เสิ่นม่านเดินออกไปโดยไม่หันกลับไปมอง ซูเฉี่ยนเฉี่ยนดึงชายเสื้อของป๋อซือเหยียน แล้วกล่าวว่า “ซือเหยียน ฉันว่าพี่เสิ่นแค่กำลังโมโหก็เลยพูดแบบนั้นออกมาน่ะ อย่าคิดมากเลยนะ คุณเองก็ไม่ต้องโกรธด้วย”ป๋อซือเหยียนดึงมือกลับนิ่งๆซูเฉี่ยนเฉี่ยนมองมือที่ว่างเปล่าพลันชะงักทันใดป๋อซือเหยียนเอ่ยเรียบนิ่งว่า “ที่บริษัทยังมีเรื่องจัดการอีก คุณตั้งใจทบทวนอยู่ที่บ้านนะ มีอะไรก็เรียกแม่บ้านหลิวได้เลย”“ซือ…”ซูเฉี่ยนเฉี่ยนอยากรั้งป๋อซือเหยียนไว้ แต่ป๋อซือเหยียนกลับเดินจากไปในทันทีแม่บ้านหลิวที่กำลังกวาดพื้นอยู่เห็นฉากนี้เข้า ก็อดไม่ได้หัวเราะแห้งใส่ซูเฉี่ยนเฉี่ยนก็แค่สองผัวเมียเขาทะเลาะกันเฉยๆ ทำเหมือนตัวเองเป็นคุณหญิงจริงๆ เลยนะ!เมื่อเห็นสีหน้าของแม่บ้านหลิวแล้ว ซูเฉี่ยนเฉี่ยนก็รู้สึกอับอายสุดขีดเสิ่นม่านกลับไปถึงคอนโดตรงหน้ามหาวิทยาลัย เธอกลับมาพร้อมกับเจียงฉินตั้งแต่ตอนเช้าแล้วเจียงฉินพูดอย่างตื่นเต้นว่า “เธอพูดหย่ากับป๋อซือเหยียนแล้วจริงๆ เหรอ? เขาตกลงไหม?”เสิ่นม่านครุ่นคิด แล้วตอบ “เขาไม่พูด”“ไม่พูดก็เท่ากับว่าตกลงโดยปริยาย! เอาอย่างนี้ ฉันจะให้ทนายของฉันร่างสัญญาหย่าร้างให้ เรา
เจ้าหน้าที่สุขาภิบาลจากเมืองไห่เฉิงก็รีบเดินทาง พื้นที่บำบัดน้ำเสียที่เสิ่นเจิ้นซื้อไว้ก่อนหน้านี้ก็เริ่มได้รับการแก้ไขและทำความสะอาดใหม่ภายในไม่กี่เดือน เพื่อประหยัดเวลา เสิ่นม่านก็ได้เริ่มจัดการงานอื่นๆ แล้วด้วยเช่นกันจากการอนุมัติครั้งก่อน ทำให้ผู้ประกอบการจำนวนมากเริ่มลงทุนซื้อหุ้นกับเสิ่นม่าน ไม่เพียงแต่มีพร้อมเรื่องเงินเท่านั้น แต่ยังมีพวกเศรษฐีคนรวยด้วยตอนเย็น เสิ่นม่านจัดงานเลี้ยงเล็ก ๆ ที่บ้าน ฟู่ฉือโจววางแฟ้มในมือลงบนโต๊ะแล้วพูดพร้อมกับถอนหายใจ “ครึ่งเดือน เงินหลายร้อยล้าน คุณหนูใหญ่เสิ่น วิธีนี้ของคุณยอดเยี่ยมจริงๆ”เซียวตั๋วพูดว่า "เงินมีจำนวนมากมาย เราสามารถนำเงินไปลงทุนในธุรกิจอื่นต่อได้ก่อนจะจบโครงการอย่างแน่นอน"เสิ่นม่านพยักหน้าแล้วพูดว่า "ฉันรู้ เลยใช้เงินล่วงหน้าไปบางส่วนเพื่อการลงทุนเล็กน้อย"“ลงทุนเล็กน้อย?” เซียวตั๋วเลิกคิ้ว “จ่ายไปหลายร้อยล้านแล้ว คงไม่ใช่การลงทุนเล็กๆ แล้ว”เสิ่นม่านคิดไม่ถึงว่าเซียวตั๋วจะรู้เรื่องการโยกเงินหลายร้อยล้านของเธอได้อย่างรวดเร็วขนาดนี้แต่เธอไม่ได้ตั้งใจที่จะปิดบังเรื่องนี้จากเซียวตั๋ว อย่างไรเสีย เธอยุ่งอยู่กับการติดต่อป๋อซ
ทันทีที่ขึ้นรถ เลขาหลี่ก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า “คุณนายครับ เดี๋ยวคุณนายพูดจาดีๆ สักสองสามประโยค ประธานป๋อไม่อยากกับคุณนายแน่นอน”เสิ่นม่านหลับตาแล้วพูดว่า “คุณนายใหญ่ไปที่บ้านเมื่อไหร่?”"ตอนบ่ายครับ"เป็นไปตามที่เสิ่นม่านคาดเดาไว้ต้องเป็นเพราะคุณนายป๋อไปช่วงบ่อย โวยวายจนถึงตอนนี้ รอจนสงบแล้ว ค่อยเรียกเธอกลับไป คุณนายป๋อมักจะทำอะไรตามอำเภอใจเสมอและไม่ยอมให้ใครมาขัดแม้แต่น้อยเดาได้เลยว่า ตอนนี้ซูเฉี่ยนเฉียนคงถูกคุณนายป๋อไล่ออกไปแล้วรถจอดอยู่นอกบ้านตระกูลป๋อ ประตูบ้านเปิดอยู่ เสิ่นม่านเดินเข้าไป แม่บ้านหลิวยืนอยู่ข้างๆ ด้วยความเคารพ และคนที่นั่งอยู่บนโซฟาคืคุณนายป๋อเสิ่นม่านเพิ่งเห็นป๋อซือเหยียนที่คุกเข่าอยู่บนพื้น ภายในห้องไม่มีร่องรอยของซูเฉี่ยนเฉี่ยนเหลืออยู่คุณนายป๋อพูดอย่างเย็นชา "เก็บของเรียบร้อยหมดแล้วเหรอ?"“เก็บเสร็จหมดแล้วค่ะคุณนาย” แม่บ้านหลิวผลักกระเป๋าเดินทางออกมาแล้วพูดว่า "ทั้งหมดนี้เป็นของของคุณซูค่ะ"คุณนายป๋อถามว่า "เสี่ยวหลี่ ของพวกนี้มีเท่าไหร่ที่ใช้เงินของซือเหยียนซื้อ?"เลขาหลี่ก้าวออกมาอย่างระมัดระวังแล้วพูดว่า "ค่าครองชีพของคุณซู ประธานป๋อเป็นคนออก
การสั่งสอนของตระกูลป๋อนั้นเข้มงวดมากมาโดยตลอด และป๋อซือเหยียนเองก็ถูกเลี้ยงดูโดยคุณนายป๋อเพียงลำพัง ณ ตอนนี้ เขาไม่กล้าแม้แต่จะหลบจากแส้หนามคุณนายป๋อออกมือเต็มแรง เพียงไม่กี่ที ร่างกายของป๋อซือเหยียนก็เต็มไปด้วยรอยฟกช้ำแล้วเสิ่นม่านมองอย่างเย็นชา ป๋อซือเหยียนกัดฟันกรอด ไม่ว่าจะอย่างไรก็ไม่ยอมปริปากคำว่าเจ็บออกมาสุดท้ายคุณนายป๋อก็ถูบตีจนแซ่ในมือหัก จึงจะพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า "จะขอโทษหรือไม่?"ป๋อซือเหยียนยังคงไม่ได้พูดเสิ่นม่านรู้จักนิสัยของป๋อซือเหยียนเป็นอย่างดี เขาถูกทุบตีถึงขนาดนี้แล้ว แต่เขายังไม่ยอมเปิดปากพูด หมายความว่าเขาไม่ยอมขอโทษเสิ่นม่านพูดว่า "คุณย่าคะ อย่าโกรธเลยนะคะ จริงๆ ฉันก็ไม่โทษซือเหยียน เขาอาการหนักแบบนี้แล้ว โทรเรียกหมอมาดูดีกว่าค่ะ"เสิ่นม่านแสร้งเป็นคนรู้ความ อารมณ์ของคุณนายป๋อก็ผ่อนลงไม่น้อยในฐานะคุณย่าของป๋อซือเหยียน เธอจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าหลานชายของเธอเป็นคนแบบไหน?จะให้หลานชายของเธอขอโทษ เป็นไปไม่ได้เลยสักนิดเมื่อครู่ก็เป็นเพียงการเล่นละครต่อหน้าเสิ่นม่าน เพื่อให้เสิ่นม่านผ่อนอารมณ์โกรธก็เท่านั้นคุณนายป๋อแตะมือเสิ่นม่านแล้วพูดว่า "เด็กดี นั
“หยุดขู่ฉันเรื่องการเข้าเรียนมหาวิทยาลัยเอได้แล้ว อย่างแย่ที่สุดก็คือการหย่าร้าง ไม่เป็นผลดีต่อเราทั้งสองทั้งนั้น”เสิ่นม่านไม่กังวลเลยสักนิดหากป๋อซือเหยียนจะบอกคุณนายป๋อเรื่องนี้ แถมเขายังต้องรักษาความลับนี้อย่างดีอีกด้วย อย่างน้อยก็ก่อนที่เขาจะได้รับผลประโยชน์จากตระกูลเสิ่นจนมากพอตามที่คาดไว้ ป๋อซือเหยียนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ “เธออยากทำอะไรกันแน่?”“ทำการแลกเปลี่ยน ฉันจะช่วยพูดอะไรดีๆ เกี่ยวกับคุณต่อหน้าคุณย่า แต่คุณต้องให้ความร่วมมือเล่นละครตามน้ำด้วย”“เล่นละครตามน้ำ?”ป๋อซือเหยียนเหลือบมองเสิ่นม่านอย่างสงสัย "ง่ายๆ แค่นี้เองเหรอ?"“ต่อหน้าคนนอก คุณต้องเป็นสามีที่มีคุณสมบัติสามีแสนดีอย่างครบถ้วน ตามใจฉันทุกอย่าง เมื่ออยู่ต่อหน้าตระกูลเสิ่น ต้องให้เกียรติฉัน ต้องออกตัวแทนฉันในเวลาที่เหมาะสม เป็นคนหนุนหลังฉัน การแลกเปลี่ยนแบบนี้ สำหรับคุณ ก็ง่ายอย่างกับปอกกล้วยเข้าปาก คุณไม่เสียเปรียบสักนิด”เสิ่นม่านเองก็ไม่อ้อมค้อม เธอยังต้องการให้ป๋อซือเหยียนช่วยแสดงตบตาเมื่ออยู่กับคนตระกูลเสิ่น แต่หลังจากที่คุณนายป๋อมาอาละวาดไปเมื่อไม่กี่วันก่อน ทำให้ป๋อซือเหยียนก็ไม่พอใจเธอสักเท่าไหร่ ยิ่งไ
“นายคนนี้นี่เก่งมากจริงๆ ตอนแรกฉันก็คิดว่าทำเพื่อตระกูล แต่สรุปคือ หลายวันมานี้มีผู้ประกอบการจำนวนมากถอนทุนออกไป ฉันคอยหว่านล้อมให้อยู่ต่อตอนดื่มเหล้ายังรั้งไม่ได้สักคน สุดท้ายฉันจับตัวได้คนหนึ่ง ใช้กำลังมาขู่ คนคนนั้นถึงจะยอมบอกว่าเป็นเพราะป๋อซือเหยียนปริปากพูดว่าหากใครจะลงทุนกับตระกูลเจียงของฉัน ก็นับว่าเป็นศัตรูกับเขา!”เจียงฉินยิ่งพูดยิ่งโกรธ แต่สีหน้าของเสิ่นม่านกลับหม่นลงเธอรู้ฝีมือของป๋อซือเหยียน แต่เธอไม่รู้ว่าป๋อซือเหยียนสามารถทำเพื่อซู่เฉี่ยนเฉี่ยนได้ถึงขนาดนี้แม้ว่านามสกุลของเจียงฉินคือเจียง แต่มีใครบ้างที่ไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วเจียงฉินเป็นหลานสาวของจะไม่รู้ว่าเจียงฉินคือหลานสาวของท่านเซียว?หากจะเล่นงานตระกูลเจียง ก็เท่ากับสบประมาทท่านเซียว ต่อให้ป๋อซือเหยียนจะโง่แค่ไหนก็ตาม เขาก็ไม่ควรลงมือกับเจียงฉิน“ไม่ต้องห่วง ให้ฉันจัดการเอง”เสิ่นม่านวางสายโทรศัพท์เธอไม่คิดจะทำอะไรกับป๋อซือเหยียนและซูเฉี่ยนเฉี่ยนเลย ตอนนี้ดูเหมือนเธอยังใจดีเกินไป ป๋อซือเหยียนไม่คิดที่จะปล่อยเจียงฉินไปด้วยซ้ำในเมื่อป๋อซือเหยียนโหดร้าย ก็อย่าหาว่าเธอไม่ยุติธรรมแล้วกันสักพักเสิ่นม่านก็ลุกขึ้น
“เสิ่นม่าน คุณต้องใจร้ายขนาดนี้เลยเหรอ?”ป๋อซือเหยียนปกป้องซูเฉี่ยนเฉี่ยน น้ำเสียงพลันเย็นชาตามไปด้วยเสิ่นม่านไม่อยากจะสาธยายกับป๋อซือเหยียนในเวลานี้อีก เธอเข้าประเด็นทันที "ถ้าคุณไม่อยากให้คุณนายเห็นรูปนี้ ก็ทำที่ฉันพูดจะดีกว่า”ป๋อซือเหยียนหรี่ตาลงเล็กน้อย “คุณต้องการอะไร?”“ฉันอยากให้คุณปล่อยตระกูลเจียงและชดใช้ให้กับตระกูลเจียง”เป็นไปไม่ได้ที่ป๋อซือเหยียนจะขอโทษ อีกอย่างการขอโทษเป็นแค่เรื่องที่ขยับริมฝีปากแค่นั้นและไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ซึ่งไม่คุ้มค่าเท่ากับการชดเชยป๋อซือเหยียนพูดอย่างเย็นชาว่า “เป็นไปไม่ได้”“เป็นไปไม่ได้? โอเค งั้นฉันจะเอารูปนี้ให้คุณนายดู ให้คุณนายรู้ว่าคุณโกหกเธอ ถึงแม้วันนี้คุณจะออกมากับฉัน แต่ก็แอบติดต่อกับหล่อนอยู่”เสิ่นม่านพูดอย่างเมินเฉย “ยังไงฉันก็ไม่ขาดทุนอยู่แล้ว แต่ซูเฉี่ยนเฉี่ยนตอนนี้ถูกคุณนายยกเลิกการให้ทุนการศึกษาและค่าครองชีพทั้งหมดแล้ว ฉันนึกภาพไม่ออกจริงๆ ว่าซูเฉี่ยนเฉี่ยนจะเป็นยังไงหากรูปนี้หลุดถึงมือของคุณนาย”ซูเฉี่ยนเฉี่ยนได้ยินเสิ่นม่านพูดแบบนี้ สีหน้าก็ซีดลงทันที“นี่คุณขู่ผมเหรอ?”“ใช่ ฉันกำลังขู่คุณ”เสิ่นม่านไม่คิดจะเสี
เมื่อเสิ่นม่านมาถึงยังบริษัทของเจียงฉิน เจียงฉินก็กำลังดูจำนวนเงินที่เพิ่งเข้ามาในบัญชีพร้อมทั้งกระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุขอยู่“ม่านม่าน! เธอนี่สุดยอดไปเลย ตอนนี้หน้าของไอ้ผู้ชายห่วย ๆ คนนั้น มันดูแย่สุด ๆ ไปเลยใช่ไหมล่ะ?”เจียงฉินไม่คาดคิดเลยว่าป๋อซือเหยียนจะมีเงินเพียงพอที่จะชดเชยเงินจํานวนนี้มาให้ได้ ถึงอย่างไรเธอเองก็ไม่อาจเมินเฉยต่อเงินตราได้อยู่ดี และแม้ว่าจะมีอุปสรรคเล็กน้อย แต่อุปสรรคนี้ก็ได้รับกำไรมาโดยที่ไม่ต้องขาดทุนแต่อย่างใด!“เงินค่าชดเชย โอนเข้ามาในบัญชีแล้วเหรอ?”ซึ่งใช้เวลาเพียงไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง และแม้แต่เจียงฉินเองก็คิดไม่ถึงว่ามันจะเร็วขนาดนี้เจียงฉินจึงพูดขึ้นว่า:“ฉันขอเดานะว่า เขาน่าจะใช้บัญชีส่วนตัวโอนเงินให้บริษัทฉัน ไม่งั้นคงไม่โอนเข้าบัญชีมาเร็วขนาดนี้หรอก แหม ป๋อซือเหยียนคนนี้ต้องกลัวเสียหน้าแน่ ๆ ถึงได้ใช้เงินตัวเองโอนมาให้ฉันแบบนี้”เสิ่นม่านที่ไม่เห็นเซียวตั๋วกับฟู่ฉือโจวอยู่ในบริษัท จึงอดที่จะถามขึ้นมาไม่ได้:“แล้วพวกเขาล่ะ? บริษัทเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ทำไมพวกเขาถึงไม่อยู่ล่ะ?”“นิสัยแบบอาตั๋วคนนั้นน่ะพอรู้ว่าบริษัทเกิดเรื่องขึ้นก็หายตัวไปทันที ทั