Share

เท่าใดถึงเหมาะสม

Author: l3oonm@
last update Last Updated: 2025-03-25 00:08:28

อยู่มาจนจะห้าสิบหนาวแล้วยังไม่เคยพบเห็นเห็ดหลินจือที่สมบูรณ์และใหญ่โตเช่นนี้มาก่อน จึงอดที่จะตื่นเต้นไม่ได้

ซูเจินเห็นว่าเขาไม่ได้ตั้งใจ และเอ่ยพูดกับนางอย่างเมตตาจึงได้ส่งยิ้มหวานให้เขาไปหนึ่งที ในตอนแรกสหายทั้งสามของซูเจินตื่นตัวขึ้นมาทันที คิดว่าจะเกิดอันตรายกับนาง แต่พอเห็นซูเจินนางยิ้มออกมาจึงได้กลับไปอยู่ที่ไหล่ของนางเช่นเดิม

“เห็ดหลินจือพันปี” เขาพึมพำออกมาอย่างเลื่อนลอย

“เอ่อ ท่านหมอ ท่านจะซื้อหรือไม่ขอรับ” ซูเต๋อทนรอไม่ไหว เพราะหมอกู้ลูบคลำเห็นหลินจือ ของเขามาเกือบครึ่งชั่วยามแล้ว

“ซื้อ ซื้อ เจ้าใจร้อนเสียจริง” เขามองค้อนซูเต๋อที่ขัดขวางช่วงเวลาที่เขาชื่นชมเห็ดหลินจืออยู่

“หิว” ซูเจินลูบท้องน้อยๆ ของนาง นางอยากจะเร่งให้เขารีบจ่ายเงินจะได้ไปหาของอร่อยกินเสียที

“โอ้ เด็กน้อยหิวเสียแล้ว” เขามองซูเจินอย่างชื่นชม เด็กน้อยตรงหน้าคงไม่เกินหนึ่งขวบปีอย่างแน่นอน กลับพูดออกมาตอนที่บิดาของนางกำลังลำบากใจได้

หมอกู้ให้หลงจู๊อู๋ไปจัดการหาอาหารมาให้ทั้งสามคนได้กิน เพราะเขาคิดว่าคงอีกนานที่จะพูดคุยเรื่องราคากันเรียบร้อย

รอไม่นานหลงจู๊อู๋ก็ยกอาหารเข้ามาด้านใน ซูเต๋อให้จิ่วเม่ยพาบุตรสาวไปนั่งกินก่อน เขาจะเจรจาเรื่องราคากับหมอกู้

“ห้าพันตำลึงทอง เจ้าเห็นเป็นเช่นใดบ้าง” หมอกู้เอ่ยถามออกมา เมื่อเขาตัดสินใจเรื่องราคาได้แล้ว หากเห็ดหลินจือทั้งสามดอกนี้ถูกส่งเข้าเมืองหลวง ต้องทำเงินให้เขาได้ไม่ต่ำกว่าดอกละหนึ่งหมื่นตำลึงอย่างแน่นอน

“นายหญิง แม้ราคาที่ท่านหมอกู้ให้จะดูสูง แต่เห็ดทั้งสามดอกก็ไม่ได้พบเห็นง่ายๆ ท่านควรจะบอกท่านพ่อให้เพิ่มราคาเจ้าค่ะ” เสี่ยวมี่บอกซูเจิน

ซูเต๋อกับจิ่วเม่ยตกตะลึงกับราคาที่หมอกู้ให้ แต่ก่อนที่ซูเต๋อจะอ้าปากยอมรับ เสียงของซูเจินน้อยก็ตะโกนออกมาเสียก่อน

“ไม่” ผู้ใหญ่ทั้งสี่ที่อยู่ในห้องหันมามองที่นางเป็นตาเดียว

“ไม่อร่อยอย่างนั้นรึ” หลงจู๊อู๋เอ่ยถามอย่างสงสัย เพราะเขาเห็นนางกินลงไปไม่น้อย ทั้งอาหารที่สั่งมาก็มาจากเหลาอาหารชื่อดังในเมือง

“ไม่” นางส่ายนิ้วชี้น้อยๆ ของนางไม่มา

“ขาย” ทั้งสี่ได้แต่ตกตะลึง เมื่อเด็กน้อยเช่นซูเจิน ได้ราคาสูงเพียงนี้แต่ไม่คิดจะขาย

หมอกู้รอยยิ้มแข็งค้างไปทันที เขามองซูเจินอีกครั้งอย่างพิจารณา เมื่อเห็นผีเสื้อ ผึ้ง มด ที่อยู่บนไหล่ของนาง เขาก็ขมวดคิ้วอย่างสงสัย

ไม่ใช่ว่าเขาไม่เห็นสัตว์ทั้งสามตัวตั้งแต่แรก แต่เพราะคิดว่าคงติดมากับตะกร้าของซูเต๋อ มันน่าแปลกเกินไปที่ทั้งสามตัวยังคงอยู่ที่ไหล่ของเด็กน้อยไม่ห่าง

“เอ่อ เจินเออร์ อย่าเสียมารยาทลูก” จิ่วเม่ยเอ่ยตำหนิบุตรสาว

“เพิ่ม” นางยู่ปากน้อยๆ อย่างไม่พอใจ แล้วกอดอกมองที่หมอกู้อย่างไม่ยินยอม

“เจ้าจะให้ข้าเพิ่มราคาอีกใช่หรือไม่” หมอกู้ลองเอ่ยถามนาง เพราะอยากจะรู้ว่าสิ่งที่เขาคิดถูกต้องหรือไม่

“อืม” นางพยักหน้าราวกับไก่จิก

“แล้วเจ้าคิดว่าเท่าใดถึงจะเหมาะสม” เขาเดินมานั่งตรงหน้าของซูเจิน เพื่อพูดคุยกับนาง

ซูเจินชูนิ้วน้อยๆ ของนางไปตรงหน้าของหมอกู้ “แปดพันตำลึงทองอย่างนั้นรึ” เขาร้องถามออกมาเสียงดัง

“อืม” นางพยักหน้าอีกครั้ง

“เอ่อ เจินเออร์” ซูเต๋อเอ่ยเรียกบุตรสาว แต่ถูกสายตาของซูเจินมองอย่างจริงจังไว้ เขาจึงได้กลืนคำที่จะห้ามนางลงท้องไป ถึงอย่างไรเห็ดที่ได้มาก็เป็นเพราะบุตรสาวของเขา ให้นางได้ตัดสินใจในเรื่องนี้เองก็แล้วกัน

หลงจู๊อู๋กับหมอกู้แปลกใจไม่น้อยที่สองสามีภรรยายอมให้เด็กน้อยวัยขวบปีเป็นผู้ตัดสินใจเช่นนี้ นับว่าเป็นเรื่องที่ประหลาดนัก

หมอกู้ต้องยอมกัดฟันจบที่ราคาที่ซูเจินนางต้องการ ไม่ใช่เพียงสายตาของเด็กน้อยที่จ้องมองเขาอย่างกดดัน ยังมีสหายของนางทั้งสามตัวที่มองมาทางเขาอีกด้วย เรื่องนี้ทำให้หมอกู้เสียวสันหลังแปลกๆ

หมอกู้ยอมจ่ายค่าเห็ดหลินจือทั้งสามดอกที่ สองหมื่นสี่พันตำลึงทอง ซูเต๋อยังขอรับเป็นตั๋วเงินใบละห้าสิบตำลึงเงินด้วย เพื่อที่เขาจะได้นำไปใช้จ่ายได้อย่างสะดวก

ซูเจินนางกินอาหารต่ออย่างสบายใจ เมื่อได้ราคาที่นางต้องการแล้ว คงมีเพียงผู้ใหญ่ทั้งสี่ที่ได้แต่มองนางกินเท่านั้น พวกเขาต่างกินอันใดไม่ลง

ซูเต๋อกับจิ่วเม่ยที่กินไม่ลง เพราะยังตกตะลึงไม่หายที่ได้เงินมากถึงเพียงนี้ ส่วนหมอกู้เขากินไม่ลง เพราะกำไรที่จะได้กว่าครึ่งถูกซูเจินปล้นไปเยอะถึงเพียงนั้น

ซูเต๋อนำตั๋วเงินทั้งหมดใส่ลงตะกร้า เพราะคิดจะให้บุตรสาวเก็บเข้าไปที่เดียวกับเห็ดอีกหลายดอกที่นางเก็บไว้

“เจินเออร์ เก็บไว้ที่เดียวกับเห็ดหลินจือได้หรือไม่” เมื่อเดินห่างออกมาจากผู้อื่นแล้ว เขาก็เอ่ยถามอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ

“ได้” 

ซูเต๋อจึงได้หาที่ลับตาคน แล้วให้ซูเจินนางเก็บเข้าไป จิ่วเม่ยยังไม่มั่นใจว่าหากตั๋วเงินที่ได้มาทั้งหมดหายไปแล้วจะกลับมาได้หรือไม่ ซูเจินนางจึงได้นำเข้าออกหลายครั้งเพื่อให้มารดามั่นใจ

เงินที่อยู่ที่ตัวของซูเต๋อยังมีไม่มาก เขาเลือกที่จะพาสองแม่ลูกไปซื้อผ้าเพื่อตัดชุดเสียก่อน จิ่วเม่ยนางก็ไม่ได้เลือกผ้าไหมที่ราคาแพง แต่เลือกผ้าฝ้ายเนื้อดีให้บุตรสาว ของนางและซูเต๋อยังเป็นผ้าฝ้ายธรรมดาเพื่อสะดวกใช้งาน

ซูเจินเห็นเช่นนั้นจึงได้ชี้เลือกผ้าฝ้ายเนื้อเดียวกับนาง เพิ่มให้บิดามารดาอีกคนละสองพับ

“เจินเออร์ พอแล้วลูก” จิ่วเม่ยอดที่จะดุบุตรสาวไม่ได้

“ตามใจนางเถิด” ซูเต๋อส่งมาที่ซูเจินเลือกให้ทางร้านห่อให้

คนขายไม่อยากจะเชื่อว่าสามีภรรยาคู่นี้จะกล้าซื้อผ้าทุกพับที่บุตรสาวเลือกชี้ ทั้งยังมากมายถึงแปดพับด้วยกัน ในตอนแรกเขาคิดว่าคงจะซื้อผ้าฝ้ายธรรมดาพับเดียว ทำให้รู้ว่าดูจากการแต่งกายไม่ได้จริงๆ

ซูเต๋อฝากผ้าที่ซื้อไว้ทั้งหมดไว้ก่อน เพราะเขายังต้องไปหาซื้อเกวียนวัวก่อน แต่ซูเจินนางก็สร้างเรื่องอีกครั้ง เมื่อนางเห็นม้าสองตัวนอนอยู่ในคอกอย่างหมดอะไรตายยาก

“พ่อ” นางชี้มือไปที่คอกม้า ร้องบอกซูเต๋อที่อุ้มนางไว้

“เราจะซื้อวัวลูกมิใช่ม้า” ซูเต๋อชี้ไปที่วัวสองตัวที่เขามองไว้

นอกจากจะใช้เทียมเกวียนได้แล้ว ยังใช้วัวในการทำนาได้อีก จะได้ทุ่นแรงเขาได้เยอะ และจิ่วเม่ยนางจะได้ไม่ต้องไปทำงานในนาอีก

“ม้า” นางดีดดิ้น เพื่อให้ท่านพ่อพาเดินไปที่คอกม้า

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   พี่ชายเจ้ามิใช่รึ

    นางรู้มาจากเสี่ยวเตี๋ยว่าม้าตัวเมียที่นอนอยู่ในคอกกำลังตั้งท้อง และม้าสองตัวยังเป็นม้าที่เกิดในทุ่งหญ้าแข็งแรงไม่น้อย คงเพราะถูกจับมาตอนที่แม่ม้ากำลังตั้งท้อง จึงทำให้พ่อม้าถูกจับมาด้วย“นายท่าน ม้าสองตัวนี้พยศนัก ไม่มีผู้ใดเข้าใกล้ได้เลยขอรับ” เขาเอ่ยออกมาอย่างกังวลที่เห็นเด็กน้อยต้องการไปดูใกล้ๆ ด้วยกลัวว่านางจะเกิดอันตรายได้แต่ซูเจินนางไม่ยอม ซูเต๋อจำต้องพานางเดินเข้าไปใกล้ เพราะรู้เรื่องความลับของบุตรสาวดี นายหน้าค้าสัตว์อยากจะเอ่ยห้าม แต่เมื่อเห็นบิดาของนางตามใจเช่นนี้ เขาจึงได้ถอยห่างออกมา เพื่อรอดูเรื่องสนุกแทนม้าทั้งสองตัว เมื่อเห็นซูเต๋ออุ้มซูเจินเดินเข้ามาทั้งสองก็ลุกขึ้นเดินมาหานางอย่างช้าๆ ทั้งยังยอมให้นางจับตัวอย่างว่าง่ายอีก“คิก คิก” ซูเจินหัวเราะอย่างชอบใจ เมื่อม้าตัวเมียดันจมูกของมันกับแก้มของนางนายหน้าค้าสัตว์อ้าปากค้างมองภาพตรงหน้าอย่างตกใจ แต่นี่ยังไม่ใช่เรื่องประหลาดที่เขาพบเจอ เสียงสัตว์ที่อยู่ในความดูแลทั้งหมดของเขาส่งเสียงร้องออกมาด้วยความอิจฉา เมื่อเห็นม้าทั้งสองตัวได้คลอเคลียกับนายหญิงแห่งมิติพฤกษาซูเจินนางไม่รู้เลยว่าการที่นางซื้อม้าทั้งสองตัวและวัวอีกสอ

    Last Updated : 2025-03-26
  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   ซื้อที่ภูเขา

    ซูเจินมองเห็นความหวังดีที่สื่อออกมาจากแววตาของคนทั้งคู่ นางดึงชายเสื้อของบิดา“ห้อง” “จะเข้าห้องอย่างนั้นหรือ” เขาเอ่ยถามบุตรสาวอย่างไม่เข้าใจ หรือนางจะอ่อนเพลียจากการเดินทาง จึงได้อุ้มนาง พร้อมทั้งขอตัวให้ภรรยาอยู่รับฟังเสียงบ่นจากป้าหวงต่อไป“มีอันใดรึ” ซูเต๋อเอ่ยถามอย่างรู้ทัน เมื่อพาซูเจินน้อยเข้ามาในห้องแล้วนางยิ้มให้บิดาอย่างชื่นชมก่อนจะบอกให้หลันฮวาส่งเห็ดหลินจอที่ดอกเล็กที่สุดออกมาให้นาง“นี่” ซูเจินยื่นเห็ดหลินจือไปให้บิดา“ให้” นางชี้มือน้อยๆ ออกไปที่ด้านนอกห้อง“เข้าใจแล้ว” ซูเต๋อลูบหัวบุตรสาว พร้อมทั้งจูบที่หน้าผากของนางอย่างรักใคร่“เจินเออร์ของพ่อ รู้จักกตัญญูแล้ว” เขากอดนางไว้แนบอก ก่อนที่จะพากันเดินออกจากห้องไปหาทั้งสามที่ห้องโถงอีกครั้ง“อ้าว เจินเอออร์ มิได้เข้าไปนอนหรอกรึ” จิ่วเม่ยเมื่อเห็นซูเต๋ออุ้มบุตรสาวออกมาอีกครั้งก็เอ่ยถามอย่างแปลกใจ“ไม่ นางให้ข้านำสิ่งนี้มาให้ท่านลุงหวงและท่านป้าหวง” ซูเต๋อวางเห็ดหลินจือลงบนโต๊ะต่อหน้าคนทั้งสาม“สวรรค์” ป้าหวงยกมือขึ้นปิดปาก“นี่ นี่” ลุงหวงตกตะลึงจนไม่อาจจะเอ่ยคำใดออกมาได้“เจินเออร์ นางให้พวกท่านขอรับ”“จะได้อย่างไร ของล

    Last Updated : 2025-03-26
  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   มากถึงเพียงนี้

    ในตอนแรกซูเต๋อคิดจะให้ลุงหวงยืมรถม้าของเขาไปจัดการเรื่องที่ดินในเมือง แต่พอรู้จากซูเจินว่าแม่ม้ากำลังตั้งท้องจึงไม่ได้เอ่ยปากให้ยืมไปจะให้ยืมเกวียนวัวที่เพิ่งนำมาส่งก็ไม่ค่อยจะถูกนัก เพราะเรือนของลุงหวงก็มีเกวียนวัวอยู่แล้วลุงหวงเมื่อออกจากเรือนตระกูลซูก็เดินทางเข้าเมืองทันที เขาแวะไปที่ว่าการเพื่อจัดการเรื่องโฉนดให้อาเต๋อก่อน เมื่อเจ้าหน้าที่เห็นว่าเป็นการขายที่ดินภูเขาก็ไม่คิดอันใด จัดการให้ลุงหวงทันที เพราะไม่ต้องเดินทางไปทำรังวัด แถมยังได้ค่านำชาจากท่านลุงหวงอีกสิบตำลึงเงินอีกด้วยลุงหวงเดินทางไปโรงหมอของหมอกู้ เพื่อนำเห็ดหลินจือไปขาย เมื่ออ้างชื่อของซูเต๋อตามที่เขาบอกไว้ ท่านหมอกู้ก็มอบเงินให้เขาถึงสองพันตำลึงทอง ลุงหวงเดินออกมาจากโรงหมอด้วยท่าทางที่ไร้สติหมอกู้ก็ถือว่าให้ราคาอย่างยุติธรรม เห็ดหลินจือที่ลุงหวงนำมามีขนาดเล็กกว่าของซูเต๋อมากนัก แต่ก็เป็นดอกที่สมบูรณ์เหมือนเพิ่งเก็บมาใหม่ เขาจึงไม่ได้สอบถามว่าเป็นของซูเต๋อหรือไม่ และมอบเงินให้ลุงหวงทันทียังดีที่หวงไฉเดินทางมากับบิดาด้วยไม่เช่นนั้นลุงหวงคงมิอาจบังคับเกวียนวัวเพื่อกลับเรือนได้“ท่านพ่อ ขายได้หรือไม่ ขอรับ” หวงไฉเด

    Last Updated : 2025-03-27
  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   ต้าซือชรา

    พอใกล้จะถึง ต้าซือก็เดินออกมารับทั้งสามคนด้วยตนเอง“ท่านมาแล้ว” เขามองมาที่ซูเจินน้อยด้วยแววตาที่เปล่งประกายอย่างยินดี“เอ่อ ท่านหมายถึงบุตรสาวข้าน้อยหรือขอรับ”“ใช่แล้ว” ต้าซือเดินนำทุกคนเข้าไปนั่งในศาลา“บุตรสาวของเจ้าต่อไปจะช่วยเหลือแคว้นต้าเยี่ยนไว้ได้จากเคราะห์ร้าย” ต้าซือมองซูเจิน“เอ่อ นางเป็นเพียงสตรี จะทำเรื่องอย่างที่ท่านว่าได้อย่างไร” ซูเต๋อขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ“อาตมาคิดว่าเรื่องนี้เจ้าคงรู้ดีอยู่แล้ว นางแตกต่างจากสตรีอื่น เมื่อนางเติบใหญ่ขึ้นเจ้าจะรับรู้ได้เอง”“นายหญิงแห่งพฤกษา ท่านคงรู้เรื่องที่อาตมาบอกกล่าว” ต้าซือยิ้มอย่างเมตตาให้ซูเจินยิ่งเห็นสหายที่อยู่บนไหล่ของซูเจิน ต้าซือก็พยักหน้าเหมือนจะทักทายพวกเขาเล็กน้อยซูเจินนางเบิกตากว้างที่ต้าซือที่ดูแสนจะธรรมดาตรงหน้าล่วงรู้ความลับของนาง“หึหึ แผ่นดินต้าเยี่ยนต้องฝากไว้ในมือของท่านแล้ว” เมื่อต้าซือกล่าวจบก็โบกมือให้เณรน้อยที่รออยู่นอกศาลาพาคนทั้งสามออกไป ซูเต๋อจำต้องกลับไปทั้งที่ไม่เข้าใจเรื่องที่ต้าซื่อชราพูดออกมาสักนิด“นายหญิงแห่งพฤกษา ท่านพี่ ที่ต้าซือหมายถึงคือเจินเออร์ของข้ารึ” จิ่วเม่ยเอ่ยถาม เมื่อทั้งสามลงมาจ

    Last Updated : 2025-03-27
  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   เจ้ายังเป็นบุตรชายของข้าหรือไม่

    ส่วนมากก็ยังเป็นชาวบ้านในหมู่บ้าน เพราะซูเต๋ออยากให้ชาวบ้านในหมู่บ้านมีรายได้เพิ่มมากขึ้น เรื่องนี้ทำให้ต้าหลางบิดาของเขาไม่พอใจอย่างมากที่ไม่ยอมให้แบบร่างนี้แก่เขา“อาเต๋อ เจ้ายังเป็นบุตรชายของข้าอยู่หรือไม่” เขามาหาซูเต๋อที่เรือน“หึ ข้าตกใจไม่น้อย เมื่อเห็นท่านยังมองข้าเป็นบุตรชายอยู่” ซูเต๋อมองบิดาของเขาอย่างเสียใจจิ่วเม่ยพาซูเจินออกไปเล่นด้านนอก เพราะไม่อยากอยู่ให้ต้าหลางรำคาญสายตา“แทนที่เจ้าจะนำแบบร่างจอบมามอบให้ข้าที่เป็นพ่อของเจ้า แต่กลับยกให้อาซวงเสียอย่างนั้น มิรู้หรือว่าอาฟงกำลังจะแต่งงาน ปีหน้าน้องสาวเจ้ายังต้องออกเรือนอีก” ต้าหลางตำหนิบุตรชายอย่างไม่ไว้หน้า“ข้าจำได้ว่าพวกท่านตัดชื่อของข้าออกจากตระกูลแล้ว เรื่องในเรือนของท่านคงไม่เกี่ยวกับข้ากระมัง” ซูเต๋อเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจเขาถูกละเลยมาตั้งแต่เด็กเขาพอทนได้ แต่สิ่งที่บิดากับมารดาเลี้ยงรังแกบุตรสาวกับภรรยาของเขามันเกินจะทนแล้ว“เพ้ย ถึงอย่างไรข้าก็ทำให้เจ้าเกิดมา” ต้าหลางลุกขึ้นชี้หน้าซูเต๋อ“เรื่องนี้ข้าสำนึกอยู่ตลอด สินเดิมที่ท่านแม่ทิ้งไว้ ข้าก็มิได้นำติดตัวมาสักเหรียญทองแดง ท่านยังต้องการอันใดจากข้าอีก”เรื่องนี้ทำให

    Last Updated : 2025-03-28
  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   ผักตระกูลซู

    ซูเจินนางไม่คิดจะปิดบังเรื่องมิติของนางกับบิดามารดาตั้งแต่แรก เมื่อคิดอยากจะเข้าหรือออก นางก็มักจะหายตัวเข้าไปต่อหน้าทั้งสองอยู่ตลอด ในช่วงแรกซูเต๋อและจิ่วเม่ยก็ตกใจไม่น้อย หลังๆ จึงได้เลิกกังวล เพราะรู้ว่านางเข้าไปไม่นานก็กลับออกมาเช่นเดิมซูเต๋อมาซูเจินเข้าไปในเมืองเพื่อซื้อตำราตามที่นางต้องการ ภายในร้านเขาปล่อยให้บุตรสาวเดินเลือกตามความสนใจของนาง เจ้าของร้านมองมาที่สองพ่อลูกอย่างสนใจ เพราะไม่เคยเห็นสตรีที่เข้ามาในร้านตำราและยังมีอายุเพียงสองหนาวเท่านั้นซูเจินนางพอจะเข้าใจตัวอักษรโบราณอยู่ไม่น้อยหลังจากที่ถามมาจากหวงฉือ เรื่องการเลือกซื้อตำราของนางจึงไม่ได้ขอความช่วยเหลือจากเจ้าของร้านคงจะมีเพียงแค่ขอให้ท่านพ่อช่วยหยิบเล่มที่นางเอื้อมไม่ถึงเท่านั้น“เจ้าจะซื้อทั้งหมดเลยรึ” ซูเต๋อมองกองตำราที่บุตรสาวเลือกซื้ออย่างตกใจในตอนแรกเขาคิดว่านางจะหาซื้อเพียงไม่กี่เล่ม ตอนนี้ด้านหน้าของเขามีหลายสิบเล่มเลยทีเดียว“จะได้ไม่ต้องหาซื้อบ่อยๆ เจ้าค่ะ ท่านพ่อซื้อกระดาษ พู่กัน หมึกให้ลูกด้วย”“ได้” ซูเต๋อต้องนำตำราไปให้เจ้าของร้านห่อให้ถึงสามรอบกว่าจะแล้วเสร็จ“เอ่อ นังหนูเจ้าจะอ่านเองรึ” เจ้าของร

    Last Updated : 2025-03-28
  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   เจ้าหน้าที่กรมโยธา

    พอเขานำไปใช้ที่สำนักศึกษา ท่านอาจารย์ก็อดที่จะสอบถามเรื่องนี้ไม่ได้“เอ่อ เจ้าว่าเป็นเด็กน้อยนางหนึ่งอย่างนั้นรึ” ท่านอาจารย์เฉียวเอ่ยถามอย่างประหลาดใจ“ขอรับ” หวงฉือในวัยสิบห้าหนาวเอ่ยตอบอย่างภูมิใจ เขาไม่อายผู้ใดหากจะบอกว่าความรู้ของเขากว่าครึ่งเป็นนางที่สอนเขาเพราะเขาฟังสิ่งที่อาจารย์ในสำนักศึกษาสั่งสอนไม่ค่อยเข้าใจ เมื่อนำไปให้ซูเจินนางสอน นางอธิบายให้เขาเข้าใจได้อย่างง่ายดาย“เช่นนั้นหรือ หากข้าต้องการจะพบนาง เจ้าช่วยจัดการให้ได้หรือไม่”“เรื่องนี้ศิษย์จะไปสอบถามนางให้ขอรับ” วันนั้นหวงฉือจึงต้องเดินทางกลับหมู่บ้าน เมื่อมาถึงคนตระกูลหวงต่างตกใจไม่น้อย เพราะไม่ใช่วันหยุดของเขา“เกิดเรื่องใดที่สำนักศึกษาหรือไม่” หวงไฉเอ่ยถามบุตรชายด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด“ไม่ขอรับ ท่านอาจารย์เพียงอยากพบเจินเออร์จึงให้ข้ามาสอบถามนาง”“เพราะอันใด เจ้าพูดเรื่องใดของนางออกไป” ลุงหวงเอ่ยถามเสียงดัง“ปะ เปล่าขอรับ” หวงฉือไม่เห็นท่าทีที่โกรธเกรี้ยวของท่านปู่เช่นนี้มาก่อน จึงอดที่จะตกใจไม่ได้เขาเล่าเรื่องที่เขานำการคำนวณที่ซูเจินสอนไปใช้ที่สำนักศึกษา ท่านอาจารย์เฉียวเห็นเข้าจึงได้เรียกตัวเขาไปสอบถาม“เช

    Last Updated : 2025-03-29
  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   แจกจ่ายข้าว

    เมื่อเห็นผักที่ปลูกอยู่ข้างเรือนของซูเต๋อก็ยิ่งแปลกใจ เพราะแทบไม่มีร่องรอยจากการถูกแมลงกัดกิน และยังอวบอิ่มราวกับได้น้ำอย่างมากมายซูเต๋อมิได้แสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ เขาจะบอกได้อย่างไรว่ามีพวกแมลงสหายของบุตรสาวคอยช่วยดูแลแปลงผักของเขา“นี่คือสิ่งใด” ใต้เท้าหานอดที่จะเอ่ยถามถึงโรงเก็บของขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นมาหลายหลังมิได้“ข้าน้อยกังวลเรื่องภัยแล้ง ตั้งแต่เมื่อห้าปีที่แล้วขอรับ จึงได้สร้างโรงเก็บข้าวเปลือกขึ้น โดยให้ชาวบ้านนำมาฝากเก็บไว้ เผื่อยามฉุกเฉินขอรับ” เป็นลุงหวงที่เอ่ยตอบเรื่องนี้ก็เป็นความคิดของซูเจิน ที่ให้สร้างโกดังทั้งยังใช้หลักการเดียวกับโรงรับฝากเงิน ข้าวที่ชาวบ้านนำมาฝาก ถูกเขียนสัญญาอย่างชัดเจน หากคิดจะขายทางซูเต๋อก็รับซื้อไว้ในราคาที่พวกเขาขาย หรือจะฝากไว้ยามฉุกเฉินก็จะเสียค่าฝากเพียงไม่กี่สิบอิแปะเท่านั้นน่าแปลกที่เก็บไว้ที่เรือนของตนย่อมถูกแมลงกัดกิน แต่เมื่อเทียบกับข้าวเปลือก ธัญพืชที่นำมาฝากที่โรงเก็บของส่วนกลางของหมู่บ้าน แทบจะไม่มีร่องรอยของแมลง นก หนู มาทำให้ข้าวของเสียหายเลยชาวบ้านจำนวนไม่น้อย เมื่อมีข้าวเปลือก ธัญพืชเหลือกินและเหลือจากขายแล้ว พวกเขาส่

    Last Updated : 2025-03-29

Latest chapter

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   ขุดหาตาน้ำ

    ฟ้ายังไม่ทันสว่างดี ซูเต๋อและหวงไฉก็พาชาวบ้านจำนวนหนึ่งไปที่หมู่บ้านหูต้า เมื่อมาถึงที่ทางเข้าหมู่บ้านก็พบว่าท่านเจ้าเมืองมารอพวกเขาอยู่แล้ว“อาเต๋อเจ้ามาแล้ว” ท่านเจ้าเมืองเดินเข้ามารับซูเต๋อที่รถม้าอย่างยินดี“คารวะท่านเจ้าเมืองขอรับ” ซูเต๋อยังคงนอบน้อมเช่นเดิม“เพ้ย ไปไป เข้าไปในหมู่บ้านกันเถิด ข้าอยากจะเห็นแล้วว่าเจ้าหาตาน้ำเช่นไร” ซูเต๋อเดินตามท่านเจ้าเมืองเข้าไปในหมู่บ้าน เขาไม่ได้รีบไปที่ตาน้ำตามที่ซูเจินนางบอก เสี่ยวอี่ยังติดตามเขามาด้วย เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดขึ้นหัวหน้าหมู่บ้านลองทำตามวิธีของซูเต๋อก่อนที่เขาจะมาแล้วรอบหนึ่ง แต่ก็ไม่เห็นว่าจะมีไอน้ำขึ้นมาจากดินเช่นที่ดินของซูเต๋อเลยสักนิด“ข้าสำรวจแล้วหนึ่งรอบ แต่ไม่พบไอน้ำอย่างที่เจ้าว่า” เขาเอ่ยออกมาอย่างกังวลหากที่หมู่บ้านหูต้าไม่มีตาน้ำ ก็คงต้องรบกวนหมู่บ้านตงหยานต่อไป“เรื่องนี้ท่านอย่าเพิ่งกังวล ตอนที่ท่านสำรวจฟ้าคงยังมืดอยู่จึงไม่อาจเห็นได้ชัด” ซูเต๋อก็ไม่รู้เช่นกันว่าสิ่งที่เขาพูดจะถูกต้องหรือไม่ แต่ก็ไม่อยากให้หัวหน้าหมู่บ้านกังวลใจพอฟ้าใกล้สาง ซูเต๋อก็เดินนำไปตามเส้นทางที่สอบถามซูเจินมาก่อนหน้านี้แล้วทันที เส

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   ต้องหาแหล่งน้ำเพิ่ม

    ห้าเดือนต่อมาจิ่วเม่ยก็คลอดบุตรชายอวบอ้วนออกมาให้ซูเต๋อได้เชยชม ซูเจินนางยังเฝ้าน้องชายของนางอยู่ไม่ห่างข่าวของหวงจือที่อยู่ในเมืองหลวงก็ถูกส่งกลับมาที่หมู่บ้าน เขาสอบซิ่วไฉผ่านในวัยเพียงสิบเจ็ดหนาว และปีหน้าจะสอบจวี่เหรินอีกด้วยคนตระกูลหวงจึงคิดจะเดินทางเข้าเมืองหลวง เพื่อไปดูความเป็นอยู่ของเขา“เจินเออร์ เจ้าอยากไปกับยายหรือไม่” ป้าหวงเอ่ยถามซูเจิน“ไม่เจ้าค่ะ ข้าจะอยู่ดูน้องชาย” นางไม่รู้ว่าจะไปทำอันใดที่เมืองหลวง อยากจะรอให้น้องชายโตเสียก่อนค่อยคิดจะเดินทางไปเที่ยวเมื่อเห็นว่าเป็นเช่นนั้น ป้าหวงจึงไม่คิดจะบังคับนางต่อ นางกลับเรือนของตนเพื่อไปจัดการเก็บข้าวของ ทั้งยังบอกจะซื้อของมาฝากซูเจินอีกด้วยลุงหวงมิได้ทำหน้าที่ผู้นำหมู่บ้านแล้ว เป็นหวงไฉที่ทำหน้าที่แทนเขา หวงไฉจึงไม่ได้ออกเดินทางไปด้วย เพราะเป็นห่วงทางหมู่บ้านที่ปีนี้ดูจะแล้งกว่าปีที่แล้วมากนักซูเจินเอ่ยถามเรื่องตาน้ำกับสหายทั้งสามของนาง ถึงแม้ในหมู่บ้านตงหยานจะไม่ได้รับผลกระทบ แต่หมู่บ้านหูต้าที่อยู่ติดกันได้รับผลกระทบไม่น้อยผู้นำหมู่บ้านหูต้าต้องเดินทางมาคุยกับหวงไฉ เพื่อขอให้ชาวบ้านเดินทางมาตักน้ำที่ยังมีอีกมากในหมู่

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   ส่งฉู่จิ้งไปเรียน

    สิบห้าวันให้หลังขบวนรถม้าที่ยาวถึงหกคันรถก็เดินทางมาถึงหมู่บ้านตงหยาน ชาวบ้านต่างออกมาต้อนรับพวกเขาอย่างยินดีซูเจินก็ถูกจิ่วเม่ยจูงมือมารอรับท่านพ่อของนางที่หน้าหมู่บ้านด้วย“ตาเฒ่ามาแล้ว” ป้าหวงร้องลั่นอย่างยินดี“เพ้ย ยายแก่ ข้าได้ยินเสียงของเจ้ามาแต่ไกล” ลุงหวงอดจะหยอกเมียของเขาไม่ได้เมื่อซูเต๋อเดินลงมาจากรถม้าก็รีบเดินเข้ามาอุ้มซูเจินน้อยไปกอดทันที“เพราะเจ้า พ่อถึงมีวาสนาเช่นนี้” ซูเต๋อหอมแก้มบุตรสาวฟอดใหญ่“มีเรื่องดีอันใดเจ้าคะ” จิ่วเม่ยอดที่จะเอ่ยถามไม่ได้“ข้ากับอาเต๋อ ได้รับพระราชทานตำแหน่งขุนนางขั้นแปด” ลุงหวงเป็นผู้ที่ไขข้อสงสัย เขายืดอกขึ้นอย่างภูมิใจเสียงฮือฮาจากชาวบ้านดังไม่ขาดสาย พวกเขาต่างเข้ามาแสดงความยินดี แม้ไม่เข้าใจว่าขุนนางขั้นแปดคืออันใด แต่ก็พอจะรู้ว่าการเป็นขุนนางนั่นมีอำนาจอยู่ไม่น้อย“อาจือเล่า เขาอยู่ที่ใด” ป้าหวงเมื่อยินดีกับตำแหน่งใหม่ของสามีแล้วก็อดจะมองหาหลานชายไม่ได้“อาจืออยู่ที่เมืองหลวงต่อ ใต้เท้าหานจัดการเรื่องเรียนของเขาให้เรียบร้อยแล้ว ที่อยู่ของเขาข้ากับอาเต๋อก็ซื้อเรือนและบ่าวให้เขาแล้ว เจ้าอย่าได้กังวลใจ” เพราะหลานชายก็อายุสิบหกหนาวแล้ว เข

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   ขุนนางขั้นแปด

    ซูเต๋อและลุงหวงจำต้องยืนรออยู่ที่หน้าท้องพระโรงเพราะยังไม่มีคำสั่งเรียกตัวให้เข้าเฝ้า เหงื่อของทั้งคู่ซึมออกมาตามแผ่นหลังอย่างกระวนกระวายใจ เพราะไม่รู้ว่าจะถูกสอบถามด้วยเรื่องอันใดแม้จะพอรู้ว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับกังหันลมที่เขาได้ส่งแบบร่างให้กับใต้เท้าหาน แต่ถึงอย่างไรพวกเขาก็กังวลใจอยู่ไม่น้อย“ซูเต๋อ หวงกุ้ยถัง ฝ่าบาทเรียกตัวให้เข้าเฝ้า” กงกงร้องเรียกทั้งสองที่หน้าท้องพระโรงซูเต๋อหันไปมองลุงหวงที่ตัวเริ่มจะสั่นอย่างเห็นได้ชัด จนเขาต้องบีบที่ไหล่เพื่อให้กำลังใจ“ท่านลุงหวง ท่านมิต้องกังวล ข้าจะเป็นผู้เอ่ยตอบสิ่งที่ฮ่องเต้ตรัสถามเองขอรับ”“ข้าเข้าใจแล้ว” ลุงหวงพยักหน้าราวกับไก่จิก ก่อนที่จะเดินตามกงกง ที่มาพาทั้งคู่เข้าไปหยุดอยู่ที่กลางท้องพระโรงท่ามกลางขุนนางนับร้อยที่มองมาที่พวกเขาเป็นตาเดียว“กระหม่อมซูเต๋อ ถวายบังคมพ่ะย่ะค่ะ”“กระหม่อมหวงกุ้ยถัง ถวายบังคมพ่ะย่ะค่ะ”ทั้งสองคุกเข่าลงต่อหน้าพระพักตร์ของฮ่องเต้ ตามที่ท่านใต้เท้าหานได้สอนมาก่อนหน้านี้แล้ว ด้านในมีท่านเจ้าเมืองอยู่กลางท้องพระโรงด้วยอีกคน“เจิ้นเรียกตัวพวกเจ้าทั้งสองเข้าวัง คงตกใจไม่น้อย” ฮ่องเต้เยี่ยนเฟยฉีตรัสอย่างเป็

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   หาคนช่วยงานมารดา

    ซูเจินอาสาไปที่เรือนของป้าหวง เพื่อขอให้เขาช่วยเรื่องนี้ และบอกข่าวดีเรื่องการตั้งครรภ์ของมารดาด้วย“เพ้ย จะหาคนไปไย ยายจะไปช่วยเอง”“ไม่ได้เจ้าค่ะ ข้าไม่อยากให้ท่านยายเหนื่อย” ซูเจินถูหน้าน้อยๆ กับแขนของป้าหวง ทำให้นางหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ“ได้ ได้ ยายไม่ไปทำแล้ว มีแม่หม้ายฉู่ นางอยู่กับบุตรชายวัยสิบสามหนาว ยายจะไปถามนางให้ว่าอยากทำงานที่เรือนของเจ้าหรือไม่”“ขอบคุณเจ้าค่ะ” หวงหลินอดจะส่ายหัวไม่ได้ เมื่อเห็นท่าทางเอาอกเอาใจท่านย่าของนางจากซูเจินน้อยทั้งสามออกจากเรือนตระกูลหวงไปที่เรือนของแม่หม้าย แม้จะมีความเป็นอยู่ที่ไม่ค่อยจะดี แต่สองแม่ลูกก็เนื้อตัวสะอาดสะอ้าน ลานเรือนก็เป็นระเบียบเรียบร้อย“อาฉู่ อาเม่ยนางตั้งครรภ์ในเรือนก็มีเพียงเจินเออร์ห้าหนาวเท่านั้น อยากจะหาคนไปช่วยทำงานเรือน เจ้าอยากจะทำหรือไม่”“อยากเจ้าค่ะ” นางฉู่เอ่ยออกมาอย่างยินดี นาง ทุกวันนี้สองแม่ลูกรับจ้างทำงานในไร่กับหาของป่าไปขายเพื่อประทังชีพเท่านั้น“เช่นนั้นพรุ่งนี้เจ้าก็ไปที่เรือนตระกูลซูได้เลย” ป้าหวงพูดคุยอีกไม่กี่ประโยคจึงจะขอตัวกลับเพื่อไปดูจิ่วเม่ยที่เรือน“พี่จิ้ง ท่านก็ไปด้วย ข้าจะจ้างท่านอีกคน” ซูเจิ

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   เรียกตัวเข้าเมืองหลวง

    เรื่องที่ชาวบ้านตงหยานแจกจ่ายข้าว และนำข้าวออกมาขายในราคาต่ำกว่าท้องตลาดถูกเลื่องลือออกไปหลายหัวเมือง จนถึงเมืองหลวง ทำให้ฮ่องเต้ยกย่องชาวบ้านหูหนานทั้งเจ้าเมืองที่จัดการเรื่องนี้อย่างดีแม้จะไม่ได้รับรางวัล เพราะเป็นช่วงที่ท้องพระคลังใช้เงินมากเพื่อเยียวยาชาวบ้านหลายหัวเมือง ถึงจะเป็นเพียงคำชมจากฮ่องเต้ก็นับว่าสร้างความปลาบปลื้มให้ทุกคนได้มากมายแล้วซูเจินให้หลันฮวาใช้พื้นที่ทั้งหมดในมิติ เพื่อปลูกข้าว นางต้องการที่จะกักตุนให้มากที่สุด เพราะไม่รู้ว่าในปีต่อไปผลกระทบจะร้ายแรงหรือไม่ใต้เท้าหานเมื่อเดินทางกลับถึงเมืองหลวงก็รีบนำแบบจำลองกังหันวิดน้ำขึ้นทูลถวายให้ฮ่องเต้ทอดพระเนตรทันที“ตระกูลซูที่หมู่บ้านหูหนาน เป็นเพียงชาวบ้านเช่นนั้นรึ” ฮ่องเต้อดจะแปลกพระทัยไม่ได้“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว ทั้งยังเห็นการทำงานของกังหันลมกับตาตนเอง น่าอัศจรรย์นักพ่ะย่ะค่ะ”“เช่นนั้นหรือ” ใต้เท้าหานทดลองให้ฮ่องเต้ทอดพระเนตรทันที ทั้งยังบอกว่ากังหันลมวิดน้ำที่หมู่บ้านตงหยานมีขนาดใหญ่กว่าแบบจำลองมากเพียงใด“ใต้เท้าหาน เจ้าเร่งจัดการเรื่องนี้เสีย หากผ่านพ้นภัยแล้งไปได้ เจิ้นจะตกรางวัลให้เจ้าก

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   แจกจ่ายข้าว

    เมื่อเห็นผักที่ปลูกอยู่ข้างเรือนของซูเต๋อก็ยิ่งแปลกใจ เพราะแทบไม่มีร่องรอยจากการถูกแมลงกัดกิน และยังอวบอิ่มราวกับได้น้ำอย่างมากมายซูเต๋อมิได้แสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ เขาจะบอกได้อย่างไรว่ามีพวกแมลงสหายของบุตรสาวคอยช่วยดูแลแปลงผักของเขา“นี่คือสิ่งใด” ใต้เท้าหานอดที่จะเอ่ยถามถึงโรงเก็บของขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นมาหลายหลังมิได้“ข้าน้อยกังวลเรื่องภัยแล้ง ตั้งแต่เมื่อห้าปีที่แล้วขอรับ จึงได้สร้างโรงเก็บข้าวเปลือกขึ้น โดยให้ชาวบ้านนำมาฝากเก็บไว้ เผื่อยามฉุกเฉินขอรับ” เป็นลุงหวงที่เอ่ยตอบเรื่องนี้ก็เป็นความคิดของซูเจิน ที่ให้สร้างโกดังทั้งยังใช้หลักการเดียวกับโรงรับฝากเงิน ข้าวที่ชาวบ้านนำมาฝาก ถูกเขียนสัญญาอย่างชัดเจน หากคิดจะขายทางซูเต๋อก็รับซื้อไว้ในราคาที่พวกเขาขาย หรือจะฝากไว้ยามฉุกเฉินก็จะเสียค่าฝากเพียงไม่กี่สิบอิแปะเท่านั้นน่าแปลกที่เก็บไว้ที่เรือนของตนย่อมถูกแมลงกัดกิน แต่เมื่อเทียบกับข้าวเปลือก ธัญพืชที่นำมาฝากที่โรงเก็บของส่วนกลางของหมู่บ้าน แทบจะไม่มีร่องรอยของแมลง นก หนู มาทำให้ข้าวของเสียหายเลยชาวบ้านจำนวนไม่น้อย เมื่อมีข้าวเปลือก ธัญพืชเหลือกินและเหลือจากขายแล้ว พวกเขาส่

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   เจ้าหน้าที่กรมโยธา

    พอเขานำไปใช้ที่สำนักศึกษา ท่านอาจารย์ก็อดที่จะสอบถามเรื่องนี้ไม่ได้“เอ่อ เจ้าว่าเป็นเด็กน้อยนางหนึ่งอย่างนั้นรึ” ท่านอาจารย์เฉียวเอ่ยถามอย่างประหลาดใจ“ขอรับ” หวงฉือในวัยสิบห้าหนาวเอ่ยตอบอย่างภูมิใจ เขาไม่อายผู้ใดหากจะบอกว่าความรู้ของเขากว่าครึ่งเป็นนางที่สอนเขาเพราะเขาฟังสิ่งที่อาจารย์ในสำนักศึกษาสั่งสอนไม่ค่อยเข้าใจ เมื่อนำไปให้ซูเจินนางสอน นางอธิบายให้เขาเข้าใจได้อย่างง่ายดาย“เช่นนั้นหรือ หากข้าต้องการจะพบนาง เจ้าช่วยจัดการให้ได้หรือไม่”“เรื่องนี้ศิษย์จะไปสอบถามนางให้ขอรับ” วันนั้นหวงฉือจึงต้องเดินทางกลับหมู่บ้าน เมื่อมาถึงคนตระกูลหวงต่างตกใจไม่น้อย เพราะไม่ใช่วันหยุดของเขา“เกิดเรื่องใดที่สำนักศึกษาหรือไม่” หวงไฉเอ่ยถามบุตรชายด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด“ไม่ขอรับ ท่านอาจารย์เพียงอยากพบเจินเออร์จึงให้ข้ามาสอบถามนาง”“เพราะอันใด เจ้าพูดเรื่องใดของนางออกไป” ลุงหวงเอ่ยถามเสียงดัง“ปะ เปล่าขอรับ” หวงฉือไม่เห็นท่าทีที่โกรธเกรี้ยวของท่านปู่เช่นนี้มาก่อน จึงอดที่จะตกใจไม่ได้เขาเล่าเรื่องที่เขานำการคำนวณที่ซูเจินสอนไปใช้ที่สำนักศึกษา ท่านอาจารย์เฉียวเห็นเข้าจึงได้เรียกตัวเขาไปสอบถาม“เช

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   ผักตระกูลซู

    ซูเจินนางไม่คิดจะปิดบังเรื่องมิติของนางกับบิดามารดาตั้งแต่แรก เมื่อคิดอยากจะเข้าหรือออก นางก็มักจะหายตัวเข้าไปต่อหน้าทั้งสองอยู่ตลอด ในช่วงแรกซูเต๋อและจิ่วเม่ยก็ตกใจไม่น้อย หลังๆ จึงได้เลิกกังวล เพราะรู้ว่านางเข้าไปไม่นานก็กลับออกมาเช่นเดิมซูเต๋อมาซูเจินเข้าไปในเมืองเพื่อซื้อตำราตามที่นางต้องการ ภายในร้านเขาปล่อยให้บุตรสาวเดินเลือกตามความสนใจของนาง เจ้าของร้านมองมาที่สองพ่อลูกอย่างสนใจ เพราะไม่เคยเห็นสตรีที่เข้ามาในร้านตำราและยังมีอายุเพียงสองหนาวเท่านั้นซูเจินนางพอจะเข้าใจตัวอักษรโบราณอยู่ไม่น้อยหลังจากที่ถามมาจากหวงฉือ เรื่องการเลือกซื้อตำราของนางจึงไม่ได้ขอความช่วยเหลือจากเจ้าของร้านคงจะมีเพียงแค่ขอให้ท่านพ่อช่วยหยิบเล่มที่นางเอื้อมไม่ถึงเท่านั้น“เจ้าจะซื้อทั้งหมดเลยรึ” ซูเต๋อมองกองตำราที่บุตรสาวเลือกซื้ออย่างตกใจในตอนแรกเขาคิดว่านางจะหาซื้อเพียงไม่กี่เล่ม ตอนนี้ด้านหน้าของเขามีหลายสิบเล่มเลยทีเดียว“จะได้ไม่ต้องหาซื้อบ่อยๆ เจ้าค่ะ ท่านพ่อซื้อกระดาษ พู่กัน หมึกให้ลูกด้วย”“ได้” ซูเต๋อต้องนำตำราไปให้เจ้าของร้านห่อให้ถึงสามรอบกว่าจะแล้วเสร็จ“เอ่อ นังหนูเจ้าจะอ่านเองรึ” เจ้าของร

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status