แมเดอลีนหยุดฝีเท้าที่กำลังก้าวเดินตามเขา เธอคิดว่านี่มัน..ไม่เหมาะสมเอามากๆ อีกทั้งตามเนื้อเรื่องแล้ว ตัวร้ายแบบเขาไม่น่าจะมายุ่งเกี่ยวอะไรกับเธอไม่ใช่รึไง แล้วทำไมเขาถึงได้ลากเธอมาที่นี่ต่อหน้านางเอกอย่างเดมเกโลทีสกันนะนี่มันไม่ปกติแล้ว..“ท่านดยุคคะ..”เธอร้องเรียกเขาอีกครั้งเพื่อหวังให้เขาหยุดยั้งการกระทำที่มันผิดปกติทั้งหมดทั้งปวงพวกนี้ทว่าเสียงเรียกที่เต็มไปด้วยความประหม่าพร้อมกับสายตาที่สั่นไหวของเธอไม่สามารถทำให้ความตั้งใจของเอสเตบันหยุดลงได้เลยเขาอุ้มเธอขึ้นมาในทันทีก่อนจะพาเธอเดินเข้าไปยังสวนที่แสนสวยงามของวิหารศักดิ์สิทธิ์“อ๊ะ..”เธอร้องออกมาด้วยความตกใจที่อยู่ๆ เขาก็ตรงเข้ามาแล้วช้อนตัวเธอขึ้นมาอุ้มในท่าเจ้าหญิง“ท่านดยุคคะ นี่มัน..”“หากไม่เงียบข้าจะจูบเจ้าซะ!”แมเดอลีนอ้าปากค้างกับคำขู่พวกนั้น เธอยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองเอาไว้ในทันทีด้วยท่าทางไม่ไว้วางใจอะไรของเขากัน คำขู่เช่นนั้นมันสมควรที่จะพูดออกมางั้นเรอะ!เขาวางเธอลงบนม้านั่งในสวนด้านหลังที่ไม่มีใครเดินเข้ามา เพราะถัดจากสวนนี้ไปมันคือที่พักของเขา นี่คือเหตุผลที่ไม่มีใครเดินผ่านไปมาในสวนที่เป็นพื้นที่ส่วนตัวของท่า
ในใจของลุควิคนั้นรู้สึกโกรธเคืองมากทีเดียว เขาโมโหตัวเองที่ไปใส่อารมณ์กับเลล่า แล้วยังโกรธเอสที่หมอนั่นชอบทำให้เขาดูเหมือนคนขี้แพ้อยู่ตลอดหากว่าเขาไม่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าเขาต้องการเลล่ามาเป็นภรรยา เขาเชื่อว่าเอสคงจะไม่อยากได้เธอไปเป็นดัชเชสมากขนาดนั้น หมอนั่นทำไปทั้งหมดเพื่อเอาชนะเขา!!หากเป็นเรื่องอื่น เป็นเรื่องของการแข่งขัน เขามั่นใจมากเหลือเกินว่าเขาอาจจะยอมให้เอสชนะอีกครั้งหนึ่ง แต่นี่คือเรื่องของหัวใจ มันคือเรื่องของความรักที่มากล้นของเขาเขารักเลล่า..รักนางมากและอยากใช้ชีวิตที่เหลืออยู่หลังจากนี้กับนาง เพราะแบบนั้นลุควิคจึงเดินมาหาเอสด้วยหัวใจที่ทั้งทรมานและโกรธเคืองมากเหลือเกินฝีเท้าที่กำลังก้าวเดินอย่างรวดเร็วของเขาพลันเดินช้าลง เมื่อเขามองเห็นบุรุษและสตรีผู้หนึ่งกำลังจุมพิตกันด้วยความแนบชิดที่ด้านหน้าสวนของห้องรับรองท่านดยุควีไซร์ และเมื่อมองดูดีๆ เขามองเห็นเส้นผมสีแดงสดของสตรีที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นใครแต่ที่น่าตลกมากกว่านั้นคือมือของเอส มือของหมอนั่นโอบกอดแผ่นหลังของเลดี้เซเรเดนเอาไว้อย่างแนบชิดราวกับว่าเอสไม่ยินยอมให้นางหนีจากเขาไปไหนดูสิเลล่า บุรุษที่เจ้าต้องการแต่
บนใบหน้าของแมเดอลีนฉายชัดถึงความวิตกกังวล ริมปากของเธอนั้นเม้มๆคลายๆ ด้วยความชั่งใจ ทุกอย่างอลหม่านตีกันอยู่ในสมองหลังจากคืนนั้นก็ผ่านมาเดือนกว่าๆแล้วเธอเองก็วุ่นวายอยู่กับการเตรียมตัวมาที่วิหารจนไม่ได้สนใจรอบเดือนที่ยังไม่มาเลย“เลดี้เรเซเดน..ท่านกำลังตั้งครรภ์ครับ”ความคลุมเครือเข้าปกคลุมบรรยากาศ แมเดอลีนเวียนหัวไปหมดกับความจริงที่ตีแสกหน้าว่าเธอท้อง!!ดาเนียยื่นถุงเงินให้กับหมอที่ประจำอยู่ที่วิหาร“ช่วยเก็บเรื่องนี้เป็นความลับด้วยนะคะ”หมอผู้นั้นรับถุงเงินนั้นไปถือครองเอาไว้ ก่อนที่เขาจะก้มหน้าลงเพื่อทำความเคารพเลดี้ทั้งสองแล้วเดินจากไปอย่างรวดเร็วดาเนียเองก็อยู่ในสภาพที่ไม่แตกต่างจากแมดดี้เท่าไหร่นัก เพราะหากว่าแมดดี้กำลังตั้งครรภ์ นั่นหมายความว่าพ่อของเด็กที่จะอยู่ในท้องนั้นจะต้องเป็นบุรุษจากสามตระกูลอย่างแน่นอนท่านดยุควีไซร์ เคาน์แบล็ค และตระกูลกรีน“ใจเย็นๆ ก่อนแมดดี้ ข้าคิดว่าเราควรจะ..”“ข้าจะกลับบ้านดาเนีย ข้าอยากจะกลับไปสารภาพความผิดบาปในครั้งนี้กับท่านพ่อและท่านแม่ ข้าอยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้เพราะหากเรื่องมันโด่งดังขึ้นมาในภายหลังตระกูลเรเซเดนจะต้องเสื่อมเสียชื่อเสียงอย่าง
บารอนโอทีสยื่นเอกสารมากมายที่เขาเตรียมมาให้กับองค์จักรพรรดิ“ฝ่าบาทต้องเป็นพยานให้กระหม่อมด้วยพ่ะย่ะค่ะ ไม่ว่าหลานของกระหม่อมจะเกิดมามีเส้นผมสีอะไรก็ตาม เขาจะใช้ชื่อตระกูลของเรเซเดนตลอดไป..”องค์จักรพรรดิวางแก้วชาลงบนโต๊ะ พระองค์ยกมือขึ้นมานวดขมับเบาๆ“โอทีส เรารู้ว่าเจ้ารักและหวงลูกสาวมากแค่ไหน แต่ว่านี่มันเรื่องของเด็กพวกนั้น ให้พวกเขาตัดสินใจกันเอง..”“ไม่พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมไม่ต้องการให้มีปัญหาเรื่องการแย่งชิงหลานของกระหม่อมในภายหลัง ใครก็พาหลานของกระหม่อมไปจากเรเซเดนไม่ได้ทั้งนั้น!!”นั่นสินะ เขาลืมไปได้ยังไงว่าในช่วงเวลาที่สหายรักของเขาได้เป็นพ่อคนในครั้งแรกนั้น โอทีสดีใจและปลาบปลื้มมาแค่ไหนที่แมดดี้คลอดออกมาได้อย่างปลอดภัย“ก็ได้โอทีส ข้าจะเป็นพยานให้ว่าไม่ว่าใครหน้าไหน ก็มาแย่งชิงหลานของเจ้าไปจากเจ้าไม่ได้ทั้งนั้น”โอทีสก้มหน้าลงเพื่อขอบคุณองค์จักรพรรดิ“เช่นนั้นจะเอาอย่างไรกับชื่อเสียงของเรเซเดน”“เรื่องนั้นกระหม่อมไม่สนใจอะไรอยู่แล้ว กระหม่อมจะประกาศอย่างเป็นทางการถึงเรื่องที่บุตรีของกระหม่อมตั้งครรภ์..กระหม่อมไม่คิดว่านี่คือเรื่องราวน่าเสื่อมเสีย มันคือเรื่องน่ายินดีพ่ะย่ะค่ะ
เอสเตบันยังคงนั่งอยู่ตรงนั้นไม่ขยับไปไหน ก่อนที่เขาจะหลับตาลงนอน เขายังคิดว่าเมื่อตื่นมาเขาว่าจะไปหาแมเดอลีนอีกหน่อย แต่มันกลับกลายเป็นว่าในช่วงเวลาที่เขาหลับไปนั้นมีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นเธอตั้งครรภ์..กับลูกของใครกันนะ แถมเมื่อคืนจุมพิตที่เขาบังคับให้เธอส่งมอบให้เขาด้วยความไม่เต็มใจนั้นมันยัง..ดีมากๆ อีกด้วยเขาชอบที่จูบนั้นมากทีเดียว จนรู้สึกว่าตัวเองเสียการควบคุมไปชั่วขณะแต่ดูเหมือนว่าเขาจะต้องตัดใจสินะ..ว่าไปแล้ว เธอตั้งท้องลูกของใครกัน?อาดาล? ลุควิค? หรือแม้กระทั่งเจ้าคนบ้าการต่อสู้อย่างแลนดรีอย่างนั้นหรือ ชื่อที่เอ่ยมานั้นไม่มีทางเป็นไปได้เลยด้วยซ้ำเช่นนั้นเธอตั้งครรภ์ลูกของเขาอย่างนั้นหรือ?เอสเตบันก้มศีรษะลงอย่างอับจนด้วยคำตอบ หัวใจของเขาเต้นในจังหวะที่มันไม่ปกติเอาซะเลย หลายๆอย่างรอบตัวของเขากำลังบอกว่า..เรื่องนั้นมันเป็นไปได้!!เขาคุ้นเคยกับริมฝีปากคู่นั้น คุ้นเคยกับกลิ่นกายหอมกรุ่นของเธอในแบบที่เขาชอบมันมากทีเดียว ไม่ใช่ว่าเขาจะเป็นแบบนี้กับสตรีทุกคนที่เข้ามาใกล้ เขาไม่ได้มีหัวใจที่หวั่นไหวแบบนั้นเลย“ท่านหญิงรออยู่ที่คฤหาสน์เรเซเดนนะครับท่านดยุค”แล้วแม่เขา..ไปทำอะไรท
เอสเตบันกำลังนั่งอยู่บนรถม้า เขายกมือขึ้นมากุมหัวใจของตัวเองเอาไว้ด้วยฝ่ามือที่สั่นเทาเล็กน้อยเขาไม่รู้ว่าตัวเองกำลังเป็นอะไรกันแน่ รู้เพียงแต่ว่าเขาไม่เป็นตัวของตัวเองเลยสักนิดเดียวกอนมองเห็นเจ้านายของเขาที่มีสีหน้าไม่สู้ดีเท่าไหร่นัก เขาส่งแก้วน้ำชาสงบใจที่จัดเตรียมมาไว้ให้ท่านดยุคของเขาดื่ม“อย่ากังวลไปเลยครับท่านดยุค เรื่องที่เลดี้เรเซเดนตั้งครรภ์มันไม่เกี่ยวข้องกับนายท่านหรอกครับ..”ถ้ามันไม่เกี่ยวกับเขา แล้วมันเกี่ยวกับใครล่ะ? เอสเตบันยื่นมือไปรับแก้วน้ำชาสงบใจของกอน ทหารคนสนิทมาดื่มเพื่อดับกระหาย เขากำลังภาวนาในใจขอให้ทุกอย่างมันเป็นไปด้วยดี หากว่าเลดี้เซเรเดนเป็นสตรีในคืนนั้นที่เขาใช้เวลาด้วยจริงๆ จะอย่างไรเขาก็จะต้องแต่งงานกับนางเพื่อแสดงความรับผิดชอบ เขาจะปัดความรับผิดชอบนี้ไปให้คนอื่นไม่ได้ ส่วนเรื่องของเลล่าและลุควิค เขาคงจะต้องยอมลามือและยินยอมรับความพ่ายแพ้ในครั้งนี้เอาไว้อย่างไม่เต็มใจเท่าไหร่นัก“...พะ..พรวด!!”ทันทีที่เอสเตบันยกแก้วน้ำชาขึ้นมาดื่ม เขาก็พ่นมันออกมาในทันทีพร้อมกับมองหน้าของกอนด้วยความโมโห“นี่มัน..น้ำชาอะไรของเจ้า!!”กอนรีบส่งผ้าเช็ดหน้าให้ท่านดยุค“น
เมื่อทุกตระกูลได้ข้อสรุปกันแล้ว เราต่างก็แยกย้ายกันเดินทางกลับ ท่านหญิงไดอาน่ามองหน้าของลูกชายที่ดูไม่ค่อยปกติเท่าไหร่นักวันนี้เอสเตบันไม่พูดคำใดออกมาแม้แต่ครึ่งคำ เธอเอื้อมมือไปแตะลงบนหน้าผากของเอสเตบันช้าๆ“เอส..ลูกเป็นอะไรรึเปล่า ไม่สบายตรงไหนอย่างนั้นหรือ ที่วิหารมีอะไรที่ไม่สะดวกสบาย..”“ไม่ใช่แบบนั้นครับท่านแม่ ที่วิหารสะดวกสบายดีทีเดียว เพียงแต่ข้ารู้สึกเวียนหัวมากจนไม่อยากจะนั่งรถม้าเลยครับ มัน..เหมือนกับรถม้านี่กำลังหมุนและข้าอยากจะอาเจียนออกมาอย่างบอกไม่ถูก..”ไดอาน่ามองลูกชายด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วง“เช่นนั้นพอถึงวีไซร์แล้วแม่จะรีบให้กอนตามหมอมาดูเจ้าหน่อยนะ..”เพราะเธอมีลูกเพียงคนเดียวเท่านั้น เป็นลูกชายที่ถึงแม้ว่าเขาจะดื้อไปสักหน่อย แต่ทว่าเขาก็เป็นลูกชายที่แสนน่ารักในสายตาของเธออยู่ดีและเมื่อถึงคฤหาสน์ เธอก็รีบประคองเอสเตบันขึ้นไปพักที่ห้องนอน รอไม่นานหมอที่เก่งกาจที่สุดในจักรวรรดิก็เดินทางเข้ามาเพื่อมาดูแลอาการป่วยของท่านดยุค“อาการป่วยของท่านดยุคเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่กันครับ”หมอถามออกมาพร้อมกับจับชีพจร“ท่านดยุคปกติดีทุกอย่างจนถึงตอนที่ท่านนั่งรถม้า
ดวงตาสีฟ้าอ่อนกำลังช้อนขึ้นเพื่อมองหน้าของบุรุษที่บุกเข้ามาในห้องนอนของเธอในยามวิกาล เขาอุ้มเธอขึ้นมากอดเอาไว้ แล้ววางเธอลงอย่างแผ่วเบาบนตักของเขา ทุกสิ่งทุกอย่างมันราวกับมีเมฆหมอกมาบดบังเพราะว่าเธอมองเห็นใบหน้าของเขาไม่ถนัดเท่าไหร่นัก มันเหมือนกับเธอกำลังง่วงนอนมากๆ ..“ท่านกำลังใช้เวทมนตร์อะไรกับข้าคะ..แล้วท่านมาที่นี่ทำไม..”เขาเงียบไปพักหนึ่ง“ข้าได้ยินมาว่าเจ้าตั้งครรภ์”เธอถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อเขารับรู้ว่าเธอตั้งครรภ์ เช่นนั้นเขาคงจะไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดีใช่ไหมนะ..ฝ่ามือหนาของเขาเอื้อมมือมาปิดตาเธอเอาไว้ ก่อนที่ปลายจมูกจะกดแนบลงบนเรือนแก้มของเธอไม่รู้เหมือนกันว่าเขาทำอะไรกับเธอกันแน่ ร่างกายถึงได้รู้สึกไร้เรี่ยวแรงแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน“ข้าคือชายผู้นั้น..พ่อของเด็กน้อยที่อยู่ในนี้”เขาวางมือลงบนหน้าท้องของเธอ แล้วสัมผัสมันลงไปด้วยความนุ่มนวล แม่ของเขาย้ำหนักหนาถึงเรื่องที่ว่าห้ามเขาทำอะไรแมเดอลีน เพราะสตรีที่ตั้งครรภ์ในช่วงแรกๆ อาจมีภาวะเสี่ยงที่จะแท้งได้ ทางที่ดีหากว่าเขาอยากจะทำอะไร..ท่านแม่ให้เรารอคอยจนถึงช่วงเวลาห้าเดือนไปแล้ว และควรจะทำด้วยความอ่อนโยนด้วยเขามาที่นี่
สวัสดีค่ะ มิก้าเองค้า..วันนี้มิก้าอายุ 7 ขวบแล้ว ท่านพ่อได้จัดงานวันเกิดให้มิก้าทุกปี แต่ว่าปีนี้จะยิ่งใหญ่มากกว่าปีที่ผ่านมาหน่อย เพราะท่านพ่อจะประกาศชื่อกลางของมิก้า และชื่อจริงออกมาด้วยค่ะมิก้าใช้เวลาส่วนใหญ่ที่คฤหาสน์เรเซเดนก็จริงแต่ทว่าก็ยังมีไปนอนกับท่านพ่อและท่านแม่ที่คฤหาสน์วีไซร์อยู่บ้างเมื่อ2ปีที่แล้วท่านแม่คลอดน้องชายมาให้มิก้าสองคนค่ะ ทุกคนต่างตกตะลึงไปตามๆ กันที่ท่านแม่คลอดน้องชายฝาแฝดออกมา แต่ทว่าที่น่าตกใจมากกว่านั้นคือคนหนึ่งมีเส้นผมสีเงินเหมือนกับมิก้าแต่อีกคนกลับที่เส้นผมสีแดงเหมือนกับท่านแม่ท่านตาเชื่อว่านั่นคือปาฏิหาริย์ล่ะ มิก้ามาเล่นกับน้องบ่อยมากทีเดียว แต่เพราะว่าน้องพึ่งจะสองขวบก็เลยยังเล่นกับมิก้าได้ไม่มากนัก“มิก้า..นี่คือของขวัญของมิคนเก่งครับ”ท่านลุงเอดิตส่งมอบคทาของคาดินันที่วิหารศักดิ์สิทธิ์ให้แก่มิก้า ซึ่งมิก้าเองก็ไม่เข้าใจว่าท่านลุงให้สิ่งนี้กับมิก้าทำไมกัน?“เมื่อมิก้าโตขึ้น หลานจะได้รับการสืบทอดตำแหน่งคาดินันของลุง..หลานจะเป็น..นักบุญหญิงคนแรกของจักรวรรดิแห่งนี้ เป็นเช่นนั้นดีหรือไม่?”มิก้าไม่เข้าใจว่าอะไรดีหรือว่าไม่ดีกันแน่ มิก้าชอบขี่ม้าและ
ผมยาวสีแดงของแมเดอลีนนั้นถูกรวบขึ้นไปไว้ที่ด้านบน สาวใช้สองคนกำลังวุ่นอยู่กับการแต่งหน้า ส่วนอีกคนกำลังปักเครื่องประดับรูปดอกไม้ลงไปบนมวยผม“ท่านดัชเชสช่างงดงามมากเลยค่ะ”ไม่ต้องแต่งแต้มเครื่องสำอางมากมายบนใบหน้าก็ฉายชัดถึงความงดงามที่ไร้ผู้เปรียบเทียบ“ข้าไม่ชินกับ..ใบหน้าของตัวเองในยามนี้เลย”แมดดี้ประหม่ามากพอสมควร เธอกำลังนั่งอยู่ที่ห้องแต่งตัวของเจ้าสาวในวิหาร และเมื่อจัดการแต่งหน้าและทำผมเสร็จเรียบร้อย ชุดแต่งงานที่ถักด้วยลูกไม้สีขาวก็ถูกสวมลงมาบนร่างกายของเธอ กระโปรงนั้นมีน้ำหนักมากพอสมควร และชุดนี้ก็สง่างามมากทีเดียว ขั้นตอนสุดท้ายคือการสวมผ้าคลุมหน้าลูกไม้ลงมาบนศีรษะของเธอแมเดอลีนมารู้ทีหลังว่าทั้งชุดแต่งงานและผ้าคลุมหน้านี้ท่านหญิงไดอาน่าเป็นผู้ถักมันด้วยตัวเอง ท่านเริ่มต้นถักมันตั้งแต่เอสเตบันไปออกรบ ท่านถักเอาไว้เพื่อรอคอยให้เธอมาสวมใส่สักวันหนึ่งเมื่อได้คิดถึงที่มาของชุดแต่งงานนี้แมเดอลีนก็น้ำตาคลออย่างห้ามไม่อยู่ เธอว่าครอบครัวของตัวเองนั้นดีแล้ว มันโชคดียิ่งกว่านั้นเมื่อมาพบเจอครอบครัวของสามีที่ดีมากยิ่งขึ้นไปอีก ท่านแม่ของเธอและท่านแม่ของเอสเตบันสนิทสนมกันมากพอสมควรใ
“คงจะดีหากว่าท่านคาดินันไม่หลบหนีออกไปอีก..แบบไม่บอกกล่าวล่วงหน้า..”นักบุญผู้หนึ่งกล่าวออกมาพร้อมกับวางเอกสารมากมายลงเบื้องหน้าของเอดิต“แล้วก็ทางคฤหาสน์วีไซร์ประกาศเรื่องงานแต่งงานของท่านดยุคและท่านดัชเชส มาแล้วนะครับ ท่านดยุคแห่งวีไซร์ต้องการให้ท่านคาดินันเป็นผู้จัดงานแต่งให้ทั้งสองท่านด้วยตัวเอง..เรื่องการจัดเตรียมความพร้อมของวิหาร ทางคฤหาสน์วีไซร์ได้ส่งทหารมาจัดเตรียมสถานที่แล้ว..”เอดิตแค่นหัวเราะออกมา เขาเบนสายตาออกไปมองที่ด้านนอกหน้าต่างของห้องทำงานสายลมพัดมาเบาๆ และนั่นทำให้เขารู้สึกได้ถึงกลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกไม้ นี่กำลังจะเข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเป็นทางการแล้วในอีกไม่กี่เดือน ทุกอย่างกำลังเดินทางไปด้านหน้าเรื่อยๆ และตัวเขาเองก็เช่นกัน จะมัวมานั่งเสียใจกับเรื่องความรักที่ไม่สมหวังไม่ได้เพราะฉะนั้น..เขาจะต้องก้าวไปข้างหน้าเสียที“เจ้าช่วยตรวจสอบเรื่องการจัดงานด้วยนะ อย่างให้มีอะไรผิดพลาด..ข้าอยากให้ในวันงานวันนั้นทุกอย่างสมบูรณ์แบบมากที่สุด”เจ้าคงจะงดงามมากทีเดียวแมดดี้ ในชุดแต่งงานสีขาวนั้นเจ้าคงจะทั้งงดงามและโดดเด่นจนข้าละสายตาไปจากเจ้าไม่ได้ ในวันที่เจ้ามีความสุขที่สุด ข้าได้ยื
ครั้งที่แล้วเขาพลาดในช่วงเวลาที่แสนสำคัญบางช่วงเวลาที่จะได้ดูแลแมดดี้ในตอนที่นางตั้งครรภ์และช่วงเวลาที่เขาจะได้เห็นหน้าลูกในตอนที่คลอดออกมา ไม่มีโอกาสได้เห็นช่วงเวลาที่ค่อยๆเติบโตของมิก้า ไม่มีโอกาสได้อุ้มนางในตอนที่นางยังเป็นทารก เพราะแบบนั้นในช่วงเวลาหลังจากนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาจะไม่ยอมห่างจากภรรยาของเขาอย่างเด็ดขาดไม่ว่าด้วยเรื่องอะไร“เช่นนั้นเราเดินทางกลับวีไซร์กันเถิด..”แมเดอลีนพยักหน้า เธอเคยไปที่นั่นก็จริงอยู่แต่ทว่าการไปอยู่ที่นั่นในฐานะดัชเชส นั้นยังไม่เคยแม้แต่ครั้งเดียว“ข้าจะพาแมดดี้กลับก่อนนะครับ ข้าไม่อยากจะพานางเดินทางในช่วงเย็นเดี๋ยวนางจะไม่สบาย”โอทีสพยักหน้า“เรื่องมิก้า..”“ข้ารู้ครับว่าท่านพ่อตาอยากจะอยู่กับหลานสาวก่อน ช่วงนี้คงจะต้องฝากท่านพ่อตาเลี้ยงดูมิก้าไปก่อน เพราะแมดดี้พึ่งจะตั้งครรภ์..ข้าอยากทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้แมดดี้”เดวาส่งยิ้มให้กับเอสเตบัน“เรื่องนั้นไม่มีปัญหาเลย เจ้าทั้งสองคนพึ่งได้ใช้ชีวิตตามลำพังด้วยกันแค่ไม่นาน..ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องหลานเดี๋ยวเราจะเลี้ยงดูให้เจ้าเอง”เอสเตบันก้มหน้าลงเพื่อขอบคุณท่านแม่ยาย“ท่านแม่ครับเช่นนั้นเรากลับกัน..”
ดาเนียมองหน้าของแมเดอลีน ราวกับว่าเธอกำลังร้องขอความช่วยเหลือจากสหาย และแมดดี้ลุกขึ้นแล้วเดินมาหาท่านเซอร์อดัมในทันที“ขออภัยที่ข้ามาขัดจังหวะนะคะท่านเซอร์ ดาเนียเติบโตมาในคฤหาสน์เรเซเดนซะส่วนใหญ่ ในความคิดของข้านั้นนางไม่ใช่แค่สหายรักของข้าแต่นางยังเป็นเหมือนกับน้องสาวของข้าอีกด้วย เรื่องที่จะให้ดาเนียไปเป็นผู้นำตระกูล ข้ามองว่ามันอาจจะข้ามขั้นไปหน่อยค่ะ นางไม่มีประสบการณ์ในเรื่องเช่นนี้เลย..”เซอร์อดัมส่งยิ้มให้แมเดอลีน“นั่นสินะครับ อาจจะเป็นข้าที่ทำข้ามขั้นตอนไปหน่อย เช่นนั้นในช่วงเวลานี้ข้าอยากจะให้ดาเนียเข้าไปอยู่ที่คฤหาสน์กรีนเพื่อศึกษาและจัดการเกี่ยวกับงานมากมายในตระกูลกรีน..พ่อบ้านของเราจะสอนเลดี้ดาเนียเองครับ เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นกังวล..”แมดดี้จับมือของดาเนียเอาไว้“ดาเนีย..นั่นใช่ความต้องการของเจ้าจริงๆรึเปล่า เจ้าอยากจะอยู่กับอาดาลและแลนดรีจริงไหม นี่มันไม่ใช่เรื่องของความรักที่เกิดขึ้นในนิยายหรอกนะแมดดี้แต่ทุกสิ่งทุกอย่างในตระกูลกรีนเจ้าจะต้องรับผิดชอบทั้งหมด เจ้ายินดีที่จะแบกรับความรับผิดชอบพวกนั้นรึเปล่า”แมเดอลีนเอ่ยถามออกมาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงดาเนียเผ
เมื่อโอทีสกลับมาถึงคฤหาสน์เขาก็ได้รับรู้ว่าแมดดี้ของเขาตั้งครรภ์ลูกคนที่สองแล้วดยุคเอสเตบันนั่งยิ้มราวกับคนเสียสติส่วนแมดดี้กำลังตกใจมากกว่าที่จะดีใจชิ..เจ้าเด็กนั่นทรมานลูกสาวของเขาจนนางตั้งครรภ์ขึ้นมาอีกครั้งแล้วอย่างนั้นสินะ แต่ทว่าในใจของโอทีสจะโกรธก็โกรธไม่ลง เมื่อเขาเห็นท่าทีตกใจของเอสเตบันในตอนที่ได้รับทราบข่าวว่าแมดดี้ไม่สบายจนต้องไปตามหมอ..ในบางทีไอ้เด็กมั่นหน้าคนนั้นอาจจะรักลูกสาวของเขาจริงๆ ก็เป็นได้“นี่คือใบถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดินค่ะ แล้วก็เงินทองอีกจำนวนหนึ่ง”อันที่จริงในการแต่งงาน สตรีต่างหากที่จะต้องจัดเตรียมสินเดิมติดตัวเมื่อแต่งงานเข้าบ้านฝ่ายชาย แต่ทว่าท่านหญิงอาน่าได้ส่งมอบเงินจำนวนหนึ่งและใบถือกรรมสิทธิ์ที่ดินให้แก่ท่านบารอนโอทีส“ข้าไม่ต้องการของพวกนี้หรอกครับท่านหญิง..ในเมื่อ..เมื่อเด็กทั้งสองคน..ทั้งสองคนนั้นรักกัน..ข้าก็ไม่อาจขัดขวาง”เดวาหัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อเธอเห็นสามีพูดไปกัดฟันไป“ข้าไม่คิดจะให้มิก้าเปลี่ยนชื่อตระกูลเป็นวีไซร์ ท่านบารอนมีบุตรีเพียงผู้เดียวก็คือแมดดี้เพราะแบบนั้นข้ายินดีที่จะให้มิก้าใช้ชื่อตระกูลว่าเรเซเดนต่อไปค่ะ”โอทีสก้มหน้าลงเล็กน้
เดวารินน้ำชาใส่แก้วให้ท่านหญิงไดอาน่าที่เดินทางมาที่คฤหาสน์เรเซเดนพร้อมกับขบวนรถม้ามากมายที่จอดเทียบอยู่ด้านหน้า“ข้าได้ยินมาว่าท่านดยุคเดินทางเข้ามาในเมืองหลวงเรียบร้อยแล้วอย่างนั้นหรือคะท่านหญิง”ไดอาน่าพยักหน้า“ตอนนี้เอสคงจะอยู่ในพระราชวัง และอีกไม่นานเขาน่าจะมาที่นี่เพื่อทำให้เรื่องราวมากมายระหว่างทั้งสองตระกูลเรียบร้อย..”เดวาผ่อนลมหายใจยาวผ่านทางจมูก เธอดีใจที่เรื่องราวต่างๆ กำลังคลี่คลายไปได้ด้วยดี เพราะแบบนั้นแมดดี้ลูกสาวของเธอจะได้แต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝาเสียทีรถม้าจอดเทียบที่ด้านหน้าคฤหาสน์เรเซเดนพร้อมกับแมเดอลีนและดาเนียที่กำลังเดินเข้ามา“ท่านป้าคะ ข้าคิดว่าอาจจะมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น ท่านช่วยรีบตามหมอ..”ดาเนียที่ตะโกนเสียงดังพร้อมกับพยุงแมเดอลีนเข้ามาถึงกับชะงักในทันทีเมื่อเธอมองเห็นท่านหญิงไดอาน่า มารดาของท่าน ดยุคกำลังนั่งดื่มน้ำชาอยู่เดวาลุกขึ้นไปหาแมดดี้ในทันที“เกิดอะไรขึ้นดาเนีย แมดดี้ไม่สบายอย่างนั้นหรือ?”ดาเนียกลืนน้ำลายลงคอ“ยังไม่แน่ชัดว่าแมดดี้เป็นอะไรกันแน่ แต่นางมีอาการเวียนหัว คลื่นไส้และอาเจียนค่ะ”เดวาอ้าปากค้างในทันที นางหันไปมองหน้าของท่านหญิงไดอาน่าที่ก
“เจ้าทำคุณงามความดีที่ยิ่งใหญ่มากให้จักรวรรดิของเรา มีอะไรอยากจะขอไหมดยุค อย่างเช่นเรื่องการแต่งงานหรือว่าเรื่องความรักอะไรพวกนั้น”องค์จักรพรรดิเอ่ยถามในทันทีที่เอสเตบันเดินเข้าไปในพระราชวัง มีขุนนางมากมายนั่งอยู่รอบๆ และหนึ่งในนั้นคือบารอนเรเซเดนที่กำลังมองหน้าองค์จักรพรรดิตาเขียวปั๊ดจำเป็นที่ต้องถามคำถามที่เป็นการชี้นำเช่นนั้นเลยอย่างนั้นเลยหรือพ่ะย่ะค่ะโอทีสได้แต่กล้ำกลืนความไม่พอใจนั้นเอาไว้ในอก เขาส่งยิ้มให้มิก้าหลานสาวตัวน้อยที่อยู่ในอ้อมแขนของเอสเตบัน มันปฏิเสธได้ยากเย็นมากพอสมควรเมื่อเขามองเห็นดยุคอุ้มมิก้าเดินเข้ามา ทั้งสองคนมีความคล้ายที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามิก้าที่แสนน่ารักของเขาคือลูกสาวของใครเอสเตบันมองไปที่บารอนโอทีส ท่านพ่อของแมดดี้ เขาวางมิก้าลงก่อนจะขยิบตาให้ลูกสาว“ทำตามแผนที่วางเอาไว้ได้เลยลูกรัก”มิก้าพยักหน้าก่อนที่เธอจะวิ่งไปหาท่านตา“ท่านตา!!”แน่นอนว่าเมื่อทุกอย่างมันชัดเจนเช่นนี้ เหล่าขุนนางก็ไม่ต้องคาดเดาไปต่างๆนาๆ อีกว่าหลานสาวของท่านบารอนเรเซเดนคือบุตรสาวของใครกันแน่“มิก้าหลานรัก..”มิก้าโผกอดท่านตาเอาไว้แน่น“มิก้ามีท่านป้อแล้วค่ะท่านตา ท่านป้อรักมิก้าแ
การเดินทางล่าช้าลงเล็กน้อยเพราะเม็ดฝนที่ตกลงมา เอสเตบันสั่งให้ขบวนรถม้าของเขาหยุดพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งก่อนถึงเมืองหลวงไม่ไกลมากนัก เขาอุ้มภรรยาลงจากรถม้าในสภาพที่แมเดอลีนกำลังหลับอย่างสบายในอ้อมแขนของท่านดยุคแห่งวีไซร์ และก็แน่นอนว่าไม่มีใครที่อาจหาญกล้าวิพากษ์วิจารณ์การกระทำของท่านดยุคและว่าที่ดัชเชสหรอกหลังจากที่ส่งภรรยาเข้านอนเรียบร้อย เอสเตบันก็มารับลูกสาวที่ฝากเอาไว้กับดาเนีย เขาพอจะเดาได้ว่าดาเนียและเจ้าแฝดนรกทั้งสองคงจะอยากมีช่วงเวลาที่เป็นส่วนตัวมากเหมือนกัน“จริงๆ ให้มิก้านอนกับข้าก็ได้นะคะท่านดยุค”ดาเนียกล่าวก่อนจะอุ้มมิก้าที่กำลังหลับส่งให้เอสเตบัน เขาส่งยิ้มเพื่อเป็นการขอบคุณให้กับดาเนีย“ไม่เป็นไร แมดดี้หลับไปแล้วข้าแค่จะพามิก้าไปนอนพักกับแม่ของนางเท่านั้นเอง เจ้าก็รีบพักผ่อนเถิด พรุ่งนี้จะต้องออกเดินทางตั้งแต่เช้า”โรงแรมนี้เป็นโรงแรมขนาดเล็กมากพอสมควร มีห้องพักเพียงสามห้องเท่านั้น แต่เพราะว่าเราไม่ได้มีทางเลือกมากมายเท่าไหร่นัก เอสเตบันจึงจำยอมให้ภรรยาและลูกสาวของเขาพักที่โรงแรมแห่งนี้ชั่วคราวไปก่อนเขาไม่ได้นอน เมื่อกล่อมมิก้าให้หลับเสร็จเรียบร้อยแล้ว เอสเตบันก็ถือดา