“แม่นมท่านอย่าได้ทำสีหน้าเช่นนั่นสิ ข้าไม่ได้เป็นอะไรมาก”
ไป๋อวี้หลันเอ่ยบอกกับหญิงวัยกลางคนตรงหน้าที่กำลังยืนน้ำตาคลออย่างน่าสงสารด้วยรอยยิ้มบางเบา
“อึก…คุณหนูของนม ใครกันถึงกล้าทำร้ายท่านจนเลือดตกยางออกถึงเพียงนี้เจ้าคะ”
หลิวหวังเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเจือโทสะเป็นอย่างมาก
“ก็คู่หมั้นสุดเลิศเลอของข้าอย่างไรเล่า เพื่อปกป้องสตรีที่เขารัก เขาถึงกับกล้าผลักข้าตกบันไดเชียวนะ แม่นมคิดว่าข้าควรที่จะตบแต่งกับบุรุษเช่นนี้อยู่อีกหรือไม่กัน”
ไป๋อวี้หลันเอ่ยตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉยราวกับว่าตัวนางกำลังบอกเล่าเรื่องราวทั่วไป แต่หญิงวัยกลางคนกลับมีสีหน้าตื่นตะลึเพราะความจริงที่ได้รับรู้
ตัวของหลิวหวังเองก็ไม่คาดคิดมาก่อนว่าองค์รัชทายาทจะกล้าลงมือทำร้ายคุณหนูของตนเองได้ถึงเพียงนี้
ยิ่งมองดูสภาพหญิงสาวที่ตนเองรักสุดหัวใจคอยเฝ้าฟูมฟักเลี้ยงดูมาอย่างทะนุถนอมกลับต้องมาเจ็บตัวเพราะบุรุษที่ได้ชื่อว่าเป็นคู่หมั้นของตนช่างน่าสงสารยิ่งนัก
ไหนจะบิดาที่เห็นแต่ผลประโยชน์และหลงมัวเมาในมารยาสตรีแพศยานางนั้นจนลืมสิ้นสิ่งที่นายหญิงของนางได้ร้องขอเอาไว้ก่อนตายว่าให้ดูแลปกป้องคุณหนูของนางให้ดีที่สุด
แต่ผ่านไปเพียงแค่สามเดือนนายท่านกลับลืมสิ้นแทบทุกสิ่งหลงมัวเมากับสตรีที่ตบแต่งเข้ามาทีหลังอย่างฮูหยินรองเป่าลี่อิน สตรีที่นายท่านช่วยเหลือเอาไว้เมื่อตอนเดินทางไปราชการที่ต่างเมือง
พอกลับมาเมืองหลวงสตรีนางนั้นก็ได้ตั้งท้องคุณหนูรองอย่าง ไป๋ลี่หลิน เสียแล้วนายหญิงเห็นว่าไม่สามารถทำร้ายเด็กตาดำ ๆ ที่ไม่มีความผิดได้จึงยอมเฉือนเนื้อหัวใจตัวเองเพื่อให้สามีของตนตบแต่งสตรีนางนั้นเข้ามาอยู่ในจวน
จนเวลาผ่านไปไม่นานสตรีร้ายกาจนางนั้นก็เริ่มเผยธาตุแท้ของตนเองออกมา นางชอบอวดเบ่งอำนาจใส่บ่าวไพร่ในจวน บ้างก็ตีสองหน้าใส่ร้ายฮูหยินเอกว่ารังแกนางอย่างนั้น กดขี่นางอย่างนี้
ส่วนบุรุษหูเบาไม่หนักแน่นอย่าง ไป๋ฮุ่ยหมิง ก็หลงเชื่อคำพูดพวกนั้นของนางจนทำให้พาลโกรธฮูหยินเอกที่ร่วมเรียงเคียงหมอนมาด้วยกันจนสร้างความเจ็บปวดให้กับมารดาของไป๋อวี้หลันและในที่สุด ซ่งเจียวเหมย ก็ตรอมใจตายลง
แต่แทนที่ไป๋ฮุ่ยหมิงจะรู้สึกผิดที่เป็นต้นเหตุทำให้ฮูหยินเอกของตนเองต้องตรอมใจตายกลับกลายมาเป็นกล่าวโทษว่าเป็นเพราะไป๋อวี้หลันที่ทำตัวร้ายกาจ
จนทำให้มารดาของตนเองต้องป่วยตายเสียอย่างนั้น ซึ่งเรื่องนี้ก็คือหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ไป๋อวี้หลันนั้นมีนิสัยโมโหร้าย ชอบอาละวาดเพื่อระบายอารมณ์ของตนเอง
พอคิดมาถึงตรงนี้ใบหน้างามก็คล้ายจะมืดครึ้มขึ้นมาอยู่ไม่น้อย เพราะถึงแม้ว่าบิดาจะหมางเมินไม่สนใจอยู่อย่างไร้ตัวตน
แต่ไป๋อวี้หลันคนเก่าก็ยังคงหวังในตัวบิดาไม่เอาไหนผู้นั้นอยู่เสมอ แต่สำหรับไป๋อวี้หลันคนใหม่นี้นางบอกเลยว่าไม่มีแม้เศษเสี้ยวความคิดที่จะหวังในตัวบิดาผู้นั้น ไม่หวังในความรัก ความเมตตา ความเอ็นดูจากอีกฝ่ายอีกต่อไป
“คุณหนูผ้าสะอาดกับน้ำอุ่นบ่าวเตรียมเสร็จเรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ” เสี่ยงอิงเอ่ยบอกหลังจากเดินเข้ามาภายในเรือนของผู้เป็นนาย
“อื้ม ขอบใจเจ้ามาก แม่นมข้าขอตัวไปอาบน้ำก่อนก็แล้วกัน เอาไว้พวกเราค่อยมาพูดคุยเรื่องนี้อีกที”
หญิงสาวเอ่ยจบก็เดินออกจากเรือนไปยังห้องอาบน้ำในทันทีโดยไม่ได้สนใจเสียงเรียกของทั้งสองคนอีกต่อไป
เมื่อเดินเข้ามาถึงภายในห้องอาบน้ำ สิ่งแรกที่ไป๋อวี้หลันทำก็คือการสำรวจแผลบนขมับด้านขวาที่เป็นแผล
ปรากฏว่ามีรอยแผลแตกขนาดไม่ใหญ่มากแต่ก็ไม่เล็กมากตรงบริเวณขมับด้านขวา ดังนั้นหญิงสาวจึงได้ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำอุ่นก่อนจะค่อย ๆ เช็ดคราบเลือดออกจากใบหน้าของตนเองอย่าช้า ๆ
จนในที่สุดใบหน้าสวยก็เผยให้เห็นผ่านภาพที่สะท้อนอยู่ในกระจกตรงหน้าของนาง
หญิงสาวที่มีใบหน้าเรียวสวย ดวงตาเรียวหงส์สีเหลืองอำพันที่ปกคลุมไปด้วยแผงขนตางอนยาว จมูกเชิดรั้นเล็กน้อยรับกับปากบางอวบอิ่มสีชมพู
ผมยาวสลวยสีน้ำหมึกเงางามที่ปล่อยให้แผ่นยาวลงเต็มแผ่นหลังยาวลงไปจนถึงสะโพกงาม ภาพหญิงสาวตรงหน้านั้นช่างงดงามและน่าหลงใหลอย่างที่นางไม่เคยได้พบเห็น
แต่ก็ต้องบอกว่านางร้ายในเรื่องนี้ตามที่นิยายได้บรรยายเอาไว้ก็ถือว่าตรงปกตามที่บรรยายเอาไว้ ไป๋อวี้หลันนั้นเป็นสตรีที่งดงามหาใครเปรียบได้ยาก
เพียงแต่ต่อให้มีใบหน้าที่งดงามแล้วอย่างไร้ถ้านิสัยร้ายกาจผู้คนต่างก็เมินหน้าหนีได้เช่นกัน
หลังจากที่สำรวจดูร่างกายจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ไป๋อวี้หลันจึงได้อาบน้ำชำระร่างกายของตนเอง ก่อนที่จะสวมใส่ชุดคลุมแล้วกลับเข้าไปยังเรือนของตนเอง
เพื่อเปลี่ยนเป็นชุดอื่น โดยแม่นมหลิวกับเสี่ยวอิงเองก็ยังคงนั่งรอหญิงสาวอยู่ภายในห้องด้วยท่าทีสงบนิ่งอยู่เช่นนั้นตลอด
เผื่อคุณหนูของพวกตนจะเรียกใช้ไป๋อวี้หลันที่เพิ่งจะแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยก็ต้องถอนหายใจออกมายาว ๆ หนึ่งครั้งเมื่อได้ยินเสียงที่น่ารำคาญของใครบางคนดังขึ้นที่หน้าเรือน
“เจ้าอยู่ไหนโผล่หัวออกมาเดี๋ยวนี้นะนังไป๋อวี้หลัน!”
เสียงแหลมสูงของไป๋ลี่หลินหรือสาวสุดที่รักของท่านเสนาบดีไป๋ที่อยู่ต่อหน้าบิดาจะเป็นหญิงสาวเรียบร้อย อ่อนช้อยกิริยางดงาม
แต่พออยู่กันตามลำพังกับพี่สาวต่างมารดากลับกลายร่างเป็นสตรีร้ายกาจเสียอย่างนั้น ชอบอิจฉาในรูปโฉมของพี่สาวต่างมารดา คอยหาทางกลั่นแกล้งอีกฝ่ายให้โมโหอยู่บ่อยครั้ง
แต่พออยู่กันตามลำพังกับพี่สาวต่างมารดากลับกลายร่างเป็นสตรีร้ายกาจเสียอย่างนั้น ชอบอิจฉาในรูปโฉมของพี่สาวต่างมารดา คอยหาทางกลั่นแกล้งอีกฝ่ายให้โมโหอยู่บ่อยครั้งจนเป็นที่มาของข่าวลือที่ว่าคุณหนูใหญ่ไป๋นั้นมีนิสัยโหดร้ายชอบทำร้ายทุบตีน้องสาวต่างมารดาและบ่าวไพร่ในเรือนนั่นเอง“ข้าบอกให้เจ้าโผล่หัวออกมา! อย่ามัวแต่มุดหัวอยู่ในกระดอง วันนี้ข้าจะต้องถามเอาความจริงจากปากของเจ้าให้ได้ว่าไปสร้างเรื่องอะไรให้องค์รัชทายาททรงไม่พอใจกัน!”เสียงแหลมสูงยังคงตะโกนอยู่นอกเรือนอย่างโกรธเกรี้ยวจนทำให้ไป๋อวี้หลันที่ไม่ชอบเสียงดังถึงกับรู้สึกไม่สบายหูขึ้นมาทันทีนางคิดแล้วว่าอีกฝ่ายคงจะไม่ยอมไปไหนอย่างแน่นอนจึงได้บอกให้เสี่ยวอิงเปิดประตูเรือน ก่อนที่หญิงสาวจะเดินออกมายืนด้านหน้าเรือนด้วยท่าทีสงบนิ่งเมื่อไป๋ลี่หลินเห็นว่าอีกฝ่ายกลับไม่มีท่าทีโมโหเหมือนเช่นทุกครั้งที่ตนมาหาเรื่องก็รู้สึกไม่พอใจขึ้นมาในทันที บวกกับข่าวลือที่ได้ยินมาเมื่อสักครู่นี้ว่าพี่สาวผู้โง่งมของตนได้ไปสร้างเรื่องให้กับองค์รัชทายาทบุรุษที่นางหลงรักและอยากจะแย่งชิงมารู้สึกไม่พอใจขึ้น“วันนี้เจ้าไปทำสิ่งใดให้องค์รัชทายาททรงโกรธจนถึงกับต้อ
“ข้าคิดเองได้เจ้าค่ะไม่จำเป็นต้องมีใครมาสอนในเรื่องนี้”ไป๋อวี้หลันเอ่ยตอบผู้เป็นบิดาด้วยสีหน้าเย็นชาไร้ความรู้สึก“ดียิ่ง! นอกจากจะเอาแต่สร้างปัญหาให้ข้าคอยตามล้างตามเช็ดแล้ว แกยังทำตัวหน้าด้านตามหึงหวงบุรุษไปทั่วเช่นเดียวกับมารดาของเจ้าสินะนังลูกสารเลว!”ไป๋ฮุ่ยหมิงที่เผลอเอ่ยพาดพิงถึงมารดาของอีกฝ่ายอย่างลืมตัวเพราะความโมโห“เช่นนั้นหรือเจ้าคะ? ถ้าหากว่าการที่ตระกูลไป๋มีข้าเป็นคุณหนูใหญ่มันสร้างความอับอายและปัญหามากมายให้กับท่านเสนาบดีไป๋ถึงขนาดนั้น ถ้าอย่างนั้นข้าขอรบกวนท่านช่วยลบชื่อข้าออกจากผังตระกูลด้วยก็แล้วกันเจ้าค่ะ”เพียะ!จบคำของไป๋อวี้หลันฝ่ามือหนาของไป๋ฮุ่ยหมิงก็ตบลงไปที่แก้มนวลอย่างแรงจนใบหน้างามของไป๋อวี้หลันนั้นหันไปตามแรงตบ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นสีแดงและปรากฏรอยฝ่ามือในเวลาต่อมาจนดูน่ากลัว“!!!”“นะ นายท่าน!”เสียงของแม่นมหลิวเอ่ยขึ้นด้วยความตกใจ“อย่าคิดว่าข้าจะไม่กล้าลงมือกับเจ้านะ ต่อให้จะเป็นหลานสาวของตระกูลซ่ง แต่ที่นี่เจ้าคือลูกสาวของข้าไม่ว่าข้าจะทำอะไรกับเจ้า เจ้าก็ไม่มีสิทธิ์มาโต้แย้งทั้งสิ้น!”เสียงตวาดของไป๋ฮุยหมิงดังสนั่นไปทั่วทั้งบริเวณเพราะโทสะที่เจ้าของจวนมี
“คะ คุณหนู! ทำไมท่านจึงได้ถามข้าเช่นนั้นกันเจ้าคะ ต่อให้ต้องไปตกระกำลำบากข้างนอกมากมายเพียงใด ขอแค่มีคุณหนูอยู่ข้าก็พร้อมจะไปกับท่านเจ้าค่ะ”“ขอบใจแม่นมมาก แล้วเจ้าเล่าเสี่ยวอิง”ไป๋อวี้หลันเอ่ยขอบคุณกับแม่นมของตนเสร็จก็หันไปเอ่ยถามสาวใช้คนสนิทต่อ“ข้าก็ต้องไปกับคุณหนูอยู่แล้วเจ้าค่ะ”“ได้ เช่นนั้นในเมื่อสินเดิมของท่านแม่ข้าก็ไม่ได้คืนแล้วข้าขอแค่ทั้งสองคนนี้ไปกับข้าคงจะไม่มากเกินไปหรอกใช่หรือไม่เจ้าคะ”ไป๋อวี้หลันที่รู้อยู่ก่อนแล้วว่าสินเดิมของมารดาคงถูกบุรุษเห็นแก่ตัวผู้นี้นำไปใช้แล้วจึงได้เอ่ยแกมข่มขู่ให้อีกฝ่ายยอมมอบทั้งสองคนนี้ให้กับตนเองเสียเพื่อจบปัญหาเรื่องนี้“ได้ เอาตามที่เจ้าต้องการ”เอ่ยจบไป๋ฮุ่ยหมิงก็เดินจากไปทันทีเหลือก็เพียงแค่ไป๋ลี่หลินที่ยังคงยืนหัวเราะเย้ยหยันหญิงสาวด้วยความสาแก่ใจ“ในที่สุดวันที่เจ้าโดนเขี่ยออกจากตระกูลก็มาถึง ข้าจะรอดูว่าคนอย่างเจ้า ถ้าไม่ได้เป็นคุณหนูใหญ่ไป๋แล้ว เจ้าจะยังเชิดหน้าอย่างหยิ่งผยองแบบนี้ได้อีกไหม”ไป๋ลี่หลินเอ่ยจบก็หมุนตัวเดินจากไปด้วยความสุขที่ได้เห็นศัตรูหัวใจและมารความสุขโดนไล่ออกไปเสียที“คุณหนูเจ้าคะ บ่าวผิดเองเจ้าค่ะที่ไม่ยอมเอ่ย
พลั่ก! กรี๊ดด!! ตุบ!“คุณหนู!”เสียงกรีดร้องของสาวใช้คนสนิทของหญิงสาวดังขึ้นด้วยความตกใจ หลังจากเห็นร่างของคุณหนูของตนพลัดตกจากบันไดลงไปยังชั้นล่าง ท่ามกลางความตื่นตะลึงของทุกคนที่อยู่ภายในโรงเตี๊ยมชื่อดังของเมืองหญิงสาวที่ร่วงลงมาจากบันไดนับสิบขั้นแน่นิ่งหมดสติไปหลังจากกลิ้งลงถึงพื้นด้านล่างพร้อมกับเลือดสีแดงสดไหลรินออกมาบริเวณขมับด้านซ้ายที่เกิดจากแผลกระแทกสาวใช้ตัวเล็กที่ได้สติรีบวิ่งลงไปดูคุณหนูของตนเองด้วยสีหน้าตื่นตระหนกระคนหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด“คุณหนูเจ้าคะ! คุณหนู อึก…คุณหนูอย่าเป็นอันใดไปนะเจ้าคะ อึก.. ใครก็ได้ช่วยตามหมอให้ข้าที..”สาวใช้ตัวเล็กที่มีใบหน้าจิ้มลิ้มอย่างน่ารักทั้งที่อายุก็ปาไป 18 ปีแล้วนั้นในตอนนี้ดวงตากลมโตของเจ้าตัวกำลังเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำตาสีใสที่ไหลรินเป็นทางพร้อมกับพร่ำเอ่ยเรียกคุณหนูของตนด้วยสีหน้าหวาดกลัวเป็นภาพที่ทำให้ผู้คนที่เห็นเหตุการณ์อยู่นั้นต้องเบือนหน้าหนีด้วยความเห็นใจส่วนตัวต้นเหตุที่ทำให้หญิงสาวตกลงมานั้นทำเพียงยืนมองอีกฝ่ายด้วยใบหน้าราบเรียบอย่างไร้ความรู้สึกอยู่ที่เดิม โดยที่ภายในอ้อมกอดของบุรุษผู้นั้นยังมีร่างของหญิงสาวอีกคนอยู่ด้วย
ตั้งแต่เด็กจนโตมานั้นคนที่คอยเลี้ยงดูนางและเคียงข้างนางมาตลอดก็คือ หลิวหวัง หรือแม่นมหลิว สาวใช้คนสนิทที่ติดตามท่านแม่ของนางมากับเด็กสาวเสี่ยวอิงสาวใช้ที่เติบโตมาพร้อมกับนางเสี่ยวอิงนั้นเป็นหลานสาวของแม่นมหลิวที่ท่านรับมาดูแลก่อนที่มารดาของไป๋อวี้หลันจะแต่งเข้ามาที่จวนตระกูลไป๋แห่งนี้แต่ที่ทำให้อวี้หลันหญิงสาวจากยุค 2023 รู้สึกอยากจะตะโกนให้คอแตกก็ตรงที่โลกที่นางมาอยู่ในตอนนี้ดันเป็นโลกนิยายในเรื่อง’ ชายารักองค์รัชทายาท’นิยายที่เพื่อนสนิทของนางนำมาให้อ่านเมื่อสามเดือนก่อนนี่เอง และจุดจบนางร้ายไร้สมองยอมทำทุกอย่างเพื่อผู้ชายโดยไม่สนว่าจะทำให้ใครต้องเดือดร้อนไปด้วยจุดจบอันแสนบัดซบคือนางร้ายต้องโทษประหารเพราะจ้างวานคนให้ไปลอบสังหารหญิงอันเป็นที่รักขององค์รัชทายาทผู้แสนจะเย็นชากับทุกคนโลกแต่กลับอบอุ่นอ่อนโยนแค่เพียงนางเอกของเรื่องเท่านั้นแต่ที่นางสงสารนั้นไม่ใช่คนตระกูลไป๋กับบิดาสารเลวผู้นี้ แต่เป็นตระกูลซ่งของท่านตา ท่านยาย และเหล่าท่านลุงท่านป้าพร้อมทุกคนในตระกูลซ่งที่ต้องมารับจุดจบเช่นนี้พร้อมกับนางร้ายของเรื่องเพียงเพราะไม่อาจจะทนมองเห็นหลานสาวเพียงคนเดียวต้องตกตายไปอย่างน่าสงสา
“คะ คุณหนู! ทำไมท่านจึงได้ถามข้าเช่นนั้นกันเจ้าคะ ต่อให้ต้องไปตกระกำลำบากข้างนอกมากมายเพียงใด ขอแค่มีคุณหนูอยู่ข้าก็พร้อมจะไปกับท่านเจ้าค่ะ”“ขอบใจแม่นมมาก แล้วเจ้าเล่าเสี่ยวอิง”ไป๋อวี้หลันเอ่ยขอบคุณกับแม่นมของตนเสร็จก็หันไปเอ่ยถามสาวใช้คนสนิทต่อ“ข้าก็ต้องไปกับคุณหนูอยู่แล้วเจ้าค่ะ”“ได้ เช่นนั้นในเมื่อสินเดิมของท่านแม่ข้าก็ไม่ได้คืนแล้วข้าขอแค่ทั้งสองคนนี้ไปกับข้าคงจะไม่มากเกินไปหรอกใช่หรือไม่เจ้าคะ”ไป๋อวี้หลันที่รู้อยู่ก่อนแล้วว่าสินเดิมของมารดาคงถูกบุรุษเห็นแก่ตัวผู้นี้นำไปใช้แล้วจึงได้เอ่ยแกมข่มขู่ให้อีกฝ่ายยอมมอบทั้งสองคนนี้ให้กับตนเองเสียเพื่อจบปัญหาเรื่องนี้“ได้ เอาตามที่เจ้าต้องการ”เอ่ยจบไป๋ฮุ่ยหมิงก็เดินจากไปทันทีเหลือก็เพียงแค่ไป๋ลี่หลินที่ยังคงยืนหัวเราะเย้ยหยันหญิงสาวด้วยความสาแก่ใจ“ในที่สุดวันที่เจ้าโดนเขี่ยออกจากตระกูลก็มาถึง ข้าจะรอดูว่าคนอย่างเจ้า ถ้าไม่ได้เป็นคุณหนูใหญ่ไป๋แล้ว เจ้าจะยังเชิดหน้าอย่างหยิ่งผยองแบบนี้ได้อีกไหม”ไป๋ลี่หลินเอ่ยจบก็หมุนตัวเดินจากไปด้วยความสุขที่ได้เห็นศัตรูหัวใจและมารความสุขโดนไล่ออกไปเสียที“คุณหนูเจ้าคะ บ่าวผิดเองเจ้าค่ะที่ไม่ยอมเอ่ย
“ข้าคิดเองได้เจ้าค่ะไม่จำเป็นต้องมีใครมาสอนในเรื่องนี้”ไป๋อวี้หลันเอ่ยตอบผู้เป็นบิดาด้วยสีหน้าเย็นชาไร้ความรู้สึก“ดียิ่ง! นอกจากจะเอาแต่สร้างปัญหาให้ข้าคอยตามล้างตามเช็ดแล้ว แกยังทำตัวหน้าด้านตามหึงหวงบุรุษไปทั่วเช่นเดียวกับมารดาของเจ้าสินะนังลูกสารเลว!”ไป๋ฮุ่ยหมิงที่เผลอเอ่ยพาดพิงถึงมารดาของอีกฝ่ายอย่างลืมตัวเพราะความโมโห“เช่นนั้นหรือเจ้าคะ? ถ้าหากว่าการที่ตระกูลไป๋มีข้าเป็นคุณหนูใหญ่มันสร้างความอับอายและปัญหามากมายให้กับท่านเสนาบดีไป๋ถึงขนาดนั้น ถ้าอย่างนั้นข้าขอรบกวนท่านช่วยลบชื่อข้าออกจากผังตระกูลด้วยก็แล้วกันเจ้าค่ะ”เพียะ!จบคำของไป๋อวี้หลันฝ่ามือหนาของไป๋ฮุ่ยหมิงก็ตบลงไปที่แก้มนวลอย่างแรงจนใบหน้างามของไป๋อวี้หลันนั้นหันไปตามแรงตบ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นสีแดงและปรากฏรอยฝ่ามือในเวลาต่อมาจนดูน่ากลัว“!!!”“นะ นายท่าน!”เสียงของแม่นมหลิวเอ่ยขึ้นด้วยความตกใจ“อย่าคิดว่าข้าจะไม่กล้าลงมือกับเจ้านะ ต่อให้จะเป็นหลานสาวของตระกูลซ่ง แต่ที่นี่เจ้าคือลูกสาวของข้าไม่ว่าข้าจะทำอะไรกับเจ้า เจ้าก็ไม่มีสิทธิ์มาโต้แย้งทั้งสิ้น!”เสียงตวาดของไป๋ฮุยหมิงดังสนั่นไปทั่วทั้งบริเวณเพราะโทสะที่เจ้าของจวนมี
แต่พออยู่กันตามลำพังกับพี่สาวต่างมารดากลับกลายร่างเป็นสตรีร้ายกาจเสียอย่างนั้น ชอบอิจฉาในรูปโฉมของพี่สาวต่างมารดา คอยหาทางกลั่นแกล้งอีกฝ่ายให้โมโหอยู่บ่อยครั้งจนเป็นที่มาของข่าวลือที่ว่าคุณหนูใหญ่ไป๋นั้นมีนิสัยโหดร้ายชอบทำร้ายทุบตีน้องสาวต่างมารดาและบ่าวไพร่ในเรือนนั่นเอง“ข้าบอกให้เจ้าโผล่หัวออกมา! อย่ามัวแต่มุดหัวอยู่ในกระดอง วันนี้ข้าจะต้องถามเอาความจริงจากปากของเจ้าให้ได้ว่าไปสร้างเรื่องอะไรให้องค์รัชทายาททรงไม่พอใจกัน!”เสียงแหลมสูงยังคงตะโกนอยู่นอกเรือนอย่างโกรธเกรี้ยวจนทำให้ไป๋อวี้หลันที่ไม่ชอบเสียงดังถึงกับรู้สึกไม่สบายหูขึ้นมาทันทีนางคิดแล้วว่าอีกฝ่ายคงจะไม่ยอมไปไหนอย่างแน่นอนจึงได้บอกให้เสี่ยวอิงเปิดประตูเรือน ก่อนที่หญิงสาวจะเดินออกมายืนด้านหน้าเรือนด้วยท่าทีสงบนิ่งเมื่อไป๋ลี่หลินเห็นว่าอีกฝ่ายกลับไม่มีท่าทีโมโหเหมือนเช่นทุกครั้งที่ตนมาหาเรื่องก็รู้สึกไม่พอใจขึ้นมาในทันที บวกกับข่าวลือที่ได้ยินมาเมื่อสักครู่นี้ว่าพี่สาวผู้โง่งมของตนได้ไปสร้างเรื่องให้กับองค์รัชทายาทบุรุษที่นางหลงรักและอยากจะแย่งชิงมารู้สึกไม่พอใจขึ้น“วันนี้เจ้าไปทำสิ่งใดให้องค์รัชทายาททรงโกรธจนถึงกับต้อ
“แม่นมท่านอย่าได้ทำสีหน้าเช่นนั่นสิ ข้าไม่ได้เป็นอะไรมาก”ไป๋อวี้หลันเอ่ยบอกกับหญิงวัยกลางคนตรงหน้าที่กำลังยืนน้ำตาคลออย่างน่าสงสารด้วยรอยยิ้มบางเบา“อึก…คุณหนูของนม ใครกันถึงกล้าทำร้ายท่านจนเลือดตกยางออกถึงเพียงนี้เจ้าคะ”หลิวหวังเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเจือโทสะเป็นอย่างมาก“ก็คู่หมั้นสุดเลิศเลอของข้าอย่างไรเล่า เพื่อปกป้องสตรีที่เขารัก เขาถึงกับกล้าผลักข้าตกบันไดเชียวนะ แม่นมคิดว่าข้าควรที่จะตบแต่งกับบุรุษเช่นนี้อยู่อีกหรือไม่กัน”ไป๋อวี้หลันเอ่ยตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉยราวกับว่าตัวนางกำลังบอกเล่าเรื่องราวทั่วไป แต่หญิงวัยกลางคนกลับมีสีหน้าตื่นตะลึเพราะความจริงที่ได้รับรู้ตัวของหลิวหวังเองก็ไม่คาดคิดมาก่อนว่าองค์รัชทายาทจะกล้าลงมือทำร้ายคุณหนูของตนเองได้ถึงเพียงนี้ยิ่งมองดูสภาพหญิงสาวที่ตนเองรักสุดหัวใจคอยเฝ้าฟูมฟักเลี้ยงดูมาอย่างทะนุถนอมกลับต้องมาเจ็บตัวเพราะบุรุษที่ได้ชื่อว่าเป็นคู่หมั้นของตนช่างน่าสงสารยิ่งนักไหนจะบิดาที่เห็นแต่ผลประโยชน์และหลงมัวเมาในมารยาสตรีแพศยานางนั้นจนลืมสิ้นสิ่งที่นายหญิงของนางได้ร้องขอเอาไว้ก่อนตายว่าให้ดูแลปกป้องคุณหนูของนางให้ดีที่สุดแต่ผ่านไปเพียงแค่สามเดือ
ตั้งแต่เด็กจนโตมานั้นคนที่คอยเลี้ยงดูนางและเคียงข้างนางมาตลอดก็คือ หลิวหวัง หรือแม่นมหลิว สาวใช้คนสนิทที่ติดตามท่านแม่ของนางมากับเด็กสาวเสี่ยวอิงสาวใช้ที่เติบโตมาพร้อมกับนางเสี่ยวอิงนั้นเป็นหลานสาวของแม่นมหลิวที่ท่านรับมาดูแลก่อนที่มารดาของไป๋อวี้หลันจะแต่งเข้ามาที่จวนตระกูลไป๋แห่งนี้แต่ที่ทำให้อวี้หลันหญิงสาวจากยุค 2023 รู้สึกอยากจะตะโกนให้คอแตกก็ตรงที่โลกที่นางมาอยู่ในตอนนี้ดันเป็นโลกนิยายในเรื่อง’ ชายารักองค์รัชทายาท’นิยายที่เพื่อนสนิทของนางนำมาให้อ่านเมื่อสามเดือนก่อนนี่เอง และจุดจบนางร้ายไร้สมองยอมทำทุกอย่างเพื่อผู้ชายโดยไม่สนว่าจะทำให้ใครต้องเดือดร้อนไปด้วยจุดจบอันแสนบัดซบคือนางร้ายต้องโทษประหารเพราะจ้างวานคนให้ไปลอบสังหารหญิงอันเป็นที่รักขององค์รัชทายาทผู้แสนจะเย็นชากับทุกคนโลกแต่กลับอบอุ่นอ่อนโยนแค่เพียงนางเอกของเรื่องเท่านั้นแต่ที่นางสงสารนั้นไม่ใช่คนตระกูลไป๋กับบิดาสารเลวผู้นี้ แต่เป็นตระกูลซ่งของท่านตา ท่านยาย และเหล่าท่านลุงท่านป้าพร้อมทุกคนในตระกูลซ่งที่ต้องมารับจุดจบเช่นนี้พร้อมกับนางร้ายของเรื่องเพียงเพราะไม่อาจจะทนมองเห็นหลานสาวเพียงคนเดียวต้องตกตายไปอย่างน่าสงสา
พลั่ก! กรี๊ดด!! ตุบ!“คุณหนู!”เสียงกรีดร้องของสาวใช้คนสนิทของหญิงสาวดังขึ้นด้วยความตกใจ หลังจากเห็นร่างของคุณหนูของตนพลัดตกจากบันไดลงไปยังชั้นล่าง ท่ามกลางความตื่นตะลึงของทุกคนที่อยู่ภายในโรงเตี๊ยมชื่อดังของเมืองหญิงสาวที่ร่วงลงมาจากบันไดนับสิบขั้นแน่นิ่งหมดสติไปหลังจากกลิ้งลงถึงพื้นด้านล่างพร้อมกับเลือดสีแดงสดไหลรินออกมาบริเวณขมับด้านซ้ายที่เกิดจากแผลกระแทกสาวใช้ตัวเล็กที่ได้สติรีบวิ่งลงไปดูคุณหนูของตนเองด้วยสีหน้าตื่นตระหนกระคนหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด“คุณหนูเจ้าคะ! คุณหนู อึก…คุณหนูอย่าเป็นอันใดไปนะเจ้าคะ อึก.. ใครก็ได้ช่วยตามหมอให้ข้าที..”สาวใช้ตัวเล็กที่มีใบหน้าจิ้มลิ้มอย่างน่ารักทั้งที่อายุก็ปาไป 18 ปีแล้วนั้นในตอนนี้ดวงตากลมโตของเจ้าตัวกำลังเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำตาสีใสที่ไหลรินเป็นทางพร้อมกับพร่ำเอ่ยเรียกคุณหนูของตนด้วยสีหน้าหวาดกลัวเป็นภาพที่ทำให้ผู้คนที่เห็นเหตุการณ์อยู่นั้นต้องเบือนหน้าหนีด้วยความเห็นใจส่วนตัวต้นเหตุที่ทำให้หญิงสาวตกลงมานั้นทำเพียงยืนมองอีกฝ่ายด้วยใบหน้าราบเรียบอย่างไร้ความรู้สึกอยู่ที่เดิม โดยที่ภายในอ้อมกอดของบุรุษผู้นั้นยังมีร่างของหญิงสาวอีกคนอยู่ด้วย