พอฟู่ฉือโจวพูดออกมา สายตาของทั้งสามคนก็มองไปเสิ่นม่านพร้อมกันทันทีเสิ่นม่านรีบถอนความคิดเมื่อครู่นี้ แล้วจับแก้มอันร้อนผ่าวของเธอพลางพูดว่า “น่าจะ…เป็นหวัดมั้ง”“เป็นหวัดก็ห้ามประมาท เดี๋ยวฉันจะให้อาตั๋วพาเธอไปโรงพยาบาล”เจียงฉินที่อยู่ข้างๆ อยากจะสร้างโอกาสสองต่อสองให้กับพวกเขาทั้งสองเสิ่นม่านส่ายหัว “ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เดี๋ยวก็หาย”เจียงฉินลากเสิ่นม่านให้นั่งลง อาหารเช้าที่เซียวตั๋วกินนั้นง่ายมาก แต่กลับกันในจานของพวกเขาทั้งสามคนกลับเต็มไปด้วยสารอาหารที่ออกจะมากเกินไปด้วยซ้ำเมื่อวานเพิ่งดื่มเหล้าไป ตอนนี้เลยอยากกินของเผ็ดๆ มันๆ อยู่ตลอดเวลา ปรากฏว่าตื่นเช้ามาก็มีน้ำซุปเผ็ดๆ ให้ซดเลย เรียกน้ำย่อยได้มากๆเซียวตั๋วกินได้แค่สองคำก็เอาจานชามไปเก็บ เมื่อเห็นว่าเขาถือเสื้อกำลังจะออกไป ฟู่ฉือโจวจึงเอ่ยถาม “จะออกไปไหนแต่เช้าล่ะ?”“ออกไปข้างนอกแป๊บหนึ่ง”เซียวตั๋วพูดจบแล้วปิดประตูทันทีฟู่ฉือโจวพึมพำ “ออกไปเช้าขนาดนี้จะไปตลาดหรือไง?”เจียงฉินไม่พอใจอย่างหนัก “ซื่อบื้อจริงๆ!”เสิ่นม่านกินอาหารเช้าเงียบๆ ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง เซียวตั๋วก็กลับมาพร้อมกับถุงใหญ่ในมือฟู้ฉือโจวมอ
เซียวตั๋วตอบนิ่งๆเสิ่นม่านกล่าว “คุณเลือกผลไม้ได้เก่งมาก เก่งกว่าป้าแม่บ้านฉันอีก”เซียวตั๋วยิ้มกลบเกลื่อนเขาไม่บอกอยู่แล้วว่าผลไม้นี่เขาชิมทีละอันถึงจะได้มา ไม่อย่างนั้นคงไม่ใช้เวลานานขนาดนั้นหรอก‘ครืดๆ…”ในห้องรับแขกสามารถได้ยินเสียงสั่นครืดๆ มาจากห้องนอนเบาๆเจียงฉินกล่าว “โทรศัพท์ใครมาหรือเปล่า”ทุกคนมองหน้ากันฟู่ฉือโจวกล่าว “ฉันไม่มีนิสัยชอบปิดเสียงโทรศัพท์นะ”เซียวตั๋วไม่พูดจา เจียงฉินหยิบโทรศัพท์ออกมา “ของฉันอยู่นี่”เสิ่นม่านถึงจะตระหนักได้ว่าหลังจากวางสายจากเลขาหลี่เมื่อวาน เธอรู้สึกหงุดหงิดมากจึงปิดเสียงโทรศัพท์ไว้เมื่อคิดได้ดังนั้น เสิ่นม่านจึงขยับเก้าอี้วิ่งไปในห้องนอนอย่างรวดเร็วพบว่าโทรศัพท์สั่นครืดๆ อยู่อย่างนั้น โดยมีเลขาหลี่เป็นคนโทรมาเสิ่นม่านรับสายทันที “ฮัลโหล?”เลขาหลี่ได้ยินเสียงเสิ่นม่าน ก็โล่งใจไปเฮือกหนึ่ง “คุณหญิง ในที่สุดก็รับสายสักที”“มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”“เมื่อวานประธานป๋อตามหาคุณทั้งคืนเลย แต่พอรู้ว่าคุณไปกับเซียวตั๋วแล้ว เขาก็โมโหวางสายไปเลย วันนี้ไม่เข้าบริษัทด้วย ตอนนี้คุณติดต่อหาประธานป๋อได้ไหมครับ ช่วยบอกประธานป๋อให้เข้าบริษ
“คุณหญิงคะ! กลับมาสักที!”น้อยครั้งมากที่เสิ่นม่านจะเห็นแม่บ้านหลิวทำหน้าจะร้องไห้เช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าอยู่บ้านสองสามวันนี้เจอกับเรื่องลำบากไม่น้อย“แม่บ้านหลิว ป๋อซือเหยียนอยู่บ้านไหมคะ?”“อยู่ค่ะๆ! คุณชายอยู่บ้านค่ะ!”เพียงแต่แม่บ้านหลิวลังเลอยู่ครู่หนึ่ง กล่าวว่า “แต่ว่า นอกจากคุณชายแล้ว ยังมียัยสุนัขจิ้งจอกนั่นอยู่ด้วยค่ะ”เมื่อพูดถึงซูเฉี่ยนเฉี่ยน แม่บ้านหลิวก็กัดฟันกรอบ เกลียดชังเป็นที่สุดเสิ่นม่านไม่แปลกใจเลยที่ซูเฉี่ยนเฉี่ยนอยู่ที่นี่ แต่เรื่องที่เธอแปลกใจคือ หลังจากที่คุณนายป๋อออกโรงแล้ว แต่ซูเฉี่ยนเฉี่ยนกลับยังสามารถอยู่ที่บ้านป๋อต่อไปได้เนี่ยสิดูท่าแล้ว ป๋อซือเหยียนจะชอบซูเฉี่ยนเฉี่ยนมากถึงขนาดไม่สนใจคุณนายป๋อแล้วสินะเสิ่นม่านเดินไปสแกนลายนิ้วมือที่ประตูใหญ่กลับพบว่าสแกนไม่ผ่านแม่บ้านหลิวกล่าว “หลังจากที่คุณชายกลับมาเมื่อคืน ก็เปลี่ยนรหัสใหม่ทั้งหมด”กล่าวจบ แม่บ้านหลิวก็กรอกรหัสผ่าน เสิ่นม่านถึงจะเข้าไปในบ้านป๋อได้วินาทีนี้ ป๋อซือเหยียนกำลังนั่งอยู่ในห้องรับแขกกับซูเฉี่ยนเฉี่ยน โดยซูเฉี่ยนเฉี่ยนกำลังอ่านหนังสือ ส่วนป๋อซือเหยียนกำลังชี้แนะอย่างตั้งใจ บรรยาศระ
เสิ่นม่านเดินออกไปโดยไม่หันกลับไปมอง ซูเฉี่ยนเฉี่ยนดึงชายเสื้อของป๋อซือเหยียน แล้วกล่าวว่า “ซือเหยียน ฉันว่าพี่เสิ่นแค่กำลังโมโหก็เลยพูดแบบนั้นออกมาน่ะ อย่าคิดมากเลยนะ คุณเองก็ไม่ต้องโกรธด้วย”ป๋อซือเหยียนดึงมือกลับนิ่งๆซูเฉี่ยนเฉี่ยนมองมือที่ว่างเปล่าพลันชะงักทันใดป๋อซือเหยียนเอ่ยเรียบนิ่งว่า “ที่บริษัทยังมีเรื่องจัดการอีก คุณตั้งใจทบทวนอยู่ที่บ้านนะ มีอะไรก็เรียกแม่บ้านหลิวได้เลย”“ซือ…”ซูเฉี่ยนเฉี่ยนอยากรั้งป๋อซือเหยียนไว้ แต่ป๋อซือเหยียนกลับเดินจากไปในทันทีแม่บ้านหลิวที่กำลังกวาดพื้นอยู่เห็นฉากนี้เข้า ก็อดไม่ได้หัวเราะแห้งใส่ซูเฉี่ยนเฉี่ยนก็แค่สองผัวเมียเขาทะเลาะกันเฉยๆ ทำเหมือนตัวเองเป็นคุณหญิงจริงๆ เลยนะ!เมื่อเห็นสีหน้าของแม่บ้านหลิวแล้ว ซูเฉี่ยนเฉี่ยนก็รู้สึกอับอายสุดขีดเสิ่นม่านกลับไปถึงคอนโดตรงหน้ามหาวิทยาลัย เธอกลับมาพร้อมกับเจียงฉินตั้งแต่ตอนเช้าแล้วเจียงฉินพูดอย่างตื่นเต้นว่า “เธอพูดหย่ากับป๋อซือเหยียนแล้วจริงๆ เหรอ? เขาตกลงไหม?”เสิ่นม่านครุ่นคิด แล้วตอบ “เขาไม่พูด”“ไม่พูดก็เท่ากับว่าตกลงโดยปริยาย! เอาอย่างนี้ ฉันจะให้ทนายของฉันร่างสัญญาหย่าร้างให้ เรา
เจ้าหน้าที่สุขาภิบาลจากเมืองไห่เฉิงก็รีบเดินทาง พื้นที่บำบัดน้ำเสียที่เสิ่นเจิ้นซื้อไว้ก่อนหน้านี้ก็เริ่มได้รับการแก้ไขและทำความสะอาดใหม่ภายในไม่กี่เดือน เพื่อประหยัดเวลา เสิ่นม่านก็ได้เริ่มจัดการงานอื่นๆ แล้วด้วยเช่นกันจากการอนุมัติครั้งก่อน ทำให้ผู้ประกอบการจำนวนมากเริ่มลงทุนซื้อหุ้นกับเสิ่นม่าน ไม่เพียงแต่มีพร้อมเรื่องเงินเท่านั้น แต่ยังมีพวกเศรษฐีคนรวยด้วยตอนเย็น เสิ่นม่านจัดงานเลี้ยงเล็ก ๆ ที่บ้าน ฟู่ฉือโจววางแฟ้มในมือลงบนโต๊ะแล้วพูดพร้อมกับถอนหายใจ “ครึ่งเดือน เงินหลายร้อยล้าน คุณหนูใหญ่เสิ่น วิธีนี้ของคุณยอดเยี่ยมจริงๆ”เซียวตั๋วพูดว่า "เงินมีจำนวนมากมาย เราสามารถนำเงินไปลงทุนในธุรกิจอื่นต่อได้ก่อนจะจบโครงการอย่างแน่นอน"เสิ่นม่านพยักหน้าแล้วพูดว่า "ฉันรู้ เลยใช้เงินล่วงหน้าไปบางส่วนเพื่อการลงทุนเล็กน้อย"“ลงทุนเล็กน้อย?” เซียวตั๋วเลิกคิ้ว “จ่ายไปหลายร้อยล้านแล้ว คงไม่ใช่การลงทุนเล็กๆ แล้ว”เสิ่นม่านคิดไม่ถึงว่าเซียวตั๋วจะรู้เรื่องการโยกเงินหลายร้อยล้านของเธอได้อย่างรวดเร็วขนาดนี้แต่เธอไม่ได้ตั้งใจที่จะปิดบังเรื่องนี้จากเซียวตั๋ว อย่างไรเสีย เธอยุ่งอยู่กับการติดต่อป๋อซ
ทันทีที่ขึ้นรถ เลขาหลี่ก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า “คุณนายครับ เดี๋ยวคุณนายพูดจาดีๆ สักสองสามประโยค ประธานป๋อไม่อยากกับคุณนายแน่นอน”เสิ่นม่านหลับตาแล้วพูดว่า “คุณนายใหญ่ไปที่บ้านเมื่อไหร่?”"ตอนบ่ายครับ"เป็นไปตามที่เสิ่นม่านคาดเดาไว้ต้องเป็นเพราะคุณนายป๋อไปช่วงบ่อย โวยวายจนถึงตอนนี้ รอจนสงบแล้ว ค่อยเรียกเธอกลับไป คุณนายป๋อมักจะทำอะไรตามอำเภอใจเสมอและไม่ยอมให้ใครมาขัดแม้แต่น้อยเดาได้เลยว่า ตอนนี้ซูเฉี่ยนเฉียนคงถูกคุณนายป๋อไล่ออกไปแล้วรถจอดอยู่นอกบ้านตระกูลป๋อ ประตูบ้านเปิดอยู่ เสิ่นม่านเดินเข้าไป แม่บ้านหลิวยืนอยู่ข้างๆ ด้วยความเคารพ และคนที่นั่งอยู่บนโซฟาคืคุณนายป๋อเสิ่นม่านเพิ่งเห็นป๋อซือเหยียนที่คุกเข่าอยู่บนพื้น ภายในห้องไม่มีร่องรอยของซูเฉี่ยนเฉี่ยนเหลืออยู่คุณนายป๋อพูดอย่างเย็นชา "เก็บของเรียบร้อยหมดแล้วเหรอ?"“เก็บเสร็จหมดแล้วค่ะคุณนาย” แม่บ้านหลิวผลักกระเป๋าเดินทางออกมาแล้วพูดว่า "ทั้งหมดนี้เป็นของของคุณซูค่ะ"คุณนายป๋อถามว่า "เสี่ยวหลี่ ของพวกนี้มีเท่าไหร่ที่ใช้เงินของซือเหยียนซื้อ?"เลขาหลี่ก้าวออกมาอย่างระมัดระวังแล้วพูดว่า "ค่าครองชีพของคุณซู ประธานป๋อเป็นคนออก
การสั่งสอนของตระกูลป๋อนั้นเข้มงวดมากมาโดยตลอด และป๋อซือเหยียนเองก็ถูกเลี้ยงดูโดยคุณนายป๋อเพียงลำพัง ณ ตอนนี้ เขาไม่กล้าแม้แต่จะหลบจากแส้หนามคุณนายป๋อออกมือเต็มแรง เพียงไม่กี่ที ร่างกายของป๋อซือเหยียนก็เต็มไปด้วยรอยฟกช้ำแล้วเสิ่นม่านมองอย่างเย็นชา ป๋อซือเหยียนกัดฟันกรอด ไม่ว่าจะอย่างไรก็ไม่ยอมปริปากคำว่าเจ็บออกมาสุดท้ายคุณนายป๋อก็ถูบตีจนแซ่ในมือหัก จึงจะพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า "จะขอโทษหรือไม่?"ป๋อซือเหยียนยังคงไม่ได้พูดเสิ่นม่านรู้จักนิสัยของป๋อซือเหยียนเป็นอย่างดี เขาถูกทุบตีถึงขนาดนี้แล้ว แต่เขายังไม่ยอมเปิดปากพูด หมายความว่าเขาไม่ยอมขอโทษเสิ่นม่านพูดว่า "คุณย่าคะ อย่าโกรธเลยนะคะ จริงๆ ฉันก็ไม่โทษซือเหยียน เขาอาการหนักแบบนี้แล้ว โทรเรียกหมอมาดูดีกว่าค่ะ"เสิ่นม่านแสร้งเป็นคนรู้ความ อารมณ์ของคุณนายป๋อก็ผ่อนลงไม่น้อยในฐานะคุณย่าของป๋อซือเหยียน เธอจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าหลานชายของเธอเป็นคนแบบไหน?จะให้หลานชายของเธอขอโทษ เป็นไปไม่ได้เลยสักนิดเมื่อครู่ก็เป็นเพียงการเล่นละครต่อหน้าเสิ่นม่าน เพื่อให้เสิ่นม่านผ่อนอารมณ์โกรธก็เท่านั้นคุณนายป๋อแตะมือเสิ่นม่านแล้วพูดว่า "เด็กดี นั
“หยุดขู่ฉันเรื่องการเข้าเรียนมหาวิทยาลัยเอได้แล้ว อย่างแย่ที่สุดก็คือการหย่าร้าง ไม่เป็นผลดีต่อเราทั้งสองทั้งนั้น”เสิ่นม่านไม่กังวลเลยสักนิดหากป๋อซือเหยียนจะบอกคุณนายป๋อเรื่องนี้ แถมเขายังต้องรักษาความลับนี้อย่างดีอีกด้วย อย่างน้อยก็ก่อนที่เขาจะได้รับผลประโยชน์จากตระกูลเสิ่นจนมากพอตามที่คาดไว้ ป๋อซือเหยียนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ “เธออยากทำอะไรกันแน่?”“ทำการแลกเปลี่ยน ฉันจะช่วยพูดอะไรดีๆ เกี่ยวกับคุณต่อหน้าคุณย่า แต่คุณต้องให้ความร่วมมือเล่นละครตามน้ำด้วย”“เล่นละครตามน้ำ?”ป๋อซือเหยียนเหลือบมองเสิ่นม่านอย่างสงสัย "ง่ายๆ แค่นี้เองเหรอ?"“ต่อหน้าคนนอก คุณต้องเป็นสามีที่มีคุณสมบัติสามีแสนดีอย่างครบถ้วน ตามใจฉันทุกอย่าง เมื่ออยู่ต่อหน้าตระกูลเสิ่น ต้องให้เกียรติฉัน ต้องออกตัวแทนฉันในเวลาที่เหมาะสม เป็นคนหนุนหลังฉัน การแลกเปลี่ยนแบบนี้ สำหรับคุณ ก็ง่ายอย่างกับปอกกล้วยเข้าปาก คุณไม่เสียเปรียบสักนิด”เสิ่นม่านเองก็ไม่อ้อมค้อม เธอยังต้องการให้ป๋อซือเหยียนช่วยแสดงตบตาเมื่ออยู่กับคนตระกูลเสิ่น แต่หลังจากที่คุณนายป๋อมาอาละวาดไปเมื่อไม่กี่วันก่อน ทำให้ป๋อซือเหยียนก็ไม่พอใจเธอสักเท่าไหร่ ยิ่งไ