“โทรหาเสิ่นม่านบอกให้เธอกลับบ้าน”“ครับ?”เลขาหลี่มึนงงในขณะเดียวกัน เสิ่นม่านกำลังสนุกสนานกับเจียงฉินสองคนอยู่ในห้องวีไอพีของไนต์คลับยากมากกว่าที่เสิ่นม่านจะได้เมาหัวทิ่มแบบนี้ เพราะตั้งแต่ที่ฟื้นคืนชีพมา เธอมีเรื่องต้องพะวงมากมายหลายเรื่องเหลือเกิน ตอนนี้ด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ ทำให้เธอลืมเรื่องทุกข์ใจเหล่านั้นไปทันทีเสียงโทรศัพท์ของเสิ่นม่านดังขึ้น เธอรับสาย เลขาหลี่ที่อยู่ปลายสายก็พูดขึ้นอย่างลังเลใจ “คุณหญิงครับ ประธานป๋อบอกให้คุณกลับบ้านครับ”“หา? อะไรนะ? เขาบอกให้กลับก็ต้องกลับเหรอ? เขาใหญ่มาจากไหน!”เสิ่นม่านพูดด้วยน้ำเสียงมึนเมา เลขาหลี่ได้ยินถึงความผิดปกติ “คุณหญิง ตอนนี้อยู่ที่ไหนครับ?”“ที่ที่ไม่มีป๋อซือเหยียน!”กล่าวจบ เสิ่นม่านก็วางสายทันทีเจียงฉินกอดเสิ่นม่านไว้ แล้วพูดเสียงเจือหัวเราะ “เราสองคนมันน่าเบื่อเกินไป! เดี๋ยวเจ๊พาเล่นของตื่นเต้นกว่านี้!”“ตื่นเต้น?”เจียงฉินกดกริ่งเรียกพนักงานไม่นานผู้จัดการร้านก็เดินเข้ามาด้วยสีหน้าแป้นแล้น “คุณหนูเจียงมีอะไรให้ช่วยครับ?”“เอานายแบบที่หล่อที่สุดของที่นี่มาให้หมด!”“ครับ รอสักครู่นะครับ!”ไม่นาน หนุ่มหล่อกระ
ถึงแม้ปากจะพูดแบบนั้น แต่การกระทำของฟู่ฉือโจวกลับยิ่งอยู่ยิ่งเร็วขึ้น ทั้งสองรีบขับรถออกจากคอนโด ไม่นานก็ไปถึงหน้าประตูไนต์คลับเถ้าแก่ไนต์คลับรออยู่หน้าประตูตั้งนานแล้ว เมื่อเห็นฟู่ฉือโจวและเซียวตั๋วลงจากรถ ก็รีบก้มหน้าโน้มตัวเดินเข้าไปหา “คุณชายฟู่ คุณชายเซียว ผมคอยจับดูให้ตลอดเลยครับ ยังไม่หนีไปไหน!”ฟู่ฉือโจวหยุดฝีเท้า แล้วถามว่า “หมายความว่าพวกเธออยู่กับนายแบบพวกนั้นตลอดไม่ออกมางั้นเหรอ?”เถ้าแก่ไนต์คลับยิ้มกลบเกลื่อนคนที่เข้าใจย่อมเข้าใจอยู่แล้ว!“แม่งเอ้ย!”ฟู่ฉือโจวสบถไปคำหนึ่ง จากนั้นก็เดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว แล้วเดินไปด้วยถามไปด้วยว่า “ห้องไหน?”“ห้องนี้ครับ!”เถ้าแก่ไนต์คลับกำลังจะเปิดประตูให้ฟู่ฉือโจว แต่ฟู่ฉือโจวก็ใช้เท้าเตะไปก่อนแล้วพบว่าในห้องผู้ชายกลุ่มหนึ่งกำลังนั่งดื่มเหล้าล้อมรอบเสิ่นม่านกับเจียงฉินอยู่ ผู้หญิงทั้งสองคนเพลิดเพลินแสนสุขอยู่ท่ามกลางน้องๆ ผู้ชาย“เอ๋? นี่มันฟู่ฉือโจวกับน้องชายฉันไม่ใช่เหรอ?”เจียงฉินถามขึ้นเสิ่นม่านหันกลับไปเห็นคนสองคนที่ยืนอยู่นอกประตูเช่นกันผู้ชายทั้งสองกำลังมองดูฉากในห้องด้วยสีหน้าบึ้งตึง“พี่ครับ สองคนนี้เป็นคนท
เจียงฉินนอนหลับปุ๋ยไปแล้ว ไม่สนหรอกว่าฟู่ฉือโจวจะพูดอะไรเสิ่นม่านที่นั่งอยู่ข้างหลังเองก็ถูกลมอุ่นๆ ในรถเป่าจนผล็อยหลับไป ใบหน้าที่แดงอยู่ก่อนแล้วยิ่งแดงกว่าเดิมเซียวตั๋วหยิบผ้าห่มออกมาจากข้างหลังแล้วห่มให้เสิ่นม่าน“นอนพักก่อนนะ อีกแป๊บหนึ่งก็ถึงแล้ว”เสิ่นม่านพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง เธอเองก็รู้สึกเหนื่อยมากแล้วเหมือนกัน เธอพิงหน้าต่างไม่รู้เคลิ้มหลับไปตอนไหนขณะเดียวกัน ป๋อซือเหยียนกำลังพับจอโน้ตบุ๊คอยู่ในห้องหนังสือ ในห้องเงียบสงบ เขานวดขมับเบาๆ แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ยังคงไม่ได้รับการตอบกลับจากเสิ่นม่านไม่นาน เลขาหลี่ก็โทรมาป๋อซือเหยียนรับสาย “เสิ่นม่านล่ะ?”“เหมือนว่าคุณหญิงจะอยู่ที่ไนต์คลับครับ”“ไนต์คลับ?”ป๋อซือเหยียนขมวดคิ้วแต่ก่อนเสิ่นม่านไปสถานที่แบบนี้น้อยมาก ครั้งล่าสุดก็เป็นวันที่ไปเจอกับฮั่วหยุนเซียววันนั้นคราวก่อนเกิดเรื่องในโซเชียลใหญ่โตขนาดนี้ ทำไมยังกล้าไปสถานที่แบบนั้นอีก?“น่าจะใช่ครับ ผมได้ยินไม่ค่อยชัด แต่ทางนั้นเสียงดังวุ่นวายมาก ดูเหมือนคุณหญิงจะดื่มเหล้าด้วย แล้วก็…ไม่ค่อยอยากกลับมาสักเท่าไหร่”ได้ยินเลขาหลี่พูดดังนั้น ป๋อซือเหยียนก็โกรธจัด
ซูเฉี่ยนเฉี่ยนยังคงรอป๋อซือเหยียนอยู่ในห้องรับแขก เมื่อเห็นป๋อซือเหยียนหน้าบึ้งกลับมา ซูเฉี่ยนเฉี่ยนจึงถามลองเชิงว่า “พี่เสิ่น…ไม่กลับมาด้วยเหรอคะ?”สีหน้าอารมณ์ของป๋อซือเหยียนยิ่งเย็นชากว่าเดิม “ในเมื่อเธอไม่อยากกลับ ก็ไม่ต้องกลับมาอีก”เมื่อได้ยินคำพูดของป๋อซือเหยียนแล้ว ซูเฉี่ยนเฉี่ยนก็แอบดีใจเสิ่นม่านโง่จริงๆ ทั้งๆ ที่มีโอกาสได้หัวใจของป๋อซือเหยียน แต่กลับดื้อรั้นถึงเพียงนี้แต่แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ขอแค่เสิ่นม่านไม่อยู่บ้านหลังนี้ เธอก็จะมีโอกาสใกล้ชิดป๋อซือเหยียนมากขึ้น และได้รับหัวใจของป๋อซือเหยียนมาครองซูเฉี่ยนเฉี่ยนมองใบหน้าด้านข้างของป๋อซือเหยียน และเชื่อมั่นว่าตนจะได้ป๋อซือเหยียนมาครอบครองเพราะในอดีต เธอสัมผัสได้รางๆ ว่าป๋อซือเหยียนมีความรู้สึกต่อเธอ นอกจากนี้ป๋อซือเหยียนยังปฏิบัติกับเธอต่างจากคนอื่นเสมอเช้าวันรุ่งขึ้น เสิ่นม่านตื่นนอนด้วยความวิงเวียนศีรษะ เมื่อลืมตาขึ้นพบว่าเป็นเพดานสีขาว การตกแต่งภายในรอบๆ ก็แปลกตาเธอนวดศีรษะเบาๆ จำได้เพียงว่าเมื่อคืนเธอไปเที่ยวไนต์คลับกับเจียงฉินแล้วออเดอร์นายแบบหนุ่มมา จากนั้นก็ถูกฟู่ฉือโจวและเซียวตั๋วแบกกลับ ขณะที่อยู่บนรถเธอ
พอฟู่ฉือโจวพูดออกมา สายตาของทั้งสามคนก็มองไปเสิ่นม่านพร้อมกันทันทีเสิ่นม่านรีบถอนความคิดเมื่อครู่นี้ แล้วจับแก้มอันร้อนผ่าวของเธอพลางพูดว่า “น่าจะ…เป็นหวัดมั้ง”“เป็นหวัดก็ห้ามประมาท เดี๋ยวฉันจะให้อาตั๋วพาเธอไปโรงพยาบาล”เจียงฉินที่อยู่ข้างๆ อยากจะสร้างโอกาสสองต่อสองให้กับพวกเขาทั้งสองเสิ่นม่านส่ายหัว “ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เดี๋ยวก็หาย”เจียงฉินลากเสิ่นม่านให้นั่งลง อาหารเช้าที่เซียวตั๋วกินนั้นง่ายมาก แต่กลับกันในจานของพวกเขาทั้งสามคนกลับเต็มไปด้วยสารอาหารที่ออกจะมากเกินไปด้วยซ้ำเมื่อวานเพิ่งดื่มเหล้าไป ตอนนี้เลยอยากกินของเผ็ดๆ มันๆ อยู่ตลอดเวลา ปรากฏว่าตื่นเช้ามาก็มีน้ำซุปเผ็ดๆ ให้ซดเลย เรียกน้ำย่อยได้มากๆเซียวตั๋วกินได้แค่สองคำก็เอาจานชามไปเก็บ เมื่อเห็นว่าเขาถือเสื้อกำลังจะออกไป ฟู่ฉือโจวจึงเอ่ยถาม “จะออกไปไหนแต่เช้าล่ะ?”“ออกไปข้างนอกแป๊บหนึ่ง”เซียวตั๋วพูดจบแล้วปิดประตูทันทีฟู่ฉือโจวพึมพำ “ออกไปเช้าขนาดนี้จะไปตลาดหรือไง?”เจียงฉินไม่พอใจอย่างหนัก “ซื่อบื้อจริงๆ!”เสิ่นม่านกินอาหารเช้าเงียบๆ ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง เซียวตั๋วก็กลับมาพร้อมกับถุงใหญ่ในมือฟู้ฉือโจวมอ
เซียวตั๋วตอบนิ่งๆเสิ่นม่านกล่าว “คุณเลือกผลไม้ได้เก่งมาก เก่งกว่าป้าแม่บ้านฉันอีก”เซียวตั๋วยิ้มกลบเกลื่อนเขาไม่บอกอยู่แล้วว่าผลไม้นี่เขาชิมทีละอันถึงจะได้มา ไม่อย่างนั้นคงไม่ใช้เวลานานขนาดนั้นหรอก‘ครืดๆ…”ในห้องรับแขกสามารถได้ยินเสียงสั่นครืดๆ มาจากห้องนอนเบาๆเจียงฉินกล่าว “โทรศัพท์ใครมาหรือเปล่า”ทุกคนมองหน้ากันฟู่ฉือโจวกล่าว “ฉันไม่มีนิสัยชอบปิดเสียงโทรศัพท์นะ”เซียวตั๋วไม่พูดจา เจียงฉินหยิบโทรศัพท์ออกมา “ของฉันอยู่นี่”เสิ่นม่านถึงจะตระหนักได้ว่าหลังจากวางสายจากเลขาหลี่เมื่อวาน เธอรู้สึกหงุดหงิดมากจึงปิดเสียงโทรศัพท์ไว้เมื่อคิดได้ดังนั้น เสิ่นม่านจึงขยับเก้าอี้วิ่งไปในห้องนอนอย่างรวดเร็วพบว่าโทรศัพท์สั่นครืดๆ อยู่อย่างนั้น โดยมีเลขาหลี่เป็นคนโทรมาเสิ่นม่านรับสายทันที “ฮัลโหล?”เลขาหลี่ได้ยินเสียงเสิ่นม่าน ก็โล่งใจไปเฮือกหนึ่ง “คุณหญิง ในที่สุดก็รับสายสักที”“มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”“เมื่อวานประธานป๋อตามหาคุณทั้งคืนเลย แต่พอรู้ว่าคุณไปกับเซียวตั๋วแล้ว เขาก็โมโหวางสายไปเลย วันนี้ไม่เข้าบริษัทด้วย ตอนนี้คุณติดต่อหาประธานป๋อได้ไหมครับ ช่วยบอกประธานป๋อให้เข้าบริษ
“คุณหญิงคะ! กลับมาสักที!”น้อยครั้งมากที่เสิ่นม่านจะเห็นแม่บ้านหลิวทำหน้าจะร้องไห้เช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าอยู่บ้านสองสามวันนี้เจอกับเรื่องลำบากไม่น้อย“แม่บ้านหลิว ป๋อซือเหยียนอยู่บ้านไหมคะ?”“อยู่ค่ะๆ! คุณชายอยู่บ้านค่ะ!”เพียงแต่แม่บ้านหลิวลังเลอยู่ครู่หนึ่ง กล่าวว่า “แต่ว่า นอกจากคุณชายแล้ว ยังมียัยสุนัขจิ้งจอกนั่นอยู่ด้วยค่ะ”เมื่อพูดถึงซูเฉี่ยนเฉี่ยน แม่บ้านหลิวก็กัดฟันกรอบ เกลียดชังเป็นที่สุดเสิ่นม่านไม่แปลกใจเลยที่ซูเฉี่ยนเฉี่ยนอยู่ที่นี่ แต่เรื่องที่เธอแปลกใจคือ หลังจากที่คุณนายป๋อออกโรงแล้ว แต่ซูเฉี่ยนเฉี่ยนกลับยังสามารถอยู่ที่บ้านป๋อต่อไปได้เนี่ยสิดูท่าแล้ว ป๋อซือเหยียนจะชอบซูเฉี่ยนเฉี่ยนมากถึงขนาดไม่สนใจคุณนายป๋อแล้วสินะเสิ่นม่านเดินไปสแกนลายนิ้วมือที่ประตูใหญ่กลับพบว่าสแกนไม่ผ่านแม่บ้านหลิวกล่าว “หลังจากที่คุณชายกลับมาเมื่อคืน ก็เปลี่ยนรหัสใหม่ทั้งหมด”กล่าวจบ แม่บ้านหลิวก็กรอกรหัสผ่าน เสิ่นม่านถึงจะเข้าไปในบ้านป๋อได้วินาทีนี้ ป๋อซือเหยียนกำลังนั่งอยู่ในห้องรับแขกกับซูเฉี่ยนเฉี่ยน โดยซูเฉี่ยนเฉี่ยนกำลังอ่านหนังสือ ส่วนป๋อซือเหยียนกำลังชี้แนะอย่างตั้งใจ บรรยาศระ
เสิ่นม่านเดินออกไปโดยไม่หันกลับไปมอง ซูเฉี่ยนเฉี่ยนดึงชายเสื้อของป๋อซือเหยียน แล้วกล่าวว่า “ซือเหยียน ฉันว่าพี่เสิ่นแค่กำลังโมโหก็เลยพูดแบบนั้นออกมาน่ะ อย่าคิดมากเลยนะ คุณเองก็ไม่ต้องโกรธด้วย”ป๋อซือเหยียนดึงมือกลับนิ่งๆซูเฉี่ยนเฉี่ยนมองมือที่ว่างเปล่าพลันชะงักทันใดป๋อซือเหยียนเอ่ยเรียบนิ่งว่า “ที่บริษัทยังมีเรื่องจัดการอีก คุณตั้งใจทบทวนอยู่ที่บ้านนะ มีอะไรก็เรียกแม่บ้านหลิวได้เลย”“ซือ…”ซูเฉี่ยนเฉี่ยนอยากรั้งป๋อซือเหยียนไว้ แต่ป๋อซือเหยียนกลับเดินจากไปในทันทีแม่บ้านหลิวที่กำลังกวาดพื้นอยู่เห็นฉากนี้เข้า ก็อดไม่ได้หัวเราะแห้งใส่ซูเฉี่ยนเฉี่ยนก็แค่สองผัวเมียเขาทะเลาะกันเฉยๆ ทำเหมือนตัวเองเป็นคุณหญิงจริงๆ เลยนะ!เมื่อเห็นสีหน้าของแม่บ้านหลิวแล้ว ซูเฉี่ยนเฉี่ยนก็รู้สึกอับอายสุดขีดเสิ่นม่านกลับไปถึงคอนโดตรงหน้ามหาวิทยาลัย เธอกลับมาพร้อมกับเจียงฉินตั้งแต่ตอนเช้าแล้วเจียงฉินพูดอย่างตื่นเต้นว่า “เธอพูดหย่ากับป๋อซือเหยียนแล้วจริงๆ เหรอ? เขาตกลงไหม?”เสิ่นม่านครุ่นคิด แล้วตอบ “เขาไม่พูด”“ไม่พูดก็เท่ากับว่าตกลงโดยปริยาย! เอาอย่างนี้ ฉันจะให้ทนายของฉันร่างสัญญาหย่าร้างให้ เรา