Beranda / รักโบราณ / ดอกไม้ในเปลวเพลิง / บทที่ 51 ข่าวลือว่าผู้บัญชาการสุ่ยสิ้นชีพ

Share

บทที่ 51 ข่าวลือว่าผู้บัญชาการสุ่ยสิ้นชีพ

last update Terakhir Diperbarui: 2025-03-13 12:49:24
แม่ทัพใหญ่จวงเจี้ยนเอ่ยยิ้ม ๆ ว่า “ตอนนี้ต้องขอเชิญท่านเจ้าเมืองไปพักผ่อนในสถานที่ที่จัดไว้ให้อย่างสงบเถิด หากท่านไม่วุ่นวาย เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย ท่านก็ยังจะได้อยู่ดี ๆ”

แม่ทัพใหญ่ยกมือขึ้นโบก ทันใดนั้นทหารจากกองทัพหลวงสองนายก็ตรงเข้าจับกุมเจ้าเมืองเหอไปควบคุมไว้ในที่คุมขัง ที่นั่นเจ้าเมืองผู้ชราพบว่าขุนนางท้องถิ่นชั้นผู้ใหญ่หลายคนก็ถูกควบคุมตัวไว้แล้วเช่นกัน

“พวกเราถูกจับกุมมาก่อนท่านเจ้าเมืองเล็กน้อยขอรับ เหตุใดเขาจึงไม่จับกุมท่านเจ้าเมืองเป็นคนแรก”

ขุนนางคนหนึ่งตั้งคำถาม เจ้าเมืองผู้ชราทรุดตัวลงนั่งมุมหนึ่งของห้องขังแล้วตอบว่า

“เมื่อคืนข้าไปเยี่ยมหลานสาวที่คลอดลูก แล้วพักค้างที่บ้านพี่สาวหนึ่งคืน กำลังเดินทางกลับแต่ยังไม่ถึงจวน ไม่แน่ว่าจวนของข้าอาจถูกค้นกระจุยกระจายไปแล้วก็ได้”

เขาเหลียวมองหาผู้บัญชาการกองกำลังทหารม้าสุ่ยฝานหรง เมื่อมองไม่เห็นในที่คุมขังก็โล่งใจขึ้นส่วนหนึ่ง คงยังไม่สิ้นชีพไปง่าย ๆ เหมือนบิดาหรอกนะ ความหวังของเมืองเหอฝากไว้กับผู้บัญชาการสุ่ยฝานหรงแล้ว

“ท่านเจ้าเมืองมองหาผู้บัญชาการสุ่ยใช่หรือไม่” ขุนนางท้องถิ่นคนหนึ่งเอ่ยถาม แล้วถ้อยคำต่อไปกลับเป็นเหมือนสายฟ้าที
ซ่งฉีเจิน

หมายเหตุ ยามอิ๋น คือช่วงเวลา 03.00-05.00 น. (เวลาล่วงเข้าสู่ยามอิ๋น หมายถึงเวลาประมาณ 03.00 น.) ยามเหมา คือช่วงเวลา 05.00-07.00 น.

| Sukai
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 52 กลวิธี

    เหยี่ยวตัวใหญ่โผบินขึ้นจากป่าไม้ไม่ห่างจากกำแพงเมืองเหอมากนัก ร่างสูงใหญ่ของผู้บัญชาการกองกำลังทหารม้ายืนเท้าเอวหน้าตาบอกบุญไม่รับ ฝูซิงและทหารหน่วยพยัคฆ์เหินอีกสามนายก็มองไปทางกำแพงเมืองเหออย่างโกรธเคือง สุ่ยฝานหรงเอ่ยเสียงเบาว่า“ดูถูกข้าเกินไปแล้ว”ฝูซิงเสริมขึ้นว่า “คงคาดไม่ถึงว่าท่านผู้บัญชาการจะไม่นอนบนเตียง”“สถานการณ์แปลก ๆ ข้าไม่กล้าวางใจ”“นักโทษประหารผู้นี้เสียชีวิตมาหลายวันแล้ว ยาที่รักษาสภาพศพไว้คุณภาพดีมากนะขอรับ ไม่ส่งกลิ่น เลือดไม่แห้ง แม้ว่าเนื้อหนังจะแข็งไปหน่อย”“ข้าจะทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เขาเมื่อมีโอกาสเหมาะ ถือว่าช่วยเหลือข้าไว้”“ข้าน้อยไม่เข้าใจเลย หากแม่ทัพใหญ่จะเจรจาสงบศึกก็ไม่จำเป็นต้องฆ่าผู้บัญชาการนี่ขอรับ”“ข้าก็ไม่เข้าใจ” สุ่ยฝานหรงถอนหายใจยาว ก่อนกล่าวต่อไปว่า “มือสังหารเหล่านั้นเป็นทหารต้าเลี่ยง หากพลาดพลั้งถูกข้าจับได้ ก็ยังอ้างได้ว่าเป็นทหารของศัตรู”ทหารหน่วยพยัคฆ์เหินนายหนึ่งกล่าวว่า “เมื่อตอนที่พวกข้าน้อยเดินทางมาสมทบกับท่านผู้บัญชาการ ข้าน้อยสังเกตว่ามีความเคลื่อนไหวผิดปกติบริเวณที่คุมขังนักโทษขอรับ”สุ่ยฝานหรงพยักหน้ารับทราบ “เจ้าเมืองเหอและขุนนา

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-14
  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 53 ในวังขัดแย้งรุนแรง

    องค์ชายสี่ เทียนตี้เต๋อ ประสูติจากครรภ์ฮองเฮา มีความเฉลียวฉลาด อุปนิสัยอ่อนโยนมีเมตตา แต่สุขภาพอ่อนแอตั้งแต่กำเนิด ชีวิตจะยืนยาวเพียงใดก็ขึ้นอยู่กับสวรรค์แล้วฮ่องเต้ทอดพระเนตรไปยังโอรสของพระอนุชา หลานชายผู้นั้น ฉินอ๋อง เทียนตี้หย่ง รูปลักษณ์หล่อเหลา สติปัญญาเป็นเลิศ เก่งทั้งบู๊และบุ๋น ความประพฤติก็เหมาะสม พระองค์หวังว่าหลานชายผู้นี้จะเป็นกำลังสำคัญของรัชทายาทอย่างไรก็ตาม จิตใจมนุษย์ยากแท้หยั่งถึง เมื่อมีอำนาจทางทหารมากเกินไป จะแน่ใจได้อย่างไรว่าเขาจะไม่ฟุ้งซ่านแย่งชิงอำนาจสูงสุดเป็นของตนเอง บัลลังก์มังกรนี้ใคร ๆ ก็ต้องการครอบครองมิใช่หรือการบริหารอำนาจของฮ่องเต้จำเป็นต้องควบคุมให้เกิดความสมดุล จึงจะทำให้บัลลังก์ของพระองค์มั่นคง และสืบทอดไปยังลูกหลานสายตรงเท่านั้นเสียงองค์ชายรอง เทียนตี้ฮุ่ย หัวเราะดังลั่น ดึงให้สติฮ่องเต้กลับมายังเหตุการณ์ในท้องพระโรง น้ำเสียงขององค์ชายรองเย้ยหยันไม่ปิดบัง“แค่แคว้นเล็ก ๆ อย่างต้าเลี่ยง รัชทายาทจะกลัวไปไย ถ้ากล้ามาก่อความวุ่นวายในเมืองหลวง คอยดูสิว่าข้าจะบดขยี้มันอย่างไร”ดวงตาของรัชทายาทวาวโรจน์ด้วยความโกรธ พี่รองพูดหยามกันชัดเจน เสียงจึงแข็งขึ้น

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-14
  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 54 ฉินอ๋องเตรียมตัวทำศึก

    "ความสัมพันธ์ระหว่างแม่ทัพใหญ่จวงเจี้ยนและแม่ทัพเอี้ยนเป็นไปได้ด้วยดีมาก แต่กลับมีมือสังหารมาลอบฆ่าซีซวน ภาษาที่พวกเขาใช้ วิธีการลงมือและอาวุธล้วนแต่ชัดเจนว่าเป็นทหารต้าเลี่ยง เรื่องนี้ข้าแปลกใจยิ่งนัก หากสองแคว้นตั้งใจจะเป็นพันธมิตรกันจริง เหตุใดจึงมีการลอบฆ่าคนระดับผู้บัญชาการกองกำลังทหารม้า”“เรื่องนี้ทางเจ้าเมืองเหอมีความเห็นว่าอย่างไร”“เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ ซีซวนยังไม่มีโอกาสได้พบเจ้าเมืองเหอ พี่สี่ ข้าเกรงว่าเจ้าเมืองเหอก็จะถูกควบคุมตัวไว้แล้ว”เทียนตี้เต๋อ และเทียนตี้หย่ง เรียกผู้บัญชาการกองกำลังทหารม้าด้วยชื่อที่ใช้ในครอบครัวและสหายสนิทเท่านั้น พวกเขาเติบโตมาพร้อมกัน ศึกษาเล่าเรียนในสำนักศึกษาเดียวกัน มีอาจารย์คนเดียวกัน รัชทายาทอายุมากกว่าเทียนตี้หย่งและสุ่ยฝานหรงหนึ่งปี แต่ด้วยปัญหาสุขภาพจึงได้ไปศึกษาพร้อมกับเทียนตี้หย่งซึ่งเป็นญาติผู้น้องเมื่อพวกเขาอยู่ด้วยกันตามลำพัง ยศถาบรรดาศักดิ์ก็ถูกถอดวางไว้ก่อน มีเพียงพี่น้องเท่านั้น เทียนตี้เต๋อถอนหายใจยาว กล่าวถามว่า“เจ้ายังไม่ตอบข้าเลยว่าสงสัยผู้ใดในเมืองหลวง”“ยังไม่มีหลักฐานชี้ชัดว่าเป็นผู้ใด แต่ข้าอยากเดินทางไปเมืองเหอ ตอนนี

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-15
  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 55 ภารกิจของหัวใจ

    “ยังไม่ชัดเจนเรื่องเงื่อนไขการเจรจาเป็นพันธมิตร อาจจะมีศึกครั้งใหญ่ที่สุดในทศวรรษก็ได้” ฉินอ๋องบอกสั้น ๆ แล้วกล่าวต่อไปว่า “ข้าจะออกเดินทางพรุ่งนี้เช้า ภารกิจครั้งนี้อาจจะทำให้ข้าต้องอยู่ที่ชายแดนนานนับปี เฟิงเอ๋อร์ ข้ามีของมาฝากเจ้า”ฉินอ๋องหยิบกล่องไม้ออกมาส่งให้หญิงสาว เมื่อสุ่ยเฉินเฟิงเปิดออกพลันกลิ่นหอมของเปลือกไม้ต้องละอองฝนก็ทำให้สดชื่น นางสูดกลิ่นอย่างชื่นใจ เมื่อมองดูก็พบว่าเป็นปิ่นไม้หอม มีการแกะสลักลายนกยวนยางตัวเล็ก ๆ คู่หนึ่ง ฝีมือไม่ประณีตนักแต่ก็พอมองออกว่าเป็นนกยวนยางมิใช่สัตว์ปีกชนิดอื่น“ข้าแกะสลักเอง เมื่อครั้งไปแก้ไขปัญหาอุทกภัยในดินแดนทางใต้ ก่อนนอนทุกวัน ข้าจะทำวันละเล็กละน้อย พอจะมีโอกาสได้ประดับบนผมของเจ้าหรือไม่”ฉินอ๋องมองดูใบหน้างดงามของหญิงสาวตรงหน้า เขาอยากดึงนางเข้ามากอดปลอบประโลมในความโดดเดี่ยว แต่ก็ต้องยับยั้งชั่งใจเมื่อนึกถึงพันธะที่ตนเองไม่ได้ก่อแต่ต้องรับผิดชอบ เขาถามย้ำอีกครั้งว่า“เจ้ารอข้าได้ไหม เฟิงเอ๋อร์ ข้าจะรีบแก้ไขเรื่องสมรสพระราชทานให้เร็วที่สุด”สุ่ยเฉินเฟิงยิ้มอ่อน นางเอื้อมมือไปดึงมือของฉินอ๋องมา แล้ววางกล่องไม้ลงในอุ้งมือใหญ่นั้นพลางกล่า

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-15
  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 56 บุกเมืองฮั่ว

    แม่ทัพใหญ่จวงเจี้ยนได้รับคำสั่งจากเมืองหลวงให้เชิญแม่ทัพเอี้ยนและคณะทูตแห่งแคว้นต้าเลี่ยงเข้าเฝ้าที่เมืองหลวง โดยให้กองทัพแคว้นต้าเลี่ยงพักผ่อนรออยู่ที่เมืองเหอ นั่นหมายความว่าทางเมืองหลวงไม่ยินยอมให้กองกำลังต้าเลี่ยงเดินทัพเข้ามืองหลวง เมื่อเขานำความแจ้งแก่แม่ทัพเอี้ยน ดวงตาโปนของแม่ทัพเอี้ยนก็แทบถลนออกนอกเบ้าด้วยความโกรธ“ไหนท่านบอกว่าทางเมืองหลวง เจ้านายของท่านจะจัดการให้เรียบร้อยอย่างไรเล่า ถ้าไม่สามารถนำกองทัพไปด้วยได้ การที่ข้าเดินทางเข้าเมืองหลวงแคว้นต้าเจียจะมีประโยชน์อันใด”พวกเขาตกลงกันว่าจะใช้คำว่าเจ้านายแทนการเอ่ยชื่อหรือตำแหน่งของผู้มากบารมีท่านนั้น หากบังเอิญมีผู้อื่นได้ยินการสนทนา ก็จะไม่สามารถล่วงรู้ได้โดยง่ายว่าท่านนั้นคือผู้ใด“ข้าจะส่งจดหมายไปหาเจ้านายทางเมืองหลวงอีกซักครั้ง ให้ไปขอให้กองทัพต้าเลี่ยงเดินทางไปพร้อมกับพวกเรา”แม่ทัพเอี้ยนโบกมือ “ไม่ต้องแล้ว ข้าคิดว่าพวกเราควรรุกเข้าเมืองหลวงเลย”“ท่านอย่าใจร้อน รอให้ข้ามีหนังสือไปแจ้งเจ้านายทางเมืองหลวงก่อนว่าพวกเราจะเดินทัพมุ่งไปเมืองหลวงแล้ว เมื่อได้รับอนุญาตจากเจ้านายของข้า พวกเราก็เดินทัพกัน”แม่ทัพเอี้ยนส่ายหน้า

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-16
  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 57 เมืองฮั่วอันแข็งแกร่ง

    แม่ทัพเอี้ยนมั่นใจในสรรพกำลังของตนเอง แต่การเข้ายึดเมืองฮั่ว หากทำได้ง่ายดายเหมือนเมืองเฮยและเมืองเหอก็จะดีกว่าการสู้รบให้สิ้นเปลืองกำลังทหาร อย่างไรก็ตามเกรงว่าจะไม่เป็นเช่นนั้นเมืองฮั่วเป็นเมืองใหญ่ กองกำลังทหารประจำเมืองมีความแข็งแกร่ง มีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่มีคุณภาพ พื้นดินของเมืองฮั่วมีความอุดมสมบูรณ์การทำเกษตรกรรมล้วนให้ผลที่ดี นอกจากนั้นเรื่องการค้าขายก็เจริญรุ่งเรือง คลังของเมืองฮั่วเต็มไปด้วยทรัพย์สินเงินทองแม่ทัพเอี้ยนไม่ชัดเจนว่าทหารเมืองฮั่วมีกำลังพลมากน้อยเพียงไร จึงตัดสินใจถอนกำลังจากลานหน้ากำแพงเมืองไปตั้งค่ายทหารในพื้นที่กว้างห่างออกไปหน่อยแม่ทัพใหญ่จวงเจี้ยนแอบถอนหายใจโล่งอกไปได้บ้าง เขาไม่ต้องการให้เกิดการสู้รบ ไม่ว่าจะเมืองเฮย เมืองเหอ หรือเมืองฮั่ว ล้วนถือเป็นราษฎรแคว้นต้าเจีย แต่ถ้าจำเป็นก็ต้องทำเจ้าเมืองเฮยสูญสิ้นชีวิตอย่างน่าอนาถเพราะมุ่งเน้นแต่ด้านเศรษฐกิจละเลยการทหาร เจ้าเมืองเหอสูญสิ้นอิสรภาพเพราะความไว้วางใจเขาในฐานะแม่ทัพใหญ่กองทัพหลวงที่ฮ่องเต้ส่งมาแต่เจ้าเมืองฮั่วกลับแตกต่าง นอกจากพัฒนาเศรษฐกิจแล้ว เขายังให้ความสำคัญกับความมั่นคงของเมือง ครอบครัวที่มีลู

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-16
  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 58 ประจัญบาน

    ผู้นำทหารเมืองฮั่วสั่งให้มือธนูระดมยิงไปที่กลุ่มทหารต้าเลี่ยงที่อุ้มท่อนซุง เมื่อมีการเคลื่อนไหวเพื่อให้ท่อนซุงกระแทกประตูเมืองก็เปิดเผยร่างคนออกมาแล้ว มือธนูอันแม่นฉมังของเมืองฮั่วสามารถส่งลูกศรลอดช่องที่เปิดออกเพียงน้อยนิด ส่งผลให้ท่อนซุงหลุดออกจากมือลงพื้น เสียงดังโครมใหญ่ ฝุ่นฟุ้งไปทั่วบริเวณ เมื่อเสียการทรงตัวคนหนึ่ง ก็ทำให้รวนทั้งขบวน แม่ทัพหนุ่มของแคว้นต้าเลี่ยงจึงสั่งให้ถอยกลับก่อน ท่อนซุงจึงถูกทิ้งไว้หน้าประตูเมืองการสู้รบตั้งแต่เช้าถึงค่ำ ผลัดกันรุกผลัดกันรับก็ไม่มีผู้ใดเอาชนะได้อย่างเด็ดขาด แม่ทัพหนุ่มของแคว้นต้าเลี่ยงจึงสั่งถอยกลับไปตั้งมั่นที่ค่ายทหารก่อน เมื่อลานหน้าประตูไร้ทหารต้าเลี่ยงแล้ว เจ้าเมืองฮั่วจึงสั่งให้ทหารเมืองฮั่วเปิดประตูเมืองแล้วลากท่อนซุงนั้นเข้ามาไว้ภายใน อย่างน้อยหากกองทัพแคว้นต้าเลี่ยงต้องการเปิดประตูเมืองด้วยการใช้ท่อนซุงกระแทกอีก ก็ต้องไปแบกท่อนซุงใหม่มา จะไม่วางไว้ให้เป็นอาวุธสำเร็จรูปของศัตรูผู้รุกรานเด็ดขาด เช้าวันรุ่งขึ้น กองทัพแคว้นต้าเลี่ยงกลับมาพร้อมกับเครื่องยิงลูกหินขนาดใหญ่ ทหารราบถือคบไฟไว้ในมือเตรียมจุดไฟเผาประตูและกำแพงเมือง ประตูเมือ

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-17
  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 59 ฉินอ๋อง เทพสงครามตัวจริง

    ผู้นำทหารกลับย้อนถามสุ่ยฝานหรงว่า “อ้าว มิใช่ท่านอ๋องนำกองทัพเสริมมาจากเมืองหลวงมาเพื่อช่วยเมืองฮั่วทำศึกหรือขอรับ” ฉินอ๋องส่ายหน้า ตอบว่า “ข้ามีหน้าที่ตรวจสอบเรื่องราวของเมืองเหอ”เจ้าเมืองฮั่วถอนหายใจก่อนกล่าวว่า “กระหม่อมขอความช่วยเหลือไปทางเมืองหลวงแล้ว แต่ไม่มีการตอบรับอะไรเลยพ่ะย่ะค่ะ” จากนั้น ก็สอบถามว่า “เหตุใดแม่ทัพใหญ่จวงเจี้ยนจึงเข้าร่วมกับกองทัพแคว้นต้าเลี่ยงพ่ะย่ะค่ะ”ฉินอ๋องและสุ่ยฝานหรงต่างก็นิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง ในที่สุดฉินอ๋องก็ตอบว่า “เรื่องนี้ยังไม่ชัดเจน เอาเป็นว่าเมื่อสมัครใจเข้าร่วมกับกองทัพต้าเลี่ยงแล้วก็ต้องรับผลที่จะตามมา”เจ้าเมืองฮั่วอดสงสัยไม่ได้ว่า “ท่านอ๋องเข้ามาในเมืองฮั่วได้อย่างไรพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมสั่งปิดทางเข้าออกเมืองทุกเส้นทางแล้ว”ฉินอ๋องยิ้ม ไม่ตอบ แต่กล่าวว่า “นอกจากข้าจะเข้ามาได้แล้ว ยังนำลูกศรเจาะเกราะจำนวนมากมาให้เมืองฮั่วด้วย ลูกศรนี้สามารถทะลุทะลวงโล่ของต้าเลี่ยงได้”ประกายตาของเจ้าเมืองฮั่วและผู้นำทหารสว่างวาบขึ้นทันที ฉินอ๋องกล่าวต่อว่า “เอาละ พวกเรามาพูดคุยกันเรื่องการโต้กลับต้าเลี่ยงกันดีกว่า ข้ารู้ว่าพวกท่านเหนื่อยมาก แต่การศึกต้องรวดเร

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-17

Bab terbaru

  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 114 ใต้หล้าล้วนสงบสุข

    สิบปีผ่านไป ณ ตำหนักคุนหนิง ฮองเฮาสุ่ยเฉินเฟิง นั่งดื่มชาในสวนดอกไม้ อากาศอบอุ่น มีลมพัดผ่านเบา ๆ นึกถึงชะตาชีวิตที่แปลกประหลาด ตั้งแต่เล็กจนเติบใหญ่มีชีวิตสงบสุขเหมือนคุณหนูสูงศักดิ์ทั่วไป แต่เมื่อถึงวัยมีคู่ครองก็มีเรื่องเดือดร้อนไม่จบไม่สิ้น ชีวิตเหมือนอยู่ท่ามกลางเปลวเพลิง กว่าจะฝ่าฟันมาถึงวันนี้ก็ได้รับประคับประคองจากพระสวามีผู้สง่างามและครอบครัวเดิม สุ่ยเฉินเฟิงสัญญากับตนเองว่าจะทะนุถนอมความรักของพวกเขาไว้อย่างดีฮ่องเต้เทียนคงอิงฉง เทียนตี้หย่ง และฮองเฮาสุ่ยเฉินเฟิง มีพระราชโอรสและพระราชธิดารวมห้าองค์ องค์ชายหย่งเฉิงคล้ายเสด็จพ่อมากที่สุดทั้งรูปร่างหน้าตา อุปนิสัย และความรู้ความสามารถ องค์ชายหย่งเฉิงชื่นชอบการฝึกซ้อมอาวุธทุกประเภท อีกทั้งยังชำนาญหมากล้อมและการฝึกเชาว์ปัญญาต่าง ๆ เรียกว่าเก่งทั้งบู๊และบุ๋นองค์หญิงเฟิงซินหน้าตาคล้ายเสด็จย่าไทเฮากู้ชุนฉือ ทำให้นางเป็นที่โปรดปรานของเสด็จย่าไทเฮากู้ชุนฉือยิ่งนัก บางครั้งฮ่องเต้ยังจำใจต้องอนุญาตให้องค์หญิงเฟิงซินไปพักค้างที่ตำหนักนอกวังบ้างเพราะทนการรบเร้าของผู้เป็นมารดาไม่ไหว แรก ๆ ก็ไปพักค้างครั้งละหนึ่งคืน พอนานเข้าเสด็จย่าไทเฮา

  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 113 ราษฎรกินอิ่มนอนอุ่น

    ราษฎรต้อนรับการประสูติขององค์ชายน้อยหย่งเฉิงอย่างเอิกเกริก ร้านค้าในตลาดและบ้านเรือนราษฎรปักธงถวายพระพร เหลาเฉียนจัดทำอาหารพิเศษแจกจ่ายให้ลูกค้าโดยไม่คิดเงิน ร้านขายผลไม้ก็นำส้มมงคลมาแจกจ่ายให้ผู้คนที่สัญจรไปมาเมื่อครั้งเทียนตี้หย่งยังดำรงตำแหน่งฉินอ๋อง ราษฎรก็รักใคร่ชื่นชม แม้ในจวนอ๋องจะไม่มีพระชายา พระชายารอง หรืออนุ ก็ไม่มีผู้ใดใส่ใจ ต่อมาขึ้นครองราชย์ ราษฎรก็ปลื้มปิติ แต่ก็กังวลเพราะฮ่องเต้เทียนคงอิงฉง เทียนตี้หย่ง ลั่นวาจาไว้ว่าจะมีฮองเฮาสุ่ยเฉินเฟิงเพียงพระองค์เดียวแม้ในขณะที่แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งฮองเฮา พระนางจะตั้งครรภ์แล้วก็ตาม หากเป็นพระราชธิดาพวกเขาก็ยังไม่วางใจ ดังนั้นเมื่อองค์ชายน้อยหย่งเฉิงประสูติ จึงเป็นทั้งความยินดีและความโล่งใจของราษฎรทั้งหลาย อย่างน้อยก็สบายใจได้ว่า แคว้นต้าเจียมีผู้สืบทอดบัลลังก์มังกรแล้วในแต่ละวันขององค์ชายน้อยหย่งเฉิงมีเสด็จย่าทั้งสองและท่านยายผลัดกันมาดูแล คือเสด็จย่าไทเฮาสือจินอวี้ เสด็จย่าไทเฮากู้ชุนฉือ และท่านยายเจียงจือไฉ แต่เสด็จย่าไทเฮาสือจินอวี้จะได้เปรียบมากกว่าเพราะประทับในวังเช่นเดียวกัน จึงมาดูแลเกือบทุกวัน เว้นแต่วันที่เสด็จย่าไทเฮ

  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 112 เจ้าก้อนแป้งตัวน้อยน่ารัก

    พระราชพิธีแต่งตั้งฮองเฮาเป็นไปอย่างเรียบง่ายตามความประสงค์ของสุ่ยเฉินเฟิง ตำหนักคุนหนิงของฮองเฮาได้รับการปรับปรุงใหม่ มีห้องสำหรับทารกติดกับห้องบรรทมของฮองเฮา สำหรับฮ่องเต้เทียนคงอิงฉงนั้นแม้จะมีตำหนักเฉียนชิง แต่พระองค์ก็จะมาบรรทมที่ตำหนักคุนหนิงเป็นประจำ เว้นแต่ช่วงที่ทรงงานดึกจึงจะพักผ่อนที่ตำหนักเฉียนชิงเพื่อให้ฮองเฮาพักผ่อนเต็มที่ ไม่ต้องตื่นกลางดึกสุ่ยฝานหรงซึ่งบัดนี้ได้รับการแต่งตั้งดำรงตำแหน่งอัครมหาเสนาบดีนั้น บางวันจะพาเหมยกุ้ยเข้าวังมาส่งที่ตำหนักคุนหนิงในช่วงเช้า และมารับกลับหลังจากประชุมขุนนางเสร็จ ชีวิตของสุ่ยเฉินเฟิงจึงไม่เงียบเหงาเกินไป ส่วนถิงถิงซึ่งบัดนี้เป็นนางกำนัลคนสนิทของฮองเฮาก็ช่างมีเรื่องซุบซิบมาเล่าให้ฟัง แม้กระทั่งองค์หญิงนาราที่เสวยผลไป่เซียงกั่วเพื่อให้เกิดผื่นจะได้ยืดเวลาการอยู่ในวังหลวงเพื่อมีเวลาขอถวายตัวเป็นสนมก็มาเล่าให้ฟัง เรียกได้ว่าทั้งเรื่องเก่าเรื่องใหม่ถิงถิงไม่ค่อยจะพลาดข่าว ถิงถิงมีความเห็นว่ารู้มากหน่อยดีกว่ารู้น้อยไปเมื่อสุ่ยฝานหรงเข้ารับตำแหน่งอัครมหาเสนาบดีแล้ว ฮ่องเต้เทียนคงอิงฉง เทียนตี้หย่ง ก็ต้องวางกำลังคนที่ไว้ใจให้ควบคุมหน่วยกำลัง

  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 111 เข้าวัง

    ไทเฮาสือจินอวี้ลุกขึ้นจากที่ประทับ ตรงไปยังองค์หญิงนาราที่นั่งคุกเข่า ใช้สองพระหัตถ์แตะไหล่ประคองให้องค์หญิงน้อยลุกขึ้นยืน แล้วตรัสว่า “องค์หญิงนารามีหน้าตาสวยงามและเพียบพร้อมด้วยความรู้ ไม่ควรจะมาเป็นสนม ความหวังดีนี้ไม่อาจรับไว้ได้ ขอให้แคว้นต้าเจียและเผ่าตู้ผูกพันเป็นมิตรที่ดีต่อกันเถิด”ภายนอกมีเสียงดังขึ้นว่า “ฮ่องเต้เสด็จ”เมื่อร่างสูงสง่าของฮ่องเต้ก้าวเข้ามาในโถงกลางของวังหลัง พระองค์ทำความเคารพไทเฮาก่อน แล้วจึงหันไปตรัสแก่ผู้อื่นที่ทำความเคารพว่า “ไม่ต้องมากพิธี” องค์หญิงน้อยมองด้วยสายตาหลงใหลเทียนตี้หย่งแย้มพระโอษฐ์เล็กน้อยแล้วตรัสด้วยสุรเสียงจริงจังว่า “เจิ้นขอบใจในน้ำใจของถู่ซือและองค์หญิง แต่ไม่อาจรับไว้ได้ ต้าเจียและเผ่าตู้ไม่จำเป็นต้องผูกพันกันด้วยการอภิเษกหรือการเป็นสนม แต่ยังเป็นพันธมิตรกันต่อไปได้”องค์หญิงน้อยทำได้เพียงกล่าวเสียงเบาว่า “เพคะ” รู้สึกอับอายแทบแทรกแผ่นดิน ไม่คิดมาก่อนว่าจะถูกปฏิเสธแม้แต่การเป็นสนม เทียนตี้หย่งหันไปทางทูตเผ่าตู้แล้วตรัสว่า “เผ่าตู้มีสินค้าหายากหลายอย่างที่ต้าเจียไม่มี เจิ้นจะให้ทูตการค้าต้าเจียหารือเรื่องการพัฒนาการค้าขายระหว่างกันดีห

  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 110 ใคร ๆ ก็หลงรักฮ่องเต้ผู้สง่างาม

    พระราชพิธีบรมราชาภิเษกเป็นไปอย่างยิ่งใหญ่อลังการ เทียนตี้หย่ง ขึ้นครองราชย์สถาปนาเป็นฮ่องเต้เทียนคงอิงฉง ราษฎรทั่วแคว้นต้าเจียเฉลิมฉลองเจ็ดวันเจ็ดคืน พวกเขาล้วนมีความหวังที่ยิ่งใหญ่กว่าครั้งใดที่เคยหวัง ต่างแคว้นล้วนส่งทูตมาแสดงความยินดี ไม่มีแคว้นใดหาญกล้าทดสอบความแข็งแกร่งของฮ่องเต้พระองค์ใหม่เผ่าตู้เป็นชนเผ่าที่เคยถูกแคว้นต้าเลี่ยงรุกรานและสร้างความอัปยศให้แก่องค์หญิงหลายองค์จนปลิดชีพตนเอง เมื่อแคว้นต้าเจียปราบปรามแคว้นต้าเลี่ยงทำให้เผ่าตู้ได้รับอิสระอีกครั้ง เมื่อมาแสดงความยินดีในครั้งนี้ มีองค์หญิงน้อยเผ่าตู้ร่วมเดินทางมาด้วย องค์หญิงนาราเป็นองค์หญิงองค์เดียวที่ปลอดภัยจากการรุกราน เนื่องจากช่วงเวลานั้นไม่ได้อยู่ในดินแดนเผ่าตู้ ในท้องพระโรง พระเจ้าเทียนคงอิงฉง เทียนตี้หย่ง ประทับอยู่บนบัลลังก์มังกร พระพักตร์ขาวใส ดวงตาดำขลับยาวรีปลายชี้ฟ้า จมูกโด่งเป็นสัน ช่างสง่างามเหลือเกิน องค์หญิงน้อยมองดูด้วยความตะลึง หลงรักบุรุษผู้สง่างามนี้ทันทีเทียนตี้หย่งแย้มพระโอษฐ์ขอบคุณแคว้นต่าง ๆ ที่มาร่วมแสดงความยินดี และเชิญทูตทุกแคว้นทุกชนเผ่าเข้าร่วมงานเลี้ยงในตอนเย็น เนื่องจากยังไม่มีการแต่งตั

  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 109 เทพสงครามครองบัลลังก์มังกร

    หลังจากพระเจ้าเต๋อหมิงได้รับบาดเจ็บ คณะหมอหลวงก็พยายามทุกวิธีในการรักษา เพราะฤทธิ์ยาระงับความเจ็บปวดที่หมอหลวงปรุงขึ้น แม้พระพักตร์จะขาวซีดแต่ก็ไม่แสดงถึงความเจ็บปวด เวลาผ่านไปสิบกว่าวัน ลมหายใจที่แผ่วเบานั้นก็หยุดนิ่ง หัวหน้าหมอหลวงตรวจชีพจรอีกครั้งก่อนจะหันมาทูลต่อไทเฮาสือจินอวี้ว่า“พระองค์กลับคืนสู่สวรรค์แล้วพ่ะย่ะค่ะ”ไทเฮาสือจินอวี้ตัวอ่อน เป็นลมล้มพับ ฉินอ๋อง เทียนตี้หย่ง ที่ยืนอยู่ใกล้กันรับตัวเสด็จป้าสะใภ้ไว้ทันก่อนพระวรกายกระทบพื้น หมอหลวงแบ่งคนมาปฐมพยาบาลไทเฮา ความเศร้าโศกเสียใจล้นห้องบรรทมออกไปครอบคลุมวังหลวงและกระจายออกไปทั่วแคว้น พระเจ้าเต๋อหมิงเป็นผู้ปกครองใต้หล้าด้วยความเมตตา จึงเป็นที่รักใคร่ของราษฎร ในช่วงเวลาอันเศร้าหมอง ฉินอ๋องเป็นกำลังหลักในการสั่งการเรื่องต่าง ๆ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยหลังจากพิธีการต่าง ๆ ผ่านพ้นไป ไทเฮาสือจินอวี้ก็เรียกฉินอ๋องเข้าเฝ้า สุ่ยเฉินเฟิงดูแลเครื่องแต่งกายให้พระสวามี ฉินอ๋องใช้นิ้วดันคางของนางให้เงยหน้าขึ้น“เฟิงเอ๋อร์ เจ้ากังวลอะไรหรือ”สุ่ยเฉินเฟิงถอนหายใจ “ไม่แน่ว่าการเรียกตัวเข้าเฝ้าในครั้งนี้จะเกี่ยวข้องกับบัลลังก์ที่ว่างอยู่เพ

  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 108 ศาสตร์และศิลป์ในการปกครอง

    พระเจ้าเต๋อหมิงบาดเจ็บสาหัส นับตั้งแต่วันที่เกิดเหตุพระองค์ก็ยังไม่ลืมพระเนตรขึ้นมา มีเพียงชีพจรและลมหายใจแผ่วเบาเท่านั้นที่ทำให้รู้ว่ายังมีพระชนม์ชีพอยู่ เกิดความโกลาหลในการบริหารงานเล็กน้อย ไทเฮาสือจินอวี้ต้องออกนั่งเป็นประธานการประชุมขุนนางในฐานะผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน พระนางไม่ประทับบนบัลลังก์มังกร แต่กลับให้คนนำเก้าอี้หงส์จากตำหนักของพระนางมาใช้ประทับเป็นการชั่วคราวแม้ว่าปกติไม่ว่าไทเฮาหรือฮองเฮาพระองค์ใดก็ตาม ไม่สามารถเข้ามายุ่งเกี่ยวกับกิจการของวังหลวงได้ ผู้เป็นมารดาของแผ่นดินมีหน้าที่ควบคุมกำกับดูแลวังหลังให้เป็นไปโดยเรียบร้อย แต่สถานการณ์ของแคว้นต้าเจียในคราวนี้แตกต่างออกไป พระเจ้าเต๋อหมิงไม่ได้อภิเษกสมรสเพราะอยู่ระหว่างการไว้ทุกข์ให้กับไท่ซ่างหวงซึ่งก็คือเสด็จพ่อของพระองค์นั่นเอง อีกทั้งพระเจ้าเต๋อหมิงก็ไม่มีสนมจึงยังไม่มีพระราชโอรสหรือพระราชธิดาแม้แต่พระองค์เดียว แคว้นต้าเจียจึงยังไม่มีรัชทายาทเดิมทีเหล่าขุนนางตั้งใจว่าหลังจากพ้นการไว้ทุกข์ให้ไท่ซ่างหวงแล้ว พวกเขาจะกดดันให้พระเจ้าเต๋อหมิงอภิเษกสมรสและแต่งตั้งฮองเฮา รวมทั้งให้เริ่มการคัดเลือกสนมเข้ามาปรนนิบัติตามธรรมเนียมท

  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 107 ขบวนการทำลายแคว้นจบสิ้น

    ก่อนที่สุ่ยฝานหรงจะออกไป ฉินอ๋องสั่งการเพิ่มเติมว่า “ตอนที่จับกุมเมิ่งกุ้ยเฟย คนที่สุสานบรรพชนล้วนถูกลงโทษ นางกำนัลอู่ก็ติดตามกุ้ยเฟยไปที่สุสานด้วย ท่านตรวจสอบด้วยว่าผู้ใดช่วยเหลือให้นางหลบหนีจนรอดพ้นได้” “พ่ะย่ะค่ะ”สุ่ยฝานหรงออกไปแล้ว ฉินอ๋องกลับเข้าไปในห้องบรรทมของพระเจ้าเต๋อหมิง มีโต๊ะวางไว้มุมห้อง เขาทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ จางชุนรินน้ำชาส่งให้ เขารับมาถือไว้นิ่ง ๆ มองตรงไปก็เห็นญาติผู้พี่นอนนิ่ง พระพักตร์ซีดเซียว นี่คือสิ่งที่เขากังวลอยู่เสมอว่าจะเกิดขึ้น และแล้วก็เกิดขึ้นจริง พี่สี่ของเขาพระทัยอ่อน ใช้สายพระเนตรที่เมตตามองผู้คนโดยรอบ ใช้พระคุณแต่เพียงอย่างเดียวในการปกครองเวลาผ่านไป แม่ทัพใหญ่สุ่ยฝานหรงกลับมาอีกครั้งเมื่อเข้ายามอิ๋น เขาสีหน้าไม่ดีนัก รายงานว่า“ตรวจสอบโดยละเอียดแล้วพ่ะย่ะค่ะ นางกำนัลอู่ไม่ถูกจับกุมเพราะนางลากลับบ้านเดิมเพื่อจัดการงานศพของมารดา เมื่องานศพเสร็จแล้ว ระหว่างทางที่เดินทางกลับเมืองหลวง ก็ได้ข่าวว่าคนที่สุสานบรรพชนถูกจับกุม นางจึงซ่อนเร้นตัว เมื่อทหารที่ไปตรวจค้นสุสานบรรพชนและทำลายเห็ดเมากลับไปแล้ว นางก็ลักลอบเข้าไปในสุสานบรรพชน เพราะนางอยู่ที่นั่นกั

  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 106 บาดเจ็บสาหัส

    “พ่ะย่ะค่ะ เสด็จป้าสะใภ้ หลานจะสอบสวนเรื่องนี้ด้วยตัวเอง แต่ตอนนี้สภาพในคุกไม่เหมาะสำหรับผู้บาดเจ็บ” เขาหันถามหัวหน้าหมอหลวงว่า “จะเคลื่อนย้ายฝ่าบาทได้หรือไม่ หรือต้องรอให้อาการดีขึ้นกว่านี้ก่อน”หัวหน้าหมอหลวงตอบว่า “สามารถเคลื่อนย้ายได้แล้วพ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง แต่ต้องทำด้วยความระมัดระวัง คุกหลวงไม่เหมาะกับการรักษาผู้ป่วยจริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ”ในที่สุด พระเจ้าเต๋อหมิงก็ถูกเคลื่อนย้ายไปยังตำหนักเฉียนชิง ฉินอ๋องประคองไทเฮา สือจินอวี้ไปพร้อมกัน โดยให้สุ่ยฝานหรงซึ่งตามมาถึงแล้ว ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุอย่างละเอียด ไทเฮานั่งกุมพระหัตถ์พระราชโอรส พระพักตร์ของพระองค์และพระเจ้าเต๋อหมิงซีดขาวพอกัน"เสด็จป้าสะใภ้พักผ่อนก่อนดีหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ” ไทเฮาสือจินอวี้ส่ายพระพักตร์ “ป้าสะใภ้จะเฝ้าเต๋อเอ๋อร์ เมื่อเขาฟื้นจะได้เห็นหน้าแม่เป็นคนแรก”“ถ้าเช่นนั้นหลานจะให้คนจัดห้องด้านข้างเป็นที่บรรทมชั่วคราวดีไหมพ่ะย่ะค่ะ เสด็จป้าสะใภ้ไปพักผ่อนก่อน มิฉะนั้นอาจจะประชวรไปอีกพระองค์ หากพี่สี่รู้สึกตัวแม้เพียงเล็กน้อยจะให้คนไปทูลให้ทรงทราบทันที”ไทเฮาพยักพระพักตร์ ฉินอ๋องจึงสั่งให้ขันทีประจำตำหนักเฉียนชิงเร่งจัดห้องบรรทมช

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status