เมื่อเต๋อเฟยได้รับข่าว ก็รีบออกจากวังโดยไม่สนใจอะไรทันที“เย่าเอ๋อร์...”เต๋อเฟยสวมชุดฝ่ายใน บนใบหน้าที่แต่งหน้าอย่างประณีตเต็มไปด้วยความร้อนใจ พาคนพุ่งเข้าไปในห้องนอน พ่อบ้านขวางเอาไว้ไม่อยู่“โอ๊ย...”ทันทีที่เต๋อเฟยเดินเข้ามา แวบแรกก็เห็นท้องที่นูนขึ้นมาของลูกชายตนเอง ร้องเสียงแหลมด้วยความตกใจบรรดาหมอมอนางกำนัลที่อยู่ด้านหลัง ก็ตกใจจนตะลึงไป“นี่ นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น? ท่านอ๋องสามเป็นอะไรไป?”เต๋อเฟยได้สติกลับคืนมาอย่างรวดเร็ว สะกดความตกตะลึงในก้นบึ้งของหัวใจลงไป รีบสาวเท้าเดินไปที่ข้างเตียง จ้องมองท่าทางที่ทรมานของลูกชายตนด้วยความสงสารจับใจนางค้อนพ่อบ้าน “ท่านอ๋องสามเป็นอะไรไป? เหตุใดร่างกายจึงกลายเป็นแบบนี้? ปกติพวกเจ้าดูแลกันยังไง?”พ่อบ้านรีบคุกเข่าลงไปทันที “พระนางได้โปรดไว้ชีวิตด้วยขอรับ เมื่อหนึ่งเดือนกว่า ๆ ก่อนท่านอ๋องรู้สึกว่าร่างกายไม่ค่อยสบาย อีกทั้งมักจะรู้สึกหิวบ่อย ๆ”“ตอนนั้นเชิญท่านหมอมาแล้ว ท่านหมอกล่าวว่าอาจจะเป็นเพราะกินมากเกินไป จึงทำให้ท้องไส้ไม่สบายขอรับ”“ตอนนั้นท่านอ๋องก็ไม่ได้วางใจ แต่เมื่อวันเวลาค่อย ๆ ผ่านเลยไป อาการของท่านอ๋องก็ไม่ดีขึ้นเ
เฟิ่งเชียนอวี่ประหลาดใจเล็กน้อย “ไม่ใช่หรอกกระมัง คำพูดไปเรื่อยของข้าจะแม่นขนาดนี้เลยหรือ”ก่อนหน้านี้นางพูดว่าเป็นไปได้ที่ตงฟางเย่าใกล้จะตายแล้ว คิดไม่ถึงเลยว่าตอนนี้หาท่านหมอจนต้องมาถามถึงยันที่นี่ตงฟางจิ่งกล่าวขึ้นมาอย่างช้า ๆ “สามารถทำให้ตงฟางเย่ามาหาถึงจวนอ๋องหกได้ ดูท่า อาการป่วยคงจะแก้ได้ยากแล้ว” ในระหว่างที่พูดก็หันไปมองเฟิ่งเชียนอวี่เฟิ่งเชียนอวี่แค่นเสียงหัวเราะทันทีตงฟางจิ่งเข้าใจทันที กล่าวกับพ่อบ้าน “บอกไปเลยว่านักพรตเฟิงออกจากจวนไปแล้ว เวลากลับไม่แน่นอน”“ขอรับ”เฟิ่งเชียนอวี่ยิ้มมุมปาก มือทั้งสองข้างเท้าคาง “เรื่องนี้บอกเหตุผลให้พวกเราได้หนึ่งข้อ ไม่ว่าเมื่อไหร่ตอนไหนก็อย่าได้ไปล่วงเกินท่านหมออย่างเด็ดขนาด โดยเฉพาะ ท่านหมอที่มีความสามารถล้นเหลือ”ตงฟางจิ่งจ้องมองท่าทางที่มีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่นก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเบา ๆ พร้อมกับส่ายหน้าไปมาเฟิ่งเชียนอวี่ไม่ได้นำเรื่องนี้มาใส่ใจ ยุ่งเรื่องการเปิดร้านค้าของตนเองต่อไปประเภทสินค้าที่นางจัดเตรียมตอนนี้กำหนดเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ แค่ต้องการผลิตให้ได้ตามจำนวนที่วางเอาไว้ หลังจากที่การฝึกปรือฝีมือข
ตงฟางเย่า จะเป็นอย่างที่ว่างั้นหรือ?เฟิ่งเชียนอวี่อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว แต่ว่าก็ไม่ถูกภาวะเพศกำกวมเรียกอีกอย่างว่าโรคหยินหยาง หยินหมายถึงผู้หญิง หยางหมายถึงผู้ชายภาวะเพศกำกวมส่วนใหญ่ ถ้าไม่ใช่ท่อนเป็นผู้หญิง ท่อนล่างเป็นผู้ชาย หรือไม่ก็กลับกันตงฟางเย่าเป็นถึงองค์ชาย ร่างกายท่อนบนมีปัญหาหรือไม่ ตอนเกิดน่าจะดูออกถึงจะถูกในยุคสมัยโบราณ การเกิดของภาวะเพศกำกวม ไม่ว่าจะเป็นชาวบ้านธรรมดาหรือว่าเชื้อพระวงศ์ ต่างถูกเรียกว่าเป็นทารกในครรภ์ผิดปกติ ไม่สามารถมีชีวิตรอดได้จิ๊ นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?ตงฟางจิ่งจ้องมองสีหน้าที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องของนาง อดไม่ได้ที่จะถามอย่างสงสัย “พระชายา ด้วยฝีมือทางการแพทย์ระดับความรู้ลึกซึ้งของเจ้า ผู้ชายตั้งครรภ์ เป็นไปได้หรือไม่?”เฟิ่งเชียนอวี่โบกมือ กล่าวอย่างไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย “เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน”ผู้ชายปกติคนหนึ่ง เป็นไปไม่ได้อย่างเด็ดขาที่จะตั้งครรภ์ได้ มีฟังก์ชันแบบนั้นที่ไหนกันล่ะจะตั้งท้องยังไง? คิดว่าตัวเองเป็นไส้เดือนหรือไง? เป็นได้ทั้งเพศชายและหญิง สามารถสืบพันธุ์ได้ด้วยตัวเองอย่างนั้นหรือสำหรับภาวะเพศกำกวม นั่นไม
“ถ้าหากเป็นสตรีละก็ สามารถให้เสวยยาทำแท้งได้ แต่ถ้าหากเป็นบุรุษ คือว่า กระหม่อมเองก็ไม่รู้ว่าควรจะต้องทำอย่างไรดีพ่ะย่ะค่ะ”“อย่างไรเสียบุรุษและสตรีมีความแตกต่าง ยาทำแท้งนี้ฤทธิ์ยารุนแรง ประกอบกับที่อายุครรภ์ของท่านอ๋องไม่น้อยแล้ว หากเสวยยาอย่างสะเพร่า แม้จะส่งผลเสียต่อร่างกายเพียงเล็กน้อย แต่เกรงว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลง”การเปลี่ยนแปลงที่ว่า พูดตรง ๆ ก็คือเกรงว่าหากดื่มยาลงไป ตงฟางเย่าถึงแก่ชีวิต หมอหลวงอย่างพวกเขาคงจะแบกรับความรับผิดชอบแบบนี้ไม่ไหว ดังนั้นถึงได้ขี้ขลาดตาขาว ทำอะไรไม่ถูกฮ่องเต้เทียนหยวนค่อย ๆ หลับตาลง รู้สึกปวดหัวเป็นอย่างยิ่งพูดตามความจริง เขาเป็นถึงฮ่องเต้แห่งแคว้นตงเยว่ที่สง่าผ่าเผย แต่ให้กำเนิดลูกชายแบบนี้ เขารู้สึกอับอาย นี่ช่างเป็นเรื่องที่น่าอับอายขายหน้าจริง ๆ ในใจของฮ่องเต้เทียนหยวน ตงฟางเย่าในเวลานี้ไม่นับว่าเป็นลูกชายของเขาแล้ว แต่เป็นจุดด่างพร้อยของเขาขุนนางระดับสูงหลายคนที่เอาแต่เงียบมาตลอดหลายคนมองหน้ากันไปมา เสนาบดีกรมโยธาธิการก้าวมาข้างหน้าหนึ่งก้าว กล่าวอย่างนอบน้อม “ทูลฝ่าบาท กระหม่อมมีอะไรอยากจะกล่าว”ฮ่องเต้เทียนหยวนกล่าวอย่างเย็นชา “ว่าม
นางปรนนิบัติฮ่องเต้เทียนหยวนมานานหลายปีขนาดนี้ ย่อมเข้าใจอุปนิสัยของฮ่องเต้เทียนหยวนฮ่องเต้เทียนหยวนไม่ได้ตำหนิอัครเสนาบดีเฟิ่งทันที เห็นได้ชัดว่าในใจยอมรับข้อคิดเห็นแบบนี้แล้ว เต๋อเฟยจะอดทนต่อผลลัพธ์เช่นนี้ได้อย่างไร“ร้องไห้ทำไม เราทุกข์ใจมากพอแล้ว”“ถ้าเช่นนั้นเจ้าจะให้เราทำอย่างไร? เจ้าสามมีสภาพเช่นนั้น ตอนนี้ไม่รู้ว่าเป็นบุรุษหรือสตรี เจ้าอยากจะให้แคว้นตงเยว่ของข้าเป็นจุดอ่อนที่น่าขันของแคว้นอื่นหรือไร?”สีหน้าของฮ่องเต้เทียนหยวนดูแย่ กล่าวด้วยอารมณ์ไม่ดี“อีกอย่าง เรายังไม่ได้พูดว่าจะให้เจ้าสามไปตาย เจ้าร้องไห้อย่างโศกเศร้ากลางวันแสก ๆ ทำไมกัน?”การจัดการเรื่องของตงฟางเย่า ก็ไม่ใช่มีเพียงวิธีที่ต้องเอาชีวิตเขาเพียงวิธีเดียว แต่ผลลัพธ์สุดท้าย สถานะองค์ชายของเขา เกรงว่าจะรักษาเอาไว้ไม่ได้แล้วถ้าหากเป็นเช่นนี้ ก็นับว่าไร้ประโยชน์ไปโดยสิ้นเชิงฮ่องเต้เทียนหยวนหันหน้ามองหมอหลวง ขมวดคิ้วกล่าวทันที “รีบใช้ยา”ตอนนี้เขาไม่อยากจะเห็นท้องที่ใหญ่ราวกับลูกบอลนั่นของตงฟางเย่าแม้แต่อีกนิดเดียว ยิ่งเห็นก็ยิ่งว้าวุ่นใจ“ไม่ได้”เต๋อเฟยรีบโต้แย้ง“ฝ่าบาท ไม่ได้เพคะ ก่อนหน้านี้หมอหลว
แต่ว่า...เมื่อตงฟางเย่าก้มหน้ามองท้องของตนเองอีกครั้ง ตั้งครรภ์? เฮอะ ไม่คิดเลยว่าจะมีเด็กอยู่ในท้องผู้ชายอย่างตนความเคียดแค้นและโศกเศร้าที่เดิมทีเต็มหัวใจของเขา เมื่อมองเห็นร่างกายที่สภาพเหมือนผีของตนเอง ก็ห่อเหี่ยว เหมือนกับลูกบอลที่ถูกแทงให้แตก สภาพกลายเป็นแบบนี้ ตัวเขาเองยังรังเกียจตัวเอง เขาไม่ใช่ปีศาจ ไม่ใช่จุดด่างพร้อยหรืออย่างไร? เขามีชีวิตอยู่ต่อไปจะมีความหมายอะไร?เฟิ่งเชียนอวี่เหลือบมองเขาเล็กน้อย เลิกคิ้ว กล่าวอย่างหยอกล้อ “ท่านอ๋องสาม ท่านเป็นหนึ่งในคนสุดยอดที่ข้าเคยเห็นมาก่อนเลยนะ”“เรื่องที่ชายหญิงสามารถทำได้ ท่านสามารถทำได้ทุกอย่างด้วยตัวคนเดียว นี่ไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะมีได้”บริเวณขมับของตงฟางเย่าเต้นตุบ ๆ ค้อนเขาอย่างดุร้าย น้ำเสียงแหบแห้ง“เจ้าหุบปากเดี๋ยวนี้ อยากจะเยาะเย้ยข้า เจ้ายังไม่มีสิทธิ์นั้น ไม่ว่าต่อไปจะเป็นอย่างไร อย่างน้อยตอนนี้ ข้าก็ยังเป็นท่านอ๋องสามแห่งแคว้นตงเยว่ เจ้านักพรตชั่ว มีสิทธิ์อะไรมาเยาะเย้ยข้ากัน?”เมื่อพูดถึงประโยคหลัง น้ำเสียงก็สะอึกขึ้นมาทันทีอย่างคาดไม่ถึง ดวงตาทั้งสองข้างแดงก่ำ ถึงขนาดที่หางตาเปียกชื้นขึ้นมาเล็กน้อยเฟิ่งเช
“พูดง่าย ๆ ในสถานการณ์ปกติ ผู้ชายไม่มีทางตั้งท้องได้ ในท้องของท่านอ๋องสามแค่มีก้อนเนื้อก้อนหนึ่งเพิ่มขึ้นมาเท่านั้นเอง”ทุกคนมองหน้ากัน ทุกคนต่างไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่ฮ่องเต้เทียนหยวนก็งุนงงเช่นกัน อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว “นักพรตเฟิงพูดจาให้เข้าใจหน่อยได้หรือไม่”“ฝ่าบาทอย่าทรงร้อนพระทัย ข้าย่อมต้องอธิบายให้ฝ่าบาทกับทุกท่านเข้าใจแน่นอน”“ในท้องของท่านอ๋องสาม ไม่ใช่เด็กทารกธรรมดา แต่เป็นแฝดปรสิต”เฟิ่งเชียนอวี่นึกถึงอาการนี้ขึ้นมาได้ในระหว่างการเดินทาง พูดตามความน่าจะเป็น อาการของตงฟางเย่า สอดคล้องกับอาการของแฝดปรสิตมากกว่าแฝดปรสิต หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าภาวะทารกในครรภ์ ในยุคสมัยปัจจุบัน ก็คือโรคที่ค่อนข้างพบเจอได้ยากชนิดหนึ่ง มีด้วยกันอยู่สองประเภทคือแฝดปรสิตร่วมไข่กับปรสิตต่างไข่ในระหว่างช่วงเวลาที่มารดาตกไข่ ทั้งหมดจะระบายไข่ที่พร้อมปฏิสนธิออกมาสองใบ ไข่สองใบนี้แบ่งเป็นท้องจริงและท้องลม หรือเรียกว่าเป็นท้องฝาแฝดก็ได้เช่นกันเพียงแต่ว่า อันหนึ่งคือทารกที่สมบูรณ์ อีกอันหนึ่งคือทารกที่ไม่สมบูรณ์ครรภ์ไม่สมบูรณ์ ถูกครรภ์ที่สมบูรณ์ดูดข้าไปในร่างกายตอนที่อยู่ในครรภ์ เจริญเติบ
คณะหมอหลวงถูกด่าจนรู้สึกเสียใจมาก อาการป่วยที่คาดไม่ถึงเช่นนี้พวกเขาไม่เคยได้ยินมาก่อน จะรู้ได้อย่างไรเป็นอีกวันหนึ่งที่ถูกเจ้านักพรตบ้านี่ตบหน้าเฟิ่งเชียนอวี่เดินเข้าไปในห้องคนเดียวอีกครั้ง นำตัวตงฟางเย่าเข้าไปในห้องทดลองเพื่อทำการผ่าตัด เพื่อนำก้อนเนื้อในท้องของเขาออกมา จากนั้นเย็บแผลแล้วทายา“ฝ่าบาท แฝดปรสิตในท้องของท่านอ๋องสามถูกนำออกมาแล้ว พระองค์กับพระนางเต๋อเฟยอยากทอดพระเนตรหรือไม่? ถึงอย่างไร...”ประโยคหลังนางไม่ได้พูดออกมา แต่ใครต่างก็เข้าใจความหมายของนาง อดไม่ได้ที่จะพูดไม่ออกฮ่องเต้เทียนหยวนกระตุกมุมปาก สายตาเหลือบมองกะละมังเหล็กที่ถืออยู่ในมือของนางกำนัลที่อยู่ด้านข้าง ด้านบนกะละมังเหล็กถูกคลุมเอาไว้ด้วยผ้าผืนหนึ่งเขาโบกมือ “ไม่ต้องหรอก นำออกไปจัดการให้เรียบร้อย”เฟิ่งเชียนอวี่กล่าวช้า ๆ “ท่านอ๋องสามไม่มีอาการร้ายแรงแล้ว ก่อนวันพรุ่งนี้ก็จะฟื้นขึ้นมา”ในเวลานี้ หมอหลวงคนหนึ่งในนั้นก็เอ่ยถามขึ้น “ไม่ทราบว่า สิ่งที่เรียกว่าแฝดปรสิต นักพรตเฟิงนำออกมาจากในร่างกายของท่านอ๋องสามได้อย่างไร?”ถ้าเป็นผู้หญิงละก็ สามารถใช้ยาชักนำให้เกิดการเจ็บครรภ์ ขับออกมาจากอวัยวะสืบพั