Share

พี่ชายเจ้ามิใช่รึ

Author: l3oonm@
last update Last Updated: 2025-03-26 01:05:02

นางรู้มาจากเสี่ยวเตี๋ยว่าม้าตัวเมียที่นอนอยู่ในคอกกำลังตั้งท้อง และม้าสองตัวยังเป็นม้าที่เกิดในทุ่งหญ้าแข็งแรงไม่น้อย คงเพราะถูกจับมาตอนที่แม่ม้ากำลังตั้งท้อง จึงทำให้พ่อม้าถูกจับมาด้วย

“นายท่าน ม้าสองตัวนี้พยศนัก ไม่มีผู้ใดเข้าใกล้ได้เลยขอรับ” เขาเอ่ยออกมาอย่างกังวลที่เห็นเด็กน้อยต้องการไปดูใกล้ๆ ด้วยกลัวว่านางจะเกิดอันตรายได้

แต่ซูเจินนางไม่ยอม ซูเต๋อจำต้องพานางเดินเข้าไปใกล้ เพราะรู้เรื่องความลับของบุตรสาวดี นายหน้าค้าสัตว์อยากจะเอ่ยห้าม แต่เมื่อเห็นบิดาของนางตามใจเช่นนี้ เขาจึงได้ถอยห่างออกมา เพื่อรอดูเรื่องสนุกแทน

ม้าทั้งสองตัว เมื่อเห็นซูเต๋ออุ้มซูเจินเดินเข้ามาทั้งสองก็ลุกขึ้นเดินมาหานางอย่างช้าๆ ทั้งยังยอมให้นางจับตัวอย่างว่าง่ายอีก

“คิก คิก” ซูเจินหัวเราะอย่างชอบใจ เมื่อม้าตัวเมียดันจมูกของมันกับแก้มของนาง

นายหน้าค้าสัตว์อ้าปากค้างมองภาพตรงหน้าอย่างตกใจ แต่นี่ยังไม่ใช่เรื่องประหลาดที่เขาพบเจอ เสียงสัตว์ที่อยู่ในความดูแลทั้งหมดของเขาส่งเสียงร้องออกมาด้วยความอิจฉา เมื่อเห็นม้าทั้งสองตัวได้คลอเคลียกับนายหญิงแห่งมิติพฤกษา

ซูเจินนางไม่รู้เลยว่าการที่นางซื้อม้าทั้งสองตัวและวัวอีกสองตัวกลับมาด้วยในครั้งนี้ จะทำให้มิติของนางเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น

ทูตน้อยที่อยู่ด้านในส่งเสียงร้องอย่างยินดี ที่ตอนนี้มิใช่มิติที่โล่งมีแต่ทุ่งหญ้าและดอกไม้ของนางเพียงดอกเดียวแล้ว แต่มีต้นไม้ดอกไม้งอกขึ้นมาอีกไม่น้อย

สุดท้ายซูเต๋อต้องจ่ายเงินไปมากถึงหกสิบตำลึงทอง สำหรับวัวสองตัวพร้อมเทียมเกวียน ม้าสองตัวพร้อมกับรถม้าคันใหญ่ที่ซูเจินปล้นมาได้จากนายหน้าค้าสัตว์โดยที่ไม่ต้องเพิ่มเงินเลย

นายหน้าค้าสัตว์ต้องให้ลูกน้องของเขาตามไปส่งเกวียนวัวที่หมู่บ้านในตอนหลัง เพราะม้าสองตัวยังไม่ยอมให้ผู้ใดเข้าใกล้นอกจากครอบครัวของซูเจิน

สองแม่ลูกจึงได้นั่งรถม้ากลับหมู่บ้านอย่างสุขสบายโดยมีซูเต๋อบังคับรถม้าด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม ก่อนจะกลับพวกเขาแวะซื้อซาลาเปาไว้กินระหว่างทาง ซูเต๋อยังได้เมล็ดพันธุ์ผักกลับมาด้วยอีกไม่น้อย เพราะซูเจินนางรู้จากทูตน้อยของนางว่าสามารถนำไปปลูกภายในมิติได้ นางจึงให้บิดาซื้อเยอะๆ

“อีก อีก” นางร้องบอกบิดา เพราะจำนวนที่ได้มายังไม่มากเท่าที่นางต้องการ

ซูเต๋อก็ล้วนแต่ตามใจบุตรสาว เพราะราคาเมล็ดผักก็ไม่ได้แพงมากมายนัก

“ม้าของท่านจะบรรทุกไหวหรือไม่” เจ้าของร้านเอ่ยถามอย่างกังวล แม้จะเห็นว่ารถม้ามีขนาดใหญ่ก็จริง แต่ม้าสองตัวก็ดูอ่อนแรงไม่น้อย

“ไม่เป็นอันใด ขนขึ้นไปเถิด” เมื่อเห็นสีหน้าที่เรียบเฉยของซูเต๋อเขาก็ให้คนงานขนกระสอบทั้งหมดนับสามสิบกระสอบขึ้นไปเรียงไว้บนรถม้า

ในตอนแรกเขามองตามไปอย่างเป็นห่วง แต่พอรถม้าเคลื่อนตัวออกไปจากร้านไม่นาน ม้าก็ดูเหมือนเดินอย่างสบายราวกับไม่ได้ขนสิ่งใดในรถม้า นอกจากคนทั้งสามที่นั่งอยู่

“ข้าคงจะกังวลไปเอง” เขาเกาหัวอย่างไม่เข้าใจ ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในร้านเช่นเดิม

รถม้าของซูเต๋อกำลังวิ่งออกจากประตูเมือง เสียงเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ไม่ห่างก็เอ่ยถามเด็กหนุ่มอีกคนที่อยู่ข้างกายเขาทันที

“อาฟง ผู้นั้นพี่ชายเจ้าไม่ใช่หรือ แล้วนั่นรถม้าของผู้ใด เรือนเจ้าซื้อรถม้าแล้วหรือ ไม่เห็นขับมาให้พวกข้าดู” ชุยฟงเขามองตามรถม้าของพี่ชายต่างมารดาไปด้วยสายตาที่ครุ่นคิด

เขาไม่ได้กลับหมู่บ้านมานาน เพราะเรื่องที่แมลง สัตว์เลื้อยคลาน ไม่รู้ว่ามาจากที่ใดมากมายจนเขานึกรังเกียจที่จะกลับไปนอนที่เรือน

เรื่องที่มารดาเขาไล่พี่สะใภ้ออกไปจากเรือน เขาย่อมรับรู้ ทั้งยังช่วยออกความคิดให้ท่านน้าของตนมารังแกสองแม่ลูกอีกด้วย

ในเมื่อพี่ชายเขากลับมาแล้ว ย่อมต้องรู้เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดไม่มากก็น้อย แต่ไม่รู้ว่าเขากลับมาจากกองทัพจะมีเงินมามากพอถึงขั้นซื้อรถม้าไว้ใช้เลยรึ

“ใช่พี่ชายต่างมารดาของข้า จะมีปัญญาที่ใดไปซื้อ คงเช่าขับกลับหมู่บ้าน เพื่อเย้ยมารดาข้ากระมัง” เขายกยิ้มที่มุมปากราวกับกำลังยิ้มเยาะพี่ชายของตนเอง

“แต่ที่รถม้า ไม่มีตราของร้านเช่า ไม่ใช่ว่าเป็นของเขาหรอกรึ” สหายของชุยฟงจึงเอ่ยถามอย่างสงสัย

“หึ ไว้ข้าจะกลับไปตรวจสอบเรื่องนี้ก่อน หากเป็นของเขาจริง ข้าจะให้มารดาข้ายึดมาเสีย” ทั้งสองยิ้มให้กันอย่างเจ้าเล่ห์

ไม่ว่าเรื่องอันใด หากชุยฟงต้องการ เขาเชื่อว่ามารดาของเขาจะหาทุกหนทางเพื่อช่วยเหลือเขา ยิ่งไปบังคับเอาสิ่งของมาจากพี่ชาย ยิ่งเป็นเรื่องง่ายดายนัก

ครอบครัวตระกูลซูทั้งสามคนไม่รู้เรื่องที่ชุยฟงพบเห็นพวกตนเข้าแล้ว ซูเต๋อยังบังคับรถม้าไปจนถึงหมู่บ้าน ซูเจินนางบอกให้หลันฮวาจัดการนำเมล็ดผักที่นางซื้อมาปลูกภายในมิติ โดยให้เหลือไว้อย่างละกระสอบ ท่านพ่อของนางจะนำไปปลูกที่ข้างเรือน

เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องยากของหลันฮวา เพียงแค่นางโบกมือไม่กี่ครั้งที่ดินที่เคยโล่งเตียนตรงหน้า ก็ปรากฏแปลงผักนับร้อย พร้อมให้นำเมล็ดผักลงไปปลูกแล้ว

เมื่อเมล็ดผักถูกนำไปปลูกจนครบทุกแปลง เหล่าแมลงหน่อยใหญ่ก็ถือกำเนิดขึ้นในมิติของนาง หลันฮวาบินไปรอบๆ อย่างชอบใจ นางจะได้มีสหายไว้ค่อยพูดคุยเสียที

ขากลับเมื่อมีรถม้าจึงใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วยามเท่านั้น ชาวบ้านที่พบเห็นรถม้าได้แต่ชะเง้อคอมองอย่างสนใจ ยิ่งเข้ามาใกล้แล้วพบว่าเป็นซูเต๋อบังคับก็ตะโกนถามกันจนฟังไม่รู้เรื่อง

“อาเต๋อ เจ้าซื้อรถม้าอย่างนั้นรึ” 

“ขอรับ”

“สวรรค์ เจ้ามีเงินมากเพียงใด ถึงได้ซื้อรถม้าเช่นนี้” ชาวบ้านหลายคนมองมาที่ซูเต๋ออย่างสงสัย

เพราะบุรุษจำนวนไม่น้อยที่เดินทางไปชายแดนพร้อมกับเขา ได้เงินกลับมาเพียงห้าตำลึงเงินเท่านั้น

“ข้าได้รางวัลมาจากท่านแม่ทัพ จึงพอจะเหลือเงินซื้อรถม้าขอรับ” เรื่องนี้เขาไม่คิดจะปิดบัง เพราะคนที่ไปร่วมรบกับเขาทุกคนต่างรู้เรื่องนี้ดี เพียงแต่ไม่รู้ว่าเขาได้รับสิ่งใดเป็นการตอบแทน

“เช่นนั้นรึ ดีแล้ว ดีแล้ว” ชาวบ้านต่างเปิดทางให้ซูเต๋อบังคับรถม้ากลับเรือน สายตาที่มองตามไปได้แต่อิจฉาในวาสนาของเขา

เมื่อถึงเรือน จิ่วเม่ยก็พาซูเจินนางเข้าไปไว้ในห้องโถง ส่วนตัวนางออกมาช่วยซูเต๋อยกของเข้าไปเก็บ เพราะกำแพงที่สูงพ้นสายตา ทำให้ชาวบ้านที่อยากรู้ว่าทั้งสามซื้อสิ่งใดกลับมาบ้างก็ได้แต่ชะเง้อคอแต่ไม่ได้สิ่งใดกลับไป

ลุงหวงกับป้าหวงเมื่อรู้เรื่องก็มาพบทั้งสามที่เรือน ด้วยอยากรู้ว่าสิ่งที่ชาวบ้านพูดเป็นจริงหรือไม่

“เพ้ย ชาวบ้านเอาแต่พูดเรื่องของพวกเจ้า บอกว่าขนของมาเสียม้าแทบเดินไม่ไหว ข้าก็หวงกลัวพวกเจ้าจะใช้จ่ายสิ้นเปลือง” ป้าหวงเอ่ยตำหนิอย่างเป็นห่วง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   ซื้อที่ภูเขา

    ซูเจินมองเห็นความหวังดีที่สื่อออกมาจากแววตาของคนทั้งคู่ นางดึงชายเสื้อของบิดา“ห้อง” “จะเข้าห้องอย่างนั้นหรือ” เขาเอ่ยถามบุตรสาวอย่างไม่เข้าใจ หรือนางจะอ่อนเพลียจากการเดินทาง จึงได้อุ้มนาง พร้อมทั้งขอตัวให้ภรรยาอยู่รับฟังเสียงบ่นจากป้าหวงต่อไป“มีอันใดรึ” ซูเต๋อเอ่ยถามอย่างรู้ทัน เมื่อพาซูเจินน้อยเข้ามาในห้องแล้วนางยิ้มให้บิดาอย่างชื่นชมก่อนจะบอกให้หลันฮวาส่งเห็ดหลินจอที่ดอกเล็กที่สุดออกมาให้นาง“นี่” ซูเจินยื่นเห็ดหลินจือไปให้บิดา“ให้” นางชี้มือน้อยๆ ออกไปที่ด้านนอกห้อง“เข้าใจแล้ว” ซูเต๋อลูบหัวบุตรสาว พร้อมทั้งจูบที่หน้าผากของนางอย่างรักใคร่“เจินเออร์ของพ่อ รู้จักกตัญญูแล้ว” เขากอดนางไว้แนบอก ก่อนที่จะพากันเดินออกจากห้องไปหาทั้งสามที่ห้องโถงอีกครั้ง“อ้าว เจินเอออร์ มิได้เข้าไปนอนหรอกรึ” จิ่วเม่ยเมื่อเห็นซูเต๋ออุ้มบุตรสาวออกมาอีกครั้งก็เอ่ยถามอย่างแปลกใจ“ไม่ นางให้ข้านำสิ่งนี้มาให้ท่านลุงหวงและท่านป้าหวง” ซูเต๋อวางเห็ดหลินจือลงบนโต๊ะต่อหน้าคนทั้งสาม“สวรรค์” ป้าหวงยกมือขึ้นปิดปาก“นี่ นี่” ลุงหวงตกตะลึงจนไม่อาจจะเอ่ยคำใดออกมาได้“เจินเออร์ นางให้พวกท่านขอรับ”“จะได้อย่างไร ของล

    Last Updated : 2025-03-26
  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   มากถึงเพียงนี้

    ในตอนแรกซูเต๋อคิดจะให้ลุงหวงยืมรถม้าของเขาไปจัดการเรื่องที่ดินในเมือง แต่พอรู้จากซูเจินว่าแม่ม้ากำลังตั้งท้องจึงไม่ได้เอ่ยปากให้ยืมไปจะให้ยืมเกวียนวัวที่เพิ่งนำมาส่งก็ไม่ค่อยจะถูกนัก เพราะเรือนของลุงหวงก็มีเกวียนวัวอยู่แล้วลุงหวงเมื่อออกจากเรือนตระกูลซูก็เดินทางเข้าเมืองทันที เขาแวะไปที่ว่าการเพื่อจัดการเรื่องโฉนดให้อาเต๋อก่อน เมื่อเจ้าหน้าที่เห็นว่าเป็นการขายที่ดินภูเขาก็ไม่คิดอันใด จัดการให้ลุงหวงทันที เพราะไม่ต้องเดินทางไปทำรังวัด แถมยังได้ค่านำชาจากท่านลุงหวงอีกสิบตำลึงเงินอีกด้วยลุงหวงเดินทางไปโรงหมอของหมอกู้ เพื่อนำเห็ดหลินจือไปขาย เมื่ออ้างชื่อของซูเต๋อตามที่เขาบอกไว้ ท่านหมอกู้ก็มอบเงินให้เขาถึงสองพันตำลึงทอง ลุงหวงเดินออกมาจากโรงหมอด้วยท่าทางที่ไร้สติหมอกู้ก็ถือว่าให้ราคาอย่างยุติธรรม เห็ดหลินจือที่ลุงหวงนำมามีขนาดเล็กกว่าของซูเต๋อมากนัก แต่ก็เป็นดอกที่สมบูรณ์เหมือนเพิ่งเก็บมาใหม่ เขาจึงไม่ได้สอบถามว่าเป็นของซูเต๋อหรือไม่ และมอบเงินให้ลุงหวงทันทียังดีที่หวงไฉเดินทางมากับบิดาด้วยไม่เช่นนั้นลุงหวงคงมิอาจบังคับเกวียนวัวเพื่อกลับเรือนได้“ท่านพ่อ ขายได้หรือไม่ ขอรับ” หวงไฉเด

    Last Updated : 2025-03-27
  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   ต้าซือชรา

    พอใกล้จะถึง ต้าซือก็เดินออกมารับทั้งสามคนด้วยตนเอง“ท่านมาแล้ว” เขามองมาที่ซูเจินน้อยด้วยแววตาที่เปล่งประกายอย่างยินดี“เอ่อ ท่านหมายถึงบุตรสาวข้าน้อยหรือขอรับ”“ใช่แล้ว” ต้าซือเดินนำทุกคนเข้าไปนั่งในศาลา“บุตรสาวของเจ้าต่อไปจะช่วยเหลือแคว้นต้าเยี่ยนไว้ได้จากเคราะห์ร้าย” ต้าซือมองซูเจิน“เอ่อ นางเป็นเพียงสตรี จะทำเรื่องอย่างที่ท่านว่าได้อย่างไร” ซูเต๋อขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ“อาตมาคิดว่าเรื่องนี้เจ้าคงรู้ดีอยู่แล้ว นางแตกต่างจากสตรีอื่น เมื่อนางเติบใหญ่ขึ้นเจ้าจะรับรู้ได้เอง”“นายหญิงแห่งพฤกษา ท่านคงรู้เรื่องที่อาตมาบอกกล่าว” ต้าซือยิ้มอย่างเมตตาให้ซูเจินยิ่งเห็นสหายที่อยู่บนไหล่ของซูเจิน ต้าซือก็พยักหน้าเหมือนจะทักทายพวกเขาเล็กน้อยซูเจินนางเบิกตากว้างที่ต้าซือที่ดูแสนจะธรรมดาตรงหน้าล่วงรู้ความลับของนาง“หึหึ แผ่นดินต้าเยี่ยนต้องฝากไว้ในมือของท่านแล้ว” เมื่อต้าซือกล่าวจบก็โบกมือให้เณรน้อยที่รออยู่นอกศาลาพาคนทั้งสามออกไป ซูเต๋อจำต้องกลับไปทั้งที่ไม่เข้าใจเรื่องที่ต้าซื่อชราพูดออกมาสักนิด“นายหญิงแห่งพฤกษา ท่านพี่ ที่ต้าซือหมายถึงคือเจินเออร์ของข้ารึ” จิ่วเม่ยเอ่ยถาม เมื่อทั้งสามลงมาจ

    Last Updated : 2025-03-27
  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   เจ้ายังเป็นบุตรชายของข้าหรือไม่

    ส่วนมากก็ยังเป็นชาวบ้านในหมู่บ้าน เพราะซูเต๋ออยากให้ชาวบ้านในหมู่บ้านมีรายได้เพิ่มมากขึ้น เรื่องนี้ทำให้ต้าหลางบิดาของเขาไม่พอใจอย่างมากที่ไม่ยอมให้แบบร่างนี้แก่เขา“อาเต๋อ เจ้ายังเป็นบุตรชายของข้าอยู่หรือไม่” เขามาหาซูเต๋อที่เรือน“หึ ข้าตกใจไม่น้อย เมื่อเห็นท่านยังมองข้าเป็นบุตรชายอยู่” ซูเต๋อมองบิดาของเขาอย่างเสียใจจิ่วเม่ยพาซูเจินออกไปเล่นด้านนอก เพราะไม่อยากอยู่ให้ต้าหลางรำคาญสายตา“แทนที่เจ้าจะนำแบบร่างจอบมามอบให้ข้าที่เป็นพ่อของเจ้า แต่กลับยกให้อาซวงเสียอย่างนั้น มิรู้หรือว่าอาฟงกำลังจะแต่งงาน ปีหน้าน้องสาวเจ้ายังต้องออกเรือนอีก” ต้าหลางตำหนิบุตรชายอย่างไม่ไว้หน้า“ข้าจำได้ว่าพวกท่านตัดชื่อของข้าออกจากตระกูลแล้ว เรื่องในเรือนของท่านคงไม่เกี่ยวกับข้ากระมัง” ซูเต๋อเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจเขาถูกละเลยมาตั้งแต่เด็กเขาพอทนได้ แต่สิ่งที่บิดากับมารดาเลี้ยงรังแกบุตรสาวกับภรรยาของเขามันเกินจะทนแล้ว“เพ้ย ถึงอย่างไรข้าก็ทำให้เจ้าเกิดมา” ต้าหลางลุกขึ้นชี้หน้าซูเต๋อ“เรื่องนี้ข้าสำนึกอยู่ตลอด สินเดิมที่ท่านแม่ทิ้งไว้ ข้าก็มิได้นำติดตัวมาสักเหรียญทองแดง ท่านยังต้องการอันใดจากข้าอีก”เรื่องนี้ทำให

    Last Updated : 2025-03-28
  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   ผักตระกูลซู

    ซูเจินนางไม่คิดจะปิดบังเรื่องมิติของนางกับบิดามารดาตั้งแต่แรก เมื่อคิดอยากจะเข้าหรือออก นางก็มักจะหายตัวเข้าไปต่อหน้าทั้งสองอยู่ตลอด ในช่วงแรกซูเต๋อและจิ่วเม่ยก็ตกใจไม่น้อย หลังๆ จึงได้เลิกกังวล เพราะรู้ว่านางเข้าไปไม่นานก็กลับออกมาเช่นเดิมซูเต๋อมาซูเจินเข้าไปในเมืองเพื่อซื้อตำราตามที่นางต้องการ ภายในร้านเขาปล่อยให้บุตรสาวเดินเลือกตามความสนใจของนาง เจ้าของร้านมองมาที่สองพ่อลูกอย่างสนใจ เพราะไม่เคยเห็นสตรีที่เข้ามาในร้านตำราและยังมีอายุเพียงสองหนาวเท่านั้นซูเจินนางพอจะเข้าใจตัวอักษรโบราณอยู่ไม่น้อยหลังจากที่ถามมาจากหวงฉือ เรื่องการเลือกซื้อตำราของนางจึงไม่ได้ขอความช่วยเหลือจากเจ้าของร้านคงจะมีเพียงแค่ขอให้ท่านพ่อช่วยหยิบเล่มที่นางเอื้อมไม่ถึงเท่านั้น“เจ้าจะซื้อทั้งหมดเลยรึ” ซูเต๋อมองกองตำราที่บุตรสาวเลือกซื้ออย่างตกใจในตอนแรกเขาคิดว่านางจะหาซื้อเพียงไม่กี่เล่ม ตอนนี้ด้านหน้าของเขามีหลายสิบเล่มเลยทีเดียว“จะได้ไม่ต้องหาซื้อบ่อยๆ เจ้าค่ะ ท่านพ่อซื้อกระดาษ พู่กัน หมึกให้ลูกด้วย”“ได้” ซูเต๋อต้องนำตำราไปให้เจ้าของร้านห่อให้ถึงสามรอบกว่าจะแล้วเสร็จ“เอ่อ นังหนูเจ้าจะอ่านเองรึ” เจ้าของร

    Last Updated : 2025-03-28
  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   เจ้าหน้าที่กรมโยธา

    พอเขานำไปใช้ที่สำนักศึกษา ท่านอาจารย์ก็อดที่จะสอบถามเรื่องนี้ไม่ได้“เอ่อ เจ้าว่าเป็นเด็กน้อยนางหนึ่งอย่างนั้นรึ” ท่านอาจารย์เฉียวเอ่ยถามอย่างประหลาดใจ“ขอรับ” หวงฉือในวัยสิบห้าหนาวเอ่ยตอบอย่างภูมิใจ เขาไม่อายผู้ใดหากจะบอกว่าความรู้ของเขากว่าครึ่งเป็นนางที่สอนเขาเพราะเขาฟังสิ่งที่อาจารย์ในสำนักศึกษาสั่งสอนไม่ค่อยเข้าใจ เมื่อนำไปให้ซูเจินนางสอน นางอธิบายให้เขาเข้าใจได้อย่างง่ายดาย“เช่นนั้นหรือ หากข้าต้องการจะพบนาง เจ้าช่วยจัดการให้ได้หรือไม่”“เรื่องนี้ศิษย์จะไปสอบถามนางให้ขอรับ” วันนั้นหวงฉือจึงต้องเดินทางกลับหมู่บ้าน เมื่อมาถึงคนตระกูลหวงต่างตกใจไม่น้อย เพราะไม่ใช่วันหยุดของเขา“เกิดเรื่องใดที่สำนักศึกษาหรือไม่” หวงไฉเอ่ยถามบุตรชายด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด“ไม่ขอรับ ท่านอาจารย์เพียงอยากพบเจินเออร์จึงให้ข้ามาสอบถามนาง”“เพราะอันใด เจ้าพูดเรื่องใดของนางออกไป” ลุงหวงเอ่ยถามเสียงดัง“ปะ เปล่าขอรับ” หวงฉือไม่เห็นท่าทีที่โกรธเกรี้ยวของท่านปู่เช่นนี้มาก่อน จึงอดที่จะตกใจไม่ได้เขาเล่าเรื่องที่เขานำการคำนวณที่ซูเจินสอนไปใช้ที่สำนักศึกษา ท่านอาจารย์เฉียวเห็นเข้าจึงได้เรียกตัวเขาไปสอบถาม“เช

    Last Updated : 2025-03-29
  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   แจกจ่ายข้าว

    เมื่อเห็นผักที่ปลูกอยู่ข้างเรือนของซูเต๋อก็ยิ่งแปลกใจ เพราะแทบไม่มีร่องรอยจากการถูกแมลงกัดกิน และยังอวบอิ่มราวกับได้น้ำอย่างมากมายซูเต๋อมิได้แสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ เขาจะบอกได้อย่างไรว่ามีพวกแมลงสหายของบุตรสาวคอยช่วยดูแลแปลงผักของเขา“นี่คือสิ่งใด” ใต้เท้าหานอดที่จะเอ่ยถามถึงโรงเก็บของขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นมาหลายหลังมิได้“ข้าน้อยกังวลเรื่องภัยแล้ง ตั้งแต่เมื่อห้าปีที่แล้วขอรับ จึงได้สร้างโรงเก็บข้าวเปลือกขึ้น โดยให้ชาวบ้านนำมาฝากเก็บไว้ เผื่อยามฉุกเฉินขอรับ” เป็นลุงหวงที่เอ่ยตอบเรื่องนี้ก็เป็นความคิดของซูเจิน ที่ให้สร้างโกดังทั้งยังใช้หลักการเดียวกับโรงรับฝากเงิน ข้าวที่ชาวบ้านนำมาฝาก ถูกเขียนสัญญาอย่างชัดเจน หากคิดจะขายทางซูเต๋อก็รับซื้อไว้ในราคาที่พวกเขาขาย หรือจะฝากไว้ยามฉุกเฉินก็จะเสียค่าฝากเพียงไม่กี่สิบอิแปะเท่านั้นน่าแปลกที่เก็บไว้ที่เรือนของตนย่อมถูกแมลงกัดกิน แต่เมื่อเทียบกับข้าวเปลือก ธัญพืชที่นำมาฝากที่โรงเก็บของส่วนกลางของหมู่บ้าน แทบจะไม่มีร่องรอยของแมลง นก หนู มาทำให้ข้าวของเสียหายเลยชาวบ้านจำนวนไม่น้อย เมื่อมีข้าวเปลือก ธัญพืชเหลือกินและเหลือจากขายแล้ว พวกเขาส่

    Last Updated : 2025-03-29
  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   เรียกตัวเข้าเมืองหลวง

    เรื่องที่ชาวบ้านตงหยานแจกจ่ายข้าว และนำข้าวออกมาขายในราคาต่ำกว่าท้องตลาดถูกเลื่องลือออกไปหลายหัวเมือง จนถึงเมืองหลวง ทำให้ฮ่องเต้ยกย่องชาวบ้านหูหนานทั้งเจ้าเมืองที่จัดการเรื่องนี้อย่างดีแม้จะไม่ได้รับรางวัล เพราะเป็นช่วงที่ท้องพระคลังใช้เงินมากเพื่อเยียวยาชาวบ้านหลายหัวเมือง ถึงจะเป็นเพียงคำชมจากฮ่องเต้ก็นับว่าสร้างความปลาบปลื้มให้ทุกคนได้มากมายแล้วซูเจินให้หลันฮวาใช้พื้นที่ทั้งหมดในมิติ เพื่อปลูกข้าว นางต้องการที่จะกักตุนให้มากที่สุด เพราะไม่รู้ว่าในปีต่อไปผลกระทบจะร้ายแรงหรือไม่ใต้เท้าหานเมื่อเดินทางกลับถึงเมืองหลวงก็รีบนำแบบจำลองกังหันวิดน้ำขึ้นทูลถวายให้ฮ่องเต้ทอดพระเนตรทันที“ตระกูลซูที่หมู่บ้านหูหนาน เป็นเพียงชาวบ้านเช่นนั้นรึ” ฮ่องเต้อดจะแปลกพระทัยไม่ได้“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว ทั้งยังเห็นการทำงานของกังหันลมกับตาตนเอง น่าอัศจรรย์นักพ่ะย่ะค่ะ”“เช่นนั้นหรือ” ใต้เท้าหานทดลองให้ฮ่องเต้ทอดพระเนตรทันที ทั้งยังบอกว่ากังหันลมวิดน้ำที่หมู่บ้านตงหยานมีขนาดใหญ่กว่าแบบจำลองมากเพียงใด“ใต้เท้าหาน เจ้าเร่งจัดการเรื่องนี้เสีย หากผ่านพ้นภัยแล้งไปได้ เจิ้นจะตกรางวัลให้เจ้าก

    Last Updated : 2025-03-30

Latest chapter

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   ขุดหาตาน้ำ

    ฟ้ายังไม่ทันสว่างดี ซูเต๋อและหวงไฉก็พาชาวบ้านจำนวนหนึ่งไปที่หมู่บ้านหูต้า เมื่อมาถึงที่ทางเข้าหมู่บ้านก็พบว่าท่านเจ้าเมืองมารอพวกเขาอยู่แล้ว“อาเต๋อเจ้ามาแล้ว” ท่านเจ้าเมืองเดินเข้ามารับซูเต๋อที่รถม้าอย่างยินดี“คารวะท่านเจ้าเมืองขอรับ” ซูเต๋อยังคงนอบน้อมเช่นเดิม“เพ้ย ไปไป เข้าไปในหมู่บ้านกันเถิด ข้าอยากจะเห็นแล้วว่าเจ้าหาตาน้ำเช่นไร” ซูเต๋อเดินตามท่านเจ้าเมืองเข้าไปในหมู่บ้าน เขาไม่ได้รีบไปที่ตาน้ำตามที่ซูเจินนางบอก เสี่ยวอี่ยังติดตามเขามาด้วย เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดขึ้นหัวหน้าหมู่บ้านลองทำตามวิธีของซูเต๋อก่อนที่เขาจะมาแล้วรอบหนึ่ง แต่ก็ไม่เห็นว่าจะมีไอน้ำขึ้นมาจากดินเช่นที่ดินของซูเต๋อเลยสักนิด“ข้าสำรวจแล้วหนึ่งรอบ แต่ไม่พบไอน้ำอย่างที่เจ้าว่า” เขาเอ่ยออกมาอย่างกังวลหากที่หมู่บ้านหูต้าไม่มีตาน้ำ ก็คงต้องรบกวนหมู่บ้านตงหยานต่อไป“เรื่องนี้ท่านอย่าเพิ่งกังวล ตอนที่ท่านสำรวจฟ้าคงยังมืดอยู่จึงไม่อาจเห็นได้ชัด” ซูเต๋อก็ไม่รู้เช่นกันว่าสิ่งที่เขาพูดจะถูกต้องหรือไม่ แต่ก็ไม่อยากให้หัวหน้าหมู่บ้านกังวลใจพอฟ้าใกล้สาง ซูเต๋อก็เดินนำไปตามเส้นทางที่สอบถามซูเจินมาก่อนหน้านี้แล้วทันที เส

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   ต้องหาแหล่งน้ำเพิ่ม

    ห้าเดือนต่อมาจิ่วเม่ยก็คลอดบุตรชายอวบอ้วนออกมาให้ซูเต๋อได้เชยชม ซูเจินนางยังเฝ้าน้องชายของนางอยู่ไม่ห่างข่าวของหวงจือที่อยู่ในเมืองหลวงก็ถูกส่งกลับมาที่หมู่บ้าน เขาสอบซิ่วไฉผ่านในวัยเพียงสิบเจ็ดหนาว และปีหน้าจะสอบจวี่เหรินอีกด้วยคนตระกูลหวงจึงคิดจะเดินทางเข้าเมืองหลวง เพื่อไปดูความเป็นอยู่ของเขา“เจินเออร์ เจ้าอยากไปกับยายหรือไม่” ป้าหวงเอ่ยถามซูเจิน“ไม่เจ้าค่ะ ข้าจะอยู่ดูน้องชาย” นางไม่รู้ว่าจะไปทำอันใดที่เมืองหลวง อยากจะรอให้น้องชายโตเสียก่อนค่อยคิดจะเดินทางไปเที่ยวเมื่อเห็นว่าเป็นเช่นนั้น ป้าหวงจึงไม่คิดจะบังคับนางต่อ นางกลับเรือนของตนเพื่อไปจัดการเก็บข้าวของ ทั้งยังบอกจะซื้อของมาฝากซูเจินอีกด้วยลุงหวงมิได้ทำหน้าที่ผู้นำหมู่บ้านแล้ว เป็นหวงไฉที่ทำหน้าที่แทนเขา หวงไฉจึงไม่ได้ออกเดินทางไปด้วย เพราะเป็นห่วงทางหมู่บ้านที่ปีนี้ดูจะแล้งกว่าปีที่แล้วมากนักซูเจินเอ่ยถามเรื่องตาน้ำกับสหายทั้งสามของนาง ถึงแม้ในหมู่บ้านตงหยานจะไม่ได้รับผลกระทบ แต่หมู่บ้านหูต้าที่อยู่ติดกันได้รับผลกระทบไม่น้อยผู้นำหมู่บ้านหูต้าต้องเดินทางมาคุยกับหวงไฉ เพื่อขอให้ชาวบ้านเดินทางมาตักน้ำที่ยังมีอีกมากในหมู่

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   ส่งฉู่จิ้งไปเรียน

    สิบห้าวันให้หลังขบวนรถม้าที่ยาวถึงหกคันรถก็เดินทางมาถึงหมู่บ้านตงหยาน ชาวบ้านต่างออกมาต้อนรับพวกเขาอย่างยินดีซูเจินก็ถูกจิ่วเม่ยจูงมือมารอรับท่านพ่อของนางที่หน้าหมู่บ้านด้วย“ตาเฒ่ามาแล้ว” ป้าหวงร้องลั่นอย่างยินดี“เพ้ย ยายแก่ ข้าได้ยินเสียงของเจ้ามาแต่ไกล” ลุงหวงอดจะหยอกเมียของเขาไม่ได้เมื่อซูเต๋อเดินลงมาจากรถม้าก็รีบเดินเข้ามาอุ้มซูเจินน้อยไปกอดทันที“เพราะเจ้า พ่อถึงมีวาสนาเช่นนี้” ซูเต๋อหอมแก้มบุตรสาวฟอดใหญ่“มีเรื่องดีอันใดเจ้าคะ” จิ่วเม่ยอดที่จะเอ่ยถามไม่ได้“ข้ากับอาเต๋อ ได้รับพระราชทานตำแหน่งขุนนางขั้นแปด” ลุงหวงเป็นผู้ที่ไขข้อสงสัย เขายืดอกขึ้นอย่างภูมิใจเสียงฮือฮาจากชาวบ้านดังไม่ขาดสาย พวกเขาต่างเข้ามาแสดงความยินดี แม้ไม่เข้าใจว่าขุนนางขั้นแปดคืออันใด แต่ก็พอจะรู้ว่าการเป็นขุนนางนั่นมีอำนาจอยู่ไม่น้อย“อาจือเล่า เขาอยู่ที่ใด” ป้าหวงเมื่อยินดีกับตำแหน่งใหม่ของสามีแล้วก็อดจะมองหาหลานชายไม่ได้“อาจืออยู่ที่เมืองหลวงต่อ ใต้เท้าหานจัดการเรื่องเรียนของเขาให้เรียบร้อยแล้ว ที่อยู่ของเขาข้ากับอาเต๋อก็ซื้อเรือนและบ่าวให้เขาแล้ว เจ้าอย่าได้กังวลใจ” เพราะหลานชายก็อายุสิบหกหนาวแล้ว เข

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   ขุนนางขั้นแปด

    ซูเต๋อและลุงหวงจำต้องยืนรออยู่ที่หน้าท้องพระโรงเพราะยังไม่มีคำสั่งเรียกตัวให้เข้าเฝ้า เหงื่อของทั้งคู่ซึมออกมาตามแผ่นหลังอย่างกระวนกระวายใจ เพราะไม่รู้ว่าจะถูกสอบถามด้วยเรื่องอันใดแม้จะพอรู้ว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับกังหันลมที่เขาได้ส่งแบบร่างให้กับใต้เท้าหาน แต่ถึงอย่างไรพวกเขาก็กังวลใจอยู่ไม่น้อย“ซูเต๋อ หวงกุ้ยถัง ฝ่าบาทเรียกตัวให้เข้าเฝ้า” กงกงร้องเรียกทั้งสองที่หน้าท้องพระโรงซูเต๋อหันไปมองลุงหวงที่ตัวเริ่มจะสั่นอย่างเห็นได้ชัด จนเขาต้องบีบที่ไหล่เพื่อให้กำลังใจ“ท่านลุงหวง ท่านมิต้องกังวล ข้าจะเป็นผู้เอ่ยตอบสิ่งที่ฮ่องเต้ตรัสถามเองขอรับ”“ข้าเข้าใจแล้ว” ลุงหวงพยักหน้าราวกับไก่จิก ก่อนที่จะเดินตามกงกง ที่มาพาทั้งคู่เข้าไปหยุดอยู่ที่กลางท้องพระโรงท่ามกลางขุนนางนับร้อยที่มองมาที่พวกเขาเป็นตาเดียว“กระหม่อมซูเต๋อ ถวายบังคมพ่ะย่ะค่ะ”“กระหม่อมหวงกุ้ยถัง ถวายบังคมพ่ะย่ะค่ะ”ทั้งสองคุกเข่าลงต่อหน้าพระพักตร์ของฮ่องเต้ ตามที่ท่านใต้เท้าหานได้สอนมาก่อนหน้านี้แล้ว ด้านในมีท่านเจ้าเมืองอยู่กลางท้องพระโรงด้วยอีกคน“เจิ้นเรียกตัวพวกเจ้าทั้งสองเข้าวัง คงตกใจไม่น้อย” ฮ่องเต้เยี่ยนเฟยฉีตรัสอย่างเป็

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   หาคนช่วยงานมารดา

    ซูเจินอาสาไปที่เรือนของป้าหวง เพื่อขอให้เขาช่วยเรื่องนี้ และบอกข่าวดีเรื่องการตั้งครรภ์ของมารดาด้วย“เพ้ย จะหาคนไปไย ยายจะไปช่วยเอง”“ไม่ได้เจ้าค่ะ ข้าไม่อยากให้ท่านยายเหนื่อย” ซูเจินถูหน้าน้อยๆ กับแขนของป้าหวง ทำให้นางหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ“ได้ ได้ ยายไม่ไปทำแล้ว มีแม่หม้ายฉู่ นางอยู่กับบุตรชายวัยสิบสามหนาว ยายจะไปถามนางให้ว่าอยากทำงานที่เรือนของเจ้าหรือไม่”“ขอบคุณเจ้าค่ะ” หวงหลินอดจะส่ายหัวไม่ได้ เมื่อเห็นท่าทางเอาอกเอาใจท่านย่าของนางจากซูเจินน้อยทั้งสามออกจากเรือนตระกูลหวงไปที่เรือนของแม่หม้าย แม้จะมีความเป็นอยู่ที่ไม่ค่อยจะดี แต่สองแม่ลูกก็เนื้อตัวสะอาดสะอ้าน ลานเรือนก็เป็นระเบียบเรียบร้อย“อาฉู่ อาเม่ยนางตั้งครรภ์ในเรือนก็มีเพียงเจินเออร์ห้าหนาวเท่านั้น อยากจะหาคนไปช่วยทำงานเรือน เจ้าอยากจะทำหรือไม่”“อยากเจ้าค่ะ” นางฉู่เอ่ยออกมาอย่างยินดี นาง ทุกวันนี้สองแม่ลูกรับจ้างทำงานในไร่กับหาของป่าไปขายเพื่อประทังชีพเท่านั้น“เช่นนั้นพรุ่งนี้เจ้าก็ไปที่เรือนตระกูลซูได้เลย” ป้าหวงพูดคุยอีกไม่กี่ประโยคจึงจะขอตัวกลับเพื่อไปดูจิ่วเม่ยที่เรือน“พี่จิ้ง ท่านก็ไปด้วย ข้าจะจ้างท่านอีกคน” ซูเจิ

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   เรียกตัวเข้าเมืองหลวง

    เรื่องที่ชาวบ้านตงหยานแจกจ่ายข้าว และนำข้าวออกมาขายในราคาต่ำกว่าท้องตลาดถูกเลื่องลือออกไปหลายหัวเมือง จนถึงเมืองหลวง ทำให้ฮ่องเต้ยกย่องชาวบ้านหูหนานทั้งเจ้าเมืองที่จัดการเรื่องนี้อย่างดีแม้จะไม่ได้รับรางวัล เพราะเป็นช่วงที่ท้องพระคลังใช้เงินมากเพื่อเยียวยาชาวบ้านหลายหัวเมือง ถึงจะเป็นเพียงคำชมจากฮ่องเต้ก็นับว่าสร้างความปลาบปลื้มให้ทุกคนได้มากมายแล้วซูเจินให้หลันฮวาใช้พื้นที่ทั้งหมดในมิติ เพื่อปลูกข้าว นางต้องการที่จะกักตุนให้มากที่สุด เพราะไม่รู้ว่าในปีต่อไปผลกระทบจะร้ายแรงหรือไม่ใต้เท้าหานเมื่อเดินทางกลับถึงเมืองหลวงก็รีบนำแบบจำลองกังหันวิดน้ำขึ้นทูลถวายให้ฮ่องเต้ทอดพระเนตรทันที“ตระกูลซูที่หมู่บ้านหูหนาน เป็นเพียงชาวบ้านเช่นนั้นรึ” ฮ่องเต้อดจะแปลกพระทัยไม่ได้“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว ทั้งยังเห็นการทำงานของกังหันลมกับตาตนเอง น่าอัศจรรย์นักพ่ะย่ะค่ะ”“เช่นนั้นหรือ” ใต้เท้าหานทดลองให้ฮ่องเต้ทอดพระเนตรทันที ทั้งยังบอกว่ากังหันลมวิดน้ำที่หมู่บ้านตงหยานมีขนาดใหญ่กว่าแบบจำลองมากเพียงใด“ใต้เท้าหาน เจ้าเร่งจัดการเรื่องนี้เสีย หากผ่านพ้นภัยแล้งไปได้ เจิ้นจะตกรางวัลให้เจ้าก

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   แจกจ่ายข้าว

    เมื่อเห็นผักที่ปลูกอยู่ข้างเรือนของซูเต๋อก็ยิ่งแปลกใจ เพราะแทบไม่มีร่องรอยจากการถูกแมลงกัดกิน และยังอวบอิ่มราวกับได้น้ำอย่างมากมายซูเต๋อมิได้แสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ เขาจะบอกได้อย่างไรว่ามีพวกแมลงสหายของบุตรสาวคอยช่วยดูแลแปลงผักของเขา“นี่คือสิ่งใด” ใต้เท้าหานอดที่จะเอ่ยถามถึงโรงเก็บของขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นมาหลายหลังมิได้“ข้าน้อยกังวลเรื่องภัยแล้ง ตั้งแต่เมื่อห้าปีที่แล้วขอรับ จึงได้สร้างโรงเก็บข้าวเปลือกขึ้น โดยให้ชาวบ้านนำมาฝากเก็บไว้ เผื่อยามฉุกเฉินขอรับ” เป็นลุงหวงที่เอ่ยตอบเรื่องนี้ก็เป็นความคิดของซูเจิน ที่ให้สร้างโกดังทั้งยังใช้หลักการเดียวกับโรงรับฝากเงิน ข้าวที่ชาวบ้านนำมาฝาก ถูกเขียนสัญญาอย่างชัดเจน หากคิดจะขายทางซูเต๋อก็รับซื้อไว้ในราคาที่พวกเขาขาย หรือจะฝากไว้ยามฉุกเฉินก็จะเสียค่าฝากเพียงไม่กี่สิบอิแปะเท่านั้นน่าแปลกที่เก็บไว้ที่เรือนของตนย่อมถูกแมลงกัดกิน แต่เมื่อเทียบกับข้าวเปลือก ธัญพืชที่นำมาฝากที่โรงเก็บของส่วนกลางของหมู่บ้าน แทบจะไม่มีร่องรอยของแมลง นก หนู มาทำให้ข้าวของเสียหายเลยชาวบ้านจำนวนไม่น้อย เมื่อมีข้าวเปลือก ธัญพืชเหลือกินและเหลือจากขายแล้ว พวกเขาส่

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   เจ้าหน้าที่กรมโยธา

    พอเขานำไปใช้ที่สำนักศึกษา ท่านอาจารย์ก็อดที่จะสอบถามเรื่องนี้ไม่ได้“เอ่อ เจ้าว่าเป็นเด็กน้อยนางหนึ่งอย่างนั้นรึ” ท่านอาจารย์เฉียวเอ่ยถามอย่างประหลาดใจ“ขอรับ” หวงฉือในวัยสิบห้าหนาวเอ่ยตอบอย่างภูมิใจ เขาไม่อายผู้ใดหากจะบอกว่าความรู้ของเขากว่าครึ่งเป็นนางที่สอนเขาเพราะเขาฟังสิ่งที่อาจารย์ในสำนักศึกษาสั่งสอนไม่ค่อยเข้าใจ เมื่อนำไปให้ซูเจินนางสอน นางอธิบายให้เขาเข้าใจได้อย่างง่ายดาย“เช่นนั้นหรือ หากข้าต้องการจะพบนาง เจ้าช่วยจัดการให้ได้หรือไม่”“เรื่องนี้ศิษย์จะไปสอบถามนางให้ขอรับ” วันนั้นหวงฉือจึงต้องเดินทางกลับหมู่บ้าน เมื่อมาถึงคนตระกูลหวงต่างตกใจไม่น้อย เพราะไม่ใช่วันหยุดของเขา“เกิดเรื่องใดที่สำนักศึกษาหรือไม่” หวงไฉเอ่ยถามบุตรชายด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด“ไม่ขอรับ ท่านอาจารย์เพียงอยากพบเจินเออร์จึงให้ข้ามาสอบถามนาง”“เพราะอันใด เจ้าพูดเรื่องใดของนางออกไป” ลุงหวงเอ่ยถามเสียงดัง“ปะ เปล่าขอรับ” หวงฉือไม่เห็นท่าทีที่โกรธเกรี้ยวของท่านปู่เช่นนี้มาก่อน จึงอดที่จะตกใจไม่ได้เขาเล่าเรื่องที่เขานำการคำนวณที่ซูเจินสอนไปใช้ที่สำนักศึกษา ท่านอาจารย์เฉียวเห็นเข้าจึงได้เรียกตัวเขาไปสอบถาม“เช

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   ผักตระกูลซู

    ซูเจินนางไม่คิดจะปิดบังเรื่องมิติของนางกับบิดามารดาตั้งแต่แรก เมื่อคิดอยากจะเข้าหรือออก นางก็มักจะหายตัวเข้าไปต่อหน้าทั้งสองอยู่ตลอด ในช่วงแรกซูเต๋อและจิ่วเม่ยก็ตกใจไม่น้อย หลังๆ จึงได้เลิกกังวล เพราะรู้ว่านางเข้าไปไม่นานก็กลับออกมาเช่นเดิมซูเต๋อมาซูเจินเข้าไปในเมืองเพื่อซื้อตำราตามที่นางต้องการ ภายในร้านเขาปล่อยให้บุตรสาวเดินเลือกตามความสนใจของนาง เจ้าของร้านมองมาที่สองพ่อลูกอย่างสนใจ เพราะไม่เคยเห็นสตรีที่เข้ามาในร้านตำราและยังมีอายุเพียงสองหนาวเท่านั้นซูเจินนางพอจะเข้าใจตัวอักษรโบราณอยู่ไม่น้อยหลังจากที่ถามมาจากหวงฉือ เรื่องการเลือกซื้อตำราของนางจึงไม่ได้ขอความช่วยเหลือจากเจ้าของร้านคงจะมีเพียงแค่ขอให้ท่านพ่อช่วยหยิบเล่มที่นางเอื้อมไม่ถึงเท่านั้น“เจ้าจะซื้อทั้งหมดเลยรึ” ซูเต๋อมองกองตำราที่บุตรสาวเลือกซื้ออย่างตกใจในตอนแรกเขาคิดว่านางจะหาซื้อเพียงไม่กี่เล่ม ตอนนี้ด้านหน้าของเขามีหลายสิบเล่มเลยทีเดียว“จะได้ไม่ต้องหาซื้อบ่อยๆ เจ้าค่ะ ท่านพ่อซื้อกระดาษ พู่กัน หมึกให้ลูกด้วย”“ได้” ซูเต๋อต้องนำตำราไปให้เจ้าของร้านห่อให้ถึงสามรอบกว่าจะแล้วเสร็จ“เอ่อ นังหนูเจ้าจะอ่านเองรึ” เจ้าของร

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status