“ข้าคิดเองได้เจ้าค่ะไม่จำเป็นต้องมีใครมาสอนในเรื่องนี้”
ไป๋อวี้หลันเอ่ยตอบผู้เป็นบิดาด้วยสีหน้าเย็นชาไร้ความรู้สึก
“ดียิ่ง! นอกจากจะเอาแต่สร้างปัญหาให้ข้าคอยตามล้างตามเช็ดแล้ว แกยังทำตัวหน้าด้านตามหึงหวงบุรุษไปทั่วเช่นเดียวกับมารดาของเจ้าสินะนังลูกสารเลว!”
ไป๋ฮุ่ยหมิงที่เผลอเอ่ยพาดพิงถึงมารดาของอีกฝ่ายอย่างลืมตัวเพราะความโมโห
“เช่นนั้นหรือเจ้าคะ? ถ้าหากว่าการที่ตระกูลไป๋มีข้าเป็นคุณหนูใหญ่มันสร้างความอับอายและปัญหามากมายให้กับท่านเสนาบดีไป๋ถึงขนาดนั้น ถ้าอย่างนั้นข้าขอรบกวนท่านช่วยลบชื่อข้าออกจากผังตระกูลด้วยก็แล้วกันเจ้าค่ะ”
เพียะ!
จบคำของไป๋อวี้หลันฝ่ามือหนาของไป๋ฮุ่ยหมิงก็ตบลงไปที่แก้มนวลอย่างแรงจนใบหน้างามของไป๋อวี้หลันนั้นหันไปตามแรงตบ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นสีแดงและปรากฏรอยฝ่ามือในเวลาต่อมาจนดูน่ากลัว
“!!!”
“นะ นายท่าน!”
เสียงของแม่นมหลิวเอ่ยขึ้นด้วยความตกใจ
“อย่าคิดว่าข้าจะไม่กล้าลงมือกับเจ้านะ ต่อให้จะเป็นหลานสาวของตระกูลซ่ง แต่ที่นี่เจ้าคือลูกสาวของข้าไม่ว่าข้าจะทำอะไรกับเจ้า เจ้าก็ไม่มีสิทธิ์มาโต้แย้งทั้งสิ้น!”
เสียงตวาดของไป๋ฮุยหมิงดังสนั่นไปทั่วทั้งบริเวณเพราะโทสะที่เจ้าของจวนมี
“ก็ดีเจ้าค่ะ ข้าจะถือว่าตบเมื่อครู่นี้เป็นการตอบแทนบุญคุณที่ทำให้ข้านั้นเกิดมา นับจากนี้ต่อไปข้าไม่ใช่คนของตระกูลไป๋อีก”
ไป๋อวี้หลันเอ่ยบอกด้วยสีหน้าจริงจังพร้อมกับน้ำเสียงเด็ดขาด
“ได้! ในเมื่อเจ้าจองหอง อวดดีได้ขนาดนี้ก็ไสหัวของเจ้าออกไปจากจวนของข้าซะ! เพราะองค์รัชทายาทเองก็ได้ส่งหนังสือถอนหมั้นมาให้ข้าแล้ว ส่วนเจ้าก็ไม่มีประโยชน์อีกต่อไป แต่ห้ามเอาอะไรจากจวนนี้ไปด้วยจะไปก็ไปแต่ตัวเสีย”
ไป๋ฮุ่ยหมิงเอ่ยบอกจบก็หันหลังเตรียมจะเดินจากไปแต่ก็ถูกหญิงสาวเอ่ยเรียกเอาไว้เสียก่อน
“เดี๋ยวก่อนเจ้าค่ะท่านเสนาบดี ก่อนที่ข้าจะไปรบกวนท่านช่วยคืนสินเดิมของท่านแม่พร้อมหนังสือตัดขาดมามอบให้กับข้าด้วยนะเจ้าคะ ไม่อย่างนั้นเรื่องนี้ข้าคงต้องแจ้งให้กับท่านตาทราบอย่างเลี่ยงไม่ได้เป็นแน่”
ไป๋อวี้หลันเอ่ยบอกด้วยใบหน้านิ่งสงบไร้ร่องรอยของความเสียใจจนเสนาบดีไป๋ที่ถูกอีกฝ่ายคอยตามใจมาโดยตลอดถึงกับงุนงง
แต่เมื่อเขามองจนแน่ใจแล้วว่าบุตรสาวตรงหน้าของเขาพูดเมื่อครู่นี้คือความจริง โทสะจากเดิมก็มากอยู่แล้วก็ยิ่งพุ่งสูงขึ้น
จนไป๋ฮุ่ยหมิงอยากจะลงไม้ลงมือกับหญิงสาวตรงหน้าให้สาสมกับความโกรธที่มีในตอนนี้
“อย่าได้คิดว่าข้าจะยืนเฉย ๆ ให้ท่านได้ลงมือกับข้าเป็นครั้งที่สองนะเจ้าคะ ข้าขอเตือนท่านเอาไว้ก่อนว่าความอดทนของข้าเองก็มีขีดจำกัดของมันเช่นกัน ท่านคงไม่คิดว่าหลานสาวท่านแม่ทัพจะเป็นสตรีที่อ่อนปวกเปียกหรอกนะเจ้าคะ”
“เจ้า! นังลูกอกตัญญู ได้ข้าจะให้พ่อบ้านไปจัดการให้ส่วนเรื่องสินเดิมของมารดาเจ้านั้นข้าคงต้องบอกว่าไม่มีแล้ว เพราะแม่ของเจ้าเอาไปใช้จนหมดแล้ว!”
“จริงหรือแม่นม?”
ไป๋อวี้หลันหันไปถามกับแม่นมหลิวที่ยืนอยู่ด้านข้างอย่างไม่สนใจในสิ่งที่ไป๋ฮุ่ยหมิงเอ่ยบอกแม้แต่น้อย
“มะ ไม่ อึก จริงเจ้าค่ะคุณหนู”
หลิวหวังเอ่ยตอบคุณหนูของนางอย่างยากลำบากเพราะถูกสายตาคมเข้มจ้องเขม็งมาที่ตน
จนในที่สุดก็ต้องพูดโกหกออกไปด้วยเกรงว่าหากพูดความจริงออกไปว่าสินเดิมของนายหญิงทั้งหมดนั้นถูกนายท่านนำไปใช้หมดแล้วคงจะต้องเกิดปัญหาใหญ่ตามมาเป็นแน่
“แม่นม ท่านจะไปกับข้าหรือว่าจะอยู่ที่จวนแห่งนี้ต่อไป”
ไป๋อวี้หลันเองย่อมรู้ว่าสิ่งที่แม่นมเป็นกังวลนั้นคือเรื่องอะไรนางจึงต้องเอ่ยถามความสมัครใจของอีกฝ่ายว่าต้องการที่จะไปกับตนเอง
หรือจะอยู่ที่จวนแห่งนี้ต่อไป โดยปล่อยผ่านเรื่องสินเดิมของมารดาไปเสียเพราะนางเองก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้มันคืนอยู่แล้ว
“คะ คุณหนู! ทำไมท่านจึงได้ถามข้าเช่นนั้นกันเจ้าคะ ต่อให้ต้องไปตกระกำลำบากข้างนอกมากมายเพียงใด ขอแค่มีคุณหนูอยู่ข้าก็พร้อมจะไปกับท่านเจ้าค่ะ”“ขอบใจแม่นมมาก แล้วเจ้าเล่าเสี่ยวอิง”ไป๋อวี้หลันเอ่ยขอบคุณกับแม่นมของตนเสร็จก็หันไปเอ่ยถามสาวใช้คนสนิทต่อ“ข้าก็ต้องไปกับคุณหนูอยู่แล้วเจ้าค่ะ”“ได้ เช่นนั้นในเมื่อสินเดิมของท่านแม่ข้าก็ไม่ได้คืนแล้วข้าขอแค่ทั้งสองคนนี้ไปกับข้าคงจะไม่มากเกินไปหรอกใช่หรือไม่เจ้าคะ”ไป๋อวี้หลันที่รู้อยู่ก่อนแล้วว่าสินเดิมของมารดาคงถูกบุรุษเห็นแก่ตัวผู้นี้นำไปใช้แล้วจึงได้เอ่ยแกมข่มขู่ให้อีกฝ่ายยอมมอบทั้งสองคนนี้ให้กับตนเองเสียเพื่อจบปัญหาเรื่องนี้“ได้ เอาตามที่เจ้าต้องการ”เอ่ยจบไป๋ฮุ่ยหมิงก็เดินจากไปทันทีเหลือก็เพียงแค่ไป๋ลี่หลินที่ยังคงยืนหัวเราะเย้ยหยันหญิงสาวด้วยความสาแก่ใจ“ในที่สุดวันที่เจ้าโดนเขี่ยออกจากตระกูลก็มาถึง ข้าจะรอดูว่าคนอย่างเจ้า ถ้าไม่ได้เป็นคุณหนูใหญ่ไป๋แล้ว เจ้าจะยังเชิดหน้าอย่างหยิ่งผยองแบบนี้ได้อีกไหม”ไป๋ลี่หลินเอ่ยจบก็หมุนตัวเดินจากไปด้วยความสุขที่ได้เห็นศัตรูหัวใจและมารความสุขโดนไล่ออกไปเสียที“คุณหนูเจ้าคะ บ่าวผิดเองเจ้าค่ะที่ไม่ยอมเอ่ย
พลั่ก! กรี๊ดด!! ตุบ!“คุณหนู!”เสียงกรีดร้องของสาวใช้คนสนิทของหญิงสาวดังขึ้นด้วยความตกใจ หลังจากเห็นร่างของคุณหนูของตนพลัดตกจากบันไดลงไปยังชั้นล่าง ท่ามกลางความตื่นตะลึงของทุกคนที่อยู่ภายในโรงเตี๊ยมชื่อดังของเมืองหญิงสาวที่ร่วงลงมาจากบันไดนับสิบขั้นแน่นิ่งหมดสติไปหลังจากกลิ้งลงถึงพื้นด้านล่างพร้อมกับเลือดสีแดงสดไหลรินออกมาบริเวณขมับด้านซ้ายที่เกิดจากแผลกระแทกสาวใช้ตัวเล็กที่ได้สติรีบวิ่งลงไปดูคุณหนูของตนเองด้วยสีหน้าตื่นตระหนกระคนหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด“คุณหนูเจ้าคะ! คุณหนู อึก…คุณหนูอย่าเป็นอันใดไปนะเจ้าคะ อึก.. ใครก็ได้ช่วยตามหมอให้ข้าที..”สาวใช้ตัวเล็กที่มีใบหน้าจิ้มลิ้มอย่างน่ารักทั้งที่อายุก็ปาไป 18 ปีแล้วนั้นในตอนนี้ดวงตากลมโตของเจ้าตัวกำลังเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำตาสีใสที่ไหลรินเป็นทางพร้อมกับพร่ำเอ่ยเรียกคุณหนูของตนด้วยสีหน้าหวาดกลัวเป็นภาพที่ทำให้ผู้คนที่เห็นเหตุการณ์อยู่นั้นต้องเบือนหน้าหนีด้วยความเห็นใจส่วนตัวต้นเหตุที่ทำให้หญิงสาวตกลงมานั้นทำเพียงยืนมองอีกฝ่ายด้วยใบหน้าราบเรียบอย่างไร้ความรู้สึกอยู่ที่เดิม โดยที่ภายในอ้อมกอดของบุรุษผู้นั้นยังมีร่างของหญิงสาวอีกคนอยู่ด้วย
ตั้งแต่เด็กจนโตมานั้นคนที่คอยเลี้ยงดูนางและเคียงข้างนางมาตลอดก็คือ หลิวหวัง หรือแม่นมหลิว สาวใช้คนสนิทที่ติดตามท่านแม่ของนางมากับเด็กสาวเสี่ยวอิงสาวใช้ที่เติบโตมาพร้อมกับนางเสี่ยวอิงนั้นเป็นหลานสาวของแม่นมหลิวที่ท่านรับมาดูแลก่อนที่มารดาของไป๋อวี้หลันจะแต่งเข้ามาที่จวนตระกูลไป๋แห่งนี้แต่ที่ทำให้อวี้หลันหญิงสาวจากยุค 2023 รู้สึกอยากจะตะโกนให้คอแตกก็ตรงที่โลกที่นางมาอยู่ในตอนนี้ดันเป็นโลกนิยายในเรื่อง’ ชายารักองค์รัชทายาท’นิยายที่เพื่อนสนิทของนางนำมาให้อ่านเมื่อสามเดือนก่อนนี่เอง และจุดจบนางร้ายไร้สมองยอมทำทุกอย่างเพื่อผู้ชายโดยไม่สนว่าจะทำให้ใครต้องเดือดร้อนไปด้วยจุดจบอันแสนบัดซบคือนางร้ายต้องโทษประหารเพราะจ้างวานคนให้ไปลอบสังหารหญิงอันเป็นที่รักขององค์รัชทายาทผู้แสนจะเย็นชากับทุกคนโลกแต่กลับอบอุ่นอ่อนโยนแค่เพียงนางเอกของเรื่องเท่านั้นแต่ที่นางสงสารนั้นไม่ใช่คนตระกูลไป๋กับบิดาสารเลวผู้นี้ แต่เป็นตระกูลซ่งของท่านตา ท่านยาย และเหล่าท่านลุงท่านป้าพร้อมทุกคนในตระกูลซ่งที่ต้องมารับจุดจบเช่นนี้พร้อมกับนางร้ายของเรื่องเพียงเพราะไม่อาจจะทนมองเห็นหลานสาวเพียงคนเดียวต้องตกตายไปอย่างน่าสงสา
“แม่นมท่านอย่าได้ทำสีหน้าเช่นนั่นสิ ข้าไม่ได้เป็นอะไรมาก”ไป๋อวี้หลันเอ่ยบอกกับหญิงวัยกลางคนตรงหน้าที่กำลังยืนน้ำตาคลออย่างน่าสงสารด้วยรอยยิ้มบางเบา“อึก…คุณหนูของนม ใครกันถึงกล้าทำร้ายท่านจนเลือดตกยางออกถึงเพียงนี้เจ้าคะ”หลิวหวังเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเจือโทสะเป็นอย่างมาก“ก็คู่หมั้นสุดเลิศเลอของข้าอย่างไรเล่า เพื่อปกป้องสตรีที่เขารัก เขาถึงกับกล้าผลักข้าตกบันไดเชียวนะ แม่นมคิดว่าข้าควรที่จะตบแต่งกับบุรุษเช่นนี้อยู่อีกหรือไม่กัน”ไป๋อวี้หลันเอ่ยตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉยราวกับว่าตัวนางกำลังบอกเล่าเรื่องราวทั่วไป แต่หญิงวัยกลางคนกลับมีสีหน้าตื่นตะลึเพราะความจริงที่ได้รับรู้ตัวของหลิวหวังเองก็ไม่คาดคิดมาก่อนว่าองค์รัชทายาทจะกล้าลงมือทำร้ายคุณหนูของตนเองได้ถึงเพียงนี้ยิ่งมองดูสภาพหญิงสาวที่ตนเองรักสุดหัวใจคอยเฝ้าฟูมฟักเลี้ยงดูมาอย่างทะนุถนอมกลับต้องมาเจ็บตัวเพราะบุรุษที่ได้ชื่อว่าเป็นคู่หมั้นของตนช่างน่าสงสารยิ่งนักไหนจะบิดาที่เห็นแต่ผลประโยชน์และหลงมัวเมาในมารยาสตรีแพศยานางนั้นจนลืมสิ้นสิ่งที่นายหญิงของนางได้ร้องขอเอาไว้ก่อนตายว่าให้ดูแลปกป้องคุณหนูของนางให้ดีที่สุดแต่ผ่านไปเพียงแค่สามเดือ
แต่พออยู่กันตามลำพังกับพี่สาวต่างมารดากลับกลายร่างเป็นสตรีร้ายกาจเสียอย่างนั้น ชอบอิจฉาในรูปโฉมของพี่สาวต่างมารดา คอยหาทางกลั่นแกล้งอีกฝ่ายให้โมโหอยู่บ่อยครั้งจนเป็นที่มาของข่าวลือที่ว่าคุณหนูใหญ่ไป๋นั้นมีนิสัยโหดร้ายชอบทำร้ายทุบตีน้องสาวต่างมารดาและบ่าวไพร่ในเรือนนั่นเอง“ข้าบอกให้เจ้าโผล่หัวออกมา! อย่ามัวแต่มุดหัวอยู่ในกระดอง วันนี้ข้าจะต้องถามเอาความจริงจากปากของเจ้าให้ได้ว่าไปสร้างเรื่องอะไรให้องค์รัชทายาททรงไม่พอใจกัน!”เสียงแหลมสูงยังคงตะโกนอยู่นอกเรือนอย่างโกรธเกรี้ยวจนทำให้ไป๋อวี้หลันที่ไม่ชอบเสียงดังถึงกับรู้สึกไม่สบายหูขึ้นมาทันทีนางคิดแล้วว่าอีกฝ่ายคงจะไม่ยอมไปไหนอย่างแน่นอนจึงได้บอกให้เสี่ยวอิงเปิดประตูเรือน ก่อนที่หญิงสาวจะเดินออกมายืนด้านหน้าเรือนด้วยท่าทีสงบนิ่งเมื่อไป๋ลี่หลินเห็นว่าอีกฝ่ายกลับไม่มีท่าทีโมโหเหมือนเช่นทุกครั้งที่ตนมาหาเรื่องก็รู้สึกไม่พอใจขึ้นมาในทันที บวกกับข่าวลือที่ได้ยินมาเมื่อสักครู่นี้ว่าพี่สาวผู้โง่งมของตนได้ไปสร้างเรื่องให้กับองค์รัชทายาทบุรุษที่นางหลงรักและอยากจะแย่งชิงมารู้สึกไม่พอใจขึ้น“วันนี้เจ้าไปทำสิ่งใดให้องค์รัชทายาททรงโกรธจนถึงกับต้อ
“คะ คุณหนู! ทำไมท่านจึงได้ถามข้าเช่นนั้นกันเจ้าคะ ต่อให้ต้องไปตกระกำลำบากข้างนอกมากมายเพียงใด ขอแค่มีคุณหนูอยู่ข้าก็พร้อมจะไปกับท่านเจ้าค่ะ”“ขอบใจแม่นมมาก แล้วเจ้าเล่าเสี่ยวอิง”ไป๋อวี้หลันเอ่ยขอบคุณกับแม่นมของตนเสร็จก็หันไปเอ่ยถามสาวใช้คนสนิทต่อ“ข้าก็ต้องไปกับคุณหนูอยู่แล้วเจ้าค่ะ”“ได้ เช่นนั้นในเมื่อสินเดิมของท่านแม่ข้าก็ไม่ได้คืนแล้วข้าขอแค่ทั้งสองคนนี้ไปกับข้าคงจะไม่มากเกินไปหรอกใช่หรือไม่เจ้าคะ”ไป๋อวี้หลันที่รู้อยู่ก่อนแล้วว่าสินเดิมของมารดาคงถูกบุรุษเห็นแก่ตัวผู้นี้นำไปใช้แล้วจึงได้เอ่ยแกมข่มขู่ให้อีกฝ่ายยอมมอบทั้งสองคนนี้ให้กับตนเองเสียเพื่อจบปัญหาเรื่องนี้“ได้ เอาตามที่เจ้าต้องการ”เอ่ยจบไป๋ฮุ่ยหมิงก็เดินจากไปทันทีเหลือก็เพียงแค่ไป๋ลี่หลินที่ยังคงยืนหัวเราะเย้ยหยันหญิงสาวด้วยความสาแก่ใจ“ในที่สุดวันที่เจ้าโดนเขี่ยออกจากตระกูลก็มาถึง ข้าจะรอดูว่าคนอย่างเจ้า ถ้าไม่ได้เป็นคุณหนูใหญ่ไป๋แล้ว เจ้าจะยังเชิดหน้าอย่างหยิ่งผยองแบบนี้ได้อีกไหม”ไป๋ลี่หลินเอ่ยจบก็หมุนตัวเดินจากไปด้วยความสุขที่ได้เห็นศัตรูหัวใจและมารความสุขโดนไล่ออกไปเสียที“คุณหนูเจ้าคะ บ่าวผิดเองเจ้าค่ะที่ไม่ยอมเอ่ย
“ข้าคิดเองได้เจ้าค่ะไม่จำเป็นต้องมีใครมาสอนในเรื่องนี้”ไป๋อวี้หลันเอ่ยตอบผู้เป็นบิดาด้วยสีหน้าเย็นชาไร้ความรู้สึก“ดียิ่ง! นอกจากจะเอาแต่สร้างปัญหาให้ข้าคอยตามล้างตามเช็ดแล้ว แกยังทำตัวหน้าด้านตามหึงหวงบุรุษไปทั่วเช่นเดียวกับมารดาของเจ้าสินะนังลูกสารเลว!”ไป๋ฮุ่ยหมิงที่เผลอเอ่ยพาดพิงถึงมารดาของอีกฝ่ายอย่างลืมตัวเพราะความโมโห“เช่นนั้นหรือเจ้าคะ? ถ้าหากว่าการที่ตระกูลไป๋มีข้าเป็นคุณหนูใหญ่มันสร้างความอับอายและปัญหามากมายให้กับท่านเสนาบดีไป๋ถึงขนาดนั้น ถ้าอย่างนั้นข้าขอรบกวนท่านช่วยลบชื่อข้าออกจากผังตระกูลด้วยก็แล้วกันเจ้าค่ะ”เพียะ!จบคำของไป๋อวี้หลันฝ่ามือหนาของไป๋ฮุ่ยหมิงก็ตบลงไปที่แก้มนวลอย่างแรงจนใบหน้างามของไป๋อวี้หลันนั้นหันไปตามแรงตบ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นสีแดงและปรากฏรอยฝ่ามือในเวลาต่อมาจนดูน่ากลัว“!!!”“นะ นายท่าน!”เสียงของแม่นมหลิวเอ่ยขึ้นด้วยความตกใจ“อย่าคิดว่าข้าจะไม่กล้าลงมือกับเจ้านะ ต่อให้จะเป็นหลานสาวของตระกูลซ่ง แต่ที่นี่เจ้าคือลูกสาวของข้าไม่ว่าข้าจะทำอะไรกับเจ้า เจ้าก็ไม่มีสิทธิ์มาโต้แย้งทั้งสิ้น!”เสียงตวาดของไป๋ฮุยหมิงดังสนั่นไปทั่วทั้งบริเวณเพราะโทสะที่เจ้าของจวนมี
แต่พออยู่กันตามลำพังกับพี่สาวต่างมารดากลับกลายร่างเป็นสตรีร้ายกาจเสียอย่างนั้น ชอบอิจฉาในรูปโฉมของพี่สาวต่างมารดา คอยหาทางกลั่นแกล้งอีกฝ่ายให้โมโหอยู่บ่อยครั้งจนเป็นที่มาของข่าวลือที่ว่าคุณหนูใหญ่ไป๋นั้นมีนิสัยโหดร้ายชอบทำร้ายทุบตีน้องสาวต่างมารดาและบ่าวไพร่ในเรือนนั่นเอง“ข้าบอกให้เจ้าโผล่หัวออกมา! อย่ามัวแต่มุดหัวอยู่ในกระดอง วันนี้ข้าจะต้องถามเอาความจริงจากปากของเจ้าให้ได้ว่าไปสร้างเรื่องอะไรให้องค์รัชทายาททรงไม่พอใจกัน!”เสียงแหลมสูงยังคงตะโกนอยู่นอกเรือนอย่างโกรธเกรี้ยวจนทำให้ไป๋อวี้หลันที่ไม่ชอบเสียงดังถึงกับรู้สึกไม่สบายหูขึ้นมาทันทีนางคิดแล้วว่าอีกฝ่ายคงจะไม่ยอมไปไหนอย่างแน่นอนจึงได้บอกให้เสี่ยวอิงเปิดประตูเรือน ก่อนที่หญิงสาวจะเดินออกมายืนด้านหน้าเรือนด้วยท่าทีสงบนิ่งเมื่อไป๋ลี่หลินเห็นว่าอีกฝ่ายกลับไม่มีท่าทีโมโหเหมือนเช่นทุกครั้งที่ตนมาหาเรื่องก็รู้สึกไม่พอใจขึ้นมาในทันที บวกกับข่าวลือที่ได้ยินมาเมื่อสักครู่นี้ว่าพี่สาวผู้โง่งมของตนได้ไปสร้างเรื่องให้กับองค์รัชทายาทบุรุษที่นางหลงรักและอยากจะแย่งชิงมารู้สึกไม่พอใจขึ้น“วันนี้เจ้าไปทำสิ่งใดให้องค์รัชทายาททรงโกรธจนถึงกับต้อ
“แม่นมท่านอย่าได้ทำสีหน้าเช่นนั่นสิ ข้าไม่ได้เป็นอะไรมาก”ไป๋อวี้หลันเอ่ยบอกกับหญิงวัยกลางคนตรงหน้าที่กำลังยืนน้ำตาคลออย่างน่าสงสารด้วยรอยยิ้มบางเบา“อึก…คุณหนูของนม ใครกันถึงกล้าทำร้ายท่านจนเลือดตกยางออกถึงเพียงนี้เจ้าคะ”หลิวหวังเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเจือโทสะเป็นอย่างมาก“ก็คู่หมั้นสุดเลิศเลอของข้าอย่างไรเล่า เพื่อปกป้องสตรีที่เขารัก เขาถึงกับกล้าผลักข้าตกบันไดเชียวนะ แม่นมคิดว่าข้าควรที่จะตบแต่งกับบุรุษเช่นนี้อยู่อีกหรือไม่กัน”ไป๋อวี้หลันเอ่ยตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉยราวกับว่าตัวนางกำลังบอกเล่าเรื่องราวทั่วไป แต่หญิงวัยกลางคนกลับมีสีหน้าตื่นตะลึเพราะความจริงที่ได้รับรู้ตัวของหลิวหวังเองก็ไม่คาดคิดมาก่อนว่าองค์รัชทายาทจะกล้าลงมือทำร้ายคุณหนูของตนเองได้ถึงเพียงนี้ยิ่งมองดูสภาพหญิงสาวที่ตนเองรักสุดหัวใจคอยเฝ้าฟูมฟักเลี้ยงดูมาอย่างทะนุถนอมกลับต้องมาเจ็บตัวเพราะบุรุษที่ได้ชื่อว่าเป็นคู่หมั้นของตนช่างน่าสงสารยิ่งนักไหนจะบิดาที่เห็นแต่ผลประโยชน์และหลงมัวเมาในมารยาสตรีแพศยานางนั้นจนลืมสิ้นสิ่งที่นายหญิงของนางได้ร้องขอเอาไว้ก่อนตายว่าให้ดูแลปกป้องคุณหนูของนางให้ดีที่สุดแต่ผ่านไปเพียงแค่สามเดือ
ตั้งแต่เด็กจนโตมานั้นคนที่คอยเลี้ยงดูนางและเคียงข้างนางมาตลอดก็คือ หลิวหวัง หรือแม่นมหลิว สาวใช้คนสนิทที่ติดตามท่านแม่ของนางมากับเด็กสาวเสี่ยวอิงสาวใช้ที่เติบโตมาพร้อมกับนางเสี่ยวอิงนั้นเป็นหลานสาวของแม่นมหลิวที่ท่านรับมาดูแลก่อนที่มารดาของไป๋อวี้หลันจะแต่งเข้ามาที่จวนตระกูลไป๋แห่งนี้แต่ที่ทำให้อวี้หลันหญิงสาวจากยุค 2023 รู้สึกอยากจะตะโกนให้คอแตกก็ตรงที่โลกที่นางมาอยู่ในตอนนี้ดันเป็นโลกนิยายในเรื่อง’ ชายารักองค์รัชทายาท’นิยายที่เพื่อนสนิทของนางนำมาให้อ่านเมื่อสามเดือนก่อนนี่เอง และจุดจบนางร้ายไร้สมองยอมทำทุกอย่างเพื่อผู้ชายโดยไม่สนว่าจะทำให้ใครต้องเดือดร้อนไปด้วยจุดจบอันแสนบัดซบคือนางร้ายต้องโทษประหารเพราะจ้างวานคนให้ไปลอบสังหารหญิงอันเป็นที่รักขององค์รัชทายาทผู้แสนจะเย็นชากับทุกคนโลกแต่กลับอบอุ่นอ่อนโยนแค่เพียงนางเอกของเรื่องเท่านั้นแต่ที่นางสงสารนั้นไม่ใช่คนตระกูลไป๋กับบิดาสารเลวผู้นี้ แต่เป็นตระกูลซ่งของท่านตา ท่านยาย และเหล่าท่านลุงท่านป้าพร้อมทุกคนในตระกูลซ่งที่ต้องมารับจุดจบเช่นนี้พร้อมกับนางร้ายของเรื่องเพียงเพราะไม่อาจจะทนมองเห็นหลานสาวเพียงคนเดียวต้องตกตายไปอย่างน่าสงสา
พลั่ก! กรี๊ดด!! ตุบ!“คุณหนู!”เสียงกรีดร้องของสาวใช้คนสนิทของหญิงสาวดังขึ้นด้วยความตกใจ หลังจากเห็นร่างของคุณหนูของตนพลัดตกจากบันไดลงไปยังชั้นล่าง ท่ามกลางความตื่นตะลึงของทุกคนที่อยู่ภายในโรงเตี๊ยมชื่อดังของเมืองหญิงสาวที่ร่วงลงมาจากบันไดนับสิบขั้นแน่นิ่งหมดสติไปหลังจากกลิ้งลงถึงพื้นด้านล่างพร้อมกับเลือดสีแดงสดไหลรินออกมาบริเวณขมับด้านซ้ายที่เกิดจากแผลกระแทกสาวใช้ตัวเล็กที่ได้สติรีบวิ่งลงไปดูคุณหนูของตนเองด้วยสีหน้าตื่นตระหนกระคนหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด“คุณหนูเจ้าคะ! คุณหนู อึก…คุณหนูอย่าเป็นอันใดไปนะเจ้าคะ อึก.. ใครก็ได้ช่วยตามหมอให้ข้าที..”สาวใช้ตัวเล็กที่มีใบหน้าจิ้มลิ้มอย่างน่ารักทั้งที่อายุก็ปาไป 18 ปีแล้วนั้นในตอนนี้ดวงตากลมโตของเจ้าตัวกำลังเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำตาสีใสที่ไหลรินเป็นทางพร้อมกับพร่ำเอ่ยเรียกคุณหนูของตนด้วยสีหน้าหวาดกลัวเป็นภาพที่ทำให้ผู้คนที่เห็นเหตุการณ์อยู่นั้นต้องเบือนหน้าหนีด้วยความเห็นใจส่วนตัวต้นเหตุที่ทำให้หญิงสาวตกลงมานั้นทำเพียงยืนมองอีกฝ่ายด้วยใบหน้าราบเรียบอย่างไร้ความรู้สึกอยู่ที่เดิม โดยที่ภายในอ้อมกอดของบุรุษผู้นั้นยังมีร่างของหญิงสาวอีกคนอยู่ด้วย