ตอนที่ 5
"ราชาปีศาจ เป็นท่านจริง ๆ ด้วย" ปีศาจจิ้งจอกแดงสองตัวผัวเมีย คุกเข่าเอามือสองทั้งสองข้างแตะที่หน้าผากก้มคาราวะ ให้กับราชาปีศาจเฉาเฟิงด้วยความดีใจ "ท่านราชา ท่านกับมาแล้ว พวกเราดีใจยิ่งนัก ในที่สุดท่านก็ออกมากจากผนึกได้แล้ว หลายหมื่นปีมานี้ไม่มีท่านอยู่พวกเราต่างลำบากกันยิ่งนัก" "ลุกขึ้นเถอะ ข้าแค่จะถามอะไรพวกเจ้าหน่อย" "ถามมาได้เลยครับ กระผมยินดีตอบทุกอย่าง " " ทำไมพวกเจ้าถึงมาอยู่ที่ เผ่ามนุษย์" "เรื่องนี้ตั้งแต่ที่ท่านราชาถูกผนึก เผ่าปีศาจไร้ที่พึงพิง พวกเราต่างหาวิธีเอาชีวิตรอด จึงต้องมาแฝงกายอยู่ปะปนกับพวกมนุษย์ เพราะทรัพยากรของเผ่ามนุษย์มีมากมายพื้นดินอุดมสมบูรณ์มีพืชพันธ์ธัญญาหารให้พวกกระผมได้ทำมาหากินตลอดทั้งปีครับ" "แล้วที่เผ่าปีศาจล่ะ" "ปัจจุบันนี้ที่เผ่าปีศาจกลายเป็นที่แห้งแล้ง เพราะพวกเผ่าเทพได้ทำม่านอาคมกั้นเขตแดนขวางแม่น้ำศักดิ์สิทธิเอาไว้" "แต่แม่น้ำศักดิ์สิทธินี้เป็นของเผ่าปีศาจมาตั้งแต่สมัยบรรพกาล พวกเผ่าปีศาจจะดำรงอยู่ได้พวกเราต้องอาศัยน้ำในแม่น้ำศักดิ์สิทธินั้น" "ใช่ขอรับ หลายหมื่นปีก่อนที่จะเกิดสงครามใหญ่ครั้งนั้น ผมแบะพ่อแม่พวกเราอาศัยอยู่แถบเขตชายแดนก็มีพวกเผ่าเทพ เข้ามารุกลานทั้งที่พวกผมไม่ได้ทำอะไรผิด หลายครั้งหลายคร่า" "เรื่องนั้นข้ารับรู้มาตลอด ข้าจึงหาวิธีที่จะจัดการเผ่าเทพ แต่กับกลายเป็นสงครามใหญ่ ข้าคิดว่าต้องมีคนอยู่เบื้องหลังที่อยากให้เกิดสงครามใหญ่เช่นนี้ เอาเถอะเรื่องนี้ข้าจะสืบเอง พวกเจ้าใช้ชีวิตตามปกติเถอะ" "แล้วท่านราชาจะกับไปที่เผ่าปีศาจไหมครับ ที่นั้นยังมีพวกปีศาจบางกลุ่มอาศัยอยู่ ไป่รุ่ยก็ยังคงอยู่ที่นั้นครับ" "ใช่ข้าต้องกับไป เพราะที่นั้นคือบ้านของข้า แต่ตอนนี้เจ้าสองคนกลับไปก่อนเถอะข้ามีคำถามเพียงเท่านี้ " "ขอรับ พวกเราขอตัวก่อนถ้ามีอะไรท่านเรียกใช้พวกเราได้เลยขอนับ” "อืม" จิ้งจอกสองตัวผัวเมียหันหลังคืนร่างเป็นจิ้งจอกหางแดงวิ่งหายไปในความมืด "ออกมา " เฉาเฟิงกล่าวทั้งที่ยังไม่ได้หันหลังกับไป เขารู้มาสักพักแล้วว่ามีคนแอบฟังอยู่ด้านหลัง คนนั้นก็คือชีเหนียงเอง "เจ้า ออกมาทำไม" เฉาเฟิงถาม "คือ ฉันแค่จะมาสูดอากาศ" เฉาเฟิงหันกับมามองแล้วเดินผ่านร่างบาวไป ระหว่างที่ผ่านร่างบางนั้นเขามองนางด้วยหางตาแล้วพูดขึ้นว่า "ยืนอยู่ด้านนอกคนเดียวมืด ๆ ระหว่างเจอปีศาจนะ" ชีเหนียงสะดุด หันรีหันขวา " นี้คุณ จะพูดทำไม แต่คุณก็ปีศาจนะ " เฉาเฟิงยังคงเดินเข้ามาในตัวบ้านต่อ ชีเหนียงรีบวิ่งตามมาจนชนเข้ากับแผ่นหลังของเฉาเฟิงจนเซ "โอ้ย หยุดเดินทำไมไม่บอก" "แล้วเจ้าจะเดินตามข้ามาทำไม" "ฉันก็จะเดินเข้าบ้าน" เฉงเฟิงยกคิ้วหนึ่งข้างทำหน้าสงสัยแต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรแล้วหันหน้าเดินต่อจนมาถึงห้องครัว เขาหยุดเดินอีกครั้ง "โอ้ย หยุดเดินทำไมอีก" เป็นชีเหนียงที่ชนกับหลังของเฉาเฟิงอีกครั้ง "เจ้าอยากจะถามอะไร ถึงได้ตามข้าตลอดอย่างนี้" " เปล่า " (เสียงสูง) "เจ้าอยากรู้เรื่องที่ข้าคุยกับจิ้งจอกสองผัวเมียนั้น " ชีเหนียงจองหน้าเฉาเฟิงกระพริบตาปริบๆ "แอบฟังตั้งนานสองนานยังอยากรู้อะไรอีก" " ก็บอกว่าเปล่า ฉันแค่หิวเลยจะเดินมาที่ห้องครัว ว่าจะมาหาไก่ทอดกินสักหน่อยเผื่อยังมีไก่ทอดอยู่" ~โครก คราก ~ เฉงเฟิงเอามือจับท้องและยังทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ชีเหนียงยกยิ้มขึ้น "ไก่ทอด" ~ โครก คราก ~ เสียงท้องของเฉาเฟิงก็ร้องอีกครั้ง พร้อมกับเสียงหัวเราะของชีเหนียง ชายหนุ่มเอามือปิดปากนางเอาไว้ จนชีเหนียงหยุดหัวเราะแล้ว จึงปล่อยมือออก "คุณหิวหรอ" "ไม่" ไก่ทอด" เสียงชีเหนียงที่พูดขึ้นมาอีกครั้ง ~โครก คราก ~ "เจ้า หยุดเดี๋ยวนี้นะ" "ยังจะปากแข็งอีก หิวก็บอกมาสิ" "อืม ข้าหิว" "ก็แค่เนีย แต่…" "แต่อะไรอีก" "ฉันอยากรู้ว่า ที่คุณคุยกันเรื่องเผ่าเทพที่ชอบมารุกรานเผ่าปีศาจของคุณ และยึดครองแม่น้ำศักดิ์สิทธิ เผ่าเทพเป็นคนทำจริงหรอ พวกเผ่าเทพที่ค่อยช่วยเหลือมนุษย์และทุกสรรพสิ่งไม่ใช้รึ ทำไมถึงทำเรื่องให้ผู้อื่นเดือนร้อนแบบนี้ได้" "มนุษย์อย่างเจ้ายังมีทั้งดีเลวปะปนกัน เผ่าเทพก็เหมือนกันแม้กายเป็นเทพ แต่จิตใจเลวร้ายกว่าปีศาจอย่างข้าก็มี" ชีเหนียงรับฟังและคิดตาม "แล้วคุณล่ะ" "ถึงข้าจะเป็นปีศาจ แต่ข้าก็ไม่เคยทำเรื่องอันใดให้คนในเผ่าของข้าเดือนร้อน ข้าดูแลราชษฏรในเผ่าให้อยู่เย็นเป็นสุข ขอแค่พวกเขาไม่อดยาก อยู่กันพร้อมหน้าครอบครัว แต่พวกเผ่าเทพก็รุกรานไม่เว้นแต่ละวัน ทำให้คนในเผ่าของข้าเดือนร้อน" นางนิ่งเงียบฟังและคิดตาใที่เฉาเฟิงพูด "เจ้าคงไม่เชื่อข้า" " คือไม่ใช่แบบนั้น ตั้งแต่ฉันโตมาที่เคยเห็นก็มีแต่คนที่กราบไหว้บูชาเทพต่าง ๆ และผู้คนต่างพูดว่าปีศาจเป็นสิ่งชั่วร้าย ฉันก็เลยยังไม่รู้จะเชื่อแบบไหนดี คุณเข้าใจฉันไหม" "ไม่ แต่ที่รู้คือเจ้าเป็นข้ารับใช้ของข้า เจ้าต้องเชื่อฟังคำสั่งข้าถึงจะถูก " "ฉันไม่อยากเป็น ฉันจะตัดสินใจเองว่าสิ่งไหนถูกหรือผิด และตอนนี้ฉันรู้จุดอ่อนของคุณแล้ว " ชีเหนียงพูดจบแล้วกำลังจะเดินออกไปจากครัว "นี้เจ้า จุดอ่อนอะไร แล้วไหนไก่ทอดข้ายังไม่ได้กินเลยเจ้าจะไปไหน " เฉาเฟิงคว้าแขนของชีเหนียงไว้ให้หยุดเดินเค้าบีบข้อมือของนางจนแน่ "คุณก็ใช้พลังปีศาจของคุณทำไก่ทอดเองสิ คุณเป็นราชาปีศาจที่มีพลังอันยิ่งใหญ่ไม่ใช้หรือไง" "มันใช้ได้ที่ไหน" "เมื่อตอนที่จับปีศาจจิ้งจอกน้อยตัวนั้นคุณยังทำได้อยู่เลย" "ตอนนี้ข้าใช้พลังไม่ได้ และไม่มีใครเขาใช้พลังทำไก่ทอดกันด้วย" "ทำไมคุณถึงใช้พลังไม่ได้ล่ะ ที่เห็นเมื่อหัวค่ำนั้นมันอะไร" "ใช่นั้นคือพลังของข้า แต่มันมาๆ หายๆ ข้าก็ยังไม่รู้สาเหตุ" "มีงี้ด้วย ปล่อยฉันเลยนะ" เฉาเฟิงยังคงไม่ปล่อยและกำข้อมือของนางไว้แน่น "ไม่ปล่อยใช่ไหม ได้ ไก่ทอด!!" ~โครก คราก ~ "ซี๊ดดด เจ้า" เฉาเฟิงออกมืออีกจับท้องของตนไว้อีกมือก็ยังจับข้อมือชีเหนียงไม่ปล่อย "ไก่ชุปแป้งทอดกรอบๆหอมๆ อร่อย ๆ" ~โครก คราก ~ ~ โครก คราก ~ เฉาเฟิงจำต้องปล่อยมือของชีเหนียงให้นางหลุดรอดไป "โอ้ย ทำไมข้าต้องมาเผชิญกับหิวด้วยนะมันช่างทรมารจริง ๆ "เทพสงครามซีฮ่าวได้รับคำสั่งจากองค์เง็กเซียน มาตามสืบเรื่องราวของผนึกที่เทพสงครามเย่วหมี ได้ผนึกราชาปีศาจไว้ถูกทำลาย และร่องรอยของกลุ่มคนที่เจอบริเวณเขาอู่หลิงหยวนนั้น ตอนนี้เทพสงครามได้ตามสืบร่องรอยของคนกลุ่มนั้นจนมาถึงบ้านซีเหนียง "บ้านหลังนี้มีกลิ่นไอปีศาจ"เทพสงครามซีฮ่าวปรากฏกายด้วยร่างบุรุษหนุ่มแต่งกายตามยุคสมัยใหม่ ยืนอยู่หน้าบ้านชีเหนียง ชีเหนียงเปิดประตูหน้าบ้านก็พบกับเทพสงครามซีฮ่าว ทั้งสองมองหน้ากัน แต่เป็นซีฮ่าวเองที่มองซีเหนียงแบบไม่สามารถละลายตาได้ "คุณ คุณคะ มีอะไรหรือป่าวคะ" ชีเหนียงถามออกไปด้วยสงสัยว่าชายหนุ่มตรงหน้าที่สายตาดูอบอุ่นผู้นี้จองเธอไม่วางตา "อ่อ เออ... ผมทราบว่าที่นี้เป็นแหล่งค้าขายของพวกนักสะสมของเก่าของโบราณ คือผมตามหาของสิ่งหนึ่งอยู่ อยากรู้ที่นี้พอจะมีของที่ผมตามหาไหมน่ะครับ" ( ผู้หญิงคนนี้คุ่นหน้าเธอยิ่งนักเหมือนเคยเจอที่ไหนมาก่อน ) "งั้น เชิญด้านในเลยค่ะ" ชีเหนียงพาแขกไปดูของที่โถงด้านข้าง ซึ่งทำไว้เป็นที่เก็บของเก่าของสะสมโบราณ และมักจะมีพวกพ่อค้าหรือนักสะสมของเก่ามาบ่อย ๆ แต่กับชายคนนี้น่าจะมาครั้งแรกเพราะยังไม่เคย
ตอนที่ 7 เทพสงครามซีฮ่าว ได้กลับไปรายงานต่อองค์เง็กเซียน เรื่องที่เจอตัวราชาปีศาจเฉาเฟิง ที่เผ่ามนุษย์นั้น จากการที่ได้ต่อสู่กัน ราชาปีศาจเฉาเฟิงไม่มีพลังใดเลย ข้างกายเขายังมีสตรีที่เป็นมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งอยู่ด้วย และที่ราชาปีศาจทำลายผนึกออกมาได้นั้นยังคงเป็นปริศนาอยู่ เมื่อทราบดังนั้นจึงให้ เทพสงครามค่อยจับตาดูราชาปีศาจเฉาเฟิงไว้ก่อน เขาคงจะไม่ทำอะไรผลีผลามตอนนี้ และยังต้องสืบเรื่องที่ผนึกถูกทำลายนั้นต่อไป เพราะไม่มีทางที่ราชาปีศาจจะทำลายผนึกออกมาเองได้ จะต้องมีใครที่รู้วิธีแล้วช่วยเขาไว้เป็นแน่ ณ เผ่าปีศาจ เมื่อเท้าเหยียบย่างเข้ามายังวังปีศาจที่เฉาเฟิงเคยอาศัยอยู่ ที่นี้ดูทรุดโทรม แต่ยังคงสภาพพออยู่ได้และยังมีปีศาจอาศัยอยู่บ้าง พื้นดินดูแห้งแล้งไร้พืชพันธ์ ท้องฟ้าหม่นหมอง เฉาเฟิงยืนมองอยู่หน้าวังครู่หนึ่ง นึกภาพไปเมื่อหลายหมื่นปีก่อนครั้งที่เขายังอยู่ ถึงที่นี้ถึงจะเป็นเผ่าปีศาจ แต่สภาพแวดล้อมเมื่อก่อนนั้นพื้นดินอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชพันธ์ต้นไม้นานาชนิด สัตว์เล็ก สัตว์ใหญ่ ปีศาจทุกตัวอยู่กันอย่างสงบสุข ก่อนจะเกิดสงครามเพราะพวกเผ่าเทพที่ค่อยรุกรานขมเหง และยังมาขวางยึดครองแม่น้ำศ
ตอนที่ 8ชีเหนียงเห็นเจ้าสิ่งนั้นที่ก้นสระก็ตกใจจนดวงตาเบิกโพลง มือที่กำลังปัดไอระเหยอยู่นั้นพลาดไปโดนผิวน้ำจนสั่นไหว เจ้าสิ่งที่เคลื่อนไหวอยู่ก้นสระก็ลืมตาขึ้นมาสีลูกตาแดงกร่ำ ตัดกับผิวสีขาวระยิบระยับลำตัวใหญ่และยาว คล้ายมังกร ดวงตาสีแดงกร่ำนั้นจ้องมาที่นางชั่วอึกใจมันก็พุ่งขึ้นมาอย่างเร็ว น้ำในสระเกิดคลื่นอย่างแรงจนดึงเอาตัวชีเหนียงตกน้ำไป นางดำผุดดำว่ายเพื่อพยุงตัวไม่ให้จมน้ำ แต่ก็รู้สึกว่าเจ้ามังกรสีขาวนั้นยังคง ว่ายวนอยู่รอบตัวนาง ทำให้เกิดน้ำวนยิ่งดูดให้ตัวนางจมลง และลำลักน้ำกำลังจะขาดอากาศหายใจ ดวงตานางเริ่มเลือนรางและกำลังจะปิดลงนั้น นางเห็นร่างคนผู้หนึ่งกำลังเข้ามาใกล้ ๆ "เฉาเฟิง" นางพึมพำด้วยสติที่เลือนราง เปลือกตานางค่อยๆปิดลงอย่างช้าๆ มังกรสีขาวนั้น เป็นเฉาเฟิงเอง ซึ่งร่างเดิมของเจาก็คือมังกรน้ำ เป็นสัตว์บรรพกาลชั้นสูงมีปราณพลังสองสายน้ำและไฟอยู่ในร่าง เขามักจะมาแช่ตัวที่สระน้ำแห่งนี้เป็นประจำอยู่แล้ว เมื่อได้กับมายังวังปีศาจในรอบหลายหมื่นปีอีกครั้งเขาจึงต้องมาแช่น้ำที่สระแห่งนี้ เฉาเฟิงเห็นชีเหนียงหมดสติไป หัวใจก็สั้นไหว เขาใช้สองมือประคองหน้าชีเหนียงไว้ และริมฝีป
"ข้าจะนอนแล้ว เจ้าออกไปได้แล้ว ” “ จะให้ออกไปไหนนี้ห้องข้า ” “ อ่าว แล้วเจ้าจะนอนตรงไหน ” “ หยุดพูด แล้วนอนสะ ข้าจะนั่งอยู่ตรงนี้ ” ด้วยร่างกายที่ยังอ่อนเพลีย นางจึงหลับไปอย่างง่ายดาย และเฉาเฟิงก็ยังคงนั่งมองนางอยู่ไม่ลุกไปไหน ผ่านไปหนึ่งชั่วยาม“อือออ” สายตาคมจ้องไปที่ร่างบางที่อยู่ๆ เกิดนอนกระสับกระส่ายครางเสียง อือ ออกมา “อือออ” ชายหนุ่มจึงลุกไปดูนางใกล้ๆ เขาเอือมมือไปเตะแก้มและหน้าผากของนาง “ตัวร้อนมากเลย ใครอยู่ข้างนอกบ้างเข้ามาหน่อย” นางกำนัลที่อยู่ด้านนอกเปิดประตูเข้ามา เฉาเฟิงสั่งให้เอายา เตรียมน้ำและผ้ามาเช็คตัวให้นาง“พวกเจ้าเช็คตัวให้นางก่อน เสร็จแล้วเรียกข้า”“ เจ้าค่ะ ” เฉงเฟิงออกมายืนรออยู่ด้านหน้าห้องของตนเอง เขาเดินไปเดินมาคิดในใจถ้าตนเองใช้พลังได้ คงจะช่วยให้นางหายไข้ได้แล้ว "เช็คตัวเสร็จแล้วเจ้าค่ะ" "ส่งยามาให้ข้า" เฉงเฟิงรับยามาจากนางกำนัลเดินกลับเข้ามาในห้องนั่งลงที่ขอบเตียงสังเกตสีหน้าที่ซีดเซียว นอนหลับตา กระสับกระส่ายตัวสั่นคิ้วขมวดด้วยอาการไข้ขึ้น "ชีเหนียง กินยาก่อน" เขาเรียกนางเบา ๆ ค่อยๆใช้ช้อนป้อนยานาง แต่ไม่สำเร็จชีเหนียงนางหันหน้าไปมาจนชน
ตอนที่ 10 “ เออ นายท่านข้ามีเรื่องมารายงาน ” ไปรุ่ยพูดด้วยน้ำเสียงที่ติดขัดและก้มหน้าลง “ ไม่ใช่อย่างที่เจ้าคิด ” “ ข้าไม่ได้คิดไรขอรับ ” “เจ้านี้ มีอะไรก็ว่ามา ” “ ข้าไปค้นในหอตำราของเผ่า มีตำราเล่มนึงกล่าวถึงการที่ปีศาจถูกผนึกมานานอาจทำให้พลังปราณถูกปิดบังไว้ ในตำราเล่มนั้น ได้บอกถึงวิธีที่จะดึงพลังกับมาขอรับ ” “ เอาตำรามาให้ข้าดู ” “ นี้ขอรับ ” ไปรุ่ยส่งตำราเก่าๆ เล่มนั้นให้ เฉาเฟิงรับมารีบเปิดอ่านอย่างตั้งใจสีหน้าเคร่งเครียด ตำราเล่มนี้กล่าวไว้ว่า เมื่อถูกผนึกกักขังไว้เป็นเวลานาน คล้ายกับการถูกแช่แข็ง อาจทำให้พลังจากต้นจิตและเส้นลมปราณถูกสกัดกักไว้ด้วย วิธีที่เปิดมันออกคือใช้โลหิตของคนที่สร้างผนึกนั้นขึ้นมา เผื่อประโลมต้นจิตและทลายเส้นลมปราณที่ถูกสกัดกั้นไว้ วิธีที่สองคือใช้พิษเงือกแต่เป็นวิธีที่อันตรายที่สุดผู้ใช้ต้องเป็นผู้ที่แข็งแกร่งมากๆ เมื่อพิษเงือกเข้าสู่ร่างกายแล้วจะทำลายเส้นลมปราณทั้งหมดผู้ใช้ต้องรีบใช้พลังจากต้นจิตขับพิษเงือกออกและสร้างเส้นลมปราณใหม่ขึ้นมา ถ้าผิดพลาดหรือไม่ทันการผู้รับพิษเงือกเข้าไปจะตายได้ “ แต่เทพสงครามเย่วหมีที่สร้างผนึกมาได้ตายไปแล้
ตอนที่ 11 เขาจึงวางนางลงในอ่างน้ำนั้น นางทรงตัวไม่อยู่จึงผุดดำว่ายอยู่ในอ่าง เฉาเฟิงรีบคว้าตัวนางอย่างไว จนตัวเองพลัดตกลงไปในอ่างน้ำด้วย ทั้งสองเปี้ยกไปทั้งตัว ชีเหนียงนางยังไม่ได้สติ ยังคงดิ้นไปมามือทั้งสองข้างลูบไล้ไปตามผิวตนเองจนเนื้อตัวเเดงกร่ำ “ อือออ ฉัน ร้อน ” นางดึงปมสายรัดเอวที่ผูกชุดด้านนอกและถอดออก เผยให้เห็นชุดด้านในสีหวานที่ตอนนี้เปี้ยกน้ำจนเห็นเนื้อด้านในลางๆ เฉาเฟิงรีบตะครุบมือคนตัวเล็กด้านหน้าให้หยุดถอดชุด “ อืออ ปล่อย ” “ ชีเหนียง เจ้า ตั้ง สติหน่อย ข้าเริ่มจะทนไม่ได้แล้วนะ ” เฉาเฟิงจับตัวชีเหนียงหันหลัง และกอดนาง ไว้จนแน่นเพื่อที่นางจะได้ไม่ดิ้นดึงทึงเสื้อผ้า เพียงครู่เดียวนางก็สงบลงและคอพับไป เขาจับตัวนางหันกับมาใช้มือลูบใบหน้าเนียน ปัดปอยผมที่หลุดลงมาปิดบังใบหน้า “ เจ้านี้นะ ทำข้าเกือบทนไม่ได้ ” เขาก็อุ้มนางขึ้นจากอ่างน้ำเดินกับมายังห้องนอน ว่างนางลงบนเตียงอย่างเบามือ หันกับมาถอดเสื้อด้านนอกของตนที่เปี้ยกออก และมองไปยังร่างเล็กที่เปี้ยกโชกอยู่บนเตียง เฉาเฟิงสูดลมใจเข้าลึกจนสุด นั่งลงข้างขอบเตียงจับตัวนางพลิกถอดอาภรณ์แต่ละชั้นออกจนเหลือชั้นสุดท้าย ชั้นในผ
ตอนที่ 12"ข้าอยากเห็นแม่น้ำศักดิ์สิทธ์ พาไปหน่อยได้ไหม" "ได้" เฉาเฟิงจึงยกมือขึ้นแล้วเป่าไปที่นิ้วเสียงดัง วี๊ด !!! ชั่วครู่ไปรุ่ยก็ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้า และพาทั้งสองบินออกไปยังบริเวณแม่น้ำศักดิ์สิทธ์ แต่ไม่สามารถเข้าไปใกล้มากกว่านี้ได้ เพราะมีข่ายอาคมของเผ่าเทพขวางกั้นไว้อยู่ "ทำไมพวกเผ่าเทพต้องการครอบครองแม่น้ำศักดิ์สิทธิเพียงผู้เดียว""ข้าก็อยากรู้เหมือนเจ้านี้แหละ ระหว่างที่ข้าไม่ถูกผนึกอยู่เกิดเรื่องราวมากมาย""หรือมีสิ่งใดอยู่ในแม่น้ำนั้น" นางถามด้วยความสงสัย "ก็อาจเป็นได้ ดูพอหรือยัง ข้ามีเรื่องต้องไปทำต่อ" เฉาเฟิงเอ่ยถามคนตัวเล็ก "ก็ได้ พอแล้วก็ได้" นางตอบเขาอย่างเสียดายเพราะยังไม่อยากกลับไปที่วังปีศาจนั้นตอนนี้นางยังคงอยากเที่ยวเล่นอีกสักหน่อย (อีกฝั่งของแม่น้ำ) เทพสงครามซีฮ่าวยืนทอดมองมายังราชาปีศาจจากอีกฝั่ง แต่ข่ายอาคมบังตาจึงทำให้เฉาเฟิงและซีเหนียงมองไม่เห็นเขา "ราชาปีศาจเฉาเฟิง เจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่" เทพสงครามหนุ่มคิดขณะจับตามองพวกนั้น และสังเกตเห็นว่าที่นี้ มีข่ายอาคมของเผ่าเทพปิดกันแม่น้ำอยู่ จึงเกิดความสงสัย เพราะแท้จริงแล้วแม่น้ำแห่งนี้เป็นของเผ่าปีศาจ หรื
"แต่มีอีกเรื่อง" ซีฮ่าวเปิดบันทึกไปยังหน้าหนึ่งและยื่นให้นางดู นางมองดูอยู่ครู่หนึ่ง นิ้วเรียวค่อย ๆ ลูบไปที่ภาพนั้น""ผู้หญิงในรูปวาดนี้ดูเหมือนข้ามากเลยนะ นางคือใครเหรอ " "หญิงในรูปนางคือเทพสงครามองค์ก่อนนามว่าเยว่หมี สาเหตุที่นางดวงจิตแตกสลายเจ้าคงรู้แล้วจากที่ข้าเล่าให้ฟังเมื่อครู่ " หูยังคงฟังที่ชายหนุ่มพูด แต่ตายังมองที่รูปนั้นอย่างไม่ละสายตา "เหมือนมากจริง ๆ จนคิดว่านี้คือรูปวาดของข้า ทำไมถึงเหมือนขนาดนี้นะ " "ข้าก็คิดอยู่ว่าทำไม คนสองคนถึงเหมือนกันอย่างกับคนเดียวกันอย่างไง " ซีฮ่าวยังคงมองใบหน้านางอย่างค้นหา ไม่ว่าจะมุมไหน คิ้ว ตา จมูก ปาก รูปร่างเหมือนกันทุกส่วน "ข้าว่ามันแค่บังเอิญ สมัยนี้คนหน้าตาเหมือนกันเยอะแยะไป" นางเอ่ยกับเขาแต่ภายในใจยังคงสับสน "ข้าก็อยากจะคิดแบบนั้น แต่เรื่องนี้เอาไว้ก่อน เจ้าอยากจะไปจากที่นี้ไหม ข้าจะพาเจ้าออกไปจากเผ่าปีศาจเอง " " แล้วจะพาข้าไปไหน ถ้ากลับบ้านเฉาเฟิงก็ต้องตามจนเจออยู่ดี ที่สำคัญบรรพบุรุษของข้าทำสัญญาข้ารับใช้ของเผ่าปีศาจไว้ และตอนนี้สัญญานั้นก็ตกทอดมาที่ข้าแล้ว ข้าไม่อยากทำให้ครอบครัวเดือนร้อน " "แต่เจ้าอยู่ที่นี่ได้หรือ
ตอนที่ 38 เฉาเฟิงกลับมาถึงเผ่าปีศาจ ไป่รุ่ยจึงจัดการทำแผลให้เจ้านาย ที่เอาแต่นิ่งเงียบใบหน้าเรียบเฉย ตั้งแต่ออกมาจากเผ่าเทพแล้ว "นายท่านบาดแผลไม่ลึกมากขอรับ" "ข้ารู้แล้วเจ้าออกไปเถอะ" "ขอรับ" ชายหนุ่มตอบองค์รักษ์ด้วยน้ำเสียงเงียบเฉยที่คนฟังแล้วก็ดูออกว่า เขากำลังโศกเศร้าอยู่ ไป่รุ่ยจึงปล่อยให้เฉาเฟิงได้อยู่คนเดียวก่อน ทว่าขณะที่ออกมาจากห้องบรรทม ก็พบกับครอบครัวของชีเหนียงที่มาไถ่ถามถึงชีเหนียงด้วยความเป็นห่วง ไป่รุ่ยได้แต่อึกอักไม่กล้าที่จะตอบ จึงเกิดเสียงเอะอะขึ้น ราชาปีศาจได้ยินดังนั้น เขาก็เปิดประตูออกมา "นางปลอดภัยดี เดี๋ยวข้าจะพาไปพบนาง" (พาครอบครัวนางไปนางอาจจะจำอะไรได้) เฉาเฟิงคิดในใจ เหตุการณ์เอะอะเมื่อครู่นี้จึงสงบลง เฉาเฟิงเลยเดินไปหาหลิงเฮ่อต่อ ก็เจอกับเฟยอวี่พอดี "นายท่านหลิงเฮ่อ ฟื้นแล้วขอรับ" เฟยอวี่แจ้งเฉาเฟิงด้วยความดีใจ เฉาเฟิงได้ยินดังนั้นจึงรีบเดินให้เร็วขึ้น เมื่อเปิดประตูเข้าไป เฉาเฟิงก็เห็นคนที่พึ่งจะฟื้นยืนอยู่ จึงรีบเดินไปประคองส่งกับไปยังเตียงนอน "ท่านพี่ข้าหายแล้ว" "หายแล้วก็อย่าขยับมากเดี๋ยวแผลจะปริออกได้" "ขอรับ ข้ารู้แล
ตอนที่ 37 เผ่าเทพซีฮ่าวกลับถึงเผ่าเทพ รีบไปรายงานต่อองค์เง็กเซียนทันที ระหว่างที่กำลังจะเดินเข้าไป เทพสงครามเยวหมีนางก็เดินสวนออกมา "ท่านเทพสงครามเยว่หมี" ซีฮ่าวเอ่ยเรียกสตรีที่ดูท่าทางองอาจเบื้องหน้า นอกจากรูปร่างหน้าตา ก็คือบุคลิกที่สามารถดูออกได้ว่านางคือคนละคนกัน "เจ้าคือเทพสองครามซีฮ่าว ข้าจะไปพักที่ตำหนักเจ้า ขอตัวก่อน" นางพูดจบก็เดินกลับไปทันที ซีฮ่าวได้รายงานเรื่องราวต่าง ๆ แก่องค์เง็กเซียนทั้งหมดอย่างถี่ถ้วน รวมถึงเรื่องที่หญิงมนุษย์คนนั้นก็คือเทพสงครามเย่วหมี "นางเล่าให้ข้าฟังทุกอย่างแล้ว นางจำทุกอย่างได้แม้ตอนที่เป็นเศษเสี้ยวดวงจิต" "ขอรับ แต่หญิงคนนั้น นางคือคนรักของราชาปีศาจเฉาเฟิงขอรับ" "......" องค์เง็กเซียนไม่ได้กล่าวอันใดออกมา ได้แต่เอามือลูบเครายาวๆ และยิ้มออกมา ซีฮ่าวกลับมายังตำหนัก ได้พบกับเทพสงครามเยว่หมี จึงได้พูดคุยกัน เยว่หมีจึงได้เล่าเรื่องราวต่าง ๆ มากมายรวมถึงหลิงเฮ่อ น้องชายของราชาปีศาจที่ตามหาดวงจิตนางเพื่อปลดผนึก "แล้วตอนนี้ชีเหนียงนางตายแล้วหรือขอรับ" "นางก็อยู่นี้ไง" เยว่หมี่ใช้นิ้วชี้จิ้มมาที่ตนเอง ใบหน้าซีฮ่าวบงบอกถึงความงุน
ตอนที่ 35 "ข้ารักเจ้า" นางพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา เเล้วทุกอย่างก็มืดสนิท ชีเหนียงรู้สึกว่าตัวนางเองยืนอยู่ที่ไหนสักแห่ง มันว่างเปล่าไปหมด "นี้ข้าตายแล้วใช่ไหม" นางพูดคนเดียวแล้วทรุดเข่านั่งลงกับพื้น น้ำตาเริ่มรินไหลออกมา ไหล่บางสั่นไหวสะอื้นไห้ นึกภาพดวงตาที่แดงกร่ำของเฉาเฟิงเมื่อครู่นี้ได้ดี ท่ามกลางความเงียบในที่มืดแห่งนั้นนอกจากเสียงร่ำไห้ กับมีเสียงฝีเท้าคนเดินใกล้เข้ามา จนมาหยุดอยู่เบื้องหน้านาง ชีเหนียงค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมอง "ท่าน…" "รอข้า" สิ้นคำพูดนางทุกอย่างสว่างจ้า ร่างโชกเลือดของชีเหนียงจู่ๆ ก็ลอยขึ้นมาพร้อมปราณพลังหมุนอยู่รอบกาย บาดเเผลที่โดนแทงนั้นเริ่มจางหายไป เสื้อผ้าอาภรณ์เปลี่ยนใหม่กลายเป็นชุดประจำตัวของนาง "เทพสงครามเย่วหมี" นางชูกระบี่ขึ้นฟ้าฉับพลันเกิดสายฟ้าวิ่งไปมาอยู่ที่ปลายดาบ นางฟาดกระบี่ใส่มารทั้งสอง จนเกิดแสงสว่างวาบไปทั่ว เมื่อเเสงสว่างนั้นดับลง มารทั้งสองเจ็บปวดราวถูกทัณฑ์อัคนีสักร้อยสาย นางหันใบหน้ามาทางราชาปีศาจ "ใช้ พลังไฟโกันต์ของเจ้าเเผดเผามันให้สิ้นซาก" เฉาเฟิงไม่รอช้าปล่อยพลังไฟโลกันต์ทำลายล้างไอมารและแผดเผาจื่อหยา
ตอนที่ 36 ฮวนชินค่อยๆ ลุกเขารวบรวมพลังทั้งหมดยกกระบี่ขึ้น อาศัยจังหวะที่เฉาเฟิงกำลังต่อสู่อยู่ไม่ทันได้สังเกต พุ่งกระบี่เข้าหาเฉาเฟิงทันที "ระวัง !!" เป็นจังหวะเดียวกับที่ซีฮ่าว เห็นฮวนชินพุ่งกระบี่ไปด้วยความเร็ว เขาจึงตระโกนอย่างสุดเสียง แต่จากจุดที่ซีฮ่าวอยู่ไกลจากตรงนั้นมากนักจึงไปขวางฮวนชินไม่ทัน หลิงเฮ่อเห็นเข้าพอดีจึงรีบเอาตัวเข้ามารับกระบี่แทน กระบี่ของฮวนชินแทงทะลุอกของหลิงเฮ่อทันที เฉาเฟิงเห็นหลิงเฮ่อถูกแทงต่อหน้าต่อตา เขาตกใจเป็นอย่างมาก รีบเข้าไปรับตัวหลิงเฮ่อเอาไว้แล้วใช้ไฟโลกันต์ฟาดใส่ฮวนชินเต็ม ๆ ซีฮ่าวจึงรีบมาต่อสู่ขัดขวางมารจื่อหยางต่อ "หลิงเฮ่อ !! หลิงเฮ่อ " เฉาเฟิงประคองเรียกน้องชายไม่หยุดปาก เลือดสดๆ เริ่มไหลทะลักออกจากบาดแผล พร้อมกับสติที่ใกล้จะเลือนลาง "ท่านพี่ข้าไม่เป็นไร" น้ำเสียงแผ่วเบาที่เล็ดลอดผ่านริมฝีปากที่ปนเลือดออกมา รอยยิ้มที่อ่อนแรงลง ส่งให้พี่ชายที่ตนรักและเคารพ "เจ้าต้องไม่เป็นอะไร เชื่อพี่ " เฉาเฟิงปลอบใจหลิงเฮ่อ ขณะที่เฟยอวี่องค์รักษ์ของหลิงเฮ่อมาถึงพอดี "ดูแลน้องข้าให้ดี" เฉาเฟิงออกคำสั่งต่อเฟยอวี่ เขาลุกขึ้นยืนเตรียมตัวออกไปสู่ต่อ
ตอนที่ 34 รุ่งเช้าวันใหม่ชีเหนียง ตื่นขึ้นมาด้วยความเมื่อยขบไปทั่วร่างกายพร้อมร่องรอยรักสีกุหลาบที่ชายหนุ่มทิ้งไว้บนเนินอกอิ่มทั้งสองข้าง นางหันมองหาคนที่นอนข้าง ๆ แต่พบกับความว่างเปล่า "เขาหายไปไหนนะ นี้ยังเช้าอยู่เลย" นางลุกจากเตียงนอนชำระร่างกายจนสะอาดเลือกสวมอารมณ์ชุดใหม่สีหวานขับผิวเนียนแลดูงดงาม ชีเหนียงออกจากห้องเดินตามหาเฉาเฟิงจนมาถึงโถงว่าการ "ไปไหนนะ ไหนบอกให้ข้าอยู่ในสายตา แต่ตัวเองดันหายไป" นางเดินเข้ามาในโถงว่าการกับพบแต่ความว่างเปล่า มีทหารปีศาจเฝ้าอยู่แค่สองคน นางกำลังจะเอ่ยถาม แต่แล้วกับได้ยินเสียงฝีเท้าคนกำลังเดินเข้ามา นางจึงหันไปทางต้นเสียงนั้น "พี่ชีเหนียง" เสียงเจ้าแฝดอาฉี อาเฟย ที่กำลังเดินเข้ามาหานาง โดยด้านหลังของทั้งสองยังมีลุงเกาที่กำลังเดินมาอีกคน "ลุงเกา อาฉี อาเฟย มาได้ยังไง"ชีเหนียงเอ่ยเรียกทั้งสามคนด้วยน้ำเสียงที่มีความสุขแฝงไปด้วยความคิดถึง ทั้งสองฝ่ายเดินเข้าหากันจนถึงตัวก็กอดกันกลมและถามสารทุกข์สุขดิบตามปกติเหมือนที่เคยทำ"นี้มากันได้ยังไง""ก็สัตว์ปีศาจของพี่เฉาเฟิงไง" ชีเหนียงมองตามมือที่อาเฟยชี้ไปที่ทหารปีศาจคนหนึ่งที่พึงเดินตามหลั
ตอนที่ 33 ชีเหนียงรับสุราที่ชายหนุ่มส่งให้ ยกขึ้นดื่มอีกสองสามจอก ใบหน้าเริ่มร้อนพลาว นางพ่นลมออกทางปากดังฟู่ พร้อมกับนิ้วมือเรียวที่กำลังหยีแก้มตนเองเบาๆ ทั้งสองข้าง จนปีศาจหนุ่มที่นั่งอยู่ด้านข้างลอบขำนางอยู่เบาๆ "เจ้าเอาสุราแบบนั้นให้ข้ากินเหรอ" "แบบไหน" ปีศาจหนุ่มแกล้งทำไขสือ "ก็แบบนั้นไง" ชีเหนียงจ้องไปยังดวงตาคู่นั้น "สุราธรรมดา" "ทำไมข้ารู้สึกร้อนๆ " "เจ้าคออ่อน ไหนให้ข้าดูสิ" เฉาเฟิงจับมืทั้งสองของนางออกจากใบหน้า ใช้นิ้วหัวแม่เกลี่ยเเก้มเนียนวนไปมา แล้วมาหยุดที่ริมฝีปากจิ้มลิ้ม เขามองอย่างถูกมนต์สะกด ใบหน้าหล่อค่อยๆเอนลงไป ริมฝีปากบางก็ถูกจูบอย่างอ่อนโยน เสียงบดจูบเริ่มดังยั่วเย้าทามกลางความเงียบสงัด ทั้งสองหนุ่มสาวต่างหายใจแรงจนได้กลิ่นเคล้าสุราจางๆ พาอารมณ์เริ่มพลุกพล่าน มือใหญ่เริ่มคลำดึงเสื้อผ้าผ่อนให้หลุดออกจากร่างเล็ก ขณะเดียวกันนางก็ทำเช่นเดียวกับเขา ระยะเวลาสั้น ๆ ทั้งคู่ก็อยู่ในร่างเปลือยเปล่า ชายหนุ่มจูบหนักหน่วงและอ่อนนุ่มสลับไปมา เขาตักตวงความอ่อนหวานอย่างโหยหา ลิ้นร้อนพัวพันในโพรงปากนุ่ม มือใหญ่โอบแผ่นหลังร่างบางจนอกบดบี้อยู่ก
ตอนที่ 31 โถงว่าการ "เจ้าเองหรือ คนเผ่าเทพ" "ใช่ข้าเอง" เทพสงครามซีฮ่าวกล่าวพร้อมยื่นสารของเผ่าเทพที่องค์เง็กเซียนทรงเขียนขึ้นมาด้วยตนเอง ส่งให้ไป่รุ่ยและไป่รุ่ยก็นำไปส่งให้เฉาเฟิงต่อเฉาเฟิงเปิดอ่านดูเนื้อความข้างในสารนั้นทุกบรรทัดจนจบอย่างพินิจและตั้งใจ ราชาปีศาจเมื่ออ่านจบก็ว่างสารจากเผ่าเทพลง "ข้ารับรู้แล้ว" ราชาปีศาจกล่าวกับเทพสงครามหนุ่ม หลิงเฮ่อและคนอื่นที่อยู่ในโถงว่าการงุนงงกับเหตุการณ์นี้ และสารจากเผ่าเทพนั้น ต่างหันไปหารือกันจนเกิดเสียงดัง "เงียบ!!!!" เฉาเฟิงตวาดเสียงดังลั่นทุกคนต่างเงียบ เหตุการณ์กับมาสู่ปกติอีกครั้ง ราชาปีศาจจึงส่งสารนั้นให้ไป่รุ่ย ไป่รุ่ยรับมาอย่างรู้งานเเละเริ่มเปิดอ่านให้ทุกคนที่อยู่ในโถงว่าการได้ฟังพร้อมเพียงกัน ด้วยเสียงอันดังฟังชัด เมื่อทุกคนได้ฟังต่างก็พอจะเข้าใจถึงเนื้อหาในสารนั้นแล้ว ต่างพูดคุยเเสดงความคิดเห็นที่เห็นด้วยกับราชาปีศาจของตน และรู้สึกดีต่อคำขอโทษของคนเผ่าเทพ แต่ที่สำคัญที่สุดเพราะราชาปีศาจของตนยินดีที่จะให้อภัย ทุกคนเลยเห็นงามด้วย เพราะที่ผ่านมาเกิดสงครามและความยัดแย้งมาตลอดซึ่งมันก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประช
"ซี๊ด…. ชีเหนียงเจ้า.." ชีเหนียวใช้มือที่ลูบใบหน้าชายหนุ่ม เลือนมารั้งตรงท้ายทอยเขาเเล้ว นางประกบปากลงจูบชายหนุ่มอย่างเร่าร้อน ส่งลิ้นเรียวเล็กเข้าไปสำรวจช่องปากเขา โดยที่มืออีกข้างก็ยังไม่ลืมหน้าที่ปลุกเร้าอารมณ์ จากลูบเร่าผ่านอาภรณ์ ตอนนี้เลือนมือลวงเข้าไปผ่านกางเกงชายหนุ่ม สัมผัสกับท่อนเนื้อลำใหญ่แข็งเต็มที่ ขนาดที่มือเล็กแทบจะกอบกำไม่รอบ นางผละจูบออกอย่างอ่อยอิ่ง ริมฝีปากจิ้มลิ้มโลมเล็มไปตามกรอบหน้าจนถึงใบหู สร้างความเสียวซ่านทั้งช่วงบนและล่างให้ชายหนุ่ม "ข้าก็คิดถึงเจ้า" นางกระซิบเสียงเเห่บพล่า ที่ใบหูจนชายหนุ่มขนลุกซู่กับเสียงของนาง ชายหนุ่มเอนหลังลงเล็กน้อยสองมือวางท้าวไปบนที่นอน ใบหน้าสวยเลือนลงมาหยุดอยู่ตรงแผ่นอก นางเริ่มขบเม้นไล่ลงมาเรื่อย จนใบหน้าอยู่ตรงกลางหว่างขา เฉาเฟิงแยกขาออกเพื่อให้นางนั่งได้ถนัดขึ้น ชีเหนียงมองแท่งร้อน ที่อยู่ไม่ไกลจากใบหน้ามีน้ำใสไหลเยิ้มที่ปลายหัวหยก มือเรียวค่อยๆ กอบกำจนเต็มทั้งสองมือ นางใช้นิ้วหัวแม่มือถูวน ที่ปลายหัวหยกนั้น เฉาเฟิงเงยหน้าพลูลมหายใจแรง เขารู้สึกวาบหวิวเสียวที่ปลายหัวหยก จนอยากจะร้องครางออกมา นางขยับใบหน้าให้ใกล้มากขึ้น
ตอนที่ 30 หลายวันผ่านไป ชีเหนียงเจอหลิงเฮ่อ ที่มายืนอยู่หน้าห้องบรรมทม ของเฉาเฟิงทุกวัน และวันนี้ก็เช่นกัน "ทำไมเจ้าไม่เข้าไปล่ะ" ชีเหนียงเอ่ยถามขณะที่ยืนอยู่ด้านหลัง หลิงเอ่อจึงหันกับมา "ไม่หรอก ข้าแค่อยากรู้ว่าท่านพี่หายดีหรือยัง" "เจ้าก็เข้าไปดูเองสิ แล้วในมือเจ้าถืออะไรอยู่" "เอ่อ… ยาทาแผลที่ข้าทำเอง มันช่วยให้รู้สึกเย็นสบายและไม่เป็นแผลเป็น" "อ๋อ…เอายาทามาให้พี่เจ้านี่เอง" ชีเหนียงจงใจพูดให้เสียงดังขึ้น เพื่อให้คนในห้องได้ยิน "อาซ้อ เบาหน่อย" หลิงเฮ่อพยายามคุมเสียงให้เบาที่สุด โดยที่คู่สนทนาอีกคนยืนยิ้มแฉ่ง ไม่สนอาการรนรานของคนตรงหน้า "เจ้าทั้งสองคนน่ะ เข้ามาได้แล้ว" เสียงเฉาเฟิงเอ่ยขึ้น จนได้ยินออกมาด้านนอก หลิงเฮ่อยังคงยืนนิ่งทำตัวไม่ถูก "ยืนงงอ่ะไร เข้าไปเถอะอยากพูดอะไรก็พูดเลย" ชีเหนียงดันหลิงเฮ่อเเละผลักประตูให้เดินเข้าไป เมื่อหลิงเฮ่ออยู่ต่อหน้าเฉาเฟิง คร่านี้เขากับยืนนิ่ง ไม่กล้าสบตา ไม่พูดจากวน ๆ เหมือนครั้งก่อน ๆ ยืนเอามือกุมขวดยาเอาไว้ "แผลเจ้าหายดีแล้วหรือ" เฉาเฟิงเอ่อถามหลิงเฮ่อ และมองดูอาการด้วยสายตาที่