองอยู่ในใจ หักห้ามอารมณ์สะเทือนใจกับน้ำตาของตนเอาไว้อย่างเต็มที่ เธอจะไม่อ่อนแอ ในเมื่อทุกอย่างมันเกิดขึ้นแล้ว เธอก็ต้องผ่านมันไปให้ได้ และเป็นครั้งแรกที่ตนจะได้ตอบแทนได้ทำเพื่อพี่ชายที่เลี้ยงเธอมา
นิชาดาสงสารและเห็นใจนภนต์มาตลอดที่เขาต้องทำงานหนักอยู่เสมอเพื่อสองชีวิต กระทั่งตนทำงานได้ก็ช่วยรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในบ้าน ทว่าที่เธอไม่เคยรู้เลยคือ พี่ชายติดการพนัน
เธอรู้เพียงว่าเขาต้องออกไปทำงานตอนกลางคืนด้วย และไม่เคยให้เธอต้องช่วยเหลือในเรื่องเงิน
“เอาไป”
เสื้อเชิ้ตลายสก็อตสีดำตัวใหญ่ถูกโยนมาให้ นิชาดาปาเสื้อที่แทบจะคลุมบนศีรษะตนทิ้ง
“นี่เธอ!”
เสื้อตัวเดิมถูกโยนกลับมาอีกครั้ง ทว่าแรงกว่าเดิมจนแทบโดนหน้า
“จะไม่ใส่ก็ได้นะ เดินกลับไปไร่เองทั้งอย่างนี้เลย”
ชายหนุ่มเสียงดังพร้อมชี้ออกไปนอกประตู สีหน้าท่าทางชวนหาเรื่องและกวนโมโหสุดๆ อย่างที่ไม่เคยมีใครทำให้เธอรู้สึกอย่างนี้มาก่อน
“คนบ้าอำนาจ หยาบคาย ป่าเถื่อน”
นิชาดาหันหน้าหนีพร้อมต่อว่าคนตัวโต มือก็ใส่เสื้อตัวใหญ่ทับชุดของตนไปด้วย
“นี่ อยากโดนจับถอดเสื้อผ้าหมดตัวใช่ไหม บอกเลยนะว่าจับถอดแล้วเธอจะไม่ได้ใส่อีกเลยทั้งคืนจนเช้าวันพรุ่งนี้”
มือบางที่กำลังติดกระดุมเร่งติดอย่างรวดเร็ว ดวงตาคู่กลมโตตวัดมองเขาวาววับไม่พอใจ ทว่าไม่พูดอะไร
ธีรดนย์มองดวงหน้าเรียวมนที่ผมซึ่งเจ้าตัวรวบสูงเป็นหางม้าหลุดลุ่ย แก้มสีระเรื่อ ทั้งเหงื่อผุดพรายแล้วกลับรู้สึกใจกระตุกแปลกๆ ยิ่งดวงตากลมโตฉายแววขุ่นยิ่งอยากกำราบ ทว่าวันนี้เขาจะปล่อยไปก่อน อย่างน้อยลูกหนี้ของเขาก็รู้แล้วว่าเขามีสิทธิ์ในตัวเธอ จะได้เลิกหัวแข็งหยิ่งผยองเสียที
“ยังไงวันนี้ก็มีคนมาขัดจนหมดอารมณ์แล้ว ไว้ฉันจะเรียกใหม่แล้วกัน”
บอกพลางร่างสูงใหญ่ก็เดินไปทางประตู ขณะที่คนได้ยินลุกพรวดขึ้นอย่างไม่พอใจ
“ฉันไม่ไป”
“จะไม่กลับหรือไง ติดใจจูบของฉันแล้วสินะ”
“ฉันหมายถึงจะไม่ไปตามที่นายเรียกต่างหากล่ะ”
คนที่หยุดตรงหน้าประตูกอดอก จ้องเธอด้วยสายตาเบื่อหน่าย
“คิดว่าทำได้ก็ลองดู”
จากนั้นก็เดินออกไปนอกบ้านพร้อมตะโกน
“เร็วด้วย ไม่งั้นก็เดินกลับเอง”
นิชาดาอยากเดินกลับเองให้รู้แล้วรู้รอด แต่ก็รู้ดีว่าเป็นไปไม่ได้ ในเมื่อนี่มันท้ายไร่ กว่าจะไปถึงบ้านพักของตนที่อยู่อีกฝั่งของไร่คงเดินทั้งคืน สุดท้ายก็ต้องรีบตามเจ้าของร่างสูงใหญ่ออกไปอย่างหงุดหงิด แม้ยังขัดเคืองและไม่อยากได้ตำแหน่งเมียจำเป็นที่อีกฝ่ายโมเมบอกว่าจะแต่งงานกับเธอแม้แต่น้อย
เธอไม่มีทางที่จะหลุดพ้นจากผู้ชายป่าเถื่อนคนนี้ได้เลยหรือ
======
ไม่อ่อนโยนเลยนายดนย์คนเถื่อน อยากให้หมอกเอาชนะให้ได้จริงๆ ^-^"
“นายจะไปไหนน่ะ”เมื่อขึ้นรถมาแล้วคนตัวเล็กที่นั่งหน้างอกอดอกบอกบุญไม่รับก็ถามเสียงแข็ง“สำนักงาน”“ฉันจะไปบ้านพัก”“ไปทำไม”“จะให้ฉันไปทำงานสภาพนี้หรือไง”นิชาดาขึ้นเสียง แล้วก็ได้รับแววดุดันจากดวงตาคู่คมปลาบมองแวบหนึ่งก่อนจะกลับไปทางข้างหน้า“ก็มีเสื้อฉันแล้ว”“นายจะให้ฉันใส่เสื้อตัวนี้เข้าสำนักงานน่ะเหรอ คนเขาจะคิดกันยังไง”“พวกนั้นก็ฉันจูบเธอเต็มสองตา รู้ว่าเธอเป็นคนของฉันอยู่แล้ว จะเรื่องมากทำไม”“โอ๊ย คนบ้า”เธอหงุดหงิดจนอดไม่ได้แล้วจริงๆ“น้อยๆ หน่อย เห็นว่าฉันขับรถก็เลยทำอะไรเธอไม่ได้หรือไง อย่าลืมว่าฉันจอดรถได้นะ”นิชาดาพยายามสงบสติอารมณ์ที่กำลังปรี๊ดแตกของตัวเอง สองมือที่กอดอกลดลงกำแน่น การใช้อารมณ์ไม่มีประโยชน์ เธอต้องใจเย็นและมีสติ ไม่อย่างนั้นคงต่อกรกับคนป่าเถื่อนถือตัวเองเป็นใหญ่ยาก เห็นแล้วว่าแม้แต่ยายของเขาก็ยังตามใจแม้จะดุทว่าสุดท้ายก็ไม่ขัดชายหนุ่ม“นายทำขนาดนี้แล้วยังไม่พอใจอีกเหรอ ถึงฉันเป็นลูกหนี้แต่ต้องทำให้อับอายด้วยหรือไง แค่ไปส่งที่บ้านพักก็พอ นายจะไปทำงานหรือมีธุระก็ไปได้เลย ฉันเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วจะหาทางไปสำนักงานเอง”เธอบอกด้วยเสียงอ่อนลงกึ่งขอร้องกลายๆ ทว่าร
“ว่าไง อยากได้ไม่ใช่เหรอ”นิชาดานิ่งงันนานครู่หนึ่งอย่างชั่งใจ แม้ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ในเมื่อตนถูกบังคับจูบจากผู้ชายป่าเถื่อนไปแล้ว แต่ก็หยิ่งในศักดิ์ศรีของตน หญิงสาวเมินหน้าหนีอย่างไม่สนใจ จะเปิดประตูแต่คนตัวโตกลับเคลื่อนไหวรวดเร็วมาดึงไว้พร้อมกดตัวเธอติดเบาะ“บอกว่าให้จูบหวานๆ”จบคำย้ำใบหน้ารกครึ้มก็แนบลงมา ปากได้รูปประทับปิดปากเธอ นิชาดารีบเองหน้าหนีแต่มือหนาก็ล็อกไว้“เธอไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ”เอ่ยชิดจมูกเธออย่างเอาแต่ใจแล้วก็บดเบียดริมฝีปากลงมาอีกครั้งแต่กลับนิ่งเฉยเหมือนรอให้เธอเป็นผู้มอบจูบครั้งนี้ มาถึงตอนนี้ก็นับเป็นเสียจูบไปแล้ว หากเขาไม่พอใจไม่คืนมือถือให้เธอก็เสียเปรียบไปเปล่าๆ คิดแล้วก็กลั้นใจกดริมฝีปากหลับหูหลับตาขยับเบาเคล้าคลึงบนแกร่งกว่าบางเบาชั่วอึดใจ แต่พอจะถอยท้ายทอยก็ถูกกดไว้ ปากอุ่นบดลงมาหนักกว่าที่เธอเพิ่งจูบไป ทั้งยังรู้สึกได้ถึงปลายลิ้นที่ไล้เลาะทว่านิชาดาไม่ยอมเปิดรับ หากชายหนุ่มก็ยิ่งเบียดปากแนบแน่นเหนือกลีบปากเธอยิ่งขึ้น เม้มกลีบปากย้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนเธอรู้สึกราวเห่อร้อนด้วยแรงขยับพร้อมไรเคราเสียดสีนานจนพอใจธีรดนย์จึงยอมให้อิสระกับเจ้าของปากนุ่มละมุนหอมหวาน“ไ
เปิดประตูออฟฟิศสำนักงานเข้าไปในตอนบ่ายหลังพักกลางวัน นิชาดาก็ต้องชะงักเมื่อเห็นร่างสูงใหญ่นั่งก้มหน้าก้มตาเซ็นเอกสารอยู่ที่โต๊ะของเธอ เหมือนเขาจะรู้ว่ามีคนเข้ามาจึงเงยหน้ามามอง ดวงตาคู่กลมโตสบตาตาคู่คมเข้มชั่วอึดใจแล้วหญิงสาวก็คิดได้ว่าหากเข้าห้องตอนนี้ตนจะอยู่ตามลำพังกับอีกฝ่าย เพราะมธุรินออกไปข้างนอกกับวัชพลยังไม่กลับมาร่างอรชรถอยกรูดหมุนตัวทว่ายังไม่ทันพ้นประตู ข้อมือก็ถูกคว้าดึงกลับ“อุ๊ย”ตัวเธอถูกหมุนกลับไปดันชิดผนังพร้อมประตูดันปิด และร่างสูงใหญ่ก็โถมมาประชิด นิชาดาไม่คิดว่าชายหนุ่มจะเร็วอย่างนี้ เขากระโดดมาหรืออย่างไรจึงใช้เวลาเพียงไม่นานก็ถึงตัวเธอ แล้วก็ต้องรีบหันหน้าหนีเพราะใบหน้าเต็มไปด้วยหนวดเคราโน้มมาชิด แต่แน่นอนว่าเมื่ออีกฝ่ายต้องการเธอก็ยากจะหลบพ้น ปลายนิ้วแกร่งล็อกดันปลายคางเธอให้ยอมจำนนต่อริมฝีปากได้รูปชายหนุ่มรุกรานอย่างเอาแต่ใจ เม้มซับกลีบปากอิ่มน่าจูบทั้งบนล่างแม้เจ้าตัวจะพยายามฝืนต้าน เขาก็จูบย้ำราวกับต้องการจะกลืนกินปากสีหวานจนเต็มอิ่ม“โทษฐานที่เห็นฉันแล้วเดินหนี”นิชาดากัดริมฝีปากของตนทันทีที่อีกฝ่ายผละห่าง รู้สึกถึงความชอกช้ำทั้งปากและภายในใจจนขอบตาร้อน หา
จะยังไงก็ยอมรับแหละ ขอให้ได้เอาคืนนายคนเถื่อนนี่บ้างก็พอ แต่กลับไม่เป็นอย่างที่เธอคิดเพราะเขากลับไม่พูดเรื่องกาแฟ“เล่ามาได้เลย”“คือ...ฉันอยากให้เพิ่มคอลัมน์ประมาณเที่ยวไร่ดิฐวัฒน์น่ะค่ะ”เธอจำต้องเข้าเรื่องงานตาม และชายหนุ่มก็ยกกาแฟจิบซ้ำแล้วดูไม่ชอบใจนัก หากก็เอนหลังพิงเก้าอี้กอดอกมองรอฟังด้วยสีหน้าจริงจัง“ตอนนี้ยังคิดชื่อแบบน่าสนใจ หรือเรียกแขกไม่ออก แต่ฉันจะคิดให้ทันก่อนคนเขียนเว็บจะเพิ่มช่องด้านหน้า แล้วก็หน้าที่กดเข้าไปอ่านแน่นอนค่ะ”“แล้วเธอคิดว่าควรอยู่ตรงไหน”เขาถามพร้อมดันแมกบุ๊กมาให้ นิชาดาจึงเอื้อมมือไปจับเมาส์ชี้บอก“คิดว่าน่าจะเป็นส่วนแรก หรือส่วนที่สอง แล้วก็กว้างเท่ากับคัฟเวอร์เว็บค่ะ อาจแบ่งเป็นภาพหัวข้อกับคลิปส่วนละครึ่ง หรือคลิปข้างบนภาพสวยๆ ประกอบข้างล่างเลื่อนไปสักสามถึงห้าภาพก็น่าจะดีค่ะ”“อืม ได้”“เอ่อ...”นิดาชาแปลกใจที่นายของไร่คุยและตัดสินใจโดยไม่มีทีท่าว่าจะรอโปรแกรมเมอร์“เห็นคุณวัชบอกว่าบ่ายนี้ฉันต้องคุยกับโปรแกรมเมอร์ เราไม่ต้องรอเขาเหรอคะ”“ก็คุยอยู่นี่ไง”หญิงสาวเผยอปากค้างอย่างไม่ทันตั้งตัวกับคำตอบง่ายๆ ก่อนชายหนุ่มจะยกกาแฟดื่มจนหมดแก้วด้วยท่าทางไม่
ร่างอรชรนั่งนิ่งไม่ไหวติง ไม่มีทีท่าจะก้าวลงจากรถ แม้ว่าชายหนุ่มจะลงไปก่อนแล้ว เหมือนเขาจะรู้สึกได้จึงหันกลับมามองและเดินอ้อมมายังฝั่งที่เธอนั่งก่อนจะเปิดประตู“อุ๊ย...ทำอะไร ปล่อย”นิชาดายังอ่อนแรงด้วยความกลัววิตกกังวลที่ครอบคลุมจิตใจจนไม่อยากขยับ จึงถูกอุ้มลงจากรถอย่างง่ายดาย ปัดป้องไม่ทัน“นึกว่าอยากให้อุ้มเหมือนเจ้าสาวเสียอีก”“จะบ้าเหรอ ไม่ต้อง ปล่อยฉัน”หญิงสาวดิ้นรนแต่อีกฝ่ายก็ไม่ปล่อย เขาไขกุญแจบ้านอย่างง่ายดายทั้งที่ช้อนอุ้มเธออยู่ เปิดประตูได้ก็ตรงไปทางห้องนอนทันใด“ดะ...เดี๋ยวสิ...”เธอรีบห้ามเมื่ออีกฝ่ายใช้ไหล่ดันประตูห้อง“สนุกกันก่อนแล้วค่อยพักกินอะไรสักหน่อย แล้วค่อยมาต่อรอบดึกยาว”“อะไรนะ!”เสียงหวานแว้ดใส่หูทำเอาธีรดนย์สบถ“วะ จะเสียงดังทำไม หูจะแตก”พร้อมกับพูดก็วางร่างที่เบาหวิวสำหรับตนลงบนเตียง ทว่าไม่ได้เป็นไปอย่างทะนุถนอม แม้จะเห็นอีกฝ่ายถอยกรูด เขาก็ถอดเสื้อตนออกด้วยท่าทางไม่ใส่ใจนักร่างสูงใหญ่ที่เปลือยท่อนบนขยับเข่าขึ้นมาบนเตียงพร้อมใบหน้ารกครึ้มอันน่าหวาดหวั่น หากไม่ได้เป็นนายของไร่ เธอก็คิดว่าเขาไม่ต่างจากโจรเลยแม้แต่น้อย ยิ่งท่าทางคุกคามและแววตากระหายขณะเคล
“อยากครางก็คราง จะกลั้นไว้ทำไม ฉันไม่ชอบความเงียบ มันไม่เร้าใจ ถ้าเธอไม่ครางอย่าหาว่าฉันรุนแรงก็แล้วกัน”ธีรดนย์บอกเสียงเข้มต่ำ เขาไม่ชอบใจนักที่อีกฝ่ายดูไม่มีอารมณ์ร่วม ไม่เคยมีสาวไหนเมินเขาอย่างนี้ พวกเธอเต็มอกเต็มใจกระโดดร่วมวงและยังเป็นฝ่ายปลุกอารมณ์เขาก่อนด้วยซ้ำทรวงอวบเต่งตึงถูกเคล้นอย่างไม่เบามือ ตั้งใจกระตุ้นเร้าอารมณ์สาว ทั้งมืออีกข้างยังไล้ไปทั่วหน้าท้อง ต่ำลงไปแถวท้องน้อยแต่มือบางก็ตามมาปัดออกอย่างน่าหงุดหงิด และนั่นก็ทำให้เขายิ่งฉุนจัดร่างสูงใหญ่ขยับขึ้นปลดกางเกงของคนใต้ร่าง เจ้าตัวก็จิกข่วนมือเขาพัลวันอย่างไม่ยอม“ให้ตายสิ จะดีดดิ้นให้เสียเวลาไปทำไม มาสนุกด้วยกันดีกว่า รับรองฉันจะทำให้เธอลืมทุกคนที่เคยผ่านมาเลย”“ฉันยังไม่...ว้าย!”ยังไม่ทันแย้งจบกางเกงของเธอก็ถูกดึงหลุดจากสะโพก นิชาดารีบจับผ้าห่มมาคลุมตัวเองแทบไม่ทัน พร้อมกับที่กางเกงพ้นปลายเท้า เธอทั้งงอขาทั้งถอยหนีพร้อมกันนั้นก็เห็นอีกฝ่ายจัดการกับกางเกงของเขาจนต้องรีบหันหน้าไปทางอื่น“อะไรอีก ตกลงจะเอาไง”เหมือนชายหนุ่มจะหงุดหงิดที่เธอมีท่าทางไม่เต็มใจและไม่ให้ความร่วมมือใดๆ“ไม่เต็มใจหรือไง”“นายก็รู้อยู่แล้วยังจะถ
นิชาดาถูกบังคับจูบอีกครั้ง แม้จะบอกว่าไม่ฝืนใจ แต่ธีรดนย์ก็จูบเธออย่างถือสิทธิ์ที่จ่ายเงินค่าตัวของเธอแล้วเช่นเดิม หญิงสาวจำต้องเปิดปากรับด้วยปลายนิ้วแกร่งออกแรงกดข้างแก้ม ลิ้นร้อนรุกเร้าเกี่ยวกระหวัดอย่างเร่งรีบทำเอาหายใจหายคอไม่ทันต้องร้องประท้วงอึกอัก แต่ชายหนุ่มก็เพียงเปลี่ยนเป็นจูบซับกลีบปากทั้งบนล่างแทนมือหนาที่ค่อยเคลื่อนเข้ามาด้านในเคล้าคลึงกระชับอกอวบล้นสลับไปมาสองข้าง สะกิดวนเวียนปลายยอดที่เบ่งบานรับแรงเร้าอย่างพอใจ ขณะที่อีกมือลูบต่ำลงเรื่อยๆนิชาดามัวยุ่งกับการห้ามมือที่วุ่นวายกับหน้าอกตน พร้อมอาการวูบวาบที่รุมเร้าทั่วทั้งกาย รู้ตัวอีกครั้งความอุ่นของมือหนาก็ครอบครองเหนือสัดส่วนบอบบาง“อ๊ะ หยะ...อย่า”มือหนากุมเคล้นย้ำอย่างไม่ยอมห่าง ตั้งใจปลุกปั่นร่างกายที่ยังแข็งขืนให้โอนอ่อน แม้จะรู้ว่าใจหญิงสาวยังไม่ยินยอม ทว่าเขาจะทำให้ร่างกายอีกฝ่ายตอบสนองและเสร็จสมจนเธอไม่อาจปฏิเสธความรู้สึกตัวเองให้จงได้ ธีรดนย์มั่นใจในฝีมือของตัวเอง แม้จะเป็นการรวบรัดอยู่สักหน่อย ทว่าสุดท้ายแล้วสาวเจ้าจะต้องชื่นชอบการปรนเปรอของตนอย่างแน่นอนปลายนิ้วแกร่งบดคลึงส่งผลให้ร่างทั้งร่างของเธออ่อนปวกเปีย
“ไปอาบน้ำซะ ฉันจะโทรไปสั่งให้คนเอาอาหารที่บ้านใหญ่มาส่ง”ชายหนุ่มเหมือนจะนั่งลงปลายเตียง นิชาดาไม่ได้มองเขา แต่ก็ลุกขึ้นเงียบๆ ไม่อยากทำตัวเรื่องมากหรืออ่อนแอต่อหน้าอีกฝ่าย หากก็ไม่ลืมใช้ผ้าห่มห่อตัวเดินเก็บเสื้อผ้าของตนทั้งที่ขาสั่นอ่อนแรงราวจะยืนไม่อยู่แต่ก็ฝืนพาตัวเองก้าวต่อไปสายตาคมเข้มของคนที่กำลังกดมือถือมองตามหญิงสาวที่เข้าห้องน้ำไปโดยไม่พูดไม่จา ทั้งไม่มีทีท่าว่าจะร้องไห้คร่ำครวญแล้วก็ถอนหายใจ‘ใจแข็งกว่าที่คิด แต่ก็ดี เพราะฉันปลอบใครไม่เป็น’และแน่นอนว่าธีรดนย์ไม่คิดว่าต้องปลอบใจลูกหนี้ของตน แต่เขาก็ผ่อนปรนให้นิชาดาไม่น้อยเลย‘ใครจะไปคิดว่าเด็กนี่จะรอดมาได้จนเกือบจะสามสิบ’ธีรดนย์รู้ว่านิชาดาอายุยี่สิบเก้าปีแล้ว น้อยกว่าเขากับนภนต์หกปี เพราะเพื่อนตนรักน้องสาวมากและมักพูดถึงให้เขาฟังบ่อยครั้ง ทั้งเขายังเคยไปรับอีกฝ่ายที่บ้านครั้งหนึ่ง และได้เห็นสาวน้อยนิชาดาในชุดนักเรียนมัธยมปลายซ้อนมอเตอร์ไซค์ผู้ชายกลับบ้าน ในตอนนั้นเขานั่งรอพี่ชายของเธออยู่ในรถ‘ไอ้หนุ่มนั่นมันก็ดูไม่ธรรมดา ไม่อยากเชื่อว่าจะปล่อยสาวน้อยหน้าหวานหลุดมือ’เขาคิดในใจพลางยักไหล่ ก็ดีเหมือนกันเพราะกลายเป็นเขาที่จ
ปลายนิ้วแกร่งไล้แผ่วผิวตรงข้างเอวสูงขึ้นมาวนเวียนปลายยอดอกแล้วขยำเบาๆ ทำเอานิชาดาสะดุ้งเฮือกลืมตาขึ้นกลางดึก พร้อมกับที่ริมฝีปากอุ่นพรมไต่จากต้นแขนมายังไหล่มน ซอกคอจนถึงใบหูก่อนกระซิบ“หมอกจ๋า รักกันนะจ๊ะ”“คุณดนย์ นี่บ้านใหญ่นะคะ ลูกก็อยู่ด้วย”เธองัวเงียห้ามเสียงเบาเพราะเกรงจะทำให้ลูกชายตื่นและตนเองก็พึ่งหลับไปไม่นานหลังจากป้อนนมหนูน้อยจึงยังเพลียอยู่ ทั้งนอนไม่ค่อยเต็มอิ่มนักอยู่แล้ว ยังดีที่เวลากลางวันมีคุณนายแสงหล้ากับเหมยช่วยดูลูกพอให้ได้งีบบ้าง“น่านะ รับรองเบ๊าเบา ลูกไม่ตื่นแน่”สามียังกระซิบเสียงทุ้มนุ่ม มือก็เคล้าคลึงทรวงอกที่อวบอัดขึ้นของตนทำเอานิชาดาอกใจสั่นไหวไม่น้อย จะว่าไปตนก็คิดถึงสัมผัสจากชายหนุ่มอยู่เหมือนกัน หากก็ยังกังวล“ได้ด้วยเหรอคะ”“เดี๋ยวทำให้ดู”พร้อมพูดชายหนุ่มก็เชยคางให้เธอหันกลับไปรับจูบนุ่มนวลก่อนจะค่อยเพิ่มแรงจูบเม้มและกัดกลีบปากอิ่มด้านล่างให้เธอเผยอรับลิ้นร้อน นิชาดาขยับตัวพลิกมาโอบรอบลำคอหนาตอบรับจูบลึกซึ้งอย่างไม่ยอมน้อยหน้าร่างสองสองขยับเสียดสีเบาๆ ในสัดส่วนที่แตกต่างหากสอดรับกันอย่างลงตัว ลูกชายตัวน้อยนั้นนอนในเปลสี่เหลี่ยมไม่ต้องเกรงว่าแรงเคลื่อ
“คุณดนย์คะ”กลางดึกคืนหนึ่งหลังจากมาพักโรงแรมได้สองวันนิชาดาก็รู้สึกปวดท้องแล้วเหมือนมีบางอย่างไหลออกมา หญิงสาวพึมพำเรียก ชายหนุ่ม เพียงแตะแขนอีกฝ่ายก็รู้สึกตัวแล้วขยับนั่งเปิดโคมไฟทันที“เจ็บท้องเหรอหมอก”“ค่ะ...น่าจะน้ำเดินแล้ว”เธอพูดจนแทบไม่มีเสียงเพราะเจ็บ“งั้นหมอกอยู่นิ่งๆ ก่อนนะ แป๊บเดียว”ร่างสูงใหญ่รีบลุกขึ้นใส่เสื้อโดยเร็วแล้วคว้ากระเป๋าที่เตรียมเอาไว้ก่อนมาประคองร่างที่อุ้ยอ้ายขึ้นของภรรยา“เดินพอไหวไหม”“ค่ะ”นิชาดายังพอไหวจึงกัดฟันค่อยๆ เดินไปพร้อมกับที่ชายหนุ่มพยุง ธีรดนย์ตั้งใจเลือกห้องพักใกล้ลิฟต์จึงไม่ต้องเดินไกลมากหญิงสาวนอนรอเพื่อให้ปากมดลูกเปิดและปวดท้องมากขึ้นเรื่อยๆ โดยมีสามีอยู่ข้างๆ เป็นทั้งคนปลอบใจให้กำลังใจและที่ระบายของตนเพราะบ่อยครั้งที่เธอมักจะจิกเล็บลงบนหลังมือหนาที่กุมมือตนไว้“อื้อ เจ็บจังค่ะ”ยิ่งเห็นดวงหน้าสวยซีดเผือด เหงื่อผุดพราย ทรมานด้วยความเจ็บปวดชายหนุ่มก็ทุรนทุรายตาม เพราะหญิงสาวนอนอยู่แบบนี้มาสามชั่วโมงแล้ว ก้มลงไปจูบหน้าผากมนเช็ดเหงื่อให้ก่อนจะกระซิบ“ฉันจะตามพยาบาลอีกรอบนะ”นิชาดาปล่อยให้ชายหนุ่มไปโดยไม่แย้ง เธอรู้สึกทนไม่ไหวแล้วจริงๆ ไม่น
ไร่ชาดิฐวัฒน์ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสอากาศบริสุทธิ์แห่งขุนเขา นอนในบ้านท่ามกลางไร่ชาเขียวชอุ่ม มองเห็นเมฆลอยต่ำปกคลุมยอดเขา การเก็บชาก็ได้รับความนิยม มีคนจองคิวเต็มจำนวนในทุกวันนิชาดาที่ออกมาเก็บภาพบรรยากาศวันหยุดเพื่อโพสต์ในเว็บและโซเชียลต่างๆ ของไร่ยืนมองผู้คนที่มีความสุขกับการได้มาไร่นี้อย่างภูมิใจ ตอนนี้นอกจากเพจแล้วเธอเปิดแอคเคาต์โซเชียลของไร่เพิ่มขึ้นจนครบถ้วน เพราะโลกออนไลน์เป็นสิ่งที่ใช้ในการประชาสัมพันธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุดในยุคสมัยนี้“ชอบไหมเจ้า”ส้มที่เป็นคนถ่ายภาพให้เธอเปิดกล้องให้ดู ขณะที่นิชาดามากับมธุรินซึ่งยืนเป็นเพื่อนและคอยดูแลเธอที่ท้องแก่ใกล้คลอด ความจริงธีรดนย์ไม่อยากให้หญิงสาวมาทำงานแต่นิชาดาไม่อยากอยู่เฉยๆ การได้ขยับตัวเดินไปเดินมาจะช่วยให้เธอคลอดธรรมชาติได้ง่ายขึ้น หากก็ต้องดูว่าเด็กกลับหัวด้วยหรือไม่เหมือนกัน“อืม ชอบจ้ะ ไปเก็บภาพมุมโน้น ให้เห็นคาเฟ่กับร้านอาหารด้วยนะจ๊ะ”“เจ้า”“พี่ไปกับส้มเองก็ได้ หมอกเข้าไปนั่งพักในคาเฟ่ดีกว่า”มธุรินเอ่ยปากเพราะดูท่าเหมือนภรรยาเจ้าของไร่จะเดินไปอีกไกลกับส้ม“ถ้าอย่างนั้นฝากพี่รินด้วยนะคะ แล้ว
“พอใจหรือยังเมียจ๋า”“อะไรคะ”“ก็รู้แล้วว่าฉันไม่ได้พลาดพลั้งเสียท่าคุณภัทร ฉันเป็นของหมอกคนเดียวมาตั้งแต่จดทะเบียนแล้วไงล่ะ”พร้อมกับถามใบหน้าคมเข้มก็ขยับมาชิด หน้าผากจรดแนบหน้าผากเธอ ส่งสายตาออดอ้อนก่อนจะดันตัวเธอให้ค่อยๆ ถอยไปชิดเตียง แต่เขาทิ้งตัวเองลงหงายหลังแล้วรั้งเธอให้นอนลงไปบนร่างแกร่งนิชาดายิ้มหวาน ไม่ได้ฝืนตัวเพราะตัวเองก็ไม่ได้ขุ่นเคืองอะไร เพียงแค่สงสัยเพราะธีรดนย์ไม่ได้กลับบ้านดึกนัก ยกเว้นช่วงก่อนจัดงานแต่ง“พอใจค่ะ”เธอตอบเสียงเบาชายหนุ่มก็ยิ้มมุมปาก“ผัวเป็นคนดี ไม่วอกแวก รักเมียคนเดียว เมียไม่ให้รางวัลหน่อยเหรอจ๊ะ”คนใต้ร่างอ้อนเสียงทุ้ม แววในดวงตาคู่คมเข้มนั้นหวานฉ่ำจนนิชาดารู้สึกว่าหัวใจตนกำลังละลายไปกับความหวานที่ส่งมาให้“อืม”ปลายนิ้วเรียวไล้วนเหนืออกกว้างพลางทำท่าทีราวครุ่นคิด“อยากได้รางวัลเล็กหรือรางวัลใหญ่คะ”“ชุดใหญ่สิจ๊ะเมียจ๋า”นิชาดาไม่ตอบรับทว่ามือบางเปลี่ยนเป็นลูบแผงอกหนาของคนไม่ใส่เสื้อ แล้วเห็นชายหนุ่มสูดหายใจลึก ยิ่งมือเธอลากลงต่ำ อีกฝ่ายก็ถึงกับกลืนน้ำลายมือนุ่มไม่ได้ต่ำลงไปอย่างที่เขาคาดหวังหากไล้แผ่วเพียงตรงช่วงเอว แต่ชายหนุ่มก็พอใจเพราะร่างหอ
ร่างอรชรออกมายืนหน้าระเบียง มองพระจันทร์ดวงโตผ่านแมกไม้แล้วก็เอาโทรศัพท์ถ่ายก่อนจะอัปโซเชียล ก็มีคนทักและพิมพ์คอมเม้นต์ว่าคิดถึงหลายคน ปกตินิชาดาอัปเดตบ่อยทว่านับแต่มาอยู่ที่นี่ก็ห่างหายเพราะปัญหาต่างๆ ที่รบกวนจิตใจและทุ่มเทความตั้งใจกับงานใหม่ของตน ทั้งยังไม่ได้ตัดวิดีโอที่ถ่ายขณะเดินทางมาไร่ดิฐวัฒน์ด้วย ช่องของเธอพร้อมโซเชียลหยุดเคลื่อนไหวมาสามเดือนแล้ว มานึกขึ้นได้ในตอนนี้ คิดว่าน่าจะพอมีเวลาทำงานตัวเองในวันหยุดได้ เพราะตอนนี้งานในไร่ลงตัวและมีกำหนดปล่อยคลิป Vlog เดือนละครั้ง“จะว่าไป เราไม่เคยชมจันทร์ด้วยกันเลยนะ ออกมาก็น่าจะรอฉันก่อน”เสียงเข้มดังขึ้นและผ้าคลุมที่มาพร้อมการโอบกอดจากด้านหลัง ธีรดนย์คุยงานกับวัชพลนิชาดาก็แวบไปอาบน้ำก่อนแล้วจำได้ว่าเป็นคืนพระจันทร์เต็มดวงซึ่งตนเองยังไม่เคยได้มองดูอย่างจริงจังว่าจะสวยดวงโตแค่ไหน ทั้งยังมีเรื่องให้คิดอยากให้ธรรมชาติยามค่ำคืนช่วยบำบัดความตึงเครียด จึงออกมาหน้าระเบียงในตอนชายหนุ่มอาบน้ำธีรดนย์วางคางบนบ่าเธอ กรุ่นกลิ่นครีมอาบน้ำอบอวลพร้อมไออุ่นจากร่างสูงใหญ่โอบล้อมทำให้หญิงสาวเอนอิงอีกฝ่ายราวต้องการความอบอุ่น“ก็เพราะเอะอะคุณดนย์ก็อุ้มเ
“ฉันเปล่า....”ภัทรดาส่ายหน้าพลางถอยหลังเสียงสั่นมากขึ้น“กลัวทุกคนจะรู้ว่าคุณมาถึงไร่หลังฉันเกิดอุบัติเหตุใช่ไหมคะ”นิชาดาจะไม่ไล่บี้อีกฝ่ายเลยหากเจ้าตัวไม่บอกว่าเธอใส่ร้าย“เธอเกิดเรื่องเมื่อไรฉันก็ไม่รู้ ฉันแค่มาทำงาน ไม่รู้อะไรทั้งนั้น”“ไม่เป็นไร ดูกล้องก่อนแล้วค่อยว่ากัน เพราะผมจำเวลาที่หมอกเกิดเรื่องได้ ถ้าคุณไม่รู้อะไรจริงก็รอให้การณ์กับตำรวจ”“คุณดนย์”คนที่หน้าซีดอยู่แล้วยิ่งตาโต พึมพำพลางถอยหลังช้าๆ“ภัทรไม่ได้ทำนะคะคุณดนย์ ไม่ใช่ภัทรนะ เมียคุณใส่ร้ายภัทร”“ถ้าไม่ได้ทำคุณก็ไม่ต้องกลัวอะไร ไม่ต้องห่วงไปหรอก ตำรวจก็แค่สอบถามเท่านั้น”ยิ่งธีรดนย์เอ่ยถึงตำรวจซ้ำอีกภัทรดายิ่งหวาดกลัวมากขึ้น หญิงสาวรีบหันหลังจะกลับไปขึ้นรถ“ไม่ ภัทรไม่ผิด ภัทรไม่ได้ทำอะไร อย่ามายุ่งกับภัทร”ภัทรดาเหมือนสติหลุดขยับพรวดออกไปราวต้องการหนี ขณะนั้นมีรถคันหนึ่งขึ้นเนินมา ซึ่งก่อนหน้านี้แต่ละคนก็ไม่ทันได้สังเกตสิ่งอื่นเช่นกันเพราะรถของภัทรดาจอดบังทางที่จะเห็นได้ และต่างก็กำลังสนใจเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่พอเห็นรถทั้งหมดก็ตะโกนรั้ง“คุณภัทร!”“กรี๊ดดด!”เอี๊ยด!!เสียงรถเบรกดังขึ้นอีกครั้ง ทว่าภัทรดาก็ถูกเ
“จะฆ่าหมอกหรือไง!”เสียงของธีรดนย์ดังสนั่นไร่ชา ยังดีแถบนี้เป็นจุดที่ยังไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามา จะมีก็เพียงคนทำงานอยู่ทางด้านโฮมสเตย์นิชาดารีบหันไปทางรถกระบะคันนั้นทันใด เธอยังใจสั่นและขาสั่นอยู่เลย หากไม่มีสามีประคองให้ลุกขึ้นคงยืนไม่ไหว แต่เมื่อได้รู้ว่าเจ้าของรถเป็นใครเธอก็อึ้งไปเลยทีเดียวเสียงเปิดปิดประตูรถก่อนร่างโปร่งของภัทรดาจะค่อยๆ เดินมาด้านหน้ารถ สีหน้าอีกฝ่ายซีดเผือด มือไม้สั่น“ภะ...ภัทรขอโทษค่ะ”ภัทรดามองธีรดนย์กับนิชาดาด้วยความรู้สึกผิดจากใจ“ภัทรไม่ทันเห็นน่ะค่ะ เพราะขึ้นเนินมาก็เลยเร่งเครื่องเต็มที่”นิชาดาฟังคำพูดอีกฝ่ายพร้อมจ้องอย่างสังเกตแววตากับสีหน้ามากกว่าเดิมเมื่อสติตนเองค่อยๆ เข้าที่เข้าทาง ขณะมีแขนกำยำตระกองกอดไว้อย่างปกป้องปลอบโยน“ขอโทษที่ทำให้ตกใจนะคะคุณหมอก”“ถ้าฉันมาไม่ทันหมอกจะเป็นยังไง ขับรถในไร่ถึงจะขึ้นเนินก็ไม่ควรเร่งความเร็วขนาดนี้สิ มันอันตรายมากนะ”“ภัทรเสียใจ ภัทรไม่ได้ตั้งใจ เพิ่งเห็นคุณหมอกในระยะประชิดแล้วจริงๆ ค่ะ”เพราะเธอย่อตัวลงค่อยๆ ย่องพยายามให้ผีเสื้อไม่รู้สึกว่ามีบางอย่างเข้ามาใกล้ อาจเป็นไปได้ที่รถซึ่งขับขึ้นเนินมาจะไม่เห็น และ
“โธ่ ไอ้เราก็กลัวว่าเรื่องคุณพีรพลจะทำให้นายกับเธอผิดใจกัน ที่ไหนได้ หวานจนท้องเสียอย่างนั้น”กัญญาแอบมากระแซะแล้วกระแทกไหล่เบาๆ กระเซ้าเธอในตอนบ่าย เมื่ออยู่กันตามลำพังในห้องครัวออฟฟิศ นิชาดาไม่ดื่มชากาแฟเมื่อรู้ว่าตนท้อง แล้วดื่มนมบ่อยขึ้นธีรดนย์จึงซื้อมาใส่ตู้เย็นไว้ให้ ขณะที่เพื่อนสาวเข้ามาชงกาแฟไว้เผื่อสำหรับทุกคนเช่นทุกวัน เพราะตอนเช้าหมดไปแล้ว“กุ๊กก็...ใครจะท้องแค่วันสองวัน”นิชาดาบ่นเพื่อนเสียงอุบอิบอย่างเขินอายข่าวภรรยาของนายท้องค่อยๆ กระจายออกไปทั่วไร่ภายในไม่กี่วัน แม้เธอจะไม่ได้บอกกัญญาตรงๆ เจ้าตัวก็รับรู้ แม้แต่วัชพลกับมธุรินก็ยังมาแสดงความยินดี“ว่าแต่เรื่องคุณพี นายไม่โกรธแล้วใช่ไหม”“อื้อ”นิชาดาพยักหน้ารับ“เพราะข้อความของเธอนั่นแหละ คุณดนย์เห็นก็เลยรู้ว่าเขาเข้าใจผิด”กัญญาตาโต ก่อนจะถาม“อย่าบอกนะว่าที่มีคนอ่านแล้วไม่ตอบน่ะเป็นนาย ฉันเข้าใจว่าหน้าจอเธอแตกเห็นไม่ชัด ก็เลยยังไม่ตอบเสียอีก”หญิงสาวยิ้มกับสีหน้าอิหลักอิเหลื่อของเพื่อนสาว“ใช่น่ะสิจ๊ะ ฉันต้องขอบใจเธอ เพราะถึงฉันพูดอะไรไปคุณดนย์ก็คงยังโกรธอยู่นั่นแหละ มีข้อความของเธอช่วยยืนยันปัญหาก็เลยจบ”เธอยิ้มให้แต่
“ฉันทั้งหลงใหลและหลงรักเธอนะหมอก ถึงจะไม่เคยพูดแต่ฉันก็ไม่เคยอยากเอาใจใครเหมือนเธอ ฉันไปหาซื้อกล้องเอาไว้ง้อตั้งแต่เธอนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาล ทำร้ายร่างกายไปแล้วเห็นเธอทรมานฉันก็ทำอีกไม่ลง ทำโทรศัพท์ของเธอพังก็รีบแวบเอาไปซ่อมที่ร้านในกรุงเทพฯ”ธีรดนย์สารภาพอย่างหมดเปลือก แม้รู้สึกเสียศักดิ์ศรีหน่อยๆ ที่เป็นฝ่ายพูดก่อน แต่เก็บไว้ก็จะทำให้ภรรยาสาวน้อยเนื้อต่ำใจทั้งยังวิตกกังวลอยู่ตลอดว่าเขาไม่ไยดีเจ้าตัว อีกฝ่ายกำลังท้องสุขภาพจิตควรดีเพื่อลูกน้อย“ฉันพูดหวานไม่เป็น แต่ก็พยายามเอาอกเอาใจ ง้อเธอในแบบของฉัน”ริมฝีปากอิ่มสวยค่อยๆ ระบายยิ้มหวานออกมาพร้อมน้ำตาซึม ได้ฟังคำบอกเล่าจากปากชายหนุ่มที่เหนือความคาดหมายของตนเอง นิชาดากลับรู้สึกว่าเขาดูน่ารักขึ้นเป็นกอง“หมอกเข้าใจแล้วค่ะ”นิชาดาพยักหน้าอย่างเข้าอกเข้าใจ ยกแขนเรียวขึ้นคล้องคอแกร่งแล้วเคลื่อนหน้าไปหอมแก้มสากเบาๆ“จูบปากสิจ๊ะ เดี๋ยวนี้จูบเก่งแล้วนี่นา”ธีรดนย์ส่งสายตาหวานฉ่ำพร้อมอ้อนเสียงทุ้มนุ่ม ทว่า หญิงสาวส่ายหน้า ปลายนิ้วเรียวแตะปากได้รูปปราม“ไม่ได้ค่ะ เดี๋ยวคุณดนย์เลยเถิด”“งั้นก็กินข้าวให้อิ่ม แล้วมาออกกำลังก่อนนอนกัน”“เฮ้อ...”หญ