เฮือก!!
เฌอรินทร์สะดุ้งอย่างแรงราวกับเธอฝันว่าจมน้ำ เสียงหอบหายใจดังขึ้นพร้อมกับพยายามตั้งสติของตัวเอง ดวงตาคู่สวยมองไปรอบๆห้องที่เปลี่ยนไป ก่อนจะพบว่ามันคือห้องนอนส่วนตัวของตนเองที่ประดับประดาเต็มไปด้วยตุ๊กตาตัวเล็ก ตัวใหญ่ ของทุกชิ้นยังอยู่ในสภาพเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ไม่มีแม้แต่ไรฝุ่นสักนิดอย่างกับว่ามีคนเข้ามาทำความสะอาดห้องให้เธออยู่ตลอดเวลา
' ไร่อันดารัน '
เธอพึมพำเสียงแผ่ว ค่อยๆยันกายลุกขึ้นนั่งบนเตียงสีชมพูพาสเทล ก่อนจะสังเกตเห็นว่าข้อมือทั้งสองข้างของตนเอง มีรอยแดงเป็นทางราวกับถูกเชือกรัด เหตุการณ์เมื่อคืนมันแวบเข้ามาในห้วงความทรงจำของเธอ ชายคนนั้นที่กำลังนั่งคร่อมบนตัวเธออยู่ นัยน์ตาคมกริบที่จ้องมองมา มันเต็มไปด้วยความอาฆาตราวกับโกรธกันมาหลายพันปีแต่กลิ่นกายความดุดันของเขา เธอคุ้นเหลือเกิน
แต่การที่เธอกลับมายังบ้านเกิดได้ เขาคนนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจาก........
ปึง!
เฌอรินทร์สะดุ้งโหยงหลุดออกจากภวังค์ทันทีที่ประตูไม้บานใหญ่กระแทกเข้ากับผนังกำแพงสีขาวอย่างแรง คนตัวเล็กหันขวับไปมองสิ่งนั้นพลางยันกายลุกขึ้นจากเตียง สิ่งที่อยู่ด้านในของเธอเอาแต่พร่ำบอกว่าเขาคนนี้ไม่น่าไว้ใจอีกต่อไป ขาเรียวทั้งสองเริ่มเดินถอยหลังอย่างอัตโนมัติเมื่อชายร่างสูงขยับเข้ามาใกล้
" ไอ้สมาน! มันอยู่ที่ไหน? " เขาตวาดใส่เธอดังลั่นจนคนตัวเล็กสะดุ้ง นัยน์ตาคมสีน้ำตาลเริ่มดำมืดอย่างเคียดแค้น
" ม..ไม่รู้! " เสียงใสสั่นเครือตอบออกไปอย่างตะกุกตะกัก เธอเริ่มก้าวถอยให้ห่างจากเขาเร็วขึ้นด้วยความหวาดกลัว
พี่ชายที่แสนดีของเฌอรินทร์หายวับไปพริบตาเหลือเพียงคนร่างใหญ่ที่แสนน่ากลัว แววตาที่เคยอ่อนโยนของราเชนทร์กลับกลายเป็นแววตาแห่งความอาฆาตที่พร้อมกระชากร่างเล็กออกมาเป็นเศษเนื้อ
" โกหก! " เขาตวาดใส่เธอเสียงแข็ง เพลิงโทสะร้อนกรุ่นจนหัวแทบระเบิด " บอกมาไอ้สมานมันไปมุดหัวอยู่ที่ไหน "
" ก็บอกว่าไม่รู้ไง " เขาโกรธจนไม่ฟังสิ่งที่เธอพูดด้วยซ้ำ ยิ่งเธอตะคอกกลับเขาก็ยิ่งไม่พอใจ ดวงตาคู่สวยเริ่มมองซ้ายขวาหาทางรอดหรือหาสิ่งของเพื่ออาจใช้ป้องกันตัว " โอ้ย! พี่เชนทร์ เฌอเจ็บนะ "
เขากระชากแขนของเธออย่างแรงจนคนตัวเล็กเซถลาชนเข้าอกแกร่งของเขา ดวงตาคู่สวยถลึงตามองคนบ้าเอาแต่ใจด้วยแววตาแข็งกร้าวไม่แพ้กัน ไม่รู้ลุงของเธอไปทำอะไรให้เขาโกรธได้ขนาดนี้ ถึงกับลักพาตัวเธอออกมาจากหอพักในยามวิกาล
" ฉันถามว่าลุงเธออยู่ไหน "
ราเชนทร์บีบข้อมือของเฌอรินทร์แน่นขึ้นเรื่อยๆ ราวกับต้องการเค้นให้เธอเปิดปากพูดออกมา ความเย็นชาในแววตาของเขาทำให้เธอสั่นไหว แต่เฌอรินทร์ยังคงกัดฟันแน่น ไม่ยอมแพ้แม้ความเจ็บปวดจะแล่นไปทั่วแขน
ดวงตาคู่สวยของเธอฉายแววผิดหวังและเจ็บปวดจนราเชนทร์ชะงัก เขาไม่เคยเห็นสายตาแบบนี้จากเธอมาก่อน สายตาที่ไม่ได้มีแม้แต่ความเจ็บแต่ยังเต็มไปด้วยความน้อยใจและตัดพ้อ แค่แวบเดียวก็ทำให้มือที่กำแน่นของเขาอ่อนแรงลง ก่อนจะยอมปล่อยเธอ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!!
เสียงเคาะประตูทำลายความเงียบสงัดของห้องสี่เหลี่ยม เฌอรินทร์รีบเช็ดน้ำตาออกไปแก้มทั้งสองข้างของเธอ แต่ในระหว่างที่เธอกำลังจะเดินไปเปิดประตู มือหนาของราเชนทร์ก็คว้าเอาไว้สักก่อน ก่อนที่เขาจะเป็นฝ่ายเดินไปเปิดประตูบานนั้น
" มีอะไร? " น้ำเสียงเย็นเฉียบเปล่งออกไปอย่างดุดัน ทำเอาคนฟังถึงกับจับผิดสังเกตได้
" อ้าวนาย! ค...คือผมเอาข้าวต้มมาให้เฌอน่ะครับ " ชายหนุ่มไม่คาดคิดว่าคนที่อยู่ในห้องของหญิงสาวจะเป็นเจ้านายหนุ่ม สีหน้าของราเชนทร์ทำให้ธันวาถือวิสาสะเหลือบมองเข้าไปในห้อง
เงาของเฌอรินทร์สะท้อนเข้ากับกระจกตู้ชั้นวางของ เขาเห็นเธอกำลังยกมือขึ้นเช็ดใบหน้าราวกับกำลังเช็ดคราบน้ำตา ก่อนที่เขาจะดึงสายตากลับมามองเจ้านายหนุ่ม
แต่ยังไม่ทันที่ธันวาจะได้เอ่ยอะไร ถาดข้าวต้มก็ถูกมือหนาของอีกฝ่ายกระชากมา " ฉันเตรียมข้อมูลของงานเกษตรเอาไว้แล้ว แกไปตรวจสอบดูด้วย "
ว่าจบราเชนทร์ก็หมุนตัวเข้าห้องไปในทันที ไม่รอรับฟังคำตอบของธันวาแม้แต่นิดก่อนที่เสียงล็อกประตูห้องจะดังขึ้นตามมา ท่ามกลางความสงสัยและไม่เข้าใจในการกระทำของเจ้านายเลยสักนิด
" กินซะ! ไอ้ธันวามันอุตส่าห์ทำมาให้ " เขาว่าพลางวางถาดข้าวต้มลงบนโต๊ะหนังสือที่อยู่ปลายเตียง
" คุณลักพาตัวฉันมาทำไม " น้ำเสียงเรียบเฉียบไร้ซึ่งอารมณ์เปล่งออกมาอย่างเย็นชาราวกับไม่รู้จักกัน แถมสรรพนามที่เปลี่ยนไปทำให้ชายหนุ่มถึงกับใจหวิว
" พาเธอกลับมาชดใช้ในสิ่งที่ไอ้แก่ ลุงของทำไว้ไง "
เฌอรินทร์ขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างไม่เข้าใจ เธอไม่ได้ติดต่อกับคุณลุงตั้งแต่ได้ทุนไปเรียนมหาวิทยาลัยในกรุงเทพ ไม่สิ! เธอติดต่อไม่ได้เลยต่างหากละ อีกฝ่ายเหมือนตัดขาดกับเธอไปเลยด้วยซ้ำ ไม่มีแม้แต่ส่งข้อความหากัน
" ทำอะไร!? " น้ำเสียงของเธออ่อนลง จ้องมองเข้าไปในดวงตาคมกริบของอีกฝ่ายราวกับกำลังอ่านใจเขา
" รวบเบ็ดเสร็จห้าล้าน! ลุงเธอโกงฉันไปห้าล้าน "
เฌอรินทร์ตกอยู่ในภวังค์อีกครั้งเมื่อได้ยินคำตอบจากชายหนุ่ม เธอแทบจะเป็นลม! ไม่รู้ว่าจะไปหาเงินที่ไหนมาใช้หนี้ ห้าล้าน! ตั้งห้าล้าน ชาตินี้ไม่รู้จะใช้หมดรึเปล่า
" โอเค! ฉันจะหามาใช้ให้ก็แล้วกันนะ " เธอตอบกลับเขาเสียงหนักแน่น แม้ในใจจะยังไม่รู้ว่าจะไปหามาจากที่ไหน
" ฉันไม่ปล่อยเธอออกไปจากไร่หรอกนะเฌอรินทร์! " เขากดเสียงต่ำพลางก้าวเข้ามาใกล้ " ถ้าเธอหนี! ฉันจะทำยังไง ห้าล้านเลยนะ "
" จะบ้ารึไง! คุณจะขังฉันไม่ได้....แล้วฉันจะไปหาเงินที่ไหนมาให้กันล่ะ " คนตัวเล็กเหวี่ยงใส่ เริ่มเกิดอาการหัวเสียอย่างหนัก นี่เขาคิดจะแกล้งเธองั้นเหรอ
" ตอนนี้ฉันเป็นเจ้าชีวิตของเธอแล้วเฌอรินทร์.....หลังจากนี้ก็ทำตามที่ฉันสั่งทุกอย่าง "
แววตาเจ้าเล่ห์เป็นประกายพร้อมกับรอยยิ้มแสยะ เขาเดินเข้าไปประชิดตัวของเธอ ก่อนจะกอดรั้งเอวบางดึงเข้าหาตัวพลางโน้มใบหน้าลงกระซิบข้างใบหูด้วยน้ำเสียงแหบพร่าแถมยังงับที่ติ่งหูของเธอเบาๆอย่างหยอกเย้า
" เป็นเด็กดีของฉัน....เธอจะได้อยู่อย่างสบายเหมือนเดิม ไม่ต้องจ่ายเงินคืนสักบาท "
ช่วงเย็นของวัน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้า คำพูดของราเชนทร์มันยังคงวนเวียนในหัวของเธอ เฌอรินทร์ต้องทำอะไรสักอย่าง หาอะไรทำไปเรื่อยๆเพิ่มไม่ให้คิดฟุ้งซ่าน แต่สีหน้าและแววตาที่เจ้าเล่ห์ของเขา คิดดีไม่ได้เลย คนอย่างเขาน่ะ....ทำได้ทุกอย่างอยู่แล้ว" หนูเฌอ! " เสียงแหบของหญิงชราดังขึ้นแผ่วจากทางด้านหลัง แต่เสียงแค่นั้นมันก็ทำให้คนที่อยู่ในห่วงภวังค์สะดุ้งโหยง " ค่า~ ยายสร้อย " เฌอรินทร์ตอบรับหญิงชราด้วยน้ำเสียงที่สดใส เธอที่กำลังปลูกดอกไม้อยู่ รีบยันกายลุกขึ้นจากพื้นเดินเข้ามาพยุงอีกฝ่ายทันทีด้วยความระวัง เพราะหญิงชราก็แก่มากแล้ว " ปิดเทอมเหรอ? ถึงกลับบ้าน " มือหยาบกร้านบีบมือเรียวของหญิงสาวเอาไว้แน่นเพื่อประคองตัว ก่อนจะค่อยๆหย่อนสะโพกลงนั่งเก้าอี้ที่หญิงชราเอ่ยถามออกมาเพราะเฌอรินทร์ไม่ค่อยกลับมาบ้านสักเท่าไร ตั้งแต่พ่อและแม่ของราเชนทร์ออกเดินทางไปเที่ยวยุโรป หญิงสาวก็แทบไม่อยากกลับบ้าน แม้ว่าคนตัวเล็กจะเป็นหลานสาวของลุงสมานแต่ก็ไม่มีความรู้สึกสนิทสนมกันมากขนาดนั้น แต่เธอกลับสนิทกับแม่ของชายหนุ่มมากกว่าเสียอีก ไม่อย่างนั้นจะได้ขึ้นมาอยู่บนเรือนใหญ่เหรอ" ค่ะ! เทอมใหญ่ 3 เดือนเลย " "
อาหารเย็นของวันนั้น ทั้งห้องอาหารเงียบกริบไร้เสียงสนทนาของคนที่ร่วมโต๊ะ แม้ว่าอาหารมื้อนี้นายหัวราเชนทร์จะเป็นคนลงมือทำเพราะอยากง้อหญิงสาวที่นั่งฝั่งตรงข้าม แต่ทว่าเธอกลับไม่ยอมทานอาหารที่เขาตักใส่จานมาให้เลย เลือกทานแต่ของที่ตัวเองตักเพียงเท่านั้นแต่ก็ยังถือว่ายอมทานฝีมือของเขาบนระเบียงชั้นสองของบ้านไม้หลังใหญ่ใจกลางไร่โกโก้ เจ้าของห้องในชุดคลุมอาบน้ำ กำลังยืนมองพระอาทิตย์ที่กำลังลาลับขอบฟ้า ทอแสงสีทองแดงละมุมไปทั่วไร่อันดารัน เขายืนกอดอกมองเส้นขอบฟ้าด้วยแววตาครุ่นคิด ก่อนจะถอนหายใจเบาๆเมื่อนึกถึงคำพูดของหญิงสาว" เฮ้อ~ เพราะปากหมาๆของมึงแท้ๆ ไอ้เชนทร์ " เขาสบถออกมาพลางหยิบบุหรี่ยี่ห้อดังขึ้นมาหนึ่งม้วน ก่อนจะคว้าไฟแช็กซิปโป้รุ่นหายากแบรนด์แท้จากอเมริกาที่วางอยู่คู่กับซองบุหรี่นั้นขึ้นมา จุดมันและสูดสารนิโคตินเข้าไปเต็มปอดก่อนจะพ่นควันขาวฟุ้งลอยไปกับสายลมแต่ในระหว่างที่กำลังเครียด นัยน์ตาคมของเขาก็พลันเหลือบไปเห็นสาวน้อยน่ารักที่อยู่ในชุดนอนผ้าซาตินเดรสสายเดี่ยวสีดำกำลังเดินออกมารดน้ำดอกไม้ที่ปลูกเอาไว้พลางคุยโทรศัพท์กับใครบางคนที่สนามหญ้า แต่สิ่งที่ดึงดูดดูเหมือนจะเป็นหน้าอกหน้า
ในคร่าแรกก็นอนตัวเกร็งราวกับเป็นหุ่นยนต์ แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นนายหัวราเชนทร์เสียเองที่เป็นเกร็งแทบจะไม่กล้าขยับ ได้แต่นอนอมยิ้มมองใบหน้าสวยของเธอผ่านความมืด เสียงลมหายใจที่แผ่วเบาและคงที่กับใบหน้าเคลิ้มทำให้เขาแทบไม่กล้าขยับ ไม่ใช่เพราะกลัวว่าเฌอรินทร์จะตื่นแต่เขากลัวว่าน้องราเชนทร์ต่างหากละที่จะตื่นเพราะตอนนี้ขาเรียวยาวขาวๆที่แสนเย้ายวนพาดทับน้องชายเอาไว้ แถมตอนเวลาที่เธอขยับขากระชับอ้อมกอดเขา ขาเรียวนั้นก็เสียดสีไปมาจนเขาเองถึงกับต้องสูดหายใจลึกๆอย่างตั้งสติไหนจะหน้าอกอึ๋มของเธอที่บดเบียดกับแขนเขาอีกทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ มีหวังได้แตกแน่ๆ.....แขนขาเรียวยาวพาดไปมาราวกับคนข้างกายเป็นเจ้าตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ จากหัวที่เคยอยู่ที่หมอนก็กลายเป็นขึ้นมาอยู่บนตัวของชายหนุ่ม ที่ตอนนี้ยังคงนอนนิ่งแต่เริ่มปรับตัวได้เพราะน้องราเชนทร์เชื่อฟังอย่างดีไม่ตื่นขึ้นมากลางดึก" อื้อ~ " เธอคลายอ้อมกอดจากเขาให้เป็นอิสระ พลิกนอนตะแคงข้างคว้าตุ๊กตาหมีที่อยู่ชิดติดผนังเข้ามากอดเอาไว้แน่น เธอหลับลึกมากจนไม่รู้สึก ว่าคนที่นอนร่วมเตียงกำลังโอบรัดเธอจากทางด้านหลังเอาไว้แน่น แน่นมาก! จนจะรวมร่างกันอยู่แล้ว.......ครืด
" ที่พี่บอกว่าให้เฌอเป็นเด็กดี แล้วจะได้ไม่ต้องคืนเงิน...ถ้าไม่ได้ให้ขายตัวใช้หนี้ งั้นพี่กำลังจะบอกว่าให้เฌอเป็นนางบำเรอแทนเหรอ...ใช่ป้ะ " คำถามของเธอทำเอาคนตั้งใจฟังเถอะกับยกยิ้มมุมปาก น้ำเสียงของเฌอรินทร์ไม่ได้ดูโกรธหรือจริงจังกับสิ่งที่ถามออกมา แต่สีหน้าใสซื่อไร้เดียงสาของเธอนั้นทำให้เขาถึงกับหลุดขำ " นางบำเรอ!? รู้จักคำนี้ด้วยเหรอไง " " ในหนังก็เคยดู...นิยายก็เคยอ่าน " เธอตอบพลางก้มหน้าตักข้าวต้มใส่ปากเคี้ยวอย่างอร่อย" อ่า~ แล้วรู้ไหม....หน้าที่ของนางบำเรอคืออะไร " เขาถามหยั่งเชิงออกไปเพราะเฌอรินทร์เป็นเด็กน่ารักมาตั้งแต่เด็ก เธอมักจะหมกตัวอยู่กับหนังสือมากกว่าหนัง ละครและนิยาย เขาเลยอยากรู้ว่าเธอรู้จักคำนี้ดีแค่ไหน" รู้สิ! เฌอไม่ได้ใสขนาดนั้นนะ " ดวงตาคู่สวยเป็นประกายจ้องมองหน้าเขาอย่างไม่กะพริบในตอนที่ตอบคำถาม แถมน้ำเสียงก็ยังหนักแน่นและดูจริงจัง " จริงๆถ้าพี่อยาก~ ก็ไม่เห็นต้องใช้เรื่องคุณลุงมาอ้าง หาเรื่องทำร้ายจิตใจกันเลย....ยังไงเราสองคนก็เป็นคู่หมั้นกันแล้ว ได้กันก่อนแต่งก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรจริงไหม " เธอต่างจากเมื่อวานมาก! เหมือนปลงความคิดไตร่ตรองมาดีแล้ว และดูเหมือน
10:30 น.ณ.ไร่อันดารันหลังจากที่ไปส่งเพื่อนที่ตัวเมือง เขาก็แวะไปซื้อร้านอาหารเจ้าดังของจังหวัด ซื้อของโปรดมากมายกลับมาเต็มไม้เต็มมือมีทั้งของตัวเอง ของเฌอรินทร์และไม่ลืมของโปรดของธันวาด้วย ถึงแม้เมื่อเช้าจะหงุดหงิดนิดหน่อยที่คนน้องไม่เชื่อฟัง แต่พอรู้ว่าเธอเอาซื้อคลุมติดไปด้วยเขาก็สบายใจ เขาไม่ได้หวงและไม่เคยห้ามให้เฌอรินทร์แต่งตัวเซ็กซี่ เขาแค่ห่วงกลัวว่าออกไปทำงานในไร่หรือในสวนแล้วมันจะร้อน กลัวผิวขาวๆของน้องจะเสียหมด" โอ้! นายหัว...มาครับเดี๋ยวผมช่วย " เพียงแค่ราเชนทร์เปิดประตูท้ายรถ คนสวนที่กำลังรดน้ำต้นไม้ก็รีบทิ้งสายยางแล้วเข้ามาหาทันที ถุงมากมายเต็มท้ายไปหมด เขาค่อยๆหยิบถุงใส่กล่องอาหารขึ้นมายื่นให้กับคนสวนได้ช่วยถือก่อนจะเอื้อมมือไปกดสวิตช์ให้ประตูท้ายปิดลงอย่างอัตโนมัติ" วางตรงนี้แหละ! ส่วนถุงนี้ฉันซื้อมาฝาก " เขาพลางเดินเข้ามายืนข้างๆ วางถุงที่ถืออยู่ลงบนโต๊ะอาหารก่อนจะยื่นถุงใบใหญ่ที่แยกไว้ให้คนสวน ภายในถุงนั้นบรรจุกล่องอาหารสามถึงสี่กล่อง " กลับไปกินข้าวเที่ยงกับครอบครัวนะ " " ขอบคุณครับนายหัว...งั้นเดี๋ยวผมรดน้ำต้นไม้รอบบ้านเสร็จแล้ว ขอตัวกลับเลยนะครับ " เขารับถุง
กว่าจะเคลียร์กับลูกค้าแต่ละรายได้สำเร็จ คนยื่นข้อเสนอถึงกับท้อ เสียงถอนหายใจดังขึ้นอย่างโล่งอก เมื่อเธอสามารถต่อรองกับลูกค้ารายสุดท้ายได้สำเร็จ แม้ว่าจะเป็นคู่ค้ากันมานานแต่ทว่าคนที่ยื่นข้อเสนอไม่ใช่ราเชนทร์เจ้าของไร่อันดารันแต่กลับเป็นเพียงแค่หญิงสาวอายุยี่สิบปีทำให้ลูกค้ารายนี้อิดออดอยู่พักใหญ่กว่าเฌอรินทร์จะตะล่อมได้ก็นานเอาเรื่อง" เป็นยังไงบ้างเฌอ!? " เสียงทุ้มอ่อนโยนของธันวาที่ดังขึ้นจากทางด้านหลัง ทำให้เฌอรินทร์ตกใจเล็กน้อยเพราะที่ที่เธอยืนอยู่เป็นด้านหลังของโรงงานเงียบและไม่มีผู้คน เธอหันมามองเขาพร้อมกับรอยยิ้มเล็กๆที่ปรากฏขึ้นใบหน้าพลางพยักหน้าเบาๆเป็นการตอบรับ" ก็เหลือแค่ภาวนาให้เครื่องจักรกลับมาทำงานโดยเร็ว " " ใช่ค่ะพี่ธัน! เฌอขอตัวเข้าไปหาพี่เชนทร์ก่อนนะคะ " ธันวา ราชณกิจส่งยิ้มให้กับหญิงสาวรุ่นน้อง มองเธอจนหายลับกลับเข้าไปในตัวอาคาร ตั้งแต่เฌอรินทร์กลับมา เขารู้สึกว่าเธอจะไม่ค่อยอยากอยู่กับเขาสองต่อสองสักเท่าไร ขนาดตอนมาเข้าไร่เฌอรินทร์ก็เรียกคนงานคนขึ้นรถมาด้วยกันราวกับรังเกียจกัน" ขอโทษนะพี่ธัน~ เฌอรู้สึกกับพี่แค่พี่น้องจริงๆ " เฌอรินทร์ที่แอบอยู่ด้านหลังประตูโรง
ร่างแกร่งบดเบียดเข้ามาจนเธอแทบจะจมฝังเข้าไปในกำแพงสีขาวที่เย็นเฉียบ ราเชนทร์ยังคงมอบจูบที่แสนเร่าร้อน ดูดดุนลงมาอย่างหนักหน่วง ลมหายใจของเขาและเธอดูรุนแรงมากขึ้นอีกครั้ง เหมือนอารมณ์ที่พุ่งขึ้นจบแทบจะร้อนเป็นไฟ เขาดูกระหายและดุดันมาก จนเฌอรินทร์เริ่มรู้สึกรับสัมผัสจูบนั้น ตอบรับเขาแทบไม่ทัน......เสียงถอนจูบที่ดูรุนแรงดังเล็ดลอดเข้ามาในโสตประสาทพร้อมกับเสียงลมหายใจที่หอบถี่ของหญิงสาว ที่กำลังพยายามรวบรวมออกซิเจนกลับเข้าปอดก่อนจะตวัดสายตาของชายหนุ่มเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆจากเขา " พี่แกล้งเฌอ อ๊ะ~ " เธอสะดุ้งเล็กน้อย หลุบมองต่ำไปยังมือของเธอ เขากำลังบังคับให้มือเรียวจับสัมผัสท่อนเอ็นใหญ่ที่กำลังผงาดเต็มตัวอยู่ภายใต้ผ้าขนหนูผืนนั้น " รางวัลของเฌอเหรอ " ดวงตาคู่สวยใสซื่อยั่วยวนมองใบหน้าหล่อที่เหยเกของเขา ยิ่งเธอแกล้งบีบขยำเบาๆผ่านผ้าขนหนู เขาก็ยิ่งสูดปาก ครางเร่าด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ " ซี้ด~ ใช่! พี่อนุญาตให้เฌอทำอะไรก็ได้กับรางวัลนี้ " เขาตอบเสียงตะกุกตะกัก นัยน์ตาคมฉ่ำเยิ้มหลุบมองมือเรียวนุ่มที่หายเข้าไปในผ้าขนหนูผืนนั้น สัมผัสจากมือเรียวที่เย็นเฉียบสร้างความรู้สึกวาบหวามให้เขาเป
เขาค่อยๆกดแทรกเจ้าหัวบานๆนั้นเข้ามาอย่างช้าๆ เสียงสูดปากและใบหน้าที่เหยเกของเขาบ่งบอกได้ถึงความอัดแน่น เหงื่อเม็ดเล็กเริ่มซึมออกมาจากข้างขมับ ความเย็นฉ่ำของเครื่องปรับอากาศในห้องก็ไม่สามารถระงับความร้อนกรุ่นของชายหนุ่มได้เลย " เจ็บมาก! พี่เชนทร์~ " เธอว่าพลางรั้งต้นคอแกร่งลงมาบดจูบอย่างเร่าร้อน ใบหน้าสวยเหยเกเพราะความเจ็บ มันตึง คับมาก ทั้งๆที่มีแค่ส่วนหัวเท่านั้นที่เข้ามาได้" เชี่ยเอ๊ย!! " ราเชนทร์สบถออกมาเบาๆข้างใบหูขาวก่อนที่เขาจะผละตัวออกจากเธอ ทำให้ส่วนหัวนั้นที่เข้าไปได้นิดเดียวหลุดออก แต่แล้วสิ่งที่เขาต่อมาทำให้หญิงสาวแทบกรีดร้องจะขาดใจ สวบ! " กรี๊ดดดดด!! พี่เชนทร์ อื้อ~ " คร่าแรกว่าจะเบาๆอ่อนโยนกับเธอ แต่ก็ไม่สามารถทำได้ เธอยั่วเขามาก! จนราเชนทร์ไม่อาจยั้งอารมณ์ได้ สวนท่อนเอ็นใหญ่เข้ามาในช่องทางฉ่ำอย่างแรงจนเขารู้สึกได้ว่าส่วนหัวบานๆนั้นกระแทกโดนเส้นเยื่อบางๆด้านในจนขาดผึง น้ำตาสีใสซึมออกมาจากหางตาคู่สวย มือเรียวจิกเข้าเนื้อแผ่นหลังของคนพี่อย่างแรงแม้เขาจะมอบจูบที่แสนหวานให้กับเธอ ปากหยักพรมจูบซับทั้งหางตาและแก้มทั้งสองเบาๆอย่างอ่อนโยนราวกับกำลังปลอบใจและขอโทษในสิ่งที่เขา
และแล้ววันนี้ก็มาถึง ตลอดระยะเวลาสามปีที่ผ่านมา ชีวิตของราเชนทร์และเฌอรินทร์อบอวลไปด้วยความรักและความอบอุ่น ไม่เพียงแค่ความสัมพันธ์ที่เติบโตอย่างมั่นคง แต่ทั้งสองยังประสบความสำเร็จในเส้นทางของตัวเอง เฌอรินทร์ก้าวไปถึงเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ ขณะที่ธุรกิจของราเชนทร์ก็เติบโตมั่นคงมากขึ้น และวันนี้พวกเขาก็พร้อมแล้วที่จะก้าวเข้าสู่บทใหม่ของชีวิต บทเรียนของการใช้ชีวิตคู่ณ.ไร่อันดารันแสงแดดยามเช้าทอประกายสีทองอ่อนโยนเหนือผืนหญ้าเขียวขจี สายลมแผ่วเบาพัดโชยหอบกลิ่นหอมละมุนของมวลดอกไม้ที่เฌอรินทร์เฝ้าทะนุถนอมปลูกด้วยสองมือ บัดนี้ พวกมันได้ถูกนำมาจัดแต่งอย่างประณีต เพิ่มเสน่ห์ให้บรรยากาศอบอวลไปด้วยความโรแมนติกซุ้มพิธีอันโอ่อ่าถูกประดับด้วยผ้าขาวบางพลิ้วไหวต้องสายลม แซมด้วยดอกไม้สีอ่อนโทนหวานอย่างลงตัว ตั้งตระหง่านอยู่กลางสนามหญ้าหน้าบ้านหลังใหญ่ ทอดเงาอยู่ใต้แนวทิวไม้สูงที่ให้ความร่มรื่น กลายเป็นฉากหลังอันสมบูรณ์แบบสำหรับช่วงเวลาสำคัญของเธอและเขาทางเดินสีขาวทอดยาวไปยังแท่นพิธี สองข้างทางนั้นถูกตกแต่งแต้มด้วยดอกกุหลาบสีขาวบริสุทธิ์สลับกับดอกไม้สีครีมและสีเขียวจากใบไม้ เทียนขาวในเชิงแก้วคริสตัลตั้
ณ.ไร่อันดารันLamborghini Huracán STO รถซูเปอร์คาร์สุดหรูสีดำทมิฬที่มาพร้อมดีไซน์สปอร์ตโฉบเฉี่ยว ถูกนำออกมาจากโรงรถกระจกเพราะในค่ำคืนนี้เป็นคืนที่แสนวิเศษ ราเชนทร์ อัครเทวา ยิ้มกว้างด้วยความพึงพอใจ เขาบรรจงเช็ดทำความสะอาดตัวรถอย่างพิถีพิถัน แม้ว่าจะไม่มีฝุ่นเกาะเลยสักนิดก็ตาม" เชนทร์! เมื่อวานเข้าบริษัทเป็นยังไงบ้างลูก เจอน้องหญิงไหม " เสียงหญิงวัยกลางคนดังขึ้นจากทางด้านหลัง เธอมาพร้อมกับจานขนมเค้กที่เฌอรินทร์พึ่งทำเสร็จเมื่อครู่ " ที่บริษัทก็เรียบร้อยดีครับ ส่วนเรื่องน้องหญิงผมก็ส่งมอบให้ไอ้ธันเรียบร้อย " " ธันวานี้ยังไง! ไม่ยอมรับรักน้องสักที " " อยู่ใกล้กันขนาดนี้ เดี๋ยวมันก็ใจอ่อนเองแหละแม่ " เขาตอบยิ้มๆ ให้มาริสา ก่อนจะหยิบช้อนซ้อมตักเค้กใส่ปาก แล้วหันกลับไปสนใจซูเปอร์คาร์สุดหรูของตัวเองอีกครั้ง หญิงวัยกลางคนถอนหายใจ ส่ายหัวเล็กน้อยกับคำพูดของเจ้าลูกชาย แต่ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา เมื่อเห็นราเชนทร์มีความสุขกับรถคันโปรดของตัวเอง ที่ได้มันมาจากความเก่งและน้ำพักน้ำแล้งของตน " คุณหญิงคะ " สาวใช้เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสุภาพ พลางก้าวเข้ามาอย่างสำรวม " คุณวา เจ้าของร้านตัดเสื้อมาถึ
13:30 น.ณ.คอนโด Xxรถตู้คันหรูสีดำสนิทอย่าง Toyota Alphard แล่นเข้ามาภายในคอนโดสุดหรูใจกลางเมือง บริเวณโดยรอบล้อมเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่และการจัดสวนที่สวยงามให้ความร่มรื่นมองไปทางไหนก็สบายตา แถมที่นี่ระบบความปลอดภัยก็ดีเยี่ยมต่างจากหอพักเก่าๆข้างมหาวิทยาลัยที่เฌอรินทร์เคยพักอยู่" ระวังกันด้วย! เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นมันแพงนะเว้ย! อย่าให้มีร่องรอย " " ครับพี่ธัน....ระวังสุดๆ " ยอดประชดประชันขึ้นมาเมื่อเห็นไอ้หน้าหล่ออายุห่างกันแค่สองเดือนยืนเท้าเอวสั่งพวกเขาราวกับเจ้านาย แค่นายหัวให้มันเลื่อนขั้นจากลูกน้องคนสนิทมือขวาขึ้นเป็นรองประธานกรรมการบริษัท อันดารัน กรุ๊ป มันก็เอาใหญ่ ขนาดช่วยยกกระถางดอกไม้มันก็ยังไม่ยอมมาช่วย " อ่า~ ประชดเก่งจังนะมึง เดี๋ยวกูไล่ออกแม่ง " " โอ๊ยๆ ท่านรองประธานใช้อำนาจกดขี่ ฮ่า ฮ่า.... ทำอย่างกับว่าพวกกูจะกลัว " ชายฉกรรจ์เกือบสิบคนต่างพากันหัวเราะร่าอย่างชอบใจ เมื่อยอดสวนกลับธันวาอย่างไม่เกรงกลัว เพราะพวกเขาทำงานมาด้วยกันหลายปี แค่อ้าปากก็รู้ว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร เวลาทำงานก็เคารพกันตามตำแหน่งหน้าที่ หลังจากเลิกงานก็พากันไปสังสรรค์ เมาหัวราน้ำ แบก หามกันกลับบ้านอย
ข่าวจากยอดที่บอกว่า สมานตายแล้ว สร้างความมึนงง สับสนให้แก่ทุกคนที่ยืนอยู่หน้าห้องฉุกเฉินเป็นอย่างมาก ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา เจกับน้ำฝนจะเห็นสีหน้าที่เคร่งเครียดของเฌอรินทร์อยู่หลายครั้งเลยพอจะทราบเรื่องของลุงสมานอยู่บ้าง แต่ช่วงที่รู้ว่าเพื่อนกลับบ้าน พวกเธอก็โล่งใจขึ้นมาเพราะคิดว่าลุงกับหลานน่าได้เจอกันแล้วแต่ผิดมหันต์" สาเหตุการตายล่ะ!? แล้วเจอที่ไหน? พวกเราตามหากันมาตั้งหลายเดือนทำไมไม่เจอ " ธันวายิงคำถามรัวๆใส่ชายหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกัน สีหน้าตื่นตระหนกมากกว่าใครเพราะเขาเองก็แทบไม่รู้อะไรเลย" ในข่าวบอกว่าผูกคอ! ฆ่าตัวตาย อยู่ทางภาคเหนือ " น้ำเสียงของยอดแม้เรียบเฉยแต่ก็แฝงไปด้วยความไม่มั่นใจและยังไม่อยากเชื่อเช่นกัน" ฆ่าตัวตายเหรอคะ....หมายถึงพึ่งตายเหรอ! ถึงพึ่งได้เจอศพ " น้ำฝนเอ่ยขึ้นเป็นคำถามที่ตรงใจชายหนุ่มรุ่นพี่ทั้งสองเป็นอย่างมาก คำถามนี้จะนำพาไปไขช่วงเวลาการหายตัวไปของสมานได้เป็นอย่างดี" ก็ไม่รู้เหมือนกัน! ตอนที่พี่กำลังรอให้ปากคำกับตำรวจ โทรทัศน์ก็กำลังอ่านข่าวพอดี ชื่อ นามสกุล มันใช่ลุงสมาน " " งั้นคงรอไม่นานหรอกครับ! ผูกคอ! ร่างกายก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็พิสูจน
โชคดีที่จุดเกิดเหตุ เป็นจุดที่ห่างใกล้จากส่วนของรีสอร์ต เพราะก่อนหน้านั้น เฌอรินทร์ น้ำฝนและเจ อยากจะเดินเล่นเลียบหาดไปเรื่อยๆเพื่อฆ่าเวลา เนื่องจากพวกเธอไม่อยากไปช่วยทำอาหาร อยากไปถึงแล้วได้กินเลย แต่ใครมันจะไปคิดว่าระหว่างที่กลับนั้น จะมีไอ้พวกบ้าหื่นกามมันเข้ามาหาเรื่อง และแน่นอนว่าโคตรพลาด!!"โอ๊ย!!!!" ชายหนุ่มร่างใหญ่ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ขณะที่มือของเขากำลังกุมใบหูที่โดนกัดไว้ เขาสะบัดตัวแรงเพื่อให้คนด้านหลังหลุดออกจากการยึดตัว แต่ความโกรธที่พุ่งขึ้นทำให้เขาหันขวับไปยังคนที่ทำให้เขาเจ็บปวด"อีบ้า!! " เขาตะโกนเสียงดัง กำมือแน่นและยกมันขึ้น เตรียมตบเข้าใบหน้าของน้ำฝนที่ยืนอยู่ไม่ห่าง แต่ในขณะที่มือของเขากำลังจะพุ่งไปถึง ท่อนไม้ขนาดใหญ่ก็ฟาดลงอย่างจัง ทำให้ชายร่างใหญ่เซถลาถอยหลังและในจังหวะที่เขากำลังเสียสมดุล ผลัวะ!!เฌอรินทร์ก็ได้ทำการหวดเข้าไปที่ศีรษะของชายฉกรรจ์คนนั้นอย่างแรง ส่งผลให้ร่างใหญ่ล้มลงอย่างทันที ตามมาด้วยสีแดงสดที่ไหลออกมาเป็นสาย ดวงตาคู่สวยของทั้งสองคนเบิกกว้างด้วยความตกใจ แต่ ณ.เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมายืนอึ้ง เพราะด้านหลังของพวกเธอ" เฌอ ฝน ระวัง!!! " สองสาวผล
เสียงคลื่นกระทบกับโขดหินดังขึ้นเบา ๆ สร้างความสงบในบรรยากาศยามเย็นของท้องทะเลอันกว้างใหญ่ ท้องฟ้าค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีส้มอมชมพู ขณะที่แสงสุดท้ายของวันเริ่มสะท้อนลงบนผืนน้ำ มองไกลไปจนถึงเส้นขอบฟ้า ท่ามกลางเสียงลมพัดและความเงียบสงบที่ห้อมล้อมให้บรรยากาศโดยรอบมีแต่ความอบอุ่น" เฌอ! มาเร็ว น้ำกำลังเย็นเลย " " โดดมาเลยเพื่อน " เจและน้ำฝนที่กำลังลอยคออยู่เหนือห่วงยางอันใหญ่สีหวาน โบกไม้โบกมือให้กับเพื่อนสาวที่กำลังเดินออกมาจากบ้านพักพร้อมกับขวดน้ำเปล่า เฌอรินทร์โบกมือให้เพื่อนก่อนจะสวมใส่รองเท้าแตะแล้วรีบวิ่งเข้ามาหา " ถอดเสื้อคลุมแล้ว โดดเลย " " รอแป๊บสิ " เธอตะโกนกลับตอบเพื่อนไป พลางโยนขวดน้ำที่ถือมาลงพื้นหาดใกล้ๆกับรองเท้าและเสื้อคลุมของเพื่อน เฌอรินทร์ค่อยถอดเสื้อคลุมอาบน้ำสีขาวออกเผยให้เห็นเรือนร่างขาวเนียนตัดกับชุดบิกินี่ตัวจิ๋วสีดำ ทำให้เธอดูโดดเด่น ขาวผ่องเป็นอย่างมากท่ามกลางเสียงหัวเราะของทั้งสามสาวที่กำลังเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน นัยน์ตาคมหกคู่ก็จับจ้องพวกเธอไม่วางตา พวกเขายืนสังเกตการณ์ห่างไกล จากบ้านพักของตัวเอง ตามคำสั่งของราเชนทร์ที่ให้คอยดูแลเด็กสาวทั้งสาม แม้ว่าบริเวณที่
หลังจากความวุ่นวายที่เกือบจะส่งของไม่ทัน ทำให้ราเชนทร์เปลี่ยนกฎการใช้เครื่องจักรใหม่ทั้งหมด เขาสั่งให้แบ่งเครื่องจักรเป็นสองชุด ผลัดกันชุดละ 12 ชม. ก็เท่ากับว่าทั้งโรงงานยังคงเดินเครื่อง 24 ชม. ตามปกติแต่แค่ให้เครื่องได้ผลัดกันพักเหมือนเวลาเข้ากะของพนักงานแถมเครื่องจักรทุกตัวจะมีการเปลี่ยนอะไหล่ใหม่ทุกสิ้นเดือนเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเหมือนครั้งที่แล้ว ถ้าสุดวิสัยจริงเกิดพังขึ้นมาอีก ก็ยังมีอะไหล่เก่าสำรองเพื่อไม่ให้เครื่องหยุดทำงาน แน่นิ่งเหมือนครั้งนั้น ที่ต้องวุ่นวายออกไปตามหาซื้ออะไหล่กันนานสองนานและการที่ธันวาถูกโยกย้ายให้ไปตรวจตราในโรงงาน ทำให้หน้าที่ตรวจคัดเมล็ดโกโก้ที่เก็บจากไร่ นำเข้าไปพักที่โกดังต้องตกเป็นหน้าที่ของเฌอรินทร์ ตลอดทั้งวันเฌอรินทร์ต้องวนอยู่สองที่คือในไร่และโกดัง ตั้งแต่ขั้นตอนเก็บเกี่ยว ล้างทำความสะอาดคัดแยกก่อนที่เมล็ดเหล่านั้นจะเข้าโกดังก็ห้ามแล้วนะแต่เธอไม่ยอมจริงๆ เขาพยายามแล้วอยู่หลายอาทิตย์ อุตส่าห์เอาเรื่องอาการปวดของเธอมาอ้างเฌอรินทร์ก็ยังหัวรั้น บอกว่าทำงานหนักๆกลางคืนจะได้ไม่ฝันร้าย " พี่เชนทร์ค่า~ นวดให้หน่อยสิ " เสียงใสออดอ้อนแล้วก็เดินเข้าไปใกล้ๆ
04:00 น.ยามราตรีนี้ยังคงปกคลุมไปด้วยความเงียบสงบ เสียงลมพัดแผ่วเบากระทบกับต้นโกโก้และต้นปาล์มที่อยู่ทั่วไร่อันดารัน พวกมันโอนแอ่นไหวไปตามแรงลมเย็นๆ ทั่วทั้งทางประดับไปด้วยแสงไฟแต่กลับรู้สึกอ้างว้างมากกว่าอบอุ่น เงาของเสาไฟทอดยามไปตามพื้นลูกรังสีแดง เนินเขาสลับกับพื้นราบเป็นระยะไปตลอดทาง แถมยังมีเสียงจักจั่นสะท้อนก้องขึ้นมาตามพุ่มไม้ " นายหัว!! มาเร็วจังเลยครับ " สำเนียงติดใต้ของชายวัยกลางคนในชุดทำงาน เอ่ยทักทายชายหนุ่มรุ่นลูกที่กำลังก้าวลงมาจากรถ Isuzu D-max สีดำทมิฬพร้อมกับหญิงสาวตัวเล็กอย่างเฌอรินทร์ เธอยกมือขึ้นปิดปากหาวหวอดๆก่อนจะหันมาส่งยิ้มตาฉ่ำเยิ้มให้คนที่เข้ามาทักทาย " เป็นยังไงบ้าง เรียบร้อยไหม "" เสร็จทันเวลาเลยครับนายหัว ตอนนี้กำลังทยอยขนขึ้นรถบรรทุก " เขาตอบอย่างฉะฉานและหนักแน่น ก่อนเดินนำทั้งคู่เข้าไปด้านในเสียงเครื่องจักรภายในโรงงานช็อกโกแลตดังก้องสะท้อนไปทั่วอาคาร เครื่องบด รีด ทำงานหนักอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ถูกเปลี่ยนอะไหล่ใหญ่ ส่งเสียงครืดคราดเป็นจังหวะสอดประสานกับเสียงสายพานลำเลียงที่กำลังขนถ่ายวัตถุดิบไปยังจุดต่างๆ" สวัสดีครับนายหัว " หัวหน้าวิศวะเอ่ยทักทายพ
เขาค่อยๆกดแทรกเจ้าหัวบานๆนั้นเข้ามาอย่างช้าๆ เสียงสูดปากและใบหน้าที่เหยเกของเขาบ่งบอกได้ถึงความอัดแน่น เหงื่อเม็ดเล็กเริ่มซึมออกมาจากข้างขมับ ความเย็นฉ่ำของเครื่องปรับอากาศในห้องก็ไม่สามารถระงับความร้อนกรุ่นของชายหนุ่มได้เลย " เจ็บมาก! พี่เชนทร์~ " เธอว่าพลางรั้งต้นคอแกร่งลงมาบดจูบอย่างเร่าร้อน ใบหน้าสวยเหยเกเพราะความเจ็บ มันตึง คับมาก ทั้งๆที่มีแค่ส่วนหัวเท่านั้นที่เข้ามาได้" เชี่ยเอ๊ย!! " ราเชนทร์สบถออกมาเบาๆข้างใบหูขาวก่อนที่เขาจะผละตัวออกจากเธอ ทำให้ส่วนหัวนั้นที่เข้าไปได้นิดเดียวหลุดออก แต่แล้วสิ่งที่เขาต่อมาทำให้หญิงสาวแทบกรีดร้องจะขาดใจ สวบ! " กรี๊ดดดดด!! พี่เชนทร์ อื้อ~ " คร่าแรกว่าจะเบาๆอ่อนโยนกับเธอ แต่ก็ไม่สามารถทำได้ เธอยั่วเขามาก! จนราเชนทร์ไม่อาจยั้งอารมณ์ได้ สวนท่อนเอ็นใหญ่เข้ามาในช่องทางฉ่ำอย่างแรงจนเขารู้สึกได้ว่าส่วนหัวบานๆนั้นกระแทกโดนเส้นเยื่อบางๆด้านในจนขาดผึง น้ำตาสีใสซึมออกมาจากหางตาคู่สวย มือเรียวจิกเข้าเนื้อแผ่นหลังของคนพี่อย่างแรงแม้เขาจะมอบจูบที่แสนหวานให้กับเธอ ปากหยักพรมจูบซับทั้งหางตาและแก้มทั้งสองเบาๆอย่างอ่อนโยนราวกับกำลังปลอบใจและขอโทษในสิ่งที่เขา