Home / LGBTQ+ / ดลรวีที่รัก / บทที่ ๑๙ ตัวเลือกที่ดีที่สุด (๑๐๐%)

Share

บทที่ ๑๙ ตัวเลือกที่ดีที่สุด (๑๐๐%)

last update Last Updated: 2024-12-20 18:00:16

“คุณย่าครับ...”

“จ๊ะกันต์”

“ผม... มีเรื่องจะปรึกษาคุณย่านิดหน่อยครับ...”

กันต์ธีร์บอกออกมาตามตรงว่าเด็กชายไม่กล้าเล่าความนี้แก่คุณอา อย่างที่เคยเป็นมาก่อนเพราะสังเกตเห็นถึงสุขภาพกายใจของเจ้าตัวไม่ค่อยสู้ดี หากต้องมารู้เรื่องนี้เข้าไปอีกคงจะเป็นการทับถมปัญหาไปไม่จบไม่สิ้น

ความสัมพันธ์ระหว่างคุณย่าและหลานชายเมื่อก่อนค่อนข้างสนิทสนมกันมาก เป็นประหนึ่งคุณแม่อีกคนก็ว่าได้ เวลาเด็กชายมีอะไรนอกจากอาด้วงจะเป็นย่ามาลีที่คอยอยู่ข้าง ๆ เสมอมา ขณะนี้ก็เช่นกัน

เด็กชายนั่งอยู่ข้าง ๆ เงยหน้ามองคุณย่าที่ส่งยิ้มมอบกำลังใจมาให้อย่างไม่ขาด ทีแรกเขารู้ว่าบิดาชอบพอในตัวคุณอาผู้เป็นน้องชายบุญธรรมแต่ทว่าเขาไม่รู้เลยว่าในทางตรงกันข้าม อาด้วงคิดเห็นอย่างไรกับคุณพ่อ จนเมื่อหลายวันก่อนมาถึง เขาออกมาแอบดูหน้าห้องคุณพ่อด้วยความเป็นห่วง ก่อนจะได้ยินบทสนทนา

‘เราเอาเรื่องนี้ไปบอกลูกกันเถอะ’

‘ไม่ได้...’

‘เรื่องมันเป็นแบบนี้แล้ว ทำไมเรายังปฏิเสธความรู้สึกตัวเองอีก’

‘พี่คิดสิว่ากันต์จะรู้สึกยังไง แค่คืนนั้นท

Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๒๐ ประโยชน์ร่วม (๕๐%)

    ดันกิมาขึ้นสถานีรถไฟอย่างเคยทว่าเวลากลับเปลี่ยนไป ไม่ใช่เช้าตรู่แต่เป็นช่วงหัวค่ำเพราะวันพรุ่งนี้เขาว่าจะไปหาพี่ชายสักหน่อย เนื่องจากเจ้าตัวเมื่อรู้ที่อยู่ของเขาก็ส่งจดหมายมาไม่หยุดหย่อนประหนึ่งไม่กลัวว่าใครจะรู้อาชีพที่แท้จริงของเขาอาจารย์ชาวญี่ปุ่นในชุดคอปกสีขาวถอดเสื้อคลุมสูทออกมาพาดไว้กับกระเป๋าเดินทางคู่ใจเมื่อขึ้นมาหาที่นั่งได้ เพราะเป็นกะดึกเขาจึงไม่คาดหวังที่จะได้พบหน้าคุณดลรวี ทั้งที่เมื่อก่อนช่วงนี้จะได้เจอแท้ ๆ แต่มันคงจะเป็นการดีสำหรับเจ้าตัวมากกว่าที่จะได้มีเวลาพักผ่อนอยู่กับคนที่บ้านมากขึ้น เพราะก่อนหน้า อาการคุณดลรวีไม่ค่อยจะสู้ดีเท่าไรนัก ทำเอาเขาเป็นห่วงเลยว่าสักวันหากเจ้าตัวเกิดล้มทรุดขณะเดินทำงานจะเป็นอย่างไรทว่าคิดถึงเรื่องคุณดลรวีแล้วก็อดนึกไม่ได้ถึงวันที่ความสัมพันธ์ของพวกเขาจะเขยิบขึ้นไปอีกระดับ เพราะตอนนี้อะไรหลายอย่างที่นายสถานีคนโปรดแสดงออก เขาก็เห็นว่าเหมาะสมแล้วที่จะเอ่ยปากขอคบหาดูใจอย่างตรงไปตรงมากระนั้นลึก ๆ ของเขากลับเป็นกังวลอยู่เรื่องหนึ่ง เขาคิดไม่ตกมาก็หลายครั้งหลายคราเมื่อเอาหัวลงหมอน เพราะรสนิยมของเขาจะว่าแปล

    Last Updated : 2024-12-21
  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๒๐ ประโยชน์ร่วม (๑๐๐%)

    “กันต์ครับ เข้าบ้านไปอย่าลืมบอกคุณพ่อว่าอาออกไปธุระเรื่องเรียนพิเศษของเรา กลับไม่เกินสองทุ่มนะ”เด็กชายเจ้าของชื่อพยักหน้าหงึก ๆ ด้วยความเข้าใจ คุณอากำชับเรื่องนี้แล้วรวมไปถึงให้เล่าเรื่องทุกอย่างเกี่ยวกับครูอุ่นโดยละเอียดและวันเวลาที่อาจารย์เจ้าจะเข้ามาทดลองสอนด้วยเช่นกันกันต์ธีร์ในชุดพร้อมนอนเดินสะพายกระเป๋าเข้าบ้านในขณะที่คุณอาเมื่อฝากฝังอะไรเสร็จสรรพจะรีบวิ่งออกไปยังทางที่พึ่งเข้ามาเพื่อไปให้ถึงที่หมายเร็วที่สุด จริง ๆ คุณอาหมายจะช่วยถือสัมภาระทั้งหมดขึ้นบ้านทว่าเพราะเขาเห็นเจ้าตัวมีธุระต่อที่สถานีจึงอาสาทำให้เองทว่าเมื่อคิดจะเอื้อมสองมือก้มไปหยิบหูกระเป๋าก็มีมือใหญ่มาคว้ามันไปเสียก่อน“เดี๋ยวพ่อเอาสองใบนี้ขึ้นไปให้เอง ลูกถือแต่ของตัวเองเถอะ”“ครับ”กันต์ธีร์หรี่ตาเม้มปากมองพื้นด้วยความแปลกใจก่อนจะเงยหน้าเดินตามผู้เป็นบิดาขึ้นบันได เขาเตรียมใจที่จะมาเจอคุณพ่อมาดดุเสียมากกว่า แต่ก่อนคุณย่าจะไปจากเรือนเมื่อสัปดาห์ก่อนหญิงเจ้าก็สัญญาเอาไว้แล้วว่าเมื่อเขากลับมาเขาจะได้เจอกับพ่อคนใหม่แน่นอนเมื่อเดินขึ้นไปหลายสิ่งหลายอย่างเปลี่

    Last Updated : 2024-12-22
  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๒๑ มันไม่ใช่ (๕๐%)

    ไกรวิชญ์ในเช้าวันศุกร์กำลังจัดแจงเครื่องแบบตำรวจบนตัวให้เข้าที่พร้อมสำหรับการออกทำงาน เมื่อเห็นว่าเรียบร้อยสิ่งสุดท้ายคือการหยิบนาฬิกาเรือนโปรดขึ้นมาสวมยังข้อมือข้างซ้ายพร้อมตรวจเวลาไปด้วย เขาติดนิสัยตื่นเช้าตามน้องชายหลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จตอนนี้จึงเป็นเวลาเพียงตีห้าห้าสิบ เขาเหลือเวลาอีกเหลือเฟือสำหรับการทานมื้อเช้าจู่ ๆ เมื่อเขาบังเอิญมองไปยังหัวเตียงซึ่งเป็นที่ประจำของนาฬิกาปลุกและมันเคยเป็นที่วางถุงหอมทุกครั้งที่เขาเคยได้รับมาจากน้องชาย ว่าแล้วก็ชวนให้คิดถึง จำได้ว่าครั้งล่าสุดที่เขาได้รับคงจะเป็นวันเกิดตัวเองเมื่อกลางปี จนตอนนี้เขาก็ยังไม่ทิ้งมันไปและเก็บรักษาพวกมันทั้งหมดไว้เป็นอย่างดีแม้ดอกไม้จะแห้งกรอบไปแล้วก็ตาม เขาติดนิสัยนี้มาตั้งแต่ได้รับถุงหอมทำมือครั้งแรกเมื่อสมัยเด็กแล้ว ทีแรกก็ว่าจะทิ้งเมื่อมันหมดกลิ่นทว่าเมื่อเอาเข้าจริงเขากลับทำใจทิ้งไม่ลงเมื่อรู้ว่าด้วงเป็นคนเย็บเองกับมือ ดังนั้นตอนนี้ซองทั้งหมดจึงถูกเก็บไว้ในกล่องที่เขาซื้อมาโดยเฉพาะตอนนี้เขาชักอยากได้มันอีกแล้วสิ เพราะเวลาได้กลิ่นโชยมามันชวนให้หลับสบายจริง ๆ ไหนลูกชายเขาเมื่อหลาย

    Last Updated : 2024-12-23
  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๒๑ มันไม่ใช่ (๑๐๐%)

    ความกังวลของเขาดำเนินมาจนถึงวันเสาร์ของอีกสัปดาห์ เวลาแปดโมงนิด ๆ ซึ่งเป็นวันที่นัดอาจารย์เจ้าเอาไว้ เขาตื่นขึ้นมาใส่เสื้อผ้าให้พอดูได้ไม่โทรมเหมือนเมื่อวันที่มาค้าง ด้วงบอกว่าจะออกไปรับอาจารย์แกที่สถานีเพราะเป็นที่ที่เจอกันประจำแต่ละคำที่น้องชายพูดออกมาช่างแทงใจเขาได้อย่างแยบยลเหลือเกิน“อาจะไปรับคุณครูแล้วนะ”“ผมขอไปด้วยได้ไหมครับ!?”เจ้าลูกชายกล่าวอย่างตื่นเต้น แน่ล่ะ ก็เป็นคนเลือกเองกับมือนี่ไกรวิชญ์มองสองอาหลานสนทนาก็อมยิ้ม ไม่ว่าตอนไหนเวลาด้วงคุยกับกันต์หรือกับเด็ก ๆ มักจะมีไอเสน่ห์แผ่ออกมาชวนให้มองได้ตลอดจริง ๆเขาพยายามไม่เอาตัวเองไปก้าวก่ายสิ่งที่ทั้งสองคนช่วยกันตัดสินใจตามคำแนะนำของคุณแม่ ตอนแรกที่เริ่มทำก็ค่อนข้างอึดอัดนิดหน่อย แต่พอลองปล่อยทุกอย่างให้เป็นไปตามธรรมชาติ ก็คล้ายว่าเขาจะได้รับประโยชน์จากมันด้วยเพราะตอนนี้เขารู้สึกว่าตัวเบาขึ้นโขเลยเมื่อได้ยินว่าคุณอาอนุญาตให้กันต์ธีร์ไปด้วยกันได้เขาจึงนึกอะไรออกและเดินเข้าไปแตะลูกชายเบา ๆ ขณะคุณอาเดินลงไปใส่รองเท้ารอ เรียกให้เจ้าตัวหันมาฟังที่เขาจะฝาก

    Last Updated : 2024-12-24
  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๒๒ ยืนยัน (๕๐%)

    เพราะจดหมายที่เขาเขียนไม่ได้มีผลต่อพฤติกรรมหรือจิตใจของผู้เป็นน้องเลยแม้แต่น้อย เขาจึงยืนตั้งสติอยู่หน้าประตูแล้วสัญญากับตัวเองว่าจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่ไม่ทำให้ด้วงต้องน้ำตาตกอีก*ก๊อก ก๊อก* เมื่อคิดเรียบเรียงคำถามในหัวแล้วเขาจึงค่อยยกมือขึ้นเคาะบานประตูเนื้อหนาพอให้อีกคนได้ยิน แล้วจึงเอ่ยระบุตามปกติ“พี่เองครับ ขอเข้าไปได้ไหม?”ภายในห้องนั้นเขาไม่ได้ยินเสียงอะไรหลังจากสิ้นประโยค เขาจึงตัดสินใจรอไปอีกสักพักเผื่อว่าเจ้าของห้องกำลังใช้เวลาตัดสินใจ ทว่าผ่านไปนานสองนานจนผิวเขาเริ่มสัมผัสได้ถึงไอเย็นที่เพิ่มขึ้น ไกรวิชญ์จึงตั้งใจจะเคาะอีกครั้งและหากครั้งนี้เจ้าตัวไม่ออกมาเขาจะยอมแพ้และผลัดการสนทนาไปเป็นวันอื่นแทนทว่าระหว่างที่เขาวางแผน เสียงกลอนที่ถูกไขจากด้านในก็ดังขึ้นพร้อมประตูที่แง้มออก เจ้าตัวไม่ได้รอรับเขาแต่เมื่อเปิดประตูเสร็จกลับเดินไปนั่งขอบเตียงทันที ภายในห้องไม่ได้มีจุดกำเนิดแสงใดนอกจากตะเกียงที่เขาติดมือมาด้วยเขาพาตัวเองมานั่งบนเก้าอี้ตรงข้ามน้องชายที่สีหน้าดูจะไม่อยากคุยกับเขาสักเท่าไรนัก ดวงตาไร้แววนิ่งเฉย ไม่เปิดเ

    Last Updated : 2024-12-25
  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๒๒ ยืนยัน (๑๐๐%)

    นี่ถือเป็นการรับคำปรึกษาเชิงจิตวิทยา การสนทนานี้มีเป้าประสงค์เพื่อความเข้าใจที่มาของอารมณ์เชิงลบที่ก่อปัญหาและนำไปสู่พฤติกรรมของผู้รับฟังที่กระทบต่อการดำเนินชีวิต เมื่อนั้นเขาจึงจะสามารถช่วยหาวิธีที่เหมาะสมสำหรับคนไข้ได้“เล่าออกมาเท่าที่คุณสบายใจได้เลยครับ”“จะมีชื่อผมอยู่ในประวัติคนไข้รึเปล่าครับ?”“จะมีชื่อครับ แต่ไม่ใช่ในฐานะคนไข้ และเป็นผู้เข้ารับคำปรึกษาแทน”ไกรวิชญ์ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ในเมื่อเขาต้องเล่าออกมาเจ้าตัวถึงจะให้ความช่วยเหลือเขาได้ แต่หากมันต้องอยู่ภายใต้ความสบายใจของเขาด้วยแล้วละก็“ผมมีน้องบุญธรรมอยู่คนหนึ่งครับ...”เขาไม่ได้โกหก เพียงไม่ได้ระบุเพศลงไปในรูปประโยค และเมื่อคุยกันไปกันมาหมอเองก็ดูจะไม่ได้คะยั้นคะยอให้เขาพูดสิ่งที่เขาไม่เต็มใจรวมไปถึงเขามีโอกาสหยุด หรือปฏิเสธการตอบคำถามได้ทุกเมื่อน่าแปลกใจที่คนอย่างเขาสามารถเล่าเรื่องครอบครัวตัวเองออกมาได้เป็นฉาก ๆ จนมาชะงักตอนที่เขาต้องเล่าเรื่องคดีการพนันและเรื่องพ่อ...เขาสังเกตว่าปากกาในมือหมอหยุดนิ่งมาตลอดจนเมื่อเขาหยุดชะงักไปนาน ตอนนี้คุณห

    Last Updated : 2024-12-26
  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๒๓ ความในใจ (๕๐%)

    เมื่อได้เวลามื้อกลางวันเขาจึงเดินทางจากบ้านพักเพื่อมารับนายสถานีคนโปรดไปทานมื้อเที่ยงด้วยกัน เขารู้สึกว่าท้ายปีที่เขาไม่มีงานใหญ่เข้ามาแบบนี้ช่างเป็นเวลาอันเหมาะที่จะได้เอาใจใส่คุณดลรวีเป็นที่สุดหากเป็นวันที่อยู่ห้องเตรียมการสอนหรือใช้เวลาว่างไปกับการทำงานอดิเรกก็จะสวมเพียงกางเกงและเสื้อเชิ้ตเปล่า ๆ ทว่าแม้จะมีกิจเพียงออกไปเจอหวานใจเขาก็อยากรักษาภาพลักษณ์ที่ดีต่อหน้าเจ้าตัวจึงเลือกหยิบเนกไทสีม่วงและเสื้อกั๊กน้ำเงินเข้าคู่ขึ้นสวม และตรวจทานตัวเองเป็นอย่างดีก่อนออกมาเมื่อมาถึงเขาจึงไปนั่งรอยังที่เดิมนอกเขตชานชาลา นั่งมองผู้คนเตะฝุ่นเล่นไปสักพักก็มีสัมผัสของปลายนิ้วมาแตะบนไหล่ด้านขวาเมื่อเขาหันไปถึงเห็นเป็นฝ่ามือสีน้ำผึ้งและ ‘คุณคนรัก’ ในเครื่องแบบนายสถานีมอบรอยยิ้มมุมปากให้เขาอยู่“ผมบอกกี่ครั้งแล้วไงว่าไม่ต้องมาก่อนเวลานาน ผมเกรงใจนะครับ”“ไม่เป็นไรเลยครับ”“คุณเอาแต่พูดแบบนี้ ถ้าผมนิสัยเสียขึ้นมาจะทำยังไง”อาจารย์ชาวญี่ปุ่นได้ยินคำตำหนิมาก็ไม่น้อยแต่เพราะเขามีใจจะรอและเคยชินกับการมาก่อนเวลาจึงขอขัดคำสั่งคุณคนรักข้อหนึ่งก็แล้ว

    Last Updated : 2024-12-27
  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๒๓ ความในใจ (๑๐๐%)

    ไกรวิชญ์ถูกคุมตัวมายังห้องสืบสวนซึ่งตอนนี้ภายในห้องมีเพียงเขาและนายตำรวจสักคนกำลังนั่งเปิดเอกสารในมือไปพลางระหว่างรอจังหวะพูดห้องเล็ก ๆ มีกลิ่นอับพร้อมพื้นที่โต๊ะเพียงพอสำหรับการวางมือและกองหลักฐานรวมไปถึงเก้าอี้ทั้งสองตัวสำหรับตำรวจสอบสวนและเขาซึ่งอยู่ในฐานะผู้ต้องหาไกรวิชญ์แม้ยังคงสับสนงุนงงอยู่บ้างแต่ก็ไม่ได้ตื่นตระหนกอันใดและกำลังเตรียมใจพร้อมรับทุกข้อกล่าวหาโดยไม่รอทนายส่วนตัว อย่างไรเจ้าพวกนี้ก็ดูจะเชื่อปักใจจนไม่ยอมให้เขาเรียกร้องสิทธิ์อะไรอยู่แล้ว“ข้อกล่าวหาที่คุณได้รับคือ…”หนึ่ง...ใช้อำนาจในทางมิชอบข่มขู่ผู้อื่น มีผู้เสียหายเป็นกลุ่มคนที่เขาเคยไปใช้เงินปิดปากตั้งแต่เมื่อ ๑๓ ปีก่อนสอง...มีส่วนรู้เห็นกับบิดาเรื่องบ่อนการพนันและการค้ายาเสพติด ไกรวิชญ์ได้ยินข้อกล่าวหาแล้วก็ขมวดคิ้ว เขาจำได้ว่าถึงจะมีส่วนรู้เห็นแต่ก็เพียงผิวเผิน รวมไปถึงเขายังเอาคืนพ่อด้วยการลงปิดบ่อนนั้นเองกับมือเสียด้วยซ้ำ หรือพวกมันกลับมาอีกครั้งและมีบันทึกทางธุรกรรมเก็บไว้อยู่สาม...ทำร้ายนักโทษในโรงพัก

    Last Updated : 2024-12-28

Latest chapter

  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๓๐ เหมือนฝัน (๑๐๐%)

    วันนี้เป็นวันที่ไกรวิชญ์อารมณ์ที่ดีที่สุดในรอบหลายปี ไม่ว่าเรื่องอะไรหรือปัญหาแบบไหนล้วนผ่านไปได้ด้วยดีเหลือเกินนายตำรวจในผ้านุ่งเปลือยท่อนบนเดินเช็ดผมออกมาจากห้องน้ำ เสียงพรูลมหายใจเพราะความโล่งสบายถูกขับออกมาเมื่อเจ้าของห้องเดินมาพาดผ้าขนหนูกับราวไม้ในห้องตอนนี้เรียกได้ว่าเขาได้โอกาสกลับมาแล้วได้ไหมนะ... ตลอดมาด้วงปฏิเสธเขาตัวโยน ทั้งเขายังเผลอทำอะไรไม่ยั้งคิดลงไปตั้งหลายครั้ง ไม่รู้ป่านนี้เขาจะได้รับการให้อภัยแล้วรึยัง*ก๊อก ก๊อก*‘ผมเอง’เพียงแค่สองพยางค์ไกรวิชญ์ละมือจากราวผ้าเช็ดตัวเดินไปเปิดประตูให้ในทันทีโดยลืมไปว่าตัวเองลืมสวมเสื้อ แต่ด้วงนั้นไม่ได้คิดอะไรเดินเข้ามาแบบสบายใจพร้อมกล่าวหัวข้อการสนทนา โดยเป็นไกรวิชญ์เองที่ล่กเอื้อมมือไปหยิบเสื้อที่พาดอยู่มาสวมแทบไม่ทัน“พี่รู้เรื่องครูอุ่นเขารึยัง?”“หมายถึงเรื่องที่เขาเป็นทหารเหรอ?”“ใช่”ไกรวิชญ์เก็บสีหน้าเพราะเหมือนด้วงจะเข้ามาคุยเรื่องอนาคตการเรียนของลูกชายเขา ไกรวิชญ์จึงเดินไปเร่งไฟตะเกียงหัวเตียงให้สว่างพอที่จะทำการสนทนาอย่างเป็นกิจจะล

  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๓๐ เหมือนฝัน (๕๐%)

    การกระทำที่ไม่เป็นตัวเองล้วนเกิดมาจากความกลัวภายใต้จิตสำนึกโดยที่เจ้าของร่างไม่อาจควบคุมได้ เหมือนกับการพยายามเปล่งเสียงตะโกนขอร้องความช่วยเหลือในกล่องมืดที่ไร้ซึ่งผู้คน น้องชายเขาคงเป็นเช่นนี้มาตลอด บอกใครไม่ได้เพราะกลัว หนีไม่ได้เพราะใจยังห่วง ทว่ากลับอ่อนแอจนไม่อาจมีแรงยืนหยัด ดังนั้นหนทางเดียวคือการสร้างเกราะ กีดกันทุกอย่างที่จิตใต้สำนึกสั่งให้เอาออกไปจากชีวิต‘แค่พูดคำไม่กี่คำ...’นั่นคือสาเหตุว่าทำไมน้องชายถึงได้ปฏิเสธเขาหนักหนา ด้วยแรงกดดันอันมหาศาลและสถานการณ์อันบีบคั้นส่งผลให้เด็กคนนั้นจำฝังใจมาจนถึงทุกวันนี้รักกันไม่ได้เพราะกลัวมารดาจะเป็นอันตรายรักกันไม่ได้เพราะกลัวทำครอบครัวคนอื่นแตกแยกรักกันไม่ได้เพราะกลัวหลานชายที่กำเนิดมาจะผิดหวังมันเป็นปัญหาลูกโซ่ที่สืบเนื่องมาจากคำขู่ไม่กี่คำในวัยเยาว์ ค่อย ๆ ซึมลึกลงไปยังก้นบึ้ง แตกหน่อออกผลตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาอย่างเงียบ ๆ กัดกินจิตใจเป็นอาหาร ประหนึ่งมีดคมที่ค่อย ๆ เฉือนเนื้อออกไปทีละนิดอย่างประณีตบรรจงเสียงร่ำไห้ที่เขาได้ยินเหมือนมันเป็นความโศกเศร้าตลอดร่วมสิบปี

  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๒๙ เข็มนาฬิกา (๑๐๐%)

    สองชายหนุ่มคนหนึ่งเป็นตำรวจคนหนึ่งเป็นอาจารย์พากันมานั่งรอรับยาหน้าโรงพยาบาล เพราะหลังจากเมื่อคืนที่ตากฝนกันไปร่วมชั่วโมงก็พลอยทำให้เชื้อหวัดลงปอดไอกะด้อกะเดี้ย น้ำมูกไหลจมูกแดงไปตาม ๆ กันไกรวิชญ์รู้เรื่องจากปากอาจารย์เจ้าว่าวันนั้นได้ทำอะไรกับน้องชายเขาไปบ้างก็มีน้ำโห กล้าทำกับผิวอันบอบบางแบบนั้นไปได้อย่างไรถึงมันจะเป็นการแสดงเพื่อให้ด้วงเลิกกับตัวเองก็เถอะดันกิเองเมื่อจัดการศัตรูที่เข้ามาและฝังกลบดินไปแล้วก็หันมามองเขม่นใส่นายตำรวจคนที่คุณดลรวีหลงนักหลงหนาแล้วมาใช้เขาเป็นตัวแทนเพื่อตัดใจ“ผมโคตรอยากต่อยคุณเลย”“เอาเข้าจริงผมก็อยากต่อยคุณเหมือนกัน”“…”“…”“สนใจมาแลกกันคนละหมัดไหม?”“ผมก็คิดอยู่แต่แบบนั้นคุณดลรวีน่าจะไม่ชอบ”“ผมก็ว่างั้น”‘ขอเชิญหมายเลข ๒๒๓ รับยาที่ช่องเจ็ดค่ะ’ ดันกิถอนหายใจออกมาพลางลุกขึ้นไปรับยาพร้อมถือกระเป๋าติดตัวไปด้วย เมื่อรับยาเสร็จทีแรกที่คุยกับไกรวิชญ์เขาว่าจะขึ้นไปเยี่ยมคุณดลรวีด้วยกัน แต่พอมาคิด ๆ ดูแล้วคนที่ไม่สามารถปกป้องเจ้าตัวได้อย่างเขาไม่มีสิทธิ์ไ

  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๒๙ เข็มนาฬิกา (๕๐%)

    เสียงพื้นรองเท้ากระทบฝนยังคงไม่หายไปแม้เวลาจะล่วงเลยมาเกือบหนึ่งชั่วโมงนับตั้งแต่ที่ไกรวิชญ์ได้รับโทรศัพท์มาจากแม่เลี้ยงแล้วก็ตาม แน่นอนว่าเขาไม่มีกะจิตกะใจแม้แต่จะเปลี่ยนเสื้อผ้า ยังคงสวมเครื่องแบบตำรวจวิ่งตามหาไปทั่วอยู่อย่างนั้น รวมไปถึงอาจารย์ชาวญี่ปุ่นด้วยเช่นกันชายสองคนวิ่งกลับมาเจอกัน ณ หน้าจุดนัดพบหน้าบ้านเมื่อแยกกันไปหาคนละทางแต่ยังไม่พบวี่แววของคนน้องแม้สักนิด ยิ่งเวลาผ่านไปเรื่อย ๆ ยิ่งทำให้ทั้งนายตำรวจและอาจารย์เป็นห่วงขึ้นไปอีก“ผม...ขอโทษ”ดันกิกล่าวขออภัยด้วยใจรู้สึกผิด หากเขาไม่ทำแบบนั้นบางทีคุณดลรวีคงจะกลับบ้านอย่างปลอดภัยหรือไม่หากเขาทำหน้าหนาตามมาส่งสักหน่อยเรื่องแบบนี้อาจไม่เกิดขึ้นก็เป็นได้“คำนั้นเอาไว้พูดหลังหาด้วงเจอก็แล้วกัน”ไกรวิชญ์พูดด้วยความร้อนรน พลางมองหาเบาะแสที่เขาอาจพลาดไป เมื่อสักครู่เขาแยกไปดูยังเส้นทางอื่นที่น้องชายสามารถเดินกลับบ้านได้แต่ก็ไม่เจอ จึงคิดจะวกกลับไปดูอีกครั้งยังทางเข้าหลักหน้าหมู่บ้านเป็นครั้งที่สองนายตำรวจก้าวขาเดินออกไปโดยไม่ได้บอกกล่าวอาจารย์ที่อาสาตามหาเจ้าน้องด้วยกัน ทว

  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๒๘ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า (๑๐๐%)

    เนื่องจากตำรวจยังไม่สามารถตามจับกุมนักโทษที่หลบหนีได้ทั้งหมด แม้มันจะเหลือเพียงส่วนน้อยแล้วก็ตามแต่อย่างไรเพื่อความปลอดภัยของผู้คนในเขตนั้น ๆ เมื่อได้เบาะแสอะไรมาพวกเขาจึงต้องเอามาร่วมพิจารณา ยิ่งไปกว่านั้นคดีที่ค้างคาอยู่ก็ยังต้องนำมาพูดถึงเป็นลำดับไปสำหรับการวางแผนในอนาคตอีก“ขอบคุณทุกคนมาก กลับบ้านได้”เป็นไกรวิชญ์ที่กล่าวประโยคนั้น แม้เพื่อนร่วมงานสน.นี้จะขยันขันแข็งกันขนาดไหน แต่เขาก็เข้าใจหัวอกบางคนที่มีลูกมีเมียอยู่บ้าน หากเขารั้งไว้คงจะไม่เป็นการดีนัก“ไอ้ไกร วันนี้ไม่ใช่เวรเอ็งไม่ใช่เหรอ?”พูนกลับมาจากโต๊ะประชุมพร้อมเพื่อนในขณะที่เขาเก็บของลงกระเป๋า แต่ไกรมันกลับนั่งลงหยิบสำนวนขึ้นมาเปิดไปมาเสียอย่างนั้น“ขอทำความเข้าใจตรงนี้ก่อน”“ขี้เกียจบ้างเถอะพ่อคุณ”“ไว้ค่อยทีหลัง”“แบบนี้น้องไม่ห่วงแย่แล้วรึ?”“ด้วงจะมาห่วงอะไรฉัน”“ใช่ว่าเขามีชิ้นแล้วจะเมินเอ็งสักหน่อย”“ช่างฉันเถอะน่ะ”เพราะรำคาญเสียงจ้อกแจ้กของเพื่อนจึงบอกปัดไป ก่อนจะต่างฝ่ายต่างโบกมือลา ไกรวิชญ์จึงได้กลับมาตั้งสมาธิก

  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๒๘ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า (๕๐%)

    “แหม ถือร่มมารับเลยนะครับ”“ก็ฝนตกมาตั้งแต่เช้าแล้วนี่ครับ”แผนซึ่งมาโบกธงเจอหน้าคนรักของเพื่อนพอดีจึงถือโอกาสสนทนาระหว่างด้วงมันกลับมาจากห้องน้ำ หลังจากวันที่ไอ้ด้วงเป็นลม อาจารย์คนนี้คล้ายจะประคบประหงมเป็นพิเศษเพราะรถไฟพึ่งออกและยังอยากตากลมเย็นจึงนั่งบนเก้าอี้รอไอ้ด้วงเป็นเพื่อนอาจารย์ชาวญี่ปุ่น เรื่องราวที่เขาเข้าใจกับที่เกิดขึ้นมันย้อนแย้งกันไปคนละทิศละทาง แต่อย่างไรก็โต ๆ กันแล้ว หากเพื่อนเขาตัดสินใจแบบไหนเขาก็ตามนั้นไม่ได้เป็นปัญหาอะไรหรอกเพียงแต่...เขาในฐานะเพื่อนจริง ๆ ก็คอยจับสังเกตมาตลอด เคยลองเซ้าซี้ทว่ามันกลับเอาแต่บอกว่าไม่มีอะไร ไม่นู่น ไม่นี่จนเขาเหนื่อยหน่าย ทำได้เพียงมองเมียงกลัวมันจะเป็นอะไรเข้าในสักวัน และก็เป็นไปตามคาดจริง ๆ ไม่รู้มันไปเอาความเครียดมาจากไหนเยอะแยะจนแต่ละวันน้อยครั้งนักที่จะเห็นมันยิ้มออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ ขนาดคนรักเจ้าตัวมาพูดคุยด้วยก็ยังคงทำหน้านิ่งเฉย ต่างจากสมัยยังเป็นเพื่อนผู้โดยสารลิบลับ“ขอโทษที่ต้องให้รอนะครับ”“ไม่เป็นไรครับ”แผนโบกมือลาเจ้าเพื่อนเป็นครั้งสุดท้ายของวันเพรา

  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๒๗ เลิกไม่ได้ (๑๐๐%)

    “ขี้เกียจทำงานแล้ว...เฮ้อ”เสียงบ่นอิดออดนั่นออกมาจากปากเพื่อนเพียงคนเดียวของไกรวิชญ์อย่างเจ้าพูนที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ไร้เรี่ยวแรงจะทำงาน ไกรวิชญ์ซึ่งชินชากับนิสัยนั้นแล้วจึงก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไปหลังไม่ได้แตะปากกากับกระดาษมานานหลักเดือนพันโทหรี่ตามองคุณพ่อตำรวจทำงานไฟลุกด้วยหน้าตาอันเรียบเฉย ถ้าเป็นเขาโดนหักเงินเดือนคงไม่มานั่งตั้งใจทำงานเกินค่าจ้างแบบนี้หรอก ว่าแล้วก็ถอนหายใจอีกครั้งเป็นการพ่นความเครียดที่ไม่มีอยู่จริงออกมา‘เมื่อไหร่จะจับพวกมันให้หมดสักที รู้ไหมพวกฉันกังวลแค่ไหน!?’‘ทำงานให้มันดี ๆ หน่อย!’‘ถ้าจะชักช้ายืดยาดแบบนี้ก็ไม่ต้องเป็นหรอกตำรวจน่ะ!!’พูนได้ยินเสียงโวยวายของชาวบ้านแว่วมาจากทางด้านนอกก็เอือมระอา ในตอนที่ไกรมันไม่อยู่ก็เป็นเขาที่บากหน้าออกไปรับคำดุด่าว่ากล่าวแทน เอาเข้าจริงใช่ว่าพวกเขาตลอดทั้งเดือนที่พยายามสืบหากันมาก็ทยอยจับมาได้เรื่อย ๆ แต่เพราะนี่เป็นข่าวใหญ่ที่ยังลงสื่อวิทยุและหนังสือพิมพ์ทางการ ไม่แปลกที่ผู้คนจะให้ความสนใจและเพ่งเล็งผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างพวกเขาขนาดนี้“เมื่อวานก็มา พวกป้

  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๒๗ เลิกไม่ได้ (๕๐%)

    ‘แม่พึ่งถักแล้วซักเสร็จ ลูกเอาไปใส่ด้วยนะ’แม่บอกเขามาเช่นนั้นพร้อมมอบผ้าพันคอไหมพรมสีเทามาให้ ปกติแล้วบ้านเราไม่ค่อยมีของพวกนี้เท่าไรนักเพราะหน้าหนาวประเทศไทยก็ใช่ว่าจะหนาวมากมาย เผลอ ๆ บางวันร้อนเหมือนเตาถ่าน ทว่าวันนี้เพียงตื่นมาก็ต้องขนลุกซู่เพราะลมหวิวที่แทรกเข้ามาตามช่องไม้ เขาจึงปฏิเสธไม่ได้ที่จะรับมันมานายสถานีหลังทานข้าวต้มมื้อเช้าเสร็จก็ผูกผ้าพันคอเดินลงมาสวมรองเท้าคู่ใจออกจากบ้านตามปกติ บรรยากาศวันนี้ค่อนข้างอึมครึมพิกล ทั้งมือเขายังรู้สึกเจ็บแปล๊บ ๆ ทุกครั้งที่ขยับ อาจเพราะความเย็นกัดผิวก็เป็นได้ เขาหวังว่าเจ็ดโมงที่สถานีจะมีคนต้มน้ำอุ่นเอาไว้จิบคลายความหนาวเดินไปเรื่อยจู่ ๆ ก็รู้สึกหิวทั้งที่พึ่งกินมา จะว่าไปเมื่อเช้าแทบไม่ได้แตะอะไรไปเท่าไรนัก ข้าวในถ้วยก็น้อยนิดแต่กว่าจะฝืนกินจนหมดก็นานโข กินอะไรไม่ลงแบบนี้ค่อนข้างส่งผลร้ายต่อร่างกายหลายด้านเลยเชียวยิ่งไปกว่านั้นเมื่อคืนเขาก็ดันฝันถึงเรื่องเดิม ๆ จนสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึกอีกแล้ว ตอนแรกคิดว่าอาจเพราะชอบนอนคุดคู้เอาหน้าซุกผ้าห่มจนหายใจไม่ออกแต่มันไม่ใช่เลย ที่ฝันร้ายนั่นกลับม

  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๒๖ ยินดี (๑๐๐%)

    “เครื่องแบบไม่มีที่เป็นแขนยาวสำหรับหน้าหนาวเหรอครับ?”“พวกเราใส่แบบเดียวกันตลอดทั้งปี ไม่มีแยกตามฤดูกาลหรอกครับ”“แบบนี้ก็ไม่ดีน่ะสิ”“ฮ่า ๆ ประเทศนี้ถ้าหนาวมาทีก็ถือว่าบุญส่งแล้วครับ ปกติร้อนเกือบทั้งปี”ด้วงรู้สึกว่าตัวเองตอบคำถามไม่ค่อยเป็นธรรมชาติสักเท่าไรเมื่อเทียบกับเมื่อก่อนทั้งตอนนี้คุณอุ่นยังเป็นคนเริ่มบทสนทนาอยู่ฝ่ายเดียว เขากลัวอีกฝ่ายจะตั้งแง่สงสัย อย่างน้อยเขาก็ควรเป็นฝ่ายถามกลับไปบ้าง“ถุงหอมที่ให้ไปเป็นยังไงบ้างครับ?”“หอมผ่อนคลายมากเลยครับ ผมห้อยติดกระเป๋าไว้ตลอดเลย”ว่าแล้วอาจารย์แกก็ยกกระเป๋าถือขึ้นมาให้เขาดู บริเวณโลหะข้อต่อหูกระเป๋ามีตาข่ายถุงหอมห้อยอยู่ ด้วงเห็นแล้วก็สะกิดใจ ทั้งที่มันแขวนให้เขาเห็นมาตลอดแต่กลับไม่ได้สังเกตเลย สงสัยต่อจากนี้เขาควรใส่ใจคุณอุ่นให้มากกว่าที่เป็นอยู่เสียแล้ว“ขอบคุณที่เดินมาส่งถึงหน้าบ้านอีกแล้วนะครับ”“ผมก็ขอบคุณที่ให้ผมเดินมาส่งเช่นกันครับ”ก่อนที่อาจารย์เจ้าจะไป ด้วงก็บังเอิญสังเกตไปยังสีท้องฟ้าวันนี้ แล้วจึงหันมาแอบมองนาฬิกาข้อมือของอาจารย์ ไหน ๆ

DMCA.com Protection Status