ราเชนทร์กลับมาถึงบ้านด้วยอารมณ์ที่ยังคงขุ่นมัว เขามุ่งหน้าขึ้นไปยังห้องนอนส่วนตัวที่อยู่บนชั้นสองริมสุดทางซ้าย มือหนากระชากประตูก่อนที่ประตูบานนั้นจะปิดกระแทกลงอย่างดัง สะท้อนอารมณ์เพลิงโทสะของเขาออกมาอย่างเต็มรูปแบบ
เสื้อเชิ้ตสีขาวถูกถอดออกและโยนลงตะกร้าเตรียมซักอย่างไม่ไยดีตามด้วยกางเกงสแล็คราคาแพงและชั้นใน ร่างกายกำยำเปลือยล่อนจ้อน เดินเข้าห้องน้ำส่วนตัวก่อนที่เสียงน้ำจากฝักบัวจะดังขึ้นตามมา
ชายหนุ่มปล่อยให้สายน้ำเย็นๆไหลผ่านร่างกายเพื่อมันจะช่วยปลอบประโลมให้เขาใจเย็นลงมาบ้าง แต่ผิดมหันต์เพราะใบหน้าสวยสดใสของหญิงสาวคนหนึ่งกำลังส่งยิ้มให้เขาอย่างน่ารัก ดวงตากลมโตของเธอแพรวพราวเป็นประกายระยิบระยับราวกับหมู่ดาวบนฟากฟ้าที่กำลังเปล่งแสงอยู่ในดวงตาของเขา
" เฌอรินทร์! ยัยเด็กบ้า "
ราเชนทร์สบถออกมาอย่างหัวเสีย มือหนากำหมัดแน่นก่อนจะระบายมันออกมาด้วยการต่อยเข้ากับกำแพงอย่างแรง ราวกับอยากให้ความเจ็บนี้ลบล้างรอยยิ้มที่น่ารักของเธอคนนั้น
' หญิงสาวที่เขาแอบชอบมาตั้งแต่เด็ก '
เฌอรินทร์ มานะกิจสกุล เธอเป็นหลานสาวของสมาน ตอนนี้ก็น่าจะอายุยี่สิบปีแล้ว ครั้งแรกที่ราเชนทร์เจอเธอก็ตอนที่เขาอายุสิบขวบ ตอนนั้นเฌอรินทร์ยังแบเบาะ สมานอุ้มเธอมาหาพ่อและแม่ของเขา บอกกับพวกท่านว่าเป็นหลานสาวและขอให้เธอมาอยู่ที่นี่เพราะพ่อแม่ของเฌอรินทร์ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ระหว่างกำลังไปเยี่ยมญาติที่ภาคอีสาน
นับตั้งแต่วันนั้น! ราเชนทร์ก็กลายเป็นพี่เลี้ยง เพื่อนและพี่ชายให้กับสาวน้อยคนนี้ และด้วยความน่ารักของเธอทำให้พ่อและแม่ของเขาเอ็นดูเป็นอย่างมาก ถึงขนาดเคยออกปากขอหมั้นหมายเด็กสาวให้กับลูกชาย
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!!!
" นายหัวครับ! พวกเราได้ที่อยู่ของคุณเฌอรินทร์แล้วครับ " เสียงรายงานของลูกน้องหลุดเล็ดลอดออกมาจากหลังประตูไม้สีเข้มขัดเงา
ใบหน้าหล่อยกยิ้มมุมปากอย่างชอบใจ ถูกใจยิ่งหนักกับการทำงานของที่แสนรวดเร็วของลูกน้อง เสื้อเชิ้ตสีดำสนิทถูกหยิบออกมาจากตู้ตามด้วยกางเกงยีนส์สีเข้ม เขาแต่งตัวอย่างรวดเร็วแต่ก็เนียนเนี้ยบตามสไตล์ของเขา
ประตูที่ถูกกระชากออกอย่างแรง แสดงถึงเพลิงไฟโทสะแห่งความโกรธยังไม่จางหายไป ราวกับสายน้ำเย็นๆเมื่อครู่ไม่ได้ช่วยลดไฟในหัวของเขาเลยสักนิด
" ไปเตรียมตัว! กูจะไปลากตัวเด็กกูกลับมาชดใช้แทนบุพการีของมัน " เสียงทุ้มออกคำสั่งอย่างเด็ดเดี่ยวและหนักแน่น มือหนากระชากประตูบานนั้นปิดลงอีกครั้งอย่างดังสนั่น
ชายฉกรรจ์ตัวใหญ่สามคน รีบวิ่งลงไปเตรียมตัวทันทีตามที่เจ้านายของเขาสั่งการ ตอนนี้งานเลี้ยงเปิดตัวช็อกโกแลตไม่ได้มีความสำคัญต่อราเชนทร์อีกแล้ว หญิงสาวที่เขาเฝ้ารอมาตลอดห้าปี นั้นต่างหากคือสิ่งที่สำคัญที่สุด
รถ SUV ขนาดเจ็ดที่นั่งสีดำวิ่งออกไปจากไร่ด้วยความรวดเร็ว ตอนนี้เป็นเวลา 19 : 30 น. และจากสภาพอากาศ ท้องถนนที่โล่ง ราเชนทร์คาดว่าจะได้ถึงกรุงเทพประมาณ ตี 2 เกือบ ตี 3 และการที่เขาเอาลูกน้องไปสามคนไม่ใช่เพราะอยากใช้กำลังกับเธอแต่เผื่อให้ทั้งสามคนผลัดกันขับรถต่างหาก
จากที่คำนวณระยะเวลาแล้ว ใช้คนขับสามคนเปลี่ยนกันทุก 2 - 3 ชั่วโมงระยะทางจากไร่อันดารันไปถึงกรุงเทพประมาณ 900 กิโล เหยียบคันเร่ง 100 - 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงก็จะถึงเวลาที่เขาคำนวณเอาไว้ อาจจะมีคลาดเคลื่อนนิดหน่อยแต่ก็ถือว่าเร็วตามที่ต้องการ
ภายในงานเลี้ยงเปิดตัวช็อกโกแลตคนที่ทำหน้าที่แทนราเชนทร์ดูแลแขกในงานและเก็บข้อมูลความคิดเห็น ข้อเสนอแนะของแขกที่มาร่วมงานนั้นก็คือ ธันวา ราชณกิจ ชายหนุ่มวัยสามสิบปี ลูกน้องคนสนิทและเป็นมือขวาของราเชนทร์ เขาเติบโตมาในไร่แห่งนี้เป็นทั้งเพื่อน คนสนิทและยังเป็นพี่เลี้ยงของเฌอรินทร์ด้วยเช่นกัน
" นายหัวยังไม่กลับมาอีกเหรอ คุณธัน " เสียงห้วนๆของชายหนุ่มในชุดพนักงานเอ่ยถามขึ้นพลางยื่นแบบสอบถามที่แขกเขียนมาให้
" ส่งข้อความมาบอกว่ามีงานด่วนที่กรุงเทพ ให้พวกเราจัดการที่นี่ให้เรียบร้อย "
" อ่า!! ได้ๆงั้นก็ส่งแขกเลยนะ "
ธันวาพยักหน้าให้เล็กน้อย เขาเริ่มรู้สึกตะหงิดขึ้นมาหน่อยๆ งานด่วนของราเชนทร์คืออะไรกัน ทุกครั้งต้องเป็นเขาสิที่ต้องตามติดไปด้วยแต่ครั้งนี้อีกฝ่ายกลับไม่บอกอะไรสักอย่าง ก่อนหน้าที่ออกไปจากงานหลังประกาศเปิดก็ดูมีลับลมคมในแปลกๆไหนจะไอ้พวกชายฉกรรจ์ที่มายืนส่งซิกนั้นก็ด้วย
และในที่สุดรถ SUV สีดำก็มาถึงกรุงเทพมหานครจนได้ ตอนนี้เป็นเวลา ตี 2 : 30 แล้ว ตรงตามที่ราเชนทร์คาดการณ์เอาไว้แบบพอดีแต่พวกเขายังไม่ถึงจุดหมายที่แท้จริงต้องเดินทางไปอีก 2 กิโล มุ่งหน้าตรงไปยังมหาวิทยาลัยที่เฌอรินทร์เรียนอยู่
หน้าหอพักนักศึกษาที่อยู่ด้านนอกของมหาหวิทยาลัย เป็นตึกแถวจำนวนสี่ชั้นเรียงเป็นแถวแนวยาว พื้นที่จอดรถกว้างขวางและเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ รถ SUV สีดำค่อยๆขับเข้ามาอย่างช้าๆ ที่ความปลอดภัยเป็นศูนย์ไม่มีแม้แต่ยามที่เฝ้าหน้าประตูทำให้พวกเขาเข้ามาได้อย่างง่ายดาย
" นายหัวมาถึงแล้วเหรอครับ " เสียงทุ้มติดสำเนียงใต้ของชายหนุ่มคนหนึ่งดังขึ้นทันทีที่ประตูรถเปิดออก
พวกเขาคือชายฉกรรจ์สามคนที่ราเชนทร์ส่งมาก่อนหน้าเพื่อมาตามสอดส่องว่าเฌอรินทร์พักอยู่ที่ไหนกับใครรึเปล่า เมื่อแน่ใจแล้วถึงรายงานบอกและพวกเขาก็จะเป็นกลุ่มคนที่ต้องขับรถกลับ ส่วนอีกสามคนที่มาด้วยกันก็ให้นั่งเครื่องบินกลับไปหลังจากขับรถล้ามานาน
" พวกมึงกลับไปได้แล้ว...แล้วก็อย่่าพูดเรื่องนี้ให้ใครฟังเด็ดขาดโดยเฉพาะไอ้ธันวา! "
" ครับนายหัว " เสียงทุ้มของทั้งสามตอบกลับอย่างพร้อมเพรียงพลางยื่นมือไปรับตั๋วเครื่องบินสามใบจากเจ้านายหนุ่ม
ความเงียบสงัดเข้าครอบงำอีกครั้ง ตอนนี้เป็นเวลาตี 3 กว่าๆแล้ว ทำให้ได้ยินเสียงนกและเสียงจิ้งหรีดเรไรที่อยู่ตามพุ่มไม้เริ่มส่งเสียงกันระงม ชายฉกรรจ์ทั้งสามชี้เป้าหมายของห้องเฌอรินทร์ให้เจ้านายหนุ่มได้ทราบก่อนที่พวกเขาจะขึ้นไปสตาร์ทรถรอเอาไว้เตรียมพร้อมออกไปจากที่นี่ทันทีเมื่อได้ตัวของหญิงสาว
ราเชนทร์มุ่งหน้าขึ้น ไปยังชั้นสองของตึกแรกทันที และด้วยความที่เขาใส่รองเท้าผ้าใบทำให้เหยียบกระชับกับพื้นปูนได้อย่างดีไม่ทำให้เกิดเสียงดังอย่างแน่นอน ดวงตาคมกริบมองไล่เลขหน้าห้องไปเรื่อยๆจนไปหยุดอยู่ที่ห้องหมายเลข 200 และโชคดีที่มันเป็นห้องริมทำให้ชายหนุ่มปืนข้ามบันไดหนีไฟเข้ามาทางระเบียงห้องของเธอได้อย่างง่ายๆบวกกับความสูงถึง 185 เซนของเขาง่ายมากกับการข้ามไปยังระเบียง
แกร๊ก!
เสียงปลดกระจกบานเลื่อนดังขึ้นแผ่ว มือหนาค่อยๆเลื่อนมันออกอย่างช้าๆ ความเย็นของเครื่องปรับอากาศสัมผัสเนื้อผิวที่โผล่พ้นเสื้อเชิ้ตแขนยาวของเขาทันทีที่ก้าวเข้าสู่ห้องนอนของเธอ
ราเชนทร์หลับตาลงอยู่ครู่หนึ่งเพื่อให้ดวงตาคมกริบของเขาชินกับความมืดภายในห้องนอนแม้ว่าจะมีแสงจันทร์ช่วยแต่มันก็ไม่ได้สว่างขนาดนั้น มือหนาถลกแขนเสื้อเชิ้ตขึ้นทั้งสองข้างอย่างลวกๆ เดินย่องตรงไปหาหญิงสาวที่กำลังหลับใหลจมอยู่ในห้วงแห่งความฝัน
ขาแกร่งอยู่ยืนอยู่ที่ข้างเตียงขนาดพอดี ใบหน้าสวยที่หลับตาพริ้มชวนมองของเธอนั้น ทำให้หัวใจแกร่งดั่งหินผาเกิดการสั่นคลอน ห้าปีแล้วสินะ ที่ไม่ได้เจอกัน เธอยังคงสวยงามไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิด เขามองเธออย่างเผลอไผลจน
" อื้อ~ "
ชายหนุ่มรีบชักมือกลับทันทีที่หญิงสาวขยับตัว เหมือนเธอจะเริ่มรู้สึกว่าตัวเองถูกรบกวน เมื่อก้านนิ้วยาวของเขาจับสัมผัสที่เส้นผมสีดำที่มันปรกลงมาปิดดวงตา และสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น
เมื่อจู่ๆเฌอรินทร์ก็ตื่นขึ้น ภาพที่เธอเห็นคือมีชายร่างใหญ่ที่ถูกแสงจันทร์สะท้อนกำลังยื่นอยู่ข้างเตียง หญิงสาวเกิดอาการผวาพยายามขยับตัวถอยหนีแต่เขากลับว่องไวกว่าเธอ
" อื้อ!!!! "
ราเชนทร์กระโดดขึ้นเตียงคร่อมร่างของคนตัวเล็กเอาไว้ มือหนาข้างหนึ่งรวบมือเรียวสองทั้งสองข้างของเธอล็อกไว้เหนือศีรษะส่วนมืออีกข้างก็ปิดปากหญิงสาวไม่ให้ส่งเสียงร้องออกมา เฌอรินทร์หวาดกลัวสุดขีดร่างกายของเธอเกร็งไปทุกส่วนพยายามดีดดิ้นเต็มแรงแต่ก็ไม่ได้ผล ดวงตาพร่ามัวที่เอ่อล้นไปด้วยหยาดน้ำตาก่อนที่สติของเธอจะวูบดับไป
เฮือก!!เฌอรินทร์สะดุ้งอย่างแรงราวกับเธอฝันว่าจมน้ำ เสียงหอบหายใจดังขึ้นพร้อมกับพยายามตั้งสติของตัวเอง ดวงตาคู่สวยมองไปรอบๆห้องที่เปลี่ยนไป ก่อนจะพบว่ามันคือห้องนอนส่วนตัวของตนเองที่ประดับประดาเต็มไปด้วยตุ๊กตาตัวเล็ก ตัวใหญ่ ของทุกชิ้นยังอยู่ในสภาพเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ไม่มีแม้แต่ไรฝุ่นสักนิดอย่างกับว่ามีคนเข้ามาทำความสะอาดห้องให้เธออยู่ตลอดเวลา ' ไร่อันดารัน ' เธอพึมพำเสียงแผ่ว ค่อยๆยันกายลุกขึ้นนั่งบนเตียงสีชมพูพาสเทล ก่อนจะสังเกตเห็นว่าข้อมือทั้งสองข้างของตนเอง มีรอยแดงเป็นทางราวกับถูกเชือกรัด เหตุการณ์เมื่อคืนมันแวบเข้ามาในห้วงความทรงจำของเธอ ชายคนนั้นที่กำลังนั่งคร่อมบนตัวเธออยู่ นัยน์ตาคมกริบที่จ้องมองมา มันเต็มไปด้วยความอาฆาตราวกับโกรธกันมาหลายพันปีแต่กลิ่นกายความดุดันของเขา เธอคุ้นเหลือเกิน แต่การที่เธอกลับมายังบ้านเกิดได้ เขาคนนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจาก........ปึง!เฌอรินทร์สะดุ้งโหยงหลุดออกจากภวังค์ทันทีที่ประตูไม้บานใหญ่กระแทกเข้ากับผนังกำแพงสีขาวอย่างแรง คนตัวเล็กหันขวับไปมองสิ่งนั้นพลางยันกายลุกขึ้นจากเตียง สิ่งที่อยู่ด้านในของเธอเอาแต่พร่ำบอกว่าเขาคนนี้ไม่น่าไว้ใจอีกต่
ช่วงเย็นของวัน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้า คำพูดของราเชนทร์มันยังคงวนเวียนในหัวของเธอ เฌอรินทร์ต้องทำอะไรสักอย่าง หาอะไรทำไปเรื่อยๆเพิ่มไม่ให้คิดฟุ้งซ่าน แต่สีหน้าและแววตาที่เจ้าเล่ห์ของเขา คิดดีไม่ได้เลย คนอย่างเขาน่ะ....ทำได้ทุกอย่างอยู่แล้ว" หนูเฌอ! " เสียงแหบของหญิงชราดังขึ้นแผ่วจากทางด้านหลัง แต่เสียงแค่นั้นมันก็ทำให้คนที่อยู่ในห่วงภวังค์สะดุ้งโหยง " ค่า~ ยายสร้อย " เฌอรินทร์ตอบรับหญิงชราด้วยน้ำเสียงที่สดใส เธอที่กำลังปลูกดอกไม้อยู่ รีบยันกายลุกขึ้นจากพื้นเดินเข้ามาพยุงอีกฝ่ายทันทีด้วยความระวัง เพราะหญิงชราก็แก่มากแล้ว " ปิดเทอมเหรอ? ถึงกลับบ้าน " มือหยาบกร้านบีบมือเรียวของหญิงสาวเอาไว้แน่นเพื่อประคองตัว ก่อนจะค่อยๆหย่อนสะโพกลงนั่งเก้าอี้ที่หญิงชราเอ่ยถามออกมาเพราะเฌอรินทร์ไม่ค่อยกลับมาบ้านสักเท่าไร ตั้งแต่พ่อและแม่ของราเชนทร์ออกเดินทางไปเที่ยวยุโรป หญิงสาวก็แทบไม่อยากกลับบ้าน แม้ว่าคนตัวเล็กจะเป็นหลานสาวของลุงสมานแต่ก็ไม่มีความรู้สึกสนิทสนมกันมากขนาดนั้น แต่เธอกลับสนิทกับแม่ของชายหนุ่มมากกว่าเสียอีก ไม่อย่างนั้นจะได้ขึ้นมาอยู่บนเรือนใหญ่เหรอ" ค่ะ! เทอมใหญ่ 3 เดือนเลย " "
อาหารเย็นของวันนั้น ทั้งห้องอาหารเงียบกริบไร้เสียงสนทนาของคนที่ร่วมโต๊ะ แม้ว่าอาหารมื้อนี้นายหัวราเชนทร์จะเป็นคนลงมือทำเพราะอยากง้อหญิงสาวที่นั่งฝั่งตรงข้าม แต่ทว่าเธอกลับไม่ยอมทานอาหารที่เขาตักใส่จานมาให้เลย เลือกทานแต่ของที่ตัวเองตักเพียงเท่านั้นแต่ก็ยังถือว่ายอมทานฝีมือของเขาบนระเบียงชั้นสองของบ้านไม้หลังใหญ่ใจกลางไร่โกโก้ เจ้าของห้องในชุดคลุมอาบน้ำ กำลังยืนมองพระอาทิตย์ที่กำลังลาลับขอบฟ้า ทอแสงสีทองแดงละมุมไปทั่วไร่อันดารัน เขายืนกอดอกมองเส้นขอบฟ้าด้วยแววตาครุ่นคิด ก่อนจะถอนหายใจเบาๆเมื่อนึกถึงคำพูดของหญิงสาว" เฮ้อ~ เพราะปากหมาๆของมึงแท้ๆ ไอ้เชนทร์ " เขาสบถออกมาพลางหยิบบุหรี่ยี่ห้อดังขึ้นมาหนึ่งม้วน ก่อนจะคว้าไฟแช็กซิปโป้รุ่นหายากแบรนด์แท้จากอเมริกาที่วางอยู่คู่กับซองบุหรี่นั้นขึ้นมา จุดมันและสูดสารนิโคตินเข้าไปเต็มปอดก่อนจะพ่นควันขาวฟุ้งลอยไปกับสายลมแต่ในระหว่างที่กำลังเครียด นัยน์ตาคมของเขาก็พลันเหลือบไปเห็นสาวน้อยน่ารักที่อยู่ในชุดนอนผ้าซาตินเดรสสายเดี่ยวสีดำกำลังเดินออกมารดน้ำดอกไม้ที่ปลูกเอาไว้พลางคุยโทรศัพท์กับใครบางคนที่สนามหญ้า แต่สิ่งที่ดึงดูดดูเหมือนจะเป็นหน้าอกหน้า
ในคร่าแรกก็นอนตัวเกร็งราวกับเป็นหุ่นยนต์ แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นนายหัวราเชนทร์เสียเองที่เป็นเกร็งแทบจะไม่กล้าขยับ ได้แต่นอนอมยิ้มมองใบหน้าสวยของเธอผ่านความมืด เสียงลมหายใจที่แผ่วเบาและคงที่กับใบหน้าเคลิ้มทำให้เขาแทบไม่กล้าขยับ ไม่ใช่เพราะกลัวว่าเฌอรินทร์จะตื่นแต่เขากลัวว่าน้องราเชนทร์ต่างหากละที่จะตื่นเพราะตอนนี้ขาเรียวยาวขาวๆที่แสนเย้ายวนพาดทับน้องชายเอาไว้ แถมตอนเวลาที่เธอขยับขากระชับอ้อมกอดเขา ขาเรียวนั้นก็เสียดสีไปมาจนเขาเองถึงกับต้องสูดหายใจลึกๆอย่างตั้งสติไหนจะหน้าอกอึ๋มของเธอที่บดเบียดกับแขนเขาอีกทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ มีหวังได้แตกแน่ๆ.....แขนขาเรียวยาวพาดไปมาราวกับคนข้างกายเป็นเจ้าตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ จากหัวที่เคยอยู่ที่หมอนก็กลายเป็นขึ้นมาอยู่บนตัวของชายหนุ่ม ที่ตอนนี้ยังคงนอนนิ่งแต่เริ่มปรับตัวได้เพราะน้องราเชนทร์เชื่อฟังอย่างดีไม่ตื่นขึ้นมากลางดึก" อื้อ~ " เธอคลายอ้อมกอดจากเขาให้เป็นอิสระ พลิกนอนตะแคงข้างคว้าตุ๊กตาหมีที่อยู่ชิดติดผนังเข้ามากอดเอาไว้แน่น เธอหลับลึกมากจนไม่รู้สึก ว่าคนที่นอนร่วมเตียงกำลังโอบรัดเธอจากทางด้านหลังเอาไว้แน่น แน่นมาก! จนจะรวมร่างกันอยู่แล้ว.......ครืด
" ที่พี่บอกว่าให้เฌอเป็นเด็กดี แล้วจะได้ไม่ต้องคืนเงิน...ถ้าไม่ได้ให้ขายตัวใช้หนี้ งั้นพี่กำลังจะบอกว่าให้เฌอเป็นนางบำเรอแทนเหรอ...ใช่ป้ะ " คำถามของเธอทำเอาคนตั้งใจฟังเถอะกับยกยิ้มมุมปาก น้ำเสียงของเฌอรินทร์ไม่ได้ดูโกรธหรือจริงจังกับสิ่งที่ถามออกมา แต่สีหน้าใสซื่อไร้เดียงสาของเธอนั้นทำให้เขาถึงกับหลุดขำ " นางบำเรอ!? รู้จักคำนี้ด้วยเหรอไง " " ในหนังก็เคยดู...นิยายก็เคยอ่าน " เธอตอบพลางก้มหน้าตักข้าวต้มใส่ปากเคี้ยวอย่างอร่อย" อ่า~ แล้วรู้ไหม....หน้าที่ของนางบำเรอคืออะไร " เขาถามหยั่งเชิงออกไปเพราะเฌอรินทร์เป็นเด็กน่ารักมาตั้งแต่เด็ก เธอมักจะหมกตัวอยู่กับหนังสือมากกว่าหนัง ละครและนิยาย เขาเลยอยากรู้ว่าเธอรู้จักคำนี้ดีแค่ไหน" รู้สิ! เฌอไม่ได้ใสขนาดนั้นนะ " ดวงตาคู่สวยเป็นประกายจ้องมองหน้าเขาอย่างไม่กะพริบในตอนที่ตอบคำถาม แถมน้ำเสียงก็ยังหนักแน่นและดูจริงจัง " จริงๆถ้าพี่อยาก~ ก็ไม่เห็นต้องใช้เรื่องคุณลุงมาอ้าง หาเรื่องทำร้ายจิตใจกันเลย....ยังไงเราสองคนก็เป็นคู่หมั้นกันแล้ว ได้กันก่อนแต่งก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรจริงไหม " เธอต่างจากเมื่อวานมาก! เหมือนปลงความคิดไตร่ตรองมาดีแล้ว และดูเหมือน
10:30 น.ณ.ไร่อันดารันหลังจากที่ไปส่งเพื่อนที่ตัวเมือง เขาก็แวะไปซื้อร้านอาหารเจ้าดังของจังหวัด ซื้อของโปรดมากมายกลับมาเต็มไม้เต็มมือมีทั้งของตัวเอง ของเฌอรินทร์และไม่ลืมของโปรดของธันวาด้วย ถึงแม้เมื่อเช้าจะหงุดหงิดนิดหน่อยที่คนน้องไม่เชื่อฟัง แต่พอรู้ว่าเธอเอาซื้อคลุมติดไปด้วยเขาก็สบายใจ เขาไม่ได้หวงและไม่เคยห้ามให้เฌอรินทร์แต่งตัวเซ็กซี่ เขาแค่ห่วงกลัวว่าออกไปทำงานในไร่หรือในสวนแล้วมันจะร้อน กลัวผิวขาวๆของน้องจะเสียหมด" โอ้! นายหัว...มาครับเดี๋ยวผมช่วย " เพียงแค่ราเชนทร์เปิดประตูท้ายรถ คนสวนที่กำลังรดน้ำต้นไม้ก็รีบทิ้งสายยางแล้วเข้ามาหาทันที ถุงมากมายเต็มท้ายไปหมด เขาค่อยๆหยิบถุงใส่กล่องอาหารขึ้นมายื่นให้กับคนสวนได้ช่วยถือก่อนจะเอื้อมมือไปกดสวิตช์ให้ประตูท้ายปิดลงอย่างอัตโนมัติ" วางตรงนี้แหละ! ส่วนถุงนี้ฉันซื้อมาฝาก " เขาพลางเดินเข้ามายืนข้างๆ วางถุงที่ถืออยู่ลงบนโต๊ะอาหารก่อนจะยื่นถุงใบใหญ่ที่แยกไว้ให้คนสวน ภายในถุงนั้นบรรจุกล่องอาหารสามถึงสี่กล่อง " กลับไปกินข้าวเที่ยงกับครอบครัวนะ " " ขอบคุณครับนายหัว...งั้นเดี๋ยวผมรดน้ำต้นไม้รอบบ้านเสร็จแล้ว ขอตัวกลับเลยนะครับ " เขารับถุง
กว่าจะเคลียร์กับลูกค้าแต่ละรายได้สำเร็จ คนยื่นข้อเสนอถึงกับท้อ เสียงถอนหายใจดังขึ้นอย่างโล่งอก เมื่อเธอสามารถต่อรองกับลูกค้ารายสุดท้ายได้สำเร็จ แม้ว่าจะเป็นคู่ค้ากันมานานแต่ทว่าคนที่ยื่นข้อเสนอไม่ใช่ราเชนทร์เจ้าของไร่อันดารันแต่กลับเป็นเพียงแค่หญิงสาวอายุยี่สิบปีทำให้ลูกค้ารายนี้อิดออดอยู่พักใหญ่กว่าเฌอรินทร์จะตะล่อมได้ก็นานเอาเรื่อง" เป็นยังไงบ้างเฌอ!? " เสียงทุ้มอ่อนโยนของธันวาที่ดังขึ้นจากทางด้านหลัง ทำให้เฌอรินทร์ตกใจเล็กน้อยเพราะที่ที่เธอยืนอยู่เป็นด้านหลังของโรงงานเงียบและไม่มีผู้คน เธอหันมามองเขาพร้อมกับรอยยิ้มเล็กๆที่ปรากฏขึ้นใบหน้าพลางพยักหน้าเบาๆเป็นการตอบรับ" ก็เหลือแค่ภาวนาให้เครื่องจักรกลับมาทำงานโดยเร็ว " " ใช่ค่ะพี่ธัน! เฌอขอตัวเข้าไปหาพี่เชนทร์ก่อนนะคะ " ธันวา ราชณกิจส่งยิ้มให้กับหญิงสาวรุ่นน้อง มองเธอจนหายลับกลับเข้าไปในตัวอาคาร ตั้งแต่เฌอรินทร์กลับมา เขารู้สึกว่าเธอจะไม่ค่อยอยากอยู่กับเขาสองต่อสองสักเท่าไร ขนาดตอนมาเข้าไร่เฌอรินทร์ก็เรียกคนงานคนขึ้นรถมาด้วยกันราวกับรังเกียจกัน" ขอโทษนะพี่ธัน~ เฌอรู้สึกกับพี่แค่พี่น้องจริงๆ " เฌอรินทร์ที่แอบอยู่ด้านหลังประตูโรง
ร่างแกร่งบดเบียดเข้ามาจนเธอแทบจะจมฝังเข้าไปในกำแพงสีขาวที่เย็นเฉียบ ราเชนทร์ยังคงมอบจูบที่แสนเร่าร้อน ดูดดุนลงมาอย่างหนักหน่วง ลมหายใจของเขาและเธอดูรุนแรงมากขึ้นอีกครั้ง เหมือนอารมณ์ที่พุ่งขึ้นจบแทบจะร้อนเป็นไฟ เขาดูกระหายและดุดันมาก จนเฌอรินทร์เริ่มรู้สึกรับสัมผัสจูบนั้น ตอบรับเขาแทบไม่ทัน......เสียงถอนจูบที่ดูรุนแรงดังเล็ดลอดเข้ามาในโสตประสาทพร้อมกับเสียงลมหายใจที่หอบถี่ของหญิงสาว ที่กำลังพยายามรวบรวมออกซิเจนกลับเข้าปอดก่อนจะตวัดสายตาของชายหนุ่มเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆจากเขา " พี่แกล้งเฌอ อ๊ะ~ " เธอสะดุ้งเล็กน้อย หลุบมองต่ำไปยังมือของเธอ เขากำลังบังคับให้มือเรียวจับสัมผัสท่อนเอ็นใหญ่ที่กำลังผงาดเต็มตัวอยู่ภายใต้ผ้าขนหนูผืนนั้น " รางวัลของเฌอเหรอ " ดวงตาคู่สวยใสซื่อยั่วยวนมองใบหน้าหล่อที่เหยเกของเขา ยิ่งเธอแกล้งบีบขยำเบาๆผ่านผ้าขนหนู เขาก็ยิ่งสูดปาก ครางเร่าด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ " ซี้ด~ ใช่! พี่อนุญาตให้เฌอทำอะไรก็ได้กับรางวัลนี้ " เขาตอบเสียงตะกุกตะกัก นัยน์ตาคมฉ่ำเยิ้มหลุบมองมือเรียวนุ่มที่หายเข้าไปในผ้าขนหนูผืนนั้น สัมผัสจากมือเรียวที่เย็นเฉียบสร้างความรู้สึกวาบหวามให้เขาเป
และแล้ววันนี้ก็มาถึง ตลอดระยะเวลาสามปีที่ผ่านมา ชีวิตของราเชนทร์และเฌอรินทร์อบอวลไปด้วยความรักและความอบอุ่น ไม่เพียงแค่ความสัมพันธ์ที่เติบโตอย่างมั่นคง แต่ทั้งสองยังประสบความสำเร็จในเส้นทางของตัวเอง เฌอรินทร์ก้าวไปถึงเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ ขณะที่ธุรกิจของราเชนทร์ก็เติบโตมั่นคงมากขึ้น และวันนี้พวกเขาก็พร้อมแล้วที่จะก้าวเข้าสู่บทใหม่ของชีวิต บทเรียนของการใช้ชีวิตคู่ณ.ไร่อันดารันแสงแดดยามเช้าทอประกายสีทองอ่อนโยนเหนือผืนหญ้าเขียวขจี สายลมแผ่วเบาพัดโชยหอบกลิ่นหอมละมุนของมวลดอกไม้ที่เฌอรินทร์เฝ้าทะนุถนอมปลูกด้วยสองมือ บัดนี้ พวกมันได้ถูกนำมาจัดแต่งอย่างประณีต เพิ่มเสน่ห์ให้บรรยากาศอบอวลไปด้วยความโรแมนติกซุ้มพิธีอันโอ่อ่าถูกประดับด้วยผ้าขาวบางพลิ้วไหวต้องสายลม แซมด้วยดอกไม้สีอ่อนโทนหวานอย่างลงตัว ตั้งตระหง่านอยู่กลางสนามหญ้าหน้าบ้านหลังใหญ่ ทอดเงาอยู่ใต้แนวทิวไม้สูงที่ให้ความร่มรื่น กลายเป็นฉากหลังอันสมบูรณ์แบบสำหรับช่วงเวลาสำคัญของเธอและเขาทางเดินสีขาวทอดยาวไปยังแท่นพิธี สองข้างทางนั้นถูกตกแต่งแต้มด้วยดอกกุหลาบสีขาวบริสุทธิ์สลับกับดอกไม้สีครีมและสีเขียวจากใบไม้ เทียนขาวในเชิงแก้วคริสตัลตั้
ณ.ไร่อันดารันLamborghini Huracán STO รถซูเปอร์คาร์สุดหรูสีดำทมิฬที่มาพร้อมดีไซน์สปอร์ตโฉบเฉี่ยว ถูกนำออกมาจากโรงรถกระจกเพราะในค่ำคืนนี้เป็นคืนที่แสนวิเศษ ราเชนทร์ อัครเทวา ยิ้มกว้างด้วยความพึงพอใจ เขาบรรจงเช็ดทำความสะอาดตัวรถอย่างพิถีพิถัน แม้ว่าจะไม่มีฝุ่นเกาะเลยสักนิดก็ตาม" เชนทร์! เมื่อวานเข้าบริษัทเป็นยังไงบ้างลูก เจอน้องหญิงไหม " เสียงหญิงวัยกลางคนดังขึ้นจากทางด้านหลัง เธอมาพร้อมกับจานขนมเค้กที่เฌอรินทร์พึ่งทำเสร็จเมื่อครู่ " ที่บริษัทก็เรียบร้อยดีครับ ส่วนเรื่องน้องหญิงผมก็ส่งมอบให้ไอ้ธันเรียบร้อย " " ธันวานี้ยังไง! ไม่ยอมรับรักน้องสักที " " อยู่ใกล้กันขนาดนี้ เดี๋ยวมันก็ใจอ่อนเองแหละแม่ " เขาตอบยิ้มๆ ให้มาริสา ก่อนจะหยิบช้อนซ้อมตักเค้กใส่ปาก แล้วหันกลับไปสนใจซูเปอร์คาร์สุดหรูของตัวเองอีกครั้ง หญิงวัยกลางคนถอนหายใจ ส่ายหัวเล็กน้อยกับคำพูดของเจ้าลูกชาย แต่ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา เมื่อเห็นราเชนทร์มีความสุขกับรถคันโปรดของตัวเอง ที่ได้มันมาจากความเก่งและน้ำพักน้ำแล้งของตน " คุณหญิงคะ " สาวใช้เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสุภาพ พลางก้าวเข้ามาอย่างสำรวม " คุณวา เจ้าของร้านตัดเสื้อมาถึ
13:30 น.ณ.คอนโด Xxรถตู้คันหรูสีดำสนิทอย่าง Toyota Alphard แล่นเข้ามาภายในคอนโดสุดหรูใจกลางเมือง บริเวณโดยรอบล้อมเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่และการจัดสวนที่สวยงามให้ความร่มรื่นมองไปทางไหนก็สบายตา แถมที่นี่ระบบความปลอดภัยก็ดีเยี่ยมต่างจากหอพักเก่าๆข้างมหาวิทยาลัยที่เฌอรินทร์เคยพักอยู่" ระวังกันด้วย! เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นมันแพงนะเว้ย! อย่าให้มีร่องรอย " " ครับพี่ธัน....ระวังสุดๆ " ยอดประชดประชันขึ้นมาเมื่อเห็นไอ้หน้าหล่ออายุห่างกันแค่สองเดือนยืนเท้าเอวสั่งพวกเขาราวกับเจ้านาย แค่นายหัวให้มันเลื่อนขั้นจากลูกน้องคนสนิทมือขวาขึ้นเป็นรองประธานกรรมการบริษัท อันดารัน กรุ๊ป มันก็เอาใหญ่ ขนาดช่วยยกกระถางดอกไม้มันก็ยังไม่ยอมมาช่วย " อ่า~ ประชดเก่งจังนะมึง เดี๋ยวกูไล่ออกแม่ง " " โอ๊ยๆ ท่านรองประธานใช้อำนาจกดขี่ ฮ่า ฮ่า.... ทำอย่างกับว่าพวกกูจะกลัว " ชายฉกรรจ์เกือบสิบคนต่างพากันหัวเราะร่าอย่างชอบใจ เมื่อยอดสวนกลับธันวาอย่างไม่เกรงกลัว เพราะพวกเขาทำงานมาด้วยกันหลายปี แค่อ้าปากก็รู้ว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร เวลาทำงานก็เคารพกันตามตำแหน่งหน้าที่ หลังจากเลิกงานก็พากันไปสังสรรค์ เมาหัวราน้ำ แบก หามกันกลับบ้านอย
ข่าวจากยอดที่บอกว่า สมานตายแล้ว สร้างความมึนงง สับสนให้แก่ทุกคนที่ยืนอยู่หน้าห้องฉุกเฉินเป็นอย่างมาก ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา เจกับน้ำฝนจะเห็นสีหน้าที่เคร่งเครียดของเฌอรินทร์อยู่หลายครั้งเลยพอจะทราบเรื่องของลุงสมานอยู่บ้าง แต่ช่วงที่รู้ว่าเพื่อนกลับบ้าน พวกเธอก็โล่งใจขึ้นมาเพราะคิดว่าลุงกับหลานน่าได้เจอกันแล้วแต่ผิดมหันต์" สาเหตุการตายล่ะ!? แล้วเจอที่ไหน? พวกเราตามหากันมาตั้งหลายเดือนทำไมไม่เจอ " ธันวายิงคำถามรัวๆใส่ชายหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกัน สีหน้าตื่นตระหนกมากกว่าใครเพราะเขาเองก็แทบไม่รู้อะไรเลย" ในข่าวบอกว่าผูกคอ! ฆ่าตัวตาย อยู่ทางภาคเหนือ " น้ำเสียงของยอดแม้เรียบเฉยแต่ก็แฝงไปด้วยความไม่มั่นใจและยังไม่อยากเชื่อเช่นกัน" ฆ่าตัวตายเหรอคะ....หมายถึงพึ่งตายเหรอ! ถึงพึ่งได้เจอศพ " น้ำฝนเอ่ยขึ้นเป็นคำถามที่ตรงใจชายหนุ่มรุ่นพี่ทั้งสองเป็นอย่างมาก คำถามนี้จะนำพาไปไขช่วงเวลาการหายตัวไปของสมานได้เป็นอย่างดี" ก็ไม่รู้เหมือนกัน! ตอนที่พี่กำลังรอให้ปากคำกับตำรวจ โทรทัศน์ก็กำลังอ่านข่าวพอดี ชื่อ นามสกุล มันใช่ลุงสมาน " " งั้นคงรอไม่นานหรอกครับ! ผูกคอ! ร่างกายก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็พิสูจน
โชคดีที่จุดเกิดเหตุ เป็นจุดที่ห่างใกล้จากส่วนของรีสอร์ต เพราะก่อนหน้านั้น เฌอรินทร์ น้ำฝนและเจ อยากจะเดินเล่นเลียบหาดไปเรื่อยๆเพื่อฆ่าเวลา เนื่องจากพวกเธอไม่อยากไปช่วยทำอาหาร อยากไปถึงแล้วได้กินเลย แต่ใครมันจะไปคิดว่าระหว่างที่กลับนั้น จะมีไอ้พวกบ้าหื่นกามมันเข้ามาหาเรื่อง และแน่นอนว่าโคตรพลาด!!"โอ๊ย!!!!" ชายหนุ่มร่างใหญ่ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ขณะที่มือของเขากำลังกุมใบหูที่โดนกัดไว้ เขาสะบัดตัวแรงเพื่อให้คนด้านหลังหลุดออกจากการยึดตัว แต่ความโกรธที่พุ่งขึ้นทำให้เขาหันขวับไปยังคนที่ทำให้เขาเจ็บปวด"อีบ้า!! " เขาตะโกนเสียงดัง กำมือแน่นและยกมันขึ้น เตรียมตบเข้าใบหน้าของน้ำฝนที่ยืนอยู่ไม่ห่าง แต่ในขณะที่มือของเขากำลังจะพุ่งไปถึง ท่อนไม้ขนาดใหญ่ก็ฟาดลงอย่างจัง ทำให้ชายร่างใหญ่เซถลาถอยหลังและในจังหวะที่เขากำลังเสียสมดุล ผลัวะ!!เฌอรินทร์ก็ได้ทำการหวดเข้าไปที่ศีรษะของชายฉกรรจ์คนนั้นอย่างแรง ส่งผลให้ร่างใหญ่ล้มลงอย่างทันที ตามมาด้วยสีแดงสดที่ไหลออกมาเป็นสาย ดวงตาคู่สวยของทั้งสองคนเบิกกว้างด้วยความตกใจ แต่ ณ.เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมายืนอึ้ง เพราะด้านหลังของพวกเธอ" เฌอ ฝน ระวัง!!! " สองสาวผล
เสียงคลื่นกระทบกับโขดหินดังขึ้นเบา ๆ สร้างความสงบในบรรยากาศยามเย็นของท้องทะเลอันกว้างใหญ่ ท้องฟ้าค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีส้มอมชมพู ขณะที่แสงสุดท้ายของวันเริ่มสะท้อนลงบนผืนน้ำ มองไกลไปจนถึงเส้นขอบฟ้า ท่ามกลางเสียงลมพัดและความเงียบสงบที่ห้อมล้อมให้บรรยากาศโดยรอบมีแต่ความอบอุ่น" เฌอ! มาเร็ว น้ำกำลังเย็นเลย " " โดดมาเลยเพื่อน " เจและน้ำฝนที่กำลังลอยคออยู่เหนือห่วงยางอันใหญ่สีหวาน โบกไม้โบกมือให้กับเพื่อนสาวที่กำลังเดินออกมาจากบ้านพักพร้อมกับขวดน้ำเปล่า เฌอรินทร์โบกมือให้เพื่อนก่อนจะสวมใส่รองเท้าแตะแล้วรีบวิ่งเข้ามาหา " ถอดเสื้อคลุมแล้ว โดดเลย " " รอแป๊บสิ " เธอตะโกนกลับตอบเพื่อนไป พลางโยนขวดน้ำที่ถือมาลงพื้นหาดใกล้ๆกับรองเท้าและเสื้อคลุมของเพื่อน เฌอรินทร์ค่อยถอดเสื้อคลุมอาบน้ำสีขาวออกเผยให้เห็นเรือนร่างขาวเนียนตัดกับชุดบิกินี่ตัวจิ๋วสีดำ ทำให้เธอดูโดดเด่น ขาวผ่องเป็นอย่างมากท่ามกลางเสียงหัวเราะของทั้งสามสาวที่กำลังเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน นัยน์ตาคมหกคู่ก็จับจ้องพวกเธอไม่วางตา พวกเขายืนสังเกตการณ์ห่างไกล จากบ้านพักของตัวเอง ตามคำสั่งของราเชนทร์ที่ให้คอยดูแลเด็กสาวทั้งสาม แม้ว่าบริเวณที่
หลังจากความวุ่นวายที่เกือบจะส่งของไม่ทัน ทำให้ราเชนทร์เปลี่ยนกฎการใช้เครื่องจักรใหม่ทั้งหมด เขาสั่งให้แบ่งเครื่องจักรเป็นสองชุด ผลัดกันชุดละ 12 ชม. ก็เท่ากับว่าทั้งโรงงานยังคงเดินเครื่อง 24 ชม. ตามปกติแต่แค่ให้เครื่องได้ผลัดกันพักเหมือนเวลาเข้ากะของพนักงานแถมเครื่องจักรทุกตัวจะมีการเปลี่ยนอะไหล่ใหม่ทุกสิ้นเดือนเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเหมือนครั้งที่แล้ว ถ้าสุดวิสัยจริงเกิดพังขึ้นมาอีก ก็ยังมีอะไหล่เก่าสำรองเพื่อไม่ให้เครื่องหยุดทำงาน แน่นิ่งเหมือนครั้งนั้น ที่ต้องวุ่นวายออกไปตามหาซื้ออะไหล่กันนานสองนานและการที่ธันวาถูกโยกย้ายให้ไปตรวจตราในโรงงาน ทำให้หน้าที่ตรวจคัดเมล็ดโกโก้ที่เก็บจากไร่ นำเข้าไปพักที่โกดังต้องตกเป็นหน้าที่ของเฌอรินทร์ ตลอดทั้งวันเฌอรินทร์ต้องวนอยู่สองที่คือในไร่และโกดัง ตั้งแต่ขั้นตอนเก็บเกี่ยว ล้างทำความสะอาดคัดแยกก่อนที่เมล็ดเหล่านั้นจะเข้าโกดังก็ห้ามแล้วนะแต่เธอไม่ยอมจริงๆ เขาพยายามแล้วอยู่หลายอาทิตย์ อุตส่าห์เอาเรื่องอาการปวดของเธอมาอ้างเฌอรินทร์ก็ยังหัวรั้น บอกว่าทำงานหนักๆกลางคืนจะได้ไม่ฝันร้าย " พี่เชนทร์ค่า~ นวดให้หน่อยสิ " เสียงใสออดอ้อนแล้วก็เดินเข้าไปใกล้ๆ
04:00 น.ยามราตรีนี้ยังคงปกคลุมไปด้วยความเงียบสงบ เสียงลมพัดแผ่วเบากระทบกับต้นโกโก้และต้นปาล์มที่อยู่ทั่วไร่อันดารัน พวกมันโอนแอ่นไหวไปตามแรงลมเย็นๆ ทั่วทั้งทางประดับไปด้วยแสงไฟแต่กลับรู้สึกอ้างว้างมากกว่าอบอุ่น เงาของเสาไฟทอดยามไปตามพื้นลูกรังสีแดง เนินเขาสลับกับพื้นราบเป็นระยะไปตลอดทาง แถมยังมีเสียงจักจั่นสะท้อนก้องขึ้นมาตามพุ่มไม้ " นายหัว!! มาเร็วจังเลยครับ " สำเนียงติดใต้ของชายวัยกลางคนในชุดทำงาน เอ่ยทักทายชายหนุ่มรุ่นลูกที่กำลังก้าวลงมาจากรถ Isuzu D-max สีดำทมิฬพร้อมกับหญิงสาวตัวเล็กอย่างเฌอรินทร์ เธอยกมือขึ้นปิดปากหาวหวอดๆก่อนจะหันมาส่งยิ้มตาฉ่ำเยิ้มให้คนที่เข้ามาทักทาย " เป็นยังไงบ้าง เรียบร้อยไหม "" เสร็จทันเวลาเลยครับนายหัว ตอนนี้กำลังทยอยขนขึ้นรถบรรทุก " เขาตอบอย่างฉะฉานและหนักแน่น ก่อนเดินนำทั้งคู่เข้าไปด้านในเสียงเครื่องจักรภายในโรงงานช็อกโกแลตดังก้องสะท้อนไปทั่วอาคาร เครื่องบด รีด ทำงานหนักอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ถูกเปลี่ยนอะไหล่ใหญ่ ส่งเสียงครืดคราดเป็นจังหวะสอดประสานกับเสียงสายพานลำเลียงที่กำลังขนถ่ายวัตถุดิบไปยังจุดต่างๆ" สวัสดีครับนายหัว " หัวหน้าวิศวะเอ่ยทักทายพ
เขาค่อยๆกดแทรกเจ้าหัวบานๆนั้นเข้ามาอย่างช้าๆ เสียงสูดปากและใบหน้าที่เหยเกของเขาบ่งบอกได้ถึงความอัดแน่น เหงื่อเม็ดเล็กเริ่มซึมออกมาจากข้างขมับ ความเย็นฉ่ำของเครื่องปรับอากาศในห้องก็ไม่สามารถระงับความร้อนกรุ่นของชายหนุ่มได้เลย " เจ็บมาก! พี่เชนทร์~ " เธอว่าพลางรั้งต้นคอแกร่งลงมาบดจูบอย่างเร่าร้อน ใบหน้าสวยเหยเกเพราะความเจ็บ มันตึง คับมาก ทั้งๆที่มีแค่ส่วนหัวเท่านั้นที่เข้ามาได้" เชี่ยเอ๊ย!! " ราเชนทร์สบถออกมาเบาๆข้างใบหูขาวก่อนที่เขาจะผละตัวออกจากเธอ ทำให้ส่วนหัวนั้นที่เข้าไปได้นิดเดียวหลุดออก แต่แล้วสิ่งที่เขาต่อมาทำให้หญิงสาวแทบกรีดร้องจะขาดใจ สวบ! " กรี๊ดดดดด!! พี่เชนทร์ อื้อ~ " คร่าแรกว่าจะเบาๆอ่อนโยนกับเธอ แต่ก็ไม่สามารถทำได้ เธอยั่วเขามาก! จนราเชนทร์ไม่อาจยั้งอารมณ์ได้ สวนท่อนเอ็นใหญ่เข้ามาในช่องทางฉ่ำอย่างแรงจนเขารู้สึกได้ว่าส่วนหัวบานๆนั้นกระแทกโดนเส้นเยื่อบางๆด้านในจนขาดผึง น้ำตาสีใสซึมออกมาจากหางตาคู่สวย มือเรียวจิกเข้าเนื้อแผ่นหลังของคนพี่อย่างแรงแม้เขาจะมอบจูบที่แสนหวานให้กับเธอ ปากหยักพรมจูบซับทั้งหางตาและแก้มทั้งสองเบาๆอย่างอ่อนโยนราวกับกำลังปลอบใจและขอโทษในสิ่งที่เขา