แชร์

ตอนที่ 6

ผู้เขียน: 橙花
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-02 10:51:56

          ซูซูที่กำลังเดินจะไปที่ภูเขาด้านหลังหมู่บ้านพบเห็นเหล่าลุงป้าน้าอาทั้งหลายก็ยิ้มทักทายทุกคนไปตลอดทาง กระทั่งนางเดินไปถึงตีนเขาและมองขึ้นไปยังภูเขาลูกใหญ่เบื้องหน้า ซูซูมองเห็นว่ามีชาวบ้านสิบกว่าคนที่กำลังหาผักป่าและตัดหญ้าหมูกันอยู่ตรงตีนเขา นางรีบเดินเข้าไปทักทายพวกเขาก่อนจะเดินลึกเข้าไปในภูเขาเพื่อหาสมุนไพรและหน่อไม้ป่าที่ร่างเดิมเคยขุดไปฝากชาวบ้านเมื่อนานมาแล้ว

          หลังจากมองชาวบ้านที่อยู่ไกลออกไป นางเห็นว่าพวกเขาไม่ได้สนใจนางแล้ว ซูซูจึงใช้วิชาตัวเบาเข้าป่าลึกไปขุดหน่อไม้ให้ได้เยอะ ๆ เสียก่อนที่จะเริ่มตามหาสมุนไพร อย่างไรนางก็สามารถใช้วิชาตัวเบาค้นหาสมุนไพรดี ๆ ได้ไม่ยากนักภายในเวลาก่อนอาหารเย็น ด้วยความคล่องแคล่วของร่างกายเล็ก ๆ ของนาง ทำให้ซูซูมองเห็นป่าไผ่อยู่ไม่ไกลแล้ว

          เมื่อถึงป่าไผ่ ซูซูก็ก้มหาหน่อไม้ป่าที่ขึ้นอยู่เต็มไปหมด นางยิ้มน้อย ๆ แล้วเริ่มขุดหน่อไม้ด้วยมีดสั้นที่ท่านปู่ท่านย่าให้นางมาป้องกันตัว ด้วยพลังปราณของซูซู ทำให้นางใช้เวลาไม่นานก็ได้หน่อไม้เกือบเต็มตะกร้าสะพายหลังแล้ว แน่นอนว่าสิ่งของแค่นี้ไม่ทำให้นางลำบากแม้แต่น้อย หลังจากมองดูรอบ ๆ แล้วไม่เห็นว่ามีสมุนไพรขึ้นอยู่แถวนี้ ซูซูจึงสะพายตะกร้าแล้วหันมองเข้าไปยังทางขึ้นเขาที่สูงขึ้นไปอีก ไม่นานนักนางก็ตัดสินใจที่จะขึ้นไปบนเขาลึกกว่าที่ร่างเดิมเคยไป ด้วยวิชาตัวเบาอันสูงส่งของนาง ซูซูใช้เวลาไม่ถึงสองเค่อก็ขึ้นไปเกือบถึงยอดเขา นางเห็นว่าที่นี่เป็นป่าดิบชื้นซึ่งมีต้นไม้ใหญ่ปกคลุมไปทั่วบริเวณ ซูซูคิดว่าแถวนี้น่าจะมีสมุนไพรดี ๆ ขึ้นอยู่เป็นแน่ นางจึงเดินมองหาสมุนไพรที่พอจะจำได้ว่าในโลกก่อนนั้นมีสรรพคุณอย่างไรบ้างเพื่อนำไปฝากท่านหมอกับบำรุงร่างกายท่านปู่ท่านย่า

          ซูซูเดินรอบ ๆ บริเวณป่าใหญ่ก็พบกับสมุนไพรไม่น้อยอย่างที่นางคิด ซูซูจึงไม่รอช้าที่จะเก็บสมุนไพรเหล่านี้ใส่ตะกร้าสะพายหลังจนเกือบเต็มแล้ว เมื่อเห็นว่าแทบจะไม่มีพื้นที่ให้เก็บสมุนไพรอีก ซูซูที่มองหาโสมก็ได้แต่ต้องตัดใจในเมื่อแถวนี้ไม่มีแม้แต่ร่องรอยของโสมที่นางอยากได้ นางแหงนมองท้องฟ้าก็พบว่าเลยเวลาเที่ยงไปไม่น้อยแล้ว ขากลับนางยังต้องทำตัวเป็นเด็กแบกของหนักอีก เมื่อคิดไปคิดมาแล้วเห็นว่าหากอยู่ต่อท่านปู่ท่านย่าคงเป็นห่วงนางแย่ ซูซูได้แต่รอพรุ่งนี้แล้วนางจะขึ้นเขาลึกขึ้นไปอีกเพื่อหาสมุนไพร อย่างไรวันนี้นางก็ได้หน่อไม้ไปฝากชาวบ้านกับท่านปู่ไม่น้อยแล้ว ไหนจะสมุนไพรดี ๆ ให้ท่านหมออีกจำนวนหนึ่ง แค่นี้ก็น่าจะเพียงพอสำหรับการขึ้นเขาในวันแรกของนาง

          ซูซูเดินทางลงเขาอย่างไม่เร็วไม่ช้า นางกลัวว่าจะมีคนสงสัยว่าเด็กตัวเล็กแบบนางสามารถขนหน่อไม้หนัก ๆ ได้อย่างไร ซูซูจึงต้องแกล้งทำเหงื่อไหลไคลย้อยและนั่งพักเป็นครั้งคราวเพื่อไม่ให้ถูกสงสัย นางได้แต่ทำใจว่ารอให้นางเติบโตกว่านี้เสียก่อน นางจะได้ไม่ต้องแสดงละครว่าอ่อนแออีกต่อไป

          ระหว่างทางเมื่อนางพบเจอท่านป้าที่เคยช่วยเหลือตนเอง ซูซูก็จะแวะส่งหน่อไม้ให้พวกเขาคนละหน่อสองหน่อ กระทั่งกลับถึงบ้านท่านปู่ก็เหลือหน่อไม้อีกสี่ห้าหน่อซึ่งนับว่าไม่น้อยแล้ว

“ท่านปู่ ท่านย่า ข้ากลับมาแล้วเจ้าค่ะ” ซูซูส่งเสียงไปก่อนที่ร่างเล็ก ๆ จะเข้าบ้าน

“อา เจ้ากลับมาอย่างปลอดภัยก็ดีแล้ว ไหนมาให้ปู่กับย่าดูสิว่าเจ้าได้อะไรมาวันนี้”

“ข้าได้หน่อไม้มาไม่น้อยเลยเจ้าค่ะ ที่เหลือนี่คือของท่านปู่ท่านย่าเอาไว้ทำอาหารอร่อย ๆ ให้ข้ากินอย่างไรเล่าเจ้าคะ ส่วนหน่อไม้จำนวนมากที่ข้านำมา ข้าให้พวกท่านลุงท่านป้าระหว่างทางกันไปคนละหน่อสองหน่อจนเหลือมาเพียงเท่านี้เจ้าค่ะ”

“ซูซูเด็กดี เจ้าทำดีแล้วที่ให้พวกชาวบ้านด้วย ปู่ขอบใจเจ้าแทนชาวบ้านด้วยนะ แล้วนี่พืชพวกนี้ที่เจ้าเก็บมาคืออะไรกัน?”

“อ้อ พวกนี้เป็นสมุนไพรที่ข้าเก็บมาให้ท่านปู่หมอเจ้าค่ะ ข้าพอจะจำได้ว่าพืชหน้าตาแบบนี้เป็นสมุนไพรที่ข้าเคยเห็นท่านปู่หมอตากไว้ที่บ้านน่ะเจ้าค่ะ”

“อืม เจ้าความจำดีเสียจริง ๆ เอาล่ะ เช่นนั้นเจ้าก็เอาสมุนไพรไปให้ปู่หมอของเจ้าเสียก่อนจะถึงเวลาอาหารเย็นเถอะ ปู่กับย่าจะนำหน่อไม้ไปทำอาหารอร่อย ๆ ให้เจ้ากินเพิ่มพลังงานเสียหน่อย”

“เจ้าค่ะท่านปู่ ท่านย่า เดี๋ยวข้ากลับมานะเจ้าคะ”

          ซูซูแยกสมุนไพรออกมาแล้วนำทั้งหมดกอดเอาไว้หลวม ๆ เพื่อไม่ให้สมุนไพรถูกกดทับมากเกินไป นางเดินไม่นานนักก็ไปถึงหน้าบ้านท่านปู่หมอประจำหมู่บ้าน

“ท่านปู่หมอเจ้าคะ ข้าซูซูนำสมุนไพรมาให้เจ้าค่ะ” นางรีบร้องเรียกท่านหมอเพื่อขอเข้าไปในบ้านของเขา

“อ้อ ซูซูเองหรอกรึ เข้ามาก่อน ๆ เด็กคนนี้นำอะไรมามากมาย มาให้ปู่ดูก่อนว่าใช่สมุนไพรจริง ๆ หรือไม่”

“นี่เจ้าค่ะท่านปู่หมอ” ซูซูยื่นสมุนไพรในอ้อมแขนส่งให้กับท่านหมอทั้งหมด

          หมอประจำหมู่บ้านเดินพาซูซูไปนั่งที่แคร่ใต้ต้นไม้หน้าบ้าน เขานั่งคัดสมุนไพรที่ซูซูเก็บมาพร้อมกับพยักหน้าอย่างพอใจ เขาไม่คิดว่าแม่หนูซูซูจะรู้จักสมุนไพรดี ๆ เช่นนี้ หลังจากตรวจสอบจนหมดแล้ว ท่านหมอก็เงยหน้ามายิ้มให้กับซูซู

“แม่หนูซูซูเก่งมากที่รู้จักสมุนไพรดี ๆ เหล่านี้ ปู่จะจ่ายค่าสมุนไพรให้เจ้าดีหรือไม่”

“ข้าไม่ขอรับนะเจ้าคะท่านปู่หมอ เพราะข้าเคยบอกท่านแล้วว่าจะหาของดี ๆ มาตอบแทนที่ท่านช่วยรักษาข้าเมื่อตอนที่ออกมาจากบ้านโจวยังไงเล่าเจ้าคะ ท่านปู่คิดว่าข้าพูดเล่นหรืออย่างไรกัน”

“อ้าว ปู่คิดว่าเจ้าพูดเล่นจริง ๆ เอาล่ะ ๆ อย่าโกรธปู่เลยนะ ถ้าอย่างนั้นปู่ก็ขอบใจเจ้ามากที่หาสมุนไพรมาฝากปู่ เอาไว้เจ้าพบสมุนไพรอีก แล้วปู่จะจ่ายเงินซื้อเจ้าเล็กน้อยดีหรือไม่”

“ไม่ดีเจ้าค่ะ ถ้าข้าอยากขาย ไม่สู้ข้านำไปขายในเมืองไม่ดีกว่าหรือเจ้าคะ ข้าบอกท่านปู่แล้วอย่างไรเล่าว่านำมาฝากท่าน ในเมื่อข้าเองก็จะขึ้นเขาบ่อย ๆ หากพบเห็นอีกโดยบังเอิญ ข้าก็จะนำมาให้ท่านปู่อีกนะเจ้าคะ” ซูซูส่ายหน้าน้อย ๆ อย่างไม่ยอมรับเงินของท่านปู่หมอที่ช่วยรักษาและให้ยาเธอมาตลอดจนร่างกายหายดี

“ตกลง ๆ ปู่ไม่บังคับเจ้าแล้ว เจ้าทำอย่างที่เจ้าสบายใจก็แล้วกันแม่หนูซูซู ปู่ขอบคุณเจ้าอีกครั้งสำหรับสมุนไพรเหล่านี้ก็แล้วกันนะ นี่ก็ใกล้จะถึงเวลาอาหารเย็นแล้ว เจ้ารีบกลับไปก่อนที่ปู่กับย่าของเจ้าจะเป็นห่วงเถอะ”

“เช่นนั้นข้าขอตัวกลับบ้านก่อนนะเจ้าคะ” ซูซูย่อกายคารวะหมอชราอย่างน่ารัก

          หมอชราได้แต่ลูบเคราพร้อมยิ้มรับการคารวะของซูซูตัวน้อย เขาพยักหน้าส่งนางออกจากบ้านไปอย่างมีความสุขที่เห็นเด็กน้อยน่ารักคนนี้แข็งแรงขึ้นมาก ไม่เสียแรงที่เขาคอยหายาบำรุงส่งไปให้ผู้ใหญ่บ้านบ่อย ๆ มาตลอดสามเดือน

          ซูซูเดินไปยิ้มไปด้วยความพอใจที่ท่านปู่หมอไม่ดื้อรั้นที่จะจ่ายเงินให้นางอีก ในเมื่อสมุนไพรพวกนี้เป็นเพียงสมุนไพรทั่วไปสำหรับนางเท่านั้น หากนางต้องการเงินจริง ๆ นางคงตามหาสมุนไพรที่มีราคามากกว่านี้ไปขายในเมืองแทนตั้งนานแล้ว อย่างไรหลังจากนี้นางก็จะขึ้นเขาทุกวันเพื่อไปฝึกเพลงกระบี่และหาสมุนไพรราคาแพงเพื่อเก็บเงินอยู่แล้ว หากเห็นสมุนไพรทั่วไปนางค่อยนำมาฝากท่านปู่หมออีกก็ยังไม่สาย ซูซูเดินไปคิดไปไม่นานนักนางก็มาถึงหน้าบ้านปู่ผู้ใหญ่บ้านแล้ว ซูซูร้องบอกพวกเขาว่านางกลับมาแล้วอย่างร่าเริงด้วยเสียงเล็ก ๆ ของนาง

          สองเฒ่าชราที่ทำอาหารเสร็จได้สักพักแล้วรีบเรียกให้ซูซูเข้ามากินข้าว เพราะมื้อเที่ยงนางขึ้นเขาไปก็ไม่ได้นำอาหารไปด้วย พวกเขาจึงกลัวว่าเด็กน้อยจะหิวมาก ทั้งสองคนจึงช่วยกันเร่งมือทำอาหารหลายจานเสร็จในเวลาไม่นานนัก ซูซูที่เริ่มหิวข้าวจึงไม่ขัดใจท่านปู่ท่านย่า นางเดินไปนั่งลงที่โต๊ะอาหารอย่างเชื่อฟัง ก่อนที่ทั้งสามคนจะกินข้าวพร้อมรอยยิ้มให้กันอย่างอบอุ่น

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ซูซูข้ามมิติมามีครอบครัว   ตอนที่ 7

    หลังทานอาหารเย็นแล้วซูซูก็นำถ้วยชามไปล้างตามปกติ นางมักจะช่วยเหลืองานท่านปู่ท่านย่าตั้งแต่อาการบาดเจ็บเริ่มหายดีมาตลอด ช่วงหลังมานี้ทั้งสองเฒ่าชราเองก็ปล่อยให้นางทำงานได้ตามใจชอบ พวกเขาไม่อยากเลี้ยงนางเหมือนไข่ในหินมากนัก แค่นี้พวกเขาก็ต่างให้ความรักความอบอุ่นกับนางมากพอแล้ว พวกเขากลัวว่าหากดูแลนางมากเกินไป ซูซูคงรู้สึกว่าตนเองเป็นภาระให้กับพวกเขา ซูซูล้างจานเสร็จก็ไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดที่ท่านย่านำเสื้อผ้าเก่า ๆ ของลูกชายนางมาเย็บเป็นเสื้อผ้าให้ซูซูตั้งแต่หลายเดือนก่อนแล้ว ทำให้ตอนนี้ซูซูมีเสื้อผ้าเปลี่ยนถึงห้าชุดเลยทีเดียว ก่อนนอนซูซูก็ยังเข้าไปบอกฝันดีกับท่านปู่ท่านย่าตามที่นางทำมาตลอดตั้งแต่หายจากอาการบาดเจ็บ เฒ่าชราทั้งสองต่างยิ้มพร้อมตอบกลับให้นางหลับฝันดีเช่นเดียวกัน พวกเขาไม่เหงาเลยตั้งแต่มีเด็กน้อยซูซูมาอยู่ร่วมชายคา อีกทั้งซูซูยังคอยช่วยงานพวกเขาไม่น้อยทั้งที่ตัวเล็กเพียงแค่นี้ นับวันยิ่งทำให้ทั้งสองเฒ่านั้นทั้งรักทั้งหลงหลานสาวตัวน้อยคนนี้มากขึ้นทุกวัน หลังอาหารเช้าวันต่อมา ซูซูเตรียมตะกร้าสะพายหลังเพื่อขึ้นเขาอีกครั้ง นางบอกท่านปู่กับท่านย่าแล้วว่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-02
  • ซูซูข้ามมิติมามีครอบครัว   ตอนที่ 8

    ซูซูที่เห็นว่าท่านปู่ท่านย่าไม่ได้ว่าอันใดที่นางจะไปบ้านปู่หมอ นางจึงเดินเร็ว ๆ ออกจากบ้านไปเพื่อจะได้รีบกลับมาช่วยท่านปู่ท่านย่าทำอาหารด้วย ซูซูใช้เวลาเดินไปบ้านหมอไม่ถึงหนึ่งเค่อ จากนั้นนางก็ตะโกนเรียกท่านปู่หมอเหมือนเมื่อวานไม่มีผิดเพี้ยน หมอรีบเดินออกมาเปิดประตูรั้วให้ซูซูเข้าไปในบ้านเช่นเคย เขาพานางมานั่งที่แคร่ก่อนจะเอ่ยถามว่าวันนี้นางมีเรื่องอันใดอีกจึงได้มาหาเขา ซูซูไม่ตอบแต่กลับยิ้มหวานให้ท่านปู่หมอพร้อมกับค่อย ๆ หยิบโสมอีกต้นออกมาจากอกเสื้อแล้วส่งให้กับปู่หมอที่ดูจะตกตะลึงไปเสียแล้ว“นี่ข้าเก็บมาให้ท่านปู่หมอเจ้าค่ะ ท่านรีบรับไปสิเจ้าคะ อย่าให้ใครเห็นนะเจ้าคะ เร็วๆ เข้าท่านปู่หมอ” เมื่อหมอได้ยินเสียงเล็ก ๆ เร่งเร้าเขาก็กลับมาได้สติและรีบสำรวจโสมในมือซึ่งพบว่าซูซูนั้นขุดมาได้อย่างสมบูรณ์มาก ไม่มีรากเล็ก ๆ ขาดแม้แต่เส้นเดียว“เจ้าไปได้มาอย่างไรกันซูซู ชาวบ้านขึ้นเขากันทุกวันกลับไม่เคยพบโสมแม้แต่ต้นเดียวมานานหลายปีแล้ว อีกอย่างเจ้าขุดมาได้สมบูรณ์มากอย่างไม่น่าเชื่อ นี่เจ้ามีความรู้เรื่องสมุนไพรด้วยหรืออย่างไร”“ชู่ว ท่านปู่หมอพูดเบา ๆ สิเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-02
  • ซูซูข้ามมิติมามีครอบครัว   ตอนที่ 9

    สองปู่หลานรอกันไม่นานนักก็ได้ยินเสียงเปิดประตู ทั้งสองคนหันหลังกลับไปดูก็พบว่ามีชายชราเครายาวคนหนึ่งเดินนำเข้าห้องมา ส่วนพนักงานร้านก็ถือถาดน้ำชามาวางให้กับพวกเขาก่อนจะออกจากห้องพร้อมกับปิดประตู“คนของข้าบอกว่าพวกท่านมาขายโสมใช่หรือไม่?”“อ่า ใช่แล้วขอรับ พวกเรามาขายโสมขอรับ เชิญเถ้าแก่ดูโสมต้นนี้ให้พวกข้าปู่หลานด้วยนะขอรับว่าน่าจะขายได้ราคาเท่าไหร่”“อืม เป็นหน้าที่ของข้าอยู่แล้ว” เถ้าแก่ร้านหมอตรวจสอบความสมบูรณ์ของต้นโสมก็พบว่าคนขุดขุดได้อย่างดีจนแม้แต่รากแก้วเล็ก ๆ ก็ไม่มีความเสียหายเลยแม้แต่น้อย ไม่นานนักหลังจากตรวจสอบอายุของโสมแล้วพบว่าโสมต้นนี้มีอายุ 70 ปีซึ่งหาไม่ได้ง่าย ๆ ในพื้นที่แถวนี้ เถ้าแก่ร้านเงยหน้าขึ้นจากการดูโสมแล้วตีราคาให้สองปู่หลานตรงหน้าเขา“ข้ารับซื้อโสมต้นนี้ที่ 700 ตำลึง เจ้าคิดว่าอย่างไร?”“เอ่อ โสมต้นนี้สมบูรณ์มากเลยนะขอรับ ไม่ทราบว่าเถ้าแก่พอจะเพิ่มราคาให้พวกเราอีกหน่อยจะได้หรือไม่ขอรับ” ซูซูตัวน้อยหรี่ตามองเถ้าแก่ที่ให้ราคาโสมอายุ 70 ปีของนางเพียงแค่ 700 ตำลึง ต้องรู้ว่าแถบนี้ไม่มีใครเคยหาโสมมาขายที่ร้านหมอแม้แต่น้อย อีกอย่างโ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-02
  • ซูซูข้ามมิติมามีครอบครัว   ตอนที่ 10

    เมื่อสองปู่หลานมาถึงตลาดสดแล้ว เหอหยางเปาก็พาหลานสาวไปที่ร้านขายเนื้อหมูตามที่นางต้องการ ซูซูชี้ ๆ เอาทั้งเนื้อหมูและกระดูกเพื่อนำไปต้มซุปให้กับท่านปู่ท่านย่ากินบำรุงร่างกาย ส่วนผักนั้นนางซื้อไม่มากนักเพราะท่านปู่บอกว่าที่สวนมีผักอีกมากนัก เหอหยางเปาถือเนื้อหนัก ๆ แทนหลานสาว ส่วนซูซูนั้นถือเพียงผักไม่กี่ต้นเท่านั้น ขณะที่กำลังเดินออกจากตลาด ซูซูก็เงยหน้าหันไปหาท่านปู่เพื่อขอให้ท่านพาไปที่ร้านขายเสื้อผ้าต่อ“เหตุใดเจ้าต้องไปร้านขายเสื้อผ้าด้วยเล่า ท่านย่าเจ้าเย็บเอาไว้ให้หลายตัวแล้วนี่นา”“โธ่ ท่านปู่เจ้าคะ ข้าใช่ว่าอยากได้เสื้อผ้าของตัวเองอย่างเดียวเสียเมื่อไหร่เล่า ข้าอยากซื้อให้ท่านปู่กับท่านย่าต่างหากเล่าเจ้าคะ ส่วนของข้าที่ต้องซื้อเพิ่มเพราะท่านย่าอายุมากแล้ว หากปล่อยให้นั่งเย็บนาน ๆ สายตาท่านย่าจะเสียเอาได้”“อ้อ เช่นนั้นปู่ก็จะพาเจ้าไป ปู่คิดน้อยไปจริง ๆ ขอบใจเจ้ามากนะซูซูที่ช่วยปู่ดูแลย่าของเจ้าน่ะ”“แน่นอนว่าต้องเป็นหน้าที่ของหลานสาวที่น่ารักคนนี้ของท่านปู่อยู่แล้วเจ้าค่ะ ฮิ ฮิ ท่านปู่ใยจะต้องขอบคุณข้าอีกเล่าเจ้าคะ”“เฮ้อ เจ้านี่นะ นับว่าข้าคิดไม่ผิดที่พาเจ้ามาอยู่ด้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-02
  • ซูซูข้ามมิติมามีครอบครัว   ตอนที่ 11

    ท่านย่าที่ออกมาดูหน้าบ้านว่าเสียงใครมาเอะอะกันก็ได้แต่มองรถเข็นพร้อมกับสิ่งของมากมายในรถอย่างตกตะลึง นางได้แต่กระซิบถามสามีว่านี่มันอะไรกัน เหอหยางเปาได้แต่บอกให้ภรรยาช่วยกันขนของเข้าบ้านเสียก่อนค่อยคุยกันก็ยังไม่สาย ซวงหยวนเอ๋อกับซูซูที่ปิดประตูเรียบร้อยแล้วก็เข้ามาช่วยยกของเข้าไปในบ้านด้วยเช่นเดียวกัน หลังจากทุกคนช่วยกันขนสิ่งของเข้าบ้านเรียบร้อยแล้ว เหอหยางเปาก็นำรถเข็นไปเก็บไว้ที่ด้านข้างของบ้าน จากนั้นเขาก็เดินกลับเข้าบ้านเพื่อพูดคุยกับภรรยา ส่วนซูซูก็รีบออดอ้อนท่านย่าอย่างรู้งาน นางรู้ดีว่าท่านย่าจะต้องบ่นว่าซื้อของมาเยอะเกินไปเป็นแน่ แต่นี่เป็นความกตัญญูของนางที่อยากจะทำให้กับท่านปู่ท่านย่านี่นา“ว่าอย่างไรตาเฒ่า เหตุใดเจ้าจึงซื้อของมาเสียมากมายขนาดนี้ เจ้าไปเอาเงินมาจากไหนเยอะแยะกัน”“เพ้ย!!! เจ้าไม่ถามหลานสาวสุดที่รักเจ้าดูเล่า ข้าหรือจะมีเงินมากมาย เป็นนางที่ไปขายโสมได้เงินมาแล้วจึงอยากซื้อสิ่งของเหล่านี้เข้าบ้านต่างหากเล่า”“จริงหรือซูซู?”“เจ้าค่ะท่านย่า ข้าไม่อยากให้ท่านปู่ ท่านย่าลำบากมากนัก เมื่อมีเงินเหลือกินเหลือใช้แล้ว ข้าก็อยากนำสิ่งดี ๆ มาให้พวก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-02
  • ซูซูข้ามมิติมามีครอบครัว   ตอนที่ 12

    ซูซูที่ไม่รู้ว่าอีกไม่นานจะมีคนมาแย่งเห็ดของนางก็ได้แต่ต่อสู้กับงูสายรุ้งตัวใหญ่อย่างเต็มกำลัง ขณะที่งูชูคอขึ้นมาเพื่อจะเลื้อยมาทำร้ายนาง ซูซูก็บังคับกระบี่บินไปยังจุดตายของงูสายรุ้งที่อยู่ใต้ลำคอของมันจนกระบี่เสียบทะลุเข้าไปจนมิดด้าม ซูซูมองไปยังงูสายรุ้งที่นางต่อสู้ด้วยอย่างยากลำบาก ในที่สุดนางก็ปราบมันลงได้เสียที จากนั้นซูซูบังคับกระบี่บินให้ออกมาจากตัวงูแล้วเก็บกระบี่เข้าไปในกำไลเก็บของของนาง ซูซูใช้วิชาตัวเบาข้ามผ่านร่างของงูสายรุ้งตัวใหญ่ยักษ์ไปยังเห็ดสีรุ้งที่นางต้องการและรีบใช้มีดสั้นแซะเห็ดออกมาจากตอไม้ทันที ขณะที่นางกำลังจะเก็บเห็ดเข้าไปไว้ในกำไลเก็บของ ซูซูได้ยินเสียงเกือกม้ากลุ่มหนึ่งใกล้เข้ามาเต็มที นางหันไปมองทางเสียงที่ได้ยิน พอเห็นว่ามีคนสวมหน้ากากและคนอีกนับสิบขี่ม้ามาหยุดห่างจากจุดที่งูสายรุ้งตายไม่ไกลนัก อ๋องเฉิงที่เห็นซูซูถือเห็ดสีรุ้งเอาไว้ในมือก็ได้แต่ขมวดคิ้ว คราวนี้พระองค์มีภารกิจตามหาเห็ดสีรุ้งเพื่อนำไปใช้เป็นตัวยาหลักในการแก้พิษขององค์รัชทายาท แต่ตอนนี้กลับมีแม่นางน้อยที่ได้ไปเสียก่อน“เจ้าเป็นคนฆ่างูสายรุ้งเองเหรอแม่นาง?”“ใช่แล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-02
  • ซูซูข้ามมิติมามีครอบครัว   ตอนที่ 13

    ซูซูที่เก็บซากงูเสร็จแล้วก็ลืมเรื่องของเจ้าหน้ากากไปในทันที นางสำรวจดูในตะกร้าก็พบว่าไม่ค่อยมีอะไรนอกจากสมุนไพรเล็กน้อยที่จะนำไปฝากท่านปู่หมอเท่านั้น ซูซูเห็นว่าใกล้จะเย็นแล้วจึงได้ใช้วิชาตัวเบาไปที่ป่าไผ่เพื่อนำหน่อไม้สักสองสามหน่อกลับไปให้ท่านย่าทำอาหารให้นางกับท่านปู่กิน ซูซูไม่ได้เก็บหน่อไม้ให้กับท่านย่านานแล้ว หลังจากนางออกล่าสัตว์ก่อนหน้านี้ ไหน ๆ วันนี้นางก็อยู่ที่เขาลูกนี้แล้ว ซูซูจึงคิดอยากกินขึ้นมาเสียอย่างนั้น หลังจากซูซูเก็บหน่อไม้ได้ตามที่ต้องการแล้ว นางก็เก็บตั๋วแลกเงินเข้าไปในกำไลเก็บของของนางพร้อมรอยยิ้ม อย่างน้อย ๆ นางก็มีเงินสำหรับการออกเดินทางท่องโลกกว้างเพื่อตามหาครอบครัวของร่างเดิมแล้ว ซูซูไม่คิดมากที่นางต้องเสียเห็ดสีรุ้งไป ถึงอย่างไรวิชาสะสมลมปราณของนางก็ช่วยนางได้มากอยู่แล้ว ยิ่งหากนางได้กินดีงูที่มีสรรพคุณป้องกันพิษได้แทบทุกชนิดแล้วล่ะก็ ซูซูยิ่งคิดว่าน่าจะถึงเวลาที่นางจะต้องออกเดินทางเสียที ตอนนี้นางอายุ 14 ย่าง 15 ปีแล้วด้วย หากยังคงรอไปนานกว่านี้ ซูซูกลัวว่านางจะไม่อยากจากท่านปู่ ท่านย่าไปแน่ ๆ ช่วงเจ็ดปีที่ผ่านมา บรรดาลูกชายขอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-02
  • ซูซูข้ามมิติมามีครอบครัว   ตอนที่ 14

    ซูซูเดินกลับบ้านในเวลาไม่นานนัก นางเข้าบ้านไปอย่างเคยชิน แน่นอนว่าตอนนี้อาหารหลายอย่างท่านปู่กับท่านย่าตั้งโต๊ะรอนางอยู่ก่อนแล้วพร้อมรอยยิ้ม“รีบมานั่งกินข้าวเร็วเข้า เจ้านี่นะ อาหารที่ย่าห่อไว้ให้ก็ไม่ยอมกิน มารีบกินข้าวก่อนแล้วค่อยมาคุยกันทีหลัง”“เจ้าค่ะท่านย่า ขอโทษด้วยที่หลานลืมกินเพราะมัวแต่หาสมุนไพรมาฝากท่านปู่หมออยู่น่ะเจ้าค่ะ” ซูซูพูดพร้อมกับนั่งลงยังตำแหน่งประจำของตนเอง นางคีบอาหารให้กับปู่และย่าของนางอย่างคุ้นเคย ทั้งสองคนเองก็ต่างพากันคีบอาหารใส่ถ้วยให้ซูซูเช่นเดียวกัน พวกเขาต่างกินอาหารอย่างไม่เร่งรีบ กระทั่งทุกคนกินข้าวเสร็จ ซูซูลุกขึ้นเก็บจานชามไปล้างตามปกติ ส่วนสองเฒ่าชราก็พากันมานั่งดื่มน้ำอุ่นรอซูซูที่พวกเขาดูเหมือนว่านางมีเรื่องจะพูดด้วย รอกันไม่นาน ซูซูก็มานั่งข้าง ๆ ท่านย่าของนางพร้อมกับกอดแขนและซบลงที่ไหล่ของซวงหยวนเอ๋อ ซวงหยวนเอ๋อหันมองหน้าสามีและลูบหัวให้กำลังใจซูซูเพื่อพูดสิ่งที่ต้องการออกมา“ท่านย่า ท่านปู่ ตอนนี้ข้าก็โตขึ้นมากแล้ว ข้าอยากออกไปตามหาครอบครัวข้าเจ้าค่ะ” เหอหยางเปากับซวงหยวนเอ๋อถึงกับใจหายแว๊บไปหลังจบประโยค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-02

บทล่าสุด

  • ซูซูข้ามมิติมามีครอบครัว   ตอนที่ 41

    “เข้ามาได้” ซูซูส่งเสียงตอบกลับให้นิ่งเรียบที่สุด นางไม่อยากแสดงออกมากนักว่านางรู้สึกอย่างไร หากนางผิดหวังในตัวพวกเขา นางก็แค่จากไปก็เท่านั้น เสียงเดินเข้ามาด้านในห้องโดยมีเสี่ยวเอ้อเปิดประตูให้คนทั้งสามซึ่งดูท่าทางร่ำรวยและดูภูมิฐานไม่น้อย ซูซูกระพริบตาอย่างตกตะลึงกับคนทั้งสามที่กำลังเดินมาหานางพร้อมกับน้ำตาปริ่มใบหน้าของหญิงสาวที่ดูจะอายุยังไม่แก่มากนัก นางไม่นึกว่าทั้งสามคนจะหน้าตาละม้ายคล้ายนางมากถึงเพียงนี้“พวกท่านเชิญนั่งลงก่อน”“ฮึก...ลูกแม่” มู่อิงเอ๋อทนเก็บอารมณ์ความรักความคิดถึงไม่ไหวแล้ว นางสลัดอ้อมแขนของสามีออกแล้วรีบเดินเร็ว ๆ เข้าไปกอดซูซูอย่างแสนรัก ซููซูที่จู่ ๆ ก็ได้รับความอบอุ่นจากคนที่เรียกนางว่าลูกก็ทำตัวไม่ถูกสักเท่าไหร่นัก นางไม่คิดว่าพวกเขาจะมีปฏิกิริยาเช่นนี้กับนาง ฟางเซียนหลงเห็นว่าลูกสาวถึงกับอึ้งไปที่ภรรยาของเขาเข้าไปกอดน

  • ซูซูข้ามมิติมามีครอบครัว   ตอนที่ 40

    ฟางเซียนหลงที่รีบเดินกลับเรือนทำให้ฟางฉือห่าวที่กำลังจะออกไปทำงานเกิดสงสัยว่าท่านพ่อมีเรื่องอะไรเร่งด่วนตั้งแต่เช้ากัน เขาจึงเปลี่ยนทิศทางที่กำลังจะออกจากจวนเป็นเดินไปที่เรือนท่านพ่อท่านแม่แทน เมื่อไปถึงเรือน ฟางเซียนหลงที่ยังเห็นภรรยานั่งหน้าอมทุกข์อยู่ก็รีบเดินเข้าไปหานางพร้อมกับยื่นกระดาษประกาศให้นางอ่านด้วยตัวเอง ไม่นานนักหลังอ่านรายละเอียดจบแล้ว มู่อิงเอ๋อรีบเงยหน้ามองสามีพร้อมน้ำตา“นี่...นี่จริงเหรอเจ้าคะท่านพี่ เราจะได้เจอลูกแล้วเหรอเจ้าคะ ฮึก…” ฟางเซียนหลงโอบภรรยาเอาไว้ในอ้อมแขน ตัวเขาเองก็น้ำตารื้นขึ้นมาเช่นเดียวกัน ก่อนที่จะบอกกับภรรยาว่าจะไปหานางในวันพรุ่งนี้เลย“ประกาศใบนี้เป็นของจริงแน่นอนน้องหญิง อีกอย่างลวดลายบนกระดาษก็เป็นหยกของตระกูลเราที่เคยมัดติดกับแขนของลูกเอาไว้ในคราวนั้นด้วย ตอนนี้น้องหญิงต้องทำใจให้สบา

  • ซูซูข้ามมิติมามีครอบครัว   ตอนที่ 39

    ซูซูเมื่อเห็นว่าเสี่ยวเอ้อออกไปแล้ว นางนำหยกออกมาจากกำไลเก็บของ ก่อนจะนำมีดสั้นมาตัดกระดาษแผ่นใหญ่ออกเป็นสี่ส่วน เสร็จแล้วซูซูก็นำกระดาษไปทาบกับหยกด้านที่มีตัวอักษรฟางแล้วใช้ก้อนถ่านค่อย ๆ ถูเพื่อให้ขึ้นลวดลายตามหยกที่นางมีอยู่ ซูซูทำอย่างระมัดระวัง ด้วยกลัวว่าลวดลายจะผิดแปลกออกไปจนทำให้คนที่มาอ่านประกาศเห็นได้ไม่ชัดเจน หลังจากได้ลวดลายตามที่ต้องการแล้ว ซูซูใช้พู่กันแตะหมึกที่นางฝนเอาไว้ไม่นานนักแล้วเขียนในใบประกาศว่า“ข้ามีหยกชิ้นนี้มาตั้งแต่จำความได้ หากใครรู้จักคนที่ให้หยกนี้แก่ข้า ได้โปรดมาพบข้าที่โรงเตี๊ยมไฉ่หลงภายในสามวัน ที่ห้องพักชั้นสองห้องด้านในสุด ก่อนที่ข้าจะออกเดินทางตามหาเจ้าของหยกต่อไปยังเมืองอื่น ลงชื่อซูซู” ซูซูอ่านทวนว่ามีตรงไหนผิดพลาดหรือไม่ เมื่อเห็นว่าไม่มีตรงไหนผิดพลาด ซูซูก็นำกระดาษอีกสามแผ่นมาทำเช่นเดิม นางจะนำกระดาษทั้งสี่แผ่นติดที่ป้ายประกาศทั้งหมด เผื่อว่ามีคนรู้จักหยกชิ้นนี้แล้วนำแผ่นกระดาษที่นางติดเ

  • ซูซูข้ามมิติมามีครอบครัว   ตอนที่ 38

    หลังจากเสี่ยวเอ้อวางอาหารเรียบร้อยแล้ว ซูซูก็บอกเขาว่าหากนางกินเสร็จจะนำถ้วยชามวางไว้ที่หน้าห้อง เขาค่อยมาเก็บทีหลังก็แล้วกัน และห้ามไม่ให้ใครมารบกวนนางพักผ่อนด้วย เสี่ยวเอ้อพยักหน้ารับคำแขกที่ดูจะร่ำรวยไม่น้อยจนถึงขนาดได้เข้าพักในห้องใหญ่ที่สุดของโรงเตี๊ยม แถมอาหารของนางยังมีแต่อาหารขึ้นชื่อของที่นี่อีกด้วย เมื่อซูซูสั่งเสี่ยวเอ้อเสร็จนางก็บอกให้เขาออกไปได้ นางจะกินข้าวแล้วจะได้รีบพักผ่อน เสี่ยวเอ้อรีบขอตัวออกไปจากห้องของนางในทันใด เขามัวแต่ตกตะลึงกับความงามของนางจนลืมไปว่านางสั่งงานเขาเสร็จแล้ว โชคดีที่แม่นางน้อยไม่คิดว่าเขาทำกิริยาไม่เหมาะสม ไม่เช่นนั้นเขาคงถูกเถ้าแก่ไล่ออกเป็นแน่ ซูซูที่เข้าใจดีว่าตนเองสวยสดงดงามมากเพียงใดก็ไม่ได้ถือสาเสี่ยวเอ้อที่มัวแต่ตะลึงในความงามของนาง ซูซูนั่งกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อย นับว่าที่นี่สมแล้วกับที่มีคนแนะนำน

  • ซูซูข้ามมิติมามีครอบครัว   ตอนที่ 37

    องครักษ์ที่ติดตามอ๋องเฉิงในครั้งนี้ต่างพากันไม่เชื่อว่าท่านอ๋องจะยอมซื้อหมูป่าในราคาสูงถึงหนึ่งพันตำลึงจริง ๆ พวกเขาไม่กล้าสอบถามว่าเหตุใดท่านอ๋องจึงได้ทำเช่นนี้ องครักษ์ชุดนี้เป็นคนละชุดกับที่ออกเดินทางไปนอกเมืองหลวงกับอ๋องเฉิง พวกเขาจึงไม่เคยพบซูซูมาก่อน เพราะพวกเขาเป็นองครักษ์คนสนิทที่คอยทำงานในเมืองหลวงให้กับท่านอ๋องเวลาพระองค์ไม่อยู่ จึงทำให้พวกเขาไม่ทราบที่มาของแม่นางคนงามที่ท่านอ๋องขอซื้อหมูป่าก่อนหน้านี้ พวกเขาได้แต่คิดในใจว่ารอให้ไปถึงค่ายทหารเสียก่อน เขาจะสอบถามองครักษ์ที่ติดตามท่านอ๋องออกนอกเมืองว่าแม่นางน้อยคนนี้เป็นใคร ภายในเมืองหลวงก็วุ่นวายกันไม่น้อย ด้วยข่าวลือที่แพร่ออกไปอย่างรวดเร็วว่าอ๋องเฉิงนั้นพูดคุยอย่างสนิทสนมกับแม่นางน้อยรูปร่างหน้าตางดงามราวกับนางฟ้า แถมยังแข็งแกร่งกว่าหญิงสาวทั่วไปอีกต่างหาก ข่าวลือที่ผิดเพี้ยนไปเพราะกระจายไปทั่วทั้งเมืองหลวงกลายเป็นว่า ท่านอ๋องมีไมตรีกับสตรีแปลกหน้าท่ามกลางชาวบ้านที่สามารถเป็นพยานได้หลายคน

  • ซูซูข้ามมิติมามีครอบครัว   ตอนที่ 36

    หลังจากพักผ่อนจนมีเรี่ยวแรงกลับมาเต็มที่อีกครั้งแล้ว ซูซูก็เดินนำหน้าม้าของนางต่อไปทางตะวันออกเฉียงเหนือเช่นเดิม เดินกันอยู่ไม่นานก็พบกับไก่ป่าอีกครั้ง ซูซูใช้กระบี่บินจัดการไก่ป่าอย่างรวดเร็ว นางทำเพียงโยนไก่เข้าไปในกำไลเก็บของเท่านั้น เพื่อที่จะล่าสัตว์ต่อไปได้อย่างสะดวก เดินต่อไปอีกเกือบสามชั่วยาม ซูซูก็มองเห็นหมูป่าตัวใหญ่กำลังกินพืชอะไรสักอย่างอยู่ไม่ไกลนัก นางยิ้มน้อย ๆ แล้วบังคับกระบี่บินไปเสียบเข้าที่คอของหมูป่าทันที มันดิ้นรนอยู่สักพักก็สิ้นลมไป ซูซูใช้วิชาตัวเบาวิ่งไปถึงที่ที่หมูนอนตายอยู่อย่างรวดเร็ว เมื่อตรวจสอบดูอีกครั้งจนแน่ใจว่าหมูป่าตายแล้ว ซูซูที่คิดจะโยนหมูป่าเข้ากำไลเก็บของก็ได้แต่ต้องเปลี่ยนใจเมื่อนางมองในกำไลของตนเองแล้วเห็นเสื้อผ้าที่เพิ่งซักไว้ นางกลัวว่าเลือดหมูจะทำให้เสื้อผ้านางมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ ซูซูจึงใช้พลังลมปราณแบกหมูป่าไปยังทิศทางเดิมของนาง ซูซูมองแผนที่ก่อนหน้านี้แล้วว่านางจะออกจากภูเขานี้ได้ในอีกไม่นานและไปถึงถนนใหญ่ แน่นอนว่าอีกไม่

  • ซูซูข้ามมิติมามีครอบครัว   ตอนที่ 35

    หลังออกจากค่ายโจรแล้ว ซูซูก็มองหาม้าของนางจนพบ คราวนี้ซูซูขึ้นม้าขี่กลับไปทางที่นางมาเพื่อไปยังทิศตะวันออกเฉียงเหนือต่อในยามค่ำคืน ซูซูในคืนนี้ไม่ได้จุดคบไฟ เพราะคืนนี้แสงจันทร์ช่างส่องสว่างนัก ทำให้การเดินทางในคืนนี้ไม่ลำบากทั้งนางและม้าเลยแม้แต่น้อย กระทั่งเช้า ซูซูให้ม้าหยุดพักและกินน้ำกินหญ้าก่อนจะออกเดินทางอีกครั้ง ส่วนนางนั้นนั่งกินเนื้อตากแห้งไปพลาง ๆ และคิดว่าจะออกจากเส้นทางภูเขาลองดูว่านางจะสามารถวิ่งบนเส้นทางปกติได้หรือยัง จะได้ช่วยลดเวลาการเดินทางลงได้บ้าง เพราะตอนนี้ซูซูอยู่ในภูเขาได้หนึ่งเดือนแล้ว นางจึงอยากลองออกไปเดินทางปกติเผื่อว่าจะเจอผู้คนให้ถามทางได้บ้าง หลังจากหนึ่งคนหนึ่งม้าอิ่มท้องแล้ว ซูซูยังคงให้ม้าออกไปยังทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ จนกระทั่งสามวันต่อมา นางและม้าก็เข้าสู่เส้นทางถนนปกติเสียที ซูซูเห็นว่าม้าเหนื่อยไม่น้อยแล้ว อีกอย่างนางไม่ค่อยได้หยุดพักบ่อยนักและน้ำในกระบอกไม้ไผ่ของนา

  • ซูซูข้ามมิติมามีครอบครัว   ตอนที่ 34

    หลังจากซูซูแยกออกมาอีกทาง นางก็ยังคงมองหาสมุนไพรอย่างไม่เร่งรีบเช่นเคย กระทั่งเดินทางมาได้อีกหนึ่งสัปดาห์แล้วและนางไม่พบกลุ่มของเจ้าหน้ากากอีก นางจึงคิดว่าพวกเขาคงออกจากหุบเขาไปแล้วเป็นแน่ ซูซูเหงาไม่น้อยที่นางไม่ได้ต่อปากต่อคำกับเขาจึงได้แต่เดินทางต่อไปยังทิศตะวันออกเฉียงเหนือกับม้าของนางต่อ แต่ขณะที่นางกำลังจะหาที่พักในคืนนี้ จู่ ๆ ก็มีกลุ่มคนถือดาบเข้ามาทางนางเสียก่อน“โอ้ แม่นางน้อยช่างสวยจริง ๆ ถ้าเราจับนางไปให้เจ้านายล่ะก็ รางวัลใหญ่ต้องเป็นของเราแน่ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”“นั่นสิ ๆ ไม่คิดเลยว่าหลังจากออกปล้นแล้วกำลังจะกลับ พวกเรายังจะได้ของดีไปฝากเจ้านายอีก ฮ่า ฮ่า” ซูซูได้แต่มองกลุ่มคนกักขฬะนับสิบที่ถือดาบอยู่อย่างเหยียดหยาม นางไม่คิดจริง ๆ ว่าในภูเขาลึกแห่งนี้จะมีรังโจรซ่อนอยู่ แต่ในเมื่อตอนนี้นางรู้แล้วว่าพวกมันเป็นโจร แน่นอนว่าหญิงสาวที่ทั้งสวยทั้งมีคุณธรรมอย่างนางจะต้องจัดการคนเหล่านี้ใ

  • ซูซูข้ามมิติมามีครอบครัว   ตอนที่ 33

    เช้าตรู่วันต่อมา ซูซูลุกขึ้นมาจากกิ่งไม้และกระโดดลงไปล้างหน้าล้างตาที่ริมลำธาร นางยังหาปลากับกุ้งมาย่างไฟกินก่อนที่จะออกเดินทางหาสมุนไพรต่อในวันนี้ เจ้าม้าของซูซูเองก็ลุกขึ้นเดินกินหญ้าโดยที่ซูซูไม่ต้องบอกเลยแม้แต่น้อย นางยิ้มให้กับม้าที่นับวันยิ่งเชื่องมากขึ้นของนาง ซูซูหาปลากับกุ้งไม่นานนักก็ได้เพียงพอที่นางจะกินคนเดียวหมด ซูซูนำปลาไปทำความสะอาดพร้อมเสียบไม้ย่างไว้ กุ้งนางก็ล้าง ๆ และเสียบไม้ไว้เช่นเดียวกัน จากนั้นซูซูก็หาไม้ฟืนมาโยนใส่กองไฟให้มันลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง นางย่างปลากับกุ้งไปพร้อมกับร้องเพลงของนางอย่างอารมณ์ดี“ข้าทั้งสวยทั้งเก่ง ไม่ว่าใครมาเพ่งเล็งหาเรื่อง ข้าก็ไม่คิดจะกลัว หากใครกล้ามาก่อกวน ปั่นป่วนให้ข้าโมโห กระบี่บินด้ามโตของข้า จะแสดงอานุภาพให้พวกเจ้าเห็นเอง ลา ล้า ลา” ซูซูฮัมเพลงไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งปลากับกุ้งสุก นางเป่ามันก่อนจะค่อย ๆ กินเพราะกลัวว่าอาหารจะลวกปากน้อย ๆ ของนางเสียก่อน กระทั่งหนึ่งคนหนึ่งม้าต่

DMCA.com Protection Status