ในตอนเย็น ก็ได้มีคนมาเคาะประตูบ้านตระกูลเสิ่นทั้งหมดก็เป็นผู้ถือหุ้นของเสิ่นซือกรุ๊ป ผู้ถือหุ้นของเสิ่นซือกรุ๊ปต่างมาขอถอนหุ้นของเขา รวมถึงคนของเสิ่นม่านด้วย และพวกเขายังรอให้เสิ่นม่านที่เป็นผู้รับผิดชอบหาวิธีจัดการเวลานี้ ห้องโถงเต็มไปด้วยผู้คน เสิ่นม่านก็เดินลงมาจากห้องหนังสือบนชั้นสอง สวมชุดหางปลาสีสันสดใส การแต่งหน้าที่สวยงามซึ่งดึงดูดความสนใจของทุกคนในทันที"คุณหนูใหญ่! เรื่องมาถึงตรงนี้แล้ว คุณบอกวิธีจัดการมาเถอะ"พวกคนที่อายุเยอะสุดก็ได้พูดก่อน"ตอนนี้โครงการทั้งหมดของเสิ่นซือกรุ๊ปก็ได้หยุดลงแล้ว พวกเราก็ไม่มีทางเลือก จะให้มองบริษัทของพวกเราล้มละลายอย่างเดียวก็ไม่ได้ใช่ไหม!""ตอนนี้แม้ว่าพวกเราได้รวมกับบริษัท M กรุ๊ปแล้ว แต่ใครจะรู้ว่าในเหตุการณ์แบบนี้ บริษัท M กรุ๊ปจะยกเลิกสัญญากับเราหรือไม่?"……ฟังคนพวกนี้พูด เสิ่นม่านก็รู้สึกว่ามันสมเหตุสมผลและเธอพูดเรียบ ๆ : " สิ่งที่ที่พวกคุณอยากพูด ฉันได้รู้แล้วค่ะ ตอนนี้ตระกูลเสิ่นเป็นแบบนี้ ใครบ้างที่อยากจะถอนตัวบ้าง? " ไม่มีใครพูด หนึ่งในนั้นก็ได้พูด:"คุณหนูใหญ่ ในเวลานี้ถ้าคุณสามารถคืนดีกับประธานป๋อ มีป๋อซือกรุ๊ป วิกฤต
เมื่อเจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคนของเสิ่นซือกรุ๊ปเห็นแบบนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่เสิ่นม่านอย่างกังวลถ้าในเวลานี้ผู้ถือหุ้นเหล่านี้ถอนหุ้น ซึ่งจะเป็นผลกระทบร้ายแรงต่อตระกูลเสิ่นอย่างไม่ต้องสงสัย!ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้พวกเขาไม่สามารถนําเงินหลายพันล้านออกมาให้กับคนที่ถอนหุ้นได้เสิ่นม่านก็ได้พูดอย่างใจเย็น:"ถ้าอยากถอนไป ก็มาเซ็นชื่อที่นี่ เซ็นเสร็จก็ไสหัวไปได้"พวกผู้ถือหุ้นก็ได้มองหน้ากัน ผู้ถือหุ้นคนหนึ่งชี้ไปที่เสิ่นม่านและพูดขู่:"ดี เสิ่นม่าน ถ้าเธอพูดมาขนาดนี้ งั้นเราจะร่วมกันถอนหุ้นของเรา! ถ้าหาเงินไม่ได้ เจอกันที่ศาล!"หลังจากพูดจบ ผู้ถือหุ้นหลายคนก็ออกจากบ้านตระกูลเสิ่นด้วยกันในขณะนี้ก็มีคนกว่าครึ่งที่ได้ออกไปจากห้องโถงบ้านตระกูลเสิ่น เสิ่นม่านมองไปที่พวกผู้จัดการทั่วไปและรองประธานและพูดว่า:"ใครอยากไปอีกบ้าง? ฉันให้เงินเดือนเขาเดือนนี้และไปทันที""เดิมทีเราอยู่เพราะท่านประธานเสิ่น และตอนนี้ท่านประธานเสิ่นเข้าคุกไปแล้ว เราก็ไม่จําเป็นต้องอยู่ต่อ"พวกคนแก่ก็ได้เซ็นชื่อ จากนั้นก็ได้พูดกับเสิ่นม่าน:"ประธานเสิ่น ดูแลตัวเองด้วย"พวกประธานอาวุโสออกไป พนักงานที่ติดตามประธานที่อา
วันรุ่งขึ้น เสิ่นม่านนําเงินห้าร้อยล้านแบ่งโอนเข้าบัญชีของกรรมการหลายคนที่ถอนหุ้นเสิ่นซือกรุ๊ปก็ได้ ประกาศอย่างเป็นทางการว่าล้มละลาย ในขณะเดียวกัน สื่อจากทุกด้านก็รีบรายงาน ต้องการสัมภาษณ์เสิ่นม่านเกี่ยวกับการล้มละลายในเวลานั้น เสิ่นม่านกําลังลงจากรถ เตรียมเข้าบริษัท M กรุ๊ปไมโครโฟนของสื่อหลักก็แทบจะแหย่ใบหน้าของเสิ่นม่าน"คุณหนูเสิ่น คุณมีอะไรจะพูดเกี่ยวกับการล้มละลายของเสิ่นซือกรุ๊ปไหมครับ?""ว่ากันว่าท่านประธานเสิ่นยักยอกเงินหลายร้อยล้าน ยักยอกเงินสาธารณะหนึ่งพันล้าน! คุณคิดอย่างไรเกี่ยวกับคุกหลายสิบปีในคุกที่รอเขาอยู่คะ?""คุณหนูเสิ่น มีข่าวลือว่าคุณกําลังจะคืนดีกับประธานป๋อ ข่าวลือนี้จริงไหมคะ?"……คําถามของนักข่าวก็ได้พุ่งมา แต่เสิ่นม่านเพิกเฉย แต่ตรงไปที่ประตูบริษัท M กรุ๊ป"ขอโทษครับ ประธานเสิ่นของพวกเราไม่อยากให้สัมภาษณ์ครับ!"เลขาจางขวางนักข่าวแทนเสิ่นม่านหนึ่งในผู้สื่อข่าวพูดว่า"ตอนนี้ตระกูลเสิ่นล้มละลายแล้ว ไม่รู้ว่าคุณหนูเสิ่นอยู่ในบริษัท M กรุ๊ปในตําแหน่งอะไร?""มีข่าวลือว่าคุณหนูเสิ่นเกี่ยวข้องกับเมิ่งจงเซิงผู้บริหารของบริษัท M กรุ๊ป และยังมีข่าวลือว่าคุณ
ถ้าเสิ่นม่านที่เป็นผู้บริหารไปเดบิวต์แล้วพวกเขาจะต้องเหนื่อยแค่ไหน!เสิ่นม่านก็ได้ตบไหล่ของเลขาจางพร้อมความรับผิดชอบอันหนักหน่วง พูดว่า:"ฉันเชื่อว่านายสามารถจัดการกับสิ่งเหล่านี้ได้ โบนัสสิ้นปีจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า"เลขาจางพูดในใจว่าดีใจไม่ลง ดีใจไม่ลงจริงๆ!ในตอนบ่าย เสิ่นม่านและเจียงฉินกําลังดื่มกาแฟอยู่ชั้นล่างด้วยกัน เจียงฉินก็พ่นกาแฟออกมา"เธอกําลังจะเดบิวต์?!"เจียงฉินเช็ดมุมปากของเธอพูด :"เธอไม่ได้ล้อเล่นฉันใช่ไหม"เสิ่นม่านขมวดคิ้วถามว่า"เซอร์ไพรส์ขนาดนี้เลยเหรอคะ?""แม้ว่าจะเป็นตระกูลเสิ่นล้มละลายแล้ว แต่คุณยังมีบริษัท M กรุ๊ปนะ ไม่ต้องเดบิวต์เพื่อให้คนอื่นว่าเลย"ในสายตาของคนธรรมดา การเป็นดารานั้นเหมือนเป็นความฝัน เป็นดวงดาวที่สว่างสะดุดตาแต่ในแวดวงของสังคมชั้นสูง ดาราเพียงสินค้าและสินค้าและของเล่นในมือแค่ตระกูลที่มีหน้ามีตาก็ไม่เต็มใจที่จะให้ลูก ๆ ของพวกเขาเดบิวต์ นักแสดงเป็นฐานะที่ต่ำที่สุดเสิ่นม่านก็ได้พูดอย่างไม่ใส่ใจ :"ฉันเดบิวต์ ก็ไม่ได้เพียงเพราะรู้สึกสนใจ แต่ตอนนี้เสิ่นซือกรุ๊ปก็ได้ล้มละลายแล้ว บริษัท M กรุ๊ปก็โดนผลกระทบไปด้วยไม่มากก็น้อย และตอนนี้ชาวเน็ต
กาแฟในมือของเสิ่นม่านตกลงกับพื้น และเซียวตั๋วก็ก้มลงโดยเร็วที่สุดเพื่อทําความสะอาดคราบบนรองเท้าส้นสูงของเสิ่นม่าน"ขอโทษ ผมมาสาย"เซียวตั๋วพูดเสียงเบาเสิ่นม่านไม่ค่อยเห็นท่าทางแบบนี้ของเซียวตั๋ว อ่อนน้อมถ่อมตน สะอื้น และดวงตาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดในไม่ช้า เธอก็สังเกตเห็นมือของเซียวตั๋วเต็มไปด้วยแผล และข้อมือของเขาถูกพันด้วยผ้าพันแผล ราวกับว่าเขาได้รับบาดเจ็บเสิ่นม่านยื่นมือออกมาแล้วคว้าแขนของเซียวตั๋ว ดูแผลของเซียวตั๋ว :"คุณบาดเจ็บ? "มีใครอีกบ้างในโลกนี้ที่สามารถทําให้เซียวตั๋วบาดเจ็บได้?"บาดเจ็บ? เกิดอะไรขึ้น? คราวนี้ฟู่ฉือโจวไม่ได้ไปกับนายเหรอ? เขาอยู่ไหน?"เจียงฉินมองไปรอบ ๆ แต่ไม่เห็นร่างของฟู่ฉือโจว ในทันใด ใบหน้าของเจียงฉินก็ซีด:"หรือว่า……หรือว่าฟู่ฉือโจว……"เซียวตั๋วพูดเรียบ ๆ :"เขายังอยู่บนเครื่องบิน ยังไม่ได้ลงมา" "…… "เจียงฉินที่ได้กลั้นอารมณ์ก็ได้หายไปอย่างไร้ร่องรอยในทันที:"ก็พูดให้เร้ซกว่านี้สิ ฉันก็ว่าฟู่ฉือโจวที่ทำอะไรต้องคำนวณก่อนแบบนั้น คงไม่มีทางไปตายเพราะไปกับนายครั้งเดียวหรอก"เสิ่นม่านถาม:"คุณไปต่างประเทศตั้งหลายวัน ไปทำอะไร?""การจัดการกับคนเก
"ฟ่อ——!"เซียวตั๋วสูดหายใจเข้าลึก เสิ่นม่านเข้าใจผิดคิดว่าทำอีกฝ่ายเจ็บ ก็ได้รีบไปดูบาดแผลทันที:"เป็นไงบ้าง? เมื่อกี้ฉันไม่ได้ออกแรงนะ"เมื่อเห็นว่าเสิ่นม่านกังวล ใบหน้าของเซียวตั๋วก็เปลี่ยนไปมีรอยยิ้มบาง ๆเมื่อเห็นแบบนั้น เสิ่นม่านก็รู้ทันทีว่าเธอถูกหลอก และเธอก็มองเซียวตั๋วด้วยความโกรธ:"ฉันเป็นห่วงคุณ แต่คุณกลับแกล้งฉัน!"เมื่อเห็นว่าเสิ่นม่านกําลังจะจากไป เซียวตั๋วก็เอื้อมมือออกไปกอดเสิ่นม่านไว้ในอ้อมแขนของเขาและพูดด้วยเสียงเบา:"ผมผิดไปแล้ว ยกโทษให้ผมนะ"บรรยากาศในห้องนอนก็ได้ล่อแหลม ใบหน้าของเสิ่นม่านร้อน เธออยากผลักเซียวตั๋วออกไป แต่เธอกลัวว่าจะไปโดนบาดแผลของเซียวตั๋ว เวลานั้น ห้องก็เงียบ ราวกับว่าสามารถได้ยินเสียงหัวใจของกันและกัน"โอ้ยอย่าผลักฉัน อย่าผลักฉัน!"ทันใดนั้นเสียงอู้อี้ของเจียงฉินก็ดังขึ้นนอกประตู ได้ยินเสียง เสิ่นม่านก็ได้ลุกขึ้นจากตักของเซียวตั๋วทันที เห็นฟู่ฉือโจวและเจียงฉินเข้ามา ฟู่ฉือโจวดูประหม่าเล็กน้อย:"ฉัน ฉันเพิ่งกลับมา เพิ่งกลับมา……"ฟู่ฉือโจวยังคงถือกระเป๋าเดินทางอยู่ในมือและ เจียงฉินจ้องไปที่ฟู่ฉือโจว:"เป็นความผิดของนายทั้งหมด! ทำเสียงานหมดแล้ว!"
ในขณะนี้ เธอต้องการหารอยแตกบนพื้นเพื่อมุดหนี แต่ตอนนี้เธอถูกเซียวตั๋วขวางไว้ ไม่มีทางให้หนี"ม่านม่าน ตอบผม"เซียวตั๋วบังคับให้เธอมองเขา และเสิ่นม่านเห็นดวงตาที่ร้อนแรงของเซียวตั๋ว และดวงตาที่ลึกล้ําเหล่านั้นเต็มไปด้วยความจริงใจและความปรารถนา"ฉัน……ฉันยังไม่ได้หย่า……"เสิ่นม่านพูดเบาๆ :"รอให้ฉันหย่า ฉันจะให้คําตอบคุณ"เซียวตั๋วยื่นมือออกแล้วลูบใบหน้าของเสิ่นม่าน ฝ่ามือของเขาร้อน พูดเสียงเบา:"ได้ ผมจะรอคุณ"เสิ่นม่านเปิดประตู ตอนออกไปฉันเห็นเจียงฉินและฟู่ฉือโจวที่แอบฟังอยู่ที่ประตูใบหน้าของเสิ่นม่านแดงก่ำ เป็นครั้งแรกที่เธอแสดงสีหน้าทําอะไรไม่ถูก จากนั้นเธอก็หยิบกระเป๋าและหนีไป"ฉัน ฉันไปส่งเธอ!"เจียงฉินก็ได้ตามเสิ่นม่านไปทันทีฟู่ฉือโจวเห็นแบบนั้น ก็ได้เข้าไปในห้อง พูดกับเซียวตั๋วที่กำลังแต่งตัวว่า"เจ้าหนุ่มแกนี้ดื้อเงียบนี้หว่า ใครให้นายสารภาพรักตอนนี้! เห็นไหม! ทำำคนเขาตกใจแล้วเนี้ย!"เซียวตั๋วติดกระดุมบนเสื้อของเขาแล้วเดินออกจากห้องนอนโดยไม่สนใจฟู่ฉือโจว"ไอหนุ่ม! ฉันกำลังคุยกับแกนะ! แกรีบไปแล้วหรือเปล่า"เซียวตั๋วพูดเรียบ ๆ :"ถ้าไม่พูด ฉันกลัวว่าเธอจะหนี""หนี? เสิ่
ซูเฉี่ยนเฉี่ยนก้าวไปข้างหน้าด้วยการเยาะเย้ยและตบเสิ่นม่าน ตบแรงมากเจียงฉินที่อยู่ด้านข้างตกตะลึง ตอนที่เธอรู้สึกตัว เจียงฉินก็ก้าวไปข้างหน้าทันที ต้องการตบซูเฉี่ยนเฉี่ยนคืน แต่ถูกบอดี้การ์ดของซูเฉี่ยนเฉี่ยนขวาง"ซูเฉี่ยนเฉี่ยน! เธอบ้าไปแล้วเหรอ! เธอกล้าแตะเสิ่นม่าน?"มุมปากของเสิ่นม่านมีเลือดซึม หูอึ้งเห็นได้ว่าซูเฉี่ยนเฉี่ยนได้ออกแรงตบเต็มแรงซูเฉี่ยนเฉี่ยนเยาะเย้ยและพูดว่า:"ตระกูลเสิ่นล้มละลายแล้ว ชื่อคุณหนูเสิ่นก็แค่ชื่อเปล่าเท่านั้น ทำไมฉันจะไม่กล้าแตะเธอ?"ซูเฉี่ยนเฉี่ยนได้ใจเจียงฉินพูดอย่างเย็นชา:"แม้ว่าตระกูลเสิ่นจะล้มละลาย แต่ฉันก็ยังอยู่ที่นี่ แกเพิ่งตบเสิ่นม่าน และฉันจะให้แกจ่ายคืนเป็นร้อยเท่า!""เกรงว่า เธอยังไม่มีสิทธิ์"มุมปากของซูเฉี่ยนเฉี่ยนยิิ้มเล็กน้อย"ฉันไม่มีสิทธิ์?"เจียงฉินไม่สนใจ เธอไม่เพียงแต่เป็นผู้บริหารตระกูลเจียงเท่านั้น แต่ยังเป็นญาติสนิทของตระกูลเซียว ในเมืองไห่เฉิงนี้ไม่มีใครกล้ายั่วคนชื่อเจียงฉินเมื่อเห็นเจียงฉินก้าวไปข้างหน้า ก่อนที่จะเคลื่อนไหว ทันใดนั้นบอดี้การ์ดอีกสิบคนก็บุกเข้ามาและล้อมรอบร้านอาหารเจียงฉินสังเกตเห็นตราประจําตระกูลของ