เจียงฉินฟังจบก็ปรบมือรัวๆ“เริ่ด ปัง!”ใบหน้าของเสิ่นม่านเผยรอยยิ้มจางๆ ออกมาความจริงเธอไม่ได้ตั้งใจจะจัดการซูเฉี่ยนเฉี่ยนโดยตรงแบบนี้ แต่เพราะซูเฉี่ยนเฉี่ยนเริ่มก่อนเอง ฉะนั้นเธอก็ไม่อาจทนดูต่อไปได้อีกตอนเที่ยง ซูเฉี่ยนเฉี่ยนเดินลงจากชั้นสองอย่างช้าๆ เพราะขาของเธอไม่สะดวก ตอนลงบันไดจึงลำบากมาก แต่ทว่าเมื่อเห็นแม่บ้านหลิวที่ทำงานอยู่ในห้องรับแขกแล้ว ซูเฉี่ยนเฉี่ยนก็เกิดความรู้สึกเหนือกว่าขึ้นมา“ป้า ฉันหิวแล้ว ไปทำกับข้าวเถอะ”น้ำเสียงของซูเฉี่ยนเฉี่ยนฟังดูไม่เกรงใจเลยสักนิด ไม่อ่อนโยนเหมือนตอนอยู่ในอ้อมกอดของป๋อซือเหยียนเมื่อคืนเลยสักนิดหลังจากที่แม่บ้านหลิวเห็นซูเฉี่ยนเฉี่ยนแล้ว ก็อารมณ์เสียจนแสดงออกทางสีหน้าขึ้นมา แต่ติดอยู่ที่ซูเฉี่ยนเฉี่ยนเป็นคนของป๋อซือเหยียน แม่บ้านหลิวจึงทำได้เพียงพูดว่า “ตอนเที่ยงจะเริ่มทานอาหารกัยตอนเที่ยงตรง นี่เป็นกฎที่คุณหญิงตั้งไว้ค่ะ”เมื่อเอ่ยถึงเสิ่นม่าน ซูเฉี่ยนเฉี่ยนก็รู้สึกเหมือนถูกแทงเข้าที่หัวใจ“นี่ป้าทำงานยังไงกัน? ฉันบอกว่าฉันหิวไง ไม่ได้ยินเหรอ?”ซูเฉี่ยนเฉี่ยนเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่พอใจเพราะเสียโฉม นิสัยของเธอก็เลยก้าวร้าวมากแม่บ
“ไม่เกี่ยวกับผีน่ะสิ! เด็กดีอย่างม่านม่านยังถูกผู้หญิงคนนี้ทำจนต้องหนีออกจากบ้าน นี่แกยังมีความเป็นสามีอยู่ไหม!”“ย่าครับ เสิ่นม่านเป็นคนทำให้เฉี่ยนเฉี่ยนเกิดอุบัติเหตุ! เธอ…”“พอกันที!” คุณนายป๋อแค่นเสียงเย็นชา “เพื่อนังผู้หญิงแบบนี้ แกถึงกับโยนความผิดให้กับเมียตัวเอง แกยังเป็นลูกผู้ชายอยู่ไหม?”ป๋อซือเหยียนไม่เคยไม่เชื่อฟังคุณนายป๋อเลย ครั้งนี้ก็ไม่กล้าพูดจาตอบโต้ใดๆ ด้วยคุณนายป๋อกวาดมองซูเฉี่ยนเฉี่ยนแวบหนึ่ง “ส่วนผู้หญิงคนนี้ ตระกูลป๋อส่งเสียให้เธอเรียน เธอไม่ตั้งใจไม่พอ แถมยังหวังสูงอยากเป็นคุณหญิงตระกูลป๋ออีก อย่าคิดว่าฉันอ่านใจเธอไม่ออกนะ! ฉันขอเตือนเลยว่าอย่าแม้แต่จะคิด! ขอแค่ฉันยังอยู่หนึ่งวัน เธอก็ไม่มีวันได้ก้าวเข้ามาในประตูบ้านป๋อแน่นอน”ป๋อซือเหยียนอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น “ย่าครับ เฉี่ยนเฉี่ยนไม่ใช่คนแบบนั้น”“ไม่ใช่คนแบบนั้น?”คุณนายป๋อหยิบภาพออกมาจากกระเป๋า ให้โยนบนโต๊ะ“แกดูซะ นี่แหละนักศึกษาที่แกส่งเสีย!”ในรูปภาพเป็นภาพที่ซูเฉี่ยนเฉี่ยนแต่งหน้าจัด สวมเสื้อผ้าตัวบางเต้นอยู่ในไนต์คลับ และยังมีรูปที่ซูเฉี่ยนเฉี่ยนดื่มเหล้ากับผู้ชายแปลกหน้าดูสนิทสนมอีกมากมายด้วยป๋
“โทรหาเสิ่นม่านบอกให้เธอกลับบ้าน”“ครับ?”เลขาหลี่มึนงงในขณะเดียวกัน เสิ่นม่านกำลังสนุกสนานกับเจียงฉินสองคนอยู่ในห้องวีไอพีของไนต์คลับยากมากกว่าที่เสิ่นม่านจะได้เมาหัวทิ่มแบบนี้ เพราะตั้งแต่ที่ฟื้นคืนชีพมา เธอมีเรื่องต้องพะวงมากมายหลายเรื่องเหลือเกิน ตอนนี้ด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ ทำให้เธอลืมเรื่องทุกข์ใจเหล่านั้นไปทันทีเสียงโทรศัพท์ของเสิ่นม่านดังขึ้น เธอรับสาย เลขาหลี่ที่อยู่ปลายสายก็พูดขึ้นอย่างลังเลใจ “คุณหญิงครับ ประธานป๋อบอกให้คุณกลับบ้านครับ”“หา? อะไรนะ? เขาบอกให้กลับก็ต้องกลับเหรอ? เขาใหญ่มาจากไหน!”เสิ่นม่านพูดด้วยน้ำเสียงมึนเมา เลขาหลี่ได้ยินถึงความผิดปกติ “คุณหญิง ตอนนี้อยู่ที่ไหนครับ?”“ที่ที่ไม่มีป๋อซือเหยียน!”กล่าวจบ เสิ่นม่านก็วางสายทันทีเจียงฉินกอดเสิ่นม่านไว้ แล้วพูดเสียงเจือหัวเราะ “เราสองคนมันน่าเบื่อเกินไป! เดี๋ยวเจ๊พาเล่นของตื่นเต้นกว่านี้!”“ตื่นเต้น?”เจียงฉินกดกริ่งเรียกพนักงานไม่นานผู้จัดการร้านก็เดินเข้ามาด้วยสีหน้าแป้นแล้น “คุณหนูเจียงมีอะไรให้ช่วยครับ?”“เอานายแบบที่หล่อที่สุดของที่นี่มาให้หมด!”“ครับ รอสักครู่นะครับ!”ไม่นาน หนุ่มหล่อกระ
ถึงแม้ปากจะพูดแบบนั้น แต่การกระทำของฟู่ฉือโจวกลับยิ่งอยู่ยิ่งเร็วขึ้น ทั้งสองรีบขับรถออกจากคอนโด ไม่นานก็ไปถึงหน้าประตูไนต์คลับเถ้าแก่ไนต์คลับรออยู่หน้าประตูตั้งนานแล้ว เมื่อเห็นฟู่ฉือโจวและเซียวตั๋วลงจากรถ ก็รีบก้มหน้าโน้มตัวเดินเข้าไปหา “คุณชายฟู่ คุณชายเซียว ผมคอยจับดูให้ตลอดเลยครับ ยังไม่หนีไปไหน!”ฟู่ฉือโจวหยุดฝีเท้า แล้วถามว่า “หมายความว่าพวกเธออยู่กับนายแบบพวกนั้นตลอดไม่ออกมางั้นเหรอ?”เถ้าแก่ไนต์คลับยิ้มกลบเกลื่อนคนที่เข้าใจย่อมเข้าใจอยู่แล้ว!“แม่งเอ้ย!”ฟู่ฉือโจวสบถไปคำหนึ่ง จากนั้นก็เดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว แล้วเดินไปด้วยถามไปด้วยว่า “ห้องไหน?”“ห้องนี้ครับ!”เถ้าแก่ไนต์คลับกำลังจะเปิดประตูให้ฟู่ฉือโจว แต่ฟู่ฉือโจวก็ใช้เท้าเตะไปก่อนแล้วพบว่าในห้องผู้ชายกลุ่มหนึ่งกำลังนั่งดื่มเหล้าล้อมรอบเสิ่นม่านกับเจียงฉินอยู่ ผู้หญิงทั้งสองคนเพลิดเพลินแสนสุขอยู่ท่ามกลางน้องๆ ผู้ชาย“เอ๋? นี่มันฟู่ฉือโจวกับน้องชายฉันไม่ใช่เหรอ?”เจียงฉินถามขึ้นเสิ่นม่านหันกลับไปเห็นคนสองคนที่ยืนอยู่นอกประตูเช่นกันผู้ชายทั้งสองกำลังมองดูฉากในห้องด้วยสีหน้าบึ้งตึง“พี่ครับ สองคนนี้เป็นคนท
เจียงฉินนอนหลับปุ๋ยไปแล้ว ไม่สนหรอกว่าฟู่ฉือโจวจะพูดอะไรเสิ่นม่านที่นั่งอยู่ข้างหลังเองก็ถูกลมอุ่นๆ ในรถเป่าจนผล็อยหลับไป ใบหน้าที่แดงอยู่ก่อนแล้วยิ่งแดงกว่าเดิมเซียวตั๋วหยิบผ้าห่มออกมาจากข้างหลังแล้วห่มให้เสิ่นม่าน“นอนพักก่อนนะ อีกแป๊บหนึ่งก็ถึงแล้ว”เสิ่นม่านพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง เธอเองก็รู้สึกเหนื่อยมากแล้วเหมือนกัน เธอพิงหน้าต่างไม่รู้เคลิ้มหลับไปตอนไหนขณะเดียวกัน ป๋อซือเหยียนกำลังพับจอโน้ตบุ๊คอยู่ในห้องหนังสือ ในห้องเงียบสงบ เขานวดขมับเบาๆ แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ยังคงไม่ได้รับการตอบกลับจากเสิ่นม่านไม่นาน เลขาหลี่ก็โทรมาป๋อซือเหยียนรับสาย “เสิ่นม่านล่ะ?”“เหมือนว่าคุณหญิงจะอยู่ที่ไนต์คลับครับ”“ไนต์คลับ?”ป๋อซือเหยียนขมวดคิ้วแต่ก่อนเสิ่นม่านไปสถานที่แบบนี้น้อยมาก ครั้งล่าสุดก็เป็นวันที่ไปเจอกับฮั่วหยุนเซียววันนั้นคราวก่อนเกิดเรื่องในโซเชียลใหญ่โตขนาดนี้ ทำไมยังกล้าไปสถานที่แบบนั้นอีก?“น่าจะใช่ครับ ผมได้ยินไม่ค่อยชัด แต่ทางนั้นเสียงดังวุ่นวายมาก ดูเหมือนคุณหญิงจะดื่มเหล้าด้วย แล้วก็…ไม่ค่อยอยากกลับมาสักเท่าไหร่”ได้ยินเลขาหลี่พูดดังนั้น ป๋อซือเหยียนก็โกรธจัด
ซูเฉี่ยนเฉี่ยนยังคงรอป๋อซือเหยียนอยู่ในห้องรับแขก เมื่อเห็นป๋อซือเหยียนหน้าบึ้งกลับมา ซูเฉี่ยนเฉี่ยนจึงถามลองเชิงว่า “พี่เสิ่น…ไม่กลับมาด้วยเหรอคะ?”สีหน้าอารมณ์ของป๋อซือเหยียนยิ่งเย็นชากว่าเดิม “ในเมื่อเธอไม่อยากกลับ ก็ไม่ต้องกลับมาอีก”เมื่อได้ยินคำพูดของป๋อซือเหยียนแล้ว ซูเฉี่ยนเฉี่ยนก็แอบดีใจเสิ่นม่านโง่จริงๆ ทั้งๆ ที่มีโอกาสได้หัวใจของป๋อซือเหยียน แต่กลับดื้อรั้นถึงเพียงนี้แต่แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ขอแค่เสิ่นม่านไม่อยู่บ้านหลังนี้ เธอก็จะมีโอกาสใกล้ชิดป๋อซือเหยียนมากขึ้น และได้รับหัวใจของป๋อซือเหยียนมาครองซูเฉี่ยนเฉี่ยนมองใบหน้าด้านข้างของป๋อซือเหยียน และเชื่อมั่นว่าตนจะได้ป๋อซือเหยียนมาครอบครองเพราะในอดีต เธอสัมผัสได้รางๆ ว่าป๋อซือเหยียนมีความรู้สึกต่อเธอ นอกจากนี้ป๋อซือเหยียนยังปฏิบัติกับเธอต่างจากคนอื่นเสมอเช้าวันรุ่งขึ้น เสิ่นม่านตื่นนอนด้วยความวิงเวียนศีรษะ เมื่อลืมตาขึ้นพบว่าเป็นเพดานสีขาว การตกแต่งภายในรอบๆ ก็แปลกตาเธอนวดศีรษะเบาๆ จำได้เพียงว่าเมื่อคืนเธอไปเที่ยวไนต์คลับกับเจียงฉินแล้วออเดอร์นายแบบหนุ่มมา จากนั้นก็ถูกฟู่ฉือโจวและเซียวตั๋วแบกกลับ ขณะที่อยู่บนรถเธอ
พอฟู่ฉือโจวพูดออกมา สายตาของทั้งสามคนก็มองไปเสิ่นม่านพร้อมกันทันทีเสิ่นม่านรีบถอนความคิดเมื่อครู่นี้ แล้วจับแก้มอันร้อนผ่าวของเธอพลางพูดว่า “น่าจะ…เป็นหวัดมั้ง”“เป็นหวัดก็ห้ามประมาท เดี๋ยวฉันจะให้อาตั๋วพาเธอไปโรงพยาบาล”เจียงฉินที่อยู่ข้างๆ อยากจะสร้างโอกาสสองต่อสองให้กับพวกเขาทั้งสองเสิ่นม่านส่ายหัว “ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เดี๋ยวก็หาย”เจียงฉินลากเสิ่นม่านให้นั่งลง อาหารเช้าที่เซียวตั๋วกินนั้นง่ายมาก แต่กลับกันในจานของพวกเขาทั้งสามคนกลับเต็มไปด้วยสารอาหารที่ออกจะมากเกินไปด้วยซ้ำเมื่อวานเพิ่งดื่มเหล้าไป ตอนนี้เลยอยากกินของเผ็ดๆ มันๆ อยู่ตลอดเวลา ปรากฏว่าตื่นเช้ามาก็มีน้ำซุปเผ็ดๆ ให้ซดเลย เรียกน้ำย่อยได้มากๆเซียวตั๋วกินได้แค่สองคำก็เอาจานชามไปเก็บ เมื่อเห็นว่าเขาถือเสื้อกำลังจะออกไป ฟู่ฉือโจวจึงเอ่ยถาม “จะออกไปไหนแต่เช้าล่ะ?”“ออกไปข้างนอกแป๊บหนึ่ง”เซียวตั๋วพูดจบแล้วปิดประตูทันทีฟู่ฉือโจวพึมพำ “ออกไปเช้าขนาดนี้จะไปตลาดหรือไง?”เจียงฉินไม่พอใจอย่างหนัก “ซื่อบื้อจริงๆ!”เสิ่นม่านกินอาหารเช้าเงียบๆ ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง เซียวตั๋วก็กลับมาพร้อมกับถุงใหญ่ในมือฟู้ฉือโจวมอ
เซียวตั๋วตอบนิ่งๆเสิ่นม่านกล่าว “คุณเลือกผลไม้ได้เก่งมาก เก่งกว่าป้าแม่บ้านฉันอีก”เซียวตั๋วยิ้มกลบเกลื่อนเขาไม่บอกอยู่แล้วว่าผลไม้นี่เขาชิมทีละอันถึงจะได้มา ไม่อย่างนั้นคงไม่ใช้เวลานานขนาดนั้นหรอก‘ครืดๆ…”ในห้องรับแขกสามารถได้ยินเสียงสั่นครืดๆ มาจากห้องนอนเบาๆเจียงฉินกล่าว “โทรศัพท์ใครมาหรือเปล่า”ทุกคนมองหน้ากันฟู่ฉือโจวกล่าว “ฉันไม่มีนิสัยชอบปิดเสียงโทรศัพท์นะ”เซียวตั๋วไม่พูดจา เจียงฉินหยิบโทรศัพท์ออกมา “ของฉันอยู่นี่”เสิ่นม่านถึงจะตระหนักได้ว่าหลังจากวางสายจากเลขาหลี่เมื่อวาน เธอรู้สึกหงุดหงิดมากจึงปิดเสียงโทรศัพท์ไว้เมื่อคิดได้ดังนั้น เสิ่นม่านจึงขยับเก้าอี้วิ่งไปในห้องนอนอย่างรวดเร็วพบว่าโทรศัพท์สั่นครืดๆ อยู่อย่างนั้น โดยมีเลขาหลี่เป็นคนโทรมาเสิ่นม่านรับสายทันที “ฮัลโหล?”เลขาหลี่ได้ยินเสียงเสิ่นม่าน ก็โล่งใจไปเฮือกหนึ่ง “คุณหญิง ในที่สุดก็รับสายสักที”“มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”“เมื่อวานประธานป๋อตามหาคุณทั้งคืนเลย แต่พอรู้ว่าคุณไปกับเซียวตั๋วแล้ว เขาก็โมโหวางสายไปเลย วันนี้ไม่เข้าบริษัทด้วย ตอนนี้คุณติดต่อหาประธานป๋อได้ไหมครับ ช่วยบอกประธานป๋อให้เข้าบริษ