นรินทร์
หลังจากวันนั้นวันที่ผมเจอกับคีย์ที่ข้างสระบัวและได้รับรู้ว่าผมได้เขาได้เป็นสายรหัสกัน ในตอนนี้วันเวลาก็พัดผ่านมาจะสามเดือนแล้ว ตลอดระยะเวลาสองสามเดือนที่ผ่านมาชีวิตอันสงบสุขของผมก็ได้ปั่นป่วนเป็นอย่างมาก เดิมทีชีวิตของผมก็มีอีพี่ต้นพี่รหัสของผมค่อยกวนวอแวอยู่แล้วแต่พอมีอีตาเด็กคีย์เข้ามาชีวิตในรั้วมหาลัยของผมก็ปั่นป่วนมากกว่าเดิม ทุกคนคงสงสัยใช่มั้ยว่ามันปั่นป่วนยังไง ก็ปั่นป่วนอย่างนี้ไง
ณ.เวลา12:05นาที
"สวัสดีครับพี่ลินคนสวย"เสียงทุ้มใสดังขึ้นในเวลาเดิมของทุกวัน ในเวลาใกล้ๆกันแบบนี้ของทุกวันผมมักจะได้ยินประโยคทักทายแบบนี้จากเรียวตะที่เป็นเพื่อนชายคนสนิทของน้องรหัสอันหล่อเหล่าของผมเป็นประจำ จนผมนั้นไม่รู้จะจัดการกับสองคนนี้ยังไงแล้วเพราะไม่ว่าผมจะหนีไปหลบที่ไหนหรือตรงส่วนไหนของคณะสองคนนี้ก็มักจะหาผมเจออยู่เสมอ
"อ่าาาสวัสดีเรียว แต่ถ้าจะให้ดีช่วยเปลี่ยนจากการทักว่าคนสวยเป็นคนหล่อให้กันได้มั้ย"ผมเอ่ยทักทายเรียวพลางหันไปมองยังที่นั่งด้านข้างที่ผมใช้ในการวางกระเป๋าเป้ของผมแต่ตอนนี้กระเป๋าเป้ใบสวยของผมได้โดนมือหนาของคีย์คว้ามาวางไว้บนโต๊ะแล้ว แล้วเจ้าตัวก็หย่อนก้นนั่งลงแทนที่กระเป๋าของผมแทน
ผมที่เห็นคนตัวสูงทำแบบนั้นก็ได้แต่มองคีย์ตาปริบๆอย่างไม่เข้าใจเพราะที่นั่งตรงอื่นก็ว่างมากมาย ที่ฝั่งตรงข้ามเก้าอี้ข้างๆที่เรียวนั่งอยู่ก็ยังว่างเหมือนกัน แต่ทำไมน้องรหัสของผมถึงทำตัวให้ยุ่งยากอย่างการมาย้ายกระเป๋าของผมออกไปวางไว้ที่อื่นด้วย
อะไรของหมอนี้กัน
"คีย์ที่ข้างๆกูก็ว่างนะ"เรียวเอ่ยพูดขึ้นพร้อมกับใช้มือหนาของตัวเองตบลงยังพื้นที่ที่ว่างด้านข้างของตัวเอง แต่แล้วเรียวตะก็ต้องแค้นหัวเราะในลำคอ เมื่อได้คำตอบจากเพื่อนสติของตัวเองที่มักจะตีหน้านิ่งๆใส่เขา
"กูจะนั่งตรงไหนก็เรื่องของกู อย่าเสือก"
"หึหึ ครับบบบๆๆ"
ผมได้แต่นั่งทำหน้างุนงงแหงนมองหน้าของรุ่นน้องชายทั้งสองสลับไปมา ก่อนที่คิ้วสวยของผมจะขมวดเข้าหากันแทบจะเป็นปมเมื่อน้องรหัสตัวสูงข้างกายเอ่ยพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงนิ่งๆเหมือนอย่างทุกวันที่ผ่านมาพลางในใจของผมก็คิดไปด้วย
"เลี้ยงข้าวเที่ยงหน่อย"
อีกแล้ว! มาหาทีไรก็บอกให้ผมเลี้ยงข้าวตลอด แต่พอกินเสร็จก็ชิ่งไปจ่ายก่อนผมเสมอ
แล้วจะมาขอให้ผมเลี้ยงทำไมกัน!
"ไปกินกับเรียวแค่สองคนไม่ได้หรือไง วันนี้พี่ไม่ว่าง มีงานที่ต้องทำส่งอาจารย์เยอะ"ผมเอ่ยถามพลางเอ่ยบอกให้คนที่นั่งอยู่ข้างกายผมในตอนนี้ไปกินข้าวกับเพื่อนแค่สองคนเพราะวันนี้อาจารย์สั่งงานผมเยอะจริงๆ แต่ทว่าชายหนุ่มตัวสูงใบหน้าตี๋กลับทำเพียงนั่งเงียบไม่มีพูดไม่จาและจ้องมองมาที่ผมนิ่งๆไม่ละสายตาไปทางไหน จนผมที่จ้องสบตากับนัยน์ตาคมต้องถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่และเบือนหน้าหลบสายตานั้นแทน
"ไปกินข้าวกับพวกผมสองคนเถอะพี่ลิน ไม่งั้นไอ้คีย์มันก็คงจะนั่งจ้องกดดันพี่อยู่แบบนี้จนกว่าพี่จะยอมลุกไปกินข้าวกับมันเหมือนทุกครั้งอ่ะ"เรียวตะเอ่ยพูดอธิบายขึ้นพลางเท้าแขนทั้งสองข้างกับโต๊ะแล้วยันใบหน้าตี๋กับฝ่ามือใหญ่ของตัวเองจ้องมองมาที่ผมอีกคนเพื่อเป็นการกดดันอ่างนัยน์ๆ
เฮ่ออออชาติที่แล้วผมไปทำบาปทำกรรมอะไรไว้นะ ทำไมชาตินี้สวรรค์ถึงส่งให้ผมมาเจอกับสองคนนี้
"เฮ่อออวันนี้ไม่ได้จริงๆ พี่ต้องทำงานส่งอาจารย์ให้ทันตอน4โมงเย็นนี้ คีย์ไปกินข้าวกับเรียวแค่สองคนเถอะนะ"ผมถอนหายใจยาวพร้อมกับเงยหน้าไปเอ่ยอธิบายกับคีย์ด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล พลางนัยน์ตาสวยของผมก็จ้องมองดวงตาคมของคีย์อย่างอ้อนวอน จนคีย์ที่ดูจะทนไม่ไหวล่ะสายตาหันไปมองทางอื่นแทน
"เดี๋ยวช่วย"คีย์เอ่ยพูดขึ้นมาอย่างนิ่งๆพลางมือหนาของคีย์ก็ถือวิสาสะเอื้อมไปหยิบกระเป๋าเป้ของผมมารูดซิปเปิดแล้วค้นเอาหนังสือและของทั้งหมดที่มีในนั้นออกมากองกับโต๊ะ
เห้ยยยยอะไรของเด็กคนนี้เนี่ยยยย
ผมได้แต่คิดในใจพลางจ้องมองคีย์ที่กำลังนั่งเปิดหนังสือต่างๆที่ผมพกมาเรียนด้วยอย่างอึ้งตกใจ ก่อนที่จะได้สติเมื่อคีย์หันมาเอ่ยถามว่างานที่ต้องส่งอาจารย์ที่ว่านั้นคืออะไรและต้องทำวิชาไหนบ้าง
"งานที่จะทำส่งอาจารย์คือวิชาไหนหน้าไหนบ้าง"ผมได้แต่ชี้นิ้วไปยังหนังสือเล่มที่อยู่ใกล้มือคีย์ที่สุดพร้อมกับเอ่ยห้ามคีย์และบอกว่าเดี๋ยวผมทำเอง แต่สุดท้ายผมก็สู้ความดื้อดึงของเด็กคนนี้ไม่ได้ ได้แต่ถอนหายใจและปล่อยให้เด็กสองคนนี้ช่วยทำงานของผมไป ใช่ครับพวกคุณอ่านไม่ผิดหรอก เพราะน้องรหัสของผมเขายัดเยียดงานของผมให้เพื่อนสนิทของเขาทำด้วย
เวลาผ่านไปได้ชั่วโมงครึ่งงานต่างๆที่อาจารย์สั่งให้นักศึกษาอย่างผมทำให้เสร็จก่อนสี่โมงเย็นก็มากองรวมอยู่ตรงหน้าของผมด้วยฝีมือของเด็กปีหนึ่งทั้งสองคนที่ช่วยกันปั่นช่วยผม ผมนั่งเช็กงานที่คีย์และเรียวตะช่วยผมทำอยู่สักพัก ก่อนที่ผมจะระบายยิ้มกว้างอย่างดีใจเพราะงานที่ผมคิดว่าคงจะทำส่งไม่ทันเวลาที่อาจารย์สั่งแน่ๆดันเสร็จก่อนเวลาที่อาจารย์กำหนด
"ขอบคุณคีย์กับเรียวตะมากนะที่ช่วยพี่ปั่นงานจนเสร็จก่อนเวลาที่อาจารย์กำหนดแบบนี้"ผมเอ่ยขอบคุณชายหนุ่มรุ่นน้องทั้งสองอย่างยิ้มๆ ก่อนที่จะหันมาเก็บข้าวของเข้ากระเป๋าเป้ของตัวเองโดยมีคีย์ช่วยเก็บ
"อ่าาาไม่เป็นไรครับพี่ลิน ผมเต็มใจ ถึงแม้ในใจลึกๆแล้วผมจะโดนสายตาของไอ้คีย์บังคับก็เถอะ"เรียวตะเอ่ยพูดขึ้นพลางหัวเราะออกมาเบาๆ
ผมที่ได้ยินเรียวตะเอ่ยพูดแบบนั้นก็ได้แต่หันไปยิ้มเจือๆให้กับเพื่อนสนิทของน้องรหัสของผม ก่อนที่จะหันมามองคนตัวสูงข้างกายที่อยู่ๆก็เอ่ยพูดขึ้นหลังจากนั่งเงียบอยู่นาน
"หิว เลี้ยงข้าวหน่อยลิน"คีย์เอ่ยพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงนิ่งๆอีกครั้งหลังจากนั่งเงียบมานานนับชั่วโมง ผมที่ได้ยินก็ได้แต่หันไปจ้องมองคนข้างกายพลางขมวดคิ้วเข้าหากันแทบจะเป็นปม เพราะตั้งแต่รู้จักกับคีย์มาผมก็ไม่เคยเห็นคนตัวสูงข้างกายของผมในตอนเรียกผมว่าพี่อีกเลยนอกจากครั้งแรกที่เจอกันที่สระบัว
"เอ่อโอเคเดี๋ยวพี่เลี้ยงนะ แต่พี่ขอไปส่งงานให้อาจารย์ก่อนได้มั้ยแล้วเราค่อยไปกินข้าวกัน เออจริงสิว่าแต่คีย์กับเรียวไม่มีเรียนช่วงบ่ายหรอนี้มันจะบ่ายสองแล้วนะ พี่เองก็ลืมถามเลยมัวแต่ปั่นงานของตัวเอง"ผมที่พึ่งนึกขึ้นได้ จึงหันไปถามชายรุ่นน้องทั้งสองว่าเขาทั้งสองนั้นไม่มีเรียนในช่วงบ่ายหรือไงกันเพราะในเวลานี้มันจะบ่ายสองแล้ว
"ไม่มี ช่วงบ่ายอาจารย์เขายกคลาส"คีย์เอ่ยตอบผมขึ้นมานิ่งๆพลางดันตัวลุกออกจากเก้าอี้แล้วแย่งกระเป๋าเป้ในมือของผมที่นั่งชิบหายไปสะพายไว้เอง ส่วนเรียวตะที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามก็ได้แต่นั่งอึ้งและทำสีหน้างงๆส่งมาให้ผมกับคีย์
ผมเองก็ไม่เข้าใจสีหน้าที่เรียวตะมองมาเหมือนกันว่าทำไมเขาถึงได้ทำสีหน้างงงวยแบบนั้นมองมาที่ผมกับคีย์ จนท้ายที่สุดหลังจากที่ผมไปส่งงานที่โต๊ะอาจารย์เสร็จผมถึงได้มารู้ทีหลังในตอนที่เราทั้งสามคนขึ้นมานั่งบนรถจากปากของเรียวตะ ว่าอาจารย์ของรุ่นน้องและน้องรหัสของผมนั้นไม่ได้ยกคลาสในช่วงบ่ายเลย เป็นคีย์เองที่ไม่ยอมเข้าเรียนแล้วมาช่วยผมปั่นงานจนเสร็จ ก่อนที่จะให้ผมพาไปเลี้ยงข้าวแบบนี้
พูดใหเขาใจง่ายๆคือ น้องรหัสตัวดีของผมจะโดดคลาสเรียนเพื่อให้ผมเลี้ยงข้าวยังไงล่ะ
"คือกูสงสัยมาสักพักแล้วคีย์ อาจารย์ยกคลาสตอนไหนวะ ทำไมกูเข้าไปดูในกลุ่มแล้วไม่เห็นอาจารย์ท่านแจ้งอะไรเลยวะ"เรียวตะที่นั่งอยู่เบาะด้านหลังเอ่ยถามขึ้นอย่างสงสัยพร้อมกับยื่นมือถือที่แสดงหน้าช่องแชทกลุ่มมาให้คีย์ที่เป็นสารถีคนขับรถดู ซึ่งผมที่ได้เรียวตะพูดขึ้นมาแบบนั้นก็พลันขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างไม่เข้าใจและหันหน้ามองรุ่นน้องทั้งสองด้วยใบหน้าสงสัย
"พูดมาก จะไปกินมั้ยข้าวหรือมึงจะไปเรียนถ้าจะไปเรียนก็ลงจากรถไป"คีย์หันไปเอ่ยพูดกับเรียวตะด้วยสีหน้าที่เบื่อหน่ายพร้อมทั้งดันมือของเรียวตะที่จ่อมือถือมาด้านหน้าออกอย่างไม่แยแส ก่อนที่จะหันมามองผมแป๊บหนึ่งแล้วหันกลับไปถอดสายตามองทางด้านหน้าต่อโดยที่ไม่ได้เอ่ยพูดอะไรอีก
ส่วนเรียวที่ได้ยินเพื่อนตอบมาแบบนั้นก็เป็นอันเข้าใจว่าเพื่อนของตนนั้นจะโดดเรียนเพื่อไปกินข้าวกับรุ่นพี่ตัวเล็กที่นั่งอยู่ด้านข้างคนขับในตอนนี้ จึงได้แต่ส่ายหน้าไปมาแล้วกลับไปนั่งเอนหลังยังเบาะหลังดังเดิม และนลินที่พึ่งจะเข้าใจทุกอย่างว่าแท้จริงแล้วคนตัวสูงที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยรถในตอนนี้คงจะโดดเรียนโดยที่ไม่ได้ปรึกษาเพื่อนเป็นแน่ จึงได้แต่ถอนหายใจออกมาปลงๆกับความดื้อรั้นของน้องรหัสตนเอง ก่อนที่จะเอ่ยตักเตือนขึ้นมา
"ครั้งหน้าไม่ทำแบบนี้นะคีย์ อย่าโดดเรียนโดยที่ไม่จำเป็นสิ"
"ก็ไม่ได้อยากจะโดดหรอก แต่ลินไม่ยอมไปเลี้ยงข้าวผมเองแถมอีกอย่างเนื้อหาเรื่องที่อาจารย์แกสอนผมก็เข้าใจหมดแล้วไปนั่งเรียนก็มีแต่เบื่อกับเบื่อ"คียเอ่ยพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสบายๆพลางนัยน์ตาคมก็ถอดมองตรงไปยังถนนด้านหน้าไม่ได้หันมามองนลิน
"เฮ่ออออสรุปคือพี่ผิดใช่มั้ยที่ไม่ยอมไปกินข้าวกับคีย์จนทำให้ให้คีย์พาเพื่อนโดดเรียนแบบนี้"นลินถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนที่ใบหน้าเล็กจะส่ายไปส่ายมาอย่างปลงๆ
"ผมไม่ได้บอกว่าลินผิดสักหน่อย ผมแค่บอกว่าเนื้อหาที่อาจารย์จะสอนในวันนี้ผมเข้าใจหมดแล้วต่างหาก"คีย์เอ่ยตอบขึ้นพลางหันมาจ้องมองนัยน์ตาสวยที่มองมายังตนหลังจากจอดติดไฟแดง แต่แล้วฐิระเชษฐ์ต้องรู้สึกหงุดหงิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อเพื่อนชายคนสนิทอย่างเรียวตะเอ่ยขัดขึ้นมาอีกรอบ
"แต่กูยังไม่เข้าใจนะคีย์"
"นั่งเงียบๆ มึงจะตายหรือไงเรียว หรือต้องให้กูส่งมึงกลับไปเรียนที่ญี่ปุ่นห๊ะ"
ฐิระเชษฐ์หลังจากวันนั้นวันที่ผมพาไอ้เรียวตะโดดเรียนเพื่ออยู่ช่วยคนตัวเล็กที่เป็นพี่รหัสของผมปั่นงานจนเสร็จทันก่อนเวลาที่อาจารย์กำหนดไว้ในการส่ง ในตอนนี้เวลาก็ผ่านมาสองเดือนแล้ว ผมในตอนนี้ก็ยังคงทำเหมือนเดิมอยู่ทุกวัน คือคอยตามเฝ้ามองและคอยชวนนลินพี่รหัสของผมไปกินข้าวเที่ยงด้วยทุกวันเฉพาะวันที่นลินมีเรียนน่ะนะ ถ้าวันไหนนลินไม่มีเรียนผมก็จะคอยทักหาและโทรคุยเอาเป็นระยะๆ เพราะเคยชวนคนตัวเล็กออกมาเที่ยวข้างนอกในวันหยุดด้วยแล้วผลปรากฏว่าโดนปฏิเสธไปตามระเบียบครับจริงสิทุกคนอาจจะสงสัยว่าผมรู้ได้ยังไงว่านลินอยู่ที่ไหนหรือเรียนอะไรอยู่ หึ ก็ผมมีตารางเรียนของคนตัวเล็กยังไงล่ะ ถึงได้รู้ว่าเวลานี้หรือเวลาไหนนลินอยู่ตรงส่วนไหนของมหาวิทยาลัยผมถึงได้ตามถูกอยู่ตลอดเวลาเล่ามาถึงตรงนี้ทุกคนคงจะมองว่าผมบ้าใช่มั้ยที่คอยตามเฝ้าพี่รหัสของตัวเองอย
บทนำ"พี่คีย์ เขาคนนี้เป็นใคร...ทำไม ทำไมพี่คีย์ถึงมายืนกอดกับเขา"เสียงใสเอ่ยถามแฟนหนุ่มรุ่นน้องที่มักจะให้ตัวเขาเอ่ยเรียกว่าพี่อยู่เป็นประจำด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ พลางนัยน์ตากลมโตก็จ้องมองภาพของชายหนุ่มตัวสูงที่เป็นคนรักของตัวเองยืนกอดกลมเกลียวกับผู้หญิงคนอื่นอยู่ภายในห้องพักของพวกเขาทั้งสองที่ใช้อาศัยอยู่ด้วยกันมานานเกือบจะสามปีพลันในหัวก็เกิดคำถามขึ้นว่านี้มันเรื่องบ้าอะไรกัน ทำไมเขาถึงได้เปิดประตูห้องมาเจอแฟนของเขาที่คบกันมานานนับสามปียืนกอดกับผู้หญิงคนอื่นอยู่ภายในห้องพักของพวกเขา"นลิน พี่ต้องกลับไปที่ญี่ปุ่นแล้วนะ"เสียงทุ้มเข้มของแฟนหนุ่มที่เด็กกว่าหนึ่งปีเอ่ยพึมพำขึ้นมาเสียงเบา พลางใบหน้าหล่อเหล่าก็ก้มมองพื้นห้องไม่ได้ชายตาขึ้นมาจ้องมองคนที่ขึ้นชื่อว่าแฟนอย่างนลินเลยว่าตอนนี้ใบหน้าสวยนั้นได้อาบไปด้วยน้ำสีใสแล้ว"กลับไปกับเขาคนนี้น่ะหรอ กลับไปกับผู้หญิงคนนี้น่ะหรอพี่คีย์"นรินทร์เอ่ยถามคนรักขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาพลางในใจก็พยายามข่มอารมณ์ที่กำลังคุกรุ่นและความเสียใจที่เริ่มจะปะทุขึ้นไว้ภายในใจ"ครับพี่ต้องกลับไปกับเขา"คีย์ยังคงเอ่ยตอบนลินโดยที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองหรือสบตา เ
ณ.ร้านK.linเบเกอรี่เวลา15:34นาที"นลินทำไมแกยังอยู่ที่ร้านอยู่เนี่ย นี่มันบ่ายสามกว่าแล้วนะทำไมยังไม่ออกไปรับคิริน"เพื่อนสาวที่ชื่อยิ้มหวานเอ่ยถามเพื่อนสนิทตัวเล็กขึ้นอย่างตกใจ เมื่อเจ้าตัวที่ตรงดิ่งจากบ้านมาเพื่อจะมาเฝ้าร้านแทนกลับเปิดประตูร้านเข้าเจอเพื่อนตัวเล็กเจ้าของร้านยังคงยืนสาละวนยุ่งอยู่กับขนมหวานข้างๆพนักงานชายอีกคนแทนที่ในตอนนี้เพื่อนของเขาควรจะถึงกลางทางในการไปรับลูกชายที่โรงเรียนที่อยู่ห่างจากร้าน10กว่ากิโลเมตรแล้ว"เห๊ยยยลินลืมดูเวลาเลยหวาน ตายๆทำไงดีต้องไปรับคิรินสายแน่ๆ"นลินร้องขึ้นอย่างตกใจในทันทีที่ได้ยินเพื่อนสาวเอ่ยทักบอกเวลา พลางร่างบางก็รีบถอดผ้ากันเปื้อนออกจากตัวและรีบคว้าเอากุญแจรถและสิ่งของสำคัญ ก่อนที่จะรีบกุรีกุจอนออกจากร้านไปโดยมีเสียงของหญิงสาวเพื่อนสนิทอย่างยิ้มหวานตะโกนเตือนไล่หลัง"รีบได้แต่ก็ต้องขับรถอย่างระวังนะนลิน..."...เวลา15:55นาที"ให้ตายเถอะนลิน ทำไมถึงได้ละเลยแบบนี้"นรินทร์สถบด่าตัวเองออกมาเบาๆพลางนิ้วเรียวงามก็เคาะลงกับพวงมาลัยรถอย่างคนร้อนใจ ภายในใจก็พลันร้อนหงุดหงิดภาวนาให้ไฟจราจรเปลี่ยนเป็นสีเขียวเร็วๆ เพราะตอนนี้ตัวเขานั้นจอดติดไฟแดง
ฐิระเชษฐ์สวัสดีครับผมชื่อฐิระเชษฐ์หรือจะเรียกผมสั้นๆว่าคีย์ก็ได้ ทุกคนคงงงว่าผมเป็นใครทำไมถึงได้มาพูดคุยกับทุกคนในตอนนี้ เออนั้นสิ!ทำไมผมต้องมายืนแนะนำตัวหรือพูดคุยกับพวกคุยกลางห้างแบบนี้ด้วย(ใจเย็นคีย์ใจเย็นทุกคนที่แกว่าคือนักอ่านของฉัน)อ๋อหรอโทษๆๆ งั้นเอาเป็นว่าแนะนำตัวจนรู้จักกันมาพอสมควรแล้ว ต่อไปก็กลับเข้าเรื่องเลยแล้วกันฐิระเชษฐ์ที่นัดแนะกับลูกค้ามาพูดคุยตกลงเกี่ยวกับสัญญากันที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง เมื่อถึงเวลาก็ได้มานั่งพูดคุยกันอยู่ที่ร้านอาหารที่นัดกันไว้ พอตกลงกันเรียบร้อยคีย์ก็ได้นั่งทานข้าวกับลูกค้าต่ออยู่พักใหญ่ๆหลังจากทานข้าวและพูดคุยกันนิดหน่อยก็ได้เอ่ยลาและแยกย้ายกันกลับ แต่แล้วคีย์ที่แยกย้ายกับลูกค้าและได้มายืนรอคนขับรถอยู่ที่จุดนัดไว้กับคุณลุงคนขับรถอยู่นานคุณลุงคนขับก็ยังไม่มาสักทีก็เริ่มรู้สึกอารมณ์เสียเล็กน้อยที่คุณลุงคนขับยังไม่มาสักที จนต้องเดินกลับเข้ามาในห้างอีกครั้งแล้วเดินไปเดินมาอยู่ภายในห้างสรรพสินค้าพักใหญ่ๆ ก่อนที่คีย์จะหยุดเดินแล้วล้วงเอาโทรศัพท์มือถือที่สั่นเป็นเจ้าเข้าในกระเป๋ากางเกงของเขาออกมาดูแล้วกดรับสาย เมื่อเห็นว่าคนที่โทรเข้ามาคือคนขับรถขอ
นรินทร์นรินทร์ที่จัดการทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำเสร็จเรียบร้อยก็รีบเดินกลับไปหาลูกน้อยที่ร้านไอศกรีม แต่แล้วนลินต้องเบิกตากว้างอย่างตกใจเมื่อเขาเดินกลับเข้ามาในร้านแล้วไม่พบเด็กตัวน้อยที่เขาสั่งให้นั่งรออยู่ที่โต๊ะไม่ให้ไปซนที่ไหนหายไป ตอนนี้เขาพบแต่ถ้วยไอศกรีมที่ลูกน้อยของเขากินไปได้เพียงครึ่งเท่านั้นแล้วคิรินล่ะ ลูกชายของเขาไปไหนนลินหันซ้ายหันขวามองรอบๆร้าน ในใจลึกๆก็หวังว่าลูกชายตัวน้อยของเขานั้นแค่จะวิ่งเล่นอยู่ตรงไหนสักส่วนภายในร้านแต่ไม่ว่านัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนของเขาจะมองจนทั่วร้านแล้วก็ไม่พบเงาของลูกชายตัวน้อยของเขาเลยแม้แต่น้อย เมื่อไม่เห็นลูกน้อยภายในใจของนลินก็ก่อเกิดความรู้สึกร้อนรนและเป็นกังวลเป็นอย่างมากพลางรอบๆดวงกลมก็เริ่มจะมีน้ำสีใสเอ่อนองขึ้นมาคิรินลูกอยู่ที่ไหน"ขอโทษนะครับไม่ทราบว่าเห็นเด็กผู้ชายที่นั่งอยู่โต๊ะนั้นมั้ยครับ"เสียงใสเอ่ยถามพนักงานด้วยน้ำเสียงสั่นเครือพลางนิ้วเรียวสวยก็ชี้ไปยังโต๊ะที่ตัวเขากับลูกน้อยเคยนั่ง แต่แล้วใบหน้าหวานต้องแสดงความผิดหวังออกมาเมื่อได้คำตอบจากพนักงานเป็นการส่ายหน้าปฏิเสธมือบางยกขึ้นมาปาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มอย่างลวกๆ ก่อนที่เท้าเล็กทั้
ฐิระเชษฐ์ผมยืนมองร่างบางตรงหน้าที่ยืนอุ้มเด็กชายตัวน้อยไว้ในอ้อมแขนแน่นพลางนัยน์ตากลมสวยก็จ้องมองมาที่ผมด้วยดวงตาแดงก่ำพลันในหัวก็พลางนึกคิดตามประโยคคำพูดของนลินนั้นสิ มันก็จริงอย่างที่คนตรงหน้าของเขาพูดว่ามันจะมีประโยชน์อะไรที่เขาจะมาเอ่ยถามสารทุกข์สุกดิบเอาตอนนี้ ในเมื่อเขาเป็นคนจากและทิ้งคนตัวเล็กตรงหน้าในตอนนี้ไปโดยที่เขานั้นไม่ได้อธิบายอะไรให้ร่างบางฟังเลยสักนิด"ขอโทษ....."ผมก้มหน้าหลบสายตาของนลินพลางเอ่ยขอโทษออกมาเสียงเบา ผมไม่รู้ว่าตอนนี้นลินทำสีหน้าแบบไหนและตอนนี้ร่างบางตรงหน้าของผมกำลังคิดอะไรอยู่ ในตอนนี้ผมแค่อยากจะเอ่ยขอโทษ ขอโทษที่ผมทิ้งเขาไปขอโทษที่ผมทำเขาเสียใจและขอโทษที่ผมผิดคำสัญญาที่ให้กับเขาไว้ในตอนคบกันว่าผมจะไม่มีทางทิ้งเขาหรือทำผิดต่อเขาขอโทษลิน คีย์ขอโทษที่ทำผิดสัญญา
"ยิ้มเขากลับมาแล้ว เขาคนนั้นกลับมาจากญี่ปุ่นแล้ว"ย้อนกลับไปเมื่อ9ปีก่อน"ลินนนน นลินนนนไอ้ลินหยุดเดินนะโว้ยยยยย"เสียงร้องตะโกนของชายหนุ่มตัวสูงรุ่นพี่ปีสามดังขึ้นท่ามกลางลานกว้างทำให้เด็กปีหนึ่งคณะบริหารที่ถูกเรียกมารวมตัวกันหันมามองยังรุ่นพี่ชายทั้งสองที่คนหนึ่งวิ่งตามหลังตะโกนเรียกเสียงดังลั่นส่วนอีกคนก็เดินหนีไม่ยอมหยุด"พี่ต้นเลิกยุ่งกับลินดิ๊! ลินบอกแล้วว่าลินไม่ทำๆๆ พี่พูดไม่รู้เรื่องหรือไงวะ! เห้ยยยโอ๊ยยยยย"นรินทร์หันมาเอ่ยพูดกับพี่รหัสของตัวเองอ่างหัวเสียที่สองสามวันนี้ตามตื๊อให้เขานั้นไปเป็นแบบในการถ่ายภาพไปทำโปรเจคอะไรสักอย่างพลางหยุดเท้าอย่างกะทันหันและด้วยความที่นลินหยุดเดินกะทันหันทำให้ต้นที่เป็นพี่รหัสของนลินหยุดเท้าไว้ไม่ทันเดินชนนลินเข้าจังๆจนนลินล้มก้นกระแทกพื้นอย่างแรง"เห้ยยยลินพี่ขอโทษ ลินเจ็บมากมั
ฐิระเชษฐ์หลังจากวันนั้นวันที่ผมพาไอ้เรียวตะโดดเรียนเพื่ออยู่ช่วยคนตัวเล็กที่เป็นพี่รหัสของผมปั่นงานจนเสร็จทันก่อนเวลาที่อาจารย์กำหนดไว้ในการส่ง ในตอนนี้เวลาก็ผ่านมาสองเดือนแล้ว ผมในตอนนี้ก็ยังคงทำเหมือนเดิมอยู่ทุกวัน คือคอยตามเฝ้ามองและคอยชวนนลินพี่รหัสของผมไปกินข้าวเที่ยงด้วยทุกวันเฉพาะวันที่นลินมีเรียนน่ะนะ ถ้าวันไหนนลินไม่มีเรียนผมก็จะคอยทักหาและโทรคุยเอาเป็นระยะๆ เพราะเคยชวนคนตัวเล็กออกมาเที่ยวข้างนอกในวันหยุดด้วยแล้วผลปรากฏว่าโดนปฏิเสธไปตามระเบียบครับจริงสิทุกคนอาจจะสงสัยว่าผมรู้ได้ยังไงว่านลินอยู่ที่ไหนหรือเรียนอะไรอยู่ หึ ก็ผมมีตารางเรียนของคนตัวเล็กยังไงล่ะ ถึงได้รู้ว่าเวลานี้หรือเวลาไหนนลินอยู่ตรงส่วนไหนของมหาวิทยาลัยผมถึงได้ตามถูกอยู่ตลอดเวลาเล่ามาถึงตรงนี้ทุกคนคงจะมองว่าผมบ้าใช่มั้ยที่คอยตามเฝ้าพี่รหัสของตัวเองอย
นรินทร์หลังจากวันนั้นวันที่ผมเจอกับคีย์ที่ข้างสระบัวและได้รับรู้ว่าผมได้เขาได้เป็นสายรหัสกัน ในตอนนี้วันเวลาก็พัดผ่านมาจะสามเดือนแล้ว ตลอดระยะเวลาสองสามเดือนที่ผ่านมาชีวิตอันสงบสุขของผมก็ได้ปั่นป่วนเป็นอย่างมาก เดิมทีชีวิตของผมก็มีอีพี่ต้นพี่รหัสของผมค่อยกวนวอแวอยู่แล้วแต่พอมีอีตาเด็กคีย์เข้ามาชีวิตในรั้วมหาลัยของผมก็ปั่นป่วนมากกว่าเดิม ทุกคนคงสงสัยใช่มั้ยว่ามันปั่นป่วนยังไง ก็ปั่นป่วนอย่างนี้ไงณ.เวลา12:05นาที"สวัสดีครับพี่ลินคนสวย"เสียงทุ้มใสดังขึ้นในเวลาเดิมของทุกวัน ในเวลาใกล้ๆกันแบบนี้ของทุกวันผมมักจะได้ยินประโยคทักทายแบบนี้จากเรียวตะที่เป็นเพื่อนชายคนสนิทของน้องรหัสอันหล่อเหล่าของผมเป็นประจำ จนผมนั้นไม่รู้จะจัดการกับสองคนนี้ยังไงแล้วเพราะไม่ว่าผมจะหนีไปหลบที่ไหนหรือตรงส่วนไหนของคณะสองคนนี้ก็มักจะหาผมเจออยู่เสมอ
"ยิ้มเขากลับมาแล้ว เขาคนนั้นกลับมาจากญี่ปุ่นแล้ว"ย้อนกลับไปเมื่อ9ปีก่อน"ลินนนน นลินนนนไอ้ลินหยุดเดินนะโว้ยยยยย"เสียงร้องตะโกนของชายหนุ่มตัวสูงรุ่นพี่ปีสามดังขึ้นท่ามกลางลานกว้างทำให้เด็กปีหนึ่งคณะบริหารที่ถูกเรียกมารวมตัวกันหันมามองยังรุ่นพี่ชายทั้งสองที่คนหนึ่งวิ่งตามหลังตะโกนเรียกเสียงดังลั่นส่วนอีกคนก็เดินหนีไม่ยอมหยุด"พี่ต้นเลิกยุ่งกับลินดิ๊! ลินบอกแล้วว่าลินไม่ทำๆๆ พี่พูดไม่รู้เรื่องหรือไงวะ! เห้ยยยโอ๊ยยยยย"นรินทร์หันมาเอ่ยพูดกับพี่รหัสของตัวเองอ่างหัวเสียที่สองสามวันนี้ตามตื๊อให้เขานั้นไปเป็นแบบในการถ่ายภาพไปทำโปรเจคอะไรสักอย่างพลางหยุดเท้าอย่างกะทันหันและด้วยความที่นลินหยุดเดินกะทันหันทำให้ต้นที่เป็นพี่รหัสของนลินหยุดเท้าไว้ไม่ทันเดินชนนลินเข้าจังๆจนนลินล้มก้นกระแทกพื้นอย่างแรง"เห้ยยยลินพี่ขอโทษ ลินเจ็บมากมั
ฐิระเชษฐ์ผมยืนมองร่างบางตรงหน้าที่ยืนอุ้มเด็กชายตัวน้อยไว้ในอ้อมแขนแน่นพลางนัยน์ตากลมสวยก็จ้องมองมาที่ผมด้วยดวงตาแดงก่ำพลันในหัวก็พลางนึกคิดตามประโยคคำพูดของนลินนั้นสิ มันก็จริงอย่างที่คนตรงหน้าของเขาพูดว่ามันจะมีประโยชน์อะไรที่เขาจะมาเอ่ยถามสารทุกข์สุกดิบเอาตอนนี้ ในเมื่อเขาเป็นคนจากและทิ้งคนตัวเล็กตรงหน้าในตอนนี้ไปโดยที่เขานั้นไม่ได้อธิบายอะไรให้ร่างบางฟังเลยสักนิด"ขอโทษ....."ผมก้มหน้าหลบสายตาของนลินพลางเอ่ยขอโทษออกมาเสียงเบา ผมไม่รู้ว่าตอนนี้นลินทำสีหน้าแบบไหนและตอนนี้ร่างบางตรงหน้าของผมกำลังคิดอะไรอยู่ ในตอนนี้ผมแค่อยากจะเอ่ยขอโทษ ขอโทษที่ผมทิ้งเขาไปขอโทษที่ผมทำเขาเสียใจและขอโทษที่ผมผิดคำสัญญาที่ให้กับเขาไว้ในตอนคบกันว่าผมจะไม่มีทางทิ้งเขาหรือทำผิดต่อเขาขอโทษลิน คีย์ขอโทษที่ทำผิดสัญญา
นรินทร์นรินทร์ที่จัดการทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำเสร็จเรียบร้อยก็รีบเดินกลับไปหาลูกน้อยที่ร้านไอศกรีม แต่แล้วนลินต้องเบิกตากว้างอย่างตกใจเมื่อเขาเดินกลับเข้ามาในร้านแล้วไม่พบเด็กตัวน้อยที่เขาสั่งให้นั่งรออยู่ที่โต๊ะไม่ให้ไปซนที่ไหนหายไป ตอนนี้เขาพบแต่ถ้วยไอศกรีมที่ลูกน้อยของเขากินไปได้เพียงครึ่งเท่านั้นแล้วคิรินล่ะ ลูกชายของเขาไปไหนนลินหันซ้ายหันขวามองรอบๆร้าน ในใจลึกๆก็หวังว่าลูกชายตัวน้อยของเขานั้นแค่จะวิ่งเล่นอยู่ตรงไหนสักส่วนภายในร้านแต่ไม่ว่านัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนของเขาจะมองจนทั่วร้านแล้วก็ไม่พบเงาของลูกชายตัวน้อยของเขาเลยแม้แต่น้อย เมื่อไม่เห็นลูกน้อยภายในใจของนลินก็ก่อเกิดความรู้สึกร้อนรนและเป็นกังวลเป็นอย่างมากพลางรอบๆดวงกลมก็เริ่มจะมีน้ำสีใสเอ่อนองขึ้นมาคิรินลูกอยู่ที่ไหน"ขอโทษนะครับไม่ทราบว่าเห็นเด็กผู้ชายที่นั่งอยู่โต๊ะนั้นมั้ยครับ"เสียงใสเอ่ยถามพนักงานด้วยน้ำเสียงสั่นเครือพลางนิ้วเรียวสวยก็ชี้ไปยังโต๊ะที่ตัวเขากับลูกน้อยเคยนั่ง แต่แล้วใบหน้าหวานต้องแสดงความผิดหวังออกมาเมื่อได้คำตอบจากพนักงานเป็นการส่ายหน้าปฏิเสธมือบางยกขึ้นมาปาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มอย่างลวกๆ ก่อนที่เท้าเล็กทั้
ฐิระเชษฐ์สวัสดีครับผมชื่อฐิระเชษฐ์หรือจะเรียกผมสั้นๆว่าคีย์ก็ได้ ทุกคนคงงงว่าผมเป็นใครทำไมถึงได้มาพูดคุยกับทุกคนในตอนนี้ เออนั้นสิ!ทำไมผมต้องมายืนแนะนำตัวหรือพูดคุยกับพวกคุยกลางห้างแบบนี้ด้วย(ใจเย็นคีย์ใจเย็นทุกคนที่แกว่าคือนักอ่านของฉัน)อ๋อหรอโทษๆๆ งั้นเอาเป็นว่าแนะนำตัวจนรู้จักกันมาพอสมควรแล้ว ต่อไปก็กลับเข้าเรื่องเลยแล้วกันฐิระเชษฐ์ที่นัดแนะกับลูกค้ามาพูดคุยตกลงเกี่ยวกับสัญญากันที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง เมื่อถึงเวลาก็ได้มานั่งพูดคุยกันอยู่ที่ร้านอาหารที่นัดกันไว้ พอตกลงกันเรียบร้อยคีย์ก็ได้นั่งทานข้าวกับลูกค้าต่ออยู่พักใหญ่ๆหลังจากทานข้าวและพูดคุยกันนิดหน่อยก็ได้เอ่ยลาและแยกย้ายกันกลับ แต่แล้วคีย์ที่แยกย้ายกับลูกค้าและได้มายืนรอคนขับรถอยู่ที่จุดนัดไว้กับคุณลุงคนขับรถอยู่นานคุณลุงคนขับก็ยังไม่มาสักทีก็เริ่มรู้สึกอารมณ์เสียเล็กน้อยที่คุณลุงคนขับยังไม่มาสักที จนต้องเดินกลับเข้ามาในห้างอีกครั้งแล้วเดินไปเดินมาอยู่ภายในห้างสรรพสินค้าพักใหญ่ๆ ก่อนที่คีย์จะหยุดเดินแล้วล้วงเอาโทรศัพท์มือถือที่สั่นเป็นเจ้าเข้าในกระเป๋ากางเกงของเขาออกมาดูแล้วกดรับสาย เมื่อเห็นว่าคนที่โทรเข้ามาคือคนขับรถขอ
ณ.ร้านK.linเบเกอรี่เวลา15:34นาที"นลินทำไมแกยังอยู่ที่ร้านอยู่เนี่ย นี่มันบ่ายสามกว่าแล้วนะทำไมยังไม่ออกไปรับคิริน"เพื่อนสาวที่ชื่อยิ้มหวานเอ่ยถามเพื่อนสนิทตัวเล็กขึ้นอย่างตกใจ เมื่อเจ้าตัวที่ตรงดิ่งจากบ้านมาเพื่อจะมาเฝ้าร้านแทนกลับเปิดประตูร้านเข้าเจอเพื่อนตัวเล็กเจ้าของร้านยังคงยืนสาละวนยุ่งอยู่กับขนมหวานข้างๆพนักงานชายอีกคนแทนที่ในตอนนี้เพื่อนของเขาควรจะถึงกลางทางในการไปรับลูกชายที่โรงเรียนที่อยู่ห่างจากร้าน10กว่ากิโลเมตรแล้ว"เห๊ยยยลินลืมดูเวลาเลยหวาน ตายๆทำไงดีต้องไปรับคิรินสายแน่ๆ"นลินร้องขึ้นอย่างตกใจในทันทีที่ได้ยินเพื่อนสาวเอ่ยทักบอกเวลา พลางร่างบางก็รีบถอดผ้ากันเปื้อนออกจากตัวและรีบคว้าเอากุญแจรถและสิ่งของสำคัญ ก่อนที่จะรีบกุรีกุจอนออกจากร้านไปโดยมีเสียงของหญิงสาวเพื่อนสนิทอย่างยิ้มหวานตะโกนเตือนไล่หลัง"รีบได้แต่ก็ต้องขับรถอย่างระวังนะนลิน..."...เวลา15:55นาที"ให้ตายเถอะนลิน ทำไมถึงได้ละเลยแบบนี้"นรินทร์สถบด่าตัวเองออกมาเบาๆพลางนิ้วเรียวงามก็เคาะลงกับพวงมาลัยรถอย่างคนร้อนใจ ภายในใจก็พลันร้อนหงุดหงิดภาวนาให้ไฟจราจรเปลี่ยนเป็นสีเขียวเร็วๆ เพราะตอนนี้ตัวเขานั้นจอดติดไฟแดง
บทนำ"พี่คีย์ เขาคนนี้เป็นใคร...ทำไม ทำไมพี่คีย์ถึงมายืนกอดกับเขา"เสียงใสเอ่ยถามแฟนหนุ่มรุ่นน้องที่มักจะให้ตัวเขาเอ่ยเรียกว่าพี่อยู่เป็นประจำด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ พลางนัยน์ตากลมโตก็จ้องมองภาพของชายหนุ่มตัวสูงที่เป็นคนรักของตัวเองยืนกอดกลมเกลียวกับผู้หญิงคนอื่นอยู่ภายในห้องพักของพวกเขาทั้งสองที่ใช้อาศัยอยู่ด้วยกันมานานเกือบจะสามปีพลันในหัวก็เกิดคำถามขึ้นว่านี้มันเรื่องบ้าอะไรกัน ทำไมเขาถึงได้เปิดประตูห้องมาเจอแฟนของเขาที่คบกันมานานนับสามปียืนกอดกับผู้หญิงคนอื่นอยู่ภายในห้องพักของพวกเขา"นลิน พี่ต้องกลับไปที่ญี่ปุ่นแล้วนะ"เสียงทุ้มเข้มของแฟนหนุ่มที่เด็กกว่าหนึ่งปีเอ่ยพึมพำขึ้นมาเสียงเบา พลางใบหน้าหล่อเหล่าก็ก้มมองพื้นห้องไม่ได้ชายตาขึ้นมาจ้องมองคนที่ขึ้นชื่อว่าแฟนอย่างนลินเลยว่าตอนนี้ใบหน้าสวยนั้นได้อาบไปด้วยน้ำสีใสแล้ว"กลับไปกับเขาคนนี้น่ะหรอ กลับไปกับผู้หญิงคนนี้น่ะหรอพี่คีย์"นรินทร์เอ่ยถามคนรักขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาพลางในใจก็พยายามข่มอารมณ์ที่กำลังคุกรุ่นและความเสียใจที่เริ่มจะปะทุขึ้นไว้ภายในใจ"ครับพี่ต้องกลับไปกับเขา"คีย์ยังคงเอ่ยตอบนลินโดยที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองหรือสบตา เ