แชร์

ตอนที่ 7

ผู้เขียน: 橙花
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-02 10:53:16

          หลังทานอาหารเย็นแล้วซูซูก็นำถ้วยชามไปล้างตามปกติ นางมักจะช่วยเหลืองานท่านปู่ท่านย่าตั้งแต่อาการบาดเจ็บเริ่มหายดีมาตลอด ช่วงหลังมานี้ทั้งสองเฒ่าชราเองก็ปล่อยให้นางทำงานได้ตามใจชอบ พวกเขาไม่อยากเลี้ยงนางเหมือนไข่ในหินมากนัก แค่นี้พวกเขาก็ต่างให้ความรักความอบอุ่นกับนางมากพอแล้ว พวกเขากลัวว่าหากดูแลนางมากเกินไป ซูซูคงรู้สึกว่าตนเองเป็นภาระให้กับพวกเขา

          ซูซูล้างจานเสร็จก็ไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดที่ท่านย่านำเสื้อผ้าเก่า ๆ ของลูกชายนางมาเย็บเป็นเสื้อผ้าให้ซูซูตั้งแต่หลายเดือนก่อนแล้ว ทำให้ตอนนี้ซูซูมีเสื้อผ้าเปลี่ยนถึงห้าชุดเลยทีเดียว ก่อนนอนซูซูก็ยังเข้าไปบอกฝันดีกับท่านปู่ท่านย่าตามที่นางทำมาตลอดตั้งแต่หายจากอาการบาดเจ็บ เฒ่าชราทั้งสองต่างยิ้มพร้อมตอบกลับให้นางหลับฝันดีเช่นเดียวกัน พวกเขาไม่เหงาเลยตั้งแต่มีเด็กน้อยซูซูมาอยู่ร่วมชายคา อีกทั้งซูซูยังคอยช่วยงานพวกเขาไม่น้อยทั้งที่ตัวเล็กเพียงแค่นี้ นับวันยิ่งทำให้ทั้งสองเฒ่านั้นทั้งรักทั้งหลงหลานสาวตัวน้อยคนนี้มากขึ้นทุกวัน

          หลังอาหารเช้าวันต่อมา ซูซูเตรียมตะกร้าสะพายหลังเพื่อขึ้นเขาอีกครั้ง นางบอกท่านปู่กับท่านย่าแล้วว่าหลังจากนี้จะขึ้นเขาไปหาของป่ามาขายทุกวัน อีกทั้งยังเป็นการออกกำลังกายอย่างหนึ่งจะได้ทำให้นางร่างกายแข็งแรงขึ้น สองเฒ่าได้แค่คิดตามแล้วก็พยักหน้าเห็นด้วย เพียงแต่บอกให้นางเดินอย่างระมัดระวัง บนเขานั้นไม่ใช่มีเพียงแต่ของป่า หากเจอสัตว์ป่าตัวใหญ่ก็ให้นางรีบหนีลงเขามาเสียด้วย

          ซูซูรับปากกับท่านปู่ท่านย่าพร้อมรอยยิ้ม ก่อนที่จะเดินกระโดดโลดเต้นเหมือนเด็ก ๆ ไปยังหลังเขา เหอหยางเปากับซวงหยวนเอ๋อได้แต่ส่ายหัวพร้อมรอยยิ้มกับหลานสาวผู้ร่าเริงคนนี้ พวกเขาไม่คิดจะต่อว่าหากนางต้องการหาเงินเล็กน้อยด้วยตัวเอง เพียงแต่สั่งให้นางระมัดระวังตนเองให้ดีอย่าให้พวกเขาเป็นห่วงมากนักก็เพียงเท่านั้น พวกเขาเพิ่งจะรับนางเข้ามาดูแลได้เพียงแค่สามเดือน มีหรือที่พวกเขาจะอยากให้นางบาดเจ็บขึ้นมาอีกครั้ง

          ซูซูใช้เวลาไม่นานในการขึ้นเขาลึกเข้าไปมากกว่าเมื่อวาน ด้วยวิชาตัวเบาของนางทำให้นางขึ้นไปถึงเกือบยอดเขาแล้ว แต่ด้วยกลัวว่าตัวเองจะพลาดสมุนไพรดี ๆ ซูซูจึงยังไม่ขึ้นไปถึงยอดเขา นางเดินหาของป่าและสมุนไพรเหมือนกับเมื่อวานนี้อย่างไม่เร่งรีบ กระทั่งซูซูพบเข้ากับใบโสมที่นางจำได้ในโลกก่อนของนาง ซูซูรีบเข้าไปนั่งลงดูให้ชัด ๆ เมื่อเห็นว่าเป็นใบโสมแน่แล้ว ซูซูก็ใช้พลังลมปราณพร้อมมีดสั้นค่อย ๆ เซาะดินรอบ ๆ ต้นโสมลงไปอย่างช้า ๆ นางรู้ดีว่าหากรากโสมขาดไปสักเล็กน้อยแล้วล่ะก็ ราคาของโสมก็จะไม่ได้ราคาเต็มอย่างแน่นอน ยิ่งซูซูเหลือบมองทั่วบริเวณ นางก็พบว่ายังมีต้นโสมให้นางเก็บอีกไม่น้อย ซูซูจึงระมัดระวังในการขุดโสมต้นแรกเป็นอย่างมาก

          ซูซูขุดดินรอบ ๆ ต้นโสมจนร่วนซุยและลึกมากพอแล้ว นางจึงค่อย ๆ ดึงต้นโสมขึ้นมาอย่างเบามือเพื่อไม่ให้รากโสมขาด หลังจากดึงขึ้นมาตรวจสอบดูแล้วเห็นว่ารากโสมต้นนี้สมบูรณ์ดี ซูซูก็หาใบไม้แห้งมารองที่ก้นตะกร้าสะพายหลังของนางแล้ววางโสมต้นแรกลงไป ซูซูตั้งใจที่จะคัดเลือกโสมที่ดูไม่น่าจะมีราคานักไปให้ท่านปู่หมอกับปู่และย่าของนางต้มกินบำรุงร่างกาย ส่วนโสมที่อายุมากและมีราคาสูง ซูซูจะเก็บใส่กำไลเก็บของของนางเพื่อรอวันนำไปขายในเมืองทีหลัง

          เมื่อซูซูมีประสบการณ์การเก็บโสมต้นแรกแล้ว โสมต้นถัด ๆ ไปนางก็ขุดได้เร็วยิ่งขึ้น กระทั่งได้โสมทั้งหมดมาเกือบยี่สิบต้น นางคัดต้นที่อายุน้อยที่สุดออกมาเพียงสามต้นเท่านั้น เพื่อป้องกันความสงสัยของท่านปู่หมอกับท่านปู่และท่านย่าของนาง ส่วนต้นที่อายุมากซึ่งมีถึงสิบกว่าต้นนั้น ซูซูเก็บเอาไว้ในกำไลเก็บของเรียบร้อยแล้ว นางมองขึ้นไปบนท้องฟ้าเพื่อดูเวลาก็เห็นว่าตอนนี้น่าจะบ่ายกว่าแล้ว ซูซูจึงเดินหาของป่ารอบ ๆ บริเวณหลังจากขุดโสมเสร็จแล้วเพื่อนำไปให้ท่านปู่ท่านย่าทำอาหารกิน แต่กลับพบว่าบริเวณนี้นอกจากโสมแล้วกลับไม่มีของป่าอื่น ๆ เลย ซูซูจึงได้แต่ใช้วิชาตัวเบากลับไปที่ป่าไผ่ซึ่งยังคงเหลือหน่อไม้อีกไม่น้อยให้นางเก็บกลับบ้านได้

          ซูซูมาถึงป่าไผ่แล้วก็ไม่รอช้า นางนำโสมสามต้นมาใส่เอาไว้ในอกเสื้อแทน ก่อนที่จะขุดหน่อไม้ด้วยความรวดเร็วจนกระทั่งเต็มตะกร้าสะพายหลังของนางเหมือนเมื่อวานนี้ จากนั้นซูซูก็รีบลงจากเขาไปเพื่อนำหน่อไม้ไปแจกจ่ายให้ชาวบ้านและท่านปู่ท่านย่าของนางเหมือนเคย

          ซูซูกลับถึงบ้านตรงเวลาที่ท่านปู่กับท่านย่ากำชับเอาไว้ นางยังคงร้องเสียงหวานเรียกท่านปู่ท่านย่าเหมือนเมื่อวานนี้ ทั้งยังบอกเล่าเรื่องการหาหน่อไม้ป่าและแจกจ่ายชาวบ้านให้พวกท่านฟังด้วยรอยยิ้มเช่นเคย เฒ่าชราทั้งสองต่างยิ้มและลูบหัวเล็ก ๆ ของซูซูพร้อมกับชมว่านางช่างเป็นเด็กที่รู้ความนัก

“ท่านปู่ ท่านย่า พวกเรารีบเข้าบ้านกันก่อนเจ้าค่ะ ข้ามีของดีมาให้ท่านด้วยนะเจ้าคะวันนี้ แต่เรื่องนี้พวกท่านต้องเก็บเป็นความลับนะเจ้าคะ”

          เหอหยางเปากับซวงหยวนเอ๋อได้แต่หันมองหน้ากันอย่างสงสัยว่าหลานสาวตัวน้อยของพวกเขาซ่อนอะไรเอาไว้ในน้ำเต้าของนางกัน แต่พวกเขาก็ยังเดินตามหลังหลานสาวตัวน้อยเข้าบ้านกันอย่างที่นางต้องการ

          ซูซูที่เห็นว่าท่านปู่ท่านย่าเข้าบ้านมาแล้วนางก็รีบปิดประตูแล้วจับมือทั้งสองผู้เฒ่ามานั่งลงดี ๆ ก่อนที่พวกเขาจะตกใจจนเป็นอะไรไปหากเห็นโสมของนาง

“ท่านปู่ ท่านย่า ท่านลองดูก่อนว่านี่คืออะไร ข้าบังเอิญเจอมันอยู่บนเขา จึงได้นำมาให้พวกท่านทั้งสองต้มทานเพื่อบำรุงร่างกายเจ้าค่ะ” ซูซูหยิบโสมหนึ่งต้นออกมาให้ทั้งสองคนดู โดยนางวางโสมเอาไว้ที่โต๊ะต่อหน้าท่านปู่ท่านย่าพร้อมรอยยิ้มอย่างสมใจที่นางสามารถทำตามที่ตนเองเคยสัญญาเอาไว้นานแล้วว่าจะหาโสมมาบำรุงร่างกายพวกท่าน วันนี้นางทำได้แล้ว

“นี่มันโสมนี่นา ซูซูเจ้าไปได้มาจากที่ไหนกัน บนเขายังไม่เคยมีใครหาโสมเจอมาก่อน นี่เจ้าเข้าไปถึงส่วนใดของภูเขากันแน่”

“โธ่ ท่านปู่เจ้าคะ ข้าก็ขึ้นเขาไปปกตินั่นแหละเจ้าค่ะ แต่ข้าคิดว่าชาวบ้านน่าจะไม่รู้จักใบของโสมจึงไม่ได้ขุดไป ส่วนข้าที่พอจะจดจำได้บ้างเพียงแค่ลองขุดดูเท่านั้น พอเห็นว่าเป็นโสมจริง ๆ ข้าจึงขุดขึ้นมาทั้งหมดสามต้นเลยนะเจ้าคะ อีกต้นหนึ่งข้าจะนำไปให้ท่านปู่หมอ และอีกต้นที่เหลือข้าคิดที่จะเอาเข้าไปขายที่ร้านหมอในเมืองวันพรุ่งนี้เจ้าค่ะ”

“เฮ้อ เจ้านี่นะ อย่าทำให้ปู่กับย่าเจ้าเป็นห่วงจะได้หรือไม่ แล้วเจ้าไม่เสียดายหรือที่ต้องนำโสมมาให้ปู่กับย่าต้มกินน่ะ”

“ข้าจะเสียดายไปทำไมกันเล่าเจ้าคะ ข้าอยากให้พวกท่านแข็งแรงและอยู่กับข้าไปนาน ๆ จึงได้นำมาให้พวกท่านอย่างไรเล่าเจ้าคะ”

“โธ่เอ้ย เจ้าเด็กโง่ เจ้าไม่รู้หรืออย่างไรว่าโสมมีราคาแพงแค่ไหนน่ะ”

“ข้ารู้เจ้าค่ะ แต่ข้าเป็นห่วงพวกท่านมากกว่าเงินทองนี่เจ้าคะ ไม่รู้แหละ อย่างไรข้าก็จะนำมันมาต้มให้พวกท่านกินบำรุงร่างกายอยู่ดีเจ้าค่ะ”

          สองเฒ่าได้แต่ส่ายหัวทั้งรอยยิ้มกับความเป็นห่วงของเจ้าตัวน้อยตรงหน้า แน่นอนว่าพวกเขาดีใจที่เห็นนางกตัญญูเช่นนี้ ถ้าอย่างนั้นพวกเขาก็ยิ่งต้องบำรุงร่างกายอย่างที่ซูซูบอกเอาไว้ให้ดี เพื่อจะได้อยู่ดูแลนางจนเติบใหญ่ไปอีกหลายปี

          เมื่อซูซูเห็นว่าท่านปู่ท่านย่านั้นยอมรับแล้ว นางจึงขออนุญาตนำโสมอีกต้นไปให้ท่านปู่หมอสักพัก ก่อนจะกลับมาทานข้าวเย็นกับพวกท่านทีหลัง เหอหยางเปากับซวงหยวนเอ๋อได้แต่ต้องอนุญาตให้นางรีบไปรีบกลับ พวกเขาเองก็จะได้มีเวลาช่วยกันทำอาหารให้ซูซูเช่นเดียวกัน ไหนพวกเขายังจะต้องต้มโสมบำรุงร่างกายอีก ทั้งสองเฒ่าต่างตกลงกันว่าจะหั่นโสมเป็นชิ้น ๆ แล้วทยอยต้มวันละชิ้นจนกว่าจะหมด แทนที่การต้มกินเพียงครั้งเดียว อย่างไรพวกเขาก็แก่มากแล้ว จึงเกรงว่าหากกินโสมเข้าไปในคราวเดียวแล้วจะทำร้ายร่างกายมากกว่าการบำรุง

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ซูซูข้ามมิติมามีครอบครัว   ตอนที่ 8

    ซูซูที่เห็นว่าท่านปู่ท่านย่าไม่ได้ว่าอันใดที่นางจะไปบ้านปู่หมอ นางจึงเดินเร็ว ๆ ออกจากบ้านไปเพื่อจะได้รีบกลับมาช่วยท่านปู่ท่านย่าทำอาหารด้วย ซูซูใช้เวลาเดินไปบ้านหมอไม่ถึงหนึ่งเค่อ จากนั้นนางก็ตะโกนเรียกท่านปู่หมอเหมือนเมื่อวานไม่มีผิดเพี้ยน หมอรีบเดินออกมาเปิดประตูรั้วให้ซูซูเข้าไปในบ้านเช่นเคย เขาพานางมานั่งที่แคร่ก่อนจะเอ่ยถามว่าวันนี้นางมีเรื่องอันใดอีกจึงได้มาหาเขา ซูซูไม่ตอบแต่กลับยิ้มหวานให้ท่านปู่หมอพร้อมกับค่อย ๆ หยิบโสมอีกต้นออกมาจากอกเสื้อแล้วส่งให้กับปู่หมอที่ดูจะตกตะลึงไปเสียแล้ว“นี่ข้าเก็บมาให้ท่านปู่หมอเจ้าค่ะ ท่านรีบรับไปสิเจ้าคะ อย่าให้ใครเห็นนะเจ้าคะ เร็วๆ เข้าท่านปู่หมอ” เมื่อหมอได้ยินเสียงเล็ก ๆ เร่งเร้าเขาก็กลับมาได้สติและรีบสำรวจโสมในมือซึ่งพบว่าซูซูนั้นขุดมาได้อย่างสมบูรณ์มาก ไม่มีรากเล็ก ๆ ขาดแม้แต่เส้นเดียว“เจ้าไปได้มาอย่างไรกันซูซู ชาวบ้านขึ้นเขากันทุกวันกลับไม่เคยพบโสมแม้แต่ต้นเดียวมานานหลายปีแล้ว อีกอย่างเจ้าขุดมาได้สมบูรณ์มากอย่างไม่น่าเชื่อ นี่เจ้ามีความรู้เรื่องสมุนไพรด้วยหรืออย่างไร”“ชู่ว ท่านปู่หมอพูดเบา ๆ สิเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-02
  • ซูซูข้ามมิติมามีครอบครัว   ตอนที่ 9

    สองปู่หลานรอกันไม่นานนักก็ได้ยินเสียงเปิดประตู ทั้งสองคนหันหลังกลับไปดูก็พบว่ามีชายชราเครายาวคนหนึ่งเดินนำเข้าห้องมา ส่วนพนักงานร้านก็ถือถาดน้ำชามาวางให้กับพวกเขาก่อนจะออกจากห้องพร้อมกับปิดประตู“คนของข้าบอกว่าพวกท่านมาขายโสมใช่หรือไม่?”“อ่า ใช่แล้วขอรับ พวกเรามาขายโสมขอรับ เชิญเถ้าแก่ดูโสมต้นนี้ให้พวกข้าปู่หลานด้วยนะขอรับว่าน่าจะขายได้ราคาเท่าไหร่”“อืม เป็นหน้าที่ของข้าอยู่แล้ว” เถ้าแก่ร้านหมอตรวจสอบความสมบูรณ์ของต้นโสมก็พบว่าคนขุดขุดได้อย่างดีจนแม้แต่รากแก้วเล็ก ๆ ก็ไม่มีความเสียหายเลยแม้แต่น้อย ไม่นานนักหลังจากตรวจสอบอายุของโสมแล้วพบว่าโสมต้นนี้มีอายุ 70 ปีซึ่งหาไม่ได้ง่าย ๆ ในพื้นที่แถวนี้ เถ้าแก่ร้านเงยหน้าขึ้นจากการดูโสมแล้วตีราคาให้สองปู่หลานตรงหน้าเขา“ข้ารับซื้อโสมต้นนี้ที่ 700 ตำลึง เจ้าคิดว่าอย่างไร?”“เอ่อ โสมต้นนี้สมบูรณ์มากเลยนะขอรับ ไม่ทราบว่าเถ้าแก่พอจะเพิ่มราคาให้พวกเราอีกหน่อยจะได้หรือไม่ขอรับ” ซูซูตัวน้อยหรี่ตามองเถ้าแก่ที่ให้ราคาโสมอายุ 70 ปีของนางเพียงแค่ 700 ตำลึง ต้องรู้ว่าแถบนี้ไม่มีใครเคยหาโสมมาขายที่ร้านหมอแม้แต่น้อย อีกอย่างโ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-02
  • ซูซูข้ามมิติมามีครอบครัว   ตอนที่ 10

    เมื่อสองปู่หลานมาถึงตลาดสดแล้ว เหอหยางเปาก็พาหลานสาวไปที่ร้านขายเนื้อหมูตามที่นางต้องการ ซูซูชี้ ๆ เอาทั้งเนื้อหมูและกระดูกเพื่อนำไปต้มซุปให้กับท่านปู่ท่านย่ากินบำรุงร่างกาย ส่วนผักนั้นนางซื้อไม่มากนักเพราะท่านปู่บอกว่าที่สวนมีผักอีกมากนัก เหอหยางเปาถือเนื้อหนัก ๆ แทนหลานสาว ส่วนซูซูนั้นถือเพียงผักไม่กี่ต้นเท่านั้น ขณะที่กำลังเดินออกจากตลาด ซูซูก็เงยหน้าหันไปหาท่านปู่เพื่อขอให้ท่านพาไปที่ร้านขายเสื้อผ้าต่อ“เหตุใดเจ้าต้องไปร้านขายเสื้อผ้าด้วยเล่า ท่านย่าเจ้าเย็บเอาไว้ให้หลายตัวแล้วนี่นา”“โธ่ ท่านปู่เจ้าคะ ข้าใช่ว่าอยากได้เสื้อผ้าของตัวเองอย่างเดียวเสียเมื่อไหร่เล่า ข้าอยากซื้อให้ท่านปู่กับท่านย่าต่างหากเล่าเจ้าคะ ส่วนของข้าที่ต้องซื้อเพิ่มเพราะท่านย่าอายุมากแล้ว หากปล่อยให้นั่งเย็บนาน ๆ สายตาท่านย่าจะเสียเอาได้”“อ้อ เช่นนั้นปู่ก็จะพาเจ้าไป ปู่คิดน้อยไปจริง ๆ ขอบใจเจ้ามากนะซูซูที่ช่วยปู่ดูแลย่าของเจ้าน่ะ”“แน่นอนว่าต้องเป็นหน้าที่ของหลานสาวที่น่ารักคนนี้ของท่านปู่อยู่แล้วเจ้าค่ะ ฮิ ฮิ ท่านปู่ใยจะต้องขอบคุณข้าอีกเล่าเจ้าคะ”“เฮ้อ เจ้านี่นะ นับว่าข้าคิดไม่ผิดที่พาเจ้ามาอยู่ด้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-02
  • ซูซูข้ามมิติมามีครอบครัว   ตอนที่ 11

    ท่านย่าที่ออกมาดูหน้าบ้านว่าเสียงใครมาเอะอะกันก็ได้แต่มองรถเข็นพร้อมกับสิ่งของมากมายในรถอย่างตกตะลึง นางได้แต่กระซิบถามสามีว่านี่มันอะไรกัน เหอหยางเปาได้แต่บอกให้ภรรยาช่วยกันขนของเข้าบ้านเสียก่อนค่อยคุยกันก็ยังไม่สาย ซวงหยวนเอ๋อกับซูซูที่ปิดประตูเรียบร้อยแล้วก็เข้ามาช่วยยกของเข้าไปในบ้านด้วยเช่นเดียวกัน หลังจากทุกคนช่วยกันขนสิ่งของเข้าบ้านเรียบร้อยแล้ว เหอหยางเปาก็นำรถเข็นไปเก็บไว้ที่ด้านข้างของบ้าน จากนั้นเขาก็เดินกลับเข้าบ้านเพื่อพูดคุยกับภรรยา ส่วนซูซูก็รีบออดอ้อนท่านย่าอย่างรู้งาน นางรู้ดีว่าท่านย่าจะต้องบ่นว่าซื้อของมาเยอะเกินไปเป็นแน่ แต่นี่เป็นความกตัญญูของนางที่อยากจะทำให้กับท่านปู่ท่านย่านี่นา“ว่าอย่างไรตาเฒ่า เหตุใดเจ้าจึงซื้อของมาเสียมากมายขนาดนี้ เจ้าไปเอาเงินมาจากไหนเยอะแยะกัน”“เพ้ย!!! เจ้าไม่ถามหลานสาวสุดที่รักเจ้าดูเล่า ข้าหรือจะมีเงินมากมาย เป็นนางที่ไปขายโสมได้เงินมาแล้วจึงอยากซื้อสิ่งของเหล่านี้เข้าบ้านต่างหากเล่า”“จริงหรือซูซู?”“เจ้าค่ะท่านย่า ข้าไม่อยากให้ท่านปู่ ท่านย่าลำบากมากนัก เมื่อมีเงินเหลือกินเหลือใช้แล้ว ข้าก็อยากนำสิ่งดี ๆ มาให้พวก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-02
  • ซูซูข้ามมิติมามีครอบครัว   ตอนที่ 12

    ซูซูที่ไม่รู้ว่าอีกไม่นานจะมีคนมาแย่งเห็ดของนางก็ได้แต่ต่อสู้กับงูสายรุ้งตัวใหญ่อย่างเต็มกำลัง ขณะที่งูชูคอขึ้นมาเพื่อจะเลื้อยมาทำร้ายนาง ซูซูก็บังคับกระบี่บินไปยังจุดตายของงูสายรุ้งที่อยู่ใต้ลำคอของมันจนกระบี่เสียบทะลุเข้าไปจนมิดด้าม ซูซูมองไปยังงูสายรุ้งที่นางต่อสู้ด้วยอย่างยากลำบาก ในที่สุดนางก็ปราบมันลงได้เสียที จากนั้นซูซูบังคับกระบี่บินให้ออกมาจากตัวงูแล้วเก็บกระบี่เข้าไปในกำไลเก็บของของนาง ซูซูใช้วิชาตัวเบาข้ามผ่านร่างของงูสายรุ้งตัวใหญ่ยักษ์ไปยังเห็ดสีรุ้งที่นางต้องการและรีบใช้มีดสั้นแซะเห็ดออกมาจากตอไม้ทันที ขณะที่นางกำลังจะเก็บเห็ดเข้าไปไว้ในกำไลเก็บของ ซูซูได้ยินเสียงเกือกม้ากลุ่มหนึ่งใกล้เข้ามาเต็มที นางหันไปมองทางเสียงที่ได้ยิน พอเห็นว่ามีคนสวมหน้ากากและคนอีกนับสิบขี่ม้ามาหยุดห่างจากจุดที่งูสายรุ้งตายไม่ไกลนัก อ๋องเฉิงที่เห็นซูซูถือเห็ดสีรุ้งเอาไว้ในมือก็ได้แต่ขมวดคิ้ว คราวนี้พระองค์มีภารกิจตามหาเห็ดสีรุ้งเพื่อนำไปใช้เป็นตัวยาหลักในการแก้พิษขององค์รัชทายาท แต่ตอนนี้กลับมีแม่นางน้อยที่ได้ไปเสียก่อน“เจ้าเป็นคนฆ่างูสายรุ้งเองเหรอแม่นาง?”“ใช่แล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-02
  • ซูซูข้ามมิติมามีครอบครัว   ตอนที่ 13

    ซูซูที่เก็บซากงูเสร็จแล้วก็ลืมเรื่องของเจ้าหน้ากากไปในทันที นางสำรวจดูในตะกร้าก็พบว่าไม่ค่อยมีอะไรนอกจากสมุนไพรเล็กน้อยที่จะนำไปฝากท่านปู่หมอเท่านั้น ซูซูเห็นว่าใกล้จะเย็นแล้วจึงได้ใช้วิชาตัวเบาไปที่ป่าไผ่เพื่อนำหน่อไม้สักสองสามหน่อกลับไปให้ท่านย่าทำอาหารให้นางกับท่านปู่กิน ซูซูไม่ได้เก็บหน่อไม้ให้กับท่านย่านานแล้ว หลังจากนางออกล่าสัตว์ก่อนหน้านี้ ไหน ๆ วันนี้นางก็อยู่ที่เขาลูกนี้แล้ว ซูซูจึงคิดอยากกินขึ้นมาเสียอย่างนั้น หลังจากซูซูเก็บหน่อไม้ได้ตามที่ต้องการแล้ว นางก็เก็บตั๋วแลกเงินเข้าไปในกำไลเก็บของของนางพร้อมรอยยิ้ม อย่างน้อย ๆ นางก็มีเงินสำหรับการออกเดินทางท่องโลกกว้างเพื่อตามหาครอบครัวของร่างเดิมแล้ว ซูซูไม่คิดมากที่นางต้องเสียเห็ดสีรุ้งไป ถึงอย่างไรวิชาสะสมลมปราณของนางก็ช่วยนางได้มากอยู่แล้ว ยิ่งหากนางได้กินดีงูที่มีสรรพคุณป้องกันพิษได้แทบทุกชนิดแล้วล่ะก็ ซูซูยิ่งคิดว่าน่าจะถึงเวลาที่นางจะต้องออกเดินทางเสียที ตอนนี้นางอายุ 14 ย่าง 15 ปีแล้วด้วย หากยังคงรอไปนานกว่านี้ ซูซูกลัวว่านางจะไม่อยากจากท่านปู่ ท่านย่าไปแน่ ๆ ช่วงเจ็ดปีที่ผ่านมา บรรดาลูกชายขอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-02
  • ซูซูข้ามมิติมามีครอบครัว   ตอนที่ 14

    ซูซูเดินกลับบ้านในเวลาไม่นานนัก นางเข้าบ้านไปอย่างเคยชิน แน่นอนว่าตอนนี้อาหารหลายอย่างท่านปู่กับท่านย่าตั้งโต๊ะรอนางอยู่ก่อนแล้วพร้อมรอยยิ้ม“รีบมานั่งกินข้าวเร็วเข้า เจ้านี่นะ อาหารที่ย่าห่อไว้ให้ก็ไม่ยอมกิน มารีบกินข้าวก่อนแล้วค่อยมาคุยกันทีหลัง”“เจ้าค่ะท่านย่า ขอโทษด้วยที่หลานลืมกินเพราะมัวแต่หาสมุนไพรมาฝากท่านปู่หมออยู่น่ะเจ้าค่ะ” ซูซูพูดพร้อมกับนั่งลงยังตำแหน่งประจำของตนเอง นางคีบอาหารให้กับปู่และย่าของนางอย่างคุ้นเคย ทั้งสองคนเองก็ต่างพากันคีบอาหารใส่ถ้วยให้ซูซูเช่นเดียวกัน พวกเขาต่างกินอาหารอย่างไม่เร่งรีบ กระทั่งทุกคนกินข้าวเสร็จ ซูซูลุกขึ้นเก็บจานชามไปล้างตามปกติ ส่วนสองเฒ่าชราก็พากันมานั่งดื่มน้ำอุ่นรอซูซูที่พวกเขาดูเหมือนว่านางมีเรื่องจะพูดด้วย รอกันไม่นาน ซูซูก็มานั่งข้าง ๆ ท่านย่าของนางพร้อมกับกอดแขนและซบลงที่ไหล่ของซวงหยวนเอ๋อ ซวงหยวนเอ๋อหันมองหน้าสามีและลูบหัวให้กำลังใจซูซูเพื่อพูดสิ่งที่ต้องการออกมา“ท่านย่า ท่านปู่ ตอนนี้ข้าก็โตขึ้นมากแล้ว ข้าอยากออกไปตามหาครอบครัวข้าเจ้าค่ะ” เหอหยางเปากับซวงหยวนเอ๋อถึงกับใจหายแว๊บไปหลังจบประโยค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-02
  • ซูซูข้ามมิติมามีครอบครัว   ตอนที่ 15

    “เพ้ย!!! เรื่องดีบ้านเจ้าน่ะสิ ข้าไม่ยอมให้พวกเจ้าพาหลานสาวข้าไปทรมานอีกหรอกนะ แล้วอีกอย่างมีใครไม่รู้บ้างว่าลูกชายคนที่สามของเจ้าสอบขุนนางสามครั้งไม่เคยผ่านแม้แต่ครั้งเดียว แถมข้ายังได้ข่าวมาอีกว่าลูกชายคนที่สามของเจ้าสำมะเลเทเมากับเหล่าบัณฑิตสอบตกอยู่ในเมืองบ่อย ๆ น่ะ รู้อย่างนี้แล้วเจ้ายังกล้าหาแม่สื่อมาสู่ขอหลานสาวคนดีของข้าอีกหรืออย่างไร”“โธ่ ท่านผู้ใหญ่บ้านเจ้าคะ ก็เพราะลูกชายข้าสอบไม่ผ่านเลยกลับมาอยู่ที่บ้านกับข้าอย่างไรเล่าเจ้าคะ ตอนนี้ลูกใหญ่กับลูกรองก็สอบผ่านหมดแล้ว ค่าใช้จ่ายในบ้านก็เป็นพวกเขาส่งมาให้กับข้าทุกเดือน ข้าเองก็สั่งสอนลูกสามไปแล้วว่าหากให้เขาแต่งงานเขาจะต้องตั้งใจทำมาหากินเลี้ยงดูครอบครัวนะเจ้าคะ ท่านผู้ใหญ่บ้านจะไม่ให้โอกาสลูกชายข้าหน่อยหรือเจ้าคะ อีกอย่างซูซูก็ถึงวัยออกเรือนแล้วด้วย หากครอบครัวข้าไม่มาสู่ขอ จะมีใครกล้าขอเด็กกำพร้าอย่างนางเล่าเจ้าคะ”“เพ้ย!!! เจ้าคิดว่าพวกข้าสองคนโง่กันหรืออย่างไร เจ้ารีบไสหัวออกจากบ้านข้าไปซะ อีกอย่างหลานสาวข้าไม่ใช่เด็กกำพร้า นางยังมีครอบครัวที่รออยู่เสมอ พวกเขาอาจมีเหตุจำเป็นจนไม่สามารถกลับมาตามหาซูซูได้ก็ได้ เจ้าไม่ต้องมาท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-02

บทล่าสุด

  • ซูซูข้ามมิติมามีครอบครัว   ตอนที่ 80

    อ๋องเฉิงที่เดินถือถุงผ้าใส่เครื่องประดับนำหน้าซูซูกับแม่ของนางกำลังจะก้าวออกจากประตูร้าน แต่เขากลับถูกเสียงถวายพระพรเสียงดังหยุดเอาไว้ก่อน“ถวายพระพรท่านอ๋องพะย่ะค่ะ กระหม่อมหลานเหอเสนาบดีคลัง ขอพระราชทานอภัยแทนบุตรสาวผู้โง่เขลาที่กล้ามาทำให้พระองค์ต้องทรงกริ้ว นี่เป็นของมีค่าประจำตระกูลของกระหม่อม กระหม่อมขอมอบให้ท่านอ๋องแทนคำขอโทษ ท่านอ๋องทรงโปรดรับเอาไว้ด้วยพะย่ะค่ะ” อ๋องเฉิงชายตามองคนที่คุกเข่าอยู่เบื้องหน้าอย่างไม่สบอารมณ์นัก แต่ซูซูที่ได้ยินคำพูดของเสนาบดีคลังกลับอยากรู้อยากเห็นว่าเขานำสิ่งใดมามอบให้กับว่าที่สามีของนางกัน นางจึงปล่อยมือออกจากแขนของท่านแม่แล้วเดินไปอยู่ด้านข้างท่านอ๋องพร้อมกับมองดูการกระทำของเสนาบดีคลังที่ยังคงคุกเข่ายกกล่องของขวัญขึ้นเหนือหัวเพื่อถวายท่านอ๋อง“นี่ เจ้าน่ะ เปิดออกมาดูสิว่าของมีค่าของตระกูลเจ้าเป็นอะไร หากเป็นสิ่งของทั่วไปท่านอ๋องของข้าคงไม่คิดจะรับมาให้รกจ

  • ซูซูข้ามมิติมามีครอบครัว   ตอนที่ 79

    ไม่ถึงหนึ่งเค่อทั้งสามคนก็มาถึงหน้าร้านเครื่องประดับตระกูลฟาง ผู้จัดการร้านรีบออกมาต้อนรับเจ้านายใหญ่ทั้งสามอย่างตื่นเต้น เขารู้ดีว่าหากฮูหยินมาร้านเมื่อไหร่ ที่ร้านมักจะขายเครื่องประดับชุดใหญ่ ๆ ได้เสมอ ถึงแม้รายได้ทั้งหมดจะกลับไปยังตระกูลฟางก็เถอะ แต่ก็ทำให้เขามีผลงานไม่น้อยเช่นเดียวกับผู้จัดการร้านคนอื่น“เจ้าพาพวกข้าไปที่ห้องรับรองก่อน แล้วค่อยนำชุดเครื่องประดับใหม่ ๆ ออกมาให้ข้ากับลูกเลือกสักหลายชุด ของพวกนี้จะถูกนำไปเป็นสินเดิมให้กับลูกสาวข้า”“ขอรับนายหญิง เชิญด้านในเลยขอรับ” ผู้จัดการร้านสั่งให้คนงานรีบไปนำของว่างกับน้ำชาตามไปที่ห้องรับรองทันที ส่วนเขาก็ทำหน้าที่เดินนำทั้งสามคนไปยังห้องบนชั้นสองซึ่งเป็นห้องประจำที่ฮูหยินมักจะมาตรวจสอบบัญชีที่ร้านทุก ๆ สามเดือน เมื่อเข้าไปในห้องรับรองแล้ว ผู้จัดการร้านก็ขอให้พวกเขารอสัก

  • ซูซูข้ามมิติมามีครอบครัว   ตอนที่ 78

    ซูซูได้แต่ส่งสายตาไม่พอใจกลับไปให้อ๋องเฉิงที่ยืนอยู่หน้าประตูร้าน นางล่ะเบื่อจริง ๆ ที่มีคนคอยมาหาเรื่องนางเพราะเขาเนี่ย แต่ทำอย่างไรได้เล่า ในเมื่อนางเองก็กำลังจะแต่งงานกับเขาในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าแล้ว ซูซูจึงทำได้เพียงพยักหน้าและปล่อยให้เขาจัดการเรื่องราวอย่างที่เขาต้องการ“เจ้าเป็นใครจึงได้คิดจะมาพูดสุ่มสี่สุ่มห้าต่อหน้าว่าที่พระชายาของข้า” เสียงเย็น ๆ ของอ๋องเฉิงทำเอาบุตรสาวเสนาบดีคลังถึงกับตัวสั่นอย่างหวาดกลัว นางไม่คิดว่าท่านอ๋องจะเสด็จมาที่นี่ ความจริงนางเห็นซูซูในงานเมื่อคืนนี้แล้วจึงได้อิจฉาที่นางได้ท่านอ๋องไปครอง หลานเสี่ยวชิงจึงได้หาเรื่องพวกนางสองแม่ลูกเช่นนี้ อีกอย่างวันนี้นางพาองครักษ์ประจำตัวมาถึงสี่คน นางจึงไม่กลัวว่าซูซูจะรอดพ้นจากคนของนางได้ หลานเสี่ยวชิงได้แต่รีบหันหลังกลับไปถวายพระพรอ๋องเฉิงอย่างเต็มพิธีการพร้อมกับก้มหน้าลง บรรดาบ่าวรับใช้และอง

  • ซูซูข้ามมิติมามีครอบครัว   ตอนที่ 77

    ฟางเซียนหลงที่ประคองภรรยาเดินกลับห้องอยู่ หันหลังไปบอกพ่อบ้านให้นำน้ำมาให้พวกเขาล้างหน้าล้างตาก่อนเข้านอน พ่อบ้านรีบรับคำแล้วเดินไปสั่งบ่าวให้นำน้ำมาให้ในเวลาไม่นานนัก จากนั้นฟางเซียนหลงก็บอกให้พวกเขาไปพักผ่อน พรุ่งนี้ค่อยมานำอ่างน้ำออกไป พ่อบ้านกับบ่าวทั้งสองจึงจากไปตามคำสั่งของฟางเซียนหลง สองสามีภรรยาต่างล้างหน้าล้างตาและเปลี่ยนเป็นชุดนอนก่อนที่จะพากันขึ้นไปนอนบนเตียง ฟางเซียนหลงที่รักลูกสาวมากนอนไม่หลับเพราะไม่อยากให้นางออกเรือนเร็วเช่นนี้ มู่อิงเอ๋อเห็นสามีเป็นเช่นนี้ก็ได้แต่ถอนหายใจ“ท่านพี่อย่าคิดมากเลยนะเจ้าคะ ถึงแม้ซูซูจะออกเรือนไปแล้ว เราก็ยังสามารถไปเยี่ยมลูกได้ตลอด ไม่เหมือนกับก่อนที่พวกเราจะพบนาง ที่เราพ่อแม่ไม่รู้แม้กระทั่งว่าลูกของเรานั้นอยู่ที่ไหน”“อืม… พี่แค่เป็นห่วงลูกน่ะน้องหญิง”“ท่านพี่ก็เห็นในงานเลี้ยงแล้วไม่ใช่หรือเจ้าคะ ว่าท

  • ซูซูข้ามมิติมามีครอบครัว   ตอนที่ 76

    หลังการแสดงของกรมพิธีการ ขันทีก็ขานเรียกเหล่าบุตรสาวขุนนางทั้งหลายที่เตรียมการแสดงมาแต่แรกให้ขึ้นมาแสดงทีละคน ซึ่งการแสดงของพวกนางไม่ร่ายรำก็เล่นพิณหรือไม่ก็วาดภาพเขียนอักษรเท่านั้น การแสดงที่ซ้ำซากทำให้หลายคนเบื่อหน่ายไม่น้อย รวมทั้งฮ่องเต้กับฮองเฮาที่ไม่ได้แปลกใจนัก พวกเขาชมการแสดงและมอบรางวัลเพียงเล็กน้อยเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้พวกนางเท่านั้น เพราะพวกเขาประทับใจการแสดงของซูซูมากกว่า จึงมองไม่เห็นถึงความสามารถเดิม ๆ ของเหล่าบุตรสาวขุนนางเหล่านี้ อ๋องเฉิงเองก็ไม่ปรายตามองการแสดงของพวกนางแม้แต่น้อย พระองค์เอาแต่ดูแลอาหารการกินให้กับซูซูเท่านั้น ซูซูเองก็ไม่ชอบการแสดงที่ชวนง่วงเช่นนี้ นางจึงเอาแต่กินอาหารที่อ๋องเฉิงให้คนนำมาเพิ่ม ไหนจะขนมต่าง ๆ ที่อร่อยมากอย่างที่นางไม่เคยกินมาก่อน กระทั่งการแสดงทั้งหมดจบลง ฮ่องเต้เห็นว่าสมควรแก่เวลาแล้วจึงสั่งเลิกงานเลี้ยง พระองค์กับฮองเฮาเสด็จกลับก่อนเหมือนเช่นทุกครั้ง ส่

  • ซูซูข้ามมิติมามีครอบครัว   ตอนที่ 75

    อ๋องเฉิงที่ถูกเรียกชื่อได้แต่ต้องยืนขึ้นคำนับฮ่องเต้ผู้เป็นลุงพร้อมกับตอบคำถามที่เสด็จลุงของเขาสอบถามมา“ขอบพระทัยเสด็จลุงพะย่ะค่ะ หลานอยากได้เพียงพระราชโองการไม่รับหญิงอื่นเข้าจวนนอกจากว่าที่พระชายาฟางซูซูพะย่ะค่ะ ควรมิควรแล้วแต่เสด็จลุงจะทรงโปรดพะย่ะค่ะ”“หืม… เจ้าแน่ใจหรือ?”“แน่ใจพะย่ะค่ะเสด็จลุง” ขุนนางที่หวังจะให้บุตรสาวเข้าจวนอ๋องได้แต่รีบลุกขึ้นไปคุกเข่ากราบทูลฮ่องเต้ว่าเรื่องนี้จะเป็นการผิดธรรมเนียมของราชวงศ์ที่มักจะต้องมีทายาทให้มากเข้าไว้มาแต่ไหนแต่ไร“ทูลฝ่าบาท กระหม่อมคิดว่าท่านอ๋องขอเช่นนี้ไม่ค่อยจะเหมาะสมนักพะย่ะค่ะ ตั้งแต่โบราณมา ราชวงศ์ต่างต้องมีพระชายาเอก พระชายารอง รวมทั้งอนุทั้งหลายเพื่อให้มีทายาทมาสานต่อหน้าที่ให้มากไว้นะพะย่ะค่ะ” &nb

  • ซูซูข้ามมิติมามีครอบครัว   ตอนที่ 74

    รถม้าสองคันใช้เวลาไม่นานก็เดินทางมาถึงหน้าพระราชวัง งานในวันนี้จัดขึ้นที่ลานด้านหน้าท้องพระโรงซึ่งมีพื้นที่กว้างขวาง เหล่าครอบครัวรองแม่ทัพ และนายกองเองก็ได้รับเชิญให้มาเป็นครั้งแรกด้วย ไหนจะบรรดาครอบครัวขุนนางที่ชอบนักกับงานเลี้ยงในวังเช่นนี้อีกไม่ใช่น้อย สถานที่การจัดงานจึงต้องใช้บริเวณที่กว้างขวางที่สุดในวัง อ๋องเฉิงลงจากรถม้าก่อนที่จะยื่นมือไปรับมือเล็ก ๆ ของซูซูที่ค่อย ๆ ยื่นออกมาจากรถม้าของพระองค์ เหล่าขุนนางที่เดินทางมาไล่เลี่ยกันต่างมองกันตาค้างด้วยไม่คิดว่าท่านอ๋องจะไปรับคู่หมั้นมางานด้วยพระองค์เองเช่นนี้ ส่วนครอบครัวฟางก็ลงจากรถม้าแล้วเช่นเดียวกัน พวกเขารู้แล้วว่าท่านอ๋องจะนั่งกับซูซู จึงไม่มีใครแปลกใจอะไรที่เห็นปฏิสัมพันธ์ระหว่างคนทั้งสอง ซูซูยิ้มหวานให้กับอ๋องเฉิงที่พระองค์จับมือนางเอาไว้แน่นเหมือนกลัวหายอย่างไรอย่างนั้น ฟางฉือห่าวได้แต่มองบรรยากาศของทั้งสองคนที่ทำเหมือนในโลกนี้มีเพียงพวกเขาสอ

  • ซูซูข้ามมิติมามีครอบครัว   ตอนที่ 73

    ก่อนที่ซูซูจะแต่งตัวเสร็จ อ๋องเฉิงก็มาที่จวนตระกูลฟางเพื่อมารอรับคู่หมั้นของพระองค์ไปร่วมงานพร้อมกัน ทำเอาฟางเซียนหลงกับมู่อิงเอ๋อรีบออกมาต้อนรับท่านอ๋องแทบไม่ทัน“พวกท่านตามสบาย ข้าแค่มารอซูซูเพื่อไปที่งานพร้อมกันเท่านั้น พวกท่านไปแต่งตัวให้เสร็จเสียก่อนเถอะ ข้าไม่ได้รีบร้อนอันใด”“พะย่ะค่ะ/เพคะ ท่านอ๋อง” ฟางเซียนหลงสั่งพ่อบ้านให้ดูแลท่านอ๋องอย่างดี ตอนนี้พวกเขายังแต่งตัวกันไม่เสร็จดีเลย ทั้งสองจึงได้แต่ต้องรีบกลับเข้าไปแต่งกายให้เหมาะสมกับงานในวันนี้โดยเร็ว ด้วยพวกเขาไม่อยากให้ท่านอ๋องต้องรอนาน ด้านมู่อิงเอ๋อก็ให้คนไปดูว่าบุตรสาวนางแต่งตัวเสร็จหรือยัง เพราะตอนนี้ท่านอ๋องมารอนางแล้ว ซูซูที่วันนี้ใส่ชุดสีม่วงอ่อนประดับด้วยดิ้นเงินลายดอกโบตั๋นก็พอใจกับชุดนี้ไม่น้อย นางไม่คิดว่าท่านแม่จะหาชุดสวย ๆ เช่นนี้มาให้นางได้ในเวลาเพียงไม

  • ซูซูข้ามมิติมามีครอบครัว   ตอนที่ 72

    ก่อนเข้าไปยังโถงรับแขกของเรือนหลัก ฟางฉือห่าวสั่งให้บ่าวเก็บของฝากลงมาให้กับท่านพ่อ ท่านแม่ แล้วเดินตามหลังทุกคนเข้าไปนั่งตามตำแหน่งเดิม“ซูซู ลูกเป็นยังไงบ้าง เหตุใดจึงได้ดำคล้ำเช่นนี้เล่า”“แฮะ ๆ ลูกขี่ม้าตากแดดเจ้าค่ะท่านแม่ ท่านแม่อย่ากังวลเลย อีกไม่กี่วันข้าก็กลับมาขาวเหมือนเดิมแล้วนะเจ้าคะ”“เฮ้อ เจ้านี่นะ เช่นนั้นช่วงนี้แม่จะให้แม่นมกับคนของแม่ไปดูแลช่วยบำรุงผิวให้เจ้าจนกว่าจะหายก็แล้วกัน เจ้ายิ่งดูแลตัวเองไม่เป็นอยู่ด้วย”“ขอบคุณท่านแม่เจ้าค่ะ ลูกเข้าใจแล้ว”“ท่านพ่อ ท่านแม่ขอรับ ของพวกนี้เป็นของฝากจากแคว้นจ้านที่ข้ากับน้องซื้อมาฝากพวกท่าน ลองดูก่อนว่าชอบหรือไม่นะขอรับ” ฟางฉือห่าวเห็นบ่าวยกสิ่งของต่าง ๆ เข้ามามากมายจึงรีบออกหน้าให้พ่อกับแม่ของเขาก่อนที่จะบ่นน้องส

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status