Home / รักโบราณ / ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา / เข้าใกล้นางมีแต่เรื่องเจ็บตัว

Share

เข้าใกล้นางมีแต่เรื่องเจ็บตัว

Author: l3oonm@
last update Huling Na-update: 2025-04-15 00:28:29

เยี่ยนเฟยหยางเห็นเหยี่ยวแดงตัวงามบินออกมาจากเรือนของซูเจินเข้าพอดี เขามองตามไปอย่างสนใจ ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้เรือนของนาง เพื่อดูว่าเหยี่ยวเพียงแค่บินผ่านหรือเป็นของนางกันแน่

“โอ๊ยยย” เยี่ยนเฟยหยางกุมแก้มไว้แน่น เขากำลังจะเข้าไปในเรือนของซูเจินก็รู้สึกเจ็บปวดที่แก้มขึ้นมาทันที

ซูเจินที่ได้ยินเสียงร้อง ทั้งยังรู้มาจากเสี่ยวมี่ด้วยว่ามีเยี่ยนเฟยหยางจะลอบเข้ามา นางจึงได้เดินออกมาดู ก็เห็นเยี่ยนเฟยหยางกุมแก้ม ใบหน้าแดงก่ำมองมาทางนางอย่างโกรธแค้น

“เพ้ย เปิ่นหวางเข้าใกล้เจ้าครั้งใด เป็นต้องพบเคราะห์ร้ายไปเสียทุกครั้ง” แก้มของเขาเริ่มจะปูดบวมอย่างเห็นได้ชัด

“แล้วผู้ใดให้พระองค์เข้ามากันเล่า” ซูเจินเกือบจะหลุดหัวเราะออกมา

นางเดินเข้ามาดูว่าเขาได้รับบาดเจ็บมากเพียงใด และกลัวว่าเขาจะแพ้พิษผึ้งจนถึงแก่ชีวิตได้

“เจ้าจะทำอันใด” เยี่ยนเฟยหยางถอยหนีไปสองก้าว

“หม่อมฉันเพียงจะดูให้ว่าพระองค์เป็นเช่นใดบ้าง หากไม่ต้องการเช่นนั้นหม่อมฉันขอตัวเพคะ” ซูเจินส่ายหัวอย่างเหนื่อยใจ ที่นางต้องพบเจอเด็กดื้อรั้นเช่นเยี่ยนเฟยหยาง

“ยังไปมิได้ เจ้าทำให้เปิ่นหวางบาดเจ็บ รีบมาดูให้เปิ่นหวางประเดี๋ยวนี้” เยี่ยนเฟยหยางเอ่ย
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Kaugnay na kabanata

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   เร่งช่วยเหลือชาวบ้าน

    ไม่รู้ว่าเขาจะไปโยนทิ้งที่ไหนหรือไม่ นางคงต้องบอกให้เสี่ยวอี่ไปแจ้งพวกมด แมลงในจวนคอยจับตาดูเสียแล้ว หากเขาโยนทิ้งนางจะได้ไปเก็บกลับมาแต่ผิดคาดเยี่ยนเฟยหยางมิได้โยนทิ้ง เขาเก็บรักษาไว้อย่างดี เมื่อเขากลับมาถึงเรือนพัก จึงได้รู้ว่าผ้าเช็ดหน้าของนางช่างแตกต่างจากผ้าที่เขาเคยพบเห็นแม้มันจะห่อหุ้มหิมะไว้ แต่ก็มีเพียงความเย็นเท่านั้นที่ถูกส่งออกมา หาได้มีน้ำออกมาจนเปียกมือไม่ อีกทั้งตอนนี้ใบหน้าของเขาก็ยุบลงจนกลับมาเป็นเช่นเดิม แม้แต่รอยที่ถูกผึ้งต่อยก็ไม่หลงเหลือให้เห็นอีกแล้วเยี่ยนเฟยหยางได้แต่เก็บเรื่องนี้ไว้ในใจ เขายังไม่คิดที่จะเอ่ยถามนาง คงได้แต่จับตาดูนางไปก่อน เพราะนางคงต้องอยู่ที่โจวเป่ยอีกหลายเดือนทางด้านใต้เท้าหานกับซูเต๋อ ที่ได้แม่ทัพจ้าวช่วยนำทหารในค่ายมาใช้แรงงานมากมายก็สร้างกำแพงไฟขึ้นมาในเรือนหลังหนึ่งภายในจวน โดยใช้เวลาเพียงห้าวันเท่านั้นเมื่อตรวจดูความแข็งแรงตามคำเตือนของซูเจินแล้ว ก็สั่งให้ทหารจุดไฟในช่องเตาขึ้นทันที พอควันไฟที่ออกมาไหลไปตามท่อไม้ไผ่ที่ทำขึ้นส่งไปยังห้องต่างๆ ภายในเรือน ก็พบว่าภายในเรือนและห้องนอนอุ่นขึ้น โดยไม่ต้องจุดเตาไฟในห้องเลย“อุ่นขึ้นจริงด้ว

    Huling Na-update : 2025-04-15
  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   สร้างโรงเรือนปลูกผลไม้

    ใต้เท้าหานนำเรื่องที่พูดคุยกับซูเจินหารือกับท่านแม่ทัพ เขาก็เห็นเช่นเดียวกันกับใต้เท้าหานและซูเจิน“เช่นนั้น ข้าจะไปจัดการเรื่องทหารให้ขอรับ” แม่ทัพจ้าวเตรียมตัวจะไปที่ค่ายทหาร แต่ถูกใต้เท้าหานเอ่ยรั้งไว้เสียก่อน“ประเดี๋ยวก่อนยังมีอีกเรื่อง เจินเออร์นางอยากให้ท่านสร้างโรงเรือนให้นาง” “โรงเรือน คือสิ่งใด” แม่ทัพจ้าวเอ่ยถามอย่างสงสัยใต้เท้าหานจำต้องอธิบายรายละเอียดตามที่ซูเจินนางบอก “นางต้องการให้สร้างโครงไม้ที่ค่อนข้างแข็งแรงให้นาง เพื่อที่จะใช้ปลูกผลไม้” “ท่านว่าอย่างไรนะ ปลูกผลไม้” แม่ทัพจ้าวยังไม่เข้าใจ ว่าการปลูกผลไม้จะช่วยจัดการเรื่องความอดยากของชาวบ้านได้อย่างไร“หัวเมืองทางเหนือมีหิมะตกถึงแปดเดือน เจินเออร์นางจึงคิดจะปลูกผลไม้ที่ยังไม่มีในแคว้นต้าเยี่ยน เพื่อให้ชาวบ้านทำการค้ากับเมืองอื่นเพื่อแลกข้าวสาร ผัก อาหารแห้ง” เมื่อได้ยินสิ่งที่ใต้เท้าหานพูด ดวงตาของแม่ทัพจ้าวก็สว่างวาบออกมาทันที ทุกวันนี้อาหารทั้งหมดในกองทัพต้องรอเสบียงหลวงส่งมา หากกองทัพสามารถปลูกผลไม้ออกมาได้ ทหารคงได้ต้องอดมื้อกินมื้ออีกแล้ว“ข้าเข้าใจแล้วขอรับ จะรีบจัดการเรื่องนี้ให้ทันที” แม่ทัพจ้าวเดินทางไปค่

    Huling Na-update : 2025-04-16
  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   บ่อน้ำพุร้อนและทุ่งข้าวสาลี

    นางลืมเรื่องที่ให้เสี่ยวอิงออกไปตรวจสอบหาบ่อน้ำพุร้อนไปเสียสนิท เมื่อเสร็จเรื่องทั้งหมด นางจึงได้มีเวลาออกไปสำรวจเรื่องนี้เสียที“พวกเจ้าจะไปที่ใด” เยี่ยนเฟยหยางที่กำลังจะไปค่ายทหารเอ่ยถามออกมาเมื่อเห็นใต้เท้าหาน ซูเต๋อและซูเจินเตรียมตัวจะออกจากจวน โดยมีแม่ทัพจ้าวและทหารบางส่วนที่ติดตามไปด้วยซูเจินอดถอนหายใจออกมาไม่ได้ นางคิดว่าเมื่อคืนเยี่ยนเฟยหยางกับจ้าวลู่เทียนจะพักในค่ายทหารเสียอีก“กระหม่อมจะออกไปสำรวจป่านอกเมืองพ่ะย่ะค่ะ” เป็นใต้เท้าหานที่เอ่ยตอบแทนทุกคน“เช่นนั้นเปิ่นหวางจะไปด้วยก็แล้วกัน”ซูเจินเหลือกตาขึ้นมองด้านบนทันที นางทนมองเด็กหนุ่มที่แสร้งทำเป็นผู้ใหญ่ที่โตแล้ว ยืนเอามือไพล่หลังเอ่ยออกมาราวกับว่าหากเขาไม่ไปคนอื่นก็ไม่อาจทำงานได้เมื่อทุกคนไม่มีใครเอ่ยปฏิเสธ ขบวนเดินทางทั้งหมดก็เริ่มออกเดินทาง เสี่ยวสือบังคับรถม้าอยู่ด้านหน้า ตามเสี่ยวอิงที่บินช้าๆ ไปตามทิศทางที่เขาพบเจอบ่อน้ำพุร้อนหนทางไม่ได้ไกลมากนัก แต่ค่อนข้างที่จะเดินลำบาก เพราะหิมะที่หนาจนซูเจินนางแทบจะยกขาเดินไม่ได้“ขึ้นมา” เยี่ยนเฟยหยางลดตัวลง เพื่อให้ซูเจินนางขึ้นหลัง เขาต้องการที่จะแบกนางเดิน“เหอะ ตัวท่านย

    Huling Na-update : 2025-04-16
  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   กลับเมืองหลวง

    ใต้เท้าหานกับซูเต๋อคิดตรงกันที่จะรอดูผลผลิตที่ปลูกเสียก่อนว่าเป็นเช่นไร จึงคิดจะเดินทางกลับเมืองหลวงเพราะในหัวเมืองอื่นก็มีเจ้าหน้าที่เดินทางมาจัดการเรื่องสร้างกำแพงไฟแล้ว และแม่ทัพจ้าวยังแบ่งทหารไปจัดการช่วยเหลือหัวเมืองอื่นอีกด้วยเจ้าเมืองและขุนนางหัวเมืองอื่นที่ใช้อำนาจของตนในทางที่ผิดก็ถูกลงโทษไปไม่น้อย เพื่อเป็นเยี่ยงอย่างไม่ให้ผู้อื่นกระทำตามพอผลไม้ใกล้จะเก็บเกี่ยวได้ เยี่ยนเฟยหยางก็เริ่มจะเกาะติดซูเจินเพราะรู้ว่านางจะเดินทางกลับเมืองหลวงแล้วตอนนี้เขารู้แล้วว่าความรู้สึกที่ราวกับมีม้าวิ่งอยู่ภายในอกคืออาการเช่นใด เขานำเรื่องนี้ไปพูดกับขันทีข้างกายเพราะคิดว่าตนเองป่วยใกล้ตาย“โถ่องค์ชายของกระหม่อม พระองค์ตกหลุมรักสตรีแล้วพ่ะย่ะค่ะ” สวีกงกงเอ่ยออกมาอย่างหยอกล้อ“เพ้ย จะเป็นไปได้อย่างไร” เยี่ยนเฟยหยางเม้มปากแน่นอย่างใช้ความคิด ว่าเขารู้สึกกับซูเจินเช่นนั้นจริงหรือด้วยยังไม่เชื่อในสิ่งที่สวีกงกงพูด จึงได้นำเรื่องนี้ไปปรึกษาจ้าวลู่เทียนด้วยอีกคน“หรือพระองค์จะป่วย” จ้าวลู่เทียนที่อยู่ในวัยเดียวกันกับเยี่ยนเฟยหยางก็ขมวดคิ้วคิด“เพ้ย ข้าไม่พูดกับเจ้าแล้ว” เยี่ยนเฟยหยางจำต้องเดินหน

    Huling Na-update : 2025-04-17
  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   ข่าวลือที่มาไม่ถึง

    อากาศที่เมืองหลวงกำลังดี ชาวบ้านเริ่มเดินทางเข้ามาเที่ยว พร้อมทั้งหาที่ค้าขาย เพราะใกล้จะถึงเทศกาลชุนเจี๋ย (ตรุษจีน) และเทศกาลหยวนเซียว (งานโคมไฟ)เมื่อมาถึงเมืองหลวง ใต้เท้าหานและซูเต๋อก็เร่งเดินทางเข้าวังหลวง เพื่อรายงานเรื่องที่ได้พบเจอมาตลอดทั้งหกเดือนที่ออกไปจัดการเรื่องทางหัวเมืองเหนือซูเจินนางเดินทางกลับมาที่จวนก่อน แต่ก็ไม่ลืมที่จะฝากผลไม้ไปให้ฮ่องเต้และหวังกงกงได้ลองชิม สุดท้ายปู่หวังของนางก็ได้กินเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะถูกฮ่องเต้แย่งไปกินเสียหมด“เหอะ หวังกงกง เจ้าหวงเจิ้นเช่นนั้นรึ หลานสาวของเจ้ามีอีกมาก จะหวงเจิ้นเพื่ออันใด” ฮ่องเต้อดที่จะมองค้อนหวังกงกงไม่ได้“โถ่ ฝ่าบาท กระหม่อมจะกล้ารึพ่ะย่ะค่ะ” หวังกงกงยิ้มอย่างเอาใจอย่างไรวันหยุดที่จะถึงนี้เขาก็ได้ออกไปเที่ยวหาหลานสาวที่ไม่ได้พบหลายเดือน ค่อยไปกินอีกครั้งที่จวนของนางก็ยังได้ซูเต๋อเมื่อเสร็จเรื่องในวังหลวงก็เร่งเดินทางกลับมาที่จวนทันที เพื่อบอกกล่าวเรื่องที่ราชสำนักหยุดให้ขุนนางเพื่อเดินทางกลับไปไหว้บรรพชน เขาจึงคิดจะกลับหมู่บ้านไปเคารพหลุมศพมารดาเช่นกัน“ข้ากำลังจะถามท่านพี่เรื่องนี้พอดี” จิ่วเม่ยเอ่ยออกมาอย่าง

    Huling Na-update : 2025-04-17
  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   ขอแลกที่ดินกับหวังกงกง

    หลังจากนั้น ตลอดเวลาที่ตระกูลซูพักอยู่ในหมู่บ้านก็ไม่มีผู้ใดเข้ามารบกวนอีกเลยซูเต๋อกับซูเจินเดินขึ้นเขาไปที่ถ้ำ เพื่อตรวจดูแร่เหล็กที่อยู่ด้านในก่อนที่จะเดินทางกลับเมืองหลวง“ท่านพ่อ ท่านคิดจะทำสิ่งใดกับแร่เหล็กพวกนี้เจ้าคะ”“ตอนนี้พ่อยังไม่มีความคิดที่จะทำอันใด พวกเราก็เก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับไปก่อนก็แล้วกัน” ซูเต๋อลูบหัวบุตรสาวอย่างรักใคร่นางเกือบจะสิบหนาวแล้ว เติบโตขึ้นไม่น้อย เรื่องที่นางทำล้วนแต่สร้างประโยชน์ให้กับแคว้น เขาผู้ที่เป็นบิดายังมิอาจเทียบนางได้ แต่นางกลับยกความดีทั้งหมดให้กับเขาซูเจินนางใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองหลวงอย่างจำเจ เพราะหลายปีที่ผ่านมายังไม่มีเรื่องใดที่ต้องให้นางเป็นผู้ลงมือ ทั้งภัยแล้งหรือภัยหนาวที่เกิดขึ้นต่างก็มีทางออกที่นางได้เตรียมไว้เมื่อหลายปีที่แล้วปีนี้ซูเจินนางอายุได้สิบสี่หนาว ความงามของนางก็ยิ่งเผยออกมาจนมีขุนนางหลายคนเริ่มทาบทามกับซูเต๋อมาบ้างแล้วเมื่อสองปีที่แล้วหวงหลันได้แต่งให้กับฉู่จิ้งที่สอบผ่านจวี่เหรินเมื่อสองปีที่แล้ว ซูเต๋อก็ทำตามคำพูดเขาซื้อจวนให้ทั้งสองเพื่อเป็นของขวัญวันแต่งงานนางฉู่ก็ได้ย้ายไปอยู่ดูแลบุตรชายกับสะใภ้ที่กำลังจะมี

    Huling Na-update : 2025-04-18
  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   เยี่ยนเฟยหยางกลับเมืองหลวง

    สามวันต่อมาซูเต๋อก็กลับมาที่จวนแล้วแจ้งเรื่องที่อีกสองวันข้างหน้าจะออกเดินทางไปเมืองหนานไห่ เพื่อเตรียมการเรื่องสร้างเขื่อน ซูเจินที่ต้องออกเดินทางไปด้วยจึงให้เสี่ยวผิงจัดเตรียมข้าวของให้นางครั้งนี้นางจะพาเสี่ยวผิงไปด้วย ตอนนี้นางใกล้ถึงวัยออกเรือนของคนในยุคนี้แล้ว จึงจำเป็นที่จะต้องมีสาวใช้ติดตาม เพื่อจะได้ไม่ตกเป็นขี้ปากของผู้อื่นแม้แต่ตอนเดินทางนางก็ต้องมีรถม้าของนางต่างหากแล้ว มิอาจไปนั่งคันเดียวกับบิดาและใต้เท้าหานเช่นเดิมได้“เจินเออร์ เดินทางลงใต้ครั้งนี้คงอีกนานกว่าเจ้าจะเดินทางกลับมาเมืองหลวง หากพบบุรุษที่พึงใจเจ้าก็รีบแจ้งบอกแม่ แม่จะออกเดินทางไปหาเจ้าทันที” จิ่วเม่ยเอ่ยบอกบุตรสาวซูเจินที่กินของว่างอยู่ นางก็สำลักขึ้นมาทันที เพราะนางอายุเพิ่งจะสิบสี่หนาว จะให้รีบหาบุตรเขยไปทำไม“โถ่ ท่านแม่ ข้าเพียงสิบสี่หนาว ท่านจะรีบร้อนไปไยเล่าเจ้าค่ะ” เห็นพูดมาเช่นนี้หลายคนแล้ว ไม่แคล้วอีกไม่นานก็คงได้แต่งออกไป“ผู้อื่นก็ล้วนออกเรือนเมื่อเข้าสู่วัยปักปิ่น แม่มิได้เร่งเจ้า เพียงแค่พูดถึงเท่านั้น” จิ่วเม่ยตบที่หลังมือของบุตรสาวเบาๆต่อให้นางไม่คิดจะออกเรือนเลย ก็ไม่มีผู้ใดว่านางได้สองว

    Huling Na-update : 2025-04-18
  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   ตามนางไปหนานไห่

    พูดคุยกันมาได้สักพัก เยี่ยนเฟยหยางจึงตัดสินใจเอ่ยขอเรื่องที่เขาจะเดินทางไปที่หนานไห่“เอ่อ ลูกมีเรื่องอยากจะขอเสด็จพ่อพ่ะย่ะค่ะ”“เรื่องอันใด ว่ามาเถิด”“ลูกอยากจะขอพระราชทานอนุญาต เดินทางไปหนานไห่พ่ะย่ะค่ะ” มือที่กำลังยกน้ำชาขึ้นดื่มหยุดชะงักทันที พร้อมทั้งมองบุตรชายอย่างแปลกใจ“เจ้ารู้หรือว่าที่หนานไห่เกิดเรื่องอันใด” เยี่ยนเฟยหยางจึงบอกเล่าเรื่องระหว่างเดินทางมาวังหลวงแล้วพบกับขบวนเดินทางของใต้เท้าหาน“หึ เจ้ารู้หรือไม่ ว่าการเดินทางไปหนานไห่ครั้งนี้ต้องใช้เวลานานเพียงใด อาหยางเจ้าอย่าได้ลืมว่าเจ้ายังต้องเดินทางกลับชายแดนเหนือตามกำหนดเดิม” เรื่องทางชายแดนก็ยังไม่อาจวางใจทั้งชนเผ่านอกด่านและแคว้นต้าฉีล้วนแต่จ้องหัวเมืองเหนือตาเป็นมัน หลังจากที่โจวเป่ยมีพื้นที่เพาะปลูก ยังเจอทุ่งข้าวสาลีอีกหลายพันหมู่ จึงมีแต่ผู้ที่คิดอยากจะแย่งชิง“ลูกเข้าใจขอรับ รับรองว่าจะเดินทางกลับชายแดนเหนือตามกำหนดเดิม” ฮ่องเต้จ้องมองบุตรชายอย่างสงบ เมื่อเห็นแววตาที่มุ่งมั่นของเขา หาใช่ความดื้อรั้นเอาแต่ใจเช่นเดิม จึงได้พยักหน้าอนุญาตเป็นการตอบรับไทเฮากับฮองเฮามองเยี่ยนเฟยหยางอย่างไม่เชื่อสายตา เขาเพิ่งจะเ

    Huling Na-update : 2025-04-19

Pinakabagong kabanata

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   ออกเดินทางอีกครั้ง(ตอนจบ)

    เยี่ยนเฟยหยางประคองซูเจินไปที่เกี้ยวแปดคนหามหลังใหญ่ ชุดเจ้าสาวที่ดูเหมือนจะธรรมดา แต่เมื่อต้องแสงแดดกับเปล่งประกายระยิบระยับราวกับมีดวงดาวนับล้านดวงอยู่ที่ชุดของนาง ยิ่งทำให้คุณหนูต้องไปอ้อนวอนบิดามารดาให้ไปถามจวนตระกูลซูว่าไปตัดชุดที่ใดมา แต่ก็มิได้รับคำตอบซูเจินถูกเยี่ยนเฟยหยางประคองเข้าตำหนักของเขา ทั้งคู่ข้ามกระถางไฟก่อนที่จะไปหยุดที่แท่นกราบไหว้ฟ้าดินด้านหน้ามีเสด็จพ่อ เสด็จแม่และไทเฮาของเยี่ยนเฟยหยางนั่งอยู่ เสียงสวีกงกงขันทีของเยี่ยนเฟยหยางร้องบอกให้พวกเขากราบไหว้ฟ้าดิน ไหว้บิดามารดา ก่อนจะคำนับกันเองซูเจินที่กำลังลุกขึ้น เพราะคิดว่าเสร็จสิ้นพิธีแล้ว แต่กลับถูกเยี่ยนเฟยหยางดึงรั้งมือของนางไว้ให้นั่งลงตามเดิม“ข้าเยี่ยนเฟยหยาง ขอสาบานต่อหน้าฟ้าดิน เสด็จพ่อ เสด็จแม่ และเสด็จย่า ว่าทั้งชีวิตจะมีเพียงซูเจินเป็นภรรยาแต่เพียงผู้เดียว หากผิดคำสาบานขอให้ฟ้าดินลงโทษ” ซูเจินจะร้องห้ามก็ไม่ทันเสียแล้วขุนนางที่ได้เข้าร่วมพิธีงานมงคลต่างตกตะลึง เพราะยังไม่มีเชื้อพระวงศ์พระองค์ใดที่กล้าเอ่ยสาบานเช่นนี้ออกมาสิ้นเสียงของเยี่ยนเฟยหยางท้องฟ้าที่กระจ่างใส ก็คำรามขึ้นเป็นการตอบรับคำของเขา ยิ

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   งานมงคล

    เป็นเช่นที่เยี่ยนเฟยหยางว่า เพราะซูเจินอยากให้หวังกงกงได้เดินทางไปทั่วแคว้นเพื่อท่องเที่ยวกับนาง ทั้งชีวิตเขาแทบจะอยู่เพียงในรั้ววัง หากฮ่องเต้ไม่เสด็จที่ใดเขาก็ไม่ได้ไปเช่นกันหวังกงกงได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มหน้าบาน ต่างจากฮ่องเต้ที่เบ้หน้าอย่างไม่สบอารมณ์ ไหนว่าจะอยู่กับเขาอีกสองปี แต่ดูเหมือนว่าอีกไม่กี่เดือนก็จะทิ้งเขาไปเสียแล้วเป็นอย่างที่ฮ่องเต้คิด หนึ่งเดือนต่อมาซูเจินนางก็ขอเข้าวัง ครั้งนี้นางแลกตัวหวังกงกงกับน้ำวิเศษของนาง“เหอะ เจ้าผิดคำพูด หวังกงกงขอเวลาเจิ้นอีกสองปี แต่นี่ยังไม่ถึงหนึ่งปีเจ้าก็จะมาขโมยตัวเขาไปแล้วรึ”“เช่นนั้น พระองค์ต้องการอันใดเพคะ” นางขมวดคิ้วคิด เพราะนางคิดมาแล้วว่าจะพาหวังกงกงออกเดินทางไปด้วยกัน“เจิ้นต้องการจะเป็นผู้ฝึกตน” ซูเจินและหวังกงกงหันไปมองที่ฮ่องเต้อย่างตกใจ“พระองค์รู้หรือไม่ หากเป็นผู้ฝึกตนต้องละทิ้งบัลลังก์ พระองค์จะยินยอมหรือเพคะ” หากมีฮ่องเต้ที่มีอายุยืนยาว จะไม่สร้างเรื่องปั่นป่วนขึ้นมาอย่างนั้นรึ“เจิ้นเข้าใจเรื่องนี้ดี และคิดหาทางออกไว้แล้ว” “เสด็จพ่อ พระองค์ตัดสินพระทัยแล้วรึพ่ะย่ะค่ะ” เยี่ยนเฟยหยางที่เพิ่งเรียกสติกลับมาได้เอ่ยถามออกม

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   ถึงเวลากลับเมืองหลวง

    “เรื่องนี้...” นางคิดว่าอย่างไร การแต่งงานในวัยเพียงสิบห้าหนาวก็ดูเหมือนจะเร็วไป“เจ้ากลัวอันใด”“ข้าคิดว่ามันเร็วเกินไป ที่จะแต่งงานในวัยสิบห้าหนาว”“เจินเจิน สตรีแคว้นต้าเยี่ยนวัยเท่านี้นับว่าไม่เร็วแล้ว” เขาเริ่มจะไม่สบอารมณ์แล้ว ที่นางไม่ยอมตอบรับเสียที“เอาเถิดอย่างไรก็ยังมีเวลาอีกหลายเดือน” นางบอกปัดไป ก่อนจะไล่เขาให้ไปที่ห้องพัก“ไม่ ข้าจะเข้าไปในมิติของเจ้า” เยี่ยนเฟยหยางคิดจะเข้าไปฝึกในมิติต่อ“เจ้าค่ะ” ซูเจินพาเข้าไปด้านใน สุดท้ายนางก็ต้องอยู่ฝึกด้วยกันกับเขา“นายหญิง ดอกไม้ที่ข้าปลูกไว้ รู้ว่าท่านทั้งสองกำลังจะเข้าสู่ขั้นเซียนจึงยอมสละสองดอกมาให้ท่านเจ้าค่ะ” ซูเจินมองดอกหลันฮวาที่นางเคยสัมผัสตอนที่มาที่นี่“ข้าจับมันได้ใช่หรือไม่” นางไม่รู้ว่าหากจับแล้วจะได้กลับไปที่โลกเดิมหรือไม่ นางก็ตอบไม่ได้ว่าอยากกลับไปหรือเปล่าแต่ก่อนที่หลันฮวาจะเอ่ยตอบ เยี่ยนเฟยหยางที่เห็นท่าทางของซูเจินดูไม่สบายใจ ที่นางต้องจับดอกไม้ที่หลันฮวานำมา ก็อดที่จะเอ่ยถามออกมาไม่ได้“เหตุใดเจ้าถึงไม่กล้าจับมัน”นางถอนหายใจออกมา ในเมื่อเขาอยากรู้นางก็ไม่คิดจะปิดบัง ก่อนจะเล่าเรื่องราวความเป็นมาของนาง จนได้ม

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   ต้าเยี่ยนมีผู้ฝึกตน

    ในตอนแรกที่คิดว่านับเดือนกว่าจะถึง แต่เอาเข้าจริง นางเดินทางเพียงยี่สิบวันเท่านั้น จากหนานไห่จนถึงเขตชายแดนเหนือ ด้วยการนำทางของเสี่ยวมี่ ที่หาเส้นทางที่ใกล้ที่สุดให้นางนางแวะที่เมืองหน้าด่านของชายแดนเหนือ เพื่อนำเสบียงอาหารออกมาแจกจ่ายให้กับค่ายผู้อพยพเพราะจำนวนคนที่นางมองเห็นคร่าวๆ ก็นับเกือบแสนคนเห็นจะได้ เช่นนี้ไม่เท่ากับว่าสงครามกำลังเกิดขึ้นจริงรึซูเต๋อเข้าไปพบเจ้าเมือง ที่รู้จักกับเขาดี เพื่อแจ้งเรื่องที่ทางการให้นำเสบียงออกมาแจกจ่าย ในตอนนี้ไม่มีผู้ใดคิดหาที่มาของเสบียงอีกแล้วเพราะจำนวนคนที่เพิ่มสูงขึ้นทุกวัน เสบียงที่มีเพียงพอให้พวกเขากินวันหนึ่งมื้อเท่านั้น ยิ่งได้เสบียงมาเพิ่มก็สามารถต่อชีวิตชาวบ้านไปได้อีกวันครั้งนี้ซูเจินนำเสบียงออกมามากกว่าเดิมหลายเท่า ทั้งยังต้องนำออกมาเกือบทุกวัน ถึงจะเพียงพอให้ทุกคนได้กินอิ่มท้องนางอยู่ที่เมืองด่านหน้าของชายแดนเหนือได้สามวัน จึงออกเดินทางไปหัวเมืองอื่นต่อ สามหัวเมืองหลักที่อยู่ด่านหน้าล้วนแต่มีคนอพยพนับแสนคน ซูเจินจึงต้องอยู่จัดการเรื่องเสบียงหลายวันเกือบหนึ่งเดือนที่นางต้องจัดการเรื่องเสบียง โดยที่ไม่รู้เลยว่าทางชายแดนเหนือที่

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   ศึกนอกศึกใน

    หวังกงกงรีบเดินเข้าไปจับตัวนางกำนัลไว้ แล้วค้นตัวจนได้ยาหุ่นเชิดมาทันที เขานำมาส่งให้เยี่ยนเฟยหยางเพื่อตรวจสอบ แล้วออกไปจัดการนางกำนัลที่ตำหนักของไทเฮาแต่เยี่ยนเฟยหยางกลับเดินเข้าไปหาทั้งสองคนแล้วนำยากรอกเข้าไปในปากแทน“เมื่อพวกท่านกล้าทำร้ายเสด็จพ่อและเสด็จย่าก็จงมีชีวิตอยู่เช่นพวกเขาเถิด” ดวงตาแข็งกร้าวของเยี่ยนเฟยหยาง ทำให้ทั้งสองอดที่จะหวาดกลัวออกมาไม่ได้ทั้งคู่ไม่คิดว่าเยี่ยนเฟยหยางจะเดินทางกลับมาถึงรวดเร็วเพียงนี้ คิดว่าเรื่องทั้งหมดที่วางแผนไว้จะแล้วเสร็จก่อนที่เยี่ยนเฟยหยางจะเดินทางกลับมาถึงเมืองหลวงแต่คนคำนวณ มิสู้ฟ้าลิขิต เพราะเยี่ยนเฟยหยางเดินทางกลับมาถึงเร็วทำให้สิ่งที่พวกเขาคิดไว้ไม่เป็นไปอย่างที่ตั้งใจเมื่อจัดการทั้งสองคนเรียบร้อย เยี่ยนเฟยหยางรีบเดินทางไปที่ตำหนักของฮองเฮาและพี่ใหญ่ของตนทันทีพอไปถึงจึงพบว่าทั้งสองอาการไม่ต่างจากเสด็จย่าของตนนัก เมื่อช่วยทั้งสองให้พ้นอันตรายเรียบร้อยแล้ว เขาก็ไปพูดคุยกับเสด็จพ่อ เรื่องภูเขาแร่ที่เว่ยอ๋องส่งคนไปทันที“เรื่องนี่เห็นทีเสนาบดีตู้ก็คงรวมมือด้วย หากเจ้ากลับมาไม่ทัน ไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องใดขึ้น” ฮ่องเต้ให้หวังกงกงนำยาที่ใช้

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   หุ่นเชิด

    เยี่ยนเฟยหยางแทบไม่อยากจะเชื่อ เพราะพระองค์ยังดูแข็งแรง แทบไม่เคยเปรยเรื่องนี้ขึ้นมาก่อนสักครั้ง ส่วนเรื่องให้ผู้ใดขึ้นเป็นรัชทายาทเขามิได้สนใจ“ย่าให้องครักษ์เงาไปสืบเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ยังมิทัน ที่จะรู้เรื่องราวดี ย่าก็ล้มป่วยจนมิอาจลุกจากเตียงได้ ว่าแต่เจ้าเอาอะไรให้ยาดื่ม” นางอดที่จะสงสัยไม่ได้“หลานได้น้ำวิเศษมาจากเจินเจิน และในตอนนี้หลานก็เป็นผู้ฝึกตนแล้ว แต่ขอท่านย่าอย่าได้แพร่งพรายเรื่องนี้ออกไป จนกว่าหลานจะหาตัวคนร้ายได้พ่ะย่ะค่ะ”“ย่า เข้าใจแล้ว เจ้ารีบไปดูเสด็จพ่อของเจ้าเถิด พี่ชายเจ้าย่าก็มิได้เห็นมาสักพักแล้ว” ไทเฮาตบที่หลังมือของหลานชายเบาๆ“เสด็จย่า พระองค์ทรงแสร้งป่วยต่อไปเถิดพ่ะย่ะค่ะ หลานเห็นนางกำนัลของท่านดูมิน่าไว้ใจนัก”“เรื่องนี้ย่าก็พอจะรู้ว่าบ้าง แต่ยังมิอาจทำอันใดได้ ด้วยกลัวว่าคนร้ายจะรู้ตัวเสียก่อน”“หลานเข้าใจแล้วพ่ะย่ะค่ะ เสด็จย่าพักผ่อนก่อนเถิด” เยี่ยนเฟยหยางประคองไทเฮาให้นอนลงเช่นเดิมเขาคลายลมปราณที่ปิดกั้นเสียงเอาไว้ แล้วเดินออกจากห้องบรรทมไปราวกับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น หวังกงกงที่ยืนรออยู่หน้าตำหนักก็เดินเข้ามาหาทันที“องค์ชายห้า กระหม่อมมิรู้ว่าสมควรพู

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   วังหลวงเกิดเรื่อง

    แต่เยี่ยนเฟยหยางก็อาลัยอาวรณ์นางอยู่ไม่น้อย เมื่อใกล้ถึงเวลาที่ต้องแยกจาก กลายเป็นว่าแทนที่เขาจะทุ่มเทเอาเวลาไปฝึก กลับไล่จ้าวลู่เทียนออกไปด้านนอกมิติ แล้วอยู่ด้านในมิติกับซูเจินแทน“ท่านไล่พี่เทียนไปแล้ว หากท่านพ่อมิเห็นท่านอยู่ด้านนอกจะคิดเช่นไรเจ้าคะ” นางเอ่ยถามอย่างไม่พอใจ“ไม่เห็นจะเป็นอันใด ดีเสียอีกที่เปิ่นหวางจะได้แต่งเจ้าเข้าตำหนักเสียเลย ทั้งยังพาเจ้าไปที่ชายแดนเหนือพร้อมกันได้อีกด้วย” เขากุมมือของนางไว้แน่น พร้อมทั้งจ้องมองนางอย่างหลงใหล“เพ้ย ภายในหัวของท่านมีแต่เรื่องใดกันแน่ข้าอยากจะรู้นัก”“อยากรู้จริงหรือไม่” เสียงกระซิบของเยี่ยนเฟยหยางที่ดังข้างหูของนาง ทำให้ขนหัวของซูเจินลุกขึ้นทันทีนางรีบชักเท้าถอยหลัง แต่ไม่ทันเสียแล้ว เมื่อเยี่ยนเฟยหยางรั้งคอของนางไว้ พร้อมทั้งก้มลงมาประกบริมฝีปากของเขากับของนางทันที“อย่าดื้อ เปิ่นหวางจะออกเดินทางแล้ว” เยี่ยนเฟยหยางขบที่ริมฝีปากของซูเจินเบาๆ เพื่อให้นางเปิดช่องทางให้เรียวลิ้นของเขาแทรกเข้าไปได้ซูเจินนางก็ทำตามอย่างว่าง่าย เพราะอย่างไรอีกไม่กี่วันเขาก็จะออกเดินทางแล้วฝ่ามือของเยี่ยนเฟยหยางลูบคลำไปตามแผ่นหลังของซูเจิน “อื้ออ” นา

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   หมู่บ้านซูหนาน

    พอรุ่งเช้ามาเยือน เมื่อไม่เห็นทั้งสามคนออกมาจากห้องพัก ใต้เท้าหานและซูเต๋อก็รู้ได้ทันทีว่าพวกเขาคงจะยังอยู่ในมิติ จึงได้ออกไปจัดการเรื่องสร้างเขื่อนแทนซูเจินนางออกมาจากมิติ เมื่อด้านนอกผ่านไปได้หนึ่งวันแล้ว นางรีบให้สวีกงกงจัดหาจวนหลังใหญ่ให้ทันที เพราะต้องนำเสบียงอาหารออกมาให้ชาวบ้านได้ประทังชีวิตสวีกงกงก็จัดการเรื่องนี้ได้อย่างเรียบร้อย ทั้งยังจัดหาคน เพื่อจัดการเรื่องนำเสบียงออกไปแจกจ่าย โดยมีเขาคอยควบคุมเรื่องนี้ด้วยตนเองอยู่ทุกขั้นตอนเจ้าเมืองจั่วที่ไม่เห็นหน้าเยี่ยนเฟยหยางเลยสักวัน จะเอ่ยถามก็ไม่กล้า จึงได้แต่ลอบถอนหายใจคิดว่าเขาเดินทางกลับไปแล้ว จึงคิดที่พาให้คนไปรับตัวบุตรสาวกลับมาอยู่ที่จวนเช่นเดิมซูเจินนางออกไปตรวจสอบความเสียหายรอบๆ เมืองกับสหายทั้งสามของนางที่กลับมามีรูปลักษณ์เช่นเดิมเมื่ออยู่ด้านนอก และในอ้อมแขนของนางยังมีเหล่าหู่ที่ดูเหมือนลูกแมวน้อยด้วยอีกตัวรอบเมืองที่โดนน้ำท่วมมีความเสียหายมากนัก นางจึงคิดที่จะให้ชาวบ้านปลูกพืชที่สามารถเติบโตในน้ำได้ดี นางจึงนำเรื่องนี้ไปบอกกล่าวใต้เท้าหานให้ช่วยจัดการหากให้นางบอกกล่าวขุนนางกรมเกษตรที่อยู่ในเมืองหนานไห่พวกเขาคงมิ

  • ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา   บ่อชำระไขกระดูก

    หลันฮวาที่เห็นเสี่ยวอี่เปลี่ยนไปก็กำลังจะเอ่ยถาม แต่กลับถูกเขาร้องห้ามไว้เสียก่อน“ไปดูนายหญิงก่อนเร็วเข้า”“นายหญิงเป็นอันใด”“นางลงไปแช่น้ำในถ้ำของเหล่าหู่ ตอนนี้กำลังร้องอย่างเจ็บปวด” หลันฮวาไม่ทันได้แจ้งคนอื่นนางรีบบินตามเสี่ยวมี่ไปที่ถ้ำของเหล่าหู่ทันทีใต้เท้าหานกับซูเต๋อก็รีบตามไปอย่างร้อนใจ เยี่ยนเฟยหยางที่กำลังช่วยจ้าวลู่เทียนฝึกเดินลมปราณก็พบความผิดปกติ จึงได้พากันติดตามไปด้วยเมื่อเข้าใกล้ถ้ำของเหล่าหู่ เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เกือบจะทำให้ทั้งสี่เสียสติ ซูเต๋อที่ใกล้ชิดบุตรสาวมากที่สุด เขายังไม่เคยเห็นนางร้องเช่นนี้มาก่อนเยี่ยนเฟยหยางมิอาจทนได้ เขาอยากจะไปดูให้เห็นกับตาว่าเกิดเรื่องอันใดกับนางกันแน่ แต่เมื่อถึงปากถ้ำทั้งสี่ก็ถูกเหล่าหู่และเสี่ยวอี่ขวางเอาไว้“ตอนนี้นายหญิงอยู่ในน้ำ พวกท่านมิอาจเข้าไปได้ขอรับ” เสี่ยวอี่เอ่ยขึ้นมา เขาจะปล่อยให้บุรุษทั้งสี่เห็นสภาพที่เปลือยเปล่าของนายหญิงได้อย่างไร“เหตุใดนางถึงได้ดูเจ็บปวดเช่นนี้” เยี่ยนเฟยหยางเอ่ยถามอย่างร้อนใจ“เรื่องนี้ข้าน้อยก็ไม่ทราบขอรับ”พวกเขาไม่อาจทำสิ่งใดได้ ได้แต่รอให้หลันฮวาออกมาหรือไม่ก็รอให้ซูเจินนางออก

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status