นรินทร์
นรินทร์ที่จัดการทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำเสร็จเรียบร้อยก็รีบเดินกลับไปหาลูกน้อยที่ร้านไอศกรีม แต่แล้วนลินต้องเบิกตากว้างอย่างตกใจเมื่อเขาเดินกลับเข้ามาในร้านแล้วไม่พบเด็กตัวน้อยที่เขาสั่งให้นั่งรออยู่ที่โต๊ะไม่ให้ไปซนที่ไหนหายไป ตอนนี้เขาพบแต่ถ้วยไอศกรีมที่ลูกน้อยของเขากินไปได้เพียงครึ่งเท่านั้น
แล้วคิรินล่ะ ลูกชายของเขาไปไหน
นลินหันซ้ายหันขวามองรอบๆร้าน ในใจลึกๆก็หวังว่าลูกชายตัวน้อยของเขานั้นแค่จะวิ่งเล่นอยู่ตรงไหนสักส่วนภายในร้านแต่ไม่ว่านัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนของเขาจะมองจนทั่วร้านแล้วก็ไม่พบเงาของลูกชายตัวน้อยของเขาเลยแม้แต่น้อย เมื่อไม่เห็นลูกน้อยภายในใจของนลินก็ก่อเกิดความรู้สึกร้อนรนและเป็นกังวลเป็นอย่างมากพลางรอบๆดวงกลมก็เริ่มจะมีน้ำสีใสเอ่อนองขึ้นมา
คิรินลูกอยู่ที่ไหน
"ขอโทษนะครับไม่ทราบว่าเห็นเด็กผู้ชายที่นั่งอยู่โต๊ะนั้นมั้ยครับ"เสียงใสเอ่ยถามพนักงานด้วยน้ำเสียงสั่นเครือพลางนิ้วเรียวสวยก็ชี้ไปยังโต๊ะที่ตัวเขากับลูกน้อยเคยนั่ง แต่แล้วใบหน้าหวานต้องแสดงความผิดหวังออกมาเมื่อได้คำตอบจากพนักงานเป็นการส่ายหน้าปฏิเสธ
มือบางยกขึ้นมาปาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มอย่างลวกๆ ก่อนที่เท้าเล็กทั้งสองข้างจะก้าวเดินออกจากร้านอย่างรีบร้อนพลางใบหน้าสวยก็หันซ้ายแลขวามองหาลูกน้อยของตัวเอง ทว่าดวงตากลมโตของนลินต้องเบิกกว้างอย่างดีใจเมื่อเขาหันไปเจอลูกน้อยของตัวเองยืนอยู่ไม่ห่างจากทางเข้าร้านมากเท่าไหร่
แต่เอ๊ะ!แล้วลูกน้อยของเขายืนอยู่กับใคร ผู้ชายวัยกลางคนคนนั้นทำไมเขาถึงรู้สึกคุ้นๆจัง แล้วผู้ชายที่นั่งคุกเข่าอยู่ที่พื้นหันหลังมาทางเขาคนนั้นเป็นใคร แล้วทำไมคิรินถึงไปยืนคุยกับพวกเขาแบบนั้น
เกิดคำถามมากมายขึ้นมาในหัวของนลิน แต่เขาก็มัวแต่ยืนสงสัยแบบนี้ไม่ได้ เขาต้องรีบเดินเข้าไปหาลูกชายของเขา นึกได้ดังนั้นสองเท้าเล็กของนลินก็ก้าวเดินตรงไปทางที่คนทั้งสามอยู่ ก่อนที่เสียงใสจะเอ่ยเรียกชื่อลูกชายของตัวเองไม่เบามากนัก
"คิริน...."เด็กน้อยที่ได้ยินเสียงของผู้เป็นมารดาก็เงยหน้าขึ้นหันไปมองยังต้นเสียง เมื่อเด็กตัวน้อยเห็นดวงตาของนลินแดงก่ำก็รีบเดินปลีกตัวออกจากคีย์แล้วตรงมาหานลินทันที นลินที่เห็นลูกน้อยเดินมาหาก็รีบย่อตัวลงคุกเข่ามนทั้งสองลงกับพื้นเย็นพร้อมกับอ้าแขนทั้งสองข้างออกเพื่อกอดลูกน้อย ก่อนที่คิรินที่เดินมาถึงผู้เป็นแม่ก็ใช้แขนเล็กทั้งสองข้างโอบกอดและซุกใบหน้าเข้าหาลำคอขาวของนลินพร้อมกับเอ่ยขอโทษออกมาเบาๆ เมื่อรู้ว่าตนนั้นทำผิดที่เดินออกมาจากร้านมาโดยไม่รอผู้เป็นแม่กลับมาก่อน
"คิรินขอโทษฮะ นลินไม่ร้องนะ"นรินทร์ที่มัวแต่สนใจและกอดลูกชายตัวน้อยของตัวเองอย่างดีใจที่พบ ไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้างหรือชายตัวสูงที่ยืนทำหน้าอึ้งตกใจอยู่ในตอนนี้เลย
ด้านฐิระเชษฐ์ที่ได้ยินเสียงอันคุ้นหูที่ดังขึ้นอยู่ด้านหลังก็หันไปมอง พอนัยน์ตาคมเหลือบหันไปเห็นใบหน้าสวยที่เขาเฝ้าคิดถึงมาตลอดระยะเวลาหกปีที่ผ่านมา ก็พลันเบิกกว้างขึ้นอย่างตกใจจนเจ้าตัวนั้นไม่อยากจะเชื่อว่าเขานั้นจะพบเจอคนรักที่เขาเฝ้าคิดถึงมาตลอดได้เร็วขนาดนี้
งั้นแสดงว่าเด็กตัวน้อยนี้ก็เป็นลูกของนลินจริงๆอย่างงั้นหรอ
"ปะป๊าไม่ได้ร้องครับ ครั้งหน้าคิรินไม่เดินออกมาคนเดียวแบบนี้นะ รู้มั้ยตอนป๊ากลับมาไม่เจอคิรินนั่งรอป๊าอยู่ในร้านป๊าตกใจมากแค่ไหน"นลินยังคงสนใจและสำรวจลูกน้อยของตัวเองว่าไม่ได้เป็นอะไรหรือบาดเจ็บที่ไหนใช่มั้ย ทว่าดวงตาสวยต้องเบิกกว้างตกใจขึ้นอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงทุ้มอันคุ้นหัวที่เขาเฝ้าฝันถึงแทบจะทุกวันเอ่ยเรียกชื่อเขาขึ้นมาพลางในใจก็นึกหลอกตัวเองว่าคงไม่ใช่เขาคนนั้นหรอก
คงไม่ใช่หรอกนลิน เขาคนนั้นจะมาอยู่ที่นี้ได้ยังไง
"ลิน..."นลินเบิกตากว้างตกตะลึงในภวังค์ความคิดไปพักใหญ่ ก่อนที่ใบหน้าสวยจะเงยขึ้นไปมองคนตัวสูงที่ยืนมองมาที่เขาอยู่ก่อนแล้วอย่างช้าๆ พอนัยน์ตาสวยสบเขากับดวงตาคมของคนตัวสูงร่างบางก็พลางเบิกตากว้างตกใจมากกว่าเดิมพลันริมฝีปากเล็กก็พึมพำชื่อของคนตรงหน้าออกมาเบาๆอย่างคนไม่อยากจะเชื่อ
"พี่คีย์...."นลินพึมพำชื่อของคนตัวสูงอย่างกับคนไม่มีสติ แต่เมื่อแล้วอยู่ๆภาพที่คนตัวสูงที่ยืนกอดกับหญิงสาวภายในห้องพักของพวกเขาทั้งสองคนฉายซ้ำขึ้นมาในหัวทุยทำให้สายตาที่แสดงถึงความตกตะลึงแปลเปลี่ยนเป็นแววตาเกรี้ยวโกรธขึ้นมาทันที
"คิริน ป๊าว่าเรากลับกันเถอะ"นลินลุกขึ้นยืนเต็มความสูงพลางมือบางก็เอื้อมไปจับข้อมือเล็กของลูกชาย ก่อนที่จะหันหลังจะก้าวเดินออกไปจากตรงนี้ แต่สองเท้าเล็กต้องหยุดชะงักเมื่อมือบางข้างที่ไม่ได้จับลูกชายถูกมือหนาของคีย์คว้ารั้งเอาไว้
"เดี๋ยวสิลิน คีย์ขอคุยด้วยหน่อย"ฐิระเชษฐ์เอ่ยรั้งร่างบางเอาไว้พลางใบหนาหล่อก็แสดงสีหน้าให้คนตัวเล็กเห็นอย่างชัดเจนว่าเจ้าตัวนั้นยังอาลัยอาวอนคนตัวเล็กตรงหน้า
"ขอโทษครับ ผมไม่รู้จักคุณและคุณช่วยปล่อยมือผมด้วย"นรินทร์เอ่ยพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงนิ่งๆพลางนัยน์ตาสวยก็จ้องมองคีย์ด้วยแววตาที่เย็นชา
"ลิน..."คีย์ที่ได้ยินนลินเอ่ยพูดแบบนั้นกับตัวเองก็พลางตกตะลึงไปชั่วขณะจนเผลอปล่อยมือบาง นลินจ้องมองใบหน้าหล่อสลับกับมือของตัวเองที่ยังคงเหลือไออุ่นจากฝ่ามือหนาที่พึ่งจะปล่อยมือเขาอยู่สักพัก ก่อนที่ร่างบางจะตัดสินใจหันหลังก้าวเดินต่ออีกครั้ง แต่ทว่าสองเท้าเล็กก้าวเดินได้เพียงสองสามก้าวก็ต้องหยุดชะงักอีกครั้ง เมื่อลูกชายตัวน้อยของเขาดึงรั้งไว้และไม่ยอมที่จะเดินตามเขามา
"น้องคิริน ทำไม"นลินหันมามองลูกชายอย่างไม่เข้าใจ ว่าทำไมลูกชายของเขาถึงไม่ยอมเดินตามเขามาพอหันไปดูก็พบว่าลูกชายตัวน้อยของเขาจ้องมองไปที่คนตัวสูงสักพักก็หันมาแสดงสีหน้าที่ไม่เข้าใจเป็นเชิงถามเขาว่าทำไมเขาถึงพูดว่าไม่รู้จักผู้เป็นพ่อของเด็กตัวน้อยกัน
"นลินเดี๋ยวก่อน คุยกับคีย์ก่อนได้มั้ย"คีย์ที่จ้องมองใบหน้าของเด็กตัวน้อยสลับกับร่างบางอยู่สักพักก็เอ่ยพูดขึ้นพลางสองขายาวก็ก้าวเดินเร็วๆมาขวางทางของนรินทร์ไว้แล้วเอ่ยขอร้องนลินให้อยู่พูดกับเขาก่อน
"ผมไม่มีอะไรคุยกับคุณ อีกอย่างผมก็บอกไปแล้วนะครับว่าผมไม่รู้จักคุณ!"นลินเอ่ยตอบออกไปเสียงแข็งพลางนัยน์ตาสวยก็จ้องมองคนตรงหน้าด้วยแววตาเย็นชา ก่อนที่ร่างบางจะย่อตัวลงแล้วช้อนอุ้มเด็กตัวน้อยขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนแล้วเดินหนีจากฐิระเชษฐ์
คีย์ที่เห็นนลินอุ้มเด็กตัวเล็กเดินหนีจากตัวเองก็พลันสาวเท้าเดินตามพอถึงตัวมือหนาก็เอื้อมคว้าต้นแขนเล็กทันทีเพื่อรั้งนลินไว้อีกครั้ง นลินที่โดนมือหนาคว้าต้นแขนรั้งไว้อย่างไม่ทันตั้งตัวก็พลางเซถลาเสียหลักมากระแทกเข้าที่อกแกร่งของคีย์ ซึ่งคีย์ที่เห็นร่างบางเสียหลักก็ยกแขนขึ้นมาโอบเอวบางไว้
"อย่ามายุ่งกับลินได้มั้ยคีย์!"นลินที่หมดความอดทนก็หันไประเบิดอารมณ์ใส่ฐิระเชษฐ์อย่างคนอารมณ์เสีย ทั้งยังกอดกระชับลูกน้อยในอ้อมแขนไว้แน่นไม่ให้คิรินหันไปมองหน้าหรือสบตากับคีย์แล้วถอยห่างจากอ้อมแขนของคนตัวสูงสองสามก้าว
"ลิน...คีย์แค่อยากถามว่าที่ผ่านมาลินสบายดีมั้ยแค่นั้นเอง ทำไมลินต้องทำเป็นไม่รู้จักคีย์ด้วย"คีย์เอ่ยอธิบายถึงเจตจำนงของตัวเองว่าตัวเขานั้นแค่อยากจะถามถึงสารทุกข์สุกดิบของคนตัวเล็กตรงหน้าแค่นั้นเอง ถึงแม้ลึกๆในใจของคีย์นั้นอยากจะชวนร่างบางตรงหน้าพูดคุยและขอโอกาสแก้ตัว
"เพื่ออะไรคีย์ ถามลินตอนนี้มันจะมีประโยชน์อะไร ในเมื่อตอนนั้นคีย์ยังไปโดยที่ไม่อธิบายหรือไถ่ถามลินเลยสักนิด แล้วก็นะลินตอบคีย์ตอนนี้มันจะได้อะไร แล้วที่ถามว่าทำไมลินต้องทำเป็นไม่รู้จักคีย์ด้วย เหอะ!แล้วทำไมลินต้องทำเป็นรู้จักกับคนที่ทิ้งลินไปแบบไม่แยแสลินสักนิดด้วย พอเถอะคีย์เราทำเป็นไม่รู้จักกันน่ะดีแล้ว เรื่องของเรามันจบไปนานแล้ว ต้องให้ลินย้ำมั้ยว่าเราเลิกกันไปจะ6ปีแล้วคีย์"นลินเอ่ยตอบพร้อมกับแค้นหัวเราะไปด้วย นัยน์ตาสวยในตอนนี้แสดงแววตาที่เศร้าสร้อยปนโกรธแค้นคนตรงตัวสูงตรงหน้าให้เห็นอย่างชัดเจน
ส่วนฐิระเชษฐ์ได้แต่จ้องมองแววตาสวยที่แต่ก่อนเคยมองเขาด้วยแววตาอ่อนโยนและรักใคร่แต่ตอนนี้แววตาแบบนั้นมันไม่หลงเหลืออยู่แล้วเหลือเพียงแค่แววตาที่แสดงความโกรธเกลียดให้เขาได้เห็น
ฐิระเชษฐ์ผมยืนมองร่างบางตรงหน้าที่ยืนอุ้มเด็กชายตัวน้อยไว้ในอ้อมแขนแน่นพลางนัยน์ตากลมสวยก็จ้องมองมาที่ผมด้วยดวงตาแดงก่ำพลันในหัวก็พลางนึกคิดตามประโยคคำพูดของนลินนั้นสิ มันก็จริงอย่างที่คนตรงหน้าของเขาพูดว่ามันจะมีประโยชน์อะไรที่เขาจะมาเอ่ยถามสารทุกข์สุกดิบเอาตอนนี้ ในเมื่อเขาเป็นคนจากและทิ้งคนตัวเล็กตรงหน้าในตอนนี้ไปโดยที่เขานั้นไม่ได้อธิบายอะไรให้ร่างบางฟังเลยสักนิด"ขอโทษ....."ผมก้มหน้าหลบสายตาของนลินพลางเอ่ยขอโทษออกมาเสียงเบา ผมไม่รู้ว่าตอนนี้นลินทำสีหน้าแบบไหนและตอนนี้ร่างบางตรงหน้าของผมกำลังคิดอะไรอยู่ ในตอนนี้ผมแค่อยากจะเอ่ยขอโทษ ขอโทษที่ผมทิ้งเขาไปขอโทษที่ผมทำเขาเสียใจและขอโทษที่ผมผิดคำสัญญาที่ให้กับเขาไว้ในตอนคบกันว่าผมจะไม่มีทางทิ้งเขาหรือทำผิดต่อเขาขอโทษลิน คีย์ขอโทษที่ทำผิดสัญญา
"ยิ้มเขากลับมาแล้ว เขาคนนั้นกลับมาจากญี่ปุ่นแล้ว"ย้อนกลับไปเมื่อ9ปีก่อน"ลินนนน นลินนนนไอ้ลินหยุดเดินนะโว้ยยยยย"เสียงร้องตะโกนของชายหนุ่มตัวสูงรุ่นพี่ปีสามดังขึ้นท่ามกลางลานกว้างทำให้เด็กปีหนึ่งคณะบริหารที่ถูกเรียกมารวมตัวกันหันมามองยังรุ่นพี่ชายทั้งสองที่คนหนึ่งวิ่งตามหลังตะโกนเรียกเสียงดังลั่นส่วนอีกคนก็เดินหนีไม่ยอมหยุด"พี่ต้นเลิกยุ่งกับลินดิ๊! ลินบอกแล้วว่าลินไม่ทำๆๆ พี่พูดไม่รู้เรื่องหรือไงวะ! เห้ยยยโอ๊ยยยยย"นรินทร์หันมาเอ่ยพูดกับพี่รหัสของตัวเองอ่างหัวเสียที่สองสามวันนี้ตามตื๊อให้เขานั้นไปเป็นแบบในการถ่ายภาพไปทำโปรเจคอะไรสักอย่างพลางหยุดเท้าอย่างกะทันหันและด้วยความที่นลินหยุดเดินกะทันหันทำให้ต้นที่เป็นพี่รหัสของนลินหยุดเท้าไว้ไม่ทันเดินชนนลินเข้าจังๆจนนลินล้มก้นกระแทกพื้นอย่างแรง"เห้ยยยลินพี่ขอโทษ ลินเจ็บมากมั
นรินทร์หลังจากวันนั้นวันที่ผมเจอกับคีย์ที่ข้างสระบัวและได้รับรู้ว่าผมได้เขาได้เป็นสายรหัสกัน ในตอนนี้วันเวลาก็พัดผ่านมาจะสามเดือนแล้ว ตลอดระยะเวลาสองสามเดือนที่ผ่านมาชีวิตอันสงบสุขของผมก็ได้ปั่นป่วนเป็นอย่างมาก เดิมทีชีวิตของผมก็มีอีพี่ต้นพี่รหัสของผมค่อยกวนวอแวอยู่แล้วแต่พอมีอีตาเด็กคีย์เข้ามาชีวิตในรั้วมหาลัยของผมก็ปั่นป่วนมากกว่าเดิม ทุกคนคงสงสัยใช่มั้ยว่ามันปั่นป่วนยังไง ก็ปั่นป่วนอย่างนี้ไงณ.เวลา12:05นาที"สวัสดีครับพี่ลินคนสวย"เสียงทุ้มใสดังขึ้นในเวลาเดิมของทุกวัน ในเวลาใกล้ๆกันแบบนี้ของทุกวันผมมักจะได้ยินประโยคทักทายแบบนี้จากเรียวตะที่เป็นเพื่อนชายคนสนิทของน้องรหัสอันหล่อเหล่าของผมเป็นประจำ จนผมนั้นไม่รู้จะจัดการกับสองคนนี้ยังไงแล้วเพราะไม่ว่าผมจะหนีไปหลบที่ไหนหรือตรงส่วนไหนของคณะสองคนนี้ก็มักจะหาผมเจออยู่เสมอ
ฐิระเชษฐ์หลังจากวันนั้นวันที่ผมพาไอ้เรียวตะโดดเรียนเพื่ออยู่ช่วยคนตัวเล็กที่เป็นพี่รหัสของผมปั่นงานจนเสร็จทันก่อนเวลาที่อาจารย์กำหนดไว้ในการส่ง ในตอนนี้เวลาก็ผ่านมาสองเดือนแล้ว ผมในตอนนี้ก็ยังคงทำเหมือนเดิมอยู่ทุกวัน คือคอยตามเฝ้ามองและคอยชวนนลินพี่รหัสของผมไปกินข้าวเที่ยงด้วยทุกวันเฉพาะวันที่นลินมีเรียนน่ะนะ ถ้าวันไหนนลินไม่มีเรียนผมก็จะคอยทักหาและโทรคุยเอาเป็นระยะๆ เพราะเคยชวนคนตัวเล็กออกมาเที่ยวข้างนอกในวันหยุดด้วยแล้วผลปรากฏว่าโดนปฏิเสธไปตามระเบียบครับจริงสิทุกคนอาจจะสงสัยว่าผมรู้ได้ยังไงว่านลินอยู่ที่ไหนหรือเรียนอะไรอยู่ หึ ก็ผมมีตารางเรียนของคนตัวเล็กยังไงล่ะ ถึงได้รู้ว่าเวลานี้หรือเวลาไหนนลินอยู่ตรงส่วนไหนของมหาวิทยาลัยผมถึงได้ตามถูกอยู่ตลอดเวลาเล่ามาถึงตรงนี้ทุกคนคงจะมองว่าผมบ้าใช่มั้ยที่คอยตามเฝ้าพี่รหัสของตัวเองอย
บทนำ"พี่คีย์ เขาคนนี้เป็นใคร...ทำไม ทำไมพี่คีย์ถึงมายืนกอดกับเขา"เสียงใสเอ่ยถามแฟนหนุ่มรุ่นน้องที่มักจะให้ตัวเขาเอ่ยเรียกว่าพี่อยู่เป็นประจำด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ พลางนัยน์ตากลมโตก็จ้องมองภาพของชายหนุ่มตัวสูงที่เป็นคนรักของตัวเองยืนกอดกลมเกลียวกับผู้หญิงคนอื่นอยู่ภายในห้องพักของพวกเขาทั้งสองที่ใช้อาศัยอยู่ด้วยกันมานานเกือบจะสามปีพลันในหัวก็เกิดคำถามขึ้นว่านี้มันเรื่องบ้าอะไรกัน ทำไมเขาถึงได้เปิดประตูห้องมาเจอแฟนของเขาที่คบกันมานานนับสามปียืนกอดกับผู้หญิงคนอื่นอยู่ภายในห้องพักของพวกเขา"นลิน พี่ต้องกลับไปที่ญี่ปุ่นแล้วนะ"เสียงทุ้มเข้มของแฟนหนุ่มที่เด็กกว่าหนึ่งปีเอ่ยพึมพำขึ้นมาเสียงเบา พลางใบหน้าหล่อเหล่าก็ก้มมองพื้นห้องไม่ได้ชายตาขึ้นมาจ้องมองคนที่ขึ้นชื่อว่าแฟนอย่างนลินเลยว่าตอนนี้ใบหน้าสวยนั้นได้อาบไปด้วยน้ำสีใสแล้ว"กลับไปกับเขาคนนี้น่ะหรอ กลับไปกับผู้หญิงคนนี้น่ะหรอพี่คีย์"นรินทร์เอ่ยถามคนรักขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาพลางในใจก็พยายามข่มอารมณ์ที่กำลังคุกรุ่นและความเสียใจที่เริ่มจะปะทุขึ้นไว้ภายในใจ"ครับพี่ต้องกลับไปกับเขา"คีย์ยังคงเอ่ยตอบนลินโดยที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองหรือสบตา เ
ณ.ร้านK.linเบเกอรี่เวลา15:34นาที"นลินทำไมแกยังอยู่ที่ร้านอยู่เนี่ย นี่มันบ่ายสามกว่าแล้วนะทำไมยังไม่ออกไปรับคิริน"เพื่อนสาวที่ชื่อยิ้มหวานเอ่ยถามเพื่อนสนิทตัวเล็กขึ้นอย่างตกใจ เมื่อเจ้าตัวที่ตรงดิ่งจากบ้านมาเพื่อจะมาเฝ้าร้านแทนกลับเปิดประตูร้านเข้าเจอเพื่อนตัวเล็กเจ้าของร้านยังคงยืนสาละวนยุ่งอยู่กับขนมหวานข้างๆพนักงานชายอีกคนแทนที่ในตอนนี้เพื่อนของเขาควรจะถึงกลางทางในการไปรับลูกชายที่โรงเรียนที่อยู่ห่างจากร้าน10กว่ากิโลเมตรแล้ว"เห๊ยยยลินลืมดูเวลาเลยหวาน ตายๆทำไงดีต้องไปรับคิรินสายแน่ๆ"นลินร้องขึ้นอย่างตกใจในทันทีที่ได้ยินเพื่อนสาวเอ่ยทักบอกเวลา พลางร่างบางก็รีบถอดผ้ากันเปื้อนออกจากตัวและรีบคว้าเอากุญแจรถและสิ่งของสำคัญ ก่อนที่จะรีบกุรีกุจอนออกจากร้านไปโดยมีเสียงของหญิงสาวเพื่อนสนิทอย่างยิ้มหวานตะโกนเตือนไล่หลัง"รีบได้แต่ก็ต้องขับรถอย่างระวังนะนลิน..."...เวลา15:55นาที"ให้ตายเถอะนลิน ทำไมถึงได้ละเลยแบบนี้"นรินทร์สถบด่าตัวเองออกมาเบาๆพลางนิ้วเรียวงามก็เคาะลงกับพวงมาลัยรถอย่างคนร้อนใจ ภายในใจก็พลันร้อนหงุดหงิดภาวนาให้ไฟจราจรเปลี่ยนเป็นสีเขียวเร็วๆ เพราะตอนนี้ตัวเขานั้นจอดติดไฟแดง
ฐิระเชษฐ์สวัสดีครับผมชื่อฐิระเชษฐ์หรือจะเรียกผมสั้นๆว่าคีย์ก็ได้ ทุกคนคงงงว่าผมเป็นใครทำไมถึงได้มาพูดคุยกับทุกคนในตอนนี้ เออนั้นสิ!ทำไมผมต้องมายืนแนะนำตัวหรือพูดคุยกับพวกคุยกลางห้างแบบนี้ด้วย(ใจเย็นคีย์ใจเย็นทุกคนที่แกว่าคือนักอ่านของฉัน)อ๋อหรอโทษๆๆ งั้นเอาเป็นว่าแนะนำตัวจนรู้จักกันมาพอสมควรแล้ว ต่อไปก็กลับเข้าเรื่องเลยแล้วกันฐิระเชษฐ์ที่นัดแนะกับลูกค้ามาพูดคุยตกลงเกี่ยวกับสัญญากันที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง เมื่อถึงเวลาก็ได้มานั่งพูดคุยกันอยู่ที่ร้านอาหารที่นัดกันไว้ พอตกลงกันเรียบร้อยคีย์ก็ได้นั่งทานข้าวกับลูกค้าต่ออยู่พักใหญ่ๆหลังจากทานข้าวและพูดคุยกันนิดหน่อยก็ได้เอ่ยลาและแยกย้ายกันกลับ แต่แล้วคีย์ที่แยกย้ายกับลูกค้าและได้มายืนรอคนขับรถอยู่ที่จุดนัดไว้กับคุณลุงคนขับรถอยู่นานคุณลุงคนขับก็ยังไม่มาสักทีก็เริ่มรู้สึกอารมณ์เสียเล็กน้อยที่คุณลุงคนขับยังไม่มาสักที จนต้องเดินกลับเข้ามาในห้างอีกครั้งแล้วเดินไปเดินมาอยู่ภายในห้างสรรพสินค้าพักใหญ่ๆ ก่อนที่คีย์จะหยุดเดินแล้วล้วงเอาโทรศัพท์มือถือที่สั่นเป็นเจ้าเข้าในกระเป๋ากางเกงของเขาออกมาดูแล้วกดรับสาย เมื่อเห็นว่าคนที่โทรเข้ามาคือคนขับรถขอ
ฐิระเชษฐ์หลังจากวันนั้นวันที่ผมพาไอ้เรียวตะโดดเรียนเพื่ออยู่ช่วยคนตัวเล็กที่เป็นพี่รหัสของผมปั่นงานจนเสร็จทันก่อนเวลาที่อาจารย์กำหนดไว้ในการส่ง ในตอนนี้เวลาก็ผ่านมาสองเดือนแล้ว ผมในตอนนี้ก็ยังคงทำเหมือนเดิมอยู่ทุกวัน คือคอยตามเฝ้ามองและคอยชวนนลินพี่รหัสของผมไปกินข้าวเที่ยงด้วยทุกวันเฉพาะวันที่นลินมีเรียนน่ะนะ ถ้าวันไหนนลินไม่มีเรียนผมก็จะคอยทักหาและโทรคุยเอาเป็นระยะๆ เพราะเคยชวนคนตัวเล็กออกมาเที่ยวข้างนอกในวันหยุดด้วยแล้วผลปรากฏว่าโดนปฏิเสธไปตามระเบียบครับจริงสิทุกคนอาจจะสงสัยว่าผมรู้ได้ยังไงว่านลินอยู่ที่ไหนหรือเรียนอะไรอยู่ หึ ก็ผมมีตารางเรียนของคนตัวเล็กยังไงล่ะ ถึงได้รู้ว่าเวลานี้หรือเวลาไหนนลินอยู่ตรงส่วนไหนของมหาวิทยาลัยผมถึงได้ตามถูกอยู่ตลอดเวลาเล่ามาถึงตรงนี้ทุกคนคงจะมองว่าผมบ้าใช่มั้ยที่คอยตามเฝ้าพี่รหัสของตัวเองอย
นรินทร์หลังจากวันนั้นวันที่ผมเจอกับคีย์ที่ข้างสระบัวและได้รับรู้ว่าผมได้เขาได้เป็นสายรหัสกัน ในตอนนี้วันเวลาก็พัดผ่านมาจะสามเดือนแล้ว ตลอดระยะเวลาสองสามเดือนที่ผ่านมาชีวิตอันสงบสุขของผมก็ได้ปั่นป่วนเป็นอย่างมาก เดิมทีชีวิตของผมก็มีอีพี่ต้นพี่รหัสของผมค่อยกวนวอแวอยู่แล้วแต่พอมีอีตาเด็กคีย์เข้ามาชีวิตในรั้วมหาลัยของผมก็ปั่นป่วนมากกว่าเดิม ทุกคนคงสงสัยใช่มั้ยว่ามันปั่นป่วนยังไง ก็ปั่นป่วนอย่างนี้ไงณ.เวลา12:05นาที"สวัสดีครับพี่ลินคนสวย"เสียงทุ้มใสดังขึ้นในเวลาเดิมของทุกวัน ในเวลาใกล้ๆกันแบบนี้ของทุกวันผมมักจะได้ยินประโยคทักทายแบบนี้จากเรียวตะที่เป็นเพื่อนชายคนสนิทของน้องรหัสอันหล่อเหล่าของผมเป็นประจำ จนผมนั้นไม่รู้จะจัดการกับสองคนนี้ยังไงแล้วเพราะไม่ว่าผมจะหนีไปหลบที่ไหนหรือตรงส่วนไหนของคณะสองคนนี้ก็มักจะหาผมเจออยู่เสมอ
"ยิ้มเขากลับมาแล้ว เขาคนนั้นกลับมาจากญี่ปุ่นแล้ว"ย้อนกลับไปเมื่อ9ปีก่อน"ลินนนน นลินนนนไอ้ลินหยุดเดินนะโว้ยยยยย"เสียงร้องตะโกนของชายหนุ่มตัวสูงรุ่นพี่ปีสามดังขึ้นท่ามกลางลานกว้างทำให้เด็กปีหนึ่งคณะบริหารที่ถูกเรียกมารวมตัวกันหันมามองยังรุ่นพี่ชายทั้งสองที่คนหนึ่งวิ่งตามหลังตะโกนเรียกเสียงดังลั่นส่วนอีกคนก็เดินหนีไม่ยอมหยุด"พี่ต้นเลิกยุ่งกับลินดิ๊! ลินบอกแล้วว่าลินไม่ทำๆๆ พี่พูดไม่รู้เรื่องหรือไงวะ! เห้ยยยโอ๊ยยยยย"นรินทร์หันมาเอ่ยพูดกับพี่รหัสของตัวเองอ่างหัวเสียที่สองสามวันนี้ตามตื๊อให้เขานั้นไปเป็นแบบในการถ่ายภาพไปทำโปรเจคอะไรสักอย่างพลางหยุดเท้าอย่างกะทันหันและด้วยความที่นลินหยุดเดินกะทันหันทำให้ต้นที่เป็นพี่รหัสของนลินหยุดเท้าไว้ไม่ทันเดินชนนลินเข้าจังๆจนนลินล้มก้นกระแทกพื้นอย่างแรง"เห้ยยยลินพี่ขอโทษ ลินเจ็บมากมั
ฐิระเชษฐ์ผมยืนมองร่างบางตรงหน้าที่ยืนอุ้มเด็กชายตัวน้อยไว้ในอ้อมแขนแน่นพลางนัยน์ตากลมสวยก็จ้องมองมาที่ผมด้วยดวงตาแดงก่ำพลันในหัวก็พลางนึกคิดตามประโยคคำพูดของนลินนั้นสิ มันก็จริงอย่างที่คนตรงหน้าของเขาพูดว่ามันจะมีประโยชน์อะไรที่เขาจะมาเอ่ยถามสารทุกข์สุกดิบเอาตอนนี้ ในเมื่อเขาเป็นคนจากและทิ้งคนตัวเล็กตรงหน้าในตอนนี้ไปโดยที่เขานั้นไม่ได้อธิบายอะไรให้ร่างบางฟังเลยสักนิด"ขอโทษ....."ผมก้มหน้าหลบสายตาของนลินพลางเอ่ยขอโทษออกมาเสียงเบา ผมไม่รู้ว่าตอนนี้นลินทำสีหน้าแบบไหนและตอนนี้ร่างบางตรงหน้าของผมกำลังคิดอะไรอยู่ ในตอนนี้ผมแค่อยากจะเอ่ยขอโทษ ขอโทษที่ผมทิ้งเขาไปขอโทษที่ผมทำเขาเสียใจและขอโทษที่ผมผิดคำสัญญาที่ให้กับเขาไว้ในตอนคบกันว่าผมจะไม่มีทางทิ้งเขาหรือทำผิดต่อเขาขอโทษลิน คีย์ขอโทษที่ทำผิดสัญญา
นรินทร์นรินทร์ที่จัดการทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำเสร็จเรียบร้อยก็รีบเดินกลับไปหาลูกน้อยที่ร้านไอศกรีม แต่แล้วนลินต้องเบิกตากว้างอย่างตกใจเมื่อเขาเดินกลับเข้ามาในร้านแล้วไม่พบเด็กตัวน้อยที่เขาสั่งให้นั่งรออยู่ที่โต๊ะไม่ให้ไปซนที่ไหนหายไป ตอนนี้เขาพบแต่ถ้วยไอศกรีมที่ลูกน้อยของเขากินไปได้เพียงครึ่งเท่านั้นแล้วคิรินล่ะ ลูกชายของเขาไปไหนนลินหันซ้ายหันขวามองรอบๆร้าน ในใจลึกๆก็หวังว่าลูกชายตัวน้อยของเขานั้นแค่จะวิ่งเล่นอยู่ตรงไหนสักส่วนภายในร้านแต่ไม่ว่านัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนของเขาจะมองจนทั่วร้านแล้วก็ไม่พบเงาของลูกชายตัวน้อยของเขาเลยแม้แต่น้อย เมื่อไม่เห็นลูกน้อยภายในใจของนลินก็ก่อเกิดความรู้สึกร้อนรนและเป็นกังวลเป็นอย่างมากพลางรอบๆดวงกลมก็เริ่มจะมีน้ำสีใสเอ่อนองขึ้นมาคิรินลูกอยู่ที่ไหน"ขอโทษนะครับไม่ทราบว่าเห็นเด็กผู้ชายที่นั่งอยู่โต๊ะนั้นมั้ยครับ"เสียงใสเอ่ยถามพนักงานด้วยน้ำเสียงสั่นเครือพลางนิ้วเรียวสวยก็ชี้ไปยังโต๊ะที่ตัวเขากับลูกน้อยเคยนั่ง แต่แล้วใบหน้าหวานต้องแสดงความผิดหวังออกมาเมื่อได้คำตอบจากพนักงานเป็นการส่ายหน้าปฏิเสธมือบางยกขึ้นมาปาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มอย่างลวกๆ ก่อนที่เท้าเล็กทั้
ฐิระเชษฐ์สวัสดีครับผมชื่อฐิระเชษฐ์หรือจะเรียกผมสั้นๆว่าคีย์ก็ได้ ทุกคนคงงงว่าผมเป็นใครทำไมถึงได้มาพูดคุยกับทุกคนในตอนนี้ เออนั้นสิ!ทำไมผมต้องมายืนแนะนำตัวหรือพูดคุยกับพวกคุยกลางห้างแบบนี้ด้วย(ใจเย็นคีย์ใจเย็นทุกคนที่แกว่าคือนักอ่านของฉัน)อ๋อหรอโทษๆๆ งั้นเอาเป็นว่าแนะนำตัวจนรู้จักกันมาพอสมควรแล้ว ต่อไปก็กลับเข้าเรื่องเลยแล้วกันฐิระเชษฐ์ที่นัดแนะกับลูกค้ามาพูดคุยตกลงเกี่ยวกับสัญญากันที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง เมื่อถึงเวลาก็ได้มานั่งพูดคุยกันอยู่ที่ร้านอาหารที่นัดกันไว้ พอตกลงกันเรียบร้อยคีย์ก็ได้นั่งทานข้าวกับลูกค้าต่ออยู่พักใหญ่ๆหลังจากทานข้าวและพูดคุยกันนิดหน่อยก็ได้เอ่ยลาและแยกย้ายกันกลับ แต่แล้วคีย์ที่แยกย้ายกับลูกค้าและได้มายืนรอคนขับรถอยู่ที่จุดนัดไว้กับคุณลุงคนขับรถอยู่นานคุณลุงคนขับก็ยังไม่มาสักทีก็เริ่มรู้สึกอารมณ์เสียเล็กน้อยที่คุณลุงคนขับยังไม่มาสักที จนต้องเดินกลับเข้ามาในห้างอีกครั้งแล้วเดินไปเดินมาอยู่ภายในห้างสรรพสินค้าพักใหญ่ๆ ก่อนที่คีย์จะหยุดเดินแล้วล้วงเอาโทรศัพท์มือถือที่สั่นเป็นเจ้าเข้าในกระเป๋ากางเกงของเขาออกมาดูแล้วกดรับสาย เมื่อเห็นว่าคนที่โทรเข้ามาคือคนขับรถขอ
ณ.ร้านK.linเบเกอรี่เวลา15:34นาที"นลินทำไมแกยังอยู่ที่ร้านอยู่เนี่ย นี่มันบ่ายสามกว่าแล้วนะทำไมยังไม่ออกไปรับคิริน"เพื่อนสาวที่ชื่อยิ้มหวานเอ่ยถามเพื่อนสนิทตัวเล็กขึ้นอย่างตกใจ เมื่อเจ้าตัวที่ตรงดิ่งจากบ้านมาเพื่อจะมาเฝ้าร้านแทนกลับเปิดประตูร้านเข้าเจอเพื่อนตัวเล็กเจ้าของร้านยังคงยืนสาละวนยุ่งอยู่กับขนมหวานข้างๆพนักงานชายอีกคนแทนที่ในตอนนี้เพื่อนของเขาควรจะถึงกลางทางในการไปรับลูกชายที่โรงเรียนที่อยู่ห่างจากร้าน10กว่ากิโลเมตรแล้ว"เห๊ยยยลินลืมดูเวลาเลยหวาน ตายๆทำไงดีต้องไปรับคิรินสายแน่ๆ"นลินร้องขึ้นอย่างตกใจในทันทีที่ได้ยินเพื่อนสาวเอ่ยทักบอกเวลา พลางร่างบางก็รีบถอดผ้ากันเปื้อนออกจากตัวและรีบคว้าเอากุญแจรถและสิ่งของสำคัญ ก่อนที่จะรีบกุรีกุจอนออกจากร้านไปโดยมีเสียงของหญิงสาวเพื่อนสนิทอย่างยิ้มหวานตะโกนเตือนไล่หลัง"รีบได้แต่ก็ต้องขับรถอย่างระวังนะนลิน..."...เวลา15:55นาที"ให้ตายเถอะนลิน ทำไมถึงได้ละเลยแบบนี้"นรินทร์สถบด่าตัวเองออกมาเบาๆพลางนิ้วเรียวงามก็เคาะลงกับพวงมาลัยรถอย่างคนร้อนใจ ภายในใจก็พลันร้อนหงุดหงิดภาวนาให้ไฟจราจรเปลี่ยนเป็นสีเขียวเร็วๆ เพราะตอนนี้ตัวเขานั้นจอดติดไฟแดง
บทนำ"พี่คีย์ เขาคนนี้เป็นใคร...ทำไม ทำไมพี่คีย์ถึงมายืนกอดกับเขา"เสียงใสเอ่ยถามแฟนหนุ่มรุ่นน้องที่มักจะให้ตัวเขาเอ่ยเรียกว่าพี่อยู่เป็นประจำด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ พลางนัยน์ตากลมโตก็จ้องมองภาพของชายหนุ่มตัวสูงที่เป็นคนรักของตัวเองยืนกอดกลมเกลียวกับผู้หญิงคนอื่นอยู่ภายในห้องพักของพวกเขาทั้งสองที่ใช้อาศัยอยู่ด้วยกันมานานเกือบจะสามปีพลันในหัวก็เกิดคำถามขึ้นว่านี้มันเรื่องบ้าอะไรกัน ทำไมเขาถึงได้เปิดประตูห้องมาเจอแฟนของเขาที่คบกันมานานนับสามปียืนกอดกับผู้หญิงคนอื่นอยู่ภายในห้องพักของพวกเขา"นลิน พี่ต้องกลับไปที่ญี่ปุ่นแล้วนะ"เสียงทุ้มเข้มของแฟนหนุ่มที่เด็กกว่าหนึ่งปีเอ่ยพึมพำขึ้นมาเสียงเบา พลางใบหน้าหล่อเหล่าก็ก้มมองพื้นห้องไม่ได้ชายตาขึ้นมาจ้องมองคนที่ขึ้นชื่อว่าแฟนอย่างนลินเลยว่าตอนนี้ใบหน้าสวยนั้นได้อาบไปด้วยน้ำสีใสแล้ว"กลับไปกับเขาคนนี้น่ะหรอ กลับไปกับผู้หญิงคนนี้น่ะหรอพี่คีย์"นรินทร์เอ่ยถามคนรักขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาพลางในใจก็พยายามข่มอารมณ์ที่กำลังคุกรุ่นและความเสียใจที่เริ่มจะปะทุขึ้นไว้ภายในใจ"ครับพี่ต้องกลับไปกับเขา"คีย์ยังคงเอ่ยตอบนลินโดยที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองหรือสบตา เ