เปิดประตูออฟฟิศสำนักงานเข้าไปในตอนบ่ายหลังพักกลางวัน นิชาดาก็ต้องชะงักเมื่อเห็นร่างสูงใหญ่นั่งก้มหน้าก้มตาเซ็นเอกสารอยู่ที่โต๊ะของเธอ เหมือนเขาจะรู้ว่ามีคนเข้ามาจึงเงยหน้ามามอง ดวงตาคู่กลมโตสบตาตาคู่คมเข้มชั่วอึดใจแล้วหญิงสาวก็คิดได้ว่าหากเข้าห้องตอนนี้ตนจะอยู่ตามลำพังกับอีกฝ่าย เพราะมธุรินออกไปข้างนอกกับวัชพลยังไม่กลับมา
ร่างอรชรถอยกรูดหมุนตัวทว่ายังไม่ทันพ้นประตู ข้อมือก็ถูกคว้าดึงกลับ
“อุ๊ย”
ตัวเธอถูกหมุนกลับไปดันชิดผนังพร้อมประตูดันปิด และร่างสูงใหญ่ก็โถมมาประชิด นิชาดาไม่คิดว่าชายหนุ่มจะเร็วอย่างนี้ เขากระโดดมาหรืออย่างไรจึงใช้เวลาเพียงไม่นานก็ถึงตัวเธอ แล้วก็ต้องรีบหันหน้าหนีเพราะใบหน้าเต็มไปด้วยหนวดเคราโน้มมาชิด แต่แน่นอนว่าเมื่ออีกฝ่ายต้องการเธอก็ยากจะหลบพ้น ปลายนิ้วแกร่งล็อกดันปลายคางเธอให้ยอมจำนนต่อริมฝีปากได้รูป
ชายหนุ่มรุกรานอย่างเอาแต่ใจ เม้มซับกลีบปากอิ่มน่าจูบทั้งบนล่างแม้เจ้าตัวจะพยายามฝืนต้าน เขาก็จูบย้ำราวกับต้องการจะกลืนกินปากสีหวานจนเต็มอิ่ม
“โทษฐานที่เห็นฉันแล้วเดินหนี”
นิชาดากัดริมฝีปากของตนทันทีที่อีกฝ่ายผละห่าง รู้สึกถึงความชอกช้ำทั้งปากและภายในใจจนขอบตาร้อน หากก็ยังไม่ยอมสบตากับชายหนุ่ม
“เธอไม่มีสิทธิ์รังเกียจฉัน”
หญิงสาวยังใช้วิธีดื้อเงียบ ทว่าไม่ได้ผลเพราะตนถูกแขนกำยำยกขึ้นจนตัวลอย
“จะทำอะไร”
เธอพยายามผลักไหล่หนาแต่ชายหนุ่มก็พาไปจนถึงโต๊ะประชุมยาวอย่างง่ายได้ สะโพกผายถูกวางให้เกยบนโต๊ะหมิ่นเหม่ ขณะที่ร่างหนาขยับมาเบียดชิด
“นาย...”
นิดาชาอุทานเบาทว่าเสียงสั่นด้วยความตกใจ เพราะชายหนุ่มโถมดันตัวเธอจนแทบจะนอนลงไปบนโต๊ะ มือผลักอกหนาไว้พร้อมมองเขาอย่างขอร้อง
“อย่าใช้วิธีนี้กับฉัน คิดว่าแค่เงียบแล้วฉันจะยอมจบง่ายๆ หรือไง”
“ฉัน...ขอโทษ”
หญิงสาวยอมพูดออกไปทั้งที่รู้สึกว่าตนต่างหากที่ถูกทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจ ทว่าที่นี่เป็นออฟฟิศ เธอกลัวว่าจะมีคนเปิดประตูเข้ามา เพราะกัญญาก็อยู่หน้าเคาน์เตอร์ และวัชพลกับมธุรินสามารถกลับเข้ามาได้ทุกเมื่อ ทั้งบ่ายนี้เธอยังต้องคุยเรื่องเว็บกับโปรแกรมเมอร์ด้วย ไม่รู้ว่าเขาจะมาเมื่อไร
“ปล่อยฉันก่อนได้ไหม เผื่อมีคนเข้ามา”
เธอบอกเสียงเบา
สีหน้าของคนหน้าคมเข้มไม่ได้ดูใส่ใจเท่าไรนัก ทั้งยังกดริมฝีปากหนักๆ บนปากเธอครั้งหนึ่ง
“ถ้าไม่มีปัญญาเอาเงินมาคืน ก็อย่าดื้อ ทำตัวให้น่ารักน่าเอ็นดู เอาอกเอาใจเก่งๆ เข้าใจ๊?”
ย้ำเสียงดุแล้วธีรดนย์ก็ปล่อยหญิงสาว ก่อนจะเดินกลับไปนั่งเซ็นงานต่อ
นิชาดาขยับลงจากโต๊ะอย่างระแวง ยืนมองคนที่ครองโต๊ะทำงานของตนชั่วครู่ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ที่โต๊ะประชุมแทน แปลกที่เขาไม่เอาเอกสารมาเซ็นตรงนี้ หรือไม่ก็นั่งโต๊ะของผู้จัดการหนุ่มที่น่าจะเหมาะสมกับเจ้าของไร่มากกว่า หมอนตุ๊กตาสีชมพูของเธอถูกเอามาวางบนแมกบุ๊ก ยังดีที่ไม่ถูกโยนทิ้งหรือนั่งทับ
เซ็นเอกสารครบแล้วธีรดนย์ก็หันไปทางคนที่เขาเห็นนั่งนิ่งจากปลายหางตามาครู่หนึ่ง
“เอาเอกสารไปไว้บนโต๊ะไอ้วัช แล้วไปชงกาแฟให้หน่อย”
ร่างอรชรลุกขึ้นอย่างไม่โต้แย้งใดๆ ได้ออกไปข้างนอกยังดีกว่าอยู่ในนี้กับเขาตามลำพัง
สายตาเหลือบมองมือหนาที่เปิดแมกบุ๊กของเธอขึ้นอย่างไม่เกรงใจขณะหยิบเอกสาร แต่ในเมื่อมันเป็นเงินของเขาเธอก็ไม่มีสิทธิ์ไปหวง วางเอกสารเสร็จแล้วก็รีบออกไปข้างนอก คิดว่าจะใช้เวลาให้นานสักหน่อย แต่ก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตนไม่รู้ว่าเขาชายหนุ่มกินกาแฟรสใด
“กุ๊กเคยชงกาแฟให้นายไหม”
เธอถามเพื่อนสาวที่หน้าเคาน์เตอร์ เจ้าตัวกลับมองด้วยสายตาสงสัย เธอจึงอธิบายเพิ่ม
“เขาให้ฉันชงกาแฟน่ะ”
“แล้ว...เธอไม่รู้?”
เหมือนอีกฝ่ายจะแปลกใจที่เธอไม่รู้ แล้วนิชาดาก็จำได้ว่าเวลานี้ตนอยู่ในบทบาทของแฟนชายหนุ่ม
“คือปกติเจอกันที่กรุงเทพฯ เขาก็สั่งกาแฟที่ร้านตลอดน่ะ”
แม้จะดูยังแปลกใจแต่กัญญาก็บอก
“อเมริกาโนไม่ใส่น้ำตาล ในครัวมีชงไว้แล้วเธอแค่เทอันนั้นไปก็พอ”
นิชาดาพยักหน้าเข้าใจ เป็นกาแฟของไร่ที่กัญญาชงเอาไว้ทั้งช่วงเช้าและบ่าย ซึ่งเจ้าตัวชื่นชอบการชงกาแฟจนถึงกับไปเรียนรู้กับบาริสต้าของไร่ที่ร้านกาแฟเลยทีเดียว เมื่อเช้าเธอก็ได้กาแฟของอีกฝ่ายมาเติมนมกับน้ำตาลเพิ่ม
ทว่าเมื่อไปถึงแทนที่นิชาดาจะเพียงแค่เทกาแฟเธอกลับเพิ่มไซรัปลงไปด้วย ที่นี่นับว่ามีส่วนผสมเกี่ยวกับการชงชากาแฟครบครัน
กลับเข้าไปในห้องก็เห็นว่าชายหนุ่มยกแมกบุ๊กของเธอมาวางที่โต๊ะยาว พร้อมกับต่อหน้าจอเข้าจอทีวีเรียบร้อย เธอจึงเอาแก้วกาแฟไปวางใกล้ๆ
“เธออยากเพิ่มอะไรตรงไหนบ้าง”
เขาถามพร้อมกับกดคลิกเข้าหน้าเว็บไซต์ของไร่ชาดิฐวัฒน์ นิชาดาเข้าใจว่านายของไร่อยากรู้ว่าจะเปลี่ยนแปลงอะไร เพื่อดูว่าเหมาะสมหรือไม่ เธอจึงรีบไปหยิบไอแพดของตนมา
“สักครู่นะคะ”
กลับมานั่งฝั่งตรงข้ามก็เห็นมือหนาหยิบแก้วกาแฟโดยไม่มอง ทว่าพอไปจรดปากชิมคิ้วเข้มก็ขมวด พลางทำหน้าเหยเก หญิงสาวพยายามตีสีหน้าไม่รู้ไม่ชี้ วางเครื่องมือทำงานของตนใช้ปากกาไล่เปิดสิ่งที่จดเอาไว้ ทั้งที่ในใจลุ้นว่าอีกฝ่ายจะว้ากใส่ตนหรือไม่
======
อดไม่ได้อะเนอะ หมอกอยากเอาคืนบ้าง ^-^"
จะยังไงก็ยอมรับแหละ ขอให้ได้เอาคืนนายคนเถื่อนนี่บ้างก็พอ แต่กลับไม่เป็นอย่างที่เธอคิดเพราะเขากลับไม่พูดเรื่องกาแฟ“เล่ามาได้เลย”“คือ...ฉันอยากให้เพิ่มคอลัมน์ประมาณเที่ยวไร่ดิฐวัฒน์น่ะค่ะ”เธอจำต้องเข้าเรื่องงานตาม และชายหนุ่มก็ยกกาแฟจิบซ้ำแล้วดูไม่ชอบใจนัก หากก็เอนหลังพิงเก้าอี้กอดอกมองรอฟังด้วยสีหน้าจริงจัง“ตอนนี้ยังคิดชื่อแบบน่าสนใจ หรือเรียกแขกไม่ออก แต่ฉันจะคิดให้ทันก่อนคนเขียนเว็บจะเพิ่มช่องด้านหน้า แล้วก็หน้าที่กดเข้าไปอ่านแน่นอนค่ะ”“แล้วเธอคิดว่าควรอยู่ตรงไหน”เขาถามพร้อมดันแมกบุ๊กมาให้ นิชาดาจึงเอื้อมมือไปจับเมาส์ชี้บอก“คิดว่าน่าจะเป็นส่วนแรก หรือส่วนที่สอง แล้วก็กว้างเท่ากับคัฟเวอร์เว็บค่ะ อาจแบ่งเป็นภาพหัวข้อกับคลิปส่วนละครึ่ง หรือคลิปข้างบนภาพสวยๆ ประกอบข้างล่างเลื่อนไปสักสามถึงห้าภาพก็น่าจะดีค่ะ”“อืม ได้”“เอ่อ...”นิดาชาแปลกใจที่นายของไร่คุยและตัดสินใจโดยไม่มีทีท่าว่าจะรอโปรแกรมเมอร์“เห็นคุณวัชบอกว่าบ่ายนี้ฉันต้องคุยกับโปรแกรมเมอร์ เราไม่ต้องรอเขาเหรอคะ”“ก็คุยอยู่นี่ไง”หญิงสาวเผยอปากค้างอย่างไม่ทันตั้งตัวกับคำตอบง่ายๆ ก่อนชายหนุ่มจะยกกาแฟดื่มจนหมดแก้วด้วยท่าทางไม่
ร่างอรชรนั่งนิ่งไม่ไหวติง ไม่มีทีท่าจะก้าวลงจากรถ แม้ว่าชายหนุ่มจะลงไปก่อนแล้ว เหมือนเขาจะรู้สึกได้จึงหันกลับมามองและเดินอ้อมมายังฝั่งที่เธอนั่งก่อนจะเปิดประตู“อุ๊ย...ทำอะไร ปล่อย”นิชาดายังอ่อนแรงด้วยความกลัววิตกกังวลที่ครอบคลุมจิตใจจนไม่อยากขยับ จึงถูกอุ้มลงจากรถอย่างง่ายดาย ปัดป้องไม่ทัน“นึกว่าอยากให้อุ้มเหมือนเจ้าสาวเสียอีก”“จะบ้าเหรอ ไม่ต้อง ปล่อยฉัน”หญิงสาวดิ้นรนแต่อีกฝ่ายก็ไม่ปล่อย เขาไขกุญแจบ้านอย่างง่ายดายทั้งที่ช้อนอุ้มเธออยู่ เปิดประตูได้ก็ตรงไปทางห้องนอนทันใด“ดะ...เดี๋ยวสิ...”เธอรีบห้ามเมื่ออีกฝ่ายใช้ไหล่ดันประตูห้อง“สนุกกันก่อนแล้วค่อยพักกินอะไรสักหน่อย แล้วค่อยมาต่อรอบดึกยาว”“อะไรนะ!”เสียงหวานแว้ดใส่หูทำเอาธีรดนย์สบถ“วะ จะเสียงดังทำไม หูจะแตก”พร้อมกับพูดก็วางร่างที่เบาหวิวสำหรับตนลงบนเตียง ทว่าไม่ได้เป็นไปอย่างทะนุถนอม แม้จะเห็นอีกฝ่ายถอยกรูด เขาก็ถอดเสื้อตนออกด้วยท่าทางไม่ใส่ใจนักร่างสูงใหญ่ที่เปลือยท่อนบนขยับเข่าขึ้นมาบนเตียงพร้อมใบหน้ารกครึ้มอันน่าหวาดหวั่น หากไม่ได้เป็นนายของไร่ เธอก็คิดว่าเขาไม่ต่างจากโจรเลยแม้แต่น้อย ยิ่งท่าทางคุกคามและแววตากระหายขณะเคล
“อยากครางก็คราง จะกลั้นไว้ทำไม ฉันไม่ชอบความเงียบ มันไม่เร้าใจ ถ้าเธอไม่ครางอย่าหาว่าฉันรุนแรงก็แล้วกัน”ธีรดนย์บอกเสียงเข้มต่ำ เขาไม่ชอบใจนักที่อีกฝ่ายดูไม่มีอารมณ์ร่วม ไม่เคยมีสาวไหนเมินเขาอย่างนี้ พวกเธอเต็มอกเต็มใจกระโดดร่วมวงและยังเป็นฝ่ายปลุกอารมณ์เขาก่อนด้วยซ้ำทรวงอวบเต่งตึงถูกเคล้นอย่างไม่เบามือ ตั้งใจกระตุ้นเร้าอารมณ์สาว ทั้งมืออีกข้างยังไล้ไปทั่วหน้าท้อง ต่ำลงไปแถวท้องน้อยแต่มือบางก็ตามมาปัดออกอย่างน่าหงุดหงิด และนั่นก็ทำให้เขายิ่งฉุนจัดร่างสูงใหญ่ขยับขึ้นปลดกางเกงของคนใต้ร่าง เจ้าตัวก็จิกข่วนมือเขาพัลวันอย่างไม่ยอม“ให้ตายสิ จะดีดดิ้นให้เสียเวลาไปทำไม มาสนุกด้วยกันดีกว่า รับรองฉันจะทำให้เธอลืมทุกคนที่เคยผ่านมาเลย”“ฉันยังไม่...ว้าย!”ยังไม่ทันแย้งจบกางเกงของเธอก็ถูกดึงหลุดจากสะโพก นิชาดารีบจับผ้าห่มมาคลุมตัวเองแทบไม่ทัน พร้อมกับที่กางเกงพ้นปลายเท้า เธอทั้งงอขาทั้งถอยหนีพร้อมกันนั้นก็เห็นอีกฝ่ายจัดการกับกางเกงของเขาจนต้องรีบหันหน้าไปทางอื่น“อะไรอีก ตกลงจะเอาไง”เหมือนชายหนุ่มจะหงุดหงิดที่เธอมีท่าทางไม่เต็มใจและไม่ให้ความร่วมมือใดๆ“ไม่เต็มใจหรือไง”“นายก็รู้อยู่แล้วยังจะถ
นิชาดาถูกบังคับจูบอีกครั้ง แม้จะบอกว่าไม่ฝืนใจ แต่ธีรดนย์ก็จูบเธออย่างถือสิทธิ์ที่จ่ายเงินค่าตัวของเธอแล้วเช่นเดิม หญิงสาวจำต้องเปิดปากรับด้วยปลายนิ้วแกร่งออกแรงกดข้างแก้ม ลิ้นร้อนรุกเร้าเกี่ยวกระหวัดอย่างเร่งรีบทำเอาหายใจหายคอไม่ทันต้องร้องประท้วงอึกอัก แต่ชายหนุ่มก็เพียงเปลี่ยนเป็นจูบซับกลีบปากทั้งบนล่างแทนมือหนาที่ค่อยเคลื่อนเข้ามาด้านในเคล้าคลึงกระชับอกอวบล้นสลับไปมาสองข้าง สะกิดวนเวียนปลายยอดที่เบ่งบานรับแรงเร้าอย่างพอใจ ขณะที่อีกมือลูบต่ำลงเรื่อยๆนิชาดามัวยุ่งกับการห้ามมือที่วุ่นวายกับหน้าอกตน พร้อมอาการวูบวาบที่รุมเร้าทั่วทั้งกาย รู้ตัวอีกครั้งความอุ่นของมือหนาก็ครอบครองเหนือสัดส่วนบอบบาง“อ๊ะ หยะ...อย่า”มือหนากุมเคล้นย้ำอย่างไม่ยอมห่าง ตั้งใจปลุกปั่นร่างกายที่ยังแข็งขืนให้โอนอ่อน แม้จะรู้ว่าใจหญิงสาวยังไม่ยินยอม ทว่าเขาจะทำให้ร่างกายอีกฝ่ายตอบสนองและเสร็จสมจนเธอไม่อาจปฏิเสธความรู้สึกตัวเองให้จงได้ ธีรดนย์มั่นใจในฝีมือของตัวเอง แม้จะเป็นการรวบรัดอยู่สักหน่อย ทว่าสุดท้ายแล้วสาวเจ้าจะต้องชื่นชอบการปรนเปรอของตนอย่างแน่นอนปลายนิ้วแกร่งบดคลึงส่งผลให้ร่างทั้งร่างของเธออ่อนปวกเปีย
“ไปอาบน้ำซะ ฉันจะโทรไปสั่งให้คนเอาอาหารที่บ้านใหญ่มาส่ง”ชายหนุ่มเหมือนจะนั่งลงปลายเตียง นิชาดาไม่ได้มองเขา แต่ก็ลุกขึ้นเงียบๆ ไม่อยากทำตัวเรื่องมากหรืออ่อนแอต่อหน้าอีกฝ่าย หากก็ไม่ลืมใช้ผ้าห่มห่อตัวเดินเก็บเสื้อผ้าของตนทั้งที่ขาสั่นอ่อนแรงราวจะยืนไม่อยู่แต่ก็ฝืนพาตัวเองก้าวต่อไปสายตาคมเข้มของคนที่กำลังกดมือถือมองตามหญิงสาวที่เข้าห้องน้ำไปโดยไม่พูดไม่จา ทั้งไม่มีทีท่าว่าจะร้องไห้คร่ำครวญแล้วก็ถอนหายใจ‘ใจแข็งกว่าที่คิด แต่ก็ดี เพราะฉันปลอบใครไม่เป็น’และแน่นอนว่าธีรดนย์ไม่คิดว่าต้องปลอบใจลูกหนี้ของตน แต่เขาก็ผ่อนปรนให้นิชาดาไม่น้อยเลย‘ใครจะไปคิดว่าเด็กนี่จะรอดมาได้จนเกือบจะสามสิบ’ธีรดนย์รู้ว่านิชาดาอายุยี่สิบเก้าปีแล้ว น้อยกว่าเขากับนภนต์หกปี เพราะเพื่อนตนรักน้องสาวมากและมักพูดถึงให้เขาฟังบ่อยครั้ง ทั้งเขายังเคยไปรับอีกฝ่ายที่บ้านครั้งหนึ่ง และได้เห็นสาวน้อยนิชาดาในชุดนักเรียนมัธยมปลายซ้อนมอเตอร์ไซค์ผู้ชายกลับบ้าน ในตอนนั้นเขานั่งรอพี่ชายของเธออยู่ในรถ‘ไอ้หนุ่มนั่นมันก็ดูไม่ธรรมดา ไม่อยากเชื่อว่าจะปล่อยสาวน้อยหน้าหวานหลุดมือ’เขาคิดในใจพลางยักไหล่ ก็ดีเหมือนกันเพราะกลายเป็นเขาที่จ
กระเป๋ากับอุปกรณ์ทำงานของเธอมีครบพร้อม ที่ขาดไปคือเสื้อผ้า นิชาดายังอยู่ในชุดเดิมแม้บอกว่าจะคุยกับกัญญาแต่เอาเข้าจริงหญิงสาวก็อายเกินกว่าจะโทรไปบอกเพื่อนร่วมบ้านว่าตนคงไม่กลับ คิดว่าอย่างไรเจ้าตัวคงพอเดาได้อยู่แล้วเธอล้างจานแล้วยังเก็บกวาดเช็ดถูกทุกอย่าง รวมถึงทำความสะอาดภายในห้องรับแขกเล็กด้วย ต้องการทำตัวให้มีงานเพื่อจะไม่เข้าไปในห้องนอน ขณะกำลังถูพื้นก็ต้องสะดุ้งเมื่ออยู่ๆ ก็ถูกโอบจากด้านหลัง“ทำไมชอบทำตัวเป็นเด็กดื้อจังนะเธอ”ไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ำว่าชายหนุ่มมาใกล้ตนเมื่อไร ทั้งยังรู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้ใส่เสื้อ ทำเอาใจหล่นไปอยู่ตาตุ่มเลยทีเดียว“เหงื่อชุ่มเชียว อาบน้ำอีกรอบละกันนะ”“วะ...ว่าไงนะ”เธอยังมึนงงอยู่ก็ถูกอุ้มขึ้นจนไม้ถูพื้นร่วงหลุดมือ ไม่ทันได้ดิ้นรนชายหนุ่มก็ก้าวยาวๆ พาเข้าห้องนอนมาจนถึงห้องน้ำแล้ว อีกฝ่ายวางเธอลงแล้วเขาก็ปิดประตูห้องน้ำ นิชาดามองด้วยสีหน้าเหวอ ขณะที่เขายื่นมือมาหาเธอจะแกะกระดุมร่างอรชรก็ถอยกรูด“ไม่เอานะ”“มาเถอะน่า ฉันไม่ชอบนอนแบบเหงื่อท่วมๆ”ธีรดนย์ย่างสามขุมเข้าหาคนตัวเล็กอย่างนึกสนุก รู้อยู่หรอกว่าตนทำให้หญิงสาวตระหนก แต่ท่าทางหวาดหวั่นราวหนูน้อ
เพราะกว่าจะหลับก็ดึกมากแล้วทำให้นิชาดารู้สึกตัวช้าในยามเช้า บางอย่างยุกยิกตรงลำคอและต่ำลงมาหน้าอกทำให้ไม่สบายตัว ทว่าเมื่อร่างบางพลิกหนีก็ถูกรั้งกลับและกดไหล่บางทั้งสองข้าง สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เธอลืมตาโพลงเมื่อสติเริ่มเข้าที่เข้าทาง แล้วก็เห็นกลุ่มผมดกหนาตรงหน้าและเสื้อที่กองเหนือเนินทรวง พร้อมสัมผัสอุ่นชื้นที่กลืนกินยอดอกทำเอาวูบวาบจนสะดุ้งเฮือก มือบางก็รีบยกขึ้นดันศีรษะของคนที่รุกรานตัวเองอย่างไม่พอใจ“อย่านะ”เธอพยายามจะขยับตัวหนีแต่ก็ไปไหนไม่ได้“ไหนบอกว่าจะให้เวลาฉัน”“เห็นเธอหลับเพลินในอ้อมกอดฉัน ก็เลยปลุก เดี๋ยวจะสาย”ใบหน้าคมเข้มยอมเงยขึ้นมาคุยด้วยพร้อมดวงตาวิบวับ แถมเย้าว่าเธอหลับอย่างสบายทั้งที่เขากอดอยู่ ทำเอานิชาดาอดชักสีหน้าใส่ไม่ได้ พลางรีบดึงเสื้อตัวเองลง เพราะเสื้อเปิดสูงอย่างนี้ด้านล่างเธอก็ปราศจากสิ่งใดปกปิด ยังดีที่ผ้าห่มส่วนนึงปิดอยู่ รู้สึกหน้าร้อนวูบอย่างอับอายจนไม่ต่อคำกับชายหนุ่ม ทว่าเขาก็เพียงแตะปากได้รูปเหนือปากเธอเบาๆ“ฉันจะไปส่งที่บ้านพัก อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ไปอำเภอกัน”ไม่แน่ใจว่าเธอรู้สึกไปเองหรือเปล่าว่าน้ำเสียงของชายหนุ่มดูอ่อนลง แต่ก็คิดว่าเขาไม่ล่วง
รถโฟร์วีลคันโตหยุดลงด้านหน้าคาเฟ่ซึ่งมีสะพานเดินเชื่อมต่อไปร้านอาหารท่ามกลางไร่ชา ซึ่งมีกระบะคันหนึ่งจอดอยู่ ก่อนร่างสูงใหญ่จะเปิดกระจกตะโกนเรียกคนสนิทของตน“ไอ้เต้ย มานี่ดิ๊”คนที่เพิ่งเดินออกมาจากคาเฟ่ เจ้าตัวน่าจะมาดูความเรียบร้อยแทนเขา เพราะวันนี้เป็นวันหยุดมีนักท่องเที่ยวเข้ามาในไร่ ทั้งคาเฟ่และร้านอาหาร รวมถึงถ่ายรูปมากกว่าวันธรรมดาธีรดนย์กำลังทำโฮมสเตย์ โดยอยู่ในระหว่างก่อสร้าง แม้ห่างจากไร่ชาทว่าก็เป็นสัดส่วน คิดว่าเสร็จแล้วจะปลูกชาเสริมใกล้ๆ ให้ผู้มาพักได้ใกล้ชิดเพิ่ม“มีอะไรให้รับใช้ครับนาย”ต่อภพเดินมาโค้งให้นายตนพร้อมหน้าระรื่น“มึงไปรับนายหญิงของมึงหน่อย”คนได้ยินทำหน้างง ก่อนจะยิ้มกริ่ม“นั่นแน่ ยอมรับว่าคุณเธอเป็นนายหญิงแล้วเหรอครับนาย”ธีรดนย์ยื่นมือไปแจกมะเหงกให้คนของตนที่ทำตาวาวล้อเลียนแต่อีกฝ่ายหลบทัน เพราะหมอนี่มันเรียกนิชาดาอย่างนี้ตั้งแต่ที่เขาบอกว่าจะเป็นคนไปรับเธอที่สนามบินด้วยตัวเองแล้ว‘ว่าที่นายหญิง ก็ต้องไปรับด้วยตัวเองเนอะนายเนอะ’พูดอย่างนั้นต่อภพก็ได้ลูกเตะจากแข้งเขาไปป้าบหนึ่ง“กูจดทะเบียนแล้วเว้ย ไม่ใช่แค่นอนกับเขาแล้วก็ยกให้ง่ายๆ”คนเป็นนายประกาศออกไป
ปลายนิ้วแกร่งไล้แผ่วผิวตรงข้างเอวสูงขึ้นมาวนเวียนปลายยอดอกแล้วขยำเบาๆ ทำเอานิชาดาสะดุ้งเฮือกลืมตาขึ้นกลางดึก พร้อมกับที่ริมฝีปากอุ่นพรมไต่จากต้นแขนมายังไหล่มน ซอกคอจนถึงใบหูก่อนกระซิบ“หมอกจ๋า รักกันนะจ๊ะ”“คุณดนย์ นี่บ้านใหญ่นะคะ ลูกก็อยู่ด้วย”เธองัวเงียห้ามเสียงเบาเพราะเกรงจะทำให้ลูกชายตื่นและตนเองก็พึ่งหลับไปไม่นานหลังจากป้อนนมหนูน้อยจึงยังเพลียอยู่ ทั้งนอนไม่ค่อยเต็มอิ่มนักอยู่แล้ว ยังดีที่เวลากลางวันมีคุณนายแสงหล้ากับเหมยช่วยดูลูกพอให้ได้งีบบ้าง“น่านะ รับรองเบ๊าเบา ลูกไม่ตื่นแน่”สามียังกระซิบเสียงทุ้มนุ่ม มือก็เคล้าคลึงทรวงอกที่อวบอัดขึ้นของตนทำเอานิชาดาอกใจสั่นไหวไม่น้อย จะว่าไปตนก็คิดถึงสัมผัสจากชายหนุ่มอยู่เหมือนกัน หากก็ยังกังวล“ได้ด้วยเหรอคะ”“เดี๋ยวทำให้ดู”พร้อมพูดชายหนุ่มก็เชยคางให้เธอหันกลับไปรับจูบนุ่มนวลก่อนจะค่อยเพิ่มแรงจูบเม้มและกัดกลีบปากอิ่มด้านล่างให้เธอเผยอรับลิ้นร้อน นิชาดาขยับตัวพลิกมาโอบรอบลำคอหนาตอบรับจูบลึกซึ้งอย่างไม่ยอมน้อยหน้าร่างสองสองขยับเสียดสีเบาๆ ในสัดส่วนที่แตกต่างหากสอดรับกันอย่างลงตัว ลูกชายตัวน้อยนั้นนอนในเปลสี่เหลี่ยมไม่ต้องเกรงว่าแรงเคลื่อ
“คุณดนย์คะ”กลางดึกคืนหนึ่งหลังจากมาพักโรงแรมได้สองวันนิชาดาก็รู้สึกปวดท้องแล้วเหมือนมีบางอย่างไหลออกมา หญิงสาวพึมพำเรียก ชายหนุ่ม เพียงแตะแขนอีกฝ่ายก็รู้สึกตัวแล้วขยับนั่งเปิดโคมไฟทันที“เจ็บท้องเหรอหมอก”“ค่ะ...น่าจะน้ำเดินแล้ว”เธอพูดจนแทบไม่มีเสียงเพราะเจ็บ“งั้นหมอกอยู่นิ่งๆ ก่อนนะ แป๊บเดียว”ร่างสูงใหญ่รีบลุกขึ้นใส่เสื้อโดยเร็วแล้วคว้ากระเป๋าที่เตรียมเอาไว้ก่อนมาประคองร่างที่อุ้ยอ้ายขึ้นของภรรยา“เดินพอไหวไหม”“ค่ะ”นิชาดายังพอไหวจึงกัดฟันค่อยๆ เดินไปพร้อมกับที่ชายหนุ่มพยุง ธีรดนย์ตั้งใจเลือกห้องพักใกล้ลิฟต์จึงไม่ต้องเดินไกลมากหญิงสาวนอนรอเพื่อให้ปากมดลูกเปิดและปวดท้องมากขึ้นเรื่อยๆ โดยมีสามีอยู่ข้างๆ เป็นทั้งคนปลอบใจให้กำลังใจและที่ระบายของตนเพราะบ่อยครั้งที่เธอมักจะจิกเล็บลงบนหลังมือหนาที่กุมมือตนไว้“อื้อ เจ็บจังค่ะ”ยิ่งเห็นดวงหน้าสวยซีดเผือด เหงื่อผุดพราย ทรมานด้วยความเจ็บปวดชายหนุ่มก็ทุรนทุรายตาม เพราะหญิงสาวนอนอยู่แบบนี้มาสามชั่วโมงแล้ว ก้มลงไปจูบหน้าผากมนเช็ดเหงื่อให้ก่อนจะกระซิบ“ฉันจะตามพยาบาลอีกรอบนะ”นิชาดาปล่อยให้ชายหนุ่มไปโดยไม่แย้ง เธอรู้สึกทนไม่ไหวแล้วจริงๆ ไม่น
ไร่ชาดิฐวัฒน์ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสอากาศบริสุทธิ์แห่งขุนเขา นอนในบ้านท่ามกลางไร่ชาเขียวชอุ่ม มองเห็นเมฆลอยต่ำปกคลุมยอดเขา การเก็บชาก็ได้รับความนิยม มีคนจองคิวเต็มจำนวนในทุกวันนิชาดาที่ออกมาเก็บภาพบรรยากาศวันหยุดเพื่อโพสต์ในเว็บและโซเชียลต่างๆ ของไร่ยืนมองผู้คนที่มีความสุขกับการได้มาไร่นี้อย่างภูมิใจ ตอนนี้นอกจากเพจแล้วเธอเปิดแอคเคาต์โซเชียลของไร่เพิ่มขึ้นจนครบถ้วน เพราะโลกออนไลน์เป็นสิ่งที่ใช้ในการประชาสัมพันธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุดในยุคสมัยนี้“ชอบไหมเจ้า”ส้มที่เป็นคนถ่ายภาพให้เธอเปิดกล้องให้ดู ขณะที่นิชาดามากับมธุรินซึ่งยืนเป็นเพื่อนและคอยดูแลเธอที่ท้องแก่ใกล้คลอด ความจริงธีรดนย์ไม่อยากให้หญิงสาวมาทำงานแต่นิชาดาไม่อยากอยู่เฉยๆ การได้ขยับตัวเดินไปเดินมาจะช่วยให้เธอคลอดธรรมชาติได้ง่ายขึ้น หากก็ต้องดูว่าเด็กกลับหัวด้วยหรือไม่เหมือนกัน“อืม ชอบจ้ะ ไปเก็บภาพมุมโน้น ให้เห็นคาเฟ่กับร้านอาหารด้วยนะจ๊ะ”“เจ้า”“พี่ไปกับส้มเองก็ได้ หมอกเข้าไปนั่งพักในคาเฟ่ดีกว่า”มธุรินเอ่ยปากเพราะดูท่าเหมือนภรรยาเจ้าของไร่จะเดินไปอีกไกลกับส้ม“ถ้าอย่างนั้นฝากพี่รินด้วยนะคะ แล้ว
“พอใจหรือยังเมียจ๋า”“อะไรคะ”“ก็รู้แล้วว่าฉันไม่ได้พลาดพลั้งเสียท่าคุณภัทร ฉันเป็นของหมอกคนเดียวมาตั้งแต่จดทะเบียนแล้วไงล่ะ”พร้อมกับถามใบหน้าคมเข้มก็ขยับมาชิด หน้าผากจรดแนบหน้าผากเธอ ส่งสายตาออดอ้อนก่อนจะดันตัวเธอให้ค่อยๆ ถอยไปชิดเตียง แต่เขาทิ้งตัวเองลงหงายหลังแล้วรั้งเธอให้นอนลงไปบนร่างแกร่งนิชาดายิ้มหวาน ไม่ได้ฝืนตัวเพราะตัวเองก็ไม่ได้ขุ่นเคืองอะไร เพียงแค่สงสัยเพราะธีรดนย์ไม่ได้กลับบ้านดึกนัก ยกเว้นช่วงก่อนจัดงานแต่ง“พอใจค่ะ”เธอตอบเสียงเบาชายหนุ่มก็ยิ้มมุมปาก“ผัวเป็นคนดี ไม่วอกแวก รักเมียคนเดียว เมียไม่ให้รางวัลหน่อยเหรอจ๊ะ”คนใต้ร่างอ้อนเสียงทุ้ม แววในดวงตาคู่คมเข้มนั้นหวานฉ่ำจนนิชาดารู้สึกว่าหัวใจตนกำลังละลายไปกับความหวานที่ส่งมาให้“อืม”ปลายนิ้วเรียวไล้วนเหนืออกกว้างพลางทำท่าทีราวครุ่นคิด“อยากได้รางวัลเล็กหรือรางวัลใหญ่คะ”“ชุดใหญ่สิจ๊ะเมียจ๋า”นิชาดาไม่ตอบรับทว่ามือบางเปลี่ยนเป็นลูบแผงอกหนาของคนไม่ใส่เสื้อ แล้วเห็นชายหนุ่มสูดหายใจลึก ยิ่งมือเธอลากลงต่ำ อีกฝ่ายก็ถึงกับกลืนน้ำลายมือนุ่มไม่ได้ต่ำลงไปอย่างที่เขาคาดหวังหากไล้แผ่วเพียงตรงช่วงเอว แต่ชายหนุ่มก็พอใจเพราะร่างหอ
ร่างอรชรออกมายืนหน้าระเบียง มองพระจันทร์ดวงโตผ่านแมกไม้แล้วก็เอาโทรศัพท์ถ่ายก่อนจะอัปโซเชียล ก็มีคนทักและพิมพ์คอมเม้นต์ว่าคิดถึงหลายคน ปกตินิชาดาอัปเดตบ่อยทว่านับแต่มาอยู่ที่นี่ก็ห่างหายเพราะปัญหาต่างๆ ที่รบกวนจิตใจและทุ่มเทความตั้งใจกับงานใหม่ของตน ทั้งยังไม่ได้ตัดวิดีโอที่ถ่ายขณะเดินทางมาไร่ดิฐวัฒน์ด้วย ช่องของเธอพร้อมโซเชียลหยุดเคลื่อนไหวมาสามเดือนแล้ว มานึกขึ้นได้ในตอนนี้ คิดว่าน่าจะพอมีเวลาทำงานตัวเองในวันหยุดได้ เพราะตอนนี้งานในไร่ลงตัวและมีกำหนดปล่อยคลิป Vlog เดือนละครั้ง“จะว่าไป เราไม่เคยชมจันทร์ด้วยกันเลยนะ ออกมาก็น่าจะรอฉันก่อน”เสียงเข้มดังขึ้นและผ้าคลุมที่มาพร้อมการโอบกอดจากด้านหลัง ธีรดนย์คุยงานกับวัชพลนิชาดาก็แวบไปอาบน้ำก่อนแล้วจำได้ว่าเป็นคืนพระจันทร์เต็มดวงซึ่งตนเองยังไม่เคยได้มองดูอย่างจริงจังว่าจะสวยดวงโตแค่ไหน ทั้งยังมีเรื่องให้คิดอยากให้ธรรมชาติยามค่ำคืนช่วยบำบัดความตึงเครียด จึงออกมาหน้าระเบียงในตอนชายหนุ่มอาบน้ำธีรดนย์วางคางบนบ่าเธอ กรุ่นกลิ่นครีมอาบน้ำอบอวลพร้อมไออุ่นจากร่างสูงใหญ่โอบล้อมทำให้หญิงสาวเอนอิงอีกฝ่ายราวต้องการความอบอุ่น“ก็เพราะเอะอะคุณดนย์ก็อุ้มเ
“ฉันเปล่า....”ภัทรดาส่ายหน้าพลางถอยหลังเสียงสั่นมากขึ้น“กลัวทุกคนจะรู้ว่าคุณมาถึงไร่หลังฉันเกิดอุบัติเหตุใช่ไหมคะ”นิชาดาจะไม่ไล่บี้อีกฝ่ายเลยหากเจ้าตัวไม่บอกว่าเธอใส่ร้าย“เธอเกิดเรื่องเมื่อไรฉันก็ไม่รู้ ฉันแค่มาทำงาน ไม่รู้อะไรทั้งนั้น”“ไม่เป็นไร ดูกล้องก่อนแล้วค่อยว่ากัน เพราะผมจำเวลาที่หมอกเกิดเรื่องได้ ถ้าคุณไม่รู้อะไรจริงก็รอให้การณ์กับตำรวจ”“คุณดนย์”คนที่หน้าซีดอยู่แล้วยิ่งตาโต พึมพำพลางถอยหลังช้าๆ“ภัทรไม่ได้ทำนะคะคุณดนย์ ไม่ใช่ภัทรนะ เมียคุณใส่ร้ายภัทร”“ถ้าไม่ได้ทำคุณก็ไม่ต้องกลัวอะไร ไม่ต้องห่วงไปหรอก ตำรวจก็แค่สอบถามเท่านั้น”ยิ่งธีรดนย์เอ่ยถึงตำรวจซ้ำอีกภัทรดายิ่งหวาดกลัวมากขึ้น หญิงสาวรีบหันหลังจะกลับไปขึ้นรถ“ไม่ ภัทรไม่ผิด ภัทรไม่ได้ทำอะไร อย่ามายุ่งกับภัทร”ภัทรดาเหมือนสติหลุดขยับพรวดออกไปราวต้องการหนี ขณะนั้นมีรถคันหนึ่งขึ้นเนินมา ซึ่งก่อนหน้านี้แต่ละคนก็ไม่ทันได้สังเกตสิ่งอื่นเช่นกันเพราะรถของภัทรดาจอดบังทางที่จะเห็นได้ และต่างก็กำลังสนใจเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่พอเห็นรถทั้งหมดก็ตะโกนรั้ง“คุณภัทร!”“กรี๊ดดด!”เอี๊ยด!!เสียงรถเบรกดังขึ้นอีกครั้ง ทว่าภัทรดาก็ถูกเ
“จะฆ่าหมอกหรือไง!”เสียงของธีรดนย์ดังสนั่นไร่ชา ยังดีแถบนี้เป็นจุดที่ยังไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามา จะมีก็เพียงคนทำงานอยู่ทางด้านโฮมสเตย์นิชาดารีบหันไปทางรถกระบะคันนั้นทันใด เธอยังใจสั่นและขาสั่นอยู่เลย หากไม่มีสามีประคองให้ลุกขึ้นคงยืนไม่ไหว แต่เมื่อได้รู้ว่าเจ้าของรถเป็นใครเธอก็อึ้งไปเลยทีเดียวเสียงเปิดปิดประตูรถก่อนร่างโปร่งของภัทรดาจะค่อยๆ เดินมาด้านหน้ารถ สีหน้าอีกฝ่ายซีดเผือด มือไม้สั่น“ภะ...ภัทรขอโทษค่ะ”ภัทรดามองธีรดนย์กับนิชาดาด้วยความรู้สึกผิดจากใจ“ภัทรไม่ทันเห็นน่ะค่ะ เพราะขึ้นเนินมาก็เลยเร่งเครื่องเต็มที่”นิชาดาฟังคำพูดอีกฝ่ายพร้อมจ้องอย่างสังเกตแววตากับสีหน้ามากกว่าเดิมเมื่อสติตนเองค่อยๆ เข้าที่เข้าทาง ขณะมีแขนกำยำตระกองกอดไว้อย่างปกป้องปลอบโยน“ขอโทษที่ทำให้ตกใจนะคะคุณหมอก”“ถ้าฉันมาไม่ทันหมอกจะเป็นยังไง ขับรถในไร่ถึงจะขึ้นเนินก็ไม่ควรเร่งความเร็วขนาดนี้สิ มันอันตรายมากนะ”“ภัทรเสียใจ ภัทรไม่ได้ตั้งใจ เพิ่งเห็นคุณหมอกในระยะประชิดแล้วจริงๆ ค่ะ”เพราะเธอย่อตัวลงค่อยๆ ย่องพยายามให้ผีเสื้อไม่รู้สึกว่ามีบางอย่างเข้ามาใกล้ อาจเป็นไปได้ที่รถซึ่งขับขึ้นเนินมาจะไม่เห็น และ
“โธ่ ไอ้เราก็กลัวว่าเรื่องคุณพีรพลจะทำให้นายกับเธอผิดใจกัน ที่ไหนได้ หวานจนท้องเสียอย่างนั้น”กัญญาแอบมากระแซะแล้วกระแทกไหล่เบาๆ กระเซ้าเธอในตอนบ่าย เมื่ออยู่กันตามลำพังในห้องครัวออฟฟิศ นิชาดาไม่ดื่มชากาแฟเมื่อรู้ว่าตนท้อง แล้วดื่มนมบ่อยขึ้นธีรดนย์จึงซื้อมาใส่ตู้เย็นไว้ให้ ขณะที่เพื่อนสาวเข้ามาชงกาแฟไว้เผื่อสำหรับทุกคนเช่นทุกวัน เพราะตอนเช้าหมดไปแล้ว“กุ๊กก็...ใครจะท้องแค่วันสองวัน”นิชาดาบ่นเพื่อนเสียงอุบอิบอย่างเขินอายข่าวภรรยาของนายท้องค่อยๆ กระจายออกไปทั่วไร่ภายในไม่กี่วัน แม้เธอจะไม่ได้บอกกัญญาตรงๆ เจ้าตัวก็รับรู้ แม้แต่วัชพลกับมธุรินก็ยังมาแสดงความยินดี“ว่าแต่เรื่องคุณพี นายไม่โกรธแล้วใช่ไหม”“อื้อ”นิชาดาพยักหน้ารับ“เพราะข้อความของเธอนั่นแหละ คุณดนย์เห็นก็เลยรู้ว่าเขาเข้าใจผิด”กัญญาตาโต ก่อนจะถาม“อย่าบอกนะว่าที่มีคนอ่านแล้วไม่ตอบน่ะเป็นนาย ฉันเข้าใจว่าหน้าจอเธอแตกเห็นไม่ชัด ก็เลยยังไม่ตอบเสียอีก”หญิงสาวยิ้มกับสีหน้าอิหลักอิเหลื่อของเพื่อนสาว“ใช่น่ะสิจ๊ะ ฉันต้องขอบใจเธอ เพราะถึงฉันพูดอะไรไปคุณดนย์ก็คงยังโกรธอยู่นั่นแหละ มีข้อความของเธอช่วยยืนยันปัญหาก็เลยจบ”เธอยิ้มให้แต่
“ฉันทั้งหลงใหลและหลงรักเธอนะหมอก ถึงจะไม่เคยพูดแต่ฉันก็ไม่เคยอยากเอาใจใครเหมือนเธอ ฉันไปหาซื้อกล้องเอาไว้ง้อตั้งแต่เธอนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาล ทำร้ายร่างกายไปแล้วเห็นเธอทรมานฉันก็ทำอีกไม่ลง ทำโทรศัพท์ของเธอพังก็รีบแวบเอาไปซ่อมที่ร้านในกรุงเทพฯ”ธีรดนย์สารภาพอย่างหมดเปลือก แม้รู้สึกเสียศักดิ์ศรีหน่อยๆ ที่เป็นฝ่ายพูดก่อน แต่เก็บไว้ก็จะทำให้ภรรยาสาวน้อยเนื้อต่ำใจทั้งยังวิตกกังวลอยู่ตลอดว่าเขาไม่ไยดีเจ้าตัว อีกฝ่ายกำลังท้องสุขภาพจิตควรดีเพื่อลูกน้อย“ฉันพูดหวานไม่เป็น แต่ก็พยายามเอาอกเอาใจ ง้อเธอในแบบของฉัน”ริมฝีปากอิ่มสวยค่อยๆ ระบายยิ้มหวานออกมาพร้อมน้ำตาซึม ได้ฟังคำบอกเล่าจากปากชายหนุ่มที่เหนือความคาดหมายของตนเอง นิชาดากลับรู้สึกว่าเขาดูน่ารักขึ้นเป็นกอง“หมอกเข้าใจแล้วค่ะ”นิชาดาพยักหน้าอย่างเข้าอกเข้าใจ ยกแขนเรียวขึ้นคล้องคอแกร่งแล้วเคลื่อนหน้าไปหอมแก้มสากเบาๆ“จูบปากสิจ๊ะ เดี๋ยวนี้จูบเก่งแล้วนี่นา”ธีรดนย์ส่งสายตาหวานฉ่ำพร้อมอ้อนเสียงทุ้มนุ่ม ทว่า หญิงสาวส่ายหน้า ปลายนิ้วเรียวแตะปากได้รูปปราม“ไม่ได้ค่ะ เดี๋ยวคุณดนย์เลยเถิด”“งั้นก็กินข้าวให้อิ่ม แล้วมาออกกำลังก่อนนอนกัน”“เฮ้อ...”หญ